Bike Forum > my bike diary / my life diary

กรก 59 29-31 M Storm DC สนาม 1 สงขลา

<< < (2/2)

O'Pern:
18 กรก 59
   งานเพียบ เยอะสัสๆ ผมเช็คของตั้งแต่สายๆ ไปจนถึง 0730 (ทุ่มครึ่ง) นี่เฉพาะของเข้านะ ส่วนของออกจากร้านนี่เช็คกันตลอดวันยันสามทุ่ม เหนื่อยสัส นี่ผมต้องอยู่แบบนี้ไปจนตายเลยหรือ
   ทางร้านได้รางวัล Samsung Galaxy Tab S2 ขนาดหน้าจอ 8 นิ้วมา ไอ้เครื่องเก่า Tab S ผมยังหยิบมาใช้แทบนับครั้งได้ ไม่ถนัด ใช้ระบบแอนดรอยด์ไม่ค่อยคล่อง เห็นทีคงต้องรีบประกาศขาย
19 กรก 59 วันอาสาฬหบูชา (ร้านหยุด)
   จัดเตรียมชุดวิ่งไว้อย่างดี แต่ตื่นมาเจอฝนตกปรอยๆ จบข่าวเลย
   พ่อซื้อต้มเลือดหมูมาฝาก อร่อยมากเลยนะ ใส่ผักชื่อจิงจูฉ่าย ได้กินผักแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
   อยู่บ้านตลอดวันอีกเช่นเคยครับ จากเดิมคิดว่ามิวหยุด จะพาไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แต่มิวบอกวันนี้ไปเรียนพิเศษ เขาจะไปติวให้เพื่อนห้องคิงส์ โหห เด็กห้องธรรมดา ติวให้ห้องคิงส์เลยหรือนี่
20 กรก 59
21 กรก 59
   เย็นทำฟันที่ตึกชาญอิสระ หัวมุมถนนสุรวงศ์ รถติดระดับโลกแน่นอน เลยเผื่อเวลามาเสียเยอะ แต่กลายเป็นดีไป เพราะมีคิวก่อนหน้าผมเขามาสาย หมอเลยเรียกผมไปทำก่อนแทน ไม่มีอะไรมาก แค่ขูดหินปูน ทำแป๊บเดียวเสร็จ
   อ้อ เป็นเรื่องบังเอิญอย่างมากที่มิวเขาก็นัดหมอฟันวันนี้เหมือนกัน ผมเลยนั่งรอเขาต่ออีกหน่อย ก่อนกลับแวะกินร้านสีฟ้าที่อยู่ด้านล่าง มิวเพิ่งเคลือบฟลูออไรด์มา หมอสั่งห้ามกินอาหาร 2 ชม เลยได้แต่นั่งดูผมกิน
   สั่งแบบเดิมๆ เลย ตามพฤติกรรมมนุษย์ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง (ถ้าของเดิมโอเคดีอยู่แล้ว) ขนมเบื้องญวน ราดหน้าปลากะพง ในหลายเดือนเพิ่งได้กินอาหารอร่อยมากๆ ก็วันนี้แหละนะ
22 กรก 59
23 กรก 59
24 กรก 59
   วิ่ง 1 ชม เดินเร็วอีก 30 นาที กินก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊เค็งแถมสั่งเหมือนเดิมเป๊ะ เอ๊ะ ทำอะไรเดิมๆ แบบนี้นานเข้าชักจะไม่ดีแล้วนะ ไม่เชิงไม่ดีหรอก แต่ผมชอบออกกำลังกายสมอง เลยคิดว่าน่าจะต้องทำอะไรที่มันแตกต่างจากชีวิตเดิมๆ ไปบ้าง ผมถึงชอบการเดินทางไงล่ะ มันไม่มีอะไรซำกันสักวัน
   เดินผ่านตลาดซื้อถั่วเขียวต้ม มันเทศเชื่อมมากิน ถั่วเขียวนี่โอเคของดี มันเทศมันก็ดีนะ แต่การเชื่อมนี่สิไม่ดีเท่าไหร่ เอามากินนิดหน่อยแล้วแบ่งกันกับคนที่บ้านซะ
   อยู่บ้านตลอดวันอีกเช่นเคยครับ ดูทีวีเขารายงานข่าว คาราวานรถ Toyota Revo กรุงเทพฯ-อิตาลี ดูแล้วตาโตเลย อยากไปร่วมด้วยอย่างมาก อารมณ์คงจะเหมือนกำลังขับรถรอบโลก
