racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on September 02, 2015, 05:52:25 pm

Title: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 02, 2015, 05:52:25 pm
1 กย 58
   หยุดวิ่งมา 2 วัน เช้านี้ไม่ยอมแล้วล่ะ แต่ดันตื่นสาย เลยได้แค่ 50 นาทีเท่านั้นเอง ปัดโธ่
   เช้านี้งานเพียบตามสไตล์วันจันทร์ คนงานขาดอีกก็ยุ่งยากขึ้นไปอีกนิด
   วันนี้ผมอยู่ร้านลากยาวตลอดวันครับ
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 02, 2015, 05:54:40 pm
2 กย 58
ออกวิ่งเหมือนเดิม แต่ก็ทำได้แค่ 50 นาที กลางคืนฝนตก เช้ามีหอยทากเต็มพื้นถนนเหมือนเช่นเคย รีบเอาไว้กวาดมากวาดพวกมันเข้าข้างทางก่อนที่จะโดนรถเหยียบตายกันหมด
เช้านี้กินปลาดุกผัดพริกแกง ไข่ต้ม แครอทลวก ข้าวกล้อง งาคัวหมดแล้ว ไว้รอทำใหม่
   เช้านี้ไม่ต้องยกของในโกดัง โห นานๆ จะมีวันอเมซิ่งแบบนี้สักที สองวันก่อนจัดเต็มมาเพียบแล้วนี่
   แม่ไม่สบายหายดีแล้ว วันนี้ผมเลยได้กลับเข้าบ้านตอนบ่าย คิดงานได้แต่ยังไม่ค่อยลื่นไหล ยังไม่ลงตัว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก แปลว่ามัน “แป๊ก” ผมจะแก้ด้วยการคิดงานใหม่ทั้งหมด
   เอาถั่วเฮเซลนัทดิบมาคั่ว แต่ทำออกมาแล้วให้ทุกคนลองกิน ไม่มีใครชอบสักคน บอกว่าถั่วลิสงธรรมดาๆ ถูกๆ นี่แหละ อร่อยกว่ากันเยอะ ผมเองก็เห็นด้วยนะ ฮ่าๆ
   มันกรอบแบบเหนียวๆ เป็นเพราะลักษณะของเนื้อมันน่ะครับ เลยเอามาเคี้ยวกินกับช็อคโกแลตดาร์ค เฮ้ยย แม่งเวิร์คมาก ขมๆ หอมๆ มันๆ
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 04, 2015, 05:58:26 pm
3 กย 58
   วิ่งยังไม่ครบชั่วโมงอีกแล้ว ทำได้แค่ 50 นาที เช้านี้วิ่งแบบเนือยๆ มันออกแนวขี้เกียจๆ ยังไงไม่รู้ เลยวิ่งไปแบบงั้นๆ คล้ายกับว่าร่างกายเราไม่สดชื่น ยังไม่ตื่นเต็มตัว
   มื้อเช้ากินเนื้อหมูผัดพริกหยวก แต่ดีใส่หอมใหญ่ด้วย น้ำมันเลยออกมามาก ไม่อร่อย สู้ใส่แต่พริกหยวกแบบเดิมจะดีกว่า ไม่เป็นไรครับ ทดลองไปเรื่อยๆ อันไหนดีก็ทำต่อ อันไหนไม่ดีก็เปลี่ยนใหม่เสีย
   ยังมีไข่เจียวมะเขือเทศอีกด้วย มื้อเช้าของผมนี่บำรุงสุดๆ แล้ว เพราะที่เหลือตลอดวันมันแทบไม่มีของดีๆ ให้กินเลย
   ช่วงนี้ขับแต่รถ 180SX ตลอดเลย เปลี่ยนช้อคสปริงมาใหม่ วิ่งดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพราะของเก่าช้อคหลังมันแตกแล้ว ขับแล้วท้ายรถร่อนไปมาได้ อันตรายสุดๆ
   อีกอย่างที่เปลียนก็คือ “ถังพักน้ำหม้อน้ำ” ของธรรมดาๆ ที่หาซื้อใหม่ไม่ได้แล้วในไทย ต้องสั่งจากญี่ปุ่น ถังเดิมเก่าโทรมเหลืองกรอบมีรอยร้าวเต็มไปหมด รถวิ่งไม่กี่วันก็ต้องขยันเติมน้ำ จนผมคิดว่าน้ำมันพร่องไปได้อย่างไร หรือว่ารถเราเก่าโทรมมากแล้ว แต่ก็หารอยรั่วของน้ำไม่เจอ คิดไปไกลว่า ถ้ามันไม่รั่วนอกเครื่อง ก็ต้องรั่วใน ซึ่งมันคือหายนะสำหรับผม
   แต่พอเปลี่ยนถังพักใหม่แล้ว อาการน้ำพร่องนี่หายไปเลย อ้าว แบบนี้ก็แสดงว่าของเดิมมันรั่วที่ถังพักสิวะนี่ ปัดโธ่….
   ตอนเช้าไปถึงร้านก็เข้าโกดังยกของเหมือนเดิม และเป็นอีกครั้งที่ต้องอยู่ร้านตลอดวัน
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 04, 2015, 06:00:03 pm
4 กย 58
   นอนหัวค่ำนะ แค่ 0930 แต่มาตื่นเอาตอน 0530 แน่ะ ซึ่งมันสายไปมากสำหรับผม เช้านี้เลยเอารถ Neobike 16 ออกขี่ไป 45 นาที
   ช่วงนี้เน้นเนื้อปลาครับ วันนี้ใช้เนื้อปลากะพงผัดคึ่นฉ่ายต้นหอม ไข่ต้ม ข้าวกล้องโรยงาดำคั่วบด กระเทียมสด
   ชมรม miata club of Thailand เขาจัดมีทติ้งครบรอบ 15 ปี ผมไม่ได้ไปร่วมอะไรกับเขาหรอก พิมพ์รายละเอียดที่มาของชมรมฯ และการก่อตั้งไว้ยาวเหยียด แต่สุดท้ายก็ลบทิ้งหน้าตาเฉย ไม่กล้ากดส่งข้อความ กลัวพวกเขาจะคิดว่าผมไปทวงเครดิตการต่อตั้งชมรมฯ
   ผมก่อตั้งจริงดังที่เคยเล่าไว้นานมากแล้ว (หาย้อนอ่านเอา ผมทำหัวข้อเอาไว้ในแต่ละเดือน) แต่เราก็ขายรถไปแล้วไง ไม่มีรถ เราก็ไม่กล้าไปร่วมแจมอะไรกับเขา แถมทุกวันนี้กลุ่มใหญ่มาก มีแต่คนรวยๆ เยอะเลย ผมงี้ยิ่งตัวเล็กลงๆ ไปทุกวันๆ
   บ่ายเข้ามาบ้าน ได้ฤกษ์ลุยงานของเราเสียทีนะ ช่วงนี้ก็มีแต่งานโฆษณาเป็นชุดเลย แต่ก็ต้องเปลี่ยนแผนไปบ้าง อย่างโฆษณาผ้าเย็นทับทิมที่ผมจะเลือกเอา “เบ๊นซ์ อาปาเช่ กับ อาม่า” มาวันนี้เห็นอาม่าโฆษณา wifi บนรถเมล์แล้ว เริ่มรู้สึกไม่ดี คือถ้าวันนี้อาม่าเริ่มดัง พอตอนถึงผมทำโฆษณาชิ้นนี้ออกมา คนจะเบื่ออาม่าพอดี กลายเป็นเสียของไป
   ตกเย็นอากาศครึ้มๆ อีกแล้ว ฝนตกแทบทุกค่ำเลย คนอยู่บ้านแล้วก็สบายไปครับ สงสารคนที่กำลังกลับบ้านนี่สิ โดยเฉพาะคนที่ต้องผ่านเส้นทางที่กำลังขุดถนน
   ข่าวดีวันนี้ ทางการประกาศจะเอาสายไฟลงใต้ดิน แต่เอ๊ะ มันจะทำให้พวกแก๊งขโมยสายไฟทำงานง่ายกว่าเดิมไหมนะ เพราะแถวบ้านผมถนนพระราม 2 สายไฟเอาลงใต้ดินมาหลายปีแล้ว ปรากฏว่าไฟมืดดับสนิทตลอดสาย ต้องติดป้ายว่าเหตุผลคือโดนขโมยสายไฟ จนทุกวันนี้มีการลากสายบนเสาแบบเดิมมาใช้ชั่วคราว (แต่มันก็ชั่วคราวมาหลายปีมากแล้ว)
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 07, 2015, 05:24:31 pm
5 กย 58
ออกวิ่งเพื่อชีวิต จัดไป 1 ชม แรกๆ อยากลดน้ำหนัก แต่ตอนนี้อยากได้สุขภาพดี พอโจทย์เป็นแบบนี้ มันก็มีทางให้ไปอีกมากมายเลย
   วิธีรักษาสุขภาพคือป้องกันไม่ให้ร่างกายอ้วน ดีกว่ารอให้อ้วนแล้วค่อยมาหาวิธีลด แต่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะเลือกวิธีหลัง มันก็เลยมีสารพัดวิชามารมาหลอกขายคนอ้วน
   สิบกว่าปีก่อนมีชุดแบบนักบินอวกาศใส่เรียกเหงื่อ ทุกวันนี้พวกนักมวยใช้ใส่ซ้อมตอนจะลดน้ำหนักก่อนขึ้นชกแทนแล้ว ไม่มีใครบ้าที่ไหนซื้อมาใส่เพื่อลดน้ำหนักอีกต่อไป
   สัก 4-5 ปีก่อนก็ฮิต “โอนามิ” ไอ้นี่ก็มาแนวเดียวกัน ใส่กันไขมันทะลัก รัดๆ เอาไว้ทั้งตัวเหมือนห่อด้วยผ้ายืด พอถอดออกก็ “เผละ” เหมือนเดิม ไอ้นี่หลอกได้เฉพาะคนสมองน้อย แต่มันก็ไปของมันได้นะ ล่าสุดนี้เห็นมีรุ่นใหม่แบบมีกลิ่นกาแฟ โหห ครีเอทสัสๆ
   ก็เพราะความอ้วนมันลดยาก เลยมีคนหาเงินจากคนอยากผอมกันมากมาย ไอ้พวกยากินแนวอาหารเสริมนี่ก็มีทั้ง “สายขาว” และ “สายดำ” เลือกเสี่ยงกันเอาเอง (คำว่าสายขาวสายดำผมขอยืมจากคุณนนท์มาใช้)
   วันนี้กินผัดผักบุ้งอีกแล้ว ผักที่ผมกินนี่ค่อนข้างจะซ้ำกันมากแล้วนะ ถ้าไปนอกบ้านเจอผักแปลกๆ ผมเลยชอบลองไง ชอบไหมชอบก็ค่อยมาว่ากันอีกที ผัดผักบุ้ง คู่กับไข่เจียวนี่อร่อยมาก ช่วงนี้มีงาดำบดก็เอามาโรยข้าวมันเสียทุกมื้อกันไปเลย
   วันเสาร์เป็นวันเดียวที่มิวได้มานั่งรถผมกับตอนเช้า มีเวลาอยู่ในรถด้วยกันราว 30 นาที มีเวลาแค่นี้ผมจะคุยแต่เรื่องสร้างสรรค์ บางทีก็เป็นพวกตลกติงต๊อง ช่วงนี้มิวมักจะถามเรื่องงานของผมเยอะหน่อย พวกงานโฆษณาน่ะครับ ก็เล่าให้เขาฟังไปตามสภาพ เล่าถึงวิธีคิด ขั้นตอนต่างๆ โดยเริ่มแรกเราต้องดูว่าจะทำโฆษณาใด ขายผลิตภัณฑ์ใด และจะคิดคอนเสปออกมาเป็นแนวไหน อย่างไร แล้วก็ค่อยนำมาต่อยอด โดยต้องดูงบประมาณของลูกค้าที่เขาให้มาเป็นหลักด้วย
   มีเยอะครับที่ปล่อยให้เราคิดมาเก้อ สุดท้ายก็บอกไม่มีงบ ผมเขียนสคริปต์เจ๋งๆ มาให้ แต่พอตัวนักแสดงเล่นแล้ว “แป๊ก” มันก็ไปไม่รอด งานออกมาแบบ “งั้นๆ” เห็นแล้วผมเรียกว่า “เสียของ”
   เพราะทางผู้ผลิตจะประหยัดเงินค่าจ้างนักแสดง หันมาเอา “มือใหม่” มาเล่นแทน ซึ้งถ้าเขาเล่น “ถึง” มันก็โอเคนะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่น่ะสิ
   มิวเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเองจนคล่องแคล่ว ให้เขาหัดใช้คนเดียวตั้งแต่ ป5 จนทุกวันนี้ ม2 แล้ว ร่างกายและจิตใจกำลังเติบโตอย่างมาก นี่คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญอีกจุด ไม่ใช่จุดสำคัญที่สุดนะ จุดนั้นผ่านมาแล้ว นั่นคือช่วงวัยเด็กเล็ก
   ใช่ครับ เด็กเล็กสำคัญกว่ามาก เพราะเซลล์สมองมีการพัฒนาสูงสุด ผมตั้งใจจะเลี้ยงดูเด็กคนนี้เอง โดยหยุดพักการผลิตนิตยสาร Racing Club ที่อยู่ในช่วงที่ผมประสพสารพันปัญหา ทีแรกกะจะหยุดสักพักเพื่อตั้งหลัง พร้อมก็จะเริ่มว่ากันใหม่ แต่กลายเป็นว่าทั้ง Part II และ Part III ที่ผมทำมันเตรียมไว้ กลับโดนคนใกล้ตัวที่รักมากนำไปทิ้งที่ร้านขายของเก่า
   Racing Club เลยยังไม่ได้มีโอกาสกลับมาใหม่ แต่ผมยังคงต้องเลี้ยงดูมิวเพื่อสร้างให้เขาเป็นมนุษย์ที่เกิดมาเพื่อพัฒนาสังคมที่เขาอยู่ เขาจะต้องไปถึงความฝันที่เขาตั้งเป้าไว้ให้ได้ ผมว่าหน้าที่ของพ่อแม่มีแค่นี้เองนะ
   มิวกินนมแม่ 1 ปีเต็ม จากนั้นก็กินนมกล่อง UHT เขาจึงเป็นเด็กที่ไม่เคยดูดขวดนมแบบจุกยาง ผมเองก็ไม่ต้องคอยถือตระกร้าพ่อลูกอ่อน มีรถเข็นเด็กก็ใช้ถึงแค่ขวบกว่าๆ พอมิวเดินได้ ก็เอารถเข็นเก็บ เลิกใช้ ให้เขาเดินเองตลอด
   ช่วงทารกตอนยังเดินไม่ได้ก็จะใช้ผ้าอ้อมผ้าธรรมดา อึ ฉี่ ก็เปลี่ยนกันตลอดเวลา ผมเป็นคนซักเอง จะใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปก็เฉพาะตอนโตแล้ว เดินได้แล้ว และออกจากบ้านเท่านั้น เหตุผลก็คือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปมันอุ้มน้ำ ลูกขับถ่ายแล้วเราก็ไม่รู้ การปล่อยให้เขาหมักหมมอยู่กับของเสีย ส่งผลต่อสุขภาพจิตตอนโตคือจะเป็นคนมักง่าย สกปรก ไม่มีระเบียบวินัย
   ช่วง 0-2 ปีแรก เซลล์สมองพัฒนาเร็วสุด เริ่มโตมากขึ้น สมองก็จะพัฒนาช้าลงๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงอายุราว 15 ปีโดยประมาณ มันก็จะหยุดการเติบโต
   เข้าใจถึงคำว่า “นาทีทอง” หรือยังครับ
   บ้านเราไม่นิยมจ้างพี่เลี้ยงเด็ก ผมกับภรรยาเลี้ยงกันเองตั้งแต่ลูกเกิด เลี้ยงตอนเด็กๆ ก็เหนื่อยแบบหนึ่ง แต่พอลูกเริ่มโตมากขึ้นก็จะเหนื่อยไปอีกแบบ ผมว่ามันคือสุดยอดงานศิลปะเลยนะ น่าเสียดายที่พ่อแม่หลายคนกลับคิดไปว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ นี่ก็ว่าแย่แล้วนะ แต่ที่แย่กว่านั้นคือให้ “คนด้อยคุณภาพ” มาดูแลลูกตัวเอง
   เด็กอยู่ใกล้ใครก็จะมีพฤติกรรมเลียนแบบคนนั้น ไอ้นี่และไฮไลท์เลยจะ เพราะส่วนใหญ่จะเลี้ยงเด็กด้วยการเปิดทีวีให้ดู เปิดหนังที่ตัวเองชื่นชอบดูก็มี เด็กก็ซึมซับตัวอย่างในทีวีเก็บเมมเข้าไปไว้ในใจ รอวันปลดปล่อย ที่บ้างก็ออกมาเป็นแบบคำพูด บ้างก็เป็นพฤติกรรมท่าทาง
