racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on May 01, 2016, 05:07:44 pm

Title: พค 59
Post by: O'Pern on May 01, 2016, 05:07:44 pm
1 พค 59 วันแรงงานแห่งชาติ
   ครบ 7 วันที่พ่อหกล้มแขนเป็นแผล นัดกันไว้ว่าจะพาไปไหว้พระที่อยุธยา แต่พ่อบอกยังเจ็บแผลอยู่ ไม่อยากไป เลยเปลี่ยนแผน บอกจะไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแทน ขับไปเองได้สบายมาก
   ภรรยาชวนว่าออกไปวิ่งไหม บ๊ะ มาท้ากันนี่ ไปสิ
   เลยออกวิ่งยามเช้าที่ศูนย์เยาวชนบางมด วิ่งไปคิดงานไปด้วย ช่วงนี้มีงานด้านทีวีมาให้คิดอีกแล้ว สนุกดีครับ บางช่วงก็สวดมนต์ไปด้วย อุทิศส่วนกุศลให้พี่อ้วน ผมคิดถึงพี่อ้วนเขานะ ช่วงหลังเขาป่วยจนเดินแทบไม่ไหว ญาติพี่น้องก็มีไม่มากนัก อยู่กันแบบให้คนรอบข้างช่วยๆ กันดูแล เลยกลายเป็นว่าเขาคือคนที่ผมสวดมนต์ให้บ่อยที่สุดเลย
   แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊เค็งอีกเช่นเคย ร้านโนเนมแถวบ้านที่ผมว่ารสชาติอร่อยมากๆ กว่าร้านดังที่หนังสือแนะนำเยอะมากๆ
   ได้ฤกษ์กลับเข้าไปตอบกระทู้จักรยานในเวป thaimtb.com อีกครั้งในรอบหลายเดือน เมื่อก่อนผมตอบเยอะมากเลยนะ จนทุกวันนี้จักรยานมันฮอทฮิตเสียจนมีคนช่วยตอบมากมายแล้ว เจอข่าวจักรยานพับ LA หน้าตาเหมือนรถ Brompton มากๆ คนตื่นตาตื่นใจกันใหญ่ แต่ผมกลับหดหู่ใจ ปัดโธ่ ทำรถลอกเลียนแบบเขา แถมยังก็อปข้อเสียของเขามาอีกด้วย โดยเฉพาะการเดินสายเบรกสายเกียร์ที่ผมยกให้เป็นดีไซน์ที่ยอดแย่มากที่สุด
   กลางวันอาสาขับรถให้พ่อแม่พาไปบ้านพี่สาวที่พระราม 9 ชอบบ้านเขามากๆ ครับ สวย หรู บรรยากาศสบายดี มีมุมนั่งเล่นเยอะ ขนาดนั่งนอกบ้านยังสบายเลย
   บ่ายชวนกันไปกินที่แม่ศรีเรือน แถวๆ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา แล้วก็แยกย้าย บนทางด่วนผมเป็น VW Karmann Ghia Convertible
   โหห อึ้งแดกไปเลยสิครับมึง เห็น Super Car เทพๆ ราคาเป็นสิบๆ ล้านคันไหนมาผมก็เฉยๆ หัวใจไม่เต้นตูมตามเท่ารถ Classic แบบนี้เลย รถเขาขับผ่านไปนานแล้ว แต่ใจผมยังคิดถึง VW Bus 1957 ของตัวเองที่เคยมี เศร้าเน๊อะที่โดนแม่ว่าทุกวันว่าจอดเกะกะบ้าน ว่าทุกวันจนต้องขายไป เศร้าโว๊ยยย
   กลับมาบ้านโทรคุยกับเต่าเรื่องรายการทีวีที่เราคิดจะทำกัน เสนอชื่อรายการไป พร้อมกับดีไซน์โลโก้ และจิงเกิ้ล ตามด้วยคอนเสปของรายการ กลายเป็นว่าผมเสนออะไร เต่ามันเอากับผมหมดเลย เฮ้ยย ไม่ได้ๆ เอ็งต้องแย้งบ้างสิวะ
   พอเพื่อนเห็นด้วยเราก็ดีใจครับ กลับมาต่อยอดในขั้นตอนถ่ายทำกันต่อว่าแต่ละตอนจะทำอย่างไรกันดี ต้องการนำเสนออะไร แง่มุมไหน แน่ล่ะ มันต้องเอาความเป็นตัวผมเองใส่เข้าไปในชิ้นงานด้วย อารมณ์เดียวกับตอนทำ Racing Club เลยนี่แหละครับ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 03, 2016, 08:43:39 pm
2 พค 59
   วันหยุดชดเชยวันแรงงาน (ของคนอื่น) แต่ร้านผมไม่หยุดหรอก ทำงานทุกอย่างตามปกติ เช้าออกวิ่ง 1 ชม หาไอเดียใหม่ๆ ตอนวิ่งนี่สมองผมจะทำงานได้ดีมากๆ คิดงาน คิดเรื่องราวเจ๋งๆ ได้มากมายขณะวิ่ง นี่คงคือจิตที่เป็นสมาธิน่ะ
   เช้ากินแกงจืดเต้าหู้ ใส่ผักจิงจูฉ่าย ไข่เจียว
   ถนนโล่งดีครับ เพราะยังคงเป็นวันหยุดของใครอีกหลายคน เราไม่หยุดก็ทำหน้าที่กันไป คิดบวกเข้าไว้ คิดว่าได้มีโอกาสช่วยงานที่บ้านมากขึ้น ทำตัวเป็นประโยชน์ เห็นไหม ผมน่ารักไหม น่ารักสัสๆ เลย
   วันนี้นึกว่าจะไม่มีใครมาส่งของเลยนะ เพราะเขาหยุดกันหมด แต่ที่ไหนได้ แม่งมากันเพียบเลย สอบถามดูเขาบอกว่ามาทำวันนี้ได้ค่าแรงพิเศษ ได้เงินเป็นสองเท่า โหห มิน่า ขยันกันไปหมด
   ร้านผมคนงานขาดครับ เลยต้องช่วยยกช่วยแบกกันยกใหญ่ เล่นจะเหงื่อเปียกชุ่มไปหลายรอบ หนักสุดคือตอนบ่ายที่ต้องยกสินค้า 200 ลังลงจากรถคอนเทนเนอร์ที่เป็นตู้ปิดทึบ ร้อน อบ หายใจไม่ออก โคตรทรมานเลย เหงื่อออกแบบเพียบๆ เปียกชุ่มทั้งเสื้อและกางเกง เสียวจะเจ็บหลังอีกด้วย
   อยู่ยาวจนปิดร้านอีกด้วยนะ กลับมาถึงเกือบจะสี่ทุ่มแน่ะ หึหึ เหนื่อยสัส
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 03, 2016, 08:45:29 pm
3 พค 59
   เป็นไปตามคาด ลืมตาตื่นจริง แต่หมดแรงลุก เช้านี้ทำได้แค่เหยียดยืดท่าโยคะเล็กน้อย กลัวหลังจะเจ็บฉิบหายเลยครับ
   บรรยากาศเดิมๆ ครับ เช็คของเข้าออกจากร้านตลอดวัน ไม่มีอะไรพิเศษ
   บ่ายคุยกับเต่าเรื่องงานทีวี ให้ตัวอย่างโลโก้และดีไซน์คร่าวๆ แก่เขาไป พร้อมคุยเรืองแนวทางอีกรอบ สรุปแบบเห็นภาพรวมชัดขึ้น
   อยู่จนส่งของเสร็จผม ไม่มีรถเข้าออกอีกแล้ว ผมถึงจะได้กลับบ้าน ก็ราวๆ ทุ่มกว่าๆ ดีกว่าเมื่อวานนิดหนึ่ง
หัวค่ำเต่าส่งโลโก้รายการมาให้ดูเล่นๆ ยังไม่ใช่แบบที่ผมชอบเสียทีเดียว ต้องรอดูกันต่อไป แต่ดูแล้วเขาตั้งใจทำดี เห็นทีมงานมีไฟแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 05, 2016, 07:58:22 pm
4 พค 59
   ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรอีกแล้ว เล่นแต่ Uke ออกแบบเพลงประกอบรายการของเรา เล่นไปเล่นมา ถูกใจเพลง “การเดินทางที่แสนพิเศษ” ของ ดา เอนโดรฟิน
   เช้ากินกระเพราไก่ใส่เห็ด ไข่ดาว แครอทลวก กระเทียมสด
   งานเพียบดีครับ เช็คของกันไปตลอดวัน ว่างเป็นช่วงสั้นๆ บ่ายๆ ก็กินก๋วยเตี๋ยวราดหน้าแถวบ้านนี่แหละ
   พ่อรับมิวกลับบ้าน ผมก็อยู่เฝ้าร้านไปจนเลิก
   หัวค่ำกลับบ้านรู้สึกรถเครื่องสั่นๆ รอบต่ำ สวิงขึ้นลง ถ้าเข้า D เหยียบเบรก หักพวงมาลัยสุดๆ บางจังหวะเครื่องดับไปเลย เฮ้ย งานเข้า บางทีถึงกับต้องกดคันเร่งเติมช่วย ผิดปกติว่ะ
   มิวเรียนพิเศษวิชาชีวะ การบ้านเยอะเว่อร์เลย จนผมต้องบอกให้เข้านอนได้แล้ว ยังไม่เสร็จก็ช่างมัน เหตุเกิดจากมิวเอาเวลาช่วงหัวค่ำมาเล่นเกมน่ะ บริหารเวลาไม่ถูกต้องเองด้วย ไปโทษการบ้านอย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็แปลกดีนะ เรียนพิเศษก็มีการบ้านกันด้วย
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 05, 2016, 07:59:39 pm
5 พค 59 ฉัตรมงคล
   มิวไฟแรงโคตร ตื่นแต่เช้าตีสี่มานั่งทำการบ้านต่อจนถึงตีห้ากว่า แล้วก็มานอนต่อ โหดสัสเลย
   เช้านี้มีผัดผักบุ้ง ปลาสลิดทอด ไข่เจียวใส่หอมใหญ่
   ตลอดวันนี้หาแต่สปอนเซอร์ยกใหญ่ คุยกับ “ไอ้บี๋” ที่ Mercedes Benz และยังฝากเรื่องไปบอกคนอื่นที่เขาสนิทอีกด้วย คุยกับ “นุ” ที่ True Vision บอกว่าจำเรื่องที่เราคุยกันว่าอยากทำทีวีเกี่ยวกับการเดินทางได้ไหม นุบอกจำได้ ผมบอกว่าผมจะเริ่มแล้วนะ คืบหน้าอย่างไรจะบอกอีกที เกริ่นถึงช่องทางที่ผมอยากจะออกอากาศ นุบอกให้ผมส่งรายละเอียดเพิ่มเติมไปหน่อย แต่ผมยังไม่มีสิ่งเหล่านี้เป็นเอกสาร คงส่งผลงานชิ้นแรกให้เขาดูไปเลยจะง่ายกว่า
   นึกถึงรถ ผมเลยลองหารือ “เก่ง PTT” เด็กคนนี้ขับเอง จูนเอง ฝีมือใช้ได้เลย เก่งวิเคราะห์อาการรถเหมือนผมเป๊ะ คือมองไปที่หัวเทียน และ Air Flow Meter แต่เขายังแถมเรื่องกรองเบนซินอีกด้วย อืมม ผมจะมีเวลาไปทำมันไหมวะนี่ สมัยก่อนนี่ทำเองตลอด ทุกวันนี้แค่จะล้างรถยังหาเวลาลำบากเลย (ล้างเอง)
   เสื้อเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ มันร้อนจนแบบแทบจะเป็นลม หายใจไม่ออก นั่งริมถนนด้วยไง สูดดมควันกันไป อนาคตมะเร็งแดกซะ ฉายแววเสียแล้ว
   เต่าส่งข้อความมาบอกว่ากำลังเดินทางไปเล่นเรือ เฮ้ยย ไปก่อนล่วงหน้าเลยนี่ ผมเลยฝากสำรวจเส้นทางคร่าวๆ เพื่อคราวหน้าผมจะได้เตรียมของใช้ไปถูก เช่นถ้ามีถ้ำผมต้องการเชือกยาวๆ สัก 50 เมตร รองเท้าแกร่งๆ และไฟฉายทรงพลัง ถ้าทะเลมีหอยเม่น ปะการัง ผมก็ต้องการรองเท้าเล่นเรือแบบหุ้มข้อ
   แต่สิ่งหนึงที่ผมไม่ชอบเลยนะคือการตกปลารวมไปถึงตกหมึกด้วย จะบอกว่าเอามาทำอาหารก็เถอะ สงสารมันว่ะ เอาอาหารไปทำกินเองแบบไม่ต้องเข่าฆ่าชีวิตเขาจะดีกว่าไหมนะ
   เย็นไปรับมิว เดินกลับมาแบบโทรมๆ บอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย เจ็บคอ สงสัยเกิดจากตื่นเช้ามาทำงานหรือเปล่า หรือว่าใช้เสียงมาก ผมบอกว่าเป็นไปได้ทั้งนั้น ตราบใดลูกดื่มน้ำน้อย พักผ่อนน้อย ถ้าร่างกายอ่อนแอลงเมื่อใด อาการเหล่านี้ก็จะแสดงออกมาได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องกินยาอะไร แค่ดื่มน้ำมากๆ งดน้ำเย็น และพักผ่อนมากๆ
   เห็นโฆษณา AIS 4G ตัวใหม่ที่ใช้น้องเมย์ รัชนก อินทนนน์มาเป็นพรีเซนเตอร์ เห็นแล้วโคตรเสียดายของเลย ทำออกมาได้ห่วยสัสๆ ทั้งภาพ และเสียง เชื่อว่าจะเห็นกันอีกได้ไม่นานแน่ เพราะต้องถ่ายทำเวอร์ชั่นใหม่ ปล่อยไว้แบบนี้แบรนด์เสียเปล่าๆ
   อาบน้ำสำรวจร่างกาย พบเม็ดฝดขึ้นตรงข้อพับแขน หึหึ ไม่ต้องสงสัยนะว่าเกิดจากอะไร
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 07, 2016, 07:20:29 pm
6 พค 59
   วันนี้รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดพิเศษ ประกาศไปเถอะ ร้านผมไม่เกี่ยวอะไรด้วย
   เช้าเล่นอุคุเลเล่ ซ้อมมือ ซ้อมนิ้วไปเรื่อย ไม่ได้วิ่งออกกำลังกายเล้ยยย พุงก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พออายุมากขึ้นนี่ต่อให้กินเท่าเดิม มันก็อ้วนขึ้นได้ง่ายๆ เลยนะ
   เช้ากินเต้าหู้ราดพริก ไข่ต้ม บร็อคโคลี่ แครอทลวก กระเทียมสด วันนี้ขอยืมรถพ่อคันเก่าไปใช้ รถผมแม่งเร่งไม่ออก อาการแบบนี้กลับมาอีกแล้ว ขับได้แค่ 60 โคตรขำเลย
   ไปถึงร้านก็เช็คของกันเลย มีคนมาส่งของกันแต่เช้า เราก็ไม่ต้องไปไหนกันล่ะ นั่งเฝ้ากันยาวเลย เจ้านี้หมด ก็มีเจ้าใหม่มาเสียบต่อ เวลาว่างก็คิดงานของเราไปด้วย นึกถึงรถที่อยากจะใช้ในการเดินทาง ตอนแรกมอง Mercedes Benz Vito เอาไว้ เห็นเขาเพิ่งออกตัวใหม่พอดี อาจอยากจะเร่งทำตลาด แต่คิดอีกทีค่ายรถใหญ่ๆ หรูๆ เขาจะมาให้รถเราหรอ มึงโนเนมนะ มึงไม่ใช่พี่ติ๊กนะ บริษัทเขาใหญ่โต มีกฎระเบียบมากมาย อย่างน้อยก็ต้องขอดูรายการมึงก่อน ใครเขาจะให้มึงมาง่ายๆ
   ผมนึกถึงแต่รถตู้ เพราะอนาคตจะเอาไว้วางเรือคายัค ถ้าไปกับเต่าก็ต้องมี 2 ลำ (ยังไม่รู้ว่าอนาคตต้องมีทีมงานถ่ายทำกันอีกกี่ชีวิตนะ) ยังไงก็เอารถใหญ่ไว้ก่อน ขนของง่าย นอนในรถได้ ใส่จักรยานก็ยังไหว
   ค้นหาข้อมูลไปมา เจอรถตู้ของ Maxus รถจากจีนที่ใช้เทคโนโลยีของอังกฤษ เขามีรถขนาด 16 ที่นั่งด้วย เฮ้ย รถใหญ่ๆ ผมชอบ อยากทำรถบ้านขึ้นมาเลย หน้าตาก็พอรับได้นะ แต่ผมไม่เคยเห็นใครใช้เลยว่ะ
   สอบถามรุ่นน้องในเฟซบุ๊ค เขาเลยแนะนำให้รู้จัก “เอ” ผู้จัดการรถ Maxus พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ผมเห็นรถเขาน่าสนใจดี แต่แปลกใจทำไมไม่ค่อยมีคนใช้ เลยอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ ที่ผมพอจะช่วยได้ก็คือนำรถมาใช้ในรายการ ใช้ในการเดินทาง ผมมือใหม่ รายการน้องใหม่ ทีมงานใหม่ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะใช้รถค่ายใหม่ๆ เราพร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน
   เอถามผมว่าจะใช้รถเมื่อไหร่ อย่างไร ผมก็ได้แต่บอกแบบคร่าวๆ เขาอยากรู้วันที่ผมต้องใช้รถ เพราะเขาต้องไปดูคิวว่ารถว่างไหม
   “17 พฤษภาคม นี้ผมจะถ่ายทำรายการครับ” โพล่งออกไป ทั้งที่ยังไม่แน่ใจว่าเต่าเขาจะว่างหรือเปล่าเลยนะ
   “ขอตัวสักครู่ครับ เดี๋ยวผมติดต่อกลับ”
   อีกไม่กี่อึดใจ เอติดต่อกลับมา พร้อมกับบอกว่าผมมีรถทั้งแบบ 11 และ 16 ที่นั่ง พี่ต้องการใช้แบบไหนครับ
   เฮ้ย คำตอบของเขาทำเอาผมขนลุก นี่เขาจะให้ผมใช้รถจริงๆ หรือ เฮ้ย คนไม่รู้จักกันมาก่อนเลยนะ
   คุยกันต่อไปอีกสักพักให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ฝัน จนเขาบอกให้ผมร่างจดหมายขอยืมรถแล้วส่งมานี่แหละ ผมถึงมั่นใจว่าเราจะร่วมลุยไปด้วยกัน
   ดีใจสิ ดีใจฉิบหายเลย ทำเอาอิ่มทิพย์ไปทั้งวัน ปกติจะหิวบ่อย นี่ผมไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเต้าหู้จนถึงเย็นตอนกลับบ้านเลย
   บ่ายแก่ๆ เต่าโทรมาคุยแบบกระหืดกระหอบ
   “พี่ๆ เกาะที่เราจะไปนี่จอดเรือโคตรยากเลย ผมใช้เวลาเกือบชั่วโมงอยู่หน้าเกาะ เห็นชายหาดอยู่ข้างหน้าแท้ๆ แต่แล่นเรือเข้าไปไม่ได้ ตัวเกาะมันบังลมหมดรอบตัวเลย ลมมันมาหาเราแบบไม่มีทิศทางเลยพี่ น้ำด้านหน้าเกาะนี่หมุนเป็นรูปวงกลม ตั้งใบเรือไว้นิ่งๆ ก็มีลมกรรโชกมาทั้งด้านซ้ายที ขวาที แล่นเรือยากมากพี่”
   “ผมล่มไปหนึ่งครั้ง น้ำดื่มที่ผมเอามาตกทะเล ต้องแล่นเรืออ้อมไปคว้าเก็บอยู่นานกว่าจะได้มา พอยกมากิน แม่งกลายเป็นน้ำทะเล เฮ้ย ผมปิดไม่สนิทหรอ มันมีน้ำทะเลเข้าไปผสมด้วย”
   โหห แม่งหินกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย แต่ก็มันดีครับ ขนาดผมฟังยังรู้สึกตื่นเต้น ทำเป็นรายการออกมายิ่งต้องถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านี้ออกมาให้ได้ เลยยิ่งมั่นใจว่ามันต้องสนุกแน่ๆ
   “คราวหน้าเอาไม้พายไปด้วย”
   “ห๊ะ เอางั้นเลยหรอพี่”
   “อืมม ไปกับผม ก็ต้องลุยกันแบบนี้แหละ ถ้าไม่มีลม ก็อาจต้องเอาใบลง แล้วพายแม่งเข้าฝั่งเลย”
   “เอาพี่ ผมตามพี่เลย”
   ฟังเต่าเล่าแล้วไม่ได้มีความกลัวอะไรเลยนะ แต่กลับยิ้งอยากไปเจอเองด้วยซ้ำ อยากรู้ว่ามันจะยากเย็นขนาดไหนกัน เต่ายังเล่าอีกว่าหิวมาก เช้าก่อนออกเรือกินทุเรียนไป 1 ลูก บนเรือก็กินน้ำเปล่าผสมน้ำเค็มไป 1 ขวด ไม่ได้กินอะไรอีกเลยจนกลับเข้าฝั่งตอนเย็น
   โห อย่างโหดว่ะ จะไปแบบนี้ต้องมีอาหารสำรอง 1 มื้อครับ แปลว่าถ้าจะวางแผนว่ากินกลางวันบนเกาะ ก็ต้องเตรียมไป 2 มื้อครับ เพราะในทะเล อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตายกันได้ง่ายๆ เลยด้วย เรื่องจริง และมันเกิดขึ้นมาแล้ว
   เข้ามาบ้านหัวค่ำรีบร่างจดหมายขอยืมรถแล้วส่งไปให้เอทันที โดยจะให้เต่าเป็นคนไปรับและส่งมอบรถเพราะออฟฟิซของ Maxus อยู่ใกล้กับบ้านเต่าเลย สะดวกดีมากๆ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้น
   กลางคืนนอนสวดมนต์นึกถึงบรรดาผู้คน สรรพสัตว์ ดวงวิญญาณ มนุษย์ และอมนุษย์ที่เราสวดภาวนาและแผ่เมตตาให้ ขอบคุณเขาเหล่านั้นที่ช่วยให้งานของผมก้าวหน้าขึ้น ขอขอบคุณทุกดวงวิญญาณจากใจครับ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 07, 2016, 07:21:42 pm
7 พค 59
   จะเรียกขึ้เกียจหรือเพลียวะนี่ ตื่นเช้านะ แต่มันไม่อยากลุกเลย ไม่ได้ง่วงด้วยนะ ลืมตาตื่นสนิทเรียบร้อย แต่ก็นอนต่อหน้าตาเฉย
   เช้านี้กินกูฉ่ายกับผักสดอีกจานใหญ่ มีแครอทลวก ใบโหระพาสด กระเทียมสด ไข่ต้มอีกฟอง คนคงสงสัยว่ามันเข้ากันตรงไหน ไม่เข้ากันหรอกครับ มันก็ไม่ถึงกับฝืนใจมากเกินไปนัก ของมีประโยชน์ทั้งนั้น
   ยังคงเอารถพ่อไปใช้ ขับสบายดีครับ รถนุ่มๆ ขับสบายๆ เพลินๆ ยังจำได้ว่าผมเคยบ่นว่าเหมือนขับยานอวกาศ เพราะมันไร้อารมณ์จริงๆ กระทั่งไอ้ MX5 ตัวใหม่ที่เป็นเกียร์ออโตนี่ผมยังไม่กล้าไปลองมันเลยนะ เพราะกลัวว่าจะให้ทรรศนะออกไปทางตรงกันข้ามกับพวกกูรูทั้งหลายเขา ที่แต่ละคนมีแต่ยกย่องสรรเสริญว่าเป็นสุดยอดแห่ง Handling บาลานซ์เทพ อะไรทำนองนั้น
   วันนี้งานเพียบครับ แถมผมไล่คนงานกลับบ้านไปอีกคนหนึ่ง คนนี้ขี้เมามาก โดนดุด่าว่ามาหลายครั้งไม่เคยจำ มาเจอผมที่นั่งอยู่หน้าบ้านพอดี ก็เลยดวงสมพงศ์กัน คือผมพูดจริงทำจริง ถ้ายังมีกลิ่นเหล้าก็ไม่ต้องมาทำงาน ผมไม่ถามแล้วว่าแดกหรือไม่ เพราะคำตอบที่ได้รับกลับมาคือความเท็จทั้งสิ้น
   คนงานขาดไป ก็ยกเอง แบก เข็นเองไป แม้ไม่ชอบ ไม่อยากทำ แต่ถ้าต้องทำ ก็ทำได้สบายมาก คิดบวกว่าได้ออกกำลังกายฟรีๆ ดีกว่าพวกนั่งห้องแอร์เป็นไหนๆ
   เหงื่อเพียบสิ เสื้อเปียกชุ่มตลอดวัน หัวสมองเลยไม่แล่นเหมือนเมื่อวาน เหงื่อไหลจนคันแล้วเกาจนเป็นผื่นแดง ว่างนั่งพักก็อยากหลับ คิดงานอะไรไม่ได้เลยสักนิด ทำได้แค่จดรายชื่อสิ่งของที่จะต้องใช้ในการถ่ายทำรายการ เช่น ถุงกันน้ำ เป้กันน้ำ หมวก แว่นตา
   เออว่ะ ผมอยากได้สปอนเซอร์เป็นแว่น Oakley มากๆ เลยนะ เพราะผมชอบรุ่น Eyeshade ถูกใจมากๆ ตอนมันออกมาครั้งแรกในปี 1985 ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมันนัก มาชอบเอาตอนปี 90 ก็ตามหากันไม่เจอแล้ว และมาเจออีกครั้งก็ปีนี้แหละ ผมชอบตรงที่หน้าเลนส์มันใหญ่มากๆ กันแดดได้ดีมาก แต่ใส่แล้วหน้าอาจตลกได้นะ แต่กูไม่แคร์แล้วล่ะ จะเอากันแดดเป็นหลัก เอาหล่อทีหลัง แถมแว่นรุ่นหน้าหน้าเลนส์มันเหมือนกับทรง Goggle แต่ไม่ได้เป็นสายยางยืดรัด เป็นขาคล้องหูธรรมดา ใส่ขี่มอไซ กับหมวกกันน็อคทรง Retro ผมว่าจะหล่อมาก แถมไอ้แว่นรุ่นนี้มีขาหลายแบบให้เลือกเปลี่ยนด้วย
   เย็นรับมิวแล้วเลยเข้าไปคอนโด นำเอกสารมอบฉันทะให้เจ้าหน้าที่ พรุ่งนี้เขามีประชุมใหญ่ประจำปีกัน ผมไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย คงจะขลุกอยู่กับงานทีวีอยู่อีกนาน จนกว่าจะเทปแรกตัดต่อเสร็จและออกอากาศนี่แหละ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 08, 2016, 06:39:22 pm
8 พค 59
   0530 ผมลุกขึ้นจากที่นอน อันที่จริงน่ะ ตื่นก่อนนั้นนานแล้ว แต่ไม่มีแรงลุก นอนทำใจ ทำสมาธิอยู่พักหนึ่ง เพราะตั้งแต่รู้สึกตัวว่าตืนก็คิดถึงเรื่องรายการทีวีตลอดเวลา เรื่องหลักๆ ก็คือมุมกล้อง และบทบรรยาย ผมให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี่มาก อีกเรื่องที่สำคัญแต่ผมคุมไม่ถึง นั่นคือเรื่องของการตัดต่อ ใส่เสียง จุดนี้ผมต้องพึ่งเต่าล้วนๆ
ออกวิ่งอีกแล้ว วิ่งมาปีที่ 3 แล้วนะ แต่กลายเป็นว่าร่างกายเหมือนจะอยู่ตัว ถ้าเป็นแบบนี้คือผมวิ่งน้อยเกินไป วิ่งช้าเกินไป
จัดไป 45 นาที (ภรรยาไปด้วย และชวนกลับก่อน) แทบคลานเลย ต้องแบบนี้สินะ ร่างกายเราถึงจะแกร่งขึ้น มั้นต้องทำสิ่งที่ท้าทายร่างกายมากขึ้น 30 นาทีแรกวิ่งวอร์ม 15 นาทีหลังซัดแบบสลับช่วงความเร็วก็แล้วกันนะ (ฝรั่งเรียก Interval) ผมวิ่ง 100 เมตรแบบอัดตึงๆ หน่อย แล้ววิ่งผ่อนอีก 100 เมตร ทำแบบนี้สลับกัน 15 นาที หึหึ ลากเลือดเลยนะ
แวะกินก๋วยเตี๋ยวเจ๊เค็งก่อนเข้าบ้าน ซื้อมาฝากมิวด้วย ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่ดีนะ มีประโยชน์ครบ แถมปรุงสุกใหม่ เด่นที่มีผักสดๆ ลวก อย่างเช้านี้มิวได้กินผักบุ้ง ถั่วงอก อาหารเช้าอีกอย่างที่ดีคือต้มเลือดหมู แต่ต้องใส่ใบตำลึงนะ ไอ้นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดผักพื้นบ้านที่กินได้บ่อยๆ เลยนะ วิตามิน A เพียบ
 เปิดคอมฯทำงานอย่างหนักเลยครับ ที่ผ่านมาหลายวันนั่งดูแต่วีดีโอในยูทูป เล็งหามุมกล้องแปลกๆ ที่ชาวบ้านเขาไม่ใช้กัน มาวันนี้เริ่มทำโครงเรื่องว่าจะนำเสนออะไรบ้าง คือผมอยากให้เป็นรายการที่ดูแล้วได้แง่คิดอะไรสักหน่อย เอาโครงเรื่องที่เราคิดไว้มาขยายเติมเสริมแต่งเข้าไป วาดสตอรี่บอร์ดตามเข้าไปอีกนิด ยิ่งคิดยิ่งมันส์ แต่ก็อดเป็นห่วงขั้นตอนการตัดต่อไม่ได้ มันสำคัญมากๆ เลยนะ ทำเอาผมนึกถึงไอ้อาร์ตเพื่อนรักเลย
ผมไม่เคยเห็นงานของเต่าเขาเลยน่ะครับ รู้แค่ว่าเขาเป็นช่างภาพ ชอบถ่ายภาพ บุคลิกลุยๆ มันๆ และชอบเรือใบ ผมรู้แค่นี้เอง ฮ่าๆ
ทำงานเขียนจนเมื่อยก็มาแต่งเพลงต่อ แต่งก็ไม่เป็นหรอกครับ มั่วๆ มันเข้าไป พอได้ทำนองออกมานิดหน่อย แต่มันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ คงต้องใช้เวลากับมันอีกนิด

Up date OS X EI Captian ในเครื่อง Macbook Pro นี่ภรรยาซือให้ตั้งแต่วันเกิด ผมยังทำอะไรไม่ค่อยเป็นกับมันเลยนะ ในทางกลับกันผมอยากได้ IPad Pro มากกว่า เพราะมันพกพาสะดวกกว่ากันเยอะมาก แถมมีคีย์บอร์ดที่ผมพิมพ์งานได้อีกด้วย เครื่อง Macbook นี่หนักครับ พกไว้ในรถก็พอได้ แต่ถ้าต้องแบกไปด้วยนี่จะถึงขั้นเกะกะ
อัปเดทนานเว่อร์เลยน่ะ เป็นชั่วโมงเลย มันผิดปกติอะไรหรือเปล่านะ หรือว่าพอหน้าจอมันดับไป กลายเป็นว่าเครื่องก็ดับไปด้วย มันเลยหยุดการดาวน์โหลด
แล้วมันก็เป็นเหมือนที่ผมคิด คือถ้าพับหน้าจอปิด มันจะหยุดการดาวน์โหลด หึหึ ต้องเปิดทิ้งไว้
เล่าเรื่องรายการ “ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด” ของผมให้เพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยให้ฟัง พวกนี้เรียนนิเทศมาโดยตรงกันหมด แต่ละคนทำงานมามากมายจนบ้างก็ออกจากวงการโทรทัศน์ไปหมดแล้ว บ่นว่าอยากได้เพลงประจำรายการ เพลงจิงเกิ้ล “ตั้น” เลยแนะนำวิธีแต่งเพลงขั้นพื้นฐานให้ และนี่คือครั้งแรกที่ผมหัดแต่งเพลง
“อร” เลยบอกว่าว่างเมื่อไหร่ให้เข้าไปคุยกับเพื่อนเขาที่ช่อง 5 ได้เลย จะไปวันไหนก็บอกล่วงหน้ามา จะนัดให้
โห ใจดีสุดยอด นี่จากไอเดียแรกของเต่าคือไปถ่ายทำกันสนุกๆ เล่นๆ ทำขำๆ จะได้ไม่ต้องกดดัน เต่าเขาแนวนี้ แต่พอมาเจอผมนี่สิ ทำเอางานมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากมีสปอนเซอร์เข้ามา ตอนนี้ก็หาช่องออกอากาศ
อีกสักพัก “นก” เพื่อนสนิทอีกคนสมัยมหาวิทยาลัยโทรมาคุย คนนี้ประสพการทำงานเพียบ อยู่กับค่ายดังๆ มาแล้ว เห็นผมกำลังสนใจงานด้านนี้ เลยโทรมาให้คำแนะนำ แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ ผมกระจ่างขึ้นเยอะ ได้รู้ว่าพวกมืออาชีพเขาทำงานกันอย่างไร ทำให้รู้เพิ่มเติมอีกด้วยว่าผมมันมือสมัครเล่นชัดๆ ที่คิดจะลุยเดี่ยวอีกแล้ว
   แต่ผมขายความต่างไงครับ อะไรทีคนอื่นทำ ผมจะไม่อยากทำ ดูคนอื่นแล้วก็เพื่อที่จะไม่ทำตามเขา

เฮ้ยย เดี๋ยวๆ เพื่อนๆ นี่กูมือใหม่นะ ใหม่เอี่ยมอ่องเลย แม้จะเป็นครีเอทีฟคิดรูปแบบรายการมามาก แต่ก็ไม่เคยลงมือเองสักครั้ง โดยเฉพาะการอยู่หน้ากล้องนี่ไม่ใช่เรื่องถนัดของผมเลย บอกตามตรงว่างานนี้มีเสียว
อีกเรื่องที่เริ่มหนักใจก็คือตอนนี้พรรคพวกแต่ละสายล้วนช่วยเหลือผมกันใหญ่ กลายเป็นลงจุดเกรงใจครับ สายทางช่อง 5 ทาง True ทางช่อง Voice และช่อง Bright
อืมม จะเยอะไปหรือเปล่านี่ ขณะคิดลังเลว่าจะไปช่องไหนดี จู่ๆ ก็มีอีกไอเดียแว๊บเข้ามา
