racing-club.net

Racing Club World => Health Club => Topic started by: ToppyRacingClub on March 09, 2011, 10:51:59 am

Title: มาลดความอ้วนด้วย กล้วยมื้อเช้า กัน
Post by: ToppyRacingClub on March 09, 2011, 10:51:59 am
ที่มา http://www.fwdder.com/topic/313380

สืบเนื่องมาจากหนังสือหน้าตาไม่ชวนซื้อเล่มนี้

(http://www.fwdder.com/data/mail/2011/03/09/1299631435475/image/__fwdDer.com__-074355542-Image._2_094C87FC094C85A800309D7B47257797.jpg)

เปิดมาตัวหนังสือเล็กๆ ยุบยับ ไม่น่าซื้อเอาซะเลย
หนังสือเล่มนี้แค่ 150 เองไม่แพง ซื้อมาอ่านขำๆ ก็ได้ พออ่านจบแล้วพบว่า..............
เฮ้ย!! ซาร่ามันน่าจะเจ๋งนะเนี่ยยยยยยย   

หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณ ฮามาจิ (จิน วาตานาเบะ)
เค้าเป็นกูรู ผู้นำเสนอหลักการกล้วยมื้อเช้าเป็นคนแรก (เริ่มนำเสนอในปี 2006)
โดยคนคิดค้นหลักการนี้ก็คือ เภสัชกร นักเวชศาสตร์ป้องกันซึ่งเป็นภรรยาของเค้าเอง
ชื่อ คุณ สิมิโกะ วาตานาเบะ
กล้วยมื้อเช้าที่เป็นหลักการที่ฮอตฮิตมากๆ ที่ญี่ปุ่นเลยหล่ะ
แบบที่บนหน้าปกหนังสือนี้บอกว่าขายมาแล้วกว่า 1 ล้านเล่มที่ญี่ปุ่น
ปรากฏการณ์กล้วยมื้อเช้าที่ญี่ปุ่น ทำให้ในปี 2008 ราคากล้วยที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 20%,
กล้วยใน supermarket จะหมดก่อนบ่ายสามโมง
และญี่ปุ่นต้องนำเข้ากล้วยเพิ่มขึ้นถึง 25%  เลยทีเดียววว

เห็นแบบนี้แล้วชักอยากรู้แล้วใช่มั้ยหล่ะ ว่าหลักการของกล้วยมื้อเช้าเป็นยังไง
เรามีสรุปมาให้แล้วสั้นๆ แต่แนะนำว่าให้ไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านกัน
เพราะในหนังสือเค้าจะอธิบายละเอียดเลยว่าทำไมหลักการของกล้วยมื้อเช้าถึง work ,
มีตัวอย่างของคนที่ปฏิบัติแล้วเห็นผลแตกต่างกันมาเล่า, มีภาพประกอบที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และ มีคำตอบของ FAQ ที่คนเค้าถามคุณฮามาจิมาด้วย
บางอันตรงกับที่เราอยากถามพอดีเลย

หลักการของกล้วยมื้อเช้า มี 8 ข้อ (สรุปจากหนังสือหน้า 38 - 43)
    1. กินกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า เคี้ยวให้ละเอียดปล่อยให้ลิ้นได้รับรสอร่อยของกล้วย
    จะกินกี่ลูกก็ได้ (เรากิน 1-2 ลูกแล้วแต่วัน คุณฮามาจิตอนเริ่มทำใหม่ๆกิน 4 ลูก ตอนหลังๆลดเหลือ 2 ลูก)
คนที่ไม่ชอบกินกล้วยหอมจริงๆจะเลือกกินผลไม้อื่นก็ได้ แต่ให้เป็นชนิดเดียวอย่ากินปนกันหลายอย่าง
ที่คุณฮามาจิเลือกกินกล้วยหอม เพราะ กล้วยหอมทานง่าย และมีประโยชน์มากเลย
    ถ้ากินกล้วยแล้วรู้สึกว่ายังหิวอยู่ ให้เว้นระยะซัก 15-30 นาที แล้วค่อยทานอย่างอื่นได้
(เค้าแนะนำให้กินพวกอาหารประเภทข้าว เช่น ข้าวปั้นโอนิงิริ ชั้นต้องไป Paragon มั้ยเนี่ย :D)

