racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on February 02, 2016, 02:33:07 pm

Title: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 การออกกำลังกาย 23 C Coupe
Post by: O'Pern on February 02, 2016, 02:33:07 pm
1 กพ 59
   ออกวิ่งยามเช้าอีกครั้ง วิ่งไปสวดมนต์ไปด้วย ทำสมาธิไปด้วย เฮ้ย รู้สึกเจ๋งดี แถมด้วยการแผ่เมตตาให้เพื่อนร่วมโลก เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ
   แปลกดีนะ ตอนเด็กๆ ไม่เคยคิดอะไรแบบนี้เลย อายุมากขึ้นทำให้คนเราเปลี่ยนไปมากจริงๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้อื่น ซื้อข้าวให้คนยากไร้ ไปวัด ไปศาล ฯลฯ แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิมนั้นคือ ผมไม่เคยขออะไรให้ตัวเอง ไปไหว้ก็มีแต่นึกขอบคุณสิงศักสิทธิในสถานที่นั้น ที่ช่วยเป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ชาวบ้าน ขอบคุณที่ช่วยเหลือหลายๆ คนให้เขาได้สิ่งที่เขาคิดฝัน
   วันนี้ตื่นแบบขี้เกียจลุกเลยนะ แต่ตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องออกวิ่งให้ได้ ก็เมือวานกินไปเยอะมาก เช้าก๋วยเตี๋ยว 2 ชาม กลางวันข้าวหมูแดง 2 ชาม เย็นมีจุบจิบจากขนมอีก เช้านี้จัดไปได้แค่ 45 นาที แปลกใจตรงที่วิงแล้วเจ็บข้อพับด้านหลังหัวเข่าด้านขาเล็กน้อย ลองวิ่งช้าๆ เบาๆ ก็ยังเจ็บ เลยเปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทนก็หาย หลังๆ จึงเป็นการเดินเร็วสลับวิ่ง
   ก่อนออกจากบ้านไม่รู้อะไรดลใจให้เข้าไปในห้องพระแล้วเอาน้ำเปล่าถวาย ทั้งๆ ที่อยู่บ้านมา 30 กว่าปี ไม่เคยทำสักครั้งเลยนะ เอาน้ำเก่าเทใส่ต้นไม้ใหญ่ในบ้าน แล้วนำแก้วไปล้าง ใส่น้ำใหม่วางถวาย มีไหว้สวดเล็กน้อย
   เช้าไปร้าน ยกแบกของอีกเช่นเคย ผมไม่มีปัญหาอะไรกับงานใช้แรงงาน ตราบใดที่ยกแล้วไม่เจ็บหลัง ผมโอเคหมด แรกๆ พอมีใครถามทำงานอะไร ก็มีอายนิดๆ ไม่อยากบอกเขา แต่พอตอนนี้ผมเฉยๆ กับชีวิตแม่งละ บอกไปเลยว่าบ้านผมขายของโชห่วยครับ นมแลคตาซอย ไวตามิ้ล สปอนเซอร์ กระทิงแดง เบียร์ ชาเขียว อะไรแนวนี้ร้านผมมีหมด น้ำดื่มเพ็ทสารพัดยี่ห้อ ไอ้ที่หนักสุดและทำผมเจ็บหลังคือพวกลังโซดา และลังน้ำสิงห์ หนักเหี้ยๆ เลยครับ
   บรรยากาศวันจันทร์ก็ขายดีเพราะเมื่อวานหยุดส่งของมา ลูกค้าของขาด ก็ต้องรีบส่ง ถ้าคนงานขาดงานด้วยนี่มหากาพย์เลย ต้องไปขับรถส่งเอง ยก แบกของเอง ชีวิตเราผูกไว้กับตีนคนงานครับ
   ตอนว่างหรือขี่จักรยานไปตลาดก็จะแอบไปไหว้เทพกวนอู เจ้าแม่กวนอิมในศาลเจ้าเล็กๆ ผมไม่ได้นับถือเทพองค์ใดเป็นพิเศษ แต่ไปไหว้บ่อยจนจำคำสวดภาษาจีนบูชาเจ้าแม่กวนอิมได้เกือบหมดแล้ว
   วันนี้ผมอยู่ร้านถึงเย็น
Title: Re: กพ 59
Post by: O'Pern on February 05, 2016, 05:43:18 pm
2 กพ 59
   ตื่นสายขี้เกียจลุก พักนี้หมาเห่า และตุ๊กแกร้อง แม่งเล่นเอาผมไม่ได้หลับรวดเดียวถึงเช้าเหมือนเมื่อก่อนเลย ลุกมาแบบงัวเงียแข็งใจเอาจักรยานออกขี่บ้าง
   ออกกำลังกายยามเช้าดีกว่านะ เตรียมร่างกายและจิตใจไว้ให้พร้อมกับการทำงาน เดี๋ยวสายๆ ก็ได้ยกของอีกแหละ คิดบวกเข้าไว้ว่าได้ออกำลังกาย ดีกว่าไอ้พวกทำงานออฟฟิซ พวกมึงนั่งทั่งวันจนอ้วน พวกมึงจะป่วยง่าย ไม่แข็งแรงเหมือนกู เห็นไหม กูเก่ง เจ๋งกว่าพวกมึงเยอะเลย
   แต่ก็คิดแบบนี้ได้ไม่นานนักหรอกนะ สุดท้ายแม่งก็เบื่อชีวิต จนอยากหนีไปไกลๆ จากเดิมมีโปรเจคมากมายที่คิดอยากทำ แต่พอนานเข้า อายุมากขึ้น อารมณ์แม่งคล้ายคนหมดไฟ เคยคิดฝันจะทำโน่น ทำนี่ บางช่วงตอนนี้คิดแค่อยากหนีจากสิ่งที่อยู่รอบตัว อยากไปไหนก็ได้ ไปไกลๆ ๆ ๆ ๆ
   กูโคตรเบื่อชีวิตเลย
   มื้อเช้าอาหารสุดยอด ปลาเก๋าทอดราดพริกทั้งตัว ผมกินจนเหลือแต่หัวและส่วนที่แคะเนื้อยากๆ ปกติผมจะไม่กินปลาก็เพราะมันแกะเนื้อยากนี่แหละครับ มีผักแกล้มคือบร็อคโคลี่และแครอทนึ่ง ไข่ต้มอีกฟอง กับข้าวกล้อง 1 ถ้วย
   เปลี่ยนน้ำถวายพระ เอาน้ำเก่าในแก้วมาเทราดหัว ท่องบดสวดไปด้วย เฮ้ย นี่จะเล่นของกันใช่หรือไม่
   เช้านี้ครึ้มๆ ฝนปรอยๆ พอสายก็หยุด (มาถึงร้านแล้วฝนหยุด แต่ที่บ้านตกหนักเลย) ไม่ต้องดูทีวีผมก็รู้แล้วว่าทางเหนือเริ่มจะหนาวอีกระลอก เลยดันฝนให้ลงมาทางภาคกลาง อีกสักวันสองวันภาคกลางก็จะเริ่มเย็น และดันฝนลงไปภาคใต้ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง
   เอาแตงโมกล่องใหญ่ไปกินที่ร้านด้วย ทำงานไป จิ้มกินไปเรื่อยๆ จนหมด ระหว่างวันมียกของบ้างพอขำๆ (คือยกแบบหลังไม่เจ็บ)
   กลางวันไปโอนเงินสั่งซื้อนาฬิกาจากเวป trekkingthai จะเอาไปใช้ตอนแข่งเรือใบ นาฬิกาบ้านๆ ธรรมดาๆ แต่มีฟังชั่นนับก้าว นับระยะทาง บอกการเผาผลาญแคลอรี่ มีไฟส่องสว่างแบบเรืองแสงที่ตัวเลข ราคา 900 บาท ส่วนฟังชั่นพื้นฐานพวกตั้งปลุก จับเวลา อะไรพวกนี้มีให้มาครบ
โอนเงินปุ๊บบ่ายก็แพ็คของเตรียมจัดส่งให้เลย โครตเร็วเลย บริการประทับใจมาก ผมไม่ได้รีบใช้ของอะไรเลยด้วยนะ แต่ถ้าได้เร็วมันก็ดีกว่านี่ เพราะการซื้อของทางอินเทอร์เนทมันมีความเสียงต่อการถูกโกง เราโอนเงินให้กับใครก็ไม่รู้ อาศัยว่าอยู่ในเวปที่เราคุ้นเคย เราก็อาจรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหน่อย
   บ่ายกินฟักทองแกงบวชที่แม่ซื้อมาฝาก กินเน้นแต่เนื้อฟักทอง เหลือน้ำเททิ้ง มันอ้วนมาก สักพักก็มีน้ำมะเขือเทศผสมสัปปะรด และระหว่างนั้นก็ซดน้ำใบบัวบกตลอดวัน อ้อ มีแอบกินกูลิโกะแอลฟี่ไปด้วย
   โหห วันนี้แม่งคือสุดยอดแห่งการบำรุงร่างกายแล้วครับ
Title: Re: กพ 59
Post by: O'Pern on February 05, 2016, 05:49:18 pm
3 กพ 59
   ตื่นเช้ามาวิ่ง 1 ชม เฮ้ยยย ลมหนาวมาแล้วๆ วิ่งไปแบบเหงื่อแทบไม่ออกเลย วันนี้วิ่งโดยไม่เจ็บข้อพับเข่าแล้ว วิ่งสนุกมากขึ้น
   มื้อเช้าวันนี้จัดเต็มโคตรๆ อีกครั้ง เน้นผักสดจานใหญ่ กินกับน้ำพริกหนุ่ม แกงจืดเต้าหู้ใส่เห็ดเข็มทอง ไข่ต้ม ข้าวกล้อง กินผักสดเกือบจะหมดจานแน่ะ อิ่มแน่นไปเลย
   กลางวันไปธนาคาร แล้วก็ปวดอึครับ เลยต้องรีบไปเข้าห้องน้ำกะทันหัน ผมไม่เคยถ่ายนอกบ้านมานานเป็นสิบปี วันนี้ขอจัดสักหน่อยนะ
   ก็คงเพราะกินผักเยอะมากตอนเช้าแน่ๆ ปกติผมถ่ายตอนเช้าอย่างเดียว ครั้งเดียว
   บ่ายเข้ามาบ้านกินแตงโมอีกแล้ว กินไปหน่อยหนึ่ง อยู่แบบนี้จนถึงเย็น ค่ำซ้อมเล่น Uke
Title: Re: กพ 59
Post by: O'Pern on February 05, 2016, 05:50:27 pm
4 กพ 59
   ออกวิ่ง 1 ชม
   เช้ากินพะแนงหมู ได้กินมะเขือพวง แครอท บร็อคโคลี่ กลางวันไม่ได้กินอะไรเป็นเรื่องราว กินแต่ขนมจุบจิบ แบบนี้แย่ว่ะ
   วันนี้งานเยอะสัส ผมอยู่ร้านจนถึงเย็นรอรับมิวกลับบ้านด้วย
Title: Re: กพ 59
Post by: O'Pern on February 05, 2016, 05:57:22 pm
5 กพ 59
   ตื่นมาแบบเพลียสัสเลย นอนราว 1100 ลืมตาตื่นแต่ไม่อยากเปิดตาเลย ฝืนใจหน่อยๆ ทำโยคะชุดเล็กๆ แล้วก็ใส่นาฬิกาเรือนใหม่อย่างบ้าเห่อเลย อยากรู้ว่ามันจะวัดได้แม่นยำเพียงใด
   ออกเดินไป 40 นาที ถ้าเดินแบบทั่วไปก้าวช้าๆ เรื่อยๆ ก็โอเคนะ แต่บุคลิกของผมจะเป็นคนเดินเร็ว ก้าวยาว เลยไม่รู้ว่าจะเซ็ทไอ้เครื่องนี้เอาไว้แบบใดดี คือแบบทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือเอาแบบใส่วิ่งออกกำลังกาย
   (อ้อ ลืมเล่าไปว่าได้รับนาฬิกาเมือวานนี้ มาปุ๊บรีบหยิบมาใส่ข้อมือเลย อย่างเห่อ)
   พอเดินเสร็จเห็นตัวเลขจำนวนก้าวที่เครื่องมันนับแล้วน่าตกใจ เฮ้ยย นี่ผมเดินไป 4000 ก้าวแล้วหรือวะนี่ แปลว่า 10 นาที ผมซัดไป 1000 ก้าวเชียวหรือวะนี่ กูเดินอย่างไวเลย
   เช้านี้กินไก่ผัดขิงใส่เห็ดหูหนู กินแต่ขิงกับเห็ด กินไก่ไปนิดหน่อย แครอท กระเทียมสด ไข่ต้ม ข้าวกล้องโรยงาดำ
   ใกล้ตรุษจีน รถติดมากๆ เลย ที่ร้านก็งานเยอะด้วย ต้องขึ้นลงสินค้ากันริมถนน วันนี้ผมอยู่ร้านจนถึงเย็นอีกครั้ง
   คนไทยเจ๋ง คิดหาวิธีแก้ไข้เลือดออกคนแรกในโลก ด้วยการทำหมันยุงแบบข้ามสายพันธุ์ เฮ้ยย เจ๋งสัสส
   ล่าสุดบราซิลเชิญไปเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมยุงในประเทศเขาแล้ว
Title: Re: กพ 59
Post by: O'Pern on February 08, 2016, 04:13:32 pm
6 กพ 59
   ออกวิ่งรับลมหนาว 40 นาที วันนี้ลองตั้งเซนเซอร์ให้เป็นแบบ Hi จากเดิมตั้งไว้ที่ Midium ผมไม่รู้ว่าไอ้โฮของมันนี่จะหมายถึงว่า ความไวเซนเซอร์สูง ขยับข้อมือนิดหน่อยก็ทำงานแล้ว หรือว่าจะเป็นแบบในทางตรงข้ามคือต้องมีแรงมากระทำระดับสูงหน่อยเซนเซอร์ถึงจะทำงาน
   
   แผ่นดินไหวไต้หวัน เมืองไถนาน และเมืองเกาสง 6.4 แมกนิจูด ตึกล้ม ทรุด ถล่ม หลายแห่ง เห็นภาพแล้วน่ากลัวไม่แพ้ที่เนปาล แต่ประเทศนี้เขาเจริญกว่า กู้ภัยได้เร็วกว่า ยังดีที่จุดเกิดเหตุห่างไกลเมืองไทเปพอควร
   วันนี้ที่ร้านขายดีมากๆ เพราะเป็นเทศกาลตรุษจีน แต่เชื่อเถอะครับ เทศกาลไหนๆ ก็ขายดี วันนี้ผมอยู่ร้านเช้าจรดเย็น ออกจะเบื่อๆ หน่อย ยังดีที่ตอนเย็นผมอาสาขี่จักรยานไปเก็บเงินลูกค้าให้แถวบ้านหม้อ
   พอได้ขี่จักรานเท่านั้นแหละครับ ค่อยรู้สึกสบาย ผ่อนคลายอย่างมาก บนท้องถนนรถติดมาก เพราะเป็นวันไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ถ้าผมต้องไปธุระในตัวเมืองนะ ผมว่าจักรยานนี่แหละคือสุดยอดยานพาหนะแล้วครับ มันคล่องตัวสุดๆ ขี่บนถนนรถติดก็ยกมันขึ้นทางเท้า (แต่ต้องรู้จักมารยาทและเกรงใจคนเดิน ให้สิทธิเขาก่อนนะ)
   ขี่ผ่านปากคลองตลาด ผ่านหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบ ขี่เพลินๆ จู่ๆ ยามหน้าประตูยกมือกั้นทางผมเฉยเลย เพื่อให้รถยนต์ในโรงเรียนออกมา จังหวะนั้นจะเบนรถหลบก็สามารถทำได้นะ แต่ก็เบรกๆ ไป แม้จะเสียแรงส่งมาแต่ไกลก็ตาม
   เลยไปอีกนิดก็เจอบ้านหม้อ ขับเข้าไปในซอยทิพย์วารี ขอเก็บเงินลูกค้า ผมเอาเป้ผ้าของมิวไปใช้ เจ้าของร้านเลยเรียกทัก
   เรียนสวนกุหลาบด้วยหรือครับ
   ใช่ครับ ผมหันไปตอบ พร้อมส่งยิ้ม
   ผมก็สวนกุหลาบ ผมรุ่น 129 เจ้าของร้านแสดงตัวก่อน
