Bike Forum > my bike diary / my life diary

กพ 56

(1/6) > >>

O'Pern:
1 กพ 56
   ผ่านมาแล้ว 1 เดือนของปี 13 เหลืออีก 11 เดือนก็จะหมดปี ชีวิตน่าเบื่อมานาน ปีนี้น่าจะมีอะไรสร้างสรรค์หน่อยนะ เปิดมาแค่เดือนเดียว ผมพลาดทริปสำคัญถึง 2 อันไปอย่างน่าเสียดาย บอกกับตัวเองว่าปีหน้าห้ามพลาด จัดแม่งสองงานเลย ทั้งหัวหิน ทั้งอินทนนท์
   เช้านี้เดินลงบันไดโดยไม่ต้องจับราวได้แล้ว ขาค่อยๆ ดีขึ้นทุกวันตามลำดับ น่าเสียดายจริงๆ ที่ผมมาทำให้ตัวเองขาเจ็บก่อนวันขึ้นอินทนนท์ ไม่น่าเลย
   เอารถ F20-W ออกขี่ ทดสอบมาตรวัดไปในตัว ชอบอันนี้มากเพราะมันมีไฟส่องสว่างด้วย แต่ถ้ามีฟังชั่นแสดงอุณหภูมิและความสูง ความชันด้วยจะสุดยอดมาก
   รอการติดต่อกลับมาจาก “อัน” มือกราฟฟิคฟรีแลนซ์ เขาบอกจะกลับมาจากต่างจังหวัดในวันนี้ แล้วจะรีบส่งผลงานการ์ตูนให้ผมดู ได้แต่ลุ้นครับ ถ้าจูนกับผมได้ลงตัว งานหนังสือก็น่าจะออกมาดี
   กลางคืนเดินขึ้นบันไดในบ้านสะดุดเอาขั้นสุดท้าย หกล้ม แต่ยังดีที่ไม่กลิ้ง เจ็บนิ้วเท้า เล็บหักแหว่งไปเลย ขาเพิ่งจะกำลังดีขึ้นทุกวันๆ โธ่ ไม่น่าประมาทเลย

O'Pern:
2 กพ 56
   ช่วงนี้พักขา เดินออกกำลังกายเบาๆ สูดลมหายใจลึกๆ เต็มปอด ขี่จักรยานเบาๆ พักหนึ่ง เช้านี้มิวมีเรียนพิเศษ ผมไปทำงานที่ร้านขายของเหมือนเดิม
   ชีวิตเรียบง่ายแบบเดิมๆ ครับ คิดบวกเท่านั้นทีทำให้ข้าอยู่ได้ ตอนบ่ายมิวมีเรียนพิเศษคุมอง กลับมาบ้านก็ขอเล่นกับสตีฟจ็อบจนถึงเย็น
   ก็ลำบากใจเหมือนกันนะ ไม่อยากให้เขาอยู่กับเกม แต่ในยุคของเขาที่เกิดมาเจอสิ่งแวดล้อมแบบนี้มันก็เลี่ยงลำบาก วิธีทางออกของผมก็ต้องหาอะไรทำที่มันสนุกกว่าเกม
   จักรยานและการเดินทางไงล่ะ

