Author Topic: ตค 52 31 UN  (Read 19539 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
ตค 52 31 UN
« on: October 01, 2009, 03:07:48 pm »
1 ตค 52
   เมื่อคนฝนตกทั้งคืน ผมอยู่กรุงเทพฯ ฝนเลยแค่ปรอยๆ แต่ชาวบ้านทางภาคอีสาน ภาคเหนือเขาหนักกว่าเยอะ ต่างประเทศยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ มันก่อตัวที่ฟิลิปปิ้นส์ ไล่มาลงที่เวียดนาม พอถึงลาวก็เบาลงนิดหน่อย มาเข้าไทยก็เบาลงไปอีก นี่ขนาดเบาแล้วนะ ผมสงสารชาวบ้านที่เขาโดนพายุฝนชมัด
   ผมจับพลัดจับผลูมาออกแบบบ้าน มาอย่างงงๆ ผมคุ้นเคยแต่กับพวกรถยนต์มาตลอด ปีนี้มีงานบ้านด้วย สนุกดีเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้เรียนเรื่องบ้านมาแม้แต่น้อย ไม่รู้เรื่องฐานราก เรื่องเสาเข็ม หรือเรื่องวัสดุอุปกรณ์ใดๆ เลย เขียนแบบบ้านก็ไม่เป็น เรื่องระบบไฟระบบน้ำก็ไม่รู้เรื่อง
   ผมก็บอกคนที่มาจ้างผมก่อนแล้วนะว่าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้ ผมเป็นแต่ดีไซน์ เขาว่าโอเค เออ เอากับเขาสิวะนั่น
   แต่นี้ไม่ใช่คนแรกที่มาหาผมเรื่องบ้าน หลายปีก่อนผมออกแบบบ้านไว้หลังหนึ่ง เจ้าของงบถึง อยากได้บ้านมันส์ๆ ผมเลยจัดให้ รับรองมันหยดติ๋ง
   ผมเป็นคนบ้านะ คนไหนมาหาผม มาคุยกับผม ก็ต้องมีความบ้าอยู่บ้าง ไม่ชอบของธรรมดา ไม่ชอบของพื้นๆ เออเชื่อไหมครับว่าบางคนมันบ้ากว่าผมอีก แบบชนิดที่ว่าเอ คนนี้มันบ้าจริงหรือบ้าเล่นวะนั่น
   บ้ามาก็บ้าไป มักจะจัดให้แบบชุดกลางๆ เล็กๆ เพราะดูไม่โหดจนเกินไปนัก ยังพอใช้งานได้จริงด้วย มีความมันส์อยู่ในคอนเสป
   ไลฟ์สไตล์ของผมและนักออกแบบท่านอื่นๆ ล้วนแตกต่างกันไปคนละทิศทาง คนส่วนใหญ่มักจะชอบอ่านเกี่ยวกับงานออกแบบ  ดูของดีไซน์แปลกใหม่ แต่บ้านผมไม่มีหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบใดๆ เลยสักเล่ม ผมไม่อ่านหนังสือดีไซน์ ไม่ดูงานคนอื่น ผมคิดและทำของผมเองคนเดียว แต่ก็ยอมรับนะครับว่าบางครั้งเอางานบางชิ้นเก่าๆ มาดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่เข้าท่าเอาเสียเล้ยย ฮ่าๆ คือมันบ้ามากเกินไปน่ะครับ ออกแนวติงต๊องก็มี คนอย่างผมมันไม่ได้สมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมดหรอกครับ แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่หยิบเอาไอเดียเก่าๆ ออกมาดู แล้วมันดันประยุกต์เข้ากับงานชิ้นอื่นได้นี่สิ มันแจ๋วตรงนี้
   ความบ้าของผมมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิดจากการใช้ชีวิตอิสระ ตอนหนุ่มๆ ก็เอารถยนต์เก่าๆ ของที่บ้านมาใช้ขับไปโรงเรียนบ้าง พอใช้นานเข้าก็ยึดเป็นของเราเองซะ มันเป็นรถสีขาว เลยเอาสติกเกอร์สีดำมาคาดให้เป็นลายม้าลาย ไปไหนมีแต่คนมอง รถก็ไม่ติดฟิล์ม เห็นหน้าตาคนขับชัดเจน นี่แค่ตอนอายุ 18 นะครับ
   หลังจากนั้นมาก็ได้ใจ ลอกสติกเกอร์เก่าออก ติดใหม่ เป็นลวดลายใหม่ เป็นลายแสงตะวันมีเมฆหมอกด้วย ผมลอกเลียนแบบลายของรถแข่ง BMW 2002 มา ทำไม่เหมือนเขาหรอก ฝีมือยังไม่ถึง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความอุตสาหะอย่างสูง เพราะประกอบด้วยจุดกลมๆ เล็กๆ หลายร้อยจุด ยุคนั้นยังไมมีคอมพิวเตอร์ ผมใช้ตัดสติกเกอร์ด้วยมือล้วนๆ หึหึ ทำอยู่ราว 3 เดือนถึงออกมาเป็นรูปร่างพอดูได้ แต่เพื่อนบางคนมาเห็นมันบอกน่าเกลียดฉิบเป๋ง เล่นเอาหมดกำลังใจ
   วันนี้ฝนตกปรอยๆ ทั้งวัน ไอ้ฝนปรอยแบบละอองเม็ดละเอียดนี่แหละครับ มันเหมือนฝนแถบสแกนดิเนเวียเลย ที่นั่นฝนจะเป็นเม็ดแบบนี้ ตกไม่มากก็เย็นสบาย แต่ถ้าโดนนานๆ ก็เล่นเอาเปียก เออ ย่านนั้นเขาแปลกอย่างหนึ่งคือไม่มีฟ้าร้อง ฟ้าแล่บ ฟ้าฝ่า หรืออาจจะนานๆ จะมีสักทีก็ได้นะ ผมไม่ได้ไปอยู่นานนัก เลยไม่รู้ลึกๆ
   แต่จะได้แม่นเลยแหละครับว่าไอ้เม็ดฝนแบบนี้แหละที่โดนผิวเราขณะอากาศหนาวๆ แล้วมันจะเหมือนเข็มอันเล็กๆ จิ๋วๆ มาทิ่ม บ้านเราจะใส่เสื้อกันฝนเพราะกันเปียกน้ำ แต่ตอนที่ผมอยู่โน่นผมใส่เสื้อกันฝนเพราะกันเจ็บเสียมากกว่า ลำพังเดินตากฝนยังไม่เท่าไหร่ครับ แต่ถ้าขี่จักรยานลุยฝนนี่สิ หึหึ
   โอ๊ยยย คิดถึง North Cape
« Last Edit: November 03, 2009, 03:05:11 pm by O'Pern »
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #1 on: October 02, 2009, 02:45:34 pm »
2 ตค 52
   เมื่อวานตอนเย็นเอาจักรยานออกขี่เล่น โหห อากาศดีแบบสุดยอดมากๆ มีฝนมาบ้างก็ลุยมันซะ ฝนเม็ดเล็กๆ บรรยากาศคล้ายอยู่เมืองนอก ฝันเอาเอง คิดเอาเอง ปั่นไปก็สูดควันไป สนุกกว่าปกตินิดหน่อย
   อ่านข่าวตอนเช้าเรื่องสะพานรัชโยธินที่ปิดซ่อมไปนาน เปิดได้ 2 วัน ถนนเสียซะแล้ว อ่านแล้วรู้สึกละเหี่ยใจจริงๆ ครับ เขาบอกว่าถนนน่ะทำได้เรียบร้อยดี แต่คนงานเอาน้ำยาเคมีไปล้างเครื่องมือบนสะพาน ทำให้เกิดการกัดกร่อน
   เออ เอากับเขาสิ มันโยนเรื่องให้คนงานว่ะ ถึงแม้จะเป็นคนงานทำจริงๆ ก็เถอะนะ แต่งานแบบนี้หัวหน้าคนงาน ต้องมาแสดงความรับผิดชอบต่างหาก จะให้แมนจริงๆ ก็ต้องเป็นถึงขั้นคนควบคุมการก่อสร้างด้วยซ้ำไป
   ไทยๆ ล่ะนะ เอาง่ายๆ ลวกๆ เข้าว่า ไอ้ไทยเอ๊ย
   เช้านี้ผมเสียฟอร์มอย่างมากเรื่องการขับรถยนต์ มันเป็นการกลับรถในที่แคบ ถนนมี 4 เลน (ไปกลับ รถสวนกันได้) ไม่มีไหล่ทาง การกลับรถในถนนแคบแบบนี้ก็ต้องรอถนนโล่งๆ ก่อน แล้วค่อยหักเลี้ยวแล้วโยกรถสัก 1-2 ครั้ง
   แต่ผมจะใช้วิธีกลับรถแบบดึงเบรกมือครับ ไม่ต้องตกใจ ผมทำไม่บ่อยนักหรกอ แต่มาวันนี้สิ หึหึ
   ถนนโล่งเข้าทางเราเลย ก็เร่งเพิ่มความเร็วส่งมาซะ พอถึงจุดที่เรากะจังหวะไว้ก็ดึงเบรกมือ หักพวงมาลัยควบคุมบาลานซ์ของรถ เติมคันเร่งเพื่อเลี้ยว ที่วันนี้เสียฟอร์มเพราะว่ารถมันหมุนไม่เต็มวง แถมความเร็วที่จะเร่งส่งออกมันก็ลดน้อยลง ผลคือรถกวาดไม่สวย หมุนไม่เต็มวง 180 องศา 
   ช่วงที่ยังขับรถในสนามบ่อยๆ นี้ผมกลับรถแบบนี้ได้แม่นยำมาก แคบกว่านี้ก็ยังทำได้ แต่มาวันนี้ฝีมือหดหายไปเยอะเลย
ผมมีปัญหาเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษแน่ๆ เลย ตอนแรกคิดนิดหน่อย มาระยะหลังนี้มันชักบ่อยขึ้น ยกตัวอย่างเช่นคำว่า OTOP คนทั่วไป หรือกระทั่งสื่อมวลชน อ่านออกเสียงกันว่า โอ ถอบ ผมอ่านว่า โอ ท๊อป / Hollywood คนทั่วไป สื่อมวลชน อ่านออกเสียงว่า ฮอ ลี หวูด ผมอ่าน ฮอ ลี วู๊ด / New York ทั่วไปอ่าน นิว หยอก ผมอ่าน นิว ย๊อค
   ราวๆ นี้ครับ ผมไม่ได้กระแดะอะไรที่จะพยายามสร้างความแตกต่าง ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้วที่ต้องมาทำตัวเด่นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ปัญหามันเกิดเพราะผมต้องสอนภาษาอังกฤษให้ลูกนี่สิ
   เอาล่ะผมเข้าใจว่าต่างคนต่างสไตล์ ต่างถิ่นก็ต่างสำเนียง แต่สำเนียงแบบไหนล่ะที่เราควรสอนเด็ก
   ไม่รู้ล่ะ ผมยึดเอาว่าการอ่านของผมถูก แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าของคนอื่นเขาผิด ไม่อยากเถียงกันเรื่องไร้สาระ แต่มันแค่แปลกใจ เพราะสังเกตุดูแล้วคนไทยมักจะลงท้ายเสียงด้วยเสียงต่ำ  เสียง  ห เสียง ถ แปลกดี
   นี่ๆ ขอคุยหน่อย ตอนหนุ่มๆ อายุสัก 18 ปี เคยมีฝรั่งชมผมด้วยนะว่าพูดภาษาอังกฤษได้ชัดมาก ชัดกว่าตัวเขาซึ่งเป็นฝรั่งเจ้าของภาษาเองเสียอีก เจอแบบนี้งงครับ จะเป็นไปได้ไง คนเอเชียหัวดำจะพูดได้ชัดกว่าคนท้องถิ่นเอง
   คุยไปคุยมาก็เข้าใจ คือผมพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงของภาคกลาง (เปรียบเป็นของไทยนะ) ส่วนตัวเขาน่ะอยู่ภาคใต้ การพูดเลยมีสำเนียงของท้องถิ่นย่านนั้นๆ ถึงตรงนี้ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นอีกหน่อยครับว่า หากจะเรียนภาษาอังกฤษให้ดี ก็ต้องดูสถานที่ๆ เราจะไปเรียน ไปฝึกพูดด้วย