   ผมรุ่น 104 ครับ ส่วนเป้ใบนี้ของลูกผม สก รุ่น 138 ยังเรียนอยู่ ม2 เลย
   ขากลับขี่เลยไปทางคลองหลอด อยากดูว่าสภาพคลองเป็นอย่างไรบ้างแล้ว คือผมเคยออกแบบคลองนี้เป็นแห่งท่องเที่ยวครับ ไอเดียนี้ผมจัดทำไว้ตั้งแต่สมัยนายกสมัครโน่นเลย
   ไอเดียคือบูรณะคลองนี้ตั้งแต่สนามหลวงมาจนถึงปากคลองตลาดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เริ่มจากต้องปรับสภาพน้ำ ดักกรองขยะที่จะลอยเข้ามา ปรับสภาพริมสองข้างทาง ติดไฟส่องสว่าง ติดไฟใต้น้ำ สองข้างทางก็จัดงานแบบแนวๆ นะ ไม่ใช่แค่ให้เป็นเหมือนเปิดท้ายขายของแบบงั้นๆ
   ทำเลย่านนี้มันสวย ต้องมีเรื่องราวที่มาที่ไปของคลองหลอด จัดโซนอาหารแยกต่างหากเพราะจะได้คุมความสะอาดได้ เชิญชวนร้าน Fast Food แบรนด์เนมไทยๆ มาร่วมโดยให้มาแนว Food Truck (อันนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไทยให้คนไทย)
   จัด Art Zone ให้เด็กศิลปากร เพาะช่าง ที่อยู่ในละแวกนั้น มาแสดงผลงาน และหารายได้เสริม เช่นวาดภาพสเกชสด ปั่นดินสดๆ แสดงภาพวาด รับงานออกแบบด้วยก็ยังไหว
   มีมุมขายของทำมือ อาหารท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมไทย ฯลฯ จัดงานแนวนี้ต้องมีธีม นะครับ เอาธีมมาตีโจทย์ให้แตก แยกย่อยออกมาหลายๆ หมวดหมู่ แล้วเราก็จะได้กิจกรรมตลอดทั้งปี เริ่มต้นลองแค่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ดูก่อนครับ
   ยิ่งตอนนี้ “ตลาดยอดพิมาน” ที่ปากคลองตลาดเปิดแล้ว ยิ่งเชื่อมโยงคลองนี้ไปถึงสนามหลวงได้ดีมากๆ ช่วงผ่านหน้า “สามแพร่ง” ก็ให้เป็นพื้นที่ของชุมชนเขามาจัดงานกันเองได้เลย กลุ่มนี้มืออาชีพควร เป็นคนในพื้นที่ของจริงอีกด้วย
   ขากลับผมมาจอดแวะนั่งเล่นที่พระบรมรูปรัชกาลที่ 1 ที่สะพานพุทธ นั่งมองแล้วมันคล้ายจตุรัสกลางเมืองของรัสเซีย (แต่ของเราเล็กกว่าเขาเกือบสิบเท่า) มีนักท่องเที่ยวเดินมานั่งเล่น ถ่ายรูป แวะกันมาไม่ขาดสาย
   เฮ้ยย ผมมองเห็นโอกาสอะไรบางอย่างนะ
   เรื่องนี่แม่งคุยแล้วยาวครับ ไอเดียพัฒนาประเทศนี่อยู่ในหัวผมตั้งแต่ปี 1990 และที่ผมกลับมาไทยก็เพราะเหตุผลนี้แหละครับ ยุคนั้นกระแสรักในหลวงยังไม่เกิดเลย (แต่คนรักในหลวงมีอยู่ก่อนนานมากแล้วนะ) ตอนนั้นในหัวมีความคิดเท่ๆ
   “ผมอยากช่วยในหลวงพัฒนาประเทศ”
   เฮ้ย ผมคิดแบบนี้จริงๆ ไม่ได้เล่าเอาหล่อนะ
   ใครมีความสามารถด้านใดก็ช่วยพัฒนากันไป ผมถนัดด้านงานออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์ แต่ที่เด่นกว่านั้นคือความรู้ด้านวงการรถยนต์ พอกลับมาไทยผมเลยเริ่มทำงานเขียนก่อนเลย ไต่มาหลายเล่ม จนสุดท้ายก็ทำหนังสือ Racing Club ของตัวเอง แต่ตอนจบเรื่องแม่งเศร้า พอเหอะ
   มีงานเขียนแนวพัฒนาบ้านเมืองและสังคมเก็บไว้ ผมให้ชื่อว่า “ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี” ไอ้นี่ทำไว้นานเป็นสิบปีแล้ว วิจารณ์ผังเมือง และรูปแบบการก่อสร้างไว้มากมาย เช่นรถไฟฟ้าที่ผ่านสยาม สีลม นั้นแสนจะอัปลักษณ์ ถนนแคบๆ เลยยิ่งดูอับทึบ น่าเกลียดมาก ถนนแบบนี้ควรจะเป็นรถแบบใต้ดินมากกว่า ถ้าจะยกระดับต้องเป็นแบบวิ่งกลางถนนวิภาวดีโน่นเลย
   พูดถึงถนนวิภาวดีนี่ผมยิ่งโมโหมากๆ สมัยก่อนยุคผมยังไม่มีทางยกระดับ Toll Way ถนนสวยมากๆ เกาะกลางมีต้นไม้ มีสะพานเกือกม้าให้จักรยาน มอเตอร์ไซค์ คน เดินข้ามและกลับรถ
   มีสะพานลอยข้ามแยกทุกแยก จนถึงดอนเมือง เริ่มจากสะพานลอยสุทธิสาร ลาดพร้าว เกษตร ไล่ไปจนถึงสนามบินดอนเมือง ยุคนั้นมันก็เป็นช่องทางด่วนกลายๆ อยู่แล้ว สิบล้อ มอไซ วิ่งทางขนานล้วนๆ เลนทางด่วนนี่สวรรค์เลย
   แต่ทุกวันนี้ล่ะ ให้ใครก็ไม่รู้มาทำสัมปทาน จากทางตรงยาวๆ ต้องการเป็นเลี้ยวไปเลี้ยวมาหลบตอม่อ Toll Way ถนนกว้างๆ ก็ต้องแบ่งไปเป็นทางขึ้นทางด่วน (หน้าสโมสรทหารบก) จุดนี้ผมเรียกว่าอัปยศเลยนะ ลองดูภาพมุมสูงเอาเอง ออกแบบได้ทุเรศ เอาใจคนทำทางด่วนล้วนๆ โดยไม่สนใจประชาชนสัญจรหลักเลยแม้แต่น้อย ทั้งโครงการ Toll Way นี่แม่งคือออกแบบมาเพื่อขายพืนที่ถนนให้เอกชนชัดๆ แล้วทุกวันนี้เป็นไง ค่าขึ้นแม่งแพงสัส แถมรถติดหนักเหมือนเดิม
   ไอเดียผมจะชอบทางสัญจรทางน้ำนะ อยากบูรณะคูคลองทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ ให้แต่ละเขตไปทำแผนพัฒนากันขึ้นมาแล้วนำมาพรีเซนต์ แค่นี้เราก็จะได้หลายๆ ไอเดียแล้ว คลองใหญ่ๆ ที่เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาก็สามารถทำเรือไฟฟ้าเป็นเรือทัวร์ขับพาเที่ยว เอามาแทนที่เรือหางยาวที่ทั้งเสียงดัง และที่น่าเกลียดสุดก็คือต้องมีผ้าใบสีฟ้าขึงด้านข้างกันน้ำกระเด็น
   เฮ้ยย กันน้ำก็จริง แต่มันกันวิวที่นักท่องเที่ยวมองด้วยนี่นา ไอเดียใครวะนี่ โหดสัสเลย
   ออกแบบใหม่ ปรับเป็นเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่หน่อย ติดแอร์ ใช้พลังงานไฟฟ้า วิ่งไปไกลๆ ถึงอยุธยาแม่งเลย จัดเป็นทัวร์ท่องเที่ยวซะเลย อย่ามาว่าเว่อร์ มันเป็นไปได้จริง ถ้าผู้นำประเทศเขาเอาด้วย
   คุยเรื่องการออกแบบเมืองแล้วยาวครับ มีไอเดียจะปล่อยของอีกเยอะ
   ผมเห็นคลิปโฆษณาของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำออกมาตอน “ผัดไทย” ดูแล้วอึ้งแดก สมแล้วครับที่ผมชมว่าหน่วยงานนี้คือที่สุดของประเทศไทยแล้ว ทำออกมาได้แจ๋วโคตรๆ บอกเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวของไทยผ่านผัดไทยจานเดียว !!!
   คนแบบนี้แหละครับที่มีศักยภาพที่จะมาบริหารประเทศไทย
   เย็นนัดพบมิวที่เดอะมอลล์ ผมไปธนาคาร แวะซื้อขนมปังเลี้ยงปลาด้วย รีบไป รีบกลับ ผมโคตรเหนื่อยเลย
Title: Re: กพ 59
Post by: O'Pern on February 08, 2016, 04:23:05 pm
7 กพ 59
   เฮ้ยย หนาวววว ตอนเช้าที่บ้านราว 15C ผมรีบออกไปวิ่งทันที ลองปรับเซนเซอร์นาฬิกาใหม่ให้เป็น Low วิ่งไป 2 ชม ขำขำ เหงื่อออกแค่นิดเดียวแบบซึมๆ จากนั้นก็นั่งสมาธิกลางแดดสัก 5 นาที ถอดเสื้อนั่งตากแดดเลยนะ
   วิ่งไปประมาณชั่วโมงละ 10000 ก้าว (9500) ลองดูการคำนวณระยะทางและแครอลี่พบว่าใกล้เคียงกับการวิ่งบนลู่ที่ฟิตเนส เลยเหมาเอาเองว่าผมปรับตั่งค่าทุกอย่างลงตัวดีแล้ว อาจจะเหลือแค่เรื่องของระยะก้าว เพราะตอนผมเดินมักจะก้าวยาวๆ แต่ตอนวิ่งจะสั้นลงกว่านั้นหน่อย เพื่อลดอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก มันต่างกันแค่ 3 ซม
   ไปวัดให้อาหารปลาต่อ หิ้วขนมปังไปสองถุงใหญ่ เจอคนพิการขานั่งขอทาน เลยนึกอธิฐานแล้วให้เขาไป 20 บาท ก่อนให้อาหารปลาก็อธิฐานให้เจ้ากรรมนายเวร รวมถึงขออภัยคนที่ผมทำผิดต่อเขาทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แล้วก็ขอให้อภัยคนที่เขาร้ายกับผมทั้งที่เขาขอขมาและไม่ได้ขอขมา
   หยิบขนมปังโปรยลงไปทีละกำๆ รู้สึกแปลกๆ ขนมปังนุ่มมากๆ เฮ้ย วันนี้เป็นขนมปังชิ้นๆ อย่างดีเลยนะ ทุกทีจะเป็นขอบแข็งๆ และเศษที่ไม่เป็นทรง แต่วันนี้เหมือนกับว่าเป็นขนมปังแบบตัดผิดแบบน่ะครับ ไม่รู้ว่าตัดชิ้นใหญ่หรือเล็กเกินไป มันเป็นขนมปังผสมงาดำ หยิบกินแล้วอร่อยมากเลยล่ะ แถมก้นๆ ถุงยังมีขอบของขนมปังช็อคโกแลตติดมาอีกจำนวนหนึ่งด้วย อย่ากระนั้นเลย ยักเก็บไว้กินบ้านสักหน่อยละกัน
   แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊เค็งแถวบ้าน แต่วันนี้เขาหยุด และหยุดยาวไปถึงวันพุทธโน่นเลย อ้าว ผิดคิวเลยกู แล้วจะกินอะไรดีล่ะนี
   กลับเข้ามาบ้านเปิดตู้เจอแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบสำเร็จรูป เลยเอามาอุ่นราดข้าวกิน แหวะ แม่งไม่อร่อยเท่าไหร่เลย ลองเอาขนมปังมาจิ้มแกงกินดูก็งั้นๆ แกงไม่เด็ดขาด จะกินยังไงก็อร่อยยากนะ
   ฝืนกินจนหมดจานครับ เสียดายของ นี่ยังเหลือแกงแบบนี้อีกถุงเลยนะ
   เอาขนมปังมากินต่อเลยครับ กินเปล่าๆ ไปเยอะเลย เฮ้ยย แม่งอ้วนนะ แป้งล้วนๆ เลย
   อยู่บ้านคนเดียวอีกแล้ว และไม่มีอะไรจะกิน นอกจากขนมเก่าๆ ที่เหลืออยู่ และขนมปังที่ยักกลับมาบ้าน จัดไปครับ มีอะไรก็กินอันนั้น กินดีๆ มาตลอด กินงี่เง่าแค่วันเดียวไม่เป็นไรหรอก
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ
Post by: O'Pern on February 09, 2016, 06:23:07 pm
8 กพ 59
   ตื่นเช้า 0430 ไม่ออกวิ่ง ร้านหยุด เลยออกไปส่งมิวพร้อมกับภรรยาแต่เช้า ส่งเขาที่โรงเรียนแล้วก็พาภรรยาไปหามื้อเช้ากินกันที่บางลำพู แต่ร้านยังไม่เปิด ไปเช้าเกินมั้ง เลยไปไหว้ที่ศาลเจ้ากวนอูแถวร้าน เป็นครั้งแรกที่ผมมาไหว้แบบเป็นทางการที่ต้องจุดธูปกันสิบกว่าดอก พร้อมถวายน้ำมันตะเกียง ศาลเจ้าเล็กๆ ที่ผมมาบ่อยอยู่แล้ว แต่วันนี้มีผู้คนทยอยมาไหว้กันเยอะกว่าปกติ
   ไปธนาคารอีกแล้ว วันหยุดนี่ชีวิตก็ยังต้องวนเวียนอยู่กับธนาคาร วันนี้ไปถึงสองแห่ง ใช้เวลานานพอดู แล้วก็เลยไปชำระภาษี แต่ว่าสำนักงานเขาย้ายไปอยู่ตึกฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ 1 กพ มาแล้ว เลยไปซอยละลายทรัพย์ (สีลม) ก่อน กะว่าขากลับขับรถผ่านค่อยแวะก็แล้วกัน
   ไปถึงอย่างหิวโหย ภรรยาชวนกินบะหมี่ต้มยำ แต่ผมว่าร้านนี้ไม่ค่อยอร่อย ภรรยาบอกรสชาติพอใช้ได้ เดินเล่นหาซื้อของกินของใช้ ผมพาภรรยาเดินไปยังฝั่งตรงข้ามของถนนสีลม ที่เป็นตลาดเล็กๆ อีกแห่ง อยู่ในซอยสีลม 10 ไปได้เสื้อกันลมมา 2 ตัว ตัวละ 20 บาท ราคาถูกดี เลยซื้อมาแบบไม่ต้องคิดมาก จะได้ใส่ตอนไหนยังไม่รู้เลย เป็นเสื้อกั๊กแขนกุด ใส่แล้วเหมือนจะไปขี่มอไซรับจ้าง แต่ผมว่าเอาไปหลอกขายกันในเวปได้สัก 300-400 สบายๆ เพราะทรงสวย สภาพดี
   เดินกันอยู่จนบ่าย กินกลางวันกันที่กัลปพฤกษ์ ซอยประมวล ข้างๆ กรุงเทพคริสเตียน ขากลับแวะเสียภาษีที่ต้องขับรถผ่าน แล้วก็เข้าบ้านมาอย่างเพลียเลย ตาจะปิด ง่วงฉิบเป๋ง อยากหลับ
   เย็นออกไปรับมิว จอดรถที่ตลาดยอดพิมาน ผมไม่เคยขับรถยนต์เข้ามาเลย ไม่กล้าด้วย ไม่รู้จะจอดตรงไหน อย่างไร เห็นเขาโฆษณาว่าจอดได้ 300 คัน ผมงี้งงเลย เอาแค่ 30 ยังเหนื่อยเลย
