Author Topic: ตค 52 31 UN  (Read 19540 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #15 on: October 19, 2009, 06:05:31 pm »
19 ตค 52
   ผมปั่นจักรยานไปนั่งเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจอเรือนักท่องเที่ยวผ่านมา ผมโบกมือให้ สักพักเขาก็โบกมือตอบกลับมากันเกือบทั่งลำ ผมส่งยิ้มแก้มปริแม้จะอยู่แสนไกลโดยไม่สนใจว่าเขาจะมองเห็นหรือไม่
   ลองคิดดูในทางกลับกัน หากเราเป็นนักท่องเที่ยวแล้วมีคนท้องถิ่นโบกมือทักทายบ้าง เราจะรู้สึกอย่างไรกัน
   ใจเขาใจเราครับ เห็นไหมว่าแค่เราโบกมือทักทาย แค่ส่งยิ้ม มันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ทำได้ทันที ใหม่ๆ อาจเขิน ลองๆ ค่อยๆ ทำดู ทุกวันนี้ผมชินแล้ว ไปกับลูก ลูกผมยังช่วยโบกอีกแรงเลย
   เราทำแค่นี้แหละ แต่ให้หลายๆ คนช่วยกันทำ ลองนึกภาพเรากำลังไปต่างเมือง มีคนทักทายและส่งยิ้มให้ตลอดทาง โหห เท่โครตๆ ครับพี่น้อง ได้ใจกันไปเต็มๆ แม้ประเทศเราจะยังไม่พัฒนาเยอะอย่างฝรั่งเขา แต่ใจเรานั้นกลับเหนือชั้นเสียยิ่งกว่า
                นี้คือเรื่องจริงครับ นี้คือจุดแข็งของคนไทยเราเลยนะ พื้นฐานคนไทยเป็นคนจิตใจดีครับ ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง ชอบความเฮฮา สนุกสนาน คนไทยเราไม่ค่อยเคร่งเครียดเหมือนพวกญีปุ่น ไม่เง้มงวดเหมือนพวกฝรั่ง แต่จากการที่เราง่ายๆ สบายๆ กันจนเพลิน มันก็กลายเป็นข้อเสีย หรือจุดอ่อนของคนไทย ก็คือ ขี้เกียจ ผัดวันประกันพรุ่ง เอ้อระเหย ฯลฯ
                ลองทำ SWOT ของคนไทยเราดูครับ ทำเหมือนมันคือธุรกิจนี่แหละ แล้วจะรู้ตื้นลึกหนาบางของตัวตนของเราเอง
                แต่โดยรวมคนไทยเรายังดีอยู่ครับ คือมันดีจากจิตใจข้างในไง ไม่ได้ดีจากภายนอกเหมือนพวกฝรั่งเขา ความต่างอยู่ตรงนี้ นี้คือหัวใจสำคัญ เราไม่ต้องทำให้บ้านเมืองเจริญเหมือนเขา ไม่ต้องไปเลียนแบบเขา เราอย่าไปเดินหลงทางที่คิดว่าฝรั่งคือเทพฯ ฝรั่งมันมั่วเยอะมากเลยนะครับ จอมโกหก จอมหลอกลวง แต่ทำฟอร์มเหมือนด้วยการยกอ้างทฤษฎี่ต่างๆ นานา
               กลางวันเอาจักรยานออกปั่นไป 30 กม เหนื่อยเป็นบ้า เพราะบางช่วงถนนโล่งรถน้อยก็แอบอัดๆ หน่อย ไม่ค่อยได้ขี่เร็วๆ มานานแล้ว ทุกทีปั่นแบบค่อยๆ ย่อง AV นี้ไม่สวยเลย โชว์ใครไม่ได้
               อ้อ เจอฝนด้วยครับ แต่แค่ปรอย ทีนี้ผมไม่หยุดรถเพื่อเปลี่ยนรองเท้าและใส่เสื้อคลุมแล้ว ชักจะรู้แกวแล้วว่าตกแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย
               เพราะจักรยานเราเคลื่อนที่ตลอดไงครับ หากไม่ใช่ฤดูมรสุมแล้ว เรามักจะปั่นผ่านกลุ่มเมฆฝนทะลุไปเลย เออ แต่ถ้าเจอเมฆใหญ่ก็แย่หน่อยนะ ฮ่าๆ
               กลับมาบ้านก็ทำการ Strech (ยืดเส้น) ในสไตล์ของโยคะ อันนี้ผมคิดขึ้นมาเอง กะจะพักให้หายเหนื่อยไปด้วยในตัว แต่ทำไปทำมา กลับเหงื่อซ่กเสียยิ่งกว่าเก่า สงสัยท่าที่ผมทำจะโหดเกินไปก็ไม่รู้ ยืดเส้น 10 นาที เดินดูต้นไม้เล่นอีก 5 นาที พอตัวแห้ง หัวใจเต้นเบาลง ก็ค่อยไปอาบน้ำ
               โหหห กลับมาเหนื่อยๆ ได้นอนแช่น้ำเย็นในอ่างแสนจะสบายเลยคุณเอ๋ย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #16 on: October 20, 2009, 02:51:33 pm »
20 ตค 52
   เช้าออกปั่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เป็นการปั่นแบบกระทันหัน ตอนแรกตั้งใจจะวิ่ง แต่มีรถบรรทุกคันใหญ่จอดขวางอยู่กลางซอย มันดูแคบๆ บรรยากาศไม่ดี เลยเอาจักรยานออกปั่นแทน
   ออกจากบ้านได้หน่อยเดียวก็พบก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกอยู่กลางถนน รถยนต์ต่างพากันเบนหลบ ผมรีบจอดจักรยาน รอจังหวะรถว่าง เดินเข้าไปย้ายก้อนน้ำแข็งให้ชิดขอบทาง นี่หากมอเตอร์ไซค์ชนเข้าไม่อยากนึกภาพเลย เช่นเดียวกับรถเก๋ง พังยับแน่ๆ
   นึกขึ้นได้ เลยไปสำรวจเส้นทางเก่าทีเคยปั่น พบว่าเขาทำถนนกันเสร็จแล้ว เรียบ เนียน สวยเลย แต่ปั่นไปได้พักเดียวเท่านั้นแหละ ถนนอีกช่วงที่มันเคยสวย ตอนนี้มันกลับเละเทะมาก มีน้ำท่วมขังหลายช่วง แต่ที่แย่สุดคือ รถมอเตอร์ไซค์ และรถสองแถวเล็กมันดันมาวิ่งในเลนจักรยาน !!!
   ลำพังมอเตอร์ไซค์ไม่เท่าไหร่ เพราะขนาดสูสีกัน แต่กับรถยนต์นี่สิ ผมว่ามันแย่นะ น้ำท่วมถนนของเอ็งก็ลุยไปสิวะ ตัวไม่เห็นเลอะสักหน่อย นี่มาขับในเลนจักรยาน ไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยครับว่าอีกหน่อยทางจักรยานก็จะต้องพังไปตามกัน
   ปั่นเช้าๆ แบบนี้อากาศดี สิ่งที่ขาดไม่ได้ขณะปั่นตอนมืดคือแว่นตาครับ ไม่ใช่แว่นกันแดด แต่ใส่เพื่อกันแมลง วันนี้ไม่ได้ติดแว่นมา เลยโดนจนได้ แมลงตัวเล็กๆ บินเข้าตา ผมปิดตาสักพัก ขยี้เบาๆ ให้หายคัน แต่ก็ทำได้แค่ทุเลา สุดท้ายกลับมาบ้านตาแดง ตอนอาบน้ำเลยล้างตาด้วยน้ำเปล่า สักพักก็ดีขึ้นเอง โชคดีไป
   เช้านี้ทำมาได้ 25 กม บนเส้นทางแบบกึ่งวิบากหน่อยๆ 
   กลับมาบ้านอาบน้ำ ทานอาหาร ไปส่งลูกที่โรงเรียน รู้สึกยังไม่หนำใจ สายๆ เลยเอาจักรยานออกปั่นอีกรอบ ทีนี้เจอแดดแรงจัดเลย โชคดีวันนี้ใส่เสื้อสีขาว รู้สึกว่าเย็นสบายดีกว่าตอนใส่เสื้อสีดำอย่างเห็นได้ชัด นี่ทำให้ชักอยากได้ชุดขาวเสียแล้วสิ
   ปั่นเข้าไปในเขตทางพระประแดง ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสักหน่อย แล้วก็วกกลับบ้าน ทำไปอีกราว 30 กม
   ช่วงลงสะพานยาวๆ ผมทดสอบปล่อยมือรถขณะความเร็วสูง พบว่าแฮนด์สั่นแกว่งไปมา และจะแกว่งแรงขึ้นตามความเร็วจนต้องใช้มือคอยประคอง กลัวมันสะบัดจนรถล้ม ช่วงนั้นความเร็วราว 40 กว่าๆ
   อืมม ผมว่าเมื่อก่อนตอนผมใช้แฮนด์ตรงมันไม่เป็นแบบนี้นะ หรือว่ามันสะบัดเพราะผมใช้แฮนด์ผีเสื้อ (แฮนด์มันใหญ่ กว้าง กินลมเยอะ)  หรือว่าเป็นเพราะห้อย Pannier หลังไปด้วย 2 ใบ ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน เอาไว้ลองใหม่
   ปั่นกลับบ้านกลางแดดแรงจัด แต่พอถึงบ้านพักเดียวฟ้ากลับมืดครึ้ม มีฟ้าร้องครืนๆ อยู่นาน ลมพัดแรง โชคดีที่ถึงบ้านก่อนนะนี่ แต่ถ้าไม่รอดก็ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกับฝนอยู่แล้ว
   อ่านเวปจักรยาน เห็นมีคนโพสบอกว่าตัวเองปั่นๆ อยู่แล้ววูบล้มลงไป ผมเดาว่าคำว่าวูบของเขาคือหมดสติ เป็นลม อะไรทำนองนี้ ดีที่เขาไปกับเพื่อนเป็นกลุ่ม หันมาดูตัวผมเอง หากวูบบ้างคงจะแย่ ผมปั่นคนเดียวตลอด ไปไหนมาไหนคนเดียวล้วนๆ
   มันชินกับการอยู่คนเดียวน่ะครับ มีเพื่อนไปด้วยสนุกกว่าแน่ๆ แต่ถ้าเพื่อนเยอะเกินไปก็จะขาดความคล่องตัว โดยเฉพาะทริปยาวๆ ยกเว้นแต่จะมีผู้นำที่แข็งแกร่ง และมีตารางทริปอย่างละเอียด เหมือนอย่างกลุ่ม TCC เขาทำ
   อ่านๆ ไปชักกลัวจะวูบเหมือนเขา มีข่าวคนเสียชีวิตขณะปั่นจักรยานอยู่เป็นระยะ ปีหนึ่งจะมีสัก 2 คน นี่เฉพาะข้อมูลในอินเทอร์เนทอย่างเดียวนะครับ ในโลกแห่งความเป็นจริง มีคนเสียชีวิตขณะออกกำลังกายอีกเยอะมากๆ
   มักจะเกิดกับคนมีโรค แต่ไม่รู้ตัวว่ามีครับ หนึ่งในนั้นคือโรคหัวใจขาดเลือด
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #17 on: October 21, 2009, 06:16:17 pm »
21 ตค 52
   เมื่อวานปั่นบ้าเลือดไปหน่อย ตอนเย็นมีอาการ Overtrain คือฝึกเยอะเกินไป เช้านี้ฝนตกตั้งแต่ตี 4 ตกหนักเสียด้วย เลยได้โอกาศพักทั้งวิ่งทั้งปั่น
   กลางวันไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เจอหนังสือจักรยานภาษาอังกฤษ ผมยืนอ่าน แล้วมีผู้ชายอีกคนหยิบซื้อ ผมเลยชวนเขาคุย
   “ปั่นจักรยานหรือครับ”
   “ใช่ครับ”
   “ผมเห็นมีอีกเล่ม จะละเอียดกว่านี้ มีการซ่อมบำรุงด้วย” ผมบอกเขา
   เขายิ้ม ไม่ตอบอะไร จ่ายเงินซื้อเล่มดังกล่าวมา
   อย่าว่าแต่เขาเลย ผมเองก็หยิบติดมือกลับมาด้วยเหมือนกัน
   กลางวันฝนตกปรอยๆ ครับ รถก็ติดเหมือนเดิมตามประสาของมัน มาที่นี่ผมเลิกขับรถยนต์มาเป็นปีแล้ว เพราะแม้จะได้จอดก็เดินไกล แถมหากจะซื้อหนังสือก็ยังต้องหิ้วเดินไกลกลับไปที่รถอีก สู้มารถไฟฟ้าไม่ได้เลย
   แต่ก็อย่างที่เคยบ่นเรื่องการตรวจค้นสัมภาระครับ ผมมีเป้หลังเอาไว้ใส่ของ มีกล้องถ่ายรูป มีน้ำดื่ม มีหมวก วันนี้ผมวางเป้ให้เขาตรวจ ยังไม่ทันเปิดซิปเลย เขาให้ผมผ่านไปเสียแล้ว
   เอ๊ะ นี่เขาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือนี่ !!!
