เรื่องการทำเครื่องให้แรงนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่สิ่งที่เป็นโจทย์นั้นคือ ต้องการ"ความเร็ว"หรือ"อัตราเร่ง" หลักคิดง่ายๆนั้นคือ"มีแรงม้าได้ความเร็ว....มีแรงบิดได้อัตราเร่ง" เพราะเร่งจาก 200-300 kmph ใน 5 วิ นั้นไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น รถ Top Fuel Dragster เร่งจาก 0-300+ MPH (ประมาณ 500 kph)ภายใน 4.5 วิ กันแทบทุกอาทิตย์
F1 นั้น แรงจริงไม่เถียง 875 แรงม้า แต่ต้องหมุนกัน19,000 รอบ (และจะเป็น 20,000 รอบในปีหน้า Cosworth ทำได้แล้ว) powerband นั้นแคบ แต่มีเกียร์ให้สับกัน 7 เกียร์และน้ำหนักรถนั้นเบาเลยรอดไป ตรงข้ามกับ NASCAR ซึ่งมีแรงม้าใกล้เคียงกัน แต่หมุนอยู่ในช่วง 6,000 ถึง 9,500 รอบ แรงบิดนั้นมหาศาล spin tire out of turn four ได้ทุกเกียร์แม้แต่ในเกียร์ 4 (มันมีแค่สี่เกียร์) Top speed ที่ 200 mph (ประมาณ 320 kmph) แต่อัตราเร่งนั้นสู้ไม่ได้เพราะรถนั้นหนัก 3,500 ปอนด์
เพราะฉะนั้นจะทำรถสำหรับ Street use ที่มีแรงขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำเครื่องให้ถูกกับลักษณะของรถ รถ Street use นั้นคงใกล้เคียงกับ NASCAR มากกว่า เพราะมันจะทำให้เบาเท่า F1 นั้นคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจาก "Street use = ขยะเยอะ" ขยะในที่นี้คือ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เหลือก้อคือ ช่วงล่างและเบรคนั้นออกแบบมาสำหรับความเร็วในระดับนั้นหรือไม่ ขับตรงๆที่ 300 kmphนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ให้ลิงปิดตาข้างเอามือเกาก้นข้างนึง มันก้อทำได้ แต่ถ้าสิบล้อตัดหน้าหรือคนข้ามถนนตัดหน้าในความเร็วขนาดนั้นล่ะ คนขับ(หรือลิง)มีความสามรถพอในการตัดสินใจให้ถูกได้หรือไม่ อย่าลืมนะว่า ความเร็วขนาดนั้น มีเวลาไม่ถึง 1 วินาที ในการตัดสินใจ