   อย่าเพิ่งคิดว่าผมโอ้อวด คุยโม้ใหญ่โตไปล่ะ อย่าเข้าใจผิด ประเด็นคือแค่เรื่องการออกเสียง และผมต้องการหาสิ่งที่ถูกต้องที่สุดเพื่อไปสอนลูกต่างหากครับ
   พื้นฐานของผมเรียนและฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองนะครับ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก แค่พอซื้อของกินได้ และไม่หลงทางเมื่อไปต่างแดน
   หลักสำคัญที่ผมจับประเด็นได้นั่นคือการออกเสียงให้ถูกต้องครับ นี่แหละที่ผมถือว่าสำคัญสุด แต่หาโรงเรียนที่สอนสไตล์นี้ได้น้อยมากๆ โดยทั่วไปก็จะออกเสียงสำเนียงไทยกันหมด เช่น A อ่านว่า เอ ผมอ่าน เอย์ (เอ อิ ก็ได้) หรือ 2 อ่านว่า ทู ผมอ่าน ทยู้ (ทะ ยู้) ยังไม่นับพวกคำที่มีตัว th ลงท้าย ที่คนส่วนใหญ่จะพลาด เพราะต้องสอดลิ้นเข้าไประหว่างฟันบนและฟันล่าง
   พายุฝนอ่อนกำลังลงแล้ว ฝนก็้น้อยลงตาม ในกรุงเทพฯวันนี้เลยแดดแรงอย่างเก่าอีกแล้ว โดนแล้วแสบผิวเหลือเกิน ตอนเด็กๆ ผมว่าแดดไม่แรงเท่านี้นะ วิ่งเล่น ปั่นจักรยานเล่นอยู่นาน ไม่ยักกะแสบผิวเลยแม้แต่น้อย
   หรือว่าชั้นโอโซนที่กรองความแรงของแสงอาทิตย์มันบางลงไปเยอะแล้วก็ไม่รู้
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #2 on: October 03, 2009, 04:56:12 pm »
3 ตค 52
   วันนี้ฟิตจัด เช้าตรู่ออกปั่นสัก 20 กม ยังไม่หนำใจ กลางวันยังออกไปอีกรอบ เห็นมันไม่ค่อยมีแดดน่ะ แต่ที่ไหนได้ ออกไปแป๊บเดียวแดดแรงจ้าเลย ช่างมัน ปั่นต่อไปเดี๋ยวก็ชิน แต่ไม่ได้ออกไปนานนักหรอกนะ แค่ลองรถคัน KHS HT ทดสอบแรงดันลมยางต่ำกว่าค่าสูงสุดสัก 10% ลองแล้วรู้สึกนิ่มนวลดีอย่างเห็นได้ชัดเลย
   ผมไปตั้งกระทู้ในเวปของ TCC เกี่ยวกับเรื่องการขนย้ายจักรยานและสัมภาระขณะออกทริป เพราะกลัวว่าสัมภาระที่ผมเอาไปมันจะเกะกะมาก ผมมีทั้งเต้นท์ แผ่นปูรองนอน และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว หากใส่ Pannier ไป ผมจะต้องคอยถือเจ้า Pannier ทั้ง 2 ใบนี้และเต้นท์พร้อมอุปกรณ์การนอนนี้ด้วยหรือไม่ มันหลายชิ้นอยู่นะ แผ่นปูรองนอนมันเบาก็จริง แต่มันใหญ่ ม้วนเก็บได้ แต่มันใส่กระเป๋า ใส่เป้ไม่ได้ หอบหิ้วกันพะรุงพะรังผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน มันขาดความคล่องตัว
   เวลาผมเปลี่ยนเซ็ทติ้งรถแต่ละครั้ง ก็มักจะต้องเอารถออกไปลองอย่างเป็นทางการ ผมต้องการข้อมูลว่าเซ็ทรถแบบไหนอาการจะเป็นเช่นไร ไม่รู้คนอื่นเขาจะทำแบบนี้กันไหม
   ผมเพิ่งเห็นโฆษณาของ ททท ตอน 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ตอนแรกน่ะได้รับเอกสารเป็นอีเมลล์มาหลายเดือนแล้ว แต่ไม่รู้จะทำเป็นแค่แคมเปญโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์หรือไม่ วันนี้เห็นพี่เบิร์ดเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายที่มอหินขาว จ ชัยภูมิ ขอยกย่องว่าทำได้ดีมากๆ ไม่แพ้ตอนสามพันโบกที่ อุบลราชธานีเลย เห็นแล้วอยากไปจริงๆ แต่ในภาพน่ะเขาเอาไฟสปอทไลท์ไปส่องเพิ่ม มีการจัดแสงช่วย มันเลยดูสวยกว่าความเป็นจริงเยอะ ของจริงมันเป็นลานโล่งๆ ตกดึกก็มืดสนิท ไม่ได้เห็นก้อนหินใหญ่ๆ สีขาวหรอกนะ
   ไทยเรามีของดีๆ สวยๆ อีกเยอะมากๆ ครับ ผมว่า ททท ของเรามาถูกทางแล้ว แต่อย่างที่เคยบอกว่าเราขาดการต่อยอด งานนี้ ททท เปิดเกมให้แล้ว ทาง จ ชัยภูมิจะต้องรองรับนักท่องเที่ยวกันขนานใหญ่ ชุมชนที่อยู่ใกล้มอหินขาวก็ต้องช่วยกันต่อยอดกันเองด้วยนะครับ หาแหล่งท่องเที่ยวให้เขาอยู่ต่อได้ด้วย ไม่ได้แค่ไปดูลานหิน ไปกลางวันร้อนสุดยอดแทบไม่อยากลงจากรถ ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเขาอยู่ได้นานๆ ยิ่งเขาอยู่นาน เขาก็ยิ่งใช้เงินมาก เงินก็จะตกอยู่ในท้องถิ่นของท่านเองนะครับ
   ไทยเราเด่นเรื่องธรรมชาติ และผู้คนเป็นมิตรไมตรีครับ อันแรกน่ะหลายๆ ประเทศเขาก็มีกัน แต่เรื่องน้ำใจของคนในท้องถิ่นแล้ว คนไทยกินคนต่างชาติขาดลอยครับ
   แปลกดีไหม การศึกษาของคนเราแพ้เขา แพ้คนที่ชาติเขาเจริญแล้ว แต่จิตใจคนในต่างจังหวัดของเรากลับดีกว่า แต่ก็อีกล่ะนะ ใจดีเกินไปก็กลายเป็นถูกเขาหลอกก็มีเยอะ คือคนเขามองโลกแง่ดีไง เขาไม่เคยเจอคนร้ายๆ เกิดมาก็อยู่กับท้องถิ่น อยู่กับธรรมชาติ ใจเลยสงบ
   ครั้นสังคมเมืองขยายเข้าไปหาเขา กลายเป็นำวัฒนธรรมการโกงเข้าไปด้วย ใครปรับตัวไม่ทันก็ตกเป็นเหยื่อ
   เดินสายกลางครับพี่น้อง เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลก็ต้องระวังตัวกันไว้สักนิด โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ
   จะบอกให้อีกอย่างว่า คนที่โดนหลอกมันจะเกี่ยวเนื่องกับความโลภ
   นั่นหมายความว่า ถ้าไม่โลภ ก็มักจะไม่โดนครับ    
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #3 on: October 04, 2009, 05:07:51 pm »
4 ตค 52
   เช้ามืดออกมาตักบาตรทำบุญวันเกิดของลูกผมครับ เขามีอายุครบ 8 ปีในวันพรุ่งนี้ ภรรยาจัดเตรียมดอกไม้ ธูป เทียนไว้ตั้งแต่กลางคืน ผมมาจัดอาหารเข้าถุงตอนเช้า ไม่ได้ไปตักบาตรที่ไหนไกลหรอกครับ แค่หน้าปากซอยนี่แหละ บางช่วงพระยังไม่เดินมาเราก็นั่งคุยกันสามคน แต่ก็ไม่นานนักหรอก พระท่านทะยอยเดินกันมาเรื่อยๆ ขอให้มารอถูกจังหวะและเวลาก็แล้วกัน
   แต่คนแถวบ้านผมเขาตักบาตรกันแบบกองโจรครับ คือขับรถไปเรื่อยๆ เจอพระที่ไหนก็โฉบไปจอด เหมือนแท๊กซี่เห็นผู้โดยสาร แบบนั้นเป๊ะเลย เป็นการตักบาตรแบบกองโจร แบบซุ่มโจมตี ไม่ได้อยู่นิ่งปักหลักเหมือนอย่างผม ผมเองก็เคยตักแบบกองโจรกับเขาเหมือนกัน แต่ไม่ไหวว่ะพี่น้อง พอเหลือพระองค์สุดท้ายผมตระเวณหาอยู่นานมาก ไกลจากบ้านเป็น 10 กม เลย
   ตักบาตรเสร็จแล้วกลับมาบ้านรีบกรวดน้ำด้วยนะครับ เทน้ำรดที่โคนต้นไม้ใหญ่ในบ้านเรานี่แหละ
   เสร็จแล้วมองหน้ากัน ไปไหนกันต่อดี ยกโขยงกันไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกแล้ว ลูกกับภรรยาติดใจก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ผมเองก็ด้วย มันไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่นัก เลยไม่ใช่ปัญหาอะไร แถมมีขนมอร่อยๆ เพียบ น้ำหนักขึ้นอีกแน่ๆ
                กลับจากตลาดน้ำทีไร ได้ขนม ได้อาหารกลับมาเต็มสองมือทุกครั้ง ขนมไหนติดใจก็ซื้อซ้ำ อันไหนไม่ถูกใจก็ลองแค่ครั้งเดียว วันนี้เจอของแปลก คือข้าวเกรียบเห็ดนางรม เป็นชิ้นข้าวเกรียบสีขาว ไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งรู้ว่ามีเห็ดนางรมด้วย คิดว่ามีแค่หอย ไม่ได้ซื้อมาครับ หิ้วจนเต็มสองมือไปหมดแล้ว ไว้คราวหน้าก็แล้วกัน
                วันนี้เน้นหนักไปทางขนมไทยโบราณ ที่หาทานได้ยากก็คือพวกที่ต้องใช้ฝีมือประดิษฐ์ประดอย เช่น จ่ามงกุฏ แค่เห็นขนมก็แทบไม่อยากกิน สวยเหลือเกิน อ้อ ขนมและอาหารที่ขายในตลาดน้ำบางน้ำผึ้งนี้เป็นฝีมือของชาวบ้าน และกลุ่มสหกรณ์เขาทำกันเองนะครับ ไม่ได้มีการรับจากที่อื่นมาวางขายเหมือนตลาดอื่นๆ ผมชอบตรงนี้มาก นับว่าเป็นตลาดน้ำที่มีคอนเสปดีทีเดียว
เดินผ่านหน้าวัด ให้ลูกเอาเงินไปใส่ตู้บริจาคช่วยเหลือเด็กกำพร้าบ้านครูน้อย เด็กๆ เขาก็คงหยอดเงินใส่ไปงั้นๆ ไม่ได้คิดว่าการบริจาคเป็นการทำทาน ไว้สักวันคงต้องสอนเขา
                กลับมาบ้านพร้อมกับความอิ่ม ยังมากินต่อที่บ้านอีก ซื้อมันเทศทอดทั้งหัวมาด้วยอีก 1 กระทง
                ผมวางแผนปั่นจักรยานสำหรับทริปปลายปี ยังไม่สรุปว่าจะไปที่ใด แต่หาข้อมูลอย่างไรก็ไม่ค่อยมีรายละเอียดด้านการปั่นจักรยานเดินทางและท่องเที่ยวเลย
                เป็นไปได้สูง ว่ามันอาจจะเป็น Solo Trip ของผมอีกแล้ว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #4 on: October 06, 2009, 02:23:31 pm »
