racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on June 04, 2015, 05:46:44 pm

Title: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง 28 บ่น
Post by: O'Pern on June 04, 2015, 05:46:44 pm
1 มิย 58
   ร้านหยุดวันวิสาขบูชา ทำงานวัน หยุดวัน สลับกันไป อืมม น่าจะหยุดติดๆ กันหน่อยนะ เผื่อจะใช้เวลาทำประโยชน์ได้มากกว่านี้
   บ่ายไปเยี่ยมพีสาวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร เขาเกิดอุบัติเหตุรถชนเมื่อวานนี้ที่ถนนพระราม 9 แถวบ้านนี่เอง เหตุเกิดจากรถคันหน้าขับช้ามาก เขาเลยเร่งแซงซ้ายขึ้นไป รถคันหน้าเจอซอยที่ตัวเองกำลังหาพอดีก็หักเลย รถพี่สาวแซงเกือบพ้น โดนชนท้ายนิดเดียว แผลเล็กมากๆ แต่ดันมาชนขณะที่รถกำลังเร่งส่งเพื่อแซง ผลก็คือรถ Honda Accord ซัดเข้ากับต่อม่อที่อยู่ริมถนนแถวๆ นั้น
   หน้ารถพังยับแบบไม่ต้องซ่อม คนขับกระดูกสันหลังข้อ L1 หัก โชคดีไม่โดนเส้นประสาท น้ำชี้เท้าหัก
   ผมขอบังอาจวิเคราะห์เหตุการณ์นะ ช่วงเร่งแซงพี่ผมต้องกดคันเร่งแรงเพื่อให้แซงพ้นผ่านไป แต่มันเป็นรถขับหน้า พอโดนสะกิดท้ายนิดเดียวก็ปลิวแล้ว ท้ายที่กวาดปัดส่งผลให้ฐานล้อคู่หน้าลื่นไถล คงใกล้กับตอม่อด้วยน่ะครับถึงได้ซัดไปโดน ไม่งั้นแค่เหยียบเบรกรถก็จะกลับมาอาการเป็นกลางแล้ว
   แต่เหตุการณ์นี้จะแปรเปลี่ยนไปหากเป็นรถขับหลังนะ สถานการณ์เดียวกัน หากเป็นรถขับหลังแล้วโดนสะกิดท้ายส่วนใหญ่รถจะหมุน 180 องศา แต่ข้อเสียก็คือการหันหน้ามาประจันกันอาจโดนรถทางตรงซัดเข้าให้ก็ได้
   ขับไปถึงโรงพยาบาลอย่างงงๆ ไม่เคยมาครับ กว้างใหญ่มากแบบเดินแล้วหลง
   โชคดีไม่ต้องผ่าตัดใดๆ แต่หมอบอกให้นอนพักเฉยๆ แบบนี้เพื่อให้กระดูกประสานกันเองเป็นเวลา 3 เดือน !!!
   พักห้องชั้นบนสุดของตึก เดาว่าน่าจะเป็นห้องที่ดีสุดนะ ราคาคืนละ 15000 บาท แต่ถ้ารวมค่าอาหาร พยาบาล ค่าโน่นนี่ที่เขาคิดชาร์จแล้ว รวมตกคืนละ 30000 บาท !!!
   เฮ้ยย นี่ถ้าเป็นกูนะ มึงปล่อยให้กูตายในซากรถอยู่แบบนั้นดีกว่า ช่วยกูออกมา กลับกลายเป็นสร้างหนี้สินให้กูอีกไม่รู้เท่าไหร่
   โรงพยาบาลแม่งก็หรูเหลือเกิน มีร้านอาหารยังกะในห้าง มี McDonald  / Au Bon Pan ส่วนฟู๊ดเซนเตอร์นี่ก็แนวห้างใหญ่ๆ เลย ราคาก็แรงตามความหรูครับ ก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆ ชามละ 70 บาท หึหึ
   พี่สาวดูโอเคดี แต่รู้สึกว่าเป็นกังวลเรื่องการหาผู้ช่วยมาคอยดูแลตัวเองหลังจากออกโรงพยาบาล คิดบวกเข้าไว้ครับ ยังดีที่ไม่ต้องผ่าตัด ยังดีที่ไม่เจ็บอะไรมากกว่านี้ ช่วงพักร่างกาย ก็คงคิดเรื่องราวได้อีกมากมาย พักร่างกาย ก็เหมือนพักจิตใจไปด้วยนะ น่าเห็นใจสุดๆ ที่ต้องอยู่บนเตียงอีกยาวนาน 
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 04, 2015, 06:07:26 pm
2 มิย 58
   ฟิตจัด ออกวิ่งอีกครั้งของวันธรรมดาในรอบหลายเดือน ซัดไป 1 ชม ชอบช่วงเวลาขณะวิ่งมากๆ เหมือนได้ทำสมาธิไปในตัว นึกเรื่องานต่างๆ ได้หลายอย่างเลย เรื่องงานออกแบบ เรื่องชื่อร้านของพี่นัด เรื่องอะไรก็ตาม หากอยากได้คำตอบ ก็เอามาคิดตอนวิ่งนี่แหละครับ
   กลางวันโทรหาร้านยาง “สหรุ่งโรจน์” บางแค เตรียมเปลี่ยนยางให้รถพ่อ ขับไปจิ้มเอาฟุตบาทมาตอนต้นปี มาถึงตอนนี้ยางปูดบวมที่แก้ม แถมมีรอยปรินิดๆ อืมม อาการไม่ดีแล้วว่ะ ดันเป็นยางไฮโซอย่าง Pirelli P Zero Rosso 235/60-18 เห็นราคาแล้วช็อค เส้นละ 11000 บาท หึหึ แพงเหี้ยๆ เลย ถ้าเป็นพวก Yokohama นี่จะเหลือราว 6000 เอง
   ก็จำไว้เป็นบทเรียนครับ ขับรถไม่ระวัง ก็ต้องมาควักจ่ายแบบนี้แหละ
   บ่ายเอารถไปตรวจสภาพเพื่อเตรียมต่อทะเบียน พนักงานก็ทำไปตามหน้าที่ของแต่ละคน พอตอนเอาเล่มมาคืน เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงอายุราว 50 ยื่นเล่มทะเบียนให้แล้วชมว่ารถสวยมาก โหห ผมงี้เขินเลย
   ช่วงนี่ได้กลับเร็วหน่อย แต่ก็ต้องไปทำธุระก่อนกลับแทบทุกวัน เวลาส่วนตัวน้อยลงไปมากๆ
เย็น “อ้น ผู้บริหารของ Sanook.com” โทรมาหา คนนี้เพิ่งได้เจอกันในงานเลี้ยงเมื่อคืนวันเสาร์ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะสนใจในตัวผมและผลงานขอ racing club ที่มันดูจะเอ้าท์ไปแล้ว
   อ้นบอกว่าจะให้ลูกน้องที่ดูแลข้อมูลในส่วนของ sanook ทั้งหมดโทรมาคุย เขาเองแค่โทรมาเกริ่นๆ เปิดทางไว้ให้ลูกน้องก่อน
   หัวค่ำ “ปอง” จาก sanook โทรมาคุยรายละเอียดเรื่องงานเขียนว่าจะออกมาแนวไหน อย่างไร คุยกันอย่างสนุกสนานนานถึง 30 นาที ลงท้ายก่อนจากกันว่าจะให้ลูกน้องอีกฝ่ายที่ดูแลด้านงานเอกสารสัญญาติดต่อกลับมาอีกครั้ง    
   เฮ้ยย หลายทอดมากเลยอ่ะ
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 04, 2015, 06:12:50 pm
3 มิย 58
   เอารถพ่อออก คันใหญ่ เทอะทะ ไม่ถนัดเอาเสียเลย ขับแบบไปเรื่อยๆ ครับ จอดก็ต้องระมัดระวัง แต่ถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน ต้องจอดริมถนนบางทีมันก็ต้องยอมทนนะ จอดใต้ต้นไม่บางทีกลับมาขี้นกเต็มเลย
   
   บ่ายเอารถพ่อไปเปลียนคอมฯแอร์ และท่อยางน้ำฉีดกระจก ผมเล่น Uke รอเช่นเคย ฟรีครับ เพราะอยู่ในช่วงรับประกัน แต่นี่คือครั้งสุดท้ายแล้วสินะที่มันหมดประกันด้านอะไหล่ ยังเหลือประกันอีก 2 ปีในด้านการบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์
   รอหว่างอยู่ในโชว์รูมก็เดินเล่นดูรถปีใหม่ๆ โหห เห็นแล้วชอบเลย มันมีระบบใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกมาก ราคาก็พอๆ กับของเดิม แบบนี้เจ๋งว่ะ
   เปลี่ยนคอมฯแอร์นี่มันรื้อกันขนาดไหนไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนตู้แอร์ (คอยล์เย็น) ของรถ Mercedes Benz ล่ะก็ ใครไม่เคยเห็นอาจตกใจ เพราะมันต้องรื้อแผงคอนโซลยกออกมาทั้งแผง !!!
   เจอร้านฝีมือต่ำๆ หน่อยก็จะประกอบกลับเข้าไปไม่เนี๊ยบแน่นเหมือนเดิม เซ็งสัสสิ ขับไปก็มีเสียงอ๊อดๆ แอ๊ดๆ
   รีบเอารถไปให้ช่างตั้งแต่ 0100 ระหว่างทางแอบมองหาร้านขายข้าว หิวโคตรครับ วันนี้ยกของโกดังมาหลายร้อยลังตั้งแต่เช้าแล้ว เหงื่อออกเพียบจนเสื้อชุ่มฉ่ำ กางเกงในยังแฉะเลย เจอร้านขายข้าวแกงแบบบ้านๆ ข้างถนนอยู่ก่อนถึงศูนย์รถเล็กน้อย ไม่ลังเลที่จะรีบไปจัด
   เฮ้ยย อร่อยว่ะ ขนาดแค่กินผัดกระเพราอย่างเดียว เขามีกระเพราวางอยู่สองถาด ถาดแรกเหลือเพียบ อีกถาดใกล้หมด พนักงานบอกว่าถาดใกล้หมดคือกระเพรากบ อีกถาดคือกระเพราหมู เออ ผมขอหมูก็แล้วกันครับ
   ว่างๆ พักนิ้วมือก็เปิดเวปของ Sanook อ่านเล่น ดูว่าเขาขาดอะไร และอะไรที่เราจะเติมให้เขาได้ ทำงานสไตล์ผมคือต้องให้มากกว่าที่เขาคาดหวัง ทำงานออกมาแล้วให้เขาร้องโอ้โห แบบนี้ถึงจะเจ๋ง
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 04, 2015, 06:28:36 pm
4 มิย 58
   ตื่นตั้งแต่ 0400 เหยียดยืดเส้นบนที่นอน เตรียมลงมาวิ่งตอน 0430 พอใส่รองเท้าเสร็จ ฝนตก !!!
   เปิดคอมฯนั่งทำงานเขียนสัก 30 นาที ฝนเริ่มซาและหยุด เลยออกวิ่งตอน 0500 วันนี้ซัดไปได้แค่ 1 ชม
   เช้ายกของจากโกดังเหมือนเดิม และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง วันที่ผมเจ็บหลังเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่มากกว่า 5 หรือ 6 แน่นอน จะมาแปลกตรงที่ไม่ได้ยกของหนักมากด้วยนะ แถมเจ็บตรงสะบักขวา ตรงจุดที่มักจะเจ็บตอนขี่จักรยานทางไกล เลยชักสงสัยว่าจะเกี่ยวกับการยกของหรือเปล่า
   ต่างจากการเจ็บหลังครั้งก่อนๆ ที่จะเจ็บตรงแนวกระดูกสันหลังช่วงเอว
   รอลุ้นกันต่อไปครับ

   บ่ายเอารถพ่อไปเปลี่ยนยางที่ร้าน “สหรุ่งโรจน์” ร้านนี้เคยเป็นสปอนเซอร์เซอร์วิสล้อยางให้ผมตั้งแต่ตอนเริ่มหัดดริฟท์ใหม่ๆ มาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญในเฟซบุ๊ค ก็เลยไปใช้บริการเขาสักหน่อย อยากไปอุดหนุนเขาบ้าง แม้จะขับรถไปไกลถึงแถวแยกพุทธมณฑลสาย 2
   จัดยาง Pirelli P Zero Rosso แม่งโคตรแพงเลย เส้นละหมื่นกว่าบาท เปลี่ยนแค่ล้อคู่หน้าก่อนครับ เพราะแก้มยางบวม (พ่อขับไปจิ้มฟุตบาทมาเมื่อตอนต้นปี) แต่เพิ่งมาบวมราวเดือนนี้เอง น่าแปลกมากตรงที่พอถอดยางออกมาแล้ว (ไม่มีแรงดันลม) มองแทบไม่เห็นแผลที่มันบวมเลย
   นั่นแปลว่า หากใครซื้อยางมือสองมาใช้ คุณไม่สามารถมองเห็นแผลแบบผมได้เลย
   
เย็นทาง Sanook.com โทรมาอีกแล้ว คราวนี้ผมคุยกับ “นุ่น” คุยเรื่องสัญญาที่จะต้องเซ็นกัน นุ่นอ่านคร่าวๆ ให้ผมฟัง ผมกลัวตกหล่น เลยขอเป็นเอกสารทางอีเมลล์ มันมีข้อหนึ่งที่ผมยังติดขัดนั่นคือต้องอัปโหลดให้เขาอย่างน้อย 4 ครั้งใน 1 เดือน
   ลำพังถ้าเป็นเมื่อก่อนก็พอไหวนะ ถ้าเขียนแค่ข่าวเปิดตัวรถใหม่ก็พอไหว แต่ถ้าให้ผมทดสอบรถแบบที่ผมเคยทำสมัยก่อนทีทำแบบโคตรละเอียด แบบนี้แม่งจะไม่ไหวเอานะ เพราะติดขัดหลายเรื่อง หนึ่งเลยคือเวลา สองก็คือเรื่องงบประมาณ ที่ทุกอย่างผมต้องควักเองหมด จะขับไปไหน พักที่ไหน กินอะไร เข้าสนามทดสอบไหน ผมจ่ายเองหมด
   สมัยก่อนผมก็ออกค่าใช้จ่ายเอง แต่มันเป็นหนังสือของเราไง ก็เลยคิดว่าเป็นการลงทุนด้านเนื้อหา แต่พอตอนนี้ผมกลายเป็นบล็อกเกอร์ให้เขาไปเสียแล้ว แถมยังต้องทำงานเอง ถ่ายรูปเอง อัปโหลดเอง
   เอาวะ ยังไงก็ลองฟัดกันสักตั้ง งานเขียนล่าสุดที่ผมทำก็คือเป็นนักเขียนพิเศษให้กับทางนิตยสาร Cycling Plus Thailand แล้วก็ไม่ได้ทำให้ใครอย่างเป็นทางการอีกเลย
   แบบนี้สิน่า ชีวิตค่อยมีสีสันหน่อย
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 07, 2015, 05:25:15 pm
5 มิย 58
   ออกวิ่งเพื่อชีวิตอีกครั้ง เช้านี้จัดไป 1 ชม ที่จริงไม่ได้ชอบวิ่งนักหรอกนะ แต่ชอบอารมณ์ความรู้สึกขณะวิ่งมากกว่า จิตใจมันนิ่งดี คิดงานต่างๆ ขณะวิ่งจะดีมากๆ
   
