Bike Forum > my bike diary / my life diary

มีค 52 เดือนแห่งการฟิตซ้อมและพัฒนาร่างกาย

(1/4) > >>

O'Pern:
1 มีค 52
   อากาศดีแบบสุดยอด ไม่มีแดด ฟ้าครึ้มเหมือนฝนใกล้ตก เลยออกไปปั่นมา 30 กม วันนี้ไปเส้นทางรอบใหญ่ ผ่านสวน แถมเป็นวันหยุด เลยเจอนักจักรยานเยอะแยะเลย รู้สึกดีกว่าปั่นอยู่คนเดียวเหมือนวันอื่นๆ
   เจอผู้หญิงปั่นจักรยานราว 4 คน มีปั่นเสือหมอบ 2 คน ยอมรับเลยครับว่าผู้หญิงปั่นเสือหมอบนี้เธอดูเท่จริงๆ
   ตอนสายหน่อยฝนตกปรอย ไม่รู้พวกจักรยานเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ก็คงลุยไปแหละ ไม่มีใครกลับบ้านหรอก แต่ผมนั้นถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว พามิวกับเชอรี่ไป Siam Paragon พามิวไปดูปลาที่เขาชอบ พาเชอรี่ไปทานอาหารที่เขาชอบร้านกิ่งกัลปพฤกษ์
   ผมเลือกทานร้าน Mos Burger เป็นอาหารเช้า ส่วนมิวกับเชอรี่เขาทานที่ร้านประจำบนถนนสีลมคือร้าน Delifrance เป็นร้านอาหารเช้าสไตล์ฝรั่งเศษ
   Mos Burger เป็นร้านเบอร์เกอร์สไตล์ญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกที่ Central World คนแน่นมากๆ พอมาเปิดที่ Paragon แล้วค่อยโอเคหน่อย ผมเลือกทานตอนเช้าอย่างนี้แหละ คนน้อยดี
   ผมสั่ง Spicy Mos Burger เป็นเบอร์เกอร์อย่างดีชิ้นละเกือบร้อยบาทแน่ะ เด่นตรงมะเขือเทศที่ชิ้นหนาใหญ่ และหอมหวาน ต่างจากเบอร์เกอร์รายอื่นในไทยที่มะเขือเทศข้างในจะชิ้นเล็กๆ บางๆ รสชาติก็จะมีกลิ่นฉุนแบบผักอยู่
   กลับบ้านช่วงบ่าย หาข้อมูลเกี่ยวกับเขาคิชกูฏที่ผมอยากจะไปปั่นจักรยานช่วงสงกรานต์ตอนเดินทางขากลับจากเกาะช้าง ผมต้องผ่านจันทบุรีพอดี

2 มีค 52
   ตื่นสาย ลืมตาตั้งแต่ 0530 ก็จริง แต่ไม่ยอมลุกจนกระทั่ง 0600 แม้ฟ้ายังไม่สว่าง แต่ถ้าไปปั่นจักรยานก็ได้แค่แป๊บเดียว มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวทำให้ผมไม่อยากเร่งออกแรง เลยยืดเส้นยืดสายบนดาดฟ้าของห้องบ้าน
   ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าร้อน แต่ก็ทำให้เกิดฝนตกได้บ้าง จำได้ว่าสงกรานต์ของทุกปีจะต้องมีฝนตกไม่วันใดก็วันหนึ่ง
   ตอนเย็นไปดูการแสดงของมิว เล่นรำวงอะไรก็ไม่รู้ ตลกดี ขากลับมิวขอกินฮอทดอกร้าน Dairy Queen ผมดูไม่เห็นน่ากินสักนิด เขาคงจะหิวและอยากลอง เพราะธรรมดาเขาชอบทานอาหารพวกข้าวมากกว่า

