Author Topic: สงสัยมากครับ การใช้ ยางหน้าเล็ก หลังใหญ  (Read 6090 times)

Offline Multilink

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 174
  • I'm a llama!
เห็นพวกรถซิ่งที่ลงหนังสือวางเครื่องแรงๆชอบใส่ รถสปอร์ตเครื่องวางหน้าขับหลังแรงๆ ที่ออกจากโรงงานก็มีใส่กันเช่น ferrari california...หรือแม้แต่รถแข่งในสนามเมืองไทยบางคันก็ใส่แบบนี้เหมือนกัน เช่น หน้ากว้าง 8.5 หลัง กว้าง 9.5 ยางหน้า 235 ยางหลัง 275 อะไรแบบนี้...

ผมเดาๆเอาว่าพวกรถโรงงานที่ใส่เค้าอาจจะมีการคำนวนน้ำหนักหรือปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง เช่นความปลอดุภัยสำหรับคนขับมือใหม่ที่ไม่ใช่นักแข่ง การใช้งานในสภาพปกติ วงเลี้ยว...แต่ว่าผมเห็นรถแต่งหลายๆคัน โดยเฉพาะรถบางคันที่ธรรมชาติเป็นรถ understeer มาจากโรงงานอยู่แล้วเช่น cefiro หรือ รถที่ค่อนข้างมี balance หน้าหลังดีๆมาแล้วเช่น RX8, Altezza หรือ BMW ซี่งโรงงานเค้าใส่เป็นหน้าหลังเท่ากัน แล้วพอเราเอามาตกแต่งแล้วไปเปลี่ยนขนาดยางหลังให้มันโตกว่าหน้า มันจะไม่ยิ่งทำให้รถคันนั้นมัน understeer มากขึ้น หรือ บางคันอาจจะเสีย balance ดีๆที่โรงงานเค้าให้มา ไปหมดเหรอครับ  ทำไมไม่ใส่ หน้าหลังให้มันใหญ่เท่ากันหมด มันน่าจะทำให้รถเลี้ยวเข้าง่ายมากขึ้นและมี mechanical grip ที่ล้อหน้ามากขึ้นเวลาเข้าโค้ง..ช่วยตอบให้หายข้องใจทีครับ
A Top Fuel Dragsters reach over 300 miles per hour before you have completed reading this sentence

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
โอเค....อย่างแรก เราพูดกันถึงรถแต่ง หรื รถที่โดนปรับแต่ง จะใช้แข่ง(เป็นนักแข่ง)หรือจะใช้ซ่ากลางถนน(แบบพวก "Wannabe" นักแข่ง แต่ใจไม่กล้าพอ) ก้อแล้วแต่ พอมีการปรับแต่งหรือโมฯช่วงล่างและอื่นๆอย่างถูกต้องแล้วนั้น ไอ้สิ่งที่โรงงานดีไซน์เอาไว้ให้"แม่บ้าน"ขับไปจ่ายตลาดโดยให้มี Understeer ฝังไว้เป็นสันดานของรถ เพื่อที่แม่บ้านจะได้ไม่ตกใจนั้น มันเลยหายไป รถคันนั้นจะกลายเป็นรถที่"ค่อนข้าง" Oversteer เป็นสันดานซะส่วนใหญ่ (ถ้าใครอุตส่าห์แต่งรถไปแข่งแล้วยังให้รถคันนั้น Understeer อยู่ ก้อคงไม่ได้ดีอ่ะนะ อยู่บ้านจิบน้ำขิงเหอะ)

ในรถขับล้อหน้านั้น อาจจะแก้ไม่หายสำหรับอาการ Understeer (ก้อรถมันออกแบบเอาไว้ให้อาหมวยจ่ายกับข้าวกับไปช๊อปปิ้งอ่ะนะ) มันจะเกือบหายแต่ก้ไม่หายซะทีเดียว เพราะฉะนั้นการใส่ล้อและยางที่มีขนาดเท่าๆกันมันเลย Make sense บางคันหนักข้อมากๆเข้าถึงขั้นต้องใส่ยางหลังเล็กกว่ายางหน้าก้อมี ถ้าไม่งั้นก้อใส่ยางคนละ compound เอาแข็งๆไว้ข้างหลัง เอาหนึบๆไว้ข้างหน้า ไม่งั้นก้อคนละยี่ห้อ