   ใครที่เลี้ยงดูลูกเองมาตั้งแต่เด็ก พอลูกโตก็จะเหนื่อยน้อยลง พูดคุยกันง่ายขึ้น ความใกล้ชิดกันมากมันส่งผลให้เขาเข้าใจเราโดยไม่ต้องพูดอะไรมากมาย
   แต่ถ้าใครไม่ได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิดตอนเด็ก พอเขาโตเริ่มเข้าวัยรุ่นไปดุว่าโน่นนี่ เขาก็จะแสดงพฤติกรรมไม่พอใจออกมาแบบไม่เกรงใจ พ่อแม่ที่ไม่เข้าใจก็บอกว่าลูกดื้อ ไม่ฟัง ก็แหงละ คุณมันเป็นพ่อแม่แค่ในนามนี่ ไม่ได้ประพฤติตนเป็นพ่อแม่แบบที่ควรจะเป็น
   พวกเขาก็จะหาข้ออ้าง “ต้องทำงานหาเงิน” “ไม่มีเวลา” ฯลฯ จะอะไรก็แล้วแต่ อ้างก็อ้างไป เวลามันผ่านไปแล้ว ลูกก็โตแล้ว ย้อนเวลากลับมาไม่ได้ ที่ทำได้ก็คือยอมรับผลที่ตัวเองก่อไว้ จะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็สุดแท้แต่ มันเป็นเรื่องของตัวคุณเอง
   ก็ในเมื่อคุณคิดว่า “เงิน” สำคัญกว่าลูก หรือ “เวลางาน” สำคัญกว่าลูก คิดแบบนี้มันก็เห็นหายนะลางๆ ตั้งแต่เริ่มแล้ว
   อย่าเข้าใจว่าผมมีเงินอยู่แล้วถึงคิดแบบนี้นะครับ ตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยก็เลิกขอเงินแล้ว ไอ้ที่ทำงานทุกวันนี้แม้จะไม่ชอบอย่างหนัก แต่ก็อดทนทำเพื่อคนอื่น ผมสอนมิวเสมอครับว่า “คิดถึงตัวเองน้อยๆ คิดถึงคนอื่นให้มาก”
   เรื่องลูกนี่คุยกันได้ยาวมาก ผมเลี้ยงเขาเองแบบทุกเม็ดตังแต่แรกเกิด จะมาห่างกันนิดหน่อยก็ตอนเขาเรียนมัธยมนี่แหละ แต่เขาก็จะไปใกล้ชิดกับภรรยาผมแทน เพราะต้องไปรับไปส่ง
   ภรรยาก็จะเลี้ยงลูกไปอีกแบบ ออกแนวตามใจอย่างมากๆ ๆๆ 
   คิดบวกครับ ทำอะไรไม่ได้ ก็คิดบวกเข้าไว้อย่างเดียวเลย คือให้ลูกเรียนรู้การใช้ชีวิตไปอีกแบบ
   บ่ายไปรับลูก นัดหมายกันในห้างเดอะมอลล์ท่าพระ วันนี้รถติดแบบโคตรๆ อีกครั้ง ผมงี้โคตรเบื่อเลย รถติดมาตลอดทางจนถึงในห้าง แล้วแบบนี้จะจอดกันอย่างไรนะ
   คือผมไม่ชอบจอดขวางให้ใครเข็นไง แล้วก็ไม่ชอบเข็นรถที่มาจอดขวางเราด้วย ไอ้ที่จอดสวยๆ แบบนี้มันก็มีแสนจะน้อย ขณะที่กำลังต่อคิวเข้าห้าง ผมดันเผลอคิดอะไรออกมาก็ไม่รู้
   “ถ้าหลวงพ่อโสธรที่ผมไหว้ทุกคืนก่อนนอนมาสองปีศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ขอให้ปาฏิหาริย์ให้ผมเจอที่จอดรถง่ายๆ ด้วยเถิด”
   คิดแว๊ปเข้ามาแบบนี้เฉยเลย แต่ยังไม่พอนะ เพราะคิดว่าแค่ได้ที่จอดง่ายๆ นั้นมันอาจเป็นลูกฟลุ๊ค ใครๆ ก็สามารถฟลุ๊คกันได้ เลยเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีก
   “แค่ได้ที่จอดรถยังไม่พอ ผมขอที่จอดจุดเดิมแบบคราวที่แล้วอีกด้วย”
   เฮ้ยย มึงคิดอะไรของมึง บ้าไปแล้วหรอ สำนึกตัวได้ก็รีบกดปุ่ม “แคนเซิ้ล” ในสมอง แบบทำนองว่า “ผมขอยกเลิกนะครับ ผมไม่มีเจตนาจะท้าทายท่าน” รถติดมากจนผมเครียดไปแล้ว
   รับบัตรแล้วก็ขับวนเข้าไปทิศทางแบบเดิมๆ ตามหลัก “พฤติกรรมมนุษย์” ที่ชอบทำอะไรแบบเดิมๆ วนแบบเดิม มองหาที่จอดทำเลเดิม
   ขับอยู่เพลินๆ ไหลไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ ผมแม่งก็หนาวซู่ขึ้นมาทันที !!!    
   เฮ้ยยยย !!! ตะกี้ตอนก่อนเข้าตึก ผมกดแคนเซิ้ลไปแล้วนี่นา
   ขับผ่านดงรถที่จอดกันอย่างหนานแน่นมาตลอดทาง นาทีนี้ตรงหน้าผมมันคือที่ว่างโล่งแบบจอดได้อย่างสบายๆ ผมคงจะรู้สึกเฉยๆ นะ ถ้ามันไม่ใช่ตำแหน่งที่ผมจอดเมื่อเสาร์ที่แล้ว
   รีบเอารถเข้าจอด สงบสติอารมณ์ หัวใจนี่เต้นตุบๆ เลย ยังไม่ลงจากรถนะ ยังอึ้งแดกอยู่
   ขณะเดินในห้างยังรู้สึก “เหวอแดก” ไม่หาย วันนี้ทำธุระที่ธนาคาร 2 แห่ง แวะเข้าซูปเปอร์ฯ เดินหาซื้อของลดราคาเล่นๆ เจอ “แต๋ม” อีกแล้ว ครั้งแรกที่เจอกันเขาอยู่บูธช็อคโกแลต แต่วันนี้อยู่บูธของเนสเล่ เข้าไปทักเขา คุยกันแป๊บเดียว เกรงใจเขาทำงานอยู่ ถามเขาว่ายังเก็บเบอร์ผมไว้อยู่ไหม เขาตอบว่าใช่ แต่การที่เขาไม่ติดต่อมา ก็แสดงว่าเขาไม่สนใจงานแนวนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องไปตามตื้อให้เสียมารยาทเปล่าๆ
   มื้อเย็นมิวชวนกินในซานตาเฟ่สเต็ค รสชาติก็กลางๆ ครับ ผมไม่ชอบเนื้อสัตว์อยู่แล้ว ก็เลยกินไปแบบงั้นๆ เลือกชุดที่ราคามันถูกที่สุดเลยน่ะ
   ขากลับรถติด นั่งคุยกับมิว เลยเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ผมนึกถึงหลวงพ่อโสธรแล้วตัวเองมาเจอที่จอดรถแบบที่นึกคิดไว้แบบเป๊ะๆ มิวบอกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า มันก็จริงของเขานะ ผมก็อยากจะคิดแบบนั้น
   กลางคืนก่อนเข้านอน ผมยังคงสวดมนต์ถึงองค์หลวงพ่อโสธรแบบเดิม ใกล้จะหลับมิวมาหอมแก้ม หอมแขน เขาทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วล่ะ ส่วนตอนผมหอมหน้าผากเขา แขนเขาตอนนอนนั้น เขารู้ตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 07, 2015, 05:25:41 pm
6 กย 58
   เปลี่ยนบรรยากาศออกไปวิ่งที่สนามกีฬาบ้าง วิ่งแถวบ้านมานานเป็นเดือนแล้ว เช้านี้วิ่งไป 1.30 ชม เป็นการวิ่งกลางแดดเกือบ 1 ชม ร้อนดีครับ ต่อด้วยเดินเร็วอีก 30 นาที เหงื่อเพียบดีกว่าวิ่งแถวบ้านเยอะเลย เป็นเพราะตากแดดด้วยแน่ๆ
   กลับมาบ้านเจอต้มเลือดหมูอีกแล้ว โหห นี่ซ้ำมานานมากแล้วนะ คือภรรยาซื้อมาฝากไง ผมก็กินไปทุกครั้ง แต่ไม่กล้าบอกเขาว่ามันไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ ที่กินจนเกลี้ยงก็เพราะเขาใส่ใบตำลึงมาให้เยอะเท่านั้นเอง
   กินเสร็จยังอร่อยไม่จบ หยิบกูลิโกะป็อกกี้มากินต่ออีก คิดไปเองว่า เราออกกำลังตลอด กินนิดหน่อยคงไม่เป็นไร ฮ่าๆ
   ได้ฤกษ์เปิดคอมฯทำงานเขียนต่อ ไล่เรียงไปจากงานที่ยังค้างคาอยู่ไปจนถึงงานใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้รับการแจ้งยืนยันจากทางลูกค้า งานล่าสุดนี้เป็นงานโฆษณาของบริษัทเคมีภัณฑ์ โหห ไอ้นี่โหดสุดเลยมั้ง เพราะผมไม่คุ้นกับตัวสินค้าแม้แต่น้อย
   พ่อแม่ไปตลาดบางน้ำผึ้งกลับมา ซื้อของมาเพียบ ผมชอบ “เมี่ยงคำ” แล้วนะ เด็กๆ นีไม่เอาเลย พอตอนนี้เห็นผักใบชะพลูเลยวิ่งเข้าใส่ เจอใส่สมุนไพรอย่างขิง มะนาว พริก แถมมีกุ้งแห้งที่เป็นแหล่งแคลเซี่ยมที่ดีสุด เลยกินแทนมื้อกลางวันไปเลย
   ดูช่องไทยรัฐทีวี เขานำเสนอเมนูเส้นร้านแถวปากช่อง โหห ผมงี้เฝ้าหน้าจอเลย รีบเมมไว้ในสมอง ปีก่อนที่จัดงานดริฟท์ที่โบนันซ่า ผมอยู่ปากช่อง 4 วัน ขี่จักรยานตระเวณหาของกิน เจอร้านระดับกลางๆ ไม่รู้จักร้านเทพอะไรกับเขาเล้ยย น่าเสียดายจริงๆ
   ก็คงไม่มีงานดริฟท์ที่เขาใหญ่อีกแล้วล่ะนะ จากเดิมวางแผนไว้ว่าปลายปีเดือนธันวาคมจะไปปิดงานที่โน่น พร้อมฉลองแชมป์ประจำปี ปาร์ตี้เล็กๆ เป็นอันต้องเปลี่ยนแผนกันไปโดยด่วน โดยที่ปีนี้จะไปปิดงานกันที่สนามไหนผมเองก็ยังไม่รู้เลย
   ทางผู้จัดยังไม่กำหนดวัน เวลา สถานที่ แบบนี้ทำให้ผมทำงานลำบากนะ บางทีผมต้องเดินทางไง หรือไม่ก็มีเพื่อนต่างประเทศมา ไม่อยากให้คิวมันชนกัน อย่างเดือนหน้าก็จะมีเพื่อนจากสิงคโปร์มา จะชนกับงานแข่งหรือเปล่าผมยังลุ้นอยู่เลย
   เห็นโฆษณากะทิชาวเกาะแล้วชอบนะ เขาออกตัวใหม่เป็นกะทิอบควันเทียน นำเสนอด้วยความละเอียดอ่อนในการเลือกกลิ่นของดอกไม้ ดูแล้วเข้าใจได้ดี ถ่ายทำสวย
   เย็นดู The Voice ปีนี้มีโคชใหม่คือ สิงโต นำโชค มาแทนที่ แสตมป์ คนที่ผมรู้จักมีเพียงคนเดียวคือโจ้ Joey Boy เห็นเขามาตั้งแต่เด็ก เฝ้าดูพัฒนาการมาตลอด รู้สึกทึ่งและชื่นชมในความสามารถอย่างจริงใจครับ
   สิงโตมาใหม่ แถมอยู่ท่ามทาง 3 เทพ เลยมีคนจ้องจับผิดเลย คนสุดท้ายของโชว์วันนี้ เลยมีการให้สิงโตขึ้นไปเล่นกีต้าร์แจมกับนักร้องที่ชื่อ “เปอร์ติส” ทุกอย่างล้วนเป็นสคริปต์นะ แต่ก็เป็นการโชว์ว่าสิงโตก็เจ๋งไม่แพ้คนอื่นได้ก็แล้วกัน
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 07, 2015, 05:31:10 pm
7 กย 58
   วิ่งไป 1 ชม เหนื่อยกลางๆ ไม่โหดมาก ช่วงนี้ไม่วิ่งเร็วแล้ว อาศัยไปแบบเรื่อยๆ เร่งก็แบบนิดๆ ต่างจากสมัยก่อนที่โหมอัดอย่างแรงจนหัวใจแทบจะออกมาเต้นนอกร่าง
   เช้านี้อาหารสุดยอดอีกแล้ว เอาเนื้อปลาเก๋ามาชุปแป้งบางๆ ทอดแล้วพักไว้ แล้วก็นำมาผัดกระเพรา ข้าวกล้องสีน้ำตาล โรยงาดำคั่วบด ไข่ดาวทอดในน้ำมันมะกอก กระเทียมสด ขิงสด
   เช้าวันจันทร์หรือวันไหนๆ มันก็คือวันเดิมๆ ของผม ตราบใดที่ยังคงต้องไปร้านขายของ มันก็คือวันแห่งความน่าเบื่อเหมือนเดิม ผมแก้ไขด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดว่า หากนี่คือวันสุดท้ายของชีวิตผม ผมจะทำอย่างไร
   คำตอบก็คือ ผมจะขยันยกแบกของเพื่อธุรกิจครอบครัวที่ผมไม่มีความชอบสักนิด
   อืมม ทำด้วยความฝืนใจสุดๆ อีกด้วย
   นับเป็นความทรมานที่ผมต้องอดทนอีกรูปแบบหนึ่งก็แล้วกัน ส่งผลให้เป้าหมายของความฝันของผมเริ่มเปลี่ยนไป แต่แก่นของแนวทางการใช้ชีวิตยังคงเหมือนเดิมนะ
   จากเดิมนี่ผมใฝ่ฝันอยากเป็นนักทดสอบรถยนต์อันดับหนึ่งของไทย ทุกวันนี้ก็ยังคงรักรถยนต์อยู่นะ เพียงแต่ผมโดนคนในครอบครัวตัวเองต่อต้าน คัดค้านแบบทุกรูปแบบ (เคยเล่าไปนานแล้ว) บ่อยครั้งเข้ามันก็น้อยใจนะ
   เฮ้ยย มึงจะทำห่าอะไรได้ ขนาดพ่อแม่มึงเขายังไม่เห็นด้วยเลย
   แต่ผมก็เปลี่ยนความกลัวให้เป็นเปลวไฟได้เสมอ
   ยิ่งห้าม ก็จะยิ่งทำ
   ทำอะไรคนที่เรารักเขาก็ไม่เคยมีใครเห็นคุณความดี ก็เลยมาระบายออกในตัวชิ้นงานที่เรารับมาแทนก็แล้วกัน คนใกล้ตัวไม่เคยเห็นค่า แต่คนไกลตัว คนไม่รู้จัก เขาประทับใจ ผมก็โอเค
   ใช้ชีวิตแบบนี้ไง ทำให้ผมค่อยๆ ให้ความใส่ใจกับเรื่องเงินน้อยลงไปเรื่อยๆ งานหลายชิ้นที่ผมได้เงินมา ก็จะนำไปบริจาค แถมตอนทำบุญ ผมยังทำแทนในนามเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เลยด้วยซ้ำไป และเช่นเดิมครับ ไม่เคยขออะไรให้กับตัวเอง
   ช่วงหลังมานี้ผมพกแบงค์ 50 บาทหลายๆ ใบติดตัวไว้ตลอด เจอคนไหนดูแล้วเขาต้องการเงิน ก็ควักให้เขาหน้าตาเฉย ถ้าขี่จักรยานก็จะมีของเล่นที่ลูกไม่สนใจแล้วติดตัวไปด้วย เจอเด็กๆ ข้างทางก็ยกให้เขาไปซะ
   กลายเป็นว่าผมต้องการ “อิสระ” มากเสียยิ่งกว่า “เงิน”
   ผมต้องการ “ความสุข” มากกว่า “เงิน”
