racing-club.net
Bike Forum => Folding Bike / Mountain Bike / City Bike / ect.. => Topic started by: O'Pern on June 23, 2006, 10:44:32 pm
-
บันทึกการเดินทาง
Helsinki Finland
Stockholm Sweden
Oslo Norway
ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียมีประชากรไม่หนาแน่น อยู่อาศัยกันแบบสบายๆ ทั้งประเทศมีคนราว 5 7 ล้านคน ในเมืองหลวงมีผู้คนอาศัยประมาณ 1 ล้านคน การคมนาคมสะดวกมาก รถไม่ติดหนัก แต่ถ้ามีอุบัติเหตุก็จะชะลอตัวบ้าง และถ้าเกิดเหตุในอุโมงล่ะก็ รถจะติดเป็นแถวยาวเลย
ปกติจะอากาศหนาวเย็นกันตลอดปี จะมามีแดดออกบ้างก็แค่ 2-3 เดือนช่วงหน้าร้อนเท่านั้น และจะหนาวเย็นแบบหิมะปกคลุมเต็มไปหมดก็ตอนปลายปี ช่วงคริสมาสนี้แหละ สุดยอดไปเลย
ผมไปบ้านเขาหน้าร้อนพอดี ก็เลยเป็นจังหวะที่พวกเขาออกมารับแดดกัน ไปไหนมาไหนก็จะเห็นคนนั่งตากแดดกินกาแฟกัน อ่านหนังสือกัน ในเมืองก็เดินถอดเสื้อกัน ส่วนสาวๆ ก็ใส่ชุดว่ายน้ำกับกางเกงขาสั้นเดินกันเลย
ข้าวของเครื่องใช้ของกิน ฯลฯ แพงมากๆ น้ำอัดลมกระป๋องละ 2 ยูโร (ยูโรละเกือบ 50 บาท) แซนวิชทั่วไปก็ชิ้นละ 2.5 3.5 ยูโร เสื้อผ้าก็แพง รองเท้าก็แพง เครื่องใช้ไฟฟ้าก็แพงกว่าบ้านเราอีก กล้องดิจิตอลราคาสูสี แต่ถ้าเป็นสินค้าจากจีนแล้วจะแพงกว่าเราเยอะมากๆ เดินเล่นริมถนนเห็นร้านไอติมก็ยังราคาแพงพอๆ กับแซนวิชเลย โชคดีผมติดขนมจากไทยไปเยอะ เลยรอดมาได้ด้วยถั่วถุงละ 10 บาท อ้อ ของที่ราคาพอๆ กับบ้านเราก็คือช้อคโกแลต ร้าค้าในเมืองจะมีการหยุดพักกลางวันกันด้วย บางร้านปิด 2 ชั่วโมง บ้างก็แค่ 1.30 ชั่วโมง วันอาทิตย์ธุรกิจในเมืองจะปิดกันหมด ยกเว้นในแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ห้าง ฯลฯ แต่ก็จะปิดกันที่ 4 โมงเย็น
มีขนมหน้าตาประหลาด รูปร่างแปลกๆ มากมาย แต่ลองแล้วรสชาติไม่ถูกปากเลยก็มี โดยเฉพาะพวกลูกอม เคยเจอลูกอมสมุนไพรรสชาติแบบเค็มปี๋แถมฉุนอีกด้วย อมได้ไม่นานก็ต้องบ้วนทิ้งกันทุกคนเลย
อาชีพหลักของคนส่วนใหญ่คือชาวประมง ในย่านนี้จึงมีผลิตภัณฑ์จากปลาน้ำลึกมากมาย ของแพงๆ อย่างปลาแซลมอนนี้หาได้ง่ายๆ ทุกหัวมุมถนน ราคาถูกมาก หรืออาหารไฮโซอย่างไข่ปลาคาเวียก็มีเยอะเลย หลายกลิ่น หลายรสอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้อร่อยไปเสียหมดล่ะ หลายอย่างไม่ถูกปากผมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพวกปลาหมัก จะว่าไปแล้วมันก็คือปลาร้าในเมืองหนาวนั่นเอง
นม เนย โยเกริ์ต แฮม ชีส สลัด ซุป และขนมปังอีกหลากหลายรูปแบบ เหล่านี้คืออาหารหลักในเกือบทุกมื้อเลย ขนมปังแปลกๆ หน่อยก็คือขนมปังกรอบ ผมไม่รู้เขากินกันอย่างไร กินกับชีส กินกับแฮม หรือเอาไว้กินกับซุปก็ไม่รู้ แต่เอามาจิ้มแยมแล้วอร่อยดีเหมือนกัน แต่ก็มีขนมปังอีกหลายแบบที่ทั้งแห้ง แข็ง ทำจากแป้งหรือเมล็ดข้าวอะไรสักอย่าง ไม่เห็นอร่อยเลย เป็นพวก Dark Bread หรือขนมปังข้าวไรน์ อะไรทำนองนั้นแหละครับ
ของหวานที่พบประจำตามมื้ออาหารก็คือประเภทมูส สารพัดมูสกันเลยแหละ เช่น ช้อคโกแลตมูส สตอเบอรี่มูส วนิลามูส ส่วนผลไม้ก็มักจะเป็นส้ม สตอเบอรี่
ผู้คนชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถบ้าน (Motor home) บ้างก็เป็นรถและบ้านในคันเดียวกัน บ้างก็เป็นตู้พ่วงซึ่งลากโดยรถยนต์ ที่นี่เขามีแคมป์สำหรับจอดรถประเภทนี้แล้วมาปิคนิคกัน ส่วนใหญ่ก็จะแบกจักรยานกันมาด้วยคราวละ 2-3 คัน บริเวณแคมป์นั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างดีเยี่ยม นอกจากไฟส่องสว่างแล้วก็ยังมีบริการห้องน้ำและยังมีบริการปลั๊กไฟไว้ให้รถบ้านได้ใช้ประกอบอาหาร ดูทีวี ฟังวิทยุ ฯลฯ บางรายพอจอดรถเสร็จก็ปีนขึ้นไปติดตั้งจานดาวเทียมเลยก็มี
รถยนต์
ใช้รถพวงมาลัยซ้าย ขับชิดขอบทางด้านขวา มีป้ายกำหนดความเร็วในแต่ละย่าน รถต้องหยุดให้คนข้ามทางม้าลาย และคนข้ามต้องดูสัญญาณไฟเขียวด้วยเช่นกัน ไม่เห็นมีสะพานลอยคนข้ามถนนเลย
นิยมรถ VW Peugeot Volvo SAAB Rover Audi Citroen BMW ส่วนแท็กซี่นั้นจะเลือกใช้ Mercedes Benz E Class / C Class กันเสียเป็นส่วนใหญ่ และคนที่ใช้ Mercedes Benz นั้นก็มักจะเป็นรุ่นที่ไม่เหมือนกับแท็กซี่ เช่น CLK SLK อะไรทำนองนี้
