Author Topic: ตค 53 24 UN  (Read 14988 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53
« Reply #15 on: October 24, 2010, 08:56:06 pm »
23 ตค 53
   วันนี้ผมขี่ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาหลายครั้ง อดไม่ได้ที่จะดูระดับน้ำ มันเริ่มสูงขึ้นมาทุกทีๆ สูงเร็วมากอีกด้วย ชาวบ้านที่อยู่นอกคันกั้นยังไงก็ไม่รอดแน่ๆ
   วันนี้ผมต้องอยู่เฝ้าร้านจนดึก กลับมาบ้านเอาตอน 1000 ขากลับรถติดก็พักสายตาจนเกือบจะหลับไปจริงๆ
   กลางวันผมขี่จักรยานไปทำธุระที่ดิโอลสยาม แน่นอน ไปกับ JZ88 จะมีเหลือหรือ พับแล้วจูงเข้าไปเลย ยามหน้าประตูไม่ว่าอะไรสักนิด แต่ห้างนี้คนเยอะมากๆ นะ ถ้าไปกันหลายๆ คน หลายๆ คัน อาจโดนห้ามหรือไล่ก็อย่าไปว่าเขาเลยครับ ต้องเข้าใจสถานการณ์รอบข้าง ถ้าเราเกะกะ ก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่ว่าขี่จักรยานแล้วจะทำตัวเป็นเทพฯ ใครมาห้ามไม่ได้ ใครมาไล่ไม่ได้ จะต้องเอามาฟ้องในเวป ฯลฯ
   เขาให้เข้า ก็เข้า ถ้าเขาไม่ได้ ผมก็ไม่เข้า มันก็เท่านั้น
   
   เจอซุ้มจักรยานของ กทม อันใหม่ด้วยครับ เป็นจักรยานขี่ฟรีเหมือนเดิม แต่เป็นสัมปทานจากค่ายใหม่ รถใหม่ปิ๊ง ขี่ฟรียังไม่พอ คืนที่จุดไหนก็ได้ ยังไม่เท่าไหร่ มันมาเจ๋งตรงที่มีประกันภัยให้ฟรีอีกด้วย เงื่อนไขก็ไม่มีอะไรมาก มายืมรถไปขี่ได้ฟรีตั้งแต่เช้าจรดเย็น ขอแค่บัตรประชาชนใบเดียวจบ เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปเรากับรถไว้ก่อน ส่วนบัตรผมว่าคงจะแค่ถ่ายภาพเก็บไว้ ไม่ได้ยึดบัตรเราไว้หรอก
   ได้ทีเลยยืมรถมาขี่เลยครับ ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้เปิดเป็นทางการ รถเป็นลักษณะทรงแม่บ้าน มีตระกร้าเล็กๆ ด้านหน้า ล้อ 26 เกียร์เดียวครับ ขี่ดี นิ่ง แน่น แข็งแรงมากๆ ทรงตัวดี รถใหม่เอี่ยมเลยล่ะ เลยเอาไปลองที่เส้นทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เกรงใจเขา เลยขี่แค่ไม่กี่นาที เอาไว้รอเปิดตัวเต็มๆ จะลองแบบลากยาวๆ สักทริป ผมว่าน่าสนุก
   นอกจากให้ยืมจักรยานแล้ว เขายังมีแผ่นพับบอกรายละเอียดเส้นทางและจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกด้วย แจ๋วจริงๆ เลย
   ปัญหาอย่างเดียวคือคนเมืองมักจะไม่คุ้นกับการขี่จักรยานครับ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักพัก ผมว่าทาง กทม มาถูกทางแล้วนะ เพียงแต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง คอยกระตุ้นอยู่เสมอๆ พวกเราชาวจักรยานก็มีส่วนช่วยสานงานของ กทม ได้ ด้วยการหมั่นร่วมงานที่เขาจัดบ่อยๆ
   เราต้องทำให้ชาวบ้านเห็นว่าจักรยานไม่ใช่เรื่องไกลตัว ใครๆ ก็ขี่ได้ ขี่สบาย ประเด็นคือตรงนี้ ไม่ใช่แค่มาบอกว่าขี่จักรยานดีอย่างโน้น อย่างนี้ ไอ้เรื่องพวกนี้ใครๆ ก็รู้ เขาติดปัญหาคือยังไม่สะดวก ยังไม่คุ้นเคย เท่านั้นเอง ถ้าเห็นคนรอบตัวขี่บ่อยๆ เข้า มันจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบครับ
   เช่น เราเห็นคนเดินผ่านศาลเจ้าแล้วยกมือไหว้กันหมด คนส่วนใหญ่ก็จะยกมือไหว้ตาม เห็นคนแหงนมองฟ้ากันหมด เราก็จะแหงนมองตามไปด้วย ทั้งๆ ที่เขามองอะไรกันก็ไม่รู้
   จักรยานก็เช่นเดียวกันครับ ปล่อยให้คนนั่งอยู่ในรถที่ติด แล้วภายนอกมีเลนจักรยานสวยๆ มีซุ้มต้นไม้เป็นร่มเงา มีจุดกดน้ำดื่มเป็นระยะ นี่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทำได้จริง ไม่ใช่เฟ้อฝัน แต่อย่าเพิ่งทำนะ ทำไปตอนนี้ก็เหมือนเลนร้าง แค่วางแผนไว้ก่อน เตรียมการไว้ก่อน ช่วงนี้เราทำแค่กระตุ้นให้คนออกมาขี่จักรยานก่อนครับ ถ้าขี่กันเยอะๆ แล้วค่อยทำเลน พร้อมออกกฏเพื่อความปลอดภัยออกมาด้วย เช่น ต้องมี่มาตรการป้องกันมอเตอร์ไซค์แอบเข้ามาใช้ ผมแนะนำให้ป้องกันด้วยวิศวกรรมการออกแบบครับ เช่น ต้องผ่านบันได หรือทำให้มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ขี่เข้ามาง่ายๆ นั่นแหละถึงจะดี
   
24 ตค 53
