ดริฟไดอารี่......

[H U S T 7 E R]

  13 กุมภา 49


 หลังจากกัดฟันเอาตังไปเติมน้ำมันเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทาง...

15นาทีจากหน้าบ้านมุ่งหน้าไปลานกว้างแห่งหนึ่งย่านถนนแจ้งวัฒนะ

ขับวนดูลาดราวเล็กน้อย วันนี้รถจอดน้อย ทั้งๆที่ยังแค่3ทุ่ม ( ปกติจะจอดเยอะนอกจากหลังเที่ยงคืน )

สภาพพื้นลานนี้มีฝุ่นจับตัวค่อนข้างหนา ( หมายถึงหนาจริงๆขาวโพลนไปหมด )

หลังจากเครียร์ก้อนหิ้นลูกเป้งๆออกแล้วก็ลองวนดู...


  โดนัท ...  พื้นฐานของการควบคุมพวงมาลัย ( ตามความเข้าใจส่วนตัวนะครับ )

เอ่ะ... จะเริ่มยังไงล่ะว่ะเนี้ย?..  หักพวงมาลัยไปทางขวา.. ( เนื่องจากรู้สึกว่ามันถนัด )

หักไปมากแค่ไหนตอนนั้นไม่ทราบจริงๆ เหยียบครัชเดินคันเร่งไปที่เกือบสองพันรอบ ( น่าจะนะ )

ปล่อยครัชทันที....  เฮ้ย..อะไรว่ะเนี้ย!!  มันหมุนไม่เป็นท่าเลยนี่หว่า...

[H U S T 7 E R]

 ลองดูอยู่อีกสองครั้ง จากจุดที่รถหยุดนิ่ง ทำแบบเดียวกับครั้งแรกเลย..

ชักจะไม่เข้าท่าล่ะเราคงต้องปรับปรุงอะไรสักนิด...

ถ้าจากจุดหยุดนิ่ง.. รถมันหมุนออกไปเหมือนแค่กลับรถ...

คราวนี้มาดูที่พวงมาลัย ลองคืนตรงแล้วหมุนกลับไปใหม่ แต่คราวนี้หมุนนิดเดียว

เดินคันเร่ง ปล่อยครัช....   อาว...ล่ะ คราวนี้เริ่มดีขึ้นนิดล่ะ คือเป็นวงกว้างออกไปก่อน

แล้วค่อยหมุนแบบไม่เป็นท่า...

[H U S T 7 E R]

 พักก่อน ขับรถไปจอดแอบๆในมุมมืด ตอนนี้คนที่เข้ามาเอารถที่จอดไว้เริ่มยืนดูแล้ว

เค้าคงห่วงรถเค้า หรือไม่ก็อยากดู เริ่มจะไม่ดีล่ะ..

นั่งหลับตาตั้งสติในรถก่อน..นึกซิว่าตอนนี่นั่งในรถพี่ๆคนอื่นเค้า ตอนเค้าทำโดนัทเค้าทำอะไร

พวงมาลัย....  เออ เค้าเคาเตอร์พวงมาลัยไปมานี่หว่า แต่เมื่อกี้เรายังไม่ได้ทำไรเลย หักค้างเฉยๆ

ลองอีกทีดีกว่า..

 เดินคันเร่ง ปล่อยครัช พอรถถีบตัวเป็นวงออกไป ก็เริ่มสาวพวงมาลัยกลับทันที..

ปรากฏ ว่าไม่เป็นวงเลย มันดูฝืนๆพิลึก...

ลองอยู่อีกสองที ก็ยังเป็นเหมือนเดิม...  จอดรถนั่งนึกก่อน ตอนนี้คนเริ่มมุงเยอะอีกแล้ว....


 เอะ...เคาเตอร์พวงมาลัย เค้าไว้แก้อาการนี่หว่า แต่เมื่อกี้ที่เราทำมันดูเร็วไปนิดนี่

แบบว่า เคาเตอร์ซะก่อนที่มันจะหมุนเกินวงอีก.. ( ไม่ได้จับอาการไรเลยรู้แต่ว่าต้องเคาเตอร์ก็-

-เคาเตอร์เลย )  ไอ้บ้าเอ้ย...ตบกระโหลกตัวเองอีกทีนึง...