ในรถขับหลังนั้น พอทำ Set up ที่มันได้เวลาต่อรอบที่มันน้อยที่สุดแล้ว รถนั้นจะค่อนข้าง Oversteer ทั้งตอน Turn-in และ Get out of the turn เพราะฉะนั้นการใช้ยางหลังใหญ่กว่ายางหน้ามันเลยจำเป็น ส่วนจะเล็กกว่าใหญ่กว่าเท่าไหร่นั้น อันนี้แล้วแต่รถละครับ นี่เราพูดถึงรถเครื่องหน้าขับหลัง น้ำหนักเฉลี่ยหน้าหลังประมาณ 51/49% ถ้าเป็นรถเครื่องวางกลางรึเครื่องวางหลังก้อจะหนักข้อเข้าไปอีก

อย่างที่เคยบอกเสมอละครับ รถบ้านกับรถแข่งมัน Different kind of ANIMAL!!!

 :JFBQ00213070516A:
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline kamolwat_t

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 27
  • I'm iN
    • www.opel.tn.th
เคยแก้ อาการ อันเดอร์ ด้วยการ เติมลมยาง หลังให้มากกว่าหน้า นิดๆครับ หน้า 30 หลัง 32 (เครื่องผมหนักมากๆ เป็นทุนเดิมอยุ่แล้ว เลยเพิ่มมาจาก 28 เป็น 30 ครับ) เพื่อช่วยให้ท้ายไวขึ้นอีกหน่อย พอแก้ปัญหา อันเดอร์ได้ครับ (ไปขอคำแนะนำพี่ๆในสนามมาครับ) :JFBQ00224070614A:

ออ..ก่อนเซ็ทแบบนี้ ชั่น นน? 4 ล้อมาครับ หนัก 1100 รวมเบาะ รวมถังแก๊ส ไม่รวมคนขับ นน. ลงล้อหน้า 700 กว่า หลัง 300 กว่าๆครับ หน้าซ้ายหนักกว่าขวา ประมาณ 100 กก ครับ (ถ้ามีนน. คนขับถ่วงอาจจะดีขึ้นว่างๆ ต้องลองไปชั่งใหม่ :yocifans009:
opel corsa คันเล็กๆ ชุดแต่ง Std.แท้จากโรงงาน เครื่อง 8v ล้อ 15 ยางแตนๆ

Mobiz 0 8188 2 5077

Offline Multilink

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 174
  • I'm a llama!
โอเค....อย่างแรก เราพูดกันถึงรถแต่ง หรื รถที่โดนปรับแต่ง จะใช้แข่ง(เป็นนักแข่ง)หรือจะใช้ซ่ากลางถนน(แบบพวก "Wannabe" นักแข่ง แต่ใจไม่กล้าพอ) ก้อแล้วแต่ พอมีการปรับแต่งหรือโมฯช่วงล่างและอื่นๆอย่างถูกต้องแล้วนั้น ไอ้สิ่งที่โรงงานดีไซน์เอาไว้ให้"แม่บ้าน"ขับไปจ่ายตลาดโดยให้มี Understeer ฝังไว้เป็นสันดานของรถ เพื่อที่แม่บ้านจะได้ไม่ตกใจนั้น มันเลยหายไป รถคันนั้นจะกลายเป็นรถที่"ค่อนข้าง" Oversteer เป็นสันดานซะส่วนใหญ่ (ถ้าใครอุตส่าห์แต่งรถไปแข่งแล้วยังให้รถคันนั้น Understeer อยู่ ก้อคงไม่ได้ดีอ่ะนะ อยู่บ้านจิบน้ำขิงเหอะ)

ในรถขับล้อหน้านั้น อาจจะแก้ไม่หายสำหรับอาการ Understeer (ก้อรถมันออกแบบเอาไว้ให้อาหมวยจ่ายกับข้าวกับไปช๊อปปิ้งอ่ะนะ) มันจะเกือบหายแต่ก้ไม่หายซะทีเดียว เพราะฉะนั้นการใส่ล้อและยางที่มีขนาดเท่าๆกันมันเลย Make sense บางคันหนักข้อมากๆเข้าถึงขั้นต้องใส่ยางหลังเล็กกว่ายางหน้าก้อมี ถ้าไม่งั้นก้อใส่ยางคนละ compound เอาแข็งๆไว้ข้างหลัง เอาหนึบๆไว้ข้างหน้า ไม่งั้นก้อคนละยี่ห้อ

ในรถขับหลังนั้น พอทำ Set up ที่มันได้เวลาต่อรอบที่มันน้อยที่สุดแล้ว รถนั้นจะค่อนข้าง Oversteer ทั้งตอน Turn-in และ Get out of the turn เพราะฉะนั้นการใช้ยางหลังใหญ่กว่ายางหน้ามันเลยจำเป็น ส่วนจะเล็กกว่าใหญ่กว่าเท่าไหร่นั้น อันนี้แล้วแต่รถละครับ นี่เราพูดถึงรถเครื่องหน้าขับหลัง น้ำหนักเฉลี่ยหน้าหลังประมาณ 51/49% ถ้าเป็นรถเครื่องวางกลางรึเครื่องวางหลังก้อจะหนักข้อเข้าไปอีก

อย่างที่เคยบอกเสมอละครับ รถบ้านกับรถแข่งมัน Different kind of ANIMAL!!!

 :JFBQ00213070516A:
อันนี้แค่อยากถามความเห็นของรถที่พี่ๆคิดว่าเป็น "รถแข่ง" with "correct set up" จากรถสภาพแบบนี้

 สมมุติเกิดมีจัด promotion campaign จาก volvo ประเทศไทย โดย แข่ง one make race volvo 740 ถ่ายทอดสดเก็ยคะแนนชิงเงิน 1 ล้านบาท โดยรถที่ใช้และกติกาเค้าจัดมาให้เราประมาณนี้ คือ รภเดิม 740 ห้าปรับแต่งตัวถังภายนอกใส่ได้แค่สปอยเลอร์หลัง หน้า ตามขนาดที่กำหนด ต้องใช้ปีกนกและจุดยึดต่างๆเดิมหมดทุกอย่าง บูชก็ยังต้องใช้ขนาดและหน้าตาเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนแค่วัสดุไปเป็นยูรีเทน โช้คอัพบังคับให้ใช้โช้คโคนี่กระบอกเหลืองที่ปรับได้เฉพาะ rebound เท่านั้น ส่วนสปริงเปลี่ยนเป็นที่มีค่าแข็งกว่าเดิมได้ แต่กำหนดไว้ว่ายังต้องมีลักษณะเหมือนเดิมห้ามมีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น ด้านอนุญาตหน้ามี camber plate ได้ค้ำโช้คได้ และทั้งหน้าหลัง ปรับสูงต่ำได้ เหล็กกันโคลงให้ใช้เหมือนกันทุกคัน แต่เครื่องก็คืออนุญาตให้มีแรงม้าได้ถึง 400 whp อนุณาตให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ close + เฟืองท้าย LSD ได้...ยางก็ให้ใช้ได้เพียง radialธรรมดา แต่ไม่จำกัดขนาด ห้ามเลยออกนอกซุ้ม และ tread wear ไม่ต่ำกว่า 200. ภายในที่ทำได้ก็แค่รื้อได้ แต่ต้องเหลือแผงประตู คอนโซล ไว้ บักเกตซีต และก็โรล์บาร์แบบ bolt 6 จุด เท่านั้น...ในรถก็ใส่อุปกรณ์สำหรับแข่งขันที่จำเป็นไว้หมด ทั้งตัวจับเวลา, เข็มขัดนิรภัย, ถังดับเพลิง, ตัวตัดไฟ, หูลาก...
 ผมอยากจะถามพี่ว่า ถ้าเราต้องไปเจออะไรแบบนี้ คืออุปกรณ์ในรถแข่งบางคันมันอาจจะไม่ดีพอที่จะทำให้เราได้ set up ที่เราต้องการ แต่กติกาบังคับ หรือ ปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น เวลาดีที่สุดที่ทำได้ ก็ยังเป็นเวลาจากของที่เรามี ก็เลยยัง turn-in-under และ Exit-over อยู่ ถ้าแบบนี้ และเราควรคิดถึงอะไรก่อน และรับมือกับรถที่มีปัญหาแบบนี้ยังไงครับ ผมคิดว่าทุกคนคงอยากให้รถมี correct parts สำหรับ correct set up แต่ทีพวกมือใหม่ทุนไม่หนาเจอกันมันมักจะเป็นอะไรแนวๆนี้ (ยกเว้นเงินราววัล) ถ้าพี่ต้องเจอ scene แบบนี้พี่จะทำไง ถ้าคำตอบกว้างมากๆ ขอเป็นแค่ ผมจะเริ่มต้นแก้ยังไง ก็ได้ครับ..จากปัญหาแบบนี้

ปล. ขอโทดครับหากคำถามวกวนไร้สาระ
A Top Fuel Dragsters reach over 300 miles per hour before you have completed reading this sentence

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
เหอะๆ...ถ้าตอบแบบกวนๆแต่มีสาระก้อจะบอกว่า  อย่าไปลงแข่งกะแม่งเลยครับ เงืนรางวัล 1 ล้านบาทมันไม่คุ้มที่จะทำ ยิ่งให้ทำเครื่องได้ 400hp แต่ให้ใส่โรลบาร์ 6 จุด อืมม.....แถมประกันชีวิตให้ฟรีๆก้อยังไม่น่ายุ่งด้วย

ไอเดียของ One Make Race ของบ้านเรานั้น มองๆดูเผินๆแล้วเหมือนจะทำได้ง่ายๆและราคาถูกดีนะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว...มันไม่ใช่ ไอ้ที่แข่งๆกันอยู่นั้นก้อไม่ได้ช่วยในการพัฒนาใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านคนขับหรือด้านคนทำรถ หลายๆคนจะบอกว่ามันเป็นการแข่งขันที่ใช้รถเหมือนกัน ทำให้การแพ้ชนะนั้นอยู่ที่ความสามารถของนักแข่ง  BULL SHIT ครับพี่น้อง มันไม่มีรถคันไหนที่"เหมือนๆกัน" มันมีแต่ใครจะโกงแล้วไม่ถูกจับได้มากกว่ากัน เพราะผู้จัดหรือผู้ดำเนินการแข่งขันนั้นไม่มีปัญญาตรวจสอบและตรวจจับให้รถทุกคันที่แข่งในรายการนั้นมัน"เหมือนกัน"ได้ ส่วนในเรื่องการวัดด้วยความสามารถของนักแข่ง ขอโทษเถอะครับ...มันจะเก่งกันได้ขนาดไหนกับรถ 100 แรงม้านิดๆเนี่ย

ไม่ได้จะปากหมาหรือพยายามดูถูกอ่ะนะครับ (ปากหมาอาจจะใช่ แต่เรื่องดูถูกนั้นคงไม่ต้องใช้ความพยายามเท่าไหร่) แต่การจะพัฒนาบุคคลากรเพื่อจะให้เขาอะไรก้อแล้วแต่แล้วได้ดีนั้น มันต้องให้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อการพัฒนาแก่เขาเหล่านั้นด้วย ไม่ใช่แค่ทำให้เขาขับรถไปจ่ายกับข้าวได้เร็วขึ้น ไอเดียเรื่อง Volvo OMR นั้นเกือบจะดีตรง 400hp แต่อย่างอื่นกลับไปลงถังเหมือนอย่างอื่นที่ทำๆกันอยู่ มันก้อเลยกลายเป็น another กิ๊กก๊อก OMR คุณคิดว่าใช้ยางเรเดียลแข่งแล้วมันจะถูกตังค์หรือ มันไม่อ่ะนะ ยังไง race นึงคุณก้อต้องมี 3 set ของล้อและยาง (นั่นคือ 12 ล้อและยางนะ) คุณคิดว่า closed ratio gear set กับ lsd มันถูกหรือ  Gear set อาจจะมีถูกๆชุดละ 3-4 หมื่น แต่พังเป็นว่าเล่น LSD ของอะไรราคาเท่าไหร่ทุกคนคงรู้ดี นี่ยังไม่ได้พูดถึงเครื่อง Volvo 400hp นะ มันจะวิ่งได้ตลอดฤดูการแข่งขันไม๊นะ รึว่าวาล์วขาด ก้านสูบขาด ชาฟท์ละลายเป็นว่าเล่น ถ้าไม่บังคับชุด EFI ก้อ หลายแสนสำหรับ MoTec แล้วไปแข่งแต่ละครั้งก้อมีค่าใช้จ่ายสำหรับ Operation อีกอย่างน้อยๆก้อ 3 หมื่นค่อครั้ง ตกลงมันถูกไม๊เนี่ย

แต่เดี๋ยวก่อน....ถ้าหลงผิดไปเล่นซะแล้ว จะทำยังไง? เดี๋ยวมาค่อคราวหน้า.....อิอิอิ
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline Multilink

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 174
  • I'm a llama!
เหอะๆ...ถ้าตอบแบบกวนๆแต่มีสาระก้อจะบอกว่า  อย่าไปลงแข่งกะแม่งเลยครับ เงืนรางวัล 1 ล้านบาทมันไม่คุ้มที่จะทำ ยิ่งให้ทำเครื่องได้ 400hp แต่ให้ใส่โรลบาร์ 6 จุด อืมม.....แถมประกันชีวิตให้ฟรีๆก้อยังไม่น่ายุ่งด้วย

ไอเดียของ One Make Race ของบ้านเรานั้น มองๆดูเผินๆแล้วเหมือนจะทำได้ง่ายๆและราคาถูกดีนะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว...มันไม่ใช่ ไอ้ที่แข่งๆกันอยู่นั้นก้อไม่ได้ช่วยในการพัฒนาใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านคนขับหรือด้านคนทำรถ หลายๆคนจะบอกว่ามันเป็นการแข่งขันที่ใช้รถเหมือนกัน ทำให้การแพ้ชนะนั้นอยู่ที่ความสามารถของนักแข่ง  BULL SHIT ครับพี่น้อง มันไม่มีรถคันไหนที่"เหมือนๆกัน" มันมีแต่ใครจะโกงแล้วไม่ถูกจับได้มากกว่ากัน เพราะผู้จัดหรือผู้ดำเนินการแข่งขันนั้นไม่มีปัญญาตรวจสอบและตรวจจับให้รถทุกคันที่แข่งในรายการนั้นมัน"เหมือนกัน"ได้ ส่วนในเรื่องการวัดด้วยความสามารถของนักแข่ง ขอโทษเถอะครับ...มันจะเก่งกันได้ขนาดไหนกับรถ 100 แรงม้านิดๆเนี่ย

ไม่ได้จะปากหมาหรือพยายามดูถูกอ่ะนะครับ (ปากหมาอาจจะใช่ แต่เรื่องดูถูกนั้นคงไม่ต้องใช้ความพยายามเท่าไหร่) แต่การจะพัฒนาบุคคลากรเพื่อจะให้เขาอะไรก้อแล้วแต่แล้วได้ดีนั้น มันต้องให้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อการพัฒนาแก่เขาเหล่านั้นด้วย ไม่ใช่แค่ทำให้เขาขับรถไปจ่ายกับข้าวได้เร็วขึ้น ไอเดียเรื่อง Volvo OMR นั้นเกือบจะดีตรง 400hp แต่อย่างอื่นกลับไปลงถังเหมือนอย่างอื่นที่ทำๆกันอยู่ มันก้อเลยกลายเป็น another กิ๊กก๊อก OMR คุณคิดว่าใช้ยางเรเดียลแข่งแล้วมันจะถูกตังค์หรือ มันไม่อ่ะนะ ยังไง race นึงคุณก้อต้องมี 3 set ของล้อและยาง (นั่นคือ 12 ล้อและยางนะ) คุณคิดว่า closed ratio gear set กับ lsd มันถูกหรือ  Gear set อาจจะมีถูกๆชุดละ 3-4 หมื่น แต่พังเป็นว่าเล่น LSD ของอะไรราคาเท่าไหร่ทุกคนคงรู้ดี นี่ยังไม่ได้พูดถึงเครื่อง Volvo 400hp นะ มันจะวิ่งได้ตลอดฤดูการแข่งขันไม๊นะ รึว่าวาล์วขาด ก้านสูบขาด ชาฟท์ละลายเป็นว่าเล่น ถ้าไม่บังคับชุด EFI ก้อ หลายแสนสำหรับ MoTec แล้วไปแข่งแต่ละครั้งก้อมีค่าใช้จ่ายสำหรับ Operation อีกอย่างน้อยๆก้อ 3 หมื่นค่อครั้ง ตกลงมันถูกไม๊เนี่ย

แต่เดี๋ยวก่อน....ถ้าหลงผิดไปเล่นซะแล้ว จะทำยังไง? เดี๋ยวมาค่อคราวหน้า.....อิอิอิ

 ครับพี่ ที่ผมทำกติกาให้มันแย่ๆบ้าๆ เพราะตัวผมเองก็เคยเจอปัญหาคล้ายๆวอลโว่คันนี้ หรือหลายๆคน หลายๆคันที่อยากจะแข่งอาจจะมาจากรถแบบนี้ อาจจะเป็น รถที่มึปัญหาเยอะๆ มาให้แก้ให้ขับได้วิ่งได้ หรือรถที่เริ่มทำใหม่หมดมีงบกำหนดให้อู่ไว้ตายตัวซึ่งก็ไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก บางคันเจ้าของอาจจะมี 4 แสน พร้อมกับตัวรถมาให้อู่ และบอกอยากไปแข่งพีระวิ่งสัก 1.1X อู่ก็มันจะบอก 4 แสนสบาย คันอื่นเครื่องทำนิดเดียวเอง ยังได้เลย ใส่นู่นนี่มาซะจนแรงเกินไปบ้าง เงินเหลือไม่เยอะพอที่จะทำช่วงล่างไปรับความแรงที่ใส่ไปแล้วบ้าง หรือทำเสร็จใช้ไปเกือบหมด เจ้าของรถเหลืออยู่อีกแค่ 5 หมื่น แต่คงจะลืมไม่คิดถึงว่าทำเสร็จค่าใช้จ่ายในการเซตรถ เซตช่วงล่าง หรือแก้ปัญหาเกิดมีอะไรเสีย ระหว่างที่เซตรถ มันจะเท่าไหร่...นักแข่งหน้าใหม่ๆหลายๆคนเลยถอดใจกันเยอะ เพราะหมดไปเยอะเวลากลับไม่เคยเห็น หรือเวลาที่เห็นยังห่างไกล หรือแย่กว่าคือ ไม่เคยได้แข่งสักที เพราะแค่เอาไปลองก็พังแล้ว หรืออายเพราะเวลามันเพี้ยนไปจนแทบรับไม่ได้ รถยังไม่เคยแม้แต่จะควอลิฟาย หรือช่วงล่างเบรก มีปัณหา อย่างถ้ารถท้ายปัดนี่พี่ พูดเป็นคำเดียว คือยางไม่พอ เครื่องมันแรงเกิน แนะนำเป็นอยู่อย่างเดียวคือ ยางที่น้องใส่อยู่ 17/235 เล็กเกินไป ถ้าใส่ยางซอฟ 18/265 รับรองจบชัวร์ (ซึ่งพวกเราๆส่วนใหญ่ใครจะไปมีปัญญาเบิกยาง soft 265.18 ของใหม่อีก 4 เส้นให้คุณช่างมาดูเวลาเดี๋ยวนี้ละครับ แล้วค่าล้อ 18 กว้าง 9.5 นิ้ว นี่ราคาจะอีกกี่บาทครับ แล้วก่อนทำไมไม่บอกกรูว่ายาง 235 มันจะไม่พอ) บางทีเราอาจจะเหลือพอที่จะใส่ได้ แต่พี่ช่างจะไม่เหลือให้ผมเก็บไว้แข่งเก็บไว้ซ่อม จ่ายพวกอุปกรณ์สิ้นเปลืองเลยเหรอครับ??? ค่าบูช ค่าลูกปืนล้อ ค่าซ่อมเกียร์เดิมๆ ผ้าครัช น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเครื่อง ค่าน้ำมันเบรก จานเบรก ผ้าเบรกสำหรับแข่ง ค่าสมัคร ค่ายางชุดใหม่สำหรับสนามหลังๆ ค่าซ่อมตัวถัง ช่วงล่าง หากเกิดสะกิดกับรถคันอื่น หรือ ขับหลุดตอนซ้อม อีกเยอะ

พูดถึงเรื่องซ้อมด้วย พี่ช่างทำรถแข่งมาตั้งนาน น่าจะรู้และบอกเจ้าของเรื่องค่าใช้จ่ายตอนซ้อมด้วย เพราะวิธีหา limit ของนักขับมือใหม่ๆหลายๆคน อาจต้องขับให้เกิน limit ไปบ้าง หมุนบ้างนิดๆหน่อย ซึ่งบางทีอาจจะเกินไป กันขนหลุด ปีกนกเบี่ยว คงต้องมีกันบ้าง...พวกนี้ก็ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอีกแล้วและเลี่ยงไม่ได้หากอยากได้เวลา เพราะถ้าไม่ซ้อมจริงๆจังๆคนที่ไม่เคยแข่งเลยคงจะขับกันนานกว่าจะได้เวลา...และอาจจะไม่ได้อีกเพราะกว่าจะขับเก่ง หลายๆอย่างที่ใส่ไปอาจจะเสื่อมหมดสภาพไปเยอะแล้ว หลายๆคนที่ทำรถมา ผมบอกให้เช่าสนามซ้อมเป็นวันไปเลย จะได้ได้เวลาดีๆ ส่วนใหญ่จะพูดกันว่า โหยใครจะไปมีเงินเยอะขนาดนั้น...นั่นต้องทีมแข่งใหญ่ๆแล้ว ซึ่งก็แล้วแต่จะคิด ทำรถใหม่มา 3-4 แสน แต่ไม่ซ้อม ไม่เซต การซ้อมของคุณคือช่วง qualify ก่อนแข่ง 4-5 รอบ..ขนาดผมเล่นเกมแข่งรถที่ผมไม่ต้องเหนื่อย ไม่มีอะไรมาขัดสมาธิ มีนาฟิกาจับเวลาให้ดู รถไม่มีพัง ปรับเซตรถได้ทันที กว่าผมจะได้เวลาดีสุด ยังเล่นและเซ็ตกัน 50-80 รอบ ขึ้นอยู่กับแต่ละเกม หรือ ลองให้ผมเล่นเกมนั้นๆเดือนละ 10 รอบ เล่นติดต่อกันเป็นปีก็ยังไม่ค่อยเก่งสักที..
 
 เมื่อก่อนผมชอบรถ drag ทำมาวิ่งไม่ได้ช่างบอกขับไม่เต็ม ถ้าจะเอาเวลาต้อง burn ยางเยอะๆหนักๆกว่านี้...(ใครจ่ายค่ายาง+ค่าผ้าครัช3แผ่น) หรือพอไป circuit ก็บอกทำไมขับเครื่องเดิมเป็นปีๆ ไม่ปรับบูสเพิ่ม ไม่ยอมเปลี่ยนยางใหม่สักที แต่พอเราแข่งแพ้เพราะสายแวคคั่มเวสเกตมันขาดเพราะไม่รู้ใครไปวางไว้ใกล้ๆท่อไอเสียไม่เห็นจะพูด หรือน้ำมันเบรกมันเดือดแล้วเบรกจมเพราะมันมีฟองอากาศอยู่ในระบบ พี่ก็แค่เปลี่ยนใหม่ให้และก็คิดเงินผม... บางทีไม่ไหวอู่ทำรถแข่งที่เดิมเลยไปหาทำกับอู่ทำรถแข่งที่ใหม่ เอารถไปให้เค้าทำเงินเราก็จ่ายเหมือนกัน แต่ทำตามเวรตามกรรม ทำตามที่เราสั่งเฉยๆ ส่วนอย่างอื่นมันจะหลุด ลูกหมากจะรั่ว ลูกปืนล้อจะแตก พี่ไม่สนเพราะผมไม่ได้สั่งให้ดู...ไม่เคยไปดูรถมันวิ่งที่สนามว่ามันวิ่งยังไงมีปัญหาตรงไหน ..แล้วบอกว่าเป็นอู่ทำรถแข่ง แบบนี้เมื่อไหร่ผมจะแข่งได้ครับ..
A Top Fuel Dragsters reach over 300 miles per hour before you have completed reading this sentence

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
เข้าใจปัญหาที่น้องๆเผชิญกันอยู่ครับในเรื่องการหาอู่ทำรถแข่งที่เชื่อถือได้   คือแบบว่า...มันไม่ค่อยจะมีอ่ะนะ

อู่ทำรถแข่งในบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดนั้น อัพเกรดตัวเองมาจากอู่ซ่อม แล้วมาเป็นอู่แต่ง อู่โมฯ พอมีสาวกของอู่(ก้อเด็กๆที่โดนหลอกแดกประจำนั่นแหละ) มากๆเข้า แล้วสาวกเอารถไปลงสนามมากๆเข้า ก้อเลยแปรสภาพตัวเองเป็นอู่รถแข่งไปโดยปริยาย ถามว่าอู่เหล่านั้นเขาเจ๋งจริงๆหรือ เก่งครับ แต่เก่งซ่อมเหมือนเดิม คือรถที่ทำๆไปจะกลับไปหาเขาเพื่อซ่อมต่อเสมอ วนเวียนว่ายตายเกิดกันเป็นคันๆไปจนกว่าเจ้าของรถจะหมดเงินและแรงจะเล่นไปเอง

ช่างทำรถแข่งกับช่างซ่อมรถนั้น มันช่างคนละประเภทครับ ช่างซ่อมรถเกิดมาเพื่อซ่อม รถต้องเจ๊งมาเขาถึงจะทำงานได้ แต่ช่างรถแข่งนั้นเกิดมาเพื่อทำให้รถแข่งมันแข่งได้ แล้วแข่งแล้วต้องชนะด้วย ไม่งั้นไม่รู้จะทำไปหาสวรรค์วิมานอะไร เรื่องซ่อมนั้นมีอยู่บ้างเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย แต่การซ่อมนั้นก้อต่างกับช่างซ่อมทั่วๆไป คือช่างทำรถแข่งนั้นต้องซ่อมให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้ ส่วนช่างซ่อมทั่วไปนั้น ซ่อมให้แม่งพอวิ่งได้ก้อพอแล้ว พูดง่ายๆคือจุดมุ่งหมายมันต่างกัน

แล้วทีนี้จะหาอู่ทำรถแข่งที่ไหนล่ะ ก้อหาที่มันไม่ใช่อู่โมฯรึอู่ซ่อมรถไงครับ อู่รถแข่งที่ดีนั้นจะนั่งคุยกับคุณก่อนว่าคุณต้องการแข่งรุ่นไหน ในงบที่มีสามารถทำได้ขนาดไหนบ้าง นอกจากนั้นยังมีเรื่องการเซอร์วิสในขณะซ้อม ทำเซ็ทอับ และในระหว่างการแข่งขันด้วย ไม่ใช่แค่ "ราคาเท่านี้ละน้อง....อยู่ วิ่งได้ชัวร์" ตัวคุณเองก้อต้องให้ความมั่นใจกับอู่รถแข่งด้วย ว่าคุณนั้นซีเรียสและจริงจังที่จะทำ ไม่ใช่แค่"ก้อทำวิ่งเล่นๆอ่ะพี่  ไม่ได้แบบ โห...ซีเรียสอะไรขนาดนั้น แต่อยากมันส์" ถ้างั้นก้อกลับไปมันส์กับอู่ซ่อมอย่างเดิม

การแข่งรถในบ้านเรานั้น จะสังเกตได้ว่าในระดับ คลับเรซ จะบูมมาก เพราะเข้ามาเล่นได้ง่าย แต่มันไม่ค่อยจะเป็นการแข่งขันเท่าไหร่ เหมือนต่างคนต่างวิ่ง รถที่เข้ามาแข่งในแต่ละรุ่นนั้นแตกต่างกันมากจนไม่ได้แข่งกัน แค่วิ่งด้วยกันเฉยๆ แต่ความจริงนั้นถึงแม้ว่าจะทำมาต่างกันขนาดไหน มันก้อมีวิธีที่สามารถทำให้รถทุกคันนั้นวิ่งด้วยเวลาใกล้เคียงกันได้ เพียงแต่"ผู้จัด"ในบ้านเรานั้น ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่ที่อื่นๆนั้นเขารู้ว่าจะทำยังไงกันทั้งโลกแล้ว และทำมานานมากกกกกกกกแล้วด้วย   เฮ้ออออออออ
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline Multilink

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 174
  • I'm a llama!
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำดีๆ  เรื่องยาง ขอปรึกษาพี่อึกนิด

1. ยางที่มี sidewalls อ่อน สามารถใช้การเพื่มแรงดันลมยางมาช่วยแก้ปัญหาบิดตัวได้เปล่าครับ?

2. ในรถที่สามารถปรับตั้งช่วงล่างได้ทั้งหน้าและหลัง, มีใครใช้ยางที่ sidewall หน้า หลัง ไม่เท่ากัน เพื่อ set-up รถบ้างป่าวคับ? มีข้อเสียอะไรบ้าง?

3. ลมยางในรถ F1 กับ WRC นี่เค้าใช้แบบไหนกัน?

4. มวลและแรงดันของอากาศภายในยางมีผลกับการที่แรงดันลมยางเปลี่ยน?
A Top Fuel Dragsters reach over 300 miles per hour before you have completed reading this sentence