อยากเซตเทอร์โบให้เครื่อง na ครับ

[ชัย08]

สวัสดีครับพี่ๆ

   คือผมอยากจะเซตเทอร์โบให้กับรถมิซูนิวlancer ครับ ไม่ทราบว่าต้องทำอะไรบ้างครับเกี่ยวกับตัวเครื่องบ้างครับให้มันแข็งแรงหน่อยครับไม่อยากนอนอู่ครับ (อยากได้เทอร์โบแบบบอลแบริ่งครับ)

   อยากให้นิสัยของตัวรถมีช่วงเร่งแซงที่ดี(เอาไว้แซงพวก 10 ล้อกับรถพ่วงอ่ะครับ) ไม่ได้ต้องการ top speed สูงๆครับเอาเท่าเดิมก็ดีครับ อยากกดทีเดียวก็พุ่งแล้วอะไรประมาณนี้ครับ (อยากได้รอบกวาดขึ้นไวหน่อยครับ) ไม่ต้องบูสท์สูงอ่ะครับ
   
อยากทราบว่า ถ้าเกียร์ออโต้มันเปลี่ยนอยู่ 2500 รอบ ไม่ทราบว่าเราจะเซตให้มันเปลี่ยนในรอบที่สูงกว่านี้ได้ไหมครับ (พ่วงกล่องสามารถแก้ได้ไหมครับ) แล้วต้องติดพวกออยคูเลอร์ให้เกียร์ไหมครับ

  แล้วถ้าเราใช้กล่องจูนแบบดีๆ ไม่ทราบว่าจะได้กราฟที่ขึ้นไดโน จะขึ้นแบบsmooth ไหมครับ (เหมือนพวกเครื่องSR ที่กราฟขึ้นสวย)

แล้วที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ไม่ทราบว่าต้องทำอะไรเพิ่มบ้างครับเพื่อรองรับการเซตเทอร์โบในครั้งนี้อ่ะครับตอนนี้เดิมหมดครับ นอกจากช่วงล่าง กับเบรค ที่ทำมาแล้วครับ

ขอบคุณครับ

[O'Pern]

โห คำถามแบบนี้เจอบ่อยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ไม่ใช่ว่าล้าสมัยล่ะ แต่สื่อให้เห็นถึงว่าใครๆ ก็อยากแรง  :)

แต่วิธีติดตั้งเทอร์โบเข้าไปมันเป็นเทคโนโลยีเมื่อสัก 30  ปีที่แล้วนะ  สมัยนั้นรถส่วนใหญ่ใช้คาร์บกันอยู่เลย เครื่องหัวฉีดเทอร์โบมักจะอยู่ในรุ่นท๊อปตัวแรงๆ ซึ่งหาได้ยากมากๆ แถมราคาแรงแบบสุดเอื้อม เปรียบได้กับการหาเครื่อง RB26DETT อะไรประมาณนั้น

ปัจจุบัน
ยุคนี้เครือ่งเทอร์โบพบเห็นกันจนชินตา เครือ่งจากรถญี่ปุ่นแทบทุกยี่ห้อล้วนแล้วแต่มีระบบอัดอากาศมาให้จากโรงงาน จะเว้นก็คือฮอนด้า

ยุคนี้ใครอยากแรงแบบประหยัด ทางลัด ก็ต้องไปหาเครือ่งยนต์เทอร์โบมาใส่แทนครับ ใช่แล้ว มันคือการเปลี่ยนเครือ่งยนต์ตัวใหม่ ถ้าใครยังขอเงินพ่อแม่มาทำรถก็คงคุยกันลำบากหน่อย เพราะไม่ค่อยมีเหตุผลให้ผู้ใหญ่เสียเงินนัก (จนมีหลายคนแกล้งทำเครือ่งพังเพื่อขอเงินพ่อแม่มาลงเครื่องใหม่ หึหึ)

วิธีพ่วงเทอร์โบเข้าไปกับเครื่อง NA ก็สามารถทำได้ครับ แต่คนทำต้องมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์และเทอร์ โบมากๆ สมัยนี้ผมไม่รู้ใครเก่ง แต่ถ้าเป็นยุคเก่าต้องคนชื่อ "แดง เทอร์โบ" หรือ "อภิชาติ ฟุ้งลัดดา"

ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันอย่างไร แต่อยากให้คำนึงถึงเรือ่งภาระที่เครื่องยนต์มันต้องรับเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น อากาศ ความร้อน ระบบจุดระเบิด และสิ่งที่มันต้องการเพิ่มก็คือ ระบบสั่งจ่ายน้ำมัน