 คราวนี้พุ่งสมาธิไปที่อาการของรถ คิดว่าเล่นวีดีโอเกมอยู่ก็ได้ ถ้ามันจะหมุนไปขวามากไป

เราก็จะคืนพวงมาลัยมาซ้าย มือต้องไวเหมือนปลาหมึก ( นั่งคิดอยู่นะ )

  เดินคันเร่ง กระชากครัช  รถถีบตัวเป็นวงกว้างแล้ว แต่ยังไม่คืนพวงมาลัย

เอะๆๆๆ ชักจะแคบ คืนไปซ้ายนิด  เฮ้ยๆๆๆกว้างไป ดึงกลับมาขวาหน่อย   โอ๊ย!!!!!~

   ข้อศอกไปฟาดกับประตู  นิ้วโป้งโดนพวงมาลัยตี....  มันอะไรกันว่ะนี้วุ่นวายไปหมด..

สรุบว่าได้แค่รอบเดียว ลักษณะแบบเดียวกับรูปที่สองเพียงแต่ทำจบไปรอบนึงแล้วค่อยเป๋

 ครวนี้ลองใหม่....และแล้วก็เจอกับตอใหม่.... ชนตออีกแล้ว..

     คันเร่ง.... มันไม่ใช่แค่พวงมาลัยนี่หว่าที่ทำให้หมุนไม่เป็นวง เราเลี้ยงคันเร่งไม่สม่ำเสมอนี่หว่า

คือมีอยู่ขณะนึงที่เร่งเครื่องมากไปตูดจะออกเยอะเกินไปเสมอ ทำให้ต้องเคาเตอร์พวงมาลัยเยอะ

แล้วก็ทำให้เจ็บศอกนี่เอง......  อ๋อ คันเร่ง แน่นอนเลยมันแน่ๆ

 ตอนนี้คนดูเยอะมากอายฉิบหาย จอดรถดับเครื่องเลยแล้วนั่งสูบบุหรี่ก่อน ให้มันไปกันก่อน..

 
 จะอธิบายไงดี แต่รู้สึกได้เองว่าพอเหยียบคันเร่งมากไปตูดจะออกไปแบบเร็วมากๆ

หงุดหงิด  ความรู้สึกเหมือนตอนหัดเล่นสเก็ตบอดร์ ตอนนั้นขว้างแผ่นทิ้งเลยเวลาหงุดหงิด..

แต่นี่รถทั้งคัน ..... ใจเย็นดีกว่า ซื้อมาก็หลายตังอยู่ ยังจ่ายไม่หมดด้วย ...  อย่าห้าวเลย....

  โอเคบุหรี่หมด ไทยมุงเริ่มซา (แต่ก็ยังมีอยู่บางคนดูไปโวยวายไป บอกให้เราปัดตูดอีกหน่อย-

- อารมณ์เชียร์มวย )  

  เอะ...หรือว่าเป็นเพราะเราหัดทางขวาว่ะ  ลองซ้ายดีกว่า....  เดินคันเร่ง กระชากครัช..

........  หัดทางขวาน่ะดีแล้วไอ้ทิด ไม่เป็นเรื่องเลย... เอาให้มันเสร็จๆไปทีล่ะข้างเหอะ..

 โอเค เดินคันเร่ง กระชากครัช  ทำอยู่สี่ห้ารอบ.... ก็เหมือนเดิม ดีขึ้นนิดเดียวตรงที่เริ่มคุมเท้าตัวเอง

ได้บ้าง.. แต่ก็ยัง ไม่สำเร็จอยู่ดี...