   สายพ่อแม่กลับมาจากตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ซื้อของกินมาอีกเพียบ ของผมมีขนมขี้หนู ข้าวเกรียบว่าว ครองแครง โอ้ แล้วผมจะลดพุงได้หรือครับนี่ ตั้งแต่มานั่งเฝ้าอยู่หน้าร้านนี่น้ำหนักผมขึ้นมาเดือนละ 1 กก ขึ้นมาแบบนิ่มๆ ไม่รู้เรื่องเลย มฤตยูเงียบของจริง นั่งดมควันอยู่หน้าร้านมา 3 เดือน น้ำหนักขึ้นมาแล้ว 3 กก

O'Pern:
25 กรก 59
26 กรก 59
27 กรก 59
28 กรก 59
   เช้าอยู่ร้านจนถึงเย็น ออกเดินทางไปสนามบินดอนเมือง เครื่องออกราว 2 ทุ่ม ก็ต้องไปถึงประมาณ 0600 แต่ย่านนั้นรถติดระดับสุดยอด กะเวลาไม่ถูก แต่เผื่อไว้เยอะ เลยไปถึงตอน 0530
   “จอดอาคารไหนดีครับ” คนขับรถแท็กซี่ถาม
   เออ ปกติที่ผมใช้ก็อาคาร 1 นะ ทุกทีไปแต่ Air Asia แต่วันนี้ไป Thai Lion Air มันอาคารไหนกันนะ
   “แล้วส่วนใหญ่เขาลงที่อาคารไหนกันครับ” ผมถามคนขับบ้าง กะจะก็อปๆ เขาไป
   แท็กซี่ไม่ทันจะตอบ รถก็ไหลๆ ไปเรื่อยจนเลยอาคาร 1 ไปแล้ว สุดท้ายก็จอดที่อาคาร 2 (เอ๊ะ แล้วจะถามผมทำไมนะ)
   ลงรถปุ๊บ รีบไปเช็คอินทันที แต่งงไง ไม่เคยมาอาคาร 2 เฮ้ย แม่งอย่างหรู สวยเลย อาคารกว้างใหญ่มาก เดินหาเองอาจใช้เวลานาน เลยถามเจ้าหน้าที่ดีกว่าว่าเคาเตอร์ของ Thai Lion Air อยู่ไหน
   คนไม่เยอะมาก รอสิบกว่าคิว เข้าไปเช็คอินแบบงงๆ ทำไม่ค่อยเป็น ทั้งๆ ที่ระบบยุคใหม่มันง่ายและสะดวกมากๆ แค่ยื่นบัตรประชาชนก็ใช้ได้แล้ว หรือเช็คอินแบบออนไลน์ก็ยังได้
   “เช็คอินมาเรียบร้อยแล้วนะคะ” เจ้าหน้าที่พูดและยื่นบัตรประชาชนคืนผม
   ไปไม่เป็นเลยสิ เฮ้ย เช็คอินมาก่อนแล้ว แล้วไงหรือ พักหลังไม่ค่อยได้บินไปไหนแล้ว เลยงงตั้งแต่ระบบเช็คอินออนไลน์นี่แหละ
   เจ้าหน้าที่เห็นผมงง ก็เลยพิมพ์ตั๋วออกมาให้ พอผมได้ไอ้ตั๋วนี่ก็สบายใจละ ปกติก็จะเข้าไปด้านในที่มักจะเป็นร้านค้าปลอดภาษี เพราะด้านนอกมันไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่กับอาคาร 2 มันมีร้านอาหารด้านนอกมากมายเลย เยอะเว่อร์เลย ถ่ายรูปมาอวดมิว จนมิวบอกว่านั่นมันห้างหรือสนามบินกันนี่
   เดินขึ้นชั่น 2 ก็มีแต่ร้านอาหารสวยหรูดูน่ากินหมดทุกร้าน ราคาแพงกว่าปกตินิดหน่อย ไม่ถึงกับแพงเว่อร์ ขนาดไม่หิว ผมเดินจนหิวเลยล่ะ ใจหนึ่งก็อยากกิน อีกใจก็เสียดายเงิน (แอบงก) แต่ก็กลัวหิวตอนดึก เพราะกว่าจะถึงสนามบินหาดใหญ่ก็ราว 3 ทุ่ม ต้องขับเข้าเมืองอีก เข้าที่พักอีก คงจะต้องมี 4 ทุ่มเป็นอย่างน้อย