เฮ้ยยยย มีหลายช่อง ก็ทำหลายรายการสิวะ รายการรถที่มึงชอบไง รายการเดินทางก็มีอีกหลายรูปแบบ ที่คุยกับรุ่นน้องทาง True นี่ไอเดียแรงมาก จะไปกันยาวๆ เลย แต่โดยส่วนตัวผมจะชอบทางทะเล อยากออกไปด้วยเรือใบขนาดใหญ่เลยนะ
หัวสมองกูตอนนี้อยากจะแบ่งเป็น Quad Core เลยนะ ให้แค่ละ Core แม่งทำงานแต่ละอย่างกันไปเลย
ในเมื่อมีหลายเรื่องเข้ามาในหัว ก็ต้องจัดระเบียบกันสักหน่อย ทำได้ง่ายๆ ด้วยคำว่า “สมาธิ” ครับ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 09, 2016, 08:07:55 pm
9 พค 59
   เอารถ 180SX ไปซ่อมที่อู่ช่างวิทย์ที่ถนนเจริญนคร ติดรถ Neobike 16 ไปด้วย เลยขี่กลับมาร้านสะดวกหน่อย แวะร้านซ่อมเสื้อผ้า เอาถุงมือจักรยานของ Fox ที่ขาดจนนิ้วโผล่ให้เขาดู เขาบอกผ้ามันเปื่อย ซ่อมไม่ได้แล้ว เลยเข้าไปในตลาด ซื้อน้ำเต้าหู้มาสองถุงแล้วค่อยเข้าร้าน 
   กลับเข้าสู่โหมดคนสู้ชีวิตครับ จากครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ทำงานในห้องแอร์ วันนี้มาเป็นคนงานร้านขายของเหมือนเดิม สบายมากครับ ผมทำได้ทุกอย่าง ได้ยกของก็คิดเสียว่าได้ยกเวท ได้ออกกำลังกาย
   มีคนมาส่งของกันตั้งแต่เช้าเลย เพิ่งเข้ามาร้านนี่เหงื่อเพียบสิครับ หยดติ๋งๆ ไม่หยุดเลย ทรมานดี
   ว่างเป็นต้องนั่งคิดงานครับ ตอนนี้เข้าขั้นทำสตอรี่บอร์ดแล้ว วาดมุมกล้องที่เราต้องการ ตอนถ่ายทำจะได้เข้าใจตรงกัน
   “ก้อง” จากสนามเดินป่าส่งข้อความมาบอกว่าให้พรุ่งนี้เข้าไปคุยและดูสินค้าที่ร้านเขา เลยทบทวนสินค้าที่ผมต้องการใช้ คือผมจะเอาเฉพาะของที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ในงานนั้นๆ เช่นทริปแรกนี้ไปลุยทะเล ไปเกาะร้าง ผมต้องการถุงกันน้ำขนาด 5 ลิตร และ 10 ลิตร อย่างละ 1 ใบ หมวกแก๊ปแบบมีผ้าปิดกันแดด ที่จำเป็นจริงๆ คงแค่นี้ก่อนแหละนะ
   ผมออกแบบชูชีพสำหรับเรือใบและคายัคให้เขาด้วย พรุ่งนี้ว่าจะเอาแบบไปให้เขาดู อาจไม่ใช่ชูชีพที่สมบูรณ์แบบนัก คอนเสปของผมคือต้องการทำให้มันราคาไม่แพง ใส่สบายๆ เด็กๆ หรือคนเล่นเรือสามารถซื้อมาใช้ได้ในราคาหลักร้อย แต่ถ้าผลตอบรับดีล่ะก็ อาจมีเวอร์ชั่นโปรออกมา เตรียมไว้แล้วแหละว่าจะต้องมีฟังชั่นพิเศษอะไรบ้าง
   ยังมีเสื้อเล่นเรือใบด้วยนะ อันนี้ผมไม่รู้ว่าสนามเดินป่าจะสนใจไหม ถ้าไม่ ผมก็อาจจะทำขายเอง รู้ทั้งรู้ว่าคงขายได้น้อยมาก แต่เราไม่ได้คาดหวังเงินไง ผมหวังแค่ให้คนเล่นเรือใบ เรือคายัค มีอุปกรณ์ดีๆ ใช้
   บ่ายเต่าโทรมาขอเลื่อนคิวการเดินทาง อ้าว ฉิบหายสิครับท่านผู้ชม เพราะผมยื่นจดหมายขอยืมรถ Maxus เขาไปเรียบร้อยแล้ว เลยรีบโทรหา “คุณเอ” ทันที
   คุณเอก็ใจดี ไม่ว่าอะไร และบอกให้ทำจดหมายเปลี่ยนวันที่มาใหม่ เขาจะยื่นส่งไปแผนกตรวจรับส่งมอบรถให้ใหม่เอง
   วันนี้มิวเลิกเรียนเร็วหน่อย เพราะบางคอร์สเรียนจบแล้ว แต่จะแวะตัดผมก่อน ผมยืมรถภรรยาขับกลับบ้าน ดีใจ วันนี้ได้กลับบ้านโดยที่ยังไม่ต้องเปิดไฟหน้ารถ
   หัวค่ำ “อ้น” จาก Sanook.com โทรมาคุยด้วย ให้ความเห็นหลายอย่างที่เป็นประโยชน์แก่ผมอย่างมาก อันที่จริง Sanook คุยกับผมมาเมื่อปีก่อนแล้ว แต่ยังไม่ลงตัวกันตรงที่สัญญาระบุว่าผมต้องอัปเดทข้อมูลให้เขา 4 ครั้งต่อเดือน ซึ่งผมหารถยนต์มาทดสอบถี่ขนาดนั้นไม่ไหว เพราะยังต้องถ่ายรูปเองทั้งหมดอีกด้วย
   แต่คราวนี้ผมทำวีดีโอแล้ว Sanook เลยบอกว่าถ้าพร้อมก็ส่งมาได้เลย จะจัดลงเวปของเขาให้
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 10, 2016, 06:30:45 pm
10 พค 59
   เช้านี้เอารถ KHS HT ออกขี่ ครบรอบจอดนิ่งมา 1 เดือนเต็มพอดี ใช้ขี่ล่าสุดก็ตอนไปเรียนเรือใบนี่แหละ มาถึงวันนี้ลมยางยังไม่อ่อนลงมากนัก ขี่สบายๆ จัดไปแค่ 30 นาที ขี่ขำขำๆ แค่พอให้ร่างกายขยับเคลื่อนไหว สมองเราก็คิดงานไปด้วย
   มื้อเช้ายำกุนเชียง ไข่ดาว ข้าวกล้อง ได้กินผักหลากหลายดีในมื้อเช้านี่แหละ
   เอารถพ่อออกไปใช้งานอีกเช่นเคย รถผมจอดอยู่อู่ช่างวิทย์ คงอยู่อีกหลายวัน
   สายๆ เดินทางไปประชุมที่ออฟฟิซ “สนามเดินป่า” คุยกับ “ก้อง” อย่างเป็นกันเอง เขาแนะนำลูกน้องอีก 2 คนให้ช่วยดูแลผมหากผมต้องการอะไรในร้านที่จะใช้ในการถ่ายทำ ก็เอาไปได้เลย
   โห ใจดีโคตร เลยยิ่งเกรงใจ เอามาแค่ของที่เราจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก่อน ก็คือกระเป๋ากันน้ำ หมวก เอามาเผื่อให้เต่าเขาใช้ด้วยอีกชุด
   ก้องจะแต่งงานเดือนหน้าแล้ว เขาเลยวุ่นๆ หน่อย เดินไปเดินมา ไม่ได้คุยกับผมมากนัก สักพักหนึ่งผมขอตัวกลับก่อน
   กลางวันกลับมาอยู่เฝ้าร้านต่อครับ แต่ก็ได้งานกลับมาอีกเพียบ ในหัวตอนนี้มีแต่ฉากการถ่ายทำ มันมาท้าทายตรงที่ผมจะทำให้ทุกอย่างมันแตกต่างจากที่มีคนเคยทำกันมานี่แหละครับ บอกไม่ถูกเหมือนกันนะ
   “อ้น” จาก Sanook.com โทรมาคุยอีกครั้งตอนผมนั่งอยู่ในรถรอรับมิว คุยกันพักหนึ่ง
   กลับเข้ามาบ้านตอนเย็นคุยกับ “นุ” ที่ทำสโมสรเรือใบอยู่ที่เกาะช้าง แต่เขาบอกว่าตอนนี้เรือ Laser ไม่มีแล้ว ขายไปหมดแล้ว เหลือแต่ Hobie Cat อยู่ 3 ลำ
   โหห ผมชอบสิ แต่ยังเล่นไม่เป็น เคยแค่จับๆ ถือๆ หางเสือ ตอนสมัยหนุ่มๆ แต่นุบอกว่าเล่นง่าย ถ้าพี่เล่นเรือเลเซอร์เป็น ไอ้นี่ง่ายกว่าเยอะ แถมขนของได้เพียบ แล่นข้ามเกาะกันแบบสบายๆ นุเปรียบเรือเลเซอร์เป็นมอเตอร์ไซค์ และเรือ Hobie Cat เป็นรถยนต์
   ไปถึงเกาะช้างแล้วผมอยากเล่นคายัคด้วยนะ นุบอกสบายมาก รู้จักคนก่อตั้งชมรมคายัคเกาะช้างเลย บ๊ะ เข้าท่า รีบเมมไว้เลย
   วางสายเสร็จมานั่งจัดคิว เอ๊ะ นี่เราจะไปกันกี่วันดีวะนั่น เอาแค่เดินทางไปกลับก็หมดไป 1 วันแล้วนะ เล่นเรือใบสัก 1 คืน คายัค 1 คืน แต่มันจะพอหรอ น่าจะอย่างละ 2 คืนต่างหาก
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 12, 2016, 06:35:09 pm
11 พค 59
   ขี่จักรยานไป 20 นาที ขี่เอาจิตนาการล้วนๆ ครับ
   ในหัวสมองมีแต่เรื่องของมุมกล้องและการถ่ายทำ
   กลางวันคุยกับ “เฮ้าส์” ชื่ออย่างเป็นทางการนะ ส่วนชื่อที่เพื่อนๆ เรียกกันคือ “ไอ้เป็ด” จากค่ายแกรมมี่ ไอ้คนนี้สนิทมาก นั่งเรียนด้วยกันตั้งแต่เด็ก ผมรู้สึกผิดและเสียใจอย่างมากครั้งหนึ่งทีทำให้ไอ้เป็ดโดนครูตี
   ตอน ม3 ผมเอากระแตมาเลี้ยง แต่มานึกขึ้นได้ว่าตอนกลางวันไม่มีใครดูแลมัน เลยเอาไปโรงเรียนด้วย ใส่กรง ใส่กระเป๋าหิ้ว วางไว้บริเวณเท้า วางในห้องเรียน แล้วจู่ๆ มันก็ร้องเสียงดัง “จ๊ากกก” ออกมา
   ครูหันมาดุนักเรียน บอกว่าให้เงียบๆ แล้วหันไปเขียนกระดานดำต่อ แต่สักพักกระแตมันก็ส่งเสียงออกมาอีก “จ๊ากกกก”  “จ๊ากกก”
   คราวนี้แม่งเบิ้ลสองเลย ครูหันมามองที่ต้นกำเนิดเสียง ผมทำหน้านิ่งเฉย ไอ้เป็ดก็งง ทำอะไรไม่ถูก เลยถูกครูดุไป
   อีกพักเดียว แม่งร้องอีกแล้ว “จ๊ากกกกก”
   ครูเลยเรียกไอ้เป็ดออกไปตี ตอนนั้นผมแม่งโคตรรู้สึกผิดเลย ไอ้เป็ดมันก็โดนตีไปแบบงงๆ อีกพักเดียว กระแตแม่งร้อง “จ๊ากกก” อีกแล้ว ครูเลยถามว่าใครทำเสียงอะไร ผมเลยมีโอกาสรับสารภาพว่า เป็นเสียงจากกระแตของผมเองครับ ผมเอามันมาเลี้ยง  แต่ตอนกลางวันไม่มีใครดูแล ผมเลยเอามาที่โรงเรียนด้วยครับ
   ครูเข้าใจ แต่บอกว่ามันไม่เหมาะสม ห้ามนำมา ให้ฝากคนที่บ้านดู และให้ผมนำเอาไปไว้นอกห้อง แปลกว่ะ พอวางนอกห้องแล้วแม่งเงียบเลย สงสัยมันชอบชมวิว
   ผมอธิบายรูปแบบรายการให้ไอ้เป็ดฟัง เขาบอกว่าสนใจดี แต่ขาดหัวใจหลักในการเดินทาง ไปหาตรงนี้ให้เจอ รับรองมึงเกิด
   ได้ฟังคำแนะนำจากมืออาชีพทำให้ผมฮึกเหิมขึ้นอีกเยอะ ทำนองว่าเรามาถูกทางแล้ว สคริปยังไม่ลงตัวอะไรนัก แต่ผมแม่งมองหาสปอนเซอร์อีกเพียบเลย
   หัวค่ำคุยกับ “อาร์ต” เพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนคุยกับมันนี่ผมแม่งเหมือน “คนทรยศ” เลยนะ เพราะไอเดียรายการแนวนี้แม้ผมจะเป็นคนเริ่มคิด แต่ก็มีอาร์ตมาช่วยขัดเกลาอีกที ช่วงสองปีก่อนที่จะเปิดทีวีดิจิตอลนี่แหละครับ ผมกับพวกเป็นครีเอทีฟคิดค้นรายการใหม่ๆ ขึ้นมาเยอะมาก ทางช่องสนใจบ้าง ไม่สนบ้าง เอาไปทำเองบ้าง แต่ส่วนใหญ่พวกเขาไม่กล้าเสี่ยงกับอะไรที่แปลกใหม่ เลยเลือกคอนเสปเดิมๆ คือซื้อรายการต่างประเทศมาแปล ดังที่เราจะเห็นกันเกลื่อนตา รวมไปถึงซื้อเกมโชว์อีกด้วย ก็ไอ้พวกลงท้ายด้วย Thailand ทั้งหลายนี่แหละครับ
   มันไม่ใช่แนวผมเลยนะ ของผมต้องคิดเองใหม่หมด ต้องใหม่ และไม่ซ้ำเท่านั้น
   อาร์ตให้คำแนะนำมาอีกเพียบ คนละสไตล์กับไอ้เป็ดเลย มันดีไปกันคนละทาง และไอ้ที่ทั้งสองคนแนะนำ มันก็ไม่เหมือนกับที่ผมคิดไว้เลย ฮ่าๆ
   สองคนด้านบนเขามืออาชีพ เป็ดก็เก่งอย่าง อาร์ตก็เก่งอีกอย่าง ส่วนผมไม่เก่งสักอย่าง ไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนอีกด้วย (เคยแค่เป็นครีเอทีฟ)
   ทำเอานอนไม่ลง คิดงานแล้วต้องสานต่อไปเรื่อยๆ ทำทีละฉากๆ จนมาถึงฉากซื้อของก่อนลงเรือ แล้วก็ปิ๊งอีกไอเดีย
   ยิ่งคิด แม่งยิ่งไปไกลมากแล้วว่ะ เฮ้ยๆ กลับมาก่อน มึงยังไม่ได้ลงมือถ่ายทำเลยนะ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 12, 2016, 06:36:52 pm
12 พค 59
   วันนี้มิวลงทะเบียนเรียนต่อ ม3 คล้ายๆ วันรับมอบตัวอะไรทำนองนั้น ผู้ปกครองต้องไปกับเด็ก ต้องชำระค่าใช้จ่ายในกิจกรรมพิเศษ ค่าเทอม ฯลฯ
   ออกจากบ้านแต่เช้า เอารถไปจอดในโกดังแล้วเดินไปโรงเรียนกัน ไปก่อนก็รับเอกสารก่อน วันนี้แหละจะได้รู้ว่ามิวจะอยู่ ม3 ห้องอะไร
   ผู้ปกครองเข้าห้องประชุม ส่วนเด็กแยกไปตรวจเครื่องแบบและความเรียบร้อย ใครไม่ผ่านจะโดนตัดคะแนนความประพฤติ
   มิวได้อยู่ห้อง 8 ขึ้นชั้น ม3 ก็จะเรียกกันว่าอยู่ 308 มีเพื่อนเก่าจากห้องเดิมตอน ม2 ตามไปด้วยหลายคน
   ออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ มิวคงยังไม่คุ้นกับการตื่นเช้า แต่ผมชินมาก ต่อให้มีเวลาเหลือ นอนตืนสายก็ยังทำไม่เป็น ตื่นเองแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะห่วงเล่น คือวันหยุดมีเวลาน้อยไง เราก็เลยตื่นเช้ามากมาขี่จักรยาน แล้วค่อยกลับเข้าบ้านตอนสายๆ    
   ทางโรงเรียนจะแจกบัตรคิวตอน 0730 ผมไปถึงตอน 0700 ก็พบเด็กมานั่งต่อคิวกันแล้ว ไปก่อนเวลาตั้ง 30 นาที ยังได้คิวที่ 14 ของห้องตัวเอง
   นั่งฟังนโยบายของโรงเรียนและข่าวคราวต่างๆ พักใหญ่ เริ่มลงทะเบียนกันตอนสิบโมง ผมคิวที่ 14 ก็รอพักหนึ่ง ลงมาเจอลูกกำลังเล่นบาสฯกับเพื่อน มิวบอกให้ผมกลับไปร้านเลย เขาจะไปเรียนพิเศษที่สยามกับเพื่อนต่อ
   ผมสิโคตรหิว ไม่ได้กินข้าวเช้ามา เลยไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ที่ปากทางเข้าตลาดพาหุรัด รสชาติพอได้ แต่แอบแพงนะ ชามละ 50 บาท เทียบกับร้านเจ๊เค็งแถวบ้านผมชามละ 35 ยังอร่อยกว่าอีก
   กินก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ตามด้วยไอติมกะทิ เดินไปตึกดิโอลสยามต่อ หาซื้อขนมกิน และซื้อแมคฟิชมาฝากภรรยา