   กลับมาบ้านก็เจอฝนอีกตอนเย็น วันนี้ทั้งวันเลยไม่ได้จับจักรยานเลยแม้แต่น้อย ที่จริงน่ะ ไม่ได้ล้างรถมานานมากแล้ว โดนมาหลายฝนก็ยังไม่ได้ล้างสักที ตอนได้ยินเสียงโซ่ดังอ๊อดแอ๊ดนี่แหละ ถึงจะได้ฉีดน้ำยาสักครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ทำการล้างอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
   คงรอฝนหายแหละครับ ถึงจะได้ฤกษ์ ผมอาจทำการเปลี่ยนโซ่ด้วย ใช้มาตั้งแต่ปี 94 ไม่เคยเปลี่ยนเลย แต่ปั่นไม่เยอะนักนะ แค่ 3000 กว่า กม มาเยอะช่วงสองสามปีนี้เองแหละครับ และคงจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ

   รถคัน KHS HT ของผมที่ล้อหน้ามีซี่ลวดงออยู่เส้นหนึ่ง งอเยอะเสียด้วย แต่แปลกที่ล้อไม่คด ผมเลยไม่ได้ไปสนใจอะไรกับมัน กะว่าให้หัด ขาด แล้วถึงจะค่อยซ่อม มันเกิดขึ้นหลังจากผมออกปั่นคนเดียวเมื่อหลายเดือนก่อน ไอ้ที่ผมปั่น 260 กม พร้อมแบกของไป 15 กก ปั่นในวันเดียวจบนั่นแหละครับ กลับมาก็เจอซี่ลวดงอเลย มีไปลุย Off Road บ้างนิดหน่อย คือลุยนิดหน่อย แต่ทางโหดมาก เห็นหน้าผาหินชัน ที่ฝนตกเปียกชุ่ม ยางหลังผมเป็นสลิคมันลื่น เลยต้องปั่นไต่เขินเขาด้วยการนั่งบนแร็คหลัง เป็นท่าปั่นที่ทุกลักทุเลมาก ฝืนธรรมชาติแบบสุดๆ เพราะขณะขึ้นเขาเราควรถ่ายน้ำหนักไปด้านหน้าแทนต่างหาก
   มาวันนี้จะมามองหาว่ามันยังโอเคดีอยู่ไหม แต่พบกับความแปลกใจซี่ลวดที่เคยงออยู่ในล้อหน้า บัดนี้มันกลายเป็นยืดตรงดังเดิมไปแล้ว เฮ้ย เป็นไปได้อย่างไรกันนี่ งงแท้
KHS HT ของผมใช้ช้อคฯหน้าของ Rock Shock Judy XC ครับ ไส้ในเป็นกลไกแบบโบราณ ทำงานด้วยสปริงและลูกยาง มีการหมุนปรับแข็งอ่อนได้ด้วย เรียกว่าเจ๋งสุดยอดแล้วในสมัยนั้น (ปี 94)
   แต่ระยะหลังมานี้ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กๆ รถผมมีอาการคอหลวมอยู่แล้วด้วย เลยไม่ได้สนใจอะไรนัก วันนี้ลองจับช้อคฯกดๆ ดู เอ๊ะ มันมีก๊อกแก๊กเบาๆ เอาไงดีล่ะนี่ เก่าก็เก่า แถมหนักอีกด้วย หากมีปัญหาจริง ผมคงเปลี่ยนเป็นตะเกียบแบบ Rigid แน่ๆ เคยเห็นที่ Pro Bike เขามีขาย จำได้ว่าเป็นตะเกียบโครโมลีสีดำ มีรูยึดแร็คแบบ Low Rider Mount เสียด้วย ราคา 1200 บาท (ยังไม่ได้ลด) แต่ไอ้แร็คแบบนี้หากไม่ได้ใส่ Pannier หน้านี้มันจะดูรถเกะกะเอามากๆ เลย ไม่ชอบอย่างแรง ไม่สวยเลยสักนิด แถมตอนถอดล้อหน้ายังต้องคอยจับรูยึดขาแร็คอีกด้วย
   ปั่นต่อเนื่องนานๆ ผมรู้สึกว่ารองเท้ามันคับไปหน่อย ผมใส่ถุงเท้าแบบหนาด้วยแหละ มันเลยไปกันใหญ่ ปกติถุงเท้าของจักรยานจะบางเบา ผมกลัวรองเท้าเหม็นน่ะครับ เลยคิดว่าถุงเท้าหนาๆ มันคงจะซับเหงื่อได้ดีกว่าอย่างบางเป็นแน่
   นี่ถ้าออกทริปยาวๆ ผมคงต้องหารองเท้าคู่ใหม่ เคยไปเล็งไว้แล้ว เป็นของยี่ห้อ Bontrager เห็นที่ Pro Bike สองพันกว่าบาท ลองใส่แล้วโอเคดี ไม่ชอบมันอย่างเดียวตรงที่เป็นสายคาดแบบ Velcro สามแถบ
   เพราะมันเหมือนรองเท้าเด็กอนุบาลเป๊ะเลย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #18 on: October 22, 2009, 04:01:27 pm »
22 ตค 52
   เช้าไม่ได้ออกวิ่ง เอาจักรยานออกปั่นตอนกลางวันแทน เล่นไปแค่ 30 กม ขำขำ ปั่นไปย่านพระประแดงเหมือนเดิม ผมชอบนั่งเล่นริมน้ำ รู้สึกเย็นสบายทั้งกายและใจ สมองปลอดโปร่งดีจริงๆ
   ระหว่างทางเจอเด็กประถมจับกลุ่มเล่นกัน เห็นผมผ่านมาก็มองกันใหญ่ เด็กคนหนึ่งช่างพูดช่างคุย ถามโน่นถามนี่ตลอดเวลา นี่อะไร นั่นอะไร แฮนด์แบบนี้ซื้อที่ไหน เขาเรียกว่าอะไร ดูแกจะสนใจจักรยานเป็นพิเศษ สุดท้ายมีการให้ผมถอดแว่นให้ดูหน่อย ก่อนจากกันผมหยิบลูกอมของ Fox ให้แกไปหนึ่งเม็ด เขายกมือไหว้ก่อนรับของ พอได้ของแล้วก็ชูขึ้นให้เพื่อนๆ ในกลุ่มดู ตะโกนร้องเย้ๆ ดีใจใหญ่
   ผมยิ้มภายใต้หน้ากากที่ปิดคลุมอยู่ เด็กเขามองไม่รู้หรอกว่าผมยิ้ม เป็นยิ้มที่ผมรู้สึกสบายอกสบายใจเหลือเกิน นี่ขนาดแค่ลูกอมเม็ดเดียวเองนะนี่
   ขาลงสะพานผมทดลองปล่อยมือรถที่ความเร็วสูง แปลกที่วันนี้รถมันนิ่งกว่าเมื่อวาน นีมันเป็นเพราะรถหรือเพราะผมบาลานซ์มันไม่ถูกเองนะนี่ วันนี้รถทรงตัวได้ค่อนข้างดี จนผมปล่อยมือเลี้ยวโค้งที่ความเร็วสูงได้อีกด้วย เสียวดีเหมือนกัน เลยเอามือคอยประคองเอาไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
   หรือเป็นเพราะว่าผมแคะเอาเศษหินเล็กๆ ที่ติดอยู่ในร่องดอกยางออกก็ไม่รู้นะ เมื่อเช้าผมว่าง นั่งแคะเศษหินเล็กจิ๋วออกมาได้หลายเม็ดเหมือนกัน ก็ทำแบบเดียวกับรถยนต์นั่นแหละครับ ก่อนขับในสนามแข่งหรือต้องการไปอย่างเต็มลิมิท ผมจะต้องนั่งแคะเศษหินออกจากร่องดอกยางทั้ง 4 เส้นเลย ไม่ค่อยมีใครทำแบบนี้กันหรอกครับ ผมมันบ้า
   ช่วงใกล้ถึงบ้านฟ้ามืดครึ้มอีกแล้ว เหมือนเมื่อวานเป๊ะเลย และไอ้เมื่อวานมันก็เหมือนเมื่อวานซืนเด๊ะๆ เช่นกัน
   ฝนตกแค่นี้ผมไม่บ่นอะไรหรอกครับ แต่กลับจะสงสารคนที่บ้านเขาน้ำท่วม เกษตรกรที่เรือกสวนไร่นาเขาเสียหาย ที่ร้ายสุดคือประเทศฟิลิปปินส์ที่เขาโดนมรสุมเข้าถึง 3 ลูกติดๆ กัน คนตายกันเยอะ น่าจะเข้าหลักพันคนแล้ว บาดเจ็บยังไม่นับ และอีกหลายหมื่นครอบครัวที่ยังไม่มีที่พักอาศัย
   ปั่นกลางแดดร้อนๆ นานๆ ผมเริ่มรู้สึกว่ารองเท้ามันคับจริงๆ เสียแล้ว จะผ่อนคลายได้บ้างในจังหวะดึงเท้าขึ้น แต่ถ้าต้องเดินด้วยรองเท้าจักรยานล่ะก็ รู้สึกว่ามันจะอึดอัดเท้าไปหน่อย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #19 on: October 23, 2009, 04:44:35 pm »
