racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on September 02, 2009, 02:42:25 pm

Title: กย 52
Post by: O'Pern on September 02, 2009, 02:42:25 pm
1 กย 52
   วันนี้มิวลูกชายผมเปิดเทอมวันแรกครับ ดูเขาดีใจที่จะได้พบเพื่อนๆ ผมเองก็ดีใจที่เขาเติบโตขึ้นทุกวันๆ เฝ้ามองดูตั้งแต่วันแรกที่เกิดมาจนถึงวันนี้ใกล้จะ 8 ปีแล้ว ผมรักและเอ็นดูเขาเหลือเกิน มีบ้างที่ดุว่า บางครั้งก็โมโห แต่ว่างๆ ก็มาคิดได้ว่าบางครั้งเราเองก็โมโหจนเกินไป จนหลายปีหลังผมใจเย็นกับลูกมากขึ้นเยอะ เลี้ยงแบบสบายๆ มีกฏ แต่ก็ไม่เคร่งครัด จนกลัวว่าบางครั้งจะกลายเป็นส่งเสริมให้เขาไม่มีระเบียบวินัยเกินไปหรือเปล่า
   แต่ผมชอบชีวิตอิสระ ก็เลยให้อิสระแก่เขาในทุกๆ ด้าน ความอิสระนี้คือความโล่ง โปร่ง จิตใจเราจะสบาย ไม่ผูกมัด ไม่มีขีดจำกัด ฝรั่งเรียก Freedom 20 กว่าปีก่อนโน้นไทยเราเสือกเอามาตั้งเป็นชื่อผ้าอนามัยโกเต๊กเสียนี่ จำได้ว่าชื่อ Kotex New Freedom ไอ้เวร ทำเสียมู๊ดหมดเลย
   กลางวันผมมีประชุมตลอดจรดเย็นอีกแล้ว แค่ไปรับลูกตอนเลิกเรียน เขาบอกอยากกินร้าน MK ผมก็โอเคกับเขาไปด้วย ทานกันที่เซ็นทรัลพระราม 2 แถวบ้านนี่แหละครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 03, 2009, 06:32:13 pm
2 กย 52
   วันนี้นึกคึก เอาจักรยานออกปั่นกลางวัน แต่ไปไม่ได้ไกล ไม่คุ้นอากาศแบบนี้เลย คือแดดแรงสลับกับมืดครึ้มเป็นช่วงๆ ไม่มีลม แต่กลับอบอ้าว ขี่ไปแค่ไม่กี่ กม ก็วกกลับบ้าน ไม่รู้เป็นอะไร มันนึกไม่อยากขี่ขึ้นมาอย่างนั้นแหละ
   กลางทางเจอคนมาคุยด้วย เข็นรถเข็นมา เป็นชายกลางคน ผอม สูง หน้าตาดูจีนๆ หน่อย เขาถามผมว่าพรุ่งนี้ตรุษจีนหรือ ผมบอกไม่ใช่
สาร์ทจีนหรือ
ผมบอกใช่
อ้าว ไม่ใช่ตรุษจีนหรอกหรือ
ไม่ใช่
แล้วเมื่อไหร่ตรุษจีน
อีกหลายเดือน
แล้วเมื่อไหร่สาร์ทจีน
ผมไม่ได้ตอบ มองหน้างงๆ
กลายเป็นว่าผมไปคุยเอากับคนบ้าเข้า มิน่า ชาวบ้านแถวนั้นต่างมองผมกันใหญ่
คนบ้า คนสติไม่ดี แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้เป็นอันตรายต่อใครในสังคมนี้ผมก็เฉยๆ นะ ดูภายนอกแล้วเขาก็ยังเป็นคนเหมือนเรา แต่จิตใจเขานี่สิ ผมว่าใสบริสุทธิ์กว่าพวกโจรขโมยเยอะมากๆ พวกนั้นดีแต่ภายนอก
ตอนบ่ายผมดูเวปของ TCC เห็นน้าเป็ดชวนปั่นจักรยานที่เขาใหญ่ อ่านแล้วตาลุกโพลง ผมไม่เคยไป อยากไป แต่เขาไม่ค้างคืน ผมอยากค้าง อยากนอนเต้นท์ ฝนตกก็ไม่กลัว เขาไปเช้าเย็นกลับกัน แต่ถ้าผมไป ก็คงจะต้องค้างคืนแน่ๆ
เมื่อก่อนผมไปแถวเขาใหญ่บ่อย มีบ้านอยู่มวกเหล็ก สระบุรี แต่ไม่เคยขึ้นเขาใหญ่สักที อย่างเก่งก็แค่ไปทานอาหารแถวๆ นั้น แถมนานๆ ไปทีเสียด้วย ปกติแล้วมักจะทำอาหารทานกันเองในบ้าน ที่สระบุรีผมปลูกพืชผักสวนครัวไว้เยอะเลย ซื้อเมล็กผักชีมาถุงละ 15 บาท โรยทิ้งๆ ไว้ที่คอกวัวเก่า นึกจะกินก็ไปเด็ดมา ไม่ค่อยได้รดน้ำอะไรนัก ใครมาเที่ยวบ้านผมก็มักจะยัดผักสดๆ ติดมือกลับไปบ้าน จนสุดท้ายกินไม่ทัน มันโตเยอะเหลือเกิน ไปเรียกเพื่อนบ้านที่เขาขายของส่งตลาดมาช่วยเหมาไปที เราเก็บไปเกือบหมด ให้ผมมา 800 บาท ตกใจสิ อะไรวะ ขายผักชีได้ถึง 800 บาทเลยหรือ ต้นทุนแค่เมล็ดพันธ์ถุงละ 15 บาทเอง
เดือนต่อมาพ่อค้ามาหาที่บ้าน ถามหาผักว่ามีอีกไหม ผมตอบไม่มี ชุดใหม่ยังไม่โต (ปลูกแบบอื่นบ้างเช่นถั่วผักยาว กระเพราแดง พริก ฯลฯ) ผมสอบถามแม่บ้านว่าเขาไปขายได้เท่าไหร่ แม่บ้านบอก 1500 บาท
โหห มันแค่มาตัดๆ แล้วไปส่งตลาด ได้กำไรถึงเท่าตัว นี่มันได้เยอะยิ่งกว่าผมอีกนะนี่ ผมต้องใช้พื้นที่ปลูก ต้องใช้เวลาเลี้ยงมันให้โต แถมปลอดสารพิษแน่ๆ ปลูกเองกับมือ หลังๆ เลยไม่ขายพ่อค้าแล้ว จับแบ่งเป็นมัดๆ แล้วแจกชาวบ้านแถวนั้นนั่นแหละ
เออ ว่าแล้วก็คิดถึงบ้านหลังนี้เหมือนกันนะ ไม่ได้ไปนานมากๆ เป็นเดือนแล้ว ตอนหน้าหนาวอากาศดีสุดยอดเลย เพราะอยู่ท่ามกลางป่าเขา แถมทำเลยังอยู่บนยอดเนินเขาลูกเล็กๆ ลมแรงตลอดวัน กลางคืนไม่ต้องเปิดแอร์ แถมต้องเปิดหน้าต่างแค่แง้มๆ พร้อมกับห่มผ้านอน กลางวันต้องใส่เสื้อแขนยาว ไม่งั้นลมพัดจนจะเป็นหวัดเอา
สะใจดีไหมครับ

3 กย 52
   เช้านี้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วดีใจ เจอข่าวกรอบเล็กๆ เกี่ยวกับช้าง ทำนองว่าจะปรับปรุงวิธีการดูแลจัดระบบการเลี้ยงช้างใหม่ เพื่อแก้ปัญหาควานช้างตกงาน และพาช้างเร่ร่อนเข้าเมือง
   ดีใจครับ ดีใจมากด้วย เจ้าหน้าที่รัฐคิดเห็นตรงกับผมอีกแล้ว จะว่าไปก็ตรงกันหลายเรื่องแล้วนะครับนี่ ผมคิดเรื่องราวเกี่ยวกับการเมือง สังคม สิ่งแวดล้อมมาหลายอย่าง แต่เพิ่งจะมาเขียนไดอารีลงเวปก็ปีนี้ เห็นแบบนี้ยิ่งมีกำลังใจเขียนครับ ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าจะมีใครนำข้อความของผมไปใช้ แต่มันกลับภูมิใจเสียนี่ ก๊อปไปเถิดครับ ก๊อปไปเยอะๆ เลย หากไม่เข้าใจ หรือต้องการต่อยอดไอเดียมาถามผมโดยตรงก็จะยิ่งยินดีครับ ผมอยากทำงานการเมืองอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากลงสมัครเลือกตั้งแค่นั้นเอง ยินดีเป็นที่ปรึกษาให้หน่วยงานต่างๆ ค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง ฟรีครับ ขอให้ประโยชน์ตกแก่ประชาชนโดยรวมเป็นใช้ได้
   อ่านข่าวแพนด้าแต่ละอย่างแล้วหดหู่ใจครับ ล่าสุดจะมีการจัดวันเกิดครบ 100 วัน กูจะบ้าตาย หันมาดูพญาช้างของไทย ช้างไทยสีขาวเราเคยอยู่บนธงชาติพื้นแดงมานาน ช้างคือสัตว์ชั่นสูงของไทย แต่มันมีคนนำพญาช้างมาเดินขอทาน ที่สุดทนกว่านั้นคือมีในกรุงเทพฯเป็นสิบๆ เชือก และตำรวจมองไม่เห็น แต่พอมอเตอร์ไซค์ขับไม่ชิดซ้ายหน่อยเดียว ตำรวจแม่งเห็นชัดเจน พอเจอคนต่างด้าวบ่ายวันอาทิตย์ตามห้างชานเมืองตำรวจแม่งรู้ได้ เก่งฉิบหาย เจอเป็นต้องขอตรวจค้น
   ผมโครตจะระอาตำรวจไทยเลยครับ ไม่ต้องมีวงเล็บว่าบางคนหรอก ผมคุยกันแบบภาษาพูดนี่แหละ
   “จับมอเตอร์ไซค์ ไถต่างด้าว ข่มเหงผู้อ่อนแอกว่า” สโลแกนนี้ผมคิดขึ้นเอง ใครจะทำไม
   คุยเรื่องตำรวจแล้วโครตหงุดหงิด เดี๋ยวจะพิมพ์เล่าได้หลายสิบหน้า คุยเรื่องช้างต่อ
   ที่ทุเรศสุดในสายตาผมก็คือการนำช้างมาทาสีเป็นแพนด้า คนไม่คิดอะไรมากก็ขำกันไป ตลกกันไป แต่ไม่ใช่ผม พญาช้างในสายตาผมคือพาหนะของกษัตริย์ เป็นสัตว์ที่สูงกว่าคนระดับธรรมดาทั่วไปด้วยซ้ำ เอากันจริงๆ ช้างทรงของในหลวงมีค่าเสียยิ่งกว่าชีวิตของผมหรือคุณๆ กันเสียอีกด้วย
   เห็นช้างสีแพนด้าแล้วโครตจะเศร้าเลยครับ คนไทยกันเองแท้ๆ แต่กลับไม่สนใจสัตว์เอกลักษณ์ของไทย สนใจหมีแพนด้า โธ่ กูจะบ้าตาย
   คนไทยบ้าของนอกครับ ผมเองทราบข้อนี้ดี บ้าเอามาก จนโดนเขาหลอกไม่รู้ต่อกี่เรื่อง หลังๆ กลายเป็นเต็มใจให้หลอก คือหลอกตัวเอง เอาเข้าไป
   กรุงเทพฯมีกฏหมายห้ามช้างเร่ร่อนมานานแล้ว แต่ทำไมจับควาญช้างไม่ได้ ก็ต้องไปถามตำรวจเอา (เอาอีกแล้ว วกเข้าตำรวจอีกแล้ว เห็นไหมๆ )
   คนรุ่นเก่าคนแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะมีสารพิษอยู่เต็มตัว เต็มสมอง สูดดมแต่ควันพิษ กินแต่เหล้า เอาแต่อบายมุข หันมาดูแลคนรุ่นใหม่กันดีกว่าครับ ก็ต้องเริ่มที่โรงเรียนและบ้าน
   โรงเรียนดีๆ มีชื่อเสียงนั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว ต้องดูที่นโยบายและสไตล์การสอนอีกด้วย และยิ่งกว่านั้นทางบ้านต้องดูแลเด็กให้สอดคล้องกับแนวทางการสอนของโรงเรียน นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ควรทำ
   ทุกคนล้วนอยากให้ลูกเป็นคนดี ไม่เห็นยาก ก็ทำความดีให้ลูกดูสิ ตัวเองขับรถยังไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ขับไปด่าไป แล้วลูกโตขึ้นมันจะมีลักษณะเหมือนใคร เคยคิดบ้างไหม
   ยังมีอีกพวกที่พอลูกหย่านมก็ส่งให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงดู ส่วนตัวเองสามีภรรยาก็ทำงานกันไป มีสังคมส่วนตัวกันไป แบบนี้ลูกโตขึ้นจะเป็นอย่างไร เด็กจะดีหรือไม่มันมิได้อยู่ที่ตัวเด็กเอง มันอยู่ที่วิธีการเลี้ยงดู และสังคมของเด็กด้วย
   คนไทยเรายังเลี้ยงลูกกันไม่เป็นครับ
   ที่เห็นเลี้ยงกันอยู่ทุกวันนี้คือเลี้ยงแค่ให้มีชีวิตรอด มิได้เลี้ยงดูฟูมฟักให้ลูกเป็นคนดี เด็กดีๆ รุ่นเก่านั้นมีน้อยครับ ไอ้คนที่มันดีได้ก็มักจะดีด้วยตัวของมันเอง เสมือนพ่อแม่เป็นต้นไม้ใหญ่ ออกลูกเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีความแกร่ง อึด อดทน ลูกก็ออกมาตามนั้น
   แต่กับพ่อแม่ที่ตัวเองเป็นชนิดสายพันธุ์แย่ๆ ออกลูกมาก็ย่อมเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
   ที่สำคัญก็คือ ลูกไม้มักจะหล่นไม่ไกลต้น 
   คิดแล้วภาครัฐน่าจะจัดทำคู่มือการเลี้ยงลูกออกมากันบ้างนะ เริ่มต้นก็ทำแค่แผ่นพับเหมือนพวกการกำจัดลูกน้ำยุงลายอะไรพวกนี้แหละ พอฟีดแบ็คดีก็ออกมาบ่อยๆ หน่อย พอนานแล้วก็จับรวมเล่มซะ ตอนรวมเล่มนี้หากมีข้อมูลอัปเดทก็อย่าลืมใส่รวมเข้าไปด้วย ทำไปไม่เสียหลายอะไรหรอกครับ แม้บางคนไม่สนใจ แต่หากมีคนสนใจและนำไปปฏิบัติ ลองคิดดูซิ ผลมันจะเป็นอย่างไร
   ไอ้แผ่นพับที่แจกฟรีนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกเยอะมากๆ เลยนะครับ ขอร้องอย่างเดียว อย่าเอาไปเป็นการเล่นเกมทางการเมือง โครตจะเกลียดเลย
   หรือหากมีงบจำกัด ก็แนะนำให้ทำเฉพาะเขต เฉพาะพื้นที่ดูก่อนก็ได้ครับ
   ตอนเย็นไปรับลูก ขากลับฝนตก แต่มีแสงแดดแรงจ้า ผมขับรถได้ตำแหน่งเหมาะพอดี จึงเห็นสายรุ้งครับ ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ในเมืองมาหลายปีมากๆ แล้ว เป็นสายรุ้งแบบครึ่งวงกลมเลยนะ แถวบ้านผมถนนโล่งด้วยไง ไม่มีตึกสูงใหญ่มาบดบัง
   จะได้ว่าเห็นรุ้งสวยๆ แบบนี้ล่าสุดก็ตอนอยู่ญี่ปุ่นนี่แหละครับ ขับรถอยู่บนทางด่วน ข้างล่างเป็นชนบทป่าเขาเขียวล้วนๆ มีสายรุ้งทอดผ่าน สวยงามเหลือเกิน
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 06, 2009, 03:25:56 pm
4 กย 52
   ไม่ค่อยได้ปั่นจักรยาน เลยไม่รู้จะเล่าอะไรดี คุยมันเรื่องบ้านเมืองและสังคมนี่แหละวะ
   กูว่าแล้ว ที่เชียงใหม่เขาจัดงานฉลองแพนด้าหลินปิงอายุครบ 101 วัน (อ่านว่าหนึ่งร้อยเอ็ด) ผมฟังข่าวจากทีวีช่อง 3 คุณสายสวรรค์ ขยันยิ่งเป็นคนอ่าน ขอชมเชย เพราะหาคนออกเสียงหนึ่งร้อยเอ็ดได้น้อยคนมากๆ ส่วนใหญ่จะเรียกหนึ่งร้อยหนึ่งกันหมด มันผิดครับ
   ก็ยอมรับล่ะนะครับว่าแพนด้าเขาทำเงินให้สวนสัตว์เชียงใหม่ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ช่วงนี้เขาฮิตก็เฮกันไป แต่บอกได้เลยครับว่าฮิตอีกไม่นาน เตรียมหาอย่างอื่นมาเล่นต่อได้เลย มันต้องคิดไว้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วนะ ไม่ใช่รอให้กระแสแพนด้าแผ่วแล้วค่อยมาคิด มันไม่ทันหรอก
   จังหวัดอื่นๆ ท่านก็คิดหาของดีใจท้องถิ่นตัวเองกันได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องมีสัตว์ประหลาดอะไร เออ วันก่อนเห็นข่าวบอกมีแมวประหลาดตาสองสี ตัวสีขาว คือคนมันบ้าแต่ของนอกไง ไอ้นี้แหละแมวไทยแท้ๆ เลยนะ แต่คนละพันธุ์กับแมวสีสวาท ชื่ออะไรผมจำไม่ได้ แต่มันคือของไทยแท้ๆ กลายเป็นว่าคนไทยด้วยกันเองกลับไม่รู้จัก คิดว่าเป็นแมวประหลาด