   ตื่นเองแบบมึนๆ ตอน 0430 มองดูนาฬิกาแล้วก็ปิดตาลงนอนต่อ แต่ใจมันไม่หลับ เพราะเช้านี้มีงานขี่จักรยานของ UN Day Run วันที่ 24 ตุลาคม เป็นวันสหประชาติครับ แถมตรงกับวันอาทิตย์พอดี เรียกว่าจัดงานได้ตรงวัน แต่งานนี้เขาเน้นวิ่งนะ มีพวกเดินบ้าง ส่วนชาวจักรยานนี้ผมเรียกว่าตัวเสริมก็แล้วกัน เพราะมันมาเร็ว ไปเร็ว เคลื่อนที่ได้เร็ว
   แต่งานของจักรยานวันนี้รู้สึกแปลกๆ หน่อย เพราะสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทยไม่ได้เป็นผู้จัดครับ กลายเป็นกลุ่มทางพระราม 2 เป็นผู้ประสานงาน กลุ่มนี้อยู่แถวบ้านผมเองแหละ แต่ผมไม่เคยขี่กับเขาเลย
   ออกจากบ้าน 0530 ขี่เช้าๆ เป็นการวอร์ม แต่ออกจากบ้านไปได้สัก 3 กม ก็เจอกลุ่มจักรยานขี่แซง คนในกลุ่มมีราว 7 คัน แต่มีแค่คนเดียวที่หันมาทักผม
   “สวัสดีครับ” เขาตะโกนขณะขี่เทียบข้าง
   “สวัสดีครับผม” ผมตะโกนตอบ สบตากันแล้วยิ้ม สักพักกลุ่มเขาก็จอดเพื่อสมทบกับนักจักรยานอีกกลุ่มที่รออยู่หน้าบิ๊กซีดาวคะนอง ส่วนผมมาแบบไร้ญาติ ขี่คนเดียวตลอดทางจนถึงสะพานมัฆวาฬ
   หน้าเวทีใหญ่มี บอย พระราม 8 มาขี่จักรยาน Trial โชว์ ผมว่าเขาเจ๋งดีว่ะ ไอ้ท่าพวกโดดไปมาผมเฉยๆ นะ ผมชอบท่าหมุนตัว 360 องศามากว่า แม่งแจ๋วว่ะ เห็นแล้วอยากเอารถ Fixed Gear มาขี่บ้าง แต่ว่าท่าของมันคนละสไตล์กันล่ะ ถ้าผมไปร่วมแจมจริงๆ บอยอาจโดนแย่งซีนโดยเปิ้ล พระราม 2 ได้
   อ้อ งานวันนี้ไม่ต้องลงทะเบียนครับ มาขี่แล้วก็กลับไปได้เลย ไม่มีพิธีอะไร ง่ายๆ ดี  กว่าจะออกขี่กันได้ก็ราว 0700 ครับ ขี่ไม่ไกลมากหรอก ระยะทางแค่ 10 กม ขี่ไปทางวังในหลวง วนอกไปทางสามเสน ตรงตลอดถึงบางลำพู ไปจนถึงราชดำเนิน แล้วก็วกกลับหน้า UN ที่สะพานมัฆวาฬ ไปถึงก็มอหาพรรคพวกก่อนเลย แต่คนเยอะมาก จนหาไม่เจอ ซุ้มอาหารมีเพียบ แต่เขายังไม่แจก มีแค่น้ำเต้าหู้ถ้วยเล็กๆ เลยกินไป 2 รองท้่อง
   ผมเจอกับพี่นัท pinklady พี่วิ หนุ่ม Brompton และพี่เชอรี่ เทพแห่งแสงไฟ ส่วนคนจากสมาคมก็มีอาสุวิทย์ ลุงกุล และน้าหมี
   พอออกตัวขี่ออกไปแล้วนี่รู้สึกสนุกดีจริงๆ ครับ มีคนปิดถนนให้พวกเราขี่เล่นอย่างสนุกนาน จะขี่บ้าบออะไรก็ได้ (แต่อย่าเว่อร์)
   แดดร้อนแรงจริงๆ ครับ กลับมาถึงอีกทีก็ราว 0800 ต้องยืนหันหลังให้แดด สู้ไม่ไหวจริงๆ ครับ แสบผิวเหลือเกิน ช่วงนี้คนเริมทะยอยกลับกันแล้วล่ะครับ ทั้งนักวิ่ง นักจักรยาน ผมยืนคุยกับเพื่อนๆ สักพักก็ขอตัวแยกย้ายเหมือนกัน เดี๋ยวสายๆ แดดจะแรงกว่านี้
   แต่ผมยังไม่ได้กลับหรอกนะ ผมขี่ไปลานพระบรมรูปทรงม้า ไปไหว้ท่าน เมื่อวานวันที่ 23 เป็นวันครบรอบ 100 ปีที่ท่านสวรรคต ผู้คนมากราบไหว้มากมายครับ ผมคุ้นชินกับพื้นที่บริเวณนี้ตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่จะพามานั่งเล่นตอนหัวค่ำ กินปลาหมึกบดปิ้ง น้ำมะพร้าว นั่งกันบนเสื่อเช่า ปัจจุบันไม่มีสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว
   พอช่วงวัยรุ่นผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆ มาที่ลานนี้ในคืนวันเสาร์ มีกลุ่มคนเล่นรถโบราณมารวมตัวกันมากมาย ผมเห็นรถคันหนึ่งดูสวยดี เดินเข้าไปจับไฟท้ายเขาหน่อยเดียว
   “เฮ้ย ไอ้น้อง อย่าจับนะ มีคันเดียวในเมืองไทยนะ” ขี้เมาถือกระป๋องเบียร์ชี้มาทางผมและตะโกนเสียงดัง
   โหห จี๊ดดดด ทันที ผมแตะรถท่านนิดเดียว แถมรถก็เก่าๆ โทรมๆ ไอ้ที่ผมจับก็เพราะว่ามันรุ่นเดียวกับรถของผม เดินไปใกล้ๆ แล้วพูดกับเขาเบาๆ
   “ไอ้รถแบบนี้น่ะ ที่บ้านผมมี 2 คัน เสาร์หน้าจะขี่มาให้ดู”
   โห โครตจะกล้าเลยว่ะ เป็นปัจจุบันผมไม่พูดโต้ตอบแบบนั้นแน่ ไม่ได้กลัวเรื่องชกต่อย แต่ไม่อยากสมาคมด้วย
   เสาร์ถัดมาผมเลยขี่รถ Harley Davidson 1945 พร้อม Side Car ขี่ไปวนที่หน้ากลุ่มขี้เมานี้หนึ่งรอบ และผมไปจอดที่ด้านหลังของพระบรมรูป จากนั้นจึงเดินกลับไปที่กลุ่มขี้เมา
   “พี่ครับ ผมเอารถมาให้พี่ดูครับ ไอ้คันที่พี่บอกว่ามีคันเดียวในเมืองไทยน่ะ ถ้าอยากดูก็เชิญนะครับ”