   ผมต้องการ “สุขภาพ” มากกว่า “เงิน”
   หนำซ้ำนานเข้ากลายเป็น “โรครังเกียจเงิน”
   
   วันนี้โรงเรียนสวนกุหลาบมีงานใหญ่ชื่อวัน “สมานมิตร” เป็นงานแฟร์ที่จัดทุกปี ทุกห้องต่างจัดเลี้ยงกัน ผู้ปกครองก็สนับสนุนของจับสลาก อาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ ผมเองก็ซื้อพรินเตอร์ไปให้มิวใช้เป็นของรางวัลจับสลากถึง 2 เครื่อง (สี่พันบาท)
   ที่ร้านงานเยอะจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้ อยากจะไปโรงเรียนมิวเดินดูงานเล่นๆ ก็ยังไม่ได้ไป น่าเสียดายเหมือนกัน เพื่อนๆ ผมไปกันหลายคน ถ่ายรูปมาลงเฟซบุ๊คอย่างสนุกสนาน ผมเลยเฝ้าหน้าจอเหมือนดูถ่ายทอดสด
   รอมิวเลิกจากงานเลี้ยงจนถึงเย็นกลับมาบ้านพร้อมกัน มิวซื้อของที่ระลึกจากงานโรงเรียนมาหลายอย่างเลย ทีผมชอบมากสุดคือเป้หลังทรงวินเทจ สีฟ้าตัดกับหนังสีน้ำตาล แนวๆ ดีว่ะ
   ข่าวเด่นวันนี้ มีอุกาบาตรตกที่เมืองกาญจน์ ลงมาเป็นลูกไฟ เห็นชัดเจนจากกล้องติดหน้ารถ เห็นแว๊บแรกผมยังคิดว่าเป็นของปลอมเสียอีก
ขอก็อปข่าวมาจากไทยรัฐนะ
   รองพ่อเมืองกาญจน์ ยันยังไม่มีรายงานเครื่องบินตก ตามข่าวลือ หลังมีคนเห็นลูกไฟร่วงจากฟ้า ส่งจนท.เร่งตรวจสอบ ขณะที่นักดาราศาสตร์คาดเป็นอุกกาบาต ไม่มีอันตราย วอนอย่าตื่นตกใจ...
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 7 ก.ย. นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวผ่าน จส.100 ว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ประชาชนในพื้นที่แจ้งเห็นลูกไฟจากฟ้า และเสียงระเบิดดังมาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้เป็นอะไร แต่มีการลือเป็นเครื่องบินตก เบื้องต้นตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้านการบิน รวมทั้งหน่วยทหารและตำรวจ ไม่มีรายงานเครื่องบินตกในพื้นที่ สันนิษฐานอาจเป็นอุกกาบาต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบตามพิกัดที่รับแจ้งจากประชาชน ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติและป่า คาดว่าต้องเดินเท้าเข้าไปใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ขณะที่ นางสาริณี แสงประสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ระบุยังไม่มีรายงานเหตุเครื่องบินพาณิชย์ หรือเครื่องบินของทางการ ตกในเส้นทางการบินพาณิชย์
ด้าน ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผยว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวที่มีผู้พบเห็น เบื้องต้นอาจเกิดจากวัตถุขนาดเล็กนอกโลก หรือที่เรียกว่า สะเก็ดดาวตก หรืออุกกาบาต ผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามาจนเกิดการเผาไหม้เป็นลูกไฟ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่มีอันตรายอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ
Title: Re: กย 58
Post by: O'Pern on September 08, 2015, 05:25:25 pm
8 กย 58
   วิ่งยามเช้านี่แสนจะสุขนะ ได้สุขใจด้วยจิตที่นิ่งสงบ วิ่งไปสวดมนต์ไปก็มี ยิ่งนึกถึงเรื่องของที่ผม “ลองของ” หลวงพ่อโสธรแล้วยังอึ้งไม่หาย ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ผมเล่าให้มิวฟังคนเดียว
   ตื่น 0430 เลยออกวิ่งได้นานหน่อย เช้านี้จัดไป 1.20 ชม ได้ลากยาวๆ เกินชั่วโมงค่อยสนุกหน่อย วอร์มได้นาน ช่วงหลังค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นแบบ Interval เข้ามาบ้านแบบเหงื่อชุ่มโชก
   ไอ้ข่าวอุกาบาตเมื่อวานที่ผมเล่าไป เช้านี้ลงพาดหัวหนังสือพิมพ์เลยนะ ก็แปลกๆ ดี เราไม่เคยเห็น ก็คงต้องติดตามรายละเอียดกันต่อไปครับ
   บรรยากาศการทำงานแบบเดิมๆ ครับ เช้าไปยกของในโกดังเช่นเคย เจ้าของร้านบอกว่าผมไม่ต้องยก แต่คนงานเขาทำงานกันแบบไม่อยากทำ เห็นแล้วขัดตา
   ช่วงนี้ได้เข้ามาบ้านช่วงเย็นๆ เหลือเวลาคิดงานใหม่ๆ น้อยมาก ทำไงดีวะถึงจะเรียกไอเดียใหม่ให้ได้เร็วๆ
   นึกไปเถอะมึง นึกยังไงก็นึกไม่ออก มันต้องออกไปโลดแล่นนอกบ้าน ไปในสถานที่ใหม่ๆ ให้ใจเปิดรับจิตนาการจากโลกกว้างต่างหาก
   
   หัวค่ำมีบอลไทย VS อิรัก ที่สนามราชมังคลาฯ หัวหมาก ผมไม่ได้ชอบฟุตบอลอะไรกับเขาสักนิด แต่ก็ดูให้กำลังใจเด็กไทยรุ่นใหม่ เขาเรียกบอลไทยยุคนี้ว่า “ช้างศึก”
   ฟังแล้วโคตรฮึกเหิมเลยครับ หนึ่งทุ่มคืนนี้ซัดกัน !!!
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 10, 2015, 03:07:18 pm
9 กย 58
   จัดไป 1 ชม วิ่งไป ทำสมาธิไป คิดงานไป คิดเรื่องอนาคตไป มีเรื่องอะไรในใจก็คิดแม่งไป คิดมันไปเรื่อยๆ
   คิดออกบ้างไม่ออกบ้าง คิดออกก็ดีใจ คิดไม่ออกก็ช่างแม่งประไร
   เห็นอนาคตตัวเองแล้วโคตรเลือนลางเลยครับ ผมคุมอะไรในชีวิตตัวเองแทบไม่ได้เลย ก็จึงอาศัยทำวันนี้ให้ดีที่สุด ช่วยงานตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ให้ได้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียใจย้อนหลัง แต่ก็ต้องแลกกับเสียใจที่สูญเสียชีวิต ณ ปัจจุบันของตัวเองไป
   คุ้มไหม… ผมว่าไม่คุ้มหรอก
   แล้วทำทำไม….
มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำประโยชน์เพื่อครอบครัวได้
   บางครั้งที่คิดถึงอนาคต แล้วก็ได้คำตอบว่า “อยู่ไปวันๆ”
   ไม่บอก ไม่เล่า ก็คงไม่มีใครรู้นะ
   เห็นชีวิตใครเขาก้าวหน้า ประสพความสำเร็จก็ดีใจและอิจฉาเขานิดๆ ไม่ได้อิจฉาที่เขามีเงิน แต่อิจฉาที่เขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก
   อ้าว มึงก็ไปทำในสิ่งที่มึงรักสิ
   กูก็อยากไปล่ะนะ แต่อุปสรรคกูเยอะสัส
   ทำงานก็ต้องมีอุปสรรคกันทั้งนั้น ใจมึงไม่สู้เองต่างหาก
   ใจกูสู้ สู้เหี้ยๆ เลยด้วย
   ไหนๆ มึงสู้ยังไง สู้ตรงไหน
   กูทำ Racing Club Part II ก็โดนโยนทิ้ง กัดฟันสู้ใหม่อีกหนทำ Part III ก็โดนรื้อห้อง เอาข้าวของกูไปทิ้งหมด นี่ถ้าทำอีกครั้งก็จะเป็น Part IV แล้ว
   คนอื่นเขากัดฟันต่อสู้อุปสรรคต่างๆ ด้วยตัวเอง ลุยมาเองคนเดียว กูเข้าใจ แต่ของกูนี่ต้องต่อสู้อุปสรรคภายนอก และยังต้องต่อสู้กับอุปสรรคจากคนภายในครอบครัวตัวเองอีกด้วย ไม่สนับสนุนไม่ว่า แต่ของกูนี่ถึงกับกีดกัน ไม่น่าจะมีของใครโหดขนาดนี้แล้วนะ
   และจนถึงวันนี้ แม้กูจะอยู่ไกลฝันที่เคยหวังไว้เข้าไปทุกทีๆ ไอ้ฝันที่อยากเป็นนักทดสอบรถมือหนึ่งมันคงเป็นจริงได้ยาก แต่มันก็มีฝันใหม่ที่พอจะเป็นไปได้เข้ามาแทน แถมของใหม่แม่งแรงกว่าของเดิมเยอะเลยนะมึง

   9-9-99 วันนี้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว นิตยสาร Racing Club วางแผงเป็นครั้งแรก เปิดตัวอย่างสวยหรูด้วยยอดขายถึงเกือบ 90% นิตยสารแนวๆ ที่ผมคิดขึ้นมาเอง โคตรภูมิใจเลยครับ
   มีเหตุให้ต้องหยุดการผลิตไปนานมาก แต่ในใจผมยังชอบทำงานหนังสืออยู่เสมอ เพราะเป็นงานที่ผมทำได้ทุกที่ ทุกเวลา นี่ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นมา 12-12-12 เราคงได้พบกันอีกครั้งไปแล้ว เฮ้อออ น่าเสียดายเน๊อะ

   ข่าวเด่นวันนี้ จับมาเฟียสยามได้แล้ว  (ทำยังกะจับหัวหน้าแก๊งยากูซ่าในเขตคันโต)
   ตอนแรกผมถึงกับอึ้ง เฮ้ยย ประเทศเรามีมาเฟียด้วย แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นคนประเทศลาวที่ชอบรังแกผู้หญิง ชก ต่อย ตบ เลือกเหยื่อเป็นหญิงล้วนๆ ที่อยู่ละแวกสยามสแควร์ ถ้ามันเลือกผู้ชายนี่คงอายุไม่ยืนจนถึงวันนี้
   เรียกเสียอย่างเท่เลยนะ ตอนแถลงข่าวนี่โดนผู้เสียหายตบกลาบดัง ป๊าบ โหห เสียลุคมาเฟียเลย
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 10, 2015, 05:39:24 pm
10 กย 58
   ออกวิ่งอีกแล้ว จัดไป 1 ชม ตอนเช้าเริ่มมีลมเย็นๆ แต่อีกพักเดียวก็มีฝนปรอย
   เช้านี้กินข้าวขาววันแรกในรอบหลายปี หม้อหุงข้าวกล้องเสีย กินยำกุนเชียง กับไข่ต้ม มีโหระพาเป็นผักแกล้ม
   อ่านดวงเขาบอกว่าการงานจะรุ่ง ได้โยกย้ายตำแหน่ง ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน มีดวงได้เดินทาง ฯลฯ
   ในโลกแห่งความจริงคือ เช้านีเจ้าของร้านให้ผมขับรถไปซื้อของที่แมคโคร แต่สินค้าที่จะซื้อเขาจำกัดแค่คนละ 3 ชิ้น ทางร้านอยากได้มาขายมากๆ ผมจึงต้องซื้อทีละ 3 ลัง นำมาจ่ายเงิน เข็นลงมาเก็บที่รถ ล็อครถ แล้วเดินขึ้นไปทำแบบเดิมอีกครั้ง
   ผมเดินขึ้นลงเข้าออกห้างจนคนมอง ขนาดตัวเองยังงงการกระทำของตัวเองเลย รอบหลังๆ เริ่มเบลอ เฮ้ยย เหมือนมองเห็นภาพตัวเองในอนาคต
   ผมทำแบบนี้ถึง 13 รอบว่ะ
   เหนื่อย เมื่อย เพลีย ง่วง

   “อุษณีย์” เพื่อนเก่าสมัยเด็กโทรมาคุยเรื่องธุรกิจ เขาอยากทำธุรกิจใหม่ มองพวกการตลาดแบบออนไลน์ไว้ แต่ในหัวยังว่างเปล่า พอมาคุยกับผมก็เลยเตลิด มีสินค้าที่สนใจอยู่มากมาย คิดไปไกลโน่นนี่ จนผมต้องบอกให้ทำสิ่งที่เรารัก แต่ก็ยังสรุปอะไรกันไม่ได้นะ เพราะโจทย์ของเขาคือต้องการทำกำไร โจทย์คือ “หาเงิน”
   โทรคุยกับ “เอก” ผู้จัดดริฟท์ เล่าถึงปัญหาของการแข่งงานที่แล้วแบบคร่าวๆ ผมไม่อยากให้มันเกิดในสนามนี้อีก เอกรับทราบ และจะนำไปแก้ไข
   เย็นทยอยจัดของขึ้นรถ ติดจักรยานไปด้วยเหมือนเคย จะได้ขี่มากน้อยแค่ไหนก็ค่อยว่ากัน
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 05:52:06 pm
11 กย 58
   ออกจากบ้านแต่เช้าอีกแล้ว มุ่งหน้าพัทยา แต่แวะศรีราชาหา “พี่แก้ว” เดือนก่อนไปแล้วหลงอย่างไม่น่าให้อภัย คราวนี้รู้จักบ้านแล้ว ไปหาถึงที่ได้เลย นัดกินมื้อเช้ากันแบบง่ายๆ ที่ตลาดละแวกนั้น ผมเล็งไว้แล้วล่ะ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว “ป้าองุ่น”
   ร้านดูโอเคดีนะ ห้องแถวสองห้องโล่งโปร่ง โต๊ะไม้ แบบร้านในต่างจังหวัดเลย แต่รสชาติกลับงั้นๆ สั่งบะหมี่ต้มยำมากินแบบค่อนข้างผิดหวัง
   นั่งคุยกันที่อู่รถจนถึงกลางวัน อู่แบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ผมอยู่ได้ทั้งวันครับ เลยเริ่มวางแผนจะเอามอเตอร์ไซค์ที่เก็บซุกไว้กว่า 20 ปีมาให้พี่แก้วบูรณะ ถ้าเป็นสมัยก่อนผมจะทำรถออกมาแนวคลาสสิคเดิมๆ เก็บรายละเอียดเดิมๆ ให้ได้มากสุด ไอ้แนวนี้เล่นง่ายครับ ใช้เงินอย่างเดียว ทุ่มมันเข้าไป ทำสีเนี๊ยบๆ เครื่องวิ่งดีๆ จบแล้ว