23 ตค 52
   ปั่นจักรยานเยอะ เลยไม่ได้คุยเรื่องบ้านเมืองเลย เอาเป็นว่าสลับๆ กันไป ช่วงนี้ปั่นเยอะเพราะมันเกิดแรงจูงใจ ใช่แล้ว ผมจะออกทริปครับ แต่ไปไหนยังไม่บอก เขิน กลัวไปไม่ได้ หรือไม่ได้ไป เพราะมันเป็นทริปที่ต้องจัดเตรียมทุกอย่างเองให้ดีพร้อม
   เมื่อคืนฝนตกตั้งแต่ตี 3 มั้ง มาหยุดเอาตอนใกล้จะ 8 โมงเช้า นี่ถ้าใครออกทริปกันแต่เช้าผมล่ะสงสารน่าดู
   ฝนตก อากาศเย็น แต่เปียกเลอะหน่อย ผมเอาจักรยานออกปั่นอีกแล้ว ไปวนเวียนย่านพระประแดง แต่ปั่นไม่ได้เยอะนักหรอก ไปแค่ 30 กม ขากลับวันนี้ขับออกมาจากถนนใหญ่ตัวอำเภอพระประแดง เลยผ่านร้านอาหารอิสลาม เห็นมีชาวบ้านจอดรถกินกันเยอะ เลยเอาบ้าง แต่ผมใส่ชุดประหลาด กลัวคนแตกตื่น เลยซื้อกลับมากินที่บ้าน เลือกแบบอ้วนน้อยหน่อยคือสลัดแขก แต่อยากลองของชอบคือมะตะบะ เอามา 2 อย่างเลยก็แล้วกัน
   ธรรมดาผมหิวก็ไม่ค่อยแวะจอดซื้อของอะไรนักหรอกครับ น้ำดื่มก็เตรียมไปเอง เกลือแร่ก็ไม่กิน ถ้าจะกินก็ขอเป็นผลไม้สดๆ เลย
   กลับบ้านก็เดินเล่นพักให้เหงื่อแห้ง อาบน้ำแล้วก็จัดการกับอาหาร รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ แต่ยังไม่ถึงขั้นเจ๋งที่สุด ผมเคยกินที่อื่นอร่อยกว่านี้ แต่ก็ซัดจนหมดเกลี้ยงทั้ง 2 จานนะ ฮ่าๆ
อ้อ เข้าเวปจักรยานเห็นมีการจัดตั้งกลุ่มคนใช้จักรยานของ Bike Friday กัน อย่าไปตกอกตกใจอะไรครับ มันเป็นเรื่องของธุรกิจ เหมือนกับที่ทาง Pro Bike จัดกิจกรรมให้ลูกค้าของเขานั่นแหละ ถ้าอยากมีกลุ่มบ้าง ผมแนะนำให้มองหาเพื่อนแถวบ้านเข้าไว้ครับ มีประโยชน์จริงๆ ได้พบปะกันบ่อย ได้ช่วยเหลือกัน หรือถ้าจะมาเป็นกลุ่มเดียวกับผม ขอเรียกว่า Bike Everyday ก็แล้วกัน ใครปั่นทุกวัน ปั่นบ่อยก็เป็นเพื่อนกันไปเอง
ช่วงนี้ผมออกปั่นทุกวัน ก็เจอชาวจักรยานบ้างเหมือนกันนะ โดยมากก็จะปั่นแซงเขาแล้วทักทาย “สวัสดีครับ” แต่ต้องลากเสียงหน่อย ไม่งั้นเขาฟังไม่รู้เรื่อง บางทีก็เจอคนแต่งชุดขี่จักรยานก็มีเยอะ
ความสุขในการขี่จักรยานของผมจะอยู่ที่การได้ขี่ ได้ออกกำลังกาย และได้ปั่นไปในสถานที่ๆ เราชอบ ผมจะรู้สึกเฉยๆ มากกับการอัปเกรดรถ เพราะทำให้มันเบาหรือลื่นนั้นมันก็ดีจริง แต่เราจะได้ออกแรงน้อยลง
อ้าว ผมปั่นจักรยานเพราะต้องการออกแรงนะ ขี่ไม่เกิน 100 กม ไม่ได้ออกทริปลากยาวหลายๆ วันต่อเนื่องกันไม่ต้องไปทำอะไรกับรถมันมากนักหรอกครับ บำรุงรักษาให้มันอยู่ในสภาพดี ปรับตั้งเซ็ทติ้งให้มันเหมาะกับการใช้งานและสรีระของเราก็เพียงพอแล้ว
ที่บอกแบบนี้เพราะเห็นมีบางคนปั่นกระหยองกระแหยง แต่พอแต่งรถอัปเกรดนี้ทุ่มเทกันสุดตัว โอเคล่ะ สไตล์ใครสไตล์มัน แต่ผมกลัวมือใหม่เขาหลงทางกันน่ะสิ และมักจะมีแบบนี้เยอะมากเสียด้วย
ก็คงเหมือนวัยรุ่นแต่งรถยนต์ซิ่งน่ะครับ คือไปขวนขวายหาของมาใส่รถ ทั้งๆ ที่หลายอย่างมันช่างจะติงต๊องเสียเหลือเกิน ยกตัวอย่างสินค้าที่ผมเรียกว่าของอันตรายอย่างแรกก็คือตัวครอบคาลิเปอร์สเบรกครับ
อันนี้รุ่นน้องผมเป็นคนทำขึ้นมาคนแรกเลย เขาถามผมว่ามันโอเคไหม ผมตอบไปตามความจริงว่า ใส่ครอบไปมันก็ระบายความร้อนไม่ออกน่ะสิ แถมตอนจะเปลี่ยนผ้าเบรกก็ต้องไปงัดมันออกมา งัดแตกก็เสียของอีก ฯลฯ
   เขาก็รับฟังไป แล้วอีกไม่นานก็มีไอ้ของชิ้นนี้ออกมาขาย อันตรายนะครับ โดยเฉพาะรถที่ขับลงเขาบ่อยๆ ยิ่งเบรกนานๆ คาลิเปอร์สก็ร้อน ปกติมันก็มีลมพัดผ่านตลอด ทีนี้ดันเอาฝาครอบ (ที่คิดว่าสวย) ไปครอบมันไว้ ไม่ได้ครอบเฉยๆ นะ ทากาวพอกมันเข้าไปอีก เจริญล่ะมึง
   ของอีกอย่างที่ติงต๊องมาก เห็นมีขายตามประดับยนต์ใหญ่ๆ คือตัวรั้งเข็มขัดนิรภัยไม่ให้มันกดแนบกับหน้าอก อืมม เข้าท่าดีไหม หากเป็นหญิงคาดเข็มขัดมันจะทาบลงบนหน้าอกไง เขาคงเขินอาย ไอ้ของแบบนี้เลยออกมาตอบสนองความต้องการ
   แต่มันอันตรายครับ เพราะหากสายเข็มขัดมันไม่แนบกับตัว มันจะล็อคไม่ทันตอนเกิดอุบัติเหตุ เช่นนี้คือใส่เข็มขัดไปก็คือแค่ป้องกันตำรวจจับ มันไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลยขณะรถชน แถมหนำซ้ำหากรถคุณมี Air Bag ก็จะยิ่งเพิ่มอันตรายต่อตัวเองยิ่งขึ้น เพราะขณะ Air Bag พองออก มันมีก๊าซอยู่ด้านในดันออกมาด้วยแรงระเบิดที่สามารถดันล้ออัลลอยของรถยนต์ให้เด้งจากพื้นถึงตึกชั้นที่ 3 ได้สบายๆ
   หึหึ ลองนึกภาพมันดันเอาใบหน้าคุณคนขับดูสิครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #20 on: October 24, 2009, 06:32:13 pm »
24 ตค 52
   ปกติวันนี้จะมีงานของ UN (United Nation) เป็นงานอะไรสักอย่าง มีวิ่ง มีปั่นจักรยานด้วย แต่แปลกที่เป็นงานฟรี มีแจกเสื้อ แจกเหรียญที่ระลึก ของฟรีคนชอบครับ สมัครกันใหญ่เลย ผมเองก็ด้วย แต่ไม่หวังของแจกอะไรหรอก เป็นเพราะเขาเริ่มกันเช้าและจบเร็ว ผมชอบปั่นแต่เช้า เลยขอแจมซะ
   แต่เขาเลื่อนเป็นเสาร์หน้านะครับ ตอนแรกวางแผนไว้อย่างดี แต่ไม่เป็นไร ดีที่เขาบอกล่วงหน้านานหน่อย ไม่งั้นมีคนเก้อแน่ๆ
   ถึงแม้งานเขาจะเลื่อน แต่การปั่นของผมไม่เลื่อนครับ ฝนตกก็ปั่น แดดแรงก็ปั่น บอกแล้วไงว่าคนมันมีแรงบันดาลใจ
   ผมต้องทำให้ร่างกายแกร่งกว่าเดิม แถมยังต้องลดน้ำหนักลงอีก เพราะที่ผ่านมาแม้จะลดลงได้เยอะแล้ว แต่จากการหยุดปั่นไปเสียนานแล้วยังทานเยอะอีก ทำให้น้ำหนักเพิ่ม
   ลดน้ำหนักตอนอายุยิ่งมากก็ยิ่งลดยากครับ มันเกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเราเอง แต่มีกฏง่ายๆ คือ ใช้พลังงานให้มากกว่าการกิน