   มุมขนมไทยดูสวย ละลานตา ขนมเก่าแก่มากมาย แต่อย่าเคลิ้มนะ รสชาติแม่งงั้นๆ สู้ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแถวบ้านผมไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แพงกว่า ห่วยกว่า เจอลอดช่องสิงคโปร์นี่อยากกินมากเลย แอบดูเขาตักให้ลูกค้าคนอื่นก็ดูเข้าท่า เพราะเห็นใช้น้ำแข็งไสด้วย เลยจัดมาบ้าง แต่พอดูดคำแรกเข้าปาก มึงเอ๋ยยยย รสชาติแม่งยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ น้ำกะทิไม่มีกลิ่นหอม รสชาติขาดความกลมกล่อม อ้วนก็อ้วน เสือกไม่อร่อยอีก กูจะเมมมึงไว้ตลอดชีวิต
   กลับมาถึงร้านสภาพอย่างโทรม ก็เดินตากแดดมาตลอดทางนี่ มีหมวกปีกกว้างคลุมหัวหน่อยเดียว เสื้อนี่เปียกโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อย่าว่าแต่เสื้อเลย ผมว่ากางเกงในก็ชุ่มครับ
   ตลอดอยู่ร้านจนถึงเย็นนี่ผมนั่งหลับไปสองรอบ เหนื่อย เพลีย มากๆ ดื่มน้ำเปล่าไปมากมายก็ยังสู้คลื่นความร้อนไม่ไหว เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งหลับ
   เย็นไปรับมิว ขับรถคนงานกลับบ้าน เป็นรถที่ขับไม่ค่อยถนัด เบาะปรับไม่ได้ ช่วงเหยียดขายาวเกินไป คันเกียร์ก็ชนกับตัวล็อคเกียร์ ขับไม่ระวังจะนิ้วได้เลือดแน่นอน
   คุยกับ “นุ” หารือเรื่องรายการทีวีอีกนิดหน่อย
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 13, 2016, 06:30:09 pm
13 พค 59
   “ดี” บอกปวดท้อง สงสัยจะคลอดลูก เลยไปโรงพยาบาลแต่เช้า ผมเลยไม่มีใครทำมื้อเช้าให้กิน และคงไม่มีมื้อเช้าดีๆ ให้กินอีกพักใหญ่ งานเข้าแล้วสิมึง แปลว่าอยู่นอกบ้านต้องขยันหาของดีๆ กินเอาเอง
   มาถึงร้านอย่างหิวเลย แต่เดี๋ยวก่อน มึงอย่าเพิ่งออกไปหาของกิน มึงต้องไปยกของก่อน
   จัดไป 1 คันรถ ขำขำ แล้วถึงค่อยขี่จักรยานไปซื้อน้ำเต้าหู้มา 2 ถุง แต่พอมาถึงร้านเห็นภรรยาซื้อก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาให้ เลยกินไอ้นี่ก่อนเลย อย่างหิว
   ตลอดวันบรรยากาศเดิมๆ หัวผมมีแต่เรื่องงานทีวี เต่าโทรมาบอกว่าวันนี้สัตหีบฝนตก มีพายุเข้า แล้วถ้าวันที่เราไป ฝนตกจะเอาไงดี
   ลุยสิครับ มาถึงนี่แล้ว ผมไม่ถอยแล้วนะ ยังไงของเอาเรือลงน้ำและแล่นออกไปก่อน จังหวะนี้ผมไม่สนสคริปต์แล้วล่ะ ยังไงกูขอเอาภาพกลับมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน โดยอาจจะเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องเป็นแบบบรรยาย Off Scene เหมือนพวกทำงานสารคดีเข้าไปแทน มันง่ายดีนะ แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ผมชอบทำแบบ Sound On Film
   บ่ายนี้ยกของชุดใหญ่อีกแล้ว เมื่อวานก็จัดไปแล้ว 2 คันรถเต็มๆ 600 กว่าลัง วันนี้มาอีกคัน 360 กว่าลัง หึหึ ได้ออกกำลังกายชุดใหญ่ 
เย็นไปรับมิว จอดติดเครื่องรอ เหนื่อยๆ เหงื่อยังไม่ทันแห้ง เจอแอร์เย็นๆ นี่จะหลับเอาสิ    
   
   โฆษณา Subaru Forester ทำเข้าท่าดีมากนะ เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่ชอบกีฬาบาสเก็ตบอล เริ่มต้นจากการที่เล่นไม่ค่อยเก่ง พ่อก็คอยดูแลใกล้ชิด เด็กเองก็หมั่นฝึกซ้อม จนตอนหลังได้เล่นเป็นทีมกับเพื่อน พ่อก็ยังคงใช้ Forester ไปรับส่งโดยตลอด มันเท่ว่ะ เป็นโฆษณาที่ไม่ต้องเน้นให้เห็นภาพรถยนต์มากมาย แต่ดูดี ชอบๆ สื่อถึงว่ารถ Forester จะอยู่เคียงข้างเราตลอดทุกสถานการณ์
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 15, 2016, 06:14:13 pm
14 พค 59
   ไหนๆ ก็ไม่มีใครทำอาหารเช้าแล้ว เราก็ว่างเยอะเลย ซ้อมเล่น Uke และนั่งสมาธิ
   ช่วงเช้าเหมือนเดิมๆ ทุกวัน ไม่มีอะไรพิเศษ
   บ่ายเข้าไปหา “โจ๊ก” ที่สนามเดินป่า จรัล 53 อีกครั้ง เอาหมวกไปเปลี่ยนครับ มันมีตำหนิ ถ้าผมใช้เองก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่ผมมีแผนบางอย่างหลังจากถ่ายทำรายการ ก็เลยอยากให้มันสมบูรณ์สักหน่อย เปลี่ยนหมวกสองใบ และเอาแผ่นปูรองนอนอย่างบางมา 1 ชิ้น
   เสร็จแล้วเลยไปรับมิวที่เดอะมอลล์ท่าพระ มีโอกาสเดินซูปเปอร์มาเก็ตในรอบเดือน จัดมาสารพัดถั่วเลย มองหาถั่วของมารูติอยู่เสมอนะ ดูว่าจะเข้ามาห้างบ้างหรือยัง เห็นธุรกิจของใครก้าวหน้าเราก็ยินดีด้วยนะ เหมือนกับผลิตภัณฑ์ของค่าย Neya ที่เข้าไปขาย Watson แล้ว ผมก็ดีใจด้วย
มื้อเย็นชวนกันกินซานตาเฟ่ต่อ จัดปลาดอรีราดด้วยเชดดาชีส ชื่อดูหรู แต่จริงๆ ก็ใส่ชีสมาสองแผ่นแค่นี้เองแหละครับ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 15, 2016, 06:20:17 pm
15 พค 59
   ออกวิ่งไปแค่ 45 นาที ตื่นสายหน่อย แดดแรงจัดตั้งแต่ยังไม่ 0630 ขากลับแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊เค็งอีกแล้ว
   เข้ามาบานก็รีบเปิดทีวีเชียร์วอลเล่ย์บอลสาวไทย VS อิตาลี แข่งกันที่ประเทศญี่ปุ่น ถ่ายทอดสดทางช่อง Workpoint ดูกันเพลินไปครับ เพราะไม่ค่อยเห็นนักกีฬาหญิงของไทยเรามีชื่อเสียงมากนัก สมัยก่อนนีมีแค่นักมวยอย่างเดียวเลยนะ ระยะหลังนี้มีวอลเล่ย์บอล และเจ้าน้องเมย์ นักแบดฯ นี่แหละ
   เออ ไอ้เรื่องวัฒนธรรมของกีฬาแต่ละประเภทแม่งก็แตกต่างกันซะเหลือเกินนะ อย่างวอลเล่ย์บอลนี่นักกีฬาจะแสดงความดีใจกันตลอดไม่ว่าได้หรือเสียแต้ม (แต่ถ้าได้แต้มจะดีใจมากหน่อย) แต่กีฬาที่ผมว่าแม่งตลกคือตะกร้อครับ ผู้ชนะแม่งจะออกลีลากวนตีนฝ่ายตรงข้ามแบบล้อเลียน แบบนี่ถ้ากูไปเล่นเอง กูชกแม่งไปแล้ว
   ดูสาวไทยตบแต่ละลูกแล้วน้ำตาแทบไหล ตัวเล็กกว่าเขา แต่ก็ซัดลูกสวยๆ ได้เยอะ เชียร์อยู่ดีๆ ลุ้นมันๆ ไอ้สัส สัญญาณหาย รออีกพักหนึ่งสัญญาณกลับมา แต่คราวนี้แม่งภาพล้ม เป็นโมเสสทั้งจอ ไอ้ฉิบหาย นี่กูดูมายคราฟอยู่หรือไงวะ
   บ่นด่าไปมากเข้า อีกพักเดียวแม่งไม่มีภาพเลย จบข่าวครับท่านผู้ชม เชียร์ในใจแทนก็แล้วกัน
   กลางวันแม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝาก เป็นเมนูเดียวกับเมื่อเช้าเป๊ะเลย แต่เป็นของคนละร้านกัน ก็อร่อยดีครับ แต่ผมชอบของร้านเจ๊เค็งมากกว่า ใส่ถั่วงอกและผักบุ้งเยอะๆ
   บ่ายติดต่อไปที่ Feelfree Kayak สอบถามเรื่องเรือ ผมอยากได้เรือคายัคแบบทัวริ่งมาใช้ในการเดินทาง เพราะหาข้อมูลในเฟซบุ๊คเขาเองก็มีแต่ข้อมูลของพวกเรือตกปลา (เรือแบบนี้แม้จะนั่งสบาย แต่มันหนัก ถ้าเป็นทริปใกล้ๆ พายไม่นานก็พอไหว น่าใช้ แต่ถ้าจะลงทะเล ก็ต้องเป็น Sea kayak เท่านั้น)
เลือกค่ายนี้เพราะผมชอบชื่อของเขาว่า Feelfree ผมว่าความหมายดีนะ หาที่อยู่ติดต่อไม่ได้ ก็เสิร์ชหาเอาจนเจอเฟซบุ๊ค และคุยกับแอทมินเพจ จนสุดท้ายเขาก็ให้เบอร์ผู้จัดการมา รีบโทรทันที แต่ไม่มีใครรับสาย พรุ่งนี้ลุยต่อ
   เย็นมิวเข้ามาบ้าน เปิดถุงฟูจิออกมา กลายเป็นอาหารคนละอย่างกับที่เขาสั่ง อ้าว พนักงานหยิบให้ผิดหรือนี่ แต่ทำไงได้ มาถึงบ้านแล้ว ก็เลยกินๆ มันเข้าไป
   หัวค่ำจัดเตรียมกระเป๋าและอุปกรณ์การเรียน พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้ว
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 16, 2016, 07:53:03 pm
16 พค 59
   มิวเปิดเทอมวันแรก เป็นนักเรียนชั้น ม3 อย่างเป็นทางการ ปีนี้มิวอยู่ห้อง 8 เรียกว่า 308 วันแรกนี้คงไม่มีเรียนอะไรมากมายนัก แต่หลังจากนี้แหละ มิวจะเจอของจริง
   เมื่อคืนเข้านอนตั้งแต่ 0900 เลยตื่นมา 0400 ทำให้ออกวิ่งไปได้ถึง 2 ชม ไม่ได้ลากยาวๆ แบบนี้มานานพักใหญ่แล้ว รู้สึกเจ็บนิ้วก้อยเท้าช่วง 1.45 ชม ทำให้ต้องผ่อนแรงลงหน่อยในช่วงหลัง เสร็จแล้วเดิน Cool Down อีก 10 นาที
   ภรรยาไปตลาด ซื้อสุกี้แห้งมาฝาก แต่มันทิ้งไว้นานจนเส้นอืด เห็นหน้าตาแล้วเหมือนยำวุ้นเส้นมากกว่าสุกี้ (เส้นมันฟองตัวมาก) กินแล้วรู้สึกไม่อร่อยเท่าไหร่เลย ฝืนๆ กินเข้าไปจนหมด เพราะมันมีผักเยอะ
   วันรถติดแห่งชาติสินะ เลยออกจากบ้านสายหน่อย ถึงทีทำงานก็เจอของจริงจัดหนัก ยกของจนเต็มเพียบรถกระบะแบบเหงื่อโทรมสุดๆ กางเกงเปียกน้ำจนชุ่ม เสื้อนี่ไม่ต้องห่วง เปียกจนไม่มีพื้นที่แห้งให้เห็น
   เกิดคำถามมากมายในใจ หนึ่งในนั้นก็คือว่าเราจะต้องทำงานแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
   พอถึงร้านก็เจออีกชุด คราวนี้เป็นการจัดเรียงสินค้าใหม่ รื้อกองนั้นมาไว้ที่ตรงนี้ ย้ายไปก็ย้ายมา ทำยังกะเล่นงูกินหาง แต่กูเหนื่อยสัส
   เจอแบบนี้แต่เช้านี่ทำเอาซึมไปอีกจนถึงบ่าย เหนื่อย ง่วง เพลีย ฯลฯ บอกตรงๆ นะว่ากูนี่อยากหนีกลับบ้านเลยล่ะ
   อ้อ กลางวันฝนตกนะ ลงมาไม่หนักมาก ตกปานกลางราว 1 ชม ก็พอให้คลายร้อน คลายอบอ้าวไปได้นิดหน่อย นั่งอยู่ริมถนนหน้าร้าน ได้ยินคนทำงานออฟฟิซคุยกันว่าตกแบบนี้ตกมาทำไมนะ ตกให้มันร้อนขึ้นเปล่าๆ
   หึหึ พวกมึงทำงานแต่ในห้องแอร์ คงยังไม่เคยเจอร้อนแบบกูมั้ง
   บ่ายโทรคุยกับทาง Feelfree ขอยืมเรือคายัคที่จะใช้พายทริปหน้า คาดว่าคงไปใกล้ๆ หน่อย อาจจะเป็นอยุธยา อัมพวา อะไรทำนองนี้ โดยส่วนตัวผมชอบแนว Touring Kayak แต่เรือแนวนี้มันยาวมาก ไม่รู้จะเอารถอะไรไปขนย้าย นี่ถ้าได้รถ Maxus มาใช้แบบส่วนตัวนี่จะสุดยอดมากเลย
   อยู่ร้านจนถึงเย็น รอรับมิวกลับบ้าน ระหว่างอยู่ในรถให้มิวเป็นเลขาให้ มีโทรศัพท์เข้ามาหลายสาย “นุ่น” จาก Sanook.com โทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะจัดส่งสติกเกอร์ไปให้
   เรื่องนี้ก็ตลกดีนะ Sanook.com เขาทำงานเป็นแบบ Digital Content ไม่มีเอกสารใดเป็นกระดาษเลย กลายเป็นว่าสิ่งที่ผมต้องการคือสติกเกอร์มาติดรถยนต์และเรือนี่ ทำให้ทาง Sanook.com ต้องให้ทีมงานไปจัดการสั่งพิมพ์ให้ผมโดยเฉพาะ 
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on May 17, 2016, 07:51:34 pm
17 พค 59
   วิ่งจนเจ็บนิ้วก้อยเท้า เช้านี้ออกขี่จักรยานไป 40 นาทีแทน มันไม่เหนื่อยเท่าวิ่ง แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
   เช้ากินแตงโม เล่นกุเลเล่ นั่งสมาธิเล็กน้อย แล้วก็ออกไปทำงานที่ร้าน
   ตอนสายเจ้าหน้าที่ของ Sanook.com นำสติกเกอร์มาให้ อันเบ้อเริ่มเลย ใหญ่กว่าที่ผมคิด บอกเขาไปว่าขนาดสัก 1 ฝ่ามือ แต่ผมคิดว่าจะเป็นแบบฝ่ามือที่หุบนิ้ว
   มานั่งอยู่ตรงนี้พักใหญ่ ทำหน้าที่แทน “พี่อ้วน” ที่คอยตรวจเช็คของเข้าออกจากร้าน แถมต้องคอยยกแบกของขายหน้าร้านด้วย ใครมาเบิกของหรือส่งเข้าในโกดังก็เป็นหน้าที่ผมอีก บอกตามตรงนะว่าเหนื่อยจริงๆ แถมพอมีเวลาว่างจะทำงานส่วนตัว หัวสมองมันก็ไม่แล่นเอาเสียเลย พรุ่งนี้จะไปถ่ายงานอยู่แล้ว สคริปต์ผมยังไม่เสร็จเลย ยังไม่ได้เริ่มแบบเป็นเรื่องเป็นราวอะไรด้วยซ้ำ อะไรวะนี่ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ
   ข่าวเศร้าอีกเรื่องคือน้ำหนักขึ้นมาอีกแล้ว เห็นออกแรงยกของเยอะๆ ตอนกินนี่บางจังหวะแดกเป็นปอบกับเขาเหมือนกัน กลายเป็นว่าตั้งแต่กลับจากเล่นเรือใบจนถึงตอนนี้ น้ำหนักขึ้นมา 3 กก แล้ว
   มิวเลิกเรียนแล้วยังไปเรียนพิเศษต่ออีก กลับมาถึงร้านก็ราว 0600 เลยรีบกลับบ้านทันที พอถึงบ้านผมเตรียมจัดข้าวของเครื่องใช้ แล้วก็ตกใจ เฮ้ยย กูลืมหมวก !