ชั่ง ตวง วัด สามอย่างนี้ให้ดีแล้วจะไม่พัง
- น้ำมัน อากาศ ไฟ


แต่ผมมีคำแนะนำที่ดีกว่านั้น สำหรับคนอยากแรงแบบงบน้อยๆ ทำรถออกมาให้มีปัญหาน้อยๆ
- หาเครือ่งเทอร์โบตรงรุ่นลงไปเลยครับ ส่วนใหญ่จะดัดแปลงน้อยมากๆ
- ลงทุนเยอะหน่อย หลักหมื่นกลางๆ แต่ออกมาเนี๊ยบ และมักจะจบ ร้านทำลงเครือ่งเทอร์โบสแตนดาร์ตแล้วไม่จบนี้ต้องมีประนามกันแล้วนะนี่  ;D

อ้าว ใช้ Mitsubishi Lancer หรอกหรือนี่

โธ่ แบบนี้ก็เล่น 4G63T เลยสิครับ

[อิ๊ก osk121 611]

www.mitsusport.com ไม่ได้ตังค่า โคสสะนาอีกแล้ว

ถ้ารถเกียออโต้ ขอบอกว่าอย่าเลยคับ เกียมันจะรับไม่ได้ อันนี้ชัวป๊าบๆๆเลย
kick down ที เฮ้อ สงสารเกียมันจริงๆ ผมว่าไปคุยกับพี่ตุ๋ยแกดีกว่า

ผมว่านะ อยากเพิ่มแบบนิดๆหน่อยๆ ก็ header ท่อซักชุด ทำ port intake ผมว่าน่าจะได้อีกซัก 15 ตัว ติด emanage อีก ได้ซํก 10 ตัว
ออกมาน่าจะ ไม่มาก แต่ลื่นกว้าเดิมเยอะ ไม่เสียเครื่องด้วย

อิๆๆ
คับผ้ม

ถ้าจะเพิ่มแรงม้า มากๆ ผมว่า หาเกียธรรมดา ไม่ก็ อย่างที่พี่เปิ้นเลยคับ
4g63 : 7 กิโลลิตรรับได้ป่ะคับ อิๆๆ

ถ้าจะเซทโบก็ต้องคำนวนกำลังอัดใหม่ ใส่ปะเก็น ทำmanifold จูน ผมว่ายาวอ่ะ เกีย automatic รับไม่ได้ด้วยอ่ะดิ เหอๆ

[Cassnova]

ในที่สุดผมก็หาเหตุผลเปลื่ยนเครื่องได้ หึ หึ  ; 8)

[zpeed]

Mitsu I recommend 4G63.  I used to have 4G63 turbo (from Evo I II III) all stock inside last me 11 years more than 11535 miles not a single problem with engine.  I had stainless header, 3" down pipe, 2.5" Catback stock 14B run 15 psi all day long.
I auto-x them 5-6 years.  I love the engine but hate the tranny.

Oh I did use Mobile 1 every 5000 miles, timing belt change 3 times every 30K miles, 2 clutchs.

[nungcmk]

เปลี่ยนเครื่องใหม่ จบง่ายกว่า และที่สำคัญ ประหยัดกว่ากันเยอะๆๆๆ ครับ
จากประสบการณ์ set turbo กับเครื่อง na มา อ่าๆๆๆ 1 ปี นอนอู่ไป 11 เดือน 28 วัน

[Mokan]

การจะ”เซ็ทโบ”(เบื่อจริงๆเลยคำนี้ มีคำไหนที่มันเข้าท่ากว่านี้ไม๊เนี่ย?) ให้กับเครื่อง NA นั้นไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง หลายๆอู่หลายๆสำนักแต่งในบ้านเรารับทำกันเยอะแยะ คำถามที่มีก้อคือ “ทำไมถึงอยากวางเทอร์โบ?” อยากได้เครื่องยนต์ที่แรงขึ้นหรือ? และที่ว่าอยากได้แรงขึ้นนั้น แรงขึ้นแค่ไหน? มีหลายๆคนชอบบอกว่า “ก้อไม่ต้องมากอ่ะครับ ไม่ได้เอาไปแข่ง อีก”หน่อยนึง”ก้อพอ….” เอ่อ....แล้วไอ้ที่ว่าอีก”หน่อยนึง”เนี่ย มันหน่อยนึงขนาดไหน? มันต้องถึงขั้นต้องวางเทอร์โบกันเลยเหรอ?

เพราะการวางเทอร์โบนั้น ไม่ว่าจะต้องการ”หน่อยนึง”หรือ”สุดเหยียดเลยพี่” มันมีกรรมวิธีและขั้นตอนที่ต้องเสียเวลาพอๆกัน เรื่องเสียเงินนั้นรับรองได้เสียสมใจ ราคาเทอร์โบนั้นมีตั้งแต่ไม่กี่หมื่นจนถึงไม่กี่แสน แต่อุปกรณ์เช่น เฮดเดอร์ ท่ออินเตอร์ อินเตอร์คูลเลอร์ เวสเกต โบลออฟวาล์ว ท่อน้ำมัน และอื่นๆที่อู่จะเชียร์ให้ใส่ (เช่น Header/Turbo wrap หรือ Anti-Lack system…เอากะมัน ) นั้นต้องทำใส่เหมือนกัน แถมยังต้อง”โมกล่อง” หรือใส่”กล่องจูน” กล่องพ่วง กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ฯลฯ เพราะกล่องเดิมมันจะงงตอน”บูส”มา บางที่มีการ”หลอกกล่อง”โดยใช้ “Vacuum One-way Valve” ต่อกันเป็นยวงเพื่อหลอกสัญญาณให้กล่อง อันนี้พูดถึงของ”ภายนอก”นะ ภายในยังมีอีก

เนื่องจากเครื่องเดิมนั้นเป็นเครื่อง NA ซึ่งกำลังอัดมักจะอยู่กันแถวๆ 9.5:1-10.5:1 แต่เครื่องเทอร์โบนั้นต้องลดกำลังอัดลงมาจากเดิมอีก (ไม่อยากบอกเป็นตัวเลขว่าจะต้อง 7.5-8:1 หรืออะไรก้อแล้วแต่ เพราะบางคนเห็นเข้าแล้วอาจจะบอกว่า “อ้าว อย่างงี้เครื่องโฟล์คเต่ากำลังอัดแค่นั้นอยู่แล้ว ใส่โบได้เลยดิ....” ใช่...ใส่ได้ ใส่แล้วไส้ออกมากองกันประจำ) วิธีลดกำลังอัดมีหลายวิธี วิธี”ยอดฮิต”ที่หลายๆอู่ยังทำอยู่คือ ใส่ปะเก็นฝาสูบหนาๆ ซึ่งง่ายและเป็นการลดกำลังอัด แต่เสีย Squish-area effect ของฝาสูบไปซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการโปรโมท Flame-front ในช่วงเผาไหม้....เอาเป็นว่าสำคัญละกัน ถ้าให้อธิบายตรงนี้ละก้อยาว ไว้แยกคุยทีหลัง วิธีที่ดีที่สุดคือ เปลี่ยนลูกสูบ ให้ได้กำลังอัดต่ำลง แน่นอนครับแปลว่าเปลี่ยนลูกสูบทั้งชุด 4 ลูก ซึ่งราคาเท่าไหร่นั้น....เท่าไหร่ก้อต้องจ่าย ถ้าจะเอา จริงป่ะ  และไหนๆก้อต้องเปลี่ยนลูกสูบทั้งชุดอยู่แล้ว ก้อควร Fresh-up ท่อนล่างใหม่ซะเลย เปลี่ยนแบริ่งข้องเหวี่ยง แบริ่งก้านสูบซะเลยก้อจะดี เพราะถ้าต้องมาเปิดใหม่อีกรอบเพราะแบริ่งพังคงไม่สนุก ส่วนฝาสูบนั้นจะ”แตะ”ซะหน่อยก้อไม่มีใครว่า อย่างน้อยๆปาดบ่าวาล์วใหม่ให้สวยๆแล้ว blend พอร์ทซะหน่อย รึจะไม่ทำอะไรเลยก้อได้ แต่แหม...ไหนๆก้อเปิดแล้วอ่ะนะ ถ้ามีตังค์เหลือ(ซึ่งคงยาก)จะใส่แคมให้มัน”ดุ”อีกหน่อยก้อได้

ตกลงมันทำน้อยๆอยู่ไม๊เนี่ย?(นี่ยังแค่คร่าวๆนะ) แล้วมันคุ้มกับการ “อยากได้อีกหน่อย”รึเปล่า? เพราะถ้าต้องทำขนาดนี้แล้วนั้น  ขอเห็นซัก 350 แรงขึ้นไปจาก 4G63 มันถึงจะ....ชื่นจายยย (อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะ ตอนนี้ 4G63 เทอร์โบ วิ่งด้วย เมธานอล บวกไนตรัส มันอยู่ที่ 1,000 แรงม้ากันแล้ว จ๊ะกึ๋ยยย์)

แต่ถ้า “Money is not an object” ซึ่งแปลว่า “เรื่องเงินนั้นจิ๊บจ๊อย ขำๆ” จะทำแล้วเอา”อีกหน่อยนึง”ก้อทำได้ ไม่มีใครว่า แต่วิธีที่ประหยัดทั้งเวลาและเงินนั้นคือเอาเครื่องเทอร์โบมาใส่ ในที่นี้คือ 4G63T ซึ่งเป็นเครื่องเทอร์โบของมิตซูฯอยู่แล้ว ซึ่งหาได้ไม่ยาก EVO ถึงได้วิ่งกันเกลื่อนถนน เครื่องนั้นสามารถ Drop-in ได้เลย อย่าลืมเอายวงสายไฟกับกล่องมาด้วยละกัน

ส่วนการต่อกับเกียร์ออโต้ฯนั้นคงไม่ยุ่งยากอะไร และถ้าแรงที่ได้นั้นมันเพียงแค่”อีกหน่อยนึง” เกียร์มันก้อยังพอรับไหว (แต่ถ้าแรงมันน้อยกว่า WRC EVO “หน่อยนึง”ก้อคงกระจาย) ถ้าเกียร์นั้นใช้วิ่งบนถนนเฉยๆ อย่าไปยุ่งอะไรกับ Shift point มันมาก ถ้าจะให้มัน Shift ในช่วงที่รอบสูงขึ้นกว่าเดิม ก้อแสดงว่ามันต้อง Shift ในระดับแรงบิด และ แรงม้าที่มากขึ้น ถ้าปกติมันก้อหืดขึ้นคออยู่แล้ว จะไปทรมานให้มันตายเร็วก้อใช่ที่

การ”จูนกล่อง”ไม่ได้ทำให้ Torque Curve หรือ Power Curve เปลี่ยนแปลงได้มากมายอะไรนัก มันอาจจะ”เปลี่ยนที่”ในช่วงรอบได้ แต่มันเปลี่ยนรูปร่างไม่ได้มากมายอะไร เพราะคุณจูนได้แค่ ไฟจุดระเบิด กับ น้ำมัน หรืออาจจะขยับช่วงรอบของ Vtec ได้อีกเล็กน้อย แต่ตัวที่จะสร้าง Torque Curve หรือ Power Curve ของเครื่องให้สวยได้นั้นคือ Camshaft การจูนกล่องนั้นมันก้อเหมือนการ”ตั้งไฟ”และ”ปรับคาร์บิว” สมัยก่อนนั่นแหละ มันทำให้เครื่อง”หวาน”ได้ แต่มันทำให้เครื่อง”แรงขึ้น”ไม่ได้ โอเคนะ
 ;D

[Joe]

ไม่เอาเซทโบ เปลี่ยนเป็น ติดเทอร์โบเพิ่มความแรงให้กับเครื่อง N/A ก้ได้พี่ แต่ยาวไปนิด  ;D

[ชัย08]

ขอบคุณทุกคำตอบครับ

    สรุปแล้วครับตกลงคงทำแค่ "header ท่อซักชุด ทำ port intake ผมว่าน่าจะได้อีกซัก 15 ตัว ติด emanage อีก ได้ซํก 10 ตัว"  

  ถ้าติดกรองเปลือย แล้วทำที่กั้นลมร้อน ไม่ทราบว่าแรงม้าจะขึ้นอีกไหมครับ?

[อิ๊ก osk121 611]

ตอบแบบนี้แปลว่าพร้อมทำ 5555

ตกลง เป็น เกียออโต้ใช่ไม๊ครับ
ต้องบอกก่อน ม้าที่ได้มาก็อาจจะไม่ได้ใช้ แต่ต้องเข้าใจว่า
response จะได้มากขึ้น แต่ไม่หวือหว้าแบบว่าพลิกแผ่นดินชัว
ถ้ามีเงินพร้อม แล้วก็จัดให้มันไปเลย ส่วนจะ เทอโบ หรือขุน ใหม่
ผมว่าไปหา เกีย ธรรมดามาลงก่อนแล้งค่อยว่ากันใหม่ครับ

1 header กับท่อ ตามสะดวกครับ
2 เอาฝา มาขัด port ใหม่ อาจจะ ใส่ cam องสา แบบ ต่ำซักชุดถ้ามี หา cam gear ได้ก็ดี
3. cold air intake หรือ กลองเปลือยเนี่ยแหละ
4. อาจจะ เป้นพวก หัวเทียน ดีๆ รถใหม่ใช้ coil แยก คงไม่ต้องหา สายหัวเทียน อาจจะลง ground wires ให้เนียนๆ
5. จบด้วยกล่องแล้วแต่ชอบ emanage ไม่ก็โน่นนี่ ตามสะดวก

แค่นี้ผมว่าลื่นและเต็มๆละ อิๆๆ หลายตังแล้วด้วย
หลังจากนี้ต้องหาเกียใหม่ เบรกใหม่ ช่วงล่างใหม่ละ

ส่วน ที่กั้นลม อาจจะได้ซัก .5 แรงม้าคับ แล้วแต่อารม ถ้าคืนใหนอากาสเย็นๆ อาจจะได้ถึง 2 แรงม้า 555555555

[iamtul]

เล่นด้วยคน

New Lancerใช่ป๊ะ 1.6 ครับ 2.0

ถ้า1.6 ขอบอกท่านว่าอย่าเสี้ยนครับ เครื่องตัวนี้ใช้เกียร์Autoแบบ CVTครับถ้าเอาแบแรงประถมก็พอได้ครับพวกท่อไอเสีย กล่องPiggy bag หัวเทียน กรองเปลือยอันนี้พอได้แต่ออย่าถามว่าได้กี่แรงม้านนะครับ เพราะเรื่องแบบนี้มันเคลมกันไม่ได้ง่ายๆ เครื่องแต่ละตัวพื้นฐานมันไม่ได้เท่ากัน การใส่อุปกรณ์ตัวนึงมันได้ค่าออกมาไม่เท่ากันหรอก

ที่บอกว่าอย่าเสี้ยนกับเครื่องตัวนี้เพราะเกียร์มันรับแรงได้ไม่เท่าไหร่ครับเพราะมันถูกออกแบบมาเป็นรถใช้งานในเมืองครับ พังมาทีแล้วศูนย์เจอว่าคุณเอาไปติดอะไรมามากมาย เคลมไม่ได้นะครับ แล้วบอกได้เลยว่าเกียร์ตัวนี้เคยเคลมมาให้ลูกค้าแล้วตัวละหกหลักครับ

 ;D

ถ้า2.0 อยากแรงเอางี้เลยเปลี่ยนเป็น4G63ไปเลยครับ(เอาตัวเทอร์โบนะ)เพราะมันรหัสเดียวกันอยู่แล้วใส่ไม่ยาก แต่ลองดูเรื่องเกียร์หน่อยแล้วกันเพราะเกียร์ออโต้มันก็เสียวๆอยู่ ถ้าคันจริงอยากแรงเอาเกียร์ธรรมดาใส่เลย

สรุปว่าความเห็นส่วนตัวผมรถใหม่ไม่ค่อยอยากให้ทำอะไรมากครับเราะมันยังมีระยะประกันอยู่ แต่ถ้าไม่มายด์ก็โอเคครับ แต่ไม่อยากให้ดัดแผลงครับ เพราะเห็นมาหลายคันแล้วครับประเภทอยากได้แรงขึ้นนึดนึง เสียตังใส่เทอร์โบ ใส่นู่นใส่นี่หมดไปพอๆกับใส่เครื่อเทอร์โบแท้ๆได้ตัวนึง สุดท้าย(เกือบ)ทุกรายก็ทนไม่ได้ ไม่จบบ้าง แรงไม่สมใจบ้างก็ถอดเครื่องทิ้งใส่เครื่องเทอร์โบแท้ทุกราย

ความแรงมันไม่มีพอหรอกครับแรงแล้วก็อยากแรงเพิ่มไปเรื่อยๆนั้นแหละ ขนาดSupper Carมันยังมีของแต่ง มีรุ่นพิเศษมาขายเรื่อยๆเลย

 ;D ;D ;D

[H U S T 7 E R]

มิตซูเค้ามาเองแล้วครับ  ;D เชื่อเค้าเถอะครับ  ;D