ผู้คนใช้รถยนต์กันน่ารักมาก หยุดให้คนข้ามถนนโดยไม่มีรอ แม้รถจะติดกันข้ามแยกก็ไม่เอารถไปขวางตรงกลาง หากเป็นถนนนอกเมืองที่รถไม่เยอะนักแล้วเรามายืนตรงทางม้าลาย แม้จะยังไม่ก้าวขาข้าม แม้จะยังไม่ได้รับสัญญาณไฟเขียวคนเดิน รถก็จะยกคันเร่งให้เราแต่ไกล บ้างก็รีบเบรกให้เราข้ามกันเลยก็มี
รถจักรยาน
ผู้คนนิยมใช้จักรยานเป็นอย่างมาก ไปไหนมาไหนด้วยจักรยานกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเรียน ไปซื้อของ กระทั่งไปเที่ยวก็ยังมีคนใช้จักรยานกันเยอะ มีเลนจักรยานโดยเฉพาะ มีทางม้าลายสำหรับคนข้ามในเลนจักรยานด้วย (มีเฉพาะตามแยกใหญ่ๆ ) ถ้าเกิดอุบัติเหตุชนคนในเลนจักรยาน คนเดินจะเป็นฝ่ายผิด และยังต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่จักรยานอีกด้วย จักรยานในย่านนี้ดูจะเหมือนได้อภิสิทธิ์เหนือยานพาหนะอื่น ดูจากการจอดรถแล้วเห็นว่าเขาล็อคจอดรถกันมั่วไปหมด นึกจะจอดไหนก็เอาโซ่มาคล้องก็เสร็จแล้ว ทำธุระเสร็จก็ปลดล็อคแล้วขี่ต่อไป เออ มันง่ายดีแฮะ
จักรยานที่นิยมก็จะเป็นพวกรถพื้นๆ รถใช้งานธรรมดา อุปกรณ์อลูมิเนียมแบบปกติ รถแพงๆ ก็มีบ้าง แต่ไม่ค่อยเห็นจอดทิ้งกันไว้ รถระดับล่างๆ มักจะใช้เบรกถีบย้อน (Coaster Brake) เป็นเบรกที่ไม่ต้องมีการบำรุงรักษาเลย การใช้งานก็เพียงแค่ถีบบันไดย้อนหลัง ดูเหมือนง่าย แต่ใช้งานจริงจะวุ่นพอควรในระยะเริ่มแรก ผมเองก็เคยใช้เบรกแบบนี้มาบ้าง มันเหมาะกับรถที่ปั่นเรื่อยๆ ครับ เพราะพอจะตั้งสติเบรกได้ แต่ถ้ากะทันหันแล้วผมว่ายาก เพราะตำแหน่งบันไดมันเป็นตัวบังคับจังหวะขาและน้ำหนักในการกดบันไดย้อนหลัง หากตำแหน่งการหมุนของบันไดไปอยู่ที่ 12 6 นาฬิกา แบบนี้ผมว่าเบรกได้ยากมาก ฉะนั้น หากจะใช้ Coaster Brake ช่วงผ่านผู้คนเยอะๆ ก็ควรปล่อยฟรี หมุนให้บันไดอยู่ตำแหน่ง 9 3 นาฬิกา แบบนี้จะเบรกได้ง่าย และทรงตัวดีกว่าอีกด้วย อ้อ ลืมบอกไปว่า รถที่ใช้ Coaster Brake นี้ไม่ควรใช้ความเร็วสูงครับ
มีจักรยานหลายๆ คันที่มีแค่ Coaster Brake ด้านหลังเพียงอันเดียวเอง ดูรถแล้วโล่งดีมากเลย ยิ่งถ้าเป็นคันที่ Single Speed ด้วยแล้ว ผมว่ารถดูสวยมากๆ เลย ไม่มีสายเคเบิ้ลเลยแม้แต่เส้นเดียว เรียกกว่าทำรถออกมาให้ใช้กันลูกเดียวจริงๆ
อะไหล่จักรยานแบบพื้นฐานถึงแบบมีเกรดสามารถหาได้ในร้านขายอุปกรณ์กีฬาทั่วไป แต่ถ้าต้องการอุปกรณ์ระดับสุดยอด ต้องไปหาร้านขายแบบเฉพาะเท่านั้น
ผิวถนนส่วนใหญ่เรียบสนิท ยกเว้นในตัวเมืองเก่าถนนบางเส้นเป็นลักษณะเหมือนเอาก้อนอิฐมาวางเรียง อันนี้ผมว่าขี่แล้วรำคาญน่าดู มันขรุขระตะปุ่มตะป่ำเต็มไปหมด ถ้ารถมีช้อคฯ ก็คงจะสบายมือ สบายก้นกันบ้าง
ผมติดใจอย่างหนึ่งตรงที่ สภาวะภูมิอากาศแทบจะไม่มีผลใดๆ ต่อคนปั่นจักรยาน ไม่ว่าแดดจะออกจ้า หรือหนาวสุดขั้ว กระทั่งฝนตก ก็ยังมีคนออกมาปั่นจักรยานกันอยู่ตลอดเวลา อาจลดลงบ้างขณะฝนตกหนัก แต่ถ้าฝนพรำๆ ล่ะก็ ได้มีเห็นนักปั่นกันเต็มถนนไปหมด ที่ประทับใจก็คือไปกันแบบครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ขณะฝนตก บางคนลูกเล็กให้นั่งในที่นั่งเด็กด้านหลังก็ยังมีผ้าคลุมกันฝนให้เด็กอีกด้วย
มีทางจักรยานอยู่บนถนนเกือบจะทุกเส้นกันเลย ปั่นได้สะดวก ปลอดภัยมาก เด็กๆ ก็ใช้จักรยานกันเยอะ ผู้ใหญ่ยิ่งเยอะกว่าเด็กเสียอีก เด็กวัยรุ่นก็จะจับกลุ่มกันเล่น BMX ตามลานกว้าง หรือไม่ก็เป็นรถ MTB ประเภท Free Ride พวก Inline Skate ก็มีประปราย บางรายเอาไม้สกีมาช่วยยันพื้นอีกด้วย
จักรยานเช่า
ที่เมือง Oslo ประเทศนอร์เวย์ ผมเห็นระบบของจักรยานเช่าในเช้าวันหนึ่งขณะอยู่นอกระเบี่ยงห้องพัก มีรถหน้าตาแปลกจอดเรียงรายกันเป็นแถว ด้านใต้ตระแกรงหน้ามีแกนสำหรับเสียบแล้วรถจะล็อคเข้ากับแท่งเหล็กคานขวางได้ หากจะปลดล็อครถก็ต้องเสี่ยบการ์ดเข้าไปที่เสาแล้วระบบจะปลดล็อคให้อัตโนมัติ ผมรู้แค่นี้ มองเห็นมาเท่านี้ ไม่รู้ว่าการคืนเขาทำกันอย่างไร คืนกันที่จุดเดิมหรือคืนจุดอื่นได้หรือไม่ ส่วนระบบการ์ดผมเดาว่าเป็นแบบบัตรเติมเงิน เพราะย่านสแกนดิเนเวียเขานิยมระบบการ์ดพวกนี้กันอย่างมาก ช่วงเช้าจะมีเจ้าหน้าที่นำรถจักรยานเช่าออกไปเติมตามจุดจอด นำรถที่ชำรุดกลับไปซ่อมแซม
. . . . . . . . . . . .