   ขับต่อคิวเข้าไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจ เขามีลิฟท์จอดรถนี่เอง เขาให้เราขับเข้าไป เราก็ทำตาม ตั้งลำอย่างดี แต่ไม่รู้ว่าเราต้องลงมาจากรถแล้วมันจะนำไปเก็บให้เอง ไม่เคยเจอแบบนี้ไง เคยเห็นแต่ลิฟท์โบราณที่แค่พาขึ้นไปชั้นบนเฉยๆ เราต้องขับไปจอดเอง แต่ของที่นี่หาที่จอดให้เราอีกด้วย แค่ขับเข้าไปแล้วดับเครื่อง ล็อครถแล้วเดินออกมาได้เลย
   ก็เดินออกมาแบบงงๆ แต่ในใจถามว่า แล้วรถกูจะไปอยู่ตรงไหน อย่างไร แล้วขากลับต้องทำยังไง
   ไปรอมิวที่โรงเรียนแล้วเดินกลับมาที่ยอดพิมาน เดินเล่นดูบรรยากาศและการก่อสร้าง มันก็โอเคดีเลยนะ แต่ชั้นล่างช่วงริมแม่น้ำดูทึบไปหน่อย ไม่โปร่งโล่ง เลยไม่สบายตา แต่ก็เข้าใจครับ เพราะว่าคลื่นจากเรือกระทบกำแพงตลอดเวลา เขาทำกำแพงทึบก็เพราะต้องการกันคลื่น แต่ถ้าเป็นผม จะทำกำแพงแบบโปร่งที่กันคลื่นได้ด้วยแทน
   ให้ภรรยาเลือกร้าน เลยลงเอยที่ร้าน mango tree อาหารรสชาติดีครับ ผมสั่งลาบซี่โครงหมู ปลากะพงทอดขมิ้น ต้มยำกุ้ง และแสร้งว่ากุ้ง อาหารราคาแพงครับ เสิร์ฟข้าวฟรี เป็นข้าวกล้องผสมข้าวขาว (ผสมข้าวกล้องนิดเดียว)
   ติดใจรสชาติลาบซี่โครงหมูเลยนะ ทำแบบแห้งๆ เลย หอม นุ่ม มีน้ำจิ้มแบบแจ่วมาให้ด้วย แต่ผมว่าไม่ต้องจิ้มก็อร่อยแล้ว ร้านนี้ทำออกมาสไตล์ฝรั่งครับ เป็นร้านในเครือของ “โคคา สุกี้” แต่ปรับลุคเสียจนดูไม่ออกว่าเป็นร้านในเครือเลย พนักงานใส่โจงกระเบนสีดำ โครงสร้างร้านทำสไตล์ Loft ผมเลือกนั่งด้านนอกชานใกล้ริมน้ำ แต่ไม่ถึงกับชิดติดขอบนะ เขาเว้นที่ให้คนเดินชมบรรยากาศทั่วไปเดินเข้ามาได้ถึงหน้าร้านเขาเลย ในขณะที่อีกหลายๆ ร้านเอาโต๊ะของตัวเองไปตั้งชิดติดริมขอบระเบียงเลย แต่เราก็ไม่รู้กฎระเบียบของทางสถานที่เขาหรอกนะ จะไปวิจารณ์ว่าใครผิดถูกคงไม่ได้ มันเป็นสถานที่ส่วนบุคคล
   ปกติผมไม่กินมื้อเย็น วันนี้ซัดไป 2 จานเลย อร่อยมากๆ ต้มยำกุ้งหอม เข้มข้น ออกหวานนิดๆ ผมซัดจนเห็ดหมดจาน และกินเครื่องต้มยำ เนื้อกุ้งให้ภรรยากิน
   ส่วนปลากระพงทอดขมิ้นนี่ไม่เท่าไหร่ เนื้อปลาไม่สดเท่าของที่บ้านผมทำเอง ทำออกมารสชาติอร่อยขนาดไหน แต่เนื้อปลายุ่ยเปื่อย มันก็ดูงั้นๆ ดีตรงที่เขาทำออกมาแห้งๆ ไม่มีน้ำมันเยิ้มๆ เหมือนพวกตามร้านอาหาร
   สังแค่นี้แหละครับ พร้อมน้ำเปล่าอีก 2 ขวด คิดเงินออกมา 1990 หึหึ เล่นซะกูขนลุกเลย
   ขากลับเด่นเล่นบนดาดฟ้าชั้น 2 ตั้งแต่ฝั่งโรงเรียนราชินีไปจนสุดฝั่งสะพานพุทธ ชมวิวบรรยากาศ ทำออกมาใช้ได้เลยนะ อากาศหนาวๆ เย็นๆ ด้วยมั้ง เลยทำให้อะไรๆ ก็ดูดีไปหมด
   ขากลับไปรับรถที่ช่องจอดรถเดิม ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที เขากดรหัสแล้วให้เราไปยืนรอรับรถอีกช่อง ผมก็ไปยืนรอฝั่งขวาด้านคนขับ แต่พอประตูลิฟท์เปิดออกมาต้องงงเลย เพราะมันกลับรถให้เราด้วย
   เฮ้ยย สุดยอดมาก ผมไม่รู้ว่าระบบมันทำงานอย่างไร แต่ทึ่งเลยล่ะ คิดว่าอีกหน่อยต้องมีรายการทีวีมาขอถ่ายทำแน่ๆ
   กินแพง จอดไม่นานนัก (ราว 2 ชม) เลยได้จอดฟรี
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ
Post by: O'Pern on February 09, 2016, 06:31:05 pm
9 กพ 58
   ลมหนาวล็อตสุดท้ายแล้วสินะ ระลอกนี้มีมาแค่ 2 วันเอง น้อยจังเลย เช้านี้เลยรีบสูดอย่างแรง วิ่งไป 1 ชม ใส่นาฬิกาเรือนใหม่สารพัดจะวัดด้วย สนุกดี มีอะไรให้ดูระหว่างวิ่ง แต่มันก็ทำให้เราเสียสมาธิได้ง่าย อย่างวันนี้มองไปมองมา แม่งมีช่วงหยุดนับก้าวด้วย เฮ้ย งงเลย เฮ้ย มึงเจ๊งหรอ
   วิ่งไป 1 ชม ตอนเช้าหนาวมาก แต่ยังดีที่ไม่มีลม ไม่เหมือนเช้าวันอาทิตย์ นั้นโหดสัสเลย ลมแรงแบบกูงี้เล่นเรือใบได้เลย เช้านี้เลยหยิบเอาเสื้อกันลมที่เพิ่งซื้อมาจากเมื่อวานในราคา 20 บาท (ของมือสอง) มาใส่ รู้สึกพอดีตัวเป๊ะ มิวดูแล้วบอกว่าเหมือนเสื้อชูชีพเลยพ่อ พ่อเอามาใส่เล่นเรือใบแน่เลย
    เห็นมือเช้าแล้วอ้าปากค้างเลย เฮ้ยย “ต้มยำกุ้ง” !!! แม่บ้านไม่รู้ว่าผมเพิ่งกินไปเมื่อคืนนี้เอง
   จัดไปแบบไม่ต้องลังเลครับ เอางาดำมาโรยข้าว แถมด้วยหมูหยองอีกนิด กินจนเห็ดและเครื่องต้มยำหมด เหลือเนื้อกุ้งไว้เพียบเลย กินกับไข่เจียวอีกครึ่งจาน กระเทียมสดสิบกว่าหัว
   เช้านี้ถนนโล่ง แม้ไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะหยุดทำงานกัน ขับรถสบายดีครับ เพลินๆ เลย
   วันนี้มิวให้อยู่รอรับเขากลับบ้านด้วย เขาเลิกเรียนบ่ายๆ เพราะมีงานรับประกาศเกียรติคุณ มิวได้ 2 ใบ คือด้านความรับผิดชอบ และด้านคุณธรรม เขาจะเลิกตอนบ่าย ผมเลยรออยู่ที่ร้าน ช่วยงานไปพลาง
   ยังดีที่เอาส้มไหว้เจ้ามากินด้วย 3 ผล ตอนอยู่ร้านนี่ต้องทำงานจุกจิกตลอด ไม่ค่อยว่างนั่งกินข้าวยาวๆ เลย ผลก็คือกินแต่ขนมจุบจิบ กูลิโกะป็อกกี้ โดโซะ ถั่วอบ ถั่วทอดแบบแผ่น ขนมปังกรอบ ฯลฯ จะมาอ้วนก็ได้ตรงนี้แหละครับ
   รอจนบ่ายสามมิวโทรมาบอกว่าให้กลับได้เลย ไม่ต้องรอ เขาจะกลับบ้านกับเพื่อน ผมเลยเดาว่าคงจะเจอผู้ปกครองเพื่อนและมิวขอติดรถมาด้วย อ้าววว น่าจะบอกตั้งแต่กลางวันนะนี่
   มิวเข้ามาบ้านตอนเย็น บ่นว่าเหนื่อย บอกว่าเดินเท้ามาจากแยกมไหศวรรย์ เขานังรถเมล์มากับเพื่อน พอรถติดที่แยกมไหศวรรย์ เพื่อนก็ชวนลงเดินกันมา มิวก็เอากับเพื่อนด้วย เด็กสองคนเลยเดินกลับบ้านมาด้วยระยะทางเกือบ 5 กม และแบกเป้อีกกว่า 5 กก
   ผมเลยชมเชยเขา บอกว่าดีแล้ว เดินเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก ควรทำบ่อยๆ แต่เดินเพื่อเลี่ยงรถติดมันเอาไว้ใช้กับตอนที่มันใกล้ถึงบ้านแล้ว ถ้าจะเอาเร็วน่ะ ยังไงอยู่บนรถที่ติดก็ถึงบ้านเร็วกว่าเราเดินนะ
   มิวเอาประกาศเกียรติคุณมาอวด ผมบอกให้เอาไปเก็บอย่างดี หลังจากจบโรงเรียนนี้ไป ลูกจะภูมิใจกับมันมากขึ้นกว่านี้อีก
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ
Post by: O'Pern on February 11, 2016, 05:50:36 pm
10 กพ 59
   ออกวิ่งอีก ลมหนาวจะไปแล้ว ขอสูดอีกสักฟอดนะ สวมเสื้อกั๊กออกวิ่งด้วย เฮ้ย ชักชอบ ผ้ากันลมเนื้อบางเบา แถมมีกระเป๋าซิบอีก 3 ใบแนบอยู่กับเสือด้านหน้า อ่านดูดีๆ ด้านหลังเขียนว่า Himalayan Outdoor  Extreme โหห อย่างโหดเลยนะนั่น ส่วนยี่ห้อนี่ไม่คุ้น อ่านยาก แต่ตัวเสื้อนี่ดูดีมีราคาแพงๆ เลยล่ะ
   ซัดไปอีก 1 ชม เบิร์นได้ราว 320 Kcal ครับ จำนวนพลังงานขนาดนี้พอๆ กับกินขนมถุงเดียวเอง ถ้าคิดตื่นๆ อาจจะบอกว่าวิ่งฟรี เหนื่อยเก้อ ก็ไม่ผิดอะไร แต่นั่นคือคนที่เขาดูเรื่องการเผาผลาญอย่างเดียว
   แต่การออกกำลังกายมันช่วยทั้งระบบเลยนะครับ เริ่มตั้งแต่ บริหารความจุปอด ลิ้นหัวใจ เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การหมุนเวียนของเลือดทั้งร่างกาย ปรับสมดุลของระบบความดันเลือด ฟื้นฟูสภาพของเส้นเลือดฝอย เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น ร่างกายจะทรงตัวดีขึ้น หกล้มได้ยากขึ้น ระบบน้ำเหลืองช่วยนำพาของเสียไปทิ้งได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณดีขึ้น ภูมิคุ้มกันร่างกายดีขึ้น ผลที่ตามมาก็คือไม่เจ็บป่วยง่าย ไม่เป็นหวัดง่าย คนเป็นภูมิแพ้ก็จะอาการดีขึ้น
   สำหรับผมแล้ว ชอบตรงที่สมองเราคิดอะไรเจ๋งๆ ได้ในขณะออกกำลังกาย เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เกิดสมาธิ ปัญหาอะไรที่ค้างคาใจมักจะคิดทางออกได้ง่ายๆ ขณะออกกำลังกาย ทั้งเรื่องชีวิต และธุรกิจ รวมไปถึงไอเดียวแปลกใหม่ ผมได้มาจากตอนออกกำลังกายล้วนๆ ไม่ว่าวิ่ง หรือจักรยาน และเรือ 
   การวิ่งยังทำให้เราดื่มน้ำมากขึ้น ยิ่งถ้าหายใจเป็นด้วยแล้ว รับรองว่าสุขภาพจะดีขึ้นอีกมากๆ วิธีการหายใจของผมมีหลายรูปแบบ เริ่มจากหายใจสูดลึกๆ เต็มที่แล้วกลันไว้สัก 2 วิ แล้วค่อยๆ ผ่อนออกช้าๆ ทำแบบนี้สัก 10 ครั้ง
   ตอนวิ่งก็หายใจตามจังหวะก้าวของเท้า อาจจะ 4 ก้าวหายใจเข้า 1 ครั้ง และหายใจออกภายในระยะ 4 ก้าวเช่นกัน อาจสลับเป็น 6 หรือ 8 บ้าง สูตรนี้ผมคิดเองนะ ทำเพื่อการบริหารปอดล้วนๆ เป็นการเพิ่มความจุปอด ผลที่ตามมาคือหัวใจทำงานดีขึ้นไปด้วยครับ ล่าสุดผมบังคับให้หัวใจเต้นได้ต่ำสุด 35 ครั้งต่อนาที จากสภาวะปกติ 50 ครั้งต่อนาที นี่ผมคิดวิธีของผมเองนะ มันเวิร์คสำหรับผม แต่กับคนอื่นที่สภาพร่างกายต่างกันผมไม่รู้ ไม่เคยไปบอกใครให้เขาลอง
   ผมชอบฝึกอะไรแปลกๆ กับตัวเอง และคิดค้นหาทฤษฎีใหม่ๆ เพราะผมไม่เชื่อหนังสือที่อ่านเจอ ยิ่งบทความในอินเทอร์เนทด้วยแล้วนี่ไปกันใหญ่เลย ต่อให้เป็นของฝรั่งเองก็มั่วเยอะครับ กลายเป็นว่าเราได้ข้อมูลเร็วกว้างแต่ไม่ถูกต้อง หาความจริงได้ยาก หากจะอ่านบทความใดๆ ก็จะต้องดูว่าใครเป็นผู้เขียน ไม่งั้นเสียเวลาครับ โปรดทำแบบนี้ทั้งสื่อไทยและต่างชาติ อย่าคิดว่าฝรั่งต้องถูกเสมอไป ไอ้นี่แหละตัวมั่วเลย ชอบเอาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมาผสมรวมกันแล้ว rewrite ใหม่ขึ้นมา ให้คนคิดว่าตัวมันเขียนเอง คิดเอง โชว์สกิลเอง
   อ้อ ยังมีเรื่องของจิตใจเข้ามาเกี่ยวด้วยนะ มันทำให้จิตใจผมแกร่งขึ้น ยกตัวอย่างตอนผมจะขี่จักรยานขึ้นอินทนนน์ ผมเป็นแค่คนขี่จักรยานธรรมดาๆ ไม่ใช่นักกีฬาอะไรเลยสักนิด ขี่ก็แค่ขำขำ ผมชอบบรรยากาศตอนขี่เท่านั้น และไม่เคยขี่ขึ้นภูเขาใดมาก่อนเลยอีกด้วย ผมซ้อมวิ่งไปเพราะต้องการให้ร่างกายและจิตใจแข็งแกร่ง ครั้นพอถึงวันขี่จริง ผมซัดจนผ่านถึงเส้นชัย มีจอดพักบ้าง ไม่มีการเข็น (ไปอ่านย้อนอารมณ์ในวันที่ 15 กพ 52 / เฮ้ย นี่ผมบันทึกไดอารี่มาถึง 7 ปีแล้วหรือวะนี่)
   คุยเรื่องออกกำลังกายและสุขภาพกับผมนี่คุยได้ยาวมากครับ รวมไปถึงเรื่องอาหารการกินด้วย
   เช้านี้กินเนื้อปลาเก๋าผัดฉ่า ไอ้นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดเลยนะ ในจานมีมะเขือเปาะ มะเขือพวง พริกไทยแบบเมล็ด กระชาย ผมกินกับไข่ต้ม เอาหมูหยองมาโรยหน้าข้าวกล้องในชาม ให้มันช่วยตัดความเผ็ดนิดหน่อย