5 ตค 52
   กินจนน้ำหนักขึ้นอีกแล้ว ถึงวันจันทร์ทีไรก็เริ่มมหกรรมลดพุงทุกที พักหลังมาาชักจะเป็นแบบนี้เริ่มบ่อย แต่ยิ่งอายุมาก ยิ่งลดได้ช้า แถมต้องใช้ความตั้งใจมากกว่าเดิม มันเป็นไปตามวัย ทางที่ดีควรจะควบคุมมากกว่าจะมาตามลดทีหลังอย่างผม
   วันนี้เขามีงานทดสอบขับรถยนต์ Mitsubishi Lancer ตัวใหม่ เปลี่ยนโฉมกันเลยนะ แบบ Model Change หน้าตาดุดันดีมากๆ วัยรุ่นที่ชอบรถแต่ง รถซิ่งคงจะถูกใจกัน
   แต่วันนี้คนงานส่งของที่บ้านไม่มาทำงาน ไม่ได้ไปทดสอบรถยนต์กันล่ะ แปลงร่างเป็นพนักงานขนสินค้า นั่งติดอยู่ท้ายรถกระบะแทน ชีวิตอิสระดีไหมครับ ฮ่าๆ
   ตะเวณส่งของก็ร้อนแสนร้อน ตอนกลางวันก็มีฝนเทลงมา ก็ส่งมันทั้งๆ ที่ฝนตกนี่แหละครับ อยู่กลางถนนนี้ร้อนและฝุ่นควันถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา และถ้ามีฝนมาก็ถือว่าช่วยเพิ่มภาระให้แก่การทำงาน
   จะมานั่งบ่นก็ไร้ประโยชน์ครับ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุขจะดีกว่า คิดแบบนี้เป็นการคิดบวก ถึงแม้ว่าแง่บวกมันจะมีไม่มากนัก แต่ก็ต้องคิดออกมาให้ได้
   โลกเราทุกวันนี้แข่งกันที่มุมมองความคิดครับ มันมีพื้นฐานมาจากสมอง การเรียนรู้ และประสพการณ์ เรียนไม่เก่ง สอบได้ไม่ดี ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด ผมขอแค่ให้มีความคิดดีๆ ในสิ่งดีๆ ในแง่มุมดีๆ แบบสร้างสรรค์ อาจผิดแผกคนอื่นไปบ้าง ก็ถือเป็นการคิดนอกกรอบ
   แต่ไอ้ที่ไม่ดีก็คือพวกไปฉลาดในเรื่องเลวๆ เช่นคิดคดโกง คิดทุจริต คิดหาผลประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง
   ไม่น่าเชื่อว่าจะพบไอ้พวกเหี้ยแบบนี้ได้เยอะมากในนักการเมือง ประเทศชาติมันเลยไม่ไปถึงไหนกันไง มีแต่ตัวมันเองที่รวย
   ปิดท้ายด้วยเรื่องดีๆ ของลูกผม วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของเขา โดยส่วนตัวผมรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องงานวันเกิดมากๆ วันเกิดตัวเองก็แค่ไปทำบุญ ทำคุณความดีให้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับคนใกล้ชิดเช่นพ่อแม่ ผมไม่เคยได้ของขวัญวันเกิดอะไรสักอย่าง แต่คนอื่นเขาไม่ได้เป็นอย่างผม ตอนเด็กๆ ก็เลยมีคิดน้อยใจ คิดอย่างได้แบบเขาบ้าง
   พาลูกไปทานที่ร้าน KFC เขากินไก่อย่างเอร็ดอร่อยมาก นั่งมองดูเขากินก็แอบยิ้มไปในใจ นี่ผมละทิ้งงานหลักของตัวเอง ละทิ้งอนาคต ละทิ้งโอกาสที่จะทำเงินทองได้มากมายเพื่อที่จะได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด
   ผมดูแลเขามาถึงวันนี้ก็ 8 ปีเต็มๆ ขากลับเดินผ่านร้านขายขนมปัง เขาอยากได้เค๊กชิ้นใหญ่ ผมต่อรองขอเป็นชิ้นเล็กๆ แทน อ้างเหตุผลว่าเผื่อมันไม่อร่อย เขาโอเค
   ถึงบ้าน เขาเอาเทียนวันเกิดมาปัก ให้ผมจุดไฟให้ เขาอฐิฐานยกมือไหว้พนมือ จากนั้นก็เป่าเทียน
   “สุขสันต์วันเกิดนะครับลูก”
   “ขอบคุณครับพ่อ”
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #5 on: October 07, 2009, 01:43:39 pm »
6 ตค 52
   เซ็งสุดยอด เดินไปเหยียบขี้หมามา แล้วดันมาปั่นจักรยานต่อทันที มันยัดลงไปในบันไดแบบเต็มๆ ยังดีที่เป็นรองเท้าแตะที่พื้นมันเรียบๆ ไม่ได้เป็นรองเท้าจักรยานที่มีคลีทอยู่ข้างใต้ แบบนั้นจะเรียกโดน 2 เด้ง แต่กระนั่นก็เถอะ เพราะบันไดอันนี้มันคือ Shimano XT 08 Clipless หึหึ ขี้หมาติดเต็มสปริงเลยพี่น้อง
   เมื่อวานแสนจะเสียดายที่ไม่ได้ไปงานทดสอบรถยนต์ Mitsubishi Lancer ยังนึกคิดถึงไม่ทันหาย วันที่ 17 พฤศจิกายน เดือนหน้าจะมีงานเปิดตัว Mazda 2 แล้ว ตัวนี้สวยและน่ารักมากๆ ครับ เป็นรถเล็กๆ สไตล์เดียวกับ Toyota Yaris ใครชอบรถเล็กนี่ผมแนะนำเลยแหละ แต่ไม่รู้จะเป็นรถตัว Model Change หรือเปล่า ไว้ใกล้ๆ ค่อยดูกันอีกที
   ตอนเช้าถึงบ่ายแดดแรงจัด แต่พอใกล้จะเย็นกลับมืดครึ้มเหมือนฝนจะตก เล่น 2 ฤดูในวันเดียวกันเลยนะนี่
   เช้านี้อ่านเจอข่าวปัญญาอ่อนของทางภาครัฐ เรื่องการจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ก็พวกของปลอม ของก๊อปทั้งหลายนั่นแหละ มันมาปัญหาอ่อนตรงที่ เขาว่าใครซื้อจะโดนจับ โดนปรับ แปลกดีไหมที่ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายไม่โดน (จะว่าไม่โดนก็ไม่เชิงหรอก เพราะมีกฏหมายเก่าว่าด้วยสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กำกับไว้อยู่แล้ว)
   คือมันจับต้นตอไม่ได้แล้วไง เพราะพวกพ้องของมันทำกันเอง จับไปก็เจอของเพื่อน ของพี่ ของนาย ก็เลยต้องมาจับคนซื้อ ประเด็นที่ผมว่ามันปัญญาอ่อนอยู่ตรงนี้
   เออ วันนี้เขาทดสอบรถยนต์ BMW 7 Series นี่หว่า ตัวใหม่เสียด้วย ไม่ได้ไปอีกแล้ว รถหรูระดับสุดยอดแบบนี้ พลาดแล้วเสียดายนะ
   แต่ก็อย่างที่บอก ลูกผมสำคัญกว่าครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #6 on: October 08, 2009, 02:03:45 pm »
7 ตค 52
   เช้าเอารถ KHS HT ออกปั่น ตระเวณสำรวจซอยเล็กซอยน้อยใกล้บ้าน มีการวกเข้าไปในสวนกล้วยไม้บ้าง โดนหมาไล่เห่าบ้างตามระเบียบ ไม่มีปัญหาอะไร เราอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
   อากาศดี สายๆ เลยเอารถออกปั่นอีกรอบ ทีนี้กลับเข้ามาตอนบ่ายเลย โดนฝนด้วยครับ ตกอย่างหนักเลย เห็นมอเตอร์ไซค์จอดหลบฝนกันหมด ผมปั่นฝ่ามันไปซะเลย เย็นสบายดีออก มันก็แค่เลอะเทอะหน่อย เฉอะแฉะบ้าง ก็เท่านั้นเอง ผมปั่นตากฝนอยู่ราว 1 ชม มันก็หายตกไปเอง
   ผมว่าปัญหาของการปั่นกลางฝนนั้นก็คือเรื่องเบรกจะอ่อนประสิทธิภาพลง และการยึดเกาะของยางกับผิวถนนจะไม่ดีดังเดิม
   ผมใช้ด้านหลังของถุงมือที่เป็นเหมือนผ้าขนหนูปาดเช็ดเลนส์แว่นตาเป็นระยะ แต่พอกลับมาถึงบ้านแล้วพบปัญหาใหญ่ นั่นคือรองเท้ามันเปียกชุ่มไปหมดเลยครับ มันแห้งยากน่ะสิ ส่วนเสื้อ กางเกง พอกลับมาถึงบ้านก็แทบจะแห้งสนิทแล้ว ถุงเท้าไม่เป็นไร เพราะซักทุกวัน อ้อ มีผ้าคลุมหน้าอีกอันที่พอถึงบ้านแล้วผมรีบซักตากทันที เผื่อพรุ่งนี้จะได้ใช้ทัน
   ออกปั่นแล้วรู้สึกเหมือนผมคนเดิมกลับมาแล้ว ไม่ได้ออกปั่นอย่างเป็นทางการแบบนี้มาหลายเดือน ผมรู้สึกดีนะ มันรู้สึกสบายอกสบายใจบอกไม่ถูก
   รีบเอารองเท้าผึ่งลม ลุ้นให้แห้งไวๆ พรุ่งนี้ผมอยากเอาจักรยานออกปั่นอีก เมื่อเช้าอยากเอาเสื้อกันฝนไปด้วย แต่ผมดันไปปลด Pannier ทั้ง 4 ใบ ออกซะ เลยไม่มีที่ใส่ ที่เอา Pannier ออกก็เพราะปั่นบนท้องถนนจังหวะที่ต้องซิกแซกเกรงว่ากระเป๋าจะไปโดนรถเก๋งเขาน่ะครับ
   ได้ปั่นกลางฝนจัดๆ แบบนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกตอนผมออก Solo Trip ไประยอง งวดนั้นฝนหนักกว่านี้เยอะ ผมเปียกและแห้งไป 3 รอบ ภายในวันเดียว ที่ว่าแห้งนี้คือปั่นจนรองเท้าแห้งเลยนะ
   ผมค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพของยางสลิคที่ใช้อยู่ กลัวอย่างเดียวตอนยางแตกแล้วต้องงัดออกมาปะ เพราะตอนใส่จำได้ว่างัดกันนานมาก ใส่ยากจริงๆ ถามพรรคพวกเลยรู้ว่าคนอื่นเขาก็เป็นเหมือนกัน
   
8 ตค 52
   ออกปั่นแล้วติดใจ วันนี้เอาอีกแล้ว แต่เตรียมพร้อมอุปกรณ์กันฝนไปด้วย คือเสื้อกันฝน + กันลม (หนาว) อันนี้ที่จริงไม่จำเป็นนัก แต่ผมเผื่อไปทริปที่หนาวๆ เลยมีติดเอาไว้ และอุปกรณ์ใหม่คือรองเท้าที่ใช้ลุยน้ำโดยเฉพาะ เตรียมไปแค่สองอย่างนี่แหละ แต่ถ้าให้เลือกอย่างเดียว ผมขอเป็นรองเท้า เพราะตัวเปียกน่ะมันแสนจะเย็นสบายดีออก แถมพอปั่นถึงบ้านก็ต้องถอดออกซักอยู่แล้ว จะเปียกแฉะขนาดไหนก็ไม่มีปัญหา แต่รองเท้านี่สิ เปียกแล้วแห้งยากมาก ทิ้งไว้ทั้งคืนยังได้แค่หมาดๆ ใส่แล้วไม่ดีครับ เดี๋ยวเชื้อราขึ้น ทำให้เท้าเป็นแผล และที่สำคัญคือเหม็นครับ ใครเท้าเหม็น หรือรองเท้าเหม็น ก็มักจะมาจากเจ้าเชื้อโรคจำพวกนี้แหละครับ