   แต่ทุกวันนี้ผมชอบสไตล์ Rat Rod / Rust Look นี่ถ้าไม่เกรงใจตำรวจผมอยากได้แนว Mad Max ไปโน่นเลย
   ใจเดิมๆ ของผมลึกๆ ยังคงชอบรถแนวทหาร แต่ไอ้รถของผมนี่มีคนทำแนวรถทหารกันเยอะมากเหลือเกิน เห็นเองยังเบื่อเองเลย คิดดูก็แล้วกัน แม้ว่ามันจะเป็นรถยุคสงครามโลกก็เถอะนะ มาวันนี้ผมอยากฉีกแนว ไม่เอาทหารแล้ว แต่ยังคงชอบโทนสีเขียวมะกอกแบบทหารอยู่นะ
   อู่นี้มีรถเจ๋งๆ หลายคันมาก ที่ผมชอบสุดก็คือเจ้า Rat Rod Ford Model T ตัวถังเป็นรุ่น 2 ประตูนะ แต่เจ้าของจะยืดออกเป็น 4 ประตู ผมว่าเสียของว่ะ
   แต่ก็รับประกันความสวยครับ พี่แก้วทำรถ Rat Rod ขึ้นมาใช้เองจนโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนแล้ว คุยไปคุยมา เขาบอกคันนี้เจ้าของจะขาย เครื่องสั่งมาใหม่ เกียร์ใหม่ โห เห็นแล้วขนลุกเลย ต้องข่มใจเดินออกมาห่างๆ อย่าไปมองมันมาก
   กลางวันกินแนวเพื่อสุขภาพ เป็นร้านสลัด เฮ้ย งงเลย สลัดแทบทุกอย่างเลย รสชาติก็โอเคดี กินแล้วก็นั่งคุยกันอยู่อีกนาน
   บ่ายออกเดินทางมุ่งหน้าพัทยา วันนี้เป็นวันตรวจสภาพและซ้อมของนักแข่ง จัดเต็มกันจนถึงสองทุ่ม แต่แนะนำว่าอย่าโหดมาก ขับชนพังกันวันซ้อมกันมากมากแล้ว
   ไปถึงสนาม 0300 เหมือนเดิม นักแข่งก็ซ้อมกันไป ออกแนวมั่วๆ หน่อย ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลความเรียบร้อย ยังไม่มีรถคันใดมาตรวจสภาพเลย (ให้เวลาตรวจถึงสองทุ่ม) ผมก็ได้แต่เดินไปเดินมา แต่อากาศมันร้อน เลยเอาจักรยานที่เตรียมมาออกขี่เล่นดีกว่า
   ขี่รอบสนามดริฟท์ ดูความพร้อมของแต่ละทีม แล้วก็ไปขี่ในสวนสาธารณะที่อยู่ติดกันเล่นสองรอบ จนถึงสัก 0400 ทีมงานภาคสนามเริมทยอยกันมา ผมเองเริ่มรู้จักคนมากขึ้นแล้วนะ อย่างตอนนี้ก็มีรุ่นน้องกลุ่ม V Rev (แอ๊ป รวมแหล่งและร้านขายอะไหล่/ของแต่ง) น้องกลุ่มนี้มาจากทีมงานของนิตยสาร Automobil ที่ปิดตัวไป เรียกว่าแทบจะยกทีมกันมาเลย ตอนว่างๆ เลยมานั่งคุยที่บูธนี้
   บูธอื่นก็อยากไปนะ แต่ผมเป็นกรรมการตัดสินแข่งขันไง ถ้าไปคุยแล้วท่าทีสนิทสนมกับคนใดคนหนึ่งเข้า คนอื่นเห็นภาพหรือแอบถ่ายมา แบบนี้คงจะไม่สวยแน่ๆ
   ค่อนข้างคิดมากครับ แต่เพื่อภาพลักษณ์ของงานด้วยน่ะ
   0500 รถแข่งเริ่มเข้ามาตรวจสภาพ ผมเลยถือโอกาสดูการทำงานของเขาไปด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นรถแข่งดริฟท์อย่างใกล้ชิด แล้วผมก็เข้าใจชัดว่าโลกวันนี้มันเปลียนไปมากแล้ว
   มีถังใส่น้ำแข็งพร้อมปั๊มเอาไว้ฉีดน้ำไหลเวียนในชุดแข่งแบบ Cool Suit โหห ไม่คิดว่าจะมีใครใช้ในไทย ที่ไหนได้ มีแบบนี้กันหลายคันเลยครับ
   ส่วนพวกฉีดน้ำหม้อน้ำ ฉีดอินเตอร์คูล ไอ้นี่มีกันเป็นมาตรฐานแล้ว ยังไม่เท่านั้น รถแทบทุกคันมี Oil Cooler กันหมดแล้วด้วย ยังไม่นับระบบเลี้ยวแบบ Super Angle ไอ้นี่อย่างโหดเลย ทำให้มีลูกเล่นในการขับมากขึ้นกว่าเดิมอีก แต่แร็คก็น่าจะต้องอายุสั้นลงไปด้วย
   ช่วงเย็นเริ่มมีฝนปรอย แต่ยังไม่ถึงกับเปียก ยังคงยืนกลางแจ้งกันได้แบบสบายๆ อีกสักพักเจ้าเอกมา หารือผมถึงจุดวาง Apex 2 ขยับกันอยู่สัก 10 นาทีถึงจะลงตัว จะมีก็ Apex 1 ที่มองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ส่วน Apex 3 นี่ชัดเจนทุกมุมมอง
   แปลกใจไม่เจอเล็ก ปกติเขาจะมาช่วงเย็น ผมเลยเดาว่าคงอยู่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว
ผมอยู่สนามจนถึงราวทุ่มกว่าถึงกลับที่พักไป
พักที่ LK Crystal เหมือนเดิมครับ โรงแรมเกรดกลางๆ ที่ทางผู้จัดใช้บริการกันมาต่อเนื่อง วันนี้ได้อยู่ชั้น 5 เลย
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 05:54:09 pm
12 กย 58
   นาทีทองยามเช้าของผมคือการเอาจักรยานออกขี่เลยนะ ได้มาต่างถิ่นยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ติดที่ไอ้คันนี้มันมีเกียร์เดียว ไม่งั้นจะลองพลังขาขึ้นเขาพระตำหนัก อยากไปดูคอนโดอันเก่าของเราที่ขายทิ้งไปกว่า 20 ปีแล้ว อยากดูสโมสรเรือใบราชวรุณที่ใฝ่ฝันอยากมาเล่นที่นี่อีก ทำเลสวยมากๆ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำริมหน้าผาเล็กๆ 
   ส่วนในโลกแห่งความเป็นจริงก็ทำได้แค่ขี่เลียบเลาะริมหาดครับ เล่นง่ายสุดก็หาดพัทยานี่แหละ เหนือ กลาง ใต้ ซัดให้หมด แต่บรรยากาศก็แบบเดิมๆ ล่ะนะ จะดีหน่อยก็ตรงบริเวณชายหาดทำทางเท้าจนสวยเหมือนต่างประเทศ ส่วนที่น่าเสียดายก็คือหาดทรายสวยๆ แถวนี้ไม่เหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว ทั้งๆ ที่ตอนสมัยเด็กๆ ผมวิ่งลงเล่นน้ำกันหาดนี้ได้อย่างสบายอารมณ์เลย
   ไม่น่าเชื่อสายตาตัวเอง ตอนเช้าๆ นักท่องเที่ยวจีนพากันลงมาจากโรงแรมที่พักข้ามถนนลงมาหาดพัทยาใต้กันเป็นร้อยคน (หลายๆ กลุ่ม กลุ่มละหลายๆ คน) ทยอยลงเรือเร็วมุ่งหน้าเกาะล้าน ผมเห็นมีการเล่น Parasail กันแบบละลานตา ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย
   แวะกินต้มเลือดหมูคุณศรีที่พัทยากลาง ราคาแพงมากเลย สั่งแบบพิเศษเพิ่มผัก 1 ชม ข้าวเปล่า 1 ชาม 70 บาทแน่ะ
   
   กลับเข้าที่พัก อาบน้ำ แต่งตัว ออกไปสนามแข่ง วันนี้ควอลิฟายทุกรุ่น และแข่ง Class C (มือใหม่) และ Class B เอาจนเหลือรอบ 16 คัน
   แดดนี่ร้อนแรงเลยครับ เริ่มงานด้วยการประชุมนักแข่ง บอกการให้คะแนนเรื่องไลน์ Apex ฯลฯ วันนี้นักแข่งมากันน้อยกว่าปกติมาก ราว 40 คันเท่านั้นเอง หลายคนรถพังแล้วซ่อมไม่ทันเพราะอาทิตย์ที่แล้วมีงานแข่งของ All Star ส่วน Benjamin นักแข่งจากสิงคโปร์ก็ไปแข่งงาน D1 ที่ญี่ปุ่น เจ้าเก่งรถ KE30 ก็ไม่มา และหายไปอีกเยอะเลย
   เล็กมาถึงสนามก็ช่วยกำกับมุมกล้องทันที ไปคุมอยู่ราว 30 นาที ทำให้ได้ภาพที่เราต้องการ ผมเลยทำงานง่ายขึ้นนิดหนึ่ง ต้องขอขอบคุณเล็กด้วยครับ
   ซัดควอลิฟาย C กันเลย ดูชาร์ทนักแข่งแล้วขำกลิ้ง มีแค่ 9 คัน เอาเข้ารอบ 8 คัน แสนสารไอ้รถคันนั้นเสียจริงๆ เล้ยยย
   ควอลิฟาย C จบ ก็ตามด้วยควอลิฟาย A และ B ที่จัดพร้อมกัน เพราะมีรถหลายคันเขาลงสองรุ่นเลย ช่วงนี้จ้องกันตาเขม็ง ผมรับหน้าที่ดูในจุด Apex ทั้ง 3 พลาดกันไม่ได้เลยล่ะ
   ควอลิฟายก็เหนื่อยไปอีกแบบครับ แม้จะขับคันเดียว แต่รายละเอียดมาก กรรมการแบ่งหน้าที่กันดูในทุกรายละเอียดแล้วนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน
   ทำเลตั้งเวทีนี่รับควันเต็มๆ สูดกันเพลินจมูกไปเลย ผมมีหน้ากากกันแก๊สพิษอยู่ที่บ้าน นึกถึงมันเสียจริง
   ควอลิฟายจบก็ต่อด้วยรอบ Battle ย้ำเรื่องการให้คะแนนที่จะเป็นแบบอิสระต่อกัน ต่างคนต่างให้ แล้วนำมาหาร 3 ได้คะแนนเท่าไหร่ก็ตามนั้น เศษทศนิยมให้เป็น 2 ตำแหน่งกันไปเลย คนคิดคะแนนน่ะปวดหัว และการที่คะแนนจะออกมาเสมอกันจนต้องวิ่งใหม่ ก็จะน้อยลงไปมากจนแทบจะไม่มีเลย
   ซัดจน Battle C จบ ตามด้วย Battle B จนเหลือแค่ 4 คัน วันนี้เราจัดกันแค่นี้ เลิกกันแค่สัก 0700 เท่านั้นเอง แต่ตั้งแต่ช่วงเย็นอากาศก็เริ่มครึ้มๆ มาแล้วนะ
   แยกย้ายกันกลับเข้าห้องพัก ผมเอา Uke มาซ้อมมือด้วย ไม่มีเหงาเลยล่ะ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 05:55:56 pm
13 กย 58
   ตื่นแต่เช้า ลงลิฟท์มาจะไปขี่จักรยาน เจอพี่ตู๋ลงมากินมื้อเช้าพอดี เลยนั่งคุยกันแทน สักพักฤทธิ์ตามลงมาก็คุยกันเพิ่มอีกคน คุยเพลินจนสาย เขาสองคนไปงาน Thailand Super Series ที่พีระต่อ เขาก็ชวนไปด้วยนะ แต่ผมเกรงใจ ไม่ค่อยรู้จักใครในงานแข่งแล้ว เลยขออยู่ห้องพักทำงานต่อ
   วันนี้เริ่มแข่งบ่ายครับ รถแข่งน้อย เลยเพิ่มเวลาซ้อมช่วงเช้าให้นักแข่งแทน จะไปสนามเร็วหน่อยก็เปลี่ยนใจ เห็นแดดแล้วท้อเลย โคตรแรงเลย
   ไปถึงสนาม 1230 ก่อนเวลานัดหมาย 30 นาที รอจนถึงบ่ายโมง ก็ยังไม่เห็นมีใครมา เฮ้ยย ชักแปลกใจ นี่ถ้าเป็นงานของตัวเองผมโมโหเลยนะ
   กว่าจะเริ่มประชุมนักแข่งได้ก็ต้องช้าไปอีก 30 นาที โหห อะไรกันนี่ ขนาดร่นเวลามาแล้วยังเลทกันอีก เชื่อเขาเลย
   เรื่องการรักษาเวลากับผมนี่สำคัญมากนะ การไม่ตรงเวลาก็คือการไม่ให้เกียรติกัน มันคือด่านแรกที่เรารับรู้ได้ ถ้าเป็นโลกธุรกิจนี่ ไอ้คนนี้คงจะต้องเจอแต่ข่าวร้ายๆ แน่
   ประชุมนักแข่งก็พูดคุยกันเรื่องเดิมๆ ย้ำแล้วก็ย้ำอีก ส่วนนักแข่งก็ยังมีคำถามมาแบบเดิมๆ อีกเช่นกัน เฮ้ยย แม่งเหมือนนั่ง Time Machine มาคุยกันเลยนะ
   ไม่เป็นไรครับ เรื่องพวกนี้เราพูดคุยกันได้บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องกฎ กติกาใหม่ๆ ที่พวกเราค่อยๆ เพิ่มเติมเข้าไป ผมว่าเมื่อถึงสนามสุดท้ายปลายปี คงมีกฎอีกเพียบที่จะต้องนำลงบันทึกในรายการของเราสำหรับงานแข่งปีหน้า
   เริ่มการแข่งของ Class B ต่อด้วย Class A ที่มีรถเข้ารอบถึง 32 คัน ซัดกันไปเรื่อยๆ ตามลำดับ แต่พอรอบลึกๆ เข้า เจอนักแข่งทีฝีมือใกล้เคียงกันมากเข้า ทำให้เริ่มตัดสินยาก บางคู่ผมขอดูภาพย้อนหลังถึง 4 รอบ ตอนวิ่งสดนี่ผมจะดูภาพรวมทั้งหมด ตอนรีเพลยก็จะดูการวิ่งของแต่ละคัน คันนำต้องวิ่งตามไลน์ควอลิฟาย คันตามต้องตามไลน์คันหน้า ประกบให้ติด จัดให้ชิด คันหน้ามีหน้าที่หนีทิ้งให้ขาด
   พูดง่าย แต่ทำยากครับ โดยเฉพาะในรอบลึกๆ ที่เริ่มมีฝนปรอย ปกติก็ดริฟท์กันสะบัด พอเจอฝนนี่มันทำให้คุมรถยากมาก รถหลายคันสไลด์แบบขวางไม่มาก จนคนดูหลายคนนึกว่ารถวิ่งตรง แต่จริงๆ แล้วมันดริฟท์อยู่ตลอดเวลา แต่ไถลไปด้วยมุมองศาที่น้อยมากๆ มีภาษาในกลุ่มเรียกว่ารถเกิดอาการ “under”
   ผมฟังแล้วขัดหูนะ น่าจะเรียกว่าอาการ “neutral” มากกว่า แต่ไม่กล้าไปแย้งอะไรกับเขา
   ช่วงเย็นท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ใจผมคิดว่ายังไงก็ไม่ตก ถึงตกก็แค่ปรอยๆ ไม่มีผลต่องานแข่งของเรา มองฟ้าแล้วนึกถึงเช้าวันเสาร์ที่เราไหว้พระขอพรให้ “เจ้าเอก” จัดงานแข่งได้อย่างราบรื่น
   อีกพักเดียวฝนเริ่มโปรย แต่ก็เป็นเม็ดบางๆ สลับหนา งานแข่งเหลืออีกแค่ 8 คู่ ในใจลึกๆ ของผมคิดว่ายังไงก็รอดชัวร์
   งานนี้มี “ดราม่าขั้นเทพ” ครับ พี่วิชัยเกียร์เสีย เข้าได้แค่เกียร์ 3 เกียร์เดียว เป็นนักแข่งคนอื่นก็คงจะถอนตัวไป แต่พี่วิชัยไม่ทำแบบนั้น เขาจะขอสู้ด้วยเกียร์เดียว !!!