ดูบ้านเขาแล้วย้อนมาดูบ้านเมืองเราบ้าง
บ้านเขาอากาศเย็นปั่นแล้วเหงื่อแทบไม่ออก เราทำให้อากาศเย็นไม่ได้ แต่เราสามารถทำให้ร้อนน้อยลงได้ เราสร้างร่มเงาไม้ได้
บ้านเขาคนน้อย ในเมืองหลวงแค่ล้านกว่าคน เราทำให้คนน้อยลงไม่ได้ แต่เราทำให้คนไม่มากระจุกตัวกันที่กรุงเทพฯได้ ด้วยการกระจายความเจริญไปยังท้องถิ่น มิใช่มุ่งพัฒนาแต่ในกรุงเทพฯ
(ขอพักก่อน ว่างๆ จะมาต่อให้จบ และนำภาพลงครับ เพียบจริงๆ )
-
ผมขอลงภาพตามลำดับการถ่ายเลยละกันครับ เพราะจะได้เล่าเรื่องไปด้วย
ภาพแรก พอผมถึงสนามบิน Helsinki - Finland ปุ๊บ ก็รีบวิ่งออกมานอกอาคารก่อนใครเลย จะมาสูดอากาศแถบสแกนฯน่ะ อิอิ ปืดแรกก็เย็นสะใจแบบใช้ได้เลยครับ จากไทยที่ราว 35 องศา ไปเจออากาศแค่ 10 แถมมีลมเย็นโชยอีกด้วย
อ้อ บอกก่อนว่าทริปนี้ผมใจถึงมาก เพราะไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวไปสักตัว ไม่ได้เอาเสื้อแขนยาวไปด้วย ไปด้วยเสื้อยืดล้วนๆ เพราะก่อนไปเช็คกับเพื่อนที่สวีเดน มันบอกว่า
เฮ้ย แม่งร้อนฉิบเป๋งเลย ถอดเสื้อเดินกันกลางเมืองเลย อากาศ 30 องศาแน่ะ (พูดภาษาอังกฤษนะ แต่ผมเล่าแบบไทยๆ น่ะ)
พอทราบเท่านั้นแหละ ผมรีบเอาเสื้อแขนยาวออกจากกระเป๋าทั้งหมด
จักรยานจอดเรียงรายหน้าอาคารสนามบินครับ มีรถเมล์จอดป้ายหน้าอาคารเป๊ะเลย ผู้คนไม่พลุกพล่าน คนในเมืองมีแค่ 1 ล้านคน ทั้งประเทศอยู่กันแค่ 6 ล้านคน
-
ยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ในสนามบินครับ เร็ว นิ่ง เงียบ ไถกันเป็นว่าเล่นเลย ผมว่าจะลองบ้าง แต่ไม่กล้าขอ พูดภาษาเขาไม่ค่อยเป็น :)
-
ทำธุระที่โรงแรมนี้หน่อยครับ
มีเลนจักรยานยาวเหยียบคู่กับถนนหลวงเลย ปั่นกันมันหยด
-
รถจักรยานที่หน้าโรงแรมครับ
-
คืนนี้ผมจะขึ้น North Cape เหนือสุดยอดของทวีปยุโรปที่ประเทศ Norway ต้องต่อรถไปอีกหลายร้อยกิโลเมตรครับ เหนื่อยน่าดู ระหว่างทางก็มีฝนโปรยลงมาด้วย หนาวเย็นสุดๆ จริงๆ เลย
แล้วก็เจอคนเจ๋งจริงครับ เพราะเจ้าของคันนี้เขาปั่นจักรยานขึ้น North Cape !!!