   วันนี้เลยพก Pannier ไป 1 คู่ แขวนไว้ด้านหลัง เออ เมื่อวานลุยฝนเลยได้ใช้บริการผ้าคลุมกันฝนของกระเป๋าบนแร็คหลัง พบว่ามันกันน้ำได้ดีพอควร ทำไมช่างต่างจากผ้าคลุมกระเป๋าบนแร็คหน้า (กระเป๋าหน้าแฮนด์) อย่างเยอะมาก ทั้งๆ ที่เป็นยี่ห้อเดียวกัน ตระกูลเดียวกัน ซีรี่ส์เดียวกัน ผ้าคลุมของกระเป๋าหน้านี้อย่างห่วยเลยครับ ฝนลงแค่หยดเดียวก็ซึมเข้ากระเป๋าด้านในแล้ว KHS พลาดอะไรในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปหรือเปล่า
   เอ๊ะ หรือเขาออกแบบมาให้มันกันน้ำออกวะ
   ใก้ลสิ้นปีแล้ว วงการธุรกิจต่างๆ มักจะงัดกลยุทธการตลาดออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขายตามเป้าที่บริษัทเขากำหนดไว้ให้ สังเกตุให้ดีก็จะพบเรื่องพวกนี้ในทุกวงการเลยครับ เด่นๆ ก็รถยนต์ มีถึงขั้นจัดงานมหกรรมรถยนต์ตอนเดือนธันวาคมเป็นประจำทุกปี พวกคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ IT หรือโทรศัพท์มือถือยิ่งไม่ต้องห่วง อัดแคมเปญกันระเบิด แต่ต้องดูให้ดี ไอ้พวกนี้มันชอบยัดไส้ เอาของมีตำหนิ  ของเกรดต่ำมาเซลล์ กระทั่งวงการเล็กๆ อย่างพวกแคมปิ้งก็ยังมีเซลล์กันเลยครับ แต่เขาแฟร์หน่อยตรงที่บอกเลยว่าเป็นสินค้ามีตำหนิ แบบนี้ต้องชื่นชมครับ ต้องบอกยี่ห้อว่าเป็นของ Karana ของไทยเรานี่แหละ ผมใช้บริการสินค้าของเขาหลายอย่างแล้ว ที่เลือกยี่ห้อนี้ก็เพราะผมชอบของไทยครับ ขอให้เป็นของดี ผมมักเลือกของไทยไว้ก่อน ยิ่งอุปกรณ์เหล่านี้ผมมักซื้อกันทีเดียวจบ และใช้ยาวตลอด จึงมองเรื่องบริการหลังการขายด้วย สินค้าไทยสามารถส่งซ่อมได้ ณ จุดที่เราซื้อครับ เต้นท์ขาด เสาหัก สมอบกหาย ฟลายชีทรั่ว ฯลฯ เรื่องพวกนี้เขาทำได้สบายมากๆ
   ผมปั่นจักรยานผ่านโชว์รูมรถ Mazda เห็นมีติดป้ายเปิดรับจองรถ Mazda 2 รู้สึกแปลกใจ อ้าว รถยังไม่เปิดตัวเลย รับจองกันแล้วหรือ มีแค่รูปภาพก็ขายได้แล้วหรือนี่ แจ๋วจริงๆ เลย
   ซื้อจักรยานกันคันละหมื่นกว่าบาทยังคิดแล้วคิดอีก หาข้อมูลต่างๆ นานา ถามเพื่อนสารพัดว่าดีไหม เป็นไงบ้าง คุ้มไหม ทนทานไหม มีจุดอ่อนอะไรบ้าง
   รถยนต์คันละ 5 แสน กลับจ่ายเงินจองกันเฉยเลย ก้นยังไม่ได้เคยสัมผัสเบาะนั่งของมันเลย หน้าตาของจริงจะเหมือนในรูปหรือเปล่าก็ไม่รู้
   ต่อให้เขาเปิดตัวแล้วก็เถอะครับ แม้จะได้เห็นตัวจริงแล้ว ได้จับ ได้ลูบคลำ (รถ) แล้ว ก็มีอีกหลายท่านที่จ่ายเงินซื้อแบบง่ายดาย
   บางบริษัทมีรถให้ทดลองขับ อันนี้ถือว่าแฟร์หน่อย แต่ก็อีกนั่นแหละ ได้แค่ขับนิดๆ หน่อยๆ หน้าบริษัท อย่างเก่งก็ขึ้นทางด่วนแป๊บเดียวก็วนลงแล้ว มันไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ และเซลล์มักจะเสนอบริการทดลองขับให้แก่เฉพาะลูกค้าที่สนใจจริงๆ เท่านั้น คือมาขอขับซี้ซั้วเขามักจะไม่ให้
   ซื้อรถยนต์นี่ยิ่งต้องคิดให้หนักนะครับ รองเท้าแตะคู่ละ 30 บาทยังลองแล้วลองอีกเลย หากเป็นร้านที่เขาให้เราหยิบลองเองได้นี่ เห็นบางคนเอามากองเต็มพื้น ลองถอดเข้าถอดออก ลองเดินอยู่หลายเที่ยวกว่าจะตัดสินใจซื้อ เผลอๆ ยังไม่ซื้อก็มีเยอะแยะ
   ที่ผ่านมางานของผมจึงเป็นการทดลองทดสอบขับรถยนต์แทนผู้ซื้อไงล่ะครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #7 on: October 11, 2009, 11:17:47 am »
9 ตค 52
   ลูกผมอยากได้นาฬิกาแปลงร่าง Ben10 ดูไร้สาระเน๊อะ แต่ย้อนไปคิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ ผมเคยอยากได้เข็มขัดแปลงร่างของมดเขียว V3 ชมัด
   ตัวการ์ตูนฮีโร่พวกนี้มันคือขวัญใจเด็กๆ ไงครับ เชื่อไหมว่าทุกวันนี้หากผมเห็นโมเดลได้มดแดงเป็นต้องหยุดดูทุกที และต้องสอดสายตามองหาเจ้า V3 เป็นตัวแรก ชอบรองลงมาก็ V6 Amazon จำได้ว่ามีกำไลกาก้า กับ กำไลกีกี้ ฮ่าๆ แม่งบ้าฉิบเป๋ง
   ผมอยากได้ แต่ไม่เคยได้หรอกครับ สมัยก่อนไม่มีของเล่นพวกนี้ขาย อยากได้ก็ต้องตัดกระดาษมาเขียนมาระบายสีแล้วคาดเอวเอาเอง หึหึ คงจะเหมือนหรอกนะมึง
   ไปดูห้างเซ็นทรัล เจอรุ่นที่ลูกผมเขาชอบ เห็นราคาแล้วตกใจ 1150 บาทครับ คุ้นตาว่าเคยเห็นทีคลองถม ไว้ต้องไปดูอีกที เพราะมันมีหลายรุ่นเหลือเกิน
   ตอนบ่ายเปิด Google ดู เจอแบบเดียวกันเลย ในเวปเขาขาย 650 บาท ผมอยากเห็นของก่อน โทรไปคุย เจ้าของคนขายบอกเขาขายออนไลน์อย่างเดียว ไม่มีหน้าร้าน เลยวางสายไป บอกตามตรงว่ากลัวโดนหลอก แต่เวปเขาก็ดูโอเคดีนะ อย่างว่าแหละ หากจะหลอก ก็ต้องทำให้เนียนสิ ทำห่วยๆ ใครจะมาโอนเงินให้กันเล่า
   หาไปเรื่อยๆ เจออีกเจ้าหนึ่ง ขายออนไลน์อีกละ ผมบอกจะมาซื้อให้ลูก ผมกลัวมันผิดรุ่น คนนี้เขาเข้าใจ เลยโอเค แต่ไว้ผมพร้อมแล้วค่อยโทรนัดเขาให้ออกมา โชคดีที่ไม่ได้ไกลกันเว่อร์นัก ผมคงปั่นจักรยานไปได้ เขาอยู่แถวหัวลำโพง กลางเมืองเป๊ะๆ เลย
   วันนี้ตลอดทั่งวันผมเป็นคนขับรถส่งของครับ พนักงานขับรถไม่มาทำงาน ผมเลยต้องขับแแทน ชีวิตอิสระดี ร้อน ฝน หนาว เราไม่สนใจ เราจะส่งของเสียอย่าง ตอนบ่ายเลยลุยฝนเสียจนสะใจ เลิกงานก็มืดแล้ว ปั่นจักรยานกลับบ้านแบบฝ่าสายฝนนี้ดูจะสนุกเหลือเกิน
   ผมชักจะชอบสายฝนเสียแล้วสิ

10 ตค 52
   วันนี้พาลูกไปดูกลุ่มนักบินของสหรัฐอเมริกาชื่อ Thunder Bird เขาบินโชว์ที่ดอนเมือง คนเยอะแน่ๆ เลยโทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงเวลาและสถานที่อย่างละเอียด ได้ความว่าประตูเปิดให้เข้า 1200 เวลาแสดงคือ 0100 – 0300 โห แสดงแค่ 2 ชม เอง ส่วนสถานที่ก็คือลานหน้าคลังสินค้าครับ
   ผมวางแผนอย่างดิบดี ออกเดินทางออกจาบ้าน 1115 ถึงทางลงหน้าดอนเมืองเวลา 1200 พอดี โห ท้ายแถวยาวมาก โอเคๆ วันนี้คนเยอะอยู่แล้ว ต้องทำใจ แต่ระหว่างต่อคิวรอก็มีรถมาเสียบเข้าข้างหน้าอยู่ตลอดเวลาเลย ทำเอาท้อใจเหมือนกัน จนลูกถามว่า พ่อไม่ไปเสียบเข้าแบบเขาบ้างล่ะ ผมหันไปมองหน้าแล้วยิ้ม ไม่ได้พูดตอบอะไร พูดไม่ถูก
   ต่อคิวอยู่ยาวนานจนมาหงุดหงิดเพราะเจ้าหน้าที่เขาปิดทางเข้าที่ผมจะเข้าครับ เขาให้ไปใช้ทางเข้าด้านหน้า โหห ผมต่อคิวมา 45 นาที มาเจอแบบนี้เซ็งสุดยอด เลยต้องไปใช้ทางเข้าอันถัดไป มันไกลกว่าเดิมเยอะ แถมเข้าไปแล้วก็ต้องขับย้อนกลับมาอีก
   รถเยอะแน่นมากๆ ครับ ไม่เคยเห็นคนเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย ขนาดวันเด็กทีว่าแน่ๆ ยังแพ้งานนี้ขาดลอย
   รถเยอะ จอดกันมั่วเลย มีที่เรียบร้อยไม่เกะกะใคร ผมเห็นคนอื่นเขาจอด เลยต่อหลังเขาบ้าง พอล็อครถเสร็จเจ้าหน้าที่ประกาศทางทรโข่งว่าเป็นที่ห้ามจอด ผมลังเลกับลูกว่าเอาไงดี เพราะคนอื่นเขาเดินกันไปเฉย ทำเป็นไม่ได้ยิน
   ตัดสินใจเลื่อนรถครับ แล้วก็ถามลูกว่าเราควรทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาว่าเราควรเลื่อนรถ เพราะเจ้าหน้าที่บอกห้ามจอด ผมแย้งว่าคนอื่นเขาก็จอดกันเต็มเลยนะ ลูกผมเริ่มทำหน้าไม่มั่นใจ ผมโอบลูกมาจูบหน้าผาก บอกว่าเราทำถูกแล้วจ๊ะ แต่คนทำถูกต้องมักจะกลายเป็นคนต้องเสียสละ เลยยกตัวอย่างการต่อคิวซื้อของแล้วมีคนมาแซงคิวให้เขาดู
   วนไปเรื่อยๆ ก็เจออีกที่ๆ มีคนจอดกันเยอะเลย เอาบ้าง ต่อท้ายเขาบ้าง ไม่มีเจ้าหน้าที่ว่า เลยรีบลงจากรถแล้วจ้ำเท้าเข้าอาคารคลังสินค้าทันที ตอนนี้เวลา 0130 แล้ว เลยเวลาการแสดงไป 30 นาทีแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นเครื่องบิน F16 ของ Thunder Bird เลย
   คนเยอะแน่นมากๆ เบียดเสียดกันเข้าทางประตูเล็กๆ เห็นมีคนพยายามจะพาจักรยาน MTB เข้าไปด้วย ผมเห็นมากัน 3 คัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำสำเร็จไหม จับจองที่นั่งชม (นั่งกับพื้น) ไม่น่าเชื่อว่าเขามาเริ่มแสดงบินกันตอน 0230 ครับ (เลทแบบกระจาย) การบินก็เหมือนงาน Air Show ทั่วๆ ไป มีบินผาดโผน หมุนวน บินเฉียดพื้น บินเฉี่ยวกัน บินเกาะกลุ่ม ฯลฯ ราว 0315 ก็จบแล้ว แป๊บเดียวเอง แต่แดดร้อนและแรงจัดมากๆ มีเด็กเล็กร้องไห้กระจองอแงกันเต็มไปหมด ก็แหงล่ะสิ เด็กเขายังไม่มีความอดทนกับความร้อนมากนัก แต่ลูกผมเขาไม่บ่นอะไรนะ อดทนใช้ได้เลย