O'Pern:
3 กพ 56
   ตื่นตี 5 เดินออกกำลังกายเล็กน้อย สูดลมหายใจอัดเข้าเต็มปอดแรงๆ 10 ครั้งพร้อมกับเดินถอยหลังช้าๆ ขาที่เจ็บเริ่มจะหายดีแล้ว แหม มาหายเอาวันที่เขาขึ้นอินทนนท์กันพอดีเชียวนะ นี่ถ้าบ้านอยู่เชียงใหม่ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ไปสมัครหน้างานแล้วลุยได้เลย
   เช้านี้เลยไปรับรถ Isuzu Trooper ที่เอาไปซ่อมอู่พี่ทวีแถวห้วยขวาง นี่เป็นการเข้าอู่ซ่อมที่นานที่สุดเท่าที่ผมเคยซ่อมรถมา รถมันเก่ามากตั้งแต่ปี 96 อาการก็รวนแบบช่างศูนย์ยังทำไม่เป็น คุยกับพี่ทวีตามตรง แล้วเขาก็บอกว่าให้เอารถเข้ามาได้ แต่จะต้องใช้เวลานานหน่อยนะ
   อาการที่ขับไปให้คือรถวิ่งแล้วสะดุดมาก เบาแล้วดับ ยกคันเร่งแบบถอนหมดก็ดับ กำลังจะเลี้ยวเข้าซอยก็ดับ คือแม่งสามารถจะดับได้ทุกเวลา ขับๆ อยู่บนทางด่วนเผลอๆ แม่งดับเลย ไอ้นี่อันตรายสุดๆ ทำเอาไม่มีใครกล้าขับ เป็นทั้งตอนใช้แก๊สและน้ำมันอีกด้วย
   ลักษณะเช่นนี้ใครๆ ก็ต้องเดาว่าเป็นระบบไฟชัวร์ ถ้าไม่ใช่หัวเทียนก็ต้องเป็นพวกคอยล์ แต่เอาเข้าจริงมันละเอียดอ่อนมาก ไล่ไปแต่ละจุดก็พบข้อบกพร่อง ถอดของออกมาแล้วเห็นสภาพช่างก็ไม่อยากใส่เข้าไป โทรมาถามผมตลอดว่าจะเปลี่ยนไหม
   อาการเหมือนตอนผมบูรณะรถโบราณเลยครับ คือรื้อเป็นเจอ ถอดอะไรมาก็ต้องเจอของที่เก่าเสื่อมโทรมหมดสภาพ จอดซ่อมอยู่ 3 สัปดาห์ ไล่ซ่อมระบบน้ำมันและติดตั้งแก๊สแบบหัวฉีดใหม่ เปลี่ยนบูชยางช่วงล่างไปหลายชิ้น ปิดท้ายด้วยเปลี่ยนช้อคเป็นของ Old Man Emu ของแต่งชื่อดังจากออสเตรเลีย
   ขี่จักรยานจากบ้านไปรับรถครับ ได้ออกำลังกายไปในตัว แถมวันนี้แทบไม่มีแสงแดดเลย ขี่จักรยานสบายมาก ใช้เส้นทางพระราม 3 ตลอดสาย ไปจนถึงคลองเตย ผ่านหน้าศูนย์ประชุมแห่งชาติ เจอสวนเบญจกิตติ เฮ้ยๆ ขอจัดสักหน่อย ไม่ได้มาขี่ที่นี่นานมากแล้ว
   บรรยากาศดีเหมือนเดิมครับ สวนนี้มีทางวิ่งและทางจักรยานแยกจากกันอย่างชัดเจน มิวขี่จักรยานสองล้อเป็นก็ที่สวนนี้แหละครับ พาเขามาตั้งแต่ตอนสวนเปิดใหม่ๆ ปล่อยให้เขาขี่เล่นเองคนเดียวตั้งแต่ 3 ขวบได้อย่างสบายใจ เส้นทางมันเป็นวันเวย์ เราแค่รออยู่กับที่ เดี๋ยวเขาก็วนมา
   แต่มาวันนี้ผมเห็นพฤติกรรมนักซิ่งในสวนแล้วท้อใจเลยครับ ขี่กันโคตรเร็วเลย ก็เข้าใจว่าท่านขี่ในทางจักรยาน ท่านอยากออกแรง แต่สภาพถนนมันแคบมาก ได้ยินเสียงตีกระดิ่ง ตะโกนขอทางกันบ่อยมาก เฮ้ยย สวนสาธารณะนะมึง ไม่ใช่สนามแข่ง ขี่ตามได้สักพักเดียวผมแม่งจอดรถเลย เซ็งในอารมณ์นักขี่ด้วยกันนี่แหละ คือแม่งไม่มีมารยาทในการอยู่ในสังคมร่วมกันเลย
   ผมเข็นรถไปจอดถ่ายรูปกลางบึง ขายืนล้ำเข้าไปในเส้นทางจักรยานนิดเดียว ไอ้คนเสื้อส้มตัวโตๆ ขี่พุ่งออกมาจากทางโค้งอย่างเร็ว แต่ห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่เยอะมาก ไม่ได้ไปยืนเกะกะอะไรเขาเล้ยยย
   “ขอทางหน่อยครับๆ” เขาพูดสุภาพนะ มีครับด้วย แต่ตะโกนเสียงดังคล้ายจะตะคอก
   อ้าว เฮ้ย ถนนโล่งๆ นะนี่ ขากูล้ำเลนจักรยานมึงมาแค่คืบเดียว ยังโดนตะโกนไล่ นี่ผมขี่จักรยานด้วยกันยังโดนตะโกนไล่ขนาดนี้ แล้วเด็กๆ ล่ะ จะรอดหรอ ขี่แบบนี้จะมีแต่คนหมั่นไส้ ผมเข้าใจและชักจะเห็นด้วยแล้วล่ะครับว่าทำไมเขาถึงห้ามขี่จักรยานในสวนสาธารณะ เมื่อก่อนเคยต่อต้านพวกห้ามนะ มาวันนี้กระจ่างแล้ว
   นึกในใจ โน่นไง ข้างหน้ารัชดาพระราม 3 โล่งๆ มึงซัดกันไปสิ บี้ดูดรถเมล์ไปเลยเก่งแต่ในสวนนี่หว่า สวนแบบนี้เขาใช้ร่วมกันทุกเพศทุกวัย ลองนึกภาพพ่อมึงแก่ๆ ลูกมึงเล็กๆ มาขี่จักรยาน แล้วโดนเกรียนอ้วนแบบมึงตะโกนไล่ดู
   หมดอารมณ์ว่ะ เปลี่ยนมาเป็นเดินเล่นริมน้ำแทนดีกว่า จูงจักรยานเข้าไปจอดหลบข้างกระถางต้นแม้ ถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้าสัก 5 นาที สูดลมหายใจลึกๆ ยืนเส้นยืดสายคร่าวๆ แล้วก็ขี่จักรยานมุ่งหน้าห้วยขวางต่อ
   ถึงอู่พี่ทวี 0730 ที่จริงยังอยากขี่ต่ออยู่เลยนะ เพราะไม่มีแดดเลย แต่เกรงใจเขา นัดกันไว้แล้ว ตรวจเช็คสภาพรถ จ่ายเงิน แล้วขับรถกลับบ้านทันที ขากลับนี่ผมขึ้นทางด่วนพระราม 9 อยากลองอัดดูสักหน่อย
   รถวิ่งดีกว่าเดิมเยอะเลย (ของเดิมแม่งสภาพง่อยมาก) รถทรงตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน Old Man Emu นี่เพื่อแท้ชาว Off Road จริงๆ พอถึงบ้านก็ทยอยยกอะไหล่เก่าลงจากรถ กางเบาะเข้าที่ปกติ รีบให้อาหารปลาทุกบ่อ แล้วก็ขี่จักรยานไปตลาดซื้อก๋วยเตี๋ยว และน้ำเต้าหู้กิน หิวสุดๆ แล้ว
   เข้าเช็คข่าวสังคมในเฟซบุ๊ค (ช่วงนี้เข้าเฟซบุ๊คบ่อย เพราะปลายเดือนเพื่อนเก่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยนัดมีทติ้งกัน ไม่ได้เจอกันมาตั้งแต่ปี 90 โน่น) เจอข่าวช็อค คุณแม่ป๋าโนบิตะเสียชีวิต (เจ้าของเวป thaimtb.com) ป๋าโนกับผมเป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกัน เรียกว่าเรียนมาด้วยกันเลย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งครับเพื่อนรัก 
   เย็นกินเยอะครับ แม่ไปซื้อหมี่กรอบโบราณที่ตลาดพลูมา ร้านนี้อร่อยสุดแล้ว พ่อเอารถไปลองขับ กลับมาบอกว่ามันมีสะดุดนิดๆ ตอนออกตัว อืมม มันจะหายเองไหมวะนี่