   แล้วก็เป็นไปตามคาด พอบอกว่าเป็นแมวไทย โหห เรื่องแม่งเงียบกริบเลย ไม่มีใครไปสนใจไอ้แมวตัวนี้อีกเลย ทั้งๆ ที่ก่อนออกเป็นข่าวคนมาดูกันแทบล้นบ้าน จากบ้านแน่นๆ ตอนนี้กลายเป็นแมวเหงา
   แต่ถ้าบอกว่าเป็นแมวจากยุโรปโบราณสืบสายพันธุ์มาราว 2000 ปี ลองเจอแบบนี้ดูซิว่าไอ้แมวตัวเดิมนี่แหละ มันจะโด่งดังกันสักเพียงใด
   คนไทยไม่ชอบของไทยครับ – จำไว้ได้เลย อยากจะหากินกับคนไทย ก็ต้องทำตัวเป็นของนอกสักหน่อย คนไทยบ้าฝรั่ง เห็นฝรั่งเขาทำอะไร พูดอะไรก็ต้องคิดไปว่านั่นคือต้นแบบ ผมจะบอกให้ ฝรั่งเขาก็รู้จุดอ่อนของคนไทยเราตรงนี้นะครับ
   คนเราน่ะ เอาแค่วิธีคิดก็สามารถชนะกันได้แล้ว
   ระยะหลังๆ มานี้ผมถึงคิดบวกอย่างเดียวเลยไงครับ ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส ใครหาโอกาสนั้นพบ และฉกฉวยเอาไว้ได้ก็จะถือไพ่เหนือกว่า
   
5 กย 52
   วันนี้พิเศษหน่อย ผมช่วยขับรถส่งของตั้งแต่เช้าจรดเย็น พนักงานขับรถเขาลากลับบ้าน
   เป็นรถกระบะธรรมดานี่แหละครับ มีลูกน้องคอยช่วยยกของอยู่ประจำรถหนึ่งคน คนนี้เขาไม่ชอบแอร์ เลยนั่งด้านหลังประจำ มากับผมวันนี้ ผมเรียกให้เขามานั่งด้านหน้าด้วยกัน และผมปิดแอร์ขับ ใช้เปิดกระจกแทน เขาทำหน้างง เพราะคนขับรถทุกคนล้วนแล้วแต่เปิดแอร์ขับกันหมด
   ช่วงเช้าก็ปกติดี ไม่ร้อนมาก พอตกบ่ายนี่สิ แดดอย่างแรง เขาถามว่าผมร้อนไหม ผมหันไปยิ้ม  แล้วย้อนถามว่าพี่ล่ะร้อนไหม เขาหัวเราะร่า ไม่รู้ว่าร้อนหรือเปล่า
   ขณะขับรถผมหยุดให้คนข้ามถนนอยู่หลายครั้ง เป็นการหยุดแบบตั้งใจนะ ไม่ใช่ไปไม่ได้แล้วถึงเบรกให้คนข้าม เจอไฟแดงบางอันที่เพิ่งมาตั้งใหม่ คนขับรถทั่วไปมักไม่คุ้นเคย พอผมเบรกไฟแดง แต่ไม่มีคนข้าม รถคันหลังถึงกับหงุดหงิด กดแตรไล่ ผมเลี่ยงไม่สบตา รอจนไฟเขียว ก็อีกแค่แป๊บเดียวนั่นแหละ ถึงได้เลื่อนรถออกไป
   ผมสอนลูกน้องที่นั่งด้วยกันว่า หากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่การหยุดเพราะไฟแดงแค่นี้ยังทำไม่เป็น ยังทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับการพัฒนาบ้านเมือง ไอ้นิสัยแบบนี้พบเห็นบ่อยมากตามแยกเล็กๆ คนเขามักจะมองดูตำรวจกันว่าอยู่ไหม ไม่ได้ดูสัญญาณไฟแดงกันหรอก พอตำรวจไม่อยู่ เขาก็เร่งเครื่องฝ่าสัญญาณกันไป คนมีระเบียบก็ได้แต่มองดู แต่หากดูบ่อยๆ เข้าล่ะ เป็นใครก็อยากไปเหมือนกัน มันถึงไม่มีระเบียบกันอย่างที่เห็นทุกวันนี้ไง
   คนขับรถทุกคนสามารถทำความดีขณะขับรถได้นะครับ ง่ายๆ ก็คือการหยุดให้คนข้ามถนน แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ทำกัน อ้างว่าขับรถติดพัน ที่จริงไม่ใช่หรอก เรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ในสามัญสำนึกของคนขั้บเหล่านั้นมากกว่า
   แต่ก็ดีอย่างนะ คือหากเป็นคนแก่ถือไม้เท้าข้ามนี่รถส่วนใหญ่มักจะหยุดให้ ก็ถือว่ายังมีความเป็นคนเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย
   วันนี้ส่งของจนถึงดึกเลยครับ ราว 3 ทุ่มกว่าถึงจะเสร็จงาน เหนื่อย เพลีย แต่ก็ไม่ได้ถือว่าลำบากอะไรนัก พวกคนงานเขาเหนื่อยกว่าผมเยอะ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 08, 2009, 01:14:19 pm
5 กย 52
   วันนี้พิเศษหน่อย ผมช่วยขับรถส่งของตั้งแต่เช้าจรดเย็น พนักงานขับรถเขาลากลับบ้าน
   เป็นรถกระบะธรรมดานี่แหละครับ มีลูกน้องคอยช่วยยกของอยู่ประจำรถหนึ่งคน คนนี้เขาไม่ชอบแอร์ เลยนั่งด้านหลังประจำ มากับผมวันนี้ ผมเรียกให้เขามานั่งด้านหน้าด้วยกัน และผมปิดแอร์ขับ ใช้เปิดกระจกแทน เขาทำหน้างง เพราะคนขับรถทุกคนล้วนแล้วแต่เปิดแอร์ขับกันหมด
   ช่วงเช้าก็ปกติดี ไม่ร้อนมาก พอตกบ่ายนี่สิ แดดอย่างแรง เขาถามว่าผมร้อนไหม ผมหันไปยิ้ม  แล้วย้อนถามว่าพี่ล่ะร้อนไหม เขาหัวเราะร่า ไม่รู้ว่าร้อนหรือเปล่า
   ขณะขับรถผมหยุดให้คนข้ามถนนอยู่หลายครั้ง เป็นการหยุดแบบตั้งใจนะ ไม่ใช่ไปไม่ได้แล้วถึงเบรกให้คนข้าม เจอไฟแดงบางอันที่เพิ่งมาตั้งใหม่ คนขับรถทั่วไปมักไม่คุ้นเคย พอผมเบรกไฟแดง แต่ไม่มีคนข้าม รถคันหลังถึงกับหงุดหงิด กดแตรไล่ ผมเลี่ยงไม่สบตา รอจนไฟเขียว ก็อีกแค่แป๊บเดียวนั่นแหละ ถึงได้เลื่อนรถออกไป
   ผมสอนลูกน้องที่นั่งด้วยกันว่า หากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่การหยุดเพราะไฟแดงแค่นี้ยังทำไม่เป็น ยังทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับการพัฒนาบ้านเมือง ไอ้นิสัยแบบนี้พบเห็นบ่อยมากตามแยกเล็กๆ คนเขามักจะมองดูตำรวจกันว่าอยู่ไหม ไม่ได้ดูสัญญาณไฟแดงกันหรอก พอตำรวจไม่อยู่ เขาก็เร่งเครื่องฝ่าสัญญาณกันไป คนมีระเบียบก็ได้แต่มองดู แต่หากดูบ่อยๆ เข้าล่ะ เป็นใครก็อยากไปเหมือนกัน มันถึงไม่มีระเบียบกันอย่างที่เห็นทุกวันนี้ไง
   คนขับรถทุกคนสามารถทำความดีขณะขับรถได้นะครับ ง่ายๆ ก็คือการหยุดให้คนข้ามถนน แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ทำกัน อ้างว่าขับรถติดพัน ที่จริงไม่ใช่หรอก เรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ในสามัญสำนึกของคนขั้บเหล่านั้นมากกว่า
   แต่ก็ดีอย่างนะ คือหากเป็นคนแก่ถือไม้เท้าข้ามนี่รถส่วนใหญ่มักจะหยุดให้ ก็ถือว่ายังมีความเป็นคนเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย
   วันนี้ส่งของจนถึงดึกเลยครับ ราว 3 ทุ่มกว่าถึงจะเสร็จงาน เหนื่อย เพลีย แต่ก็ไม่ได้ถือว่าลำบากอะไรนัก พวกคนงานเขาเหนื่อยกว่าผมเยอะ
   
6 กย 52
   วันหยุดหรือวันไหนๆ ผมก็ตื่นแต่เช้าเหมือนเคย ตี 5 ก็ตื่นแล้ว อยากนอนต่ออีกนะ แต่มันไม่หลับ แม้จะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมากๆ ก็เถอะ ลงมาเดินดูรอบๆ บ้าน จัดแต่งต้นไม้ แต่ไม่ได้รดน้ำ ไม่รู้ฝนจะตกมาอีกหรือไม่
   อ๊ะ คิดขึ้นได้ รถดริฟท์เราเพิ่งจะไปเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใหม่นี่หว่า เอาออกไปลองสักหน่อยดีกว่า เช้าๆ แบบนี้ หากเป็นเมื่อก่อน ผมจะออกไปดริฟท์ทุกๆ เช้าวันอาทิตย์ ขับกันบนถนนนี่แหละครับ แต่ปัจจุบันนั้นเลิกแล้ว วันนี้เอาออกไปขับธรรมดา รู้สึกไม่คุ้นมืออย่างมาก เหมือนยืมรถคนอื่นมาขับเลย ขับเร็วๆ ก็ไม่ค่อยมันใจ ไม่คุ้นมือ
ขับไปได้ไม่นานก็วกกลับบ้านครับ ขับไปแค่เติ้มน้ำมัน เสียงท่อไอเสียมันดังมากๆ น่ารำคาญเหลือเกิน ปัจจุบันผมชอบรถแบบเงียบๆ ยิ่งเงียบยิ่งดี แต่ที่มันเสียงดังๆ อย่างทุกวันนี้ไม่ได้เพราะผมไปทำให้มันดังเพิ่มนะครับ เพียงแค่ถอดหม้อพักกลางออก และเปลี่ยนหม้อพักปลายเป็นแบบไส้ตรงแทน เพื่อความโล่ง คล่อง ของไอเสีย แต่ก็แลกกับเสียงดังตอนขับ นาทีนั้นคนขับรถเขาไม่สนใจกันหรอกครับ สนแค่รถเราจะแรงไหม วิ่งดีไหม
แต่ถ้ามาถามผมตอนนี้ อยากได้หม้อพักกลางอีกสักใบ เอาใบโตๆ มาใส่เลยก็ยอม ขอเงียบๆ หน่อย
พอสายหน่อยลูกบอกอยากไปกินอาหารที่ร้าน Delifrance เป็นร้านอาหารแบบ Fast Food ยุคเก่า คือยังคงเป็นอาหารจานด่วน แต่เน้นที่เบเกอรี่มีคุณภาพ อาหารชื่อดังก็คือขนมปังฝรั่งเศษ รสชาติอร่อยมากๆ ทานที่ไหนก็ไม่เหมือนของร้านนี้เลย ขนาดฉีกกินเปล่าๆ ยังอร่อยเลยครับ
   เสร็จแล้วพาลูกไปดูโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ผมอยากให้เขาคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากๆ เข้าไว้ แต่ก็ไม่อยากบังคับอะไร หากชอบก็เรียน หากไม่ชอบก็ช่างมัน สบายๆ
   วันนี้ทางคอนโดฯที่ผมซื้อไว้เขาเรียกไปนัดตรวจรับมอบห้องครับ รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นห้องของตัวเองครั้งแรก รีบไปตามนัดก่อนเวลาเสียอีกครับ เตรียมอุปกรณ์ตรวจเช็คไปเพียบพร้อม
   พบว่าห้องดูดีและสวยงามมากครับ แต่มันเล็กกว่าที่ผมคิดไว้นะ คือผมกะไม่ออกไงว่าพื้นที่ราว 55 ตรม น่ะ มันจะใหญ่สักขนาดไหน เดินวนเวียนในห้องอยู่นานราวชั่วโมงเศษ พบจุดไหนไม่เรียบร้อยก็บอกเจ้าหน้าที่ให้เขาแก้ไข
   ตกเย็นซื้ออาหารเข้าบ้านไปทานกันสามคนพ่อแม่ลูก ครอบครัวเล็กๆ ยุคใหม่นี้ ไม่ค่อยได้ทำอาหารทานกันเองแล้วล่ะครับ เน้นเร็ว เน้นสะดวกเสียมากกว่า แต่ต้องเลือกประเภทของอาหารกันสักหน่อย เพราะอาหารนอกบ้านนั้นสารปนเปื้อนเยอะเหลือเกิน
   แต่ถ้าครอบครัวใดมีเวลาพอ แนะนำให้ทำทานกันเองจะดีกว่าครับ สนุกกว่าด้วย ช่วยกันทำนะ ไม่ได้ปล่อยให้แม่ทำคนเดียว

7 กย 52
   วันนี้ผมงานเข้าเต็มๆ เมื่อวันเสาร์พนักงานขับรถไม่มา มาวันนี้พนักงานยกของไม่มาบ้าง เอาล่ะเว้ยยย
   ผมแปลงร่างเป็นพนักงานยกของท้ายรถครับ หากจะนึกภาพก็มองๆ ดูบนท้องถนนได้เลยครับ คนที่นั่งท้ายรถกระบะแล้วตระเวณส่งของนั่นแหละ ใช่เลย ผมเอง
   ส่งของแต่เช้าแดดก็เริ่มแรง และมาแรงจัดจริงๆ ชนิดที่โดนผิวแล้วแสบก็ตอนบ่าย จนถึงตะวันลับโน่นแหละครับ ถึงได้สบายตัวหน่อย
   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของผมที่เป็นเด็กท้ายรถส่งของหรอกครับ การไปส่งของนี่ก็สนุกดีเหมือนกัน ก็ต้องพยายามคิดให้สนุกล่ะนะ จะมัวคิดว่ามันเหนื่อย มันร้อน ตัวเราก็จะเป็นไปตามนั้นด้วย
   ได้พบปะผู้คนหลากหลายเลยครับ พูดจาดีบ้างผมก็จดจำไว้ ใครพูดจาไม่ดีผมก็ลืมๆ ไปซะ เก็บแต่สิ่งดีๆ ไว้ในใจดีกว่าครับ มีอยู่ร้านหนึ่งมีหมาเห่ากระโชก พนักงานคนอื่นที่ไปด้วยกันไม่กล้าเข้า เจ้าของร้านบอกให้เดินเข้าไปเลย ผมเลยเดินเข้าไปส่งของด้านในเอง กลัวเหมือนกันครับ แต่ก็ต้องทำเป็นไม่กลัว ท่องคาถาหยุดหมาไว้ในใจแล้วเดินผ่านมันไปเฉยเลย แปลก มันหยุดเห่าและหันมาดมแทน
   วันนี้เล่นเอาผมผอมลงไปหน่อยหนึ่ง กลางวันไม่ได้ทานข้าว และเย็นก็ทานแค่ของว่างนิดๆ หน่อยๆ กลับมาบ้านเจอลูกเดินลงมาจากบ้าน พูดว่า
   “สวัสดีครับพ่อ” เขาพูดแล้วยิ่ม พร้อมกับเดินกลับเข้าบ้านไปเล่นต่อ
   แค่นี้แหละที่ได้ยินแล้วหายเหนื่อยเลย
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 09, 2009, 01:12:50 pm
8 กย 52
   ตื่นเช้ามาพบว่าช่วงเวลาว่างของลูกเมื่อวานตอนเย็นตอนผมไม่อยู่ เขานั่งวาดรูปการ์ตูน Ben 10 (เบ็นเท็น) อย่างสวยงามมากๆ วาดเต็มหน้ากระดาษ A4 เลย ดูเขาเหมือนกับมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ แต่ไม่รู้จริงไหม ผมไม่อยากคิดไปเอง ทำได้ก็แค่เพียงส่งเสริมในจุดเด่นที่เขาทำได้ดี
   หน้าที่ของพ่อแม่เราก็มีส่วนในการพัฒนาเด็กอย่างมากนะครับ อย่าปล่อยให้แค่โรงเรียนสอนและอบรม พ่อแม่นี่แหละตัวดีเลย มีผลมากกว่าโรงเรียนและครูเสียอีก
   ได้ข่าวพบจรเข้ที่เขาใหญ่ คนอื่นตกใจ แต่ผมเฉยๆ เพราะมันเป็นป่า ขนาดช้างยังมีเลย ผมไม่รู้หรอกครับว่าจรเข้มันมาจากไหน บ้างบอกมีคนมาปล่อย แต่ผมได้ข่าวว่ามีการตั้งทีมไล่ล่า โหห ฟังแล้วตกใจ จะไปล่ามันทำไม มันอยู่ในป่า จะเป็นจรเข้ท้องถิ่น หรือจรเข้คนปล่อยก็่ช่างมันเถอะครับ ไม่ต้องล่า หากกลัวอันตรายก็แค่ทำแผ่นพับแจกนักเดินทางถึงรายละเอียดก็เพียงพอแล้ว อย่าลืมบอกวิธีปฎิบัติตนเมื่อเจอจรเข้ด้วย อันนี้สำคัญมากเหนือสิ่งอื่นใด
   ผมไม่เคยไปเขาใหญ่ เลยทำให้อยากไปมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้หรอก เพราะคงมีคนเห่อยิ่งกว่าผมเขาไปกันก่อนหน้านี้แล้ว ผมรอสักพักดีกว่า หากเป็นวันธรรมดาช่วงปลายปีอากาศเย็นๆ คงสุดยอดกว่า