   ขากลับก็เบียดเสียดกันออกทางแคบๆ เช่นเคย รีบวิ่งตรงไปที่รถ เพราะรู้ว่ารถจะต้องติดอย่างมากแน่ พอถึงรถก็อึ้ง เพราะมีรถจอดขวางเข้าเกียร์ P แถมดึงเบรกมือพร้อมสรรพ ขวางแบบเต็มคันเลย งงเต็ก
   ก็เลยสอนลูกต่อไปอีกว่า หากเราจอดรถขวางคนอื่นเขาก็ต้องปลดเกียร์ว่าง และไม่ต้องดึงเบรกมือ คนที่เราจอดขวางเขาจะได้เข็นรถเราได้ เขาจะได้ออกได้สะดวก
   รออยู่สักพัก โชคดีที่รถคันหน้าเขามาพอดี เลยพอจะขยับรถออกได้บ้าง แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันอีกแล้ว รถติดแบบมโหฬาร ผมไม่เคยเจอแบบนี้มาหลายปีมากๆ เพราะจอดอยู่ห่างทางออกแค่ราว 300 เมตร แต่กลับต้องใช้เวลาถึง 1 ชม ถึงจะนำรถออกได้ 
   รถผมเก่าแล้ว จอดรถติดนานๆ วันนี้ออกอาการแอร์ไม่เย็น รถติดแบบหยุดนิ่งนานๆ ผมเลยดับเครื่อง ลูกผมเขาไม่ได้บ่นร้อนอะไร เขาเข้าใจดี
   พอออกมาข้างนอกก็ต้องเจอรถติดต่ออีก แต่ยังดีที่มันค่อยๆ เคลื่อน ดีกว่าด้านในที่จอดนิ่งๆ อย่างเดียวเลย
   ขึ้นทางด่วนได้เท่านั้นแหละ ผมอัดแหลก เหมือนเก็บกด ลองเปิดแอร์ บ๊ะ มันกลับมาเย็นเหมือนเดิมแล้วโว๊ย เย้ๆ ดีใจกับลูกอยู่สองคน ยังกับคนบ้า
   ถึงบ้านด้วยความอ่อนเพลีย ระโหยโรยแรง ผมใส่เสื้อแขนยาว มันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งตัว (เหงื่อออกท่วมตอนนั่งรอเครื่องบินแสดง) บริเวณเอวของกางเกงยีนส์ยังเปียกแฉะไปหมด เข็มขัดหนังยังเปียก
   น้ำหนักผมลดลงไปถึง 1 กก กับการนั่งเฉยๆ กลางแดด คืนนี้สองคนพ่อลูกต้องหลับสบายแน่ๆ เลย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #8 on: October 12, 2009, 05:24:29 am »
11 ตค 52
   ตื่นเช้าขึ้นมา ปกติผมต้องเอาจักรยานออกปั่น อย่างน้อยๆ ก็ต้องปั่นเล่นแถวบ้าน แต่เช้านี้มันเพลียเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อว่าแค่นั่งตากแดดอย่างเดียว ไม่ได้ออกแรงขยับร่างกายสักนิดมันจะเพลียได้ถึงเพียงนี้
   ผมปั่นจักรยานลุยฝนกลับมาบ้านตั้งแต่คืนวันศุกร์ กลับมาก็จอดรถทิ้งไว้ วันเสาร์ก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรมัน เช้าวันนี้มาดูพบว่าผ้าคลุมกันฝนของกระเป๋าหลังที่ผมคิดว่ามันดีน่ะ ตกลงคือมันห่วยพอๆ กับผ้าคลุมอันหน้าแหละครับ ที่ตอนแรกเผลอไปชมมันก็เพราะว่าขณะปั่นลำตัวผมจะช่วยบังเม็ดฝนก่อนจะไปโดนกระเป๋าหลัง พอมาวันนี้เจอฝนแบบชุ่มฉ่ำถึงรู้ว่ากระเป๋ามันเปียกไปหมดเลย เซ็งจริงๆ ผ้าคลุมแบบนี้จะให้มาทำไมกันนะนี่ เสียชื่อเปล่าๆ (เป็นกระเป๋าพร้อมผ้าคลุมของ KHS ครับ)
เอาอีกแล้ว ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกแล้ว นี่ติดใจก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำกันขนาดนี้เชียวหรือนี่ เอาๆ ไปก็ไป ถึงแม้เราจะเบื่อ แต่คนที่เรารักเขาชอบ การทำตามใจเขา ทำให้เขามีความสุขแม้เพียงจะเล็กๆ น้อยๆ เราก็พลอยสุขใจไปด้วย
ผมสั่งบะหมี่ต้มยำ และตามด้วยต้มยำแห้งอีกชาม ภรรยาสั่งวุ้นเส้นต้มยำ ส่วนลูกไม่ชอบเผ็ด เล่นบะหมี่น้ำแทน สงสัยว่าทำไมภรรยากินแค่ชามเดียว เขาบอกจะไปกินขนมจีนต่อ โหห มีก๊อก 2 เสียด้วย ส่วนลูกของเงินไปซื้อไข่นกกระทาทอด 2 กระทง
                และแล้วก็เป็นไปตามคาด กลับมาจากตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง พร้อมกับของกินเต็มสองมืออีกเช่นเคย หากเป็นเช่นนี้นานเข้าเห็นทีจะไม่ได้การเสียแล้ว เพราะวันอาทิตย์วันเดียวทำหนักหนักผมขึ้นราว 1 กก แต่พอจันทร์-เสาร์ ผมลดลงได้แค่ครึ่ง กก เอง มันจะเกิดการอ้วนสะสม ยิ่งนานเข้ามันยิ่งลดลำบาก นี่ก็เริ่มจะยากมากขึ้นแล้วด้วยนะ
                เอารถจักรยานออกมาจัดการเสียหน่อย จอดทิ้งไว้ให้แห้งเองตั้งแต่คืนวันศุกร์ฝนตกเฉอะแฉะมาก ไอ้ผ้าคลุมกระเป๋านี้เป็นตัวปัญหาเลยนะ นอกจากจะไม่กันน้ำเข้าแล้ว มันยังกันน้ำออกอีกด้วย แถมกักโคลนไว้บริเวณขอบยางยืดอีกด้วย ยังดีหน่อยตรงที่ล้างง่าย แห้งเร็ว 
                วันนี้ตลอดวันอยู่บ้านมีแต่กินๆ ๆ ใครซื้อขนมมาแล้วไม่ชอบก็ยกให้ผมจัดการเสียหมด แหม เล่นของทอดเสียด้วย น้ำหนักไม่ขึ้นก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วนี่ เข็ดแล้วครับ ไม่เอาอีกแล้ว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #9 on: October 13, 2009, 12:54:01 pm »
12 ตค 52
   อ่านเวปจักรยาน เห็นคนจะนำเข้ารถ Fuji เขาบอกมาจากอเมริกา ผมไม่แน่ใจว่าแบรนด์ของอเมริกา หรือว่า Made in อเมริกากันแน่ หรืออาจถูกทั่งข้อ ก และข้อ ข ก็เป็นได้
   ผมคาดเดาอย่างคนไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ค้นหาข้อมูลเช็ค แต่ชื่อ Fuji ไม่น่าจะเป็นของอเมริกา มันเป็นชื่อภูเขาไฟของญี่ปุ่น ถ้ามันชื่อยี่ห้อ Grand Canyon ก็ว่าไปอย่าง และรถคันนี้บอกตามตรง ผมคิดว่ามัน  Made in China ชัวร์ๆ คนขายเขาบอกยังไม่แน่ในเรื่องราคา เพราะต้องขนส่งมาจากอเมริกา อืมม หรือว่าเขาอาจสั่งตรงมาจากอเมริกาจริงๆ ก็ได้นะ อย่างไรแล้วเขาต้องรู้ดีกว่าผมแน่นอน
   แต่รถของ Fuji เขาผลิตอยู่ 3 แห่ง คือ จีน ไต้หวัน และโปแลนด์
   เอ้า ไหนๆ ก็คุยถึง Fuji ตัวนี้กันแล้ว ขอจำขี้ปากฝรั่งมาเล่าต่อให้อ่านกัน ผมไม่ได้เคยขี่เองหรือใช้งานยาวนานต่อเนื่อง แต่มีเจ้าของเวปจักรยานอันหนึ่งเขาพิมพ์เล่าไว้หลังจากใช้งานไป 15000 ไมล์ เป็นการใช้งานแบบเต็มที่ บรรทุกของจริงจัง ใช้เดินทางจริงจัง ผลออกมาดังนี้
   ล้อ ดุม ซี่ลวด ชุดเฟืองหลัง โซ่ บันได Stem แร็ค  – ห่วย
   เฟรมช่วงหลังสั้นไปหน่อย (รถทัวริ่งแท้ๆ เฟรมช่วงหลังจะยาว)
   เฟรมแคบเกินไป ใส่ได้แค่ยาง 700 X 32
   โหห นี่มันเกือบจะครบรอบคันแล้วนะครับนี่ ตกลงมันเป็นรถที่ใช้ได้ดีแค่เฟรมและชิ้นส่วนหลักๆ หรืออย่างไรกัน หรือว่าจะเป็นรถที่ออกแบบมาให้เราซื้อเพื่อมาอัปเกรดภายหลัง
   หึหึ พวกนักแต่งรถคงจะชอบ แต่พวกที่ชอบขี่เดิมๆ แบบผมคงส่ายหน้า
   แต่หนังสือจักรยานบางเล่มก็ให้ผลทดสอบออกมาว่ามันโอเคดีนะ คือมันสมราคาไง ไม่แพงมากนัก ไม่มีอะไรเสียมากนัก (แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่ามีอะไรดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆ )
   แต่ถ้าไปถามพวกนักเดินทาง พวกใช้รถจริงจัง ก็จะได้คำตอบแบบข้างต้นตามที่ผมไปอ่านและจำขี้ปากเขามาเล่าต่อ
การอ่านหนังสือใดๆ หรือเวปใดๆ จะไปปักใจเชื่อว่ามันคือความจริงเสียทีเดียวนั้นไม่ได้หรอกครับ เรียกว่าเก็บเป็นข้อมูลไว้จะดีกว่า คือเชื่อหน่อยๆ เพราะเราไม่รู้ว่านิตยสารเล่มนั้นเขาขายตัวหรือเปล่า (ขายตัว – หมายถึงเขียนเชียร์พวกที่ลงโฆษณา) และนักทดสอบในเวปนั้นๆ เขามีสไตล์การขับขี่เป็นเช่นไร เขาใช้งานเหมือนเราหรือไม่
                 ไม่แน่ หากให้ผมทดสอบ ผมขี่แบบกระหยอง กระแหยง ผลการทดสอบรถ Fuji อาจออกมาดีเลิศก็เป็นได้ เช่น รถใช้งานได้ดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย ลากยาวตลอด 7 วัน ผ่านได้สบายๆ ฯลฯ อะไรก็ว่ากันไป
                อ่านสื่อทุกสื่อ ต้องใช้วิจารณญาณครับ กระทั่งเวปที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ก็ตาม โปรดใช้ใจของตัวเองร่วมตัดสินใจประกอบด้วยอีกแรง
               วันนี้ตลอดวันท้องฟ้าครึ้ม มีฝนตกเป็นระยะ ผมไม่กลัวเปียกฝนแล้ว กลับชอบเสียด้วย เลยนำจักรยานออกปั่นกลางวัน แต่ไม่ได้ปั่นเร็ว แค่ปั่นเล่นๆ กลัวล้ม แต่ก็ไปได้ไม่นานนักหรอกครับ ต้องกลับมารับลูกตอนเขาเลิกเรียน ต้องเผื่อเวลาซักผ้าคลุมหน้า ซักชุด เพราะพรุ่งนี้ผมจะขี่อีก