   Sanook.com ส่งสัญญามาให้อ่าน โหห แม่งยาวมากๆ ใช้ภาษาในวงการสื่อแบบผมไม่คุ้นเลย เช่น Pre Roll / CPM
   ผมว่านี่ถ้าอ่านจบแล้วนะ คงต้องไปนั่งคุยกันแล้วให้เขาอธิบายให้ชัดๆ อีกครั้ง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันก่อนที่จะลงชื่อเซ็นสัญญา รายละเอียดแม่งเยอะโคตร พรินท์ออกมาราว 10 แผ่น A4 อ่านเร็วๆ ผ่านๆ ไม่ได้นะ ต้องช้าๆ ค่อยๆ แกะทีละตัวอักษร อ่านไปเครียดไป เงื่อนไข ข้อแม้เยอะมาก อ่านจบไปหลายรอบ ก็ยังเข้าใจไม่ละเอียดเท่าที่ควร
   ต้องให้เรา (Blogger) รับผิดชอบหลายจุด หลายส่วน แถมต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับทาง Sanook.com อีกด้วย และหากไม่ทำตามสัญญาก็จะโดนปรับและชดใช้ค่าเสียหายอีกเช่นกัน
นานเข้าแม่งเริ่มเครียด เฮ้ยยย นี่ไม่ใช่แนวกูแล้วนะ ของผมนี่จะต้องทำงานที่สนุกเท่านั้น ผมเอาความสนุกและความก้าวหน้าในชีวิตเป็นตัวตั้ง ผลตอบแทนนี่อยู่ลำดับท้ายๆ ที่พิจารณา
อ้อ ในสัญญาเขาระบุว่าให้ค่าตอบแทนตอนละ 300 บาท ครับ แถมต้องส่งเดือนละอย่างน้อย 4 บทความ
อืม พี่ครับ ผมเขียนให้กับ Cycling Plus เขาให้ผม 2000 บาท โดยที่ไม่ต้องเซ็นสัญญา ไม่มีเงื่อนไขเหี้ยห่าอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่บังคับส่งต้นฉบับ ให้อิสระผมทุกด้าน เพียงแต่ผมเห็นว่าเขาเน้นแนวเสือหมอบหรูแพง ผมก็เลยค่อยๆ ห่างออกมา เพราะเรามันแนวทัวริ่ง แคมปิ้ง เท่านั้นเอง
แต่จะว่าเขาก็ไม่ถูกเสียทีเดียวนะ ถ้าผมเห็นนักเรียนมัธยม อายุยังไม่ถึง 20 เจอค่าตอบแทนแบบนี้ และโอกาสที่จะเด่นดัง ผมว่าคุ้มเหมือนกันนะ เพียงแต่ผมเลยจุดนั้นมาเยอะมากแล้วไง
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 07, 2015, 05:29:35 pm
6 มิย 58
   วิ่งไปอีก 1 ชม เจ็บนิ้วก้อยเท้านิดๆ รองเท้าคู่ใหม่นี้ผมซื้อเล็กกว่าเดิมครึ่งเบอร์จากคู่ที่แล้ว คู่ที่แล้วคิดว่าซื้อใหญ่เกินไป แต่พอใช้คู่นี้แล้วกลับรู้สึกว่าคู่เก่าแหละหลวมนิดๆ จะสบายเท้ากว่า
   วันนี้งานเยอะโคตร ผมยกของในโกดังรอบเช้า กลางวัน และบ่าย เสื้อเปียกชุ่มแบบแนบเนื้อเลย เหงื่อออกมาเหมือนตอนวิ่ง เหนื่อยดีครับ แต่ก็คิดบวกเข้าไว้ ยิ่งผมเหนื่อยมากเท่าไหร่ แม่ยิ่งสบายมากเท่านั้น
   เย็นไปต่อทะเบียนรถใน Big C ทำธุระที่ธนาคารในห้าง แวะกินเปาะเปี๊ยะสดก่อนเข้าบ้าน
   แต่พอมาถึงเจอพ่อนั่งกินข้าวหมูแดง ซื้อมาจากตลาดแถวบ้าน โห อดใจไม่ไหว จัดไปอีก 1 จาน นั่งกินด้วยกันกับพ่อนี่แหละครับ
   ตอนค่ำเจอข่าวแผ่นดินไหว “คินาบาลู” มาเลเซีย ตกใจมาก เพราะเป็นยอดเขาที่ผมตั้งใจอยากไปปีนอย่างมาก อยากไปหลายปีแล้วล่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสเสียที
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 07, 2015, 05:36:18 pm
7 มิย 58
   วิ่ง 1.30 ชม เดินเร็วอีก 30 นาที จบครบ 2 ชม แบบเหงื่อท่วม เพราะเริ่มวิ่งแบบสลับช่วงความเร็ว เหนื่อยมากครับ วิ่งเสร็จลองมาชั่งน้ำหนัก ตกใจมาก ลดลงรวดเดียว 3 กก หึหึ แต่ไม่ต้องดีใจไป เดียวตลอดวันนี้เติมน้ำเข้าไปก็จะตีคืนกลับมา
   ระหว่างวิ่งเจอชายพเนจรเดินมานั่งหน้าธนาคารปากซอย ตัวดำมอมแบบ เลอะเทอะ มีย่าม 1 ใบ นั่งก้มหน้า ไม่สบตาใคร
   ผมวิ่งกลับเข้าบ้านไปเอาขนมปังสังขยาร้านดัง ขนมเปี๊ยะขนาดกลาง 2 ชิ้น ลูกเดือยอบกรอบกล่องใหญ่ น้ำดื่มอีก 1 ขวด วิ่งออกไปให้เขา
   “อ๊ะพี่ ผมให้”
   เขากำลังกินปลาย่าง รีบวางปลา เช็ดมือทั้งสองข้างกับชายเสื้อตัวเอง ยกมือไหว้
   “ขอบคุณครับ”
   ยื่นมือมารับ ไม่สบตา ก้มหน้าตลอด
   ให้อาหารและน้ำดื่มเสร็จเราก็รู้สึกดีกับการกระทำของตัวเอง ปกติผมจะให้อาหารปลาบ้าง มันง่ายและสะดวกไง แต่พอให้ข้าวของอะไรกับคนที่เราเห็นซึ่งๆ หน้าแล้วผมรู้สึกดีกว่านะ
   นี่อาจเป็นภาพของตัวผมเองในอนาคตก็ได้นะ เบื่อชีวิตมากๆ ผมอยากจะทิ้งทุกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ออกไปแสวงหาอิสรภาพ
   อย่าลืมครับว่าชีวิตผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเงินหรือสิ่งของมีค่า สิบกว่าปีมานี้ผมฝึกตัวเองกับการอดทนในสิ่งที่ยากลำบากมาตลอด อะไรยากๆ ลำบากๆ เอามาให้ผมลอง ผมชอบ ยกของหนักๆ จนหลังเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า แบกของหนักๆ ขึ้นชั้น 4 ของตึกแถว ประเภทใช้แรงงานน่ะตอนนี้ถนัดแล้วนะ ฝึกมาอย่างดี
   เบื่อโคตรครับ บอกกันแบบตรงๆ ก็แล้วว่าผมไม่เอาธุรกิจนี้ จะยกให้ใครก็ให้ไป ผมไม่เอา ยินดีไปตัวเปล่า อย่างเก่งก็ขอจักรยานผมคันเดียว
   ยิ่งบังคับ ในใจมันก็จะยิ่งต่อต้านนะครับ นานวันเข้าก็สะสมบ่มเพาะความกดดันเอาไว้ในใจ รอวันระเบิดออกมา จวนเจียนอยู่หลายครั้ง แต่มีคำเดียวที่ยังคงยึดถืออยู่ก็คือ “ต้องกตัญญูพ่อแม่”

   กลับเข้ามาบ้าน แม่ทำเผือกทอดกิน เฮ้ยย ของทอดนี่นา แต่เอาวะ กินก็กิน หิวนี่นาแต่เอาผักชีและต้นหอมมากินร่วมกันด้วยนะ
   อยู่บ้านทั้งวันเหมือนเดิมครับ ซ้อม Uke เพลงใหม่ๆ แหกปากร้องไปด้วย ผมว่าผ่อนคลายดีนะ
   บ่ายพ่อกลับมาจากงานทำบุญบ้านของเพื่อน หอบขนมไทยมากล่องใหญ่ หึหึ จัดไปครับ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น ฯลฯ อืมม…ไอ้ที่วิ่งมาหลายวันมันจะสูญเปล่าไหมนะ
   แผ่นดินไหวคินาบาลูมีผู้เสียชีวิตหลักสิบ แต่เรือสำราญล่มที่จีนในแม่น้ำแยงซีเกียวตายไปเกือบ 400 ศพ รอดแค่ 14 คน เป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงสุดของเขาในรอบ 70 ปี
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 08, 2015, 05:24:22 pm
8 มิย 58
   ฝนตกหนักทั้งคืน เริ่มตั้งแต่ตี 1 และร่ายยาวมาจนถึง 0600 ถึงจะหยุด ไม่ต้องคิดนะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนท้องถนน
   รถภรรยาสตาร์ทไม่ติด เลยเอารถผมไปใช้แทน ผมก็เลยต้องยืมเอารถพ่ออีกทอดหนึ่ง ไม่ได้อยากขับรถเล้ยย ใจอยากเอาจักรยานออก แต่แม่บ่นว่าหลายเรื่อง ก็เลยตามใจเขา
   ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจออะไร พอเราเจอจริงก็จะปรับตัวได้ง่ายหน่อย ฟังช่อง จส 100 เพลินๆ เลยครับ รายงานย่านในตัวเมืองนี่มีน้ำท่วมขังหลายจุด อโศกน้ำท่วมแบบยกทะเลมาถึงหน้าออฟฟิซ
   ปั๊มน้ำที่บ้านเสียตั้งแต่เมื่อวาน อาบน้ำกันแบบไหลอ่อยๆ ไม่ค่อยมันส์ เช้านี้ตามช่างมาซ่อมปั๊ม และยังต้องเปลี่ยนแบตฯรถของภรรยา
   โชคดีวันนี้ไม่มีฝนตกซ้ำ ไม่งั้นชาวกรุงต้องสาหัสขากลับบ้านอีกรอบ
   ผู้คนมากมายแชร์ภาพรถติดหนักแล้วบอกทำนองว่าเป็นภาพเมื่อเช้านี้ พร้อมกับด่าผู้ว่ากทม จะบอกให้นะว่า หากโครงสร้างเมืองเป็นแบบนี้ วินัยของคนเป็นแบบนี้ และมาเจอฝนตกแบบนี้ ต่อให้เทพฯระดับใดก็หนีน้ำท่วมไม่พ้นครับ
   ยอมรับเถอะครับว่าท่อระบายน้ำ และขยะ คือตัวแปรของการเกิดน้ำท่วมขังครับ
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 09, 2015, 06:14:41 pm
9 มิย 58
   ฝนตกกลางดึกอีกแล้ว แต่ไม่ได้จัดหนักจัดเต็มเหมือนคืนก่อน ไอ้พวกที่โดนเมื่อวานไปแล้ว วันนี้มันคงหลอนๆ อีกแน่

   เสิร์ชหาเฟซบุ๊คหัวข้ออื่นๆ เล่นดู เจอช่างซ่อมเรือยาง เจอสารพัดอาชีพเลย เฮ้ยย แม่งสนุกมาก นึกขึ้นได้ เฮ้ยย เรามีทุ่นลอยของ SBK ที่มันรั่วอยู่นี่นา ยังไม่กล้าส่งไปซ่อมที่อิตาลี เพราะกลัวว่าจะโดนภาษีตอนเขาส่งกลับคืนมาอีกรอบ เรียกว่าตั้งแต่สั่งซื้อมา แค่ลองใช้ในคลองแถวบ้านไปแค่หนเดียวเอง จากนั้นก็วางเก็บเข้ากล่อง ตอนก่อนเก็บนี่ผมจำได้ว่ามีรั่วซึมเล็กน้อย
   แต่พอวันนี้เปิดลังออกมา กูจะเป็นลม คงเพราะอากาศร้อนมั้ง วาล์วลมแม่งหลุดติดมือออกมาเลย ฉิบหายยยยยย ลองจับโยกวาล์วตัวอื่นๆ ก็พบสภาพไม่ดีแล้ว ทำไงดีวะ
   โทรหาคนที่เจอในเฟซบุ๊คนี่แหละครับ เขาคุยง่ายมากเลย บอกว่าซ่อมได้ทุกอาการ
   แต่พี่ครับ ของผมนี่รั่วโคนของวาล์วลมเลยนะ ถ้าเป็นจักรยานก็รั่วโคนนี่แหละครับ แต่ของผมหนักกว่าที่วาล์วมันหลุดออกมาเลย เห็นสภาพแล้วน้ำตาจะไหล ไอ้ชุดนี้สั่งเข้ามาแพงมากๆ ตอนนั้นอยากเขียนสารคดีท่องเที่ยวทางทะเล ชายฝั่ง และป่าชายเลน เลยกะจะเอาไอ้ SBK นี่แหละเป็นอุปกรณ์เดินทาง
   ผมส่งรูปให้ “ช่างอุ๋ย” ดู ช่างบอกสบายมาก อาการแบบนี้ แนะนะเปลี่ยนวาล์วลมชุดใหม่เลยครับ ตัวละ 500 บาท
   ? ผมนั่งมองวิธีซ่อมก็ยังนึกไม่ออก ช่างบอกยกชุดเปลี่ยนเลยง่ายกว่า แถมรับประกันผลงาน 1 ปี
   โหห สุดยอดๆ ทำไมผมเพิ่งมาเจอพี่วะนี่
   เลยนัดกันว่าพรุ่งนี้จะเอาไปให้เขาช่วยซ่อมให้

   เย็นเข้าห้องเก็บของ รื้อค้นชุด SBK พร้อมตัวปั๊มลม เตรียมแพ็คของลงถุงแล้วนำเข้าเก็บท้ายรถ
   
   กลางคืน ผมยังรู้สึกตะหงิดๆ ใจกับ Sanook.com อ่านสัญญาแว๊บแรกแล้วไม่ชอบอย่างมาก รู้สึกเป็นภาระ กฎ ข้อแม้เยอะ ฯลฯ แถมค่าตอบแทนโคตรน้อย เลยไม่สนใจอยากจะทำ
   แต่มันมีจุดหนึ่งที่ผมสนใจ นั่นคือมีผู้อ่านเยอะมากๆ บทความดีๆ นี่อ่านกันเป็นหมื่นๆ คน
   ไม่ได้อยากเด่นดังอะไรหรอก แต่ผมอยากแค่เผยแพร่งานเขียนในแง่มุมใหม่บ้าง และถ้างานเขียนสามารถให้คนอ่านนำไปใช้ประโยชน์ได้นี่ ผมจะสุขใจเป็นที่สุด สไตล์ผมไม่ชอบงานแปล งานก็อปใคร ผมจะคิดใหม่เองทั้งหมด ค่อนข้างจะมั่นใจว่าผู้อ่านจะได้พบกับมุมมองแปลกๆ ที่ผมจับรายละเอียดได้
   แต่สัญญาระบุส่งอย่างน้อย 4 บทความต่อเดือนนี่สิ จะมาหนักใจตรงนี้แหละครับ
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 10, 2015, 05:39:21 pm
10 มิย 58
   ความสุขเล็กๆ ของผมเกิดขึ้นขณะวิ่ง วิ่งแค่ไหนก็สุขแค่นั้น จัดไปได้แค่วันละ 1 ชม ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
   วิ่งแล้วเกิดสมาธิ สติ ผมอยู่คนเดียวมากขึ้นทุกทีๆ จนแทบจะตัดขาดจากสังคม มีแค่ออกไปทำงานยกแบกของแล้วก็กลับบ้านเล่น Uke
   อ่านหนังสือแนวจิตวิทยา เขาบอกว่าคนแก่ที่เป็นโรคซึมเศร้า ส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานวัยเด็กที่โดยกดดัน โดนเพื่อนล้อ เพื่อนแกล้ง โดนกดขี่ข่มเหง และบังคับให้ทำในสิ่งที่ตัวเองฝืนใจ
   เฮ้ยย ไอ้ข้อสุดท้ายแม่งตรงมาก ตรงเป๊ะๆ กับชีวิตผมเลย
   ตั้งแต่ Racing Club เจ๊งตอนปี 2000 จนถึงตอนนี้ก็ 15 ปี เป็นช่วงที่ผมไม่มีความสุขในชีวิตเลย
   