   ส่วนเรื่องจรเข้ผมอยากให้เจ้าหน้าที่ไปหารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเสียก่อน ไปดูว่ามันใช่จรเข้ท้องถิ่นหรือไม่ ถ้าใช่ก็ปล่อยมันไว้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ดูว่ามันถึงกับเป็นอันตรายหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละ ผมว่าดีแล้ว ไอ้พวกบุกรุกป่าจะได้เกรงกลัวกันบ้าง เผื่อบาปกรรมจะตามมันทันตอนลักลอบตัดไม้แล้วโดนจรเข้เจ้าถิ่นลากไปกิน ดูโหดไปหน่อย แต่ผมว่าดีออก คนเลวๆ ไม่ต้องจะต้องทำดีกับมันตรงไหน ที่บอกมีคุณธรรมอะไรน่ะ มันเอาไว้คุยเท่ๆ ให้ดูว่าตัวเองหรูแค่นั้นแหละ ไม่งั้นประเทศมุสลิมเขาไม่มีกฏหมายโหดๆ ไว้คุมคนของเขาหรอกครับ 
   หรือหากเขาพบเจอสัตว์ชนิดอื่น สายพันธุ์อื่นล่ะ เขาจะตามล่าตามฆ่ามันไหม ผมเอานกที่เลี้ยงไว้ไปปล่อย มีคนมาพบเข้า ตกอกตกใจไม่เคยเห็น จะไปฆ่ามันไหม หรือพวกคนเลี้ยงลิง เอาลิงไปปล่อย มีคนเห็นลิงเข้า จะต้องฆ่าลิงไหม
   ไม่จำเป็นต้องจรเข้หรอก เกิดเป็นสัตว์เล็กอย่าง นกยูง หงษ์ ห่านป่า เป็ดแมนดารินล่ะ จะต้องฆ่าไหม
   หรือเกิดสักวันเจอแรดดำ เจอกระซู่ กรูปี เข้าล่ะ
   นี่คุณคิดจะฆ่ามันจริงๆ หรือ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 10, 2009, 02:50:53 pm
9 9 09
   วันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วมีความหมายกับผมมาก มันคือ 9-9-99 เป็นวันที่นิตยสาร Racing Club วางแผงเป็นครั้งแรก ช่วงเช้าของวันนั้นผมเดินสำรวจตามแผง เห็นนิตยสารที่เราทำเองกับมือวางขาย มีคนหยิบๆ มาดูด้วย ดีใจฉิบเป๋ง ลุ้นให้เขาช่วยซื้ออยู่ในใจ
   ช่วงบ่ายของวันนั้น ผมพาภรรยาไปจดทะเบียนสมรสที่เขต ไม่ได้ถือโชคลางอะไรหรอก เอาสะดวกเราเข้าว่า ไม่ถึงกับถ่อไปเขตบางรัก แหม แบบนี้เขตบางพลัดมิเหงาแย่เลยหรอกหรือ
   ครบรอบ 10 ปีเอาวันนี้ แต่ผมยังจำความรู้สึกในวันแรกได้เป็นอย่างดี ช่วงนั้นผมสนใจรถยนต์เป็นอย่างมาก ตรงกับสายงานเราอยู่แล้วด้วย เลยมีข้อมูลมาก แถมยังรับงานทดสอบรถยนต์ (ปัจจุบันก็ยังรับ) เห็นสิ่งดีๆ แย่ๆ ในวงการรถยนต์มากมาย เลยจัดทำนิตยสารรถยนต์หน้าตาประหลาด แนวทางประหลาด แถมไม่ค่อยมีโฆษณา (ไอ้นี่แหละตัวสำคัญในการทำเงินเชียว)
   คนเล่นจักรยานอาจยังไม่รู้ว่าผมทำอะไรมาก่อน แต่พวกเล่นรถยนต์นั้นรู้กันดี โดยเฉพาะคนที่เข้าเวปนี้ประจำ แต่ผมไม่ถึงกับมีชื่อเสี่ยงโด่งดังหรอกนะ ไม่ได้หน้าตาดี ไม่ได้มีนามสกุลใหญ่โต ผมมีแค่ความฝัน แถมฝันใหญ่เสียด้วย ไม่รู้จะทำได้จริงไหม แต่ผมเอาแน่
   ตอนบ่ายฟ้าครึ้มๆ ผมเอาจักรยานปั่นเล่นแถวบ้าน ไม่ได้ขี่หลายวันรู้สึกเหงามากๆ ปั่นมันแถวบ้านนี่แหละวะ ความสนุกมันอยู่ในใจเราเสียอย่าง แต่ก็ไปไม่ได้ไกลนักหรอกครับ แม้จะไม่มีแดด แต่มันร้อนอบอ้าว แต่ถ้าเป็นบรรยาศนอกกรุงเทพฯ ผมว่าผมไหวนะ ร้อนไม่กลัว กลัวฝุ่นควันนี่แหละ ตัวดีเลย มะเร็งปอดโดยตรง
   นักปั่นจักรยานในเมืองอย่างเรานี่แหละครับ ช่วยเหลือสังคมได้เยอะมากๆ แค่เอาจักรยานออกปั่น เราก็ช่วยลดภาระการจราจรบนท้องถนนแล้ว แถมได้ออกกำลังกายอีกด้วย หากเจอฝุ่นควันบนท้องถนนเราก็สูดมันซะ ใครสูดได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น อย่าให้เกินกำลัง ช่วยกันสูดเยอะๆ ต้นไม้จะได้งอกงามดี เห็นไหม เราได้ช่วยต้นไม้ในเมืองอีกด้วยนะ
   ใกล้จะถึงวัน Car Free Day แล้ว อีกราว 10 วัน วันนั้นแหละ จะมีชาวจักรยานออกมาช่วยกันสูดมลภาวะกันเยอะเลย
   หากผมเป็นต้นไม้ ผมจะชอบวันแบบนี้ที่สุดเลยครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 12, 2009, 01:20:19 pm
10 กย 52
   วันนี้มีการทดสอบรถยนต์ Nissan Navara Calibre ผมไม่ได้ไปอีกแล้ว เมื่อวานเป็นงานของ Toyota VN Turbo ก็ไม่ได้ไปอีกเช่นกัน เกรงใจคนเชิญเขาเหมือนกันนะนี่ กลัวเขาจะคิดว่าเป็นรถกระบะ ผมเลยไม่อยากไป แต่ไม่ใช่หรอกครับ ผมติดภาระเรื่องลูกมากกว่า หากตามมาอ่านเจอ ผมขอโทษบรรดาบริษัทรถยนต์ทุกค่ายไว้ด้วยครับ เพราะยังมีตามมาอีกหลายค่ายเลย ทั้ง Mazda Ford Honda และอีกมาก
   ตื่นเช้ามา ไม่มีอะไรทำ เลยกวาดถูห้องเล่น บ้านสะอาดดีด้วย ได้ออกกำลังกายด้วย แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก็มักจะล้างรถ หากตอนเด็กหน่อยก็จะเอาจักรยานออกปั่นเล่น เอ๊ะ นี่เริ่มแก่แล้วหรืออย่างไร ชอบกลับไปทำเป็นเหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้ว
   ว่าแล้วก็เอารถพับออกปั่นเล่น ชอบปั่นคันนี้ เพราะเบาะนั่งแบบหนานุ่มก้นดี ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้จะกลับมาชอบนะ แรกๆ ที่ได้รถมานี่อย่างเกลียดเลย ถึงขนาดตอนปั่นขึ้นดอยอินทนนท์ผมยังเปลี่ยนเอาเบาะนั่งแบบแข็งๆ บางๆ ใส่แทนเลย
   เช้านี้ลมแรง ลมเย็นโชยเหมือนลมหนาวเลย ขอให้ที่ผมทายว่าปีนี้จะหนาวนานเป็นจริงเถอะนะ จะได้ปั่นจักรยานกันให้สะใจไปข้างหนึ่งกันเลย
   กลางวันเปิดคอมพิวเตอร์ มีคนแอท msn เข้ามา ใช้นิคเนมเดียวกับชื่อคอนโดฯที่ผมซื้อ แต่เขาบอกเขาอยู่จีน อ่านไทยไม่ได้ ผมเลยคิดว่าเขาไปทำงาน ก็คุยกันไปเรื่อย คุยโน่นคุยนี่ พักใหญ่ผมถามเรื่องคอนโดฯ เขาตอบมาไม่ถูก ผมก็สงสัยเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายคำตอบเฉลย เขาเป็นคนจีน และไม่ได้อยู่คอนโดฯ กว่าผมจะเข้าใจก็คุยอยู่พักใหญ่เลย
   ผมคิดจะหาจักรยานเอาไว้ปั่นที่คอนโดฯ คือจะหาสักคันทิ้งไว้ในห้อง มันต้องพับเก็บได้อย่างเรียบร้อย ซึ่งดูแล้วเห็นมีแต่รถของ Dahon ก็ชอบอยู่หรอกนะ แถมได้ข่าวว่ารุ่นใหม่ ๆเขาใช้เกียร์ดุมของ Shimano Nexus แล้วด้วย ดุมนี้ดีกว่าดุมของ Sturmey Archer เยอะมากๆ เบากว่า ทำงานไวกว่า นุ่มนวลกว่า รวนน้อยกว่า ไอ้ SA นี่ผมเบื่อมากๆ จนกระทั่งขายมันไปทั้งรถเลย (คันเก่า Dahon Vitesse D5)
   
11 กย 52
   วันนี้เป็นวัน 9/11 คงจะยังจำกันได้ ตึก World Trade Center ที่สหรัฐอเมริกาโดนถล่ม แต่แปลกที่ปีนี้ไม่เห็นข่าวการวางพวงหรีดที่บริเวณ Ground Zero เหมือนปีก่อนๆ
   วันนี้มีประชุมแถวสุขุมวิท ผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแน่ๆ ไม่เอารถยนต์ไปจอดเล่นบนถนนหรอก นั่งรถไฟฟ้าสนุกกว่าเยอะเลย
   แต่ก็สนุกได้แค่ขาไปแหละครับ ขากลับฝนตกอย่างหนัก แรง และนาน แล้วก็น้ำท่วมตามฟอร์ม แล้วแถวสุขุมวิทนี่ท่วมแล้วท่วมนาน ท่วมแล้วรถติดหนักชนิดที่ว่าหยุดนิ่งกันเลย
   ก็ยังถือว่าผมโชคดีนะที่ไม่ได้ขับรถยนต์ไป เพราะถึงแม้อยู่ในรถจะไม่เปียกฝนก็จริง แต่ก็ต้องนั่งเผาน้ำมันเล่นอยู่ในรถ นั่งขดอยู่บนเบาะ หึหึ ผมเลือกนั่งรถไฟฟ้านั่นแหละครับ ดีแล้ว
   นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ทีไรผมหงุดหงิดกับการตรวจค้นกระเป๋าทุกทีเลย ต้องมาคอยเปิดเป้ เปิดกระเป๋าให้ยามชะโงกหน้าดู และเขาก็ดูไปงั้นๆ แหละ อยากจะตรวจเพื่อความปลอดภัยน่ะดี แต่ทำให้มันเป็นกิจลักษณะเสียหน่อย เอาเครื่องสแกนแบบของสนามบินมาวางไว้เลย คนก็เดินผ่านประตู จะตรวจค้นก็ตรวจกันไป ส่วนสัมภาระก็ผ่านเครื่องสแกนไป แบบนี้จะได้ประโยชน์เสียกว่า แถมยังได้รับคำชมว่าท่านมีความปลอดภัยอยู่ในระดับที่สูงมากๆ
   ในขบวนรถไฟผมมักจะยืน เพราะนั่งทีไรเดี๋ยวก็ต้องลุกให้คนอื่นเขานั่งแทนอยู่ดี หลังๆ เลยยืนมันซะตลอดทางเลย จะมาได้นั่งก็ตอนใกล้ๆ สถานีปลายทาง
   มีสถานีหนึ่ง เจอคนแขกมากันสองคนพ่อลูก (ผมเดา) แต่งตัวโทรมๆ แต่สะอาด เสื้อผ้าเก่าๆ สีซีดๆ แต่รีดอย่างดี จับจีบสวย เขาเห็นที่ว่าง เลยพากันมานั่ง แต่อีกไม่เกิน 3 วินาที ผู้หญิงออฟฟิซแต่งตัวสวยหน้าตาดีผิวพรรณสะอาดเธอลุกขึ้นพรวดจนคนบริเวณนั้นตกใจ คนแขกผู้เป็นพ่อที่นั่งติดกับเธอก็ตกใจ คิดพลางไปว่านั่งทับกระเป๋าของสิ่งของๆ เธอหรือไม่
   แต่เปล่า ผู้หญิงลุกขึ้นแล้วเดินจ้ำหนีไปนั่งไกลๆ แขกผู้เป็นพ่อทำหน้างง คนฝั่งตรงข้ามมองชายคู่นั้นตาไม่กระพริบ ต่างจากผมที่มองเธอผู้นั้นอย่างไม่คลาดสายตา
   โธ่ แต่งตัวก็ดี น่าจะมีฐานะการงานที่ดี แต่จิตใจเธอทำไมไม่พัฒนาตามหน้าตาไปด้วยเล่า แค่นั่งติดกับคนชนชั้นต่ำกว่าแล้วมันจะตายหรืออย่างไร ผมอายนะ ผมอายแทนสองพ่อลูกคู่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นในขบวนจะคิดเห็นอย่างไร
   แต่อีกสักพัก สถานีหน้ามีหญิงสาวหน้าตาดีเดินตรงปรี่เข้ามานั่งลงที่ว่างตรงนั้น ผมยิ้มในใจ พ่อลูกคู่นั้นคงจะรู้สึกดีขึ้นบ้างนะ แม้จะนิดหน่อยก็ยังดี
   แต่คิดอีกแง่ เอ๊ะ เรื่องเล็กน้อยพวกนี้อาจไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยก็เป็นได้นะ
   ขากลับที่ฝนกำลังตกหนัก ผมลังเลว่าจะเดินออกไปทางไหนดี กำลังคิดก็หันไปเจอรุ่นน้องที่ทำงานอยู่ในบริษัทที่ผมประชุมเขากำลังจะไปทานมื้อเที่ยงกัน เขาชวนผมไปทานด้วยกัน ผมเกรงใจ ตอบปฎิเสธไป เขาบอกเราเจอกันตั้งหลายปีแล้ว ไม่เคยทานข้าวด้วยกันเลย ได้ยินแบบนี้ผมเลยใจอ่อน
   สองสาวพาเข้าร้านอาหารฝรั่งเลย เขาสั่งอาหารจานเดียวกัน ส่วนผมหาของอ้วนน้อยๆ ไม่ค่อยเจอ เลยสั่งซีซ่าร์สลัด ทานกันไป คุยกันไปสัพเพเหระ เขาคุยกันว่าอยากไปเกาหลี ผมเคยไปแล้ว เลยได้ทีปล่อยมุขคุยกับสาวๆ เล่าโน่นเล่านี้ได้เยอะเลย
   สาวๆ เขาสนใจความสวยความงาม สนใจพวกเครื่องสำอางค์ ครีม แป้ง โลชั่น ฯลฯ ส่วนผมไม่เคยเหลียวแลไอ้พวกนี้เลย ฮ่าๆ จะหยิบใช้บ้างก็เป็นพวกของตกรุ่นที่ภรรยาเขาไม่เอาแล้ว หากเป็นส่วนตัวแล้วไม่เคยซื้อใช้สักชิ้น
   เอาน่ะ ต่างคนต่างใจ สาวๆ กับหนุ่มๆ อย่างผมมันคนละมุมมองกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพ สาวๆ เขาเลิกงานก็มีการไปเที่ยวกลางคืนต่อกันอีกด้วย อันนี้จะชวนจะตื้ออย่างไรผมก็ไปยากครับ เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ  แถมแค่ 3 ทุ่มผมก็เริ่มหาวนอนแล้ว
   แต่ถ้าแข่งตื่นเช้า ผมจะไม่ปฎิเสธคำท้าใครเลย
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 13, 2009, 04:25:29 pm
12 กย 52
   ไทยเราจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าผลิตผลทางการเกษตรจากประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเชียน (AFTA) ในปีหน้า ผมมองแบบคนไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ ผมว่าเกษตรกรไทยเรากำลังจะฉิบหาย แต่คนที่จะร่ำรวยก็คือพ่อค้า และนักการเมืองผู้มีผลประโยชน์
   ไอ้นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่นะ ผลิตผลทางการเกษตรจากจีนเข้ามาไทยกันหลายปีแล้ว หอม กระเทียม ฯลฯ ทำเอาเกษตรไทยเจ๊งไปเยอะ แต่เมื่อต้นปีนี้กลับกลายเป็นกระเทียมไทยมีชื่อเสียงดังกว่า คนเขาว่าอร่อยกว่า สุดท้ายก็เลยทำราคาได้ดีกว่า แหม ก็บอกแล้วไง ของไทยน่ะ ใช่ย่อยเสียที่ไหน
   คิดแล้วอยากปิดประเทศเหมือนพม่านะ ที่ทุกวันนี้ก็ยังโดนบีบจากสหรัฐฯและประเทศอื่นๆ ให้เปิดประเทศ โดยเริ่มโจมตีเรื่องการเมือง เรื่องให้เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ
   เขาอยากได้ผลประโยชน์จากการเปิดประเทศของพม่ากันน่ะครับ ใครเข้าไปก่อนก็ถือว่าได้เปรียบ แถมยังได้ตีกันคู่แข่งอีกด้วย พม่ามีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่ในอันดับต้นของเอเชีย แน่นอน สมบูรณ์กว่าไทยเยอะมากๆ เด่นๆ ก็ป่าไม้ บ่อน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ
   อันที่จริงไทยเรามีพื้นฐานดีกว่าเพื่อนบ้านเราแถวนี้เยอะ แต่เราได้ผู้นำที่แสนจะเห็นแก่ตัว แถมมีบริวารที่คอยสูบเลือดหาผลประโยชน์เข้าตัว ไทยเราอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะมีในหลวงครับ นี่คือเรื่องจริง
   “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” น่าจะติดสติกเกอร์คำนี้ มากว่าคำว่า “เรารักในหลวง” นะ ผมว่ามันกินใจกว่ากันเยอะ
   ช่วงเย็นเอาจักรยานปั่นเล่นแถวบ้าน เจอรถกระบะคนงานจอดเสีย สตาร์ทไม่ติด เขาว่าแบตฯหมด กำลังจะโทรหาที่ร้าน ให้คนเอาสายพ่วงมาจั๊มพ์ ถามร้านอยู่ไหน เขาว่าอยู่สาธุประดิษฐ์
   โห นี่พระราม 2 แม้จะไม่ไกลมาก แต่แค่มาเพื่อพ่วงแบตฯ แค่นี้มันไม่คุ้มค่ากันเลย ผมเลยแนะนำให้เรียกแท๊กซี่ ส่วนใหญ่เขาจะมีสายจั๊มพ์ เชือกลาก ติดท้ายรถไว้ประจำ
   พนักงานขับรถทำหน้างง คงทำอะไรไม่ถูก เหมือนคนงานบ้านผม เจอผู้หญิงเดินผ่านแซวโครตเก่งเลย พอเจอตำรวจจะมาเขียนใบสั่ง เขาจะเงียบสนิท แม้ว่าข้อหานั้นตัวเองจะไม่ผิดก็ตาม เช่น รถกระบะติดตั้งโครงหลังคา ตามกฏหมายเขาว่าต้องแจ้งขนส่งด้วย ขนส่งก็จะลงหลังเล่มไว้ว่าแจ้งแล้ว แค่นี้แหละ ตำรวจต้องการเห็นเอกสารแค่นี้แหละ เขาทำกันไม่เป็น ทั้งๆ ที่เอกสารก็อยู่ในเก๊ะหน้ารถ เหลือเชื่อจริงๆ เลยโดนเขียนใบสั่งข้อหาดัดแปลงสภาพรถ
   นี่แค่โดนด่านตรวจนะครับ ยังไม่นับเรื่องยางแตก ก็จัดการเปลี่ยนกันไม่เป็น รถชนก็เรียกประกันไม่เป็น (พอรถชนก็มักจะโทรกลับมาหาที่ร้านก่อน) รถเสียนี่ตัวดีเลย ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง
   แต่แปลกเรื่องที่บอกแหละครับ เจอผู้หญิงสาวๆ ผิวปากแซวกันโครตจะเก่งเลย เรื่องคุยโม้โอ้อวดหรือชวนกันกินเหล้า ชวนกันเที่ยวนี่ของถนัด
   ทราบหรือยังครับว่าทำไมประเทศไทยเราถึงพัฒนาช้า
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 14, 2009, 06:18:50 pm
13 กย 52
   เก็บกดมาหลายวัน เช้านี้เอารถ KHS HT ออกปั่น มี Pannier แขวนอยู่ 4 ใบ มีกระเป๋าบนแร็คหน้าหลังอีกอย่างละใบ รถดูพะรุงพะรัง แต่ผมชินแล้ว ขี่มันแบบนี้แหละ ซ้อมเอาไว้บ่อยๆ
   วันนี้ขี่แบบไม่ได้เติมลมเต็มสเปคอีกด้วย น่าจะมีอยู่ที่ราวๆ 70% ก็ดีตรงนุ่มนวลขึ้นมาหน่อย แลกกับอัตราเร่งที่ช้าลง ถ้าไม่ได้ขี่ทางไกลยาวเป็นร้อย กม ผมเฉยๆ นะ ไม่กินแรงเท่าไหร่นัก
   ขี่รถคันนี้เหมือนขับรถบรรทุกของ เจอตลาดก็วกเข้าไปดู ซื้ออาหารเช้ามาฝากภรรยาและลูก ซื้อแล้วแพ็คลงกระเป๋าได้อย่างเต็มที่ ซื้อหมูย่างขับข้าวเหนียวมาให้ลูก เห็นมีเผือกทอดหอมๆ น่ากินดีเลยเอามาด้วย ได้มาแค่ 2 อย่างนี้แหละ
   ขี่แถวบ้านแค่ถนนพระราม 2 ขากลับวกกลับเส้นทางในสวน ขี่ไปแค่ 20 กม ใช้เวลา 1 ชม ผมว่ากำลังดีนะ ไม่รู้สึกเหนื่อย มีเหงื่อซึมนิดหน่อย นี่ถ้าทำได้แบบนี้ทุกวันคงจะดีไม่น้อย นึกแล้วอิจฉาคนอยู่ต่างจังหวัดที่อากาศดีจริงๆ เลย
   ถึงบ้านก็จัดแจงกินกันเลย ลูกกับภรรยาชอบหมูย่างร้านนี้อย่างมาก ผมก็ชอบเหมือนกัน แต่ไม่กินเยอะนัก ระยะ 2 ปีมานี้ผมทานเนื้อสัตว์น้อยมากๆ สมัยก่อนกินหมูสะเต๊ะเป็นจานๆ เลย ตอนนี้เดือนหนึ่งจะกินสักครั้ง แถมครั้งละไม่กี่ไม้
   เทเผือกทอดเต้าหู้ทอดมาแบ่งกัน แต่แปลกที่กินเสร็จแล้วมันเหลืออยู่เต็มจานเลย ผมหยิบมากิน 1 ชิ้น โอ้โห แม่งไม่อร่อยเลยว่ะ เนื้อเผือกแข็งแห้ง น้ำจิ้มก็รสชาติแบบกระจอกมาก เหลือมันไว้อย่างนี้แหละ สุดท้ายคงเป็นอาหารของสุนัขแสนรู้
   ของไม่อร่อย แถมกินแล้วอ้วน ทอดในน้ำมันท่วม และยังเป็นน้ำมันไม่ดีอีก ของแบบนี้ไม่น่ากินนะครับ อย่าไปฝืนกินเลยครับ นอกจากจะไม่อร่อยแล้ว ยังเสียสุขภาพกาย สุขภาพจิตอีกด้วย คิดเสียว่าทำเงินหล่นหายไปเสียยังดีกว่า
   กลางวันไปธุระนอกบ้าน ไปดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษให้ลูก ภรรยาอยากให้ลูกเรียน แต่ผมเฉยๆ ผมสอนให้เองก็ได้ ไม่ได้ว่าตัวเองเก่ง แต่การเรียนภาษานั้นจะต้องใช้เวลาและความคุ้นเคย คือรอบตัวเขาจะต้องเป็นภาษานั้นให้มากเข้าไว้ มองเห็นสิ่งใดรอบตัวก็คิดเป็นคำภาษานั้นได้
   กลับมาบ้านเดินไปเดินมาหิวครับ หาของกินไม่เจอ บนโต๊ะมีไอ้เผือกทอดของเมื่อเช้าวางอยู่ ผมหยิบให้หมากิน หมาแค่ดม ทำหน้าเมิน แล้วเดินจากไป นี่หากคนขายมันรู้คงจะเซ็งเอามาก ทำของกินมาขายแต่รสชาติหมาไม่แดก
   แต่ไม่น่าเชื่อระหว่างวันเดินไปเดินมาผมหยิบจิ้มกินทีละชิ้นจนหมดจานจนได้!!!
   กินแล้วก็จำครับ จำว่าอย่าไปซื้อมาอีก นอกจากจะไม่อร่อยแล้วยังอ้วนอีกด้วย นี่ถ้าเป็นเค๊กสวยๆ หอมๆ แบบตามโรงแรมจะไม่ว่าสักคำเลยเชียว
   ตกเย็นลูกไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้าน ผมทำความสะอาดบ้าน เสร็จแล้วก็เอาเต้นท์ Ultra Light I มากาง เอามาตรวจสอบความเรียบร้อยมากกว่า เพราะเก็บไว้ในเต้นท์เป็นเดือนเลย ใช้งานล่าสุดก็ตอนไปทริป อช น้ำตกสามหลั่น แถมตอนเก็บเต้นท์ก็ไม่ได้เช็ดแห้ง ฝนตกตลอดคืน เอามากางดูว่ามีคราบน้ำอะไรเกาะบ้างไหม
   จับเวลาก่อนกางด้วยนะ มือใหม่อยากผมใช้เวลาไปราว 4 นาที หากคลุมฟลายชีทด้วยก็ขออีก 1 นาที เต้นท์มันเล็กน่ะครับ ถึงได้กางเร็ว
   ตรวจความเรียบร้อยดูทุกอย่างโอเคดีหมด ไม่มีร่องรอยคราบน้ำดังที่คิด กางแล้วก็ตั้งมันไว้กลางบ้านอย่างนั้นแหละ ขี้เกียจเก็บ ผึ่งไว้หลายๆ วันหน่อย ให้มันยืดเส้นยืดสายบ้าง ส่วนเต้นท์ใหญ่ยักษ์ของ American Camper ผมพับเก็บไปนานแล้ว ไอ้นี่ใหญ่โตเสียเหลือเกิน แถมซื้อมานานยังไม่เคยได้ใช้สักครั้ง
   ก็มันใหญ่ หนัก กางยาก เก็บยาก หากไปกับรถยนต์คงจะดีไม่น้อยเชียวนะ
   
14 กย 52
   ใกล้ปลายปีแล้วโว๊ย เตรียมทริปจักรยานแสนสนุกกันได้แล้วพี่น้อง หาที่หนาวๆ ปั่นจักรยานกันดีกว่า
   ในไทยเราก็ต้องขึ้นเหนือเลย นี่ผมเป็นคนที่ปั่นจักรยานน้อยมากๆ เลยนะ ไม่ค่อยจะได้ไปไหนกับใครเขาสักเท่าไหร่เลย ไอ้ที่ไปต่างประเทศมาบ้าง เช่าขี่กระหยองกระแหยงไม่อยากนับเลย มันสู้ขี่รถของเราเองไม่ได้หรอก
   เครื่องกรองอากาศแบบสอดรูจมูกของไทยมาแล้วโว๊ย เจ๋งสุดยอด แถมจดสิทธิบัตรเสร็จสรรพ ทำถูกแล้วครับที่จดให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยออกสื่อ เพราะหากออกสื่อแล้ว คุณจะจดได้ลำบากกว่าเดิม
   สินค้าแนวๆ แบบนี้ต้องทำการตลาดให้ดีครับ เพราะมันทำเลียนแบบกันได้ง่ายมากๆ แค่เห็นแป๊บเดียวก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องถึงกับเอามาก๊อปหรอก แต่ก็ดีนะ ที่เขาขายไม่แพง แค่ 3 คู่ 99 บาท ผมว่าไปได้ดีเลยล่ะ
   อย่าคิดแค่ตลาดไทยนะครับ แนะนำให้รีบส่งออกไปตลาดโลกอย่างเร็ว ไม่งั้นโดนคนอื่นเอาไปกินแน่ๆ ทีมการตลาดเหนื่อยหน่อยครับ
   กลางวันไปเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ไปดูเฟอร์นิเจอร์ของร้าน SB ที่มาไกลเพราะสาขานี้มีของเยอะมากที่สุดในย่านฝั่งธนฯ
   เดินดูปราดเดียวผมก็ตาถึงอีกแล้ว เขามีของลดราคาเยอะแยะ แต่ผมดันไปถูกใจสินค้าฝากขาย นั่นคือลดราคาได้แค่นิดเดียว เป็นโซฟาแบบ 3 ที่นั่ง ชอบตรงมีติ่งยื่นออกมาคล้ายเตียงนอนเล็กๆ จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไรหรอก เห็นมาเป็นสิบปีแล้ว เพียงแต่ผมไม่เคยใช้งานเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้เท่านั้นเอง
   ตอนเย็นทีวีออกข่าวทีมวอลเลบอลหญิงไทยชนะจีน 3-1 ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศเวียดนาม ไทยไม่เคยได้เข้ารอบชิงอะไรกับเขาเลย ส่วนจีนแชมป์เอเชีย 10 สมัย สุดยอดเหลือเกิน ขอชมเชยจากใจครับ
   สงสัยเมื่อวานทานเยอะไปหน่อย เล่นเอาน้ำหนักขึ้นมา 1.5 กก ตกใจสิ เพราะมันขึ้นพรวดในวันเดียว เช้าแค่กินหมูย่างไป 6 ไม้ กับข้าวเหนียว 5 บาท กลางวันแย่หน่อยเป็นของทอดคือโรตีกับเนื้อเส้นผัดพริก ส่วนเย็นไม่ได้กินอะไรหนัก แค่ผลไม้
   แต่พอตื่นเช้ามามันลดไปเอง 1 กก แจ๋วว่ะ ไม่รู้ผมทำได้ไง ให้ทำอีกทีคงทำไม่ได้แน่ๆ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 15, 2009, 04:43:42 pm
15 กย 52
   วันนี้เปิดตัวรถยนต์ Mitsubishi Lancer ไม่ได้ไปอีกนั่นแหละ (ไม่ได้ไปเป็นสิบๆ งานแล้ว)
   เช้าขับรถไปส่งลูกด้วยความประหลาดใจ ทำไมถนนจึงโล่งเช่นนี้ ปกติหน้าบ้านผมใกล้ทางขึ้นทางด่วนพระราม 2 จะต้องเห็นท้ายแถวยาวหลาย กม ทุกวัน แต่วันนี้กลับโล่งเหมือนวันหยุด แปลกใจมาก
   ปั่นจักรยานเล่นในบ้านสัก 15 นาที ไม่ได้เหงื่ออะไรสักนิด แต่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง ก่อนหน้านั้นก็มีกายบริหารประจำวัน ไม่ได้มีพิธีอะไร นึกท่าไหนออกก็ทำไปเรื่อย ไม่มีกฏเกณฑ์
   เมื่อวานทานน้อย ส่งผลให้วันนี้น้ำหนักลดลงไปอีกเกือบครึ่ง กก ดีใจสิ วันนี้เลยเอาอีก กลางวันกินส้มตำกับไก่ทอดลอกหนังออก ไม่กินข้าวเหนียว แถมกินผักสดที่ขอแม่ค้ามาเพิ่มอีกจนหมดเกลี้ยง
   แต่กินอาหารรสจัดแล้วเหมือนมันเปรี้ยวปาก รู้สึกอยากกินขนมเสียนี่ เอาล่ะสิ ต้องมาแข่งกับด้านมืดในตัวเองเสียแล้ว
   มื้อเช้าก็ใช่ย่อย ผมกินผัดผักคะน้ากับไข่เจียวใส่มะเขือเทศและหอมใหญ่ ทอดในน้ำมันมะกอก แจ๋วป่าว อิอิ
   ตกบ่ายวันนี้แปลก หิวเอา หิวเอา เลยหยิบเอาขนมปังกรอบกินไป 2 กำมือ อันที่จริงมันไม่ได้ถึงกับหิวหรอกนะ มันอยากกินมากกว่า
   เช้านี้อ่านหนังสือพิพม์แล้วแปลกใจที่ไม่เห็นข่าวนักกีฬาทีมวอลเล่บอลหญิงไทยชนะจีน เอาแต่ลงข่าวการเมืองกัน เฮ้ออ เมื่อคืนผมยังดูทีวีเขานำเทปมาถ่ายทอดซ้ำเลย สนุกมากๆ สาวๆ โดดตบกันได้สะใจดีเหลือเกิน ชนะจีนได้นี่ก็คือแชมป์โลกแล้วนะครับ ไม่ได้แค่เป็นแชมป์ในเอเชีย (ถึงจะแข่งแค่เฉพาะเอเชียก็เถอะ) เพราะจีนเขาเป็นแชมป์โลกอยู่
   นี่แหละหนา ทีข่าวที่น่าชื่นชมมันดันไม่เอามาลง แต่ข่าวการเมือง เลือกตั้ง ผบ ตร มันลงได้ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ ข่าวกีฬาก็มีประโยชน์นะครับ เด็กๆ เขาจะได้มีฮีโร่ในดวงใจเขา แถมนี้เป็นกีฬาแบบทีมอันแรกที่เราทำได้ดีที่สุด อ้อ มีบอลไทยอีกอันที่ทำได้ดี แต่ผมว่ายังต่ำกว่าวอลเล่บอลหญิงนะ
   สื่อมวลชนต้องลงข่าวพวกนี้บ่อยๆ ครับ การเมืองก็มีบ้างแบบพอให้รู้ความคืบหน้า ทำข่าวเพื่อเยาวชนกันบ้างเถอะครับ พวกนี้อนาคตของชาติกันทั้งนั้นเลยนะ
   เข้าเรื่องเศรฐกิจชาวบ้านกันบ้าง ช่วงนี้เห็นมีการเปิดตลาดน้ำกันหลายแห่งเลย อยากจะบอกว่าพอแล้วครับ มีเยอะเกินไปมันจะพากันเจ๊งยกกระดานเอา ไทยเรามีข้อเสียอย่างหนึ่งคือชอบทำอะไรแบบลอกกัน เลียนแบบน่ะทำได้ครับ แต่ถ้าลอกกันมาเหมือนเป๊ะมันจะขาดเสน่ห์ครับ ลองไปดูตลาดอัมพวาแล้วจะรู้ว่าเสน่ห์ของตลาดน้ำคืออะไร ไปดูอัมพวาแล้วไปดูดอนหวาย บางน้ำผึ้ง ฯลฯ แล้วเปรียบเทียบกันจะพบความต่างและความเหมือน ไอ้ความเหมือนนี้เลียนแบบกันได้ง่าย สร้างได้ง่าย และเจ๊งง่ายด้วย ส่วนความต่างนั้นคือวิญญาณครับ หาตลาดน้ำที่มีวิญญาณเหมือนอัมพวาได้ยาก จะลอกก็ลอกกันยาก ไม่แนะนำให้ลอกครับ แต่ให้ไปหาวิญญาณที่อยู่ในท้องถิ่นของเรานั้นแหละคือตัวตนที่แท้จริง นักท่องเที่ยวเขาอยากดูอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นมากกว่า