- ขึ้นเขาสูงเป็นพันๆ เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระยะทาง 300 กว่ากิโลเมตร แถมฝนตกตลอดทางอีก
-
บรรยากาศบน North Cape ครับ นี่แหละ ที่เขาเรียกพระอาทิตย์เที่ยงคืน ในภาพยังไม่ใช่เที่ยงคืนนะครับ แต่ก็หลายทุ่มแล้วล่ะ ถ้าฟ้าเปิดล่ะก็ แดดอย่างแรงเลย แต่ถ้าฟ้าปิดก็ตัวใครตัวมัน เพราะหนาวเย็นสุดยอดมาก
ก็อีกนิดเดียวก็จะถึงขั้วโลกเหนือแล้วน่ะครับ :)
(http://www.racing-club.net/board/attachments/nord1.jpg)
-
ด้านล่างเป็นแบบนี้ครับ ทะเลหมอกของจริง อุณหภูมิราว 5 องศา แต่ถ้ามีลมพัดมาล่ะก็ ราวๆ กับพายุเลย อุณหภูมิจะยิ่งลดต่ำลงไปอีกมาก ผมใส่กางเกงยีน ลมมันพัดผ่านไปแบบเหมือนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย กางเกงยีนสะพัดพริ้วราวกับธง หนาวแบบถึงกระดูกมันเป็นแบบนี้นี่เอง
(http://www.racing-club.net/board/attachments/nord5.jpg)
-
ลงจากเขาด้วยความหนาวเหน็บ ขับรถออกจาก Norway เข้าเขต Finmark แวะพิพิทธภัณฑ์ของชาวซามิ กลุ่มชนพื้นบ้านของ Finland ครับ นอกเหมืองคนน้อย รถน้อย แต่ก็ยังมีคนปั่นจักรยานมาจอดกันพอควรเลย
-
อีกมุมครับ เห็นทางเข้าพิพิทธภัณฑ์ด้วย
-
คน Scandinavia / Europe / USA เขานิยมเดินทางพักผ่อนด้วยรถแบบนี้กันครับ เรียกว่ารถบ้าน หรือ Motorhome
-
more
-
more over
-
สองท่านนี้ปั่นมาเที่ยวกันครับ ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน แต่เห็นออกมาจากร้านขายของที่ระลึก
-
เข้า Finland ก็ประทับใจกับเส้นทางจักรยานของเขาแล้วล่ะครับ
ตีเส้นขาวไว้บนทางเท้า ยาวตลอดทางตั้งแต่สนามบินเลย
-
close up
-
มีเงาสะท้อนหน่อย เพราะถ่ายบนรถ แต่อยากให้ดูเส้นทางจักรยานครับ
-
ผมเข้าพักที่โรงแรม Radison SAS
น่าทึ่งมาก มีจักรยานให้เช่ารอบริการอยู่เสียด้วย ใจคิดอยากลอง แต่ก็ไม่รู้จะปั่นไปไหน ฮ่าๆ
-
ส่วนมุมนี้เป็นจักรยานของพวกพนักงานและเจ้าหน้าที่โรงแรมครับ ออกแนวเลอะเทอะหน่อย
อ้อ เขามีหน่วยซ่อมบำรุงด้วยนะ ผมเห็นเขามีกล่องเครือ่งมือพกไว้ท้ายจักรยานด้วย
-
เส้นทาง Off Road ก็มีไว้บริการครับ
รอบทะเลสาบหน้าโรงแรม ยาวเหยียดสุดลูกตา
-
ในตัวเมืองตามสี่แยกก็จะจอดจักรยานกันเยอะแยะเลยครับ หากมีเยอะมากๆ มันจะออกแนวมั่วๆ หน่อยด้วยซ้ำไป
-
บางทีเส้นทางจักรยานก็เป็นแบบนี้ครับ
-
เจอสองคนนี้กับรถแปลกๆ ตอนแรกถ่ายเพราะรถแปลกเฉยๆ แต่สรุปภายหลังแล้วว่าน่าจะเป็นรถเช่าของ Helsinki ครับ (รถเช่าของ Oslo จะเป็นอีกแบบ)
-
รถรางครับ สุดยอดอมตะแสนคลาสสิคสำหรับระบบขนส่งมวลชน
แต่ทำไมรถรางบ้านเราไม่อยู่แล้วล่ะนี่ ???
-
รถเมล์สองชั้นเปิดประทุนสำหรับชมเมืองครับ วันหยุดคนจะแน่นเลย แต่นี่เป็นเช้าวันธรรมดาก็เลยว่างหน่อย
-
คันนี้แท็กซี่นะครับ เด็ดกว่ารถผมอีก ของมันเป็นหลังคาแก้วแบบ Panoramic Glass Roof ด้วย หึหึ มาไทยก็ราว 5 ล้านครับ
-
Beach Cruiser ก็มีครับ
หนุ่มคนนี้ปั่นมาตลอดทาง แต่ผ่านจุดนี้เขาลงเข็น ผ่านแล้วก็ปั่นต่อ ไม่รู้ทำไม
-
Many people here in us call RV (motorhome) camping. I totally disagree with idea. I don't like camping but my idea of camping is cooking in campfire sleep in a tent and go to the wood for bathroom. My neighbor rented a RV (Recreation Vehicle) for about $300-$400 a week. It has everything I mean EVERYTHING bath room has toilet and shower, kitchen has microwave and gas stove, bed even small living room with TV and Satelite. Why don't stay home ???
-
ปั่นกันเต็มไปหมดครับ
-
มีปั่นผ่านมาเรื่อยๆ
-
:)
-
ไปสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ก็เจอท่านนี้วิ่งมาด้วย Inline Skate
-
ทาง Off Road ริมทะเลสาบอีกแล้ว แต่ท่านนี้ใช้เดินครับ !!! เดินเร็วด้วย
-
ถนนของเขามักจะมีเส้นแบ่งไว้สำหรับจักรยาน หรือคนเดินเสมอครับ
-
ปั่นมาเจอกันตรงสี่แยก เราก็รอข้ามถนนพร้อมกัน
-
เข้า Down Town แล้วครับ
ทางจักรยานเขาจะอยู่ชิดริมทางเท้าด้านนอก มีต้นไม้ปลูกเป็นแนวกลาง ส่วนด้านในที่ชิดกับอาคารก็เป็นทางคนเดิน
-
จอดล็อคกันตามอัธยาศัยเลยครับ
-
ไฟแดงบนสำหรับรถยนต์ ไฟแดงล่างสำหรับจักรยาน
ยังอยู่บนทางจักรยานนะครับนี่
-
Down Town Helsinki ครับ
มีที่จอดจักรยานบริการกันเกือบทุกสี่แยกเลย
-
มีแผนที่แบบละเอียดบอกทางด้วย
บ้านเราก็พอมี แต่ไม่เยอะ แถมไม่ละเอียดเลย ???
-
ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงของ Finland ครับ ชื่อ Stockmann
-
หนึ่งปีจะมีแดดแค่ 2 เดือนนี้แหละครับ ที่เหลือหนาวกันสุดยอดมาก ก็เลยขอผึ่งกันหน่อย ;D
-
มีแดดที่ไหน ก็ต้องเห็นคนนั่งรับแดด
-
นั่งทานอาหารเครือ่งดื่มตามร้านก็จะนั่งกันที่นอกชาน ไม่ค่อยนั่งในร้านกันเลย
-
ด้านหลังของร้านเดียวกันกับภาพบนครับ ด้านหน้าเขาเอากระถางต้นไม้มาวางกันไว้ ชาวจักรยานก็เลยมาจอดที่ด้านหลังร้านกันแทน
-
ริมถนนนี่เห็นที่ว่างเป็นไม่ได้ ต้องมีจักรยานมาจอดล็อคกันเต็มไปหมด
-
คนนี้นักปั่นตัวจริง สู้กล้องด้วย
-
เดินมาอีกนิดเดียวก็เจอทะเล มีเรือขับวนรอบอ่าวเล่นชมวิว ราคา 14 ยูโรครับ (48 - 49 บาท ต่อ 1 ยูโร)
-
มีทะเลที่ไหน ก็ต้องมีทางจักรยานเลียบทะเลครับ
(ทำไมบ้านเราไม่เอาบ้างว้า..)