 คราวนี้...คนมุงชักจะเปลี่ยนหน้า มันใส่หมวกมา มือมันถือ วอ.  เดินจดๆจ้องๆ

ชักจะไม่ดีเว้ย เดี๋ยวจะไม่ได้เล่นอีกเลยในวันข้างหน้า วันนี้ไปก่อนดีกว่า ยอมๆมันไปก่อน

ขับกลับทันที ไม่รอให้มันมาด่า ( ตอนที่เล่นสเก็ตก็เล่นที่นี้ล่ะ แล้วก็โดนยามไล่ยังงี้ล่ะ )

ไอ้ครั้นจะไปเล่นตรงที่เค้าใช้แข่งยิมคาน่ากัน ( ลานด้านหลังอิมแพ๊ค ) ไอ้ตรงนั้นพี่ยามเค้าก็ชุม

โอเคเลิกๆ ขับกลับ......


  หลายคนอ่านแล้วคงคิดว่าตอนจบผมจะโดนัทเป็นวงสวยงาม....

 ผิดแล้วครับ  มันไม่ได้เรื่องเลยต่างหาก ...

 ไหนใครบอกว่ามันพื้นฐานว่ะ? ยากนะเนี้ย ยากนะ...

 แต่เอาเถอะครับ นี่แค่ไดอารี่วันแรก..  ไม่มีใครเค้าจะเก่งในวันเดียวเหรอก..


  การบ้านคือการควบคุมคันเร่งและพวงมาลัย... คันเร่ง พวงมาลัย คันเร่ง  พวงมาลัย....

ผมท่องบ่นไปจนเคลิ้มหลับไปในคืนนั้น....

[O'Pern]

ตกลงเอ็งไปซ้อมมาจริง หรือฝันไปวะนี่

อ่านบรรทัดสุดท้ายแล้วชักสงสัยว่ะ  ;D

[H U S T 7 E R]

ไปซ้อมเสะเพ่  โธ่....  >:(

[H U S T 7 E R]

14 กุมภา 49

 ทุ่มกว่าๆ ที่เดิม  คราวนี้รถน้อยกว่าเมื่อวานอีกครับ

พูดกันตรงๆคือไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเลย..  จะไปโทดว่าพราะพื้นมันลื่นก็คงไม่น่าจะใช่

เพราะยังมีความรู้สึกว่า ตัวเองยังตอบสนองรถไม่ทันมากกว่า

แต่ที่ได้พิเศษมาก็เนื่องจากว่าหงุดหงิด เลยลองขับลากเกียร์หนึ่งไปในระยะทางนึง

พอได้จังหว่ะก็กดเบรคเท้านิดนึง หักพวงมาลัยไปขวาหน่อยๆ แล้วกระชากครัชเดินคันเร่งทันที

เลี้ยงพวงมาลัยหน่อยๆ ก็เลยกลายเป็นทำ 360 องศา แบบี่เค้าทำอ้อมไพล่อนกันซะงั้น

สนุกดีเลยหัดทำไปหลายรอบ ทำไปทำกลับ จนเวียนหัวเลยครับ

ต้องขอบคุณ ความรู้ในปกวีซีดีรถแข่งยี่ห้อนึงมากๆครับ ผมอ่านจนจำได้แล้วลองทำดู ใช้ได้ครับ..


 สรุป ก็ยังทำโดนัท ( แบบกว้างๆเนียนๆ ) ไม่ได้อยู่ดี...  ปวดหัวแล้วนะเนี้ย

                                                    ทำยังไงดีครับ

[Joe]

ของแบบนี้ต้องใช้เวลาหน่อยหวะ เว่น บางคนก็ทำได้เร็ว บางคนก็ทำได้ช้า บางคนยังไงก็ทำไม่ได้ แต่เท่าที่อ่าน ก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่คงต้องซ้อมอีกนิด ดังนั้น อย่ารีบเกินไป ใจอย่ามัวแต่คิด กูจะต้องทำได้ เดี๋ยวนี้ๆๆๆๆๆ ปล่อยใจปล่อยกาย ทำไปเรื่อยๆ แล้วยิ่งถ้าหงุดหงิดอารมณ์ร้อน (แบบวัยรุ่นเขวี้ยงบอร์ด) ก็คงยิ่งจะไปกันใหญ่ ระวังจะโมโหเหยียบจนเครื่องพังหละ อิ อิ