   วันนี้รัฐบาลประกาศปรับราคาภาษีบุหรี่ขึ้น แต่ร้านผมไม่ได้ขายบุหรี่ เลยไม่กระทบอะไร แต่เดาว่าอีกหน่อยอาจจะปรับภาษีเหล้าตาม ร้านผมมีขายเหล้าด้วยนะ ช่วงปรับภาษีนี่วุ่นวายมาก ลูกค้าโทรมาจะขอซื้อราคาเก่า ทั้งๆ ที่เราโดนราคาใหม่จากโรงงานมาเรียบร้อยแล้ว จะถ้ามีข่าวว่าราคาจะขึ้นจริงๆ นะ โรงงานแม่งไม่ส่งของเฉยเลย สั่งแล้วก็ไม่ส่ง โอนเงินให้แล้วล่วงหน้าก็บอกยกเลิกออเดอร์หน้าตาเฉย ให้รอจนกว่าจะรู้ราคาใหม่ แล้วถึงจะส่งของให้
   บ่ายไปเสียภาษีโรงเรือนที่สำนักงานเขตคลองสาน พอจอดรถปุ๊บเจ้าหน้าที่รีบมาถามว่าติดต่อฝ่ายใด ผมบอกมาชำระภาษีโรงเรือนครับ เขาชี้ไปชั้น 2 เลย จะว่าบริการดีก็ใช่ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น เพราะเขากลัวคนมามั่วจอดรถมากกว่า
   ขึ้นไปชั้นสอง เจ้าหน้าที่สอบถามถนนที่ร้านค้าตั้งอยู่ แล้วบอกว่ารอเดี๋ยวนะ แล้วเขาก็แชทประมาณ 3 นาที อาจมีธุระสำคัญหรือคุยติดพัน แค่ 3 นาที ผมไม่ซีเรียส แต่หลังจากนั้นเขาหยิบเอกสารมาดู แล้วบอกว่าให้ผมไปชำระเงินที่ชั้น 1 แผนก One Stop Service
   อ้าว งงสิ ไม่ดูเอกสารกูแต่แรกล่ะวะ
   ขับรถตอนบ่ายนี่แดดอย่างร้อนเลย จำได้ว่าบ่นไปหลายครั้งหลายหนมาก รถผมไม่ได้ติดฟิล์มอะไรเลยไง อาศัยเป็นกระจกแบบ Super Fine Coating แต่ไม่รู้ว่าสเปคมันจะกันหรือกรองอะไรได้มากน้อยเพียงใด ร้อนก็ทนไปครับ รีบๆ ขับ เดี๋ยวก็ถึงบ้าน ทนมาตั้งแต่ปี 98 แล้วนี่นา ถึงวันนี้ก็แค่ 18 ปีเท่านั่นเอง
   ห๊ะ ผมใช้ไอ้คันนี้มา 18 ปีแล้วหรือวะนี่
   กลางคืนเป็นห่าไรไม่รู้ หิวหนักเลย กินแตงโม ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ ไม่ได้กินกลางคืนมานานมากแล้วนะ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ
Post by: O'Pern on February 11, 2016, 05:52:24 pm
11 กพ 59
   นอนไม่ดึก แต่ตื่นสายได้ด้วย งงเลย เช้านี้ทำได้แค่ขี่จักรยาน 20 นาทีเท่านั้นเอง ไม่ได้ออกแรงอะไรมากนัก แต่ก็บริหารลมหายใจแทน
   ลมหนาวค่อยๆ จะจากไปอีกครั้ง เช้านี้ยังพอได้อยู่นะ แต่ความเย็นมันลดลงไปมากเลย ขี่จักรยานไป ไปสวดมนต์ไปด้วยก็มี ทำสมาธิ ฝึกจิต แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้แค่คนที่เขาเคยทำไม่ดีต่อผมทั้งที่เขารู้ตัวและไม่รู้ตัว ตั้งใจและไม่ตั้งใจ อโหสิกรรมให้เขาแล้วก็คิดขออโหสิกรรมให้แก่ตัวเองที่ไปทำกับคนอื่นทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจด้วยนะ แต่เรื่องอโหสิกรรมนี่ผมจะนึกถึงบ่อยๆ ตอนให้อาหารปลาไปด้วย ให้เราเลิกแล้วต่อกันทั้งภพนี้และภพหน้า
   คนอื่นอาจคิดว่าวิ่งเป็นการออกกำลังกาย แต่สำหรับผมแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ ดังที่บอกไปเมื่อวานนี่
   ทั้งหลายทั้งปวงในชีวิตนี้ จะสุข จะทุกข์ มันขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเราเองล้วนๆ ครับ การคิดแบบนี้ยังนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตด้วยนะ
   เช้ากินน้ำกระชาย สักพักก็กินข้าว วันนี้ดีเยี่ยมเลย เป็นแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ใส่เห็ดเข็มทอง และใบตำลึง
   วันนี้มีการเปิดงาน “กะดีจีน-คลองสาน” เป็นงานพัฒนาเมืองตามแบบที่ผม “ปล่อยของ” ไปเมื่อวันที่ 6 กพ 59 นี่เอง แนวคิดนี้ดีนะ ผมไม่รู้ใครเอาไปทำเหมือนกัน สมัยก่อนก็นำเสนอโครงงานผ่านทางสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทยไป
   ปล่อยไปหลายชุดอยู่เหมือนกันนะ คือผมขี่จักรยานตั้งแต่มันยังไม่ฮิตด้วยไง คนรุ่นนั้นก็เจอพบเจอกันบ่อยมาก ยุคแรกของสวนรถไฟที่เพิ่งเปิดใหม่ๆ มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างชาวจักรยานและคนเดิน ตอนนั้นมีข่าวจะห้ามขี่จักรยานในสวนเลยนะ พวกเราไปเข้าร่วมประชุมกันเกือบ 100 คัน ผลก็คืออย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือแบ่งเลนกันอย่างชัดเจน
   ตอนไปตลาดอัมพวาก็มีไอเดียพัฒนาชุมชนและตลาดน้ำให้ยั่งยืน เขาเอาไปทำบ้างหรือยังก็ไม่รู้ ไม่ได้ไปหลายปีแล้วเหมือนกัน    
   มิวเริ่มกลับบ้านเองด้วยรถเมล์แล้ว นั่งกับเพื่อนมาลงที่แยกบางปะแก้ว แล้วเดินต่อมาถึงบ้านอีกราว 2 กม
   ผมกลับมาบ้านตอนเย็น รู้สึกเบื่อๆ ชีวิต มองดูตัวเองแล้วไม่เห็นการพัฒนาอะไรขึ้นมาสักนิด
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 12, 2016, 06:50:52 pm
12 กพ 59
   ออกวิ่งสร้างแรงบันดาลใจ หาจิตนาการ หรือจะอะไรก็สุดแท้แต่ วิ่งแล้วผมมีความสุขมากที่สุดในช่วงเวลาของวัน
เช้านี้จัดไป 1 ชม สูดลมหายใจลึกๆ ตามจังหวะก้าวเท้า 4 บ้าง 5 บ้าง 6 บ้าง จากเดิมถนัดที่ 4 ตอนนี้กลายเป็น 5 แล้ว อืม เริ่มพัฒนาแล้วสินะ
คงมีคนไม่กี่คนแน่ๆ ที่สวด แผ่เมตตา ทำสมาธิ อุทิศส่วนกุศล และอีกสารพัดอย่างขณะวิ่งออกกำลังกาย มันคงเป็นการวิ่งแบบ All in one แน่ๆ
เช้ากินเนื้อปลาเก๋าผัดขิงใส่คึ่นฉ่าย ไข่ต้ม กระเทียมสด ข้าวกล้อง ก่อนออกจากบ้านเห็นบริเวณท้ายรถมีสีนูนๆ ไปดูก็ตกใจ เฮ้ยย สีแม่งปูด นูน ลอกออกมาเป็นแผ่นเลย ที่เกิดเหตุคือฝาท้ายด้านหลัง ชิ้นนี้เคยทำสีมาแล้วตอนทีสปอยเลอร์หลังผุ เลยโป๊วปิดรูแล้วทำสีใหม่ น่าจะหลายปีพอดูนะ ใกล้เคียงสิบปีได้ นี่ผมต้องหาร้านทำสีมาช่วยแล้วสินะ
เช้าไปถึงร้านก็เข้าโกดังยกของตามเคย โชคดีมีคนงานมาช่วย 3 คน เลยสบายหน่อย ไม่ต้องยกเองเยอะ
กลางวันมีช่างไฟมาซ่อมไฟในโกดัง ผมรับผิดชอบไปนั่งเฝ้าช่างทำงาน ก็ดูเขาทำงานไป คุยกับเขาไป ช่างบอกของเก่าเดินไฟไว้ผิดหลายจุดเลยนะ ถ้าเจอคนไม่รู้ระบบไฟมาซ่อมรับรองโดนไฟดูดตายแน่ คือเดินสายไฟไปในแต่ละจุด แต่ใช้สายดินต่อเข้าสวิทช์เปิดปิดแทน แบบนี้แปลว่าที่หลอดไฟจะมีไฟมาเลี้ยงตลอดเวลา ตอนปิดไฟก็จะเห็นแสงเรืองๆ ออกมาจากหลอดไฟ
บ่ายรถติดแถวปากคลองตลาดหนักมาก แต่ไม่ต้องห่วง เพราะพรุ่งนี้จะหนักยิ่งกว่า แต่ละคนแห่ไปหาซื้อดอกกุหลาบนั่นเอง
วันนี้มีการแถลงข่าว “ไขปริศนาของคลื่นแรงโน้มถ่วง” สอดคล้องกับทฤษฎีของ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว รายละเอียดเยอะมาก เล่าไปกลัวผิด เอาเป็นว่ามันเกี่ยวกับจักรวาลทั้งระบบเลยล่ะ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 16, 2016, 07:03:58 pm
13 กพ 59
   กลางคืนลุกขึ้นมาดุหมาที่เห่าเสียงดัง ผลที่ตามมาก็คือตื่นสาย เช้านี้เลยทำได้แค่กายบริหารเล็กน้อย
   เช้ากินผัดผักบุ้ง ปลาสลิด ออกจากบ้านสายกว่าเดิมนิดหน่อย ต้องรอมิวด้วย วันเสาร์มีเรียนพิเศษ ผมไปส่งที่รถไฟฟ้า แต่เช้านี้รถติดเว่อร์ คงจะติดมาจากว่าพ่อค้าแม่ค้าไปซื้อดอกไม้ที่ปากคลองตลาด ต้อนรับวันวาเลนไทน์พรุ่งนี้
   รถติดหนักมาก ส่งของได้ช้า วันนี้ขายดีอีกด้วย สินค้าเข้าออกเต็มหมด ผมต้องเข้าไปลงของในโกดัง 2 รอบ ผมอยู่ร้านจนถึงเย็นถึงจะได้ไปธนาคาร เลยอยู่รอรับมิวซะเลย
   ที่เดอะมอลล์มีรถยนต์มาจอดโชว์ (ขาย) เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสเข้า Mazda CX3 เลยฝากของให้มิวถือ แล้วผมเข้าไปนั่งในรถ
   เฮ้ยย ผมรู้สึกแปลกๆ ว่ะ อารมณ์เหมือนตอนเรากำลังทำหนังสือ Racing Club อยู่เลย เหมือนกับว่าเรากำลังจะต้องขับรถทดสอบ กำลังทำบทความงานเขียน ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่ผมจับรถคันอื่นๆ เหมือนกับว่าเราเกิดมาเพื่อขับรถทดสอบยังไงยังงั้น
   ไม่ใช่แค่อยากขับเล่นสนุกๆ นะ แต่อยากขับแล้วเอาข้อมูลมาเล่าบอกต่อพี่น้องผู้อ่าน อยากหาจุดอ่อน ข้อบกพร่อง รวมไปถึงข้อดีข้อเสียที่เจอระหว่างนั้น
   เกรงใจลูกรอนาน มิวเขาไม่ได้รู้สึกชอบอะไรในเรื่องรถยนต์ ผมดีใจมากเลยนะที่เขาไม่ชอบ
   แวะซื้อครัวซองต์ให้ภรรยา ขอซื้อขอบขนมปังด้วย แต่ทางร้านเขาหมดแล้ว ว้า อดเลย มาเย็นเกินไปสินะ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 16, 2016, 07:08:05 pm
14 กพ 59
   ออกวิ่งไป 2 ชม (0530-0730) ตื่นเช้าหน่อยก็มีเวลาวิ่งนานหน่อย พอแดดออกเท่านั้นแหละครับ แม่งร้อนจัดเลย ผมว่าผมวิ่งจนอยู่ตัวแล้วนะ ดูจากความเหนื่อยน่ะครับ คือวิ่ง 2 ชม หรือ 1 ชม มันก็เหนื่อยไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ที่เห็นชัดคือปริมาณของเหงื่อนี่แหละ
   กายบริหารที่สถานีเครื่องเล่นเฉพาะส่วนต่อ เล่นอย่างละนิดละหน่อย สภาพเครื่องออกกำลังกายเสื่อมโทรมลงมาก เล่นแล้วไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่
   แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊เค็งก่อนเข้าบ้าน วันนี้ที่บ้านไม่มีอะไรกินแน่นอน ดี(แม่บ้าน)กลับบ้านเกิดไปต่อหนังสือเดินทาง 2-3 วัน แปลว่าผมจะไม่มีมื้อเช้าดีๆ กินอีก 2-3 วันเช่นกัน
   เข้ามาบ้านเจอไก่ย่าง ตับย่าง ข้าว วางอยู่ เอ๊ะ แม่เอามาฝากผมหรือเปล่านะ แต่ผมกินอิ่มมาแล้ว เลยปล่อยมันไว้อย่างนั้นก่อน
   
   กลางวันแม่เข้ามาบ้านบอกให้ผมช่วยจัดการคลุกข้าวให้หมา อ้อ ไอ้ไก่และตับย่างที่เห็นเมื่อเช้านี้มันคืออาหารของไอ้ถุงเงินถุงทองสินะ
   อยู่บ้านไม่มีอะไรกิน เลยกินแต่หนม เมื่อวานตุนไว้เสียเยอะเลย
   บ่ายดูรายการขับซ่า 34 ช่องอมรินทร์ TV วันนี้ทดสอบรถโปรดของผมครับ Mazda MX-5 ดูแล้วโคตรอิจฉาสุรมิสเลย ใครเจอผมฝากบอกด้วยนะว่า “กูอิจฉามึง” คนที่รู้จักผมมานานจะรู้ว่าผมผูกพันกับเจ้ารถคันนี้อย่างมาก
   ผมดูรายการนี้มาสักพักแล้ว รู้สึกชื่นชมทุกฝ่ายในการผลิตนะ ทำออกมาได้ดีเลยล่ะ สุรมิสเองก็หน้าตาดี บุคลิกดี หุ่นดี และที่ดีมากที่สุดคือน้ำเสียง การพูด ท่าทางการแสดงออก บอกได้เลยครับว่าคนนี้จะเป็นอีกคนที่ดัง
   รายการทีวีจบไปแล้ว สุรมิสก็จะต้องทำงานชิ้นใหม่ต่อไป แต่ใจผมสิ มันกลับยิ่งอยากสัมผัสเจ้า ND ตัวนี้มากยิ่งขึ้น
   ที่ผมชอบไม่ใช่แค่มันเป็นรถรุ่นใหม่หรอกนะ แต่เป็นเพราะมันเอาคอนเสปของตัว NA กลับมาทำใหม่ คือรถกลับไปขนาดเล็กลงอีกครั้ง และที่ชอบมากสุดคือการวางเครื่องยนต์แบบ Front Mid Engine และหลังคาแบบ Soft Top แบบ One Hand Operated
   แต่ราคาแม่ง 2.7 ล้านแน่ะ และจะตกใจกว่านั้นหากรู้ว่าราคาที่ญี่ปุ่นก็คือ 2.7 ล้านเยน !!!