                อย่างที่บอกแหละครับ ขี่กลางฝนผมไม่กลัวเปียก แต่กลัวรองเท้าไม่แห้ง เพราะมีแค่คู่เดียว 
   อ้อ อย่าเพิ่งคิดว่า Fuji Touring เป็นรถที่ไม่ดีนะครับ แค่มันเป็นรถแบบ Entry Level หรือแบบมือใหม่เริ่มต้นคิดจะออกเดินทางเท่านั้นเอง
   เหนือสิ่งอื่นใด รถที่ดี ต้องสมกับสัดส่วนสรีระของเราเท่านั้น Fuji Touring คันนี้ใช้ล้อ 700 คนสูงไม่ถึง 175 ซม ยังไม่คู่ควรครับ
   วันนี้ช่วงกลางวันผมยังคงเอาจักรยานออกปั่น แม้ฝนจะตกก็ออก ไม่สนใจเรื่องเปียกแฉะหรือเลอะเทอะอะไรแล้ว คิดแบบนี้คงปั่นแบบหวาดระแวง เลยออกไปลุยๆ ซะให้มันชุ่มฉ่ำ จะกังวลอย่างเดียวก็เรื่องรองเท้าเปียกนี่แหละ กลัวเชื้อราติดเท้าครับ มันต้องอบอับอยู่เป็นเวลานานเสียด้วยสิ ทำไงดี
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #10 on: October 14, 2009, 04:49:31 pm »
13 ตค 52
   เช้าฟิตจัดเลย ตื่นมาวิ่งแต่เช้ามืดตอน 0530 แต่วิ่งไปได้แค่ 2 กม ฝนก็เทลงมาหนัก ที่จริงน่ะฝนตกปรอยๆ ตลอดคืนแล้ว เช้ามาก็ยังไม่หาย กะจะเอาจักรยานออกลุยฝนเล่นแต่กลัวล้ม เพราะมันมืด เลยใช้วิ่งแทน
   วิ่ง 2 กม เหงื่อยังไม่ทันออกเท่าไหร่ รู้สึกพลังยังเหลือ แต่ฝนดันตก ทำอะไรมากนักไม่ได้ จะจัดสวนเล่นก็ยังไม่ได้เลย มันเปียกเลอะเทอะไปหมด เดินไปเดินมา นั่งอ่านหนังสือเล่นแทน
ผมอยากได้รถ Tandem เอามาไว้ขี่เล่นกับลูก อยากได้มานานแล้วล่ะ แต่สองจิตสองใจ เพราะกลัวว่าซื้อมาแล้วจะไม่ค่อยได้ใช้ มันเสียดายตรงนี้ แถมขายต่อก็ปล่อยออกลำบากมากๆ จอดเก็บก็แสนจะเกะกะ ขนย้ายนี่ไม่ต้องห่วงเลย ลืมไปเลย
ค้นหาข้อมูลเจอรถของ Tank (สมัยก่อนจะเขียนว่า Tange ไม่รู้ยี่ห้อเดียวกันไหม) ของเขาเด่นตรงที่จานหน้าหลังอิสระต่อกัน ไม่ต้องปั่นตามกันเหมือน Tandem ทั่วๆ ไป รถของ Tank เป็นแบบ MTB ล้อ 26 นิ้ว
อีกค่ายที่ชอบก็คือ KHS เด่นที่เป็น Tandem พับ ล้อ 20 นิ้ว ดูรายละเอียดต่างๆ แล้วมันเหมือนกับเอา KHS F20-W ของผมมายืดเลย รถผมซื้อมา 2.5 หมื่น ยังคิดแล้วคิดอีก แต่พอเป็น Tandem นี้เขาขาย 4.5 หมื่นบาท !!! มันแพงเพราะอะไรกันหรือครับนี่ อุปกรณ์ที่ติดรถให้มาก็เกรดกลางๆ บอกตามตรงว่าก็งั้นๆ แหละถ้าให้ราคา 3.5 หมื่นบาท ผมยังนั่งเกาหัวคิดแล้วคิดอีกเลย เพราะระบบจานที่เชื่อมหน้าหลังมันเป็นแบบโบราณสุดๆ แบบปั่นตามกันอยู่เลย รถยุคใหม่หลังปี 2000 มาแล้ว น่าจะใช้ของใหม่ๆ ได้แล้ว
แม้จะอยากได้ แต่เจอราคาแบบเพชรฆาตอย่างนี้ หากจะซื้อจริงๆ เห็นทีจะต้องหาจากแหล่งอื่น แม้ในใจลึกๆ อยากจะซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องก็ตาม
   แต่คงจะยังอีกสักพัก ผมอยากได้แบบจานหน้าหลั้งไม่ต้องปั่นตามกัน

14 ตค 52
   ตื่นแต่เช้าจะมาวิ่ง แต่วิ่งไม่ได้ ฝนมันตก ตอนสายฝนหาย เอาจักรยานออกปั่น ช่วงนี้ใช้แต่รถ KHS HT คันเก่าแก่ แต่ยังขี่ดีมาก อุปกรณ์ทุกอย่างยังใช้งานได้ดีเยี่ยม ไม่ต้องเปลี่ยน ไม่ต้องอัปเหมือนพวกวัยรุ่นแต่งรถเขาทำ ของเก่าๆ มันก็จะดีเด่นตรงความทนทานนี่แหละครับ และนี่คือหัวใจของการทำรถแบบทัวริ่งเชียวล่ะ
   ช่วงบ่ายเข้าบ้านมาเจอฝนกลางทางครับ รีบจอดรถใส่เสื้อกันฝน เปลียนรองเท้า แหม แต่งเสี่ยดิบดี ปั่นไปได้หน่อยเดียว ฝนหายเสียแล้ว เลยจอดรถถอดเสื้อกันฝน เปลี่ยนรองเท้ากลับ แต่ก็อีกนั่นแหละ ไปได้อีกสักพัก ฝนตกอีกแล้ว
   เฮ้ยย เอาไงวะ
   มันตกปรอยๆ สลับหนาเม็ดบ้าง และหยุดตกบ้าง ช่วงฝนตกก็โอเคดี แต่พอฝนหยุดแล้วมันร้อนไปหน่อย นี่ขนาดใช้เสื้อกันฝนอย่างดีมากๆ แล้วนะครับนี่ เป็นเพราะตอนปั่นจักรยานเราเหงื่อออกมากมั้ง เพราะตอนผมใส่คลุมแม้ฝนไม่ได้ตกก็ไม่ได้รู้สึกร้อนจนน่ารำคาญนัก
   มีช่วงหนึ่งของเส้นทางผมปั่นขึ้นบนทางเท้า ไปเจอกับขอบฝาท่อที่มันยกสูงขึ้นมาราว 1 นิ้ว ไม่ใช่ปัญหาด้านความสูงหรอกครับ แค่นี้ล้อผ่านได้สบายมาก แต่เป็นมุมการวางตำแหน่งของฝาต่างหาก คือมันไม่ได้วางขวางโดยตรง มันวางเอียงๆ ผมปั่นท่ามกลางคนเดินเท้าด้วย มาเจอฝาท่อแบบกระทันหัน ล้อหน้าผมไต่แนวขอบท่อไปได้ แต่ล้อหลังมันลื่นแฉลบครับ เท้าก็ติดคลิปไว้ ไม่ได้ตกใจอะไรหรอก ผมทรงตัวได้ รถปัดเป๋ไปทางซ้ายตามมุมฝาท่อที่เอียง รีบเทน้ำหนักมายังด้านหน้ารถ ปล่อยให้ท้ายรถมันไถลไป คุมบาลานซ์รถด้วยแขนสองข้างอย่างเดียว รถมันเสียอาการ อย่างไปฝืนมัน พอรถหยุดไถลนั่นแหละกริปถึงมา ทีนี้ก็ปั่นต่อได้ เทน้ำหนักมาด้านหลังได้เต็มที่เลย
   กลับมาบ้านด้วยความหิวโหย ตอนปั่นผ่านร้านอาหารข้างทางแต่ละร้านคนแน่นเต็มไปหมด โดยเฉพาะร้านดังๆ นี้คนยืนออแน่นหน้าร้านกันเลย เราไปกับจักรยาน มันไม่สะดวกตอนกินอาหารเลยแม้แต่น้อย ยกเว้นไปกันเป็นกลุ่ม จะดูเหมือนได้อภิสิทธิ์ แม้ค้ามักจะใจดีเห็นพวกเราปั่นมาไกล ให้ข้าวเต็มจานเลย
   อ่านเวปจักยานเจอกระทู้เกี่ยวกับเทคนิคการใช้เต้นท์ในการออกทัวริ่ง เลยเข้าไปแจมกับเขาสักหน่อย ตอบๆ ไปก็สนุกดีครับ ส่วนใหญ่เป็นประสพการณ์ตรงของผมจริงๆ ที่พบเจอมากับตัวเอง สนุกดีครับ เป็นการแบ่งปันแง่คิด มุมมอง ทรรศนะ อย่าไปเรียกมันว่าความรู้อะไรเลย มันเป็นเรื่องของประสพการณ์มากกว่า ใครใช้บ่อยก็จะสัมผัสถึงได้มากกว่าคนอื่นเขา ก็เท่านั้นเอง
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #11 on: October 15, 2009, 04:02:39 pm »
15 ตค 52
   ฝนตกอีกแล้ว เลยไม่ได้ทั้งวิ่งและปั่นจักรยาน เอารถมาฉีดน้ำยาหล่อลื่นโซ่ ที่ผ่านมาโดนฝนมาหลายงาน ไม่เคยล้างเลย วันก่อนปั่นแล้วมีเสียงดังเอี๊ยดๆ โหห แปลว่าเราละเลยมันมามากแล้วนะนี่
   เช้าดูทีวีช่อง 3 สรยุทธอ่านคำว่า Hollywood ว่า ฮอ ลี หวูด แล้วก็พูดใหม่อีกครั้งทันทีว่า ฮอ ลี วู๊ด เหมือนกับว่ามีทีมงานคอยกระซิบบอกสคริป
   เอ๊ะ นี่มีทีมงานช่อง 3 มาอ่าน Diary ของผมบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ อ่านออกเสียงผิดกันก็เป็นแค่สำเนียง มันไม่ใช่ภาษาไทย ไม่ค่อยมีใครถือสากันนักหรอก แต่ไอ้ที่ผิดหนักๆ จนกระทั่งผิดความหมายก็คือการออกเสียงชื่อห้าง Fashion Island ว่า แฟ ชั่น ไอ้ส แลนด์ (Fashion Ice Land) Island แปลว่าเกาะ ออกเสียงว่า ไอ เลิ่น หรือ จะ ไอ แลนด์ ก็โอเค คล้ายๆ กัน
   กลางวันผมต้องขับรถกระบะคนงานไปส่งของ รถคันนี้ผมตั้งชื่อว่า Die Hard เพราะมันเป็นรถที่โทรมสุด ไม่ค่อยมีใครอยากขับคันนี้กันเลย เริ่มจากเบาะนั่งมีนอตยึดไม่ครบ เลี้ยวหรือเบรกแล้วเบาะจะแกว่งๆ ไปด้วย คล้ายเล่นเครื่องเล่นใสสวนสนุก เบาะนั่งด้านซ้ายฟองน้ำทะลุเป็นรูโบ๋กว้างใหญ่ หากมีคนนั่งไปด้วยต้องใช้กระดาษหนาๆ รองก้น ไม่งั้นจมลงไปบนเหล็กสปริง เป็นรถเคยมีแอร์ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ แต่มันเสีย เปิดไม่ได้ ลมไม่ออก รถคันนี้ไม่มีพวงมาลัยเพาเวอร์ กระจกเป็นแบบมือหมุน อันนี้ผมไม่แคร์เลย แต่กระจกมันเป็นคราบกาวจากฟิล์มกรองแสงเต็มไปหมด คนงานลอกฟิล์มออกแต่เช็ดคราบกาวออกไม่เป็น
   ยังไม่หมด มีอีกเยอะ กุญแจไขประตูด้านคนขับไม่มี เป็นรูโบ๋ หากจะเข้ารถ ต้องไปไขด้านคนนั่ง แล้วมุดเข้ามาขับ วงพวงมาลัยเปื่อยยุ่ย จับแล้วเหนียวมือ คลัตช์ผิดปกติ ไม่เชิงคลัตช์หมด แต่ปล่อยคลัตช์ออกตัวแล้วรถสั่นสะท้าน เบรกทำงานไม่ครบ 4 ล้อ กดเบาๆ ไม่อยู่ ต้องกระทืบแรงๆ ถึงจะตอบสนองไวหน่อย
   ขากลับผมขับไปทับของบางอย่างแล้วติดล้อมา ได้ยินเสียงแต๊กๆ ตามรอบล้อที่หมุน จอดรถดูได้ยินเสียงฟู่ๆ ดังมาก พบว่าเป็นตะปูเกลียวปล่อยตัวใหญ่ คล้ายกับหลุดออกมาจากบานพับเฟอร์นิเจอร์ เลยรีบขับกลับบ้านทันที แต่ยังไม่ทันถึง ไปได้แค่ 1 กม ลมก็ออกจนหมดล้อ