ค่อยๆซ้อมไป บางครั้งการปล่อยใจให้สบายๆ เหนื่อยก็พัก ดีกว่าไปเร่งๆๆ มันน้ะ ลองดู แล้วกัน

[H U S T 7 E R]

    ขอบคุณครับ  คงต้องมีสติมากกว่านี้แล้วครับ ไม่งั้นทั้งน้ำมัน ทั้งยาง สภาพรถ ...  :'(

[ToppyRacingClub]

ช่วยนิสสสนึงงง... ;D
1) เริ่มจากเกียร์ 1 ก่อน แล้ว ขับวนรอบๆกรวย ให้เป็นวงกลมก่อน (ให้คุ้นกับการประคองรถก่อน)
2) จากนั้นก็เหยียบคันเร่งให้ล้อหลังหมุน ปั่นๆ จนตูดแถ (ถ้ารถมีแรงไม่ถึง อาจใช้คลัตช์ช่วยก็ได้)
3) ถ้าตูดแถมากก็ลดคันเร่งลง หรือ ถ้าตูดแถน้อยก็เหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้น

ผลที่ได้จากการโดนัท "ฝึกการใช้คันเร่ง"
ข้อสังเกตุ "การทำโดนัทนี้ไม่ใช่ทำให้ล้อหมุนปั่นอย่างเดียวก็ทำได้นะ ต้องหัดลดคันเร่งมั๊งนะจ๊ะ"

[O'Pern]

นัทซื้อรถท๊อปไปแล้วหรือ


ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการยังไม่คุ้นเคยกับรถครับ

ย้อนไปในวัยเด็ก สมัยที่ผมมีรถอยู่คันเดียว ขับไอ้คันนี้แหละไปทุกหนทุกแห่ง มันคือเพื่อนรัก เพื่อนตาย ผ่านสารพัดปัญหา แต่ก็รอดมาได้ตลอด เวลาล้างรถ คือเวลาที่มีความสุขที่สุด รักมันแบบบอกไม่ถูก

ผมขับจนกระทั่งรู้ว่าลมยางอ่อนไปนิดหน่อย รู้ว่าช้อคฯไม่ดีแล้ว หรือว่าสปริงไม่แมทช์กับความเร็วขณะนั้น เรียกว่าอะไรผิดปกตินิดหน่อย ผมจะจับอาการและวิเคราะห์ได้ถูกต้องเกือบหมด

ขับจนรู้สเปคเดิมๆ จนหมด ขับจนทะลุขีดจำกัดเดิมๆ จากนั้นค่อยตกแต่งเพิ่มในสิ่งที่มันขาดหายไป ไม่ใช่แต่งสะเปะสะปะ ไม่ใช่แต่งเพราะอยากสวย อยากมีกับเขาบ้าง หรืออยากแรง ทำรถอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน

เช่น รู้สึกกว่ากริปมันน้อยเกินไป ก็มาดูในจุดที่ง่ายสุดก่อน นั่นคือลมยาง ลมยางหน้าหลังไม่จำเป็นต้องเท่ากันก็เป็นได้ หรือกระทั่งล้อซ้ายขวาก็ยังไม่จำเป็นต้องเท่ากัน !!! แต่อันนั้นจะเหมาะกับการแข่งขันเท่านั้นนะ แข่งเสร็จแล้วก็ปรับกลับมาเป็นค่าดีฟอลท์ตามเดิม