   เฮ้ยย ราคาสามเท่าของประเทศญี่ปุ่นเลยนะ ทำให้ผมสนใจที่จะนำเข้ามาเองเลย แต่ถ้าให้เอาเข้ามา ผมอยากได้ตัวเครื่อง 1.5 MT นะ แต่ถ้าคิดถึงเรื่องอะไหล่ในระยะยาวก็ต้องเล่นเครื่องตัว 2.0 AT แบบนี่มีขายในบ้านเรา จะได้ใช้อะไหล่ตัวเดียวกันหมด
   คงได้แต่ฝันล่ะนะ เงินหมดนานแล้วครับ ไม่มีเงินให้ไปคิดทำอะไรอีกต่อไปแล้ว
   
   วันนี้มีอีเว้นท์ดีๆ คือการบูรณะคลองเปรมประชากร ด้วยการเติมน้ำหมักจุลินทรีย์ ตักขยะออก อันนี้ดีเยี่ยมมากครับ ขอชมเชย แต่ต้องทำหลายๆ คลองด้วยนะ น้ำมันเชื่อมโยงถึงกันหมด ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ครับ
   คุยเรื่องน้ำหมักจุลินทรีย์นี่ผมนึกถึง “หมอศรทรง” เจ้าของ Black Knight สารหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่ผมทดสอบสมัยทำ Racing Club เพราะหมอเป็นนักประดิษฐ์ตัวยงเลยครับ หมอเป็นคนที่คิดค้นจุลินทรย์ปรับสภาพน้ำในคลองแสนแสบตั้งแต่ยุคที่มันดำเน่าเหม็น จนมันหายเหม็น (แต่ยังคงดำอยู่) พอกลิ่นหายไปก็พอจะสัญจรทางน้ำได้บ้าง
   น่าเสียดาย หมอเสียชีวิตรถตกน้ำไปสิบกว่าปีแล้ว ไม่งั้นผมคงมีงานประดิษฐ์ใหม่ๆ มาอวดอีกแน่ๆ หมอเป็นคนฉลาดที่สุดที่ผมรู้จักมาเลยล่ะครับ
   ทางถนนสีลมก็มีการปิดถนนเปิดร้านค้า แต่ผมไม่รู้ว่าจัดเป็นงานแบบใดบ้าง โดยรวมถือว่าดีเลยนะ จัดแนวนี้บ่อยๆ ครับ แต่ว่าจะให้ดีต้องมีธีมงานครับ ไม่งั้นมันจะขายของกันแบบสะเปะสะปะ สุดท้ายก็มั่ว
   เช่นเดียวกับคลองลัดมะยมที่ชาวบ้านช่วยกันพัฒนากันขึ้นมา เหล่านี้ต้องให้คนในชุมชนเขาร่วมมือด้วยครับ เออ แต่แอบเม้าท์หน่อยนะ อาหารตลาดนี้ยังไม่เข้าขั้นนะ
   เย็นขับรถพาพ่อแม่ไปกินข้าวที่สวนหมาก (ศูนย์อาหาร)  ผมไม่ได้เลือกอาหารที่อร่อยสุดนะ แต่จะเลือกอาหารที่มีเนื้อสัตว์น้อยสุด ใช้น้ำมันน้อยสุด แล้วก็ได้ของเดิมๆ มากิน
   เปาะเปี๊ยะสด ยังดีที่มีต้นหอมสดเกือบสิบต้น
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 16, 2016, 07:13:55 pm
15 กพ 59
   ออกวิ่ง 1.15 ชม วันนี้ไม่ต้องรีบกลับเข้าบ้าน ไม่มีมื้อเช้าให้กิน ฉะนั้นก็วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ไปหาของกินแถวร้านแทน
   ถึงร้านนี่ผมรีบขี่จักรยานไปตลาดเลย ได้น้ำเต้าหู้มาสองถุง ใส่ลูกเดือย และใส่ถั่วแดง กลัวไม่อิ่ม เลยจัดข้าวเหนียวปิ้งมาอีก 3 ชิ้น หึหึ เล่นจะแทบจุก
   อยู่ร้านก็ทำงานแบบเดิมๆ กลางวันไปธนาคาร วันนี้รีบเข้ามาบ้าน ทำงานบ้านครับ แม่บ้านไม่อยู่
   กลางคืนเริ่มหิว กินแลคตาซอยรสช็อคโกแลตที่แม่เอามา (ของแถม) เป็นสินค้าตัวอย่าง กล่องขนาดจิ๋วน่ารักดี รสชาติเหมือนนมช็อคโกแลตเลย ดูไม่รู้ว่าเป็นนมถั่วเหลือง กินแค่นี้ยังไม่หายหิวหรอก เลยตามด้วยทาโร่ (ปลาเส้น) และอัลมอนด์อบอีกสองกำมือใหญ่ๆ หึหึ กูจะอ้วนก็เพราะกินก่อนนอนนี่แหละนะ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 16, 2016, 07:15:43 pm
16 กพ 59
   ออกวิ่ง 1.15 ชม เป็นอีกวันที่ไม่ได้กินมื้อเช้าที่บ้าน เลยมีเวลาวิ่งได้นานหน่อย
ไปถึงร้านก็ออกหาของกิน วันนี้แย่กว่าเมื่อวานอีก ได้มาแค่น้ำเต้าหู้ใส่ลูกเดือยและถั่วแดง กินไปกับถั่วโก๋แก่ ไม่น่าเชื่อว่าถุงก็ไม่ใหญ่อะไรมากมากนัก ซัดหมดถุง ไม่น่าเชื่อว่าได้พลังงานมาตั้ง 510 Kcal แน่ะ
   วันนี้ไปธนาคารแต่เช้า รีบโอนเงินซือสินค้าน่ะครับ ซือของทุกวันนี้มีแต่ต้องโอนเงินก่อนทั้งนั้น แล้วเขาจะมาส่งเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมของเรา 
   เป็นอีกวันที่ได้เข้ามาบ้านเร็ว แต่ก็เพราะแม่บ้านไม่อยู่ เข้ามาให้อาหารหมา อาหารปลา เก็บกวาดบ้าน พับผ้า ตากผ้า ฯลฯ
   จะแวกกินก๋วยเตี๋ยวเจ๊เค็งแถวบ้าน แต่จอดรถไม่ได้เลย ข้างถนนเต็มไปหมด อดแดก ซวยไป โคตรหิวเลย
   ถึงบ้านนี่กินแต่ของจุบจิบ เน้นดื่มน้ำเยอะๆ มีถั่ว Maruti เก็บไว้หลายเดือนแล้วนะ เพราะผมอยากรู้ว่าหากเก็บถึงใกล้วันหมดอายุ รสชาติจะเป็นอย่างไร สินค้าหมดอายุเดือน 6 เหลืออีก 4 เดือน ลองเอามากิน รู้สึกว่าไม่ค่อยหอมอร่อยเหมือนตอนใหม่ๆ แล้ว รีบบันทึกข้อมูลเพื่อไปบอกทางเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยด่วนเลย
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 17, 2016, 06:44:52 pm
17 กพ 59
   นอนก็ไม่ดึก แต่แปลกมาที่ไม่มีแรงลุก เฮ้ย เกิดไรขึ้นวะ หรือว่าเราจะเพลียสะสม เพราะวิ่งหนักตั้งแต่วันอาทิตย์ จันทร์ และอังคาร พอมาวันนี้เลยหมดแรง
   หรือจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้กินข้าว กินแต่พวกของจุบจิบ ถั่ว และน้ำเต้าหู้วะ    
   เช้านี้เลยออกขี่จักรยานแทนครับ ขี่ไปแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง เป็นอีกวันที่ไม่มีมื้อเช้ากิน แม่บ้านกลับมาแล้ว แต่ในครัวสิโล่งเลย
   ไปถึงที่ทำงานก็ขี่จักรยานไปซื้อน้ำเต้าหู้มากิน จัดแบบเดิมๆ มาเป็นวันที่ 3 ติดกันแล้วนะ
   วันนี้เข้าโกดังสองรอบ เช้า บ่าย เข้าไปเอาของออกมาขาย บ่ายเอาสินค้าใหม่เข้าสต๊อค เสร็จก็ต้องไปธนาคารต่ออีก กว่าจะเสร็จสิ้นงานทุกอย่างก็ราว 0230 กลับถึงบ้าน 0300
   แผนที่วางไว้เป็นอันต้องพังครืน วันนี้มีงานเปิดตัว Honda Accord ที่โรงแรมแถวราชดำริตอน 0300 ผมตั้งใจจะไปเลยนะ เพราะเป็นรถญี่ปุ่นค่ายแรกที่เชิญผมมานับตั้งแต่ผมหยุดผลิต Racing Club (มีเพียงค่าย Mercedes Benz และ BMW Motorrad เท่านั้นที่เชิญผมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลายงานผมจะไม่ได้ไปร่วมด้วย
   เป็นอันว่าไม่ได้ไป ไปก็ไม่ทันแล้ว ผมไม่ได้สนใจอะไรในตัวรถมากมายนัก แต่สนใจตรงที่เขาเชิญผมนี่สิ
   เซ็งๆ เบื่อๆ เลยกินข้าวเหนียมมะม่วงซะเลยนี่ เอาถั่ว maruti มาโรยหน้าข้าวเหนียวกินด้วยกันอีกด้วย เพิ่มรสชาติขึ้นอีกนิด แต่วันนี้ลองรส Classic รสชาติไม่หอมแล้ว คงเป็นเพราะรส Classic มันไม่มีเครื่องเทศมากลบกลิ่นเหมือรสต้มยำที่ผมกินเมื่อวานมั้ง
   งมเครื่อง Macbook Pro ผมนี่อย่างโง่เลยนะ มีโปรแกรมทำนามบัตร ทำเสร็จ 1 ใบ แต่ก็อปไปแปะให้เต็มแผ่นไม่เป็น โง่สัสส มาวันนี้ล่าสุดกำลังหาข้อมูลเรืองเรือ เจอโปรแกรม mackeeper ขึ้นมา บอกว่าเครืองเรากำลังโดนไวรัส ให้กำจัดด่วน ผมพิจารณาดูสักพัก ดูแล้วน่าเชื่อถือดี เลยกดโหลดซะ แต่รู้สึกแปลกๆ เลยหาข้อมูลดู กลายเป็นว่าไอ้ห่านี่แหละครับคือตัวไวรัส !!!
   สาดดดด กูยังทำอะไรกับเครื่องไม่เป็นเลยนะ นี่ต้องมาหาทางกำจัดแม่งอีก แล้วกูจะทำเป็นไหมวะนี่ งมอยู่นานเลยล่ะ ไอ้เครื่องแมคนี่มันมีกี่ไดร์ว อะไร ยังไง ก็ไม่รู้เรื่องเลย มีไดร์ว C หรือ D หรือเปล่าวะ เวลาผ่านไป 30 นาที 
จนในที่สุดกูก็สำเร็จ เย้ๆ ๆๆ ๆ ๆ โคตรดีใจเลย กูจำชื่อมึงฝังใจเลยล่ะไอ้ mackeeper
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 19, 2016, 05:43:29 pm
18 กพ 59
   ออกวิ่ง 1.10 ชม เดินอีก 5 นาที แล้วก็กลับเข้าบ้าน
   เฮ้ย มื้อเช้าอย่างดีของผมกลับมาแล้วนะ วันนี้มีผัดผักบุ้ง ปลาสลิดทอด
   เช้านี้ยกของอย่างสาหัส สินค้าเต็มเพียบคันรถ โชคดีหลังไม่เจ็บ รอดตัวไป
   กลางวันกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ได้กินใบโหระพา 3 ช่อใหญ่ๆ ได้กินผักแล้วรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
   วันนี้มิวสอบวันสุดท้ายของมัธยม 2 ทั้งห้องพากันไปกินเลี้ยงที่ตึกใบหยก 2 เลี้ยงอำลาครูประจำชั้นด้วย สอบเสร็จก็ออกเดินทางกันเลย กินกันอย่างสนุกสนาน ถ่ายรูปเล่นกันจนผมอิจฉา ขากลับรถมาส่งที่โรงเรียนตอน 0830 เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้เจอครูประจำชั้นแล้วสินะ คงคิดถึงน่าดู ครูคนนี้ดีมากๆ ด้วย
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 19, 2016, 05:44:50 pm
19 กพ 59
   นอนดึก ตื่นสาย อดวิ่งสิ ทำได้แค่เดินสูดหายใจลึกๆ แค่แป๊บเดียวเองก็กลับเข้ามาบ้านแล้ว
   เช้ากินแกงจืดหมูสับใส่เห็ดเข็มทอง แครอท ผมกินแต่ผักจนเกลี้ยง เหลือหมูไว้เพียบเช่นเคย อ้อ มีไข่เจียวอีกฟอง ได้กินของแบบนี้แล้วค่อยรู้สึกดีหน่อยนะ    
   ยกของยามเช้าอีกแล้วนะ หนักน่าดูเลย กูล่ะโคตรเบื่อชีวิตแบบนี้เลยว่ะ เจ้าของร้านบอกว่าเราไม่ต้องยก ให้คนงานทำ แต่แหม แล้วเมื่อไหร่แม่งจะเสร็จล่ะนี่
   คิดบวกครับ คิดว่ามันคือการออกำลังกาย ไม่ต้องไปเช้าฟิตเนสด้วยนะ
   วันนี้มิวอยู่บ้าน เสร็จงานจากร้านก็ไปธนาคารแล้วรีบเข้ามาบ้านเลย มาอยู่กับเขา ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยอยากจะอยู่กับเราแล้วก็ตาม เขาอยากอยู่กับอินเทอร์เนท แชท โซเชียล ฯลฯ มากกว่า
   
   บ่าย รยสท (ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย) (มีในพระบรมราชูปถัมถ์ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ) โทรมาเชิญเข้าร่วมประชุมกรรมการตัดสินดริฟท์ในวันอังคารที่ 23 เวลาบ่ายโมง อ้าว เฮ้ย ช่วงเช้าผมมีงานของ Mercedes Benz เปิดตัว C Class Coupe อยู่เลยนะนั้น
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:04:05 pm
20 กพ 59
   นอนเร็วนะ แต่กลับไม่มีแรงลุก เฮ้ยย งงเลย สงสัยเป็นเพราะเมื่อวานเย็นซ้อมดนตรีอย่างโหดถึง 4 ชม เต็ม เช้านี้เลยได้แค่เดินสูดลมหายใจลึกๆ อยู่พักหนึ่งเท่านั้นเอง
   เช้านี้กินฮื้อก๊วยผัดกระเพรา รสชาติไม่เข้ากันเล้ยยย แต่ก็กินๆ เข้าไป ของดีๆ มีประโยชน์ล้วนๆ 
   แม้จะสอบเสร็จแล้ว แต่มิวยังคงไปเรียนพิเศษอย่างสม่ำเสมอ น่าจะได้รับรางวัลดีเด่นเลยนะ
   นั่งคุยกันในรถก็ปลุกไฟความฝันในตัวเขาให้ลุกโชน ให้เขาเห็นเป้าหมายอย่างชัดเจน แต่ระยะหลังมานี้มิวดูจะไม่ค่อยจริงจังกับความฝันเท่าไหร่นักเลย ฝันมีไว้ล่านะลูก ไม่ได้มีไว้คุย
   ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าแล้วผมก็ไปร้านขายของต่อ ชีวิตแบบเดิมๆ ที่แสนน่าเบื่อก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่วันนี้รู้สึกเบื่อมากขึ้นกว่าทุกทีเลยนะ อาศัยคิดบวกก็แล้วยังเอาไม่อยู่
   เช้านี้ยกของจากโกดังอีกแล้ว เล่นล็อตเล็กๆ แล้วกลับไปทำงานที่ร้าน อยู่จนถึงบ่ายแก่ๆ เลยล่ะ กินส้มไป 2 ลูก รู้สึกดีหน่อยนะที่ได้กินผลไม้ ส้มไทยๆ แม้จะว่าไม่ใช้ของแพง แต่ก็มีประโยชน์สูงมากๆ เลยล่ะครับ อย่ามองข้ามของใกล้ตัว รวมไปถึงกล้วย มะละกอ และผลไม้ตามฤดูกาล แต่ถ้าผลไม้หวานจัดเราก็อย่าไปกินมันเยอะมากนักในคราวเดียว