   หมวกที่ผมใช้เล่นเรือใบมันอยู่ที่ร้าน เป็นหมวกแบบผ้าแห้งเร็วมาก จุ่มน้ำแล้วเล่นเรือราว 5 นาทีก็แห้งแล้ว ผมใช้ใส่ขี่จักรยานด้วย รีบโทรบอกภรรยา เผื่อเขาจะยังไม่ออกมาจากร้าน แต่ที่ไหนได้ ขับมาเกินกว่าครึ่งทางแล้ว ใกล้ถึงบ้านแล้ว
   “หมวกอยู่ไหนหรือ เดี๋ยวขับกลับไปเอาให้นะ” ภรรยาเอ่ยปากอาสา
   โหห โคตรดีใจเลย ตอนแรกคิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องรีบออกไปเอาแล้วรีบกลับเข้ามาบ้านอีกครั้ง
   “ขอบคุณมากนะ ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำให้ลำบาก”
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 06:48:33 pm
18 พค 59
   พยากรณ์อากาศเขาบอกว่าอาทิตย์นี้จะเริ่มมีฝนเยอะ จะเข้าหน้าฝนอย่างเป็นทางการ เชื่อเถอะเดี๋ยวก็จะมีข่าวลือส่งกันทางไลน์มาอีกเกี่ยวกับหายนะและภัยพิบัติ ซึ่งมันเป็นคำเตือนจริงนะ แต่เป็นข่าวเก่า เจอคนที่กระต่ายตื่นตูมหน่อยแม่งจ้องจะแชร์ท่าเดียว วันๆ คงไม่มีอะไรทำ แชร์มั่วแบบนี้น่าจะมีปุ่มกดไม่รับข้อความจากไอ้หมอนี่เลยนะ    ฝนตกตอน 0200 ทำเอาตื่นเลย และก็นอนหลับๆ ตื่นๆ จนถึงเช้า คิดถึงแต่เรื่องสคริปต์งานที่จะถ่ายวันนี้แหละครับ เคยเป็นแต่คนเขียนสคริปต์ไง พอตอนนี้จะต้องมาพูดเองแล้วแม่งรู้สึกแปลกๆ แบบคำมันไม่เข้าปากเราไง เช่นพวกคำพูดหล่อๆ คมๆ
   เช้ากินสัปปะรด ช่วงนี้ไม่มีอาหารเช้าดีๆ กิน “ดี” เขาต้องดูแลลูกที่เพิ่งคลอดไปไม่กี่วัน ไม่อยากใช้งานเขา ผมเลยกินแบบง่ายๆ มีผลไม้อะไรก็กินไปตามนั้น กล้วย ส้ม แตงโม สัปปะรด ฝรั่ง แนวๆ นี้แหละ
   จัดเตรียมกระเป๋าเดินทาง ไปกันแบบง่ายมาก แต่ที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือชุดและอุปกรณ์การเล่นเรือใบ โดยเฉพาะหมวก แว่น ชูชีพ ไอ้นี่ไม่มีไม่ได้เลยนะ ก่อนลงเรือก็ต้องแวะจัดเตรียมอาหารกันก่อนอีกด้วย ผมอยากจะจัดไปสัก 2 มื้อ กิน 1 สำรอง 1 กรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน
   ขณะนั่งพิมพ์ไดอารีชีวิตอยู่นี้ ผมนั่งรอเต่ามารับที่บ้าน เขาไปรับรถที่ Maxus ตอน 1000 แล้วกลับบ้านไปขนข้าวของและอุปกรณ์กล้อง น่าจะมาถึงบ้านผมก่อนเที่ยงนะ
   ระหว่างรอก็ทำสคริปต์ไปเรื่อยๆ นั่งนึกมโนกันไปครับว่าน่าจะต้องพูดคุยถึงเรื่องใดบ้าง แต่เชื่อเถอะนะ เอาเข้าจริงแม่งเพี้ยนกันหมด เพราะสถานการณ์รอบข้างมันจะผลักดั้นเราให้พูดคุยกันไปเองแบบเป็นธรรมชาติมากกว่า ถ้ามั่วแต่ตามสคริปต์ล่ะก็ จะพูดกันแบบจืดๆ เลยล่ะ
   ที่ไม่ได้เผื่อไปเลยนั้นคือการเจอสถานการณ์ฝนตก อากาศขมุกขมัวถ่ายออกมาไม่สวยเลยครับ ยังสองจิตสองใจว่าเอาไงดี สคริปต์โครงเรื่องทีตั้งใจไว้คงต้องเปลี่ยนไปหมดสินะ
   เต่าโทรมาหา บอกว่าไปรับรถมาแล้ว คันใหญ่มาก แต่ยังดีที่เต่าเคยขับรถ 6 ล้อมาก่อน เป็นผมสิ เจอแบบนี้อาจไปไม่เป็น ไม่เคยขับรถคันใหญ่ๆ มาก่อนเลยครับ เอาแค่รถตู้ธรรมดาที่ตำแหน่งคนขับนั่งอยู่บนล้อผมยังเหนื่อยเลย
   มาถึงบ้านผมเอาตอน 0100 มาพร้อมกับ “ภูมิ” ช่างภาพตัวเล็ก น้ำหนักเบา ทน อึด แกร่ง เด่นตรงถนัดงานถ่ายในทะเล และเพื่อนของภรรยาเต่าชื่อ “กบ” มากับสามีชาวฟินแลนด์ ชื่อเรียกยาก เธอบอกว่าให้เรียก “กล้ามใหญ่”
   เห็น Maxus ครั้งแรกผมนี่ตกใจเลยนะ คิดว่ามันขนาดสัก Hyundai H1 แต่ที่จริงแล้วมันเล็กกว่า Mercedes Benz Sprinter หน่อยเดียว คนนั่งน่ะสบายแน่ครับ แต่คนขับนี่สิ
   ออกเดินทางสู่บางแสนทันที ขับไปคุยกันไปจนเลี้ยวผิดไปนิดหน่อย มาถึงบ้านเอาตอน 0300 ส่งกบและกล้ามใหญ่เข้าที่พัก แล้วก็ออกไปหาซื้ออุปกรณ์ยึดตัวล็อคของขากล้อง งานนี้เต่าขนเครน สไลด์ และอุปกรณ์ยึดกล้องสารพัดแบบ เห็นเขาเอาจริง ลงทุนจัดมาเยอะมาก ผมเองก็รู้สึกงานนี้ต้องสนุกแน่ๆ แวะกินมื้อเย็นแบบเร่งด่วนใน Home Pro รสชาติไม่อร่อยเลย
ออกไปหาชายทะเลมุมสวยๆ เก็บภาพรถเป็น Stock Shot ไว้ก่อน กว่าจะเสร็จนี่เย็นจนจะค่ำเลยนะ ช็อทนี้ใช้เครนยกกล้องแล้วแพนไปด้วย เห็นวิวทะเล และเรือหาปลา สวยสบายตาดี
กลับเข้ามาบ้าน เจอกบกับกล้ามใหญ่กำลังเดินเข้ามา เลยชวนกันไปกินอาหารทะเลแถวเขาสามุก กล้ามใหญ่ดีใจมาก บอกว่ามาแบบนี้เขาได้กินอาหารหลายอย่างเพราะมากันหลายคน แต่ถ้าไปกับภรรยาก็จะได้กินแค่ไม่กี่อย่าง
กลับมาบ้านก็แยกย้าย ผมนอนห้องนอนใหญ่กับเต่า ภูมิขอนอนห้องรับแขกชั้นล่าง (มีแอร์อย่างดี) ส่วนกบและกล้ามใหญ่นอนห้องนอนเล็ก
ทะลักทุเลก่อนนอนตอนถอยไอ้ยักษ์ Maxus V80 เข้าจอดในบ้าน ลักษณะบ้านเป็นแบบ Town Home (ชื่อทางการตลาดล่ะนะ มันก็คือแนว Town House ที่ทำออกมาแนว Modern) ไอ้ยักษ์ถอยเข้าจอดจนติดประตูตัวบ้านแล้ว หัวรถยังเฉียดประตูรั้วเลย ชนิดที่ว่าเบียดจนคนเดินไม่ได้
กลางดึกตื่นมา แอร์แม่งอย่างหนาวเลย เต่ามันนอนได้ไงวะ ผมกดรีโมทหรี่แอร์ แต่มันไม่ตอบสนอง เลยลากที่นอนเอามานอนใต้แอร์มันซะเลย ลมจะได้ไม่โดนตัว
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 06:51:30 pm
19 พค 59
   เฮ้ย ฝนตกแต่เช้า เทลงมาอย่างหนัก ฟ้ามืดมิด แต่มาถึงนี่แล้วนะ ยังไงก็ไม่ถอยหรอก แต่เป็นห่วงภาพที่จะได้กลับมานี่สิ
   นัดกันว่าจะออกจากบ้านแต่เช้า จะไปถึง กร (กองเรือยุทธการ) ให้ทัน 0830 แต่ในความเป็นจริงผิดคิวครับ ตั้งใจไว้จะออกจากบ้าน 0700 แต่ก็เลทไปเยอะมาก เพราะต้องทำการโอนย้ายไฟล์ภาพใน SD Card คือเรื่องภาพและกล้องนี้ผมไม่มีความรู้อะไรเลย ปล่อยให้เต่าจัดการอย่างเดียวเลย ทำได้อย่างอิสระอีกด้วย และด้วยความที่อุปกรณ์กล้องเยอะมาก มาถึงแล้วจึงรู้ตัวว่าลืมแบตฯของ Action Cam Go Pro
   กว่าจะจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จฝนก็หาย ออกเดินทางสู่สัตหีบด้ายยยยยยยย นึกว่าจะได้ซัดโล่งๆ รถติดบนมอเตอร์เวย์ครับ มีรถบรรทุกใหญ่พลิกตะแคง เหลือถนนวิ่งได้ 2 เลน ติดยาวมาหลายกิโลเมตรเลยนะ ผ่านมาได้ก็ค่อยโล่งจนถึงสัตหีบ
   แวะกินข้าวกันที่ตลาดแถม กม 10 ซื้อข้าวเหนียวหมูย่างเอาไว้กินบนเกาะ แล้วรีบเดินทางเข้าสู่กองเรือยุทธการทันที เปลี่ยนชุดแล้วรีบไปประกอบเรือทันที แต่พอมาถึงก็เจอ “พี่โต” ช่วยทำไปจนเกือบจะหมดทุกอย่างแล้ว กำลังจะลงน้ำอยู่แล้วเชียว ดราม่าก็บังเกิด
   ฝนตกกลางทะเลจนมองไม่เห็นเกาะยอ “ครูเป้” บอกให้รอสักพักค่อยออก ให้พายุผ่านไปก่อน ใจจริงผมอยากลุยนะ คือเราอยากมาเก็บภาพแบบนี้อยู่แล้วไง อยากเจออะไรที่มันไม่ธรรมดา แต่ก็เข้าใจครูครับ เลยตามๆ เขาไป
   ถ้าหันหน้าออกทะเล ฝั่งขวาคือด้านที่ฝนตก ฝั่งซ้ายนี่ฟ้าใสแดดแรง แปลกมากๆ เหมือนเรายืนอยู่ตรงกลาง แต่อีกพักเดียวฝนก็ลามมาอีกฟากจนมองเกาะหมูไม่เห็น เฮ้ยย อันนี้แปลว่าฝนเข้ามาใกล้ฝั่งมากขึ้นแล้วนะ เพราะเกาะหมูอยู่ใกล้กว่าเกาะยอถึง 2 กม
   ชวนกันเข้าไปนั่งที่กองบัญชาการ ร้านกาแฟเปิดใหม่ชื่อ Yacht Club Café นั่งคุยสรุปงานกันสามคน ผม เต่า และภูมิ ชงกาแฟเสร็จปุ๊บ ฟ้าสว่างอีกครั้ง พี่โตวิ่งมาบอกว่า ออกเรือได้
   ผมงี้รีบสูดโกโก้เย็นอย่างแรง ทั้งๆ ที่ปกติจะค่อยๆ จิบแบบดื่มด่ำ รีบกิน รีบลงน้ำ อยากจะออกเรือใจจะขาด ตั้งแต่มาเรียน 10 วันนั้นก็ไม่ได้แตะเรือใบอีกเลย ในขณะที่เต่าเขามาเล่นเองไปแล้วถึง 2 ครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 3 ฝีมือเขาแซงหน้าผมไปเยอะแล้ว
   เต่าเอาภูมินั่งหัวเรือ ให้ผมเล่นคนเดียว เพราะผมยังไม่คุ้นเรือ อาจทำเรือพลิกล่มได้ง่าย ช่วงแรกนี้เขาจะเก็บภาพผมไปจนถึงเกาะยอ แล้วไปติดไมค์กันบนเกาะ ฟ้าหลังฝนสดใส แต่ลมนี่นิ่งสงบเลย เรือผมเบากว่า เลยแล่นออกจากฝั่งไปได้ก่อน เต่าตะโกนไล่หลังมาว่า “ออกไปเลยๆ” ทำให้ผมคิดว่าให้แล่นไปถึงเกาะเลยแล้วค่อยว่ากัน ในขณะที่เรือเขามีปัญหา ประกอบหางเสือเรือผิด วางหางเสือทับเชือกท้ายเรือ ทำให้รอกวิ่งผ่านไม่ได้ เลยต้องลงมาถอดประกอบใหม่ แถมยังเจอลมอ่อนบวกกับเรือหนัก ยิ่งออกจากฝั่งได้ยากกว่า ผมเลยนำหน้าไปไกลมาก
   ผมมองหลังเป็นระยะๆ ดูว่าเรือเต่าจะมีปัญหาอีกหรือไม่ ช่วงแรกนี้ผมมั่นใจมาก แล่นเรือแบบ Tack ย้อนลมขึ้นไปตลอดทาง ใช้เวลาไปราว 2 ชมกว่าๆ มาเสียเวลาตรงหน้าเกาะยอนี่แหละครับ เพราะตัวเกาะมันบังลม ทำให้บริเวณนี้ลมจะเข้ามาทั้งด้านซ้ายและขวา ผมต้องหมุนเรือไปมาเพื่อให้ใบรับลมแล้วถึงค่อยๆ แล่นเข้าฝั่งทีละน้อย
   ขณะอยู่บนเรือผมกินน้ำหมดไปแล้ว 1 ขวดครึ่ง พอขึ้นเกาะก็ยกซดอีกอึกใหญ่ ใจนึกถึงเต่าและภูมิ ไม่รู้ว่าเรือเขาจะมีน้ำพอไหม เพราะอาหารและน้ำดื่มทั้งหมดผมจะเป็นคนแบก ส่วนเรือเขาจะเป็นอุปกรณ์กล้องทั้งหมด
   เข้าฝั่งก่อนก็จอดเรือก่อน เล่นน้ำรอเต่าราว 30 นาที เห็นกันอยู่ข้างหน้านี่แหละ แต่มันเอาเรือเข้าไม่ได้ ก็อย่างที่บอกครับ ตัวเกาะเองมันบังลม น้ำนี่นิ่งสนิทเลยนะ แต่ออกจากเกาะไปหน่อยเดียวก็มีลมแล้ว แถมบริเวณน้ำตื่นนี้มีหอยเม่นอีกด้วย
   ถึงเกาะปุ๊บผมถึงรู้ว่าตัวเอง “ผิดคิว” ผมต้องเล่นเรือช้าๆ ให้เต่าตามเก็บภาพ นี่ผมเล่นเรือซะจนเร็ว แถมเรือผมเบากว่า มันไปเร็วกว่า เรือเขาช้าและหนัก ตามไม่ทัน
   อ้าว ผมเข้าใจผิดกัน คิดว่าให้ผมรีบแล่นเข้าเกาะไปเลย แล้วไปเริ่มถ่ายทำกันบนเกาะยอ
   ผิดแล้วก็แล้วไปครับ ขอโทษกันไปตามมารยาท มาเริ่มต้นกันใหม่ กินกันก่อนเลยครับ เวลาตอนนี้ก็ราว 0100 แล้ว แจกน้ำดื่ม และข้าวเหนียวหมูย่างที่ผมสั่งบอกว่าให้ถอดไม้ออกไป มันจะได้ไม่มาทิ่มถุงจนขาดเลอะเทอะ และถ้าจะให้ดีกว่านั้น ผมจะเอาเนื้อหมูประกบใส่ข้าวเหนียวเป็นชุดๆ ไปเลย กินสะดวกกว่า เก็บง่ายกว่า
   จากนี้ก็เริ่มถ่ายทำกันเลย ไม่มีสคริปต์ใดๆ แล้วล่ะครับ ผมก็เล่าสไตล์ไดอารีชีวิตตัวเองแบบนี้แหละ เจออะไรน่าสนใจก็นำมาบอกกัน แต่มันจะง่ายไปไหม มันจะทำให้คนดูน่าติดตามไหม นี่คือสิ่งที่ผมต้องคิดเสริมเข้าไปอีกด้วยหากจะทำรายการทีวี
   จัดฉากลอยตัวบนชายหาดน้ำใสๆ ก่อนเลย ผมชอบอารมณ์แบบนี้มากๆ นอนลอยตัวสบายๆ ยิ่งเราใส่ชูชีพด้วยแล้วยิ่งสะดวก น้ำก็ใส่จนเห็นเม็ดทราย เกาะก็เงียบสนิท บ๊ะ สุดยอดมาก
   จากนั้นก็พาเดินสำรวจชายฝั่ง พบขยะมากมาย แต่มันมาเพราะน้ำทะเลซัดมานะ มีคนเอามาทิ้งไว้บ้างด้วยแหะ เพราะดูจากสภาพแล้วน่าจะเป็นพวกชาวบ้าน ชาวประมง หรือไม่ก็พวกเล่นเรืออย่างพวกผมนี่แหละครับ พูดยากนะ มันอยู่ที่จิตสำนึกของตัวเองอย่างเดียวเลยล่ะ
   ได้ยินข่าวมาว่าเกาะนี้มีถ้ำด้วย ผมชอบสิ รีบเดินไต่โขดหินไปดู พบว่ามันเป็นเพียงแค่โพรงหินตื่นๆ ไม่กี่เมตร ที่โดนน้ำและลมกัดเซาะ อยากจะเดินไปต่อนะ แต่มันเริ่มเดินยาก เลยชวนเต่าเอาเรือใบไปวนรอบเกาะสักรอบ
   เห็นหาดทรายขาวๆ ของเกาะตรงข้ามก็น่าสนใจ ถ้าไม่ไปอ้อมเกาะก็ไปหาดของเกาะนั้นก็ได้วะ ผมได้หมด ชอบลุยๆ
   ช่วงนี้ภูมิมานั่งเรือผม นั่งที่หัวเรือทำให้หัวหนักและมุดน้ำได้ง่าย แปลว่ากลิ้งง่าย ผมไม่ถนัดและรู้สึกประหม่ากลัวที่จะทำเรือล่มแล้วแถมยังมีอุปกรณ์กล้องอีกด้วย เกร็งโคตรๆ เลย
   ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะออกจากเกาะได้ ก็เพราะชายฝั่งมันอับลม เจอปัญหาเดิมๆ ทั้งเข้าและออก ตอนแรกอยากจะวนรอบเกาะ แต่กว่าจะตั้งลำกันได้ก็ใช้เวลาไปพอควร เต่าเลยตะโกนบอกให้ไปที่เกาะหมู นัดพี่โตไว้ตอน 0400
   ช่วงนี้ถ่ายเต่าเล่นเรือโฉบไปมาอย่างสวยเลย เขาเป็นช่างภาพ เขารู้มุมกล้อง ได้ภาพเขาครบแล้ว เลยจะมาเก็บภาพผมบ้าง เพราะเมื่อเช้าพลาดไป เต่าบอกให้จอดเรือเทียบกัน ให้ภูมิปีนมาเรือลำของเขา แต่ว่าจอดนิ่งๆ เทียบกันยาก เลยให้โยนกระเป๋ากล้องไปเรือเต่าก่อน แล้วให้ภูมิโดดว่ายน้ำตามไป
   ภูมิคงไม่ถนัด เก้ๆ กังๆ เต่าเลยบอกงั้นไปจอดเรือกันที่เกาะหมูก่อน แล้วค่อยว่ากัน จากจุดนี้แล่นไปเกาะหมูไม่นานนัก เพราะเป็นการแล่นใบแบบตามลม ภาษานักเล่นเรือเรียกว่า “Run” เรือจะไปได้เร็วมาก วิ่งตรงๆ หันหัวเข้าหาจุดหมายเลย ไม่ต้อง Tack เรือไปมาซิกแซกเหมือนตอนขามา
   ช่วงเข้าเกาะหมูนั้นง่ายกว่าเกาะยอเยอะ มีลมพัดโชยตลอดเวลา เต่าเข้าฝั่งก่อนเพราะเรือเบากว่า แล่นเร็วกว่า สักพักผมตามไปถึง ช่วงจังหวะกำลังจะลากเรือขึ้นบนหาด ภูมิเห็นกระเป๋ากล้องวางแช่น้ำที่ยังในเรืออยู่ก็ตกใจ วิ่งไปคว้าขึ้นมา รีบเปิดดู แล้วก็พบข่าวเศร้า
   กล้อง โทรศัพท์ ของเต่า แทปเลทของภูมิ โดนน้ำ นีคืออีกหนึ่งความผิดพลาดของพวกเราที่ชล่าใจวางกระเป๋ากันน้ำแช่น้ำไว้ แม้จะเอาปากกระเป๋าขึ้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าช่วงที่อยู่ในเรือกระเป๋ามันกลิ้งไปมากน้อยแค่ไหน ที่จริงควรผูกล็อคไว้กับเสาเรือเหมือนตอนขามา
   เซ็งสัสสิครับ ของแพงด้วย ใช้ถ่ายงานต่อก็ไม่ได้ จะมาเก็บภาพผมตอนเล่นเรือก็เลยต้องมาใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายแทน แถมถ่ายได้พักเดียวแบตก็หมด เป็นอันว่าทริปนี้มีรูปผมเล่นเรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
   เกาะหมู เป็นเกาะที่นักเล่นเรือใบชอบไปกัน เลยมีชาวบ้านขายน้ำดื่ม ขายอาหารด้วย สั่งน้ำอัดลมมาดื่มกันสามคน ซดกันอย่างหิวกระหาย ปกติผมไม่กินน้ำอัดลม ตอนนี้จัดไป 2 แก้วติดๆ
   สักพักพี่โตมากับเพื่อนอีกลำ คุยกันพักหนึ่งก็แยกไปกินข้าว 
   ผมดูพยากรณ์ลม เขาบอกว่ายิ่งเย็นลมจะยิ่งแรง ตอนนี้เวลาราว 0500 ใช้เวลาแล่นใบกลับไปฝั่งราว 30 นาทีเท่านั้นเอง เพราะเป็นการแล่นใบตามลม จะวิ่งตรงเข้าฝั่งเลย แต่การแล่นแบบนี้แหละครับที่มันจะกลิ้งล่มกันได้ง่ายมาก
   ช่วงขากลับผมแล่นนำหน้าให้ภูมิถ่าย เลยโชว์ลีลาเล็กน้อยด้วยการแล่นโฉบเอียงไปมา แรกๆ ก็โอเคดี หลังๆ แม่งกลิ้งครับ ล้มแบบสโลว์โมชั่น ค่อยๆ ไหลลงน้ำไป ในเรือผมมีขวดน้ำดื่มอยู่ มันกลิ้งออกไปไกล ผมเลยว่ายน้ำไปเก็บขวด แล้วค่อยว่ายมากู้เรือ ทำให้รู้ว่าแม่งเหนื่อยฉิบหายเลยครับ
   การกู้เรือต้องใช้แรงเยอะพอควร ครั้งแรกกู้ขึ้นมาได้ แต่เรือก็ล่มไปอีกฟากต่อ โหห เจอแบบนี้หมดกำลังใจเลยนะ แต่ก็ต้องรีบกู้ซ้ำ เป็นการกู้เรือแบบซ้ำซ้อน กู้แล้วกู้อีก
   ขึ้นมานั่งเรือได้นี่อย่างเหนื่อย เห็นเต่าแซงขึ้นหน้าไปไกลแล้ว เลยจะเร่งตาม เรือผมเบากว่า ไปได้เร็วกว่า ยก Dagger Board ขึ้นสุดแล้วอัดตามไปเลย แต่นั่นคือบ่อเกิดของหายนะที่จะเกิดขึ้นในฉากต่อมา
   อย่างที่บอกครับ ยิ่งเย็นลมจะยิ่งแรง บวกกับลักษณะการเปิดใบแบบเล่นตามลมทำให้ต้องปล่อยเชือก Main Sheet ออกไปยาวมาก เพิ่งมารู้ว่าเรือของผมเชือก Main Sheet นี้มันสั้นไปหน่อย อยากจะปล่อยใบให้มากกว่านี้เพื่อที่จะผ่อนแรงลมก็ทำไม่ได้ เรือยิ่งแล่นเร็วสมใจนึก แต่ฝีมือเราคุมเรือยังไม่นิ่ง สุดท้ายก็กลิ้งอีกครั้ง และครั้งนี้รุนแรงเสียด้วยสิ
   โครมม กลิ้งกระเด็นอย่างแรง เชือก Main Sheet พันคอตัวเองแบบไม่รู้ตัว โดยที่ผมคิดว่าเป็นเชือกจากสายรัดคางของหมวกที่สวม พอโดดขึ้นเรือมันก็รั้งคอตัวเอง ต้องลงมาในน้ำแล้วจัดการแก้ไขใหม่
   กู้เรืออีกครั้งด้วยความรวดเร็ว ทำยังกะมืออาชีพ แต่คราวนี้ทำให้ผมต้องจดจำอีกครั้ง โดดขึ้นเรือมาได้ หัวเรือมันหมุนสะบัด บูมก็แกว่งฟาดมาอีกด้าน
   “ป๊องงงงง” เสียงอย่างดังเหมือนเอาหินขว้างกระป๋อง
   นั่นคือเสียงบูมหมุนมาฟาดหัวผม แม่งหวดมาอย่างแรงเลยนะ คิดในใจว่าครั้งนี้คงได้เลือด งงและเจ็บมาก แต่ก็ต้องแล่นใบกลับเข้าฝั่งไปให้ได้ก่อน มึงอย่าเพิ่งบ่น
   ก็เพราะกู้เรือแบบเร่งรีบ พอเรือตั้งได้ หัวเรือก็จะหันเข้าหาลม และนั่นคือเหตุผลที่บูมันเหวี่ยงฟาดมาโดนหัว
   ถึงตรงนี้ค่อนข้างจะใกล้ฝั่งแล้ว รู้สึกดีใจ แต่ยิ่งใกล้ฝั่ง คลื่นก็ยิ่งลูกใหญ่นะ และอีกพักเดียวผมก็กลิ้งอีกแล้ว คราวนี้ไปด้วยความไม่มั่นใจของตัวเอง รู้สึกทำอะไรมั่วๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน
   ปีนขึ้นเรือแบบหมดสภาพ โคตรเหนื่อยเลย กู้เรือ 3 รอบติดๆ กันนี่เหนื่อยกว่าแล่นใบมาทั้งวันเสียอีกนะ กลับเข้าฝั่งแบบพุ่งตรงเข้าไปเลย พอถึงน้ำตื้นก็โดดลงมาเกาะหัวเรือยืนรอเพื่อนมาช่วยยกเรือขึ้นเก็บ
   เห็นเรือเต่าที่เอา Dagger Board ลงแล้วผมแม่งอยากเขกหัวตัวเองจริงๆ ลมแรงขนาดนี้ผมดันไปยก Dagger Board ขึ้นสุดทำไมวะ อยากไปเร็วหรอ สมน้ำหน้าแล้วล่ะที่กลิ้ง โง่จริงๆ เลย
   Dagger Board เป็นตัวกันเรือเซ ถ้าเอาลงสุดเรือจะแล่นช้าลงนิด แต่ทรงตัวดีขึ้น นิ่งขึ้นเยอะ
   และนี่เป็นอีกบทเรียนที่ผมต้องจดจำ
   ช่วงเอาเรือขึ้นเก็บนี่พวกเราทำเหมือนตอนเป็นนักเรียนเลยนะ ทำตามแบบนั้นเป๊ะทุกขั้นตอน นึกแล้วสนุกดี คิดถึงเพื่อนๆ น้องๆ ร่วมชั้นอย่างมากเลย ที่สนามหญ้าเล็กๆ แห่งนี้ พวกเรามาประกอบใบในตอนเช้า และมาร่วมล้างเรือกันในตอนเย็นของทุกๆ วันตลอด 10 วัน
   “หิวว่ะเต่า หาของกินกันในตลาดไหม จะได้เก็บภาพเพิ่ม” แต่เต่าบอกว่าภรรยาเขามาที่บ้าน และจัดเตรียม Sea Food Barbeque เอาไว้ โอเค จัดไปตามนั้นได้เลย
   โชคดีได้เต่ามาช่วยขับรถนะ ผมเลยได้นั่งพัก ไม่ได้หลับหรอก ชวนคุยกันไปแก้เบื่อ ขากลับนี่รถติดหน่อย แถมถนน 331 มืดมาก ไปถึงบางแสนใช้เวลาถึง 1.30 ชม ลงรถมานี่อย่างหิวโซเลย เจอกล้ามใหญ่นั่งยิ้มแฉ่งรอ
   วันนี้ได้คุยกับกล้ามใหญ่เยอะหน่อย เริมสนิทกันแล้ว เขาเปิดรายการ Ice Hockey ดูแล้วก็เชียร์ทีมชาติฟินแลนด์อย่างสนุกสนาน อารมณ์เหมือนคนเชียร์มวย ดูๆ ไปก็มันดีนะ
   ผมกินแต่อาหารที่แกะง่ายๆ นะ เช่นกุ้ง ปลาหมึก ปูนี่แกะไม่เป็นเลยไม่กิน หอยก็ไม่ชอบรสชาติของมัน เหมือนเคี้ยวหนังสติ๊ก
   กินเสร็จก็เข้ามานั่งในบ้าน ดูงานที่เราถ่ายมากันในวันนี้ เต่าเลยตัดต่อสดๆ ทำเป็นคลิปสั่นๆ ลงในเฟซบุ๊คของเขา แต่ผมบอกว่าอย่าเพิ่งปล่อยไปเยอะ
   เผ็ดปาก อยากกินไอติม แต่ต้องขี่มอไซค์ออกไปพักหนึ่ง กบบอกว่าในตู้เย็นมีสละลอยแก้ว โหห รีบปรี่เข้าไปหาเลย น่าเสียดายที่เขาไม่ได้แช่ฟรีซไว้ ไม่น่าเชื่อนะว่าผมจะกินไป 4 กระปุกแบบนิ่มๆ เลย 
   คืนนี้ผมย้ายมานอนชั้นล่างตรงห้องรับแขกกับภูมิ ภรรยาเต่าเขามาและพาลูกมาด้วย เลยใช้ห้องใหญ่ไป
   เมื่อคืนนอนแอร์เย็นฉิบหาย มาวันนี้แม่งเย็นไม่แพ้กันเลย แถมมีไฟ LED สีฟ้าส่องสว่างจ้าอีกด้วย โหดสัสสส กูชอบมืดๆ ๆ ๆ ๆๆ ได้ยินไหมมมม
   ย้าย Sofa Bed หนีไฟที่ส่องครับ คือแม่งปล่อยมาเป็นลำแสงเลยนะ โหดเหี้ยๆ เลย
   ลดอุณหภูมิแล้ว ลดความแรงพัดลมแล้ว แต่ปรับองศาของช่องลมไม่เป็น แอร์เป่าโดนตัวตลอดคืน ไม่ชอบเลย อาศัยมีผ้าห่มก็คลุมปิดๆ กันไป
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 06:53:54 pm
20 พค 59
   ตื่นตั้งแต่ 0400 แต่เกรงใจภูมิที่นอนอยู่ใกล้ๆ เลยไม่อยากลุก รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ที่นอนมันนุ่ม ผมชอบแข็งๆ หน่อย โชคดีเต่าลงมาตอน 0530 เลยได้โอกาสลุกตื่นขึ้นมาดื่มน้ำและเดินยืดเส้นหน้าบ้าน
   เปิดรถหยิบข้าวเหนียวหมูที่เหลือจากเกาะมากินต่อ หมูย่างค้างคืนเดียวโดยไม่เก็บตู้เย็นก็ไม่เสียนะ แต่ความนุ่มของหมูลดน้อยลง เช่นเดียวกับข้าวเหนียว กินด้วยความอยากรู้ จะได้มีข้อมูล คราวหน้าจะได้เตรียมตัวถูก
   เช้านี้ออก 0700 ครับ ไปโดยไม่ได้อาบน้ำกันเลยทั้งผมและภูมิ เพราะห้องน้ำอยู่ในห้องนอนใหญ่ชั้นบนที่ภรรยาและลูกเขานอนอยู่ เกรงใจเขาน่ะ
   มื้อเช้าอย่างเป็นทางการที่ริมหาดบางแสน ไข่กระทะครับ ก็อร่อยดีเหมือนกัน แต่ผมไม่ชอบภาชนะเสิร์ฟที่เป็นกระทะอลูมิเนียมผมว่ามันน่าจะมีสารพิษนะ
   ไปเก็บภาพรถ Maxus กันต่อที่อ่างเก็บน้ำบางพระ พร้อมถ่ายทำบทสรุปเอาไว้ปิดท้ายวีดีโอเป็นอันเสร็จสิ้น และออกเดินทางกลับ
   ขากลับเติมน้ำมันเต็มถังคืนให้เขา แต่เต่าบอกว่าตอนมาน้ำมันมีไม่เต็มถังนะพี่ ไม่เป็นไรหรอก ให้เขาไป
   เต่าขับมาส่งผมที่บ้าน กลับรถหน้าบ้านต้องโยกหลายทีหน่อย คันใหญ่ ยาว และบ้านผมต้นไม้เยอะ
   เดินเข้าบ้านมาอย่างเพลียเลย รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย เดาว่าเกิดจากกลางคืนโดนแอร์เป่าตัวหนาวเย็นตลอด 2 คืน
   นอนเล่น นอนพัก แต่ไม่ได้นอนหลับ จับหัวตัวเองตรงที่โดนบูมฟาดยังนูนและเจ็บอยู่ ทริปนี้เป็น Fail Trip อีกครั้งของผม แต่ก็บอกให้เต่าตัดต่อและทำออกมาตามความเป็นจริง ตอนแรกเต่าให้ไอเดียว่าไว้เรากลับมาถ่ายซ่อมกันใหม่ ตัดกันใหม่ แต่ผมชอบความจริง ความสด นี่คือจุดเด่นของรายการเรา ใครจะโม้ จะเมค อย่างไรก็ช่างเขา แต่เราเน้นของจริง เดินทางจริง นอนจริง เล่นจริง เจ็บจริง
   ตกเย็นรู้สึกไม่ค่อยสบาย มีไอเจ็บคอ เพลียหนักกว่าเดิม
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 06:55:23 pm
21 พค 59
   เป็นไปตามคาด ไม่สบายอย่างเป็นทางการครับ ไอ มีเสมหะ แต่ผมไม่ชอบกินยา เลยดื่มน้ำเปล่ามากๆ เช้านี้กินแอ๊ปเปิ้ลไป 2 ผล สายๆ มีกล้วยน้ำว้าอีกนิดหน่อย
   ไม่สบายก็ต้องออกไปทำงานครับ อดทนเข้าไว้ อยู่ร้านแบบโคตรทรมานตั้งแต่ 0800 จนถึง 1000 ไม่ใช่ 2 ชม นะ 14 ชม ต่างหาก ซัดตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสี่ทุ่ม
   กลางวันกินราดหน้า เน้นผักคะน้า เพราะตั้งแต่เช้ามานี่กินแต่ผลไม้อย่างเดียวเลย
   ตลอดวันวันนี้ทำน้ำเกลือกลั้วคอตลอด จะได้หายเจ็บคอเร็วๆ พร้อมกับจิบน้ำบ่อยๆ งานเยอะมากครับ ก็แบกยกกันไป แรงก็ไม่ค่อยจะมี เบื่อเหี้ยๆ เลย
   เย็นกินเต้าฮวย ไม่ใส่ปาท่องโก๋ และบัวลอยน้ำขิง ซดน้ำขิงเข้าไปเยอะๆ มันดีต่อลำคอที่กำลังอักเสบ
   ขากลับเปิดประตูรถนั่งแล้วปรับเบาะเอนนอนแบบกูอยากหลับไปเลย ขอตายแม่งแบบนี้คงจะดีกว่า ตายแบบนอนเย็นสบาย แล้วก็จากโลกใบนี้ไงแบบเงียบๆ
   เฮ้ยย ผมคิดแบบนี้จริงๆ นะ ติดเครื่องนอนสัก 3 นาทีได้มั้ง แม้แสนจะเพลีย แต่ก็นอนไม่หลับ เลยขับกลับไปอาบน้ำนอนบ้านดีกว่า 
   ข้อดีของการทำงานจนถึงดึกก็คือขับรถกลับบ้านสบายมาก รถไม่ติดเลย
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:00:03 pm
22 พค 59
ตืนตั้งแต่ 0300 คอแห้งมาก ตื่นมาดื่มน้ำไปครึ่งขวด เข้าห้องน้ำ แล้วมานอนต่อ แต่ก็นอนไม่หลับ ได้แค่หลับตา และล้มตัวนอน
   ลุกจากที่นอนอีกทีตอนเกือบจะ 0600 รู้สึกว่ายังเจ็บคออยู่อยู่ ไม่อยากกินยาไง เลยอาจจะหายช้าลงหน่อย เดินลงมาบ้านแบบเพลียๆ
   เล่นกุเล่เล่ไปนิดหน่อย ยังรู้สึกตัวเองสภาพแย่ๆ อยู่ อยากออกกำลังกายแต่ไม่มีแรง หยิบกล้วยน้ำว้ากินก่อนเลย วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรกินเป็นมื้อเช้าเลยนะ
   ภรรยาพาลูกไปเรียนพิเศษ พ่อแม่ชวนไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แต่ผมกลัวจะไปไอในรถเดี๋ยวพ่อแม่ติดผมไปด้วย เลยขออยู่บ้านคนเดียวเหมือนเดิม
   เช้ากินบะหมี่น้ำร้านเจ๊เค็งอีกแล้ว ทำงานเขียนต่อ เข้าเวปตัวเองไม่ได้ เหตุเพราะโดเมนหมดอายุ คงรออีกสักพัก วางแผนออกทริปครั้งหน้า คิดว่าจะลองไปทางเรือคายัคดูบ้าง แต่ติดตรงที่เต่าเขาไม่เคยพายคายัคมาก่อนเลย ส่วนผมเคยมาแค่นิดๆ เมื่อนานมาแล้ว เรียกได้ว่ามือใหม่ทั้งคู่
   ยังจำได้ว่า “คุณปกป้อง” จาก Feelfree ถามผมว่ามีทักษะการพายระดับใด ผมตอบไปแบบไม่คิดเลย “Skill Zero” คงทำเอาเขานึกหัวเราะในใจ แต่ผมไม่สนใจหรอกนะ เรือใบผมก็เพิ่งเล่นเป็น ผมก็ออกทะเล ไปเกาะไกลๆ ได้ เรือใบมันทำให้เรามั่นใจตัวเองมากขึ้น สำหรับผมที่มั่นใจอยู่แล้ว มันเลยยิ่งมั่นใจมากขึ้น จนเป็นที่มาของการทำทีวีครั้งนี้
   การเข้าไปคุยกับสปอนเซอร์แต่ละค่ายก็ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ สักนิด เพราะผมคิดว่าเป็นการเอาโอกาสไปให้เขา และถ้าใครเปิดใจรับ เขาก็จะได้ใจผมไปเลย เหมือนกับสปอนเซอร์ 3 ชิ้นแรกคือ รถยนต์ Maxus / Sanook.com / สนามเดินป่า ส่วนผลิตภัณฑ์ของเพื่อนที่เป็นถั่ว Maruti และ Neya Cavi ผมจะช่วยด้วยการนำผลิตภัณฑ์ไปแทรกไว้ในเนื้อเรื่องให้แบบสวยๆ
   กลางวันกินบะหมี่เกี๊ยวแห้ง พ่อซื้อมาฝาก นอนพักไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้หลับบ่ายกินมังคุดไปเกือบ 1 กก (ปอกออกมามีเนื้อหน่อยเดียว) อาการไอยังมีอยู่นิดหน่อย เช่นเดียวกับการอ่อนเพลีย นี่กูโคตรลุ้นวันพรุ่งนี้เลยว่ะ
   เย็นกินเต้าฮวย แต่ไม่กินปาท่องโก๋นะ กินแค่เต้าหู้กับน้ำขิง
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:03:58 pm
23 พค 59
   โดเมนเวป racing-club.net หมดอายุตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมมารู้เอาวันศุกร์ที่ 20 โทรตาม “เอม” ที่ช่วยดูแลเวป เขาบอกจะจัดการให้ รอมาจนถึงวันนี้ โทรทวงถามอีกที เขาบอกอยู่ต่างจังหวัด เพิ่งมาถึงกรุงเทพฯ พรุ่งนี้จัดการให้
   ตื่นเช้ามานี้ยังรู้สึกไม่สบายอยู่เลย ทำไงดีวะ เลยเอาจักรยานออกขี่ไป 30 นาที เข้ามาบ้านกินแตงโมไปสิบกว่าชิ้น มื้อเช้าช่วงนี้คงมีแค่นี้แหละ
   ไปถึงร้านก็บรรยากาศเดิมๆ โชคดีตรงที่ไม่ต้องไปยกของในโกดัง เพราะวันนี้ยังไม่มีแรง ฉิบหายแล้วมึง ไม่สบายตั้งแต่วันศุกร์ มาถึงจันทร์แล้วยังไม่หายเลย ทำไงดีวะ ใจไม่อยากกินยา แต่ก็ต้องยอมฝืนแล้วล่ะนะ เอาจักรยานออกขี่ไปร้านขายยา กะจะไปซื้อยาแก้ไอ เขาคงให้ยาแก้อักเสบมากินอีกชุด (สารพิษชัดๆ)
   โชคดีร้านขายยาปิด เลยไม่ต้องไปเอาสารพิษมาใส่ตัว ซื้อน้ำเต้าหู้ใส่ลูกเดือย ถั่วแดง มากินแก้วใหญ่
   กลางวันมีดราม่าในการเช็คของนิดหน่อย สินค้ามาส่งในใบเสร็จเขียน 305 ลัง ก่อนขึ้นปีนรถไปนับ ผมถามพนักงานของเขาว่ามีสินค้าสำรองมาไหม เขาบอกไม่มี
   ผมนับได้ 305 ลังครบ ก็ปีนลงมา แล้วบอกให้นำสินค้าเข้าได้เลย แต่อีก 1 ชม ผ่านไป เขาลงจนเสร็จแล้วเหลือไว้บนรถ 1 ลัง ผมไปทวงถาม เขา (คนขับรถ) บอกว่า เขาเอามาสำรองลังหนึ่ง
   อ้าววว จี๊ดเลยมึง ยังไงก็ไม่ยอม ยืนเถียงกันเขาก็ยืนยันว่าเขาเอามาเผื่อ 1 ลัง สุดท้ายทางร้านเขาโทรมาบอกว่าให้นำลังนั้นลงไว้
   อีกพักหนึ่งก็โทรมาบอกว่าทางร้านเขาจัดสินค้าขึ้นไป 306 ลัง (คือเผื่อไป 1 ลัง) หึหึ ผมรับฟังแล้วเฉยๆ มาก เพราะผมไม่ได้ไปดูเทปย้อนหลังที่ร้านเขาด้วย
   ในใจก็รู้แหละนะว่าร้านเขาไม่โกงเราหรอก แต่มันคาใจตรงที่ผมถามพนักงานเขาแล้วว่ามีสำรองมาไหม แล้วได้คำตอบว่าไม่มี
   คือเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง คราวก่อนมาส่ง 400 ลัง ก็มีสำรองมา 2 ลัง พนักงานก็นั่งกันเฉย ไม่บอกผมสักคำ ผมนับไปหลายรอบยังไงมันก็เกิน เลยคิดว่าเรานับผิด จนสุดท้ายไปถาม เขาถึงบอกว่ามีสำรองมา 2 ลัง
   มาวันนี้ผมเลยไม่อยากให้ผิดพลาดซ้ำ ถามแม่งก่อนเลยว่ามีสำรองมาไหม แล้วเรื่องก็เป็นแบบที่เล่ามา
   กลางวันกินเส้นหมี่ราดหน้า ใส่ผักคะน้าเพียบๆ เป็นอาหารอย่างเป็นการมื้อแรกของวัน กินช้าๆ เลยครับ เคี้ยวละเอียดๆ นานๆ แต่ต้องใช้สมาธิมากเลยนะ คือมันจะลืมและเพลินไง
   ช่วงนี้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวมากนะ มีฝนตอนกลางคืนบ้างแล้ว แต่ด้านหลังของผมยังคงเปียกชุ่มเหงื่ออยู่เหมือนเดิม
   บ่ายกินซุปข้าวโพด (แบบกระป๋อง) อยากกินอย่างอื่น แต่ยังไมสบายอยู่ เลยกินได้แต่ของนิ่มๆ ที่ไม่มีน้ำมัน ไม่ทอด ไม่หวาน
   มิวมาถึงร้าน 0600 ผมเลยโชคดีได้สิทธิพามิวกลับบ้าน โคตรดีใจเลย จะได้ไปคิดงานใหม่ๆ ต่อ
   กลับมากินสัปปะรด แตงโม ตั้งแต่ช่วงบ่ายรู้สึกร่างกายดีขึ้นนิดๆ ไม่ค่อยอ่อนเพลียแล้ว มีไอบ้างนิดๆ นานๆ ที หวังว่าตื่นมาพรุ่งนึ้คงดีขึ้นอีกนะ
   ข่าวโคตรเศร้าวันนี้คือไฟไหม้หอพักนักเรียนหญิงที่ อ เวียงปาเป้า เชียงราย เด็กประถมเสียชีวิตไป 17 คน หดหู่มากเลยว่ะ คืนนี้ผมจะสวดมนต์ให้ดวงวิญญาณพวกเขา
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:06:14 pm
24 พค 59
   ตื่นมาฉี่ตีสามอีกแล้ว เหมือนวันก่อนเลย คอแห้งจนต้องกินน้ำ แต่ครั้งนี้ดื่มน้ำได้คล่องขึ้นกว่าเดิม แปลว่าค่อยๆ ดีขึ้นแล้วสินะ
   ตื่นจริงเอาเกือบจะ 0600 ขี่จักรยานไป 30 นาที รู้สึกเคลื่อนไหวร่างกายค่อยโอเคหน่อย ไม่เพลียแล้ว ต่างจากวันก่อนๆ ที่ไม่อยากขยับร่างเลย
   อ้อ เช้านี้ดีทำอาหารเช้าให้แล้วนะ ได้กินผัดผักคะน้า ไข่ดาว ข้าวกล้อง กระเทียมสด
   ไปถึงที่ทำงานนี่เหมือนต้องทำงานชดเชยเมื่อวาน เพราะเช้านี้ยกของจัดเต็มลำรถอีกครั้ง แต่ผมดีขึ้นแล้ว เลยพอยกไหว ไม่บ่นหรอก เหนื่อยตัวผมทนได้ สบายมาก ไอ้ที่ผมขี่จักรยาน เล่นเรือ มันเหนื่อยว่านี้เยอะ
   เหนื่อยไม่เคยบ่นอะไร แต่ไอ้ที่ท้อนั่นคือมันเป็นงานที่ไม่มีความก้าวหน้า เป็นงานที่ต้องพึ่งแรงงานคนอื่น ถ้าเขาไม่มายกของ เรานี่โคตรซวย ผมเลยไม่รู้ว่าใครพึ่งใครเหมือนกัน ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน อยู่ไปนานๆ เข้า เราเริ่มรู้สึกตัวว่านี่กูเป็นลูกน้องของคนงานหรือเปล่า
   มีงานทีวีให้ทำเพียบ แต่ผมไม่สะดวก เพราะอยู่ร้านนี่ไม่มีสมาธิใดๆ เลย ต้องเช็คของเข้าออกตลอดวัน พอจะว่างเล็กๆ น้อยๆ ก็เอนหลังพัก บ้างก็เล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ในไอแพด (เกมออฟไลน์ แนว Puzzle)
   บ่ายไปธนาคาร แล้วแม่บอกให้กลับบ้านไปพักได้ สงสัยว่างานน้อย หรือคิดว่าเราไม่สบายนะ มีเวลาส่วนตัวนี่ผมรีบฉวยโอกาสเลยครับ เอารถ 180SX ไปตรวจสภาพทันที แต่พอไปถึงก็ตกใจเล็กน้อยกับคำพูดของพนักงาน
   “เลขแชสซีส์อยู่ตรงไหนครับ”
   เฮ้ย รถ 180SX นี่ตลาดมากๆ เลยนะ หน้าตาก็ดูเป็นคนเมือง ไม่ใช่คนนำเข้าเลย พูดจาชัด สงสัยว่าทำงานแบบนี้แต่ไม่รู้ตำแหน่งของเลขตัวถังรถได้อย่างไร
   แล้วก็อึ้งเข้าไปอีกที่เขาเปิดฝากระโปรงไม่เป็น คงจะมือใหม่ ไม่ก็มาทำงานแทนใครแล้วล่ะ
   ทดสอบเบรก ทดสอบความสว่างของไฟหน้า วัดค่าไอเสีย เฮ้ย เขาทำจริงจังหมดเลย พอผ่านก็ได้รับเอกสารมา และจ่ายไป 200 บาท
   กลางวันกินถั่วไปหน่อย เห็นว่าไอไม่ค่อยเจ็บคอแล้วเลยแอบกินไป พอกลางคืนอากาศเย็นๆ หน่อยเริ่มมีไออีกแล้ว
   
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:09:11 pm
25 พค 59
   วันนี้อาการดีขึ้นทีละนิดๆ เป็นการหายเองจากภูมิของตัวเราเองโดยไม่ต้องใช้ยา ดื่มน้ำไปครึ่งลิตร เอาจักรยานออกขี่ 40 นาที
   เช้านี้มีเนื้อปลาผัดคึ่นฉ่าย เฮ้ยย ผมยังกินแบบนี้ไม่ได้นะ เนื้อปลาก็เอาไปทอด แล้วมาผัดน้ำมันอีก แต่เขาทำมาแล้วก็เลยตามเลย พอสายๆ อาการแม่งออก ไอค็อกแคก ไอกระด็อกกระแด็ก แต่ยังดีที่ไอเฉยๆ ไม่เจ็บคอ
   เช้านี้ไม่รู้นึกอะไร ผมเปิดฝากระโปรงตรวจเช็ครถเล่น หลังออกจากอู่ช่างวิทย์มาก็ไม่ได้เปิดเช็คเลย ตอนนี้เห็นน้ำอยู่แค่ก้นๆ ถังพัก โหห อันตรายนะนี่ รีบเติมเพิ่มเข้าไปอีกราว 1 ลิตรแน่ะ    
   เดินผ่านรถพ่อรู้สึกผิดปกติ หันไปมองล้อ อ้าว ยางแบน ภรรยาเพิ่งเอาออกไปขับซื้ออาหารเช้ามาให้ลูกเองนี่นา
   เมื่อวานออกเช้ารถติดหน่อย วันนี้ลองออกสายอีกนิดรู้สึกว่าดีกว่าเดิม เออ ลืมเล่า เมื่อคืนเจอรถ Mazda MX5 NA8 ประกาศขาย ผมงี้ใจหวั่นไหวเลยนะ ราคามันเริ่มลดลงมาแล้วด้วยไง เพราะมีตัว ND เพิ่งเข้ามา คนเลยทยอยปล่อยคันเก่าเพื่อไปเล่นคันใหม่กันส่วนหนึ่ง
   แต่เอารถมาก็คงโดนแม่บ่นแบบเดิมอีกล่ะนะ นึกแล้วยังโคตรเสียดายไม่หาย รถแต่ละคันที่ผมหามาแม่งเด็ดๆ ทั้งนั้น เศร้าว่ะ
   ไปถึงร้านก็เข้าโกดังยกของเหมือนเดิม โชคดีช่วงนี้ไม่ร้อนจัดเหมือนเดือนก่อน แต่ก็เหงื่อเพียบเหมือนเดิมครับ แล้วหลังผมก็เปียกแฉะจากเช้าไปจนถึงบ่าย
   กลางวันกินขนมจีน ส้มตำ คอหมูย่าง แบ่งกันกินกับภรรยา แต่ยังไม่อิ่ม เลยกินเปาะเปี๊ยะสดต่ออีกจานใหญ่ ขอหัวไชเท้าในหม้อต้มน้ำซุปของเขามาด้วย ปกติไม่เคยกินหรอกนะ ไปอ่านพวกหมอจีนมา เขาว่าหัวไชเท้ามีประโยชน์มาก ผมแทบไม่มีโอกาสได้กินเลย วันนี้เห็นจะๆ เลยขอจัดสักหน่อย
   กินเสร็จแล้วนะ แม่งโคตรอิ่มเลยว่ะ อีกพักเดียวรู้สึกคอแห้ง หิวน้ำ หึหึ อาการนี้ชัวร์ครับ แม่งอัดผงชูรสเพียบๆ เหมือนตอนกิน MK มาเลย คอแห้งสัสๆ ต่อไปอีกหลายชั่วโมง
   มีพิเศษอีกแล้ว ไปยกของในโกดังรอบบ่ายอีกครั้ง โห ขายดีนะนี่ ผมก็ได้ออกกำลังกับเขาไปด้วย เสื้อที่แห้งแล้วก็เลยกลับมาเปียกใหม่อีกครั้ง
   วันนี้ได้กลับตอนเย็น เพราะมีคนมาส่งของแล้วริมถนนมันจอดรถไม่ได้ รถคนงานต้องเข้าไปจอดในโกดัง รถผมกลายเป็นเกะกะ เลยได้สิทธิกลับก่อน
   มาถึงบ้านก็ดูล้อรถพ่อคันเก่า พบว่ายางแบนติดดิน แล้วนี่กูจะเอามันไปปะยังไงวะ คงต้องขึ้นแม่แรงแล้วถอดล้อไปสินะ นี่ถ้ามีปั๊มลมจะเยี่ยมมากเลยนะ อัดลมเข้าไปให้แน่นเว่อร์ๆ แล้วขับไปปะในปั๊มได้เลย
   ภาคใต้ฝนตกหนัก ผมงี้ลุ้นตัวเมืองหาดใหญ่เลย ยังดีที่ไปหนักเอาที่นอกเมือง
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:11:39 pm
26 พค 59
   ขี่จักรยาน 50 นาที เริ่มมีกดอัดนิดหน่อย ต้องออกแรงกันบ้างนะ ขี่ธรรมดาผมไม่เคยมีเหงื่อเลย
   เช้ากินกระเพราไก่ ไข่ต้ม บร็อคโคลี่ แครอทลวก ข้าวกล้อง ได้กินแบบนี้สิถึงจะเรียกว่าของดี
    ช่วงเช้ามียกของพอเล็กน้อยพอขำขำ แต่ก็ทำเอาเหงื่อชุ่มเสื้อเหมือนกัน เหงื่อออกแล้วก็เพลีย ง่วงครับ
   เต่าโทรมาคุยบอกว่า “จูน” ชวนเขาไปเล่นเรือเสาร์นี้ ผมจะไปไหม
   เอาไงดีวะ กลางคืนวันเสาร์ผมมีงานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนสวนกุหลาบ อาทิตย์เช้าผมมีประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนเช่นกัน
   คุยกับเต่าเพิ่มเรื่องงานว่าถ้าไปแล้วเราได้ถ่ายเพิ่มเสริมฉากที่คราวที่แล้วเราไม่ได้ถ่ายด้วยจะดีไหม มีฉากอะไรบ้างที่เราขาด การเล่าเรื่องในงานของเราจะออกมาแนวไหน ฯลฯ คุยกันอยู่พักใหญ่ ผมก็ตัดสินใจไป เพราะเห็นว่าจะทำให้งานออกมาดีขึ้น
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:13:15 pm
27 พค 59
   จัดกระเป๋าเตรียมออกเดินทางอีกแล้ว จัดบ่อยๆ เริ่มคล่อง ของใช้หลายอย่างกองรวมกัน ไม่เสียเวลาหาของอีกต่อไป โดยเฉพาะชุดและอุปกรณ์ของเรือใบทั้งหมด
   เช้าอยู่ร้านจนถึงบ่ายๆ ไปธนาคารให้แม่
   บ่ายออกเดินทางไปยังออฟฟิซของ Maxus ที่ถนนศรีนครินทร์ อยากไปพบกับ “คุณเอ” จะได้คุยเรื่องแนวทางการทำงานของผมให้เขาเข้าใจ เช่นผมจะไม่เน้นโลโก้ หรือพูดชื่อยี่ห้อรถบ่อยๆ คนดูจะรู้สึกเหมือนโดนยัดเยียด และจะเกิดทัศนคติ “ลบ” แก่ตัวสินค้าแทน จุดนี้ทางคุณเอเห็นด้วย ผมเลยรู้สึกดีใจมาก และยิ่งทำงานได้อย่างสบายใจมากขึ้น
   คุณเอพาไปดูรถคันใหม่ที่จะให้ผมไปใช้ในทริปหน้า ผมบอกเขาว่าอยากลองรถ AT ดูบ้าง เลยพาไปดูรถช่วงสั้น AT หลังคาเตี้ย เห็นแล้วถูกใจเลยนะ คราวก่อนเล่นคันใหญ่สุด มาคราวนี้เล่นกันเล็ก มันเลยดูน่าจะคล่องทะมัดทะแมงกว่า
   “ต้องการใช้รถวันไหนก็รบกวนทำเรื่องมาล่วงหน้าหน่อยครับ รถช่วงสั้น AT มีคิวเยอะ ผมจะได้ล็อคไว้ให้พี่”
   “แปลว่ารถช่วงยาวจะว่างมากกว่าหรือครับ”
   “ใช่ครับ ช่วงยาวคนไม่ค่อยใช้กัน”
   อ้าว แบบนี้ก็สวยสิ ตัวผมน่ะชอบรถช่วงยาวอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่ต้องจอดแคบๆ ผมจะไม่มีปัญหาเลยสักนิด
   กะว่าจะนั่งคุยกันนิดหน่อยแล้วผมจะไปคุยกับทาง Decathlon ที่บางนาต่อ กลายเป็นว่าผมคุยกับคนที่ Maxus นี้อยู่นานเลย คุยทั้งผู้จัดการโชว์รูม และผู้จัดการบริษัท ไม่น่าเชื่อว่าคุยกันนานถึง 2 ชม เต็ม
   เต่าโทรมาบอกว่าเขาออกเดินทางแล้วนะ ให้ผมตามมา เย็นวันศุกร์รถติดมากหน่อย ผมเลยออกเดินทางตามทันที ไม่ได้แวะ Decathlon แต่พออยู่ถึงแค่บางพลี เต่าโทรมาหา บอกว่าเขาลืมเอากุญแจบ้านบางแสนมา ทำไงดี ผมเลยบอกให้ไปพักที่สัตหีบเลยดีไหม เช้าจะได้ถ่ายในตลาดกัน เก็บบรรยากาศตลาดเช้า
   “ได้เลยพี่ ผมแวะคุยงานกับเพื่อนก่อนแล้วเดี๋ยวตามไป จองห้องเผื่อผมห้องหนึ่ง ผมพาแม่มาเที่ยวด้วย”
   ไปถึงสัตหีบแบบเพลียๆ รถติดเยอะหน่อย ขับแล้วง่วงเลย ได้ห้องพักมา 2 ห้อง ผมเข้าพักก่อน อาบน้ำก่อน อย่างง่วงเลยนะ แต่ไม่หิวเพราะกินข้าวกลางทางมาแล้ว แถมซื้อเสบียงมานิดหน่อยอีกด้วย
   กลางคืนเต่ามาคุยสรุปงานในห้องผม กำลังปรับจูนไอเดียให้ตรงกัน ที่จริงเต่าให้อิสระผมในการทำงานทั้งหมด แต่ผมเองสิที่ไม่ได้ทำสคริปสำหรับถ่ายทำมา เขาก็เลยทำงานไม่ถูก จนสุดท้ายเขาต้องเป็นผู้กำกับเอง กลายเป็นว่างานนี้เขาทำแทบจะทั้งหมดเลย ผมแค่หาสปอนเซอร์มาให้ 3 รายเท่านั้นเอง
   สักพักก็แยกย้าย ผมทำงานต่อนิดหน่อย ส่วนเต่าต้องทำงานส่วนตัวของเขาอีกเยอะ
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:14:58 pm
28 พค 59
   ลงลิฟท์ไปรอที่ Lobby ตอน 0630 ก็พบเต่านั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว เฮ้ยย เจ๋งมากเลย ผมชอบคนตรงต่อเวลามากๆ
   เริ่มถ่ายกันในตลาดก่อนเลยครับ จากเดิมที่จะเป็นการแนะนำการเดินทางด้วยเรือใบและพาไปเกาะร้าง แต่ดูๆ แล้วมันจะจืดๆ ไป เลยทำเป็นเรื่องท่องเทียวเมืองสัตหีบโดยมีเรื่องการเดินทางด้วยเรือใบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
   เต่าบอกให้ผมพาชมตลาด ติดไมค์ที่ตัวผมด้วย เอาล่ะสิมึง พูดไม่ออกเลย ก็ซัดไปสดๆ ครับ เต่าบอกว่าผมนิ่งเกินไป ต้องชวนแม่ค้าคุย ดูโน่นดูนี่ไป อืมม มันไม่ง่ายเลยนะสำหรับมือใหม่อย่างผม
   กินอาหารเช้าแถวๆ นั้น เห็นร้านสะอาดดี แต่กลายเป็นว่าไม่อร่อยเลย รู้งี้กินร้านเก่าเจ้าประจำดีกว่า
   เดินทางเข้าไปยังสโมสรเรือใบต่อ วันนี้ครูบอกให้พวกเราออกช้าหน่อย จัดเตรียมเรือไว้ให้ตอน 0900 เพราะวันนี้มีจะมีงานแข่ง Kite Boarding ชิงแชมป์ประเทศไทย คนจะมากันเต็มหน้าหาด และบอกให้พวกเรารีบๆ กลับหน่อย อย่าลากถึงเย็นมาก พายุเข้ามาแล้วจะลำบากคนไปลาก
   เต่าถ่ายผมจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มก่อนไปเกาะ คงเห็นผมดึงไม้เสียบหมูย่างออก เลยสงสัยว่าทำทำไม ก็เพราะไม่อยากนำขยะไป เพราะไม้แหลมๆ จะทิ่มถุงจนน้ำไหลเลอะเทอะ และมันจะหายนะหากไม้แหลมมาทิ่มจนถุงกันน้ำทะลุ
    ที่มากันในวันนี้ก็เพราะ “จูน” (นักเรียนเรือใบร่วมชั่นเมื่อเดือนเมษา) เขามาชวนเต่า คงเห็นว่าเตามาบ่อย คงสะดวกมา เต่าก็มาชวนผมต่อ เพราะจะได้มาช่วยกันถ่ายเสริมจากงานเก่าที่ยังดูไม่ค่อยดี
   ประกอบเรือ ผูกใบ ทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว จูนมาถึงในอีกสักพักใหญ่
   อ้อ เป้าหมายวันนี้จะไปเกาะพระกันนะ เกาะนี้มิวเคยมาตอนเล่นเรือใบออฟติมิสต์ ผมก็เคยมากับลูกครั้งหนึ่งแล้ว ยังติดใจอยู่เหมือนกัน น้ำสวยใสดี
   ผมแล่นเรือออกเป็นคนแรก พุ่งออกมาได้ครู่หนึ่งหันไปมองพบว่าเต่ากับจูนยังไม่ได้ออกตามมา เลยวนเรือกลับไปดูใกล้ๆ เห็นเต่าค่อยๆ เคลื่อนออกมา จูนออกช้าหน่อยเพราะขนเพื่อนมาอีก 1 คน เรือเลยหนักกว่า
   เรือผมมุ่งหน้าเกาะพระเป็นลำแรก แต่เจอช่วงน้ำลง เลยเจออุปสรรคใหม่ คือสันดอนทรายที่โผล่ขึ้นมาให้เห็นช่วงใกล้เกาะ และที่หนักกว่านั้นคือแนวหินโสโครกที่เรือผมเกือบจะไปชนเอา ความซวยยังไม่หมด เพราะเรือผมเชือกเมนชีทหลุดในจุดนี้พอดี !
   มันเป็นช่องว่างระหว่างเกาะพอดีครับ ลมเลยผันผวน และกระแสน้ำไหลแรง บวกกับเรือเราที่เชือกเมนชีทหลุด เรือโยกแกว่งไปมาจะล้มอยู่แล้ว ผมตะโกนดังๆ ว่า “อย่าล้มนะ อย่าล้มนะ”
   ถ้าล้มลงไปล่ะก็ ผมได้เลือดโชกท่วมตัวแน่ๆ และมีแนวโน้มว่าใบเรือจะขาด และเรือจะแตกเพราะชนหินอีกด้วย
   จะว่ามีโชคช่วยก็ไม่ผิดล่ะนะ สถานการณ์ตอนนี้ผมควบคุมใบเรือไม่ได้ เลยปล่อยให้มันไม่กินลม กระแสน้ำก็พัดพาเรือให้ไหลออกจากแนวหินโนโครกไปได้ เรือไปอยู่ในช่วงที่อับลมพอดี (ตัวเกาะจะบังลมเอาไว้) ผมเลยจับบูมดึงเข้ามาร้อยเชือกเมนชีทใหม่ และออกแล่นเรือได้อีกครั้ง
   เฮ้ยย คิดว่ามหัศจรรย์นะ ตอนช่วงคับขันผมนึกถึงหลวงพ่อโสธรที่ผมสวดประจำเลย
   ถึงจุดนี้เต่าแซงหน้าผมไปแล้ว ผมได้แต่แล่นใบตามไปห่างๆ ได้ยินเต่าตะโกนว่า “ไปเกาะหมู”
   จากจุดนี้ไปเกาะหมูไม่ยากครับ ลมแรงหน่อยตามประสาเริ่มออกทะเล (จากเดิมเราอยู่ในอ่าว)
   เข้าเกาะหมูปุ๊บผมรีบลากเรือขึ้นชายหาดและปลดเมนชีททันที จากนั้นก็นอนแช่น้ำเล่นรอเต่าเข้ามากินข้าวพร้อมกัน
   นำขยะไปแค่ไหน ก็นำกลับมาแค่นั้น ถ้าทุกคนทำแบบผม ทุกที่ในโลกก็จะไม่มีขยะ
   แต่โลกมันไม่ได้สวยแบบนั้น เกาะหมูที่ผมไปเช้านี้ ขยะแม่งเพียบเลยครับ นี่ขนาดเพิ่งเปิดเกาะเป็นแหล่งท่องเทียวได้ไม่นานยังขนาดนี้ (แต่ปกติพวกนักกีฬาเรือใบเขามาเกาะนี้กันเป็นสิบปีแล้วนะ) ก็คงเป็นเพราะว่าเกาะหมูมันใกล้ มาง่าย เมื่อก่อนมากันแค่นักเล่นเรือใบ แต่ทุกวันนี้มีพวกนักตกปลาจ้างเรือ Speed Boat มาส่งและค้างแรมกันบนเกาะบ้างแล้ว
   เกาะหมูมีชาวบ้านดูแลอยู่คนหนึ่ง และหมาตัวหนึ่งที่ชื่อ “กังฟู” หมาหน้าตาแนว Golden Retriever ชอบเล่นกับคนที่มาเทียวเกาะด้วยการวิ่งไปเก็บของที่ขว้างให้ เดือนก่อนผมเล่นขว้างขวดกับมัน แต่วันนี้ขว้างแล้วต้องเดินไปเก็บเอง เลยงง จนเจ้าของมันมาบอกว่าตอนนี้มันชอบวิ่งเก็บเป็ด
   ห๊ะ เป็ดไรวะ ผมคิดในใจ แต่ไม่กล้าถาม จนสุดท้ายก็เข้าใจ เพราะมันคือตุ๊กตาเป็ดพลาสติคสีเขียว มองผ่านๆ เหมือนลูกชมพู่ที่ร่วงหล่นตามสวน
   “เล่นกับมันต้องเสียงดังๆ ตะโกนดังๆ มันจะเชื่อฟัง” เจ้าของมันเปิดเผยเทคนิค
   เข้าใจเทคนิคแล้วก็เล่นกันสนุกล่ะ ผมขว้างเป็ดลงไปในทะเล ไอ้กังฟูโดดลงน้ำเสียงดังตูม ว่ายลุยไปเก็บเป็ดมาคืนให้ เล่นกันอยู่แบบนี้พักหนึ่ง สงสารมันจะเหนื่อย เลยเอาตับไก่ย่างมาให้มัน (ตั้งใจซื้อมาฝาก)
   ผมก็กินหมูย่าง ไก่ย่าง กับข้าวเหนียวดำไป ไอ้กังฟูก็กินไป เต่าเลือกซื้อข้าวผัดอเมริกันมาก็กินไป เสร็จแล้วผมอยากไปนอนแช่น้ำทะเลเล่นที่หาดหิน แต่พอเดินไปแล้วพบว่าเป็นช่วงน้ำลง เลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ น้ำออกขุ่นๆ อีกด้วย
   1.30 เราออกจากเกาะหมูกลับเข้าสู่ฝั่ง เป็นการกลับที่เร็วสุดๆ เลย เพราะว่าผมอยากไปเก็บภาพงานแข่ง Kite Board ที่หน้าหาดไง
   ขากลับผมสลับเรือกับเต่าครับ เพราะเรือเขาติดตั้งกล้อง Gopro เต่าต้องการภาพผมเล่นเรือบ้าง ส่วนภาพเขามีเยอะแล้ว เรือลำนี้แล่นต่างจากเรือของผมอย่างชัดเจน มันหนักมาก แล่นช้ามาก ตอบสนองไม่ดี อืด ต้านน้ำ ฯลฯ ดูอาการแล้วผมว่ามันมีน้ำเข้าเยอะมาก
   แต่ในข้อเสียก็มีข้อดีครับ ขากลับแล่นใบตามลม ต้องเปิดใบเต็มที่ 90 องศาขวางเรือเลย ลักษณะเช่นนี้เรือจะโคลงเคลงง่าย ล้มคว่ำง่าย แต่เนื่องจากตัวเรือมันหนัก มันเลยล่มยาก
   ปกติผมจะแล่นเข้าฝั่งตรงๆ นะ แต่วันนี้มีงานแข่ง Kite Board อยู่ ผมเลยต้องแล่นอ้อมไปตั้งลำไกลหน่อย ช่วงใกล้ฝั่งมีเหตุระทึกขณะผมจะแล่นเข้าฝั่งช้าๆ มี Kite ลำหนึ่งแล่นขวางเข้ามา ผมดูแล้วอาจชนกันได้ เลยไม่เร่งความเร็ว และค่อยๆ ลดความเร็วเรือตัวเองลง แต่ทางเขายังคงพุ่งเข้ามาหาอย่างเร็ว
   เฮ้ยย ชักจะท่าไม่ดีแล้ว พอเข้าใกล้กันมากๆ ผมทำอะไรไม่ถูก ก็เลยปล่อยใบทิ้งให้ไม่กินลม เรือก็จะแทบไม่แล่น แล้วไอ้ Kite ลำนั้นเขาก็แล่นผ่านหัวเรือผมเฉียดฉิวไป
   ก่อนไปมีเอามือมาแตะเรือเราทำนอง “เล่นท่า” อีกด้วย
   เออ มึงเก่งมึงก็รอดไป เจอกูมือใหม่ก็ง่ายหน่อย ถ้าไปเจอเอาลำอื่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกมาท่าไหน
   เข้าฝั่งก็รีบเก็บเรือทันที เต่าตามมาในอีกสักพัก รีบถอดกล้อง Gopro มาถ่ายงานแข่งต่อ สักพักก็ส่งกล้องคืนให้เต่า
   จูนตามมาในอีกพักใหญ่ ผมสงสัยว่าเขาไปไหน หาไม่เจอตั้งแต่ออกจากฝั่ง สุดท้ายคือเรือเขารั่ว เล่นแบบล่มๆ อยู่หลายครั้ง จนสุดท้ายเรือยางครูไปเจอลอยคออยู่กับเพื่อน เลยช่วยลากกลับเข้าฝั่งมาในสภาพสุดโทรม
   นั่งดูงานแข่งพักหนึ่งก็ขอตัวกลับก่อน พรุ่งนี้ผมมีประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนลูก ลาครูที่เรารู้จักและคุ้นหน้า รู้สึกดีนะที่พบครูที่เรารักอีกครั้ง ผมถ่ายรูปคู่กับครูเป้ ครูบัง ไว้ด้วย
   ใช้เวลา 2.30 ชม ในการขับรถถึงบ้าน ช่วงแรกโคตรง่วงเลยครับ ขับไปร้องเพลงไป ทำอะไรให้มันตื่นตัว เปิดกระจกขับก็มี ออกจากกองเรือยุทธการ 0430 ถึงบ้านเกือบ 1 ทุ่ม
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:16:47 pm
29 พค 59
   หลับยาวเลย ปกติผมจะตื่นเช้า แต่วันนี้ลุกเอาตอนเกือบจะ 0600 ไม่ได้ไปออกกำลังกายที่ไหนหรอกนะ เช้านี้มีประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนมิว
   ออกไปกิน Food Land แถวบ้านกันแล้วค่อยเลยไปโรงเรียน ปกติผมจะจอดรถที่ร้านแล้วเดินข้ามสะพานพุทธไป แต่วันนี้มีโปรของตลาดยอดพิมาน คิดค่าจอดรถสำหรับผู้ปกครอง 40 บาทตลอดวัน เลยไปใช้บริการสักหน่อย
   แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ คิวแม่งยาวเหยียดเลย แถมต้องรอลิฟท์คันละเกือบจะ 5 นาที ท้ายแถวเลยไปด้านนอกไกลมาก กว่าจะจอดได้กินเวลาไปราว 40 นาที (นับตั้งแต่เริมต่อคิว)
   เป็นงานพบครูของลูกที่โรงเรียนจัดขึ้นทุกครั้งที่เปิดภาคเรียนใหม่ มิว ม3 แล้ว ครูเลยแนะนำด้านการวางแผนเรียนต่อมัธยมปลายให้ผู้ปกครองทราบ ปิดท้ายด้วยการเลือกคณะกรรมการประจำห้อง เป็นอันเสร็จพิธี
   ชวนภรรยาไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเก่าแก่ย่านพาหุรัดต่อ เจ้าของร้านเป็นอาม่าแก่ๆ แต่ใครสั่งอะไร อาท่าจำได้หมด ภรรยาสงสัยสอบถามอายุ
   “คนนี้ 83 (ชี้ตัวเอง) คนนี้ 86 (ชี้พี่สาวที่ทำหน้าที่ลวกเส้น)” อาม่าคนนี้นั่งคุมโต๊ะเก็บเงิน
   เฮ้ยย อายุขนาดนี้ ความจำเจ๋งมากเลยนะ
   เดินแวะซื้อผลไม้และของไหว้เจ้าที่ปากคลองตลาดแล้วก็ต้องมานั่งรอคิวรับรถต่ออีกสักพักใหญ่ ก็เพราะเขาเป็นที่จอดรถอัตโนมัติน่ะครับ กดรหัสแล้วเครื่องจำไปนำรถเราลงมาวางให้ ผมชอบตรงมันกลับหัวออกมาให้เราด้วยนะ เจ๋งดี
   มิวเลิกเรียน 0400 เลยกลับมาพักผ่อนที่บ้านกันก่อน เย็นๆ ค่อยว่ากันใหม่

   ออกไปรับมิวที่รถไฟฟ้า ภรรยาชวนกิน MK ผมเลยเลือกสาขาที่คนน้อยที่สุด นั่นคือที่ Riverside Plaza ถนนเจริญนคร กินสุกี้แล้วต่อด้วยไอติมแบรนด์เนม กินแล้วผมชอบไอติมกะทิสดแบบที้ร้านก๋วยเตี๋ยวที่พาหุรัดมากกว่านะ มันไม่เหนียวคอ สงสัยจะเริ่มแก่แล้วมั้ง กลับมาชอบของสไตล์นี้ ยังคุยกับภรรยาว่า ผมนึกถึงไอติมศาลาโฟร์โมส ซึ่งถ้าเขาจะกลับมาในยุคนี้ก็จะสามารถแจ้งเกิดได้ง่ายเลยนะ ยิ่งมาแนวเรโทรร้านแบบในยุคเก่านี่สุดยอดมากเลย
Title: Re: พค 59
Post by: O'Pern on June 03, 2016, 07:18:38 pm
30 พค 59
31 พค 59