   บ่ายเอา SBK ไปส่งซ่อมแถวพุทธมณฑลโน่นเลย ไกลพอควร แต่ยังดี่ขับสะดวกหน่อย เรียกว่าซัดรวดเดียวถึงบ้านโดยไม่มีไฟแดงเลย แต่บางช่วงรถก็ติดหน่อยนะ ใช้ถนนวงแหวนน่ะครับ
   ขอบคุณเทคโนโลยีแผนที่และระบบนำทาง มันทำให้เรื่องยากๆ กลายเป็นสิ่งที่ง่ายดายเหลือเกิน บ้านของ “พี่อุ๋ย” ช่างซ่อมเรือยาง อยู่ในซอยลึกลับ หลายเลี้ยว หลายแยก ถ้าเป็นสมัยก่อนนี่ถ้าไม่บอกทางกันด้วยปากเปล่า ก็ต้องวาดแผนที่แล้วแฟกซ์ส่งมา แต่เดี๋ยวนี้แค่เข้าโปรแกรมไลน์ แล้วกด Share Location ผู้รับก็เปิดจากแผนที่ดูจากเครื่องตัวเองก็จะเห็นเส้นทางอย่างชัดเจน
   สภาพบ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์อย่างโทรมอยู่สุดซอย นี่ถ้าเห็นหน้าร้านนะ รับรอง ไม่กล้าเข้า แม่ง..อย่างโทรมเลย แต่นี่ได้เห็นงานของเขาทางเฟซบุ๊ค ได้พูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวานพักใหญ่
   หน้าบ้านมี Banana Boat เก่าๆ วางกองอยู่ ยังซ่อมไม่เสร็จ พี่อุ๋ยบอกต้องเร่งชิ้นนี้ก่อน เขาส่งมาจากภูเก็ต ใส่รถทัวร์มา
   เฮ้ยย นี่ไม่มีช่างที่ภูเก็ตเลยหรือ ผมนึกใจใจ ไม่ได้ถามออกไป แต่พี่อุ๋ยเล่าเองว่า อาชีพแบบนี้หาคนทำนับคนได้ในไทยครับ เขาซ่อมเรือยางเป็นก็เพราะมีคนเกาหลีมาสอนเขาอีกที
   พี่อุ๋ยหยิบวาล์วเติมลมมาให้ผมดู บอกว่าจะต้องใส่เจ้าตัวนี้เข้าไปแทนของเก่า เสริมปะเก็นรองให้หนาขึ้นแล้วอัดกาว ทำแค่นี้แหละ แต่มันมีช่องเติมลม 4 จุด ก็ต้องทำแบบนี้ 4 ครั้ง
   ค่าวาล์วลมตัวละ 500 บาท รวมค่าแรงก็คิด 2500 โอเค จัดไปครับ แต่จากเดิมที่คิดว่าเขาทำคืนเดียวเสร็จก็คงไม่ใช่ เขาบอกต้องเร่งไอ้ Banana Boat ของภูเก็ตก่อน ของผมต้องประมาณวันเสาร์ อาทิตย์
   นั่งคุยกันเรื่องเรือยางแบบคายัค เขาหยิบเอาแคนนูเปล่าลมออกมาให้ดู บอกว่าอันนี้สร้างเอง ขายเองอยู่ 18000 คนซื้อเอาไปบวกกันเองขายที่สองหมื่นกว่า หน้าตามันเก่าโทรมมาก เป็นของส่งกลับมาซ่อม เลยดูไม่สวย เขาบอกว่าตัวนี้จะรื้อถลกหนังเอามากลับผ้า แล้วก็จะสวยเหมือนใหม่
   เฮ้ยย งงโคตรเลย พี่เล่นกันแบบนี้เลยหรอ ผิวมีรอยขีดข่วน สีด่าง รอยปะ ฯลฯ แต่พอกลับด้านในออกมาก็จะเป็นผิวผ้ายางสวยใสๆ โหห สุดตีนนนน
   ทิ้งท้ายก่อนกลับอย่างเร้าใจ
   “ถ้าพี่ชอบอะไร อยากได้อะไร แบบไหน ผมทำให้ได้หมดนะ จะเอาให้ลำเล็กกว่านี้ แคบกว่านี้ หรือใหญ่กว่าก็ยังได้”
   จากเดิมผมไม่เคยมองเรืออัดลม เพราะเบื่อไอ้ SBK ที่พังแล้ววางทิ้งไว้นาน แต่พอวันนี้เริ่มเปลี่ยนใจแล้ว เมือก่อนมองหาแต่เรือคายัคทัวริ่งแต่มันลำยาวมากๆ ขนย้ายลำบากโคตร ต้องใช้แร็คโดยเฉพาะของมัน (ยกเว้นขนใส่รถกระบะ) แต่ถ้าเรืออัดลมแล้วยังพายได้ดีอยู่ก็น่าสนใจมากนะ แต่ในความเป็นจริงน่ะ เรือไฟเบอร์ยังไงก็ดีกว่าเรือยางอยู่แล้วล่ะ
   ขับกลับบ้านแบบโคตรหิว แต่ไม่รู้ผมเป็นโรคอะไรนะ ไม่ชอบจอดแวะซื้อของ ขากลับนี่ผ่านห้างใหญ่ๆ ผ่านร้านอาหารมากมายยังไม่ยอมจอดแวะสักร้าน กลับมาบ้านเลยหิวค้าง กินพวกขนมจุบจิบไปแทน จะอ้วนก็อาจเป็นเพราะของพวกนี้ด้วยกระมัง
   เย็นพอมีเวลาว่าง เริ่มวางโครงสร้างของ Blog ให้กับทาง sanook.com แม้เขาจะให้อิสระในงานเขียน แต่ผมก็อยากให้มันมีหัวข้อของมันบ้าง อันนี้ไม่รู้ว่าเขาจะทำให้ได้ไหม เช่นผมต้องการแบ่งหัวข้อเป็น 3 หมวด คือ 1 ทดสอบรถยนต์และผลิตภัณฑ์ 2 Tech & Tips 3 อื่นๆ
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:03:08 pm
11 มิย 58
   จัดไปอีก 1 ชม ขำขำ จำได้ว่าเมือปีก่อนยังคิดว่าตัวเองวิ่งมากเกินไปไหม กลัวร่างกายจะเสื่อมโทรม พอมาตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะครับว่าผมยังออกกำลังกายน้อยเกินไปด้วยซ้ำ
   สิ่งที่ผมต้องทำตลอดชีวิตมีอยู่ 2 ข้อ คือดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย และทำความดี นี่ถ้าได้มีโอกาสทำงานที่ตัวเองรัก ผมก็จะเพิ่มข้อ 3 มาอีกก็คือ ทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ
   ฝันของผมมันเริ่มจะเลือนลางๆ ไปทุกที เศร้าว่ะ สองปีมานี้ทุกคืนก่อนนอนผมสวดมนต์อฐิษฐานไม่เคยขาด ยังคงยืนยันว่าไม่ได้ขออะไรให้กับตัวเองครับ ผมขอให้มิวเขาตามหาฝันที่เรารักเป็นผลสำเร็จ
   บ่ายรีบกลับมาจัดของเตรียมแพ็คขึ้นรถ ครั้งนี้น่าจะเป็นการจัดของที่ยาวนานมากที่สุด ใช้เวลาไปถึง 6 ชม เริ่มจากการเก็บเต้นท์อันใหม่ล่าสุดที่กางอยู่ลงถุง ใส่ยากฉิบเป๋ง ผมว่าตัวเองต้องทำอะไรผิดขั้นตอนไปสักอย่างแน่ๆ ผมว่าเฉพาะไอ้เต้นท์นี้ชุดเดียวก็เล่นไปเกือบ 1 ชม แล้ว
   มันจะมานานตอนจัดอุปกรณ์แคมปิ้งนี่แหละครับ ไอ้นี่รายละเอียดเยอะมากๆ ต้องมีการจัดแบบเผื่อ เพราะเราไม่รู้ต้องไปเจออะไรบ้าง ก็ต้องเตรียมเชือก ไฟคาดหัว ห่วงล็อคแบบ snap ring หลายๆ ขนาด เต้นท์สำรองอันเล็ก เสื้อกันฝน น้ำดื่ม ฯลฯ
   กว่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ก็ 0800 เลยครับ รีบอาบน้ำ พักผ่อน เตรียมตัวเข้านอน
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:16:13 pm
12 มิย 58
   ออกเดินทางมุ่งหน้าทางภาคตะวันออก นี่จะไปไหนผมยังไม่รู้เลยนะ ไปกันแบบ No Plan นี่แหละครับ ทีแรกน่ะติดต่อที่พักของรุ่นน้องชื่อ “ปาล์ม” เอาไว้ เป็นรีสอร์ทของแฟนเขา ชื่อ Ohana อยู่ที่ระยอง ใกล้หาดแม่รำพึง แต่ที่พักไม่ได้ติดทะเลนะ ผมดูจาก Google Maps เอา เห็นว่าใหญ่โตพอควร ปาล์มเองก็สนิทกันตอนผมยังทำ Racing Club อยู่ ไม่ได้เจอกันนานหลายปี แต่มาพบกันใน Facebook โดยบังเอิญ
   “ไว้ว่างๆ มาเทียวสิครับพี่”
   ผมก็ตอบตกลงเขาไป แต่เอาเข้าจริง กลัวจะไม่มีตังจ่ายค่าที่พักให้เขา เรทของวันธรรมดาราคาต่ำสุดหลายพันบาทครับ มันไม่แพงเกินสำหรับคนทั่วไปเมื่อเทียบกับความสะดวกสบาย แต่ผมต้องอยู่ในโหมดประหยัดไปอีกนานหลายปี ต้องเก็บเงินส่งลูกเรียนนักบิน มาใช้เงินแบบนี้ไม่ได้หรอก
   ออกจากบ้านตั้งแต่ 0530 ต้องใช้ทางด่วนมุ่งหน้าดินแดง รีบออกรถจะได้ยังไม่ติด ขับสบายๆ แบบไม่ต้องรีบร้อน ใช้ความเร็วเดินทางตามกฎหมายกำหนด แวะเข้าห้องน้ำไปสองครั้ง เพราะผมดื่มน้ำตั้งแต่ลืมตาตื่นราว 500 cc ทำเช่นนี้มาทุกวันมานานกว่า 20 ปี
   0700 ก็มาถึงระยอง ชำเลืองข้างทางมองหาร้านอาหาร มาถูกใจเอาร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเรือระยอง” ในปั๊ม ปตท แถวๆ ตะพง ใกล้ทางเข้าหาดแม่รำพึง ซัดไป 1 ชาม รสชาติดีครับ ไม่ได้เจอรสชาติแบบนี้มานานมาก คล้ายๆ กับก๋วยเตี๋ยวเรือสมัยเด็กๆ ที่ให้น้ำน้อยๆ ข้นๆ มาพร้อมกับผักสดโหระพาช่อใหญ่ๆ 3 ช่อ และถั่วงอกดิบ ไม่น่าเชื่อผมซัดโหระพาจนเกลี้ยงเลย ถั่วงอกก็เหลือติดก้นชามหน่อยเดียว ชามละ 40 บาท เล่นซะคุ้มเชียว
   อาหารเช้าสำคัญสุดครับ ยิ่งถ้าได้ของดีๆ มีผักหลากหลายยิ่งดี จะทำให้สุขภาพร่างกายเราดีขึ้นตามไปด้วย ส่งข้อความไปหา “ปาล์ม” ถามว่าเขาอยู่ที่ Ohana ไหม ผมจะเข้าไปเยี่ยม แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นตอบกลับมา สงสัยอาจยังไม่ตื่น ไม่เป็นไร ตอนนี้ว่างๆ ขับรถเลียบหาดแม่รำพึงเล่นไปก่อน
   แวะเข้าไปในจุดที่ดูไว้ในแผนที่เผื่อทำเลกางเต้นท์ ก็โอเคดีนะ แต่มันเป็นดงของหมูบ้านชาวประมงค์ ถ้าจะนอนนี่ก็ต้องบอกชาวบ้านเขาก่อน จะได้ไม่ต้องมาสงสัยว่าผมเป็นใคร มาจากไหน
   เจอศาลริมทาง จอดแวะเข้าไปไหว้ หาตู้ทำบริจาคไม่เจอ ก็เลยแค่กราบไหว้ ขอบคุณที่คอยดูแลช่วยเหลือนักเดินทางท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา
   ขับไปเรื่อยๆ เข้าใกล้ Ohana เข้าไปทุกทีๆ ตามแผนที่มาเรื่อย เฮ้ย ตกใจ ทางเข้าแปลกๆ มีศาลพระพรหมใหญ่มาก ป้ายชื่อรีสอร์ททำด้วยหินขนาดใหญ่ แต่วางอยู่ต่ำระดับพื้น ลานจอดรถนี่โล่งมากๆ สงสัยยังไม่มีใครเข้าพัก เดินลงจากรถไปล็อบบี้
   “สวัสดีครับ ผมมาหาปาล์มครับ แต่ผมติดต่อเขาไม่ได้ วันนี้เขามาที่นี่หรือเปล่าครับ”
   พนักงานหญิงตัวเล็กๆ หน้าตายิ้มแย้มรับเรื่องแล้วเชิญให้ผมนั่งรอก่อน แล้วเขาก็วิ่งไปอีกทางหนึ่ง
   รออยู่พักใหญ่ เจ้าปาล์มก็เดินออกมา โอ้โห ตัวใหญ่ยักษ์เหมือนเดิมเลย ไม่ได้เจอกันกว่า 10 ปี เลยนั่งคุยกันอยู่นาน ปาล์มแนะนำให้รู้จักกับ “อัฐ” เจ้าของ Ohana ตัวจริง อ้าว เจ้าของแต่งตัวเหมือนพนักงานเลย เธอคือเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่วิ่งไปตามเจ้าปาล์มมาให้นี่เอง ฮ่าๆ ดีๆ กันเองดี แบบนี้ผมชอบมาก ลุยๆ ดีครับ
   นั่งคุยกันพักใหญ่ ปาล์มก็พาเดินชมสถานที่ เปิดห้องพักแต่ละแบบให้ดู เอาแค่ก้าวผ่านพ้นห้องอาหารไปก็อึ้งแล้วนะ เห็นภายในห้องนี่อึ้งยิ่งกว่า มันกว้างใหญ่ สวย ดูดีมีรสนิยม มีอ่างจากุซี่ขนาดใหญ่อยู่ในห้องเลย แช่กันเพลินแน่ เตียงและเครื่องนอนให้ของคุณภาพดี สัมผัสนุ่มสบายมากๆ ตู้เย็นหน้าตาประหลาดคล้ายตู้แช่ไวน์ ปลอดสาร CFC ระบบน้ำอุ่นใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หน้าห้องมีระเบียงขนาดใหญ่ พร้อม Bean Bag เอาไว้นอนเล่นรับลมธรรมชาติ
   ห้องพักชั้นบนยิ่งเท่ครับ อ่างอาบน้ำวางอยู่ระเบียงเลย แถมมีดาดฟ้ารับลมชมจันทร์ โหห หน้าหนาวคงจะสุขสุดๆ
   มองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเจอสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ไอ้นี่เฉยๆ ผมเคยเห็นมาบ้างแล้ว แต่ที่อึ้งก็คือพื้นสระเป็นทรายที่ใช้ทำแก้ว ทรายคัดเม็ดละเอียดสีขาว เฮ้ยย เกิดมายังไม่เคยเห็นสระว่ายน้ำพื้นทราย สุดตีนมากๆ ลองเดินไปเหยียบนี่ได้อารมณ์ทะเลแท้ๆ เลย ชอบๆ
   ใกล้ๆ กันมีสระน้ำจืดแบบมาตรฐานอีกด้วย ไอ้สระนี้ว่ายง่ายกว่า เพราะคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก สุดยอดว่ะ ชอบมาก บรรยากาศแบบโคตรเงียบ ก็แหม ใครจะไปรู้ว่าข้างในมันสวยขนาดนี้
   คอนเสปคือไม่อยากโชว์ความสวย อยากให้เข้ามาเห็นแล้วอึ้ง แนวนี้หรือเปล่านะ ถ้าใช่ก็ถือว่าท่านโคตรใจถึงเลย เพราะที่พักตัวเองก็ไม่ติดทะเล ตรงจุดนี้เรียกว่าทำเลจะด้อยกว่าคนอื่นเขาหน่อย แต่เขาเอาจุดด้อยมาทำเป็นจุดเด่นก็คือได้บรรยากาศความเงียบสงบ
   ไอ้ที่บอกไม่ติดทะเลนั้นคือมันห่างแค่ 150 เมตร เองนะ ไม่ได้ไกลเป็นกิโลๆ เพียงแต่ว่าชายหาดด้านหน้านั้นเป็นดงของร้านขายอาหารทะเลที่มาตั้งกันแบบถาวรบนชายหาด ต่อให้โรงแรมอยู่ริมหาดจริง มองออกไปก็ไม่สวยครับ เห็นแต่วิวร่มและเก้าอี้ผ้าใบ รถยนต์จอดกันขวางเกะกะ เพราะมีขายอาหารสดสำหรับคนซื้อไปทำอาหารเองด้วย
   คุยกับปาล์มและอัฐอยู่นาน จนบ่ายเขาพาผมไปกินข้าว ผมขอเลือกร้านกินง่ายๆ สบายๆ แบบร้านก๋วยเตี๋ยวก็พอ ไม่เอาหรู ไม่เอาแพง เกรงใจเขา ยังไงเขาต้องเลี้ยงผมแน่ๆ
   ไปจบกันที่ก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ครับ กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำ รสชาติก็โอเคดี กินเสร็จก็กลับมานั่งคุยกันต่อที่ Ohana วันนี้ผมว่างโคตรๆ
   “คืนนี้พี่พักที่ไหนครับ”
   “ผมเล็งอุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้าไว้ครับ เอาอุปกรณ์มาพร้อมลุย”
   เจ้าปาล์มนิ่งเงียบไปสักพัก เดินไปเคาเตอร์แล้วหยิบกุญแจห้องมายื่นให้
   “คืนนี้พี่นอนที่นี่ก็แล้วกัน ข้างนอกฝนตกหนักมาหลายคืนแล้วครับ”
   เฮ้ยย งงดิ ตั้งใจมาเยี่ยมชมเฉยๆ ที่พักราคาแพง โคตรเกรงใจ ไม่กล้านอนหรอก
   ผมละล้าละรัง ทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ บอกเขาไปตรงๆ ว่าเกรงใจ ไม่กล้ารับ
   “ผมชวนพี่มา พี่เป็นแขกของผม”
   โหห เจอคำนี้ไป สะอึกเลย
   “เห็นพี่บอกพรุ่งนี้ไปจันทรบุรีขี่จักรยาน  คืนนี้นอนให้สบายครับ จะได้ลุยเต็มที่”
   เขาคะยั้นคะยอมากๆ เลย
   เอาวะ รับก็รับ อีกใจรู้สึกผิดเหมือนกันตรงที่ห้องพักราคาแพงมากนี่แหละ ปาล์มและอัฐเดินมาส่งเข้าห้องพัก ช่วยถือของอีกด้วย จากนั้นก็ให้ผมพักผ่อนตามอัธยาศัย (เอ๊ะ ประโยคนี้คุ้นๆ ในรายการทัวร์นะ)
   เล่นสระว่ายน้ำพื่นทรายแม่งก่อนเลย ชอบของแปลกไง เดินดู ดำน้ำ ว่าย ผุดๆ โผล่ๆ ชอบมาก แต่โดนฝนแล้วผิวน้ำมีลักษณะเป็นฟองๆ ไม่น่าดู พูดตรงๆ แม่งเหมือนน้ำใกล้เน่า แต่มันไม่ใช่ แค่เกิดจากค่า pH ในสระผิดเพี้ยนไป มีน้ำจืดเข้ามาในระบบมากเกิน ต้องปรับสมดุลใหม่
   บรรยากาศคล้ายๆ ทะเลนะ เดินเล่นได้เหยียบทรายตลอดเวลา ชอบๆ สนุกดี ไปลองสระมาตรฐานบ้าง ก็โอเค สระแบบนี้เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว สถานที่เงียบๆ ยิ่งว่ายสนุกมาก ซัดไป 4 รอบ โคตรเหนื่อยเลย กลับเข้าห้องดีกว่า
   แช่จากุซี่ก่อนเลย เกิดมาไม่เคยเจออ่างแบบนี้ ขอเป็นประสบการณ์ชีวิตหน่อย แช่มันกลางห้องเลยนะ นอนดูทีวีไปด้วย โหห โคตรสุข แต่ก็นั่นแหละนะ นอนสัก 20 นาทีตัวก็ใกล้เปื่อยแล้ว สุดท้ายก็ลุกออกมา แล้วก็ไม่ได้สนใจไอ้อ่างแบบนี้อีกเลย ฮ่าๆ
   เริ่มค่ำแล้ว หาของกินดีกว่า ไปมันคนเดียวนี่แหละ ถ้าเรียกเจ้าสองคนนั้นเกรงว่าผมจะเพิ่มภาระให้กับเขาอีก เขาคงจะพาไปกินร้านหรูๆ แพงๆ อีกแน่ ผมไปคนเดียว กินที่ตลาดบ้านเพนี่ก็พอ
   ยังเดินไปไม่ถึงรถเลย พนักงานวิ่งเข้ามาขวางหน้า บอกว่า “ถ้าพี่จะไปไหน ให้บอกปาล์มก่อน เขาจะไปช่วยดูแลด้วย”
   โห บริการกันแบบประทับใจเลย แต่เกรงใจน้องมันน่ะครับ ส่วนพนักงานเขาก็ทำตามหน้าที่ ผมเลยอุ่นเครื่องรถรอ สักพักเจ้าปาล์มเดินมา ผมบอกจะไปตลาดบ้านเพหาของกิน จะไปด้วยกันไหม ปาล์มรีบเดินตามผมไปที่รถ ผมถามถึงน้องอัฐ แต่เขาไม่อยู่แล้ว ไปทำธุระในตัวเมือง น่าจะพาแมวไปหาหมอหรืออะไรสักอย่าง
   ผมไม่ได้มาแถวนี้นานมาก ขับกลางคืนไม่คุ้น ตลาดบ้านเพเปลี่ยนไปเยอะ มีศูนย์ขายสินค้าขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ กับตัวตลาดเก่า ทำได้อลังการดี ใหญ่โตมาก ด้านหน้าเป็นตลาดกลางคืน ลองเดินไปดูพบว่าเป็นอาหารแบบชาวบ้านแท้ๆ ดูแล้วไม่น่ากินเท่าไหร่ ชวนปาล์มเดินตลาดเก่าชาวบ้านก็ปิดร้านกันไปเกือบหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่กำลังปิด ยังปิดไม่สนิท
   ปาล์มเสนอให้กลับไปกินที่บ้านก็ได้ โอเค จัดไปครับ เราไปลงเอยกันที่ห้องอาหารในโรงแรมนี่แหละ นั่งกินกันไป คุยกันไป สักพักใหญ่น้องอัฐเข้ามาพร้อมกับสินค้าเต็มเพียบท้ายรถ พวกเราช่วยกันยกของเข้าไปเก็บที่ครัว เฮ้ยย สนุกดีว่ะ มันเริ่มเป็นเหมือนบ้านของเราเองแล้ว ชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุดเลยนะ บ่องตง
   นั่งกินข้าวกันต่อ 3 คน คุยกันจนถึงค่ำๆ ก็แยกย้าย พอเข้าห้องนี่ผมไม่สนใจไอ้จากุซี่อีกเลย หันไปอาบฝักบัวธรรมดาๆ แทน เล่น Uke สักพักก็เข้านอน
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:33:06 pm
13 มิย 58
   หลับรวดเดียวถึงเช้า โอ้ สุขมาก ที่นอนคุณภาพสูง หมอนคุณภาพดี เครื่องนอน ของใช้ทุกอย่างเกรดดีเยี่ยม เป็นการนอนที่มีคุณภาพมากๆ ได้แบบนี้รับรองสุขภาพดี
   ตื่นแต่เช้า หึหึ ไม่ได้วิ่งครับ ฝนตก อดไป นี่ฝนตกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เรื่องเลยนะ มันเงียบมากๆ เลย
   หยิบ Uke มาเล่นหน้าระเบียงห้อง เฮ้ยย อารมณ์มันได้เลยนะ มีกวาง (มีมี่) และนกยูงเดินมาฟัง ฟ้าสว่างหน่อยก็เก็บข้าวของเตรียมออกเดินทาง
   อาหารเช้าแบบโรงแรมทั่วไป แต่ไม่ได้เปิดไลน์บุฟเฟ่ เขาให้เราใช้สั่งเอาได้ทุกอย่าง เติมได้ไม่จำกัด ที่มีวางบนโต๊ะก็แค่พวกขนมปัง สลัด โยเกิต ฯลฯ
   จัดไข่ดาวไป 2 ฟอง เบคอน แฮม ไส้กรอก ขนมปังปิ้ง กินแบบกลางๆ ครับ ไม่เร่งรีบ แต่ก็ไม่โอ้เอ้ เช้านี้ผมต้องเดินทางต่อไปยังจันทรบุรีที่คุ้งกระเบน มีทริปจักรยาน Strida ที่นั่น
   น่าแปลกมากตรงที่ผมไปร่วมทริปทั้งๆ ที่ไม่ได้เคยเห็นหน้าใครสักคนในงานมาก่อนเลย เคยแค่พูดคุยแซวกันในเฟซบุ๊คเท่านั้นเอง จะมี “พี่นัด” ที่คุยกันมานานแล้ว นอกนั้นแทบไม่รู้จักเลย ฮ่าๆ
   จันทรบุรีกับระยองอยู่ติดๆ กัน ผมคิดว่าขับแค่ 30 นาทีคงถึง แต่เปล่าเลย ระยะทางแม่งราว 90 กม แน่ะ ต้องใช้เวลาถึง 1.30 ชม เฮ้ยย กินโอ้เอ้ไม่ได้แล้วนะ 0800 ต้องรีบออกแล้ว เพราะนัดกันไว้ตอน 0930
   ขับเรื่อยๆ ครับ ถนนโล่งโคตร เช้าๆ รถไม่ติด มีทำถนนบางช่วงก็ช้าลงบ้าง พอหลุดพ้นก็ซัดต่อ ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 ครับ เพื่อความปลอดภัย
   ทางเข้าคุ้งกระเบนที่อยู่แถวๆ อ ท่าใหม่ จวนถึงแล้วล่ะ รถติดไฟแดงอยู่ พอได้ไฟเขียวก็กดออกตัวกัน แต่แล้วต้องมีเหตุเบรกกะทันหันแบบต้องกดให้หยุดจึ๊กทันที รถคันหัวแถวเบรกอย่างแรง คนที่ตามมาก็ต้องมาชะงักตามกันไปด้วย
   เฟรบบบบ เปปปปป้ ……..อุทานดังลั่นในใจ
ช่วงจังหวะที่ผมเบรกกะทันหันจนควบคุมรถได้แล้ว แต่กลัวรถคันหลังมาสอยท้าย เลยยกเบรกให้รถไหลไปข้างหน้าอีกนิดเพื่อช่วยเพิ่มระยะเบรกให้กับรถคันหลัง
   แต่ ไอ้รถคันนี้มันมีระบบ Auto Break ทำงานร่วมกับระบบ City Safety ทันทีที่ผมยกคันเร่ง รถมันแทบไม่ไหล หากแต่ยิ่งเบรกซ้ำจนรถหยุดนิ่งแบบหัวทิ่ม ลำตัวพุ่งโน้มไปข้างหน้าสายเบลท์รัดตรึงไว้กับเบาะ
   เฮ้ยย แบบนี้แม่งยิ่งอันตรายนะ ด้านหน้าน่ะรอด แต่ผมกลัวรถคันหลังมาชนท้ายเอาสิ มองกระจกหลังนี่เสียวฉิบหาย รถกระบะเบรกเป๋ลากมาเลย แต่สุดท้ายก็รอดนะ รถเขาห่างด้านหลังผมหน่อยเดียว เดาว่าไม่น่าเกิน 1 ฟุต
    1 ฟุต ดูเหมือนเยอะ แต่มันคือการลดความเร็วจากสัก 60 แบบกดเต็มตีนอย่างกะทันหันในระยะเบรกแค่ไม่กี่เมตรเองนะครับ ไม่เคยเสียวแบบนี้มานานเป็นสิบปีแล้ว รอดมาได้นี่โคตรดีใจเลย
   หน้าจอแสดงผลของรถขึ้นว่าระบบ City Safety ทำงาน แบบค้างไว้ตลอดเลย จนเราต้องกดปุ่มอื่น มันถึงจะแสดงค่าอื่นแทน หลังจากนี้นี่ผมขับแบบโคตรติ๋มเลย ลัดเลาะบนถนนคดเคี้ยวอยู่นานก็มาถึงจุดนัดพบคือ Metro Sand and Sea Resort ผมไปถึงตรงเวลานัดเป๊ะ แต่ไม่น่าเชื่อว่ากว่าจะออกเดินทางได้ต้องรอไปอีก 1 ชม หลังจากนี้ เพราะมีคนมาช้าหลายคน
   “พี่นัด” ให้ผมล้อรุ่น mini ล้อ 14 ก่อนเลย น่าแปลกมากที่ผมไม่ได้จับรถแนวนี้มา 12 ปี พอมาวันนี้จับปุ๊บก็ขี่ได้เลย แต่ยังไม่คล่องนะ ขอลองต่ออีกสัก 10 นาทีจะได้คุ้นมือหน่อย ซ้อมอยู่เพลินๆ พี่นัดเอารถอีกคันมาให้ลอง เป็นรุ่น Evo3 เป็นรถที่แพงที่สุด ใช้ล้อ 18 นิ้ว มี 3 เกียร์ ชิฟเกียร์ด้วยการถีบบันไดย้อนหลัง เป็นเกียร์วนแบบ 1-2-3-1-2-3 
   โอ้โห ไม่คุ้นครับ ตัวรถน่ะพอได้ เราขี่ตัวล้อ 14 จนเริ่มคล่อง พอมาเป็นล้อ 18 นี่หมูเลย ส่วนเรื่องการชิฟเกียร์นี่ต้องขอใช้เวลาอีกสักพัก คือมันต้องลองบนถนนจริง เจอเนินจริง
   แล้วก็ไม่ผิดหวัง ออกขี่ไปได้หน่อยเดียวก็เจอเนินแล้ว ผมงี้รีบชิฟลงเลย กดบันไดปั่นแบบเชื่องช้า ตำแหน่งท่านั่งของรถ Strida มันไม่ได้ออกแบบมาให้ขี่ขึ้นเนินเล้ยยย
   แต่พอลงเนินเท่านั้นแหละ ถึงได้รู้ว่าตัวเองโง่ชิฟผิดเกียร์ ขึขึ้นเนินด้วยเกียร์ 2 ตลอดทางเลย ฮ่าๆ
   เส้นทางยังคงขึ้นๆ ลงๆ เป็นระยะ มีทางราบบ้างพอให้พักขา แต่ก็อัดกันซะเร็วจนตามไม่ทัน ไม่รู้จะขี่เกาะกับใครดี รถก็ของคนอื่นเขา ผมเอามาขี่ก็ต้องรับผิดชอบให้เขาด้วย เจอคนไหนขี่แบบแปลกๆ ร่อนไปมา ฟรีขาบ่อยๆ ฯลฯ ผมก็เลี่ยงด้วยการขี่แซงขึ้นหน้าไป
   ไฮไลท์ก็คือถนนเลียบชายทะเลที่ชือบูรพาชลทิศ ดูในรูปก็สวยดี บรรยากาศดี แต่พอมาขี่เองแล้วผมก็ว่างั้นๆ แหละ ผมชอบแนวแบบสวนสนริมทะเลแถวบ้านเพมากกว่า ไปวันธรรมดาที่รถน้อยด้วยนะ สุดยอดเลย จำได้ไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งสมัยยังใช้รถ MX5 ผมเอาไปจอดริมทะเลแถวสวนสนนี่แหละครับ นั่งกินหมูย่างข้าวเหนียว พร้อมกับคุยวิทยุสื่อสารไปด้วย โหห โคตรสุขจริงๆ
   แวะกินมื้อกลางวันกันที่ร้านอาหารข้างทางแถวนั้น รสชาติโอเคดี อากาศร้อนไปหน่อย กินไปเหงื่อหยดไป คนที่เขาคุ้นเคยกั้นมาก่อนก็คงสนุก แต่ผมนี่สิ ไม่เคยเจอใครมาก่อนเลยสักคนเดียว เฮ้ยย แล้วมึงไปกับเขาได้ไงวะนั่น ฮ่าๆ
   บรรยากาศก็แนวทริปจักรยานทั่วไปแหละครับ ใครมากับใครก็จะคุยกันอยู่แต่ในกลุ่มของตัวเอง แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครมาเดี่ยวโดดแบบผมหรอก เพราะถึงเขาจะมาเดี่ยวกันแต่ส่วนใหญ่จะรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนแล้ว
   ขี่ไปก็แวะถ่ายรูปกันไปครับ จัดไปขำขำ แต่เจอแดดร้อนนานก็ขำไม่ค่อยออก มาถึงที่พักเอาตอนเย็นราว 0400 ผมรีบเข้าห้องอาบน้ำก่อนเลย (เพื่อนร่วมห้องที่กลับมาจะได้อาบต่อทัน) อ้อ ผมนอนกับ “เฮียพ้ง” ครับ
   พออาบน้ำเสร็จนี่แสนสดชื่น หยิบเอา Uke ไปเล่นที่ศาลาริมทะเล คนอื่นส่วนใหญ่ก็จะมากินผลไม้กัน มีผมนี่แหละที่เล่น Uke อยู่คนเดียว จนสักพักก็มี “เจี๊ยบ” มานั่งด้วย มาช่วยร้องเพลง แล้วเธอก็ขอตัวสักพัก
   กลับมาพร้อมกับ Uke และหนังสือเพลง โอ้โห เตรียมตัวมาอย่างดีเลยนะ เลยเป็นครั้งแรกที่ผมเล่นแล้วมีนักร้องสาวมาช่วย
   ร้องไปโต้ลมทะเลไป เป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่ผมชอบมาก บางคนถ่ายรูปเล่น อีกกลุ่มไปเล่นน้ำทะเล ฯลฯ ผมว่านะ คราวหน้าไม่ต้องขี่จักรยานหรอก มาถึงก็เล่นเลยดีกว่า สนุกกว่าอีก ฮ่าๆ ๆ
   ต่อด้วยอาหารเย็นที่ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ บรรยากาศก็แนวงานเลี้ยงทั่วๆ ไป บอกตามตรงนะว่าผมไม่ค่อยชอบแบบการร้องเพลงเสียงดัง แต่สไตล์ผมมันขวางโลกไง คนอื่นส่วนใหญ่เขาชอบกันนี่นา