-
ถัดชายฝั่งมานิดก็จะเจอตลาดแบบในอาคาร เจอสาวท่านนี้กำลังรอแฟนขณะหนุ่มกำลังหาซื้ออาหารใส่เป๊ะ แล้วทั้งสองก็ออกปั่นเดินทางเที่ยวกันต่อ
- เห็นหนุ่มสาวเที่ยวด้วยจักรยานแบบนี่น่ารักดีครับ
(http://www.racing-club.net/board/attachments/DVC00345.JPG)
-
บรรยายไม่ถูกครับ ไม่รู้จักเลย ไม่คุ้นสี ไม่คุ้นกลิ่น อ่านก็ไม่ออก เชิญชมละกันครับ
-
:)
-
บางอันพอเดาได้ แต่มีอีกมากที่ได้แต่เดา
-
:)
-
อันนี้พอไหวนะ
-
ซื้อเสร็จแล้ว ก็เอามาหม่ำกันตรงนี้ครับ
-
ของโปรด
-
สารพัดชีส
-
มีร้านอาหารญี่ปุ่นด้วย พ่อครัวเป็นฝรั่งนะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น ;D
-
ผลไม้ที่เด่นในบ้านเขาคือพวกผลเบอรี่ต่างๆ สตอเบอรี่ก็มีขายเยอะ
-
ผักจ๊ะ
-
ขนมอบ
-
ขนมหวาน
-
ice cream
-
เดินวกเข้าตัวเมือง ก็เจอ Inline Skate อีกคน
-
นั่งรับแดดกันที่ร้านกาแฟ
-
H2 คันใหญ่ ตอนจอดก็เลยเป็นแบบนี้ครับ
-
สาวๆ ปั่นกันเยอะกว่าพวกหนุ่มๆ อีกครับ
-
พอมีแดดก็อุ่นหน่อยครับ แต่ถ้าแดดหายล่ะก็ ลมเย็นๆ ก็เริ่มโชยมาแล้ว บรรยากาศคล้ายหน้าหนาวของบ้านเราน่ะครับ
-
ถ้าด้านหน้าไม่มีที่จอด เขาก็จะทำที่จอดให้ด้านหลังตึกครับ เรียกว่าแทบทุกตึก ต้องมีที่จอดจักรยานให้
-
หน้าตาคล้าย Beach Bike ของที่ USA มีแค่ Coaster Brake อันเดียว รถคันนี้จอดหน้าร้านหนังสือครับ
เห็นสายเคเบิ้ลยาวสงสัยจะร้อยรถล็อคที่ละหลายๆ คันเลยแหละ
-
พอมีจักรยานมากเข้า ก็เริ่มจอดกันล่อแหลมมากขึ้น
ห่างท้ายรถยนต์นิดเดียวเองครับ
-
ตามมุมสี่แยกมักจะมีแบบนี้
-
:)
-
รถเมล์บ้านเขาครับ
บันไดต่ำ ประตูกว้าง ประตูกลางและหลังจะเปิดสไลด์ออกด้านนอกตัวรถ
-
ลาก่อน Helsinki
ผมออกเดินทางโดยเรือไปกรุง Stockholm ประเทศ Sweden ครับ
-
พักบนเรือ 1 คืน รุ่งเข้าก็เทียบท่าที่ Stockholm เชื่อหรือไม่ว่าภาพแรกที่เห็นก็คือจักรยานที่จอดเรียงรายในท่าเรือ
ถ่ายทะลุกระจกครับ แสงทะท้อนมากหน่อย แต่อยากให้ดูว่าจักรยานเยอะจริงๆ (ชั้น 2 ครับ)
-
นั่งบนรถแล้วถ่ายดะเลยครับ ดูแต่เนื้อหาก็แล้วกันที่ผมต้องการให้เห็นว่าเขาใช้จักรยานกันเยอะจริงๆ ส่วนด้านศิลปการถ่ายภาพผมยังต้องปรับปรุงครับ ;D
-
Bike Lane แบบเนียนๆ ใช้งานได้จริง ไม่มีรถเข้ามาเบียด ไม่มีฝุ่น ไม่มีควัน ไม่ร้อน เพราะเขาเมืองหนาว ฮ่าๆ อิจฉาจริงๆ
-
คนนี้ปั่นมาคุ้ยหาขวดพลาสติค สงสัยเก็บไปขาย ไม่รู้ว่าได้สักเท่าไหร่ อย่างไร ::)
-
NK คือห้างระดับสุดยอดของแพงครับ ผมไม่เคยเข้านะ แต่ก็มีจักรยานจอดกองอยู่เต็ม
-
เส้นนี้เนียนสุดๆ แล้วครับ เลาะทะเลอีกเช่นเคย
ด้านซ้ายสุดคือทะเล ถัดมาเป็นทางสำหรับชาวบ้านชาวเรือ ต่อมาก็เป็นทางจักรยานลาดยางเรียบสนิท ต่อด้วยทางเท้าคนเดิน และถนนสำหรับรถยนต์
-
ยังไม่พอ เพราะว่ามันเป็น Bike Lane แบบไปและกลับเลยล่ะครับ แจ๋วไหมเล่า
สุดทางด้านหน้ามีทางม้าลายของจักรยานครับ จักรยานต้องหยุดให้คนข้าม แต่ถ้าคนข้ามมั่ว ไม่ข้ามม้าลาย โดนจักรยานชน คนเดินจะเป็นฝ่ายผิด แถมชดใช้ค่าเสียหายให้จักรยานอีกด้วย ;D
-
ปกติมันไม่ได้โล่งแบบภาพบนหรอกครับ ผมรอจังหวะต่างหาก
-
คันนี้ท่าทางจะจอดนาน จอดจนพัง ไม่ก็พังก็เลยจอด ไม่รู้ว่าล้อหายไปก่อนพังหรือหลัง
-
ริมถนนครับ เรียงเป็นตับเลย
-
ออกมาหลายปีแล้ว แต่ยังไงก็ดูดี ดูได้นานอีกหลายปี สำหรับ Audi TT นะครับ
-
มีแดดแค่ปีละ 2 เดือน มอเตอร์ไซค์ก็ได้ซิ่งกันแค่สองเดือนนี้แหละครับ
ATV ก็ยังขอมาแจมด้วยเลย แจ๋วไหมเล่า
-
คันนี้ท่าทางจะจอดนาน จอดจนพัง ไม่ก็พังก็เลยจอด ไม่รู้ว่าล้อหายไปก่อนพังหรือหลัง
Many riders here take front wheel or sometime seat with them when they park.