O'Pern:
3 มีค 52
   ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก เลยเอารถ GT ไปปั่นรอบเล็กมา 5 กม ตอนสายลังเลจะเอาจักรยานออกอีกรอบดีไหม ฟังพยากรณ์อากาศเขาบอกความชื้นวันนี้มี 84% เลยเปลี่ยนใจ แต่พอสายเข้าหน่อยแดดออกแรงมาก นี่คงใกล้หน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้วกระมัง
   กลางวันโทรคุยกับอากิ เพื่อนรุ่นน้องที่พบกันตอนทริปอัมพวา ให้เขาช่วยหาข้อมูลเรื่องการท่องเทียวด้วยจักรยานในประเทศญี่ปุ่นให้หน่อย ผมต้องพึ่งพาเขา เพราะเขาอ่านและพูดญี่ปุ่นได้ดีมากๆ
   อากิบอกว่าตอนนี้มีจักรยานเป็นของตัวเองแล้วนะ ยี่ห้อ Trek นี่แสดงว่าเขาคงจะชอบจักรยานอย่างจริงจังแล้วกระมัง เพราะคราวก่อนเขาขี่รถ MTB ของดนัยเพื่อนของเขา
   เย็นมิวแสดงละครงานปิดภาคประถม 1 เล่นเป็นตัวเด่นของเรื่องเสียด้วย น่าภูมิใจจริงๆ

4 มีค 52
   ช่วงนี้ย้ายมาปั่นเช้าแทน แต่ก็ปั่นไม่ได้ไกลนัก เพราะเริ่มสายรถยนต์ก็จะเริ่มเยอะตาม แถมมอเตอร์ไซค์ย้อนศรจะยิ่งเยอะมาก อยากปั่นกลางวันเพราะผมว่าง แต่แดดแรงแบบเหลือหลาย ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
   นี่กระมังที่ทำให้ผมค้นหาหนทางไปปั่นต่างจังหวัด ต่างประเทศ แหม หนีร้อนกันขนาดนี้เลยเชียวหรือ
   ผมเริ่มคุ้นเคยกับเบาะหนานุ่มนิ่มของรถ F 20-W แล้ว กลายเป็นว่าผมต้องมีการปรับ Preload กับเบาะตัวนี้เสียก่อนถึงจะลงตัว กลายเป็นว่าถ้าปั่นสั้นๆ ช่วงแรงจะรู้สึกว่าช่วงขายืดไปหน่อย แต่ทนไปสักพักมันจะลงตัวพอดี
   จากการที่ท่อนั่ง (Seat Tube) มันองศาเอนไปด้านหลังมากกว่ารถคันอื่น การเลื่อนเบาะสูงแต่ละครั้ง จึงทำให้ช่วงของรถยาวขึ้น ต้องเอื้อมแขนไปข้างหน้ามากยิ่งขึ้น
   วันนี้ได้ทานปลาเผาเป็นอาหารเช้า รู้สึกดีที่ได้ทานอาหารมีประโยชน์ น้ำหนักเริ่มลดลงอีกทีละนิด แม้ว่าช่วงหลังๆ นี้มันลดลงช้าเหลือเกิน แต่ก็ต้องอดทน ผมต้องตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะผอมลงเพื่ออะไร เพื่อที่จะปั่นขึ้นเขาคิชกูฏให้ได้ เขานี้แม้ระยะทางจะไม่มากเมื่อเทียบกับอินทนนท์ แต่เส้นทางเป็นแบบ Off Road นี้คือตัวแปรและท้าทายความสามารถเหลือเกิน
   ใจผมคงเอาคันเดิมที่เคยขึ้นอินทนนท์ไป แต่ยังลังเลไม่รู้จะเปลี่ยนยางดีไหม เพราะตอนนี้ใช้ยางแบบ On Road ธรรมดาอยู่ ถ้าฝนไม่ตก ทางไม่เละ ผมว่าผมพอผ่านไหวนะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่หากมี่ยางขอบพับสำหรับ Off Road ขนาด 20 นิ้วให้เล่นก็น่าสนไม่น้อยนะนี่
   กลัวจะไม่คุ้มสินะ เพราะใช้แค่งานเดียว ปกติรถคันนี้เอาไว้ขี่ทางเรียบอยู่แล้ว ไหนจะต้องแบกของพะรุงพะรังเป็นประจำตอนออกเดินทางอีก