   กินเสร็จก็แอบปลีกตัวมาเล่น Uke ริมทะเลคนเดียว ผมชอบอารมณ์แบบนี้มากเลย แต่คนเดินผ่านไปมาก็จะมาทักมาเรียกให้เข้าไปนั่งด้วยกันในห้องที่มีงานเลี้ยง จนสุดท้ายก็ต้องแอบไปขี่จักรยานเล่นข้างนอกที่พัก
   นึกขึ้นได้ก็กลับเข้าห้องพักไปดูฟุตบอลครับ ลุ้นบอลจนจบ แล้วก็เข้านอน
   อ้อ ผมนอนร่วมกับเฮียพ้ง ห้องก็ให้บรรยากาศคู่รักเลย เป็นเตียงแบบ Queen Size หึหึ ผ้าห่มผืนใหญ่อันเดียว เลยไปขออีกผืนมาสำรองไว้
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:39:46 pm
14 มิย 58
   คึกสัส ออกวิ่งชายหาดไป 30 นาที แต่แม่งเหนื่อยโคตรเลยนะ นี่เลือกวิ่งตรงทรายแน่นๆ แล้วนะ วิ่งย้อนไปทางซ้าย 15 นาที แล้วก็วิ่งกลับมาทางเดิม โอ้โห เหงื่อเพียบ
   ชาวจักรยานนั่งเล่นกันที่ริมชายหาดต่างสงสัยว่าผมไปทำอะไรมา เหงือโทรมขนาดนั้น
   มื้อเช้าก็แนวทั่วไปครับ ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ขนมปังปิ้ง ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ข้าวต้มหมู แนวๆ นี้ให้เลือกเอา ผมติดใจน้ำเต้าหู้ว่ะ รสชาติดี ซดคล่องคอ ซัดไป 2 เลย
   เช้านี้ออกขี่กันสายหน่อย เพราะเน้นถ่ายรูป ฮ่าๆ ก็จัดไปครับ ไปเรียนรู้วัฒนธรรมของกลุ่มเขา เช้านี้ขี่แค่หน่อยเดียว แต่ไปในจุดไฮไลท์ นั่นคือป่าชายเลนที่คุ้งกระเบน เสียดายตรงที่ไปถึงตอนแดดร้อนแรงมาก แถมเป็นช่วงน้ำลง เลยเห็นแต่เลน และป่าแห้งๆ กับบรรยากาศร้อนอบอ้าว แทบไม่มีลม
   เลยรู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เดินตามสะพานไม้ไปเรื่อยๆ จนครบเส้นทาง 1600 เมตร ยาวดีครับ ขากลับเห็นตู้ไอติมวอลล์ ผมงี้แม่งปรี่เข้าไปเหมือนโดนสะกดจิตเลย จัดแมกนั่มไป 1 แท่ง เขามีแต่แมกนั่มโกลล์ เพิ่งเคยกินวันนี้แหละ ก็อร่อยดี แต่ผมชอบแบบคลาสสิคเดิมๆ มากกว่า
   ขี่กลับที่พัก เช็คเอ้าท์ แล้วก็แยกย้าย บางส่วนกลับไปก่อน อีกกลุ่มไปหาของกินกันต่อ ผมส่งทุกคนเสร็จก็ขับรถกลับระยอง เป้าหมายวันนี้ก็คือจะนอนที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้านี่แหละครับ คือนี้แหละมึง ที่กูจะชมจันทร์ให้เต็มที่
   แดดร้อนแรงมาก ขับรถกลางแดดแล้วรู้สึกเพลียสายตาเอาได้ง่ายๆ ขับทางไกลแบบนี้เจอพวกมอเตอร์ไซค์แบบบิกไบค์ขับแล้วโคตรน่ารำคาญเลยนะ คือถ้าบิดแล้วพุ่งผ่านไปก็จบ เราไม่เจอกันแล้ว แต่นี่พวกเขามาขี่ตีคู่อยู่ข้างๆ ทำให้เราเปลี่ยนเลนลำบาก ผมว่าเรื่องแบบนี้เขาไม่เข้าใจเราหรอก เพราะเขาก็มองแค่ในมุมของเขา คือไม่อยากขี่ชิดซ้าย อาจจะเป็นเพราะถนนไม่เรียบ หรือกลัวรถใหญ่ หรืออะไรสักอย่าง
   แล้วฝนก็เทลงมา เย้ๆ ดีใจๆ หลุดพ้นจากไอ้พวกบิ๊กไบค์แล้ว เจอฝนลงหนักพวกเขาก็ต้องจอดรอ ส่วนผมนี่ขับทำความเร็วได้ดีเลย แต่มันตกหนักและตกนานมาก ผมขับจากจันทรบุรีมาถึงระยองฝนยังไม่หายเลย ระยะทางราว 90 กม ก็ต้องมีชั่วโมงกว่านะ
   ขับเลียบเลาะช่วงสวนสนเอาบรรยากาศสักหน่อย แต่เป็นวันอาทิตย์ครับ คนเยอะ ไม่ได้เงียบสงบเหมือนแบบที่ผมเคยเจอ เลยมาถึงท่าเรือข้ามเกาะเสม็ด มองหาของกิน เจอก๋วยเตียวกั้ง โห น่ากินว่ะ แต่กลัวแพง (อย่าลืมว่ากับตัวเองนี่ผมจะงกมาก) เลยคิดว่าลองไปหาร้านเก่าแก่ในตลาดบ้านเพกินดีกว่า ว่าแล้วก็ขับเลยมันไปเรื่อยจนถึงลานจอดรถใหญ่หน้าตลาด เดินหาร้านเก่าเลยครับ เจอร้านหนึ่งเก่ามากๆ คุ้นตามาหลายปี แต่ไม่เคยกิน วันนี้แหละมึง ได้ฤกษ์แล้ววววว
   สั่งบะหมี่ต้มยำ เขาก็จัดต้มยำทะเลมาให้ หึหึ แม่งเอ๊ยยย กูไม่น่าพลาดไอ้ก๋วยเตี๋ยวกั้งเล้ยย ไอ้ห่านี่รสชาติแม่งแบบขี้เกียจทำน่ะ ลวกเส้นก็ไม่อร่อย น้ำต้มยำก็รสชาติไม่ถึง ปรุงก็ไม่เข้าขั้น ใส่ปลาหมึก กุ้งตัวเล็กๆ มันไม่เข้ากันเล้ยยย ชามละ 60 บาท เสียดายตังว่ะ
   จากหิวๆ กินแบบนี้ไปชามเดียว ผมงี้รีบอิ่มเลย หันไปเดินตลาดต่อ ผมชอบกินปลาหมึกบดเป็นตัวยาวๆ มีน้ำจิ้มราดชุ่มๆ เหนียวๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไร ต้องเจอแล้วชี้บอก แม่ค้าให้ชิมหลายแบบ ผมเลยจัดมาแบบ 3 รส แพงนะ ขีดละ 45 บาทแน่ะ จัดมา 2 ขีดเศษๆ เขาคิด 100 บาท
   แวะซื้อทุเรียนทอดฝากแม่ อีกถุงกะจะไปฝากน้องปาล์มและน้องอัฐที่ Ohana ส่วนตัวผมชอบกินขนมแป้งกรอบแผ่นกลมๆ ชื่อ “เปเล่” สมัยก่อนซื้อ 5 ถุง 100 แต่วันนี้เหลือแค่ 3 ถุง 100 แล้วผมก็เดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าที่เลยไปอีกไม่ไกล
   บ่ายวันอาทิตย์ ชาวแคมปิ้งยังไม่กลับกันเลยหรอ เปิดรถ เปิดเพลงแบบกันเองมาก เผื่อแผ่ให้เพื่อนฟังด้วย โคตรใจดีเลย แต่คงไม่ได้ถามว่าเขาอยากฟังเพลงของมึงไหม
   ฉิบหายยย ลานกางเต้นท์แฉะถึงขั้นน้ำท่วมขัง เอาแล้วมึง เจอเรื่องไม่คาดฝัน นี่ถ้าอยู่คนเดียว หรือคนน้อยๆ ผมก็พอจะหาจุดกางเต้นท์ได้นะ แต่นี่คนยังเพียบอยู่เลย
   เอาไงดีวะ ไม่ได้เตรียมตัวมาเจอเรื่องแบบนี้เสียด้วย
   เปิดไอแพดเล่น ดันเจอข้อความของปาล์มส่งมาบอกทางเฟซบุ๊คไว้ว่า
“วันนี้ถ้าพี่ว่างก็มาพักที่ Ohana ได้อีกนะครับ ปาล์มจะกลับมาดึกๆ หน่อย แต่สั่งเด็กที่ฟร้อนท์เคาเตอร์ไว้เรียบร้อยแล้ว”
โหห ใจอ่อนเลยนะนั่น รบกวนคืนวันศุกร์ไปแล้ว ผมจะต้องมารบกวนเขาอีกหรอ แต่คำเชิญก็มาได้เหมาะเจาะจริงๆ นะ ไม่ได้หรอก คืนนี้ถ้าไปต้องจ่ายค่าห้องเขาบ้างแหละ
ฝนยังคงปรอยๆ ผู้คนต่างแอบหลบที่ร่มใต้ชายคา บรรยากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ออกแนวมั่วๆ จอดรถกันแบบไม่มีระเบียบเลย
เก้ๆ กังๆ อยู่ได้พักเดียวก็ออกเดินทางไปยัง Ohana ที่หาดแม่รำพึงต่อ ระหว่างทางก็โอ้เอ้ไปเรื่อย เห็นช่วงไหนหาดเงียบๆ ก็จอดรถนั่งดื่มด่ำ แต่มันไม่เงียบสงบเท่าไหร่เลย รถยนต์แล่นผ่านขวักไขว่ เฮ้ย มันยังไม่ใช่ว่ะ
ตัดสินใจเข้าไปที่ Ohana ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามา พนักงานคงจะจำรถผมได้ รีบวิ่งเข้ามาช่วยยกของลงจากรถ พาผมเข้าห้องพักทันที ผมแม่งเดินตามเหมือนโดนสะกดจิตเลย อย่างเชื่องเลยกู
ห้องพักเป็นแบบเดียวกับที่พักเมื่อวันศุกร์ แต่คนละห้องจัด จัดวางเลย์เอ้าท์ตรงข้ามกันหมดทุกอย่าง เข้าที่พักปุ๊บนี่ผมรีบเอาชุดจักรยานมาตากต่อทันที แต่ในห้องไม่มีราวตาก เลยพาดมันกับอ่างจากุซี่นี่แหละวะ ใครมาเห็นก็อาจดูมั่วๆ ไปหน่อย แต่ทำไงได้
พอได้ห้องพักนี่หิวต่อเลยนะ หยิบเอาหนมเปเล่มานั่งเคี้ยวกินริมระเบียง มองวิวสระว่ายน้ำ เห็นไอ้มีมี (กวาง) อยู่ลิบๆ เฮ้ยย มันต้องบรรยากาศแบบนี้ ผมชอบแบบนี้ เงียบๆ นิ่งๆ สงบๆ มันถึงจะเรียกว่าการพักผ่อน
แต่ไม่ต้องถึงกับอยู่คนเดียวตลอดเวลานะ มีเพื่อนสนิทอยู่ใกล้ๆ ก็โอเค เพียงแต่ว่าต้องไม่มีเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย หรือเปิดเพลงแด๊นซ์กาโว หรือเพลงแบบเบสตึ๊บๆ ฯลฯ ผมโคตรเกลียดเลย แม่งไร้รสนิยม
ฝนตกหนักตั้งแต่เช้า ทำให้สระน้ำเกลือมีฟอง เฮ้ย เกิดได้ยังไง งงเลย สระสวยๆ แพงๆ เลยดูเหมือนน้ำเน่า แถมเป็นสีเขียวเหมือนตะไคร่อีกด้วย (จากเดิมน้ำใส) ทำให้ดูไม่น่าลงเล่นเลย
พักผ่อนในห้องด้วยการเล่น Uke ยิ่งถ้าเป็นตอนฝนตก อากาศเย็นๆ ออกไปเล่นริมระเบียงนี่สุดยอดมากๆ ระเบียงของที่นี่เขาใช้ Bean Bag ใบโตๆ มาวางไว้ให้นั่ง เพลินไปเลย
เย็นเปิดทีวีดู เจอรายการ Thailand Got Talent หยิบเอาปลาหมึกบดสามรสมากินไปดูไป เพลินโคตร จบรายการ ปลาหมึก 2 ขีดผมกินหมดเกลี้ยงเลย!!!
เจ้าปาล์มกับน้องอัฐจะกลับมา Ohana คืนนี้ แต่คงจะมาดึกมาก ไว้พรุ่งนี้คงได้พบกัน
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:42:53 pm
15 มิย 58
   ฝนตกหนักยามเช้าอีกแล้ว เซ็งสัสสสส ตั้งใจจะออกวิ่งชายหาดอีกนะ ชอบมาก แต่ก็อดจนได้ นั่งมองฝนปรอยๆ ในห้อง เล่น Uke ริมระเบียง โอ้ สุขใช้ได้เหมือนกัน
   เดินไปนอกห้องเล่นกับไอ้มีมีเล็กน้อย ได้แค่จับๆ ลูบๆ ตัวมัน ตอนนี้มันตั้งท้องอยู่ด้วยนะ มาคราวหน้าอาจคลอดลูกแล้วก็เป็นได้
   นี่ผมเป็นแขกที่มาพักห้องเดียวในรีสอร์ทเลยนะนั่น รายการอาหารเช้าเขาไม่ได้จัดไลน์บุฟเฟ่ แต่ให้ผมเลือกสั่งได้ทุกอย่าง กินได้เต็มที่ แต่ก็กินแบบปกตินี่แหละครับ ไข่ดาวสุก เบคอนทอดแบบแห้งๆ ขนมปังปิ้ง สลัด ฯลฯ
   เห็นไข่แล้วอึ้ง ตักเข้าปากกินแล้วยิ่งตะลึง น้ำตาแทบไหล โหห แม่ง เอากระทะไปทอดเบคอนก่อนแล้วค่อยมาทำไข่ดาวให้ผมกินหรือวะนี่ ไข่แม่งมีแต่กลิ่นเบคอน แถมอมน้ำมันอีกด้วย แหวะ ไม่อร่อยเลย อย่างอื่นโอเค พอรับได้
   รีสอร์ทแห่งนี้ควรปรับปรุงเรื่องครัวเป็นวาระเร่งด่วนครับ เพราะทุกอย่างทำได้ดีเยี่ยมแล้ว แต่พอมากินแล้วมันไม่ประทับใจนี่จบข่าวเลยนะ และผมก็ไม่เกรงใจที่จะแสดงความคิดเห็นให้น้องทั้งสองคนฟังครับ ถ้าไม่พูดนี่สิจะยิ่งเป็นการทำร้ายเขา แบบเห็นข้อผิดพลาดแล้วไม่ยอมช่วยบอกกัน
   กินเสร็จก็เล่น Pool อยู่คนเดียว แล้วก็เข้าห้องพักต่อ จะลงว่ายน้ำก็เห็นน้ำในสระน้ำเกลือเป็นฟองๆ ขึ้นมา ดูไม่น่าลงเลย คงจะเกิดจากการที่น้ำเกลือเจอฝนลงหนักจนค่า pH เปลี่ยนไป แต่ทำไมถึงเกิดฟองก็ไม่รู้นะ นี่เป็นอีกจุดที่ต้องเร่งแก้ไข สระสวยๆ ดีๆ แต่มีฟอง มันเหมือนน้ำเน่าเลยนะ
   สายๆ หน่อยปาล์มเข้ามานั่งคุยด้วยในห้อง ไม่ได้เจอกันมากว่า 10 ปี คุยกันแบบกันเองมากๆ รู้สึกดีครับ คุยกันอยู่นานเลยเที่ยงไปจนถึงบ่ายสอง ได้เวลาผมกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว กะคร่าวๆ ว่าคงใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม ผมขับช้าครับ ไปเรื่อยๆ สบายๆ เน้นปลอดภัย
   เก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว คืนกุญแจห้อง ขอบคุณ พร้อมชำระค่าห้อง เกรงใจครับ ให้พักคืนแรกก็โอเค เข้าใจ แต่นี่คืนที่สองแล้ว ถ้าไม่จ่ายนี่จะรู้สึกแย่เลยนะ
   น้องอัฐโผล่มาจากไหนไม่รู้ ปฏิเสธไม่ยอมรับท่าเดียว ยื้อกันอยู่พักหนึ่ง จนน้องบอกว่า “พี่มาคราวหน้าค่อยจ่าย” พร้อมกับส่งยิ้มแก้มปริให้
   โห รู้สึกผิดเลยว่ะ แม้ในใจน้องอัฐอาจไม่คิดอะไร แต่ผมรู้สึกไง ผมเกรงใจครับ ตลอดทางขับรถกลับเลยตั้งใจจะเขียนวิจารณ์ที่พักเขา พร้อมกับวางแผนธุรกิจให้
   ถึงบ้านก่อนเวลาที่คาดการณ์เล็กน้อย รถไม่เยอะ เลยทำความเร็วได้ดี ผมขับตามกฎหมายกำหนดตลอดทางเลยนะ ถึงบ้านก็รีบนำข้าวของลงจากรถ ขนไปเสียเพียบ โดยเฉพาะอุปกรณ์แคมปิ้ง แต่กลับไม่ได้หยิบมาใช้เลยสักชิ้น แถมไอ้ของแคมปิ้งนี่กินพื้นที่ไปกว่า 80% ของรถเลยนะ
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:49:00 pm
16 มิย 58
   ฝนตกอีกแล้ว อดวิ่ง นี่ตื่นเช้ามาเพื่อสิ่งนี้เลยนะ
   เช้านี้กลับมาได้กินของดีอีกครั้ง เป็นแค่อาหารถูกๆ ครับ แกงจืดเห็ดเข็มทอง หมูสับ บางทีก็ใส่เต้าหู้บ้าง วุ้นเส้นบ้าง กินกับไข่เจียว ข้าวกล้อง แกล้มด้วยแครอท ขิง หรือสมุนไพรอะไรที่แล้วแต่จะหาได้
   ได้ขับรถ 180SX อีกครั้งในรอบ 4 วัน สตาร์ทชึ่งเดียวติด ขับสนุกเพราะมันเล็กและคล่อง ช่วงล่างและยางไม่ค่อยดี ยังหาช้อคฯเปลี่ยนไม่ได้เลย ไม่รู้จะใช้ยี่ห้ออะไรดี ไม่อยากให้มันเตี่ยและแข็ง ผมชอบให้มันสูงเท่าเดิม หรือสูงกว่าเดิมก็ได้นะ ยิ่งดี เอาไว้ลุยน้ำท่วมสบายเลย ฮ่า ๆ
   กลับมาทำงานร้านขายของ วันแรกก็ไม่คุ้นเสียแล้ว มีแต่ยกแบกของ เข้าออกโกดังเหมือนเดิมเป๊ะเลย
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ หิวจัด มีหมี่กรอบอยู่ 1 กล่อง หั่นต้นหอม หอมแดง บีบมะนาว 1 ลูก หั่นเปลือกมะนาวเป็นชิ้นบางๆ เทลงไปในจาน กินแม่งให้หมดเกลี้ยง หลายวันที่ผ่านมา ไม่เคยเจออาหารดีๆ สักมื้อเลย อ้อ มีมื้อแรกก๋วยเตี๋ยวเรือระยอง อันนี้ดีสุดเพราะผมกินผักแกล้มคือโหระพาไปหลายช่อ รวมถึงถั่วงอกอีกกำมือใหญ่
เขียน (พิมพ์) ความคิดเห็นเกี่ยวกับที่พัก Ohana ให้กับน้องอัฐ ก็บอกเขาไปตามตรง ชี้ข้อบกพร่อง และวิธีการปรับปรุง แนวทางการบริหาร ฯลฯ เช่นปรับปรุงโครงสร้างของครัวใหม่ สร้างเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ผมใช้คำว่า Signature หมายถึงเห็นปุ๊บก็รู้เลย จำได้ ติดตรึงใจ ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารเลิศหรูนะ จะเป็นผัดกระเพราธรรมดาๆ ก็ยังได้ แต่ต้องเด่นกว่าผัดกระเพราใดๆ ที่ลูกค้าเคยกินมา แต่ไอเดียแรกที่ผมแนะนำเขาไปคือข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง
   เขียน (พิมพ์) ไดอารี่ชีวิตย้อนหลังตอนไประยอง จันทบุรี
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 04:51:58 pm
17 มิย 58
   ฝนตกอีกแล้ว เฮ้ยย ตกทุกเช้าแบบนี้ก็ไม่ได้วิ่งสิ
   ซ้อมมือเล่น Uke แทนครับ พอมีแสงหน่อยก็หันไปกวาดใบไม้ลานหน้าบ้านแทน พอได้ขยับร่างกายบ้างนิดหน่อย
   เช้านี้ขับรถไปซื้อของที่แมคโคร ไม่ได้มาตั้งนานเป็นเดือน สินค้าขาดตลาด เลยต้องมาขนเอาเอง จัดไปเกือบเต็มลำรถ ไม่ค่อยคุ้นครับ รถมันขับแบบไม่มีแรง หนัก ควบคุมยาก นานๆ ขับที ไม่ถนัดเลยสักนิด
   หัวค่ำฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตา แสนสงสารคนที่อยู่บนท้องถนน หนักกว่านั้นคือคนหาเช้ากินค่ำ พวกพ่อค้าแม่ค้าตลาดกลางคืน เจอแบบนี้จบข่าวเลยนะ ผมเปิดแผนที่ในอินเทอร์เนทดู โอ้โห ตกใจมาก ถนนหลักทุกสายที่ฝั่งธนฯเป็นสีแดงเข้มทุกเส้น !!!
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 05:19:27 pm
18 มิย 58
   ไม่ได้วิ่งอีกเช่นเคย นี่ทิ้งห่างไปหลายวันแล้วนะนั่น
   ไม่ได้ออกวิ่ง ก็ซ้อม Uke แทนครับ แต่เล่นไปแล้วเริ่มเบื่อ เหมือนจะท้อๆ ฝีมือไม่ค่อยพัฒนาไปไหนเลย
   ตอนกลางวันเข้าไปทำความสะอาดโกดังเตรียมรับสินค้าล็อตใหญ่ หึหึ มันเป็นโกดังที่ไม่เคยรื้อของมาจัดเลยมากว่า 10 ปี ทำความสะอาดกันยกใหญ่ ฝุ่นเต็มตัวไปหมด กว่าจะเสร็จก็ตอนบ่าย เหงื่อโทรมทั้งตัว
   บ่ายไปเอาทุ่นลอยของ SBK ที่ส่งซ่อมไว้กับช่างอุ๋ยที่แถวพุทธมณฑล งานออกมาใช้ได้ดีครับ ค่าแรงซ่อม 2500 บาท รับประกัน 1 ปี
   ขากลับแวะห้างเซ็นทรัลเข้าไปในร้านโทรศัพท์แจ้งอาการเครื่องผมไม่มีสัญญาณใดๆ โทรเข้าออกไม่ได้มา 2 วันแล้ว ตอนแรกนี่คิดว่าเป็นที่ระบบ ก็เลยทนรอ แต่พอข้ามวันแล้วเริ่มรู้สึกผิดปกติ ลองเอาซิมไปใส่อีกเครื่องก็โทรไม่ได้ เฮ้ยย แบบนี้ผิดปกติชัวร์
   วันนี้มีโอกาสผ่านพอดีเลยจัดการซะ พนักงานแจ้งว่าซิมของผมยังเป็นแบบ 2G อยู่เลย ฮ่าๆ ล้าหลังก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา ใช้แค่โทรเข้าออกอย่างเดียว
   แวะร้านโทรศัพท์อีกร้าน ขอซื้อแบตฯ พอเขาเห็นรุ่นก็ตกใจเพราะแม่งเก่าสัสส บอกให้ผมโทรเข้า Call Center แล้วติดต่อเอง เออ เล่นง่ายดีจังเลย ยื่นหมายเลขให้เสร็จเขาก็เล่นเกมต่อ โอ้โหห เจ๋งสาสสส
   ในห้างมีรถยนต์มาจอดโชว์ด้วย ชอบๆ ปรี่เดินเข้าไปเหมือนโดนสะกดจิตเลย มี MG3 คันนี้น่าสนใจมาก ท่าทางขับสนุก ร่องเกียร์หน้าตาแปลกๆ คล้ายระบบเกียร์แบบ Semi Auto เลย วัสดุก๋องแก๋งไปหน่อย แต่ราคาไม่ถึง 6 แสนบาท ถ้าขับดี รถไม่รวน ศูนย์ดี ผมว่ามีโอกาสแจ้งเกิดได้
   เข้าไปดู Honda HR-V ด้วย ไอ้คันนี้เคยดูมาแล้ว แต่อยากดูอีก พนักงานขายมาคุยด้วย ถามว่าดูไว้ใช้เองหรือ ผมตอบว่าใช่ครับ จู่ๆ พนักงานก็เดินกลับเข้าบูธของเขา เออ แปลกดี หรือว่าชุดทำงานของผมมันโทรมมากขนาดนั้นนะ
   เจอ Mercedes Benz GLA เฮ้ยย ถูกใจๆ คันกะทัดรัดดี นั่งสบาย แต่ราคา 2.47 ล้าน ได้เครื่อง 1.6 Turbo ขับหน้า พร้อมกับภายในอย่างหรู ดูดี สมศักดิ์ศรีคนมีเงิน
   และมาจบที่รถฮอทฮิต Toyota Revo คันที่มาโชว์เป็นรุ่นขับสองยกสูง ใหญ่โตดีครับ ภายในอย่างหรู
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 05:25:48 pm
19 มิย 58
   ได้ฤกษ์วิ่งเสียที พักมาหลายวันจนพุงเริ่มออก จัดไป 1 ชม ครับ
   มื้อเช้ากินกระเพราเนื้อปลาทะเล ไข่ดาว กระเทียมสด ขิงสด ข้าวกล้องมีม่วงอ่อน จะดีก็แค่มื้อแรกนี้แหละครับ ที่เหลือตลอดวันก็ลุ้นเอาตามดวง ได้กินแย่บ้าง ไม่ได้กินบ้าง กินผลไม้แทนบ้าง ฯลฯ
   ยังคงเข้าออกโกดังตลอดวันครับ มีสินค้ามาลง 450 ลัง ก็ต้องคอยบริหารจัดการให้กองสินค้ามันวางอยู่รวมกันเป็นหมวดหมู่
   บ่ายเอารถพ่อไปเข้าอู่ซ่อมตัวถัง ไปโดนชนท้ายมาหลายเดือนแล้ว เพิ่งมารู้นะว่าไอ้ฝาหลังนี่มันทำด้วยไฟเบอร์กลาส ชนจนแตกยุบทะลุเลย ยังดีที่กระจกหลังไม่แตก เริ่มรุ้สึกแปลกๆ นะเพราะรถที่พ่อใช้ทุกคันโดนชนท้ายเหมือนกันหมดเลย ไม่รอดแม้แต่คันเดียว ขนาดรถคันใหม่ก็ยังจัดมาแล้ว
   ส่งรถที่อู่เสร็จก็เอาจักรยานลงออกขี่กลับบ้าน มีจักรยานไปด้วยมันก็สะดวกแบบนี้แหละครับ ระยะทางแค่ราว 4-5 กม แต่คดเคี้ยวในเส้นทางสวนเลยดูนานหน่อย
   พอถึงบ้านนี่รีบเปิดน้ำอาบทันที มีเวลาแค่แป๊บเดียวที่จะรับความสดชื่น ก่อนที่ทาง กทม จะบริการจัดส่งน้ำอุ่นมาให้ฟรีๆ
Title: Re: มิย 58
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 05:27:47 pm
20 มิย 58
   ตื่นสายไปนิด วิ่งได้แค่ 45 นาที อาศัยวิ่งแบบเร็วหน่อยก็ทำเอาเหนื่อยหอบได้เช่นกัน
   บ่ายไปธนาคาร ไปต่อทะเบียนรถ แล้วก็เข้าไปคอนโด ไปทำความสะอาดอีกเช่นเคย ไม่ได้มาพักเป็นปีๆ แล้วนะนี่ ไปถึงก็เปิดกระจกรับลม สักพักก็ล้างระเบียงทั้งสองด้าน เปิดแอร์ไปสัก 1 ชม กลัวมันพังจริงๆ เลยนะนี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกของที่ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ได้อยากดูหนังแต่ก็ต้องเปิด DVD เปิดทีวี เรียกว่าเปิดใช้งานของทุกอย่าง
   แวะรับมิวที่รถไฟฟ้า แล้วก็กลับเข้าบ้าน หมดวันที่เรียบง่ายไปอีกหนี่งวัน
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 21, 2015, 05:35:03 pm
21 มิย 58
   ออกวิ่งไป 1.45 ชม เดินเร็วอีก 15 นาที กลับมาบ้านกินกูช่ายทอด หึหึ จะอ้วนกว่าเดิมไหมนะ
   มีเวลาว่างเต็มๆ ก็แค่วันอาทิตย์นี่แหละครับ ตะลุยงานเขียนต่อ ค้างคามาเยอะมาก
ไม่ต้องไปไหนกันล่ะมึง ไล่เก็บงานเก่าๆ เฉพาะไดอารี่ชีวิตก็ค้างไปเกือบจะ 10 วันแล้ว
   ดู Thailand Got Talent แล้วอนาถใจมาก แม่งเหมือนเป็นเวทีปลดปล่อยของพวกกระเทย แถมกรรมการแม่งเสือกชอบอีกด้วย โห ไปกันใหญ่เลย เป็นครั้งแรกที่ทนดูไม่ไหว ต้องเปลี่ยนช่องครับ
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 22, 2015, 05:27:56 pm
22 มิย 58
   จัดไปอีก 1 ชม ขำขำ นี่ผมวิ่งบ่อยมากแล้วนะ จักรยานแทบไม่ได้แตะเลย อย่างเก่งก็ขี่เล่นวนๆ ไม่ได้ออกขี่จริงจังมานาน ซดน้ำกระชาย 1 แก้ว วิ่งวอร์ม 20 นาที เพิ่มความเร็วอีก 20 นาที และวิ่งแบบสลับช่วงความเร็วอีก 20 นาที เหนื่อยกำลังดีครับ เดิน Cool Down อีก 15 นาทีแถมปิดท้าย
   วันนี้งานไม่เยอะ เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ไม่ต้องไปยกแบกของที่โกดัง วิ่งติดๆ กันหลายวัน ขาเริ่มตึงๆ หน่อย ไม่รู้เพราะว่าเร่งมากไปหรือเปล่า
   เขียนแผนธุรกิจปรับโครงสร้างการตลาดใหม่ให้กับ Ohana แต่ไม่รู้ว่าเขาจะชอบหรือเปล่านะ อาจจะเป็นการนำมะพร้าวห้าวไปขายสวนก็เป็นได้ เพราะทางครอบครัวของน้องอัฐมีพื้นฐานทางการทำธุรกิจโรงแรมกันมาเก่าแก่แล้ว แถมเครือญาติก็มีโรงแรมอีกหลายแห่ง
   ก็แสดงความเห็นในแง่มุมคนนอกวงการโรงแรมก็แล้วกันครับ แต่ว่าผมไม่ใช่มาตรฐานของนักท่องเที่ยวทั่วไปนะ ผมมันสไตล์เอกเทศ ชอบบรรยากาศเงียบๆ นิ่งๆ ภาษานักการตลาดเรียก Slow Life มั้ง แต่ของผมต้องแถมพวกดนตรีและการออกกำลังกายเข้าไปด้วย
   แต่สำหรับผมไม่เรียก Slow Life หรอกนะ ไอ้ของพวกนี้มันเป็นธรรมชาติของผมติดตัวมานานมากแล้ว
   เขียน (พิมพ์) ให้ Ohana แล้วก็ทำให้กับทาง “พี่นัด Strida” ต่อกันไปเลย ต้นปีหน้าพี่นัดจะเป็นตัวแทนจำหน่ายรถ Strida แต่เขารับรถมาจาก “หวาน Nava Bike” อีกทอดหนึ่ง
   ก็วางแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม การออกบูธ โปรโมชั่น ฯลฯ คิดแล้วเก็บหัวข้อของมันไว้ก่อนครับ ว่างแล้วค่อยมาเติมในรายละเอียดของแต่ละหมวดหมู่
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 23, 2015, 06:34:53 pm
23 มิย 58
   มีขาอยู่ครบทั้งสองข้างก็ออกวิ่งมันต่อไปครับ ซัดไปอีก 1 ชม วันนี้วิ่งช้าลงนิดหน่อย เพราะเมื่อวานรู้สึกเจ็บตึงกล้ามเนื้อนิดๆ เกรงว่าจะเกิดบาดเจ็บ วอร์มแบบช้าๆ แต่พอช่วงหลังก็เผลอวิ่งเร็วอีกแล้ว เอ๊ะ ยังไงกันนะ
   เช้านี้กินทั้งน้ำกระชาย และ ACV -  Apple Cider Vinegar อะไรดีมีประโยชน์ก็ซัดมันเข้าไปครับ ซดแล้วออกวิ่ง จิบน้ำระหว่างวิ่งไปเกือบครึ่งลิตร เข้ามาบ้านก็เจออาหารเช้าทรงคุณค่าเช่นเคย เนื้อปลาเก๋าทอด กินกับยำมะม่วง เห็ดหอมสดชุบแป้งทอด มีผักแพว ขิงซอย กระเทียม เป็นเครื่องเคียง กินกับข้าวกล้องมีม่วง
   ขี่จักรยานไปตลาดซื้อน้ำเต้าหู้ เจอชายพเนจรคนที่ผมเคยซื้ออาหารให้อีกแล้ว วันนี้เขานั่งกินอะไรสักอย่างริมถนน ใช้ช้อนตักเอาแต่เนื้อๆ กิน ผมเลยขี่จักรยานไปซื้อข้าวเหนียวหมูย่างในซอยใกล้ๆ กันแล้ว
   “อ๊ะพี่ ผมให้”
   หันหน้ามามอง แล้วยกมือไหว้ ตอนรับของเขาเทินไว้เหนือหัวแล้วพูดพึมพำๆ
   ผมยิ้มให้แล้วขี่จักรยานกลับมาร้านอย่างมีความสุขใจ
   ชาวบ้านคนอื่นใส่บาตรพระ ส่วนผมให้ขอทาน อืมม ผมนี่มันแนวไปไหมนะ