-
หมดหรือยังครับ คุณ Opern กำลังเพลินๆ
ได้เปิดให้ลูกชายดูด้วย
ว่าต่างประเทศที่มีระบบระเบียบเรื่องจักรยาน เป็นอย่างไร
เห็นแล้ว ฝันถึงเมืองไทย ที่จะมีความพร้อม จะได้มีอิสระในการเดินทาง
ระยะสั้น ด้วยจักรยาน
เมื่อวาน หลงไปงานที่ศูนย์สิริกิตย์ (ถ้าไปคนเดียวคงขี่จักรยานไป เพราะประมาณ 6
กิโล แต่เมียไปด้วย เลยต้องเอารถไป)
ขาไป ก็ไม่เท่าไหร่ ครึ่งชั่วโมง
ขากลับ ไม่อยากจะพูด เลย นานนนน และติดดดดด
คราวหน้าจะพกรถพับไปด้วย จะได้หนีกลับก่อน (มารับลูก)
(สู้ต่อไป ทาเคชิ)
-
มีอีกเพียบครับ ตอนนี้เพิ่งเข้า Stockholm เอง ผมต้องทำธุระที่ Sweden สักพัก แล้วค่อยต่อไปที่ Oslo Norway ครับผม
เกรงว่าจะเบื่อกันน่ะครับ เพราะลงเยอะเหลือเกิน เอาเป็นว่า ทะยอยๆ ชมกันวันละหน้าก็ได้นะครับ ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 6 หน้าแล้ว ;D
พรุ่งนี้ผมไปบ้านพักที่สระบุรีแต่เช้า มีไอเดียอยากทำเป็น Bike Hotel ไม่รู้ไปรอดไหม อิอิ
-
ิbike hotel น่าสนใจครับ เอาแบบมีให้เหมาะกับจักรยานทุกแบบ ทางเรียบ
วิบาก ชมวิว หัดใหม่ เด็กๆ BMX แบบในร่ม แบบแข่ง
หาจักรยานแปลกๆไปให้เยอะ ให้เช่าด้วย ขายด้วย
มีสอนขี่ให้เป็นด้วย เช่น package 2 คืน พร้อมหัดขี่
เปิดอบรมซ่อมจักรยานด้วยตนเอง
ฯลฯ มีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ดีครับ
เคยไปทองสมบูรณ์คลับที่แถวเขาใหญ่ ทางที่ไปเครื่องเล่น สวยน่าขี่จักรยานมากครับ
-
bike hotel ขอติดไว้ก่อน ไว้เปิดกระทู้ใหม่คุยกัน ผมเองก็พอมีไอเดีย มีที่ทางเล็กน้อย
ทางลาดลงบันไดใน Stockholm ครับ จักรยานก็ลงได้ รถเข็นเด็กลงสะดวก
-
บนถนนใหญ่ก็ปั่นกันฉิวเลยครับ นาทีหนึ่งมากันหลายคันเลย
-
:)
-
บางช่วงของซอกตึกก็จะมีบริการนวดหลัง แต่ถ้าเป็นบ้านเรา นิยมนวดเท้ามากกว่านะ
-
ตึกสวยดีครับ
เมืองนี้แดดแรง อากาศร้อนเกือบ 30 องศา ต่างจาก Helsinki ที่แค่ 10 นิดๆ
-
เห็นจักรยานในภาพบนไหมครับ
มาดูใกล้ๆ เขากำลังดูคนเล่นเรือคายัคอยู่ที่ใต้สะพานครับ สะพานข้ามแม่น้ำใหญ่เลย พอน้ำผ่านตอม่อมันก็จะเกิดน้ำวน เรือคายัคเขาก็มาซ้อมกันตรงนี้แหละ
-
สองคนคือนักท่องเที่ยวด้วยจักรยานครับ ถ่ายภาพเสร็จ เขาก็ออกปั่นกันต่อ เป็นนักปั่นท่องเที่ยวที่อายุเยอะสุดที่ผมเจอครับ
-
บ้านเมืองสวยๆ กันต่อครับ
-
ร้านไอติมข้างถนน
น่ากินนะ แต่เห็นแล้วสั่งไม่ถูกเลย อ่านไม่ออก ฮ่าๆ
-
ร้านสวยๆ กับบ้านเรือนเก่าๆ
ของโปรดผมเลย (เสียดายที่ถ่ายมาไม่สวย)
-
Old Street Cafe ร้านไม่เห็นจะสวยตรงไหน แต่ดูน่ารักดีตรงทางเข้า มีกระถางต้นไม้เล็กๆ สองใบ มีกระดานดำเขียนเมนูอาหาร แล้วก็ธงชื่อร้าน แค่นี้เองน่ะ
-
:)
-
:)
-
มีจักรยานจอดอยู่ประปราย โดยมากจะเป็นรถของเจ้าถิ่น เพราะย่านนี้เป็นย่านของนักท่องเที่ยว แถมถนนเป็นก้อนอิฐเรียง จักรยานขี่แล้วสะเทือนมากเลย
-
ออกมานอกถนนใหญ่ ก็เจอแบบนี้เต็มไปหมดเลยครับ
-
อิจฉาจริงๆ
-
เห็นภาพแบบนี้บ่อยมาก
-
ปีหนึ่งมีแดดแค่สองเดือน ภาพที่เห็นก็เลยเป็นแบบนี้กันทั่วเมืองครับ
-
จอดกันเกลือนเมืองเช่นกันครับ
-
เริ่มออกนอกเมือง บางช่วง bike lane ก็เป็นแบบนี้ครับ
-
มุ่งหน้าเมือง Bergen ประเทศ Norway ครับ
สวยสุดยอดจริงๆ
-
แต่เป็นวันที่โชคร้ายของผม เพราะฝนตก ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่ประทับใจอย่างหนึ่งตรงที่ ชาวจักรยานของเขาไม่หวั่นกับสภาพอากาศเลยครับ แถมมีอุปกรณ์กันฝนเตรียมลุยกันแทบทุกคนเสียด้วย แหม มันเจ๋งตรงนี้ ลองชมภาพชุดครับ
bike lane ริมถนน ปั่นแล้วกลัวรถยนต์สอยจังเลย
-
บ้านเรือนสวยๆ ครับ
-
สุดยอดคลาสสิคอยู่ตรงนี้ครับ
-
ด้านหลังเป็นเช่นนี้ครับ
-
ชาวจักรยานเขาไม่กลัวฝน ถนนไม่มีฝุ่น ฝนตกก็แค่เปียก ไม่มีดินโคลนติดกางเกง ผมเดินลุยฝนกางเกงเปียกก็จริง พอแห้งก็สะอาดเหมือนเดิม
-
:)