    2. ดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้นและดื่มบ่อยๆ
    เครื่องดื่มที่ดื่มกับกล้วยหอมในตอนเช้า เค้าให้ดื่มน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้อง
ถ้าจะดื่มอย่างอื่นก็ให้เว้นระยะ 15-30 นาทีเหมือนเดิม หลักการของกล้วยมื้อเช้า
เค้าให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆตามที่ต้องการ เค้าว่าการดื่มน้ำเปล่าจะทำให้ประสาทรับรสชาดดีขึ้น กระเพาะและลำไส้ทำงานน้อยลง พอรับรสชาดได้มากขึ้น ความต้องการอาหารในแต่ละมื้อจะลดลงเอง แต่ นานๆครั้งจะนอกใจไปดื่มอย่างอื่นก็ไม่เป็นไร กล้วยมื้อเช้าเน้นสบายๆ ไม่เครียด

    3. กินอาหารกลางวันตามปกติ
    มื้อกลางวันกินอะไรก็ได้ แต่ขอให้เคี้ยวให้ละเอียด รับรสชาดอาหารให้เต็มที่
เพราะถ้าเราทานอาหารกลางวันน้อยๆเราก็อยากจะทานขนมมากขึ้น เค้าให้ทานให้เต็มที่ปเลย แต่อยากให้เน้นที่อาหารประเภทข้าว เค้าให้ทานข้าวเยอะๆลดปริมาณกับข้าวลง

    4. กินของว่างได้ตอนบ่ายสาม
    จริงๆเค้าว่ากินของว่างได้ทุกวันหากต้องการ แต่เพื่อม่ให้กินมากเกินไปเลยจำกัดให้กิน 1 อย่างต่อวัน เค้าแนะนำให้กิน Chocolate หรือ ขนมญี่ปุ่น (คนแปลบอกว่า มักทำจากแป้ง ถั่ว น้ำตาล) พวกไอศกรีม โดนัท มันฝรั่งทอด เค้าว่านานๆครั้งดีกว่า แต่ถ้าอยากให้ไดเอ็ทเห็นผลเร็ว เค้าให้เลือกกินผลไม้ แต่เลือกกินชนิดเดียวพอนะ อย่าปนๆกัน

    5. กินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
     ถ้าเราทานอาหารเย็นดึกจนเกินไป ตอนนอนกระเพาะลำไส้ก็ยังไม่ได้พัก ทำให้ร่างกายไม่สามารถขจัดความเหนื่อยล้าที่มีในแต่ละวันได้ อันเป็นสาเหตุของการอ้วน กล้วยมื้อเช้าบอกให้เราทานอาหารเย็นประมาณ 6 โมง และดึกสุดไม่เกิน 2 ทุ่ม ถ้ายากก็ลองขยับให้เร็วขึ้นสัก 30 นาทีดูก่อน และให้ฝึกไม่กินของหวานหลังอาหารเย็นด้วย ให้กินของหวานแค่บ่ายสามเท่านั้น (อันนี้ยากเหมือนกัน เราก็ทำไม่ได้ 555 ยังกินของหวานนิดๆหน่อย วันละ 2-3 ครั้งอยู่เลย
แต่ก็พยายามลดนะ)

    6. นอนก่อนขึ้นวันใหม่
    พยายามนอนเร็วให้เป็นนิสัย ดึกสุดไม่เกินเที่ยงคืน การนอนเร็ว และท้องไม่เต็มไปด้วยอาหาร จะทำให้นอนหลับสบาย ร่างกายเราจะฟื้นฟูสภาพกันตอนหลับนี่แหละ

    7. ออกกำลังกายเมื่อต้องการออก อย่าหักโหม
    การออกกำลังกายเค้าให้ทำอย่างพอเหมาะ ทำให้ร่างกายสดชื่น การออกกำลังกายอย่างหักโหม ร่างกายจะรู้สึกทรมานไม่เป็นผลดีเอา เค้าแนะนำให้แกว่งแขนสองข้างขึ้นลงเนี่ยแหละให้ผลดีกับการไดเอ็ทมากกว่าที่คิด

