14:43 น.
เวลา 11.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 บก.ปดส. พ.ต.ท.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผกก.ฝป.10 บก.ปดส. พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.ฝป.10 บก.ปดส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายไส สีถิ่นวัน อายุ 52 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี หลังก่อเหตุจับ ด.ญ.นิด (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ บุตรลูกสาวตัวเองเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา นางภา (นามสมมติ) อายุ 43 ปี พร้อมด้วยนายไส ผู้ต้องหา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ว่า นางไก่ (นามสมมติ) ภรรยาใหม่ของนายไส และนายดำ (นามสมมติ) แฟนหนุ่มคนใหม่ของนางไก่ได้ร่วมกันลักพาตัวบัตรสาว คือ ด.ญ.นิด ไปโดยนางไก่ และนายดำได้เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 แสนบาท
นางภา ให้การว่า มีอาชีพทำนาอยู่ จ.อุบลราชธานี และได้หย่าขาดกับนายไสมาปีกว่าแล้ว เนื่องจากนายไสแอบไปมีภรรยาใหม่ ส่วนนายไสนั้นได้เข้ามาทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายไสได้ไปรับตัวบุตรสาวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานีเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยนายไส ได้โทรศัพท์นัดให้ตนมารับลูกสาวที่สถานีขนส่งหมอชิตเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.
นางภา กล่าวต่อว่า เมื่อถึงวันนัดหมายตนได้เดินมาที่สถานีขนส่งหมอชิตแต่กลับไม่พบตัวลูกสาว ตนจึงเดินหาไปทั่วหมอชิตแต่ก็ยังไม่พบจึงโทรไปหานายไส ว่าไม่พบตัวลูกสาว สักพักนายไส ได้โทรกลับมาหาตนบอกว่าตอนนี้ลูกสาวถูกนางไก่ และนายดำ ลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ 3 หมื่นบาท จากนั้นนายไสได้เดินทางตามมาสมทบแล้วพาตนจากสถานีขนส่งหมอชิตไปแจ้งความที่ สน.บางซื่อ แต่ตำรวจแนะนำให้มาแจ้งความที่ บก.ปดส.
หลังรับแจ้ง ตำรวจ ปดส.ได้สืบสวนกรณีดังกล่าว โดยเรียกตัวนางไก่ และนายดำ มาสอบสวนซึ่งทั้งสองปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัว ด.ญ.นิด แต่ทั้งสองให้การซัดทอดนายไสว่าเป็นผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ขึ้นมาทั้งหมด ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายสี ได้โทรศัพท์แจ้งนางภา และตำรวจว่า คนร้ายให้ตนไปรับตัว ด.ญ.นิด ที่พุทธมณฑลสาย 4 และไม่ยอมให้นางภา และตำรวจติดตามไป
จากนั้นนายไสได้โทรกลับมาบอกนางภา และตำรวจว่า ตัวเองถูกคนร้ายจับตัวไว้พร้อมกับลูกสาว โดยคนร้ายเรียกเงิน 1 แสนบาท ขอให้นางภานำเงินจำนวนดังกล่าวมาไถ่ตัวมิเช่นนั้นจะได้รับอันตรายก่อนจะปิดมือถือไป ทำให้นางภากลัวว่าลูกสาวจะได้รับอันตรายจึงรีบกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี ไปหากู้ยืมเงินและจำนองที่นาเพื่อไถ่ตัวลูกสาว
โดยระหว่างนั้นนายไส ได้ติดต่อหานางภา แต่เพียงผู้เดียว พร้อมทั้งเร่งให้นางภาหาเงินมาไถ่ตัวจากคนร้าย ซึ่งนางภาได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ตำรวจฟังทำให้ตำรวจรู้สึกผิดสังเกตจึงได้การสืบสวนทางเทคนิคจนกระทั่งพบว่า นายไสไม่ได้อยู่ที่พุทธมณฑลแต่อยู่ไกลถึง จ.เลย ทำให้เชื่อว่านายไสน่าจะโกหกสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้น จึงสืบหาที่อยู่จนแน่ชัดว่าน่าจะอยู่ที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านญาติของนายไสจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบก็พบนายไส และด.ญ.นิดอยู่ในบ้านจึงช่วยเหลือ ด.ญ.นิดออกมาพร้อมกับนำตัวนายไส มาสอบสวน ที่ บก.ปดส.
จากการสอบสวน นายไส รับสารภาพว่า ได้วางแผนลงมือลักตัวลูกสาวตัวเองเพื่อเรียกค่าไถ่จากนางภา อดีตภรรยา เนื่องจากต้องการเงินไปใช้หนี้สหกรณ์และหนี้ ธกส. รวมแล้วกว่า 2 แสนบาท ก่อนหน้าที่จะจับตัวลูกสาวไปเรียกค่าไถ่นั้นตนเคยโทรไปขอยืมเงินนางภามาแล้ว แต่นางภาไม่ให้ เนื่องจากตนเองแอบไปมีเมียน้อย และชอบนำเงินไปเที่ยวเตร่จึงเกรงว่าตนจะนำเงินไปใช้เที่ยวและปรนเปรอเมียน้อยอีก ตนจึงสร้างเรื่องขึ้น และก่อเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้นโดยหลังรับลูกสาวจาก จ.อุบลราชธานีแล้วได้นำตัวมาพักที่แคมป์คนงานก่อสร้างใน จ.นนทบุรี จากนั้นได้สร้างเรื่องขึ้นต่างๆนานา จนเมื่อตำรวจเริ่มสืบสวนก็เห็นท่าไม่ดีจึงพาลูกสาวไปอยู่ที่ จ.เลย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่นายไส 3 ข้อหา คือ 1.เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาตัวเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไป 2.กรรโชกทรัพย์ และ3.แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปดส. ดำเนินคดีต่อไป
source - pantip.com