เล่นกับลมยางจนทะลุทุกซอกมุม จากนั้นหากยังไม่พอใจก็ต้องมาดูที่ thread หรือลายดอกยาง จุดนี้ดูควบคู่กับเนื้อยางไปด้วย ยางซิ่งๆ สมัยก่อนมีเขียนค่า thread wear ไว้ด้วย แต่กว่าจะหาค่านี้ได้ก็ต้องแอบไปดูจากแคตตาล็อคของต่างประเทศ ยากครับ สมัยนั้นไม่มีอินเทอร์เนท ข้อมูลพวกนี้เลยแทบจะเป็นความลับ

thread wear น้อย คือตัวเลขต่ำ แปลว่าเนื้อยางนิ่ม เกาะดี ข้อเสียก็คือสึกเร็ว และแพง
thread wear สูง คือตัวเลขมาก แปลว่าเนื้อยางแข็ง เกาะปานกลาง ข้อดีคือทน ใช้งานได้ยาวนาน และถูกกว่า

ผมเป็นคนสันโดษ เพื่อนน้อย อยู่คนเดียว เล่นรถคนเดียว คิดเอง หาทางออกเอง หาข้อมูลเอง แต่ขณะเล่นรถ ผมเล่นกีฬาอื่นไปด้วย เล่นกีฬา X Games เกือบทุกชนิด ยกเว้น Sky Surfing อันเดียวที่ไม่มีโอกาส  ;D

เอากีฬาอื่นเที่เราเล่นมาประยุกต์เข้าหากับรถยนต์ด้วย
- ผมเรียนรู้เรื่องระบบเกียร์ เฟืองท้าย จากจักรยานเสือหมอบ
- เรียนรู้เรื่องบาลานซ์ การทรงตัว การกระจายน้ำหนัก จากสเกตบอร์ด และจักรยาน

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนสัมพันธ์กันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ผมหวังว่านัทอ่านแล้วคงพอจะนึกอะไรออกบ้าง

[H U S T 7 E R]

โอยพี่...  วันนี้กะจะไม่เล่นนะเนี้ย อ่านแล้วคึกคักเลยเนี้ย

ครับบางครั้งก็รู้สึกว่ากริปน้อยไปจริงๆ  คือนิดๆหน่อยๆตูดก็แถแล้ว สนุกดีแต่ถ้าผิดจังหวะคงไม่ขำ

รถคันนี้จะอยู่ทำหน้าที่เป็นคนสอนผมไปตลอดครับ จนกว่าจะเป็นเหมือนพี่ท๊อป คือฝีมือทะลุรถ


  รอมานานแล้วครับ  สองปีแล้ว ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนต้องเหนื่อยทำงานสองที่สามที่ผมก็จะทำครับ

ไม่ได้จะไปแข่งกับใครครับ  แข่งกับตัวเองมากกว่า

 อารมณ์เหมือนตอนแอบเล่นสเก็ตอยู่ตามซอกหลืบของสนามศุภ  

[O'Pern]

อ๊ะ วันนี้อารมณ์ดี นึกย้อนอดีต แล้วนึกขึ้นได้ เลยมาเล่าเพิ่ม เผื่อจุจุดประกายใครได้อีก

ฝึกเรื่องจิตด้วยครับ จิตที่สงบ นิ่ง จะทำให้เราทำงานได้ดี ตรงกันข้ามกับจิตที่ไม่สงบ ไม่นิ่ง พะว้าพะวง คิดถึงเรื่องโน่นนี่สารพัด
- เช่น นัทกำลังพะวงเรื่องพวงมาลัยว่าจะเอาอย่างไรดี แล้วคันเร่งล่ะ มันจะพอดีไหม เอ๊ะ แล้วล้อหลังมันจะสไลด์แค่ไหน คนมองเขาจะคิดยังไงกับเรา ฯลฯ

เรื่องจิตนี้ผมได้มาจากการปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาโหดๆ เรียกว่าเล่นกันจนลืมโลก เหนื่อยสุดๆ จนไม่ได้คิดถึงสิ่งใดนอกจากงานที่ทำอยู่ตรงหน้า
- ขณะดริฟท์ก็เช่นเดียวกันครับ ที่เห็นผมขับอยู่ใน BRC ต่อเนื่องกันนานๆ เชื่อไหมว่าบางครั้งผมแทบไม่ได้ยินเสียงยางสไลด์ ไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์