   ต้องเท้าความกันสักนิดว่าพี่วิชัยเป็นม้านอกสายตามาตลอด แม้จะเป็นช่างเอง จูนเอง ซ่อมเอง ขับเอง แต่ฝีมือก็ยังไม่โดดเด่นเท่าไรนักหากเทียบกับนักแข่งที่เหลือในชาร์ททั้งแผง
   แต่ม้ามืดตัวนี้แหละครับที่ไล่แดกคู่แข่งที่เขาประกบด้วยมาตลอดจนสามารถทะลุเข้าไปจนถึงรอบชิงที่ 1 !!!
    มาแพ้เจ้า M ในรอบชิง ทำให้พี่วิชัยได้ที่ 2 ไป โหห สุดตีนมากๆ ครับ ยกให้เป็นเจ้าพ่อ wet track ได้เลย
   เหตุเพราะมาเจอฝนด้วยน่ะครับ รถหลายคันดริฟ์แบบไปไม่เป็นกันเลย พวกแรงเหลือๆ นี่กลายเป็นยิ่งขับยากนะ กดคันเร่งแรงมากไปรถก็สไลด์ขวางแบบหมุนม้วน กดน้อยไปรถไม่ดริฟท์ก็เสียคะแนน
   ผมว่างานนี้ทำให้ใครหลายคนได้บทเรียนจาก wet track พอควร อยู่ที่ว่าเขาเหล่านั้นจะหาข้อบกพร่องของตัวเองและรถขณะขับทางเปียกได้ไหมเท่านั้นเอง
   แข่งจบก็มอบรางวัลกันเลย โชคดีจริงๆ ที่ฝนหยุดพักช่วง ผมเป็นผู้มอบรางวัลให้ Class B ก็ดีใจด้วยกับคนชนะครับ แต่คนแพ้ก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าเสียที่ไหน เพียงแต่พลาดในจุดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
   ผมรออยู่ที่สนามจนผู้คนทยอยกลับกันเกินครึ่ง เหลือเพียงพวกทีมงานจัดบูธที่ต้องใช้เวลาอีกเป็นชั่วโมงในการรื้อถอดประกอบ
   ผมยังคงพักอยู่ที่นี่อีกคืน รุ่นน้องทีมงานอย่างเอกและไผ่เข้าใจดี ผมง่วงนอนเร็ว จึงจองห้องพักต่อให้ผมอีกคืน
   ขับกลับมาถึงโรงแรม เจอรถ Land Rover ของเจ้าไผ่จอดอยู่ เลยลองเดินผ่านโถงล็อบบี้ดู เห็นเขานั่งอยู่คนเดียวพอดี เลยเข้าไปนั่งคุยกัน
   คุยกันสัก 30 นาที ผมกับไผ่นี่คุยกันน้อยมากเลยนะ ปกติภาคสนามผมจะคุยกับเอกเสียมากกว่า ก็ดีเหมือนกัน จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น อีกสักพัก “ปอ” กับ “เมย์” มาถึง ก็เลยแยกย้ายกัน
   กลางคืนฝนตกอย่างโหดเลย ดีนะที่ยังอยู่ต่อ ไอ้พวกที่ขับกลับไปนี่จะรอดฝนหนักกันไหมนะนั่น ขอให้ทุกคนเดินทางโดยปลอดภัยครับ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 05:57:19 pm
14 กย 58
   เช้าแสนสดใส ขี่จักรยานเล่นอีกสักนิดก่อนกลับ วันนี้มีโอกาสขี่ไปทางหาดจอมเทียน ไม่ได้มาเยือนมากกว่า 20 ปีครับ ตอนหนุ่มๆ ผมเล่นวินเซิร์ฟอยู่แถวหาดดงตาล เลยขอวนไปดูหน่อย
   โอ้โห สภาพแม่งมั่วๆ ยังไงไม่รู้ คล้ายกับว่ายก “ร่มชายหาด” แบบบางแสนมาไว้ที่นี่ ปกติย่านนี้จะไม่มีร่มหรือเก้าอี้ผ้าใบ มีแต่ต้นตาลสูงชะลูด เขาถึงเรียกว่า “ดงตาล” ไง  แต่ทุกวันนี้แม่งอย่างแน่น ไม่สวยเลย มลพิษทางสายตาชัดๆ
   ขี่จักรยานเลียบเลาะไปจนสุดเส้นทางก็วกกลับออกมาทางเดิม เริ่มต้นเลาะหาดจอมเทียนอย่างแท้จริง
   ย่านนี้มีร้าน Surf House ที่ผมเคยฝากวินเซิร์ฟไว้เป็นประจำ คือซื้อแล้วฝากไว้นี่เลย ตอนจะเล่นก็แค่ขับรถมาตัวเปล่า ผมมองหาร้านนี้ก็จำไม่ได้แล้ว เจอร้านอาหารชื่อ Surf Kitchen แทน แต่พิกัดทำเลใกล้เคียงกันมาก เดาว่าคงเป็นเจ้าของเดิม
   สภาพสองข้างทางนี่ยิ่งไม่สวยเข้าไปใหญ่ ชายหาดเริ่มจะกุดๆ เพราะโดนทะเลกัดเซาะจะเหมือนหาดพัทยาอยู่แล้ว อีกสิบกว่าปีคงจะเน่าพอกัน ดูแล้วไม่เจริญตา เลยขี่กลับดีกว่า
   เข้าที่พักเอาจักรยานเก็บ ขึ้นมากินอาหารเช้า เจอผักบร็อคโคลี่ผัดอร่อยดี มีบวบผัดก็กินแล้วโอเคดี กลายเป็นมื้อนี้เน้นแต่กินข้าวผัดกับผัก ค่อยรู้สึกดีหน่อยนะที่อยู่นอกบ้านก็ยังดีอาหารดีๆ ให้กิน
   เหงื่อชุ่มตัว ขึ้นห้องพักอาบน้ำ พักผ่อน เล่น Uke และคิดงานใหม่ๆ ไปด้วย พอ 1100 ก็เตรียมตัวจัดข้าวของใส่กระเป๋าออกเดินทางกลับบ้าน
   ออกสายๆ ขับรถสบายหน่อยครับ รถแทบจะไม่ติดเลย ขับเรื่อยๆ แค่ 2 ชม ก็ถึงบ้านแล้ว ปลอดภัยกว่าขับกลางคืนเยอะมาก

   ระหว่างทางก่อนขึ้นยกระดับบางนา เห็นคนเปิดท้ายจอดอยู่ข้างทาง เดาว่ายางแตกแน่ๆ เลยรีบลงไปช่วยเหลือ ขณะเดินผมมองไปที่ล้อรถก็ไม่เห็นยางเส้นไหนแบน
   สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ
   เจ้าของรถเงยหน้าขึ้นมาจากด้านท้าย แล้วตอบว่าไม่มีอะไร รถเขาไม่ได้เสีย ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก
   ได้ยินแล้วก็สบายใจ ผมจะยิ่งรู้สึกไม่ดีที่ปล่อยให้คนรถเสียโดยที่เราสามารถช่วยเหลือเขาได้เลยผ่านไป
   ขับขึ้นทางยกระดับ ถนนโล่งๆ นี่ขับสบายมาก แต่ก็มีจังหวะเกือบชนกับรถตู้โดยสาร เขาแซงขวาแล้วรีบตบเข้าซ้าย ส่วนผมแซงซ้าย (มีรถขับช้าแช่อยู่เลนกลาง) แล้วรีบหลบรถเลนซ้าย เกือบโดนกับรถตู้ที่หักเข้ามาอย่างกะทันหัน ดีที่ผมขับช้า เลยเบรกทันตรงหน้ารถเก๋งคันที่ขับแช่อยู่เลนกลาง
กลับมาถึงบ้านตอนบ่ายแก่ๆ รีบเอาข้าวของลง จัดรถพ่อให้เหมือนเดิม พักผ่อนร่างกายเล็กน้อย ไม่ได้ถึงกับนอนหรอกครับ แค่เอนหลังพิงพนัก อีกสักพักก็ต้องออกไปร้านขายของ แม่ให้ไปช่วยเฝ้าร้าน เขาจะไปงานเลี้ยง
   ผมอยู่เฝ้าร้านต่อจนถึงค่ำ วันจันทร์งานเยอะ แถมมีฝนตกอีกด้วย ไม่เลิกดึกสิแปลกนะ
   กลับมาถึงบ้าน มิวนอนดูทีวีในสภาพเกือบหลับ ขอเขากอดหน่อยด้วยความคิดถึง อีกสักพักก็ปิดไฟนอน
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 05:58:09 pm
15 กย 58
   เพลีย ตื่นสาย ไม่ได้วิ่ง ยังดีนะที่ตลอด 4 วันที่ผ่านมาเอาจักรยานไปขี่ด้วย
   กลับมาเจออาหารเช้าแบบคุณภาพเช่นเคย ปลาเก๋าทอด ยำมะม่วง ไข่ต้ม มีผักแกล้มเป็นใบโหระพา ผักแพว ข้าวกล้องโรยงาดำบด
   ไปถึงที่ทำงานก็จัดเต็มแต่เช้า มีรถมาลงสินค้า 800 ลัง หึหึ ยังดีที่เขามากันหลายคน ไม่งั้นผมก็ต้องไปช่วยแบกอีกเช่นเคย
   อากาศมืดครึ้มตลอด ตั้งแต่เช้านี้ยังไม่เห็นแสงอาทิตย์เลยสักนิด ยิ่งตกเย็นยิ่งมืดครึ้ม คืนนี้ไม่น่ารอด ได้ข่าวว่าจะมีพายุ Vamco เข้าไทย
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 05:59:14 pm
16 กย 58
   ฝนตกตลอดคืนลากยาวมาถึงเช้า ไม่ได้วิ่ง เลยเอา Uke มาซ้อมไป 1 ชม วันนี้ผมอยู่เฝ้าร้านขายของตลอดวัน ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรมาเล่ามากนัก
    น้ำท่วมพัทยาแบบคาดไม่ถึง ใน 7-11 ท่วมกันเกือบถึงลิ้นชักเก็บเงินในเคาเตอร์ ขนมข้าวของลอยเกลื่อนร้าน ถนนใดที่ลาดเอียงก็จะมีน้ำไหลราวกับน้ำตกเลย โหดสัสๆ รถยนต์โดนพัดลอยยังกะรถของเล่น
   ตั้งรับกันไม่ทัน ก็โทษคนโน้นคนนี่กันไปเรื่อย
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 06:00:08 pm
17 กย 58
   กทม ฝนปริมาณปานกลาง แต่มาหนักทางภาคตะวันออกนี่สิ เห็นแล้วเหนื่อยแทนเลย ผู้คนที่ประสพภัยก็ด่าเทศบาลเมือง คงไม่เข้าใจมั้งว่าถ้าเกิดพายุขนาดนี้ ต่อให้เป็นประเทศใดก็ต้องโดนท่วม ไม่เกี่ยวกับผังเมือง ไม่เกี่ยวกับขยะ แต่เป็นเพราะมันเป็นชุมชนบ้านเรือนอยู่ใกล้ชิดติดกันเป็นพรืดจนไม่มีผืนดินว่างเลย แล้วน้ำมันจะไปลงที่ไหนล่ะครับ
   น้ำมาถึงสัตหีบก็โดนจัดหนักไม่แพ้พัทยา แต่ที่นี่บ้านเรือนจะอยู่ห่างๆ กัน ไม่ได้เป็นลักษณะเมือง น้ำจึงท่วมเป็นหย่อมๆ ใครอยู่ลุ่มต่ำก็ต้องทำใจว่าน้ำไปถึงเร็วกว่าคนอื่นเขา   
   น้ำมามากจนล้นอ่างเก็บน้ำออกมา ทะลักแรงมากจนมีข่าวลือว่าอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่แตก ที่จริงไม่ได้แตกหรอก น้ำล้น Spill Way ออกมา จะเรียกว่าเป็นทางแบบ by pass ก็ย่อมได้ เออ แปลกดีนะ คนมักจะเรียกว่า Spring Way จะพูดทับศัพท์ก็ต้องทำให้ถูกต้องนะครับ ไม่งั้นมีโชว์เงิบ
   เส้นทาง 331 ที่ผมใช้เป็นทางลัดกลับกรุงเทพฯมีช่วงหนึ่งคอสะพานโดนกัดเซาะจนขาด รถตกหล่นลงไปในคลอง เห็นแล้วเสียวแทน
ผมยังคงอยู่ที่ร้านขายของตลอดวันเหมือนเดิม
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 06:00:52 pm
18 กย 58
   อิทธิพลของ Vamco รุนแรงพอดู วันนี้น้ำท่วมหัวหิน ระยอง โดยเฉพาะที่หัวหินมีข่าวบอกน้ำท่วมเกือบมิดหลังคารถ ดูภาพก็เป็นแบบนั้นจริง คนส่งต่อกันมากมายในเฟซบุ๊ค แต่ผมไปเช็คข่าวดูปรากฏว่าน่ำท่วมบนถนนแค่ครึ่งล้อ แต่รถขับตกข้างทางลงไป ก็เลยมิดหลังคา ฮ่วยยย
   ช่วงบ่ายฝนเริ่มซาลง กทม เองก็มีตกบ้างแบบประปราย ของเราแค่เปียก แฉะ ทำงานลำบาก แต่คนอื่นเขาข้าวของเสียหายกว่าเราเยอะ ฉะนั้น อย่าบ่นไป อย่าโทษดินฟ้า มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราต้องปรับตัวให้ได้
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 06:01:30 pm
19 กย 58
ฝนเริ่มหยุด มีแดดออกแล้วในรอบหลายวัน นึกถึงผู้ประสพภัยแล้วน่าเห็นใจพวกเขาจริงๆ นะ ผมติดตามข่าวสารจากชุมชนคนสัตหีบก็รู้สึกอิ่มในน้ำใจ คนไม่โดนน้ำท่วม มีร้านใหญ่โตอย่างคาร์แคร์ก็บอกว่าให้คนมาใช้เป็นที่พักได้ ให้เป็นจุดรวมอาหารได้