   พูดจบผมก็เดินกลับไปที่รถ และไปนั่งคุยกับกลุ่มเล่นรถโฟล์คแทน ช่วงนั้นคนเล่นโฟล์คยังมีแต่โฟล์คเต่า แต่ผมเล่นโฟล์คตู้ครับ ไม่ใช่รถตู้แบบ 23 หน้่าต่างแต่งเต็มยศนะ แต่เป็นรถตู้ทึบ ประตูเปิดแบบสวิงทั้งด้านซ้ายและขวาอีกด้วย กระจกหน้าแบบซาฟารีเปิดได้ เป็นรถปี 1957 ไฟท้ายแบบกลมๆ อันเล็กๆ เท่าลูกซาลาเปา ไฟเลี้ยวแบบก้านกระดก นี่คือสุดยอดของความเท่ หายากโครตๆ
   อ้อ พวกขี่มอเตอร์ไซค์ Harley น่ะ ส่วนใหญ่มักจะชอบแต่งตัวตามหนังสือฝรั่งนะ เริ่มจากแจกเก็ตหนังมีพู่ห้อย เสื้อกั๊กหนังหมุดเงิน รองเท้าบูทสูงๆ เข็มขัดประกาศยี่ห้อ Harley หัวโตๆ ฯลฯ
   ส่วนผมไปแบบสบายๆ ใส่แจ๊คเก็ตหนัง กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนขี่ Harley สักนิด
   นอกเรื่องเสียเพลิน คนแก่แล้วมันชอบคุยถึงอดีตเน๊อะ แต่ผมว่าอดีตของผมสนุกนะ ผมยังอยู่ในยุคที่มี The Palace มีวิภาวดีเซอร์กิต ยังอัดรถบนถนนสุขุมวิท พระราม 4 ได้ ยุคก่อนนั้นไม่มีมอเตอร์ไซค์เยอะเหมือนทุกวันนี้ครับ เพราะต้องซื้อเงินสดเท่านั้น ไอ้ที่มีมอเตอร์ไซค์เยอะๆ อย่างที่เห็นวันนี้ก็เพราะมันออกรถได้ง่ายเหลือเกิน จ่ายแค่ 500 ก็ซิ่งได้แล้ว ถ้าเป็นรถมือสองก็อาจไม่ต้องจ่ายสักบาท เอารถไปก่อน แล้วค่อยเริ่มผ่อนก็มี
   ขี่รถแบบหิวๆ มานาน เจอของข้างทางก็ไม่แน่ใจในความอร่อย สุดท้ายก็ใช้ไม้ตาย คือกลับมากินบ้าน แต่วันนี้บ้านผมไม่มีอะไรกิน เลยแวะร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน ร้านนี้ผมกินบ่อย แต่มักจะซื้อใส่ถุง มาวันนี้แหละที่เพิ่งได้นั่งกินที่ร้านวันแรก โหหห รู้สึกว่ามันอร่อยกว่ากินที่บ้านเยอะเลย ไม่ใช่เพราะผมหิวหรอกนะ รสชาติผิดกันจริงๆ โดยเฉพาะเส้นบะหมี่ เมนูประจำของผมคือบะหมี่แห้งต้มยำครับ
   กลับมาบ้านก็รีบอาบน้ำ พบว่าหน้าผมแสบร้อนมากๆ ครับ ทั้งๆ ที่โดดแดดแค่ไม่นาน แถมทาครีมกันแดดอย่างดี กลัวหน้าพังครับ เดือนหน้ามีประชุมที่ฮ่องกงอีกด้วย เป็นงานประชุมปลายปีสรุปงานดีไซน์ อยากหล่อๆ หน่อย พออาบน้ำเสร็จก็เลยใช้เจลว่านหางจรเข้โปะหน้าเข้าไป พอเจลแห้ง ผมก็ทำใหม่อีกรอบ โปะมันเข้าไปอีกที อัดมันเข้าไปเยอะๆ มันจะช่วยสมานผิวจากแดดได้ดีมากๆ ข้อเสียคือทาแล้วหน้าจะมันแผลบ ต้องใช้แป้งฝุ่นทาทับถึงจะดูดีหน่อย
   
   กลางวันมีนัดกับลูกและภรรยา พากันไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ใจผมชอบแค่ร้านหนังสือจากต่างประเทศ หนังสือเก่า ส่วนลูกเน้นหนังสือการ์ตูน ภรรยาชอบพวกสวยๆ งามๆ แต่วันนี้ผมเดินแบบหมดแรง เมื่อคืนก็กลับดึก แถมเช้านี้ตื่น 0430 ปั่นจักรยานกลางแดดแรงจัดทำให้กินแรงได้เยอะมากๆ
   ขากลับแวะ Big C ซื้อข้าวของเข้าบ้าน ขากลับเจอป้ายเขียนว่าถ่ายรูปฟรี ขอแค่ใบเสร็จมูลค่าอย่างต่ำ 400 บาท
   ผมรีบพาลูกไปที่ซุ้มทันที อยากได้รูปถ่ายสวยๆ มาเก็บไว้บ้าง ธรรมดาลูกเจอแต่ฝีมือห่วยๆ ของผมคนเดียวเลย มาวันนี้เจอโปรครับ รูปออกมาสวยดีมาก หน้าตาน่ารักดี ภรรยาหัวเราะชอบใจจริงๆ

   ตอนเย็นดูทีวีเห็นโฆษณานมถั่วเหลืองผงแบบชงน้ำดื่ม ไอ้นี่ไม่แปลกใจ ใครๆ ก็ทำได้ มาสงสัยตรงที่เขาบอกว่าแคลเซี่ยมสูง 60% เพราะนมถั่วเหลืองธรรมชาติหรือเรียกแบบชาวบ้านว่าน้ำเต้าหู้มันมีแคลเซี่ยมน้อยมากๆ ครับ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วยซ้ำ จำเป็นต้องหาเสริมจากพวกผักเขียวจัดๆ เช่น บรอคโคลี่ คะน้า ไม่ก็กินแคลเซี่ยมเม็ดเสริม    
   นั่นคือวิธีการเติมแคลเซี่ยมครับ เติมเข้าร่ายกายไป ไม่ได้แปลว่ามันจะดูดซึมเข้ากระดูกคุณทั้งหมดล่ะ การที่จะทำให้แคลเซี่ยมดูดซึมนั้น มันจะต้องมีวิตามินดีมาช่วย วิตามินดีเราได้มาฟรีจากการเล่นกีฬากลางแจ้ง ได้จากแสงแดด ทาครีมกันแดดแบบโครตบล็อคกันแดดกันดำ ก็เท่ากับป้องกันวิตามินดีเข้าร่างกายไปด้วย
   นอกจากวิตมินดีแล้ว จะให้เจ๋งเลิศ ต้องมีแมกนีเซี่ยมมาช่วยอีกตัว มี 3 สหายนี้พร้อมกับออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารให้ถูกหลัง รับรองว่ากระดูกและฟันแข็งแรงครับ
   อ้อ อย่าไปกินน้ำอัดลมมากๆ ล่ะ มันจะละลายแคลเซี่ยมออกมาจากกระดูกเสียหมด จะพาให้ทำเกิดกระดูกผุ กระดูกพรุนเอาตอนแก่