O'Pern:
4 กพ 56
   เช้าวันจันทร์ ขาผมน่าจะหายดีแล้วนะ เข้าสู่โหมดลดพุงได้เสียที อายุยิ่งมากก็ยิ่งลดน้ำหนักได้ยากขึ้นไปด้วย ต่างจากเมื่อก่อนลิบลับที่แค่ 5 โล นี้หมูมากๆ เลย
   แต่ตอนนี้ผมอยากเอาลง 5 กก มันแสนยากเย็น ก็เพราะตัวเองออกกำลังกายน้อยลงนั่นเอง เวลาทั้งหมดอยู่กับลูกและที่ร้านขายของ จากเดิมที่ว่างสุดๆ คิดจะทำโน่นนี่ก็ลุยได้เลย กลายมาเป็นชีวิตตามตารางเวลา คล้ายพวกมนุษย์เงินเดือน แต่ต่างกันตรงที่ผมไม่มีเงินเดือน
   กลางวันเข้าไปคอนโด ไปจ่ายเงินค่าส่วนกลางประจำปี นึกแล้วเสียดายเงิน ปี 54 นอนแค่ 3 คืน ปี 55 ไม่ได้นอนสักคืน ปีนี้ 56 ไม่รู้ชะตากรรม ปกติเข้าไปจะทำความสะอาดห้อง แต่วันนี้เหนื่อย ขอนั่งพักนานๆ เปิดแอร์ทั้งสองตัวให้น้ำยาแอร์มันหมุนเวียนบ้าง กลัวจริงๆ ตอนมานอนค้างแล้วแอร์เสียนี่แหละ พอเย็นก็ได้เวลาไปรับลูก แวะซื้ออาหารปลาอีกแล้ว ลูกปลาโตขึ้นเยอะมากจนค่าอาหารปลาเดือนละหลายร้อยแล้ว อีกไม่นานคงทะลุพันบาท หึหึ
   เจอพ่อ เลยถามว่าเป็นไงบ้าง รถโอเคดีไหม พ่อบอกกดคันเร่งตอนออกตัวแล้วมีสะดุดนิดๆ เป็นบ่อยตอนใช้แก๊ส เลยบอกให้ลองวิ่งน้ำมันดูว่าเป็นไหม จะได้จับอาการถูก เรื่องพวกนี้เราต้องวินิจฉัยเองเบื้องต้นก่อน บางอย่างเราทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปหาช่าง งานนี้สงสัยระบบไฟแน่เลย ผมเดาเอาไว้นานแล้ว เข้าอู่ครั้งล่าสุดก็ยังไม่ได้เปลี่ยนสายคอยล์
   เย็นขี่จักรยานไป 30 นาที เอารถ Neobike 16 ขี่วนเล่นในบ้านนี่แหละ ขี่ช้าๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ขยับตัวเลย

O'Pern:
5 กพ 56
   เฮ้ยย ตกใจหมดเลย
   กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูบ้านอีกหลัง เจอตุ๊กแกตัวเบ้อเริ่มเกาะอยู่ที่วงกบ อยู่ในเงาตะคุ่มมืดตอน 0530 เล่นเอาผมสะดุ้งโหยง ไม่ได้กลัวอะไรมันหรอก แต่ตกใจไง ชักมือออกแทบไม่ทัน ตั้งสติได้กำลังจะเปิดบ้านหยิบเอาจักรยานมาขี่ แต่เปลี่ยนใจ ไม่อยากรบกวนตุ๊กแกมัน เห็นว่ามันเป็นสัตว์ชอบสันโดษ ชอบเงียบๆ มืดๆ อยู่ร่วมกันแบบนี้ดีกว่า
   เดินออกกำลังกายแทนครับ เดินหน้าถอยหลังพร้อมกับสูดลมหายใจแบบ 3 / 5 / 7 ทำแล้วก็โอเคดีนะ แต่ไม่เห็นความต่างอะไรมาก หวังว่ามันจะดีต่อปอดผมขณะขี่จักรยานขึ้นเขาโหดๆ
   วันนี้เสิร์ชเจอแอป (โปรแกรม) ของ national geographic ถูกใจมากๆ เพราะเป็นแผนที่โลกเลย มีฟังชั่นวัดระยะทางคร่าวๆ มาให้เล่นด้วย แบบนี้วางแผนขี่จักรยานได้ง่ายมาก
   เย็นไปรับมิวแล้วกลับมาเฝ้าร้านขายของต่อ กว่าจะเข้าบ้านก็เกือบ 1100 เข้านอนกันเกือบเที่ยงคืน สงสารลูกนั่งหาวหวอดๆ

Navigation

[0] Message Index

[#] Next page

Go to full version