   ว่างเว้นจากการยกของได้วันเดียว เช้านี้ก็เป็นแบบเดิมอีกแล้ว ฮ่าๆ แต่ยกนิดหน่อย ราวๆ 50 ลัง ขำขำ วันนี้งานไม่เยอะมากครับ อากาศครึ้มๆ เหมือนฝนจะตกอีกด้วย
   บ่ายส่งข้อความไปคุยกับคนในกลุ่มของ 200SX and Silvia Club เขาสั่งของมาเยอะ เลยติดต่อขอซื้อถังพักน้ำหม้อน้ำไป ของผมอันเก่าเหลืองกรอบใกล้จะผุพังแล้ว หาซื้อที่ศูนย์ก็ไม่มีของ ร้านอะไหล่ต่างๆ ก็ไม่มี ไปวรจักรเขายังบอกต้องสั่งญี่ปุ่น ก็เลยมาจบลงที่คนนี้ นัดรับของกันพรุ่งนี้ที่โลตัสพระราม 3 ราคา 3886 บาทครับ แพงเอาเรื่อง แต่หาของไม่ได้ ไม่งั้นก็ต้องแปลงเอา ส่วนของมือสองนี่เรียกว่าต้องงมหา ถ้าเป็นเด็กเดินเชียงกงแบบสมัยก่อนก็คงไม่ยาก เออ เชียงกงปทุมวันเขาใกล้จะรื้อแล้วนะ ทางจุฬาเอาที่คืนไปสร้างอะไรสักอย่าง
   เย็นกินน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ ทำเองครับ คั้นแยกกาก กินแบบไม่เติมน้ำตาลเลยนะ ผมสายโหด กินได้ น้ำกระชายกลิ่นแรงๆ ยังกินได้สบาย เพื่อสุขภาพแล้ว ทำได้หมดครับ
   อีก 30 นาทีถัดมา กินแตงโมสดๆ แต่ต้องหั่นให้ติดผิวสีขาวๆ ใกล้เปลือกด้วยนะ ผมว่าผลไม้แทบทุกชนิดจะมีส่วนที่ให้ประโยชน์สูงสุดก็ตรงเนื้อติดกับเปลือกนี่แหละครับ ยกตัวอย่างให้เห็นชัดก็คือแอ๊ปเปิ้ล เลยมีบางคนบอกว่าให้กินทั้งเปลือกไปเลย เพื่อประโยชน์สูงสุด ก็เพราะมันปอกลำบากน่ะครับ หรืออย่างข้าวโพด ประโยชน์อีกอย่างของมันก็คือไหมข้าวโพดที่ชอบดึงทิ้งกันไป หรือถ้ากินส้มเขียวหวานก็ไม่ต้องดึงเส้นใยที่ติดกับเปลือกมันทิ้งนะครับ กินได้ก็กินเข้าไปครับ ของดี มีประโยชน์แท้ๆ
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 24, 2015, 05:59:40 pm
24 มิย 58
   วิ่งไป 1.30 ชม ตื่นเช้าหน่อยก็มีเวลาเหลือเยอะครับ วิ่งแทบทุกวัน แต่น้ำหนักก็ไม่เห็นมันจะลง นี่มันยากกว่าตอนปีที่แล้วอีกนะนี่ อายุมากขึ้นยิ่งลดยากมากตามไปด้วย
   อาหารเช้าทรงคุณค่า ผัดผักคะน้า ไข่เจียวมะเขือเทศ ข้าวกล้อง กระเทียม ขิง
   เช้ามียกของโกดังเล็กน้อยแบบขำขำ วันกลางสัปดาห์ ร้านงานไม่ยุ่งมาก แต่จะวุ่นวายสุดๆ ถ้ามีคนมาส่งสินค้าหลายเจ้าพร้อมๆ กัน คือต้องแบ่งแยกช่วยกันตรวจเช็คของ
บ่ายไปโลตัสพระราม 3 ตามนัดหมายที่จะไปรับถังพักน้ำของรถ 180SX ไม่ได้มาแถวนี้หลายปีเลยครับ เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลย อันที่จริงผมเป็นคนกรุงเทพฯที่ไม่ชอบชีวิตในเมืองอย่างมาก อยากอยู่ต่างจังหวัดเงียบๆ ทะเล ป่า แนวนี้จะชอบมาก
   ก่อนออกจากร้านเลยส่งข้อความไปบอกเขาก่อน เพราะนัดกันแบบคร่าวๆ กว้างๆ ว่าเป็นช่วงบ่าย พอขับไปถึงก็รีบจอดพร้อมเตรียมส่งข้อความ แต่กลายเป็นว่าเขาส่งข้อความมามากมายพร้อมโทรอินเทอร์เนทมาหลายหน บอกว่าตัวเองติดภารกิจด่วน
   ผมเลยรีบโทรกลับไป เขาขอโทษใหญ่ บอกมีธุระด่วนจริงๆ เดี๋ยวเลิกงานค่ำๆ จะไปส่งให้ถึงบ้าน
   ผมเกรงใจ ของไม่ได้ถึงขั้นรีบใช้ขนาดนั้น วันนี้ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ไว้นัดกันใหม่ สบายๆ ครับ จัดการธุระของคุณให้เรียบร้อยก่อนแล้วว่างๆ ค่อยโทรนัดกันใหม่ได้
   กลายเป็นว่าไปเก้อ แต่ไม่เป็นไรหรอก นานๆ ได้ขับรถเส้นทางใหม่ๆ สักที ไม่คุ้นเลยจริงๆ ว่ะ โดยเฉพาะแถวหน้าเซ็นทรัลพระราม 3 ที่มีตอม่อทางด่วนพาดกลางถนน ขับแล้วกลัวเข้าเลนผิดจริงๆ เลย เกิดนำพาไปทางด่วนนี่แย่เลยนะ
   จอดติดไฟแดงแยกสาธุประดิษฐ์ แล้วก็มีผู้หญิงหน้าตาดีเลย ขับมาเทียบข้าง เปิดกระจกลง ผมหันไปมอง เลยเปิดกระจกลงบ้าง คิดว่าเธอคงจะถามทาง หึหึ ผมก็มือใหม่ย่านนี้เหมือนกันว่ะ
   พนมมือ ยกมือไหว้
   “พี่คะ หนูขอเข้าข้างหน้าพี่หน่อยนะคะ หนูจะขึ้นทางด่วน แต่เข้าเลนผิดมา”
   โห ใครหน้าไหนจะใจร้ายล่ะครับ โดนรถตู้ แท็กซี่ สามล้อ เบียดปาดออกบ่อยไป นี่มาขอกันแบบซื่อๆ จริงใจซะขนาดนี้
   “ตามสบายเลยครับ” ผมตอบ พร้อมกับส่งยิ้มคืนให้
   ขับเส้นพระราม 3 กลับบ้าน ไม่คุ้นกับเลน BRT เลย ไม่รู้ว่าเขาห้ามเข้าจริงๆ หรือแกล้งๆ เพราะเห็นมีรถมากมายเข้าไปขับเหมือนกับเลนทางด่วนพิเศษ เราก็อิจฉาสิ ถ้ามันไม่ผิด ผมก็อยากไปเร็วเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
   กลับมาบ้านกินสลัดแขก แม่ซื้อมาฝากไว้ตั้งแต่เช้า ผักเพียบๆ มีประโยชน์ครับ จัดไปเต็มที่
   เย็นขี่จักรยานไปรับรถพ่อที่อู่ซ่อมตัวถัง หวังว่าพ่อคงขับระวังมากกว่านี้แล้วนะ โดนซ้ำอีกทีนี่ไม่เอาแล้วนะ เกิดกระจกฝาท้ายแตกนี่โคตรซวยเลย เฉพาะบานฝาท้ายผมเช็คราคามาราว 3.5 หมื่นบาท ไม่รวมทำสี
ขี่รถ Neobike 16 ไปครับ อากาศกำลังดี ครึ้มๆ ฝนปรอยบางๆ ไม่หนาเม็ด ขี่ไปสัก 20 นาทีก็ถึงแล้ว ตรวจดูสภาพโดยรวมเบื้องต้นก็โอเคดีครับ (เท่าที่มองเห็นตอนนี้นะ) รับรถกลับมาก็แวะเติมลมให้พ่อ
ตอนไปเปลี่ยนยางคู่หน้าที่ร้านของเพื่อนที่เคยเป็นสปอนเซอร์รถแข่งให้เรา ผมบอกพนักงานในร้านว่า เติมลมล้อหน้า 35 หลัง 39 แต่พอมาวัดดูวันนี้ ล้อหน้าข้างหนึ่ง 33 อีกข้าง 40 ส่วนล้อหลังยังคงเป็นค่าเดิมคือ 33 ไอ้คนที่ร้านยางไม่ได้ยุ่งอะไรกับยางหลังเลย
หึหึ แล้วไอ้ที่ผมเพิ่งซัดไปจันทบุรีมาเมื่อสัปดาห์ก่อนล่ะ ยางคู่หน้าลมยางต่างกันซะขนาดนั้น เบรกกะทันหันไม่หมุนปัดก็โชคดีมหาศาล แถมเจอฝนตกหนักต่อเนื่องนาน ถนนเป็นคลื่นลอน ฯลฯ
เรื่องที่เล่ามานี้สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจใครนอกจากตัวคุณเองครับ
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 28, 2015, 05:55:15 pm
25 มิย 58
   เมื่อคืน “โอ๊ต” คนที่ผมนัดซื้อถังพักน้ำเมื่อตอนบ่าย ขับรถมาส่งของให้ถึงบ้าน มากับแฟนเขา บอกว่าเกรงใจที่ผิดนัดผมตอนบ่าย เลยเอาของมาให้ถึงบ้าน
   ผมบอกไม่ต้องเกรงใจ ไม่เป็นไร คนเรามีธุระด่วนกันได้ ผมยังไม่รีบใช้หรอก แต่โอ๊ตบอกจะมาแถวนี้อยู่แล้ว ให้ผมส่งแผนที่ไปให้ และอีก 30 นาทีถัดมา เขาก็มาถึงหน้าบ้านแล้ว
   เอาถังพักน้ำมาให้ แล้วก็คุยกันสักพัก เขาเดินมาดูรถผมทีนี้แหละครับ คุยกันต่ออีกยาวมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จนถึง 1030 โน่นเลย ผมเดินขึ้นบ้านอีกที มิวหลับปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว

   วันนี้ไม่วิ่งครับ ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียนสวนกุหลาบกับมิว วันนี้มีงานฉลองตึกยาว (ตึกที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนสวนกุหลาบ) ครบรอบ 104 ปี เลยให้ศิษย์เก่ารุ่น 104 เป็นฝ่ายจัดเลี้ยง
   ไปถึงโรงเรียนแบบเขินๆ หน่อย ต้องเท้าความสักนิดว่าผมเป็นศิษย์เก่า แต่ก็รู้จักเพื่อนต่างห้องน้อยมาก เพราะเรามาเข้า ม ปลาย และช่วง ม4 – ม6 นี่ เรียนกันแบบไม่เคยแยกห้องเลย จึงรู้จักแค่เพื่อนในห้องเดียวกันเท่านั้น ต่างจากคนส่วนใหญ่ที่เขาจะเรียนตั้งแต่ ม1 – ม6 พวกนี้เขาจะสนิทสนมกลมเกลียวกันมากกว่า
   เรียกว่าไปมันคนเดียวเลยครับ เท่โคตรเลย คนอื่นเขาใส่เสื้อรุ่นกัน กูไม่ได้ไปงานเลี้ยงรุ่นอะไรกับเขา (เพราะไม่ค่อยรู้จักใคร) เลยไม่ได้มีเสื้อ ก็เล่นเสื้อขาวพื้นๆ นี่แหละวะ อาศัยตีเนียนพอไปได้อยู่
   หยิบเอา Wrist Band มาใส่ข้อมือสักหน่อย แบบเอาเท่ ขอกูมีสัญลักษณ์ของ “สวนกุหลาบ” กับเขาบ้าง โห คนอื่นนี่แม่งมาแบบจัดเต็มเลยนะ เสื้อรุ่น กำไลข้อมือ สร้อยคอ แหวน บ้างก็หาแว่นตาสีโรงเรียน (ชมพู-ฟ้า) มาใส่ เข็มขัด นาฬิกา เรียกว่ามึงหาอะไรที่มีสีชมพูตัดฟ้ามาได้ มึงเกิด !!!
   ในใจลึกๆ ผมคิดว่าคงจะต้องมีบางคนใส่กางเกงในชมพู-ฟ้ามาบ้าง จริงๆ นะ
   ไปถึงแต่เช้าพร้อมมิว เดินเข้าโรงเรียนแล้วก็แยกกันเลยครับ มิวเป็นรองหัวหน้าห้อง รับภาระเป็นคนไปเปิดประตูห้อง หวังว่าเขาคงจะไปหาอาหารดีๆ กินเป็นมื้อเช้านะ
   ส่วนผมไปห้องรับรองที่มีอาหารว่างเตรียมไว้ พร้อมลงทะเบียนรับของที่ระลึกเป็นรูปตึกยาวสัญลักษณ์ของโรงเรียนสวนกุหลาบ
   บรรยากาศแบบงงๆ หน่อย ก็ไม่รู้จักใครเลยไง คนอื่นเขาเจอกันก็เฮลั่น ผมนี่ได้แต่ยิ้มๆ ไปเรื่อย เห็นใครก็ยิ้มแม่งหมดเลย คุ้นหน้าบ้าง ไม่คุ้นบ้าง ไม่เป็นไร กูยิ้มอย่างเดียว ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลกกกก
   ยิ้มนานเข้าชักแปลกๆ กับตัวเอง คนอื่นเขามีเพื่อนคุย แต่ผมนี่แม่งไม่มีเลยว่ะ ทำไงดี ไม่เป็นไร อาศัยแอบอยู่ข้างๆ กลุ่มใหญ่เข้าไว้ มองเผินๆ เหมือนมาด้วยกัน ฮ่าๆ
   “โป้ง” เห็นผมใส่เสื้อขาวธรรมดา เลยหยิบเอาเสื้อรุ่น 0SK104 มาให้ใส่ ก็โอเคครับ ตามน้ำกันไป ผมนี่เจอใครก็ส่งยิ้มให้ตลอดเลย เจอคนมาทักด้วยนะ แต่ผมจำเขาไม่ได้ ฮ่าๆ
   มีอาหารเช้าง่ายๆ ไว้บริการ เป็นพวกข้าวต้ม และกาแฟ ปาท่องโก๋ แน่ล่ะ ผมเลือกข้าวต้มหมูครับ แต่เขาใช้ถ้วยโฟมนี่สิ แล้วตักน้ำซุปร้อนๆ เทราดลงข้าว โหห อันตรายนะนั้น แต่ไม่กล้าบอกใคร กลัวเขาจะหาว่าเรื่องมาก
   โฟมไม่ถูกกับความร้อนนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทน้ำที่มีความร้อนสูงมากๆ สารพิษจากในภาชนะโฟมจะละลายออกมาอยู่ในอาหารที่เรากิน
   กินไประแวงไป สุดท้ายกินไม่หมด เหลือเศษที่ตักยากๆ ไว้ กินปาท่องโก๋ไปครึ่งตัว จากนั้นคนเริ่มมากันเยอะ อาจารย์เกษียณก็ยังมาร่วมพิธีด้วยเลยนะ แถมแต่งชุดสีฟ้า ผ้าพันคอชมพู สุดยอดๆ
   เริ่มเจอเพื่อนที่รู้จักกันบ้างแล้ว ก็คุยกันไปตามเหมาะสมครับ บอกตามตรงว่าไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ ช่วงนี้คนเริ่มมากันเยอะแล้ว กินข้าวกันเรียบร้อยหมด
   มีคนเริ่มลงทะเบียนกันแล้ว ผมก็ไปต่อคิวกับเขาด้วย ลงชื่อพร้อมรับของที่ระลึกคือภาพของตึกยาวที่ชนะการประกวด สวยงาม และน่าสะสมมากๆ แผ่นใหญ่โตแบบโปสเตอร์เลย
   พอถึงคิวผม เจ้าหน้าที่สตาฟประกาศให้ไปเข้าแถว บอกว่าให้เลิกแจกภาพ ไว้พิธีการช่วงเช้าเสร็จค่อยมารับภาพต่อ โอเค ไม่ดื้อดึง พูดคำเดียวรู้เรื่อง เข้าใจ ผมเดินออกมา แต่แปลกนะ ที่คนด้านหลังผมกลับเข้าไปลงชื่อขอรับภาพต่ออีกหลายคน เฮ้ยย งงว่ะ
   นักเรียนเข้าแถวกลางสนามหญ้า ส่วนศิษย์เก่าเข้าแถวหน้าตึกยาว เคารพธงชาติพร้อมเด็กๆ รุ่นน้อง สวดมนต์ ร้องเพลงโรงเรียน ส่งตัวแทนรุ่นไปพูดบอกความสัมพันธ์ของชีวิตเรากับตึกยาวในสมัยก่อน มอบเสื่อที่ระลึกให้ครู มอง Thumb Drive เกี่ยวกับตึกยาวให้แก่น้อง ม1
   อาจารย์เกษียณมาถ่ายรูปร่วมกับพวกเราด้วยนะ อาจารย์ท่านมาเพื่องานนี้ล้วนๆ เลย บางคนเดินไม่ค่อยไหวต้องช่วยกันพยุง เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ
   ถ่ายภาพรวมเสร็จก็เป็นการถ่ายภาพเล่นกันเองในกลุ่ม ขั้นตอนนี้ยาวนานมากๆ แต่ละคนก็หยิบขึ้นมากดๆ ไปขอถ่ายกับครูเก่าๆ ของเราแบบใกล้ชิดบ้าง ภาพคู่บ้าง ฯลฯ
   จากนั้นก็เดินเข้าชมพิพิทธภัณฑ์ความเป็นมาของโรงเรียน เพื่อนๆ หลายคนไม่เคยเข้าชมมาก่อนเลย แต่ผมน่ะ เคยมาแล้ว 2 ครั้ง เลยทำหน้าที่เป็นไกด์อธิบายบางอย่างที่พอจะจดจำได้ให้ไป เพื่อนบอกรู้สึกทึ่งในความเป็นมาของโรงเรียนเราอย่างมาก จารึกหลายเรืองราวไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นต้นแบบของหลายสิ่งหลายอย่าง
   มานั่งคุยกันเล่นต่อที่ “ลานธรรม” เป็นม้าหินขนาดใหญ่ อยู่ใต้เงาร่มไม้ บรรยากาศดีมาก มีขนมของว่างเลี้ยงกันตลอดเวลา แต่ผมไม่อยากกินเยอะ มันอ้วน
   นั่งคุยกันตรงนี้กับเพื่อนเก่าหลายๆ คนที่อยู่ห้องเดียวกัน กลุ่มนี้ก็จะคุ้นเคยกันมากหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เข้าตอน ม4 เหมือนผม เราก็จะมีเพื่อนอยู่เท่าๆ กัน
   ใกล้เทียงก็มีการเลี้ยงอาหารต่อ เชิญชวนเด็ก ม1 ที่เขาพักก่อนรุ่นพี่มากินด้วย เราก็ปล่อยให้เด็กกินกันไปก่อน มีบางคนไม่กล้ามากินก็ต้องเชิญชวน แถมตักไปส่งให้ถึงที่ คือเด็กใหม่บางคนเขายังอาย ไม่คุ้น ฯลฯ
   เห็นคนน้อยเลยไปต่อคิวบ้าง มีก๋วยเตี๋ยวดูน่ากิน แต่เอาน้ำร้อนๆ ราดลงในถ้วยโฟมนี่ผมไม่เอา เลยไปดูพวกข้าวบ้าง เฮ้ยย เจอร้านข้าวหมูแดงของ “ย้อย” คนที่เปิดร้านอยู่แถวหนองมน ตอนที่ผมขับรถพามิวไปเรียนเรือใบเมื่อสองปีก่อน ชื่อร้าน “โภชนากรหนองมน” เขาจัดอาหารมาแจกฟรีล้วนๆ แถมต้องปิดร้านที่หนองมน ขับขนข้าวของทุกอย่างมาเอง
   สุดดดด ตีนนนน มาก
   จัดข้าวหมูแดง 1 จานใหญ่ ไอ้ย้อยเห็นหน้าผมก็ร้องทัก จัดให้เสียพูนจานเลย รสชาติกลางๆ ครับ ชอบตรงมีผักบุ้งลวกมาให้ด้วยนี่แหละ แปลกดีไหมครับ ปกติข้าวหมูแดงจะมีแค่แตงกวา ต้นหอม แต่ตอนไปกินที่ร้านเขาผมเห็นมีผักบุ้งลวกที่ให้เป็นเครื่องเคียงของข้าวหน้าเป็ด ผมเลยขอมาใส่ข้าวหมูแดงด้วย จะได้มีผักมากๆ หน่อย แถมผักบุ้งนี่มีประโยชน์มากเสียด้วยสิ ผมบอกเขาลอยๆ แค่วันนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเอามาเป็นเครื่องเคียงในข้าวหมูแดงด้วยจริงๆ แจ๋วมากๆ เลย
   รอเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนอยู่นาน ไม่รู้เขาไปไหน ผมอยากจะได้ภาพตึกยาวเป็นที่ระลึกกับเขาบ้าง เขาแจกคนละภาพ แต่เห็นมีบางคนได้มาถึง 4 ภาพ ผมแอบได้ยินเขาคุยกัน
   “เฮ้ยย มันต้องใช้เทคนิคโว๊ยยย กูมาแต่เช้า ก็เซ็นชื่อกับคนหนึ่งก็หยิบมาแผ่นหนึ่ง ทำแบบนี้ไปสีรอบ เลยได้มาสี่แผ่น”
   โหห พี่เรียกเทคนิคหรอ ผมเรียกเหี้ยเลยนะนั่น
   เหมือนพวกขับรถแล้วปาด เบียด แทรก มุด แล้วมาบอกว่านั่นคือฝีมือน่ะ มันไม่ใช่หรอก มึงมันคิดไปเอง เขาเรียก “หน้าด้าน” ต่างหาก
   นั่งคุยกับเพื่อนๆ ที่เดินผ่านไปมาตรงม้าหินนี่แหละครับ นั่งสบายสุดแล้ว บรรยากาศดีมาก ใครเดินผ่านก็ยิ้มทักทายให้หมด เจอเด็กนักเรียนก็ยังยิ้มเลย
   มีเด็กนักเรียนเดินมาก้มๆ เงยๆ แถวโต๊ะที่นั่ง เลยถามเขาว่าหาอะไรหรือ
   “ลุงเห็นลูกบอลไหมครับ”
   ห๊ะ ว่าไงนะ
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 28, 2015, 06:00:57 pm
26 มิย 58
   ช่วงชีวิตยามเช้าของผมนี่ถ้าไม่ออกกำลังกายก็คงเล่นแต่ Uke แต่ชอบออกกำลังกายมากกว่านะ วิ่งมันนอกจากบริหารร่างกายแล้ว สำหรับผมมันยังเป็นการฝึกจิต สมาธิอีกด้วย
   เช้านี้มิวไปทัศนะศึกษาที่อยุธยา งานย้อนรอยประวัติศาสตร์ ไปแต่เช้า กลับก็เย็นค่ำกันเลย ดูตารางที่เขาไปแล้วน่าติดตามจริงๆ ไปวัด วัง พักกินข้าวตลาดน้ำอโยธยา ฯลฯ อิจฉาว่ะ
   ส่วนผมก็ไปใช้ชีวิตที่ร้านขายของเหมือนเดิมครับ มีความสุขไปตามวิธีคิดของเรา คิดว่าได้ช่วยแม่ แบ่งเบาภาระแม่ คิดมันแค่นี้แหละถึงจะเป็นสุข
   วันนี้อยู่เฝ้าร้านตลอดวันครับ แม่กับพ่อไปเที่ยวเกาะช้าง ไปกับกลุ่มเพื่อนๆ เขาหลายคน น่าสนุกนะ ผมนึกถึง “นุ” รุ่นน้องสวนกุหลาบรุ่น 110 ที่เจอกันตอนเรียนเรือใบที่สัตหีบ นุทำธุรกิจโรงแรมและสโมสรเรือใบเล็กๆ ที่นั่น ผมว่าจะไปหาเขาบ้าง ยังไม่มีโอกาสเลย
   มิวกลับมาตอนเย็น ชวนกันไปกินกันในห้าง มิวพาไปดูคอมพิวเตอร์ Dell ที่เขาอยากได้ เด็กๆ ดูอะไรไม่เป็น ก็ดูดีไซน์ ชอบแบบบางๆ ดูเพรียว ไส้ในเป็นอย่างไรไม่รู้เรื่องหรอก ใช้เลือกตั้วแพงๆ เข้าไว้ เป็น CPU Cori i7 เลย นี่ผมยังใช้คอมฯเก่าๆ อายุเกือบ 10 ปีอยู่เลย ผมมันสไตล์ไม่พังไม่เสียไม่เปลี่ยน ซื้อแล้วใช้มันจนชีวิตจะหาไม่กันไปข้าง
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 28, 2015, 06:03:00 pm
27 มิย 58
   เช้านี้ออกจากบ้านรถคันเดียวหมดเลย พ่อ แม่ ลูก ส่งมิวที่รถไฟฟ้า แล้วก็เลยไปร้านขายของ ชีวิตมีแค่นี้แหละมั้ง ฮ่าๆ
   มิวเรียนตอน 1000 ก็นั่งเล่นเกมรอไปก่อนแบบยาวไกลเลยครับ ไปเอง กินเอง กลับเอง วันนี้มิวก็ต้องเป็นแบบนี้แหละนะ เพราะผมเองก็ต้องอยู่เฝ้าร้านแบบเต็มๆ อีกวัน
   ตอนค่ำไปรับมิวในห้าง ในมิวยังคงติดอยู่กับคอมพิวเตอร์ Dell รุ่นที่เขาอยากได้ ซึ่งตัดสินใจเอารุ่น Core i7 ไปเรียบร้อยแล้ว ผมให้เขาไปหาข้อมูลเพิ่ม อยากรู้ข้อมูลด้านไหน อย่างไร ก็ไปเสาะแสวงหามาให้ได้
   เขาคิดอยากจะให้ซื้อในวันนี้เลย แต่ผมอยากซื้อให้เขาหลังสอบเสร็จเดือนหน้ามากกว่า
   มิวทำหน้าเซ็ง ผมบอกถึงเหตุผล แล้วบอกให้เขาคิดเอง คิดให้รอบคอบ ถ้ายังคงยืนยันว่าอยากได้ในคืนนี้ก็จะซื้อให้
   สักพักมิวมาบอกว่าซื้อหลังสอบก็ได้
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง
Post by: O'Pern on June 28, 2015, 06:09:05 pm
28 มิย 58
   ตื่นเช้ามาแบบอัตโนมัติ ร่างกายเราตื่นเอง แต่ตาแม่งยังปิดอยู่เลย ไม่อยากลุก เพลียครับ แม้จะไม่ได้ออกแรงอะไรนัก แต่มันเหนื่อยล้ายังไงไม่รู้ ในทางกลับกันหากไปขี่จักรยาน หรือวิ่งโหดๆ วันรุ่งขึ้นผมกลับสดชื่น มีพลังมากกว่าเดิมเสียอีก แปลกมาก
   เช้านี้เอารถ Neobike16 ออกขี่เล่นแถวบ้าน ขี่ไปราว 1 ชม แม่ง เอ๊ยย ไม่ได้เหนื่อยอะไรสักนิดเล้ยยย กลับมาบ้านเล่น Uke ไปอีกเกือบชั่วโมง เจ็บนิ้วก็เลยพัก
   เช้านี้กินต้มเลือดหมู ใส่ใบตำลึงกำมือใหญ่ๆ กินกับข้าวกล้อง ได้มื้อเช้าดีๆ ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่ได้ไปไหนก็อยู่บ้านเขียน (พิมพ์) หนังสือต่อครับ คิดอะไรได้ก็บันทึกมันไว้เรื่อยๆ
   กลางวันมีหมี่กรอบ ไอ้นี่ซื้อไว้ตั้งแต่เมือวานตอนบ่าย เป็นหมีกรอบห่วยๆ ข้างถนนถุงละ 20 บาทแบบสีส้มรสชาติหวานๆ น่ะ แต่ผมเอามาใส่ต้นหอม ผักชี หอมแดง แล้วบีบมะนาวไปอีกลูก แถมเอาเปลือกมะนาวมาซอยบางๆ กินมันเข้าไปอีก ผักแม่งเยอะกว่าหมี่กรอบเสียอีก ฮ่าๆ ต้องแบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่าอาหารมีคุณค่า
   บ่ายมิวกลับมาบ้าน พร้อมกับมาพูดเกลี้ยกล่อมเรื่อง Dell ไม่แปลกใจ ไม่สงสัย มันเป็นสิ่งที่ผมคิดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น ก็ถึงบอกไงว่าให้คิดให้ดีตั้งแต่เมื่อคืน คนมันอยากได้ มันเคยได้สิ่งทุกอย่างที่อยากได้ ไม่เคยผิดหวัง ไม่เคยต้องรอคอย แค่เอ่ยปากเท่านั้น สิ่งที่อยากได้มันก็จะลอยมาถึงมือ
   นับประสาอะไรกับเครื่อง Dell ตัวนี้ล่ะครับ แค่พูดว่าจำเป็นต้องใช้เพราะใช้ทำรายงาน แค่นี้พ่อแม่ก็ต้องไปหาเงินมาให้แล้ว
   คือถ้ามันถึงขั้นจำเป็นต้องใช้งาน มันก็คือต้องใช้ (แต่ที่บ้านก็มีคอมฯอยู่แล้วนะ ปกติมิวทำงานก็มาขอใช้เครื่องของผมนี่แหละ)
   งานนี้ของมิวเรียกว่า “อยากได้” ถึงจะถูก แต่เขามาอ้างเหตุผลว่าต้องใช้ทำรายงาน
   เขาบอกที่ไม่ซื้อตั้งแต่เมื่อคืนเพราะกลัวพ่อว่า หึหึ แสดงว่าตอนนี้ไม่กลัวแล้วสินะ
   ผมมันเป็นคนตัวเล็กๆ ไม่มีสิทธิ ไม่มีเสียงอะไรสักนิดในบ้านครับ ออกความเห็นอะไรไปก็ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วย คิดเห็นสิ่งใดก็มักจะขัดแย้งกับคนที่บ้านไปเสียหมด งานนี้ผมว่า “ผมควรจะตามน้ำไปดีกว่าไหม” เพื่อลดผลกระทบในสิ่งที่จะตามมา