   แต่ข้อเสียของเกือบจะทุกๆ ที่นะ พอมีคนเยอะเข้า ก็มักจะมีร้านขายเหล้ามาเปิด พร้อมกับคาราโอเกะ ไอ้นี้ตัวทำลายความสงบเลย ไม่ใช่แค่เพียงร้องในห้องส่วนตัวแล้วจะจบนะ มันเป็นการทำลายวัฒนธรรมท้องถิ่น เพราะคนจะมามันก็เตรียมเมากันแล้ว ตอนเลิกมันเมากันเต็มคราบ
   ลองคิดดูว่าคนเมาพากันออกมาตอนร้านปิดตี 2 (อย่างต่ำ) น่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชุมชนละแวกนั้นกันบ้างครับ
   จะบอกให้ก็ได้ว่านี่คือต้นเหตุของเรื่องร้ายๆ ในสังคมเรานี่แหละ
   ชุมชนไหนไม่มีร้านขายเหล้า ผมยกให้เป็นชุมชนต้นแบบครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 16, 2009, 02:47:56 pm
16 กย 52
   ตื่นมาเจอฝนตกปรอยๆ เลยไม่ได้ขี่จักรยาน แต่ดันนึกสนุกเลยทำโยคะแทน ไม่ได้อ่านหนังสือหรือจำมาจากที่ไหนหรอกนะ คิดท่าเอาเอง เรียกแบบมองแง่ดีก็คือสร้างสรรค์ เรียกแบบมองแง่ลบเขาเรียกซี้ซั้ว
   จะอย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็ออกกำลังกายของผมไปเรื่อย ท่าโยคะของผมจะมาจากท่าออกกำลังกายพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ได้บิดตัวพิศดารอะไรมาก ผมมือใหม่ แต่ถ้าเก่งแล้วก็ไม่แน่
   ทำได้แป๊บเดียวก็เลิกครับ เมื่อยตัวฉิบเป๋งเลย
   เมื่อคืนกินขนมปังกรอบก่อนนอน แย่จริงๆ เลย อร่อยเพลินเกินห้ามใจ แม่ผมไปงานเลี้ยงที่โรงแรมโอเรียนเตล ขากลับเอาขนมปังฝรั่งเศษติดมือมาด้วย โห ของโปรดสิครับแม่
   ทำเอาน้ำหนักขึ้นอีกแล้ว ไม่ไหวๆ วันนี้ต้องเอาลงมาที่เดิม แต่เช้านี้เล่นซาลาเปาใบเท่ากำปั้นไป 3 ใบ พร้อมกับผัดบร็อคโคลี่ และไข่เจียว กลางวันน้ำเต้าหู้ แตงโม ตอนเย็นคงจะไม่กินอะไรแล้ว (ถ้าทำได้)
   วันนี้ดีใจ คิดงานออกแบบได้ชิ้นหนึ่ง รีบจดบันทึกไว้โดยทันใด เกี่ยวกับรถยนต์แบบเดิมๆ นั่นแหละครับ ยังไม่ค่อยรู้จักพวกออกแบบด้านจักรยานเท่าไรนัก ถ้ารู้จักบ้างก็ดีสินะ จะได้ช่วยพัฒนาวงการนี้บ้าง
   กลางวันนั่งอยู่บ้านเลยคิดโมฯบ้านตัวเองต่อ ก็ไอ้บ้านของผมหลังเก่าที่สร้างเมื่อ 20 ปีที่แล้วน่ะครับ มันเป็นบ้านสไตล์ลอฟท์ แต่มันหลังไม่ใหญ่นัก ผมเลยเรียกว่ามินิลอฟท์
   ผมชอบบ้านที่มีกลไกปรับแต่งโน่นนี่ได้ ทำให้มันเหมือนของเล่นนั่นแหละถึงจะสนุก พวกมีห้องลับ มีช่องลับ หรือผนังกั้นห้องแบบปรับเลื่อนได้จะยิ่งสนุกมาก
   ผมเลยสเกชภาพพื้นแบบปรับได้ขึ้นมา นั่งคิดเอง เออเองนี่แหละ ดูแล้วน่าจะทำได้ไม่ยาก แต่คงไม่มีใครใจถึงทำ
   ผมไม่ได้เรียนด้านสถาปัตย์หรือวิศวะอะไรมาสักอย่าง แต่ชอบคิดจิตนาการ และชอบทำความฝันให้มันเป็นจริง ก็แค่นั้น
   เออ คุยถึงเรื่องดีไซน์ จำเกาหลีที่ผมเคยเล่าว่าเขามาดูตลาดน้ำไทยของเราแล้วเขาเอาไปทำบ้างน่ะ จำได้ไหมครับ เล่าไว้หลายเดือนก่อนแล้ว มาวันนี้เกาหลีเขาเอาจริงถึงขั้นใกล้สำเร็จแล้ว แน่นอน คนเขาฉลาดกว่าเรา เขาไม่ได้ก๊อปตลาดน้ำของไทยเราไปแน่ๆ
   เขาพัฒนาเมืองโซลเมืองหลวงที่แน่นๆ แบบกรุงเทพฯเรานี่แหละครับ ของไทยเราพัฒนาโดยการสร้างถนน แต่ขอโทษรัฐมนตรีของเขารื้ออถนนออกครับ ผมพิพม์ไม่ผิด ถนนที่รถติดๆ นี่แหละ รื้อแม่งออกเลย แต่ไม่ได้รื้อกันซี้ซั้ว เขามีการวางระบบอย่างดี แน่นอน คนด่ากันฉิบหายเลย แต่ไม่มีม็อบประท้วง ไม่มี NGO (ที่แม่งค้านทุกเรื่อง) รัฐมนตรีก็โดนด่าไป เวลาสุกงอมจนสายน้ำเข้าที่เข้าทาง นั่นแหละความจริงถึงจะเฉลย เมืองแม่งโครตสวยเลยครับ ให้ผมทายก็แน่นอน มันจะเป็นเมืองที่สวยสุดในเอเชีย แม้ใจอยากบอกว่าสวยสุดในโลก แต่ผมไม่เคยไปซุริค สวิสเซอร์แลนด์ ไม่เคยไปนีซของฝรั่งเศษ
   ทุกวันนี้โซลหยุดพัฒนาแล้วครับ หันไปสร้างเมืองใหม่ชื่อซองโดแทน เป็นเมืองใหม่เอี่ยมสร้างเสร็จแล้วราว 70% ทุกวันนี้เอาต้นไม้ใหญ่ลงเรียบร้อยแล้ว เขาพร้อมเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมในปี 2014 และปี 2015 กรุงโซลจะเสร็จ (นั่นคือเมืองโซลจะพัฒนาย้อนกลับไปเป็นอดีต เขาคิดจะเป็นโซล (จิตวิญญาณ) ของเอเชีย โห เห็นแม่งคิดแล้วขนลุกครับท่าน ผมเล่าให้อ่าน ผมยังขนลุก
   ขนลุกกับความคิดและประชาชนของเขา เขามีผู้นำที่มองการณ์ไกล มีประชาชนคอยสนับสนุน ที่สำคัญคือเขาไม่ได้ก๊อปเรา แต่เขามาดูวิถีของเรา คนไทยวิถีไทยคือสายน้ำครับ เราอยู่กับสายน้ำมาตั้งแต่โบราณ เราเดินทางทางเรือมาตลอด เราปลูกข้าวในที่ลุ่ม เรามีประเพณีสงกรานต์ ตอนแต่งงานเรามีรดน้ำสังข์ ตอนตายเรามีรดน้ำศพ เราหนีสายน้ำไม่พ้นหรอกครับ แต่น่าเสียดายที่เราไม่ระลึกถึงกำพืดตัวเอง เราละทิ้งสายน้ำที่แสนจะสวยของเรา โรงงานปล่อยน้ำทิ้งลงแม่น้ำ ชาวบ้านริมคลองทุกหลังล้วนทิ้งของเสียลงแม่น้ำ
   ในขณะที่โซลมีแค่แม่น้ำฮันสายเดียวเท่านั้น เขาไม่ได้มีวิถีน้ำแบบของไทยเราเลย แต่เขารู้ว่าสายน้ำนี่แหละคือสิ่งที่จะนำมาซึ่งความสงบสุข ทุกวันนี้ตกเย็นคนในเมืองโซลมานั่งเล่นริมแม่น้ำสายนี้กัน ซื้อบะหมีมานั่งกินริมน้ำ โฮ๊ะ ชาวบ้านชัดๆ
   ลองมาดูคลองสวยๆ ในกรุงเทพฯของเรา คลองหลอดนี่แหละครับที่ผมคิดว่าสวย เพราะมันมาจากทางสนามหลวง ผ่านกระทรวงกลาโหม ผ่านบ้านหม้อ และมาออกที่ปากคลองตลาด มาเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่นี่ ผ่านย่านเมืองเก่าโบราณล้วนๆ
   แต่อนาถ ริมคลองหลอดมีแต่ขอทานมานอน มาตั้งเพิงค้าขายของเก่ากัน อุดมไปด้วยมิจฉาชีพ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ผมเด็กๆ แล้วล่ะครับ ตอนเด็กผมก็เห็นภาพพวกนี้ ปัจจุบันก็ยังคงเห็น แน่นอน อนาคตผมตายไป ลูกผมก็คงยังต้องเห็น นั่นหมายถึงว่าไทยเราแม่งยังไม่ได้พัฒนาอะไรกับเขาเลย
   คุยเรื่องบ้านเมืองแล้วหงุดหงิดครับ ผมกลับมาไทยก็เพื่อช่วยพัฒนาบ้านเมือง ผมคิดแบบนี้จริงๆ ผมเชื่อมันในความคิดของผม แม้มันจะไม่เลิศ ไม่เฟอร์เฟคก็เถอะ แต่ช่วยนำไปขัดเกลาเสียหน่อย นำไปร่อนในตะแกรงสักนิดเถอะน่า
   อ้อ รัฐมนตรีเกาหลีคนที่คิดเรื่องเอาถนนออก เอาคลองเข้ามา ทนให้คนด่ามานาน ปัจจุบันคือนายกรัฐมนตรีของเกาหลีนี่แหละครับ คนมีฝีมือ สุดท้ายมันต้องได้ดีเข้าสักวัน
   ท่านผู้ว่า กทม อยากพัฒนาเมืองด้านไหน หากคิดไม่ออก เมลล์มาถามผมสักนิดก็ยังดีครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 19, 2009, 07:39:36 am
17 กย 52
   
   วันเดียวกันอีกนี่แหละที่เปิดตัว Isuzu D Max ไมเนอร์เชนจ์ เชนจ์ตรงเครื่อง 2500 VN Turbo เหมือนกับของโตโยต้าที่เพิ่งออกมานี่แหละ ฟัดกันเข้าไป ดันทำของเหมือนๆ กันออกมาอีก คนซื้อเลยเลือกกันลำบาก นี่ถ้ามันทำออกมาต่างกันคงจะเลือกง่าย
   วันนี้ยังเป็นวันเปิดงานแฟรงเฟิร์ท มอเตอร์โชว์ เปิดตัวรถยนต์ 82 รุ่น จาก 62 ค่าย ผมไม่ได้ไปอีกแหละ จัดที่ประเทศเยอรมนีก็จริง แต่สื่อมวลชนที่สังกัดค่ายดังๆ เขาได้รับเชิญจากค่ายรถยนต์ใหญ่ๆ กันครับ ปีนี้ผมไม่ได้รับเชิญจากค่ายใด นี่ถ้าได้รับเชิญก็อยากไปเหมือนกันนะ จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง
   แหม พอมีงานในไทยบอกติดดูแลลูก แต่ทีงานเมืองนอกรีบกระโจนไปเลย ฮ่าๆ
   อ้อ 5 ตุลา ก็จะมีงานทดสอบรถ Mitsubishi Lancer ในดอนเมือง ไอ้งานแบบนี่ผมชอบมากๆ แถมงานนี้เล่นซัดกันในสนามบินเสียด้วย เริ่มคันมือคันเท้า ชักอยากไปบ้าง
   ตื่นเช้ามาก็ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย ทำความสะอาดบ้าน พับเต้นท์ Ultra Light I ที่กางทิ้งไว้หลายวันเก็บเข้าถุง นั่งมองห้องแล้วเริ่มอยากทำไมเนอร์เชนจ์ให้ห้องเราบ้าง โดยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพิ่มพื้นที่การเก็บจักรยานเข้าไป ทำมันให้เป็นห้องมหาสนุกกันไปเลย
   ความคิดที่จะไมเนอร์เชนจ์บ้านผมนี้คิดมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่ค่อยลงตัว แถมสองปีที่ผ่านมายังต้องเจียดเงินไปผ่อนคอนโดฯ เลยทิ้งๆ ความคิดพวกนี้ไป แปลกที่สองสามวันนี้หวนกลับมาคิดใหม่อีกรอบ แถมไอเดียแรงกว่าเดิมอีกเยอะ (คือมันบ้ามากขึ้น) แต่ไอ้บ้าๆ บอๆ นี่แหละครับ ตัวเปลืองเงินเลย เพราะมันต้องใช้ชิ้นส่วนพิเศษที่มักจะต้องสั่งทำขึ้นมากัน

18 กย 52
   เช้านี้ฝนตกอีกแล้ว แต่ไม่ต้องบ่นมาก ชาวบ้านภาคเหนือเขาแย่กว่าเราเยอะ ตกจนน้ำท่วม สังเกตุไหมว่าไม่กี่ปีมานี้จะได้ข่าวน้ำท่วม น้ำหลาก น้ำป่า เข้าท่วมหมู่บ้านบ่อย มันไม่ใช่เรื่องธรรมชาตินะ คนเราไปทำให้มันเกิดขึ้นเอง เริ่มจากการขยายเมืองโดยไม่มีแบบแผนที่ถูกต้อง การตัดถนนขวางทิศทางของน้ำ และการรุกล้ำป่า
   วันนี้หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯธุรกิจ และโตโยต้า จัดประชุมเกี่ยวกับรถพลังงานไฮบริดที่หาดใหญ่ พวกนักข่าวสายต่างๆ เขามากันตั้งแต่บ่ายของเมื่อวานกันแล้ว ผมไม่ได้ไปด้วยตามเคย
   นี่ถ้าเป็นเมือก่อนที่ยังทำงานนิตยสารรถยนต์อยู่จะไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลยครับ บางช่วงของปีเศรฐกิจดีๆ รถยนต์แข่งกันเปิดตัวกันเยอะนี่ บางเดือนผมอยู่บ้านไม่ถึง 7 วัน เมื่อตอนนั้นผมยังไม่มีลูกครับ เลยลุยงานพวกนี้ได้ มีทั้งงานในไทยและต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในไทยเรานี่แหละ จะมากก็พวกเปิดตัวรถรถยต์ และตามมาด้วยงานทดสอบรถยนต์ แซมมาด้วยงานสัมนา งานสังคมบ้าง
   แต่แปลกที่พวกจักรยานเขาไม่เห็นมีงานอย่างนี้กันเลย ใครจะขายรถใหม่ มีรถใหม่ก็ไม่มีงานเปิดตัว ยิ่งทดสอบรถยิ่งไม่เคยเห็น หรือว่าเขามองว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองก็ไม่รู้เขานะ คือใครอยากรู้ว่ามีรถอะไรออกใหม่ก็ต้องดูตามอินเทอร์เนท ถ้าไม่ได้ใช้คอมฯ ก็ต้องไปดูตามร้านจักรยาน เออ .. มันคงจะมีให้ดูครบทุกรุ่นหรอกนะ
   วงการจักรยานเรายังอ่อนประชาสัมพันธ์ครับ กำจัดจุดอ่อนเดี๋ยวนี้
   ฝนตกออกกำลังกายไม่ถนัด เลยขึ้นไปกวาดดาดฟ้า ขาลงได้เรื่อง รองเท้าแตะผมลื่นตกบันได ข้อศอก ก้น หลัง กระแทกกับขั้นบันไดพร้อมๆ กัน ดังโครมใหญ่ ดีที่มาลื่นตอนใกล้ถึงพื้นแล้วเลยไม่ถึงกับกลิ้ง แต่นิ้วเท้าไปยันกับโคนเสา เลยได้เลือดมานิดหน่อย
   ผมกระแดะเองแหละครับที่ออกแบบบันไดให้เป็นแบบบันไดวน บันไดแบบนี้ขึ้นลงยาก แถมตกง่าย เพราะขั้นมันไม่สมมาตร ออกแบบมาเพื่อให้ประหยัดพื้นที่น่ะครับ ผมเองก็วิ่งขึ้นลงบ่อย ก็ทำมาเกือบ 20 ปีแล้วนี่นา แต่วันนี้มันลื่นเพราะรองเท้าจริงๆ ลำพังรองเท้าคู่นี้เดินบนพื้นเปียกน้ำก็ลื่นอยู่แล้ว แต่เอ๊ะ บันไดผมเป็นพื้นแบบกันลื่นนี่หว่า
   เอ้า ช่างมัน ผ่านมาแล้วไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว จำไว้เป็นประสพการณ์
   กลางวันขับรถผ่านตลาดเห็นร้านแม่ค้าส้มตำเจ้าประจำว่างอยู่ ปกติจะต้องมีคนหุ้มรุมเต็มไปหมด เลยแวะสักหน่อย ทั้งๆ ที่ผมกินส้มตำติดต่อกันมาแล้ว 2 วัน หากรวมวันนี้ก็เป็น 3 อืมม เอาให้มันเบื่อไปข้างหนึ่งเลยนะ
   แปลกอย่างหนึ่งนะ พอทานอาหารรสจัดเข้าหน่อย พออิ่มแล้วมันรู้สึกอยากกินของหวานหรือของขบเคี้ยวเพิ่มอีก ไม่รู้คนอื่นเป็นอย่างผมไหม
   ผมทะเลาะกับคางคกในบ้านมาหลายวัน เริ่มจากมันลงไปในบ่อปลาทอง ลำพังลงไปเล่นเฉยๆ ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน แต่นี่มันไล่กัดปลาทองจนหางกุด บางตัวโดนกัดจนลำตัวทะลุ ตื่นเช้ามาเห็นมันนอนหายใจโรยริน น่าสงสารมากๆ ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดีเหมือนกัน
   เลยไล่จับคางคกแล้วไปปล่อยนอกบ้าน เจอเมื่อไหร่เป็นต้องจับ ได้วันละ 2-3 ตัว
ตอนบ่ายแดดแรงจัดโดนแล้วแสบผิว ไม่อยากออกไปไหนเลย นึกถึงเมื่อหลายเดือนก่อนที่ผมชอบเอาจักรยานออกปั่นตอนกลางวัน ไม่รู้มันทำไปได้ยังไงของมันนะ
ก่อนไปรับลูกที่โรงเรียนผมแวะโฮมโปรไปเดินเล่น นานๆ ไปที แหม รู้สึกสนุกนะ วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วที่มาเดินติดต่อกัน เมื่อวานก็มาแต่เดินแค่ชั้น 1 หมดไป 1 ชม โดยไม่รู้ตัว ดูอะไรก็สนุกไปหมด พวกทีวีจอแบนๆ บางๆ สวยดีนะ แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบดูทีวี ยกเว้นรายการสารคดีและรายการสุขภาพ ซึ่งมั้นเน้นเนื้อหาสาระมากกว่าเอฟเฟค เสียง แสง ตระการตา
 วันนี้มาอีกรอบ เลือกเดินชั้น 2 กลัวนจำได้ ฮ่าๆ ที่จริงเขาจำได้น่ะดีนะ เพราะจะรู้ว่าเราสนใจจริงๆ ถึงได้มาบ่อยๆ ไง เหมือนคนที่เดินตามร้านจักรยานบ่อยๆ น่ะ หรือไม่ก็พวกเล่นรถที่เดินหาของแต่งมือ 2 ตามเชียงกง
ตอนนี้ผมเล่นบ้านแทนละ แม่งเสือกแพงกว่าของเดิมที่เคยเล่นเสียอีกด้วย แต่ว่าบ้านมันเป็นศูนย์รวมของครอบครัวนะ ผมว่าลงทุนเลือกใช้ของให้ถูกต้องกับการใช้งานและรสนิยมน่าจะดีไม่น้อยทั้งต่อตัวคุณเองและคนใกล้ชิดที่ใช้บ้านร่วมกัน
                 โฮมโปร พระราม 2 เขามี 2 ชั้น แถมมี 2 ตึก นี่ผมเพิ่งเดินไปได้แค่ตึกเดียวเอง เหลืออีกตึกเอาไว้เดินอาทิตย์หน้า
                   อ้อ มีข่าวมาว่า เขมรเขามีรถยนต์ใช้เองแล้วนะครับ
                   ไทยเรายังคงอีกนาน หรืออาจไม่มีวันเป็นไปได้
                  รัฐบาลเรายังคิดแคบอยู่ครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 19, 2009, 07:25:13 pm
19 กย 52
   เช้านี้เล่นซาลาเปาไป 3 ลูกเป็นอาหารเช้า ต่างจากทุกวันที่จะต้องเป็นพวกผักและไข่ วันนี้มีแต่แป้ง อาการน่าเป็นห่วงเรื่องน้ำหนักขึ้นเสียจริง
   วันนี้ชาวเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่แถวบ้านป๋าเปรม เทเวศน์ เสื้อเหลืองก็มีรวมตัวกันบ้างเหมือนกัน แต่เป็นทางด้านเขาพระวิหาร เอากันเข้าไป จะบอกให้ว่านี่คือการทำให้ประเทศชาติฉิบหายโดยตรง
   การเมืองคือพื้นฐานของปัญหาทุกสิ่งครับ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ทางภาคใต้ ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด หรือกระทั่งปัญหาครอบครัว ปัญหาเด็กติดเกม ฯลฯ
   หากจะแก้ปัญหาทุกอย่างในสังคมให้ได้ การเมืองต้องนิ่งเสียก่อน เพราะผู้บริหารจะได้มีสมาธิจดจ่อกับงานตรงหน้า ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ที่มีแต่ข่าวโค่นล้มรัฐบาล โต้กันไปโต้กันมา เอ็งนั่นแหละผิด อีกฝ่ายก็ชี้เอ็งต่างหากที่ผิด
   คนทำผิดแล้วยอมรับผม ผมชื่นชม และเรียกว่าแมนครับ คือเป็นสุภาพบุรุษ เป็นลูกผู้ชาย เป็นนักเลงจริง เท่าที่ผมเห็นคนแบบนี้ในไทยก็มีตำรวจชื่อ เสรีพิสุทธิ์ เตมีย์เวช (ผมจำยศเขาไม่ได้) ผมว่าคนนี้เขาเจ๋งจริง บ่อน ปอ ประตูน้ำ เปิดมากี่สิบปี มีตำรวจหน้าไหนจับได้บ้าง ผมว่าลองให้อำนาจแก่เขา ปัญหางี่เง่าที่สั่งสมมานานอาจคลี่คลาย อย่างน้อยตำรวจที่หากินข้างถนน รีดไถประชาชน จะได้ลดน้อยลงบ้าง
   กลางวันได้เปาะเปี๊ยะสดเป็นอาหารกลางวัน ดีตรงไม่ต้องปิ้ง ย่าง ทอด เล่นส้มตำซ้ำมา 3 วันแล้ว วันนี้ได้เปลี่ยนบ้าง ได้ทานต้นหอมสดๆ เกือบ 10 ต้นแกล้ม
   บ่ายฝนตกหนักเลย ดีเหมือนกัน จะได้ไล่ไอ้พวกม็อบทำลายชาติ นี่ถ้าตัวมันเองสังเกตุบ้างจะเห็นได้ว่า พอมันก่อม็อบกันทีไร ฝนตกทุกที
   ไม่รู้นะ ผมเดาว่าคืนนี้ช่วงที่นายใหญ่มันโทรเข้ามาปลุกม็อบ ช่วงนั้นแหละ ฝนจะตกหนัก
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 21, 2009, 06:29:01 am
20 กย 52
   วันนีไทยเราจัดงาน Car Free Day รถไฟฟ้า BTS ให้ใครก็ตามที่เดินทางพร้อมจักรยานสามารถโดยสารฟรีได้ 3 วัน 20 – 22 กย ใจดีเหมือนกันนะครับนี่
   ผมไม่ได้ไปร่วมปั่นในงานกิจกรรมกับใครครับ ไม่เคยไปสักปีเลย เพราะระยะหลังเขามีการลงทะเบียน ลงชื่อ และยืนเป็นรูปประเทศไทย ผมกลัวว่าตัวเองจะติดธุระด่วน เลยไม่ได้ลงทะเบียนไว้
   ผมพาภรรยาและลูกไปทานอาหารเช้าที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ไปอีกแล้ว ติดใจ ชอบก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสชาติดีมากๆ ชามละ 10 บาท ชามเล็กนิดเดียว ทาน 2 ชามถึงจะเริ่มอิ่มนิดๆ
   เดินๆ ไปก็มักจะซื้อข้าวของเดิมๆ กลับมา เช่นพวกข้าวมันส้มตำ ขนมไทยพื้นบ้าน เดินบ่อยๆ ชักเบื่อเหมือนกันนะ แต่ดีที่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก เลยไม่ใช่ปัญหา
   ผมฟังข่าวว่าค่าหัวของ เหว่ย เซียะ กัง ราชายาเสพติดกลุ่มว้า ปรปักษ์กับพม่า ชายแดนไทยเรานี่เองแหละ คนนี้รัฐบาลสหรัฐให้ค่าหัว 2 ล้านเหรียญเป็นรางวัลนำจับ
   อืมม แล้วรัฐบาลไทยกำลังจับใครอยู่บ้างล่ะครับ ลองตั้งรางวัลนำจับบ้างดีไหม
   อ่านข่าวพวกสารพัดม็อบแล้วรำคาญจริงๆ เลย แต่เราคนไทยล่ะนะ ก็ได้แต่ทนๆ ไป
   ตอนเย็นพาภรรยาไปเดินเล่นดูของที่ผมเล็งไว้ที่โฮมโปร ปกติแล้วผมเป็นคนเลือกข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเองหมดแหละครับ แต่นี่พาไปดูก่อนซื้อจริงอีกที เพื่อความมั่นใจว่าเขาจะชอบเหมือนกับเรา
   อ้าว วันนี้ผมกลับไม่ได้แตะจักรยานเลยสักนิด
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 21, 2009, 06:12:04 pm
21 กย 52
   ไปตลาดน้ำทีไร กลับมาน้ำหนักขึ้นทุกที นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง และคงมีอีกหลายครั้ง ฮ่าๆ เอาน่า ปลอบใจตัวเองว่านานๆ กินที แลกกับการออกกำลังกายให้มากกว่าเดิมอีกหน่อย
   เล่าเรื่องเกาหลีใต้ต่อดีกว่า ผมชักชอบประเทศนี้เสี่ยแล้วสิ เพราะเขาเติบโตอย่างรวดเร็วมากๆ เร็วเหลือเกิน แค่ 10 ปี เขาแจ้งเกิดได้แล้ว แจ๋วไหมเล่า จำหนังแดจังกึมได้ไหมครับ นั่นแหละ เขาแจ้งเกิดประเทศเขาจากหนังเรื่องนั้น มันไม่กี่ปีมานี่เองนี่นา
   ผมติดใจไอ้คลองโบราณเน่าๆ เก่าๆ โทรมสุดยอด มีแต่น้ำครำ  สมัยอยู่ใต้การปกครองของญี่ปุ่น พวกญี่ปุ่นถมคลองนี้ทิ้งแล้วทำถนนทับ เปลี่ยนเส้นทางสัญจรของน้ำ เมืองก็เลยน้ำท่วม
รัฐมนตรีคนเก่งเขาขุดเอาถนนออก เนรมิตคลองใหม่ใช้เวลาแค่ 2 ปี แต่ประชุมกันเป็นหมื่นชั่วโมง เพราะปัญหาเยอะมาก พื้นที่เดิมเป็นแหล่งชุมชน เป็นตลาด เป็นพื้นที่เสีย มีน้ำเน่า เป็นสลัม ฯลฯ
   เขาทำคลองใหม่ เป็นสวนสาธารณะ ขอโทษ คลองสองชั้นครับ เคยเห็นกันหรือเปล่า ชั้นล่างใช้ระบายน้ำ ชั้นบนเป็นน้ำสะอาด มีปลาด้วย เป็นสวนสาธารณะ
   โซลมีพื้นฐานแย่กว่ากรุงเทพฯเราแทบทุกด้านนะครับ เรื่องผู้คนเราก็ดีกว่า คนของเรายิ้มกว่า คนเขาไม่ยิ้ม คนของเขาไม่ชอบทำงานบริการ แต่คนไทยเรานี่ถนัดเลย ค่าครองชีพของเราก็ถูกกว่าเยอะ
   แต่เขาชนะเราด้านความรู้ครับ คนของเราความรู้น้อย เด็กไทยเราไม่อ่านหนังสือ ชอบแต่เดินห้าง กินอาหารขยะ ไม่ใช่แค่ฟาสฟู๊ดนะ รวมถึง หม้อก๋วยเตี๋ยวมีบัดกรีด้วยสารตะกั่ว โรงงานปล่อยยาพิษทิ้งลงคลอง คนที่มีวิถีริมน้ำก็สุขภาพแย่ ปลาในน้ำก็แย่ไปด้วย คนกินปลาก็แย่ตามเป็นลูกโซ่ โตมามันก็ไม่มีความคิด ใครจะชักจูงอะไรก็แค่เอาเงินมาล่อ เพราะสถาบันและสังคมสอนแต่ให้หาเงิน สองสัปดาห์ก่อนมีการเลือก อบต ครั้งใหญ่ เขาแจกกันหัวละเป็นพัน และหลายพันครับ ไอ้แค่ 500 น่ะ เด็กๆ
   คนโง่ๆ โตมากับความโง่ๆ พอเป็นผู้ใหญ่มันก็เล่นแบบคิดเองเออเอง ใครทำอะไรไม่ถูกใจก็พยายามหาหนทางเอาชนะ สู้ไม่ได้ก็เล่นใต้โต๊ะ ยกพวกตีกัน แบ่งพรรคแบ่งพวก สร้างอาณาจักรของตัวเอง ฯลฯ
   โปรดแก้ที่การศึกษาเถิดครับ นี้คือพื้นฐานของปัญหาทั้งปวง ต้องสอนให้เด็กรักการอ่านหนังสือ คนอ่านเยอะๆ จะยิ่งฉลาด และมีจิตนาการ รู้จักวิธีคิดเป็นระบบ เป็นขั้นตอน แน่นอนครับว่าพอคนมันคิดได้แล้วน่ะ อะไรๆ ดีๆ มันก็จะตามมาเอง
   บ่นเยอะ สงสัยจะแก่แล้ว ก็มันหงุดหงิดนี่นา เห็นพวกผู้ใหญ่โง่ๆ ทำงานแล้วน่าอนาถใจ เพราะมันใช้เงินภาษีของผมไปเป็นเงินเดือนมันน่ะสิ นี่ถ้าเอาเงินบ้านเมือง เงินภาษีไปทำอะไรที่มันฉลาดๆ หน่อยจะไม่ว่าเลยสักนิด
   ตกเย็นเริ่มหิว ออกไปหาของกินที่ตลาด แต่อยากได้แบบอ้วนน้อยหน่อย เลยเลือกเอาข้าวโพดต้ม หวังว่าตกดึกคงจะไม่หิวอีกนะ นี่ผมหยิบขนมปังมาเคี้ยวกินก่อนนอนมาสองสามวันแล้ว
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 23, 2009, 02:26:41 pm
22 กย 52
   วันนี้ Car Free Day ของจริงครับ เป็นวันตรงของมัน แต่บ้านเราต้องจัดงานวันอาทิตย์ ไม่งั้นคนน้อย
   ไม่ได้ปั่นจักรยานมาหลายวัน เช้านี้ปั่นขำขำแถวบ้าน เอาแค่พอให้ได้ขยับร่างกายบ้าง จอดนานๆ ยางจะพาลเสียเอา ปั่นไปไม่นาน ไปไม่ได้ไกล แถวบ้านในซอยเล็กๆ ยังมีการก่อสร้างถนน ผมเลยไม่อยากปั่นจักรยานผ่าน
   เดินตลาดเจอใบไม้แปลกๆ ขายในร้านขายผัก สอบถามดูเจ้าของร้านบอกว่าชื่อใบมะรุม ผมเคยได้ยินชื่อ เห็นว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก เลยซื้อมาลองกิน 10 บาทได้ถุงค่อนข้างใหญ่ แต่เรากินแค่ใบ เด็ดออกมาแล้วทำผัดผักมันห่อลีบเหลือแค่หยิบมือเดียวเอง ฮ่าๆ
   ใครว่าอะไรดีก็กินไปครับ โดยเฉพาะผัก แนะนำให้ลองกันเยอะๆ โดยเฉพาะพวกผักพื้นบ้านที่เขามักไม่ใช้ยาฆ่าแมลงกัน ผักพวกนี้หาได้ตามตลาดในต่างจังหวัดครับ ผมอยู่ชานเมืองก็พอจะมีผักพวกนี้ให้เห็นบ้าง แต่คนในเมืองย่านสุขุมวิท สีลม คงหากันเหนื่อยหน่อย ถ้าเจอก็มักจะแพง
   ผักหลายๆ สีก็ดีนะครับ เขาว่ามีเบต้าแคโรทีน ต้านอนุมูลอิสระ ผมก็จำๆ เขามาเล่าต่อล่ะนะ เอาลงรายละเอียดลึกๆ ก็มึนเหมือนกัน อธิบายอะไรไม่ได้มากนัก รู้แค่ว่ามันดีต่อร่างกายแค่นั้นแหละครับ
   บ่ายไปเดินเล่นร้าน SB เฟอร์นิเจอร์ พระราม 2 ตรงข้ามเซ็นทรัลพระราม 2 นี่เองแหละครับ หมดเวลาไปหนึ่งชั่วโมงโดยไม่รู้ตัวเลย ราวกับเด็กเดินในร้านของเล่นยังไงยังงั้น เล็งชุดโซฟาเอาไว้ เผื่อห้องเสร็จจะได้จับจองได้ทัน
   หัวค่ำฝนตกแรงมากๆ ผมไม่เคยเจอแรงแบบนี้มาหลายปีแล้ว ตกแรงแถมตกนานอีกด้วย แรงต่อเนื่องชั่วโมงกว่า ผลคือน้ำท่วมหลังบ้านผมเลย ปกติไม่เคยท่วม แต่ครั้งนี้เป็น เพราะน้ำระบายลงท่อน้ำทิ้งไม่ทัน
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 24, 2009, 12:07:00 pm
23 กย 52
   เมื่อคืนดูหนังเรื่ององค์บาก 2 ผมเพิ่งเคยดูครั้งแรก โหห เสียเวลาถ่างตาดูเป็นที่สุดเลย จาพนม ทำไมทำหนังแบบนี้ก็ไม่รู้
   องค์บากภาคแรกเจ๋งครับ เจ๋งโครตๆ โครตจะเจ๋ง จาพนมเปิดตัวได้อย่างสวยงาม เปิดตลาดแอคชั่นหนังไทยในตลาดโลกอีกด้วย แล้วก็ทิ้งหายไปสักพัก มาใหม่อีกรอบด้วยต้มยำกุ้ง ชื่อประหลาด มีแววจะเจ๊ง (ดูแค่ชื่อนะ) แต่จาพนมกลับทำได้ดีมากๆ อีกแล้ว เรียกว่าสุดยอดของหนังไทยแอคชั่นกันเลย
   ตอนนี้หนังไทยดังติดตลาดแล้วครับ จา พนม ยีรัมย์ กลายเป็น โทนี จา เอากับเขาสิ ทีนี้สิในใจมันฮึกเหิม อยากทำหนังให้ดีกว่าเดิม แน่นอน ใครๆ ก็ต้องคิดแบบนั้น ไม่ผิดหรอก
   ลำพังตัวจาพนมเขาเก่งสุดยอดครับ แต่กับองค์บาก 2 ผมว่าเขาโชว์มากเกินไป โชว์การใช้อาวุธจีนสารพัดอย่าง ทั้งกระบองสามท่อน (ยากมากๆ ) และเปีย 9 ท่อน (ไอ้นี่สุดยอดความยาก) ยังมีดาบคาทานะ (ซามูไร) และมวยมือเปล่าอีกสารพัด
   ไอ้เก่งน่ะผมชมเชยครับ แต่ผิดคอนเสปหนังไปหรือเปล่า เนื้อเรื่องเกิดที่เมืองไทย จา พนมเปิดตัวด้วยแม่ไม้มวยไทยโบราณมาก่อน คนเขาจำภาพนี้กันครับ คนไทยมันต้องสู้ด้วยมวยไทย เอาท่าต่อสู้แบบมวยจีน ไอ้หนุ่มหมัดเมามาใส่บ้าง ท่านกกระเรียนจิกบ้าง ท่าเสือตะบบบ้าง ผมเห็นแล้วอึ้ง อุทานแบบรายการคดีเด็ดเลย โถ.. ทำไปได้
   นึกไม่ออกเลยครับว่ามันเป็นไอเดียใคร ของนักแสดง ของผู้กำกับ ของนายทุน หรือถูกทั้ง ก ข และ ค เจอสารพัดมวยจีนและท่าต่อสู้แปลกๆ แล้วหมดอารมณ์เลยครับ ยังมีนับฉากต่อสู้ใต้ท้องช้าง อันนี้เลียนแบบหนังของเฉินหลงมาทุกกระเบียดนิ้วเลย เซ็งว่ะ
   เนื้อเรื่องก็งั้นๆ มันส์ตรงแอคชั่น ลำดับเรื่องโอเคพอไปได้ เสียประกอบดี เครือ่งแต่งกายใช้ได้
   กลายเป็นเข้านอนดึกแบบเสียเวลา เอาเวลาไปนอนเสียยังดีกว่า ดีที่ไม่ได้จ่ายเงินซื้อตั๋วไปดูในโรงหนัง ไม่งั้นบ่นหนักกว่านี้อีก
   ดูข่าวทีวีเห็นมีคลิปเด็กนักเรียนสาวตบกันสาเหตุเพราะแย่งผู้ชาย โหห ทำไมสมัยกูไม่เห็นมีแบบนี้กันบ้างเลยวะ มีแต่ผู้ชายฟาดปากกัน เป็นคลิปมาจากอุตรดิษถ์น่ะ หรือว่าสาวๆ เขาหันมาฮิตการตบกัน เออ ดี ยิ่งโตยิ่งแก้ปัญหาไม่เป็น วิธีที่ควรน่ะคือทั้งคู่ควรทิ้งไอ้ผู้ชายหลายใจคนนั้นไปเสีย ต้องขอบคุณเพื่อนสาวที่นัดมาตบกันนั่นแหละ เพราะมีเธอเขาถึงแสดงธาตุแท้ออกมา เราต้องขอบคุณเธอนะ ต้องแบบนี้ ไม่ใช่ต้องไปตบมัน กระทืบมัน
   อ้อ บางคลิปตบเดี่ยวตัวต่อตัวก็โอเคหน่อย บางคลิปมีรุม โหห โครตสถุลเลยว่ะพี่น้อง นอกจากไม่แมนแล้ว ยังหน้าด้านอีกด้วย (เออ หรือว่าผู้หญิงมันไม่เข้าใจคำว่าแมนวะนั่น)
   สังคมฟอนเฟะยิ่งทุกวัน น่าอนาถใจ
   เย็นไปโฮมโปรอีกแล้ว วันนี้ไปเพราะแม่ให้เอาของไปเปลี่ยน เขาคงไม่คืนเป็นเงินสดนะ ผมเลยคิดจะเลือกเอาก๊อกน้ำสนามมาแทน อันนี้ได้ใช้แน่ๆ
   พอไปถึงผมเดินไปแแผนกลูกค้าสัมพันธ์ ยื่นใบเสร็จพร้อมกับสินค้าที่ต้องการคืน เขาถามเหตุผล ผมบอกว่าซื้อมาผิดรุ่น ผมถามว่าขอคืนเป็นเงินได้ไหม พนักงานบอกว่าไม่ได้ แต่จะออกบัตรเงินสดเอาไว้ซื้อของในโฮมโปรให้ใช้ในเวลา 30 วัน ผมตอบตกลง
   สักพักพนักงานคุยกันยุกยิกเปลี่ยนใจบอกว่าคืนเงินสดให้ได้ เออ ดีว่ะ แบบนี้ผมชอบ เพราะตอนผมซื้อเขาก็ซื้อเงินสด ตอนคืนก็น่าจะคืนเป็นเงินสดสินะแฟร์ดี มันอาจจะยุ่งยากระบบบัญชีสักหน่อยอันนี้ผมเข้าใจ ผมเองก็ทำการค้า แต่ชื่อแผนกคุณคือลูกค้าสัมพันธ์มิใช่หรือ มันหน้าที่บริการลูกค้านี่นา
   ไอ้ร้านไหนบริษัทไหนไม่ยอมคืนเงินสดให้ลูกค้า ก็ให้ดูโฮมโปรพระราม 2 ไว้เป็นตัวอย่างครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 25, 2009, 01:42:42 pm
24 กย 52
   ปีที่แล้วรัฐบาลแจกเงินเป็นเช็คช่วยชาติให้ทุกคนที่มีรายได้น้อยคนละ 2000 บาท (เฉพาะคนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมแรงงาน) ผมตกใจมาก เพราะต้องแจกกันมโหฬารครั้งใหญ่
   มาวันนี้ได้ข่าวว่ามีแจกเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุคนละ 500 บาท (น่าจะต่อเดือนนะ - ผมเดา) อันนี้ก็มหกรรมการแจกเงินอีกครั้งใหญ่
   แปลกๆ นะ ทำไมรัฐบาลเอาเงินประเทศไปแจกกันสุรุ่ยสุร่าย ผมไม่เห็นด้วยในการแจกเงินไม่ว่าจะกับใครหรือกรณีใดๆ แต่จะเห็นด้วยอย่างยิ่งในการนำเงินไปพัฒนาชุมชนที่พวกเขาอยู่ เอาไปสร้างห้องสมุดสิครับ เอาไปบูรณะสวนสาธารณะสิครับ แจกเงินทำไม คนเหี้ยๆ มันก็เอาเงินไปกินเหล้า คนเลวๆ มันก็เอาเงินไปซื้อยาเสพติด (หาง่ายโครตๆ ) หรือไม่ก็เอาไปเล่นการพนัน ซื้อของไร้สาระ กินเหล้า ซื้อมือถือ ฯลฯ
   มีรัฐบาลที่คิดแต่จะแจกเงินแจกของแบบนี้แย่วะ รัฐบาลที่แล้วก็แจกในรูปกองทุนหมู่บ้าน S M L ผมว่ามันยังดูมีหลักการเสียกว่าเลยนะ กลายเป็นว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ว่าเขาเหี้ย ก็ไปเหี้ยตามเขา
   หากเป็นแบบนี้บ้านเมืองจะยิ่งถดถอยครับ หรือไม่ก็เจริญถอยหลัง นักการเมืองที่เข้ามาก็แค่เพื่อหาผลประโยชน์ คือมันมาทำธุรกิจนั่นแหละ แต่เอาการเมืองบังหน้า ปากพูดเพื่อประชาชน แต่การกระทำนั้นต้องเพื่อตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น ตีกันคู่แข่งก็เป็นสิ่งที่นักการเมืองทุกคนพึงกระทำ
   ทุเรศว่ะ เห็นแล้วหมดแรงพัฒนาประเทศเลย
   กลางวันแดดร้อนแรงจัดแบบสุดยอด คิดจะเอาจักรยานออกปั่นเล่นก็ยังต้องถอดใจ ยืนกลางแดดแป๊บเดียวก็แสบผิวเหลือเกิน
   ช่วงนี้ผมวุ่นๆ อยู่กับการจัดการบ้าน เดือนหน้าก็จะต้องมีการโอนห้องพัก เลยคิดเตรียมการตกแต่ง เพราะอยากเข้าไปพักอาศัยโดยเร็ว มีสระว่ายน้ำด้วยนะ ลูกผมนี่ชอบมากๆ เลย
   แต่ที่ยังคิดไม่ตกก็เรื่องการเก็บจักรยานนี่แหละครับ ห้องพักก็เล็กนิดเดียว แล้วจะเก็บจักรยานกันอย่างไรดีล่ะครับนี่
   แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอกครับ ผมเคยออกแบบที่เก็บจักรยานในบ้านไว้ เลยได้คุ้ยแคะเอาไอเดียเก่าๆ ออกมาปรับเปลี่ยนบ้าง แต่คิดว่ายังไงก็หนีไม่พ้นรถพับเป็นแน่
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 26, 2009, 06:43:31 am
25 กย 52
   วันนี้มีทดสอบรถกระบะ Mazda BT50 Minor Change ผมไม่ได้ไปเหมือนหลายๆ งานที่ผ่านมา
   ตื่นเช้ามาก็พบข่าวดีของบ้านเมืองไทยเรา ต้นยางพาราที่ปลูกที่จันทบุรีให้ผลผลิตได้ดีเยี่ยมแถมมีคุณภาพสูง ทำให้ต่างชาติแห่กันมาหาซื้อยางจากชาวบ้านกันยกใหญ่
รู้ว่าตัวเองมีอะไรดีก็ต้องทำให้มันเป็นจุดเด่นกันขึ้นมาครับ ภาคเอกชนคงทำได้ไม่ต่อเนื่องเท่ากับการที่ภาครัฐช่วยสนับสนุน เช่นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องนำข้อมูลนี้ไปต่อยอดและประชาสัมพันธ์ในตลาดโลก อย่าลืมนะครับ ยางพารามีแค่ไม่กี่ประเทศในโลก และตอนนี้ของจันทบุรีของเราเป็นอันดับหนึ่ง
   กลางวันผมเข้าไปที่โครงการคอนโดที่ไปซื้อเอาไว้ เข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ ผมไม่ชอบโทรไปคุย เลยเข้าไปคุยเอง ที่จริงอยากดูสถานที่เขามากกว่า ผมว่าสวยดีนะ ผมชอบ ลูกผมก็ชอบเห็นสระว่ายน้ำแล้วอยากลงทุกที
   วันนี้มีอีกข่าวที่คือตำรวจจับวงไพ่ป๊อกเด้ง แต่ผู้ต้องหาเป็นคนแก่มากๆ เขาเล่นกันตาละ 1 บาท จับเสร็จก็ส่งขึ้นศาลทันที (แปลกดีไหม แม่งโครตเร็วเลย ทีคดีที่คนรวยๆ นามสกุลดังๆ แม่งช้าสัตว์)
   ศาลก็พิจารณาตามกฏหมายครับ คือปรับเงินเจ้าบ้าน และผู้เล่น เป็นอันจบ
   แต่พวกคุณไม่รู้หรอกหรือว่าคนแก่เขาเล่นไพ่กันเพื่ออะไร เขาอยู่บ้านเฉยๆ บางคนขาพิการ บางคนอ่านหนังสือไม่ออก เขาเล่นกันตาละ 1 บาท แสดงให้เห็นเจตนาอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ได้เล่นแบบมั่วสุม มัวเมา เขาเล่นเพื่อฆ่าเวลา
   จะบอกให้อีกอย่างว่าการเล่นไพ่ในคนแก่ๆ น่ะ ช่วยลดอาการสมองฝ่อได้เป็นอย่างดีเลย การเล่นไพ่กับเพื่อนวัยเดียวกันมันก็ได้คุยกัน ได้ขยับมือ (มือและเท้านี่เป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาทเลยนะ) คนแก่ออกกำลังกายไม่ไหว ได้ขยับมือ ได้หัวเราะ ได้ลุ้น ผมว่ามันดีนะ โดยรวมแล้วน่าจะทำให้สุขภาพใจดีขึ้นด้วยซ้ำไป
   ต่อไปนี้คุณจะให้คนแก่เขานั่งกันเฉยๆ ใช่หรือเปล่า ถ้าเอ็งไม่แก่บ้างก็แล้วไป
   วันนี้ ททท จัดงานโปรโมทการท่องเที่ยวที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก จัดบ่อยทุกปี แต่ไม่ไปแล้ว ร้านค้าที่มาแม่งสารพัดโจรเลย เราจองเงินสด แต่พอจะใช้บริการ มันบอกเต็มตลอด สุดท้ายว่างแค่วันธรรมดา บ้างก็ได้ห้องแบบเหลือเดน ทำไงได้ จ่ายมันเงินสดหน้างานไปแล้วนี่หว่า
   ททท ก็รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ แต่ดันไม่ทำอะไรเขา แปลกโครตๆ ทำงานกันแบบนี้บ้านเมืองถึงเจริญถอยหลังไงครับ
   มาดูวิธีแก้แนวทางของผมไหม อยากให้ ททท เอาไปทำตาม คือคาดโทษไว้ว่าหากใครโกงก็จะปรับยึด หรือเพิกถอนใบอนุญาติผู้ประกอบการ กล้าทำไหมเล่า ถ้ากล้าก็ถือว่าเจ๋ง ถ้าไม่กล้าก็คือไปรับเงินค่าปิดปากจากเขาเรียบร้อยแล้ว อย่ามาเถียงหาใบเสร็จ เขาคุยตัวเลขกันบนกระดาษทิชชู คุยเสร็จก็ทิ้งลงในแก้วน้ำบนโต๊ะอาหารนั่นแหละ 
   อ้อ มีนักการเมืองคนหนึ่งคิดแยบยลกว่า ไม่เขียนในทิชชู่ แต่เขียนบนฝ่ามือตัวเองแล้วยื่นให้คนที่ตัวเองต้องการเงินดูตัวเลข แต่คนนี้เขาตายไปหลายปีแล้ว
   เป็นเอดส์ตาย กรรมสนองครับ
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 29, 2009, 02:32:09 pm
26 กย 52
   เช้าวันเสาร์วันนี้อากาศดีมากๆ ฝนตกปรอยๆ เมื่อคืนทำให้ตอนเช้าอากาศเย็นสดชื่น อยากเอาจักรยานออกปั่นนะ แต่นึกถึงถนนที่ต้องผ่านแล้วเขายังก่อสร้างทางไม่เสร็จนี่เซ็งจริงๆ นอกจากขรุขระแล้ว ยังมีการยกระดับฝาท่อให้สูงขึ้น นั่นคือผมจะปั่นชิดขอบทางด้านซ้ายไม่ได้ เลื่อนมาตรงกลางก็ขรุขระ เป็นหิน เป็นทราย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมช่วงนี้ผมปั่นจักรยานน้อยลงกว่าเมื่อเดือนก่อนๆ
   กลางวันท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนจะตก พรุ่งนี้วันอาทิตย์เสียด้วย คงมีคนออกทริปปั่นจักรยานกันเยอะ ฟ้าฝนแบบนี้จะไปกันได้สะดวกแค่ไหนกันล่ะครับนี่
   เออ ผมเพิ่งรู้ว่ารถของ KHS ล็อตใหม่ที่ตัวแทนสั่งเข้ามามีแบบ Tandam ด้วย (รถสองตอน) แถมยังพับได้อีก บ๊ะ แจ๋วว่ะ แต่พอดูรูป ดูสเปคเทียบกับราคาแล้วยังไม่เข้าตาครับ จุดหลักๆ คือระบบจานปั่นที่หน้าหลังยังต้องปั่นตามกันอยู่ ระบบนี้โบราณมากๆ รถยุคใหม่แล้วน่ะจะแยกการหมุนเป็น 2 ชุดได้แล้ว ส่วนการพับท่อคอก็ยังเหมือนกับ KHS ของผม คือต้องถอดท่อคอออกมาทั้งยวง แล้วมันก็ห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้นแหละ ระโยงระยางด้วยสายเกียร์สายเบรก รวมกัน 4 เส้น ยังไม่พอนะ เพราะหากเป็น Tandam พับด้วยแล้ว ต้องถอดบันไดออกอีกด้วย ไอ้นี้ตัวยุ่งยากสุดเลยล่ะ แต่หากให้มองแง่ดีบ้างก็คือเป็น Tandam พับตัวแรกที่เข้ามาในไทย ลืมบอกว่าราคา 49000 บาทครับ เป็นแบบ 27 Speed ส่วนเฟรมก็ยังเป็นโครโมลีของ Reynolds อุปกรณ์ที่เหลือผมเดาว่าเป็นของ Power Tools เช่นเคยครับ มีข้อดีที่ผมชอบก็คือได้แร็คหน้าหลังมาด้วย (น่าะจะแถมนะ เพราะดูรูปจากเวปไต้หวันเขามีแร็คมาให้)
   อยู่บ้านเล่นกับลูก เขาบอกพรุ่งนี้อยากไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ติดใจก๋วยเตี๋ยวหมูสับ ผมตกใจ เพราะเพิ่งไปมา 2 ครั้งติดๆ กัน พรุ่งนี้จะเอาอีกหรือครับนี่ แหม แม้มันจะไม่ไกลบ้านนัก แต่ไปบ่อยมันก็เบื่อเหมือนกันนี่นา แต่ของกินเขาก็อร่อยดีนะ บอกตามตรงว่าติดใจก๋วยเตี๋ยวหมูสับของเขาเหมือนกัน ผมมักจะสั่งบะหมี่ต้มยำ มาแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยครับ รสจัดจ้าน น้ำซุปหอมหวาน ไม่ได้เจอรสชาติแบบนี้มานานมากๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวในเมืองน้อยมากๆ ที่จะหารสชาติได้แบบนี้ครับ นี่ถ้าเขาจะสร้างเอกลักษณ์อีกหน่อยนะ ผมแนะนำให้ทำเส้นเองครับ แบบ Home Made นี่แหละ นอกจากจะขายก๋วยเตี๋ยวได้ดีแล้ว ยังสามารถขายส่งเส้นได้อีกด้วย เห็นไหม ทำธุรกิจมันต้องต่อยอด ต้องมองไปข้างหน้าแบบนี้
   ธุรกิจในบ้านเราหลายอย่างยังขาดการต่อยอดครับ เหมือนกับว่าทำไปวันๆ ขายไปงั้นๆ ผิดกับพวกธุรกิจต่างชาติที่เขาขยายตัวกันเร็ว พวกนี้หัวคิดสุดยอดเหลือเกิน เล่นทั้งในเกมและนอกเกม มีการตลาดแบบแปลกๆ มีโฆษณาแบบคาดไม่ถึง ตอนผมไปสัมนาที่ต่างๆ ก็มักจะทราบข้อมูลเหล่านี้มาบ้าง ดูแล้วน่าสนใจดีครับ   
   เย็นผมนำรถ KHS F20-W มาจัดเตรียม วางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้อาจจะปั่นจากบ้านไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แล้วให้ภรรยากับลูกขับรถยนต์ไปเจอกันที่นั่น ผมก็ได้ปั่นจักรยานด้วย และเขาก็ได้ไปตลาดน้ำด้วย แบบนี้สิถึงจะ win win
   ลองบีบๆ ยางดูก็โอเค แม้จะไม่เต็มสเปค 100 psi แต่ก็ปั่นได้สบาย เดินไปเดินมานึกเอะใจ วัดแรงดันดูวะ โหห เหลือแค่ 40 เอง ทนไม่ได้ เลยอัดเข้าไปที่ 90 psi (ปกติผมเติม 100) เตรียมน้ำใส่กระติก เตรียมอุปกรณ์ยังชีพของจักรยาน
   พรุ่งนี้ผมพร้อมลุยแล้วครับ (ถ้าฝนไม่ตกนะ)

27 กย 52
   ดึกๆ เมื่อคืนภรรยาเปลี่ยนแผน พากันไปพุทธมณฑลแทน ผมกะว่าจะตื่นแต่เช้าแล้วออกปั่นไปก่อน ให้ภรรยาขับรถไปกับลูก ไปเจอกับผมที่นั่น เขารู้ว่าผมชอบปั่นอยู่ในบริเวณเวฬุวัน
   ผมตื่นเช้าก็จริง แต่ออกมาดูฟ้าฝน มันยังไม่ตกหรอก แต่ก็มีเมฆมาก ลมโชยเย็นๆ สองจิตสองใจว่าจะออกปั่นดีไหม ไม่ได้กลัวเปียก แต่กลัวคลาดกับภรรยา คือกลัวว่าผมออกไปสักพักแล้วเกิดฝนตก พวกเขาไม่ออกมากันล่ะ
   คิดนานเวลาก็ผ่านไปฟ้าก็สว่างราว 0600 ผมเลยนำจักรยานขึ้นรถหมด 3 คันรวด ไปมันพร้อมกันนี่ล่ะวะ
   รถคันอื่นขึ้นได้ไม่มีปัญหา มาเจอรถ KHS นี่แหละที่ลำบากหน่อยตรงที่ท่อคอมันเป็นแบบสวม ถอดมาแล้วก็ระโยงระยางด้วยสายเคเบิ้ล 4 เส้น บอกตามตรงว่าโครตจะรำคาญเลย พับแล้วก็ไม่เล็กเท่าไหร่ นี่ถ้า Dahon เขาทำรถที่ช่วงสั้นออกมาสักหน่อยผมจะไม่มีรอเลย อันที่จริงก็ทำไมยากนะ ใช้เฟรมเดิมนี่แหละ แต่ออกแบบท่อคอและองศาชุดบานพับใหม่แค่นั้นเอง เอาให้มันเอนไปด้านหลังนิดๆ ก็ใช้ได้แล้ว
   ผมเอารถ GT HT ไปครับ เจ้าคันนี้ไม่ได้ปั่นมาราว 2 ปี ตอนสูบลมทีแรกนี้ลุ้นมาก กลัวยางจะแตกหรือเปื่อย ภรรยาใช้รถ KHS F20-W ส่วนลูกใช้ JZ88 สองคันหลังนี้สบายมาก ลุยได้ทุกที่ เพราะใช้ปั่นบ่อย
   แวะซื้อหมูย่างข้าวเหนียวแถวตลาดจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่พุทธมณฑล ระหว่างทางก็เจอชาวจักรยานเป็นระยะๆ แต่พอเข้าไปนี่สิยิ่งแปลกใจ เพราะมีคนปั่นจักรยานกันเยอะมากๆ เมื่อก่อนเจอไม่กี่คน เผลอๆ ไม่เจอใครสักคน ปั่นกันเอง 3 คนพ่อ แม่ ลูก แต่วันนี้เจอเป็นสิบ กะคร่าวๆ ก็ราว 30 กว่าคน (หลายๆ หลุ่มรวมกัน) ส่งยิ้มกันจนเหงือกแห้งไปเลย ปิดปากไม่ลง ต้องเอาฟอกกี้มาฉีด ฟู่ๆ ๆ (มุข)
   สัก 9 โมงกว่าก็กลับกันแล้วครับ พาภรรยาไปท่าน้ำศิริราชต่อ พาไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านประจำของเขาที่เขากินตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ ไปกินมาหลายครั้ง แต่วันนี้รสชาติเปลี่ยนไป คนใหม่มาทำแทน สงสัยไม่ต้องมากินอีกแล้ว
   กลับมาบ้านเจอแม่กำลังจัดแต่งต้นไม้ พ่อกับแม่เขาไปสวนจตุจักรกันมา ว้า ไม่รู้ล่วงหน้า ถ้ารู้จะขอไปด้วย ผมชอบต้นไม้หน้าตาแปลกๆ ทน ๆ และมักจะชอบไม้ใบเป็นพิเศษ ง่ายและคลาสสิคสุดสำหรับผมคือพลูด่างครับ ขอหน้าตาแปลกๆ หน่อยนะ

28 กย 52
   ตื่นเช้ามาพบข่าวพายุฝนถล่มฟิลิปินส์ รุนแรงน่าตกใจอย่างมาก นึกถึงเราที่อยู่ในไทยแสนจะโชคดี แม้เราจะมีน้ำท่วมน้ำหลาก แต่ก็จะเป็นบริเวณไม่กว้างใหญ่นัก และมักจะเป็นน้ำท่วมขังเสียมากกว่า ในขณะที่ฟิลิปปิ้นส์เขามาเป็นแบบน้ำป่าหลากกันมาเลย เล่นเอาคนตายเป็นร้อย
   ผมไม่ได้ปั่นจักรยานหนักๆ มานานมากแล้ว เหงื่อไม่ได้ออกแบบท่วมตัวมานาน แถมผมไม่นิยมเข้ายิมเล่นเวทเท่าไหร่นัก นอกจากเสียเงินสิ้นเปลืองแล้ว ข้างในยังมีแต่เกย์เสียเป็นส่วนใหญ่ เคยเจอตัวโตเบ้อเริ่ม กล้ามใหญ่สัตว์ หัวไหล่มันแทบจะใหญ่กว่าหัวผมอีก แต่เสือกคุยจ๊ะจ๋ากับแฟนผู้ชาย ทุเรศฉิบเป๋ง หมดมาดแมนเลย อ้อ บางคนมีหนวดเฟิ้มอีกด้วย หึหึ
   ผมเองก็ชอบและอยากมีหุ่นดีนะ แต่ผมชอบให้กล้ามเนื้อสวยแบบนักกีฬาครับ ผมเคยเล่นวินเซิร์ฟมาตั้งแต่เด็กๆ ยุคนั้นหุ่นดีมาก สวยมาก มี 6 Pack แบบที่ดาราวัยรุ่นปัจจุบันเขาเรียกหากัน ของผมเป็น 6 Pack ที่มาจากการเล่นกีฬา ผมว่ามันสวยกว่าพวก 6 Pack ที่มาจากโรงยิมเยอะมากๆ
    ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าตอนเช้าจะออกวิ่งแทน ไม่รอปั่นจักรยานแล้ว ถนนทำนานมากไม่เสร็จเสี่ยที แต่ดันมีฝนตกปรอยๆ เสียนี่ เล่นเอาเซ็ง รอพรุ่งนี้เอาใหม่
   ตรวจสภาพจักรยานคัน GT HT คันที่แทบจะไม่ค่อยได้ใช้งานเลย พบว่าแก้มยางมีรอยแตก คล้ายกับยางเสื่อมสภาพหรือยังไงนี่แหละ คันนี้เป็นรถที่เบาที่สุดของผมเลยนะนี่
   ใช้งานสูบพื้นแบบจริงจัง ไล่สูบรถทุกคันในบ้าน พบว่าด้ามจับแบบเป็นไม้จับได้ถนัดและสบายมือมากๆ เลย ไม่ผิดหวังที่เลือกอันนี้มาจริงๆ (มีรุ่นเดียวที่ด้ามทำด้วยไม้)
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 29, 2009, 03:58:23 pm
29 กย 52
   เย็นวันนี้พายุไต้ฝุ่นกิสนา (ไทยเรียกกฤษณา) จะขึ้นฝั่งที่เวียดนาม พรุ่งนี้จะเข้าไทย ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง เอาเป็นว่าทั้งประเทศก็แล้วกัน เตรียมรับมือฝนตกหนักและนานไว้ได้เลย
   วันนี้ผมมีเรื่องตื่นเต้น ประตูโกดังเก็บของมันติดขัด งัดเท่าไหร่ก็ไม่ออก สุดท้ายผมต้องเปิดพื้นบ้านชั่น 2 แล้วโดดลงเข้าไปยังในตัวอาคาร (เป็นอาคารไม้เก่ามากๆ ) เพื่อเปิดประตูจากด้านในออกมา
   ใช้ชะแลงงัดพื้นเปิดไม้กระดานออก เจอคานขวางเสียอีกนี่ เลยค่อยๆ หย่อนตัวลงในช่องแคบๆ ก้น หลัง หน้าอก ครูดกับขอบไม้กระดาน ขาก็ห้องต่องแต่ง หย่อนให้ตัวลงต่ำที่สุดจนใช้แค่นิ้วมือเกี่ยวกับขอบกระดานด้านบน มองลงไปก็สูงพอควร ระดับก็เกือบ 3 เมตร นึกแล้วกลัวขาเจ็บ ข้อเท้าพลิกเหมือนกันนะนี่ แต่ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกมั่นใจว่าจะไม่เจ็บตัวก็ไม่รู้
   เท้าสัมผัสพื้นดังตุ๊บเดียวเงียบๆ หัวเข่าย่อลงจนก้นติดพื้น พื้นมันเลอะเทอะด้วยน่ะครับ ถ้าพื้นสะอาดผมจะกลิ้งตัวม้วนไปสัก 2-3 รอบเพื่อลดแรงกระแทก
   บ๊ะ แจ๋วว่ะ ไม่เจ็บอะไรสักนิด เริ่มภูมิใจกับการฟิตร่างกายสิ นี่ไง เห็นไหม เราออกกำลังกายสม่ำเสมอเราถึงทำเรื่องพวกนี้ได้ เริ่มเข้าข้างตัวเองนิดๆ ฮ่าๆ
   กลางวันปั่น JZ88 ไปธนาคาร พับแล้วหิ้วติดมือเข้าไปในตัวอาคารด้วย คนมองกันใหญ่ ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ รีบกดบัตรคิวแล้วนั่งรอ วางจักรยานไว้แถวๆ หน้าประตูนั่นแหละ
   แดดร้อนแบบสุดยอดเผาผิวแป๊บเดียวแสบแขน เลยหยิบปลอกแขนมาสวม รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ขี่ขนาดใส่หมวกปีกกว้างแล้วนะครับนี่
   ปั่นจักรยานลงมาจากสะพานพุทธมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ ด้านซ้ายมือเขาตีเส้นเอาไว้เป็นเลนอะไรสักอย่าง ผมเดาว่าเป็นเลนจักรยาน แต่ไอ้เล่นนี้มันต้องคร่อมฝาท่อกลมๆ ตลอดทางเลย(ฝาทึบ และมีปุ่มๆ บนฝา) ช่วงรอยต่อระหว่างถนนกับฝาท่อก็มีการเล่นระดับแบบไม่ตั้งใจ ขี่ลำบากครับ แนะนำให้ออกนอกเลน หรือถ้าไม่มั่นใจก็ขึ้นฟุตบาทก็ได้ ฟุตบาทเรียบดีมาก (เพิ่งทำเสร็จ) แต่บางช่วงมีร้านค้าเอาสินค้ามาวางหน้าบ้านตัวเอง และช่วงที่เป็นป้ายรถเมล์ก็จะมีคนเยอะหน่อย เราก็ชะลอความเร็วรถลงนิด
   เลนจักรยานของบ้านเราเล่นง่ายทำง่ายครับ เพราะแค่เอาสีขาวมาทาก็เสร็จแล้ว คนคิดคนทำเขาไม่ได้ขี่จักรยานกับเราด้วยหรอกครับ ตีแล้วก็แล้วกัน แถมมีหน้ามาคุยว่าทำทางจักรยานเป็นร้อย กม แล้ว แหวะ
   อยากให้คนมาขี่จักรยานก็ต้องให้เอกสิทธิ์เขาครับ ทำแบบนี้ถึงจะเห็นผลและจูงใจการใช้จักรยาน ลองนึกดูสภาพบนถนนที่รถติดหนักๆ แบบจอดนิ่ง แต่มีเลนจักรยานที่วิ่งได้ฉิวๆ ๆๆ (จักรยานล้วนๆ นะ) คนที่อยู่บนรถมองจักรยานผ่านไปๆ เรื่อยๆๆ นานๆ เข้า สักวันพวกเขาก็ต้องลงมานั่งปั่นจักรยานเหมือนกัน
   แต่เอาเข้าจริงก็หาถนนที่พร้อมจะทำแบบนี้กันได้ยาก แถมคนคิดจะทำก็ไม่มีตัวตนจริงๆ เพราะส่วนใหญ่ตัวเขาก็ใช้รถยนต์กัน ก็ต้องออกแบบทุกอย่างรองรับคนใช้รถยนต์อยู่แล้ว
แน่จริงลองให้คนใช้จักรยานเขาออกแบบถนนกันเองบ้างสิครับ แล้วคุณจะเห็นว่าโลกใบนี้เปลี่ยนไป
Title: Re: กย 52
Post by: O'Pern on September 30, 2009, 02:32:32 pm
30 กย 52
   อ้าว เฮ้ย เป็นอันว่าเดือนนี้ผมไม่ได้ไปทริปไหนกับเขาเลยหรือครับนี่ ช่วงปีก่อนๆ ที่ยังไม่ได้จัดพิมพ์บันทึกนี้ผมปั่นเป็นว่าเล่นเลย
   อืม เป็นไปได้ว่าลมฟ้าอากาศช่วงนี้ไม่เป็นใจเอาเสียเลย ไอ้ฝนน่ะไม่กลัวนะ กลับจะชอบเสียอีกด้วยซ้ำไป ที่กลัวน่ะคือพวกพายุครับ เพราะหากมันมามักจะมาหนัก มานาน ไม่ใช่แค่ปั่นยากครับ เผลอๆ จะปั่นไม่ได้เอาน่ะสิ
   เดือนหน้ากลุ่มพี่ๆ ที่ลำปางชื่อกลุ่มลุ่มน้ำวังชวนผมไปปั่นขึ้นดอยตุง ใจน่ะไม่ปฏเสธอยู่แล้ว แต่ผมไม่ชอบแค่ไปปั่นแล้วก็กลับ ผมอยากท่องเที่ยวต่ออีกสักหน่อยน่ะ ทีนี้ผมก็อยากได้คนท้องถิ่นช่วยนำทาง และถ้าได้บ้านพักฟรีจะสุดยอดมาก ไปลำปางเมื่อต้นปี ผมนอนพักบ้านน้าชูครับ นอนบนเตียงเล็กๆ ริมหน้าต่าง ไม่ต้องเปิดพัดลม แถมยังต้องเปิดบานเกล็ดแค่แง้มนิดๆ และห่มผ้าอย่างดี เพราะอากาศหนาวเย็นมาก นี่ขนาดช่วงเดือนกุมภาพันธ์นะครับนี่
   หน้าหนาวปีนี่แหละผมว่าสุดยอดแน่ๆ ต้องวางแผนเอาจักรยานเดินทางท่องเที่ยวให้มันส์ไปเลย ใจอยากจัดทริปต่างประเทศนะ แต่กลัวดูแลเพื่อนๆ ไม่ทั่วถึง เพราะมันไม่มีการอำนวยความสะดวกใดๆ เลยแม้แต่น้อย เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาก็ป่วนกันทั้งทริปเป็นแน่ ยังไม่นับเรื่องร้ายๆ เช่นอุบัติเหตุต่างๆ มันเป็นภาระมหาศาลของผู้นำทริปครับ ก็ชวนเขามานี่หว่า เอ็งก็ต้องดูแลเขาบ้างแหละ ใครมันจะใจจืดใจดำกับพรรคพวกวะ
   ผมเล็งเกาหลี ญี่ปุ่นไว้ครับ อ้อ มีสิงคโปร์อีกอัน แต่ดูมันง่ายเกิน กลัวจะไม่มีสีสัน แต่ก็ถือว่าไปง่าย มาง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก น่าสนใจดีเหมือนกัน
   การไปทริปต่างประเทศนี้มันมีตัวแพงอยู่ 2 อย่างครับ คือค่าตั่วเครื่องบิน กับค่าที่พัก ลำพังค่าอาหารผมว่าไม่เท่าไหร่ (หากกินธรรมดา พื้นๆ ) ยิ่งไปไกล ค่าตั๋วก็ยิ่งแพงเป็นธรรมดา มีที่หนึ่งที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปอีกรอบแน่ๆ คือนอร์เวย์ จะต้องไปขึ้น North Cape อีกรอบ คราวนี้จะไปด้วยจักรยาน บรรยากาศจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ (หากผมยังมีชีวิตอยู่นะ)
   ไม่รู้สิว่าจะได้ไปจริงไหม มันอยู่ที่ความพร้อมหลายๆ ด้าน ถึงตอนนั้นเงินอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่อาจเป็นเรื่องของเวลาและสุขภาพของเราเองต่างหาก
   นี่ไง ผมถึงได้เตรียมดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่วันนี้ คุณๆ ก็ทำกันได้นะครับ เราทำหล่อทำสวยกันไม่ได้ มันแล้วแต่พันธุกรรมของแต่ละคน แล้วแต่พ่อแม่จะให้มา แต่สิ่งที่เราทำกันได้แน่ๆ ก็คือทำให้ตัวเราเองสุขภาพดี เป็นคนดี ทำความดี ฯลฯ
   เห็นไหม ไม่ต้องเกิดมาหล่อ หรือเกิดมาสวย เราก็ดูดีกันได้ทุกคนแหละครับ