-
ครอบครัวนี้เจ๋ง ฝนตกก็ยังแบกลูกเดินต่อ อากาศบ้านเขาคงจะดีมากครับ โดนฝนไม่เห็นจะมีไอ มีจามกันสักคน แค่เปียกอย่างเดียว
-
ลาจากเมือง Bergen ด้วยภาพจักรยาน 3 ล้อครับ
-
ออกเดินทางอีกแล้วครับ เห็นแบบนี้ ไม่บอกก็รู้ว่าหนาวแน่ๆ ประเทศย่านนี้เมฆเขาดูต่ำๆ ยังไงพิกล แต่ในภาพที่อยู่ระดับสายตานั้นคือหมอกนะครับ ขมุกขมัวไปหน่อย
-
ไปล่องเรือชม Fjord และ Garcia ที่เมือง Flum ครับ เมืองเล็กๆ แต่ก็ยังมีจักรยานมากมาย อากาศดีสุดยอดเลยแหละ
-
เด็กๆ เยอะ เพราะมีรถนักท่องเที่ยวแบบ Motorhome มาพักผ่อนกันเยอะมากครับ
-
เดินทางเข้า Oslo แล้วครับ ใกล้จบทริปแล้วครับ รูปเยอะดีไหม อิอิ ใน Oslo มีอะไรเจ๋งๆ อีกเยอะครับ
ผมแวะเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งกลางทาง
-
มีแค่ 95 กับ D ครับ ค่าเงินก็โครนละ 6 บาท
-
ไปหลายประเทศ มางงเอาประเทศสุดท้ายครับ ก็เพราะเรื่องเงินนี่แหละ ตอนนี้เราอยู่ Norway แต่เราเพิ่งกลับจาก Sweden ซึ่งใช้เงินโครนเหมือนกัน แต่ธนบัตรต่างกัน ค่าเงินต่างกัน แต่ดันเรียกโครนเหมือนกัน เอากับเขาสิ ฮ่าๆ
พอซื้อของร้านนี้ก็หยิบเอาเงิน Norway ให้ พนักงานบอกไม่รับเงินโครนของเรา งงสิ เลยถามว่ารับเงินยูโรไหม เขาว่าไม่รับ
- เฮ้ย แล้วจะรับเงินอะไรกันล่ะ สุดท้ายพนักงานขอโทษที่จำหน้าตาธนบัตรของประเทศตัวเองไม่ได้ โหห อย่างฮาเลยครับพี่น้อง
-
เข้า Oslo แล้วครับ
ปิดฉากนี้ด้วยภาพกองบัญชาการของผมที่ Oslo ครับ
นอนละ ไว้มาต่ออีกครับ พักหลายวันหน่อย พรุ่งนี้พาลูกไปเรียนดนตรี วันอาทิตย์พาไปงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมฯ
-
ทานอาหารเช้าเสร็จ เดินมาที่ระเบียงก็เห็นภาพนี้เลยครับ
จักรยาน และ รถราง ยังคงเป็นตัวหลักของระบบขนส่ง
-
โห ใครวะนี่ มากันเป็นทีมเลย รถเหมือนกันหมดเลย
-
ชายในภาพ กำลังจูงจักรยานที่ราว เอาไปเก็บบนรถ ซึ่งบนรถก็มีรถแบบเดียวกันอีกเยอะเลย
เอ๊ะ รถเช่าแหงเลย แล้วระบบเขาทำกันอย่างไรล่ะนี่ แจ๋วจังๆ
-
คุณผู้หญิงท่านนี้กำลังมาใช้บริการรถเช่าครับ เจ้าหน้าที่ผู้ชายบริการอย่างดี
-
เขาเอาการ์ดเสียบที่เสา ตัวล็อคก็เปิดออก ทำให้เอารถออกจากราวได้
ขั้นตอนมีแค่นี้เองครับ ผมเดานะ ว่าเขาใช้การ์ดแบบเติมเงินน่ะครับ ประเทศย่านนี้เขาถนัดงานแบบนี้ครับ ซื้อของอะไรก็ใช้การ์ดกันหมดเลย
-
ได้รถแล้ว
-
แล้วเธอก็จากไป
-
แวะเที่ยวสวนสาธารณะที่ใหญ่สุดของ Norway ครับ
ดูดวงอาทิตย์สิครับ ;D
-
bike lane ด้านทางเข้าสวน ขณะรถว่าง
ซุ้มตรงกลางถนนเป็นเลนของรถเมล์ครับ แปลกดี
-
พอรถเมล์มาจอด คนก็ลงแล้วข้ามถนนทั้งสองด้าน รถก็จะติดเป็นช่วงสั้นๆ นิดเดียวครับ
-
รถของชาวบ้านที่มาเที่ยวสวนครับ
-
กลับมาเดินที่ Down Town Oslo เมืองสุดท้ายที่ผมจะแวะ ก่อนกลับไทยครับ
เห็นจักรยานหน้าตาคุ้นๆ รถเช่าแหงเลย ทรงน่ารักดีครับ
-
จักรยานเพียบเลยครับ เหมือนเมืองอื่นๆ ในย่านนี้เลย
-
เบา เคลื่อนย้ายง่าย สะดวกสบาย จนบางทีมันก็ออกมาในแนวนี้ครับ
-
มอเตอร์ไซค์นี่เขามีที่จอดให้เฉพาะนะครับ ไม่ได้นึกจะจอดก็จิ้มเข้าไปแบบบ้านเรา ด้านหน้าริมถนนบางช่วงจะมีที่จอดเฉพาะของมอเตอร์ไซค์ครับ
-
ของเจ๋ง ของแพง Hi End จะอยู่แถวนี้ครับ
ด้านหลังตึกจะมีที่จอดอีกเพียบเลย ผมเดินหลงเข้ามาถึงได้เจอน่ะครับ
-
เห็นชุดแบบนี้หลายคนครับ เลยคิดว่าเป็นพนักงานส่งเอกสาร
-
หน้าสถานีขนส่งครับ น่าจะเป็นรถไฟใต้ดินนะ
-
เล่นจนแบตฯหมดครับ ลำดับต่อไปเป็นภาพจากกล้องมือถือแทน อิอิ ภาพห่วยลงกว่าเดิมอีกหน่อย
Tandem ยังมาเลยครับ แถมใส่กระโปรงปั่นอีกด้วย ไม่ได้คิดทะลึ่งหรอกนะ แต่อยากให้เห็นถึงความสบายๆ ของเขา ความเรียบง่าย และใช้จักรยานจนเป็นเรื่องปกติน่ะครับ
-
BMX ก็มาครับ
-
คนนี้เด็ดสุดแล้วครับ มาจอดหน้าห้าง แล้วก็ขึ้นไปช็อปปิ้ง พอได้ของ เธอก็กลับไป