   นี่มานั่งนึกย้อนหลังก็ยิ่งพบว่า “ผมแม่งเป็นแกะดำในบ้านหลังนี้” ขอยกตัวอย่างเรื่องเด่นๆ เร็วๆ นี้ ที่เพิ่งเกิด
   แม่อยากสร้างบ้านใหม่ ผมอาสาออกแบบให้ แต่ก็ไม่เอา จนต้องไปจ้างคนอื่นมาทำแทน แล้วสุดท้ายก็ให้ผมเป็นคนไปคุย ไปแก้แบบ เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมอีกหลายจุด
   บอกว่าอย่าเอา iPhone ให้ลูกใช้ หึหึ พูดไปเถอะมึง แป๊บเดียวภรรยาเอา iPhone มาให้มิวแล้ว ผมบอกเขานะว่ามันเป็นเรื่องที่ผมโมโหมากที่สุดเลย
   บอกว่าอย่าติดตั้ง wifi ในบ้าน อีกสองเดือนถัดมาพ่อสั่งให้จัด 3BB มาแบบเรียบร้อยเลย
   
   ผมรู้ไงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ให้ลูกใช้ iPhone แล้วผลจะเป็นยังไง สิ่งชั่วร้ายก็จะส่งตรงถึงมือลูกคุณได้อย่างง่ายดาย และเสพได้เร็วขึ้นด้วยระบบ wifi จนทุกวันนี้กลายเป็นติดมือถือ ติด wifi นี่ถ้ามีคอมฯ ก็จะทำให้ระบบของเขาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ใช้ IOS คล่องแล้ว ก็จะมาหัด Window 8.1 อีกตัว
   มันไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ ถ้าฝันของเขาไม่ใช่เป็นนักบิน
   ก็เลยรู้สึกเก็บกด อยู่บ้านนี่เราเป็นคนไม่มีคุณค่าอะไรสักนิด แต่พออยู่นอกบ้านแล้วตรงกันข้ามเลย ผมสามารถเป็นได้ทุกอย่างที่ผมฝันเลย
   ก็แล้วแบบนี้ใครมันจะอยากอยู่ทำงานบ้านล่ะครับ แถมผมเป็นคนที่ไม่ได้ยึดติดกับเงินเป็นสาระอยู่แล้วด้วย เลยไปกันใหญ่เลย เอาเงินมาล่อผมก็ไม่สน เพราะผมไม่เคยรับเงินเดือนมาหลายปีแล้ว
   ยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่ายังไงผมก็ไม่เอาธุรกิจของที่บ้าน แต่ที่ยังอยู่ช่วยอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเพียงคำคำเดียว
   “กตัญญู”
   เห็นเขาว่าคนกตัญญูพ่อแม่แล้วจะเจริญ ผมแม่งเป็นคนทีทำเหี้ยอะไรก็ล้มเหลวมาทั้งชีวิต ทำหนังสือก็เจ๊ง ทำภาค 2 ก็โดนเอาไปโยนทิ้ง สู้ต่อภาค 3 แม่งก็จบเหมือนภาค 2 เป๊ะเลย
   เสนอขายไอเดียเจ๋งๆ ก็โดนบริษัทใหญ่เขาเอาไปทำเองทั้งค่ายกรังปรีด์ และค่ายกระทิงแดง ทั้งๆ ที่ฟรีเซนต์กับลูกชายเจ้าของบริษัทเองโดยตรงแท้ๆ
   
   เก็บกดมามาก ก็เลยบ่นเยอะ แต่ก็มีทางระบายเยอะนะด้วยการวิ่งและเล่น Uke ถึงบอกไงว่าผมมีความสุขมากที่สุดก็ตอนอยู่กับสองอย่างนี้แหละ
   ทำประโยชน์ให้กับครอบครัวไม่ได้เลยสักนิด ก็เลยหาทางทำประโยชน์ให้กับทุกคนที่ผมเจอ ไปพักที่ Ohana ระยอง ก็เขียนความคิดเห็นให้เขา รวมถึงแผนธุรกิจ ไปขี่จักรยานกับกลุ่ม Strida ก็วางแผนธุรกิจพร้อมตั้งชื่อร้านให้เขาอีกด้วย
   เมื่อวานกินถั่วยี่ห้อเปเล่ ผมยังไปเขียนคอมเมนท์ให้เฟซบุ๊คให้เขาเลย มีทั้งติ ชม ข้อควรแก้ไข และสิ่งที่ควรเพิ่มเติม
   ขับรถบนท้องถนนนี่ผมจะหยุดให้คนข้ามประจำ หยุดให้รถในซอยออกมาบ้าง ไม่ใช่กดตามคันหน้าแม่งอย่างเดียวเลย จะเบรกก็คือตอนเขาจี้จนไปไม่ได้นั่นแหละ แบบนี้ไม่เอา ไม่แมน ใช้ชีวิตให้มีคุณค่าก็คือต้องทำดีกับทุกๆ คนที่พบเจอ
   
   เย็นพ่อแม่กลับมาแล้ว ซื้อปลาหมึกหวานแบบที่ผมชอบมาด้วย แต่เป็นคนละรุ่น เลยออกหวานไปหน่อย นอกนั้นเป็นพวกทุเรียนที่ผมไม่สนใจกินเลยแม้แต่น้อย อ้อ เคยกินทุเรียนทอด อันนี้พอได้ เพราะมันไม่มีกลิ่นทุเรียน
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง 28 บ่น
Post by: O'Pern on June 29, 2015, 06:21:11 pm
29 มิย 58
   ออกวิ่งยามเช้านี้มันแสนจะวิเศษสุดสำหรับผมแล้วนะ ห่างหายไป 4 วันเต็มๆ ที่เหงื่อไม่ได้ออก วันนี้ตื่นเช้าก็จริงนะ แต่แอบนอนต่ออีกนิด หึหึ เพลินไปหน่อยครับ เลยเลทไปเยอะ ทำให้ออกวิ่งไปได้แค่ 45 นาทีเอง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
   เช้านี้กินไก่ผัดขิง ผมกินเนือไก่นิดเดียว หนักไปทางขิง และเครื่องเคียงที่มีไข่ต้ม แครอทลวก กระเทียมสด กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม
   ตอนเช้าออกจากบ้านสายนิดๆ รถจะได้ไม่ติด พวกที่เขาไปส่งเด็กนักเรียนคงถึงจุดหมายกันเรียบร้อยแล้ว ออกสายหน่อยขับสบาย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสายเว่อร์นะ
   วันเสาร์มีลูกค้าจ่ายเงินเกินมา 2000 บาท ผมตรวจสอบแล้วเห็นว่าจ่ายเกินแน่ๆ เลยโทรไปบอกเจ้าของร้านเขา ลูกค้ารายนี้จ่ายเงินเกินประจำ ผมก็โทรแจ้งตลอดทุกครั้ง แต่ถ้าเป็นคนอื่น ส่วนใหญ่เขาก็จะเม้มเก็บเอาไว้เอง
   แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่าเงิน 2000 บาทนั่นน่ะคือเงินที่เขาค้างชำระจากงวดก่อน ซึ่งเขาต้องจ่ายบวกเพิ่มมาให้ทีหลัง 2000 บาท
   เรียกว่าฝ่ายบัญชีกับผมไม่รู้กัน และลูกค้าก็เลย “ตามน้ำ” ไป
   เสียความรู้สึกนิดหน่อยตรงที่เขารู้อยู่แล้วว่าผมคิดเงินผิด แต่กลับไม่ทักท้วงแจ้งอะไรเลย ร้านนี้ซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อ ร้านเราก็ให้ติดเพราะเห็นว่าเขาเป็นร้านเล็ก ยังต้องใช้เงินหมุน
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายด้วยอารมณ์หิวโฮก ไม่มีอะไรกิน นอกจากผลไม้และปลาหมึก ฮ่าๆ จัดมังคุดไปทั้งกระจาดเลย มังคุดนี่กินได้ทั้งเมล็ดนะครับ ไม่แข็ง ไม่ขม มีกลูโคซามีธรรมชาติช่วยบำรุงข้อต่อ คนปวดเข่ากินมังคุดพร้อมเมล็ดต่อเนื่องกัน 7 วัน ยังอาการดีขึ้นจนหายได้เลย (อันนี้ผมจำเขามาเล่าต่อนะ แต่คิดว่าน่าจะจริง)
   เข้าเวป trekking เจอคนลงขายเทปลายพรางเลยรีบสั่งซือไป 2 ม้วน ผมมองหามานาน กะจะมาพันจักรยานไม่อยากให้ใครเห็นยี่ห้อ สมัยก่อนผมใช้เชือกพัน มันก็โอเคดีนะ เสียตรงอมน้ำ เดี๋ยวจะลองผ้าเทปดูบ้าง
   เขาขายไม่แพงด้วยน่ะ ม้วนละ 250 บาท ความยาว 10 เมตร มีลายพราง 2 แบบ เลยจัดมาทั้งคู่เลย ปกติร้านพวกแคมปิ้งขายกัน 300-350 บาท นี่ซื้อออนไลน์ แถมฟรีค่าส่งอีกด้วย
   เย็นกินน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก อาบน้ำ ซ้อม Uke เพลงฮิตวันนี้คือ “แด่คนเคยรัก”
Title: Re: มิย 58 12-15 Ohana ระยอง 28 บ่น
Post by: O'Pern on June 30, 2015, 06:07:52 pm
30 มิย 58
   ออกวิ่งยามเช้าอีกครั้ง วันนี้จัดไปอีกแค่ 45 นาที ทำไมนอนเพลินได้นะ ขนาดเข้านอนตั้งแต่ 0900 แล้วนะ
   เช้านี้อาหารสุดวิเศษ ผัดผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียว ไม่มีเนื้อสัตว์สักนิด (แต่มีไข่นะ) มีขิงซอยถ้วยเล็กๆ และกระเทียมสดสิบกว่าหัว ข้าวกล้องสีม่วงเหมือนเดิม
   เข้าสู่เทศกาลสต็อคสินค้าอีกแล้ว เช้านี้เข้าโกดังไป 2 รอบ ขนถ่ายสินค้าเข้าออกเต็มคันรถไปสองเที่ยว แต่ยังดีมีลูกน้องมาช่วยหลายคน ไอ้เหนื่อยน่ะไม่เคยกลัวหรอกครับ พักก็หาย แต่ที่กลัวก็คือการเจ็บหลังต่างหาก อ่านหนังสือหรือเวปทุกอันต่างบอกให้เลี่ยงการยกของหนัก แต่งานแบบนี้ของผมมันเลี่ยงได้เสียที่ไหนกันเล่า เรียกว่ายังไงมึงก็ต้องยก แก่ขนาดไหนก็ต้องยก ตราบใดที่ยังคงทำงานอยู่ร้านแบบนี้ ถ้าขายรถยนต์ ขายทอง ก็ว่าไปอย่าง
   กลางวันไปธนาคาร แล้วก็โอนเงินจ่ายค่าซื้อเทปลายพราง ในเวปเขาขาย 250 แต่เช็คราคากับเพื่อน เขาบอกร้านแถวลาดพร้าวขาย 180 โห ตกใจเลยสิ ต่างกันตั้ง 70 บาท ดีนะที่ซื้อไปแค่ 2 ม้วน (ลายพราง 2 แบบ)
   ด้วยความสงสัยเลยหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่าเป็นผ้าแบบคนละรุ่นกัน เลยเก็บความสงสัยไว้ในใจ รอได้รับสินค้าแล้วค่อยมาว่ากันอีกที
   เปิดเวปส่งข้อความไปบอกพ่อค้าว่าโอนเงินให้แล้วนะ แต่มีข้อความส่งมาก่อนหน้าบอกว่า ส่งของไปก่อนเลยนะ จะโอนเงินให้เมื่อไหร่ก็ค่อยบอกเขา
   เฮ้ยย แมนโคตร ไม่กลัวผมโกงหรอ
   แต่คิดอีกทีก็เริ่มเข้าใจ มันคือการตลาดของเขาอีกรูปแบบหนึ่ง เขาทำงานคล้ายผม นั่นก็คือ “ทำให้เกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง”
   ธุรกิจขายของออนไลน์ หากขายสินค้าเหมื้อนกัน ราคาพอๆ กัน แบบนี้ก็จะต้องมาแข่งกันที่ใครมีฐานลูกค้ามากกว่ากัน ใครบริการดีกว่ากัน ใครมัดใจลูกค้าได้ดีกว่ากัน
และถ้าเขาทำแบบที่ผมคิดจริง ตอนได้รับสินค้า อาจมี “เซอร์ไพร์ส”
   กลางวันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เพราะตอนสายซดน้ำเต้าหู้ไปครึ่งลิตร กลับมาบ้านตอนบ่ายๆ ซัดมังคุดที่เหลือจนหมดเกลี้ยง กินทุเรียนทอดไปอีกนิดหน่อย ตามด้วยปลาหมึกบดแบบสามรส
   ข่าวเด่นวันนี้
   C130 ตกในย่านชุมชนชนโรงแรมที่อินโดนีเซีย
   ชายนิรนามเผาตัวเองบนรถไฟชินคันเซนที่ญี่ปุ่น