   คืนนี้ผมคงจะเข้านอนเร็ว ส่วนลูกพรุ่งนี้เขาได้หยุดเพิ่มอีกวัน แหม อิจฉามันชมัด
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53 24 UN
« Reply #16 on: October 25, 2010, 07:34:14 pm »
25 ตค 53
   น้ำมาแล้วจ้า ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ผมเฝ้ามองระดับน้ำในเจ้าพระยาแทบทุกวัน มาเช้านี้สูงสุดๆ ชนิดเกือบจะมิดตอม่อสะพานพุทธแล้ว ผลจากสิ่งนี้ ทำให้เรือนักท่องเที่ยวลำใหญ่ๆ ลอดใต้สะพานได้ลำบาก ดาดฟ้าเรือแทบเฉียดใต้สะพาน เห็นแล้วเสียวแทนจริงๆ ตอนเช้าเห็นมีลำหนึ่งแล่นทวนน้ำขึ้นไป เขาจะคิดหรือไม่ว่าหากขากลับแล้วระดับน้ำมันสูงขึ้นมากกว่านี้อีกหน่อยล่ะ เกิดนำเรือผ่านไม่ได้ล่ะ เขาจะทำอย่างไร เอ๊ะ หรือว่าเขามีแผนสำรองในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ผมไม่ได้ไปรู้ความคิดของเขาก็เป็นได้เน๊อะ
   ช่วงเช้าของทุกวันเป็นเวลาที่สนุกที่สุดของผม เพราะได้ขี่จักรยานออกจดออเดอร์ลูกค้า วันนี้แดดแรงจัด ผมเอาเสื้อแขนยาวมาใส่ พร้อมกับหมวกปีกกว้าง ขี่ไปได้สัก 1 ชม โดดแดดบ้าง สลับร่มเงาบ้าง แต่ไม่น่าเชื่อว่าพอกลับมาถึงร้านนะ รู้สึกใบหน้าแสบร้อนไปหมด กะว่าพรุ่งนี้จะเอาผ้าอเนกประสงค์ (ชาวบ้านเรียกผ้า Buff แต่ของผมมันยี่ห้อ HAD) มาคลุมหน้าสักหน่อย

   กลางวันมีฝนเทลงมาอย่างกระทันหัน โชคดีตกไม่นานก็หาย ไม่งั้นระดั้บน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะยิ่งสูงกว่านี้อีกแน่ๆ เพราะทุกวันนี้เจ้าหน้าที่เขาปิดประตูระบายน้ำออกเจ้าพระยาทั้งหมด ระดับน้ำในแม่น้ำจะสูงกว่าระดับน้ำในลำคลองราวเมตรกว่าๆ ครับ ถ้าฝนตกหนักๆ น้ำฝนก็จะระบายลงคลองก็จริง แต่คลองมันระบายลงในแม่น้ำไม่ได้

   ตอนบ่ายดูช่อง Thai PBS เขาถ่ายทอดงานแข่ง Off Road ผมคุ้นๆ ว่าจะมีแข่งทุกๆ วันหยุดนักขัตฤกษ์นะ วันนี้แข่งที่เมืองจันทบุรีครับ อ บ่อพลอย สนามสวยมากๆ ไม่แพ้ของฝรั่งเลยล่ะ รูปแบบการจัดก็ยังคงเลียนแบบเขามาอยู่ อันนี้ไม่ว่ากัน ดูเพลินก็มันดีครับ แต่ดูแล้วคิดตามยิ่งมันส์กว่า ผมลองคิดดูว่าถ้าเป็นผมลงแข่ง ผมจะเตรียมตัวอย่างไร เซ็ทติ้งรถอย่างไร
   สนามวิบาก 100% วิ่งเร็วไม่ได้มาก ก็ต้องขอเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดมหาศาลที่รอบต่ำๆ ครับ เรื่องเกียร์ก็คงจะใช้ได้แค่เกียร์ 2 บางช่วงแค่เกียร์ 1 ฉะนั้น ผมต้องการเพลาขับที่แข็งแกร่ง ทนทาน ตามมาด้วยช้อค สปริง แบบปรับ Fine Tune ได้มากๆ หน่อย เพราะตอนรถมันเหินเวหาแล้วลงกระแทกพื้นนี่ช้อคฯ สปริง คือพระเอกตัวจริงเลยล่ะครับ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือเรื่องของขนาดยาง ดอกยาง  และแรงดันลมยาง ส่วนจุดที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็คือเบรกครับ แต่ถ้าจะละเลยไม่ได้เหมือนกันนะ เพราะหาเป็นรถ AT ล่ะก็ ถ้าเจอคนใช้เบรกเก่งๆ รถจะวิ่งได้เนียนมากๆ ฉะนั้น ถ้าได้เบรกแบบปรับแรงดันได้จะเหมือนเสือติดปีก (อ้อ ต้องปรับให้เป็นด้วยล่ะถึงจะเวิร์ค ถ้าปรับไม่เป็นก็ปล่อยมันไว้เดิมๆ จะดีกว่า)
   ผมแล้วก็ปิ๊งไอเดีย บ๊ะ จักรยาน MTB ก็น่าจะมีเบรกแบบปรับแรงดันแบบนี้บ้างนะ คิดแล้วก็จดๆ เอาไว้ครับ เผื่อไว้จะงัดมาขายใครได้บ้าง
   ก็ยินดีด้วยครับที่วงการ Off Road บ้านเราพัฒนาขึ้น แต่ผมว่านักพากย์ทั้งสองท่านเน้นฮาไปหน่อย ส่งเสียงโวยวายลั่น แบบเฮเอามันคนเดียว บางช่วงสลับด้วยนักพากย์หญิงด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย เพราะตามนักพากย์ชายไม่ทัน นี่ถ้าได้คนพากย์แบบเทคนิคเชิงวิชาการจะสุดยอดมากๆ ครับ จะเป็นรายการที่มีสาระมากขึ้นทีเดียวเลยล่ะ ติติงด้วยใจที่อยากเห็นการพัฒนาครับ
   
   วันนี้ลูกผมอยู่บ้าน นั่งอ่านหนั้งสือเล่น วาดรูปเล่น ตัด ฉีกกระดาษเสียเกลื่อนห้องไปหมด อย่าเพิ่งไปดุว่าเขา ให้เขาเล่นเต็มที่ แล้วสอนให้เขาเก็บกวาดให้เรียบร้อย จะดีกว่าไปพูดดุด่า มันจะทำให้จิตนาการของเขาขณะนั้นมันหดหายไปครับ