-
เธอกำลังจะไปแล้วครับ รอข้ามถนน
-
ไปแล้วจ้า
-
bike lane ใน Down Town Oslo ครับ
-
ลงหมดแล้วจ้า
อยากให้คนที่สนใจเรื่องจักรยานไม่ว่าจะในแง่มุมใดได้เห็นการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับจักรยานของชาวสแกนดิเนเวียครับ
คนในบ้านเราบางคนยังดูถูกการใช้จักรยานอยู่มาก ทำใจยอมรับซะเถิดครับว่า อย่างไรแล้วเราก็เลี่ยงการใช้จักรยานไม่ได้หรอก บ้านเราไม่ได้เป็นเมืองร่ำรวยอย่างคนอื่นเขา หรือแม้แต่ประเทศที่ร่ำรวยเขาก็ยังสนับสนุนการใช้จักรยานอย่างเต็มที่
เข้าใจครับว่าบ้านเรามันร้อน
- เราทำให้อากาศเย็นอย่างบ้านเขาไม่ได้ แต่เราทำให้ชาวจักรยานและคนเดินถนนร้อนน้อยลงได้ ด้วยการสร้างร่มเงาไม้ไงครับ ซุ้มการเวกเป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งเลยล่ะ ขอใหญ่หน่อย สูงหน่อย และยาวตลอดทางไปเลย
ผมพอจะมีไอเดียอีกมากมายเกี่ยวกับการสร้างทางจักรยาน ที่จอดจักรยาน กระทั่งจักรยานเช่า หาก กทม หรือผู้มีอำนาจสนใจ ผมยินดีให้ความคิดเห็นครับ
-
ดูกันเต็มอิ่มเลย ;D
-
:) รู้มาเหมือนกันครับว่าประเทศนี้ประชาชนนิยมขี่จักรยานเป็นอันดับต้นในโลก สำหรับเมืองไทยผมว่ายากส์ครับเพราะเราไม่ปลูกฝังเรื่องการประหยัดกันตั้งแต่เด็กๆ คิดแต่ว่าใครมีรถเยอะข้านี่แหละรวย (บางบ้านรถ 3-4 คัน) และที่สำคัญคนที่อยากขี่จักรยานกลัวรถในถนนครับ บีบแตรไล่บ้าง รถเมล์ มาไล่อยู่ข้างหลังบ้าง คงต้องรอให้น้ำมันราคาถึง 50 บาทก่อนจึงคิดที่จะขี่จักรยาน ถึงตอนนั้นผมจะรอสมน้ำหน้า ;D
-
:o แล้วจะทำอย่างไรให้คนใช้จักรยานมีความปลอดภัยในชีวิตบนอานจักรยานดีหละครับ
bike lane ก็ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับความปลอดภัย
วินัยการใช้รถใช้ถนนของเรา ยังห่างไกลจากตัวอย่างที่พี่ เอามาให้ดูเยอะครับ
อยาก แต่ ยากจัง :-[
ออกกฎหมายแรงๆสำหรับการจราจร ไม่รู้จะช่วยได้ไหม
-
ก็ต้องเริ่มจากค่อยๆ ปรับตัวกันนั่นแหละครับ เริ่มจากปั่นใกล้ๆ บ้านกันก่อน ตำรวจก็เข้มงวดกับมอเตอร์ไซค์ย้อนศรให้มาก (แต่อนุโลมให้จักรยานย้อนได้ - ปั่นบนทางเท้า)
ทราบครับว่ามันยาก และคงใช้เวลานาน แต่ยังไงมันก็ต้องเริ่มที่รุ่นเรานี่แหละครับ ถ้าเราไม่เริ่ม ก็ไม่รู้ว่าจะรอให้ใครมาเริ่ม
ส่วนทางกทม ก็ค่อยๆ ปรับมาตาฐานทางจักรยานให้มันดูสากลขึ้นหน่อย ไม่ได้แค่ทาสีตีเส้นแล้วมาคุยว่าฉันสร้างทางจักรยานไปแล้ว เปล่าเลยครับ ท่านไม่ได้สร้างอะไรเลย ท่านแค่ตีเส้นเท่าน้นเอง
ออกกฏมาเลยสิครับว่า
- หมู่บ้านในปีหน้าบังคับให้สร้างทางจักรยานภายในหมู่บ้าน ทางจักรยานจะต้องผ่านถนนหลักในหมู่บ้านจนถึงปากทาง แล้วทาง กทม ค่อยมาทำทางจักรยานเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านกับชุมชนอีกที
- ทางจักรยานในหมู่บ้านนี้ยังมีประโยชน์แฝงอีกอย่างคือเรื่องจอดรถขวางหน้าบ้านกันอีกด้วย วางผังดีๆ ออกแบบให้ลงตัวจะลดปัญหาพวกนี้ไปได้ เพราะหากยังดื้อจอดขวาง (หลายบ้านเล่นเอารถโทรมๆ จอดทิ้งมาแช่ไว้เป็นเดือนเป็นปี) ทางนิติฯหมู่บ้านก็เป็นตัวแทนของประชาชนในหมู่บ้านดำเนินการให้เคลื่อนย้ายได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ
ยิ่งคิด ไอเดียยิ่งไหล ยิ่งคิด ยิ่งอยากปั่น ฮ่าๆ
-
:) :)
ไหลมาเยอะๆเลยครับ
ผมจะมา absorb
อยากให้หาดใหญ่เป็นเมืองจักรยาน
คิดเอาเองว่า ด้วยขนาดเมืองที่ไม่ใหญ่นัก น่าจะทำแบบที่พี่คิดได้ (เป็นไปได้)
แต่คนที่จริงจังเรื่องนี้ก็ไม่ใกล้ตัวเลยสักนิด เทศบาลก็ไม่ได้ใส่ใจ กันนัก นอกจากแค่ ประชานิยมนิดหน่อย
ก็เห็นด้วยกับพี่ครับที่ค่อยเป็น ค่อยไป แต่ต้องเริ่มต้นเสียที แต่เริ่มเมื่อไหร่ ก็ไม่อยากให้เริ่มที่ละอย่าง เพราะ ถ้าเริ่มที่คนปั่น แต่กฎหมายไม่เข้ม (ผู้ใช้กฎหมาย ไม่ทำงาน) ผมก็เห็นว่า คนเริ่มจะต้องเสียสละอย่างยิ่ง เพราะเสี่ยงเหลือเกินครับ