    8.จดบันทึกไดอารี่ให้เป็นนิสัย พร้อมเปิดเผยให้คนอื่นอ่านด้วย
    การจดบันทึกไดอารี่ไว้ เช่น จดลงบล็อคมีข้อดีคือ จะมีคนมาคอยเชียร์ มาให้คำแนะนำ
เป็น บ่อเกิดของ กำลังใจได้ (เราก็จดแต่ไม่ให้ใครดูยังเขินอยู่ 555)
อันนี้เป็นตัวอย่าง ไดอารี่ จากหนังสือหน้า 103
มื้อเช้า          7:10 กล้วย 2 ลูก, น้ำเปล่า
มื้อกลางวัน    12:00 ข้าวกล่องเอามาเอง (จดละเอียดว่าอะไรบ้าง), ไก่ทอด 2 ชิ้น, น้ำเปล่า
อาหารว่าง      15:00 ช็อกโกแลตบาร์ครึ่งแผ่น, น้ำเปล่า
มื้อเย็น          19:00 ข้าวแกงกะหรี่ 1 จาน, สลัดมันฝรั่ง, ซุป, น้ำเปล่า
มื้อดึก           21:00 ส้ม 2 ลูก, น่ำเปล่า

เวลานอน       23:30
ออกกำลังกาย     หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนอาหาร
การถ่าย        ดีมาก
น้ำหนัก         59.8 กิโล เทียบกับอาทิตย์ที่แล้ว -0.5 โล
ข้อคิดเห็น
วันนี้งานยุ่งมากๆ สงสัยช่วงนี้ต้องทำโอทีซักหน่อยแล้ว วันนี้หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนอาหารได้ครบทุกมื้อ เคี้ยวข้าวละเอียดๆค่อยๆให้ลิ้นรับรู้รสชาดได้แล้ว
จะเห็นว่าเค้าจดละเอียดเหมือนกันว่า กินอะไรตอนไหนอย่างไร เราก็พยายามจดอยู่นะ ข้อดีคือได้บันทึกน้ำหนักทุกวันนี่ว่าเท่าไหร่แล้ว และก็รู้ด้วยว่ากินอะไรไปบ้าง พอถึงตรงออกกำลังกายจะได้รู้ว่าวันนี้ได้ทำรึยัง ข้อคิดเห็นก็จะบอกได้ว่า วันนี้เครียดมาก หรือ น้อยยังไง เพราะมีผลต่อการไดเอ็ทนะ
ผลหลังจากทำกล้วยมื้อเช้าแล้ว
    บางคนอาจจะอยากรู้ว่า เราทำกล้วยมื้อเช้าแล้วมันเห็นผลยังไง เราทำมาได้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดทำเป๊ะๆทุกข้อนะ ยิ่งเรื่องทานข้าวเย็นก่อน 2 ทุ่ม นี่หลุดหลายวันเลย ของว่างก็ห้ามใจไม่อยู่ กินวันละหลายครั้งเหมือนกัน แต่น้ำหนักก็ลดลงอ่ะ (จาก 49.4 เป็น 48.3) แต่ที่เห็นชัดๆคือ เรื่องของการขับถ่าย ปกติก็ไม่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่บ้างวันมันเยี่ยมมากๆ แบบหมดไส้ไปเลย ตอนนี้หน้าท้องแบนมั๊กๆ ชอบ
    ที่แนะนำให้เพื่อนๆทำ สิ่งแรกที่เค้าจะเห็นผลเลยคือเรื่องของการขับถ่ายนี่แหละ ในหนังสือบอกว่าบางคนมีอุจจาระตกค้างเยอะมากที่ร่างกายไม่สามารถขับออกมาได้ เพื่อนๆที่ทำคนนึงน้ำหนัก 116 กิโล ทำกล้วยมื้อเช้าได้ 4 วัน น้ำหนักลงไป 2 โล คือเค้า งง มากว่ามันมากจากไหนเยอะเลย (เริ่มเหมือนพวกโฆษณาชวนเชื่อ) อีกคนหนัก 73 ทำมาพร้อมๆกัน ตอนนี้ลงไปแล้วโลครึ่ง เพราะขับถ่ายดีมั๊กๆ
   
ยังไงลองทำกันดูนะคะ ได้ผลหรือไม่ได้ยังไงมาบอกด้วย ส่วนตัวชอบหลักการนี้นะ และคิดจะลองเผยแพร่ให้เพื่อนๆได้ลองกัน เพราะมันไม่ยาก ไม่ต้องอดไม่ต้องทน ไม่เปลืองเวลา ไม่เปลืองเงินด้วย :D
ปล. อย่าลืมไปอุดหนุนซื้อหนังสือเค้าด้วยนะ เล่มละ 150 บาทเอง มีเนื้อหาดีดีเยอะเลย ตอนนี้เริ่มเห็นหนังสือข้นอันดับ Best Seller ของหลายๆที่แล้วด้วย