   บ่ายไปธนาคารในห้างเดอะมอลล์ เสร็จแล้วรีบไปซื้อขอบขนมปังมา 2 ถุง เข้าซูปเปอร์ซื้อถั่วและของเซลล์เล็กน้อย สักพักมิวมาพอดี เลยรับมิวกลับบ้าน
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:07:15 pm
21 กพ 59
   ตื่นสายอีกแล้ว เลยออกวิ่งหน้าบ้านแทนก็แล้วกันวะ จัดไป 1.40 ชม ตอนแรกกะจะวิ่งถึง 2 ชม แต่แม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊เค็งมาฝาก เลยหยุดวิ่งแล้วกลับมากิน
   ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่ต้องรีบกินครับ ไม่งั้นไม่อร่อย แบบคนละรสชาติกันเลยล่ะ เพราะความเหนียวนุ่มของเส้นจะหายไปเป็นอันดับแรก จากเส้นที่ลวกมาอย่างดี กลายเป็นเส้นขาดๆ อืดๆ ผักนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย มันจะมีกลิ่นอบอับออกแนวเหม็นเขียว
   วันนี้เลยไม่ได้ออกไปเลี้ยงปลาครับ ขนมปังยังอยู่ท้ายรถ คงต้องรอวันถัดไปแล้วล่ะครับ
   วันนี้ว่างเลยเปิดเครื่อง macbook pro เริ่ม “งม” การใช้งานพื้นฐานของมันที่ผมยังโง่อยู่อีกหลายเรื่อง ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือเรื่องการ “คลิกขวา” ของเมาส์ ผมยังหาวิธีทำในเครื่องแมคไม่ได้เลย โง่สัสสสส
   วันนี้มีแข่งเรือใบที่สโมสาราชวรุณ พัทยา ผมไม่ได้ไปดู ไม่ได้ไปแข่ง แต่ชอบบรรยากาศที่สโมสรเรือใบแห่งนี้มากๆ ดูแล้วเหมือนอยู่เมืองนอก
หัวค่ำภรรยาชวนกินข้าวผัดแหนมที่เขาซื้อมากล่องใหญ่ ให้มาเยอะ กินไม่หมด เลยเรียกผมไปช่วยกิน เข้าไปคำแรกน้ำตาแทบไหล สัสสสส รสชาติห่างไกลความเจริญมากเลย แต่ก็ทนๆ กินไป รสชาติจืดๆ ไม่มีความหอมข้าวผัด เลยเอาหมูหยองมาโรยปรุงรส ค่อยยังชั่วหน่อย กินไปเรื่อยๆ เงียบๆ รอให้ภรรยากินหมด แล้วถึงเอ่ยปากบอกเขาว่า
ไปซื้อร้านไหนมาหรอ จะไปเผามัน
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:10:28 pm
22 กพ 59
   เฮ้ย ผมเป็นเหี้ยไรวะนี่ ตื่นแล้วแต่ไม่อยากลุกซ้ำอีก อิดออดสักพักก็ลุกนะ แต่วันนี้เปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทน จัดไป 1 ชม เหงื่อออกนิดๆ ผมไม่ค่อยถนัดเดินเท่าไหร่นะ รู้สึกตัวเองชินกับการวิ่งเบาๆ มากกว่า แต่ก็ทำสลับๆ กันไปครับ ผมมีความเชื่อว่าไม่มีการออกกำลังกายใดดีที่สุด ฉะนั้นเราต้องทำหลายๆ อย่างสลับกันไป
   วางแผนไว้กลางคืนว่าเช้านี้จะไปกินกันที่ตลาดบางน้ำผึ้ง ทำบุญที่วัดบางน้ำผึ้ง และไปเดินหาซื้อของใช้กันที่ Decathlon สาขาใหม่ที่ Lotus บางนา
   เอาเข้าจริงมิวเบี้ยวเฉยเลย นอนไม่ยอมตื่น ไม่ยอมลุก ปลุกก็ไม่ตื่น บอกง่วงๆ ๆ ๆ
   เอ้ย งงเลย มิวไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากฝืนครับ คนไม่อยากไป จะให้ทำอย่างไร
   อ้อ ลืมบอก วันนี้ร้านผมหยุด ถึงมีเวลาว่างพาครอบครัวไปโน่นนี่ได้
   เป็นอันว่าไปกันสองคนกับภรรยา มื้อเช้าเลยกินที่ Food Land ซะ ง่ายๆ ดี แต่ราคาก็ไม่ถูกนะ ชื่อร้านถูกและดี แต่ราคาแม่งเริ่มแพงมากแล้ว สุกี้แห้งกุ้ง 114 บาท มั้ง
   กินเสร็จก็ไปที่ Lotus บางนาเลย ขับไปแบบไม่คุ้น สุดท้ายคือออกทางขนานผิด เลี่ยวเข้าห้างไม่ได้ ผมรีบชิดซ้ายเตรียมถอยทันที ภรรยาก็ช่วยหันไปดูรถจากในซอยว่ามีคันใดจะออกมาไหม ผมจะได้เบรกทัน คือรู้คิวกันมากแบบไม่ต้องบอกเลย นี่คือเซนส์ของคนที่ขับรถเป็นครับ คือผมจะมองได้แค่กระจกหลัง ด้านหลังทั้งหมดไง ผมมองรถที่จะออกจากซอยไม่เห็นแน่ๆ ซึ่งมันอันตรายสุดๆ เลยล่ะ
   ค่อยๆ ถอยช้าๆ จนเข้า Lotus ได้ ขึ้นชั้น 2 ไปที่ Decathlon ทันที เห็นครั้งแรกผมตะลึงในความกว้างใหญ่ เฮ้ยย ใหญ่เว่อร์ ของเยอะสัสส ต่างจากสาขาเดิมที่ตึกบางนาทาวเวอร์คนละโลกเลย ข้าวของเยอะมากๆ มีหลายหมวดหมู่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ชอบๆ
   เห็นอะไรเป็นต้องหยุดดู สนใจก็หยิบมาลอง แต่ขอบ่นว่าห้องลองแม่งกากสัสเลยนะ น่าจะทำเป็นห้องดีๆ หน่อย มีกระจกบานใหญ่ๆ แบบสาขาเดิม แต่นี่แม่งใช้ผ้าม่านมาขึง แถมไม่มีกระจกให้ส่อง เฮ้ยย กูงง แบบมึงไปใส่กางเกงแล้วต้องเดินออกมาส่องกระจกที่อยู่ด้านนอกที่อยู่ไกล กางเกงเก่าก็แขวนแม่งในซุ้มนั่นแหละ โคตรตลกเลยว่ะ ผมว่าอีกหน่อยเขาต้องปรับปรุงเรื่องห้องลองแน่ๆ
   เดินแยกกันดูกับภรรยาเลยล่ะ ขาขั้นเขาก็ชอบแนววิ่งออกกำลังกายเหมือนกัน จัดมาไม่น้อย ส่วนผมได้รองเท้าถูกใจมา 2 คู่ (แต่อีกคู่เสือกลืมหยิบใส่ตระกร้า ไว้คราวหน้าไปค่อยจัด / ถ้ามันยังรอผมอยู่) นอกนั้นก็คือเสื้อยืดกีฬาแบบผ้าแห้งเร็ว ถุงเท้า กางเกงกีฬา อ้อ ได้หมวกปีกกว้างผ้าแห้งเร็วมา 1 ใบ เอาไปใส่ตอนเล่นเรือใบ ปิดท้ายด้วยยางยืดสำหรับออกกำลังกาย
   ประหลาดใจตอนคิดเงิน เฮ้ย เขาคิดค่าถุงด้วยว่ะ ถุงขนาดเล็กคิด 1 บาท ถุงใหญ่คิด 4 บาท
   งงมาก คิดทำไมให้เสียความรู้สึกเปล่าๆ ซื้อของคราวนี้ไป 8000 กว่าบาท แต่มาคิดค่าถุง 4 บาท
   เข้าใจนโยบายว่าไม่อยากให้ลูกค้าใช้ถุงพลาสติคนะ แต่มันดูแปลกๆ นิดๆ นะ ลองคิดดู ตัวเองก็ไม่ใช่ร้านแบบซูปเปอร์มาเก็ตเหมือน Lotus นะ
   เดินกันอยู่ถึง 4 ชม ครับ นานมากๆ เพลินเลยล่ะ นี่ยังดูไม่ละเอียดเลยนะ ออกมาเพราะภรรยาบอกเริ่มหิว กินร้านแม่ศรีเรือน แต่รสชาติงั้นๆ มากเลย ก๋วยเตี๋ยวชามละ 45 บาท ขนาดพอๆ กับที่บางน้ำผึ้งที่ชามละ 15 จุดนี้ผมเข้าใจเพราะมีค่าที่ ค่าเช่า ค่าแบรนด์ แต่ขอโทษ รสชาตินี่ยังเทียบบางน้ำผึ้งไม่ได้เลย และอีกนานกว่าจะตามได้ทันด้วย
   นี่ผมกินร้านแม่ศรีเรือนตั้งแต่สมัยชามละ 3 บาท ร้านเป็นเพิงหลังคามุงจาก โต๊ะไม้แบบบ้านๆ ต่อกันเอง เก้าอี้ม้านั่นยาวนั่งรวมกันหลายๆ คน จนปัจจุบันแม่ศรีเรือนพัทยากลางเป็นตึกใหญ่โต ร้านเดิมที่ผมบอกก็อยู่ตรงข้ามตึกนั่นแหละครับ
   ขากลับซื้อ KFC ไปฝากมิวด้วย พอถึงบ้านก็รื้อข้าวของที่ซื้อออกมา แล้วถึงรู้ว่าผมลืมหยิบรองเท้าที่สีดำที่ลองอย่างดิบดีมาด้วย (ไม่ได้หยิบเข้าตะกร้าจ่ายเงิน) หยิบรองเท้าสีเขียวมาดูก่อนเพื่อนเลย ชอบมากๆ คือแม่งดูแนวทหารดี ดูเก่าดี ผมชอบสีเขียวทหารอยู่แล้วไง
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:17:00 pm
23 กพ 59
   ออกวิ่งยามเช้า วันนี้วิ่งไป 1.45 ชม แถมด้วยเดินต่ออีก 10 นาที  อ้อ เช้านี้ลอง “ถุงเท้าวิ่ง” ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานด้วย บอกตามตรงว่าใส่แล้วไม่รู้เรื่องครับ แต่ดูจากดีไซน์แล้วก็เข้าใจ เพราะพื้นล่างฝ่าเท้าเขาทอให้หนา แต่ไม่ได้หนาทั้งแผ่นเลยนะ เขาทำแบบมีเว้นช่องว่างให้ระบายอากาศด้วย ด้านข้างและด้านบนทำเป็นแบบโปร่งๆ บางๆ
   ดีไซน์โอเคเลยนะ ด้านล่างหน้าออกแบบมาเพื่อความทนทาน ไม่ขาดเปื่อยง่าย แต่ก็เว้นช่องให้อากาศถ่ายเทได้ คือสามารถระบายเหงื่อและความร้อนได้ด้วย ส่วนด้านข้างและด้านบนที่โปร่งบาง อันนี้เพื่อระบายความชื้นและ
   วิ่งลากยาวนานๆ ก็ไม่เห็นถึงความต่างใดๆ จากถุงเท้าปกติ หรือเพราะผมใส่รองเท้าหลวมนิดๆ อยู่แล้วมั้ง อากาศมันถ่ายเทดีอยู่แล้ว
   เช้ากินผัดผักคะน้าน้ำมันหอย ไข่ดาว ข้าวกล้อง กระเทียมสด
   อาบน้ำแต่งตัวแบบไม่เร่งรีบ ออกจากบ้านสายหน่อย ผมเบี้ยวไม่ไปทำงาน เพราะตอนสายมีงานเปิดตั้ว Mercedes Benz C Class Coupe ที่เซ็นทรัลเวิร์ล
   ไม่ค่อยได้เข้าเมืองครับ ไปถึงเซ็นทรัลเวิร์ลนี่ผมอย่างงงกับที่จอดรถเขาเลยนะ เพราะผมไม่คุ้นไง วนอยู่ 15 นาทีถึงจอดได้ ทั้งๆ ที่เป็นแค่ตอน 1000 เท่านั้นเอง แต่ที่หนักกว่านั้นคือผมใช้เวลาถึง 15 นาทีในการเดินไปถึง Zen Event Hall ชั้น 8
   ไม่มีป้ายบอกไง ผมขึ้นลิฟท์ผิดฝั่งไป 2 ครั้ง ก็ต้องกดลงมาแล้วเดินหาลิฟท์ตัวใหม่ สุดท้ายกว่าจะเข้าไปในงานได้ก็ต้องทำให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในโซนของห้าง Zen เสียก่อน แล้วค่อยใช้ลิฟท์ หรือบันไดเลื่อนก็ว่ากันไป ง่ายๆ แค่นี้เอง แต่ผมโง่ไง ไม่เคยมาห้างนี้หลายปี
   ไปถึงก็ต่อคิวลงทะเบียนเลย เจ้าหน้าที่จัดเตรียมชุดเอกสารสำหรับนักข่าวที่เรียกว่า Press Kit ไว้ในถุงสีดำ เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างดี รับถุงมาปุ๊บ ผมรีบสำรวจ พบว่ามีแค่เอกสารตารางงาน และรายละเอียดรถเล็กน้อย ไม่มีโบร์ชัวร์ ไม่มีแผ่น CD ที่บันทึกไฟล์ภาพ และไฟล์เอกสารรายละเอียดของรถ 
   โห แบบนี้ต้องมีคนลงเนื้อข่าวผิดบ้างแน่ๆ เลย เพราะทุกวันนี้คนจะลงข่าวกันในเวป ในเฟซบุ๊คไงครับ มันไม่มีการตรวจสอบหลายขั้นตอนเหมือนการทำนิตยสารไง ที่เราจะมีฝ่ายพิสูจน์อักษรก่อนที่จะลงตีพิมพ์
   ปกติผมไปงานไหนก็ไม่เคยสาย มาวันนี้แหละครับที่สายไปนิด แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเวลาที่เขาเลทให้นะ คือมาถึงเกือบจะ 1030 กินเกี๊ยวกุ้งไปสองชิ้น ขนมจีบ 1 ชิ้น กำลังจะกินเค๊กหน้าตาแปลกๆ เจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้างานพอดี เลยยังไม่ได้กิน
   เข้าไปถึงห้องจัดงาน พบความประหลาดใจ เฮ้ยย ทำไมสถานที่ช่างเล็ก แคบ เช่นนี้ มีแค่เก้าอี้นั่งร้อยกว่าที่ สองแถวหน้าราว 20 ที่ สำหรับผู้บริหารของเขา และผู้ใหญ่ในวงการรถของไทย (พวกเจ้าของหนังสือและสื่อค่ายใหญ่) เหลือด้านหลัง 80 ที่ สำหรับสื่อมวลชน แต่แถวหลังสุดนี่ช่างภาพเขาเอาไว้วางอุปกรณ์กล้องกันเกือบหมด เป็นอันว่าเหลือเก้าอี้ที่นั่งได้แค่ 70 ที่เท่านั้นเอง
   เก้าอี้น้อย แถมห้องก็แคบอีกด้วยนะ แคบมากๆ ด้วยล่ะ ชนิดที่ว่าถ่ายรูปกันโคตรลำบากเลย ด้านหน้าของเก้าอี้ชุดนี้ก็คือ Mercedes Benz C Class Coupe ตัว Edition 1 และ AMG Dynamic
   เครื่องยนต์ 2.0 Inline 4 FR 211 แรงม้า ผมชอบสีพิเศษของมันที่เป็นสีไทเทเนียมด้านๆ ชื่อสียาวมาก ผมถามมาแล้วก็ลืมไปแล้ว ชื่อมันยาวกว่าสิบพยางค์อีกน่ะ สีเหี้ยไรก็ไม่รู้ ถ้าจะเอาสีนี้ต้องเพิ่ม 1 แสนบาท
   รถดูสวยดีครับ ช่วงแรกของงานคนเยอะมากๆ ผมต้องรอให้ผ่านพ้น 2 ชม ไปแล้วโน่น คนถึงน้อยลง ลองเข้าไปนั่งดูทันที ไม่สนใจว่าใครจะถ่ายรูปอะไรอีกแล้ว ลองปรับเบาะยกสูงสุดสามารถมองเห็นหัวรถปริ่มๆ ถ้าเป็นคนที่เตี้ยกว่าผมเยอะหน่อยอาจจะลำบากแล้วล่ะ ไม่ก็ต้องใช้ความคุ้นชินในการกะระยะรถเอา หรือจะใช้โหย่งตัวชะโงกตอนจอดก็โอเค
   แต่เอ๊ะ ผมเคยชินกับรถยุคเก่าๆ เกินไปหรือเปล่า ไอ้คันนี้มันอาจจะมีกล้องหน้ามาช่วยก็เป็นได้นะ อย่างน้อยก็ต้องมี Parking Censor รอบคันอยู่แล้ว โธ่ จะบอกให้ตกใจอย่างหนึ่งนะ ระบบ Head Up Display ยังมีให้เป็นออปชั่นเลยนะ !