ฝากเรื่องการฝึกจิตไว้ให้พิจารณาอีกข้อครับ

[H U S T 7 E R]

15 กุมภา 49

  อ่า..... ก่ะว่าจะไม่ไปครับ กลับจากทำงานมาเจอพี่เปิ้ลปลุกอารมณ์เลยทนไม่ไหว

สี่ทุ่มกว่าๆเลยแวะไปลงลานมาครับ

พี่เปิ้ลโพสไว้ข้างบนนั้นใช่เลยครับ   วันนี้ผมไปถึงก็ดับเครื่องแล้วเดินวนไปมาเพื่อทำสมาธิครับ

บางคนมาอ่านอาจจะว่าผมบ้า แค่โดนัทซีเรียสไรมากมาย

แต่ผมถือครับ ผมเป็นคนสมองแย่ ( ส่วนนึงมาจากการเสเพลในช่วงเด็กๆเลยทำให้สมองไม่ดี )

ไม่ว่าจะทำอะไรผมจึงต้องใช้สติมากกว่าคนอื่นครับ ( สมาธิสั้นหรืออะไรเนี้ยล่ะ )

นิ่ง  เงียบ  หลับตาแล้วนึกถึงสภาพรถตอนที่ควบคุมไม่ได้  

ผลคือ โอเคครับ พัฒนาจากเมื่อวานมากเลย  เริ่มจะสั่งได้ว่าจะเอาวงกว้างหรือแคบ

วงกว้างนั้นยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร  กว้างนี้หมายถึงกว้างเลยนะครับ

ส่วนวงแคบค่อนข้างโอเค ง่ายกว่ามาก  

ปัญหาก็ยังเหมือนเดิมครับ  บางครั้งกดคันเร่งมากไปเยอะเลย หมุนไม่เป็นท่าทันที

บางครั้งเคาเตอร์มากไป ตูดไม่ออก  

วันนี้ขาสั่นเลยครับ  ไม่รู้อีท่าไหน กดคันเร่งจนรอบกวาดไป 5 พันรอบเลย

เครื่องสั่นน่ากลัวมากๆ  จอดรถแล้วดับเครื่องเลยครับ กลัวมากๆ

ต้องระวังให้มากขึ้นแล้วล่ะครับ  


ขอบคุณพี่เปิ้ลมากๆครับที่ให้คำแนะนำดีๆอย่างนี้  

ผมว่าการสอนเทคนิคดีๆ ยังไม่เยี่ยมเท่าการสอนให้พร้อมรับกับเทคนิค

ถ้าไม่รู้จักคิดตามสอนเท่าไรคงไม่มีผลครับ   ผมจะต้องฝึกคิดให้มากๆแล้วครับ   ;)

[GooD]

รอบเครื่องตอนโดนัทเข้าใช่รอบเท่าไหร่กันเหรอครับ?ในเกียร์1เนี่ย
ผมว่ารถผม ออก 2000 รอบคงห้อยไปเลยอะครับ ไม่ฟรีแน่
แล้วใช้กันไม่ถึง5000 เหรอครับ อ่านแล้วสงสัยรบกวนพี่ที่รู้ชี้แนะครับ

คือผมอยากทำเหมือนกันครับ ทำไม่เป็นน่ะ

[H U S T 7 E R]

ใช้เครื่องอะไรอยู่อ่ะครับ

ความรู้เรื่องเครื่องยนต์ผมก็อยู่ในเกณทแย่นะครับ

แต่พอดีไอ้รถคันนี้ มันผ่านการปรับแต่งมาแล้วน่ะครับ

2000รอบก็ใช้ได้แล้ว  แต่คราวนี้คือพอล้อมันฟรีปั๊บ ผมไปเยียบเพลินรอบเลยตีไป ห้าพัน

พูดแล้วยังเสียวๆอยู่เลย


   มันจะเป็นอันตรายมากไหมครับพี่เปิ้ล รบกวนช่วยสอนเรื่องข้อห้ามข้อระวังนิดครับ

ขอบคุณครับ