   วันนี้ออกปั่นเช่นเคย แต่ก็มักไปที่เดิมๆ เริ่มเบื่อเหมือนกัน อยากลองหาที่พักกางเต้นท์ดูบ้าง เอาแบบค้างคืนจริงๆ เลยนะ ไม่ได้แค่นอนเล่นประเดี๋ยวประด๋าว แบบนั้นผมนอนเล่นตามสวนสาธารณะก็ได้
   เช้านี้พาลูกปั่นออกถนนใหญ่ครั้งแรก ลองไปแค่ใกล้ๆ บ้านครับ ดูทักษะของเขาแล้วพอไปได้ แต่ติดที่รถของเขาเป็นแบบ 16 นิ้ว Single Speed หากจะพาออกทริปต้องใช้คันใหม่ เพราะยืดเบาะสูงจนสุดหลักอานแล้ว ปั่นจนเท้าแทบจะชนล้อหน้าอยู่แล้ว
   สองจิตสองใจ คิดไว้นานแล้วล่ะว่าจะหารถใหม่ให้เขา มี 2 ตัวเลือกคือแบบ MTB 20 หรือ 24 นิ้ว กับ MTB Size 13 ล้อ 26
   คันแรกจะขี่ง่ายกว่า แต่ใช้ได้ไม่นาน ไม่น่าจะเกิน 3 ปี ก็ต้องเปลี่ยน
   อีกคันใช้ได้อีกนานเลย แต่เขาจะต้องเอื้อมแขนไปข้างหน้ามาก และช่วงขาปั่นยังดูเก้งก้าง ดูแล้วไม่คล่องตัว
   เอาไงดีวะ
   อ้อ ลูกผมอายุ 8 ปี สูง 130 ซม หนัก 30 กก ครับ
   วันนี้ผมออกปั่นไม่เยอะเท่าไหร่ แค่ 20 กว่า กม เพราะฝนตก ตอนแรกจะลุยปั่นต่อ แต่นึกอย่างไรก็ไม่รู้สิ รู้สึกไม่อยากลุยฝน เลยปั่นกลับมันซะ เปียกแค่ปรอยๆ พอถึงบ้านรู้สึกโชคดีที่เราคิดถูก เพราะฝนเทลงมาอย่างหนักมากเลย
   ผมตรวจสภาพรถ KHS HT คันที่ช่วงนี้ปั่นประจำนั่นแหละ พบว่าหลักอานมันเลื่อนลงมาเองถึงเกือบ 1 นิ้ว
   มังคงจะค่อยๆ เลื่อนลงมาเองน่ะครับ แต่ผมดันไม่รู้ตัวเอง คือมันเคยชินไง แล้วนี่มันเลื่อนลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้สิ เป็นปีหรือยังก็ไม่รู้ จุดอ่อนข้อนี้ผมว่าหลายคนคงหลงลืมในการตรวจเช็คเป็นแน่
   เอ๊ะ แล้วไอ้ที่ผมปั่นนานๆ จนเจ็บหลังเมื่อหลายเดือนก่อนมันจะเกี่ยวข้องกันไหมล่ะนี่ แม้ทุกวันนี้จะหายดีแล้ว แต่ปั่นกลางแดดจัดนานๆ หลายชั่วโมงมันรู้สึกเมื่อยหลังในจุดนั้น แค่เมื่อยนะ ไม่ได้เจ็บ กลัวซ็ำรอยเดิมจริงๆ เล้ยย
   จัดการยกเบาะขึ้นให้ถูกตำแหน่ง บ๊ะ ปั่นดีกว่าเดิมอีกว่ะ ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วว่ารองเท้าของผมมันคับเกินไป ผมต้องการใหญ่กว่านี้อีก 1 เบอร์ หรือถ้ามีแบบความกว้างมากขึ้นกว่าเดิมก็จะดีมากเลย ที่ผมใช้อยู่เป็นของ Adidas ครับ ชอบเพราะเป็นสีดำล้วนและทรงไม่ซิ่งนักนี่แหละ ผมชอบ มันดูเรียบๆ ดี ที่จริงผมมีของ Sidi Action อยู่ แต่มันเก่าแก่จนเปื่อยยุ่ยไปหมดแล้ว ซื้อตอนปี 94 ซื้อพร้อมๆ กับรถ KHS HT คันนี้แหละครับ
   นี่ถ้าไม่พังก็ไม่เปลี่ยนหรอก เสียดายจะตาย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #21 on: October 25, 2009, 04:53:47 pm »
25 ตค 52
   เช้านี้ผมพาลูกออกทริปเป็นครั้งแรกครับ เป็นการปั่นออกถนนอย่างเป็นทางการ ปั่นอย่างจริงจัง อ่านเจอพี่ท่านหนึ่งจัดทริปปั่นไปชายทะเลบางขุนเทียน แถวบ้านผมเองแหละ ก็เลยแจมเสียหน่อย ถนนเส้นนี้สร้างแล้วพัง สร้างแล้วพังมา 2 รอบ รอบล่าสุดที่เห็นทุกวันนี้คือรอบที่ 3 ครับ อย่าได้ตกใจไป
   ผมน่ะ ปั่นตั้งแต่มันยังไม่ทำถนนรอบแรกเลย ระยะทางแค่ 10 กว่า กม แต่เหมือนไกลเหลือเกิน กันดารสุดยอด รถวิ่งผ่านแต่ละคันก็ฝุ่นตลบ คนเดินถนนผมเผ้าเป็นสีแดงเพราะดินลูกรัง
   ระยะแรกนี้ไม่มีร้านค้าบ้านเรือนอะไรเลย ไม่มีหมู่บ้านสักแห่ง มีแต่นากุ้ง มีแต่ป่าชายเลน ผมมาจอดรถยนต์นั่งเล่นแถวนี้บ่อย บรรยากาศดีมาก เหมือนมาปิคนิคยังไงยังงั้น
   จนถนนรอบแรกเสร็จ ถึงได้มีบรรดาร้านอาหารทะเลทะยอยกันเปิดเต็มสองข้างทาง นั่นแหละ เป็นจุดแจ้งเกิดความโด่งดังของบางขุนเทียนชายทะเลเลยล่ะครับ ใครผ่านไปมาก็ต้องมาแวะกินกัน บ่ายวันอาทิตย์นี้รถอย่างแน่นครับ ติดยาวกันเป็นกิโลเลย ผมเองก็เข้าไปใช้บริการบ้างเหมือนกัน แต่กินไม่บ่อยนัก ผมรู้สึกเฉยๆ ร้านอาหารทะเลที่อร่อยของผมเป็นร้านเก่าแก่เปิดมาเป็นสิบปี อยู่ที่ก้นอ่าว ชื่อร้านป้าจ๋วย นั่งกินกันบนชายหาด น้ำขึ้นสูงบางทีก็เท้าแช่น้ำกินกันไป
   พอคนเยอะ รถวิ่งเยอะ ก็มีหมู่บ้านเกิดขึ้น นี่แหละคือจุดเริ่มของความฉิบหาย เพราะบรรดาสิบล้อวิ่งถมที่กันทั้งวันทั้งคืน ถนนก็พังสิครับ ใช่เลย พอถนนพัง หมู่บ้านก็เสร็จ เย้ๆ ได้วิ่ง Off Road แต่ขอโทษ รถ Isuzu Mu 7 ที่เพิ่งออกมาไม่นาน ของเพื่อนผม ผุไป 2 รอบแล้วครับ นี่นับแค่วิ่งในถนนสายนี้อย่างเดียวนะ
   ถนนพัง ก็ตั้งงบเบิกจ่ายมาซ่อมกันใหม่ครับ ไทยเราเล่นง่ายๆ กันแบบนี้แหละ มีการคิดทำถนน แต่ไม่มีวิธีคิดการป้องกันถนนพังแต่อย่างใดเลย ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คิด และถ้าไม่เริ่มคิด มันก็จะต้องพังอีก
   รอบแรกของการทำถนนนั้น เป็นแค่การปรับผิวครับ และทำได้ครึ่งๆ กลางๆ คือทำยังไม่ได้ไปถึงสุดป่าชายเลน รอบสองถึงได้เริ่มลาดยาง และพังไปหมดแล้ว พังทั้งจากรถใหญ่วิ่ง และตัวที่ช่วยทำลายอีกอย่างคือน้ำกันเซาะ
   น้ำท่วมครับ ที่ดินย่านนี้ต่ำ (อันที่จริงก็ต่ำกันทั้ง กทม แหละ) หน้าน้ำ จะมีน้ำท่วมขังเป็นประจำ ท่วมผิวถนนจนมิด สองข้างทางเป็นป่าชายเลนอยู่แล้ว เลยทำให้มองไม่เห็นถนน เหมือนวิ่งลงไปในคลองเลยล่ะครับ
   จนมาการทำถนนรอบ 3 ปัจจุบันนี้ มีการขยายถนน มีเลนจักรยานด้วยนะ มีไหล่ทางให้รถเล็กวิ่งได้ แต่ทางจักรยานยังสร้างไม่ไปสุดถนนนะครับ มีแค่ครึ่งเดียว แต่ก็โอเค ดีกว่าไม่มี
   ถนนสวยเรียบเนียน ไฟฟ้าส่องสว่างตลอดทาง ทำให้เป็นสวรรค์ของชาวเสือหมอบย่านนี้กันเลย กลางคืนดึกๆ ถึงเที่ยงคืนยังปั่นกันไม่เลิกก็มี หัวค่ำไม่ต้องห่วง จักรยานเพียบ (บางวัน)
   ต้องยกเครดิตให้พี่บุญชัยครับ เขาอยู่ย่านนั้น และมาโพสชวนเพื่อนๆ ให้มาปั่นนจักรยานกัน ผมอ่านพบเข้า วันนี้เลยขอแจม พอเห็นหน้าก็ร้องอ๋อ เพราะเป็นพี่ที่มาซื้อ Dahon Vitesse D5 ของผมไปนั่นเอง
   0630 เลยขอจอดรถไว้หน้าบ้านเขา ผมกับลูกออกปั่นไปก่อน เพราะลูกผมมือใหม่ ปั่นช้า แถมรถเป็นล้อ 16 Single Speed เสียอีก มันเลยได้ความเร็วไม่เท่าไหร่ สองคนปั่นกระหยองกระแหยงไปเรื่อยๆ ลูกผมดูสนุกสนานมาก ผมเองก็พลอยดีใจไปด้วยที่เขาชอบจักรยาน พยายามปลูกฝังให้เขามีทรรศนคติที่ดีในการเดินทางด้วยจักรยาน
   พอไปได้สัก 30 นาที ก็เริ่มหมดแรง ฮ่าๆ ต้องล่อด้วยโกโก้เย็น บอกว่ามีร้านกาแฟขายโกโก้เย็นอร่อยมากนะ เขาถึงมีแรงฮึด
   ตลอดทางเราเจอนักปั่นจักรยานมากมาย กะคร่าวๆ ก็ราว 30 คัน ทะยอยกันมา บ้างก็สวนทางกัน มีเยอะที่แซงไล่หลังขึ้นมา ก็ทักทายกันไป ลูกผมดูจะเป็นดาวเด่น เพราะตัวเล็กจิ๋วเดียว
   ผมบอกให้เขาอดทน รักษาจังหวะรอบขาไว้ กำหนดลมหายใจ และทำสมาธิ ก็ได้แต่พูดๆ ไป ไม่รู้เขาทำได้มากแค่ไหน สุดท้ายก็ถึงร้านกาแฟ เจอนักจักรยานหลายท่านนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ถึงได้รู้ว่านี่คือร้านประจำของนักปั่น
   มิวตรงดิ่งไปสั่งโกโก้เย็น เหลือบไปเห็นเขามีอาหารขายด้วย แต่เป็นร้านแบบชาวบ้าน อาหารพื้นบ้าน มิวเขาคงหิว เลยขอสั่งข้าวไข่เจียวมากิน เห็นลูกกินผมก็หิวบ้างเหมือนกัน เลยขอลูกกินด้วย กลายเป็นแย่งกันกิน สนุกดี
   กินเสร็จลูกชวนผมเข้าไปดูโครงการปลูกป่าชายเลนในโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขาเคยมาทรรศนศึกษาที่นี่ ผมเองก็เคยมาปลูกป่าชายเลนกับ TCC ที่นี่เหมือนกัน แปลกดี คนละทริป คนละทาง แต่ที่เดียวกันที่สองพ่อลูกได้มาเยือน
   ปั่นเข้าไป คนในโรงเรียนท่าทางงง แต่ไม่ได้ว่าอะไร ลูกพาผมเดินทัวร์อยู่สักพัก ผมเห็นว่าแดดเริ่มแรง เดี๋ยวจะร้อน เลยชวนกันกลับ
   อันที่จริงหากลูกผมแกร่ง ผมจะพาเขาเข้าไปชมป่าชายเลนของจริงที่อยู่อีกฝั่งของถนน ผมเคยเข้าไปกับ TCC ก็ทริปที่ได้มีโอากาสช่วยผู้หญิงขี่ Dahon สีแดงที่เขาตกข้างทางจนเลอะโคลนเลนเต็มตัวไปหมดนั่นแหละครับ ตอนแรกไม่รู้จักกัน ช่วยแล้วก็ยังไม่ได้รู้จัก จนไปทริปสระบุรีกับกลุ่มของน้าเป็ดนั่นแหละ มาเจอกันอีกที ทราบว่าชื่อคุณอ้อย
   ป่าชายเลนย่านนี้สวยงามครับ เขาทำสะพานไม้สูงราว 2 เมตรเอาไว้ให้เดินชมเล่น ใจอยากไปอีกนะ แต่กลัวลูกตกคลอง ตกไปน่ะแย่เลย เพราะตอไม้เต็มไปหมด คราวนั้นคุณอ้อยรอดมาได้ยังไงก็ไม่รู้ โชคดีสุดยอดจริงๆ
   เป็นอันว่าเราเริ่มกลับกันตอนสาย ขากลับมิวปั่นไปได้ไม่กี่ กม ก็ร้อน และขอพักอยู่หลายหน นี่ผมกลัวเขาจะเข็ดกับจักรยานเหมือนกันนะ ทริปแรกพามาก็เจอแบบนี้เสียแล้ว
   แต่เขาก็กัดฟันสู้จนได้ ช่วงระยะท้ายๆ ผมอาสาดันหลังเขาให้ เขาบอกว่า ทำไมพ่อไม่ช่วยดันตั้งแต่แรกล่ะ เออ มันพูดเข้าท่าดี
   ปั่นกลับมาถึงจุดจอดรถก็ราว 0930 ทริปนี้ใช้เวลาไปราว 3 ชม ได้ระยะทางมาแค่ 25 กม ฮ่าๆ เอาน่ะ ทริปแรก ได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว
   พอขึ้นรถได้ก็เหมือนสวรรค์เลย ได้แอร์เย็นๆ มันช่างต่างจากตอนที่เราอยู่กลางแดดจัดโดยสิ้นเชิง นี่เราต้องลำบากมาก่อน ถึงจะรู้ว่าความสะดวกสบายมันเป็นเช่นไร เหมือนตอนปกติขับรถเปิดแอร์ก็ไม่ได้คิดอะไรสักนิด จนถึงวันที่แอร์เสีย หรือต้องมาขับรถที่ไม่มีแอร์ มันถึงจะรู้คุณค่าของสิ่งที่เคยมี
   ถึงบ้านก็อาบน้ำ พาลูกไปเรียนพิเศษ ภรรยาชวนทานอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ชื่อร้าน ชา บู ชิ ผมไม่ค่อยคุ้น ทำหน้าตาไม่อยากไป แต่เห็นลูกอยากกินก็เลยโอเค
   พอถึงร้านก็ทำตาโต จัดร้านเหมือนญี่ปุ่นมีซูชิจานเวียนเลียบมาตามโต๊ะ อยากกินอะไรก็หยิบเอาเลย เออ สนุกดีเหมือนกัน อาหารรสชาติงั้นๆ แหละ แต่มันสนุก และได้ความสะดวก รวดเร็ว คือเราบริการตัวเองไง น้ำก็หยิบเอง รินเองหมด เพิ่งรู้ว่าเขามาการจับเวลาตอนเรานั่งกินด้วยนะ คือให้กินได้ 1.15 ชม ฮ่าๆ ผมเล่นไปแค่ 30 นาทีก็รู้ผลแล้วล่ะ ที่เหลือก็แค่นั่งเล่นและละเลียดกินของหวาน ชอบถั่วแดงร้อนครับ เขานำถั่วแดงเชื่อมมาบดหยาบ มีน้ำขลุกขลิก อร่อยดี แต่หวานไปนิด
บ่ายออกไปทำธุระที่คอนโดฯ เรื่องเอกสาร บ๊ะ นี่เราจะมีคอนโดกับเขาบ้างแล้วหรือนี่ รู้สึกเท่เล็กน้อย แต่ผมไม่ชอบชื่อเรียกว่าคอนโดฯ เลยนะ มันฟังเสียงแล้วดูเหมือนอาวุธ น่าจะเรียกว่าแมนชั่น ผมว่าไพเราะกว่า ฟังดูหรูกว่า
   กลับมาบ้านตอนเย็นก็ยังเพลียๆ ครับ สงสัยเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเพราะต้องปั่นไปดันหลังเจ้ามิวเขาไปด้วยแน่ๆ เพราะปกติผมปั่นไกลๆ นานๆ ก็ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย
   เออ ลืมไป นี่มันปั่นกลางแดดตั้ง 3 ชม นี่หว่า
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #22 on: October 27, 2009, 01:48:09 pm »
26 ตค 52
   พี่น้องๆ
นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ประกาศนโยบายอนุรักษ์โลก คนนี้เขาไม่ได้ทำแค่ปากพูดแน่ๆ เพราะเขาขุดถนนทิ้ง ขุดคลองโบราณที่เคยถูกญี่ปุ่นถมทิ้งตอนสงครามโลกเฉยเลย ยอมโดนด่าอยู่หลายปี จนมาวันนี้เมืองสดใส เกาหลีใต้พัฒนาไปเยอะมาก
   นโยบายล่าสุดของเขาคือการสร้างเส้นทางจักรยานเครือข่ายทั่วประเทศภายใน 5 ปี !!!
   เอาล่ะมึง เล่นของแรงเสียแล้ว รู้สึกสะใจเหลือเกินกับไอเดียแรง แบบนี้ บอกตามตรงว่าอยากยกประเทศไทยให้เขาช่วยมาบริหารจริงๆ การเมืองไทยเราพิการอย่างนี้ ไม่รู้อีกกี่ปีถึงจะลุกขึ้นยืนได้ เรื่องการพัฒนาไม่ต้องพูดถึง เต่ายังเดินเร็วกว่าเลย
   คอยจับตามองกันต่อไปครับ ผมเชื่อว่าเขาเอาจริงแน่ เพราะทุกวันนี้เส้นทางจักรยานเลียบแม่น้ำฮันที่มีทั้งแบบ On Road และ Off Road นั้นช่างสวยงามเหลือเกิน
   ผมตามหาเบาะนั่งแบบนุ่มสบายอยู่นาน ใครๆ ก็แนะนำ Brooks แต่ผมยังข้องใจบางอย่าง เลยโพสข้อความสอบถามในเวปจักรยาน มีคนมาตอบกันเยอะ คุณเจษฎาส่งลิงค์อันหนึ่งมาให้อ่าน ละเอียดยิบดีมาก อ่านแล้วสรุปได้ทันทีเลยครับว่า เบาะ Brooks มันไม่เหมาะกับผมเลยแม้แต่น้อย มันดีตรงนุ่มก็จริง แต่ออกจะเปราะเพราะโดนน้ำ โดดแดด ก็ต้องคอยห่อหุ้ม คอยเช็ด ใช้แบบผมคือไม่ดูแล ผลคือหนังแตกแห้ง หยาบกระด้าง อ้าว ฉิบหายละสิ แพงก็แพง หนักก็หนัก ยังเสือกเปราะเสียอีก
   คนชอบเขาก็ชอบกันนะ ก็ต้องปล่อยเขาไปล่ะครับ ไลฟ์สไตล์แต่ละคนมันต่างกัน ผมใช้ของแบบลุยๆ คือต้องเน้นทนทานไว้ก่อน เบาะบ้าอะไรวะ โดนฝนก็ต้องห่อผ้า เช็ดแล้วก็ต้องมีไขมันทาเคลือบ และไอ้ที่ประหลาดสุดคือมีการสีตกอีกด้วย ฮ่าๆ
   กลายเป็นต้องมองหาของยี่ห้ออื่นต่อไป
   วันนี้เอาจักรยานออกปั่นไปได้ราว 70 กม ปั่นกลางแดดนี่เหนื่อยอ่อนจริงๆ ผมปั่นไปดูจุดที่ผมจะทำการตั้งแคมป์ครับ ดูลาดเลา ดูทำเลแล้วรู้สึกว่าพอไปได้ แต่ถ้าเจอฝนเต็มๆ ทั้งคืนก็แย่หน่อย เพราะไม่มีที่หลบฝน สถานที่ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ตามสไตล์ของแคมปิ้งเต็มรูปแบบ
   ผมต้องเตรียมน้ำดื่ม อาหาร ไปเอง ย่านนั้นไม่มีอะไรขาย แต่ถ้าแวะซื้อระหว่างทางก็พอไหว ก็ต้องดูว่าจะพักอยู่กันนานแค่ไหนล่ะครับ เตรียมอาหารไปให้เพียงพอกับความต้องการก็ใช้ได้ จะทำเองก็ได้ จะก่อไฟก็ยังไหว แต่ทริปแรกผมจะยังไม่ก่อไฟทำอาหาร เอาเวลามาดื่มด่ำกับบรรยากาศจะดีกว่า เพราะมันสุดยอดเหลือเกิน
   ท่องเที่ยวสไตล์ผมจะไม่ทิ้งขยะแม้แต่ชิ้นเดียว จะเก็บกลับมาให้หมดเกลี้ยง ขนสิ่งที่เรานำไปกินออกมาทิ้งข้างนอกให้หมด จุดนี้เองทำให้ผมกังวลกับการก่อไฟ เพราะมันจะเหลือกองเถ้าถ่านอยู่ เว้นแต่ว่าจะใช้เตาแก๊ส
   ทริปแรกขอไปคนเดียวก่อนครับ ยังไม่อยากพาใครไปลำบาก อีกอย่างคือกลัวเป็นนักท่องเที่ยวคนละสไตล์ เช่นดันไปเจอนักดื่ม นักสูบบุหรี่เข้า แบบนี้เซ็งสุดยอดเลย
   จะว่าไปก็มีอันตรายอยู่บ้างแหละครับ แล้วแต่มุมมองของคน ส่วนตัวผมมองแต่แง่ดี คือผมสนุกกับชีวิตในรูปแบบความเรียบง่าย ไม่ต้องใช้เงินสิ้นเปลืองมากนัก และเป็นการซ้อมแคมปิ้งของผมไปในตัว
   ขากลับบ้านผมใช้ทางลัด เป็นถนนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เป็นทางขรุขระ ผมใช้ยางสลิคก็ทำใจไว้แล้วว่าไปลำบาก แต่ที่เจอมันเหนือความคาดหมาย เพราะเป็นทางลูกรังผสมโคลนเลน แถมด้วยน้ำท่วมผิวถนนจนมิด เห็นแต่ต้นหญ้าข้างทางที่เป็นตัวกำหนดขอบเขต
   ช่วงแรกก็โอเคครับ จำเป็นต้องลุย กลัวจะกลับมารับลูกไม่ทัน โคลนสีส้มฉาบเคลือบวงล้อและยาง ปั่นไปได้สักพักตกร่องลึกจนเกือบล้ม ล้อหลังก็ฟรีจนทรงตัวลำบากมาก เลยยืนบาลานซ์รถกดแฮนด์ให้แน่น และทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหลังพร้อมๆ กัน เป็นท่าปั่นที่ทุลักทุเลมาก
   บางแอ่งลึกจนน้ำท่วมถึงกระโหลก โคลนอุ่นๆ ซึมเข้ารองเท้าจนรู้สึกเหนียว แต่ก็ต้องปั่นต่อไป ไม่งั้นล้ม
   ลุยประมาณ 300 เมตร พ้นออกมาก็รีบนำรถหย่อนลงแหล่งน้ำข้างทางเพื่อทำการล้างล้อ ใจอยากล้างเบรกด้วย แต่หากหย่อนลึกลงกว่านั้น กลัวกระโหลกจะเสียหาย
   จับรถเขย่าขึ้นลงพร้อมกับหมุนวงล้อไปด้วย ขโยกเขยกอยู่สักพัก จนโคลนสีส้มที่เคลือบไว้หลุดออกไป ผมถึงออกปั่นต่ออย่างรวดเร็ว ช่วงนี้น้ำดื่มผมหมดแล้ว เลยหยิบเอาลูกอมของ Fox มาอม
   คนละ Fox กับของจักรยานล่ะ ลูกอมของ Fox มีชื่อเสียงมานาน ลักษณะเด่นคือเม็ดเหลี่ยมใส มีหลายรสให้เลือก ทั้งผลไม้ และมิ้นท์
   ถึงบ้านก็รีบอาบน้ำ อาบทั้งชุดจักรยานเลยล่ะ เพราะจะซักกางเกงที่ขามันเป็นสีส้มไปด้วยในตัว 
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #23 on: October 28, 2009, 01:23:28 pm »
27 ตค 52
   รีบตื่นขึ้นมาล้างรถโดยด่วน แต่เป็นการล้างแบบลวกๆ แค่ให้มันพอหายเลอะ เนื่องจากครึ่งล่างของรถกลายเป็นสีส้มจากการลุยทางลูกรังผสมโคลน บอกตามตรงว่าเกิดมาผมไม่เคยเจออะไรที่เลอะเละแบบนี้มาก่อนเลย มองทาง มองร่องก็ไม่เห็น เพราะน้ำท่วมผิวถนนเต็มไปหมด ไม่รู้ตรงไหนลึก หรือตรงไหนดินร่วน บางช่วงตกหล่มน้ำก็ท่วมถึงกระโหลก ขาจานฉาบโคลนลูกรังสีส้มจนไม่เห็นผิวโลหะ ที่น่าเวทนาที่สุดคือรองเท้าครับ จากเดิมสีดำล้วน มันกลายเป็นสีส้ม
   ตอนเช้าผมหิ้วรองเท้ามาล้าง ภรรยาเห็นนึกว่าผมซื้อคู่ใหม่มา กำลังจะแซวว่าเล่นสีซะหวาน ที่ไหนได้ กลายเป็นคนละเรื่อง ฉีดน้ำล้างออกง่ายดีครับ ผลจากการที่ผมเอายาเคลือบเงารถยนต์มาเช็ดถูเมื่อหลายวันก่อน ทำให้ลูบโคลนเลนออกได้ง่ายมาก ผมว่าแค่เอาน้ำฉีดโคลนก็ออกเกือบหมดแล้วล่ะ จะมีติดค้างก็แค่ซอกมุม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
   ล้างรถแล้วก็ปั่นออกไปซื้อโจ้กให้ลูกครับ เขาบอกอยากกิน ก็ตามใจหน่อย จังหวะกดเบรกรู้สึกเหมือนมีเศษกรวดกดวงล้อ ไม่ชอบเสียงแบบนี้เลย ถึงบ้านก็เอาเศษไม้มาแคะกรวดเล็กๆ ที่แทรกอยู่ในร่องผ้าเบรกออก รู้สึกดีขึ้นหน่อย แต่ยังไม่หายสนิท สงสัยต้องถอดออกมาขัดกระดาษทรายเสียแล้ว อ้อ ยางเบรกนี้ติดรถมาตั้งแต่ปี 94 ครับ เป็นของ Shimano XTR เล่นของแพงเสียด้วย แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะยังคงเบรกดีอยู่จนถึงทุกวันนี้ รู้สึกคุ้มเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ไม่เคยถอดมาขัดหน้าผ้าเบรกเลยสักครั้งเดียว กดยางดูมันก็แข็งๆ เหมือนอาการยางเสื่อม แต่ทำไงได้ ตราบใดยังเบรกดีอยู่ ผมไม่เปลี่ยนให้เสียเงินหรอก ผ้าเบรกสำหรับ Cantilever ดีๆ ยิ่งหายากๆ อยู่
   ปั่นไปซื้อโจ๊กแค่ 10 กว่า กม รู้สึกเมื่อยขาครับ วันนี้เลยขอพักร่างกายหน่อย  เพราะรู้สึกเพลียๆ เมื่อวานปั่นโหดจัด เพราะไม่ได้เอา Pannier ติดไป ทำให้รถมันโล่ง เร่งเร็วได้ถึง 50 แบบไม่ยาก แต่ถ้าทวนลมก็เหลือ 20 กว่าๆ อย่าไปฝืนธรรมชาติ เราเอาชนะฟ้าดินไม่ได้หรอก ไอ้พวกปั่นขึ้นเขา ปีนเขา ที่พูดว่าพิชิตโน่นนี่น่ะ เราแค่คิดไปเองคนเดียวต่างหาก
   ไม่ได้ปั่นเร็วๆ กลางแดดจัดมานาน จำได้ว่ารู้สึกปวดขมับ เอามือจับมันเต้น ตุบๆ ๆ เป็นจังหวะเลย ผมคาดเดาว่าน่าจะเกิดจากอากาศร้อนมากนะ และน้ำดื่มผมหมดอีกด้วย ทางแก้คือนั่งพักซะ แต่ผมยังดึงดันที่จะปั่นต่อ กลัวจะวูบเหมือนที่เคยอ่านเจอในเวปเหมือนกัน เลยหยิบลูกอมหวานๆ มาอม คิดไปเองว่ามันคงจะช่วยได้ ไม่รู้ผิดหรือถูก แต่กลับมาถึงบ้านรีบหยิบเอาแตงโมเย็นๆ เข้าปากไปหลายชิ้นเลย