   เบาะนั่งใช้หนังแบบหนาแข็งหน่อย ชอบตรงสามารถปรับช่วงรองต้นขาให้หดสั้นหรือยืดยาวออกได้ด้วย ตรงนี้สำคัญต่อจังหวะการควบคุมแป้นเหยียบมากๆ นะครับ คนตัวเล็กก็ต้องการเบาะที่สั้น คนตัวสูงก็ต้องการเบาะที่ยาวเพื่อรองรับต้นขาตัวเอง การกดแป้นทุกครั้งต้นขาของเราก็จะกดลงไปด้วย ถ้าเป็นรถรุ่นเก่าหน่อยที่ปรับตำแหน่งนี้ไม่ได้ เขาจะออกแบบเบาะบริเวณนี้ให้นุ่มกว่าปกติ
   จุดเด่นอีกอย่างของคันนี้คือเบาะหลังแบบแยกครับ ออกแบบคล้ายเป็นเบาะเดี่ยวเหมือนคู่หน้า ตรงกลางเป็นที่วางแก้วน้ำ แต่ผมว่าจุดนี้น่าจะมีชุดแต่งที่ทำเสริมเป็นกล่องเก็บของออกมานะ เพราะตำแหน่งวางแก้วน้ำมันต่ำมากๆ เลย
   C Class Coupe เป็นรถที่มีเสา B นะ ต่างจาก E Coupe และ S Coupe ที่จะเป็นรถที่ไม่มีเสา B แปลกดีไหมครับ รถเล็กแต่กลับมีเสา B เป็นเอกลักษณ์ของเขาอีกอย่างเลยนะ
   ระบบเชื่อมต่อและสั่งการผ่านหน้าจอนี่คืออีกจุดที่ผมยังไม่ได้เรียนรู้อะไรมากนัก แต่บอกได้เลยนะว่า ถ้าใครไม่คุ้นรถแนวนี้มาก่อน อย่าหมุนปรับแต่งเล่นขณะรถกำลังเคลื่อนที่ อันตรายมากๆ หากคุณจะละสายตาจากถนนมามองหน้าจอ
   รถคันนี้ไม่มีคันเกียร์ตรงกลางนะ เป็นคันเกียร์อยู่ที่คอพวงมาลัย ผมเองยังไม่เคยใช้รถแบบนี้สักครั้ง แม้ว่าเขาจะทำระบบเกียร์แบบนี้มาหลายปีแล้ว จุดนี้ยังไม่ขอวิจารณ์ครับ
   ทางด้านห้องเครื่องยนต์ ออกแบบช่องรับลมไอดีได้ดีมาก ลมจะอัดปะทะเข้าสู่ไส้กรองอากาศได้เต็มที่เลย เห็นรถหลายคันก็ออกแบบมาแนวนี้กันเยอะมากแล้วด้วย
   มีตำแหน่งของขั้ว + และมีฝาเลื่อนเปิดปิด ผมเดาว่าเอาไว้ให้จั๊มพ์ไฟนะ ผิดพลาดอย่างไรขออภัย แต่ดูแล้วเดา ไม่ได้ถามใครเขาเลย
   ตำแหน่งปลั๊กไฟทำได้ดีครับ อยู่สูงด้านบนหมดเลย น่าจะพอลุยน้ำท่วมแบบไม่เว่อร์แบบพอกลับถึงบ้านได้
   กลางวัน “ป๊อป” รุ่นน้องของไอ้บี๋ฝ่าย Product ชวนไปกินข้าวที่อยู่ห้องถัดไป เลยได้นั่งคุยกันพักหนึ่ง กินเสร็จก็มาดูรถต่อ คนเริมน้อยลง พอจะถ่ายรูปได้บ้าง แต่สถานที่มันแคบ แสงไม่สวย ถ่ายออกมาให้ดูดีได้ยากจริงๆ แต่ก็พยายามหามุมที่ดีสุดก็แล้วกันนะ
   บ่ายนั่งคุยกับ “ดอม” เพื่อนไอ้บี๋อีกแหละ คุยกันสารพัดเรื่องราว ดอมเป็นนักแข่งรถเก่ามาก่อนด้วย ก็เลยคุยกันตอนสมัยยุครุ่งเรือง โดยมีเด็กๆ รุ่นน้องนั่งฟังอยู่อีก 3-4 คน เล่าสารพัดประสบกาณ์ในสนามพีระฯ ผมพลอยนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ไปด้วย คุยไปคุยมา ดอมก็เล่าถึงผมให้เด็กๆ ฟังว่าเป็นคนแรกที่เขียนเรื่องดริฟท์ขึ้นมาเลยนะ ผมงี้เขินเลย เขียนคนแรกน่ะจริงครับ แต่เรื่องฝีมือผมสู้คลื่นลูกใหม่เขาไม่ได้แล้ว
   นั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยจนเกือบจะเย็น มิวเดินจากสยามมาหาถึงที่นี่ เลยแนะนำให้รู้จักกับลุงดอม ลุงบี๋ ฮ่าๆ ก่อนกลับผมเดินไปหาดอม บอกเขาไปตรงๆ ครับว่าผมอยากไปงานทดสอบรถด้วย ปกติได้รับเชิญเฉพาะงานเปิดตัวแบบวันนี้เท่านั้นเอง แต่ผมก็เกรงใจเขานะ เพราะงานทดสอบนี่ใช้งบสูง เขาจะเลือกเชิญเฉพาะสื่อใหญ่ๆ เท่านั้น ถ้าผมมี Racing Club อยู่ในมือน่ะพอไหว แต่วันนี้มันไม่เหมือนวันวานแล้วน่ะสิ ก็เลยขอเขาไปตรงๆ ซื่อๆ เลยล่ะครับ จะเรียกว่าขอโอกาสก็ได้นะ
   ดอมรับปากแล้วบอกว่าช่วงนี้ยังไม่มีอะไร แต่งานต่อไปคือการทดสอบ E Class
   Fun is just beginning
   กลางคืนผมปล่อยเพจของ racing-club.net ลงไปในเฟซบุ๊ค คืนเดียวมีไลค์เพจกลับมาเกือบร้อยคน ฮ่าๆ ดีใจๆ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:21:24 pm
24 กพ 59
   นอนเร็วแต่ตื่นสายอีกแล้ว แต่วันนี้ผมรู้เหตุผลครับ เพราะว่าก่อนนอนเล่นออกกำลังกายโดยใช้ยางยืดเล่นอยู่พักหนึ่ง ตอนนั้นก็ไม่เหนื่อยอะไรนัก เข้านอนก็แป๊บเดียวหลับ (กำลังทดลองวิธีการ “หลับภายใน 3 ลมหายใจ” / จากเดิมหลับได้ภายใน 10 ลมหายใจ)
   เอาจักรยานออกขี่ไปแค่ 20 นาที กินน้ำกระเจี๊ยบ แล้วสักพักก็กินมื้อเช้า วันนี้สุดยอดอีกแล้ว เป็นฉู่ฉี่เนื้อปลาเก๋า เด็ดตรงผักครับ บร็อคโคลี่ แครอท ไข่ต้ม กระเทียมสด ข้าวกล้อง กินแล้วก็รีบอาบน้ำออกเดินทางไปร้าน
   มิวไปด้วย เขาไปเรียนพิเศษ จัดไปครับ ระหว่างอยู่บนรถก็คือนาทีทองที่ได้นั่งคุยกัน
   “พี่อ้วน” ไม่มาทำงาน ผมเลยนั่งโต๊ะเช็คของหน้าร้านตลอดวัน ก็เบื่อๆ ดีครับ ทนร้อนเอาหน่อย (ทุกทีนั่งห้องแอร์) นั่งนานๆ มันร้อนผมก็เบื่อ เลยไปช่วยคนงานจัดของยกของ
   บ่ายกินราดหน้าอีกแล้ว กินบ่อยมากแล้วนะนี่ ไม่อร่อยเท่าไหร่หรอก แค่ดีตรงได้กินผักคะน้าเพียบๆ
   เย็นไปรับมิวที่รถไฟฟ้า มิวเล่าว่าเมื่อเช้ารถไฟฟ้าสายสุขุมวิทมีปัญหาขัดข้อง คนเลยแน่นมาก
   เข้ามาบานนี่ผมรีบเปิดคอมโอนย้ายภาพถ่ายของมิวเข้าไฟล์ของ ม2 เพราะเปิดเทอมหน้ามาอีกทีเขาก็จะ ม3 แล้ว มิวเองก็ยังบอกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก เลยได้ทีเตือนสติเขาให้จริงจังกับความฝันมากขึ้น
   เพราะผมสอนเขาว่าสิ่งที่มีค่ามากสุดในชีวิตคือเวลาครับ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:25:07 pm
25 กพ 59
   ออกวิ่ง 1 ชม วันนี้ทดสอบเสื้อกางเกงตัวใหม่ที่มีผ้าฉลุโปร่งมากกว่าเสื้อปกติทั่วไป เสื้อมีฉลุที่ไหล่ด้านหลังลงมาถึงลำตัวด้านข้าง ส่วนกางเกงฉลุต้นขาด้านลากยาวมาถึงเป้าเลย เด็ดขาดมาก ชอบมากจริงๆ
   เช้านี้ลมแรงมาก วิ่งสนุก เพลินเลย เหงื่อออกมานิดหน่อย เลยไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสื้อระบายเหงื่อดี หรือว่าลมมันพัดช่วยระบาย แต่ก็เป็นไปได้สูงที่ถูกทั้งข้อ ก และ ข
   ทดสอบแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ต้องทดสอบกันใหม่ พรุ่งนี้จัดใหม่
   เช้านี้กินเนื้อปลาผัดขิงและคึ่นฉ่าย ไข่ต้ม แครอท บร็อคโคลี่ลวก ข้าวกล้อง ผักเคียงนี่เป็นแนวเดิมๆ ทุกวันแล้วนะ
   ระยะนี้ออกจากบ้านสายหน่อย เพราะต้องรอมิวอาบน้ำแต่งตัวด้วย วันนี้คุยกันเรื่องวิกฤตนักบินของนกแอร์ที่ลาออกไป 17 คน ตลาดอาชีพนักบินนี้จะสดใสมากๆ ไปอีกหลายปี แต่อย่าดีใจไป เพราะมันก็ต้องมีนักบินเหมือนกับมิวออกมาอีกมากมายด้วย ทีนี้จะทำอย่างไรให้เขารับเราเข้าทำงานล่ะ ตัวเรามีจุดเด่นอย่างไรที่แตกต่างจากนักบินคนอื่น
   นั่นคือ “คุณสมบัติพิเศษ” เช่น พูดได้หลายภาษา แบบนี้เขาก็จะมีสิทธิบินได้หลายเส้นทาง การพูดได้หลายภาษาจะเด่นตรงการติดต่อกับหอควบคุมการบินของประเทศนั้นๆ
   นักบินที่เป็นหมอนี่ยิ่งเด่นเลย เพราะสามารถดูแลผู้โดยสารที่มีโรคประจำตัวได้ดีกว่าใคร
   นักบินที่รู้ภาษาของประเทศปลายทาง ก็จะกล่าวต้อนรับผู้โดยสารบนเครื่องเป็นภาษาถิ่นได้ ซึ่งมันดีกว่าพูดภาษาอังกฤษเป็นไหนๆ
   นักบินที่เก่ง แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีทักษะฝีมือการคุมเรื่องระดับสูง ก็จะได้บินในเส้นทางที่โหดกว่าคนอื่น แน่ล่ะ ยากกว่าก็จะทำให้เราเก่งกว่าคนอื่นขึ้นไปเรื่อยๆ อีกหน่อยก็จะเป็นครูฝึกบิน
   ลูกเองก็เช่นกัน ต้องไปหาคุณสมบั้ติพิเศษแบบนี้มาใส่ตัวเองไว้ให้มากๆ เราต้องมีในสิ่งที่นักบินคนอื่นไม่มี และเป็นที่ต้องการของตลาด
   ปิดท้ายด้วยการกระตุ้นฝันของเขา บอกว่าฝันมีไว้ล่านะลูก ไม่ได้มีไว้คุย อยู่เฉยๆ ฝันก็ยังคงเป็นฝัน มันไม่มาหาเราง่ายๆ หรอกนะ ลูกต้องออกไปล่ามัน
   ส่งมิวแล้วผมก็ไปร้านต่อ พี่อ้วนยังคงไม่มาร้าน และคงไม่มาอีกนานแน่ๆ ผมเริ่มรู้งาน ไปนั่งโต๊ะพี่อ้วนโดยที่ไม่มีใครสั่ง ตำแหน่งนี้ต้องคอยเช็คของเข้า และออกจากร้าน ช่วงเช้านี้อย่างวุ่นครับ ของเข้าก็มาเรื่อยๆ ของออกจากร้านก็ต้องเร่งรีบจัด ผมงี้แทบไม่ได้นั่งโต๊ะเลย ต้องช่วยคนงานจัดจะได้เร็วๆ และเช็คของไม่พลาด และตอนว่างยังต้องไปยกของในโกดังอีกชุด
   เริ่มวางลงตอนกลางวัน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่างนั่งกินสบายๆ นะ ว่างแบบแป๊บๆ เลยกินข้าวโพดต้ม น้ำเต้าหู้ ข้าวเกรียบงา เจอรถเข็นขายอะไรผ่านก็แวะออกไปดูน่ะ
   กว่างานจะเริ่มน้อยก็บ่ายแก่ๆ เลยไปธนาคาร ปกติก็จะกลับบ้านเลย แต่วันนี้ต้องกลับมานั่งโต๊ะเช็คของต่อจนถึงเย็น ไปรับมิวที่รถไฟฟ้า
   มาถึงบ้านอย่างหิวเลยนะ เปิดตู้เย็นซดน้ำกระเจี๊ยบ (ทำเอง หวานน้อย) ซดไปอึกใหญ่ยังไม่หายหิว กินถั่วอัลมอน์ดอีกชุดใหญ่ ตามด้วยนมแลคตาซอยช็อคโกแลตกล่องจิ๋ว (ของแถม) แล้วรีบเปิดคอมฯทำงานเขียนต่อ หัวสมองเริ่มต้องแยกประสาทไปหลายด้าน คืองานด้านรถยนต์ และงานด้านเรือ
   งานด้านรถยนต์นี่ผมก็เอาไอเดียของ Racing Club ที่ยังไม่ได้ทำมาสานต่อ ผมว่าไอเดียเมื่อ 15 ปีที่แล้วของผม มันยังคงเวิร์คอยู่จนถึงทุกวันนี้แน่ๆ
   ส่วนเรื่องเรือ มีแบ่งเป็นสองส่วน คือเรือใบที่จะไปเรียนตอนต้นเดือนเมษา กับเรื่องเรือคายัคที่มาพร้อมกับโปรเจคพายเรือข้ามอ่าวไทย อันนี้ผมจี๊ดมากๆ อยากไปโคตรๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่เคยพายเรือทางไกล ยังไม่มีกระทั่งเรือของตัวเองเลยด้วยซ้ำ แต่ผมกลับมั่นใจมากๆ ว่าผมทำได้ ทำได้ง่ายๆ อีกด้วย
แต่ทริปนี้ผมต้องขอกลุ่ม “เพื่อนพาย” เขาไป ก็คงขอไปตรงๆ เลยนี่แหละครับ ที่ต้องขอก็เพราะเขาเป็นคนจัดทริป และมีเรือเซอร์วิสให้พวกเราพักนอนกลางทางตอนกลางคืน และเป็นเรือขนสัมภาระ เรือพยาบาล เรือกู้ภัย ใครพายไม่ไหวก็คงต้องขึ่นเรือเซอร์วิสลำนี้
ถ้าไปกับพวกเขาครั้งนี้ได้ (ถ้าเขาให้ไป และให้ยืมเรือ) ผมจะโคตรดีใจ และจะต้องจัดทริปของตัวเองที่ฉายเดี่ยวซัดข้ามอ่าวแบบ Solo
ไม่มีอะไรมากครับ แค่อยากทำอะไรห่ามๆ ก่อนตาย เอาไว้คุยได้ตลอดชีวิต เหมือนเรื่องดริฟท์ที่ผมเขียนมันคนแรกของไทยนั่นแหละครับ
กลางคืนมิวขอออกไปกินร้าน 49 Steak หน้าปากซอยบ้าน ที่เขาจะเปิดวันนี้เป็นวันสุดท้ายและจะย้ายร้านไปอยู่แถวถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกโน่นเลย
ผมส่งข้อความใน Line ไปทักทายชื่นชมให้กำลังใจ “สุรมิส” นักทดสอบรถในรายการ “ขับซ่า 34” ช่องอมรินทร์ TV กลายเป็นว่าเขาจำผมได้ด้วย สุดยอดเลย
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
Post by: O'Pern on February 26, 2016, 07:29:07 pm
26 กพ 59
   ออกวิ่งไปแค่ 30 นาทีเอง ยังคงทดสอบเสื้อกางเกางชุดใหม่ ผมอยากรู้ว่ามันจะระบายเหงื่อได้ดีจริงไหม ฉะนั้น วันนี้ขอวิ่งเร็วกว่าเดิมหน่อยนะ