   เอารถเข้าข้างทาง เตรียมทำการเปลี่ยนยาง แต่ยางอะไหล่มันไม่มี เลยตัดสินใจขับบดยางกลับบ้าน เห็นว่าแค่ 1 กม กว่าๆ และยางรถกระบะแก้มมันหนา ล้อก็กระทะเหล็ก คงไม่เป็นอะไร
   ถึงบ้านก็ถอดยางไปปะ ถึงร้านยางก็ตกใจมาก เพราะผมขับบดมาจนแก้มยางด้านในโดนครูดเป็นแนวยาวถึงชั้นผ้าใบ ยางเสียดสีกันจนหลุดลุยเป็นผงๆๆ หยิบออกมาได้หลายกำมือ หากนำแก้วมาตวงก็คงจะสักครึ่งลิตร
   ผมโทษตัวเองที่ทำให้ยางเสียหาย จากที่จะเสียเงินแค่ค่าปะยาง 100 บาท กลายเป็นต้องซื้อยางเส้นใหม่ 1400 บาท
   แต่ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงจะโทษว่ายางมันเก่าแล้ว ขับบดไปหน่อยเดียวมันก็พังเอง มันหมดอายุของมันเองแหละ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ไม่ขับบดกลับมา แล้วจะให้ทำยังไง รอให้คนมาช่วยหรือ
   อืม มนุษย์มักไม่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด – กฏข้อที่ 1 ของความเป็นคน
   บ่ายท้องฟ้ามืดครึ้มอีกแล้ว พิพม์เล่ายังไม่ทันขาดคำ เทลงมาอย่างหนักเลย ฮ่าๆ ผมอยู่ฝั่งธนฯ เลยไม่ค่อยรู้ว่าทางฝั่งพระนครเขาฝนตกหนักเพียงใด เห็นภาพน้ำท่วมแถวศรีนครินทร์แล้วตกใจ ไม่ได้เห็นแบบนี้มานานมากๆ สมัยก่อนสิ ฝั่งธนฯ นี้ฝนตกนิดเดียวก็ท่วมแล้ว เพราะพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยานั้นต่ำมาก ปัจจุบันเขาทำเขื่อนและทางเดิน (และปั่นจักรยานก็ได้) เลียบแม่น้ำ สวยงามดีมากๆ แต่ไม่ค่อยมีใครดูแล ผมชอบไปปั่นจักรยานมักเจอบ่อยอยู่ไม่กี่อย่าง คือขวดเบียร์ กระป๋องเบียร์ เศษอาหารและภาชนะ สุดท้ายคือ ขี้หมา
   Amazing Thailand
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #12 on: October 16, 2009, 04:30:44 pm »
16 ตค 52
   งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 14 เริ่มเมื่อวานนี้เป็นวันแรก จัดตั้งแต่ 15-25 ตค ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ อันที่จริงในงานเขาก็ไม่ได้ลดอะไรกันเยอะนักหรอก แค่ราว 10 – 15% สำหรับหนังสือใหม่ แล้วแต่ค่ายด้วยนะ แต่ที่ผมชอบไปก็คือเราได้ดูความหลากหลาย ได้คุ้นค้นหาหนังสือเก่าๆ ที่ชอบมากคือหนังสือต่างประเทศลดราคากระชากใจ เคยเจอลดแบบ 80% สุดยอดเหลือเกิน เล่มหน้าปึ๊ก ปกแข็ง กระดาษอย่างดี ภาพสีทั้งเล่ม หนักมากๆ เหลือแค่ 60 บาท แจ๋วๆ ๆ
   เคยเจอหนังสือเกี่ยวกับการปั่นจักยานในเวียดนามด้วย เขียนโดยนักเดินทางฝรั่ง ผมเห็นว่าไกลตัว และยังไม่ได้อยากไปเวียดนาม เลยไม่ได้ซื้อมา ลดราคาแล้วเหลือเล่มละร้อยกว่าบาทมั้ง
   ตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะไปงานสัปดาห์หนังสือช่วงกลางวันนี่แหละ คนน้อยดี พอเอาเข้าจริงฝนตกอีกแล้ว กลัวรถติดครับ เพราะวันนี้เขาปิดซ่อมสะพานลอยไทย-ญี่ปุ่นเป็นวันแรกอีกด้วย ปิดนานถึง 45 วัน ผมจะต้องไปขึ้นรถไฟใต้ดิน และจอดรถยนต์ไว้แถวนั้นพอดีอีกด้วย เลยขอเลื่อนไปก่อน ไว้สัปดาห์หน้าค่อยว่ากันใหม่
   ที่จริงน่ะ เล็งไว้หลายคนว่าเราพอจะปั่นจักรยานไปได้ไหม ไอ้ระยะทางไม่ใช่ปัญหาเลย มันอยู่ที่ๆ จอดรถจักรยานมากกว่า ลำพังให้จอดแล้วล็อคทิ้งไว้ข้างนอกอาคารอย่างที่เคยเห็นกันน่ะผมไม่เอานะ ไม่รอดแน่ๆ ขืนล็อคไว้ก็เหลือแต่เฟรม เผลอๆ หากเจอตัดสลิงก็จะไม่อยู่แม้กระทั่งเฟรม คือไปทั้งคัน
   นี่ถ้าศูนย์ประชุมเขามีที่จอดจักรยานภายในอาคารอย่างดี มีคนเฝ้าตลอดเวลา ก็ดีสินะ หึหึ คงจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากนักจักรยานนี่แหละครับ
   ทุกวันนี้มันมีแต่ผู้ใหญ่เล่นกอล์ฟเต็มบ้านเมืองไปหมด ประเทศก็เลยมีแต่สนามกอล์ฟ
   อย่าให้ผมได้เป็นใหญ่บ้างก็แล้วกัน จะสั่งให้ยกเลิกรถเมล์เล็กกันก่อนเพื่อนเลย เพราะขับกันได้แย่เหลือเกิน เพชรฆาตบนท้องถนนดีๆ นี่เอง มารยาทรามสุดๆ รถไฟฟ้งไฟฟ้าอะไรไม่ต้องทำ หันมาทำรถเมล์ไฟฟ้ากันเสียก่อน ดูแลระบบพื้นฐานกันให้ดีก่อน ทำเขื่อนตลอดสองผั่งแม้น้ำเจ้าพระยา ทำพร้อมไปกับรถรางไฟฟ้าเลียบเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง ทำแบบรางคู่นี่แหละ งบน้อย ทำแค่ฝั่งเดียวก็ได้ แต่ถ้าทำได้ทั้ง 2 ฝั่งจะสุดยอดมากๆ รับรองคนแน่นครับ อันนี้ทำได้จริง ไม่ต้องเวณคืน บรรเทาการจราจรได้เยอะมากๆ แถมเป็นการป้องกันคนรุกล้ำแม่น้ำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพวกบ้านไฮโซ โรงแรมราคาแพงหรูๆ ไอ้พวกนี้แหละ ตัวดีเลย ตามมาด้วยร้านอาหารริมแม่น้ำ มีร้านไหนบอกไม่ทิ้งของลงแม่น้ำบ้าง บอกมาหน่อยซิ อยากเห็นหน้าจริงๆ
   แหม เล่าแล้วชักคัน ถ้าทำได้จริงก็แจ๋วไปเลยนะ เออ นี่มันงานของผู้ว่า กทมฯ เขานี่หว่า เขาก็ต้องบอกใจน่ะอยากทำ แต่ไม่มีงบ ก็เลยจบ โถๆ ๆ ไม่มีงบ ก็หางบสิวะท่าน ตั้งเป็นโปรเจคขึ้นมา ประกวดราคากันตามปกตินี่แหละ ขี้คร้านจะมีบริษัทต่างชาติยื่นซองประกวดกันเต็มไปหมด เราไม่ต้องลงเงินสักบาท แค่ให้เขาเก็บค่าบริการไปสัก 7-10 ปี แล้วแต่จะตกลงกัน หลังจากนั้นพอหมดสัญญา ทาง กทมฯ ก็มาเป็นฝ่ายเก็บต่อเอง
   อ้อ อีกสิ่งที่ควรทำและทำได้เดี๋ยวนี้เลย ใช้เงินไม่เท่าไหร่นั่นคือควบรวมการชำระค่าโดยสารยานพาหนะต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทำเป็นบัตรเติมเงินครับ ใช้ชื่อว่า Bangkok Pass / Bangkok Link หรือชื่ออะไรก็ได้ ทำนองนี้แหละ ควบรวมการจ่ายเงินรถไฟฟ้าใต้ดิน บนดิน รถไฟราง เรือ รถเมล์ ค่าทางด่วน ฯลฯ หรือหากเจ๋งจริงจะพ่วงค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ด้วย ท่านจะพบกับความสะดวกแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน รวดเร็วแบบสุดยอด โอกาสรั่วไหลก็น้อย ไม่ต้องเตรียมเงินสดจ่าย ไม่ต้องทอนเงิน พกแค่บัตรเดียวนี่แหละ ไอ้เรื่อง่ายๆ ทำไมไม่ทำกันว้าาา
   หยุดพัฒนาถนนเพื่อเอาใจคนใช้รถกันได้แล้วครับ หันมาดูคนเดินดินกันดีกว่า เราต้องช่วยเหลือให้คนรากหญ้าสุขสบายก่อน พวกเขาลำบากกันมานาน คนที่มีรถยนต์ใช้ทุกวันนี้ใช่ว่าจะรวยจริงนะครับ เขากัดฟันซื้อก็เพราะหลีกหนีความลำบากในการขึ้นรถเมล์ต่างหาก
   ใครเป็นรํฐมนตรีกระทรวงคมนาคม หรือเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง ผมว่าควรบังคับให้นั่งรถเมล์มาทำงานครับ (เดี๋ยวมันก็ต้องไปแอบซื้อคอนโดฯ ใกล้ๆ ที่ทำงานอีกแหละ ไอ้พวกนี้มันกะล่อน หน้าอย่างมันไม่มานั่งรถเมล์กันหรอก) การที่เราได้ใช้ชีวิตจริงๆ เหมือนชาวบ้าน เราจะพบปัญหาที่คุณไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ เช่น
   รถเมล์เล็กจอดแช่ป้าย จอดซื้อของกลางทาง / รถสองแถวเล็ก กลับมาอีกแล้ว (สมัยก่อนยกเลิกสองแถว ให้เปลี่ยนเป็นรถเมล์เล็กแทน แต่พอทุกวันนี้เอารถสี่ล้อเล็กมาจากญี่ปุ่น ไม่ต้องทำทะเบียนหรอก วิ่งมันแค่แถวนี้ จ่ายเงินให้ตำรวจแต่ละ สน ที่ผ่านก็โอเคแล้ว) แท๊กซี่จอดแช่ป้ายหน้าห้างดังๆ / รถเก๋งจอดทับป้ายรถเมล์ / มอเตอร์ไซค์รับจ้างยึดฟุตบาทเป็นคิวของตัวเอง มีติดป้ายราคาด้วย (เสียภาษีหรือเปล่าครับพี่) ฯลฯ
   ผมกล้าเล่า กล้าบอก เพราะผมนั่งรถเมล์ครับ ไม่ได้นั่งหนเดียวแล้วมาโม้ ผมนั่งติดต่อกันทุกวันเช้าเย็นมาถึง 3 เดือน (หลังจากนั้นก็ยังนั่ง แต่ไม่ได้ทุกวัน) ด้วยความที่อยากรู้ปัญหา เรือผมก็ลง รถไฟฟ้าผมก็ใช้ จักรยานผมก็ปั่น เดินเท้านี้ของถนัดเลย เคยเดินใน กทม ไกลสุดนี้ราว 10 กม เดินอยู่ 1.45 ชม พร้อมเป้หลังขนาดเล็ก
   รถเมล์ที่ผมนั่งมีทั้งร้อนและเย็น แถมยังหิ้วเอาจักรยานขึ้นรถเมล์อีกด้วย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #13 on: October 17, 2009, 04:36:24 pm »
17 ตค 52
   คุยเรื่องบ้านเมืองแล้วคัน เหมือนมันเข้าทางเรา วันนี้คุยต่อเอาเรื่องแท๊กซี่ดีกว่า เพราะแท๊กซี่บ้านเราประหลาดมาก คือมีหลายสี ผมบอกเพื่อนฝรั่งว่ามันเป็น M&M