   อีกคนบอกว่าเขาอยู่บ้านว่างๆ ขอรับซักผ้าที่เลอะก็แล้วกัน ทั้งๆ ที่บ้านเขาไม่ได้ทำธุรกิจซักอบรีดเลย อ่านแล้วโคตรซึ้งเลย
   ยังไม่นับพวกเอารถ 4X4 ออกแจกอาหาร ข้าวของ เครื่องใช้ บางคนก็รวมตัวกันทำอาหารแล้วแพ็คกันในวัด
   บ่ายไปธนาคารในห้าง เดินดูกล้องวีดีโอแบบ Action Cam ของ Panasonic HX-A1 ดูกี่เคาเตอร์ก็ไม่เห็นมีของ เลยลองถามพนักงาน เขาบอกของเพิ่งมาเมื่อเช้า หยิบออกมาให้ผมดูสดๆ เลย
   เห็นแล้วชอบเลยนะ ตัวมันเล็ก บาง เบามาก หนักแค่ 45 กรัม แต่คงต้องมาเสียเงินอีกชุดค่าซื้อ Mount ราคาลดแล้วเหลือ 11300 จุดเด่นคือถ่ายภาพได้ O Lux แปลว่า มืดสนิทก็ยังถ่ายได้ (แต่ต้องเปลี่ยนฝาครอบเลนส์ที่มีแถมมาให้)
   ดูอยู่นาน จนขอโบร์ชัวร์เขามานั่งอ่านให้ฟิน มิวมาหาที่จุดนัดพับในร้านหนังสือตอนเย็น กินซานตาเฟ่กันก่อนกลับบ้าน
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 06:02:32 pm
20 กย 58
   เพลียสะสม แม้จะไม่ได้ใช้แรงกายอะไรนักหนา แต่ทำมันมันเหนื่อยล้า เบื่อ มากเหลือเกิน
   ออกไปวิ่งในรอบ 10 วัน เช้านี้เลยจัดไปแค่ 1 ชม ช่วง 15 นาทีแรกนี่ผมวอร์มอย่างช้าเลยนะ กลัวบาดเจ็บน่ะ ปกติวันอาทิตย์มีเวลาว่างมากผมจะวิ่งสัก 2 ชม แต่เห็นว่าทิ้งห่างไปนาน เลยจัดแค่ชั่วโมงเดียวพอ เสร็จแล้วก็ถอดเสื้อนั่งตากแดดอีก 5 นาที
   กลับมาบ้านไม่มีอะไรกิน ยังดีที่เราเตรียมเสบียงเอาไว้ ท้องว่างๆ นี่ผมกินกล้วยน้ำว้าไปก่อนเลย 1 ผล (เคยอ่านความรู้ในเฟซบุ๊ค เขาแชร์กันมาบอกว่าไม่ควรกินกล้วยตอนท้องว่าง แต่ผมไม่เชื่อแม่ง)
   เอาขนมปังออกมาปิ้ง กินกับแซนวิชสเปรด ขนมปังดีๆ นี่กินเปล่าๆ ยังอร่อยเลยนะ ซัดไป 3 แผ่นใหญ่ๆ เลย หึหึ ตามด้วยเต้าฮวยอีกถุง อิ่มแบบ ใครก็ได้มาลากกูที
   นี่เป็นวันอาทิตย์แรกที่มิวหยุด เขาบอกจะอ่านหนังสือสอบ ก็โอเคครับ จัดไปตามอัธยาศัยได้เลย โตแล้ว บริหารชีวิตของตัวเอง
   ผมอธิบายเรื่อง Hard Ware & Soft Ware ของร่างกายมนุษย์เมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือให้มิวฟัง ให้เขาเห็นถึงความสำคัญของการอัปเกรด Hard Ware ในตัวเราเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้เราไม่สามารถทำได้ในมือถือของ iPhone
   ผมสอนให้เขาเห็นความสำคัญถึงการดูแลร่างกายและสุขภาพ ซึ่งมันจะทำให้ Hard Ware ในร่างกายของเราแกร่งขึ้นทั้งระบบ ป้องกันสารพัดไวรัสได้โดยอัตโนมัติ แข็งแกร่งปกป้องการตกกระแทก ลงน้ำ ลุยฝน แดด ฝุ่น เหนือกว่ามาตรฐานของ IPX เสียอีก
   ส่วน Soft Ware นี้ผมไม่ค่อยห่วงอะไรนัก ให้เขาใช้วิจารณญาณในการเลือกรับสารเอาเอง มั่นใจครับว่าลูกที่เราเลี้ยงเองมาอย่างใกล้ชิดกับมือตั้งแต่เกิด เขาจะรู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี
   ช่วงนี้ผมสอนมิวโดยยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพ สอนแบบให้เขานำไปคิดต่อเอง จากเดิมสมัยประถมจะสอนโดยทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
   การเลี้ยงลูกนี่มันเหมือนศาสตร์ลึกลับที่คนที่รู้ดีที่สุดก็คือตัวพ่อแม่เอง เรื่องนี้ไม่มีสูตรสำเร็จครับ อ่านสารพัดหนังสือไปก็เท่านั้น ได้แค่อ่านประสบการณ์ของเขา ซึ่งมันไม่เหมือนกับที่เราเจอกับลูกเราเท่าไหร่นัก ฉะนั้น อ่านได้ เชื่อได้ แต่อย่าไปงมงายอะไรนัก โลกมันเปลี่ยนไปมากแล้ว
   
   ได้ฤกษ์เปิดคอมฯในรอบ 10 วัน โอ้โหห เอาแค่งานไดอารี่ชีวิตนี่ผมก็เล่าไม่ไหวแล้ว ยาวและอย่างเยอะสัส
   ไล่เรียงไปทีละวัน อารมณ์ตอนนี้เหมือนกับนั่ง Time Machine ย้อนเวลากลับไปในวันเกิดเหตุคือตั้งแต่วันที่ 11 กย
   บ่ายกินข้าวมันส้มตำอีก แม่ทำเองที่บ้าน ยังอิ่มแต่เช้าไม่หายเลย แต่กลัวแม่เสียน้ำใจ เลยกินอัดเข้าไปอีก หึหึ ช่วยกูด้วยยยยย
   Facebook จะมาเปิดสำนักงานในประเทศไทย หึหึ ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ก็เพราะไทยใช้ Facebook มากเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียนั่นเอง
   เจ๋งไหมเล่า เล่นกันแบบไม่รู้จักเวร่ำเวลากันเลย เฉลี่ย 2.35 ชม ต่อวัน รายได้ของธุรกิจแนวนี้ก็คือการขายโฆษณาครับ ก็เพราะตัวเขาเองก็เป็นสื่อๆ หนึ่งนั่นเอง
   ถือว่ามาช้ากว่าที่ผมคิดนะครับ เพราะ Google เขามาเมื่อสองปีก่อนแล้ว พอซื้อ YouTube ไปแล้วนี่สยายปีกใหญ่เลย
   ส่วน Apple ทีมีข่าวว่าจะออกผลิตภัณฑ์รถยนต์ ผมยังคงไม่เชื่อว่าเขาอยากจะขายรถยนต์จริง แต่ที่ทำรถยนต์ออกมาก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ผลิตรถทั้งหลายก่อน จากนั้นเขาก็จะขาย “Soft Ware” ตามที่เขาถนัดมากกว่า
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 06:03:28 pm
21 กย 58
   ฝนปรอย อดวิ่ง ออกไปอยู่ร้านขายของเช้าจรดเย็น ตอนว่าง ตอนงานน้อย เราก็คิดหาฝันของเราต่อไป ทำเท่าที่มันจะทำได้ก็แล้วกัน
ใช่แล้ว น้ำหน้าอย่างผมจะไปทำอะไรได้ดีไปกว่างานด้านรถยนต์ แม้นิตยสารรถบ้านเราจะปิดตัวลงไปหลายเล่ม ล่าสุดก็ยักษ์ใหญ่วงการโมดิฟาย Automobil Racing Cars ยังปิดไปเลย อันนี้เล่นเอาผมงงมาก เพราะทำแล้วยังกำไรอยู่เดือนละแสนกว่าบาท
   หลายคนมองว่านิตยสารเจ๊งแน่ๆ เจอสื่ออินเทอร์เนทตีกระจาย แต่ผมกลับมองว่านิตยสารรถดีๆ ไม่มีทางเจ๊ง ยังไงก็ไม่เจ๊ง แถมมีแต่จะรุ่ง
   ผมวางแผนของตัวเองเงียบๆ มาตลอด เจอมรสุมจากที่บ้านตัวเองมาเป็นอุปสรรคสองครั้งใหญ่ๆ ที่แม่ตัวเองเอางานผมทั้งหมดไปขายร้านขายของเก่า กลับมาบ้านเจอห้องโล่งๆ ผมงี้อึ้งแดกไปเลย
   นี่มันเป็นอดีตที่แสนเศร้าของผมที่ไม่มีวันลืมเลย
   เย็นรับมิวกลับบ้าน เขารู้สึกไม่สบาย อาเจียน ปวดท้อง เลยจอดข้างทางแล้วให้วิ่งไปหาซื้อยาเอง นี่คือการสอนเขาอีกรูปแบบหนึ่งของผม
   เข้านอนเร็วหน่อยตั้งแต่ยังไม่ถึงสามทุ่มดี มิวหยิบหนังสือนิทานที่เขาเก็บไว้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ เอามาให้ผมอ่านให้ฟังก่อนนอน
   ผมอ่านนิทานให้ลูกฟังประจำตั้งแต่ตอนเด็กนะ จำได้ว่าล่าสุดจะเป็นตอน ประถม 6 เว้นมาราว 2 ปี ลูกไม่เคยสนใจจะให้อ่านเลย จนมาวันนี้แหละครับ
   เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เลยนะ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 22, 2015, 06:04:13 pm
22 กย 58
   นอนหัวค่ำ เลยตื่นเช้าได้มาก วิ่งไป 1.15 ชม เหงื่อออกแบบชุ่มฉ่ำ เออ เช้านี้มีฝนปรอยๆ อีกแล้ว เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นพายุตัวใหม่ก่อตัวอีกนะ
   อาหารเช้ากระเพราเนื้อปลาเก๋า แครอทลวก ข้าวกล้องโรยงาดำ กระเทียมสด จะว่าไปมันเริ่มซ้ำมากเป็นเดือนแล้วนะ ไอ้กระเทียมสด แครอท ไว้หาแปลกใหม่มากินบ้าง
   อากาศเริ่มครึ้มๆ อีกแล้ว เกือบจะตลอดวันเลยนะ มีแดดโผล่มาแป๊บเดียวแล้วก็มืดต่อ
   เย็นคุยกับ “ก้อง สนามเดินป่า” เขาส่งแบบเต้นท์ขนาดใหญ่ที่เขียนแบบเองมาให้ผมดู กลายเป็นเกิดไอเดีย บอกให้เขาทำรีวิวอุปกรณ์ลงใน youtube เขาเห็นดีด้วย แต่บอกว่าตัวเองไม่มีเวลา
   เอาแล้วสิมึง งานมึงมาอีกแล้ว
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 24, 2015, 05:27:55 pm
23 กย 58
   กลางคืนฝนตกหนักมาก เช้ายังมีปรอยๆ ไม่ได้วิ่ง ซ้อม Uke แทน แต่รู้สึกว่าฝีมือจะไม่ค่อยพัฒนาขึ้นแล้ว ต้องคิดหาเทคนิคใหม่ๆ มาเสริม
   เจอเพลง “ชูใจ” ของ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ฟังแล้วสะอึกเลย เขาแต่งให้ลูกสาวตัวเอง ทำเอาผมงี้นึกถึงมิวขึ้นมาเลย แต่ผมแต่งเพลงไม่เป็น เลยทำเป็นบทหนังมันซะเลย ชื่อเรื่อง My Father The Hero สืบเนื่องมาจากว่าผมเองทำอะไรก็ไร้ค่าในสายตาของพ่อแม่ ตัวเองก็อยากเป็นฮีโร่ของลูกบ้าง เลยอุปโลกน์เอาเองว่าพอมิวโตขึ้น เขาจะยกให้ผมเป็นฮีโร่ในใจของเขา
   ข่าวเด่นวันนี้ สถานทูตรัสเซียในประเทศซีเรียถูกโจมตี ใคร ฝ่ายใด จะโจมตีผมไม่รู้ แต่เรื่องเหี้ยๆ ทั้งหลายในโลก ผมยกให้ USA ครับ แม้จะไม่ยิงเขาโดยตรง แต่ก็อยู่ในฝ่ายสนับสนุนอาวุธและยุแยงให้คนเขาแตกแยกกัน
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 24, 2015, 05:29:10 pm
24 กย 58
   ตื่นเช้า แต่ขี้เกียจเฉยเลย เอ้ยย มีอารมณ์นี้ด้วยหรอ ก็เดินสายกลางครับ วิ่งมาบ่อยแล้ว นึกไม่อยากวิ่ง ก็ปล่อยไปบ้าง แต่ก็ไปทำกายบริหารบนดาดฟ้าแทนนะ
   ขี่จักรยานไปตลาด เจอขอทานที่คุ้นหน้ามากับเด็กอีกสองคน เลยวกกลับไปร้าน เอาช็อคโกแลตเคลือบขนมปังไปให้เด็กคนละกล่อง บอกว่ากินแล้วต้องทิ้งขยะให้เรียบร้อยด้วยนะ
   กลางวันไปธนาคาร มีช่วงเดินข้ามถนนเจอคนแก่ยืนบนเกาะกลางคุยกันสองคน ผมก็เดินผ่านไป หันไปอีกที คนแก่อีกคนข้ามถนนไปอีกฟากแล้ว เหลือคุณยายถือไม้เท้ายืนคนเดียวกำลังข้ามมาทิศทางที่ผมยืน แต่ผมข้ามมาถึงเรียบร้อยแล้วไง ก็เลยข้ามกลับไปรับยายเดินมาด้วยกัน