   พอเหงื่อเริ่มออก ไอ้จุดที่มีผ้าฉลุมันก็แห้งเร็วดี ส่วนที่เป็นผ้าทึบก็แห้งช้าหน่อย มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่นา จะว่าไปมันก็สบายตัวดีเหมือนกันนะ เอาไว้ลองวิ่งยาวๆ สัก 2 ชม ดูอาจได้ความเห็นเพิ่มเติมมากกว่านี้
   ส่วนกางเกงนี่ประทับใจมาก ดีไซน์แบบนี้ตรงกับที่ผมออกแบบไว้เลย แต่ของผมออกแบบกางเกงสำหรับขับรถนะ ดีไซน์คล้ายกันคือตรงช่วงขาด้านในจะใช้ผ้าฉลุ เพื่อให้ระบายอากาศได้ นั่งแล้วไม่อบอับ (ไข่)
   กางเกงตัวนี้เวิร์คดีครับ เย็นไข่สมใจนึก แต่ข้อเสียคือกางเกงขายาวไปนิด ก้าวขายาวๆ ตอนวิ่งเร็วๆ แล้วจะตึงๆ หน่อย แต่ถ้าวิ่งเหยาะ วิ่งช้า ไม่มีปัญหา
   เนื้อผ้าเป็นแบบแห้งเร็ว แต่เนื่องจากมันขายาวกว่ากางเกงวิ่งทั่วไป เลยทำให้ดูหนักๆ ถ่วงๆ ไปหน่อย เอ๊ะ หรือว่านี้มันไม่ใช่กางเกงสำหรับวิ่งวะ หรือว่าผมใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ของเขาเอง
   ผมชอบช่วงเวลาขณะวิ่งมากๆ เลยนะ ได้อารมณ์เหมือนทำสมาธิ ผมสวดมนต์ไปด้วย แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล อโหสิกรรม และขออโหสิกรรม ภาวนา ขอพรให้กับบรรพบุรษและผู้ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ
   เช้านี้ลมแรงอีกแล้ว อากาศหนาวๆ ฟังข่าวทีวีเขาบอกว่าจะเป็นลมหนาวระลอกสุดท้าย หลังจากนี้คงมีแต่ร้อนของจริงแล้วสินะ
   เช้านี้กินแกงจืดเต้าหู้หมูสับใส่ใบตำลึง ไข่เจียว ผมกินแต่เต้าหู้กับใบตำลึงจนหมดเกลี้ยง ไม่ได้กินหมูแม้แต่ชิ้นเดียว
   ส่งมิวเสร็จก็ไปร้าน ผมเดินปรี่ไปโต๊ะพี่อ้วนเลย ผมเริ่มรู้งานตัวเองแล้วล่ะ แต่จะต้องนั่งตรงนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ
   ช่วงเช้านี้แถมตำแหน่งใหม่ เป็นคนขับรถไปส่งของอีกด้วย ไอ้คนขับรถนี่เป็นหน้าที่ๆ ผมไม่ชอบเอามากๆ เลยล่ะ เพราะมันต้องคอยหาที่จอดและรับผิดชอบสินค้าที่อยู่ท้ายรถ เจอร้านที่จอดง่ายก็สบายหน่อยครับ แต่เจอพวกที่ต้องเข้าซอยแคบๆ นี่สาหัสเลยนะ ขับไปชนป้าย กันสาด บ้างก็กล้องวงจรปิดเขาพังก็มี
   ส่งของเสร็จก็กลับมานั่งเช็คของที่เดิม วันนี้คนมาส่งของกันมากมายเลย ผมได้แสดงสกิลเทพเช็คของทีเดียว 3 จุด หน้าที่นี้จุกจิกมากครับ ต้องตาไว ต้องแม่น มีสมาธิ กว่าจะกินข้าวได้ก็ตอน 0330 ครับ คือไปธนาคารมาให้เรียบร้อยก่อนแล้วถึงจะว่างกิน
   ข้างร้านมีแต่ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า กับก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น วันก่อนจัดราดหน้า วันนี้ก็จัดหมูตุ๋นสลับกันไป ไม่ได้นั่งกินสบายๆ หรอกนะ เพราะมีสินค้าเข้าออกร้านตลอดเวลา กินไปก็เช็คของกันไป
   มิวโทรมาบอกว่าเรียนเสร็จแล้ว สักพักผมไปรับที่สถานีรถไฟฟ้าแล้วก็กลับบ้านเลย ถึงบ้านนี่อย่างเก็บกดเลยนะ เจอหนมอะไรจับหยิบเข้าปากแบบแดกเป็นปอบเลย เฮ้ยย นี่มึงเครียดอะไรของมึงมาวะนั่น
   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเครียดเพราะอะไรนะ
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 การออกกำลังกาย 23 C Coupe
Post by: O'Pern on February 28, 2016, 06:13:05 pm
28 กพ 59
   นอนเที่ยงคืน ตื่น 0530 แต่ไม่มีแรงลุก เลยต่ออีกนิด กลายเป็นสายเลยสินี่ ออกวิ่งเอา 0630 จัดไป 1.40 ชม เช้านียังคงมีไอเย็นอยู่นิดๆ วิ่งสบายหน่อย เหงื่อออกช้า แถมใช้ชุดวิ่งชุดใหม่ที่มีรูฉลุเยอะๆ อีกด้วย ไอ้ตรงรูนี่จะแห้งเร็วมาก แต่ส่วนที่เป็นผ้ายืดก็จะแห้งช้ากว่าหน่อย ส่วนกางเกงนี่เย็นไข่ดีครับ ช่องลมแม่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายเลย ผมชอบมาก
   พอจะได้ข้อสรุปว่าไอ้ชุดมีรูระบายความร้อนแบบนี้จะเด่นมากกับกีฬาที่เหงื่อออกมากๆ (เล่นกีฬานาน) หรืออยู่ในที่อบอับ (แบตมินตัน) หรือนักกีฬาที่มีเหงื่อออกเยอะ
   ส่วนผมที่วิ่งตอนเช้าอากาศเย็นๆ เหงื่อออกปกติ ไม่ได้เยอะเว่อร์อะไร ใส่แล้วก็สบายตัวกว่าเสื้อปกตินิดหน่อยก็ตรงทีฉลุมันไม่เปียกชื้นครับ เช่นรักแร้ ข้างลำตัว หัวไหล่ (เสื้อตัวนี้มันมีผ้ารูฉลุตามนี้) เรียกว่าฉลุตรงไหน ตรงนั้นก็จะไม่เปียกอับชื้น สำหรับผมที่วิ่งแล้วบางทีขับรถกลับบ้านเลย ก็ต้องการเสื้อที่ด้านหลังแห้งเร็วๆ
   เช้านี้กินข้าวเหนียวหมูย่างครับ พ่อซื้อมาฝาก แม้จะไม่อยากกินเนื้อสัตว์มาหลายวัน แต่เช้านี้แม่งหมูล้วนๆ เลยนะ ก็จัดไปครับ ใจหนีงอยากจะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ๊เค็งเหมือนเดิม เพราะได้ผักเพียบๆ แต่เห็นว่าพ่อซื้อมาฝากแล้ว เดี๋ยวเสียน้ำใจ เลยจัดไปซะ นั่งกินกับพ่อนี่แหละครับ อ้อ ลืมบอก แม่ไปเที่ยวกำแพงเพชรตั้งแต่วันเสาร์เช้า ค้าง 1 คืน วันนี้กลับตอนค่ำๆ
   วันว่างของผมตอนนี้เหลือแค่วันอาทิตย์วันเดียวแล้วสินะ เปิดคอมแม่งทั้งสองเครื่องเลยก็แล้วกัน มีทั้ง Notebook ของ Fujitsu และ Macbook Pro ได้เครื่องหลังนี้ทำอะไรไม่ค่อยเป็น แต่ภาพและเสียงแม่งเจ๋งมาก เลยใช้ดู youtube ฮ่าๆ (คุ้มสัสๆ เลยนะ)
   กลางวันพ่อซื้อบะหมี่แห้งมาฝาก 2 ห่อแน่ะ จัดไปอีกแล้ว นั่งกินกับพ่อ มีหมูสะเต๊ะปิดท้าย 3 ไม้ หึหึ หมูอีกแล้วสินะ เมื่อเช้าก็หมูปิ้งสิบกว่าไม้แน่ะ
   เพิ่งปล่อยเพจของ racing-club.net ลงไปในเฟซบุ๊คเมื่อวันอังคาร แทนที่จะได้มีข่าวสารไปอัปเดทสักหน่อย กลายเป็นต้องมาเฝ้าร้านจนเลิกทุกวันเลย โหห ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตพลิกโผขนาดนี้
วันนี้กลุ่มพายเรือของผมมีคนหนึ่งเริ่มพายออกจากอ่าวไทย ไปจนสุดเขตแดนภาคตะวันออกที่บ้านหาดเล็ก จ ตราด หึหึ เห็นแล้วจี๊ดเลย เส้นทางนี้ผมมองเอาไว้หลายปี ผมมีจักรยานยังไม่มีเวลาขี่ไปเลย แต่พี่ท่านนี้ซัดคายัคไป !!! สุดตีน
Title: Re: กพ 59 6 ปล่อยของ 10 การออกกำลังกาย 23 C Coupe
Post by: O'Pern on February 29, 2016, 07:01:41 pm
29 กพ 59
   หมาเห่ากลางคืน เลยตื่น ไม่ได้นอนหลับรวดเดียว ผลคือตื่นสาย ออกวิ่งไปได้แค่ 45 นาทีเองครับ
   กินมื้อเช้าคุณภาพอีกแล้ว ผัดผักหวาน ผัดผักปวยเล้ง ปลาริวกิว ไข่ดาว (ทอดในกระทะเทฟลอน น้ำมันแค่ 2 หยด) กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม
   ออกไปส่งมิว ผมเข้าร้านเหมือนเดิม และยังคงนั่งเช็คของหน้าร้านต่อไปอีก ช่วยว่างๆ หยิบเอายางยืดออกกำลังกายมานั่งคิดท่าบริหารร่างกายใหม่ๆ ก็สนุกดีครับ ฝึกใช้สมองไปอีกแบบ
   กลางวันพี่อ้วนมาแล้วๆ ๆ ๆ ๆ เย้ๆ โคตรดีใจเลย เก็บข้าวของบนโต๊ะจนเรียบร้อย ส่งมอบหน้าที่เช็คสินค้าให้พี่อ้วน แล้วผมก็กลับเข้ามานั่งในห้องแอร์แบบเดิม โหห เย็นสุดยอด แถมไม่ต้องดมฝุ่นควันริมถนน
   ส่งข้อความทางไลน์ไปหา “ครูวัฒน์” เรื่องการสมัครเรียนเรือใบเลเซอร์ พรุ่งนี้เขาจะเปิดรับสมัครวันแรก ผมไม่อยากพลาด เลยกะจะว่าจะฝาก “สาธิต” เพื่อนในกลุ่มพายเรือที่ตอนแรกเขาบอกจะไปเรียนด้วย แต่กลายเป็นว่าเขาเปลี่ยนใจ ไม่ไปแล้ว แต่ผมไม่สนใจ ผมลุยเดี่ยวมาตลอด เลยกะว่าจะฝากครูวัฒน์สมัคร
   ครูส่งแบบฟอร์มและรายละเอียดมาให้ พร้อมช่องทางการชำระเงิน เป็นอันว่าด้านเอกสารจบไป เหลือปัญหาใหญ่คือเรื่องที่พักนี่แหละครับ ผมต้องนอนถึง 11 คืน ผมอยากได้ห้องพักของ “อาคารสินสมุทร” เพราะผมเคยไปพักมาแล้ว รู้สึกชอบ คืนละ 550 บาท แต่ถ้าทหารจองให้จะเหลือ 450 บาท
   รีบโทรหา “ไอ้เอ๋” เพื่อนนักเรียนสมัยมหาวิทยาลัย สนิทกันใช้ได้เลย แต่ห่างๆ กันไปหน่อย เพราะผมไม่กินเหล้า บอกเอ๋ว่าให้ช่วยจองให้หน่อย เอ๋บอกเดือนเมษาที่พักในค่ายทหารเต็มแน่นทุกปี (เด็กปิดเทอม ผู้ปกครองพามาเที่ยว และที่พักมันราคาถูก) วันธรรมดาก็พอจะนอนได้ แต่ถ้าเสาร์ อาทิตย์ รับรองได้ว่าเต็มไปนานแล้ว
   ฉิบหายเลย ทำไงดี เอ๋บอกไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกูให้ลูกน้องไปช่วยหาให้
   คุยกับ “เอก” เรื่องงานดริฟท์สุดสัปดาห์นี้ เห็นรูปแบบสนามแล้วค่อนข้างเป็นกังวล เพราะห้องกรรมการอยู่ไกลมาก แต่คนดูนี่สิ นั่งใกล้ชิดแทร็คเลย ผมเกรงว่าสายตาของเราจะดูได้ไม่ละเอียดเท่ากับคนดูนี่สิ กลัวจะเป็นปัญหา แต่พอเอกบอกว่างานนี้จะย้ายห้องกรรมการใหม่ โดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจ เลยบอกเขาเพิ่มว่าผมจะเข้าไปดูสนามให้ตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ ช่วยจัดการห้องพักให้หน่อยนะ เอกเลยบอกว่าเดี๋ยวให้คุยกับไผ่
   สักพักเดียว “ไผ่” โทรมาหา ผมบอกว่าผมเป็นคนง่ายๆ สบายๆ นอนไหนก็ได้ ไผ่บอกห้องแบบคราวที่แล้วโอเคไหมพี่
   คราวที่แล้วผมไปนอนที่หน้า ม ธรรมศาสตร์ ห้องแบบเรียบง่าย ธรรมดาๆ ก็โอเคดี แต่ผมเกรงใจไผ่เขาไง เลยบอกว่านอนเหมือนไผ่ก็ได้ แต่คำตอบของไผ่ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงให้ผมนอนที่หน้า ม ธรรมศาสตร์
   “ผมนอน รร ม่านรูด ข้างๆ สนามแข่งนี่แหละครับพี่

   ขับรถไปให้อาหารปลาที่ “วัดบุคคโล” แล้วเลยเข้าไปคอนโดไปจ่ายเงินค่าส่วนกลาง ผมชำระเงินช้าเกินกำหนด เพียงเพราะขี้เกียจเข้ามา กลายเป็นโดนค่าปรับไป 102 บาท นี่ผมไม่ได้มาคอนโดราว 3 เดือน ระเบียงห้องนี้อย่างเขรอะเลย ใช้เวลาล้างอยู่นาน ตามด้วยถูทำความสะอาดห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ทำเสร็จก็เปิดแอร์ทั้งสองตัวให้มันทำงานบ้าง กลัวแอร์จะเสียจริงๆ เลยนี่ ไอ้ของพวกนี้ใช้ทุกวันมันจะสภาพดีนะ แต่ใช้น้อยๆ แล้วแม่งเหมือนจะพังง่าย
   สังเกตเห็นผ้าม่านแบบทึบแสงที่ด้านรับแสงมันมีสารอะไรเคลือบเอาไว้กัน UV ไปจับดูมันเป็นฝุ่นผงติดมือออกมาเลย เฮ้ย ตกใจสิ มันต้องเสื่อมแล้วแน่ๆ แต่ที่ผมกังวลคือฝุ่นของมันนี่แหละครับ มันต้องไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ สารห่าไรก็ไม่รู้ ไว้คงต้องรื้อออกเปลี่ยนม่านใหม่ หึหึ เสียเงินอีกแล้วสินะมึง
   เย็นไปรับมิวที่รถไฟฟ้า กลับเข้ามาบ้านกินเส้นใหญ่ผัดซีอิ้วกับพ่อ (ทำเอง) จัดคะน้าไปเพียบเลย แต่มันก็อ้วนอยู่ดีล่ะนะ อาหารผัดน้ำมันนี่ แถมเป็นเส้นใหญ่อีก นี่ถ้าเป็นเส้นหมี่ก็จะอ้วนน้อยกว่าเยอะมาก
   เอ๋ โทรมาหาตอนค่ำ บอกว่ามึงจะไปเรียนเรือทำไมวะ มันสอนพื้นๆ นะ อยากเล่นเรือมาเล่นกับกูนี่ เรือกูอยู่ที่โอเชียนมารีนา วันไหนจะมามึงบอก จะได้เตรียมเรือออกไปเล่นกัน
   เฮ้ยย ไม่ต้องขนาดนั้น เกรงใจๆ คุยไปคุยมา เอ๋เลยบอกว่าให้มาพักที่บ้านเขา ผมเกรงใจมาก เพราะนอนถึง 11 คืน แต่เอ๋บอกไม่เป็นไร มันเป็นบ้านอีกหลังที่กูไม่ได้อยู่แล้ว เป็นบ้านเดี่ยว ข้าวของครบ มีแอร์ เพียงแต่กูไม่ได้เข้าไปดูหลายเดือนแล้ว
   !!!