   ความคิดของผมแท๊กซี่ควรเป็นรถสีขาวครับ และคาดแถบสีแดงน้ำเงิน ทำให้มันเป็นระเบียบ ส่วนสหกรณ์แท๊กซี่ใดจะมีโลโก้ของตัวเองก็ทำมันไว้ที่ข้างรถ กำหนดจุดให้มันเหมือนๆ กัน จะได้เป็นระเบียบและเกิดความสวยงาม
   อู่แท๊กซี่จะต้องดูแลผู้เช่ารถของตัวเองด้วย ไม่ใช่ใครมาเช่าก็ให้เช่าได้ ต้องมีประวัติอย่างดีว่าเคยทำงานอะไรมาบ้าง เพราะทุกวันนี้ที่เห็นแท๊กซี่โหดๆ ฆ่าคน ปล้นผู้โดยสาร ข่มขืน ฯลฯ ส่วนใหญ่มาจากคนที่พ้นคุกออกมาครับ
   ก็ในเมื่อเขาทำงานอะไรไม่ได้ ไปสมัครที่ไหนหากบอกเพิ่งออกจากคุกมา ก็ไม่มีใครรับ แต่พอเช่าแท๊กซี่ขับนี้หมูมากๆ จ่ายเช่า 6 วัน ได้ฟรีอีก 1 วันอีกด้วย ทางอู่เขามีโปรโมชั่นแบบนี้
   คนพ้นคุกกลัวตัวกลับใจก็ดีไป แต่มีบางส่วนไม่ใช่ กลับจำฝังใจแก้แค้นสังคม คือเขาเป็นโรคจิตไปแล้วไง ออกมาก็ก่อเหตุต่างๆ นานา แล้วก็อ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ แต่ทั้งหมดเกิดจากจิตใจตัวเขาเองครับ จะมาอ้างความจนไม่ได้หรอก คนจนจิตใจดีๆ มีเยอะมาก
   ทางภาครัฐต้องหาทางออกให้แค่คนที่พ้นคุก คือต้องมีการติดตาม มีการรายงานตัวอยู่เป็นระยะ พอเขามารายงานตัวเราก็สอบประวัติไปด้วยว่าบ้านอยู่ไหน ทำงานอะไรแล้ว ก้าวหน้าดีไหม มีปัญหาอะไรไหม ฯลฯ คือต้องเป็นที่ปรึกษาให้เขาด้วย ช่วยเขาอย่างจริงใจ ไม่ใช่พ้นคุกแล้วเอ็งก็ไปๆ ซะ จบกันแล้ว
   ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่จุดจบ หากเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขาต่างหากครับ คิดดูให้ดี ลองคิดว่าตัวเองออกจากคุกมา และไม่มีครอบครัว ไม่มีญาติมิตร คุณจะทำอะไรได้บ้าง
   ขอโทษนะ บ้านยังไม่มีอยู่เลย มันก็เลยเป็นสาเหตุของอาชญากรรมต่างๆ ในสังคมเราทุกวันนี้ไง
   อ้อ เรื่องพวกนี้เราสามารถทำได้เลยทันทีนะ ไม่ต้องใช้งบประมาณใดๆ เรื่องแท๊กซี่ก็แค่ออกเป็นกฏหมายว่าปีหน้าต้องเป็นสีขาวพร้อมคาดแถบแดงน้ำเงินตามรูป (อันนี้ให้ทางขนส่งจังหวัดจัดการ) เรื่องเก็บประวัติก็โยนให้เจ้าของอู่จัดการซะ หากไม่ปฏิบัติก็มีบทลงโทษ ก็ว่ากันไป ส่วนเรื่องให้คนพ้นคุกมารายงานตัว ก็ให้เจ้าตัวเขาเลือกสะดวกว่าจะไปรายงานตัวที่ใด (น่าจะเป็นที่ว่าการเขตของแต่ละท้องที่) ให้นักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการแนะแนวที่มีจิตใจดีๆ คุยกับเขาบ่อยๆ ความแข็งกร้าวในจิตใจจะหายไปได้เองครับ
   ง่ายมากเลย เห็นไหมครับ ว่าแต่จะทำกันหรือเปล่าล่ะ
   ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน แถมวันละหลายๆ รอบ ชาวจักรยานอ่วมแน่ถ้าออกทริป แต่ผมชอบนะ มันเย็นดี ผมมองแต่ข้อดีของมันคืออากาศเย็นสบาย จะเปียกบ้างก็ช่าง ถึงบ้าน ถึงจุดหมายก็อาบน้ำซะ (ถ้าทำได้)
   หากเรามองแต่ข้อเสีย เราก็จะไม่ชอบมันครับ เช่น เปียกเลอะเทอะ ลื่นล้มง่าย เบรกไม่อยู่ ขี้เกียจล้างรถ ฯลฯ
   ในเมื่อเราเลี่ยงมันไม่ได้ เราน่าจะอยู่ร่วมกับฝนอย่างมีความสุขนะครับ ตอนแรกผมก็ไม่ชอบ แต่ลุยมาหลายฝนก็เริ่มชอบแล้ว นี่เราคุยกันเฉพาะตอนปั่นเล่นนะ พวกคนปั่นไปทำงานตัวเลอะเทอะมอมแมม อันนี้ยกเว้น เห็นใจจริงๆ เพราะผมเองก็เคยเปียกปอน แต่โชคดีที่เป็นตอนปั่นกลับบ้าน เลยพับจักรยานหิ้วขึ้นรถเมล์มันซะเลย   
แต่ไม่บ่อยนักหรอกนะครับ เกรงใจชาวบ้านเขาน่ะ
   อืม ผู้ว่า กทมฯ น่าจะลองขี่จักรยานจากบ้านมาทำงานดูบ้างนะ
   เฮ้ย ตื่นๆ ๆ ๆ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ตค 52
« Reply #14 on: October 18, 2009, 05:06:43 pm »
18 ตค 52
   เอาเรื่องบ้านเมืองอีกไหมครับ กำลังมันส์ อิอิ
   คุยเรื่องใกล้ตัวบ้านดีกว่า เรื่องการใช้รถใช้ถนนนี่แหละ ปัญหาบนท้องถนนมีมากมาย ส่วนใหญ่จะเกิดจากผู้ใช้รถที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ของสังคม มีคนชอบเอาเปรียบ ขับรถเห็นแก่ตัว ขับแบบหน้าด้านแบบมาเสียบเอาคอสะพาน ฯลฯ
   อบรมไปก็เท่านั้นแหละครับ คือได้แต่ทำ มันไม่อยู่ในจิตสำนึก จะมัวรอให้เทพฯเจ้าที่ไหนมาแก้คงยาก ลองดูวิธีของผม
   อันนี้เป็นงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนเดียวเลยครับ อ้อ โปรเจคนี้ทำได้เลยนะ ไม่ยาก แต่ขั้นตอนเยอะหน่อย
   จัดให้มีวิชาขับรถยนต์ในนักเรียนชั้นมัธยม 6 ครับ คือให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นวิชาบังคับมันซะเลย สอนอย่างถูกต้องและต้องลงสนามจริงด้วยนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องหารถยนต์หรือสนามครับ หากมันบรรจุในหลักสูตรจริง รับรองว่าจะมีบริษัทเอกชนค่ายรถยนต์ดังๆ มาเป็นสปอนเซอร์กันจนหางคิวยาวมาก เพราะมันคือการโปรโมทรถของเขาโดยตรงเลยล่ะ อ้อ เรียนจนจบหลังสูตร ม6 แล้ว ขนส่งก็ออกใบอนุญาติขับขี่ให้ได้ทันทีเลยครับ 
   ผลจากงานนี้ก็คือ เราได้สร้างผู้ขับรถยุคใหม่ขึ้นมาแล้ว เป็นพวกเด็กพัฒนาแล้ว อย่างน้อย พวกเขาก็คงจะไม่เปิดไฟฉุกเฉินขับขณะผ่านสี่แยกหรือขับท่ามกลางสายฝน ไม่มาขับเอาเปรียบมาเบียดผู้อื่นที่คอสะพาน
   ผลต่อเนื่องยังมีอีกครับ คือพวกโรงเรียนสอนขับรถข้างถนนที่มาตรฐานต่ำจะค่อยๆ หมดไป ไอ้พวกนี้มันสอนขับพร้อมพาไปสอบใบขับขี่ พอไปสอบก็ยัดเงินเจ้าหน้าที่ขนส่ง คือไปสอบพอเป็นพิธี แค่ทำเอกสารเท่านั้น เป็นแบบนี้มานานแล้วล่ะ ยุคเก่าๆ นี้หากใครไม่ยัดเงินถึงขั้นไม่ผ่านกันเลยทีเดียว นี้คือเรื่องจริง ทุเรศไหมครับ
   อาจจะพ่วงวิชามอเตอร์ไซค์ไปด้วยก็ยังไหว หรือหากเวลาไม่พอ ก็เปิดเป็นคอร์ส Summer ช่วงปิดเทอมซะ (ค่อยๆ ดูกันไป หลักสูตร Summer อาจจะสั้นไปหน่อย แต่ก็ดีตรงที่มีบริษัทเอกชนยินดีอบรมสอนให้ฟรีแน่ๆ)
   จะอย่างไรก็แล้วแต่ คือผมอยากให้มันมีการเรียนการสอนขับรถโดยสถานศึกษาหลัก ผมว่าวิธีนี้แม้จะแก้ปัญหาการขับรถงี่เง่าไม่ได้ 100% แต่หากใครมีวิธีอื่นที่เจ๋งกว่า โปรดช่วยเปิดสมองผมด้วยครับ
   ดูข่าวทีวีเกี่ยวกับเมืองปาย แม่ฮ่องสอน เป็นเรื่องของการไล่ที่ค้าขายของชาวเขาที่ค้าขายกันมาหลายปีตั้งแต่ก่อนปายจะโด่งดังเหมือนทุกวันนี้ ทางฝ่ายคนไล่ก็บอกว่าถนนนี้แคบ อันตราย จะให้ย้ายไปอยู่ที่ๆ จัดไว้ให้ จะได้รวมเป็นแหล่งของชาวเขา ดูดีไหมครับ
   ทางฝั่งชาวเขาก็บอกว่าที่ๆ จัดไว้ให้ไม่มีคนเดินผ่านเลย มันขายของไม่ได้ ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ คือย้ายแล้วขายไม่ได้ เขาก็เลยไม่ย้าย
   มันยังไม่จบเท่านั้น เพราะเมืองปายมันเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งอันตรายนะ มันจะขยายแบบไม่มีขอบเขต จะมีคนนอกพื้นที่เข้ามาหากินแทนที่คนท้องถิ่น แน่นอน อาชญากรรมก็จะต้องตามมา
   เห็นแล้วเสียดายนะ ผมยังไม่เคยไปเยี่ยมชมเลย อยากไปสักครั้งก่อนที่มันจะเละเทะไปกว่านี้
   วันนี้ผมพาภรรยาและลูกไปดูหนังในโรงภาพยนต์เรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ผมเฉยๆ กับหนังและโรงหนัง ออกจะไม่ชอบเสียด้วยซ้ำไป แต่ภรรยากับลูกเขาอยากดู เลยตามใจเขาสักหน่อย
   ผมดูหนังในโรงเรื่องล่าสุดคือสุริโยทัย หึหึ ก่อนลูกผมเกิดอีกครับ นานมากๆ มาวันนี้ได้ดูในโรงที่สวยใหม่ ที่นั่งเป็นแบบโซฟาปรับเอนนอนได้ แต่ที่ชอบสุดคือไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง ไม่ได้ยินเสียงคนคุยกัน และสุดยอดของผมก็คือไม่มีใครคอยเอาเท้ามาเตะด้านหลังเบาะ
   หนังสนุกดีครับ ผมชอบบท การวางพลอทเรื่อง การขมวดปมของปัญหา และการลำดับเรื่อง แต่แปลกที่เคน ธีรเดชเขาเป็นพระเอก กลับไม่เด่นนัก สู้นางเอกชื่อคริส หอวังไม่ได้เลย (ความเด่น) ผมไม่แน่ใจว่าเธอชื่อ คริส นามสกุล หอวัง หรือชื่อจริงว่า หอวัง ชื่อเล่นชื่อคริสก็มิทราบได้
   ผมว่าเธอน่ารักดีนะ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride