ข้อกำหนดเกี่ยวกับเครื่องยนต์
1.อนุญาตให้ใช้เครื่องยนต์ 4สูบ หรือ 5สูบ หรือ 6สูบ ระบบการทำงาน 4จังหวะ จุดสันดาปด้วยหัวเทียน
2.ขนาดความจุของเครื่องยนต์ต้องไม่เกินกว่า 2000ซีซี (ตรวจวัด ณ เวลาใดก็ได้ระหว่างช่วงรายการแข่ง)
3.อนุญาตให้วางเครื่องยนต์และเกียร์ข้ามรุ่น (Across model) แต่ภายในยี่ห้อเดียวกัน (Same brand) ได้
4.เครื่องยนต์และเกียร์ต้องวางอยู่ในตำแหน่งหน้าผู้ขับ (Front-engine)
5.ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบอัดไอดีใดๆทั้งสิ้น
5.1.ต้องมีลิ้นควบคุมปริมาณไอดีที่ทำงานได้จริง (Functional)
5.2.อนุญาตให้ออกแบบและจัดทำท่อไอดีหรือท่อร่วมไอดีได้โดยเสรี
6.อนุญาตให้ใช้ระบบเปิดปิดวาล์วแบบตายตัวหรือแบบแปรผัน
(แต่ถ้าเป็นแบบแปรผัน จะต้องใช้กลไกแปรผันของเดิมทั้งชุด)
6.1.อนุญาตให้ใช้เพลาลูกเบี้ยวใดก็ตามที่สามารถติดตั้งแทนของเดิมได้
6.2.อนุญาตให้ใช้วาล์วที่ทำจากเหล็กขนาดใดก็ได้ที่ติดตั้งแทนของเดิมได้
6.3.ไม่อนุญาตให้ใช้วาล์วที่ทำจากไทเทเนียม (Titanium) ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นชิ้นส่วนปกติประจำเครื่องยนต์
นั้น ในกรณีเช่นนี้ ผู้แข่งเลือกได้ว่าจะใช้วาล์วของแท้ หรือจะเปลี่ยนเป็นวาล์วที่ทำจากเหล็กขนาดอื่น
6.4.อนุญาตให้ใช้สปริงวาล์วที่ทำจากเหล็กเท่านั้น แต่ไม่จำกัดจำนวนขดหรืออัตรากดของสปริง(Spring-rate)
6.5.อนุญาตให้ใช้ถ้วยสปริง (Retainer) ที่ทำจากไทเทเนียมหรืออลูมิเนียมได้
7.อนุญาตให้ปรับปรุงแก้ไขก้านสูบของแท้หรือเปลี่ยนเป็นก้านสูบพิเศษอื่นใดที่ทำจากเหล็กได้โดยเสรี
7.1.ไม่อนุญาตให้ใช้ก้านสูบที่ทำจากไทเทเนียม ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นชิ้นส่วนปกติประจำเครื่องยนต์นั้น
ในกรณีเช่นนี้ ผู้แข่งเลือกได้ว่าจะใช้ก้านสูบของแท้ หรือจะเปลี่ยนเป็นก้านสูบพิเศษที่ทำจากเหล็ก
8.อนุญาตให้ใช้ลูกสูบที่ทำจากอลูมิเนียมด้วยกรรมวิธีใด หรือมีรูปทรงใด ก็ได้
8.1.สลักก้านสูบต้องทำจากเหล็กเท่านั้น
9.อนุญาตให้ปรับปรุงแก้ไขระบบหล่อลื่นแบบ อ่างแช่(Wet-sump) ได้โดยเสรี
9.1.ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบหล่อลื่นแบบ อ่างแห้ง(Dry-sump) ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นระบบปกติประจำ
เครื่องยนต์นั้น ในกรณีเช่นนี้ ผู้แข่งต้องใช้ระบบหล่อลื่นของแท้ครบทั้งชุด
10.อนุญาตให้ใช้ปะเก็นกันรั่วประกอบเครื่องยนต์ที่ออกแบบอย่างใดหรือทำจากวัสดุใดก็ได้
10.1.ปะเก็นฝาสูบและ/หรือแผ่นเสริม ต้องมีความหนารวมกันไม่เกิน 2.00 ม.ม.
11.อนุญาตให้เชื่อมเสื้อสูบเพื่อซ่อมแซมได้ แต่ไม่อนุญาตให้เชื่อมเสื้อสูบเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปพรรณสัณฐาน
11.1.อนุญาตให้ปรับปรุงแก้ไขเสื้อสูบในลักษณะอื่นได้โดยเสรี
12.อนุญาตให้เชื่อมฝาสูบเพื่อซ่อมแซมได้ แต่ไม่อนุญาตให้เชื่อมฝาสูบเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปพรรณสัณฐาน
12.1.อนุญาตให้ปรับปรุงแก้ไขฝาสูบในลักษณะอื่นได้โดยเสรี
13.อนุญาตให้ปรับปรุงแก้ไขเพลาข้อเหวี่ยงของแท้หรือเปลี่ยนเป็นเพลาข้อเหวี่ยงพิเศษอื่นใดที่ทำจากเหล็ก
ได้โดยเสรี
14.อนุญาตให้ใช้ระบบควบคุมส่วนผสมไอดีได้โดยเสรี
14.1.อนุญาตให้ใช้ หัวฉีด ขนาดใดก็ได้
14.2.อนุญาตให้ใช้สมองกล (Engine Control Unit) ใดๆก็ได้
14.3.อนุญาตให้ใช้คาร์บูเรเตอร์ (Carburetor) ขนาดใดก็ได้
15.อนุญาตให้ใช้ระบบควบคุมการจุดหัวเทียนได้โดยเสรี
15.1.อนุญาตให้ใช้หัวเทียนใดๆก็ได้ที่ใช้เกลียวหัวเทียนเดิม
16.อนุญาตให้ใช้ระบบท่อระบายไอเสียได้โดยเสรี
16.1.อนุญาตให้ปลายท่อไอเสียออกท้ายรถ หรือออกข้างรถหลังตำแหน่งผู้ขับก็ได้
แต่ต้องไม่ยื่นล้ำเงาในแนวดิ่งของตังถัง
16.2.อนุญาตให้ใช้เฉพาะท่อเหล็ก (Mild-steel หรือ SS304) ทำท่อไอเสียทั้งระบบ
16.3.ไม่อนุญาตให้ใช้ท่อไทเทเนียมทำส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบท่อระบายไอเสีย
16.4.ไม่กำหนดระดับความดังของเสียงเมื่อจัดแข่งในสนามแข่งถาวร
16.5.ผู้จัดแข่งอาจต้องกำหนดระดับความดังของเสียงไว้ในกติกาเพิ่มเติม (Supplementary Regulations)
เมื่อจัดแข่งที่สนามแข่งชั่วคราว
ข้อกำหนดเกี่ยวกับระบบส่งกำลัง
1.อนุญาตให้ใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (Manual 5-speed) เท่านั้น
1.1.อาจเป็นเสื้อเกียร์ 5 จังหวะ ประจำเครื่องยนต์ที่ใช้แข่ง
1.2.อาจเป็นเสื้อเกียร์ 6 จังหวะ ประจำเครื่องยนต์ที่ใช้แข่ง แต่ลดจำนวนคู่เฟืองเหลือเพียง 5 จังหวะ
1.3.อาจเป็นเสื้อเกียร์ 5 จังหวะ จากเครื่องยนต์ในรถยี่ห้อเดียวกัน
1.4.อนุญาตให้ดัดแปลงหรือจัดทำ หัวหมูเกียร์ (Bell-housing) ใหม่ ตามความจำเป็น
1.4.อนุญาตให้เลือกอัตราทดเกียร์ทั้ง 5 จังหวะเดินหน้า(และ 1 จังหวะถอยหลัง) ได้โดยเสรี
1.5.อนุญาตให้เลือกอัตราทดเฟืองท้าย (Final-drive ratio) ที่เหมาะสมกับสนามแข่ง ได้โดยเสรี
1.6.ต้องคงไว้ซึ่งกลไก Synchronizer (ห้ามใช้ระบบ Dog-engagement)