   กลับมาถึงบ้านตอนบ่าย นี่เป็นเวลาของเราที่แท้จริงสินะ ทำอะไรดีล่ะ ที่จริงงานแม่งมีเพียบเลย แต่ไม่มีอะไรเร่งด่วนสักนิด คือผมทำงานล่วงหน้าไปในอนาคตไง บางอย่างที่คิดเตรียมไว้แต่ไม่ได้ทำจริงก็มีเยอะ ถือว่าคิดเผื่อ แต่ก็มีโอกาสนำออกมาใช้ตอนฉุกเฉินเหมือนกันนะ
   วันนี้มีแดดสลับมืดครึ้ม อากาศแบบไม่แน่นอน คาดว่าบ่าย เย็น ค่ำ เจอฝนชัวร์
   IOS 9.1 มาแล้วนะ รีบอัปเลย หลายวันก่อนเพิ่งจะอัปตัว 9.0 ไป หึหึ line for ipad รวนไปเลย ส่งสติกเกอร์ไม่ได้ ส่งข้อความเสียงไม่ได้ เกม Pool ที่ผมชอบเล่นกราฟฟิคขอบโต๊ะหายไป ทำให้เล็งยากเหี้ยๆ เลย
   พอมีตัว 9.1 ออกนี่ ผมรีบโหลดเลย หวังว่ามันคงจะมาช่วยแก้ปัญหา และคงไม่สร้างภาระใหม่ๆ เพิ่มนะ
   ลุ้นอยู่ 20 นาที ผลออกมาก็คือแม่งเหมือนเดิมเป๊ะเลย ไม่ได้แก้อาการรวนของ line for ipad เลย แต่ยังดีที่กราฟิคในเกม Pool กู้คืนมาได้แล้ว แปลว่าคงต้องรอการอัปเอทคราวหน้ากันต่อไป หรือไม่ทาง Line ก็คงทำตัวอัปเอทแอ๊ปของเขาออกมาแก้เอง
   คิดงานของปีหน้าเอาไว้ก่อนเลย ด้านรถยนต์ก็คงเป็นกรรมดริฟท์ให้เขาต่อไปอีก (ถ้าเขายังคงจ้างเราอยู่นะ) ส่วนงานหนังสือนี่พูดยาก โคตรคลาสสิคเลย เพราะผมชอบมาก แต่พอเห็นหนังสือทยอยถอนออกจากแผงทีละเล่มๆ แล้วก็ใจหายเหมือนกัน แต่ยังคงมั่นใจครับ ว่าถ้าเราลงมือทำแล้วมันต้องกลับมาเจ๋งแบบเดิมเหมือน Racing Club ยุคปี 99 แน่นอน
   งานโฆษณาก็ไล่เก็บไปทีละตัว แต่เทรนด์ทำโฆษณาลงใน youtube อาจต้องเปลี่ยนทิศทาง เพราะมีโปรแกม ad blocker ออกมาอย่างเป็นทางการใน ios 9 แล้ว คนทำสื่อออนไลน์ต้องปรับตัวด่วนเลยนะ ใครช้าตกขบวนซวยสัสเลย
   คนที่เหนื่อยกว่าก็คือพวกเอเจนซี่โฆษณา เพราะลูกค้ายุคนี้เขามักจะวางแผนสื่อ ซื้อสื่อด้วยตัวเองกันแล้ว เผลอๆ บางรายทำโฆษณาเอง ครีเอทีฟเอง เขาจะไปซื้อสื่อผ่านเอเจนซี่ให้โดนบวกหัวคิวทำไมกันเล่า
   ข่าวเด่นวันนี้ เกิดเหตุเหยียบกันตายกว่า 450 คน ที่เมืองมีนา ใกล้กรุงเมกกะ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 25, 2015, 06:00:19 pm
25 กย 58
   ออกวิ่งไป 1 ชม แรกๆ ก็ขี้เกียจลุกเหมือนเมื่อวานเป๊ะ แต่สำนึกเรื่องสุขภาพได้ เรามีเป้าหมายชัดเจนไง “แก่แต่ไม่ป่วย” ไม่รวยก็ไม่เป็นไร ความสุขวัดกันที่ความพอใจ
ถ้าไม่โลภมากจนเกินไปนัก ก็ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ได้ไม่ยาก
   เช้ากินเต้าหู้ราดพริก ไข่ต้ม ข้าวกล้อง กระเทียมสด ขับรถออกไปร้าน แดดแรงมากๆ อ่านข่าวดูบอกมีพายุลูกใหม่จ่อจะเข้าไทย ไม่รู้จะมาลงที่จุดไหนนะ เราทำอะไรไม่ได้มากนักหรอกครับ ถ้าเจอฝนขนาดนั้น ตกที่ใดตรงนั้นก็ต้องท่วม ผมว่าเราต้องทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้กันก่อนนะ
   ไปยกของในโกดังเล็กน้อยแบบยืดเส้นยืดสายราว 100 ลัง ขำขำ แล้วก็เข้ารูปแบบชีวิตเดิมๆ รับโทรศัพท์ โทรหาลูกค้า เขียนบิล ฯลฯ
   สายกินแอ๊ปเปิ้ลเขียวไป 3 ผล ค่อยๆ จิ้มกินทีละชิ้นไปเรื่อยๆ จนถึงกลางวัน พอแทนมื้อเที่ยวได้สบายๆ
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายเหมือนเดิม มีมันเทศสีม่วงต้มน้ำขิง จัดไปอีก 1 ชามใหญ่ โห วันนี้เพื่อสุขภาพโคตรๆ แล้วครับ
   อัปเดทข่าวคนเหยีบบกันตายที่เมกกะ มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 คนแล้ว สยองสัสๆ เลย

   เจอภาพของถั่วซีก (ถั่วเขียว,ถั่วทอง) ทำแพ็คเก็จเป็นหลอดทรงกลมเหมือนท่อ สวยดี ดูน่ากิน ยี่ห้อ Maruti เห็นมานานหลายเดือน แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมคิดว่าเป็นของต่างประเทศ เพราะว่าวางอยู่ในห้างของเมืองนอกเขา
   จนมาวันนี้เพิ่งรู้ว่าเป็นของ “โก้” รุ่นน้องที่รู้จักกันสมัย Racing Club ยังจำได้ว่าเขาให้ผมสอนเทคนิค Heel & Toe ในสนาม Thailand Circuit วันที่ผมจัดงาน Track Day
   พอรู้ว่าไอ้ถั่วนี่เป็นของเขา ผมรีบโทรไปคุยเลย ไอเดียเราแล่นเยอะมากจนพรั่งพรูต้องโทรไประบาย เล่นเอาโก้งง เฮ้ยย พี่มาไม้ไหนวะ
   คือผมศึกษาเรื่องการสร้างแบรนด์ และกลยุทธการตลาดมาตั้งแต่ตอนดูแลผลิตภัณฑ์ของ Neya ไง เราก็เอาของเหล่านี้มาประยุกต์ใช้กันได้
   ก็บอกโก้เขาไปตรงๆ นะว่าผมอยากช่วย อยากแนะนำ ฝันของผมแม่งไม่ไปถึงไหนเลย ก็ขอช่วยให้คนอื่นเขาถึงฝั่งฝันก็โอเควะ
   เห็นใครได้ดีผมก็ดีใจด้วยอย่างจริงใจครับ

   หาข้อมูลเรื่องเรือคายัค ไอ้เรือนี่ผมชอบมานาน ติดตรงมันใหญ่มากๆๆ นี่แหละครับ ถึงแม้จะเบาก็เถอะ เจอความใหญ่นี่ถึงกับยอมแพ้ แต่ละลำหนักแค่ 30-40 กก เองนะ แต่แม่งยาวแบบ 5 เมตร โน่นเลย ขนย้ายยากมากๆ
   ถ้าไปอยู่บ้านระยองแบบจริงจัง แบบนี้จะซื้อโดยไม่คิดมากเลย เล็งไว้เฉพาะเรือทัวริ่งเท่านั้น ความใฝ่ฝันของผมก็คือพายมันไปเกาะเสม็ด
   เล่าแล้วก็คิดถึงบ้านหลังนี้นะ อันที่จริงคือบ้านของพี่เขย (สามีของพี่สาว) สมัยก่อนเป็นแค่บ้านพักหลังเล็กๆ ไม่มีแอร์ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยผมไปบ่อยเลย ยุคนั้นเล่นวินเซิร์ฟด้วย รถผมเลยพกจักรยานเสือหมอบไว้เบาะหลัง แบกวินเซิร์ฟไว้บนหลังคา ท้ายรถมีสเกตบอร์ด
   ตอนนั้นคิดเล่นๆ ว่าเรียนจบแล้วจะขอเขามาทำที่พักริมทะเล อาสาดูแลให้ เราจะได้เล่นเรือทั้งวัน คิดแค่นี้แหละ เพราะเราชอบทะเล ชอบความอิสระ ขีมอเตอร์ไซค์ริมทะเลนี่บรรยากาศสุดยอดจริงๆ 
   ตอนเด็กๆ ก็คิดเล่นๆ แต่พอมาตอนนี้ ถ้าได้จริงก็จะเอาเหมือนกันนะ
   เรือใบ เรือคายัค มอเตอร์ไซค์ จักรยาน เอาไว้ของพวกนี้ไปด้วยคงจะสุขสุดๆ ไปเลย ชีวิตผมต้องการแค่นี้แหละ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 28, 2015, 04:16:35 pm
26 กย 58
   ออกวิ่ง 1.15 ชม จัดไปแบบเพลินๆ วิ่งไปสวดมนต์ไป สวดตามจังหวะเท้าก้าววิ่ง ทำไปสักพักก็รู้สึกว่าวิ่งแล้วเหมือนตัวเบาๆ เพลินดี ทำแบบนี้มานานมากแล้วนะ พอไปอ่านหนังสือธรรมะ เขาบอกว่าแบบนี้คือการเจริญภาวนา เป็นการทำสมาธิในอีกรูปแบบหนึ่ง อ้อ มันเป็นเช่นนี้นี่เอง
   ยืมรถพ่อคันเก่าไปใช้ ขับมันบ้าง จอดนิ่งๆ นานๆ แบตจะเสียเอา รถยุโรปนี่แบตโคตรแพงเลย เฉียดๆ หมื่นบาท หึหึ
   บ่ายพาพ่อไปเข้ารับการผ่าตัดไส้เลื่อนที่โรงพยาบาลธนบุรี ต้องค้างพักฟื้นที่นี่ 1 คืนครับ เป็นแค่การผ่าตัดแบบส่องกล้อง ไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมอาสานอนอยู่กับพ่อที่นี่เอง
   ไปใช้บริการที่โรงพยาบาลธนบุรี ช่วงบ่ายก็แค่พักผ่อนในห้อง รอผ่าตัดตอน 0600 ใช้เวลา 1 ชม เสร็จแล้วรอพักฟื้นในห้อง 2 ชม แล้วถึงจะพาพ่อมาส่งในห้องพักส่วนตัว
   แปลว่า พ่อจะมาถึงห้องพักนี้ตอน 0900 ผมเลยใช้เวลาช่วงเย็นที่พ่อผ่าตัดไปหาของกิน หน้าโรงพยาบาลมีร้านอาหารเพียบๆๆ ร้านข้างถนนแบบ Street Food ก็มี (เรียกเท่ๆ ตามฝรั่งเขานะ สมัยก่อนเราเรียก “แผงลอย”) หาข้อมูลมาเขาบอกมีร้านสุกี้อร่อยมากๆ แต่คนเยอะสุดๆ ผมขี้เกียจรอคิว เลยกินบะหมี่หมูแดงที่อยู่ใกล้ๆ กัน
   รสชาติดีนะ เส้นดี หมูดี ผักโอเค พอได้ ชามละ 45 บาท กินเสร็จแทนที่จะอิ่ม เฮ้ย งงตัวเอง ซื้อขนมโตเกียวอีก 4 ชิ้น เค๊กกล้วยหอมอีก 2 ชิ้น ข้าวตังอีกถุง โหห อะไรของมึงวะนี่ ปอบเข้าสิง
   กลางคืนภรรยาและแม่มาเยี่ยม แต่พ่อยังไม่มา เขาซื้อสุกี้ร้านดังข้างล่างมากินกันคนละถุง แต่ลองกินดูแล้วส่ายหน้ากันทั้งสองคน ผมชิมดูแล้วรสชาติแม่งก็งั้นๆ อ้าว แล้วมันดังได้ไง ไปเจอพวกมือใหม่รีวิวอาหารกันอีกแล้วหรือนี่
   สมัยนี้มีเยอะนะ ตั้งแต่มือถือมีกล้องดีๆ นี่ พวกเราได้เจอมือใหม่รีวิวของโน่นนี่เยอะแยะมาก ปล่อยของออกมาทีก็ดูเคลิ้มไปเลย เอาเข้าจริงแม่งไม่เข้าท่า แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เขาอยากทำรีวิว แต่ตัวเองไม่มีภูมิ ไม่มีพื้นไง ทีนี้พอมาโพสลงเวป มันก็มีคนที่เออออไปกับเขาด้วย ครั้นพอเราไปอ่านเจอบ้าง ก็คิดว่าแม่งเป็น “ของจริง” ที่ไหนได้ หึหึ ไอ้สัส มือใหม่หัดกินนี่เอง
   ตัวผมเองไม่ใช่เซียนเรื่องกินที่ไหนหรอก แต่เราเกิดมาในยุคสมัยก่อนที่ของกินมีแต่ร้านเจ๋งๆ ร้านดังๆ ทั้งนั้น ทุกคนล้วนแจ้งเกิดด้วยฝีมือ ไม่มีดราม่ามาเก็ตติ้ง ไม่มีสื่อช่วย เจ๋งจริงอร่อยจริงก็ขายดี ฝีมือห่วยก็ปิดร้านไป
   แต่ไอ้สุกี้ร้านนี้รสชาติเหี้ยมากครับ จืด ไม่เข้มข้น น้ำจิ้มเค็มเกิน เห็นคนกินกันหน้าสลอนเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะห่วยขนาดนี้ ร้านเป็นรถเข็นคันเล็กๆ โนเนมแถวร้านผมยังอร่อยเสียกว่าเลย
   พ่อกลับมาถึงห้องพักตอน 0930 แม่พูดคุยให้กำลังใจสักพักก็กลับไป ผมอยู่กับพ่อก็คอยเป็นมือเป็นเท้าให้ จะให้หยิบของอะไร กินอะไร ทำอะไร ผมอาสาช่วยหมดทุกหน้าที่
   อ้อ พี่สาว กับพี่เขย (พี่ปุ่น พี่ปุ๊) ก็มาด้วยนะ มากันไกลจากทางพระราม 9 โน่นเลย พี่สาวหายดีจากอุบัติเหตุรถชนแล้ว ขายซากรถทิ้งไป 3 แสน ได้เงินจากประกันมาอีกหน่อย ตอนนี้เลยใช้แต่ Toyota Harrier เลย กลัวรถเล็กๆ แล้ว
   มิวไปเข้าค่ายแคมป์ภาษาอังกฤษที่หัวหิน 3 วันพอดี ส่ง Share Location ตามจุดที่เขาหยุดพักมาตลอดตามที่สั่งไว้ ทำได้ดีจริงๆ ครับ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 28, 2015, 04:18:02 pm
27 กย 58
   นอนไม่หลับตามเคย ที่นอนบนโซฟาแคบ ทำให้เมื่อยมากๆ ทรมานดี คิดเสียว่าเป็นการฝึกความอดทน
   ที่นอนแคบไม่เท่าไหร่นะ มาสาหัสตรงพยาบาลแต่ละแผนกทยอยกันเดินเข้ามาหาพ่อตลอดเวลาจนถึงตี 4
   นอนแต่แทบไม่ได้หลับจนถึงเช้า พอตี 5 ก็ตื่นอย่างเป็นทางการ เปิดทีวีให้พ่อดูข่าว
   แต่เมื่อคืนแม่งโหดสัสเลยนะ หลังผ่าตัดและมาส่งที่ห้องเสร็จ ก็บังคับให้พ่อนอนราบ 180 องศา 24 ชม คือต้องนอนราบแบบนี้จนถึงหกโมงเย็นวันนี้ มารู้ทีหลังคือคำสั่งของหมอที่ให้ยาสลบ ผมเองก็ไม่รู้ว่านอนราบแล้วจะให้ผลเป็นอย่างไรเหมือนกัน แต่พ่อบอกทรมานมาก ขอนอนเอนๆ สักหน่อยก็แล้วกัน
   หลังผ่าตัด จะมีคนมาวัดความดันทุกๆ 15 นาที คือชั่วโมงหนึ่งจะมา 4 ครั้ง จนถึงหลังเที่ยงคืนจะมาวัดชั่วโมงละ 2 ครั้ง
   อีกแผนกก็คือให้น้ำเกลือ วัดออกซิเจนในเลือด
   มีมาให้ยาก่อนและหลังอาหาร
   แผนกทำความสะอาดห้องจะมาถูห้อง เช้า เย็น มาเก็บขยะ เปลี่ยนผ้าเช็ดตัว ปลอกหมอน ฯลฯ
   แผนกอาหารก็มา เช้า กลางวัน เย็น
   โอ้ เยอะน่ะ กลางวันวันนี้พ่อได้นอนบ้างแล้ว ผมเองจะแอบงีบบ้างก็นอนไม่หลับนะ ได้แต่เอนตัว หลับตา แต่ทำได้แป๊บเดียวก็ตื่น มานั่งทำรายงานให้กับ maruti ต่อ
   สายๆ ภรรยามากับแม่อีกรอบ พูดคุยกันแก้เบื่อ กลางวันผมพาไปกินบะหมี่ร้านเดิมที่เมื่อคืนกิน แต่พอมาซ้ำวันนี้แล้วเริ่มรู้สึกเฉยๆ ละ แม้จะยังอร่อยแบบเดิม แต่มันเบื่อไง
   แวะซื้อ มนต์ นมสด ไปฝากพ่อ มีนมแค่ขวดเดียว ที่เหลือเป็นขนมปังจิ้มสังขยา แต่พอถึงห้องหมอบอกให้งดของหวาน ยังอยากให้ความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติก่อน เป็นอันว่าพ่ออดกิน ปัดโธ่…
   จากเดิมคิดว่าจะกลับบ้านได้วันนี้ตอนสายๆ เป็นอันต้องผิดแผน กลายเป็นค้างอีกคืน แต่ตอนเย็นหมอสั่งถอดสายน้ำเกลือ พ่อเลยเดินไปมาได้ บอกว่าให้ผมกลับไปนอนบ้าน เขาอยู่เองคนเดียวได้สบายมาก เดินได้คล่องแล้ว
   กลับมาดู The Voice แบบเพลียๆ รีบอาบน้ำเตรียมเข้านอน แต่ก็ขอเล่น Uke สักหน่อยนะ
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on September 28, 2015, 04:20:07 pm
28 กย 58
   หลับโคตรสบาย ซัดรวดเดียวถึงเช้า เข้านอนหัวค่ำเลยตื่นเช้า แต่เพลียสะสม เลยขอพักการวิ่งสักหน่อย
   เช้าออกไปร้านตามปกติ ยกของบ้างเล็กน้อย สายหน่อยก็ไปธนาคาร เออ วันนี้ครึ้มๆ สลับกับแดดแรง ช่วงเช้าฝนโปรยบางๆ ไม่หนักเท่าไหร่
   บ่ายไปรับพ่อกลับจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่บนตึกจอดรถ คันหน้าเจอที่จอดก็กระทืบเบรกแล้วถอยหลังทันที ผมเบรกทัน ไม่ชนเขา แต่เขาดันถอยมาชนผมแทน เฮ้ยย งงโคตร ชนแบบนี้รถไม่เป็นไรหรอก แต่จะดีกว่าไหมหากไม่ชน
   ผมนั่งอยู่ในรถจะดูว่าเขาจะทำอย่างไร แล้วเขาก็เปิดประตูลงมา ดีนะ ตอนแรกผมคิดว่าจะขับไปเลยเสียอีก
   เจรจากันนิดหน่อยแล้วก็แยกย้าย ก็ขอให้ลุงระมัดระวังมากกว่านี้ครับ เกิดเจอคนขับขี้โมโห แม้รถเขาไม่เป็นไร แต่ลุงก็โดนเขาด่าได้
   พ่อเดินกระเผลกๆ หน่อย แผลผ่าตัดอยู่ที่โคนขาด้านซ้าย ก้าวย่างแต่ละครั้งแผลก็ขยับทำให้เจ็บ ขึ้นรถลงนี่ลำบากมาก ช่วงนี้พ่อต้องอยู่บ้านเฉยๆ รอแผลหายสนิทแล้วค่อยว่ากัน
   เปิดคอมพ์ทำงานเขียนต่อ เจอโปรเจครายการทีวีที่คิดไว้ตั้งแต่ปีก่อนโน้นสมัยทีวีดิจิตอลยังไม่ออกอากาศ เป็นพวกรายการเดินทางท่องเที่ยว และรายการรถยนต์ แน่ล่ะ ไม่เหมือนใครที่เขาเคยทำมาก่อนแน่นอน
   ถ้ามีคนเอาไปทำจริงนี่มันมากๆ นะ แต่น่าจะต้องเป็นช่องที่มีพลังเยอะๆ หน่อย เพราะต้องใช้ทุนสูงพอควร มันไม่ใช่รายการติ๋มๆ ที่ถ่ายในสตู หรือใช้เงินจ้างดาราดังมาแสดง แต่ใช้พลังของทีมงานทุกขั้นตอนในการผลิตกันเลย
   แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เราหาทีมงานแบบนี้ได้ยากมากครับ จะมีคนเก่งก็แค่สัก 2-3 แผนก เท่านั้นเอง กล้องเก่ง ตัดต่อดี สคริปห่วย บทห่วย พิธีกรงั้นๆ ทำไปก็เสียเวลา เสียเงินเปล่า ทำแล้วตัวเองยังไม่อยากดูเลย ผมจิตนาการก็เห็นภาพแล้ว ไม่ต้องไปถ่ายให้เสียเวลา
   แต่ก็ยังชอบคอนเสปของตัวเนื้องานนะ ตอนนี้ยังไม่ได้ทำก็เพราะผมไม่รู้จะไปเสนอใคร อย่างพลอทหนังที่ตอนแรกผมอยากเสนอค่าย GTH แต่ดูๆ แล้วอาจต้องพิจารณาใหม่ เพราะหนังของเขาช่วงหลังมานี้เน้นตลกติงต๊องอย่างเดียวเลย ไม่เน้นพลอทเรื่อง ไม่เน้นการให้อะไรแก่สังคม เน้นแต่ทำเงินอย่างเดียว อืม มันก็ไม่ผิดหรอกนะ เขาทำธุรกิจนี่นา แค่ทางของเขาและผมมันไม่ใช่วิถีเดียวกันเป๊ะๆ
   ผมเอาเรื่องเงินไว้เป็นลำดับสุดท้ายของผลตอบแทน คนเราก็ต้องการเงินก็จริงครับ แต่ต้องการเพียงแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่พอใช้ยังชีพและซื้อความสะดวกสบายเล็กๆ น้อยๆ ถ้ามีเงินเยอะแถมโลภ อันนี้หายนะเลย
   เอาถั่วของโก้ Maruti มากินต่อ พร้อมกับให้คำวิจารณ์ แต่คนอย่างผมไม่ให้ปากเปล่าหรอกนะ ผมทำงานเกินกว่าความคาดหมายของโก้แน่นอน กำลังเรียบเรียงบทวิจารณ์แบบตรงๆ แรงๆ อย่างละเอียด ดี ไม่ดี ตรงไหน อย่างไร ผมซัดตรงๆ แบบไม่เกรงใจกัน ใครอยากได้ข้อมูลแบบนี้ก็เข้ามา ใครรับไม่ได้ก็ทีเดียวไป
   ถั่วมี 5 รสชาติ ผมชมแค่ 2 ที่เหลือให้คะแนนระดับกลางและค่อนไปทางลบ และวิเคราะห์ว่าจะเหลือรสชาติที่ขายดีอยู่แค่ 3-4 แบบ
   ว่าจะกินอีก 2 รสที่เหลือ แต่ไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้ค่อนข้างอิ่ม กินมันต้มน้ำขิงมาจากโรงพยาลแล้ว ตอนอิ่มๆ นี่กินอะไรก็เฉยๆ งั้นๆ แต่ตอนหิวๆ หน่อยนี่กินอะไรก็จะอร่อยได้ง่าย
   แค่วิจารณ์นั้นยังไม่เท่าไหร่ ผมแถมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ สิ่งที่ควรปฏิบัติ แนวทางการตลาด ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถแตกยอดไปได้ ปิดท้ายด้วยการสร้างแบรนด์
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on October 04, 2015, 12:10:51 pm
29 กย 58
   ออกวิ่งได้แล้วนะ จัดไป 1 ชม มีฝนปรอยๆ นิดหน่อย ก็วิ่งแม่งลุยไป ไม่สนใจหรอก เราออกกำลังกายเหงื่อก็ออกเพียบอยู่แล้ว
   ไผ่ไปสนามบุรีรัมย์ถ่ายรูปสนามดริฟท์และห้องกรรมการมาให้ดู โห สุดยอดไปเลย ติดแอร์ด้วย แต่ผมเป็นห่วงอย่างเดียวก็คือ เราจะมองเห็นนักแข่งได้ชัดเจนเหมือนงานที่ผ่านๆ มาไหม เพราะปกติเราจะนั่งบนเวทียกพื้นสูงราว 2.5 เมตร แต่ห้องกรรมการที่นี่อยู่ระดับพื้นดินเลยน่ะ
   มิวปิดเทอมแล้ว แต่ยังคงไปเรียนพิเศษอย่างสม่ำเสมอ ขยันโคตรๆ นี่เรียนกันแบบถึงขั้น วิชาเดียวกันแต่ลงเรียนหลายสถาบันเลยนะ หนังสือตำราเต็มล้นบ้านไปหมดแล้ว
Title: Re: กย 58 5 เฮ้ย! 12-13 DC สนาม 2
Post by: O'Pern on October 04, 2015, 12:12:19 pm
30 กย 58
   สู้เข้าไป อย่าได้ถอย ปีที่แล้ววิ่งรู้สึกน้ำหนักลดตัวลดยากเหลือเกิน พอมาปีนี้วิ่งแบบเดิมเลย เห็นชัดครับว่าแม่งยากกว่าปีที่แล้วอีก หึหึ เข้าใจตรงกันแล้วนะว่าจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร
   ซัดไป 1.20 ชม วิ่งไปสวดมนต์ไป หายใจยาวๆ ลึกๆ ทำสมาธิไปด้วย เอาแม่งหลายๆ อย่างเลย ช่วงวิ่งนี่จิตใจสงบนิ่งมาก แม้หัวใจจะเต้นแรงแต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ในภวังค์ เป็นความรู้สึกที่แปลกๆ ดี
   อากาศเหมือนมีหมอกลงนะ อบอ้าวน่าดู เหงื่องี้ออกเพียบเลย วิ่งแล้วหายใจไม่คล่องเหมือนปกติ
   เช้ากินผัดมะเขือยาวใส่ใบโหระพา ไข่ดาว ข้าวกล้องโรยงาดำคั่วบด ไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า ช่วงนี้ไปเรียนพิเศษแถวพญาไท เดินทางเองด้วยรถไฟฟ้าอย่างคล่องแคล่วแล้ว
   สายๆ จนถึงบ่ายกินกล้วยหอมไป 3 ผล ไปธนาคารแล้วก็รอมิวที่จุดนัดพบในห้าง แน่ล่ะ นัดกันที่ร้านหนังสือเช่นเคย
   มิวขอซื้อข้าวเหนียวหน้าสังขยาในห้างมากิน เขาบอกเห็นคนต่อคิวกันเยอะ เลยอยากลองบ้าง อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน แต่ที่ไหนได้ มันก็แบบธรรมดาๆ งั้นๆ ดีตรงแค่ห่อละ 10 บาท ไม่แพงมาก