O'Pern:
5 กพ 52
   ฟิตจัด ตื่นตี 5 ออกไปปั่นจักรยาน วันนี้มีเวลาเยอะหน่อย เลยเข้าไปในสวน ผมไม่เคยปั่นเช้าตรู่ขนาดนี้เลย โชคดีใส่แว่นตาเลนส์ใสไปด้วย ไม่งั้นแย่แน่ เพราะแมลงเยอะมากๆ
   ไม่น่าเชื่อว่าออกมาปั่นเช้าขนาดนี้ ยังเจอคนปั่นจักรยานออกกำลังกายกันเยอะเลย ที่ผมปั่นสวนกันก็เจอ 6 คน บรรยากาศไม่ต่างจากตอนกลางคืนเท่าไหร่ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น วันนี้ผมใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไป ไม่ได้ใส่หมวก
   ปั่นไป 1 ชม กับ 15 นาที ได้มา 30 กม รู้สึกดีจริงๆ ดีกว่าปั่นกลางแดดตอนกลางวันเยอะเลย อย่างน้อยก็ไม่ร้อน แต่ก็มีข้อเสียคือมองข้างทางไม่ค่อยเห็น มี่ช่วงหนึ่งล้อลื่นไถล เพราะเจอกองทรายของบ้านที่เขากำลังก่อสร้าง กองทรายนี้ล้ำมาในผิวถนนด้านซ้าย รถผมคัน GT ใช้ยาง 1.25 เติมลมแข็งเต็มสเปค เลยลื่นไปนิดหน่อย ทำเอาตกใจเหมือนกัน
   ยาง 1.25 นั้นเขาวัดกันที่ส่วนที่กว้างสุดของยางนะครับ เพราะหากปั่นทางตรงเรียบๆ หน้ายางจะสัมผัสถนนเพียงแค่ 10 กว่ามิลลิเมตรเท่านั้นเอง มันมิได้สัมผัสถนน 1.25 นิ้วดังที่หลายคนเข้าใจ
   กลับมาบ้านรีบยืดกล้ามเนื้อทันที สักพักทานผัดผักจานใหญ่กับไข่เจียว และน้ำส้มคั้น
   กลางวันแดดแรงจัด คงไม่ได้ปั่นกลางวันอีกนานเลยล่ะคราวนี้
   ผมอ่านหนังสือ Lonely Bike ของคุณสว่าง ทองดี จบแล้ว คนนี้เขียนหนังสือดีใช้ได้ อาจเป็นเพราะเขาเคยเป็นครูมาก่อน ไม่รู้เกี่ยวกันไหม แต่เล่าเรื่องได้ดี ดีกว่าเล่มอื่นๆ ที่ผมเคยอ่าน
   คนปั่นเก่ง กับคนเขียนหนังสือเก่งนั้นคนละคนกันนะครับ ปั่นเก่งก็อีกเรื่อง ส่วนเรื่องงานเขียนก็อีกเรื่อง แต่หากนำมารวมกันในคนๆ เดียวกันได้ คนนั้นก็คือสุดยอดของนักเดินทางที่สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้ดี
   คุณสว่างไม่ได้เป็นนักปั่นจักรยาน หากแต่เป็นนักเดินทาง ส่วนตัวผมเองเป็นได้แค่คนปั่นจักรยานเฉยๆ แม้ใจอยากเดินทางกับเขาบ้าง แต่ยังไม่มีโอกาสเลย
   ผมมีแต่ความอยากเขียนหนังสือกับเขาบ้าง ตั้งแต่หยุดพักการผลิต Racing Club ผมก็ไม่ได้เขียนให้กับที่ไหนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลย มีหลายค่ายติดต่อมาบ้าง แต่ก็มักจะอยากให้เป็นพนักงานประจำ แต่ส่วนตัวผมแล้วชอบเป็นงานอิสระมากกว่า    

O'Pern:
6 มีค 52
   วันนี้ได้ใจอีก เลยออกปั่นตั้งแต่ 0530 – 0700 ปั่นไปนานทั้งๆ ที่ใช้เส้นทางเดิมก็เพราะว่าใช้รถคัน F20-W คันนี้ล้อเล็ก แถมบรรทุกของเป็นกระเป๋าหลัง กระเป๋าหน้า ติดรถไว้อย่างถาวร ข้างในใส่ของใช้และอุปกรณ์จักรยานขั้นพื้นฐาน รถคันนี้จะเตรียมพร้อมในการใช้งานมากที่สุดชนิดที่ว่ากระติกน้ำที่ล้างเสร็จแล้ว จะมาเสียบอยู่คอยท่าเลยทีเดียว
   วันนี้ใส่หมวกนิรภัยไปปั่นด้วย รู้สึกสบายดีกว่าหัวเปล่าๆ เยอะเลย มันคล่องตัวอย่างยังไงก็บอกไม่ถูก แต่แปลกที่วันนี้ไม่เจอชาวจักรยานเลยสักคัน
   แล้วผลจากการปั่นเยอะๆ ในตอนเช้าก็ออกฤทธิ์ ผมมีประชุมช่วงสาย เจอแอร์สบายๆ บรรยากาศเงียบๆ เล่นซะผมจะหลับเอาให้ได้ ต้องเอากระดาษมาคิดขีดเขียนโปรเจคต่างๆ ทำให้อาการง่วงทุเลาลงบ้าง
   บ่ายคึก ลองปั่นเล่นแถวบ้าน ไม่ไหวเลย แดดแรงเหลือเกิน แค่โดนแสงก็แสบผิวเหมือนจะละลาย อ้าว … แล้วที่บอกสงกรานต์จะไปเกาะช้าง จะเอาจักรยานไปด้วยน่ะ มันจะได้ปั่นกันบ้างหรือเปล่าหนอนี่เรา
   บ่ายอาร์ทโทรมาคุยเรื่องไปญี่ปุ่นกัน อาร์ทเขาไปเที่ยวที่โน่นเป็นประจำ ผมเลยดีใจได้โอกาสขอติดสอยห้อยตามในครั้งหน้า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ผมยกมือยอมแพ้เรื่องภาษา เห็นอาร์ทเขาว่าสมัยนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว ป้ายข้างทางมีภาษาอังกฤษเขียนกำกับบ้างแล้ว
   ผมเองไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน เป็นไม่กี่ประเทศที่ผมรู้สึกว่าอยากไป อยากไปดูความก้าวหน้า เทคโนโลยี และที่ผมชอบมากในทุกประเทศที่ไปเยือนก็คือแหล่งธรรมชาติอันเงียบสงบ แต่หากจะไปแหล่งพวกนี้ได้ก็มักจะต้องมีคนท้องถิ่นช่วยแนะนำ ลำพังไปกับทัวร์ก็มีแต่เที่ยวตะลอนๆ ไปในจุดที่มีชื่อเสียง บ้างก็เน้นแสงสี บันเทิง ฯลฯ    
   ที่สำคัญเลยคือไปแล้วต้องได้ปั่นจักรยาน นี่แหละ ไฮไลท์ของทริปตัวจริง

7 มีค 52
   ออกปั่นเช้ากว่าเดิมคือ 0500 เลยได้ระยะทางมากกว่าเดิม ผมว่าชุดปั่นจักรยานปกตินี้มันไม่ค่อยเข้ากันกับการปั่นรถพับเท่าไหร่เลย ชุดรถพับมันน่าจะดูลำลองมากกว่านั้นสักหน่อย คิดมานานแล้ว ยังหาชุดลงตัวไม่ค่อยได้ ปกติผมไม่ชอบใส่กางเกงขาสั้นปั่นจักรยาน เพราะโดนแดดแล้วจะออกมาสองสี เช่นเดียวกับเสื้อแขนสั้น
   เลยมาลงตัวที่กางเกงวอร์มแบบผ้าร่ม หากปั่นช่วงเช้ามืดแบบนี้ก็ใส่เสื้อยืดแขนสั้นธรรมดานี่แหละ เพราะไม่มีแดด แต่หากมีแดดก็จะใส่เสื้อยืดแขนยาว
   ไม่ค่อยมีใครใส่ชุดเหมือนผมกันหรอก เพราะจุดประสงค์ต่างกัน ผมเล่นกีฬากลางแดดมาตั้งแต่เด็กๆ ยุคแรกที่เล่นเรือใบ วินเซิร์ฟนั้น ไม่เคยทาครีมกันแดด ไม่ใส่เสื้อ ทุกวันนี้แผ่นหลัง ไหล่ เลยเป็นกระเต็มไปหมด ช่วงนี้ยั้งดีที่ฝ้าบนใบหน้าลดลงไปเยอะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มันลดลงไปเอง ตอนหาซื้อครีมทาแพงๆ ก็ไม่เห็นมันจะลด อย่างเก่งได้แค่จางลงบางๆ แต่ช่วงนี้หายไปเยอะมากแล้ว ดีเหมือนกัน สงสัยมาจากการดูแลสุขภาพ อาหาร และออกกำลังกายกระมัง
   อุปกรณ์ติดรถช่วงปั่นเช้าตรู่แบบนี้ที่ขาดไม่ได้ก็คือไฟกระพริบ ผมซื้อไฟแบบยางยืดมาสองดวง ขาว 1 แดง 1 เป็นไฟรุ่นใหม่ มี LED 2 ดวง สว่างมากกว่าเดิมเท่าตัว แรงดีจริงๆ เพราะใช้แบตฯ 2 ชิ้นประกบกันช่วยเพิ่มแรงไฟ ตอนแรกเห็นเล็กๆ น่ารักดี ไม่รู้ว่าจะมาได้ใช้จริงจังทุกวันก็ช่วงนี้เอง
   อ้อ ยังมีไฟสุดสวย แต่หาที่ใส่ไม่ได้อยู่อีก 1 ชุด เป็นไฟติดปลายแฮนด์ ใส่แล้วสวยมากๆ สว่างมากด้วย มีไฟส่องด้านหลัง และไฟส่องด้านข้าง เท่มากๆ แต่ผมว่ามันเหมาะกับรถที่ไม่ได้ใส่ Bar End นะ ผมซื้อมาเพราะเห็นว่าสวยดี กลัวตอนอยากได้แล้วหาไม่เจอนี่แหละจะเซ็งเสียยิ่งกว่า เลยรีบซื้อมา
   หากออกปั่นเช้าๆ แบบนี้ ผมทำระยะทางได้ถึง 30 กม แต่พอช่วงหลังของการปั่นรู้สึกตึงๆ หัวเข่านิดๆ ไม่รู้ว่าวอร์มไม่ดี หรือออกแรงกดมากเกินไป ไว้ต้องลองปรับตัวดู
   ก้นผมเริ่มคุ้นเคยกับการนั่งเบาะหนานุ่มนิ่มแล้ว ตั้งแต่ปรับ Preload ก็นั่งได้ดีขึ้น แต่ยังเจอปัญหาก้นเลื่อนอยู่บ้าง ตอนเจอทางขรุขระแล้วลุกยืน พอจะมานั่งใหม่ มันรู้สึกเหมือนไม่ได้กดลงตรงตำแหน่งเดิม ไม่รู้สิ รู้สึกแปลกๆ แต่ก็โอเค เพราะจะว่าไปแล้วก็รู้สึกนุ่มสบายกว่าเบาะแข็งๆ
   ผมออกปั่นทุกวันจนผ้าคลุมหน้า (Balacava) มันเริ่มยืดจนเสียทรง ที่จริงผมมีสองผืน แม้อีกผืนจะยังคงดีอยู่ แต่หากผ้าของมันเป็นแบบไนลอน ต่างจากอันที่ใช้ประจำที่เป็นผ้ายืด ทำให้ซับเหงื่อได้ดีกว่า ไว้ต้องเข้าคลองถม ไปหามาใช้งานเพิ่มอีกผืนเสียแล้ว
   พอปั่นบ่อยๆ เข้ามันก็เริ่มเห็นข้อบกพร่องของสิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับผมที่เริ่มต้องการของใช้ที่ละเอียดอ่อนขึ้นเช่น ต้องการบันไดแบบใส่คลิปได้ และใส่รองเท้าธรรมดาปั่นได้ ต้องการลองเท้าใส่คลีทได้ และเดินเล่นทั้งวันได้อย่างสบายเท้า
   ผมมีลองเท้าลำลอง 1 คู่ มันใช้งานกับจักรยานได้ดีมาก แต่กับการเดินแล้วผมว่ายังไม่ค่อยเหมาะ แต่ก็ยังดีกว่ารองเท้า Sidi ที่เป็นแบบรองเท้าแข่ง อันนั้นยิ่งเดินลำบากเข้าไปใหญ่
   ผมอยากได้ลองเท้าลำลองสบายๆ เพราะเผื่อไปปั่นทางไกลแล้วต้องจอดเดิน จะได้สบายขาหน่อย ตอนไปอัมพวา ต้องมีการเดินเป็นร้อยเมตร รู้สึกได้เลยว่ามันไม่ค่อยคล่องตัวเหมือนกับคนที่ใส่รองเท้าธรรมดา
   ช่วงนี้เก็บแว่นกันแดดคู่ชีพที่ซื้อตั้งแต่ปี 94 ยี่ห้อ Briko ไปได้เลย และไปหยิบเอาแว่น Cateye ที่ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้มาใช้งานแทน แน่นอน ผมเลือกเลนส์ใส แทนที่จะเป็นเลนส์เหลืองตามที่คนอื่นเขานิยมกัน
   เลนส์เหลืองนั้นเด่นตรงตัดคอนทราส เช่นพวกนักกีฬายิงปืน ที่เขาจะต้องเล็งเป้าตรงกลางสีดำบนกระดาษขาว อันนี้แหละ เหมาะมากสำหรับเขาเลย แต่กับจักรยานก็ยังโอเคนะ ใส่เลนส์เหลืองแล้วจะดูสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ผมไม่ชอบก็คือหากปั่นผ่านแสงไฟสว่างมากๆ มันจะรู้สึกมีแสงเข้าตาจ้ากว่าปกติ ช่วงแสงจ้านี่แหละทำให้รูม่านตาของเราหรี่เล็กลง และพอผ่านพ้นช่วงแสงไฟเข้าสู่ที่มืด ม่านตาของเราก็จะต้องขยายกว้างเพื่อเปิดรับแสง หากเจอสภาพแสงเช่นนี้บ่อยๆ เหมือนผมตอนปั่นบนท้องถนนผ่านใต้ไฟส่องสว่างเป็นช่วงๆ ก็จะทำให้สภาพตาเราล้าได้ง่ายกว่าปกติ ผมจึงเลือกเลนส์ใสครับ
   เลนส์เหลืองผมก็เคยใช้ แต่มักจะเป็นตอนกลางคืนที่ไม่ต้องเจอสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เท่านั้นเอง
   เรื่องชุดก็จะเริ่มมาเป็นปัญหากับผม ปกติผมจะปั่นกลางวัน จะเลือกชุดดำล้วน ผมไม่ชอบลวดลายสีสัน ผมเลือกชุดดำก็เพราะจะกันรังษี UV ได้ดีกว่าผ้าสีอ่อน สีดำจะดูดความร้อนก็จริง ใส่แล้วร้อนกว่าชุดขาวเยอะ แต่ร้อนแล้วมันไม่ทะลุ ผมชอบตรงนี้แหละ
   แต่สีดำมืดๆ มันไม่เหมาะกับการปั่นช่วงเช้ามืดแบบนี้เลยแม้แต่น้อย สถานการณ์แบบนี้ควรใช้เสื้อผ้าสีอ่อน ยิ่งมีแถบสะท้อนแสงได้ยิ่งดี ไฟท้าย ไฟหน้า ยิ่งต้องมีให้เห็นเด่นชัด
   จึงไปเอาสายรัดข้อเท้าของ Zefal มารัดสองข้าง (ผมใส่กางเกงวอร์มขายาว) สายรัดนี้ซื้อมาจาก Pro Bike เป็นสายสีดำเรียบๆ มีแถบสะท้อนแสงสีเทา ยึดติดด้วยแถบ Velcro
   ที่จริงน่าจะมีไฟติดบนหมวกสักอันนะ แต่หาที่เข้ากับหมวกของผมได้ยากเหลือเกิน (จะติดน่ะติดได้ แต่ขอสวยๆ หน่อยน่า) อันนี้ต้องค่อยๆ มองหาไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตอนซื้อไม่ได้เอาหมวกไปลองรัดลองติดดู ก็คงกะกันลำบากหน่อย
   กลายเป็นว่า ตั้งแต่เริ่มออกปั่นช่วงเช้า ก็ต้องมาหาเตรียมของใช้กันอีกระลอกแล้วหรือนี่ นี่ขนาดแค่เริ่มต้นปั่นเองนะ
   
8 มีค 52
   นัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าตอนเช้าจะไปปั่นจักรยานด้วยกัน ทั้งเชอรี่และมิว แต่พอตอนเช้ามิวกลับขอยกเลิก บอกขี้เกียจปั่น จึงเหลือแค่ผมกับเชอรี่ (ภรรยา)
   เชอรี่เคยปั่นกับผมมานานหลายปี แต่ไม่ได้ปั่นแบบต่อเนื่อง นานๆ ถึงจะออกไปปั่นสักหน เขาทำงานออฟฟิซ วันหยุดเลยอยากพักผ่อน เน้นหนักไปทางนวด สปา ทำผม ทำเล็บ ตามสไตล์ผู้หญิงเขา
   วันนี้ออกสายหน่อย แดดแรงตามสไตล์ เชอรี่ไม่คุ้นเคยอย่างมาก ปั่นได้พักเดียวก็หน้าแดง คุ้นๆ ว่าเคยเป็นแบบนี้ตอนผมพาไปปั่นที่เขาแถวชลบุรีกับกลุ่มเพื่อนๆ จาก Pro Bike นานหลายปีมากๆ แล้ว ตั้งแต่สมัยยังไม่มีลูกเลย
   วันนี้เลยปั่นไปกันแค่ 20 กม ขากลับซื้อโจ๊กมาฝากมิว ส่วนผมทานยำปลาดุกฟูแกล้มกับผักสดเยอะๆ รู้สึกดีจริงๆ
   แม่ผมไปตลาดน้ำวัดบางน้ำผึ้งย่านพระประแดงแต่เช้า ซื้อก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาฝาก ผมชอบทานอาหารที่ผ่านการปรุงน้อย หรือไม่ใช้วิธีทอด ก็เห็นจะมีแต่ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนนี่แหละที่พบเห็นได้บ่อยหน่อย นอกนั้นก็จะมีพวกเปาะเปี๋ยะสด
   ช่วงสายทานสตอเบอรี่สดคลุกเกลือน้ำตาล ไม่รู้แม่เอาสูตรมาจากไหน แต่ทานแล้วรู้สึกอร่อยดีกว่าแบบสดๆ มาก ผมเพิ่งกลับจากปั่นจักรยานก็เลยต้องการเกลือแร่เติมเข้าไปในร่างกายสักหน่อย พอเจอผลไม้แบบนี้แล้วถูกใจมาก
   ผลไม้ตระกูลเบอรี่นั้นมีประโยชน์มากอยู่แล้ว แต่บ้านเรามันไม่มีให้พบเจอกันบ่อยนัก ช่วงนี้ไปตลาดเห็นแต่สตอเบอรี่เยอะมาก แต่พวกบลูเบอรี่ แบล็คเบอรี่ แครนเบอรี่ และอีกหลายอย่าง ไม่เคยเห็นผลสดๆ ของมันเลย อย่างเก่งก็มีแค่ผลอบแห้งมาใส่ถุงวางขายตามห้างแพงๆ ใจกลางเมือง
   จะว่าไปมันก็คือข้อมูลที่เรารับมาจากฝรั่งเขา ทั้งๆ ที่แต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาคในโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีของดีมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยกันทั้งนั้น เช่น หากไปทางย่านสแกนดิเนเวียที่อากาศหนาวเย็นแบบสุดขั้ว เขาก็จะมีพวกการอบซาวน่า และปลาแซลมอน ลงมาทางอิตาลีเขาก็จะมีพวกโยเกิต น้ำมันมะกอก ทางเอเชียเรานี้ก็เด่นที่ประเทศญี่ปุ่น เน้นอาหารทะเลสด ชาเขียว เต้าหู้ ส่วนไทยเรานี้ยิ่งมีเพียบกว่าใคร แต่เราเองมันไม่ให้ความสำคัญ ได้แก่พืชสมุนไพรทุกชนิด ตำหรับตำราโบราณของไทยเรานั้นยังคงนำมาใช้งานกับคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี ลองหาๆ อ่านดูแล้วประยุกต์เข้ากับอาหารการกินที่ตัวเองคุ้นเคย แล้วจะพบว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
   กลางวันภรรยาซื้อแหนมเนืองมาทานเป็นอาหารกลางวัน มีผักสดมาด้วยอีก 1 ตระกร้าใหญ่ อาหารเวียดนามนี้เด่นที่ทานคู่กับผักสด แต่ทำไมกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก ต่างจากพวกอาหารหน้าตาแปลกๆ ของฝรั่งเศษ ที่มีก้อนเนื้อเล็กๆ วางอยู่ตรงกลาง ทับด้วยโน่นนี่นิดหน่อย ราดด้วยซ้อสอะไรก็ไม่รู้ไว้รอบๆ จาน จะกินทีต้องเลียจานหรืออย่างไรกันนี่
   ทำไมทีอาหารฝรั่งคุณค่าต่ำมากถึงได้ฮิต อาหารอิตาลีมีแต่เส้น มีแต่แป้ง กลับฮิตกันนักหนา หรือว่ามันฮิตกันตามความเจริญของบ้านเมืองเขากระมัง

Art:

--- Quote from: O'Pern on March 08, 2009, 02:09:12 pm ---   ที่จริงน่าจะมีไฟติดบนหมวกสักอันนะ แต่หาที่เข้ากับหมวกของผมได้ยากเหลือเกิน (จะติดน่ะติดได้ แต่ขอสวยๆ หน่อยน่า) อันนี้ต้องค่อยๆ มองหาไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตอนซื้อไม่ได้เอาหมวกไปลองรัดลองติดดู ก็คงกะกันลำบากหน่อย

--- End quote ---
อันเนี้ยผมเจอใน Product Lists ของหมวกยี่ห้อ Bell ครับพี่ เป็นไฟที่ทำมาสำหรับติดที่ด้านหลังของหมวกของยี่ห้อเค้าเองได้เลย แต่ตอนไปญี่ปุ่นปีที่แล้ว ไปหาซื้อแล้วไม่มีหมวกรุ่นที่อยากได้ เลยไม่ได้ซื้อเจ้าไฟที่ว่ามาด้วย :-\ ของพวกนี้บางทีหาเจอบนเว็บ แต่พอไปหาหน้าร้านจริง ๆ ไม่มีขายซะงั้น ::)

Navigation

[0] Message Index

[#] Next page

Go to full version