1.7.ก้ามปู(Shift-fork) ปลอกเลื่อน(Slider) และ แกนก้ามปู (Shift-rail) ต้องเป็นชิ้นส่วนของแท้
ประจำเสื้อเกียร์นั้นๆ
1.8.นักแข่งต้องใช้มือโยกคันเกียร์ไปตาม ช่องเกียร์ H-pattern (ห้ามใช้คันเกียร์ Sequential)
2.นักแข่งต้องใช้เท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัทช์เพื่อตัดแรงกดบนแผ่นคลัทช์ สำหรับออกรถหรือเปลี่ยนเกียร์
3.แผ่นคลัทช์ต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 184 ม.ม. หรือ 7.25 นิ้ว
4.ฟลายวีลต้องทำจากวัสดุตระกูลเหล็ก และมีน้ำหนักไม่เบากว่า 5 กก. (นับรวมเฟืองสตาร์ทด้วย)
5.ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบ Traction-control และ/หรือ Dynamic stability control
6.ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบแบ่งสรรแรงบิดไปสู่เพลาขับแบบล่วงหน้า (Active torque-split)
ไม่ว่าจะสั่งการโดยสมองกลหรือโดยนักแข่ง
7.เพลากลาง (Propeller-shaft) และเพลาข้าง (Drive-shaft) ต้องทำจากวัสดุตระกูลเหล็กเท่านั้น
8.ดุมล้อ (Hub) และเง่าลูกปืนดุมล้อ (Hub-carrier) ต้องเป็นชิ้นส่วนของแท้จากรถรุ่นใดรุ่นหนึ่ง
(Any model) ที่ใช้ชื่อตราสินค้า (ยี่ห้อ) เดียวกัน (Same brand)
8.1.อนุญาตให้นำชิ้นส่วนที่ว่านี้ไปกัดกลึงแก้ไขได้ แต่ไม่อนุญาตให้เชื่อมพอกเพิ่มเติม
8.2.ในกรณีที่ชิ้นส่วนที่ว่านี้เป็นกลไกที่ถอดแยกไม่ออกจากแขนบังคับระบบกันสะเทือนบางระบบเช่น
Trailing-arm, Semi-trailing-arm, Twist-beam, Solid-axle หรือ Live-axle อนุญาตให้เชื่อมพอก
เพิ่มเติมได้เฉพาะบนส่วนที่ไม่ใช่ Hub หรือ Hub-carrier เท่านั้น
ข้อกำหนดเกี่ยวกับระบบห้ามล้อ
1.จานเบรกหน้าต้องทำจากเหล็กหล่อ
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 330 ม.ม.หรือ 13 นิ้ว
ความหนาไม่เกิน 32 ม.ม. หรือ 1.25 นิ้ว
จำนวนลูกสูบใน Caliper ไม่เกิน 4 สูบ
2.จานเบรกหลังต้องทำจากเหล็กหล่อ
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 305 ม.ม. หรือ 12 นิ้ว
ความหนาไม่เกิน 22 ม.ม. หรือ .875 นิ้ว
จำนวนลูกสูบใน Caliper ไม่เกิน 4 สูบ
3.ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบใดที่เข้าข่าย Anti-lock braking
4.อนุญาตให้ใช้แต่อากาศในบรรยากาศเท่านั้นเพื่อระบายความร้อนของเบรก
5.ไม่อนุญาตให้ใช้ของเหลวหรือพ่นละอองของเหลวเพื่อระบายความร้อนของเบรก