   นั่นคือคุณกำลังทำลายโอกาสทองของเขาเลยล่ะ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53 24 UN
« Reply #17 on: October 27, 2010, 07:48:23 pm »
26 ตค 53
   เช้านี้น้ำปริ่มตอม่อสะพานพุทธแล้วครับ เริ่มมีไหลเข้ามาตามบ้านที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ แต่พอช่วงกลางวันระดับน้ำก็ลดลงไป ไม่รู้เพราะระบายได้เร็ว หรือว่าเป็นเพราะระดับน้ำทะเลลดลง หรือถูกทั่งข้อ ก และ ข 
   วันนี้ผมขับรถกระบะคันเก่าๆ เน่าๆ โทรมๆ ที่ตั้งชื่อมันว่า Die Hard ไม่มีพวงมาลัยเพาเวอร์ ไม่มีแอร์น่ะธรรมดาไปแล้ว ด้านในกระจกเคยติดฟิล์ม แต่ไม่รู้ใครไปลอกออกแล้วมีคราบกาวติดเต็มไปหมด ไม่ยอมเช็ดออก ทำให้มองภายนอกได้ลำบากมาก ก็ทนขับๆ ไปครับ
   ท้องฟ้ามืดครึ้ม ผมคิดในใจว่าหากฝนตกนี่ผมงานเข้าแน่ เพราะถ้าปิดกระจกแล้วไม่เปิดแอร์ ภายในรถจะมีฝ้าขึ้น จะทำให้ผมยิ่งมองถนนไม่เห็นเข้าไปใหญ่ อีกทั้งใบปัดน้ำฝนก็ทำงานแบบเชื่องช้ามากๆ โชคดีที่ฝนไม่ตก เลยรอด
   กลับมาบ้านแบบโทรมๆ ดมควันรถที่มีก๊าซคาร์บอนมอนน็อคไซด์จนเพลียครับ เจ้าก๊าซตัวนี้ส่งผลให้ง่วงนอน เราจึงพบเห็นคนหลับบนรถเมล์กันจนเป็นเรื่องปกติ ถ้ารถติดแน่นๆ มากก็จะเห็นคนยืนหลับด้วยซ้ำไป เรื่องจริงครับ ไม่ได้ปล่อยมุข
   ตกเย็นไปรับลูก รีบกลับมาบ้าน ยังไม่หายเพลียเลย

27 ตค 53
   เมื่อวานขับรถกระบะคันเก่าโทรมเน่า ดมควันพิษจนสมองเพลีย มาวันนี้ขับรถคันเดิมของผมปี 98 จะว่าไปมันก็เก่ามากแล้วเช่นกัน แต่กลับทำให้ผมรักมันจับใจ
   เช้าขี่จักรยานไปดูระดับน้ำที่สะพานพุทธ พบว่ามันสูงจนน่ากลัว ปริ่มตอม่อของสะพานพุทธเลยล่ะ ทำให้เรือท่องเที่ยวลำใหญ่ๆ ไม่กล้าลอดผ่าน
   ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำก็จิตใจไม่ดีกันหมดทุกคน บางบ้านมีการเริ่มเก็บของ ส่วนบางบ้านเริ่มชิน บอกว่าจะท่วมก็ท่วมไป ช่างมัน
   ตอนบ่ายผมเข้าไปที่คอนโด หลังจากที่ไม่ได้เข้าไปเกือบเดือนครับ เปิดประตูเห็นห้องแล้วรู้สึกสบายใจดีจัง เข้าไปถึงก็รีบกวาดทำความสะอาดทันที เปิดหน้าต่างทุกบานระบายอากาศ วันนี้ลมแรงดีครับ เลยกวาดระเบียงแล้วออกไปนั่งเล่นรับลม คิดไปพลางว่า ถ้าได้นอนนอกระเบียงแบบนี้สักคืน คงจะได้บรรยากาศดีไม่น้อย อารมณ์ตอนนอนน่าจะคล้ายตอนแคมปิ้ง
   ห้องผมเสร็จนานแล้ว แต่วันนี้เพิ่งจะไปขอทำเรื่องรับเงินค่าประกันห้องคืน พอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจห้อง เขาทำหน้าตกใจ เพราะสภาพห้องมันต่างจากห้องอื่นๆ ที่เขาเคยตรวจมาโดยสิ้นเชิง
   “พี่ย้ายแอร์ด้วยหรือครับ” เจ้าหน้าที่ถาม ตาเขาก็มองตำแหน่งใหม่ของแอร์ไปด้วย
   “ใช่ครับ จะทำตู้สูงตรงนี้ ก็เลยย้ายสักหน่อย”
   เขาขอผมเปิดดูตู้เก็บของใบสูงที่ผมออกแบบให้มันปิดเต็มกำแพง ผมต้องการตู้เก็บของใบใหญ่ๆ ครับ เพราะตอนเราอยู่ๆ ไปนานๆ จะมีของเก็บของใช้เยอะมากๆ บ้านของลูกค้าในปัจจุบันนี้ หากเป็นบ้านที่พอมีพื้นที่ ผมถึงกับออกแบบโรงรถ และห้องเก็บของขนาดใหญ่รวมเอาไว้ด้วยกันเสียเลย
   เจ้าหน้าที่เดินตรวจทุกห้อง เห็นห้องน้ำก็ตกใจอีกแล้ว เพราะผมรื้อฝักบัวของเดิมออก และทำเป็น Rain Shower แถมซ่อนเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้บนฝ้า สักพักเขาก็ให้ผมเซ็นเอกสาร แล้วก็กลับไป
   ผมปัดกวาดห้องต่ออีกสักครู่ก็นอนพักบนโซฟาตัวโต ผมเลือกใช้โซฟาตัวใหญ่ก็เพราะเป็นคนชอบนอนบนโซฟาครับ ภรรยาก็เช่นกัน ชอบนอนหลับบนโซฟาเหมือนกัน เลยเลือกโซฟาแบบที่นอนได้ 2 คนแบบสบายๆ
   แม้จะลมแรง แต่ผมก็เปิดแอร์ครับ ไม่ได้อยากเย็นสบาย แต่อยากให้น้ำยาแอร์มันหมุนวนในระบบบ้าง ถ้าไม่ได้เปิดนานๆ แอร์จะเสียเอา อย่างน้อยต้องมีการเปิดเดือนละสัก 1 ครั้ง และต้องเปิดนานพอจนคอมเพรสเซอร์แอร์ตัดการทำงาน 1 ครั้ง
   กวาดห้องเหนื่อยๆ เจอแอร์เย็นๆ นอนบนโซฟานุ่มๆ ผลคือหลับครับ แต่หลับไปแป๊บเดียว ไม่กี่นาทีหรอก คนมันไม่เคยนอนกลางวัน นอนได้แค่งีบๆ ก็ตื่นแล้ว
   เย็นไปรับลูกที่โรงเรียน เห็นเด็กๆ เขาวิ่งเล่นกัน ดูแล้วมีความสุขดีจริงๆ ครับ ผมพูดคุยเล่นหยอกล้อกับเด็กทุกคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา บ้างก็เล็กกว่าลูกผม บ้างก็โตกว่า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนลูกที่ผมเล่นด้วยบ่อยสุด
   “สวัสดีครับพ่อมิว” เด็กๆ มักทักทายผมแบบนี้
   “สวัสดีจ๊ะเด็กๆ” ผมพูดตอบ พร้อมกับจับหัวเขา คนไหนน่ารัก หรือสนิทกันหน่อยก็จะจับมือ จับแขน จับแก้มเขา บางคนที่เล่นกันบ่อยๆ ผมจับอุ้มตัวลอยเลย
   มาโรงเรียนลูกแล้วสบายใจดีครับ
   วันนี้ตอนนั่งมองระดับน้ำริมเจ้าพระยา ผมมีไอเดียออกแบบบ้านที่สู้น้ำท่วมได้
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53 24 UN
« Reply #18 on: October 28, 2010, 06:49:52 pm »
28 ตค 53
   สถานการณ์น้ำ ทำให้ผมออกแบบบ้านรูปแบบใหม่ เป็นบ้านที่รองรับน้ำท่วมได้ สเกชมือออกมาแค่ไอเดียคร่าวๆ เน้นที่ฟังชั้นหลัก แต่ยังคงต้องปรับแต่งเรื่องความสวยงาม และความกลมกลืนกับธรรมชาติ
   นั่งเขียนๆ ออกมาได้หลายเวอร์ชั่นเลยล่ะครับ มีทั้งแบบถอดประกอบได้ แบบลอยน้ำได้ และแบบผสมผสาน นี่ผมจดลิขสิทธิ์ดีไหมนี่ ลำพังแค่ตัวบ้านมันไม่เท่าไหร่ครับ จะมายุ่งยากเรื่องงานระบบบท่อทั้งน้ำและไฟ แล้วจะมายากสุดอีกทีตอนที่ทำให้มันออกมาดูดี กลมกลืนกับธรรมชาติ และราคาถูก
   
   วันนี้ผมเอาจักรยานออกขี่จากบ้านไปทีทำงาน ตื่นเช้ามาเจออากาศสดใส ลมพัดเย็นสบาย อดใจไว้ไม่อยู่จริงๆ ครับ รีบไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วกลับมาบ้านเอาจักรยานออกขี่ไปร้าน ใช้รถ HKS HT คันเดิมๆ นี่แหละครับ
   ลมหนาวพัดโชยตลอดทาง สุดยอดจริงๆ นี่ผมจิตนาการว่ากำลังขี่อยู่ริมทะเล ฟังเสียงลม เสียงคลื่นอยู่เพลินๆ โอวว ไม่นะ ไม่นะ รถเมล์มันมาแล้ว จ๊ากกกก
   ขากลับสิครับแย่หน่อย ไอ้ลมพัดโชยเมื่อเช้ามันหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ แดดแรงเปรี้ยงเลย ผมขี่กลับบ้านรู้สึกร้อนจนเจ็บแปลบๆ ที่หลัง เป็นจุดเดียวกันกับที่ผมเจ็บตอนขี่ไประยอง 270 กม ในวันเดียว เป็นเรื่องที่ไม่น่าภาคภูมิใจสักนิด ขี่ไกลๆ นานๆ มีแต่ทำร้ายร่างกายตัวเองนะครับ อย่าไปคิดว่าเก่ง ว่าเจ๋ง มันแค่เอาไว้คุยข่มกันเท่านั้นเอง
   เมื่อก่อนผมก็มีความคิดแบบคนทั่วไปนั่นแหละครับ ที่คิดว่าขี่ไกล ขี่นาน คือเจ๋ง ยิ่งไกลยิ่งเจ๋ง ยิงนานยิ่งเก่ง ก็เลยลองกับเขาบ้าง ถึงได้รู้ครับว่ามันไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย หากจะให้มองข้อดีก็พบว่ามันเป็นการทดสอบจิตใจได้ดีทีเดียว ยิ่งไปคนเดียวก็จะยิ่งท้อและรันทดใจ ไม่เชื่อลองได้ครับ (ย้อนอ่าน Solo Trip 270 กม ได้ใน Diary เดือนพฤษภาคม ปี 52 ครับ) การขี่ขึ้นเขาก็สามารถทดสอบจิตใจตัวเองได้ดีครับ ยิ่งเขาที่สูง ชัน และไกล จะยิ่งเป็นบททดสอบที่ดีมาก
   การเจ็บแปลบๆ ตอนขี่กลางแดดร้อนจัดกลายเป็นแผลติดตัวผมไปแล้ว พอเจ็บแปลบทีไร ผมคิดถึงตอนขี่ไประยองทุกที ไม่น่าเลยเรา ทำร้ายตัวเองแท้ๆ
   กลับถึงบ้านก็รีบอาบน้ำเลยครับ อ้อ ไม่ได้อาบทันทีล่ะ ต้องรอให้ร่างกายหายร้อนจัดเสียก่อน ดูง่ายๆ คือให้เหงื่อแห้งลงบ้าง
   อาบน้ำเสร็จก็อยากนอนเลยล่ะ แต่ไม่ได้นอน ออกไปรับลูกจากโรงเรียน กลับมาบ้านอีกทีตอนเย็น คืนนี้หลับสบายแหงๆ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53 24 UN
« Reply #19 on: October 29, 2010, 10:10:54 pm »
29 ตค 53   
   ตอนเช้ามีลมเย็นอีกแล้ว ดูทีวีเขาว่าปีนี้จะหนาวนาน ก็ขอให้มันจริงเถอะ จำได้ว่าปีที่หนาวนานเมื่องสองปีก่อนน่ะ เป็นปีที่ผมขี่ขึ้นอินทนนน์เป็นครั้งแรก ผมไปกับน้าชู (Siam Strida) นั่งรถไปกับน้าชู ช่วยกันขับสลับกันไปตลอดทาง แถมยังพักที่บ้านน้าชูอีก 3 คืน อากาศหนาวเย็นสบายดีเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ยิ่งตอนวันแข่งยิ่งสนุกครับ เพราะเราต้องไปถึงจุดสตาร์ทกันตั้งแต่ 0530 นั่งคุยกันนี่ควันออกปากเลย แถมตอนสตาร์ทกรรมการประกาศแจ้งอุณหภูมิว่า บนพื้นราบตอนนี้ 15C ส่วนด้านบนเส้นชัยเหลือแค่ 2C บ๊ะ สะใจสุดๆ
   คิดแล้วอยากขึ้นอีกครั้งว่ะ ไปกับน้าชูครั้งที่แล้ว ทำให้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ กลุ่มลุ่มน้ำวังหลายคน โดยมากจะเป็นพวกรุ่นใหญ่ๆ ใจดีกันทุกคนเลยครับ ยิ่งเขารู้ว่าผมไม่เคยขึ้นเขาใดๆ มาก่อน เขายิ่งให้คำแนะนำกันใหญ่
   “ค่อยๆ ปั่นไป อย่าไปเร่ง”
   “ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก”
   คำแนะนำออกมาราวๆ นี้ทั้งนั้น เขาเป็นห่วงผมกันหมด เพราะผมไม่เคยขี่ขึ้นเนินขึ้นเขาใดๆ มาก่อน กระทังเขาใหญ่ที่ใกล้ๆ กทม ผมก็ยังไม่เคยขึ้น ครั้นจะขึ้นครั้งแรก ก็เล่นดอยอินทนนน์เสียแล้ว
   ไม่เคยศึกษาเส้นทางมาก่อน รู้แค่ว่ามันไกล โหด สาหัส ก็เลยวางแผนการปั่นไว้คร่าวๆ เอาเข้าจริงก็รอดมาได้ครับ ภูมิใจสุดๆ ที่ไม่ต้องลงเข็น ไม่ต้องอาศัยรถเซอร์วิส
   การขี่ขึ้นเขามันเป็นการทดสอบร่างกายและจิตใจโดยแท้ครับ โดยเฉพาะเขาสูงๆ ชันๆ ช่วง 5 กม สุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยนี่มันชันแบบคาดไม่ถึง จำได้ว่าความเร็วของรถผมเหลือแค่ 2 กม/ชม รถแทบจะไม่เคลื่อนที่แล้ว กดบันไดแรงนิดเดียวล้อหน้าก็ยกแล้ว ทรงตัวอยู่ได้เพราะมันอยู่บนทางลาดเอียง
   ปีที่แล้วผมไม่ได้ขึ้น ปีหน้าปี 54 นี้เลยอยากไปครับ ใจมันคิดถึง คราวที่แล้วผมไปกับรถพับ KHS F20-W พับใส่ท้ายรถน้าชูไป มาปีนี้ ถ้าเลือกได้ ผมอยากลองรถ HKS HT ดูบ้าง จะดูว่ามันทำเวลาได้ดีกว่าเดิมสักเท่าไหร่ ปีก่อนผมทำได้ 0711 นาที สถิติไม่น่าอวดใครหรอกครับ ที่หนึ่งเขาทำได้ 0230 เท่านั้นเอง ห่างกันแบบคนละโลก

   ตอนบ่ายเข้าไปคอนโดอีกแล้ว อยากเข้าไปสัมผัสลมหนาวครับ แล้วก็ไม่ผิดหวัง เปิดหน้าต่างห้องปุ๊บ ลมพัดเข้ามาแบบเต็มๆ นั่งแล้วไม่อยากลุกไปไหนเลยครับ เอนหลังนอนเข้าให้ก็เกือบหลับเลยล่ะครับ ไปแล้วไม่อยากกลับ นี่เชื่อไหมว่าห้องผมเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่เคยมานอนค้างที่นี่สักคืนเลย กระทั่งสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสที่แสนจะสวย ก็ไปใช้บริการแค่ครั้งเดียวเอง
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53 24 UN
« Reply #20 on: October 30, 2010, 10:06:11 pm »
30 ตค 53
   อากาศยามเช้ายิ่งเย็นมากขึ้นทุกทีๆ ผมสงสารคนที่โดนน้ำท่วมเป็นอย่างมาก เพราะเขาคงจะหนาวกว่าคนอื่นๆ เยอะ น่าเห็นใจจริงๆ
   เช้าผมขี่จักรยานไปศาลเจ้ากวนอู ที่ผมไปไหว้ ไปนั่งเล่นริมน้ำประจำ ผมรู้ว่าศาลนี้เก่าแก่มาก แต่คิดไม่ถึงว่ามันเก่าแก่ขนาดที่ว่า มีศาลแห่งนี้ก่อนมีกรุงเทพฯ มหานครเสียอีก
   อายุ 200 กว่าปี แก่กว่ากรุงเทพฯ ราว 30 ปี นี่ผมกำลังนั่งอยู่ในตำนานหรือนี่ อยู่ฝั่งธนฯ แท้ๆ แต่ผมกลับเพิ่งรู้
   
   กลางวันขี่จักรยานไปทำธุระที่ดิโอลสยาม รถติดมากๆ ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันเสาร์ ติดหนักเหลือเกิน แต่ผมไปกับจักรยาน JZ88 ใช้เวลาจากฝั่งธนจนถึงดิโอลสยามเพียงแค่ 3 นาทีครับ ขี่ธรรมดาๆ นะ ไม่ได้เร่งอะไรเลย รถติดก็ไปขี่บนทางเท้า ง่ายดายมากเหลือเกิน ผมว่าจักรยานเป็นยานพาหนะที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดในเขตเมืองกรุงเทพฯ ชั้นใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ครับ
   แต่ที่คนทั่วไปยังไม่ขี่จักรยานก็เพราะเขายังไม่คุ้นเคยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดมากับความไฮเทค พอวัยรุ่นแทนที่จะขี่จักรยาน กลายเป็นขี่มอเตอร์ไซค์แทน ทีนี้เลยกู่ไม่กลับครับ เตลิดไปไกลแล้ว อีกอย่างที่ส่งเสริมกันก็คือมอเตอร์ไซค์มันหาง่ายกว่าจักรยานครับ ร้านมอเตอร์ไซค์ยังเยอะกว่าร้านจักรยานเสียอีก
   หากจะให้นายกอย่างผมลงไปแก้ปัญหาแบบฉับไว ก็ขอเสนอให้ลดภาษีจักรยานเหลือ 0% อ๊ะๆ และให้สัมปทานด้านการเช่าจักรยานตามจุดต่างๆ แก่จักรยานที่ผลิตในไทยซะ นี่คือการจบแบบ win win แต่ภาครัฐจะสูญเสียภาษีนำเข้าจักรยานนะ ทำใจได้หรือเปล่า เอาไปคิดดูเอง
   ลองดูความเร็วของจักรยานแบบง่ายๆ กันดูนะครับ ผมขี่รถ JZ88 จากสนามหลวงมาถึงเชิงสะพานพุทธฝั่งธนฯ ด้วยเวลาแค่่ 3 นาที (เวลาทุ่มกว่าๆ ของวันธรรมดา) สุดยอดเหลือเกิน แดดไม่ร้อน แต่ต้องระวังอันตรายจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ชอบขี่ย้อนศร
   การขี่จักรยานทำให้เราได้ออกกำลังกาย สีหน้าก็พลอยยิ้มแย้มแจ่มใสไปในตัว เจอนักท่องเทียวผมก็แวะช่วยเหลือตลอดทาง ไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษเก่งก็ช่วยเขาได้นะ เพราะเขาแค่จะถามทาง เราก็จับใจความว่าเขาจะไปที่ไหน แล้วก็ชี้ในแผนที่ให้เขา
   ถ้าภาครัฐทำให้คนออกมาขี่จักรยานกันได้เยอะๆ ล่ะก็ มันจะเกิดปรากฎการณ์ใหม่ในประเทศไทยเลยทีเดียว ผมฝันไปถึงยุคจักรยานครองเมืองแบบที่ยุโรปโน่นเลย จอดจักรยานกันระเกะระกะมาก ขึ้นรถเมล์ รถไฟ ก็เจอจักรยานเต็มไปหมด มันเยอะจนน่าเกะกะมาก อย่าเพิ่งว่าเพ้อฝัน มันเป็นไปได้จริงๆ ไม่ยากสักนิด อยู่ที่จะคิดทำกันจริงจังหรือเปล่า ถามตัวท่านเองดูก่อน
   
   เย็นลูกบอกอยากกินสเต็คชื่อร้าน 49 Steak ที่เปิดขายอยู่ปากซอยบ้านผมเอง ขายมาหลายเดือนแล้วล่ะ แต่เพิ่งลองกินไม่กี่วันมานี้เอง ลูกชอบสเต็คปลาดอริ ส่วนผมเล่นสลัดกุ้ง
   กินอิ่มเดินจูงมือกันเข้าบ้าน ลมหนาวพัดโชยแบบรู้สึกได้ ลูกเริงร่าอย่างมีความสุข แต่ใจผมคิดถึงภาพคนโดนน้ำท่วม
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 53 24 UN
« Reply #21 on: October 31, 2010, 07:18:03 pm »
31 ตค 53
   วันนี้ที่รอคอย วันหยุด ผมเอาจักรยานออกขี่ตั้งแต่ 0530 ขี่ไปถนนแถวบ้านที่ผมใช้ซ้อมเท้าประจำ ไม่ได้ไปมาหลายเดือนแล้วล่ะครับ ไปอัปเดทสักหน่อย
   พอไปถึงก็ตกใจมาก เพราะถนนมันพังเสียหายแทบจะทั้งสาย จากเดิมเป็นทางราดยางเรียบกริบยาว 4 กม ตอนนี้มันก็ยังคงยาวเท่าเดิม แต่มันไม่เรียบอีกแล้ว ถนนพังเสียหายอย่างมาก ข้างทางเป็นทางเท้า ทางการออกแบบเป็นทางจักรยาน ที่ผมไม่เคยเข้าไปขี่เลย มาวันนี้มันกลายเป็นเลนมอเตอร์ไซค์ และยังมีรถยนต์คันเล็กๆ เข้ามาวิ่งทับอีกด้วย สุดยอดจริงๆ
   เข็ดแล้ว เลยขี่สำรวจเส้นทางเล่นดีกว่า ไปในเส้นทางที่เราไม่เคยไป หลงก็ช่างมัน ไม่รู้ทางก็ถามชาวบ้านเขาซะ ง่ายมากๆ
   จากเดิมคิดหา GPS มาใช้กับเขาบ้าง แต่คงไม่เอาแล้วล่ะ ใช้แผนที่กระดาษ และปากของเรานี่แหละ ดีกว่าเป็นไหนๆ ไม่ต้องเสี่ยเงิน ไม่ต้องแบกน้ำหนัก แถมได้มิตรภาพ
   แต่ก็เข้าใจนะครับว่า GPS มันก็มีประโยชน์ของมัน เอาเป็นว่าผมยังไม่พร้อมกับมันก็แล้วกัน ใครจะชอบ จะใช้ ก็เป็นสิทธิของเขา คงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
   เช้านี้ต้องรีบกลับมาทำธุระที่้บ้านนิดหน่อย เลยขี่ไปได้แค่ 40 กม ขากลับแวะตลาดนัดที่หมู่บ้านสินทวี เช้าวันอาทิตย์คนแน่นมากๆ เห็นโรตีร้านหนึ่งคนซื้อกันเยอะ ผมเลยเอาบ้าง สั่งโรตีมะตะบะ เห็นชิ้นหนาเบ้อเริ่ม เขาขายแค่ 25 บาท บ๊ะ ถูกจัง
   กลับมาบ้านรีบเปิดกิน คำแรกก็ทำให้หน้าเปลี่ยนสี ไม่อร่อยเลยครับ ชิ้นหนาๆ ใหญ่ๆ ใส่ไส้เยอะก็จริง แต่แป้งมันไม่อร่อยเอาเสียเลย ผมเคยกินแต่แบบเป็นแป้งบางๆ ห่อไว้ แต่ไอ้ร้านนี้เขาใช้ก้อนแป้งหนาๆ รองไว้ แล้วใส่ไส้ทับอีกที บ้าฉิบเป๋ง จะทำให้มันหนาๆ แบบนั้นไปทำไมวะ เอ๊ะ หรือมันเป็นกลลวงให้ดูว่าชิ้นใหญ่ๆ
   กินแล้วไม่อร่อย ต้องจำฝังใจครับ แพงหน่อยก็ยังไม่ว่ากันนะ ถ้าดีจริง แต่ถ้าเจอรสชาติแย่ๆ ต่อให้ถูกติดดินก็กินไม่ลงครับ
   
   กลางวันอยู่กับลูกจนถึงเย็น เล่นเกมหมากกระดานชื่อ Othelo ลักษณะเป็นหมากสีดำและขาว เหมือนกับโกะ วางหมากคนละครั้ง วิธีจะเปลี่ยนฝ่ายตรงข้ามมาเป็นพวกเราก็จะต้องใช้วิธีปิดล้อม สนุกดีครับ ผมรู้จักเกมนี้ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนชาวญี่ปุ่นเขาสอนผมเล่น พอไปญี่ปุ่นอีกทีเมื่อปีกลาย ก็เลยซื้อติดมือกลับมา
   
   ข่าวใหญ่วันนี้ - รถตู้โดยสารตกทางด่วน ถ พระราม 6 ตกลงมาแล้วเกิดไฟลุกซ้ำ เสียชีวิต 8 ศพ พรุ่งนี้ข่าวนี้จะอยู่หน้า 1 แน่นอนครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride