racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on January 12, 2014, 11:34:43 am

Title: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 11:34:43 am
1 มค 57
   สวัสดีปีใหม่ครับ ได้หยุดแล้ว ได้หยุดวันนี้วันเดียวนี่แหละ ไม่รู้ว่าหยุดเพราะพักผ่อนหรือหยุดเพราะไม่มีคนงานมาทำงานกันแน่ ฉลองปีใหม่ส่วนตัวคนเดียวด้วยการไปวิ่งออกกำลังกายเหมือนวันหยุดทั่วไปนี่แหละครับ
   ศูนย์เยาวชนเปิดแค่ภายนอกให้คนไปวิ่งออกกำลังกาย ไม่เปิดด้านในสนามฟุตบอลเหมือนวันปกติ รู้สึกวิ่งไม่สนุกเลยครับ ชอบวิ่งด้านในมากกว่า มันโล่ง กว้าง โปร่งดี วิ่งแล้วได้ไอเดียทางธุรกิจเยอะดี เริ่มเหมือนตอนขี่จักรยานละ อยู่คนเดียวเงียบๆ นานๆ เริ่มมีเข้าภวังค์
   แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร วิ่งรอบนอกได้แค่ 6 รอบ ก็เริ่มเจ็บกล้ามเนื้อหน้าแข็ง สงสัยใจร้อน วอร์มอัพไม่ดี ไม่อยากฝืน ก็เลยเดินต่ออีก 2 รอบ แล้วก็กลับบ้าน
   มิวชวนไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกแล้ว ติดใจของกินที่นี่จริงๆ ไปถึงก็จัดสเตปเดิมๆ นะ ไข่นกกระทา 2 กระทง ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่น้ำ 2 ชาม โกโก้เย็น มิวชอบแค่นี้เอง กินเสร็จก็เดินเล่นวนรอบตลาด ดูร้านค้าต่างๆ เจอชาวจักรยานเหมือนเช่นเคยครับ ผมเจอเองก็ยังรำคาญเองเลย เพราะเขาจูงจักรยานเดินผ่าเข้ากลุ่มฝูงคนที่อยู่กลางทางเดินตอนคนแน่นๆ
   โอเค เจ้าของสถานที่เขาไม่ได้ห้าม แต่พอคนเยอะ ในทางเดินแคบๆ พอมีจักรยานเข้ามาก็เสียพื้นที่ทางเดินไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว และถ้ามากันหลายคันก็จะเจออาการบันไดไปเกี่ยวน่องชาวบ้าน บ้างก็ไปโดนแขนเด็กตัวเล็กๆ
   ผมเข้าใจนะ พวกรถแพงๆ เขาไม่อยากจอดกัน แต่ก็ต้องเข้าใจสภาพแวดล้อมของตลาดด้วย ฉะนั้น หากจะเข็นเข้า ก็ต้องมาตลาดก่อน 0800 ครับ หลังจากนี้คนแน่นไปจนถึง 0200
   ร้านค้าหลายร้านบริการให้จอดจักรยานได้นะ แต่ก็อย่างที่บอก คนรถแพงๆ ไม่ค่อยจอดกัน นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ชอบใช้รถหรือใช้อุปกรณ์แพงๆ ไงล่ะ รถเก่า โทรม จะจอดไหนก็สบาย
   กลับถึงบ้านสายๆ ก็แยกย้าย ภรรยาจัดตู้เสื้อผ้า ลูกเล่นเกม ผมล้างรถ
   ข่าวชายชุดทำบนดาดฟ้าตึกกระทรวงแรงงานเป็นที่ฮอทฮิตมาก เฉลิมบอกไม่ใช่ตำรวจ ปิยะบอกเป็นมวลชนปลอมตัวมา ไอ้แจ๊ดบอกไม่ใช่ตำรวจแน่นอน แต่อลุลย์ แสงสิงห์แก้ว ยอมรับแล้วว่าเป็นตำรวจจริง
   ไอ้ฉิบหาย พวกมึงมาหลอกประชาชนโดยไม่ได้เตี้ยมกันมาก่อนเลยหรือ
   เย็นซ้อมจักรยาน 30 นาที แต่ซ้อมของผมไม่ได้ซ้อมเหมือนพวกนักจักรยานเขานะ ผมซ้อม Track Stand 15 นาที ตามด้วย Bike Balance / Bike Control อีก 15 นาที
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 11:37:22 am
2 มค 57
   เช้าขี่จักรยาน 45 นาที ยังคงซ้อมปล่อยมือขี่ แต่ทำได้ไม่ดีเท่าเดิมว่ะ ฝีมือตกชัวร์ๆ ไม่ต้องสงสัย ปรับตั้งล้อให้ตรงแนวดังเดิมแล้วนะ ทำไมรถมันยังแกว่งๆ ก็ไม่รู้
   เปิดงานวันแรกของวันหยุดยาว คิดไว้ในใจนะว่าบนท้องถนนมีแต่ความโกลาหล รถติดแบบไม่ต้องบรรยาย
   แต่เปล่าเลย เฮ้ยย งงดิ ทำไมถนนโล่ง อ้อ ก็เพราะมันเป็นวันหยุดต่อเนื่องไง หลายคนยังเที่ยวต่อ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันจันทร์โน่นแหละครับถึงจะเจอแบบจัดจริง
   วันหยุดยาว สินค้าขาดตลาด หลายคนเลยขับรถมาซื้อของบรรทุกไปเองที่หน้าร้าน ยก แบก เข็น เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ของคนทำงานแบบนี้ ผมเฝ้าร้านตั้งแต่เช้าจนเลิก เบื่อๆ หน่อย ส่วนลูกยังคงปิดเทอมอยู่
   งานเลิกเร็ว เลยกลับบ้านเร็วตามไปด้วย ได้เห็นหน้าลูกก่อนเขาหลับ
   ลุงกำนันประกาศงานใหญ่ ปิดกรุงเทพ ในวันจันทร์ที่ 13 มค 57
   เอาแล้วมึง !!!
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 11:57:06 am
3 มค 57
   ภรรยาโดนโจรวิ่งราวกระเป๋าอีกแล้ว เพิ่งโดนไปครั้งที่แล้วเมื่อสองเดือนก่อน แต่คราวนี้ฮึดสู้ ยื้อกระเป๋าถือกันไว้ไม่ยอมปล่อยให้โจร และตะโกนว่า “ไฟไหม้ ไฟไหม้” จนมีผู้ชายจากร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามถนนถือไม้จะวิ่งข้ามมาช่วย โจรเลยวิ่งไปหาเพื่อนคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่จอดรออยู่ใกล้ๆ กัน
   ผลก็คือกระเป๋าถือสายขาด แต่ข้าวของอยู่ครบ เนื้อตัวมีรอยถลอกเพราะล้ม หัวโน ไม่รู้โดนอะไรกระแทก ฟาดเคราะห์อีกแล้ว
   ทำไมต้องปลอบใจด้วยคำว่าฟาดเคราะห์ก็ไม่รู้ ผมเป็นชาวพุทธคนหนึ่งที่ศรัทธายึดมั่นในความดี ไม่ได้เชื่อแบบฟังเขามา หรือใครบอกอะไรก็เชื่อไปหมด ในลักษณะนี้ สำหรับผมตีความว่า เราทำความดีน้อยเกินไป
   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตในแง่ร้าย ผมมักคิดเสมอว่า เรายังทำความดีมาไม่เพียงพอ คิดเอาเองง่ายๆ สรุปเอาด้วยมโนจิตของผมเองนี่แหละ ไม่ต้องถามหาเหตุผล มันเป็นทฤษฎีความเชื่อส่วนตัวของผมเองคนเดียว
   ตอนหนุ่มๆ มีเพื่อนมายืมเงินหลายคน คืนบ้าง ไม่คืนบ้าง แต่โดยรวมแล้วคือจะ “เสียเพื่อน” ไปหมดทั้งสองกลุ่ม ระยะหลังไม่ให้ยืมแล้ว ก็เลยกลายเป็นเสียเพื่อนไปโดยปริยาย บางคนไม่ให้ยืมก็ไม่คุยกับเราอีกเลย บางคนให้ยืมไปแล้วก็ไม่คุยกับเราอีกเลยเช่นกัน ไอ้อันหลังนี้เรียกว่าเสียทั้งเพื่อนเสียทั้งเงิน

   มิวเปิดเทอมวันนี้ แต่เปิดมาแค่วันเดียวพรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้ว จะเปิดทำไมวะนั่น คงเป็นเป็นพิธีมั้ง นัดพบมิวที่ในห้างเซ็นทรัลตอน 1 ทุ่ม ผมต้องรอเลิกงานก่อนถึงไปรับลูกได้ สอนลูกให้เป็นเด็กห้างอีกวัน
   อยู่เฝ้าร้านเต็มๆ 2 วัน คิดพลอทเรื่องงานเขียนได้นิดหน่อย ยังไม่ได้เขียนจริง ผมใช้จดลงสมุดบันทึกเอาไว้ก่อน ช่วงนี้มีแต่เขียนเรื่องจักรยาน และการเดินทาง เรื่องรถยนต์ที่เรารักนี่แทบจะทิ้งไปเลย
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 12:01:56 pm
4 มค 57
   เช้าขี่จักรยาน 45 นาที อากาศไม่ค่อยหนาวแล้ว มีแค่เย็นๆ หน่อย แต่ก็ยังคงต้องใส่เสื้อแขนยาวมีฮู๊ดคลุมหัวออกขี่ อาหารเช้าวันนี้เป็นเมนูใหม่ เอาเนื้อปลาเก๋ามาผัดคั่วให้แห้ง ใส่ขิงซอยเยอะๆ ราว 1 กำมือใหญ่ ใส่ต้นหอมเล็กน้อย กินกับข้าวกล้อง ไข่ต้ม กระเทียมสด
   ไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า ให้เขาเดินทางไปสยามเองมานานสักพักใหญ่ เริ่มคล่องมากขึ้น ส่วนผมไปทำงานร้านขายของเหมือนเดิม บรรยากาศเดิมๆ เป๊ะ แต่ถ้ายกของหนักจากที่สูงก็จะทำให้ผมอึดอัดใจหน่อย เพราะจะทำให้หลังเจ็บกำเริบ
   บ่ายไปธนาคาร มีเวลาเหลื้อเลยเข้าไปคอนโด เปิดห้องปุ๊บเจอความเย็นวาบเลย เหมือนเพิ่งจะปิดแอร์น่ะ แต่มันคือเย็นธรรมชาติ นี่ขนาดปิดประตูหน้าต่างสนิทหมดแล้วนะ
   นี่ถ้าเป็นอาทิตย์ก่อนที่อากาศเย็นมากๆ ก็เจ๋งเลยนะ รับประกันความหนาวเลย ห้องนี้ลมแรงมาก มันมีระเบียงสองฝั่ง ลมทะลุทะลวงเข้าถึงทุกอณู
   เครื่อง DVD ในห้องเริ่มรวน กดปุ่มแล้วตอบสนองช้า กด Play แล้วเล่นแผ่นบ้าง ไม่เล่นบ้าง ตอนแรกคิดว่าแผ่นเสีย แต่ลองหลายแผ่นแล้วก็ยังเป็น จนสุดท้ายเจอแผ่นที่เล่นได้มันก็เล่นได้หมด เลยได้ข้อสรุปเอาเองว่าเครื่องมันคงทิ้งไว้นานโดยไม่เคยเปิดเล่น
   นั่งเล่นรับลม สุดยอดจริงๆ อยากนอนริมระเบียง เล่น Uke คงจะสุขสุดๆ แต่นั่งเล่นได้แป๊บเดียว มิวก็โทรมาเรียกให้ไปรับ บอกว่าเรียนเสร็จแล้ว
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 12:08:05 pm
5 มค 57
   ภรรยาชวนไปตักบาตรทำบุญ ก็เลยพ่วงการตักบาตรวันเกิดของผมไปด้วยในตัว เอาข้าวของใส่ท้ายรถกระบะ แล้วไปจอดที่หน้าวัดแถวบ้าน พระท่านรับบิณฑบาทเสร็จก็ฝากไว้ในวัดเลย ไม่ต้องเดินถือของหนักไปตลอดทาง
   เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่ไม่ได้ออกกำลังกายครับ แต่ก็สบายใจดี ภรรยาถามเรื่องการปล่อยนกปล่อยปลา ก็เลยให้ความเห็นในสไตล์ของผมที่มันไม่กฎใดๆ มาครอบ อาศัยสามัญสำนึก
   ประการแรก คือจะไม่ซื้อนก ปลา กบ เต่า หอย ฯลฯ สัตว์ต่างๆ ที่ในวัดครับ เพราะมันคือสัตว์ที่เขาจับมาขาย มันคือธุรกิจ ไม่เอา ไม่ชอบ ถ้าจะปล่อยปลา ผมก็จะไปซื้อปลาในตลาดสด เอาปลาในกาละมังแม่ค้าที่กำลังจะโดนฆ่า ถ้าเห็นตัวที่กำลังจะโดนทุบหัวนี่รีบจัดเลย บอกแม่ค้าอย่าเพิ่งทุบ ผมเอาตัวนี้แหละ ไม่ได้ซื้อตัวเดียว ส่วนใหญ่เหมาหมดกาละมัง อย่างวันนี้พาภรรยาไปตลาดบางปะกอก เจอปลาดุกขนาดเล็ก ตัวแค่คืบเดียวเอง ชีวิตของมันยังอีกยาวไกลมาก ปกติปลาดุกโตๆ ตัวยาวเท่าศอกเป็นเรื่องปกติ ก็เลยจัดมาหมดกาละมัง แม่ค้าขาย กก ละ 65 บาท
   แวะซื้อโจ๊กบางกอกมาฝากพ่อแม่ผมและมิว เลยไปวัดราชบูรณะเพื่อไปปล่อยปลา ผ่านบ่อยแต่เพิ่งเคยเข้าไปด้านในวันนี้แหละครับ ตั้งอยู่ริมเจ้าพระยา แต่บรรยากาศริมน้ำไม่สวยเอาเสียเลย มีบ้านเรือนชาวบ้านมาปลูกอาศัยแบบถาวรนอกคันกั้นน้ำด้วย เฮ้ย งงดิ มึงมาได้ไง ปักตอม่อแล้วก็ปลูกเป็นบ้านใหญ่เลย โห อะเมซิ่งว่ะ
   ตรงท่าน้ำท่าดินแดงก็มีบ้านที่ปลูกนอกคันกั้นน้ำนะ ไอ้นั้นโหดกว่านี้อีก เพราะเล่นตึกแถว 3-4 คูหา สูง 4 ชั้น เท่โคตรๆ มาได้ไง ทางเขตแม่งแดกไปเยอะถึงทำได้ และไอ้ ผอ เขตคนต่อมาก็คงต้องตามแดกกันทุกคนแน่ เพราะไม่มีทางสร้างได้อย่างถูกกฎหมายหรอก บ้านตั้งอยู่ในน้ำ อะเมซิ่งไทยแลนด์
   น้ำขึ้นสูงครับ ค่อยๆ ปล่อยปลาช้าๆ กลัวมันน็อคน้ำ นั่งดูพวกมันอยู่ราว 5 นาที ลูกปลาดุกมันคงจะงงมาก เพราะต้องโดนจับขังไว้ในที่แคบๆ ไม่มีน้ำมานานหลายชั่วโมง พอตอนนี้มาเจออิสระสุดๆ ปลามันไม่ยอมว่ายไปไหนเลยนะ อยู่วนเวียนอยู่ที่สะพานท่าน้ำ คงจะยังไม่คุ้นสถานที่ ต้องใช้เวลาอีกสักพัก และถ้ามันเป็นปลาดุกเลี้ยงก็คงได้พบกับอิสระแบบสุดๆ ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่เอ็งต้องใช้ชีวิตที่เหลือให้ดีนะ อย่าไปติดเบ็ดของใครเขาเข้า
   กลับมาบ้าน กรวดน้ำ กินโจ๊ก มิวออกไปเรียนพิเศษ ภรรยาผมพาไป ส่วนผมจัดการกับบ่อปลาเหมือนเดิม

   เช้านี้กลุ่ม กปปส เดินเรียกแขกโดยใช้เส้นทางแถวปากคลองตลาด ผ่านไปทางพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ มาสักการะเอาฤกษ์เอาชัยก่อนวัน “Shot Down Bangkok” ในวันที่ 13 มค 57 ขากลับใช้เส้นทางเจริญกรุง แวะกินข้าวกลางวันที่วงเวียน 22 กรกฎา และกลับเข้าราชดำเนินในช่วงเย็นๆ
   ดูทีวี Blue Sky เห็นคนบริจาคเงินแล้วซึ้งน้ำตาไหลเลยว่ะ มันไม่ใช่แค่เงินนะ มันคือการส่งสัญญาณว่า
“ฉันขอหุ้นด้วยหน่อยหนึ่งนะ ในการโค่นล้มไอ้รัฐบาลชุดนี้”
 หรือ
“ฉันไม่สะดวกไปร่วมชุมนุม ฉันขอส่งแรงเงินนี้ไปแทนนะ”
ไม่ก็
“กูจะเอาไอ้เงินนี้แหละวะแทนค่าว่าจ้างให้กลุ่มคนมาไล่รัฐบาลให้ไปพ้นๆ เสียที”
ช่วยกันแบบนี้สิน่า เห็นแล้วซึ้งใจจริงๆ  ลุงกำนัน สู้สู้ ๆ ๆ ๆ

   เพิ่งได้ฤกษ์ว่างเปิดคอมฯบันทึกไดอารี่ชีวิตอีกครั้ง ไม่ค่อยชอบเลยครับในการที่ต้องมาพิมพ์เล่าชีวิตย้อนหลัง ไม่ได้เปิดคอมฯ มาราว 1 สัปดาห์ เรื่องเล่ามันไม่สดเหมือนเล่าวันต่อวันไง
   เปิดตู้เย็นเจอขนมหวานไทย ได้เป็นของขวัญปีใหม่มา อร่อยครับ แต่กินมากไม่ได้ แม่งจะอ้วนถาวรเอา ผมชอบฝอยทอง และทองหยอด แต่ต้องแบ่งให้ทุกๆ คนไปกิน แบ่งกันอ้วน ฮ่าๆ
   กลางวันมีกลุ่มคนใส่เสื้อขาว นัดกันไปปล่อยลูกโป่งที่หอศิลป์กรุงเทพฯ กลุ่มนี้บอกจะเอาเลือกตั้ง อืม กูก็เอาว่ะ แต่ขอปฏิรูปก่อน มึงคงไม่เข้าใจมั้ง มันจะให้เลือกเดี๋ยวนี้เลย ซึ่งมันก็คือพวกเดียวกับรัฐบาลสินะ แต่งานนี้มาด้วยเสื้อขาว เออ แปลกดี หรือจะเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่
   นั่งพิมพ์เล่าเรื่องไปเรื่อย นึกย้อนเวลาบ้าง จนบ่ายแม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามาฝาก หึหึ จัดไปอีก 1 ชุดใหญ่ กะว่าตลอดวันนี้จะจัดเบาแล้วนะ เพราะเมื่อเช้าก็กินโจ๊กกับปาท่องโก๋ไปหลายตัว ยังมีขนมไทยอีกชุด ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ช็อคโกแลตดาร์คอีก 25 กรัม (แบ่งมา ¼ ซองที่บรรจุ 100 กรัม)
   แม่บอกร้านนี้อร่อยมาก อยู่ในหมู่บ้านสินทวี แต่ผมกินแล้วเฉยๆ จะอร่อยก็ตรงเส้นที่ผัดจนหอม และผักคะน้าที่เขาใช้เป็นคะน้าฮ่องกง ผมชอบกินผักครับ ทั้งๆ ที่ตอนเด็กนี่กินผักไม่เป็น
   พุงกูต้องระเบิดแน่ๆ เลย อุตส่าห์วิ่ง อุตส่าห์จักรยาน เจอวันนี้วันเดียว ดอกเบี้ยทบต้น ไม่กล้าชั่งน้ำหนัก ไม่อยากเห็นตัวเลข แต่ดูสภาพพุงตัวเองแล้วไม่น่ารอด ต้องรีดให้มันแบนลงกว่านี้หน่อยค่อยมาชั่งจะเวิร์คกว่า ไม่งั้นต้องมีหลอนแน่ๆ
   หลังจากกินราดหน้าสักพักก็คอแห้ง หิวน้ำมาก ผมไม่กินน้ำเย็นมาเป็นเดือน วันนี้เปิดยกซดใหญ่เลย ก๋วยเตี๋ยวมันต้องอุดมไปด้วยผงชูรสแน่ๆ เจอแบบนี้ต่อให้อร่อยแค่ไหนก็ไม่เอาแล้วครับ
   ภาคเหนือหมอกลงจัดมาก ก็เพราะอากาศเริ่มอุ่นขึ้นนี่แหละครับ ทำให้เกิดหมอก อาทิตย์หน้าจะหนาวอีกครั้ง ก็จะทำให้หมอกหายไป
   กัมพูชาก็มีประท้วงมือเปล่าเหมือนของไทยเรานะ แต่เมื่อวานโดนฮุนเซนจัดอาก้าให้ เลยตายไป 3 ไอ้คนนี้ก็เหี้ยพอๆ กับทักษิณ คืออยากครองประเทศคนเดียว
   หนังท้องตึง หนังตาหย่อน นั่งอยู่หน้าจอคอมฯ ก็มีง่วงเฉยเลย แอบหลับไป 10 นาที วันนี้เปิดทีวีช่อง Blue Sky ตลอดเลย ตอน 0400 ขบวนของสุเทพก็เดินทางกลับถึงราชดำเนิน วันนี้เขาเดินไป 7.5 กม ใช้เวลา 6 ชม นั่งกินข้าวกลางวันกลางถนนที่วงเวียน 22 เช่นเดียวกับเมื่อสัปดาห์ก่อนที่นั่งกินข้าวกลางแยกอโศก และกลางถนนสีลม แหม มันช่างเป็นความทรงจำที่ดีจริงๆ รับรองชาตินี้ไม่มีวันลืม
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 12:16:43 pm
6 มค 57
   รถติดแบบเผาจริง ของจริง ของแท้ มันต้องติดแบบนิ่งสนิทนาน ยังดีนะ อยู่ฝั่งธนฯ รถมันน้อยกว่าฝั่งพระนครเยอะ ถนนหลักๆ มีอยู่ไม่กี่เส้นเอง วางแผนไว้ว่าจะเอาจักรยานออกขี่ไปทำงานจะดีกว่า ส่งลูกเสร็จก็ยอมรถติดอ้อมกลับเข้าบ้านหน่อย แต่จะย่นเวลาได้ตอนอยู่ระหว่างทาง
   จันทร์นี้พอจะเอารถยนต์ออกได้ แต่จันทร์หน้าวันที่ 13 อาจเอาจักรยานออกแทน อยากไปเป็นหนึ่งในหลายล้านกับเขาบ้าง “ปาน” แกรนนี่ไบค์ บอกไว้ในเฟซบุ๊คว่าเป็นวัน Car Free Day ผมตอบไปว่า มันคือ Car Free Week ในใจคิดไปว่าอาจเป็น Car Free Month
   ปานเป็นคนหนุ่มที่ผมนิยมชมชอบในวงการจักรยาน เพราะเขาทำในสิ่งแปลกใหม่ เริ่มจากนำเข้ารถยี่ห้อ Surly มาขายเป็นคนแรก จนปีต่อมาก็โดนบริษัทใหญ่เสียบและยึดไปเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวอย่างเป็นทางการ เซ็งว่ะ แต่มันคือธุรกิจระดับโลก ใครซื้อเยอะก็เอาลิขสิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายไป ง่ายๆ และโคตรง่าย มีแค่นี้เอง
   เจอกับปานอีกครั้งในงาน a day bike week คุยกันอยู่นานเป็นชั่วโมง แนะนำเขาด้านการตลาด และการจัดบูธไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ ปัจจุบันเขานำเข้าสินค้าของ xtracycle ออปชั่นต่อยืดท้ายรถจักรยานให้ยาวกว่าเดิม เพื่อรองกับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
   แต่แล้วแผนก็ต้องเปลี่ยนครับ ภรรยาฝากให้เอาเอกสารกองใหญ่ไปที่ทำงานด้วย เอาล่ะสิมึง สุดท้ายก็ต้องขับรถยนต์ไปจนได้ รถติดแบบที่คาดเดาไว้เป๊ะ คิดบวกครับ คิดเสียว่าเป็นการทดสอบรถพ่อไปในตัว สองวันก่อนพี่อ๊อดเจ้าของอู่เพิ่งนำรถไปตรวจเช็คให้อีกครั้งหลังจากเปลี่ยนเหล็กกันโคลงไปแล้ว แต่รถยังมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดอยู่ตลอดทาง
   วันนี้เพิ่งเป็นเหล็กกันโคลงของมันเต็มตา แม่งอันเบ้อเริ่มเลย ใกล้ปลายทั้งสองด้านมียางหุ้มอยู่ แม่งเล่นแบบมีพลาสติคแข็งเคลือบด้านนอกอีกชั้น ที่จริงเหล็กไม่ได้เสียหรอก เสียแค่ยาง แต่มันมาพร้อมกันทั้งชุด เซ็งสัตว์ หมดไปกับไอ้นี่ 1 หมื่นบาท
   รถวิ่งดีแล้วครับ ส่วนซุ้มล้อที่โดนยางครูดลองงัดกลับเข้าที่ดูแล้วผลก็คือสีมีรอยคล้ายสีแตก เลยเข้าที่ได้แค่ 50% เซ็งไปอีกรอบ
   ส่งมิวที่โรงเรียนแล้วก็ต้องต่อคิวรถดินด้านฝั่งขาเข้าพระราม 2 นี่ถ้าลูกยอมนั่งรถเมล์ไปเรียนเอง ผมจะย่นเวลาได้ราว 30 นาทีเลย แต่น่าเสียดาย เขาไม่ยอมนั่ง ไม่รู้กลัวอะไร หรือติดความสบาย ไม่ต้องโทษใคร เลี้ยงลูกให้สบายเอง มึงก็ต้องเลี้ยงมันไปตลอดชีวิต
   ผมกับภรรยาเลี้ยงดูลูกไม่เหมือนกัน ผมแนวติดดิน จนๆ แต่ภรรยามาแนวหรูหรา ใช้จ่ายแพงๆ ไม่รู้สิ ผมก็ไม่อยากพูดมาก เลยให้ลูกตัดสินใจเอาเองว่าจะเลือกชีวิตอย่างไร แล้วก็ไม่ผิดคาด ใครมันจะไปเลือกใช้ชีวิตลำบากวะนั่น
   มิวมีบัตรสมาชิกสตาร์บัค คือกินแล้วรูด ไม่ต้องจ่ายเงินสด พอเงินในบัตรหมด แม่ก็เติมให้ เช่นเดียวกับบัตรของ 7-11 ก็มีบัตรรูดอีกแล้ว ชีวิตแม่งมีแต่ความสบายเหลือเกิน
   ไอ้นี่แหละครับ มันจะทำให้เด็กเสียนิสัย ผมล่ะเซ็งจริงๆ อยากสอนลูกให้ติดดิน ให้เป็นลูกผู้ชายแมนๆ ลุยๆ ใจอยากให้เขาเดินทางไปต่างประเทศเองคนเดียวก่อนอายุ 18 ถ้ามิวยังใช้ชีวิตแบบนี้ก็คงจะยากแล้วล่ะ
   บ่ายเข้ามาบ้าน เห็นรถพ่อคันใหม่ที่ด้านหน้าซ้ายมีรอยครูดยาว 1 คืบ ลึกเข้าถึงเนื้อสีเลย ไม่รู้ใครขับไปโดน เซ็งอีกครั้ง
   เย็นไปรับมิว พาไปถ่ายรูปติดบัตร เอาไว้สมัครสอบเข้าเรียนชั้น ม1 ในปีหน้า อีกเพียงแค่ 2 เดือนแล้วสินะ หลังจากจุดนี้ ชีวิตมิวจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 12:22:07 pm
7 มค 57
   เช้านี้ฟิตจัด ตื่นมาวิ่งไป 20 นาที พอได้เหงื่อหน่อย วิ่งในซอยบ้านนี่แหละครับ กินข้าวเช้าเสร็จก็ไปส่งแม่ที่สวนธนบุรีรมย์ ห่างจากบ้านราว 6 กม ปกติแม่จะไปกับพ่อ แต่วันนี้ผิดคิว ตื่นสาย พ่อเลยคิดว่าแม่ไปไปด้วย จึงขับรถไปคนเดียว
   กลับมาบ้านก็รีบอาบน้ำแต่งตัว จัดเตรียมรูปถ่ายของมิวไปด้วย ตอนกลางวันจะไปสมัครสอบแข่งขันคณิตศาสตร์โครงการประกายกุหลาบให้มิว สมัครที่โรงเรียนสวนกุหลาบน่ะ ผมกะจะขี่จักรยานไป
   รถติดหนึบเลย ช่วงนี้ใช้รถพ่อตลอด ขับสบายดี รถติดก็โอเค แอร์เย็น เพลงเพราะ ต่างจากรถผมที่ไม่ติดฟิล์ม จอดกลางแดดก็ร้อน เพลงก็มีแค่วิทยุไม่กี่ช่องให้ฟัง มันเป็นวิทยุที่ติดรถมาจากญี่ปุ่นน่ะครับ
   ที่ทำงานงานเยอะดีครับ ผมรับหน้าที่โทรหาออเดอร์จากลูกค้า บางคนสั่งผิด เราก็ไปส่งของตามนั้น สักพักโทรกลับมาต่อว่าบอกส่งของผิด แต่ที่จริงแล้วลูกค้าพูดผิดเอง ทะเลาะกับเขาไม่ได้หรอก ให้เขาดุว่ามา ไม่เป็นไร อดทนเก็บเอาไว้ งานบริการก็ต้องคิดแบบนี้แหละครับ คิดบวกมากๆ เข้าไว้ใจเราจะเป็นสุขเอง
    ผมเริ่มจะเครียดเรื่องสอบเข้า ม1 มากกว่าตัวคนสอบเองเสียอีก ดูมิวไม่ค่อยสนใจจะทำแบบฝึกหัดเลย ไปเรียนพิเศษเยอะก็จริงอยู่ แต่การสอบเข้า ม1 ในโรงเรียนดังๆ มันต้องขยันทำแบบฝึกหัดแนวข้อสอบเก่า อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าเขามาแนวนี้ สไตล์นี้ เผลอๆ เอาข้อสอบเก่ามาออกซ้ำก็ยังเจอบ่อยไป
   โรงเรียนสวนกุหลาบจัดสอบคณิตศาสตร์ในโครงการ “ประกายกุหลาบ” เพื่อเฟ้นหานักเรียนเก่งคณิต มีเงินรางวัลให้ ผมยุให้มิวลองลงแข่งขัน ไม่ได้หวังชนะหรอก แต่อยากให้เขาไปลองบรรยากาศการสอบแข่งขันว่ามันจะเป็นอย่างไร จะได้ไปดูโรงเรียนที่เราคาดหวังจะเข้าไว้ล่วงหน้าด้วย
   กว่าจะเสร็จสิ้นงานก็ 0230 ปิดท้ายด้วยเข้าไปโกดังตรวจเช็คสินค้า ออกมาเจอเปาะเปี๊ยะสดเข็นมาขาย หิวสิ อยากกิน ยืนรอพักใหญ่ก็ไม่ถึงคิวเราสักที หลังๆ เลยบอกยกเลิก ไม่เอาแล้ว เจอคนมาซื้อหลายกล่องแล้วเขานั่งรออยู่ใต้ต้นไม้นี่เอง
   กลุ่ม กปปส วันนี้เดินมาทางจรัลสนิทวงศ์ ขากลับผ่านสามเสน เส้นทางเป็นรูปสี่เหลี่ยมเป๊ะ ระยะทางราว 9 กม ระหว่างทางก็บรรยากาศแบบเดิมๆ ครับ คนหนาแน่นมายืนรอออกันเต็มไปหมด ผมเข้าบ้านมาตอน 0300 เปิดทีวีดู เขาว่าเปลี่ยนถุงเก็บเงินเป็นถุงที่ 8 แล้ว ถุงปุ๋ยสีขาวน่ะ ใส่เงินเต็มไปแล้ว 8 ใบ หึหึ
   มันคือปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน น่าจะเรียกกินเนสบุ๊คมาบันทึกสถิตินะว่าเป็นการประท้วงมือเปล่าขับไล่รัฐบาลมากที่สุดในโลก ผมว่าชนะแน่ๆ ยิ่งกว่านั้นคือจะได้บันทึกช่วงเวลาขณะนี้เข้าไปในประวัติศาสตร์ของโลกด้วยไงล่ะ แบบเหนื่อยแล้วก็ขอภูมิใจกันสักหน่อยน่า
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 12, 2014, 12:29:12 pm
8 มค 57
   เช้านี้วิ่งอีกแล้ว ไม่ชอบวิ่งหรอกนะ แต่มันคือการออกกำลังกายที่เหนื่อยได้เร็วในขณะที่มีเวลาจำกัดน่ะ นี่ถ้าทำได้แบบนี้ตลอด โอกาสผอมก็พอจะเป็นไปได้นะ เมื่อวานขณะยืนรอเปาะเปี๊ยะสด พ่อค้ายังทักว่าทำไมดูอ้วนขึ้น หึหึ มึงง ตายยยย
   เมื่อวานตอนบ่ายกลับมาบ้านหิวจัด รอคิวซื้อเปาะเปี๊ยะสดแถมยังไม่ได้กิน กลับมาบ้านเจอฝอยทองกล่องหนึ่ง ซัดไปจนเหลือแค่สองชิ้นเล็กๆ หึหึ ตามด้วยมันฝรั่งแบบเลย์ ปกติไม่กินหรอกนะ แต่ไปเจอรสที่ชอบมาก นั่นคือ Vinegar หายากครับ เจอตอนลดราคา เลยจัดมาตอนไปเจอในซุปเปอร์ฯ
   เป็นอันว่าบ่ายเมื่อวานโหลดคาร์โบไปเพียบ เช้านี้ระเบิดพลังด้วยการวิ่ง 30 นาที พบความต่างจากเมื่อวานอย่างชัดเจน คือวิ่งแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แปลกมาก รู้สึกว่าวิ่งได้อีกนานเลยด้วย แต่ต้องหยุดเสียก่อนเพราะหมดเวลาชีวิตอิสระแต่เพียงเท่านี้
   วิ่งมาสองวันติดกันละ รู้สึกดีนะ เหงื่อออกเพียบ เสื้อเปียกโชก ขี่จักรยานเป็นชั่วโมงยังไม่เหงื่อออกขนาดนี้เลย ตอนวิ่งเสร็จเดินเร็วทำ Cool Down จนหัวใจเต้นช้าลง แล้วซ้อมจักรานต่ออีกนิด รู้สึกดีมากๆ ขี่รถแล้วลมพัดเย็นไง ตัวเรากำลังร้อนๆ เลยรู้สึกสบายตัว
   บ่ายขี่จักรยานไปโรงเรียนสวนกุหลาบ จะไปสมัครสอบคณิตศาสตร์โปรแกรมประกายกุหลาบให้มิว อุตส่าห์โทรไปถามก่อนแล้วนะว่าไปตอนบ่ายได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกมาได้เลย พอไปถึงนะ เขาบอกครูรับผิดชอบแผนกนี้ไม่อยู่ ให้พรุ่งนี้มาใหม่ เซ็งเลย
   ยังดีที่โรงเรียนกับร้านขายของผมห่างกันไม่ไกลมากนัก ผมขี่จักรยานไปแป๊บเดียว เร็วกว่ารถเมล์ สะดวกกว่าขับรถยนต์ไปเอง เพราะไม่มีที่จอด
   ขากลับแถวปากคลองตลาดก็บอกทางไป China Town ให้แก่นักท่องเที่ยวคู่หนึ่ง วันก่อนก็บอกทางแก่ครอบครัวชาวสวิสเซอร์แลนด์ไป เขานั่งตุ๊กๆ มา แล้วตุ๊กๆ ไม่เข้าใจทาง จอดอยู่ข้างถนน เจอผมผ่านไปพอดี ก็เลยพอช่วยเหลือได้ นักท่องเที่ยวเขาต้องการไปท่าเรือปากคลองตลาด
   เข้ามาบ้านก็มีเวลานิดหน่อยก่อนไปรับมิว เปิดคอมบันทึกไดอารี่ชีวิตของวันนี้ และทยอยส่งข้อมูลของวันก่อนๆ เข้าสู่เวป นี่ผมใช้เวปเป็นที่เก็บข้อมูลนะนี่ เคยไว้ในคอมแล้วมันหาย เซ็งเหี้ยๆ เลย แรกๆ ก็อายชีวิตตัวเองเหมือนกัน เลยบันทึกเฉพาะข้อมูลเรื่องจักรยาน หลังๆ ช่างแม่งละ เพราะชีวิตเริ่มตกต่ำ ตกอับ ก็แมนๆ ครับ ให้มันรู้กันไป อีกใจก็อยากเก็บไว้ให้มิวเขามาย้อนอ่านเองด้วย (ถ้าเขาอยากอ่านนะ แต่ถ้าไม่สนใจ ก็ไม่เป็นไร)
   วันนี้ไปรับมิวที่โรงเรียน ไม่ได้ไปนานมาก อยากไปเจอผู้ปกครองท่านอื่นๆ เพื่ออัปเดทข้อมูลด้านการต่อ ม1 ของแต่ละคนว่าเขาไปไหน อย่างไรกันบ้าง เผื่อจะมีโรงเรียนไหนดีๆ ที่เราอาจมองข้ามไป ถ้าสอบได้ก็ต้องไปสอบไว้ก่อนล่ะ กันเหนียว
   ไม่ได้ไปที่โรงเรียนมานานเป็นเดือนเลยนะ แล้วก็ไม่ผิดหวัง ได้เจอ “พี่นัท” พ่อของพราวเพื่อนมิวที่เรียนเรือใบด้วยกัน พี่นัททำงานขับเรือสินค้าตระเวนทั่วโลก อยู่ไทยแค่ปีละไม่กี่วัน ได้เจอวันนี้ โชคดีจริงๆ ได้พูดคุยกันอยู่นานจนค่ำเลย เนื้อหาสาระก็คือโรงเรียนของลูกๆ ในปีการศึกษาหน้า
   เด็กหลายคนมีที่เรียนเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะพวกโรงเรียนเอกชน ก็สบายไปครับ เราเล่นโรงเรียนรัฐบาลเก่าๆ ใกล้บ้าน พ่อแม่ไม่มีเส้นสาย ไม่มีเงินไปฝากเข้า มิวต้องฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ด้วยตัวลูกเองนะ มันยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้
   เสียตรงที่มิวยังไม่ตระหนักในการสอบแข่งขันเท่าไหร่เลย ยังคงเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของไอแพดอย่างสม่ำเสมอ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 15, 2014, 03:18:20 pm
9 มค 57
   เช้านี้วิ่งอีกแล้ว ระเบิดพลังไปแค่ 15 นาที ไม่รวม Warm Up / Cool Down ตื่นสายครับ นอนดึกเพราะดู ดร เสรี ปราศรัย ฟังไม่จบหรอกครับ ต้องหลับก่อน มาตั้งห้าทุ่มกว่าแน่ะ
   ไปถึงที่ทำงานก็รีบเอาจักรยานออกขี่ไปสมัครสอบคณิตศาสตร์โครงการประกายกุหลาบที่โรงเรียนสวนกุหลาบให้มิว เมื่อวานไปแล้วไม่สำเร็จ ขนาดโทรไปก่อนแล้วนะนี่ เจ้าหน้าที่บอกมาได้เลยๆ พอไปถึงครูรับสมัครไม่อยู่ บอกให้มาใหม่พรุ่งนี้เช้า หึหึ
   เช้านี้ก็โทรไปก่อนอีกแหละ เหมือนเดิมครับ มาได้เลยๆ แม่งเหมือนเมื่อวานเป๊ะเลย แต่คนละคนรับสายนะ เอาครับ ไปก็ไป โชคดีที่บ้านใกล้น่ะ ขี่จักรยานข้ามสะพานพุทธก็ถึงแล้ว
   วันนี้โชคดีครับ เจอครูสมศรีผู้รับผิดชอบโครงการนี้อยู่พอดี ลงทะเบียนสมัครแป๊บเดียวเสร็จ
   ตอนสายขบวนของลุงกำนันเดินมาหาผมถึงบ้าน รีบออกไปต้อนรับ ผมสมทบทุนขอหุ้นกับลุงกำนันขับไล่ทรราชครั้งนี้ด้วย ดีใจ ได้จับมือกับลุงกำนัน บรรยากาศผู้คนฮึกเหิมมาก นักเรียนโรงเรียนศึกษานารีส่งแรงใจเต็มหน้าต่าง ยืนดูอยู่พักหนึ่งก็ต้องกลับมาทำงานต่อ ช่วงเช้างานเยอะ ต้องจัดของขึ้นรถให้รีบออกส่ง
   บ่ายเดินอยู่ริมถนนเจอ BMW 5Series ตัวเก่าจอดเสียข้างทาง เดินเข้าไปช่วย พบกว่าเกิดจากโอเวอร์ฮีทอีกแล้ว อาการยอดฮิตของรถเสียริมถนนเลย แค่คันนี้สุดวิสัยจริงๆ เพราะเกิดจากจุกยางอุดตาน้ำแตก ชิ้นยางราคาแค่ 50 บาท เท่านั้นแหละ แต่เจ้าของรถต้องมีทักษะสักหน่อย เจ้าของรถคนนี้ใช้ได้ครับ เขาบอกซื้อมาเปลี่ยนเองเรียบร้อยแล้ว ผมไปเจอเขากำลังเทน้ำเติมลงในหม้อน้ำ แต่ไอความร้อนยังขึ้นสูงปรี๊ดอยู่เลย จึงรีบห้ามเขา บอกให้ไปเช็คเข็มความร้อนดูก่อน รอให้เครื่องเย็นลงมากๆ แล้วค่อยเติมจะดีกว่า
   สอนเขาบิดกุญแจสองแก๊กดูเข็มความร้อน ยังไม่ต้องสตาร์ทเครื่อง รอให้เข็มลงต่ำๆ แล้วเติมน้ำลงไปช้าๆ จะดีกว่า
เย็นนี้มีทำฟันที่ตึกชาญอิสสระ พระราม 1 รีบรับมิวแล้วขึ้นทางด่วนอัดยาวไปเลย ถึงก่อนเวลาครับ นั่งรอสักพัก ผมกับมิวนัดหมอฟันทำพร้อมกัน แต่คนละหมอ ของผมเป็นหมอประจำคนเก่าแก่ทีทำตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ส่วนมิวเขาเป็นหมอเด็กโดยเฉพาะ
   ทำฟันเสร็จก็มีรางวัลเป็นอาหารเย็นของร้านอาหารสีฟ้าที่อยู่ชั้นล่างของตึก รสชาติดีครับ แต่ราคาก็แพงพอควร นานๆ กินทีพอได้ ไม่เป็นไร
   มาถึงบ้านมิวก็ทำหน้าที่เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของไอแพดจนผมโมโหมาก เพราะมันไม่เห็นจะใส่ใจกับการเตรียมตัวสอบอะไรเลย ดุว่าเขาชุดเล็กๆ ก่อนนอน
   เฮ้ออ นี่เราคาดหวังอะไรกับเขามากเกินไปหรือเปล่าวะนี่
   กลุ่ม กปปส และลุงกำนันเดินกลับถึงราชดำเนินเอาตอน 0800 กลายเป็นทุบสถิติการเดินครั้งใหม่วันนี้ที่ยาวนานถึง 11 ชม พอถึงจุดหมายก็เพลียกันหมดทั้งกองทัพ มาปราศรัยอีกทีกันตอนค่ำๆ ส่วนเงินบริจาคยังไม่รู้ว่าได้เท่าไหร่ ยังไม่ได้นับ หมดแรงกันเสียก่อน
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 15, 2014, 03:26:44 pm
10 มค 56
   วิ่งเพื่อชีวิต วิ่งอีกแล้ว วิ่งเพื่อสุขภาพของเราเอง ผมไม่อยากเสียเงินให้หมอ ไม่อยากเสียเงินเพื่อรักษาตัว ก็เลยต้องดูแลร่างกายของตัวเองให้มันอยู่ในสภาพดีที่สุด มันคือเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของผมด้วยน่ะครับ คือตั้งเป้าไว้ว่าไม่อยากป่วย ไม่อยากเข้าโรงพยาบาลตลอดชีวิตนี้ ถ้าจะตายก็ให้มันตายไปด้วยโรคชราเอาเอง ระหว่างมีชีวิตอยู่ก็จะขอทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
   ทำอะไรเป็นประโยชน์แก่สังคมและคนรอบข้างได้ก็ทำหมดแหละ มันเริ่มมาตั้งแต่ทำนิตยสาร Racing Club แล้ว เราอยากให้ข้อมูลแก่เด็กเล่นรถรุ่นหลังไง ไม่อยากให้โดนหลอกแดกจากค่ายรถ อู่รถ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่ทำได้แค่พักหนึ่งก็ต้องหยุดพักการผลิตไป ไม่เป็นไร ไว้พร้อมค่อยทำใหม่
   ทำความดี ไม่เคยมีสาย
   ถึงไม่ได้ทำให้แก่สังคม ก็มาทำให้แก่ครอบครัวและคนใกล้ชิดก็ได้ ผมคิดของผมแค่นี้แหละ
   เช้านี้วิ่งระบบใหม่ คือหลังจาก Warm Up แล้วก็วิ่งต่อเนื่อง 30 นาที แล้ววิ่งแบบสลับช่วง ผมวิ่งเร็วแบบอัดเต็ม 100 เมตร แล้วผ่อนสัก 300 เมตร ทำแบบนี้สลับกันไป หัวใจแทบจะออกมาเต้นนอกร่าง ทำจนรู้สึกไม่สนุก แล้วก็เดิน Cool Down จนหายเหนื่อยแล้วก็กลับเข้าบ้าน
   อาหารเช้าแบบสุขภาพสุดๆ ใช้เนื้อไก่ผัดแห้งๆ ใส่ตะไคร้ ขิง ข่า ใบมะกรูด นำทุกอย่างมาซอยหั่นชิ้นเล็กๆ ฝอยๆ แห้งๆ อร่อยดีครับ มีบร็อคโคลี่ แครอทนึ่งกินแกล้ม คู่กับข้าวกล้องและไข่ดาว แต่กินแล้วคอแห้งฉิบเป๋ง

   ขับรถกลับมาบ้านตอนบ่ายเกือบชนคนข้ามถนน ขับมาคนเดียวเพลินๆ ถนนโล่งๆ ชิดขวาสุดบนถนนสามเลน ซ้ายเป็นป้ายรถเมล์ เหตุเกิดบนถนนตากสิน เกาะกลางมีต้นไม้เป็นพุ่มยาว ผมเจอคนบ้าโดดออกมาจากต้นไม้ เขาคงจะข้ามถนน แต่ไม่ได้มีท่าทีเหมือนคนปกติทั่วไปที่จะต้องชะเง้อหน้าออกมามองก่อน เจอท่านนี้โดดมายืนบนถนนทั่งสองขาเลย !!!
   กดแตรดัง เบรกและหักเลี้ยวหลบพร้อมๆ กัน เฉียดไปราว 1 เมตรได้ แม่ง เล่นซะผมหนาวเลย ตัวผมเองเจอเหตุการณ์อุบัติเหตุจากเวปไหนก็มักจะนำมาโพสเตือนเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ค มาวันนี้เจอเองแบบจังๆ นี่ถ้าเขาโดดมาไกลกว่านี้หน่อยก็คงลอยข้ามฝากระโปรงแน่ๆ นึกแล้วเสียวจริงๆ ขนาดผมขับมาเรื่อยๆ เองนะ ไม่ได้อัดเร็วเลยแม้แต่น้อย
   วันนี้ถึงบ้านราว 0300 เวลาส่วนตัวเหลือ 1 ชม หึหึ แม่งเอ๊ย ทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย กลับมาบ้านเราก็อยากพักผ่อนแล้วล่ะ นี่ผมไม่ได้อัปโหลดไดอารี่ชีวิตขึ้นเวปมาหลายวัน อินเทอร์เนทไม่ดีเลยครับ โพสส่งไม่ได้เลย เสียเวลาอย่างมาก ส่วนตอนเย็นตอนค่ำผมก็จะไม่เปิดคอมฯ จะใช้เวลาอยู่กับมิวเขาตลอด
   เย็นไปรับมิวที่โรงเรียน วันนี้มีงานวันเด็ก ผมเอาสาหร่ายอบแห้ง และวิตามินซีไปแจกเด็กๆ ระยะนี้เปลี่ยนจากร้านหนังสือไปรับที่โรงเรียน เพราะจะได้อัปเดทข่าวสารในการเตรียมตัวสอบ ม1 กับผู้ปกครองท่านอื่นๆ ด้วย
   ลุงกำนันบอกเมื่อวานเดินนานมาก เลยได้เงินไปถึง 3 ล้านกว่าบาท
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 15, 2014, 03:49:55 pm
11 มค 56 Happy my birthday
   วันเกิดปีนี้ตรงกับวันเด็กพอดี ผมเพิ่งจะลบวันเกิดของตัวเองในเฟซบุ๊คออก เกรงใจคนอื่นที่เขาจะต้องมาโพสสุขสันต์วันเกิดให้ในหน้า Timeline ของผม มันกลายเป็นมารยาทไปแล้วไง เลยรู้สึกว่าทางเฟซบุ๊คน่าจะทำปุ่มพิเศษสักปุ่มสำหรับกดอวยพร ไม่ก็ตั้งให้มันอวยพรออโต้ให้แก่เพื่อนในลิสต์เรา
   ผมเฉยๆ กับเรื่องวันเกิดไงครับ ไม่เคยมีของขวัญ ไม่เคยจัดงาน มีแต่ภรรยาและลูกให้การ์ด รับแล้วก็เก็บรักษาเอาไว้อย่างดีทุกอัน บางปีให้ บางปีไม่ไห้ ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน รู้สึกเฉยๆ อยู่ดี
   วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วันนี้สวมหมวกผ้าแบบ Beanie ใช้ใส่วิ่งเวิร์คมากๆ ครับ มันคอยซับเหงื่อทั้งหัวไม่ให้ไหลลงมาที่ใบหน้าและคอ บางทีไหลๆ มา ทำให้เรารู้สึกเหมือนคันๆ พอไปเกาแรงหน่อยผิวหนังก็เป็นรอยปื้นแดงๆ
   อุตส่าห์ปิดระบบเตือนวันเกิดในเฟซบุ๊คไว้ล่วงหน้าสิบกว่าวัน ยังมีคนเข้าหน้า Timeline แล้วเห็นว่าเป็นวันเกิดของผมจึงโพสอวยพรถึง 6 คน 3 คนเป็นเพื่อนสนิท 2 คนเป็นคนที่รู้จักกันตอนเล่นรถยนต์ คนสุดท้ายชื่อปุ๋ยเป็นเพื่อนสนิทมากที่สุดของผมตอนเรียน คนนี้เป็นคนที่จำวันเกิดผมได้โดยไม่ต้องเตือน เพราะเราเกิดเดือนเดียวกัน ปัจจุบันปุ๋ยเป็นภรรยาท่านทูตประจำกรุงลอนดอน สองปีก่อนหน้านี้ประจำอยู่ที่ดูไบ UAE 
   ผมรู้จักกับปุ๋ยครั้งแรกตอน ม6 และบังเอิญมาเรียนคณะเดียวกันในมหาวิทยาลัย ก็เลยสนิทกันที่นี่อีก 4 ปีเต็ม หลังจากนั้นก็แยกย้าย ปุ๋ยไปแคนนาดา ผมไปอเมริกา ยุคนั้นไม่มีคอมฯพิวเตอร์ ไม่มีอีเมลล์ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้ติดต่อกันนานเป็นสิบปี
   บ่ายเข้าธนาคารที่กสิกรไทยสาขาเดอะมอลล์ท่าพระ เขียนยอดเงินและรวมเงินผิดส่งเงินเกินไป 10,000 บาท พนักงานซื่อ ญาโณทัย ศิริไชยา เจ้าหน้าที่ให้บริการ ขอชื่นชมในความซื้อสัตย์ของเธอ
   มิวเรียนพิเศษเต็มวัน มาเจอกันอีกทีตอน 0500 โน่นเลย ชวนมิวกินร้านซานตาเฟ่ เป็นร้านสเต็คราคาร้อยกว่าบาท พอรับได้ รสชาติงั้นๆ แต่กินกันสองคนค่าใช้จ่ายเท่ากับกินร้าน Sizzle ได้แค่คนเดียว
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 15, 2014, 04:04:18 pm
12 มค 56
   วันนี้กลุ่มสวนธนจัดงานขี่จักรยานไปหัวหินกัน วันนี้ในปีที่แล้วผมไปยืนอยู่ที่จุดปล่อยตัวศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติ บางมด ก็ที่เดียวกับที่ผมไปวิ่งออกกำลังกายทุกวันอาทิตย์เช้านี่แหละ ตอนนั้นผมสัญญากับตัวเองว่าจะฟิตซ้อม และมาร่วมงานด้วยในครั้งหน้าแน่ๆ
   แต่.. แต่อีกแล้ว คำว่าแต่นี่มันเหมือนเป็นข้ออ้างเลยเน๊อะ
   ภรรยาบอกให้ช่วยไปส่งลูกเรียนพิเศษให้หน่อย ผมทำตามโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ถามย้อน เช้านี้จึงเป็นเช้าวันอาทิตย์ที่ผมไม่ได้ไปไหนเลย ออกไปส่งมิวตอน 0730 ขากลับแวะกินก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน กลับมาก็เล่น Uke สักพักก็ล้างรถคัน Nissan 180SX
   เข้าเฟซบุ๊คเจอคนประกาศขายรถจี๊บทหาร ไอ้คันนี้พ่อผมเคยขับ ผมเคยถ่ายรูปคู่กับมันด้วย ชอบมาก เขาขาย 2.7 แสน แพงครับ แต่เขาบอกว่าเครื่องเดิม เกียร์เดิม ขับ 4 หลังคาผ้าใบครบ มีทะเบียนตรง ไม่ขาดต่อ นี่สิ มันมาเด็ดขาดเอาตรงนี้ เล่นรถโบราณ ต้องเอาเครื่องเดิมเท่านั้นครับ จะว่าอะไหล่หายากก็จริง ไม่เถียง แต่รถพวกนี้มันไม่ได้เอามาขับใช้งานจริงทุกวัน วิ่งเล่นบ้างในวันหยุด ไม่ต้องอะไรมากนะ เอาแค่จอดอยู่บ้านแล้วนั่งมองก็มีความสุขแล้ว คนรวยอาจจะสุขที่นั่งมอง Ferrari / Porsche / Lamborghini แต่ผมงบน้อย ผมสุขได้กับรถโฟล์คตู้เก่าๆ รถจี๊ปทหาร มอเตอร์ไซค์โบราณ ฯลฯ
   อยู่บ้านกลางวันได้ฤกษ์อัปโหลดไดอารี่ขึ้นเวป นี่ถ้ามีเวลาว่างและอินเทอร์เนทดีๆ อยากจะโพสสดๆ ทุกวันๆ เลยนะ จะได้อารมณ์มากกว่านี้มาก
   ช่วงเย็นมีการเตรียมตัวปิดกรุงเทพฯในวันพรุ่งนี้ เส้นทางรถไฟเปิดให้ใช้ได้แล้วหลังจากตอนแรกบอกว่าจะปิดซ่อม พอโดนสังคมโหมด่าอย่างเต็มที่ในเฟซบุ๊คก็เลยกลับลำเปิดบริการทันที เหี้ยจริงๆ เลย ในขณะที่ช่อง 3 รางานตรงกันข้ามว่าเส้นทางจุดที่เสียหายซ่อมเสร็จแล้วจึงเปิดบริการ หึหึ เหี้ยสม่ำเสมอ ตัวจริงเรื่องการบิดเบือนข้อมูล ต้องยกให้เขาล่ะ
   คืนนี้จะเป็นค่ำคืนสุดท้ายของการชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน มันต้องยิ่งใหญ่ ฮึกเหิมมากแน่ๆ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 15, 2014, 04:12:53 pm
13 มค 56
   Occupy Bangkok / Shut Down Bangkok / Restart Thailand สารพัดชื่อจะเรียก แต่มันคือการรวมพลครั้งใหญ่อีกครั้ง ถึงขนาดยุบเวทีราชดำเนินที่ปักหลักมา 2 เดือน ลุงกำนันสุเทพเรียกว่าทุบหม้อข้าวแล้วบุกเข้าตี แต่เป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเช่นเคย หากโดนรุกรานก็ให้นั่งลงเฉยๆ และสวดมนต์ เออ เจ๋งดีว่ะ
กลยุทธแบบนี้จะชนะใจคนครับ แต่ต้องแลกกันหน่อย ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่านานแค่ไหนถึงจะจบ ยังไงก็ต้องมีการบาดเจ็บและล้มตายแน่ๆ และทหารก็จะออกมาเคลียร์ให้
ไอ้เคลียร์นี่แหละสำคัญว่าจะเคลียร์กวาดไปเข้าทางของใคร ประเด็นอยู่ตรงนี้มากกว่า สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้
เช้านี้ถนนโล่งเว่อร์อีกแล้ว ผู้คนต่างไม่กล้านำรถยนต์ออกมาใช้งาน รุ่นน้องผมหลายคนที่ต้องทำงานในเมืองต่างเตรียมซื้อบัตรเติมเงินของรถไฟฟ้าไว้ล่วงหน้ากันแล้ว ผมเองก็อยากเอาจักรยานออกขี่นะ แต่ขากลับต้องไปทำธุระ จะไปสมัครสอบ Pre Test ที่โรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรีให้มิว ไม่ได้เตรียมไว้เป็นโรงเรียนสำรองหรอกครับ แต่หวังจะให้เขารู้บรรยากาศการสอบเสียมากกว่า
โรงเรียนเพิ่งเปิดมา 2 ปี ยังต้องก่อสร้างกันอีกเยอะ ฝุ่นเพียบ ดูแล้วเหมือนโรงเรียนในต่างจังหวัดจริงๆ ที่ร่มให้เด็กนั่งพักกว้างๆ ก็จะมีเพียงแค่โรงอาหารเท่านั้นเอง การสอบ Pre Test มีให้เลือก 3 ระดับ คือแบบ English Program แบบ Mini English Program และแบบเรียนธรรมดา ไม่ต้องสงสัยครับ มิวไม่ชอบภาษาอังกฤษ ผมเลยเลือกแบบธรรมดาก็พอ
เพิ่งรู้ว่าเขาปิดรับสมัครไปแล้วครับ หมดเขตแล้ว แต่ครูเห็นผมโผล่มา ก็เลยหยวนๆ ค่าสมัคร 300 บาท ค่าคู่มืออีก 100 บาท บำรุงโรงเรียนไป เสาร์นี้ซัดกันสดๆ เช้าถึงเที่ยง
   ไปรับมิวแล้วกลับบ้านเลย แล้วก็ต้องตกใจที่ท่อน้ำดีของห้องน้ำชั้นบนแตกรั่วไหลผ่านฝ้าเพดานลงมากลางห้องโถงใหญ่ โอ้โห แม่งยังกะน้ำตก ตอนแรกแม่บ้านบอกว่าเป็นน้ำเสีย แต่รอ 2 ชม ผ่านไป น้ำตกยังคงไหลแรงจัด มันไม่ใช่แล้วล่ะ
   เหนื่อยมาทั้งวันก็ต้องมาผจญกับการเก็บกวาดน้ำอีก ซับยังไงก็ไม่ไหว เอากาละมังมารองก็ต้องขยันเดินไปเททิ้งอยู่หลายเที่ยวมาก นั่งเฝ้ามันอยู่ตรงนี้แหละ พื้นเลอะก็เช็ดเป็นระยะๆ นองเกลื่อนกลาดแบบอธิบายไม่ถูก เหนื่อย เพลีย เลยเล่น Uke ผ่อนอารมณ์จนถึงค่ำๆ
มิวอยากเอาภาพที่เขาถ่ายลงในเฟซบุ๊คของเขา แต่เครื่องไอแพดของเขาไม่มีซิมการ์ด ก็เลยต้องนำภาพมาใส่ในคอมพิวเตอร์ของผม แล้วค่อยให้เขาล็อคอินในคอมฯเพื่อเข้าเฟซบุ๊คของตัวเอง
กลางคืนตอนมิวหลับแล้วเลยเปิดเครื่องของเขาเพื่อนำภาพอัปโหลด แล้วก็ต้องตกใจที่เจอภาพไม่เหมาะสมมากมาย ตกใจ นอนไม่หลับ ไม่รู้จำทำอย่างไรดี คือถ้าเป็นช่วยมัธยมปลายผมก็จะเฉยๆ หรือเป็นมัธยมต้นก็ยังต้องจำทน แต่นี่มิวแค่ประถม 6 เท่านั้นเอง วุฒิภาวะหลายด้านยังไม่รอบคอบ
เข้านอนก็นอนไม่หลับครับ รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก นอนพลิกตัวไปมาอยู่ 2 ชม แม้จะเหนื่อยเพลียกับการกวาดเช็ดถูบ้านที่ท่อน้ำแตก แต่ก็หลับไม่ลงครับ คิดอย่างเดียวว่าจะหาวิธีใดคุยกับเขาดี อยากหลับแต่ใจไม่ยอมไง สุดท้ายคงจะล้าไปเอง
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 16, 2014, 03:03:21 pm
14 มค 56
   เช้านี้ยังอุตส่าห์ตื่นมาวิ่งไหวอีกนะ จัดไปราว 30 นาที เป็นการออกกำลังกายครั้งแรกที่จิตใจไม่สงบสุข ก็เรื่องที่ค้างคาใจก่อนนอนเมื่อคืนแหละครับ
   แปลกนะ ปัญหาที่คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี คิดมาหลายวันก็คิดไม่ออก ทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต เรื่องธุรกิจ พอขี่จักรยานทางไกลปุ๊บ ความคิดแม่งไหลออกมาเพียบเลย ล้วนเป็นความคิดเจ๋งๆ ด้วย
   มันคงเป็นเรื่องของจิตที่เป็นสมาธิน่ะครับ ใจนิ่งแล้วจะคิดอ่านอะไรก็ทำได้ดี เช้านี้ก็เช่นกัน ผมคิดออกขณะวิ่งเหนื่อยๆ นี่แหละ
   เช้านี้ก่อนออกจากบ้านเลยคุยกับมิวไปตรงๆ พ่อไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้บ่อยๆ จะขอพูดแค่ครั้งเดียว
“มิวใช้เครื่องไอแพดไม่ถูกวัตถุประสงค์นะลูก ไปดูและเก็บภาพที่ไม่เหมาะสมไว้”
คุยกับเขาด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ตวาด หรือดุขึ้นเสียงตะคอก มิวพยักหน้ายอมรับผิด พอผมถามว่าเขาจะจัดการอย่างไร มิวตอบว่าเขาจะลบทิ้ง
จบไป 1 ปัญหา และหวังว่ามันคงไม่เป็นการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาแทนที่นะ ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่ภรรยา มิวคงอายหากคนอื่นได้รับรู้ ผมให้เกียรติเขา
เช้านี้ผมมีงานแถวสามเสน ไม่ได้ไปย่านนี้มานานเป็นปี ตอนขับไปก็จะต้องผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเสียด้วยสิ แต่ได้ข่าวว่าลุงกำนันจะทุบหม้อข้าวยุบเวทีไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วเลยลองผ่านไปดู เช้านี้ยังคงรถน้อยเหมือนเมื่อวาน
ขับรถผ่านสะพานพุทธ ตรงไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็เป็นไปตามคาด ลุงสั่งรื้อเวทีไปเรียบร้อยแล้ว ถนนโล่งสุดๆ เลย ขับสบายมาก ผ่านโรงเรียนสตรีวิทยา ตรงไปตลอดทางจนถึงถนนอำนวยสงคราม และเลี้ยวเข้าสามเสน
เป็นพิธีจับมอบของรางวัลน่ะครับ ผมเป็นส่วนหนึ่งของแขกที่มาร่วมงาน วันนี้เลยแต่งตัวเรียบร้อยกว่าเดิมหน่อย จากที่เคยใส่เสื้อโฆษณาสินค้าต่างๆ ก็ใส่เสื้อแขนสามส่วนทรงเข้ารูปเล็กน้อย โชคดียังพอมีเอว เลยพอดูได้ ไม่งั้นจะออกมาเหมือนเทเลทับบี้
ปีก่อนโน้นผมเป็นคนขึ้นไปจับรางวัล ปีนี้โชคดีไม่โดนเรียกขึ้นไป ผมชอบอยู่เงียบๆ ของผมคนเดียว แต่พอตอนจะเลิกงานนี่สิ เขาดึงผมให้มายืนอยู่หน้าสุด ยืนคู่กับพริตตี้ ฉากหลังเป็นพวกผู้มาร่วมงาน โห โคตรจะเด่นเลย เอาวะ ตามน้ำไป
กลับมาถึงร้านตอนกลางวัน ไปธนาคารอีกเช่นเคย ซื้อขนมบาเยียมาฝากแม่ และขนมปังหน้าหมูมาฝากภรรยา ผมไม่ค่อยได้ซื้อของมาฝากใครนัก แต่วันนี้เผอิญเจอรถเข็นมาหยุดจอดหน้าธนาคารพอดี
วันนี้ได้กลับบ้านเร็วมาดูช่างทำท่อประปา ช่างบอกว่าท่อน้ำดีของเดิมเป็นเหล็กมันผุและแตก น่าจะเพราะมันเก่า และสะเทือนตอนช่างเขาเจาะซ่อมท่อจุดอื่น บ้านหลังนี้อายุกว่า 30 ปีแล้ว ช่างเลยแนะนำให้เดินลอย โดยจะใช้ท่อน้ำสีขาว จะดูดีกว่าท่อสีฟ้า ผมเลยบอกให้ใช้ท่อสแตนเลสเลย และใช้ตัวยึดท่อสวยๆ หน่อย ท่อสีเงินๆ จะได้เข้ากับหัวก็อกต่างๆ ที่เป็นสีเงินเงาๆ เหมือนกัน
ทำให้แม่ใช้น่ะครับ ก็เลยเอาสวยๆ หน่อย ส่วนห้องน้ำของผมก็ยังใช้ท่อ PVC สีฟ้าถูกๆ อยู่เลย
เมื่อวานเรื่องเยอะ เลยไม่ได้เล่าเรื่อง กปปส ว่าเขาปิดแยกใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯกัน 7 จุด แน่นอน เหมือนเดิม ที่ตอนลุงกำนันเดินไปไหนก็จะมีคนยื่นเงินบริจาคให้ตลอดทาง ฉากเด็ดสุดคือคนมันแน่นมากไป เข้าไม่ถึงตัวลุง คนอยู่บน Sky Walk ใช้วิธีเอาเงินผูกเชือกแล้วหย่อนลงมาให้ลุง โห แม่งเด็ดจริงๆ
รัฐบาลประกาศให้ฟรีทีวีห้ามเผยแพร่ภาพลุงกำนัน โดยเฉพาะตอนที่มีคนยื่นเงินให้ และตอนปราศรัย แต่ช่อง 9 แม่งกลับเจาะมุมถ่ายทอดสดให้กับกลุ่มเสื่อแดงปราศรัย
เหี้ยจริงๆ ประชาธิปไตยเหลือเกินนนนน
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 16, 2014, 03:09:50 pm
15 มค 56
   วิ่งติดต่อกันมาพักหนึ่ง ก็สบายตัวดีนะ แต่แปลกตรงน้ำหนักตัวแม่งขึ้นอีกว่ะ ทั้งๆ ที่กินเหมือนๆ เดิม อ้าว งงสิ หรือว่าเราวิ่งไม่พอ หรือว่าเราอายุเริ่มมากขึ้น นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ วิ่งขนาดนี้จะต้องลงไปหลายโลแล้ว
เช้านี้จัดไปอีก 30 นาที แต่วิ่งได้ระทางมากกว่าเดิม 1 กม เมื่อก่อนใช้เวลา 10 นาทีต่อ 1 กม วันนี้ทำได้ดีกว่าเดิม คือวิ่งได้เร็วกว่าเดิม หรือว่าอากาศหนาวเย็นตอนเช้ามันช่วยให้เราไม่เหนื่อยเร็วก็เป็นไปได้นะ
หมวกแบบ Beanie หมดสต็อค วิ่งทุกวันจนหมวกแห้งไม่ทัน เลยเอาขากางเกงที่ตัดไว้มาสวมคลุมหัวแทน ไอ้ขากางเกงนี้ดูเผินๆ ก็เหมือนผ้าอเนกประสงค์ยี่ห้อ Buff มันมีหลายยี่ห้อมากเลยนะ แต่ผู้คนติดปากเรียกผ้าแนวนี้ว่า “ผ้า Buff” ไปเสียแล้ว
เอาขากางเกงมาคลุมหัวแล้วบิดหมุนครึ่งรอบจากนั้นก็ตลบลงมาครอบทับผ้าชั้นล่างอีกครั้ง ใส่แล้วสบายกว่าหมวก Beanie ของเดิมอีกว่ะ ก็เพราะขากางเกงมันใหญ่ไง ใส่แล้วสบายหัวดี ซับเหงื่อได้ดีกว่าผ้าของหมวกเสียอีก
ระยะนี้กินปลาเป็นอาหารมื้อเช้าบ่อยมาก ผมเลือกปลาทะเล อย่างปลาเก๋า ปลากะพง บ้างก็เป็นปลาสลิด ไอ้นี่คือปลาน้ำจืดแบบเดียวที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช้านี้เป็นเนื้อปลาผัดฉ่า ใส่กระชาย และมะเขือเปาะ กินกับไข่ต้ม ข้าวกล้อง กระเทียมสดเหมือนเดิม
เมื่อวานไปงานตอนเช้า ได้ของชำร่วยมา 2 อย่าง อันแรกคือขนมอบกรอบจากญี่ปุ่น อีกอันคือเสื้อฟุตบอลของแมนยูฯ น่าเสียดายนะ เสื้อสวยด้วย แต่มันสีแดงว่ะ (สีอัปมงคล) แถมไซส์ XL เสียอีก จบข่าวเลย ผมใส่ M ไง แต่ตอนนี้คงเป็น L แล้วล่ะ อ้วนขึ้นมาพอตัว
เช้านี้ถนนโล่งพอๆ กับเมื่อวาน ขับรถสบาย แต่ก็เห็นใจคนมีธุระในย่านที่ กปปส เขาปิดถนน อดทนกันหน่อยครับเพื่อประเทศไทยของเราเอง ร้านขายของผมก็สถานการณ์ทรงๆ ไปแบบเรื่อยๆ ไปยกของที่โกดังบ้าง ไอ้ลังล่างๆ ยังคงเป็นปัญหา ผมกลัวหลังเจ็บ ต้องนั่งลงย่อขาต่ำสุดแล้วถึงออกแรงยกด้วยขา ยกไปก็ลุ้นไป กลัวจะเจ็บหลังอีกรอบ
เอาขนมที่ได้รับเมื่อวานมากิน เป็นพวกแป้งอบกรอบแบบ Rice Cracker ก็รสชาติอร่อยดีสไตล์ญีปุ่น กินเพลินๆ แป๊บเดียวหมดห่อ หึหึ ฟินนนน
ไอ้คำว่า “ฟิน” นี่ผมว่าวัยรุ่นเขาใช้ผิดนะ เพราะมันมาจากคำว่า Finale (ฟิ นา เล่)คือฉากสุดท้ายของละคร แนว Happy Ending ที่ชายหญิงกลับมารักกัน คือจบอย่างสบายใจ เราเลยเอาคำว่า “ฟิน” มาใช้ซะเฉยเลย ผมได้ยินครั้งแรกจากปากของอุดม แต้พานิช แต่คำว่าฟินของวัยรุ่นจะออกแนว เจ๋งมาก สุดๆ ไปเลย อร่อยจริงๆ เยี่ยมยอด ฯลฯ

ลุงกำนันเดินไปย่านสุขุมวิท กลางวันกินข้าวกลางแยกเอกมัย เดินผ่าเอกมัย แล้วก็เป็นสภาพเดิมๆ ครับ คือแน่น แน่น แน่น ผู้คนสองข้างทางก็เชียร์เต็มที่พร้อมกับบริจาคเงินร่วมหุ้นไล่เหี้ย ตอน 0300 ก็เปลี่ยนถุงใส่เงินเป็นใบที่ 10 แล้ว !!! และมาย่านนี่จะเจอแบงค์พันเป็นกำๆ ผ่านทองหล่อ ขากลับวกเข้าถนนเพชรบุรี เป้าหมายเวทีอโศก
ฟังลุงกำนันปราศรัยก็โดนรัฐบาลกวนสัญญาณจนต้องหาช่องใหม่ๆ ดูแทน กลางคืนทุกจุดชุมนุมล้วนเป็นสถานที่เปราะบาง อย่างเมือคืนก็โดนทั้งตำรวจและโจรก่อกวนด้วยการจุดประทัดยักษ์ และมียิงการ์ดผู้ชุมนุมแถวสะพานหัวช้าง ตรงนั้นวังสระปทุมของพระเทพฯเลยนะนั่น ถ้าผมเป็นทหารก็จะส่งลูกน้องมาคอยคุ้มครองผู้ชุมนุม คอยปรามตำรวจโจรไม่ให้รังแกประชาชนมือเปล่า
จนคืนนี้มีทหารออกมาคอยคุ้มภัยให้ประชาชนแล้ว มีทั้งแบบอยู่ภายนอกกลุ่มผู้ชุมนุม และแผงตัวอยู่รวมกับผู้ชุมนุม เขาเตรียมพร้อมกันแล้วครับ
ก่อนนอนปิดท้ายด้วยเรื่องเศร้าเล็กน้อย เกรดของออกแล้ว ผลก็คือมันตกลงวูบเลย ผมไม่สงสัยก็เพราะมันมาจากไอแพดเปลี่ยนชีวิตเด็ก แต่ภรรยาทำใจไม่ได้ เขาเรียนเก่งขนาดได้เกียรตินิยม ก็เลยนั่งร้องไห้ มิวยังคงไม่รู้สึกร้อนหนาวอะไร สุดท้ายภรรยาขอร้องให้ลูกเลิกเล่นไอแพดได้ไหม มิวก็เลยต้องยอมรับอย่างจำยอม เพราะแม่ตามใจเขามาทุกอย่าง แค่ครั้งนี้แม่ขอ ผมก็เลยแอบดีใจด้วยสีหน้าแบบเศร้าๆ ให้เข้ากับบรรยากาศ
ทำพิธีส่งมอบคือมินิไอแพดพร้อมสายชาร์จและหูฟัง จะให้มิวเล่นอีกครั้งถ้าหากสอบเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบได้
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 19, 2014, 02:18:42 pm
16 มค 56 วันครู
   ตื่นเช้า เลยมีเวลาวิ่งเยอะ วิ่งไป 30 นาที Warm Up & Cool Down อีก 15 นาที ช่วงหลังๆ รู้สึกตึงๆ กล้ามเนื้อหน้าแข้งซ้ายหน่อยๆ เลยผ่อนฝีเท้า ไม่อยากฝืนวิ่งทำความเร็ว เช้านี้อากาศเย็น ใส่เสื้อมีฮู๊ดวิ่ง ใช้ขากางเกงมาทำผ้าคลุมหัวซับเหงื่อแบบผ้า Buff ผมว่าเจ๋งดีนะ ใส่สบายกว่าอีกด้วย
   วันครู โรงเรียนมิวหยุด แต่มิวไปสมัครคอรส์เรียนติวเข้า ม1 แบบวันเดียวเอาไว้ที่สยาม ซัดกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ภรรยาอาสาไปส่งลูกที่รถไฟฟ้าให้ ผมเลยไม่รีรอ รีบกินข้าว อาบน้ำ แล้วเอาจักรยานออกขี่ไปทำงาน
   เจ๋งดีนะ เช้าวิ่ง กลางวันขี่จักรยาน ถ้าเย็นได้ว่ายน้ำนี่จะเป็นไตรกีฬาได้เลย วันหยุด รถน้อยครับ ยิ่งลุงกำนันจัด Car Free Week/Month ให้อีกด้วย รถเลยโล่งเข้าไปใหญ่ แต่แถวบ้านผมมีการขุดถนนทำอุโมงค์ลอดทางแยกรถเลยติดหนักหน่อย อนาคตก็จะมีรถไฟฟ้ามาถึงด้วยนะ หวังว่าไอ้ที่เขาขุดกันอย่างมโหฬารนี่จะทำตอม่อรถไฟฟ้าไปด้วยในตัว ไม่งั้นต้องมาขุดอีกรอบจะยิ่งเซ็งกว่า
   กลับมาบ้านตอน 0200 ระหว่างทางแวะกินบะหมี่ร้านกิ๊ดกี่ เป็นร้านอาหารเก่าแก่ คนไม่ค่อยรู้จักหรอก ทั้งๆ ที่มันอยู่ริมถนนใหญ่แท้ๆ ตอนนี้มีการขุดถนนหน้าร้านเลยยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่ รสชาติพอใช้ได้ครับ ดีกว่าพวกตามตลาดนัดเยอะ บะหมี่เกี๊ยวชามละ 45 บาท หมูแดงหอมอร่อย เกี๊ยวตัวโตๆ 2 ตัว ไม่ชอบบะหมี่ก็มีเป็ดย่าง ข้าวหน้าเป็ด ซาลาเปา ขนมจีบ ขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น
   จอดรถหน้าร้านโดยไม่ได้ล็อคก็กินไปชำเลืองไปตลอดเวลา รู้สึกไม่สนุกเอาเสียเลย นี่ถ้าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกจักรยาน ก็จะต้องมีที่จอดรถอย่างดีให้แก่พวกเขาถึงจะไปรอด
   เจอข่าวในเฟซบุ๊คทหารที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมโดนจับข้อหาพกอาวุธ แถมมีปืนเก็บเสียงอีกด้วย เอาล่ะสิมึง มันแล้วแต่คนจะตีความไงครับ เช่นมองว่าทหารจะมาแอบลอบทำร้ายใครหรือเปล่า ในขณะที่ทหารเขาถูกส่งมาให้คุ้มครองประชาชน อาจใช้ปืนเก็บเสียงเพื่อซัดกับพวกทหารเขมรหรือพวกเสื้อดำก็เป็นไปได้
   งานนี้ทหารอยู่ข้างประชาชนมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ แต่แสดงออกมากไม่ได้ ก็เลยโดนด่าเยอะหน่อยว่ายังคงเป็นขี้ข้าอยู่ เชื่อเถอะนะว่าในใจทหารล้วนรักแผ่นดินไทยมากกว่าพวกชินวัตรครับ

   บ่ายเปิดทีวีหาช่องใหม่ๆ ดู เจอช่องหนึ่งชื่อ 4 Channel โคตรจะฮาเลย มีพิธีกร 3 คน พูดแนะนำตัวชื่อ สกุลของตัวเองแล้ว จะต้องลงท้ายด้วย ณ ชินวัตร เป็นแบบนี้กันหมด 3 คนเลย โห แม่งเป็นเอามาก แบบชนิดกู่ไม่กลับแล้วล่ะ เป็นขี้ข้า เป็นทาส ยังไม่พอ นี่แม่งอยากเป็นญาติด้วย รายการก็เป็นการแก้ต่างให้กับยิ่งลักษณ์และพวกตำรวจล้วนๆ กับใส่ไฟฝ่ายตรงข้าม พูดคุยแต่เรื่องประชาธิปไตยต้องไปเลือกตั้งอย่างเดียวเลย ไม่พูดถึงความเหี้ยของตัวเองและพวกพ้องเด็ดขาด แต่ไม่ควรเปิดให้เด็กฟังนะ เพราะมีคำพูดสบถ เหี้ย ห่า ออกมาตลอดทุกๆ 5 วินาที สไตล์การพูดก็แสดงความเป็นชาวเสื้อแดงออกมาล้วนๆ เช่น บอกให้ประชาชนจำหน้าการ์ดไว้ และไปดักทำร้ายบ้าง บอกให้คนอยู่บนตึกโยนหินลงมาตอนเดินขบวนบ้าง แบบชนิดที่คนดีๆ เขาคิดไม่ถึงน่ะครับ ไอ้ 3 ตัวนี้น่าจะเหี้ยไม่แพ้พวก จตุพร ณัฐวุฒิ อริสมันต์ ฯลฯ ใครว่าง และไม่มีอะไรทำ ก็ลองไปดูขำขำกันได้ครับ  ช่อง 180 สำหรับจานค่าย PSI แต่รับรองว่าคนดีๆ จะทนดูไม่ได้นานแน่
   มีการแข่งขันกีฬาคนพิการที่เนปิดอว์ เมียนมาร์ ฮีโร่ของผมลงแข่งวีลแชเรซซิ่ง ส่งใจช่วยสายชล คนเจน ครับ คนนี้สู้ชีวิตแบบสุดๆ แล้ว ลองหาประวัติของเขามาอ่านดู แล้วจะทึ่ง 
   อาจารย์เจริญ มาลาโรจน์ ได้เป็น 1 ใน 9 ศิลปินแห่งชาติปี 56 คนนี้แหละครับ ครูที่สอนวิชาการเขียนให้ผมเป็นคนแรก ตอนนี้อาจารย์เจริญน่าจะอยู่ที่เชียงใหม่ นึกแล้วคิดถึงจัง เราสนิทกันมาก ตอนเรียนพวกเด็กนักเรียนนัดกินข้าวกันครูก็มาร่วมกินกับพวกเราบ่อยๆ
   กปปส มีเวทีอย่างเป็นทางการ 7 แห่ง แต่มีเพิ่มมาเวทีหนึ่งของพวกแฟชั่นและเหล่าดารา นั้นคือเวทีต้นสนแถวเซ็นทรัลชิดลม เจ เจตรินบอกว่าปกติเล่นคอนเสิร์ต 1 ชม ได้สองแสนบาท มาวันนี้ จัดไปฟรีๆ 5 เพลง ตามด้วยหญิงลี ขอใจแลกเบอร์โทร ทีทำให้ลานแทบแตก สำนักข่าวรอยเตอร์ถึงกับบอกว่า นี่มันม็อบหรืองานสตรีทเฟสติวัลกันแน่ สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวแต่ละคนก็ล้วนบอกว่าสนุก ปลอดภัย ในขณะที่ทางรัฐบาลกลับบอกว่าในม็อบมีแต่คนจรจัดและติดยา
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 19, 2014, 02:28:38 pm
17 มค 56 กปปส โดนระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง
   ผมจะวิ่งแม่งไปเรื่อยๆ จนน้ำหนักลงให้ได้ นี่วิ่งมาสิบกว่าวันแล้ว ยังไม่มีวี่แววจะลงเลย เล่นซะท้อใจไปเหมือนกัน แต่เลิกไม่ได้ ถ้าน้ำหนักแค่นี้ยังลดไม่ได้ ภายภาคหน้ามีเรื่องยากๆ กว่านี้ให้ทำอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางด้วยจักรยานที่ผมแอบเพาะบ่มมานานหลายปี
   อยู่บ้านนานๆ ไม่ได้ไปไหน นานเข้าแม่งก็เก็บกดครับ อยากไปไกลขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่อยากได้ตอนนี้ไม่ใช่รถใหม่ หรืออุปกรณ์ไฮเทคใดๆ หากแต่เป็นเวลาครับ
   “เวลา” นี่แหละครับ ที่ผมสอนลูกว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ผมใช้ชีวิตแตกต่างจากคนทั่วไปนะ จะไม่ตั้งเป้าหมายในรูปของเงินทอง ทรัพย์สิน ผมไม่มีของสะสม ไม่มีสิ่งของที่อยากได้ 
   กลางวันกลุ่ม กปปส ของลุงกำนันโดนโยนระเบิดลงมาจากตึกร้างแถวบรรทัดทอง เฮ้ยย แม่งเหมือนไอ้ที่พิธีกร 3 ตัวเมื่อวานคุยไว้เลย ในช่อง 180 ของจาน PSI มันยุให้คนโยนก้อนหินลงมาใส่กลุ่มมวลชน จำได้แม่นยำ เรื่องเหี้ยๆ นี่มันถนัดจริงๆ
   ผลคือเจ็บไป 28 ราย พวกการ์ดพังรั้วเข้าไปตามหาตัวคนร้าย ส่วนลุงกำนันใจเด็ดสุดๆ พามวลชนเดินต่อไปส่งยังจุดหมายตามกำหนด แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจขบวนแล้วล่ะ มาจ้องกันแต่ตึกร้างแห่งนั้น
   นี่คือข่าวใหญ่สุดของวัน และเป็นความรุนแรงมากสุดเท่าที่เดินขบวนกันมา อ้อ ไม่นับตอนโดนยิงแก๊สน้ำตา ฉีดน้ำยาเคมี ที่ชมัยมรุเชษฐ์นะ
   เย็นไปรับมิวที่โรงเรียน ผู้ใหญ่นั่งคุยกันเรื่องโรงเรียนในปีการศึกษาหน้า แต่ละคนก็เครียดกันน่าดู ผมเองสบายๆ ก็ยังมีหวั่นๆ บ้างเหมือนกัน เด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานจนถึงหนึ่งทุ่ม ปีหน้าพวกเขาคงไม่ได้เล่นสนุกอย่างนี้แล้วล่ะ ต้องไปเจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ บรรยากาศใหม่ๆ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 19, 2014, 02:34:39 pm
18 มค 56
   วิ่งไป 30 นาที รีบเข้าบ้าน เช้านี้มิวมีสอบ Pre Test ของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี เป็นการสอบแบบลองเชิงก่อนสอบจริง แต่ว่ามิวไม่ได้สอบจริงที่โรงเรียนนี้หรอกนะ อยากให้เขามารับรู้บรรยากาศการสอบสักหน่อย และประเมินตั้วเองด้วยว่าไอ้ที่เรามีมาในตัวตอนนี้น่ะ มันจะทำข้อสอบเขาได้มากน้อยเพียงใด
   ไปถึงโรงเรียน 0730 รถยนต์จอดกันแน่นเอียดเต็มลานแล้ว สอนมิวให้ไปดูชื่อเราที่บอร์ด เราต้องไปดูห้องสอบ เลขที่นั่งสอบ และประกาศต่างๆ แต่ยุคใหม่นี้ทางโรงเรียนเขาประกาศทางเวปไซต์กันหมดแล้วล่ะ ผมเองก็ดูมาก่อนล่วงหน้าเมื่อวาน แต่ยังไงก็ต้องไปดูของจริงอีกครั้ง เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงไงล่ะ
   เจอเพื่อนมิวหลายคนเลยครับ ส่วนใหญ่เขาจะมาสอบ EP – English Program กัน มีมิวคนเดียวนี่แหละที่เลือกแบบห้องธรรมดา คือเรียนแบบปกติ ผมไม่อยากฝืนเขาครับ ไม่ชอบภาษาอังกฤษ ใจไม่เปิดรับก็ไม่เป็นไร แต่บอกได้เลยนะว่าชาตินี้เอ็งหนีภาษาอังกฤษไม่พ้นแน่ แถมการรู้ภาษาอังกฤษน่ะมันจะเป็นแค่มาตรฐานด้วยซ้ำไป จะให้เจ๋งต้องรู้ภาษาจีนด้วย
   ก็ต้องรอให้ใจเขาเปิดรับก่อนน่ะครับ มันถึงจะเรียนแล้วได้ผล แต่มันก็มีอีกทฤษฎีหนึงนะคือการบังคับ อันนี้ละเอียดอ่อน เด็กหัวอ่อนก็พอใช้ได้ผล แต่ถ้าเจอเด็กหัวดื้อก็จะต่อต้านเอามากๆ
   เข้าห้องสอบ 0900 เสร็จสิ้นตอน 1200 ผู้ปกครองบางส่วนกลับไปแล้วมาใหม่ตอนใกล้เที่ยง ส่วนผมนั่งรอ 3 ชม ขำขำ ระหว่างนั้นก็เดินเล่นสำรวจโรงเรียน รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่เขาเปิดเพลงโรงเรียนสวนกุหลาบให้ฟังหลายเพลง แน่นอน ผมร้องได้หมด
   รร นี้ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และจะต้องสร้างต่อไปอีกหลายปี ผมวางแผนจะนั่งรอที่โรงอาหาร แต่คนแน่นมากครับ เลยเดินไปเจอมุมสงบมากๆ ใกล้ห้อง IT เจอปุ๊บรีบสิงเลย ชอบมาก บรรยากาศคล้ายร้านกาแฟแบบนั่งสบายๆ มีรั้วไม้เตี้ยๆ และต้นไม้ สำคัญสุดคือลมหนาวพัดแรงมาก ซึงแรกๆ ก็โอเคดี นั่งสัก 30 นาที แม่งเริ่มหนาวว่ะ อยากได้เสื้อแขนยาวแล้ว
   เดินไปหาซื้อของมากินดีกว่า เดินสำรวจโรงอาหารก็เจอพวกของทอดเป็นหลักเลย จัดนักเก็ตและมันฝรั่งทอดมาลองกินดู ผมว่าถ้ามิวได้เรียนนะ ไอ้ร้านนี้แหละจะเป็นร้านโปรดของมิว
   ยังดีที่ขายไม่แพงมาก นักเก็ต 5 ชิ้น 20 บาท มันฝรั่งทอดถุงละ 20 บาท ขนาดพอๆ กับของ McDonald ขนาดกลาง รสชาติกลางๆ แต่ซ้อสมะเขือเทศไม่อร่อย เกลือก็เค็มจัดมาก กินแล้วหิวน้ำฉิบเป๋ง
   1130 เห็นเด็กลงมาจากห้องสอบแล้ว ตกใจเลย อ้าว มีออกก่อนด้วยหรอ คิดว่าเขาจะนั่งกันจนถึง 1200 ก็เลยรีบเก็บข้าวของมายืนรอมิวที่หน้าตึก
   มิวลงมาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม บอกว่าไม่ยาก และมีข้อหนึ่งที่ตรงกับตอนไปเรียนพิเศษเมื่อวันก่อนมาเอง ตรงกันเป๊ะเลยทั้งคำถามคำตอบ
   มุ่งหน้าไปเรียนคุมองต่อครับ มิวไม่ค่อยชอบเรียนในห้องนะ แต่ชอบเรียนพิเศษมากๆ จุดนี้น่าสนใจมาก ถึงแม้ผมจะไม่อยากให้ลูกไปเรียนพิเศษเยอะๆ อยากให้เขาใช้ชีวิตแบบเด็กๆ เล่นกับเพื่อนๆ แต่มิวกลับขอไปเรียนเอง แม้กระทั่งวันหยุดก็ยังขอไปเรียนให้ได้ เคยเรียนตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงทุ่มกว่า หึหึ คิดแล้วเหนื่อยแทน
   เรียนเสร็จรีบกลับมาบ้านพักผ่อน มิวขอเล่นไอแพดอีกแล้ว อ้าว เฮ้ยย หยุดได้แค่สองวันเอง มาขอเล่นอีกแล้ว
   มิวบอกว่าเขาขอแม่แล้ว (แม่คงจะใจอ่อน) วันนี้สอบเสร็จเลยขอเล่นหน่อย อืมม ก็ไม่อยากขัดหรอกนะ แต่สัญญากันแล้วไงว่าจะหยุดพัก เลยให้เล่นแค่นิดหน่อย ไม่ให้เล่นพวกออนไลน์ ให้ใช้ดูวีดีโอไฟล์หนังเกี่ยวกับเครื่องบินที่เขาชอบอย่างเดียว ชื่อหนังเรื่อง Miss Pilot เขาบอกว่าดูแล้วยิ่งอยากเป็นนักบิน
   บ๊ะ ไอ้นี่แหละที่ผมต้องการ ดูแล้วต้องให้ไฟในกายลุกโชน
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 20, 2014, 02:47:40 pm
19 มค 56
   วันหยุดครับ ตื่นแต่เช้าเลย ไปวิ่งที่ศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติบางมด ฟิตจัดมาสิบกว่าวัน เลยตั้งเป้าว่าจะเอาให้ได้สัก 20 รอบ รอบหนึ่งยาวเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เดาว่าน่าจะสัก 400 เมตรนะ มันเป็นสนามกีฬามาตรฐานน่ะครับ ไปถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลย สนามก็ไม่เปิดไฟ อยู่กันแบบตะคุ่มๆ เดินเฉียดกันยังแทบไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
   เดินวอร์ม 1 รอบ แล้วก็จัดเต็ม หึหึ แต่ที่ไหนได้ ขึ้นรอบ 3 เท่านั้นเอง อาการเจ็บกล้ามเนื้อหน้าแข้งซ้ายมาอีกแล้ว เฮ้ยย งงสิ อะไรกัน นี่เราวิ่งซ้อมมาตลอดทุกวันแล้วนะ หรือว่าเราวอร์มไม่พอ หรือว่าวิ่งเร็วเกินไป ฯลฯ สารพันปัญหารุมเร้าเข้ามา ในขณะที่ขายังคงก้าววิ่งไปให้ครบรอบที่ 3
   พักครับ หยุดวิ่งทั้นที เปลี่ยนเป็นเดินแทน เดินไปก็คิดไปถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเจ็บได้ เดินถึง 2 รอบถึงหาย เหยียดยืนเส้นนิดหน่อยแล้วก็ออกวิ่งต่อ ไปได้อีก 3 รอบ เริ่มตึงๆ หน้าแข้งซ้ายที่เดิมอีกแล้ว พักดีกว่า เดินไปเข้าห้องน้ำ กลับมาก็วิ่งเบาๆ ต่อ ขึ่นรอบที่ 7 อ๊ะ รู้สึกดีขึ้นแฮะ
   จัดต่อเนื่องไปเลยครับ วิ่งสัก 3 รอบ ก็แวะจิบน้ำครั้งหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าซัดรวดเดียวทำได้จนครบ 20 รอบสบายๆ ไม่เจ็บกล้ามเนื้อหน้าแข็งแล้วด้วย วิ่งไปเรื่อยๆ หลังๆ มันเพิ่มความเร็วเองอัตโนมัติ นึกย้อนกลับแล้วแปลกว่ะว่าตอนช่วงเช้าเราเจ็บหน้าแข็งได้อย่างไร เดาเอาเองว่าน่าจะเกิดจากการวอร์มน้อยเกินไป
   ตั้งเป้าไว้ 20 รอบ วิ่งจริงได้ 21 รอบ แถมให้ 1 รอบ ทำอะไรให้มันเกิดเป้าเข้าไว้ วิ่งเสร็จก็เดิน Cool Down พักให้เหงื่อแห้ง ตอนนี้เวลา 0815 แล้ว ถอดเสื้อออก ไปนั่งตากแดดอีก 15 นาทีถึงจะกลับบ้าน หน้าหนาวแดดเริ่มแรง แต่เช้านี้ลมพัดแรงมาก ขนาดนั่งตากแดดอยู่นานก็ยังไม่เห็นร้อน
   อยากรับพลังธรรมชาติครับ นี่ถ้าอยู่ทะเลก็จะเล่นทรายไปด้วย ถ้าไปน้ำตกก็ดำผุดดำว่าย ผมมีความเชื่อว่าคนเราหากอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ ร่างกายจะแข็งแรง
   ช่วงนี้ฮิตวิ่งอย่างมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชอบวิ่งสักนิด แต่ก็ต้องทำครับเพราะมันคือการออกกำลังกายที่ได้ผลดีมากขณะที่เรามีเวลาจำกัด
   ขากลับแวะซื้อข้าวหมกไก่และข้าวเกรียบปากหม้อที่หน้าสวนธนบุรีรมย์เอามากินที่บ้าน ถ้าไม่ได้จอดซื้อก็ต้องขี่จักรยานออกไปกินก๋วยเตี๋ยวเหมือนอาทิตย์ก่อนๆ เปลี่ยนบ้างครับ รับสารอาหารใหม่ๆ บ้าง กินแบบเดิมๆ ซ้ำซากไม่ดี
   กินเสร็จก็มาวุ่นกับบ่อปลาต่อ วันนี้ถอดตัวปั๊มน้ำมาล้าง หวังว่าน้ำมันจะดันแรงขึ้นหน่อย พวกปลาตอนนี้ตัวโตมาก จำนวนเป็นร้อยตัวในบ่อเท่าเดิม แต่ตัวมันอ้วนใหญ่ขึ้น ดูแล้วมันเบียดเสียดกันแน่นจริงๆ อยากได้บ่อใหม่ ขยายใหญ่ได้ก็ยิ่งดีเลยนะ มันจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขกว่านี้อีก
   กำลังจะพักผ่อน เหลือบเห็นรถคัน 180SX ยางหน้าซ้ายแบนๆ หน่อย ปกติไอ้เส้นนี้มันก็เหมือนลมซึมๆ อยู่เรื่อยๆ แต่วันนี้ลมยางอ่อนลงมากจนเห็นได้ชัด กลิ้งหน้ายางดูว่ามีอะไรตำก็มองไม่เห็น ตัดสินใจขับไปร้านปะยางซะเลย วันนี้วันอาทิตย์ว่างๆ พอดีๆ เดี๋ยวมันมามีปัญหาในวันธรรมดาตอนไปธุระจะยุ่งกันใหญ่
   ช่างถอดเอาล้อไปแช่น้ำ ไม่เห็นรูรั่วครับ แต่มีลมผุดแบบนานๆ เม็ดหนึ่งที่ขอบล้อ ช่างบอกยางมันซึมขอบ ต้องถอดมาขัดทำความสะอาดแล้วทากาว
   “กาว” เฮ้ย งงดิ ใส่ยางต้องทากาวด้วยหรอ เก็บความสงสัยไว้ ดูเขาทำ
   ก็ถอดยางออกมา แล้วเอากระดาษทรายขัดทำความสะอาดขอบล้อ แล้วทาด้วยน้ำยางสีดำ ไอ้ยางนี้เขาทางตอนปะยางน่ะครับ ลักษณะเหนียวนิดๆ คล้ายกาว เสร็จแล้วก็ใส่ยางกลับ ช่างคนนี้โอเคดีนะ เขาใส่ยางตรงตำแหน่งเดิมเป๊ะ คิดค่าแรง 100 บาทเท่าค่าปะยางเลยว่ะ หึหึ ไม่เป็นไร แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้
   วันนี้ลุงกำนันเดินเรียกแขกย่านลาดพร้าว ต่อไปยังรัชดา รัชโยธิน เกษตร และจะวกกลับพามวลชนมาส่งที่เวทีลาดพร้าว
   เห็นคนดังๆ ในหลายๆ วงการต่างออกมาสนับสนุนลุงกำนันมากมาย ล่าสุดก็คือกลุ่มดาราจากเวทีต้นสนที่เซ็นทรัลชิดลม ถ้าเป็นผมนะ ผมจะแต่งเพลงให้ลุงกำนันสัก 1 ชุด เอาเพลงฮึกเหิมมาเปิดคู่กับ “สู้เข้าไป อย่าได้ถอย” และเพลงสร้างขวัญและกำลังใจอีกเพลง เรื่องแค่นี้ผมว่าไม่ต้องถึงมือนักแต่งเพลงมืออาชีพหรอกครับ ผู้คร่ำหวอดดนตรีหน่อยก็ทำได้แล้ว
   ตอนบ่ายดูประกาศของทางรัฐบาลบ้าง เขาเอาภาพเหตุการณ์ระเบิดที่บรรทัดทองมาให้ดูอย่างละเอียด ในภาพเขาสังเกตเห็นชายใส่หมวกขาวเดินเฉียดจุดระเบิดแล้วเข้าไปหลบหลังตู้เหล็กชุมสายโทรศัพท์ ฉายให้ดูหลายหน มันก็พอเป็นไปได้นะ แต่ที่สงสัยเพิ่มอีกคือเขาบอกคนขับรถกระบะในขบวนรีบเปิดประตูวิ่งไปหาชายหมวกขาวคนดังกล่าวด้วย อันนี้ไม่มีความเห็นครับ แต่ในภาพก็รีบวิ่งไปในทิศทางเดียวกันจริงๆ
   อืมม ใครสร้างสถานการณ์กันแน่นะ งานนี้ต้องรอหาหลักฐานเพิ่มเติมกันต่อไป แม้ใจจะเชียร์ลุงกำนันและเกลียดรัฐบาล แต่เรื่องระเบิดก็ต้องหาที่มาที่ไปของมันให้ได้จะดีที่สุด
   อ้าว เอาอีกแล้ว ระเบิดลงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตอนบ่าย คราวนี้มีคนเห็นมือระเบิดและวิ่งตาม ก็เลยโดนปาให้อีกลูก คนยังตามไม่เลิกก็เลยโดนยิงสวนกลับมาอีก สุดท้ายก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไป คราวนี้มาด้วยกันถึง 6 คน นี่จะเป็นข่าวใหญ่ของวันนี้แน่ๆ เจ็บ 28 คน สาหัส 3
   เหยื่อระเบิดที่บรรทัดทองเสียชีวิต 1 ราย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับคุณประคอง ชูจันทร์ ชาวภูเก็ตครับ
   ตอนเย็นมีหัวหน้าช่างที่มาซ่อมบ้านมาหา ถามว่าไอ้มอเตอร์ไซค์เก่าๆ ที่จอดทิ้งไว้ในโรงรถจะขายไหม ผมตอบแบบไม่ต้องคิด แต่ใช้น้ำเสียงนุ่มๆ ราบเรียบ
   “ไม่ขายครับ”
   เขาตื้ออยู่พักหนึง ผมคุยแบบไม่สบตา ตอบคำเดิม แบบเดิม เสียงเดิม
   “ไม่ขายครับ”
   ก็จอดมากว่า 20 ปีแล้ว ถ้ายังหาที่จอดร่มๆ นิ่งๆ ให้มันไม่ได้ ก็ยังไม่บูรณะครับ ทำแล้วต้องทำให้เนี๊ยบ ต้องมีที่จอดอย่างดี แบบไม่เกะกะใคร รถมอเตอร์ไซค์นี่มันกินพื้นที่น้อยก็จริงอยู่ แต่ไอ้คันนี้มี Side Car ใช้พื้นที่ใหญ่กว่าจอดรถตุ๊กๆ เสียอีก
   เล่าแล้วก็คิดถึงนะ ไม่รู้มิวเขาจะชอบรถเก่าๆ แบบนี้หรือเปล่า ถ้าชอบก็จะยกให้เขา มันจะต้องเท่มากๆ เลย ส่วนผมที่เคยชอบของพวกนี้พอใช้ชีวิตนานๆ เข้ามันเริ่มตกผลึก คล้ายๆ กับบรรลุธรรม ก้าวขาออกจากบ้านก็คิดถึงแต่เรื่องการทำความดีและช่วยเหลือคนอื่น และถ้าเลือกใช้ชีวิตตามที่ตัวเองชอบได้ ก็น่าจะดีกว่านี้มาก
   กลางคืนให้มิวทำการบ้านท่องศัพท์ภาษาอังกฤษแค่ 10 คำ ล้วนเป็นคำง่ายๆ เช่น Pollution / Cycle / Shade / Waterfall มิวใช้เวลาท่องอยู่นานมาก และแสดงอาการไม่ชอบ ต่อต้านอย่างชัดเจน ต้องข่มใจ ข่มอารมณ์ในการพูดคุยกับเขาอย่างมาก พอเคี่ยวเข็ญหนักเข้าก็ร้องไห้ ก็เลยให้เข้านอนซะ
   ทางด้านลุงกำนันประกาศให้เวลา 3 วัน ให้ตำรวจจับตัวมือระเบิดให้ได้ ไม่งั้นจะต้องโดนจัดการโดยส้นตีนประชาชน
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 21, 2014, 02:56:22 pm
20 มค 56
   วิ่งไปอีก 30 นาที น้ำหนักยังไม่เลงเลยนะ แถมขึ้นมาอีก 1 กก งงสิ ไรวะ กินก็แนวๆ เดิมทั้งนั้น ไม่มีงานเลี้ยงให้กินนอกบ้านสักหน่อย แต่ก็จะสู้ครับ นึกถึงภาพคนที่เขาไม่มีขา นึกถึงคนเจ็บป่วย ถ้าเราไม่อยากเป็นอย่างเขา ก็ต้องออกวิ่ง วิ่ง วิ่ง
   ชีวิตคนเราจะสุขหรือทุกข์ล้วนขึ้นอยู่กับวิธีคิดของตัวเราเองนี่แหละครับ คิดดี คิดบวกเข้าใจ ความสุขใจจะมาหาเอง
   มิวตื่นสาย ไปปลุกก็งัวเงีย พอถามคำศัพท์ที่ให้ท่องเมื่อคืน กลายเป็นว่าเขาท่องได้หมดเลย พอทำได้ก็ชมเชยเขา บอกว่า เห็นไหม ลูกทำได้ ไม่เห็นยากเลย แค่เปิดใจยอมรับมันเท่านั้นเอง
   ปิดกรุงเทพฯครบ 7 วันแล้ว ยิ่งลักษณ์ยังคงกอดเก้าอี้เหนียวแน่น ตอนนี้มันไม่ได้อยากเป็นนายกแล้วล่ะครับ แต่กลัวว่าหากลงเมื่อไหร่จะต้องโดนยึดทรัพย์และไล่เช็คบิลยาวเหยียดแน่ๆ หลากหลายปัญหาที่มันก่อเริ่มรุมเร้า เช่นเงินจากการจำนำข้าวก็เบี้ยวชาวนา หรือการขายข้าวกับจีนที่ตัวเองบอกว่าตกลงกันแล้ว ผลก็คือมันโกหก จีนไม่ได้ซื้อข้าวเรา
   ลุงกำนันยกระดับการชุมนุม ปิดสถานที่ราชการทุกแห่งในภาคใต้ !!!
   เฮ้ย ได้ผล ลุงกำนันขู่เมื่อวานไว้ วันนี้ตำรวจแม่งบอกพอทราบเบาะแสผู้ต้องสงสัยแล้ว โห โคตรไวสัตว์เลย
   นักสืบอินเทอร์เนทแม่งเจ๋งจริงๆ หาภาพคนปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯได้ ผลก็คือเป็นลูกน้องเก่าของเสธฯแดง หาภาพมาเทียบเคียงได้แบบมุมเดียวกัน แม่งเหมือนกันเป๊ะเลย สุดยอดมาก
   กลายเป็นว่านักสืบอินเทอร์เนทแม่งเจ๋งกว่าตำรวจทั้งกรมกองอีก
   เมื่อวานโรงเรียนมัธยมในอยุธยาต้อนเกณฑ์นักเรียนไปจุดเทียนสนับสนุนการเลือกตั้ง (ไอ้พวกเสื้อแดงซึ่งตอนนี้มันเปลี่ยนมาใส่สีขาวแทน) วันนี้รุ่นพี่ในคณะกรรมการนักเรียนเลยเป่านกหวีดประท้วงที่หน้าเสาธง สักพักก็เข้าสู่การเจรจา รุ่นพี่บอกว่าไม่ควรนำนักเรียนไปเป็นเครื่องมือของนักการเมือง เรื่องใหญ่แบบนี้คงเป็นเพียงแค่ข่าวเล็กๆ หรืออาจไม่มีใครสนใจเลยก็เป็นได้ แต่อยากให้ลุงกำนันนำไปขยายความบนเวทีต่างๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในจังหวัดอื่นๆ อีก
   เย็นไปรับมิวที่โรงเรียน ช่วงนี้ไปโรงเรียนบ่อยละ เพราะอยากอับเดทข้อมูลเรื่องโรงเรียนในปีการศึกษาหน้าว่าใครจะไปต่อที่ไหนกันบ้าง มีเด็กอีก 3 คนที่จะไปสอบเข้าสวนกุหลาบเหมือนมิว
   ทำภารกิจการบ้านเสร็จก็ขอเล่นเกมอีกแล้ว เพิ่งจะส่งมอบและสัญญาว่าหยุดเล่นสักพักไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง ไม่เห็นรักษาสัญญาเลย เขาก็ยังเป็นเด็กน่ะครับ เลี้ยงมาอย่างอิสระก็จึงละเลยเรื่องระเบียบวินัยไปเยอะ เรื่องอื่นผมเฉยๆ นะ แต่จะมาพลิกผันก็ตอนพ่อผมเอาไอแพดมาให้เขาเล่นนี่แหละ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 26, 2014, 02:09:16 pm
21 มค 57
   ไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นคนขี่จักรยานนะนี่ ช่วงนี้เอาแต่วิ่งอย่างเดียวเลย เช้านี้จัดไปอีก 30 นาทีแบบขำขำ อันที่จริงก็ขี่จักรยานบ้างเหมือนกันนะ แต่ขี่แบบฝึกซ้อมแค่เรื่องการทรงตัวเป็นหลัก ก็ซ้อมแค่วนๆ ในบ้านแคบๆ นี่แหละครับ แต่ผมว่ามันสำคัญนะ ฝึก Track Stand นี่ผมว่ามันจะทำให้เราล้มยากครับ แบบเจออะไรกะทันหันเราก็จะนำพารถให้รอดมาจากอุปสรรคนั้นได้
   วันนี้วิ่งแบบไม่เจ็บกล้ามเนื้อหน้าแข้งแล้ว รู้สาเหตุแล้วล่ะครับ มันเกิดจากผมวิ่งเร็วเกินไปในช่วงต้นนั่นเอง เช้านี้วิ่งแบบช้าๆ เลย มันก็ไม่เจ็บแล้ว
   ไม่เจ็บขา แต่มาลุ้นเจ็บหลังแทนครับ ตอนอยู่ที่ร้านขายของเจ้าของร้านสั่งให้เอารถซาเล้งไปซ่อม ให้ลูกน้องมา 2 คน รวมผมก็เป็น 3 ต้องยกรถสามล้อติดเครื่องขึ้นหลังรถกระบะ ขับไปถึงร้านแล้วก็ต้องยกลง หึหึ หลังกู หลังกู
ลุงกำนันเดินเชิญชวนปิดกรุงเทพฯต่อ วันนี้ไปทางแถวตรอกจันทร์ สวนพลู ถนนจันทน์ นางลิ้นจี่ ตลอดสองข้างทางผู้คนก็ตะโกน ลุงกำนันสู้สู้ และบริจาคขอร่วมหุ้นไล่เหี้ยกันตลอดทาง
เย็นเอารถ 180SX ขับไปรับมิว ตอนจอดในลานมีคนสองคนมาก้มๆ ดูใกล้ๆ รถ บริเวณแก้มซุ้มล้อหน้า เดินไปเฉียดๆ แอบฟัง เขาคุยกันว่าเป็นรถ 180SX แท้หรือเปล่า ดูแก้มหน้าเพราะว่าตำแหน่งไฟเลี้ยวของรถนำเข้ากับรถในไทยมันอยู่คนละที่กัน เขาคงจะดูว่ามีรอยโป๊วสีอุดหรือเปล่า หลังจากเดินดูรอบคันหมดแล้ว ด้านในรถก็ส่องหมดแล้ว
ก็ปล่อยให้เขาคิดเป็นปริศนาต่อไปครับ
กลางคืนมีเรื่องคับข้องใจขัดแย้งกับภรรยาในการเลี้ยงลูก ไม่ได้ทะเลาะหรือขึ้นเสียงอะไรกันหรอก แค่นโยบายไม่ตรงกัน แถมออกแนวตรงกันข้าม แต่เรายังคงมีจุดหมายเดียวกันนะ คืออยากให้ลูกเราได้ดี
ทำเอานอนไม่หลับ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 26, 2014, 02:12:14 pm
22 มค 57
ตื่นมาอีกทีตี 3 แล้วก็ตาค้าง จน 0530 ถึงออกไปวิ่งให้จิตใจสงบ จัดไป 45 นาที อยากพักให้นานหน่อยค่อยกินข้าวเช้านะ แต่เวลามันไม่อำนวยเอาเสียเลย ช่วงหลังจากวิ่งไปอีกสัก 30 นาที -  1 ชม ร่างกายเรายังคงอยู่ในช่วง burn fat อยู่นะ น่าเสียดายจริงๆ เพราะหากเรากินอาหารเข้าไป มันก็จะหยุด burn fat และจะมา burn carbo แทนทันที อันนี้คือเล่าในทรรศนะของผมเองนะ ถูกผิดหลักวิชาการก็ไม่รู้เหมือนกัน
นี่ผมเพิ่งรู้ตัวว่าพิมพ์ พศ ผิดมาตลอดตั้งหลายวัน ขึ้นไป 57 แล้ว ผมยังเป็นปี 56 อยู่เลย
บ่ายเอารถพ่อคันใหม่ไปเข้าศูนย์ ไม่ได้มีอะไรเสียหรอก สายท่อยางฉีดน้ำปัดน้ำฝนโดนหนูกันฉีกขาดเป็นรู “คุณหนุ่ย” เจ้าหน้าที่ศูนย์พระราม 2 จัดการเคลมให้ฟรี โอ้โห ใจดีจัง ประทับใจในบริการ ปีที่แล้วก็จัดการเปลี่ยนยางหุ้มขอบเบาะนั่งให้ชิ้นหนึ่งแล้ว นี่ขนาดผมไม่ได้ซื้อรถจากศูนย์แห่งนี้นะนี่
   ไอ้สายยางฉีดน้ำของคันนี้ไม่ใช่ยางธรรมดาๆ เหมือนพวกรถญี่ปุ่นทั่วไปนะ มันเป็นเหมือนกับท่อพลาสติกทนแรงดันสูง ไม่มีรอยต่อเลย ถ้าแตกหรือรั่วก็เปลี่ยนกันยกชุด หึหึ มันทำรถมาขายอะไหล่หรือเปล่าวะนี่
   ไหนๆ ก็มาศูนย์แล้วก็ให้ช่างเขาตรวจเช็คสภาพโดยรวมทั้งหมดเลยก็แล้วกัน เดือนหน้าพ่อจะไปต่างจังหวัด ช่างตรวจเช็คทั่วไปเหมือนปกติที่เราทำเองตอนอยู่บ้าน แต่มีเช็คสายพาน และตรวจดูช่วงล่างให้ด้วย รถมันยังใหม่อยู่นะ ไม่มีอะไรให้เสียหรอก อย่างเก่งก็แค่เติมลมยาง
   ตอนแรกบอกจะส่งเคลมให้ ผมก็คิดว่าฟรี พอจะเอารถออกมีเรียกเก็บค่าใช้จ่าย บอกว่าเคลมไม่ได้ โดนไป 900 กว่าบาท หึหึ
   ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำเสื้อแดง จ อุดรธานีโดนยิงด้วยอาวุธสงครามร้อยกว่านัท แต่ไม่ตาย !!! โดนมือและขาแทน อยู่ใน ICU
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 26, 2014, 02:16:47 pm
23 มค 57
   อากาศหนาวมากเลย 13C ในกรุงเทพฯนี่มันไม่ได้มีให้เห็นกันง่ายๆ เลยนะ แถมพุทธมณฑลน่ะครับ 13C แถวที่ผมอยู่มันราว 17C เป็นฤดูหนาวที่เย็นสุดในรอบ 30 ปี ของกรุงเทพฯ
   วันนี้ลุงกำนันเดินเรียกแขกย่านหลังสวน ถนนวิทยุ เจอชาวออฟฟิซนำธนบัตรมาเย็บแม็กติดต่อกันยาวเป็นร้อยเมตร โห สุดยอดมาก สร้างสรรค์จริงๆ วันนี้เดินระยะสั้น ราว 5-6 กม แต่ก็ยังคงใช้เวลาเดินอยู่นานพอควร ด้วยเหตุผลเดิมๆ คือใครๆ ก็อยากจะมอบเงินร่วมหุ้นไล่เหี้ยกับลุงกำนัน
   ไอ้เหลิมเป็นประธานศูนย์ สรส แล้วก็ไม่ผิดหวัง โดนลุงกำนันด่าแบบเสียหมาเลย ใครได้ฟังก็หมดศรัทธา เรียกว่าข่มขวัญมันได้ดีมากๆ
   ขวัญชัยที่โดนยิงรอด พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่มือและขาอาจใช้การไม่ได้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ ไอ้นี่คืออีกตัวที่อยู่ในกลุ่มด่าในหลวง
   มิวสั่งซื้อหนังสืออ่านเล่นชื่อ “ซุกสุข” จากทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ตั้งแต่วันอาทิตย์ ของเพิ่งมาถึงวันนี้ พอเปิดเจอก็โดนผมด่าเลย ก็เพราะเขาไปสั่งซื้อซ้ำเล่มเก่าที่เคยซื้อมาก่อนแล้ว แต่เขาชอบวางของกระจัดกระจายจนตัวเองหาไม่เจอเอง
   สิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ ไม่น่าเลยจริงๆ แม้จะเล่มละร้อยกว่าบาทก็เถอะ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 26, 2014, 03:34:32 pm
24 มค 57
   วิ่งเพื่อชีวิต เช้านี้จัดไป 40 นาที 10 นาทีหลังวิ่งแบบสลับช่วงความเร็ว ผมออกแบบการออกกำลังกายด้วยตัวเองนี่แหละ ประยุกต์จากการขี่จักรยาน วิ่งหลายๆ แบบ จะได้ไม่เบื่อครับ วันนี้น้ำหนักเพิ่งจะลดแค่ 0.5 กก เอง วิ่งมาเกือบเดือนลงได้แค่นี้เองหรอ ไม่น่าเชื่อจริงๆ
   แต่ผมไม่ได้คุมอาหารนะ คำว่าไม่ได้คุมก็คือกินปกติ ไม่ได้กินแบบไม่ยั้ง ซึ่งปกติก็ไม่ได้กินอะไรติงต๊องมากนัก
   โหนกแก้มซ้ายมีรอยปื้นแดงๆ สงสัยจะโดนอากาศเย็นๆ ตอนเช้าแน่เลย แถมรอยฝ้าที่เคยจางๆ ไปก็กลับเด่นเข้มขึ้นมาอีกแล้ว ว้า ไม่น่าเลย
ตอนบ่ายกลับเข้ามาบ้านเจอสายไฟในโรงรถหลุดห้อยลงมากองกับพื้น เพราะตัว Cable Tie ที่รัดไว้มันขาดหมดอายุ ทีนี้มันก็หลุดออกมาทั้งแผงเลย “ดี” แม่บ้านตกใจคิดว่าสายไฟขาด วิ่งกระหืดกระหอบมาบอก เลยจัดการผูกสายไฟเข้ากับรั้ว ตอนเย็นจะไปหาซื้อสายรัดมาจัดการ
   ก่อนไปรับมิว แวะ Home Pro ซื้อ Cable Tie มา 2 ถุง ไปรับมิวที่โรงเรียน กลับมาบ้านเร็วหน่อยเพื่อมาซ่อมสายไฟที่หลุดห้อยลงมาให้เสร็จก่อนค่ำมืด
วันนี้ครบกำหนด 3 วันแล้วที่ลุงกำนันขีดเส้นตายให้ทางรัฐบาลจัดการกับมือระเบิด ผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครจำได้ไหม เพราะตัวผมเองก็ลืมๆ ไปหมดแล้ว นี่นั่งอ่านไดอารี่ย้อนหลังดูถึงได้รู้
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 26, 2014, 03:43:02 pm
25 มค 57
   วิ่งเพื่อชีวิต อ่านเจอข่าวไมเคิล ชูมัคเกอร์ประสพอุบัติเหตุจากการเล่นสกีมานานแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้ยังไม่หายเลย ยังอยู่ในสภาพแบบใกล้อัมพาต โห น่ากลัวว่ะ นึกแบบนั้นแล้วเราก็จะออกวิ่งด้วยใจมีพลังครับ วันนี้เรายังมีขา มีแรง ต้องจัดไปให้หนัก คนอื่นเขาอิจฉาเรานะที่มีแขนขาครบ
   เช้าไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า ผมเลยไปทำงานที่ร้านขายของ บ่ายไปธนาคาร และไปรับมิวกลับบ้าน
   เย็นซ่อมสายไฟในหลังคาโรงรถที่มันหลุดห้อยลงมา เห็นว่าเป็นงานง่ายๆ แต่ Cable Tie มันยาวไม่พอครับ บางช่วงเสามันอ้วนใหญ่ รัดไม่ถึง ผมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้เชือกมัดแม่งซะเลย แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายนะ สายไฟเส้นใหญ่อ้วนๆ 3 เส้น รัดให้มันแน่นยาก เสาก็ลื่น
   กลางคืนนอนดูหนังเก่าเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอกันสามคนพ่อแม่ลูก
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 28, 2014, 03:06:47 pm
26 มค 57
   ฟิตโคตรๆ ตื่น 0530 ไปถึงสนามกีฬา 0600 เช้านี้ไม่ค่อยหนาวเย็นเหมือนวันก่อนแล้ว แต่ทัศนะวิสัยในสนามกีฬานี้หมอกลง มองเห็นได้แค่ราว 3 เมตร เกินกว่านี้ก็เห็นแค่ลางๆ ต้องรอสายหน่อยหมอกจางถึงจะเห็นทาง ก็เพราะสนามเขาไม่ได้เปิดไฟครับ
ออกวิ่งแบบซัดยาว 27 รอบ !!! เฮ้ยย อาทิตย์ก่อนวิ่งได้ไม่กี่รอบก็เจ็บหน้าแข้งซ้ายต้องพัก ผ่านมา 6 วัน กลับไปฟิตอย่างดีเลยอัดได้ยาวตลอดแบบรวดเดียว นี่ใจจะเอาให้ถึง 30 รอบเลยนะ แต่ว่าน้ำดื่มที่เตรียมมาหมดเสียก่อน
   รอบลู่วิ่งรอบนอกยาว 600 เมตร วิ่งไป 27 รอบ ได้ระยะทาง 16.2 กม โห รู้งี้น่าจะกัดฟันต่ออีกสักหน่อยให้ครบ 30 รอบไปเลย จะได้ระยะทาง 18 กม เฮ้ยย ใกล้จะ Half Marathon แล้วโว๊ยย ไอ้ระยะทาง 16.2 กม นี่ผมใช้เวลาวิ่ง 1.45 ชม เลยเดินถอยหลัง Cool Down ต่ออีก 15 นาที เป็นอันจบพิธีตอน 0800 พอดี
   ระหว่างวิ่งเจอใครก็ส่งยิ้มให้ไปหมด ยิ้มตอบบ้าง ไม่สนใจบ้าง ก็ช่างประไร เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่พบกันเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว คนนี้วิ่งอึดมากๆ จำได้ว่าวิ่งนานกว่าผมเสียอีก แถมไม่ค่อยหยุดพักอีกด้วย มาวันนี้ผมพูดทักว่า “กี่รอบแล้วครับ” แต่เธอตอบกลับมาแบบฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พูดภาษาอังกฤษ
   ผมวิ่งแซงหน้าไปแล้ว แต่ในใจงง เฮ้ย นี่กูหูฝาด หรือว่าเขาคิดว่ากูไม่ใช่คนไทยวะ วิ่งไปคิดไปก็หาข้อสรุปไม่ได้ จนช่วงราว 0730 เขาหยุดพักแล้วเดินผ่านหน้าผมพร้อมกับชูโทรศัพท์ที่เขาเปิดจับเวลาไว้ให้ดูว่าวิ่งไป 1 ชม แล้ว เดาว่าคงจะไม่ใช่คนไทยล่ะนะ ผู้หญิงไทยไม่ค่อยมีปฏิกิริยาโต้ตอบแนวนี้หรอก อย่างเก่งก็ยิ้มตอบเฉยๆ
   ผมวิ่งแบบจิบน้ำทุกๆ 2 กม ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะวิ่งได้นานขนาดนี้ หลายปีก่อนตอนซ้อมวิ่งก่อนขี่จักรยานขึ้นอินทนนท์ผมวิ่งได้ 10 กม ก็ดีใจตายห่าแล้ว มาวันนี้กดไป 16 โห ภูมิใจว่ะ ตั้งเป้าทันทีครับว่าอาทิตย์หน้าจะเอาให้ได้ 30 รอบ หรือ 18 กม
   เพิ่งมารู้ว่าไอ้รอบที่ผมวิ่งน่ะรอบละ 600 เมตร เพราะสอบถามนักวิ่งเจ้าถิ่นน่ะครับ คิดมาตลอดเลยว่ามันแค่ 400 เมตร เขาบอกไอ้ 400 เมตรน่ะมันรอบใน ถ้ารอบนอกก็ 600 เมตร
   10 รอบ ก็ 6 กม 20 รอบก็ 12 กม นี่ผมวิ่งทะลุ 10 กม ไปนานแล้วหรือวะนี่ เพิ่งจะรู้วันนี้เอง
   วิ่งเสร็จหมดแรงตอน 0745 เลยเดินไปคุยกับสาวชุดเทาที่เจอกันตั้งแต่อาทิตย์ก่อน ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด เธอก็ทักผมก่อนจนตั้งตัวไม่ติด แนะนำตัวเองเสร็จสรรพว่าชื่อ “มัลลิกา” เป็นคนฟิลิปปินส์ งงกับชื่อนะเพราะชื่อเธอไทยมาก แต่เธอบอกว่าเป็นชื่อฟิลิปปินส์ เท่ดีว่ะ
   กลายเป็นว่าได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัว นั่งคุยกัน 30 นาที จนเหงื่อเริ่มแห้ง พบกันใหม่อาทิตย์หน้า (ถ้าหากผมไม่ได้ไปขี่จักรยานที่ไหนนะ)
   กลับมาถึงบ้านรีบชั่งน้ำหนัก แล้วก็ไม่ผิดหวัง ลดไปทันที 1.5 กก แต่นั่นมันลดเพราะร่างกายสูญเสียน้ำต่างหาก อย่าเพิ่งดีใจไป แต่ใจอีกด้านก็ดีใจที่ได้เห็นตัวเลขมันลดลง
   เช้านี้ที่บ้านทำโจ๊กครับ อร่อยมากๆ เลย กินไป 1 ชามใหญ่ใส่ผักใส่ขิงเยอะๆ กับปาท่องโก๋ 3 ตัว ตามด้วยข้าวโพดฝักกลางๆ อีก 3 ฝัก หึหึ เดี๋ยวสักพักตัวเลขบนตาช่างคงจะตีกลับคืนมาแน่
   เสร็จแล้วอาบน้ำ สระผม โหห สบายสุดๆ เลย ร่างกายไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มานานมาก ไม่ได้ชอบวิ่งนักหรอกนะ แต่มันทำให้เราเหนื่อยได้เร็วในเวลาจำกัด นี่ถ้าเป็นขี่จักรยานถ้าอยากได้เหนื่อยขนาดนี้ก็ต้องขี่แบบอัดเร็วลากยาวเป็นชั่วโมง
   ก็จักรยานมันปล่อยฟรีไหลได้ไง แถมลมปะทะตัวก็รู้สึกเย็นสบาย ถ้าขี่ไม่เร็วและไม่นานพอนะ น้ำหนักไม่มีทางลดหรอก บางทริปถ้าขี่แบบช้าๆ นี่เหงื่อแทบไม่ไหลเลย จะมีไหลบ้างก็เหงื่อออกเพราะร้อนมากกว่า
   วันนี้เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า แต่มีหลายเขตให้ความร่วมมือกับกลุ่มของลุงกำนันประกาศงดการเลือกตั้งโดยสมัครใจ ขอแค่ให้นำมวลชนมาออหน้าประตูพอเป็นพิธี
   ใกล้เที่ยง หนังตาเริ่มหย่อน เหนื่อย เพลีย ง่วง อยากหลับ
   กปปส กระบี่ ปิดหน่วยเลือกตั้งด้วยกลยุทธให้ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงกระโจมอกยืนเรียงแถวหน้ากระดาน แป๊บเดียวเรียบร้อย เจอพลังไทยอันใสซื่อเข้าให้ เป็นไงเล่า
   บ่ายคุณสุทิน ธราทินแกนนำทางฝั่ง กปท โดนยิงเสียชีวิตขณะอยู่บนรถปราศรัยที่วัดศรีเอี่ยม มีภาพผู้ยิงมากมาย ตำรวจก็อยู่แถวนั้น แต่เชื่อเถอะครับ ตำรวจแม่งไม่จับหรอก เหมือน “ไอ้ตั้ง” ที่ด่าในหลวงอย่างเปิดเผย ขนาดมีหมายจับแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาอยู่เชียงใหม่ ซุกอยู่ในบ้านของนักการเมืองท้องถิ่น ใครจะทำไม
   กลางคืนฟังปราศรัยของ ดร สมเกียรติ อ่อนวิมล ที่มาแปลหนังสือสัมภาษณ์ทักษิณขณะอยู่ต่างประเทศให้ฟัง ถึงกับอึ้งแดกครับ คือรู้ว่าเลว รู้ว่าเหี้ย แต่มันเหี้ยวกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย ไอ้เรื่องโกงกินน่ะรู้ แต่ที่สะอึกก็คือสิ่งที่มันพูดถึงในหลวงนี่แหละครับ
   วันศุกร์มิวบอกไม่มีการบ้าน แต่ตอนนี้มานั่งทำอย่างขะมักเขม้น พอซักถามเข้าก็บอกว่าเพิ่งนึกได้ มีให้ท่องศัพท์แค่ 10 คำก็ยังไม่อยากทำ ต้องข่มใจไม่ให้โมโหระเบิดอารมณ์ใส่เขา
   เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก ผมโมโหก็เพราะมีความคาดหวังในตัวเขาไปเองคนเดียว เขาไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลยแม้แต่น้อย แต่มันก็คิดไปด้วยความหวังดี เจตนาดี อยากให้เขาไปสู่ความฝันได้สำเร็จ
   ฝันของผมมันเจ๊งไปแล้วไง ก็เลยมาฝันร่วมกับลูก ทีนี้พอลูกเนือยๆ ไม่สนใจ เอาแต่เล่นเกม เราก็พลอยท้อแท้ไปด้วย
   หวังว่ามิวคงเข้าใจ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 30, 2014, 01:26:21 pm
27 มค 57
   นี่เป็นเช้าวันแรกในรอบเกือบเดือนที่ผมไม่ได้วิ่ง ไม่ใช่ขี้เกียจนะ แต่นึกแล้วสงสารข้อหัวเข่าตัวเอง เมื่อวานจัดหนักแล้วก็ให้มันพักบ้าง เช้านี้ก็ตื่นปกตินี่แหละ แต่ใช้เดินเร็วแทน ถ่วงถุงทรายที่ข้อเท้าไปด้วย เดินไปสัก 20 นาที เหงื่อซึมนิดๆ เพราะเริ่มจะไม่หนาวแล้ว
   ไอ้ที่เมื่อวานดีใจ ได้เห็นตัวเลขน้ำหนักลดลงถึง 1.5 กก มาเช้านี้หลังกินข้าวเรียบร้อยก็ตีกลับมาเท่าเดิมเป๊ะ พุงก็ไม่เห็นจะยุบ แต่รู้สึกว่าร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น ที่ชัดเจนอีกอย่างก็คือกล้ามเนื้อต้นขาแข็งมากๆ
   เช้านี้รถติดโคตรๆ เลย เพราะผมต้องผ่านจุดที่ก่อสร้างแถวแยกมไหศวรรย์ ที่เช้านี้เปิดผิวถนนให้รถวิ่งผ่านแค่ 1 เลน !!!
   เฮ้ยย ปกติให้ 2 เลนก็ติดจะแย่ วันนี้มาเหลือแค่ 1 เอง
   ทนไปครับ คิดบวก คิดถึงคนที่เขาแย่กว่าเรา คนในเมืองชั้นในที่ได้รับผลกระทบของการปิดถนนก็แย่ไม่แพ้กัน มองดูคนบนรถเมล์สิ เขายืนกันขาแข็ง เราดีกว่าเขาตั้งเยอะ อะไรบวกๆ คิดแม่งเข้าไว้
   กว่าจะถึงร้านนี่เล่นเอาเพลียเลย นั่งจนเมื่อยตูด ง่วง เบื่อ แต่ก็ต้องปรับตัวให้เร็วครับ เช้าวันจันทร์งานเยอะอยู่แล้ว โทรศัพท์เข้ามาสั่งของตลอดเวลา
   บ่ายมีช่างมาซ่อมท่อประปา เลยให้เขาช่วยดูระบบปั๊มน้ำของบ่อปลาด้วย สงสัยว่าปั๊มมันแรงมาก แต่พอเข้าบ่อกรองแล้วทำไรแรงดันน้ำถึงตกวูบไปเลย รื้อไปรื้อมาหลายจุด มาเจอปัญหาคือตัวท่อมันตัน งงครับ ท่อประปาสีฟ้าธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ตอนใช้ไปนานๆ มันมีคราบตะไคร่จับด้านในมาก อารมณ์เหมือนหลอดเลือดอุดตันยังไงยังงั้น ช่างจะหาท่อมาเดินให้ใหม่ ผมเลยออกแบบเส้นทางของท่อใหม่เสียเลย ให้เขาใช้แบบท่ออ่อน วางแนบกับขอบบ่อ ยิงตรงเข้าตู้กรอง แบบนี้จะทำให้ไม่ต้องมีข้องอที่จะทำให้แรงดันน้ำตกลงเหมือนตอนใช้ท่อแข็งแล้วต้องใช้ข้องอเข้ามุมอยู่หลายตัว จบเรื่องงานท่อไปหนึ่งอย่าง
   งงมาก บ่ายวันนี้เข้าอินเทอร์เนทตอนอยู่บ้านไม่ได้ ใช้ไอแพดออนไลน์ก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการเมืองไหม   
   เย็นไปรับมิวที่โรงเรียน ช่วงนี้ไปโรงเรียนตลอดเลย ต้องการอัปเดทข่าวสารเรื่องโรงเรียนในปีการศึกษาหน้าอย่างขมักเขม้น แต่ละคนก็แต่ละแนวนะ หลายคนหาโรงเรียนแนวเดิมเรียนต่อ ส่วนผมอยากให้มีเครือข่ายในชีวิตภายภาคหน้าด้วย เลยเลือกโรงเรียนสวนกุหลาบให้มิว ไอ้โรงเรียนนี้แปลกอย่างหนึ่ง คือมันจะรักพวกพ้องพี่น้องกันมากมายเหลือเกิน คือจบจากที่นี่แล้ว นอกจากจะได้วุฒิ ม6 แล้ว ยังจะเป็น OSK ไปตลอดชีวิต
   กลางคืนอ่านใบรายงานความประพฤติประจำสัปดาห์ ก็พบคำตำหนิแบบเดิมๆ คือไม่สนใจเรียน ชอบพูดคุย เล่น ระหว่างเรียน ไม่ค่อยทำการบ้านส่ง ฯลฯ
   อ่านแล้วแม่งโคตรเบื่อเลยว่ะ
   ต้องปลงครับ ชีวิตใครชีวิตมัน มิวเขาก็คงหาทางเดินของชีวิตเขาเองได้ ผมก็เอาใจช่วยให้เขาตามหาฝันในการเป็นนักบินของเขาให้จงได้นะ แต่ถ้ามิวไม่ปรับตัว ฝันของลูกก็จะเลือนลางลงไปทุกทีๆ
   มันน่าเสียดายนะลูก
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 30, 2014, 01:39:05 pm
28 มค 57
   วิ่งไป 40 นาที วิ่งปกติ 30 นาที วิ่งแบบสลับช่วงอีก 10 นาที ไม่รวม Warm Up / Cool Down จากการที่เมื่อวานพักขาไป 1 วัน เช้านี้มาวิ่งต่อก็รู้สึกเหมือนเดิมนะ หรือว่ามันอยู่ตัวแล้วก็ไม่รู้ แต่เริ่มต้นจากค่อยๆ วิ่ง เริ่มฉลาดละ จึงไม่เจ็บกล้ามเนื้อหน้าแข็งซ้ายแล้ว
   ส่วนน้ำหนักยังคงเดิมๆ ครับ ไม่ลดลง ไม่เพิ่มขึ้น แต่ต้นขาผมโคตรแข็งเลยว่ะ ยืนย่อตัวนิดเดียวแล้วลองจับดู โห แม่ง ยังกะหิน (อุปมา อุปมัย)
   เช้านี้กินแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียว กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม มีกระเทียมสดอีก สิบกว่าหัวเล็กๆ แล้วก็เข้าสู่ระบบตารางชีวิตแบบเดิมๆ
   เฮ้ย อินเทอร์เนทที่บ้านใช้งานไม่ได้อีกแล้ว เพิ่งเป็นเมื่อวานวันนี้เอาอีกแล้ว ดีนะที่ยังไม่มีงานต้องส่งทางเมลล์ ไม่งั้นงานเข้าแน่
   ไม่เป็นไร ออนไลน์ไม่ได้ ก็ทำงานเขียนแทนครับ ในหัวตอนนี้มีงานเขียนมากมายเลย ได้ไอเดียขณะวิ่งหลากหลายไม่แพ้ตอนขี่จักรยานเลยล่ะ เลยเข้าใจได้ว่า หากจิตเรานิ่ง สงบ นิมิตก็บังเกิด
   กปปส ไปกดดันให้เฉลิมออกจากที่ประชุมกองทัพบกอยู่นาน จนมีคนก่อเหตุแอบยิงกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ววิ่งหนีเข้าไปในซอยฝั่งตรงข้าม ขณะวิ่งตามกันไปก็เจอหลักฐานที่โยนทิ้ง คือเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ กุญแจมือ ของมีคม Cable Tie วิทยุสื่อสาร หนำซ้ำยังมีปืน และระเบิดปิงปองอีกหลายลูก แล้วก็เหมือนเดิมครับ ไม่มีตำรวจมาสักตัว แต่มีทหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมาช่วยดูแลแทน
   อีกพักหนึ่งก็จับตัวได้ และโดนรุมตีน มีบริการจัดส่งไป รพ อย่างเรียบร้อย ผู้ร้ายทิ้งรถมอเตอร์ไซค์หนี เจอกล้องแอบถ่ายตัวเล็กๆ ติดไว้ที่ด้านหน้ารถ อืมไอ้กล้องนี้น่าสนใจ มันอาจมีภาพเบื้องหลังก่อนลงมือก็เป็นได้
   ร้ายที่สุดก็คือ คนร้ายคือตำรวจ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on January 30, 2014, 01:40:59 pm
29 มค 57
   ตื่นสายไปนิด แต่ก็วิ่งทำระยะทางได้เท่าเดิม เพราะเร่งฝีเท้าหน่อย วิ่งไปได้ 40 นาที รู้สึกผอมลงนิดๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า นี่มันน่าจะผอมลงไปเยอะแล้วนะ อายุเริ่มเยอะ ระบบการเผาผลาญของร่างกายมันไม่ดีเหมือนตอนหนุ่มสาว เข้าหลักสี่ไปนานแล้ว น้ำหนักเริ่มจะลงยากมาก เหมือนจะไม่อยากลงด้วยซ้ำไป
   แต่ก็ต้องสู้กับร่างกายตัวเราเองครับ ผมชอบความท้าทาย สนุกดี มาดูกันซิว่ามึงกับกู ใครจะเจ๋งกว่ากัน ยิ้งลดยากก็ทำให้ผมต้องพยายามมากขึ้น มาๆ มาสู้กันสักยก ชักอยากจะมี  Six Pack กับเขาแล้วสิ
   ถ้าเราผอมลงได้ ก็ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ นี่ ผมคิดแบบนี้เลย เราใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ได้หมดทุกตัว เจ๋งดีออก ประหยัดเงินอีกด้วย สุขภาพก็ดีด้วย เงินทองที่พอเหลืออยู่ก็ให้ลูกไว้เรียนหนังสือ ไม่ต้องเอาไปจ่ายให้หมอตอนเจ็บป่วย เวลาที่พอจะมีเหลือตอนอายุมากก็เอาไว้ขี่จักรยานเดินทางตามที่เราคิดฝันไว้ ไม่ต้องมานอนอยู่บนเตียงเป็นคนไข้ ซึ่งตอนนั้นต่อให้มีเงินมากมายมันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว
   หาวิธีคิดบวกไปเรื่อยๆ ครับ คิดนานเข้ามันจะตกผลึกแบบผมนี่แหละ
   เช้านี้มีภารกิจยกของในโกดังอีกแล้ว จัดไปครับ วิ่งมาสักระยะ หลังผมแข็งแรงขึ้นแล้ว ยกมากจนเหนื่อยเหงื่อหยดติ๋งๆ แต่ไม่เจ็บหลังแล้ว ดีใจมากๆ เลย มันแค่เมื่อยๆ พักแล้วก็หาย
   ยกเสร็จก็มาช่วยจัดสินค้าเตรียมขึ้นรถออกส่ง ก็หนีไม่พ้นการยกของอีกนั่นแหละ ว่างหน่อยก็ช่วยรับโทรศัพท์บ้าง เตรียมบิลส่งของบ้าง ทำแบบนี้อยู่ตลอดทุกวันๆ
เข้ามาถึงบ้านบ่าย 3 รถติดมากๆ เลย ปกติขากลับบ้านนี่รถจะไม่ติดแล้วนะ แต่ระยะหลังนี้มีจุดก่อสร้างแยกมไหศวรรย์และแถมเป็นวันจ่ายของเทศกาลตรุษจีน
   จากเรื่องเมื่อวานที่มียิงกันหน้ากองทัพบก วิภาวดี ไอ้แจ๊ดแถลงข่าวสวนกลับบอกว่า ตำรวจที่โดนทำร้ายเมื่อวานนี้คือเจ้าหน้าที่ๆ ส่งเข้าไปสืบข่าว โหห พี่โคตรหน้าด้านเลย พี่ต้องพกระเบิดไปหาข่าวด้วยหรอ พกไปเป็นกำๆ เลย ไม่ใช่แค่ลูกเดียว
   อีกสิบกว่าวันมิวจะต้องสอบ Onet (เป็นการสอบจากข้อสอบกลางของกระทรวงศึกษาธิการ) โรงเรียนที่เราจะเข้าในปีการศึกษาหน้าเขาจะนำคะแนนของ Onet นี้ไปบวกด้วย ผมไม่แน่ใจว่ากี่ % แต่เป็นหลักสิบ % แน่ๆ มิวรู้ว่าสำคัญ แต่ก็ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ไม่ได้สนใจจะเตรียมตั้วอะไรสักนิด หัวค่ำยังเล่นต่อโมเดลกระดาษ 3D รูปเรืออย่างเพลิดเพลิน
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on February 04, 2014, 03:51:58 pm
30 มค 57 ตรุษจีน
   กูจะวิ่งจนกว่าจะผอมลงให้ได้ ช่วงนี้เลยไม่ได้ขี่จักรยานอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลย มีบ้างก็แค่ขี่ขำขำวนๆ ในละแวกบ้าน เป็นพวกฝึกความคุ้นเคยกับรถ และนั่งบนเบาะให้ก้นคุ้นกับการโดนกดทับอยู่ตลอดเวลา ตอนขี่จริง เอาจริง จะได้ไม่เจ็บก้น
   เช้านี้จัดไปอีก 40 นาที 10 นาทีหลังวิ่งแบบสลับช่วงความเร็ว (Interval) จากนั้นก็เดินจนหัวใจเต้นช้าลงมาอยู่ระดับปกติ ช่วงนี้ร่างกายเรายังอยู่ในโหมดเผาไขมันอยู่นะ แต่ผมต้องรีบมากินข้าวเสียก่อน น่าเสียดายจริงๆ ไม่งั้นน่าจะผอมลงเร็วกว่านี้อีกนิด
   ไหว้เจ้าที่ร้านขายของกับเขาด้วยนะ ผมไม่ค่อยได้ไหว้เจ้า ไม่ได้ขอพร หรือขอโชคลาภอะไร ไม่ค่อยชอบขอ ผมชอบทำของผมเอง ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องโทษใคร ไหว้เจ้าครั้งนี้ก็เลยเป็นการขอบคุณเจ้าที่ที่ปกปักรักษาให้บ้านสงบสุขและค้าขายรุ่งเรือง
   Lenovo ของจีน ซื้อ Motorolla ต่อจาก Google คนก็วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็บอกว่าขายกากให้ Lenovo แต่เชื่อเถอะนะ คนซื้อเขาก็ไม่ได้โง่หรอก
   ลุงกำนันปิดกรุงเทพฯ ทำให้ตลาด Online ยอดพุ่งขึ้นเท่าตัว คนกรุงเทพฯเริ่มปรับตัวกันได้แล้ว แม้จะปิดไปหลายแยก เขาก็อ้อมเอาแทน วันนี้ลุงกำนันเดินเรียกแขกแถวสุขุมวิท อ่อนนุช แต่ตรงกับวันไหว้ของเทศกาลตรุษจีน รถเลยน้อยมาก ร้านค้าหลายร้านหยุด ปิด แต่ร้านผมเปิดปกติ
   กลางคืนภรรยามาบอกว่าห้ามกินอะไรหลังเที่ยงคืนจนถึงตอนเช้านะ เขาชวนไปตรวจสุขภาพ ผมไม่เห็นด้วย คือผมไม่ชอบโรงพยาบาล แม้จะตรวจฟรีก็เถอะ มีทัศนคติแง่ลบกับโรงพยาบาลครับ คือพอเราไปตรวจ ก็จะเจอปัญหาแบบคลาสสิคตามมา เช่น ไขมันเยอะไปหน่อยนะ ความดันสูงไปนิด โคเรสเตอรอลก็มีบ้าง ต้องกินยาตามนี้นะ ดูแลร่างกายอย่างนี้นะ ฯลฯ แล้วสุดท้ายก็นัดอีก 2 อาทิตย์ หรือเดือนหน้ามาตรวจใหม่ ซึ่งไอ้ครั้งหน้านี้มันไม่ฟรีแล้วนะโว๊ยย
   ดื้อมาหลายครั้งหลายหน ไม่ยอมไป แต่ครั้งนี้ยอมละ เขาบอกว่าถ้าผมตรวจฟรี เขาก็จะได้ตรวจแล้วมีส่วนลดด้วย (ลดเท่าไหร่ ไม่ยอมบอก)
   เอาวะ ตามใจพ่อ ตามใจแม่ ตามใจลูก ก็ตามใจภรรยาอีกคนจะเป็นไรไป
   น่าแปลกไหมที่ไม่เห็นมีใครตามใจผมเลย ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ต้องการข้าวของเงินทองอะไรสักอย่าง ผมต้องการแค่อิสระ
Title: Re: มค 57 13 Occupy Bangkok
Post by: O'Pern on February 04, 2014, 04:17:35 pm
31 มค 57
   วันนี้ร้านหยุด 1 วัน หยุดตรุษจีนครับ ตื่นเช้าเหมือนเดิมแหละ แต่ไม่ได้ทำอะไร ภรรยาบอกห้ามกินทุกอย่างตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนกว่าจะไปเจาะเลือดเสร็จ
   โห ทรมานว่ะ ปกติผมตื่นนอนก็จะกินน้ำอุ่นแก้วใหญ่ ตอนนี้คอแห้งมาก ก็ทำได้แค่ป้วนปากให้พอเปียกๆ ค่อยยังชั่วหน่อย รีบไปส่งลูก รีบไปหาหมอตรวจร่างกาย มันไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะ ไปเพราะภรรยาคะยั้นคะยอ คือผมมีสิทธิตรวจฟรีไง แล้วถ้ามีผู้ติดตามมาด้วยก็จะได้ส่วนลดพิเศษ
   นี่เป็นครั้งแรกของผมเลยนะ ไม่ชอบมาโรงพยาบาลครับ อคติกับธุรกิจแนวนี้ นี่เขามีบัตรฟรีมาให้ผมตรวจก็เสมือนเอาเหยื่อมาล่อ อายุมากๆ ตรวจไปก็เจอไขมัน น้ำตาล บ้างก็มีของแถมเป็นเบาหวาน ความดัน ฯลฯ พอเจอก็จะพูดคุยให้เราปรับตัว เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แล้วนัดครั้งหน้ามาตรวจใหม่ หึหึ ไอ้ครั้งหน้าและต่อไปนี่แหละครับมันไม่ฟรีแล้ว
   วันนี้ก็เลยเพิ่งรู้กรุ๊ปเลือดของตัวเอง ฮ่าๆ กรุ๊ปโอครับ ตอนเจาะเลือดก็กลัวเจ็บ เอาเข้าจริงแทบไม่รู้สึกเลย ฉีดยาที่ต้นแขนเจ็บกว่าเยอะ เขาขอตัวอย่างปัสสาวะด้วย แต่ฉี่ไม่ออก ก็ไม่ได้กินน้ำมาตั้งแต่เมือคืนไง พอมาตอนนี้ก็อัดเข้าไป 4 แก้วแล้วยังเฉยๆ อยู่เลย นึกถึงในคดีเด็ดก็มีฉากแนวๆ นี้ หมอขอตัวอย่างปัสสาวะคุณยาย แต่ยายไม่ปวดฉี่ ก็เลยตัดน้ำในโถชักโครกไปให้หมอ ทุเรศจริงๆ เลยยายนี่
   เจาะเลือดแล้วก็ไปตรวจคลื่นหัวใจ เห็นมีลู่วิ่ง 2 ตัว คิดว่าเขาจะให้ผมไปวิ่งแล้วมีสายระโยงระยางมาติดที่ตัว แต่เปล่า เขาบอกนอนเฉยๆ ก็ตรวจได้ ไอ้เครื่องน้ำสำหรับนักกีฬา
   อ้าว ผมก็เล่นกีฬาเยอะแยะนี่หว่า พอสอบถามไปมาเขาบอกต้องจ่ายเงินเพิ่ม มันคนละแพคเก็จกัน จบข่าว
   กลายเป็นว่าไอ้แบบนี่ผมนอนเฉยๆ ให้เขาติดเซนเซอร์เต็มหน้าอกและที่ข้อมือ ข้อเท้า มันคือการวัดการเต้นของหัวใจในสภาพปกติ ถ้าเลือกได้ผมอยากวัดแบบนักกีฬามากกว่านะ เพราะตอนขี่ขึ้นเขาโหดๆ นี่หัวใจเต้นแรง หลายคนหมดสติล้มลงและจากไปง่ายๆ เลย
   เดินไปเดินมาพักใหญ่ถึงจะเริ่มปวดฉี่ ทีนี้จัดมาให้แบบล้นถ้วยเลย ฮ่าๆ นี่ถ้ามีแบบขวดลิตรก็อาจเต็มได้ หลังจากนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชม ในการรอผล ก็เลยไปนั่งกินข้าวในโรงอาหารของโรงพยาบาล ผมไปที่บางปะกอก 9 ใกล้ๆ บ้านนี่แหละครับ สะดวกดี โรงพยาบาลสมัยนี้ทำออกมาดูดียังกะโรงแรม แบบเห็นแล้วน่าป่วย อยากมาบ่อยๆ หึหึ แต่ไม่ใช่ผมแน่ๆ
   คนเราถ้าไม่ป่วยนี่จะประหยัดเงิน มีเวลา และมีอิสระในชีวิตเพิ่มมากขึ้นเยอะ ตอนหนุ่มสาวทำงานหาเงินมาเยอะแยะ แต่พออายุมากเข้ากลายเป็นเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ไอ้แบบนี้ไม่เอานะ กลายเป็นว่าหาเงินมาให้หมอใช้น่ะสิ 
   กินพะแนงหมูขอมะเขือเยอะ ภรรยากินพวกผัดผัก สักพักก็ขึ้นไปรอฟังผล หมอบอกน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงไปนิด หัวใจ ปอด ตับ ปกติดี น้ำหนั้กเกินเกณฑ์ไป 5 กก และกำลังจะทำใบนัดให้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมรู้แกวทัน บอกไม่ต้องๆ เดี๋ยวจะนัดแล้วมาหาหมอเอง
   เห็นไหมๆ ว่าแล้วไม่ผิดเลย หว่านพืชหวังผลโดยตรงเลยนะนั่น ล่อให้คนมาตรวจฟรี แต่คิดอีกแง่มันก็ดีนะสำหรับคนที่อยากตรวจ โอเค ไม่ว่ากัน
   พาภรรยาไปเดินซอยละลายทรัพย์ต่อ มันไม่ได้ชื่อนี้เป็นทางการหรอก คงจะมาเดินแล้วซื้อของกันเยอะน่ะ ข้าวของขายเยอะจริงๆ โดยมากเป็นของผู้หญิงและของกิน ผมก็เดินไปงั้นๆ แต่ก็ได้เสื้อยืดมาตัวหนึ่งของ Benetton ตัวละ 200 บาท ผ้านิ่มดี น่าจะใส่สบาย
   กลางวันที่นี่แดดแรง คนเยอะ คนแน่น ต้องระวังกระเป๋าจะโดนฉก เป็นทุกที่ในโลกแหละครับ ยิ่งต่างประเทศนี่ตัวดีเลย โรม อิตาลีถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ในย่านยุโรป ฮ่องกงก็มีเพียบ แต่ของไทยเรานี้มักจะเป็นนักล้วงมาจากต่างชาติครับ เพราะคนไทยชั่วๆ มันหันไปค้ายาเสพติดแทน มันได้เงินเร็วกว่า (ตลกร้าย)
   เดินอยู่ 2 ชม กว่า ผมได้กระเป๋าเป้มาอีก 1 ใบ ภรรยาซื้อให้ ปกติจะไม่ชอบกระเป๋าแบรนด์เนม หรือของแพงๆ ที่ใช้อยู่ล่าสุดก็เป็นเป้แลกฟรีจาก 7-11 ที่คุณภาพแม่งโคตรห่วยเลย ใส่ของหนักๆ หน่อยเดียวขาดกระจุย แต่ถ้าใส่ของไม่หนักก็พอได้นะ โดยรวมยังคงชอบอยู่ แต่วันนี้มาเจอเป้ผ้าสีเขียวทหารโทรมๆ เน่าๆ เลย ถูกใจมาก ลองสะพายแล้วสบายตัวกว่าของ 7-11 เยอะ เพราะผิวสัมผัสของมันเป็นผ้าไง มันธรรมชาติกว่า เลยรู้สึกสบายตัว แนบหลังก็จะรู้สึกอบน้อยกว่า
   กลับบ้านนั่งได้พักเดียวก็ต้องออกไปรับมิว ขากลับวันนี้เขาขอกินร้านยาโยอิอีกแล้ว จัดไปครับ ผมกินหมูชุปแป้งทอดราดซ้อสมิโซะ เนื้อหมูเหนียวมาก กัดยาก เคี่ยวนาน รู้สึกผิดปกตินะ แล้วพอกลับบ้านก็อาการออก เริ่มไอ กลืนน้ำลายแล้วเหมือนมีก้อนๆ ในลำคอ คือกลืนไม่สะดวก นี่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาหลายปี
   ก่อนนอนจิบน้ำอุ่นก็รู้สึกสบายคอขึ้น แต่ไม่ชอบความรู้สึกอย่างนี้เลย นี่ขนาดแค่คล้ายจะเป็นหวัดเจ็บคอเองนะนี่