   สุดท้ายใจอ่อนให้กับร้าน Subway ซึ่งไอ้ร้านนี้ผมเคยกินตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ จำได้ว่ามีแต่เนื้อไก่งวง เลือกร้านนี้เพราะคนน้อยสุดครับ ไอ้ร้านนี้เคยแอบเล็งมาสักพัก แต่สั่งไม่เป็น เลยได้แต่ยืนดู มาวันนี้สั่งได้ เพราะเขาทำเป็นเซทไว้เลย แค่ชี้เอาแบบนี้เลย ผมเลือกแซนวิชไก่ซ๊อสศรีราชา ราคา 139 บาท อันแม่งใหญ่เท่าท่อนแขน
   “อันนี้เล็กสุดแล้วหรือครับ” เห็นขนาดแล้วตกใจมาก
   “เอาเล็กกว่านี้ก็ได้ครับ แต่ราคาเท่าเดิม” พนักงานพูดแบบปล่อยมุข แต่เชื่อเถอะครับว่าคงมีลูกค้าบางคนไม่ขำ ไม่รับมุข
   เพิ่งรู้ครับว่าร้านนี้เราสามารถเลือกผักสิบกว่าแบบได้เองหมดเลย เฮ้ย เจ๋งดิ มีผักแปลกๆ ที่ไม่ค่อยได้กินด้วย เช่นแตงกวาดอง มะกอกดำ เอามาเลยมึง จัดมาให้เต็มที่
   สุดท้ายได้แซนวิชแบบใหญ่เว่อร์ ปากงับไม่ได้ ต้องใช้กินแบบแทะเล็มไปเรื่อยๆ แล้วมันก็เลอะ ผักตกหล่นหก ลำบากหน่อย แต่พอไหว รสชาติพอได้
   ไม่น่าเชื่อ กินไปเรื่อยๆ สุดท้ายแม่งหมดอันได้ไม่ยากเลย
   กินเสร็จเดินไปที่เกท 75 น่าจะเกทสุดท้ายเลยมั้ง เจอ “ต้น” กับ “หญิง” รุ่นน้องในทีมงานผู้จัดอีกสองคน ต้นมาเฉลยทีหลังว่าเขาเป็นคนเช็คอินให้ผมเอง ผมเลยถามต่อว่าเช็คอินมาล่วงหน้าแล้วไงหรือ
   “เราก็เดินเข้าประตูมาด้านในได้เลยไงพี่ ไม่ต้องไปยืนต่อคิวที่เคาเตอร์ เข้าไปสแกนตัวสแกนกระเป๋าได้เลย”
   “อ้าว แล้วเอกสารตั๋วล่ะ รับที่ไหนหรือ” ผมถามต่อเลย
   ต้นหยิบมือถือมาเปิดไฟล์ภาพเอกสารยืนยันเป็นภาพเหมือนตั๋วที่ผมถือในมือ
   “ตอนจะขึ้นเครื่อง เราก็โชว์หน้าจอ พร้อมบัตรประชาชน แค่นี้แหละครับพี่”
   เฮ้ยย นี่ผมโง่ไม่รู้เรื่องว่าโลกเขาไปถึงขนาดนี้กันแล้ว
   
   นั่ง 1 ชม ก็ถึงสนามบินหาดใหญ่ มีรถ MG6 จอดรออยู่ ผมนั่งหลังทันที เพราะไม่รู้จักทาง ให้ต้นที่เขามาหาดใหญ่บ่อยเป็นคนขับ และนั่งคู่กับแฟนเขา
   ต้นบ่นว่ารู้สึกพวงมาลัยหนักๆ หนักแบบผิดปกติ หน้าจอมีรูปยางขึ้นเป็นรูปไฟแดง แต่เจ้าของรถเช่าบอกไม่เป็นไร ไม่มีอะไร
   เฮ้ย เตือนสีแดงนี่สำคัญนะ สีเหลืองน่ะพอไหว
   “เฮ้ย นี่มันรถอังกฤษ คนอังกฤษเขาใช้รถแบบนี้กันนะ” ผมพูดปล่อยมุข แต่ไม่รู้ว่าเป็นการปลอบใจหรือซ้ำเติมต้น
   คิกดาวน์แล้วมันต้องรอรอบด้วยน่ะพี่ ขับไปสักพักเริ่มบ่นเยอะ และมาบ่นอีกทีตอนจะดับเครื่อง ไม่รู้กดตรงไหน อย่างไร
   มองหาปุ่มแดง หาไม่เจอ เฮ้ย งงอีกแล้ว สุดท้ายก็หาวิธีเจอ ตลกมากเลย คือใช้วิธีกดที่ตัวกุญแจมันลงไปนี่แหละ
   ถึงที่พักก็ยังไม่ได้ห้องง่ายๆ เพราะชื่อคนจองไม่ตรงกัน ใช้เวลาราว 30 นาที กว่าจะเข้าห้องได้ก็สี่ทุ่มกว่า ได้ห้องเบอร์ C22 หลังเกือบจะสุดท้าย ทำเลดี เงียบสงบดี ชื่อ Boom Forest Resort
   เปิดประตูปุ๊บ แมลงสาบวิ่งสวนพรวดออกมา โหห อย่างโหดเลย ห้องดีครับ สภาพใหม่ เตียงแข็ง แอร์เย็น ห้องน้ำใหญ่ แต่ไม่ค่อยสวย และน้ำไม่แรง อาบไม่มันส์ ทีวีมีชัดไม่กี่ช่อง
 :yociexp102:

O'Pern:
29 กรก 59
   ตื่นเช้าออกวิ่ง เฮ้ย ผมเอารองเท้าและชุดวิ่งมาด้วยนะเฟ้ย รอบที่พักบรรยากาศดีเลยล่ะ ต้นไม้เยอะ มีคูน้ำล้อมรอบอีกด้วย รอบแรกวิ่งช้าๆ สำรวจหมาและเส้นทาง พอรอบสองเริ่มเร็วนิดๆ แต่แล้วก็ต้องหยุดการวิ่งไว้เพียบเท่านี้ เพราะเจอกับ “เอก” เลยหยุดยืนคุยกันราว 1 ชม จนแดดแรง แล้วก็แยกย้าย
   เข้าไปดูอาหารเช้า โหห อย่างโหดเลย ไม่น่ากินสักนิด แถมไม่อร่อยอย่างมาก แต่ก็หยวนๆ กินๆ เข้าไป มีโจ๊กไก่นี่พออร่อยหน่อย ผมเน้นใส่ขิงและผักเพียบๆ ตามด้วยขนมปังปิ้งทาแยมห่วยๆ อีก 2 แผ่น ส่วนเส้นใหญ่ผัดซีอิ้วนี่ไม่กล้าแตะเลย ดูไม่น่ากิน ผักก็น้อย เส้นนี่น้ำมันเยิ้ม
   กินเสร็จก็กลับเข้าห้องพัก ดูทีวี แต่ช่องไทยรัฐภาพล้ม แปลกดีว่ะ เมื่อคืนยังดูได้ปกติเลยนี่นา
   เปิดไอแพดเช็คข่าวสาร ดูข่าวอัปเดทของงานแข่ง วันนี้วันซ้อม ผมอยากเข้าไปดูสนามสักหน่อย ต้นบอกจะออกราว 1200 พอถึงเวลาก็มาตามนัด ห้องเราอยู่ติดกันเลย
   ขับสัก 10 กม ก็ถึงสนามแข่ง เป็นสนามแดร็กนะ แต่ที่เราจัดดริฟท์กันเป็นลานกว้างบริเวณจุดสตาร์ท ลานก็ไม่ค่อยใหญ่อะไรนัก คล้ายๆ สนามเมืองพัทยา รูปแบบสนามก็เลยมีแต่ขดวนไปวนมา ดูนักแข่งขับซ้อมกันแล้วผมว่ารถมันไม่ค่อยเร็วเลย เอ๊ะ หรือพวกเขาไม่กดกันเต็มที่นะ
   เออ จะแวะกินข้าวกลางวันกัน แต่ “หญิง” บอกว่ามีคนบอกเขาว่าในสนามมีร้านอาหารด้วย เลยจะไปกินที่สนามกัน
   แต่พอไปถึง ยังไม่เห็นมีการจัดร้านอะไรเลยสักนิด คือมีร้านอาหาร แต่วันนี้ยังไม่เปิด ฉิบหายสิมึง แถวนี้ไม่มีร้านอะไรเลยสักนิด ทำไงดี หิวมาก
   สักพักมีนักแข่งท้องถิ่นจากสงขลา หาดใหญ่ ทยอยกันเข้าสนาม มีคนชื่อ “ท็อป” อาสาขับไปซื้อข้าวให้พวกเรา เขาออกไปพักเดียว กลับมากับข้าวกล่องหน้าตาแปลกๆ เป็นร้านแนวอาหารใต้ มีปลาทอดตัวเล็กๆ ผอมๆ แต่เนื้ออร่อยมาก ขอขอบคุณ “น้องท็อป” อีกครั้ง
   นักแข่งก็ซ้อมและเซ็ทติ้งรถกันไปตลอด ผมดูทิศทางลมแล้วรู้สึกน่ากังวล เพราะควันยางพัดใส่เวทีกรรมการเต็มเหนี่ยวทุกเม็ด งานนี้สาหัสแน่นอนเลยกู ทำไงดีวะ สักพักเจอเอกกำลังเดินมา เลยบอกเขาว่าผมขอผ้าเย็นแบบผ้าขนหนูที่ขายในเซเว่นสัก 2 ผืน พร้อมขอถังนำแข็งสักหน่อย ผมจะต้องใช้ผ้าขนหนูปิดปากปิดจมูก และใช้ถังน้ำแข็งเพื่อชุบผ้าให้เปียกน้ำ มันจะป้องกันฝุ่นควันได้ดีกว่าผ้าแห้ง
   ผมนั่งดูรถซ้อมไปเรื่อยๆ เอกกำลังพิจารณาวางจุดเอเปก เขาบอกให้ผมวางเองได้เลย แต่ผมไม่กล้า เพราะว่าเรื่องเอเปกนี้มันสำคัญมาก รูปแบบสนามก็ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่จะทำให้ขับสนุกแค่ไหน หัวใจอยู่ที่การวางเอเปกด้วย คนออกแบบสนามจะรู้ดี เขามีจุดเอเปกในใจอยู่แล้ว
   วางเอเปกนี่ใช้เวลาพอควรเลยนะ รถจะวิ่งกันพลิ้วแค่ไหน เอาใจรถแรงเยอะ หรือเอาใจรถแรงน้อยก็อยู่ที่เอเปกนี่แหละ
   ไลน์สนามติ๋มมากๆ ไม่มีทางตรงเลย ระยะจากจุดสตาร์ทมาก็แค่นิดเดียว ทำความเร็วได้แค่ 20-25 เท่านั้นเอง จากนั้นก็สะบัดดริฟท์กันตลอด ขาวกกลับมีโค้งขวายาวเกือบครึ่งสนาม ผมว่าจุดนี้แหละที่จะทำความเร็วได้มากสุด จะไล่บี้ จะทิ้งกันขาด ก็ตรงนี้แหละ
   เอเปกเสร็จเอาตอนเย็นๆ พอดีมี “เล็ก” ตามมาสมทบทีหลัง ลงเครื่องก็ตรงมาสนามบินนี่เลย เขาได้รถ Honda Freed มาใช้ อ้อ เล็กมากับเพื่อนอีกคนชื่อ “แอนดี้” คนนี้เคยเจอกันตอนไปสนามบุรีรัมย์แล้ว
   หัวค่ำถึงจะได้เริ่มซ้อมไลน์กันอย่างเป็นทางการ นักแข่งซ้อมกันทุกคนเลย คิวยาวมาก ยิ่งซ้อมควันยิ่งเยอะ แทร็คกริปมากอีกด้วย ควันเลยยิ่งเยอะเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ผมกังวลยังคงทำความลำบากใจมากขึ้น ลมพัดกลุ่มควันเข้าเวทีกรรมการเต็มๆ ตลอดเวลา โหห พรุ่งนี้กูไม่อยากคิดเลยว่ะ
   เดินไปเดินมา เจอ “ไผ่” เดินมาหาผมพร้อมกับกุญแจรถ
   “ของพี่ครับ Vios สีขาว จอดอยู่ลานทางโน้น” ไผ่ชี้ไปยังลานสนามทรายที่ใช้จอดรถผู้ชม
   ได้รถมาใช้ส่วนตัวก็ค่อยสบายหน่อย ไม่ต้องอาศัยติดรถของคนอื่นเขา จะมาหรือจะกลับเวลาใดก็เรื่องของเรา ขอบคุณมากครับไผ่
   ผมอยู่สนามจนถึง 0830 นักแข่งยังคงซ้อมกันอย่างไม่ลดละ เอาใจช่วยทุกท่านครับ
   ขากลับถนนอย่างมืดเลย ระยะทาง 10 กม ตรงตลอด แต่มันคดเคี้ยว และมีโค้งหักศอกสองจุด โคตรอันตรายเลย ใครซัดมาเต็มๆ มึงมีแหกโค้งได้ไม่ยาก สำหรับคนไม่คุ้นทาง ผมเลยเปิด GPS ไปด้วย ทำให้เราเห็นสภาพเส้นทางด้านหน้า ขับง่ายขึ้นหน่อย เพราะเรารู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นโค้งหรือมีทางแยก
   ถึงห้องพักก็รีบอาบน้ำ กะจะนอน แต่ก็ดูทีวี่ต่ออีกพักใหญ่
   ตีหนึ่ง รู้สึกมีอะไรยุกยิกที่หน้า เอามือปัด โหหห เหี้ยยย แม่ง แมลงสาบ ไอ้สัสส แม่งไต่หน้ากู
   เปิดไฟสว่างโร่ทั่วห้อง หาไม่เจอตัวมัน ก็ดีแล้วล่ะนะ เพราะถ้าเจอก็คงไม่กล้าไปตีมันหรอก อโหสิกรรมกันไป

O'Pern:
30 กรก 59
   เพลียจัด แถมมีตื่นกลางดึกมาต่อสู้กับแมลงสาบอีกด้วย ตื่นสายเลยสิ อดวิ่งอีกแล้ว ตื่นมานี่แดดแรงจัดเลย ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งดูข่าวในทีวี สักพักราว 0800 ก็ออกไปกินมื้อเช้า วันนี้มีน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ข้าวผัด ไข่ดาว ยังคงทำอาหารไม่อร่อยได้มาตรฐานจริงๆ มันไม่อร่อยเอามากๆ เลยนะ ชนิดที่เรียกว่าร้านข้างถนนห่วยๆ ที่แม้ดูสกปรกยังรสชาติดีกว่าเลย
   กินเสร็จเข้ามาอาบน้ำ วันนี้นัดนักแข่งไว้ตอน 1100 แน่นอน ผมตรงเวลาเสมอ ไม่เคยพลาด คนอื่นจะสายก็ช่างเขานะ เรามาตรงเวลา ก็จะไม่มีใครว่าเราได้
   ประชุมนักแข่งที่บูธของ PTT เช่นเคย เล็กทำหน้าที่พูดทุกอย่าง ผมทำแค่คอยสะกิดบอกประเด็นที่เขาพูดข้ามไป
   งานนี้มี 4 Class นะครับ คือ A B C และ Open ที่สามารถใช้เกียร์แบบ Sequential ได้
   เริ่มที่ควอลิฟาย C ตามด้วย AB วันนี้ “เต้ย” ไม่มา เต้ยเป็นกรรมการหลักอีกคน เล็กเลยให้ “แอนดี้” มาเป็นกรรมการแทน จากเดิมที่ผมรับหน้าที่ดูจุดเอเปก วันนี้ผมดูเรื่องล้อหน้าและหลังแทน
   หน้าที่นี่ผมไม่เคยทำมาก่อน แต่ไม่ยากเลย แค่ต้องมีสมาธิ ห้ามเผลอ คลาสนี้นักแข่งน้อยครับ เปิดมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ แต่ขับกันโหดเหลือเกิน ไม่รู้ไปซุ่มฝึกกันมาจากไหน โดยรวมแล้วทุกคนฝีมือดีขึ้นอย่างมากแบบผิดหูผิดตา
   ควอลิฟาย A B ต่อกันไปแบบติดๆ เลย งานนี้มีนักแข่งราว 45 คน แต่ว่าลงแข่งหลายคลาสได้ รวมๆ แล้วน่าจะมีราว 70 Run
   มีช่วงเบรกสั้นๆ กรรมการและทีมงานได้นั่งกินข้าวกันก็ตอนนี้แหละครับ นาทีทอง ซัดกันเข้าไปเลยกับข้าวกล่องๆ ๆ ๆๆ ๆ ฮ่าๆ
   อ้อ มาสนามแบบนี้ผมได้กินของที่ปกติไม่ได้กินด้วยนะ เช่น เลย์ โค๊ก ข้าวกล่อง และไวไวดิบกรอบๆ
   เสร็จแล้วก็แข่ง Class C จนจบ ใช้เวลาราว 1 ชม มั้ง แต่ต้องจ้องกันตาเขม็งเลยล่ะ อ้อ การให้คะแนนยังคงเป็นแบบเดิม คือกรรมการ 3 คน ให้คะแนนเป็นอิสระต่อกัน แล้วนำมาหาร 3
   อ้อ ตอนเย็นมีหยุดพัก 1 ชม สำหรับพิธี “ละหมาด” ด้วยนะ เท่ดีว่ะ คืองดการใช้เสียงทุกอย่างในสนาม เกรงใจเสียงดังของเราจะไปรบกวนชาวบ้านใกล้เคียงที่เขาสวด สุดยอดไปเลย
   ช่วงพักเบรกนี้เลยเป็นการเอารถแข่งมาจอดในสนามแล้วให้ผู้ชมเข้ามาร่วมถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิดได้
   จากนั้นก็มาซัดกันต่อใน Class B เลย
   คราวนี้ต้องตั้งใจให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก ฝีมือแต่ละคนใกล้เคียงกันมากๆ กลัวจะให้คะแนนพลาดจริงๆ เลย ทำให้ผมต้องขอดูเทปย้อนหลังบ่อยมากๆ บางคู่ดูถึง 4 รอบ แน่ะ
   สนามนี้มีนักแข่งแดนใต้มาเยอะ ก็ดีที่ได้เจอพวกเขา ผมแอบเชียร์อยู่ในใจ แต่ด้วยฐานะกรรมการ เลยออกหน้าออกตาไม่ได้ ชอบตรงที่พวกเขามีพัฒนาการดีมาก
   คืนนี้แข่งจน Class B เหลือ 8 คันสุดท้ายแล้วให้เก็บพักรถ ส่วน C เราเคลียร์กันจบเลย
   วันนี้วันแรก ซัดกันแบบขำขำ เลิกไม่ดึกมากนัก

   วันนี้ทิศทางลมสุดยอดมากเลยนะ ไม่มีการพัดเอาควันยางเข้ามาเวทีเลย งงสิ เมื่อวานยังมาไม่ขาดสาย ขอบคุณเทพแห่งสายลม
   ขับ Vios กลับโดยเปิด GPS เหมือนเดิม ไม่เปิดมีหวังลงข้างทางแน่ ถนนมืดมาก แถมมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านนี่เยอะมาก แถมเป็นรถแบบ Sidecar อีกด้วย
   ถึงห้องนี่อย่างสบายเลย รีบอาบน้ำสระผมลงมานอนแผ่ นึกทบทวนว่าวันนี้เรามีตัดสินคู่ไหนผิดไปบ้างไหม มีคู่ไหนที่เราพลาดไหม ถ้ามีพรุ่งนี้เราต้องปรับปรุงตัวใหม่ แต่คิดว่าไม่มีนะ ผมตั้งใจเอามากๆ และกำหนดมาตรฐานการให้คะแนนของตัวเองขึ้นมาเลย เรียกว่าเหมือนเป็นแบบฟอร์มเลย ถ้าทำตามผมนี้ ก็จะให้คะแนนออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกันอีกด้วย

O'Pern:
31 กรก 59
   ตื่นสายอีกแล้ว อดวิ่ง นอนสบายมากๆ เลย (ถ้าไม่มีอะไรมารบกวน) เตียงแข็งๆ แอร์เย็นๆ ผ้าห่มนุ่ม หมอนสูงและนุ่มกำลังดี ขอแค่นี้พอ
   อาหารเช้าแบบห่วยได้มาตรฐานจริงๆ กินแล้วก็กลับเข้ามาห้องพัก วันนี้ไปสนาม 1200 ผมไปก่อนเวลาเช่นเคย อ้อ ตอนอาบน้ำเห็นหน้าตัวเองแล้วตะลึง เพราะตรงแก้มเป็นรอยแดงชัดเลย ผมไม่ได้ทาครีมกันแดดไง เช้านี้เลยต้องทาสักหน่อยแล้ว
   งานวันนี้เริ่มสายๆ หน่อย เพราะแข่งแค่ Class A และ B แค่ 8 คันที่เหลือ อ้อ ไม่ใช่สิ มีรุ่น Open อีกด้วย แต่ก็คงไม่กี่คัน น่าจะเลิกสัก 0800 ไม่ดึกมากนัก
   ไปถึงก่อนคนแรกก็นั่งประจำที่ แม้ไม่มีงานอะไร แต่มันคือการบอกให้คนอื่นรู้ว่าผมมาแล้ว ใครยังไม่มา ก็ช่างเขา มันเรื่องของเขา
   นั่งดูนักแข่งซ้อมไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ พอถึงตอนที่ Bird SK พลังชลขับ เขาจอดรถลงมาดูที่พื้นสนาม และขย่มๆ ตัว พร้อมกับมีพื้นผิวแทร็คหลุดร่อนออกมา
   ผมมองเห็นแล้ว แต่ยังไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร แต่พอทีมงานของพลังชลทั้งทีมแห่กันมาดู ทำให้ผมต้องลงไปดูกับเขาด้วย แล้วก็รู้ทันทีว่า “งานเข้าเสียแล้ว”
   ผิวแทร็คหลุดร่อนเปิดออกเป็นแอสฟัลท์ชิ้นใหญ่ เปิดมาเห็นถึงพื้นทราย และบริเวณรอบๆ ก็ยุบๆ ทรุดตัวลง พื้นนี่นิ่มๆ เป็นบริเวณกว้างราว 1 X 1 เมตร ฉิบหายแล้วมึง ทำไงดีล่ะ
   ช่วงนี้กรรมการมากันครบแล้ว เอกขึ้นมาคุยหารือถึงทางแก้ “พี่เพชร” เจ้าของสนามบอกขอเวลาซ่อม 1 ชม จะใช้ปูนแห้งเร็วมาปะ จากนั้นคงแข่งต่อได้ ได้ยินแบบนี้ทุกคนก็โอเค คือจะประกาศเลื่อนเวลาไปอีก 1 ชม
   แต่ผมไม่เห็นด้วย มันมีความไม่มั่นใจว่าแทร็คที่ซ่อมจะแห้งทัน เพราะพื้นดินด้านในเป็นทรายชุ่มน้ำ (ผมลงไปดูมาเอง) แถมตอนนี้แทร็คที่หลุดร่อนออกมามีไม่มาก แต่ว่ายังมีพื่นที่หยุ่นๆ ยุบๆ อีกราว 1 ตรม ที่เตรียมจะพังทุกนาที
   ผมเลยเสนอทีมงานว่า ให้พี่เพชรซ่อมแทร็คไป แล้วเราก็ปรับไลน์สนามใหม่เพื่อแข่ง B 8 คันให้จบ จากนั้นถ้าแทร็คที่ซ่อมแห้งดีแล้วก็ค่อยมาพิจารณารุ่น A B ว่าจะแข่งไลน์เก่าหรือไลน์ใหม่
   เอกเห็นด้วย และทีมงานเห็นด้วย เลยรีบแยกย้ายหน้าที่กันไปทำ เอกปรับไลน์สนามและวางเอเปกใหม่ เล็กช่วยกำกับมุมกล้อง ส่วนผมให้คำแนะนำเสร็จก็คอยคิดว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาต่ออีก นั่งอยู่ที่กองบัญชาการเวทีกรรมการนี่แหละ
   ปรับไลน์ใหม่เสร็จก็ต้องให้นักแข่งซ้อมคนละ 2 รอบ เสียเวลาตรงนี้ไปราว 2 ชม แต่ก็ถือว่าคุ้มกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
   กว่าจะเริ่มแข่งก็ปาเข้าไป 0200 ครับ แถมเย็นมีฝนโปรยบางๆ อีกด้วย แต่ไม่ลงหนักนะ พักหนึ่งฝนก็หายไป สุดยอดจริงๆ ขอบคุณครับเทพผู้พิทักษ์
   งานแข่งดำเนินไปอย่างราบรื่นดี ไลน์ใหม่รถแข่งทำความเร็วได้มากกว่าเดิมอีกด้วย เพราะได้เล็กช่วยปรับไลน์ตอนออกสตาร์ทให้ใหม่ ซัดกันไปจนจบแบบยาวๆ ได้เลย
วันนี้เล็กนัดกลุ่ม “รถซิ่ง 90” ภาคใต้ มากันราว 30 คัน เล็กเดินพบปะเพื่อนๆ พร้อมกับแจกสติกเกอร์ 90 ให้เองกับมือ ช่วงเวลานี้ทางภาคสนามเขาก็จัดพาเรดกันในช่วงพิธีละหมาดพอดี
แข่งหมด 3 Class มีการมอบรางวัลกันอย่างเร่งด่วน เพราะมีนักแข่งและทีมงานบางคนจะต้องรีบขึ้นเครื่องบินกลับ เออ ก็งงๆ เหมือนกัน เขาคงมีธุระด่วน
งานนี่มี Class พิเศษคือรุ่น Open แต่เขา Open เฉพาะเรื่องเกียร์นะ คือให้เกียร์แบบ Sequential แข่งได้ แต่ที่ผมสุดงงคือ รถแข่งในรุ่นนี้ทุกคัน ไม่มีคันใดใช้ Sequential เลย
   ช่วงหัวค่ำลมทะเลพัดหวน หอบเอาควันเข้าเต้นท์กรรมการเต็มๆ ฉิบหายครับ รถแต่ละคันใช้ยางใหม่ๆ ควันก็ยิ่งเยอะ แถมผิวแทร็คกริปมาก เรียกควันได้มากกว่าเดิมอีก สาหัสครับ ตั้งแต่เป็นกรรมการมา เจองานนี้หนักสุดเลย ต้องใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาปิดปากจมูก ผ้าแห้งเอาไม่อยู่นะ ทุกคนที่อยู่บนเวทีก็รับกันไปเต็มๆ ครับ และที่น่าตกใจก็คือผมต้องอยู่แบบนี้ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงงานเลิกเกือบเที่ยงคืน !
   มอบถ้วยรางวัลให้แก่นักแข่งรุ่น Open นั่งคุยกันสักพักก็แยกย้ายครับ ส่วนใหญ่เขาไปหาข้าวต้มรอบดึกกินกัน ส่วนผมขอกลับเข้าที่พักนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะไม่สบายหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ได้แต่ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปมากๆ หวังว่าให้มันขับพิษจากฝุ่นควันยางออกจากร่างกาย

Navigation

[0] Message Index

[*] Previous page

Go to full version