   กลางวันวันนี้ทานส้มตำ กับไก่ทอดลอกหนังออก กินแกล้มกับผักสด รู้สึกดีที่เอาของมีประโยชน์มาใส่ในร่างกายบ้าง เพราะปั่นจักรยานในเมืองมีแต่สูดดมควันพิษ อืม แล้วเราจะเลี่ยงอย่างไรกันดีล่ะครับนี่ อิจฉาคนต่างจังหวัดก็ตรงเรื่องได้สูดแต่อากาศบริสุทธิ์นี่แหละครับ คนเมืองอย่างผมหมดสิทธิ์
   ด้วยเหตุนี้ไง ผมถึงดิ้นรนหาที่ออกตั้งแคมป์ อย่างน้อยก็ได้สูดอากาสบริสุทธิ์กับเขาบ้าง สักนิดหนึ่งก็ยังดี

28 ตค 52
   เซ็งจริงๆ รองเท้าผมเต็มไปด้วยโคลนลูกรัง แช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืนยังซักไม่ออก เช้านี้เลยเปลี่ยนน้ำใหม่ แช่อีกรอบ เติมบรีส เอกเซล เข้าไปช่วยอีกแรง ถ้ายังซักไม่ออกอีกคงแย่แน่ๆ จากรองเท้าสีดำ กลายเป็นมีลายพรางส้มแถม
   ดูสารคดีสุขภาพจากญี่ปุ่น เขาสอนวิธีการแปรงฟันและการจับแปรง ผมลองทำตามแล้วรู้สึกไม่ถนัด เลยนำทฤษฎีของเขามาประยุกต์ เกิดเป็นการแปรงฟันแบบใหม่ (ของผมเองคนเดียว) ทำแล้วรู้สึกดีขึ้นครับ (เพราะออกแรงน้อยลง เหงือกพังช้าลง)
   อ้อ ตอนแปรงฟันน่ะ เราใช้ยาสีฟันเพียงแค่นิดเดียวก็เพียงพอแล้วนะครับ บีบออกมาแค่สัก 1 ซม ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องบีบออกมาให้มันเต็มแนวขนแปรงเหมือนในโฆษณา พวกนั้นเขาชักจูงให้เราทำตาม ของจะได้หมดเร็วๆ ไง
   การรักษาสุขภาพฟันถือเป็นด่านแรกของการดูแลร่างกายเลยนะครับ สำคัญมากๆ มันเชื่อมโยงกันทั้งร่างกาย อย่างเส้นเลือดบริเวณเหงือกก็จะส่งผลต่อหัวใจ หากเป็นโรคเหงือก ปล่อยทิ้งไว้นานเข้า ก็มักจะเป็นโรคหัวใจตามไปด้วย
   กลางวันโทรคุยกับเพื่อนเก่า คุยไปคุยมาแทนที่เราจะชักจูงเขามาขี่จักรยาน กลายเป็นโดนอบรม ทำนองว่าปั่นจักรยานน่ะอันตราย รถจะมาชนเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เกิดเป็นไรไปจะทำอย่างไร น่าจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ฯลฯ
   โดนชุดใหญ่เลย ฮ่าๆ ก็ได้แต่ฟังน่ะครับ เก็บแต่ประเด็นที่เขาเป็นห่วงเรามาคิด นอกนั้นปล่อยผ่านทะลุหูอีกข้างไป
   แต่คงไม่ชวนเขามาปั่นอีกแล้วล่ะ มองหาเป้าหมายต่อไปดีกว่า
   เมื่อคืนฝนตกหนัก เอ๊ะ เห็นหายตกไปสักพัก ผมคิดว่าจะหมดฝนแล้ว หรือมันมีมรสุมอะไรมาอีกหรือ ผมไม่ได้ติดตามข่าว
   เอาล่ะ จะอย่างไรก็แล้วแต่ ผมคุ้นเคยกับการอยู่กับฝนแล้ว แค่เราเตรียมพร้อมยอมรับว่าจะเปียกหรือไม่เปียก หากเปียกก็เตรียมชุดสำรองไว้ หากจะไม่เปียกก็เตรียมชุดกันฝนไว้ ก็เท่านั้น
   แต่ปั่นกลางฝน หรือแคมป์กลางฝนนี่ทุกลักทุเลและไม่ค่อยจะสนุกเท่าไหร่ คนทั่วไปเขาจะพยายามเลี่ยงกัน แต่ผมมักจะมองหาข้อดีในช่วงวิกฤต แม้มันจะมองไม่ค่อยออกก็ตาม
   ผมอยากได้ไฟฉาย + ไฟหน้าจักรยาน ขอเป็นอันเดียวกันนี่แหละ เน้นเล็ก เบา ไฟหน้าอันเก่าของผมพังไปนานแล้ว ไม่ค่อยได้ใช้ ลืมใส่แบตฯทิ้งไว้นาน เลยมีของเหลวไหลเยิ้มออกมา คงเป็นสารพิษแน่ๆ น่าเสียดาย ยังใช้งานได้ดีอยู่เลย ไม่เคยตกหล่นสักครั้ง
   อยากได้อีกอย่างคือตะเกียงครับ เน้นเล็ก เบา เหมือนเดิม เพราะจะใช้ตอนไปแคมป์กับจักรยาน คงจะได้เปิดกันนาน ทั้งช่วงทำอาหาร นั่งเล่น กว่าจะปิดก็คงตอนเข้านอน ดีที่ผมนอนเร็ว
   อีกอย่างที่อยากได้ไว้ใช้ แต่คงมีโอกาสใช้น้อยคือเตาครับ มีไว้ปรุงอาหาร แต่ถ้าแบกเตาไปด้วย รับรองว่าจะเอิกเกริกกันแล้ว เพราะต้องมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องตามมาอีกขบวนใหญ่ เริ่มจากแก๊สกระป๋องสำรอง ชุดหม้อ จาน ชาม น้ำยาล้างจาน ช้อน ส้อม ฯลฯ หึหึ เอาไว้ก่อนดีกว่าเน๊อะ ไว้เป็นแบบ Car Camping แล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้เราเป็น Bicycle Camping กันอยู่ เน้นเบาเป็นหลัก เพียงแค่ซื้ออาหารที่เก็บง่าย กินง่าย ปรุงง่าย ไม่เลอะเทอะ รสชาติดี น่าจะเพียงพอกับการท่องเที่ยวช่วงสั้นๆ แล้ว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #24 on: October 30, 2009, 02:16:42 pm »
29 ตค 52
   เย้ๆ รองเท้าซักออกหมดแล้ว ดีใจมาก แต่ถึงอย่างไรก็ยังอยากได้คู่ใหม่อยู่ดี รู้สึกว่าปั่นนานๆ แล้วตรงกลางฝ่าเท้ามันคับเกินไป แต่ถ้าปั่นใกล้ๆ หรือไม่เกิน 100 กม หรือจอดพักบ่อยๆ ผมพอได้
   ผมลงชื่อสมัครไปร่วมงานของ UN ที่จะจัดวันเสาร์นี้ ดูเหมือนเป็นงานปั่นแบบเล่นๆ เพราะแค่ 8 โมง ก็เสร็จสิ้นงานกันแล้ว คุยกับเพื่อนถึงความแปลกใจว่าทำไมคนมาลงชื่อร่วมงานกันเยอะ
   “เขาแจกเสื้อไง แถมยังแจกเหรียญด้วย”
   อ้อ เป็นเช่นนี้เอง ชอบของแจกฟรีกัน ฮ่าๆ แต่ก็เห็นจะจริงนะ ชอบกันจังเลย แปลกอย่างเดียวคือเอาไปแล้วมักจะไม่ค่อยได้ใส่กัน ผมก็เป็นครับ ไม่ค่อยได้ใส่หรอก ใส่ไม่ค่อยสบาย ช่วงหลังเลยไม่รับ คือไม่ไปรับเลย แต่ลงชื่อสมัครไว้นะ สุดท้ายเจ้าหน้าที่เดินเอาเสื้อมาให้เองกับมือ (ถ้าเหลือ)
   คือถ้าเราไม่ได้ใส่ แล้วจะไปรับเสื้อเขามาทำไมล่ะครับ ผมก็เลยปล่อยให้คนอยากได้เขาไปรับกัน จนเพื่อนๆ ถามผมกันว่า
“อ้าว ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนหรอกหรือ ถึงไม่มีเสื้อ”
แต่เชื่อไหมครับ มีอีกหลายคน มีเยอะมากๆ ที่ได้เสื้อแล้วกลับไม่สวม คนไหนใส่เป้ ใส่กระเป๋าก็ยังโอเคนะ แต่ไอ้คนที่เอาเสื้อแจกมาเหน็บด้านหลังเสื้อจักรยานนี่สิ คือมันเห็นๆ อยู่ไงว่ามีเสื้อ แต่แปลกใจ ทำไมไม่ใส่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“เสื้อไม่สวย เลยไม่ใส่”
“ใส่แล้วมันทับเสื้อทีมเรา”
“ใส่แล้วร้อน”
“ใส่แล้วอึดอัด”
จะสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคุณมาร่วมงานของเขา ก็ต้องให้เกียรติเขาครับ แถมยังเป็นเสื้อแจกฟรี เขาแค่ต้องการให้ภาพมันออกมาเป็นเหมือนที่มเดียวกัน ไปด้วยกัน ใส่เสื้อเหมือนกัน ลองนึกภาพคนอื่นเป็นเสื้อขาวกันหมด มีคุณเป็นเสื้อแดงโดดออกมาคนเดียว
งานกลุ่มนะครับ ตอนเด็กนักเรียนคงเคยทำงานกลุ่มกันมา มันคือการรวมกันทำ ผิดถูกร่วมกัน
อย่าเอาแค่ตัวเองสะดวกสบายเลยครับ ถ้าแบบนั้นก็ไปปั่นกันเองแถวบ้าน ไปกับทีมของตัวเอง ฯลฯ เข้าสังคมแถมไปร่วมทริปที่เขาจัด การสวมเสื้อที่เจ้าภาพจัดให้ คือวิธีการหนึ่งที่เราแสดงความขอบคุณเขาโดยตรงเลยล่ะครับ
งานของ UN นี้เขาจะให้เราไปปั่นกันตรงไหนก็ยังไม่รู้เลย ในเอกสารที่ออกมาก็ไม่เห็นบอกอะไร แต่มีคนลงชื่อไปกันเพียบ อย่างที่บอก อ้อ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ เหตุผลง่ายๆ อย่างเดียวก็คือ เขาปั่นกันเช้า และพรรคพวกไปกันเยอะ แค่นี้เองแหละครับ
วันนี้ไม่ได้ออกปั่นอีกแล้ว อะไรกัน สัปดาห์นี้ผมปั่นแค่วันจันทร์วันเดียว โหดแค่วันเดียว นิดเดียวเองหรือนี่ พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ปั่นอีก เพราะนัดช่างตกแต่งภายในมาคุย แต่วันถัดไปได้ปั่นแน่ วันเสาร์ไง งานของ UN แต่คงปั่นแค่ขำขำเสียมากกว่า ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาคันไหนไปดี ใจอยากพาลูกไปปั่นด้วย แต่ยังหารถที่เหมาะสมกับตัวเขายังไม่ได้เลย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #25 on: October 31, 2009, 02:50:00 pm »
30 ตค 52
   เอากระเป๋าใส่จักรยานของรถพับ KHS มาลองใส่รถดู ตั้งแต่ซื้อมาเกือบปี ไม่เคยลองเลย นี่ใกล้จะได้ใช้บริการของมันแล้ว เลยขอซ้อมสักหน่อย
   หึหึ เอาแล้ว ยัดไม่ลงครับ ลองพลิก ลองหมุนต่างๆ นานา เลยได้ข้อสรุปว่า มันอาจออกแบบมาสำหรับรุ่น T3 ก็เป็นได้ เพราะรถผมมีทั้งแร็คหน้าหลังที่เป็นตัวเกะกะชิ้นใหญ่ รองลงมาก็คือขากระติกน้ำ ไอ้รถคันนี้ของผมมันใส่กระติกได้ 2 ใบ ก็เลยยิ่งเพิ่มความเกะกะขึ้นเป็นทวีคูณ
   อืม ใส่ไม่ได้ แล้วทำไงดีล่ะ จะเดินทางอย่างไรกันดีล่ะนี่ คงต้องหาสายการบินที่เขารับเช็คอินแบบไม่ต้องแพ็ครถเสียแล้ว คงต้องเป็นสายการบินมีชื่อเสียงหน่อย แน่นอน ค่าตั๋วแพงกว่าพวก Low Cost เยอะ
   มีอีกทาง คือหากระเป๋าแบบ Hard Case มาใส่มันซะ แต่นั่นมันเหมาะสำหรับลงเครื่องแล้วใส่แท๊กซี่ มันคนละสไตล์กับผม ผมชอบแบบลงเครื่องแล้วกางจักรยานแล้วลุยได้เลย
   เออ พบกับความประหลาดที่เวป Trekkingthai ผมสมัครสมาชิกไว้นาน เข้าไปโพสบ้างเป็นระยะ ล่าสุดมีคนมาโพสถึงถนนสายหนึ่งที่นักจักรยานทัวริ่งทั่วโลกเขาชอบ และมีลงท้ายว่าสอบถามรายละเอียดได้ตามเบอร์โทร ผมเลยโพสถามเขาไปตรงๆ ว่า “ขายทัวร์หรือครับ ถ้าขายก็ขอรายละเอียดด้วย สนใจ อะไรทำนองนี้ และตามด้วยวิเคราะห์ภาพที่เขาโพส คือถนนมันมีแต่หินก้อนใหญ่ๆ บางภาพก็ดูแห้งแล้ง (หรืออาจหนาว) ไม่มีต้นไม้สักต้น ผมโพสว่าถนนอันตราย ร้อนจัด (หรืออาจหนาวจัด) ควรใช้ยางแบบ Off Road อะไรทำนองนี้ ไม่น่าเชื่อว่าผมอาจไปปีนเกลียวขาใหญ่ของเวปเขาเข้า ล่าสุดผมโดนแบน โดนถอนสมาชิกเวปไปเลย ฮ่าๆ
   ไม่ได้โกรธอะไรหรอกครับ แค่แปลกใจ โกรธผมหรือที่ถามตรงไปหน่อย หากคิดบวกก็น่าจะมาลงโปรแกรมทั่วร์ไปเลย ให้คนที่สนใจอ่าน จะยิ่งกระตุ้นต่อมอยาก
   บล็อคผมไว้ ก็สมัครใหม่ก็ได้ ฮ่าๆ ใช้ชื่อเดิมนี่แหละครับ ไม่ต้องทำตัวหลบซ่อน ที่สมัครน่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เพราะมันสะดวกตอนตอบกระทู้ ไม่ต้องมาคอยพิพม์ลงชื่อ ลงอีเมลล์ และใส่ตัวเลข ฯลฯ ผมต้องการแค่ความสะดวกอย่างเดียวนี่แหละครับ
   บ่ายมีช่างทำตกแต่งภายในบ้านมานั่งคุย แลกเปลี่ยนไอเดียกันอยู่นาน ผมต้องการให้เขาเข้าใจรูปแบบงานของผม ต้องการห้องที่ไม่ธรรมดา ชอบแบบเรียบง่าย เน้นที่วัสดุที่แปลกใหม่ แต่ยังคงคอนเสปเดิมคือทำของเรียบง่ายให้ดูดี และแพงอย่างมีเหตุผล
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #26 on: November 03, 2009, 03:03:45 pm »
31 ตค 52
   วันนี้ไปงานของ UN ตื่น 0430 ออกจากบ้านตี 5 ปั่นแบบมืดๆ เลยไปช้าๆ ไฟหน้าเป็นแค่ LED ดวงเล็กจิ๋วเดียว แต่ไฟท้ายนี่สิ เจิดจ้าเลย
   พอเข้าถนนใหญ่ก็เริ่มเจอชาวจักรยาน มีครบทุกรสเลย เสือหมอบ MTB และ Mini เขาแซงผมไปกันหมดแหละครับ ผมปั่นมาแบบช้าๆ ความเร็วสัก 20 เห็นจะได้
   มองไปเห็นรถคันหน้าเป็น Mini คนขี่เขาสะพายเป้โปรดระวังจักรยานที่งาน Car Free Day เขาแจก แต่พี่คนนี้เขาสะพายแบบกลับหัวครับ มันเป็นเป้แบบเชือกรูดไง เจ้าของคงรีบ หยิบฉวยได้ก็สวมแขนซะ ผมเห็นเข้าเลยเร่งความเร็วไปบอกเขา
   ปั่นเช้ามืดแบบนี้ชอบมากเลย ตลอดข้างทางเห็นร้านขายเหล้า บางร้านยังไม่ปิดก็มี คนกินก็คือเขายังไม่ได้นอน ต่างจากผมที่นอนเต็มอิ่ม และตอนนี้กำลังออกกำลังกาย
   เห็นคนกวาดถนนกำลังกวาดขยะริมถนน ผมแปลกใจว่าทำไมมันถึงมีขยะได้มากเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เป็นถนนใหญ่ หรือว่าตอนกลางคืนจะมีแผงลอยมาตั้งขาย และทำความเลอะเทอะทิ้งไว้
   ผมว่าชาวจักรยานอย่างเราควรขอบคุณคนกวาดถนนอย่างมากครับ เพราะช่วยเก็บกวาดผิวถนนเสียจนเรียบร้อย มีน้ำท่วมขังก็ช่วยกวาด แต่ที่ผมรู้สึกขอบคุณมากที่สุดก็คือเขาช่วยเก็บเศษแก้ว เศษขวดแตกที่พวกมักง่าย พวกขี้เมา เขาทิ้งไว้ข้างทาง ลองนึกดูครับ หากไม่มีเขาช่วยเก็บเศษแก้ว เราจะปั่นจักรยานกันได้นานสักเพียงใด
   อีกพักเดียวก็มาถึงถนนราชดำเนิน โอ้โห นักวิ่งเต็มถนนเลย ชาวจักรยานก็ทะยอยกันมา ผมไม่รู้จุดนัดพบ เลยปั่นตามๆ รถคันหน้าเขาไปเรื่อยๆ
   มาถึงก็รีบไปลงชื่อรับเสื้อ ผมไม่แน่ใจเจตนาในการแจกเสื้อของเขาครับ คือต้องการให้เราสวมขณะปั่น หรือต้องการให้เราแค่เก็บเป็นที่ระลึก หรือทั้งสองอย่าง โดยส่วนตัวผมพอได้รับแจกก็รีบสวมใส่ทันที
   เจอเรื่องแปลก มีพี่คนหนึ่ง มาถึงงานไม่พบชื่อตัวเอง แต่โวยวายว่าลงทะเบียนแล้ว เจ้าหน้าที่บอกไม่มีชื่อก็คือไม่มีเสื้อ แต่เขาไม่ยอมรับ โวยวายเสียงดัง ยืนยันจะขอเสื้อให้ได้ ผมอยู่ใกล้ๆ พอดี ตอนนั้นยังไม่ได้สวม กะจะยกของตัวเองให้ จะได้เงียบๆ กันเสียที รู้สึกอายคนอื่นเขาเหลือเกินที่มาทะเลาะกันเพราะเสื้อยืดแค่ตัวเดียว
   ราว 0715 ก็ปล่อยขบวนจักรยานครับ ปั่นไปสัก 10 กม วนกลับมาที่เดิม ระหว่างทางผมเห็นคุณลุงท่านหนึ่งนอนกับพื้น มีคนช่วยปฐมพยาบาลเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นลมล้ม หรือว่าค่อยๆ นอนลงเอง ผมหวังให้เป็นอย่างหลัง
   เข้าเส้นชัยพร้อมรับแจกเหรียญที่ระลึกก็จบงานครับ ปิดงานราว 0800 เคลียร์ได้เร็วมาก แดดเริ่มแรงมองหาใครรู้จักก็ไม่พบ เจอที่หน่อง Simpleway ที่มากับ Brompton คันใหม่เอี่ยม เลยคุยกันสักพักสั้นๆ แล้วก็แยกย้ายกัน
   อ้อ เราสามารถนำป้ายเบอร์ที่ติดเสื้อไปรับแจกชุดอาหารเช้าได้นะครับ คนเยอะหน่อยก็ต่อคิวกันไป มีการมาแทรกแซงคิวกันตามสไตล์ไทยๆ อย่าไปคิดอะไรมาก บ้านเรายังไม่พัฒนาก็เป็นแบบนี้แหละ
   ผมปั่นกลับบ้านโดยใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ปั่นไปทาง เทเวศ บางลำพู ท่าพระอาทิตย์ สวนสันติชัยปราการ ทะลุเข้าธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ท่าเตียน ปากคลองตลาด ข้ามสะพานพุทธเข้าฝั่งธน ปั่นอ้อมไปทางถนนเจริญนคร แล้วค่อยวกเข้าบ้านที่พระราม 2 รวมระยะทางตั้งแต่ออกจากบ้านราว 40 กม
   ตอนบ่ายนี้แดดแรงจัดเป็นบ้า ต่างจากตอนเช้าที่เย็นสบายดีเหลือเกิน ขากลับผมแสบตาอย่างมาก เพราะดันไปทาครีมกันแดดแบบรีบๆ คงจะทาเยอะเกินไป หรือไม่ก็ใกล้รอบดวงตา มันเลยแสบๆ รู้สึกอยากหลับตา แต่ปั่นจักรยานแล้วหลับตาไม่ได้ ฝืนๆ ทนๆ ไปจนถึงบ้าน ถึงได้ล้างออก ค่อยสบายหน่อย
   วันนี้ปั่นไม่เยอะเท่าไหร่ แต่รู้สึกเพลีย สงสัยจะตื่นเช้า และไม่ค่อยได้กินอะไร กลับมาบ้านเจอหมูย่างข้าวเหนียวเหลืออยู่ เลยจัดการซะ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride