racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on January 03, 2013, 01:27:07 pm

Title: มค 56
Post by: O'Pern on January 03, 2013, 01:27:07 pm
1 มค 56
   สวัสดีปีใหม่ครับ เช้านี้ภรรยาชวนใส่บาตรหน้าปากซอยบ้าน จากเดิมเตรียมรถไว้ขี่ไปชายทะเลก็เลยต้องงด ระหว่างนั่งรอพระเดินมา เราก็นั่งคุยกันไปเรื่อย ภรรยาเห็นลูกคุยร่าเริงสนุกสนานก็ดีใจ ผมบอกเขาว่าจะเลี้ยงเด็กน่ะต้องให้เวลาแก่เขาเยอะๆ เขาไม่ต้องการเงินทองหรือของหรูหราอะไร พ่อแม่ฐานะร่ำรวยหรือยากจนก็เลี้ยงให้ลูกดีมีคุณภาพได้เหมือนกัน
   ชักชวนภรรยาและลูกไปเที่ยวภูเขาทองมานานหลายปี วันนี้เองที่เพิ่งจะได้มีโอกาสไป ไปกันตั้งแต่ยังไม่แปดโมงดี จอดรถสะดวก ลมหนาวพัดเย็นสบายดีมาก ไหว้พระในอุโบสถก่อน ถวายสังฆทานร่วมกัน แล้วขึ้นไปไหว้บนภูเขาอีกครั้ง ซื้อดอกไม้ที่ซุ้มทางขึ้นนี่แหละ แต่แปลกใจตรงที่คนขายดอกไม้เป็นครอบครัวมีพ่อ แม่ ลูก ผมคิดในใจไปเองว่านี่คงต้องไม่ใช่ของวัดแน่ แต่ทำไมเขาถึงมาวางขายดอกไม้ตรงจุดนี้ได้
   “ประมูลที่มาไง” มันแว่วจากในใจผมขึ้นมาเอง ถ้าเป็นของวัดคนขายก็จะต้องเป็นพระ เณร แต่นี่เป็นคนนอกแต่งชุดขาว
   คนเริ่มมากันมาก ผมชวนแวะพักชมวิวเป็นช่วงๆ แม้วิวจะไม่ได้สวยงามอะไรนักหนา ผมอธิบายลูกว่าภูเขาทองมันคือ Bangkok Tower ที่เรามีมาตั้งแต่โบราณ ญี่ปุ่นมี Tokyo Tower เกาหลีมี Seoul Tower ฝรั่งเศสมี Eifle ที่นิวยอร์คมีตึกของ Chrysler ฯลฯ ไทยเราก็มีภูเขาทองเป็น Landmark ไง ประเทศไทยเรามีพระศาสนาเป็นเครื่องค้ำจุน บนยอดภูเขาทองจึงเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ผมจำไม่ได้แล้วว่าคืออะไร แต่มันล้ำค่ามาก และได้มาตั้งแต่สมัยโบราณ แถมเป็นของที่ต่างประเทศให้เรามาอีกทอดหนึ่ง คือเขาขุดค้นพบเจอ เขารู้ว่ามันเกี่ยวกับศาสนา และเห็นไทยเป็นประเทศเดียวในยุคสมัยนั้นที่นับถือพุทธอย่างเต็มตัว เขาจึงยกให้)
   เสียดายวิวจริงๆ มาอยู่ที่สูงขนาดนี้ ยิ่งมองเห็นความเละเทะของกรุงเทพฯ มองจากมุมบนแล้วบ้านเมืองของเราไม่สวยเลยครับ หากไม่เกรงใจคนไทยด้วยกันจะบอกตรงๆ ว่าน่าเกลียดมาก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็คงรู้ แต่ไม่คิดอยากทำอะไร ด้วยเหตุผลคำเดียวซึ้งๆ
   “กลัวกระทบต่อฐานเสียง”
   ปัดโธ่ เลือกพี่มาทำงาน แต่พี่เสือกเป็นห่วงกลัวคะแนนเสียงตก ก็เลยทำงานแบบแกนๆ ได้ผลงานกากๆ ออกมาแบบที่เห็น
   เลือกตั้งคราวหน้า อย่าเลือกไอ้ที่เป็นพรรคนะครับ ที่มันบอกทำงานด้วยกันง่าย ก็แปลว่า มันร่วมกันแดกด้วยกันอย่างสะดวกนั่นเอง
   ขับรถไปบางลำพูต่อ พาภรรยาและลูกไปกินมื้อเช้ากันที่ร้านอาหารอิสลามที่ดังที่สุดในย่านนี้ ปากทางเข้าเป็นเหมือนตรอกเล็กๆ ภายในร้านก็ไม่ได้สวยงามอะไรสักนิด ออกจะอุดอู้ บรรยากาศไม่น่านั่งนาน รีบกิน รีบกลับ แต่อร่อยสุดๆ
   กินอร่อยคนเดียวไม่พอ ซื้อห่อกลับบ้านเผื่อแผ่ญาติของภรรยาอีกด้วย เดินเล่นต่อไปยังร้านซุปเปอร์มาเก็ตแบบบ้านๆ ของไทย ชื่อร้านนิตยา ร้านนี้ดังที่น้ำพริกรสชาติอร่อย ก้าวแรกที่เข้าไปก็พบกับความต่างจากซุปเปอร์มาเก็ตที่เคยผ่านตามา ร้านนี้ทำกันเอง ห่อกันเอง ข้าวแกงก็แพ็คใส่ถุงแบบง่ายๆ ขนมไทยมีมากมายหลากหลาย ใครชอบของไทยๆ เดิมๆ แวะร้านนี้ทีเดียวจบจริงๆ ผมจัดมาเต็มสองมือ
   ขับรถออกมาทางท่าพระอาทิตย์ แต่รถติดมาก สงสัยติดจากหน้าวัดพระแก้วแน่ๆ เลยเลี่ยงหนีไปทางราชดำเนินแทน ผ่านแยกคอกวัวก็ติดรถที่ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ ขับต่อไปยังทางวัดราชนัดดา มุ่งหน้าข้ามสะพานพุทธกลับบ้าน
   ล้างอ่างปลาฉลองปีใหม่สักหน่อยดีกว่า
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 03, 2013, 01:28:25 pm
2 มค 56
   ขี่จักรยานไป 40 นาที เช้านี้สวมเสื้อกันหนาวขี่ด้วย คลุมหัวด้วยฮู๊ดอีกที ทำไมหนาวแค่นิดเดียวเองต้องใส่เสื้อกันหนาวด้วยนะ อากาศก็ยังตั้ง 20 C กว่าๆ นึกถึงตอนหนุ่มๆ ไปย่านสแกนดิเนเวีย อากาศราว 10C ใส่เสื้อแขนสั้นเดินยังเฉยๆ เย็นแบบขำขำ
   ผมว่า 10C ของฝรั่งในหน้าร้อน กับ 10C ของไทยบนยอดเขามันคนละเรื่องเลยนะ ผมว่าของไทยมันหนาวแบบเข้ากระดูกจริงๆ คงจะเพราะความชื้นนี่แหละครับที่เป็นตัวแปร
   เช้าแรกของวันทำงาน แปลกมากที่รถไม่ติดหนักเท่าไหร่ หรือคนใช้ถนนเขาเตรียมการกันมาดี มิวยังคงหยุดอีก 1 วัน เขาเปิดเรียนพรุ่งนี้
   และแล้วก็เป็นไปตามคาด คนงานขาดอีกแล้ว เจอลูกค้ามาซื้อของหน้าร้าน ก็เลยไปยกของขึ้นรถให้เขา กลัวหลังเจ็บครับ ต้องนั่งยองๆ ให้สุดแล้วถึงยกของขึ้นทีละลัง นี่ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่อยากยกหรอกนะ
   มิวขอตามออกมาเล่นที่ร้านขายของนี้ด้วย อยู่บ้านเขาก็จะเบื่อเพราะไม่มีเพื่อ อยู่จนถึงบ่ายแก่ๆ ก็กลับเข้ามาบ้านพร้อมผม ระหว่างทางแวะเก็บเช็คลูกค้า มาถึงบ้านเอาตอนบ่ายสาม
   แวะกินอาหารบั่นทอนสุขภาพก่อนกลับบ้าน ด้วยเหตุผลคือภรรยาบอกว่ามีบัตรฟรีแบบซื้อ 1 ถาด แถม 1 ถาด วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็เสียสิทธิ์ (บ๊ะ เหมือนโครงการรถคันแรกเลย) เป็นห่วงเงินคืน 1 แสน (ของแถม) ห่วงของฟรี ตกเป็นเหยื่อของการตลาดของเขาอย่างง่ายดายจริงๆ
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 04, 2013, 01:50:53 pm
3 มค 56
   อ้วนไม่รู้จักหยุดหย่อนตั้งแต่คริสมาสมาจนถึงปีใหม่ ของกินเต็มบ้านไปหมด น่าแปลกที่คนชอบให้ของอ้วนๆ กันเป็นของขวัญ เค๊ก คุกกี้ ช็อคโกแลต ฯลฯ มีบ้างที่ให้ผลไม้ แต่ก็น้อยคนนัก ตั้งเป้าของปีนี้ใหม่อีกครั้งดีกว่า จะต้องลดให้ได้ 5 กก (ปีที่แล้วตั้งไว้ 4 ยังทำไม่ได้เลย)
   ชีวิตปีนี้จะเป็นอย่างไรนะ ลูกย่างเข้าขวบปีที่ 12 แล้ว ผมเองก็ช่วยที่บ้านทำงานมา 11 ปีกว่าแล้ว งานวันนี้มันช่างเหมือน 11 ปีที่แล้วเป๊ะ ต่างกันตรงที่ผมออกไปส่งของข้างนอกน้อยลง (เพราะเจ็บหลังถาวร) นี่ถ้าหลายปีก่อนเขาใช้งานผมไม่โหดนัก ก็คงจะช่วยยกของได้อีกนาน
   เช้านี้ขี่จักรยานไป 45 นาที อุณหภูมิ 22 C รีบกลับมาบ้านกินข้าวอาบน้ำแต่งตั้ว วันนี้มิวเปิดเรียนวันแรกของปีนี้
   ปาฏิหาริย์เกิดอีกแล้วขณะเชื่อมต่อไอ้แพดกับคอมฯ แค่กดปุ่มเปิด Personal Hotspot เครื่องผมก็ออนไลน์ได้ทันที ไม่ได้ต่อสาย USB ไม่ได้ต่อ Bluetooth หรือ wifi ใดๆ เลย งงมากอีกครั้ง มันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว
   แล้วปริศนาก็คลายลง เครื่องไอ้แพดมันเปิดเชื่อมต่อสัญญาณ wifi เองอัตโนมัติครับ (โดยที่ไม่มีสัญลักษณ์การเชื่อมต่อ wifi บนหน้าจอ) พอผมเข้าฟังชั่นไปปิด wifi ระบ Hot Spot ก็ตัดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ
   แต่เอ๊ะ แล้วคอมพิวเตอร์ของผมมันมี wifi ที่ไหน มีแต่ Bluetooth นี่คืออีกข้อที่ยังหลงเหลือความงง
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 09, 2013, 08:55:51 pm
4 มค 56
   นอนหัวค่ำ เลยตื่นเร็วหน่อย ขี่จักรยานไปได้ 50 นาที อากาศวันนี้อุ่นขึ้นอีกนิด เหลือแค่ 24 C หยิบเอานาฬิกาข้อมือเก่าๆ ที่สายขาดพังไปแล้วมาไว้ที่จักรยาน อยากรู้ว่าแต่ละวันอากาศจะหนาวเย็นเพียงใด
   ดำเนินชีวิตไปอย่างราบเรียบ ง่ายดาย ไร้ซึ่งจิตนาการ ทำยังไงก็ได้ ขอให้วันนี้ผ่านไปเร็วๆ
   เย็นขี่จักรยานไปอีก 20 นาที เดินอีก 20 นาที อ้วนเหลือเกิน ทนไม่ไหวแล้ว
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 09, 2013, 08:57:29 pm
5 มค 56
เช้านี้จัดไป 22 C ขี่ตอนเช้าเป็นประจำ เดือนก่อนเพิ่งลงครีมนวดเบาะของ Brooks รู้สึกว่าเบาะมันจะนุ่มขึ้นอีกหน่อยนะ ใช้เบาะตัวนี้แล้วอยากลอง Gilles Berthoud จริงๆ เลย แต่ยังไม่ซื้อมาหรอกนะ ตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องลดน้ำหนักตัวเองให้ได้ก่อน
วันเสาร์มาเยือนอีกครั้ง มิวเรียนพิเศษจัดเต็มเช้าบ่าย ให้กำลังใจลูกด้วยการโหลดเกมใส่ไอ้แพดให้เขา เข้าใจนะว่าไม่ควรเอาเกมมาล่อ แต่ความสุขของเด็กยุคนี้ ยังไงก็ต้องมีเรื่องเกมติดอยู่ 1 ใน 10 ของชอบ
กลับมาบ้านมิวใช้เวลาอยู่กับไอ้แพด ส่วนผมก็เฝ้าวนเวียนอยู่บ่อปลา
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 09, 2013, 08:58:30 pm
6 มค 56
ใส่บาตรวันเกิดพระสงฆ์ 9 รูป ยังไม่ถึงวันเกิดหรอก แต่ถ้ารอให้ถึงวันอาทิตย์หน้าก็จะเลยวันเกิดไปแล้ว สะดวกใส่บาตรเฉพาะวันอาทิตย์น่ะครับ
   เช้านี้นั่งขอบรถกระบะคุยกับภรรยา อยู่บ้านเดียวกัน ทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะภาระหน้าที่คนละอย่าง เช้านี้คุยกันอย่างใกล้ชิด คุยเรื่องชีวิต เรื่องอนาคต เรื่องธุรกิจ เรื่องสุขภาพ เรื่องลูก ฯลฯ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันขณะใส่บาตรไป 1.30 ชม นั่งตั้งแต่ฟ้ามืดจนแดดเริ่มออก
   วันอาทิตย์มิวมีเรียนพิเศษที่ซุปเคต่อ ยังดีที่อันนี้เขาตัดสินใจขอเรียนเอง ผมยังแปลกใจว่าทำไมถึงชอบนัก ไม่ได้เรียนสดด้วยนะ ไปดูไฟล์ที่เขาก็อปไว้ในฮาร์ทดิสค์ จะเรียนเรื่องอะไร ตอนอะไรก็บอกเจ้าหน้าที่ เขาก็จะเปิดไฟล์นั้นๆ ให้ดู เช่นเรื่อง ครน หรม เรื่องมุมองศา ฯลฯ
   บรรยากาศเอาใจเด็กดีครับ คือให้เอาน้ำ ขนม เข้าไปกินได้ มันก็เลยทำให้เด็กรู้สึกอิสระ ผ่อนคลายไง มันต่างจากโรงเรียนปกติที่เขาเจอมา อืมมม ไอเดียดีเหมือนกันนะ
   ผมอยู่บ้านตลอดวัน วันอาทิตย์ทั้งทีแต่กลับไม่ได้ออกไปขี่จักรยาน ดูปลา เปลี่ยนถ่ายน้ำ ล้างอ่าง ฯลฯ เดินไปเดินมาก็ต้องแวะนั่งดูเจ้าลูกปลาอยู่บ่อยๆ
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 09, 2013, 09:01:40 pm
7 มค 56
เช้านี้จัดไป 21 C นี่ถ้ามีมาตรวัดระยะทางแบบวัดอุณหภูมิได้ก็ดีสินะ อีกหน่อยต้องมีแน่ๆ ฟังชั้นแบบนี้ถือว่าพื้นๆ มาก จะให้เจ๋งจริงก็ต้องมีวัดความสูงด้วยสิ อ้างอิงจากระดับน้ำทะเลด้วยก็ได้
เช้าวันจันทร์เวียนมาอีกครั้ง ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปเป็นวัฏจักร ผมอยู่เฝ้าร้านตั้งแต่เช้าจนดึกครับ กลับถึงบ้านเอาตอน 1030 รีบอาบน้ำ เข้านอนตอน 1100
หัวยังไม่ทันถึงหมอนก็หลับแล้ว
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 09, 2013, 09:04:14 pm
8 มค 56
   หมดแรง ลุกไม่ไหว ลืมตาตื่น แล้วก็นอนมองเพดานต่อ เช้านี้ไม่ได้ขี่จักรยาน ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรสักนิด มิวยิ่งไปกันใหญ่ 0700 แล้วยังไม่ยอมตื่น ไปปลุกก็บอกขอนอนต่ออีกนิด มาลุกจริงจังตอน 0715 ทำเอาไปเรียนเกือบสาย
   ถ้ามิวสาย ก็คือผมไปถึงที่ทำงานช้าตามไปด้วย แต่ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ร้านนี้ทำงานแบบกันเองมากๆ คนงานขาดงานเป็นเดือนก็ยังกลับมาทำงานหน้าตาเฉยได้ บางคนทำวันหยุดสองวันก็มีออกบ่อย งานใช้แรงงานน่ะครับ สมัยนี้ไม่มีใครอยากทำงานแบบนี้อีกแล้ว ถ้าไม่แก้ไข ถ้าไม่ปรับตัว ก็คงอยู่รอดได้ยาก ผมพยายามบอกเจ้าของร้านทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ดูเขาจะไม่สนใจอะไร
   เย็นไปรับลูก วันนี้รีบกลับบ้าน ต้องมาจัดกระเป๋าพรุ่งนี้เข้าค่ายลูกเสือ เห็นรายการของที่เขาต้องนำไปแล้วตกใจ แม่งเยอะจัดจริงๆ เช่นรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ (ไม่นับคู่ที่ใส่ไป) ชุดกิจกรรม 4 ชุด (เข้าใจว่าคงเผื่อเปียกน้ำ หรือลุยเลอะ) ปัญหาหลักก็คือไม่มีกระเป๋าใส่น่ะสิ ปกติถ้าของเยอะก็จะใส่กระเป๋าล้อลากกัน แต่งานนี้มิวบอกมีกิจกรรม “เดินทางไกล” คือการเดินแบกเป้สัมภาระของตัวเอง ไม่รู้ว่าเด็กๆ แบบนี้จะเดินกันไกลขนาดไหน เดาว่าคงไม่โหดนัก
   แล้วก็ลงมือสอนเขาแพ็คของลงเป้อย่างละเอียด เริ่มจากให้ไปหยิบหนังยางเส้นเล็กมา 1 กำ ม้วนเสื้อ และกางเกงให้มีความยาวเท่าๆ กับความกว้างของกระเป๋า ม้วนแล้วก็รัดด้วยหนังยางหัวท้ายกันผ้าคลายตัวแล้วมันจะพองออกกินพื้นที่ ม้วนๆ ๆ ๆ อย่าเพิ่งเก็บเข้ากระเป๋านะ ม้วนจนเสร็จแล้วค่อยตรวจเช็คอีกครั้งก่อนแพ็คลงเป้
   ที่ก้นเป้ ใส่ของนุ่มๆ เช่นผ้าเช็ดตัว ถุงนอน ยัดลงไปให้แน่น ทีต้องเอาของนุ่มๆ วางไว้ล่างสุดก็เพราะเผื่อกระเป๋าตกหลนกระแทกพื้น โดนทับ เผลอวางแรง ฯลฯ ข้าวของข้างในจะได้ไม่เสียหาย เอาของหนักไว้ตรงกลาง ของที่มีเหลี่ยมมุมไว้กลางเช่นกัน ถ้าหุ้มผ้าไว้ก่อนได้ก็จะดี แต่งานนี้มิวไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะกระเป๋าใบเล็กมากๆ เห็นข้าวของที่วางก่อนแพ็คแล้วต้องส่ายหัว ผมว่ายัดลงได้ไม่หมดหรอก
   ไม่น่าเชื่อว่าในอีก 15 นาทีถัดมา ผมแพ็คของทุกอย่างที่มิวเตรียมมาลงเป้ได้หมด แน่นเต็มเอียดทุกช่อง สิ่งที่สอนเขาครั้งสุดท้ายก่อนไปก็คือวิธีการแบกเป้ คือให้วางเป้บนที่สูงอย่างเก้าอี้ หรือโต๊ะ (ถ้าทำได้) สอดมือขวาและใช้นิ้วโป้งเกี่ยวหูกระเป๋าด้านบนไว้ ส่วนมือซ้ายสอดไว้ที่สายเป้อีกข้าง วางตำแหน่งมือให้ดี ถ้าวางถูกต้อง เราจะยกเหวี่ยงเป้ยกขึ้นและปล่อยให้เป้ลงสวมเข้าบนหลังเราได้พอดีเป๊ะ
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 09, 2013, 09:07:21 pm
9 มค 56
   เช้านี้มิวเข้าค่ายลูกเสือที่แก่งกระจาน แหม ได้ยินแล้วอยากตามไปด้วยจริงๆ ผมตื่นตีห้าอาบน้ำเสร็จก็ขี่จักรยานไปซื้อต้มเลือดหมูมาสองถุง กินคนละถุงกับลูก มิวต้องไปถึงโรงเรียนก่อน 0700
   ผมก็เลยไปถึงที่ทำงานแต่เช้า เจอบรรยากาศที่ไม่ค่อยคุ้นที่บริเวณหน้าโรงเรียนต่างๆ รถจะติดมาก ผู้ปกครองจอดส่งลูกซ้อนคันกันมั่วไปหมด ปกติผมจะผ่านแถวนี้ตอนสายแล้วไง วันนี้เจอตอน 0730 ช่วงไฮไลท์เลย
   ถึงที่ทำงานเช้าก็ทำงานได้เยอะ งานที่นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยกแบกของ เช้านี้เข้าโกดังขนของออกมาเต็มรถกระบะปิคอัพ เอามาจัดเรียงที่หน้าร้าน พอว่างก็รับโทรศัพท์ เขียนบิล ขายของหน้าร้าน โทรหาลูกค้า ฯลฯ
   ไม่รู้เรียกโชคดีหรือโชคร้าย ผมไม่ชอบผลิตภัณฑ์ค่าย Apple มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยคิดจะซื้อ iphone สักนิด แต่ปีที่แล้วก็จับสลากได้ ipad มา มันก็โอเคดีล่ะนะ พอมาวันนี้สิ ภรรยาบอกว่าร้านเราซื้อสินค้าแล้วได้คะแนนสะสม รางวัลคือโทรศัพท์ iphone5 32g  !!!
   เฮ้ยย ไม่อยากได้ เลือกอย่างอื่นแทนได้ไหม ผลิตภัณฑ์ค่ายนี้มันเปลี่ยนโฉมกันโคตรเร็วแบบตามไม่ทัน  ตัวอย่าง ipad รุ่นก่อนก็ออกมาแค่ 9 เดือนก็มีตัว ipad4 มาแล้ว (ออกพร้อมกับ ipad mini) เปลี่ยนแบบหยุมหยิมมาก ไม่บอกก็ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนอะไรไปบ้าง ภาษาในวงการรถยนต์เรียก minor change
   เอาแล้วสิมึง เริ่มจากปีก่อนแม่จับฉลากได้ ipod ผมไม่สนใจ แต่ก็โหลดเพลงเอาไว้ให้ลูกฟังเล่น ปีที่แล้วจับสลากได้ ipad ก็เอาวะ ลองใช้งานดู มาวันนี้จะได้ iphone5 อีกแล้ว อืมม นี่สักพักคงต้องมี imac ออกจากบ้านก็ต้องไหว้บูชารูปสตีฟ
   ก่อนกลับบ้านตอนเย็นภรรยาเอาบัตรของขวัญใช้แทนเงินสด 200 บาทของห้างเซ็นทรัล กำชับอย่างดีว่าให้รีบไปใช้วันนี้นะ วันสุดท้ายแล้ว อ้าว ทำไมเพิ่งมาให้ล่ะ
   กลับจากเซ็นทรัล ได้ไฟฉายสำหรับอ่านหนังสือของ Energizer มาให้มิว 1 อัน
   เอ ตอนนี้มิวกำลังทำอะไรอยู่นะ คิดถึงจังเลย
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 11, 2013, 02:52:00 pm
10 มค 56
   กระทรวงศึกษาให้นักเรียนชายไว้ผมรองทรงได้ และนักเรียนหญิงไว้ผมได้อิสระ (ไม่จำเป็นต้องตัดสั้นเสมอหู) เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของนักเรียนมัธยมจริงๆ ดีใจด้วยครับเด็กๆ

   ความคืบหน้าผลิตภัณฑ์ค่าย Apple จะออก Apple Radio ในเดือนมีนาคม ipad mini ratina display และ IOS7 และ iphone5s จะมาในเดือน มิย สุดท้าย Apple TV ในเดือน พย ปิดท้ายด้วย iphone mini ที่ยังไม่รู้จะมาในเดือนใด
   วันนี้เชื่อมต่อไอ้แพดกับคอมฯ ด้วยสาย USB ไม่ได้ งงมากอีกแล้ว ปกติเสียบสายปุ๊บก็จะออนไลน์ได้เลย แต่วันนี้เสียบแล้วเงียบสนิท เลยต้องเชื่อมต่อ Bluetooth แทน แปลกใจจริงๆ เลย
ฟังรายการวิทยุตอบปัญหารถยนต์แล้วขัดหู ปตท ยกเลิกน้ำมัน 91 ทำให้พวกมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ไม่มีน้ำมันที่ถูกต้องใช้ ทางออกโดยตรงคือไปใช้ 95 แทน แต่พิธีกรท่านบอกให้ใช้แก๊สโซฮอล 91 ได้เลย บอกว่าไม่พัง ไอ้ที่บ่นว่าพังๆ กันน่ะ คือรถมันเก่าแล้ว ถึงอายุมันจะพังของมันเองแล้วมาโทษน้ำมันต่างหาก กลัวกันไปเอง
   ปัญญาอ่อนครับ รถเวสป้าส่งของบ้านผมใช้ 91 ล้วนๆ มาตลอด พอลองแก๊สโซฮอล 91 แล้วรถวิ่งไม่เป็นอันทำงานเลย รวนตลอด วิ่งไม่ดี สตาร์ทยาก สารพันปัญหาจุกจิกของรถโบราณแห่ประดังกันเข้ามาพร้อมๆ กัน ขนาดรถซาเล้งยังเป็นเลยครับ
   แต่พอมาใช้ 91 แบบเดิมเท่านั้นแหละ รถทุกคันในร้านพากันวิ่งดีกันหมด หายจากอาการจุกจิกกวนใจ แล้วแบบนี้จะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไร พิธีกรท่านเคยใช้มอเตอร์ไซค์ เวสป้า ซาเล้ง เก่าๆ บ้างไหมครับ
   จะตอบว่าไม่รู้ ไม่ทราบก็ไม่เสียฟอร์มนะ สมัยก่อนตอนจัดรายการวิทยุผมเองนี่แหละที่ตอบไม่รู้บ่อยๆ ไป แต่ผมรับปากว่าจะหาข้อมูลมาตอบให้ภายหลังแทน
   มันดีกว่ามั่วดำน้ำ ฟอร์มว่ากูเจ๋ง กูตอบแม่งได้หมด กูเทพ แต่มึงให้ข้อมูลผิดๆ แก่คนอื่นเขาไป อันนี้ผิดพลาดมหันต์
   เย็นไปเก็บเช็คลูกค้าแถวถนนเจริญนคร แวะเดินเล่นในร้านขายเสื้อผ้ากีฬาที่อยู่ใกล้ๆ กัน เจอของเซลล์ถูกใจมาก เป็นเสื้อมีฮู๊ด ผมชอบเสื้อแนวนี้ เอาไว้กันแดดครับ ตอนส่งของแดดร้อนแรงมาก ใส่หมวกนานๆ มันก็รัดหัวรำคาญเหมือนกัน บางวันเอาฮู๊ดคลุมแทน พอได้เหมือนกัน แต่อีกใจหนึ่งผมหวังผลจากการใส่ขี่จักรยานมากกว่าครับ มันคลุมต้นคอได้ด้วย
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 13, 2013, 11:17:20 am
11 มค 56
   ครบรอบวันเกิดอีกครั้ง มันไม่มีอะไรพิเศษหรอก ไม่มีจัดงานเลี้ยง ไม่มีของขวัญอะไร ตลอดวันนี้ต้องทำความดีให้เยอะเป็นพิเศษ ขณะอยู่บนท้องถนนก็หยุดให้คนอื่นเขาไปก่อนบ้าง ใครจะเบียด จะปาด ก็ยกคันเร่งให้เขาไปก่อน เจอคนข้ามถนนนี่เป็นกฏของผมเลยนะว่าต้องหยุด จะขี้เกียจหยุดเองแล้วมาอ้างว่าลูกติดพันไม่ได้
เช้านี้ขี่จักรยานไป 40 นาที มิวยังไม่กลับจากเข้าค่าย ไม่ต้องไปส่งเขาที่โรงเรียน เลยนึกสนุกขี่จักรยานไปทำงานดีกว่า ฉลองวันเกิดของเราเองบนอาจจักรยานนี่แหละ แวะจอดรถพักที่ริมเจ้าพระยายืดเส้นสักพักก่อนเข้าที่ทำงาน
   อ้อ ใส่เสื้อใหม่นะ เสื้อมีฮู๊ดที่เพิ่งซื้อนี่แหละ ใช้ได้ดีมากครับ แดดส่องด้านข้างก็ไม่โดนแก้ม ตัวฮู๊ดมันบังเอาไว้ ข้อเสียอย่างเดียวคือตอนเหลียวมองหลังบางจังหวะด้าข้างของฮู๊ดเองมันจะบังสายตา
   บ่ายขี่รถกลับบ้านเจอแดดแรงก็คิดว่าเป็นบททดสอบ แวะไปรษณีย์หาซื้อสแตมป์วันเด็กให้มิว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าวางขายพรุ่งนี้วันแรก ไม่รู้ไปไหนต่อดี เลยขี่กลับบ้าน
   เย็นไปรับมิวด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไปพักแรม 2 คืน ที่โรงเรียนก็คราคร่ำไปด้วยผู้ปกครอง อากง อาม่า ญาติพี่น้องมารอรับเต็มไปหมด
   มิวหน้าตาดูเหนื่อยๆ ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนปกติ กลับถึงบ้านก็รีบอาบน้ำ กินมื้อเย็น ก่อนนอนเขาให้ดูแผลที่ขา บอกโดนมดกัด แต่มันบวมทั้งขา รอบแผลสีคล้ำ ลองกดๆ ดูเขาบอกไม่เจ็บ แต่ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่มดแน่ๆ ต้องเป็นสัตว์เล็กที่มีพิษ ผมเคยโดนตะขาบตัวยาวคืบกว่าต่อยที่แขนตอนนอนริมน้ำแควเมื่อปี 94 จำได้แม่นเพราะเพิ่งได้ KHS HT คันนี้มานี่แหละ ตระเวนแข่งเล่นๆ หลายงาน
   ตอนนั้นผมปวดแผลมาก แต่แปลกที่มิวเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร เอายาบัวหิมะทาให้เขา (เฉพาะหน้า) พรุ่งนี้ค่อยดูอาการกันใหม่ คืนนี้นอนหลับเร็ว มิวบอกคิดถึงที่นอน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่
   ก่อนปิดไฟนอนผมหยิบไอ้แพดมากดปิดเครื่อง เจอการ์ดวันเกิดแอบสอดเอาไว้ มิวแน่ๆ เลย เขียนอวยพรให้ผมด้วย ขอบคุณมากนะลูก
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 13, 2013, 11:18:50 am
12 มค 56
   วันเด็ก วันเด็กของผมในวัยเด็กก็คือวันเสาร์ปกติ ไม่เคยได้ไปไหน พ่อแม่ต้องทำงานขายของอย่างที่เป็นทุกวันนี่แหละ สมัยก่อนนี่ไม่มีใครมานิยมแจกของเด็กเหมือนทุกวันนี้นะ ไม่มีองค์กรมากมายจัดกิจกรรม ถ้าเข้าร้านอาหารก็จะได้แค่ลูกโป่ง แค่นี้ก็ดีใจตายแล้ว
   โรงเรียนพิเศษมิวไม่หยุดครับ เรียนทั้งเช้าและบ่ายเลย หลังเลิกเรียนโหลดเกมใส่ไอ้แพดให้เขาเล่น บอกฉลองวันเด็ก ฮ่าๆ กลับถึงบ้านมิวเล่นแต่เกม ส่วนผมก็ดูแต่ปลา เดินไปเดินมาระหว่างบ่อต่างๆ 
   โทรนัดพี่ทวี ช่างทำรถ Isuzu Trooper ที่ผมรู้จัก เขาอยู่แถวห้วยขวาง ติดตั้งแก๊สกับเขามาหลายปีมาก รถพ่อหลังจากทำกับช่างวิทย์มาก็วิ่งดีได้แค่แป๊บเดียว เอาอีกแล้ว อาการเดิมออก รถติดแล้วรอบตก จนดับ เร่งไม่ขึ้น ไม่มีแรง เครื่องยนต์ 3.2 แต่วิ่งเหมือนรถ 1.2 หนักสุดคือวิ่งได้แค่ 100 เกินกว่านี้ยากมาก กดคิกดาวน์ก็มีแต่รอบ รถไม่วิ่ง
   ปัญหาเกิดจากระบบไฟครับ ผมพอจะวิเคราะห์ได้ แต่ไม่อยากชี้นำช่าง ไม่อยากทำตัวรู้ดี บอกแค่ปัญหาของเรา แล้วก็ให้เขาวิเคราะห์และแก้ปัญหาจะดีกว่า
   จากบ้านผมไปห้วยขวางไกลพอควร แต่ที่สาหัสกว่าก็คือรถมันวิ่งไม่ดี กลัวเครื่องดับ มันดับแล้วเราจะใจลนลาน เกิดความไม่มั่นใจ ไอ้ความรู้สึกนี้หากเกิดขึ้นกับคนขับแล้วมันจะแก้ยากมาก
   เลยขอให้เขาแค่รับรถไปก่อนได้ไหม จะซ่อมเมื่อไหร่ก็แล้วแต่คิว ขอนัดส่งรถพรุ่งนี้เช้า 0700 ตอนเช้าวันหยุด รถไม่ติด ผมน่าจะขับสบาย
   พี่ทวีโอเค บอกว่ามาได้    
   ตอนเย็นมิวขอกินข้าวร้านสเต็ค 49 หน้าปากซอย ผมบอกอนุญาตเพราะเป็นวันเด็ก วันนี้เด็กเป็นใหญ่
   แผลโดนแมลงกัดของมิวดีขึ้น อาการบวมน้อยลงแล้ว
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 14, 2013, 02:16:00 pm
13 มค 56
   สองจิตสองใจว่าหลังจากเอารถ Isuzu Trooper ไปให้พี่ทวีแล้ว ผมจะไปไหนต่อดี เขาอยู่แถวห้วยขวาง ผมสามารถนั่งรถ MRT ไปสวนจตุจักรได้ หรือจะนั่งย้อนมากลับมาทางสีลม แล้วต่อ BTS ก็ใกล้บ้านขึ้นมาอีกหน่อย
   มาตัดสินใจเอานาทีสุดท้าย เอาจักรยานไปดีกว่า รีบหิ้วรถ KHS HT ขึ้นรถไปด้วย ขึ้นทางด่วนไปลงรัชดาฯ เลี้ยวเข้าห้วยขวางแป๊บเดียวถึง โชคดีเครื่องไม่ดับ คุยกับพี่ทวีสักพักก็เอาจักรยานลงขี่กลับบ้าน
   ใช้เส้นทางรัชดาฯ ตรงตามเส้นหลักตลอดมาถึงพระราม 3 มาจนถึงวงแหวนอุตสาหกรรม หยุดแวะพักที่นี่ ริมน้ำเจ้าพระยายังคงสวยทุกมุมมอง แต่เช้านี้แดดแรงจริงๆ ระหว่างช่วงพักโทรหา “ยู” เพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันมาเป็นสิบปี เขามีบ้านอยู่โซล เกาหลีใต้ และยังมีคอนโดอยู่แถวพระราม 3 นี้ด้วย แต่ผมไม่รู้พิกัด
   ยูรับสาย บอกตื่นนานแล้ว แต่เขาอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ เสียดายไม่ได้เจอกัน เลยคุยกันสักพักผมก็ขี่รถต่อ ถนนพระราม 3 นี่มีสะพานลอยข้ามแยกเยอะมาก ก็เลยลองจัดไปครับ คนกรุงเทพฯไม่มีภูเขาให้ฝึกซ้อม ก็เล่นสะพานแทนก็ได้วะ เช้านี้น่าจะจัดไปราว 5-6 สะพานนี่แหละ
   แวะตลาดแถวบ้านซื้ออาหารเข้าไปกิน พฤติกรรมมนุษย์มักจะทำอะไรแบบเดิมๆ ครับ เช้านี้ผมก็กินร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิม ซื้อน้ำเต้าหู้เจ้าเดิม ก็แหม มันอร่อยสุดในย่านนี้นี่หว่า
   บ่ายพี่สาวมากับครอบครัวครบคน ปกติจะมากันไม่ค่อยครบ หลังๆ เด็กๆ ทยอยโต ไปเรียนต่างประเทศกันหมด มาเยี่ยมพ่อแม่แล้วก็พากันไปกินที่ร้านครัวลุงญาที่ศาลพันท้ายนรสิงห์อีกแล้ว ติดใจรสชาติของร้านนี้กันหมด ก็อร่อยดีครับ กุ้ง ปู กั้ง ปลา มีครบครัน รสชาติดี ราคาไม่แพงเว่อร์เหมือนร้านในเมือง
   พอจะจ่ายเงิน หยิบบิลมาดู อยากจะเลี้ยงครอบครัวบ้าง แต่เห็นตัวเลขแล้วต้องเปลี่ยนใจ มันเจ็บปวดในใจนะที่เรามีเงินมาไม่พอ พ่อแม่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก จนวันนี้ลูกผมก็ 11 ปีแล้ว ยังต้องมาควักเงินเลี้ยงกันอีก นี่จะต้องเลี้ยงกันไปถึงไหนกัน
   ผมนั่งตัวเล็กลีบอยู่ท้ายโต๊ะ ฟังเด็กๆ เขาคุยกันเรื่องเงินเดือนแล้วยิ่งท้อใจ หน้าที่การงานแต่ละคนก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลิศ ไม่ใช่แค่ดีธรรมดา มันเทพเอามากๆ เรียนจบปุ๊บได้เงินเดือนหลักเฉียดแสน ยังบ่นอุบอีกว่าน่าจะได้ทะลุแสน เพื่อนๆ เขายังได้ถึง 3 แสน
   ไม่ค่อยกล้าคุย คนไม่มีเงิน ไม่มีสิทธิ์อะไรครับ ได้แต่ฟังๆ เขาไป นึกน้อยใจในชะตาชีวิตบ้างเหมือนกัน ก็ต้องเอาความคิดบวกให้กำลังใจตัวเองปลอบไปเรื่อยๆ
   อายุมากขึ้นมันก็ทำให้ความคิดเราเปลี่ยนไปนะ เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ตั้งแต่เด็กๆ ว่าเรียนจบต้องไม่ขอเงินพ่อแม่แล้ว อายุ 25 ต้องมีเงินสัก 1 ล้านบาท และค่อยๆ เพิ่มปีละ 1 ล้านหลังจากนั้น และสุดท้ายจะเกษียณตัวเองตอนอายุ 45 ผมจะใช้เวลาที่เหลือเดินทาง และเขียนหนังสือ
   แต่ก็ได้แค่คิด ที่จริงแล้วชีวิตผมส้นตีนมากเลย ทำเหี้ยอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง 
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 15, 2013, 01:46:28 pm
14 มค 56
   เดิน 10 นาที ขี่จักรยาน 40 นาที กินข้าวเช้าแล้วก็ไปส่งมิว เลยไปทำงานต่อ
   เช้านี้เจองานยกของแบบสุดยอด คือยกรถซาเล้งขึ้นกระบะหลังขับไปร้านซ่อม ต้อยกขึ้นและยกลง ให้คนงานไปกับผม 1 คน อฐิฐานในใจว่าขอให้หลังผมอย่าเจ็บอีกเลย
   ชีวิตล่องลอยดูเหมือนใช้ชีวิตแบบอยู่ไปวันๆ นี่ความฝันของผมมันสูญไปแล้วจริงๆ หรือ
   คนหมดกำลังใจ ทำอะไรมันก็ท้อไปหมดจริงๆ นะ รู้สึกไม่มันใจเสียเลย
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 16, 2013, 02:45:16 pm
15 มค 56
   นอนเร็วก็เลยตื่นแต่เช้า ตี 4 ผมก็ลืมตาตื่นแล้ว ส่วนมิวยังคงหลับปุ๋ย ก็เพราะเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม อากาศตอนเช้าเริ่มเย็นอีกครั้ง หรือเพราะผมตื่นเช้าเกินก็ไม่รู้นะ วันนี้อากาศราว 23 C ใส่เสื้อฮู๊ดตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อ อากาศเย็นๆ แบบนี้พอได้ผ้าคลุมหัวแล้วขี่สบายดีเหมือนกัน แต่พอสักพักที่เหงื่อเริ่มซึม เปิดฮู๊ดออกรับลมเย็น ก็จะสบายตัวไปอีกแบบ
   ภารกิจยามเช้าเดิมๆ ครับ ออกกำลังกาย กินข้าว ไปส่งลูก ไปทำงาน บ่ายแวะไปเซ็นเอกสารที่คอนโด เข้าไปตรวจเช็คตู้จดหมายเจอบิลเรียกเก็บเงินค่าบำรุงรายปีสองหมื่นกว่าบาท (ตารางเมตรละ 30 บาท) คิดแล้วน่าเสียดายเงินเหมือนกันนะ ปี 54 นอนไปแค่ 3 วัน ปี 55 นี้ยังไม่เคยเข้าไปนอนสักวัน ส่วนปี 56 นี้ยังไม่รู้ชะตากรรม
   เย็นไปรับมิว เห็นเขากำลังเล่นบาสกับเพื่อนๆ จำนวนคนเล่นข้างละสิบกว่าคนยังกะเล่นฟุตบอล เด็กๆ กรูกันวิ่งตามลูกบาสลูกเดียว คนไหนตัวโตตัวสูงก็จะได้จับลูกมากหน่อย บางคนตัวเล็กแต่ว่องไวก็ได้ชู๊ทบ่อย
   มิววิ่งจนหน้าแดงก่ำ ได้จับลูกไม่กี่หน ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็นั่งดูลูกของตัวเอง ก็น่าจะแอบลุ้นเชียร์อยู่ในใจเหมือนผม
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 22, 2013, 03:25:34 pm
 16 มค 56
   ขี่จักรยานไป 30 นาที วันนี้วันครู โรงเรียนมิวหยุด ไม่ต้องเร่งรีบออกจากบ้านไปส่งเหมือนทุกวัน แต่มิวขอตามออกไปข้างนอกด้วย อยู่บ้านคงจะเบื่อ ไม่มีเพื่อนเล่น
   อยู่ร้านจนถึงบ่ายแก่ๆ แวะไปไปรษณีย์ สอนมิวส่งธนาณัติ เขาอยากได้หนังสือรวมเล่มชื่อ “ซุกสุข” ของเดลินิวส์ ราคา 159 บาท เลยพาเขาไปดูขั้นตอนวิธีการสั่งซื้อธนาณัติ อีกหน่อยจะได้ทำเองเป็น มิวขอซื้อแสตมป์วันเด็กปี 56 ด้วย สแตมป์วันเด็กปีนี้สวยมากครับ เป็นรูปเด็ก 10 ประเทศในประชาคมอาเซียนยืนเรียงแถวกัน แสตมป์ดวงละ 5 บาท จัดชุดมาแผงละ 5 ดวง ขาย 25 บาทเท่าหน้าแสตมป์ ก่อนกลับขอซื้อสแตมป์ชุดรวมนายกรัฐมนตรีไทยในรอบ 80 ปี ตั้งแต่ พศ 2475-2555 ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะชอบแนวนี้นะ ก็จัดไปครับ มีภาพตั้งแต่นายกคนแรกของไทย พระยามโนปกรณนิติธาดาไล่มาทีละคนจนถึงทายาทอสูรยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
   เห็นแล้วนึกท้อสงสารประเทศไทยเราจริงๆ ครับ นักการเมืองมัวแต่คิดถึงประโยชน์ส่วนตัวกันท่าเดียวเลย เอือมระอาจริงๆ อยากให้บินลาดินเอาเครื่องบินมาพุ่งชนรัฐสภาไทยตอนมันกำลังประชุมใหญ่กัน ถ้าทำได้จริง เราก็จะมีนักการเมืองรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
   ไทยเราล้าหลังโคตรๆ จนไม่อยากทนแล้ว สองวันก่อนกัมพูชาเพิ่งจะเปิดตัวรถไฟฟ้าคันแรกของประเทศเขา เมื่อปลายปีเราประมูล 3G พร้อมๆ กับลาวเปิดใช้ระบบ 4G อย่างเป็นทางการ ประเทศไทยเราไปไม่ได้ถึงไหน ก็เพราะพวกนักการเมืองนี่แหละครับ พวกมันมีสโลแกนว่า พูดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง
   เช้านี้ขับรถอยู่ตรงเชิงสะพานพุทธ รถก็น้อยๆ นะ จู่ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์นำขบวนบิดพุ่งออกมาจากถนนอรุณอัมรินทร์ ปาด 4 เลนเพื่อจะมาชิดขวาสุดขึ้นสะพานพุทธ
   โห แม่งบิดออกมาราวกับว่ามันไม่เห็นรถผมเลย ต้องเบรกกันหัวทิ่ม
   ทหารเรือขับรถใหญ่นำขบวน โดยมีรถเบนซเจ้านายขับตามหลัง เปิดไฟกระพริบ มันมากันแค่สองคันนี่แหละ 
   รีบไปมากเลยหรอ ถึงกับเสี่ยงขนาดนี้เลยหรอ นี่เขาตระหนักไหมนะว่ารถของเขาทั้งสองคันที่ขี่ที่นั่ง เงินเดือนของทุกคนในกลุ่มนั้น มาจากเงินภาษีที่ผมจ่าย
   ใช่ เงินกู แต่มึงมียศมีอำนาจไง มึงก็เลยคิดว่ามันเป็นความถูกต้องและชอบธรรม มึงก็เลยชอบทำอะไรเหี้ยๆ ตามใจตัวเองจนเป็นนิสัย ทีนี้พอทำบ่อยเข้าก็ได้ใจ ใครขัดเข้าหน่อยก็เหมือนเสียเหลี่ยมเสียฟอร์ม
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 22, 2013, 03:27:27 pm
17 มค 56
   ลมหนาวระลอกสุดท้ายเริ่มเข้ามาวันนี้วันแรก ฟังพยากรณ์อากาศเขาบอกว่าจะมาถึงสุดสัปดาห์นี้เป็นล็อตสุดท้ายแล้ว ทำใจเข้าฤดูร้อนได้เลย โถๆ ไม่นะ
   เจ้าของร้านไปต่างจังหวัด ผมต้องอยู่เฝ้าร้านเช้าจรดค่ำ 3 วันหลังจากนี้ คิดบวกอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะอยู่ได้
   เย็นไปรับมิวแล้วก็กลับมาเฝ้าร้านต่อ ถึงบ้านสามทุ่มกว่า วันนี้ได้กลับเร็วหน่อย
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 22, 2013, 03:29:25 pm
18 มค 56   
   ขี่จักรยานยามเช้าดูจะเป็นความสุขอย่างเดียวที่ผมพอจะทำได้ เช้านี้อากาศหนาวเย็นอีกแล้ว 22C ขำขำ ใส่ฮู๊ดขี่สบายๆ เสื้อตัวนี้ซื้อมาแล้วคุ้มจริงๆ
   เช้าไปส่งลูก สายไปทำงาน เย็นรับลูกกลับมาเฝ้าร้านต่อ อยู่จนดึกปิดร้าน
   จบไปอีก 1 วัน
   ไม่ได้ใช้สมองทำงานเลยสักนิด
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 22, 2013, 03:31:18 pm
19 มค 56
   ใส่ฮู๊ดขี่จักรยานรับลมเย็นวันสุดท้ายของฤดูการ ต่อจากนี้ก็จะอุ่นขึ้นเรื่อยๆ และเข้าสู่หน้าร้อนจัดในเดือนเมษายน เช้านี้เย็นดีมากครับ 21C ขำขำ ใส่เสื้อตั้วนี้มาหลายครั้ง ถูกใจจริงๆ ดูในท้องตลาดก็ไม่ค่อยเห็นมีขายนะไอ้เสื้อมีฮู๊ดแต่ผ้าบางนี่น่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าหนาๆ หนักๆ แค่เสื้อตัวเดียวใส่ไปกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของ Panniers เลย รับไม่ได้จริงๆ
   ส่งมิวเรียนพิเศษที่เสริมวิชาตอนเช้า ผมไปทำงานต่อ อยู่เฝ้าร้านจนถึงเย็น
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 22, 2013, 03:34:12 pm
20 มค 56
   เช้านี้แล้วสินะ ทริปใหญ่ประจำปีที่กลุ่มสวนธนฯจัด กรุงเทพ-หัวหิน ระยะทางประมาณ 200 กม สองจิตสองใจว่าจะไปดีไหม คนอื่นเขากังวลเรื่องจะกลับอย่างไร เพราะปีนี้เจ้าภาพไม่ได้จัดรถรับกลับเหมือนปีก่อนๆ (เพราะมีคนลงทะเบียนแล้วเบี้ยวหลายคน)
   ผมก็สองจิตสองใจว่าจะไปดีไหม แต่ผมกลัวเรื่องตัวเองจะขี่ไหวหรือไม่ จะไปเป็นภาระของรถเซอร์วิสเขาหรือเปล่า แถมระยะนี้ก็ไม่ได้ซ้อมอะไรสักนิด น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นอีก 1 กก
   คงจะเพราะความเครียด นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผมดุว่าลูกแล้วรู้สึกแย่จริงๆ ผมอารมณ์เสียเองแท้ๆ วันนี้เจอลูกเลยเรียกเขามากอด แล้วบอกขอโทษที่ดุว่าเขาอย่างรุนแรง พอพูดขอโทษออกไป ใจเราก็รู้สึกสบายขึ้นนะ และก็เป็นบทเรียนที่ผมต้องจำว่าคราวหน้าควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดีกว่านี้
   ออกจากบ้าน 0600 ขี่ไปศูนย์เยาวชนเฉลิมพระเกียรติ บางมด แม้จะไม่ได้ไปร่วม ก็ขอไปซึมซับบรรยากาศก็ยังดีวะ เจอคนคุ้นหน้าหลายคนครับ ได้แต่ส่งยิ้ม คุยทักทายสวัสดีครับ จะมีคนรู้จักจริงๆ ก็คือพี่ๆ ในสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพนี่แหละ พี่คากิ พี่ป๋อง พี่หล่อ ฯลฯ
   พอยืนอยู่ตรงนั้นแล้วอารมณ์มันฮึกเหิมดีนะ ผู้คนค่อยๆ ทยอยมาเรื่อยๆ มีหลายกลุ่มมาจากต่างจังหวัดไกลๆ เช่น ชลบุรี ลพบุรี สุพรรณ ฯลฯ นับถือใจจริงๆ
   ผมรู้สึกอยากรีบกลับไปเปลี่ยนชุดทันทีก็ตอนได้ยินพิธีกรท่านบอกว่า ลุงบ็อบจะขอขี่ระยะทาง 200 กม ลงหนังสือกินเนสบุ๊คนี่แหละ ลุงบ็อบตอนนี้คงอายุสัก 85 แล้วมั้ง (เดา) ผมอยากขี่ให้ได้อย่างลุงครับ ลุงคืออีกหนึ่งคนในต้นแบบของผม อายุ 85 ผมก็จะขอขี่ให้ได้อย่างลุง ผมจะทำให้ได้
   ยืนสูดบรรยากาศ บอกตัวเองว่าปีหน้า จะขอมาร่วมงานกับเขาบ้าง มากับไอ้ KHS HT คันที่ขี่อยู่นี่แหละครับ ไปกับอุปกรณ์ทัวริ่งครบชุดอีกด้วย ก็แหม อุตส่าห์เดินทางไกลถึง 200 กม แล้วก็ขออยู่ต่ออีกสักวันน่า เลยไปให้ถึงอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดกันไปเลย
   “พี่ครับๆ รถคันนี้ยี่ห้ออะไรหรือครับ”    
   “KHS ครับ” ผมตอบพร้อมกับหันไปส่งยิ้ม
   “ผมชอบรถทัวริ่งครับ ชอบรถอย่างพี่มากเลย แพงไหมครับ พี่หาซื้อจากไหนมาครับ”
   “มันเก่ามากแล้วล่ะครับ อายุ 19 ปีแล้ว ของใหม่ก็มีอยู่นะ แต่มันคนละทรงกันแล้ว”
   “เป็นรถของประเทศอะไรหรือครับ”
   “ยี่ห้อของ USA วัสดุของ USA แต่ประกอบเชื่อมเฟรมที่ไต้หวันครับ”
   ดูเขาจะสนใจรถผมเอามากๆ ไม่รู้ว่าชอบ KHS หรือว่าชอบตรงที่มันดูคล้ายรถทัวริ่ง คุยกันอยู่พักใหญ่ เขาชื่อคุณต๋อง มาจากลพบุรี อ ลำนารายณ์ ใกล้ๆ เขื่อนป่าสัก มากันกลุ่มใหญ่สิบกว่าคัน หลงทางมาตลอด มาค้างคืนเอาแถวนี้ ตั้งใจจะมาร่วมงานขี่ทริปนี้เป็นครั้งแรก (ทริปนี้จัดมาเป็นปีที่ 12 แล้ว)
   ผมสิ บ้านอยู่แถวนี้แท้ๆ ดันไม่เคยมาร่วมทริปแม้แต่ครั้งเดียว
   ปีหน้าครับ ปีหน้าเจอกัน
   
   ขี่กลับบ้านแบบสบายๆ แดดอ่อนๆ ลมหนาวยังพอมีอยู่ แวะตลาดซื้อบะหมี่แห้งกลับมากินเป็นมื้อเช้า พอสายก็ล้างบ่อปลาใหญ่ เปลี่ยนน้ำแค่ 50% พอ กลัวปลาช็อคน้ำตาย กว่าจะเสร็จก็เที่ยง คอเคล็ดเลย สงสัยก้มๆ ค้างไว้มากตอนดูดของเสียออกจากก้นบ่อ
   เสริชหาเรื่องเกี่ยวกับความฝัน เจอข้อความขออากิ รุ่นน้องชาวญี่ปุ่นที่รู้จักกันมานานแล้วก็ขาดการติดต่อไป คุ้ยหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนเจอเฟซบุ๊คของเขา ดีใจมากเลย ผมรู้จักกับอากิและดนัยพร้อมกันตอนไปทริปอัมพวากับสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพ ปี 52 มั้ง ยุคนั้นผมยังขี่จักรยานได้บ่อย หลังยังไม่เจ็บถาวร
   แรกเจอสองคนนี้คิดว่าเป็นพี่น้องกัน หน้าตาแนวญี่ปุ่นทั้งคู่ แต่งตัวแต่งรถก็เรียบง่าย พูดคุยกันไปตลอดทาง ทั้งสองคนเขาขี่เสือหมอบครับ มีผมนี่แหละที่ขี่ MTB ใส่ตะแกรงหลัง ไม่มีเงินซื้อรถทัวริ่ง ก็ทำให้มันใช้งานได้เหมือนพวกทัวริ่งเขาก็ยังดี
   ในเรื่อง Ultamate Biking Experience - UBX ในตอนหนึ่งมีตัวละครชื่อ mai (มาอิ) ขี่เสือหมอบสีขาว เพนท์ลายดอกซากุระสีชมพู อ๊ะใช่เลย ลุคคล้ายกับอากิจังรุ่นน้องคนนี้อย่างมาก แถมชื่อก็คล้ายกันอีกด้วย แจ๋วไปเลย
   เล่าให้อ่านนิดๆ พอสนุกนะ เคนไปขี่จักรยานขึ้นอินทนนท์ ไปเจอกับมาอิที่ตอนใกล้ถึงยอดดอย ตัวเองขี่รถกะโหลกกะลามาก ตามเสือหมอบแรงๆ ไม่ทัน ก่อนที่จะทิ้งหายไป มาอิหันมาพูดว่า “ปีหน้าพบกันใหม่นะ”
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 22, 2013, 03:36:44 pm
21 มค 56
   เช้าวันจันทร์เวียนมาอีกหน ขี่จักรยานอีกเช่นเคย ทำได้แค่ 30 นาทีก็ต้องเข้าวงจรชีวิตเดิมๆ ตอนเช้ามียกแบกของเล็กน้อย ค่อยๆ เกร็งลำตัวดีๆ ย่อตัวลงต่ำมากๆ เข้าไว้ จับสินค้าให้มั่นแล้วออกแรงจากขายกตัวเองขึ้นมา
   โห แม่งลำบากยากเย็นขนาดนี้เชียวหรือนี่
   บ่ายเอารถกระบะไปซ่อม รถใช้งาน จอดตากแดดจนมือเปิดประตูหัก ยังดีที่มีร้านแถวบ้าน เป็นร้านเล็กๆ ริมถนนพระราม 2 ร้านก็เล็กๆ เงียบๆ เจ้าของทำเองอยู่กับบ้าน ดูไปพลางก็คิดว่า ร้านแบบนี้ขายแต่ค่าวิชา มันจะอยู่ในโลกธุรกิจได้อีกนานแค่ไหนกันนะ
   ทำมือเปิดแค่ 2 นาทีเสร็จ เลยให้ช่วยดูเข็มขัดนิรภัยที่ไม่ยอมดึงกลับ ช่างรื่ออยู่ 30 นาที เอาเข็มขัดออกมาถอดเป็นชิ้นแล้วประกอบใหม่ เขาบอกสปริงมันหลุด แต่ใส่ใหม่แล้วมันไม่ลื่นปรื๊ดเหมือนเดิม เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
   เขาคิดค่าใช้จ่าย 450 ค่าของ 280 ที่เหลือคือค่าแรง เสร็จแล้วก็ไปรับมิวต่อ
   กลับมาบ้านตอนเย็นเจอหนังสือซุกสุขที่มิวสั่งซื้อไว้ส่งมาถึงบ้าน คงไม่ต้องบอกว่าเขารู้สึกอย่างไร
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 23, 2013, 01:35:17 pm
22 มค 56
   เช้านี้เดินออกกำลังกายแทน ขี่จักรยานมาแทบทุกวัน พุงไม่เห็นจะลด ซ้ำยังเพิ่มมาอีก 1 กก เฮ้ย มาได้ไง มากับความเครียดหรือนี่
   เดินเร็วพร้อมกับควบคุมการหายใจไปด้วย หายใจเข้าลึกๆ ค้างไว้นิดๆ แล้วผ่อนออกให้หมดปอด กินข้าว ไปส่งลูก และไปทำงาน
   บ่ายมีช่างมาซ่อมรีโมทประตูรั้ว และซื้อเพิ่มอีก 1 ตัว โดนไปตัวละ 1000 บาท หึหึ ช่วงนี้มีไอ้แพดให้รูดเล่นแก้เหงา เลยออนไลน์ได้บ่อย นึกสนุกจึงโพสหาเพื่อนในเวปจักรยานนี่แหละ เลือกห้องทัวริ่ง ห้องนี้เพิ่งเปิดใหม่ ผมว่าแนวรถทัวริ่งคงจะไปได้ดีอีกนานมาก
   ก็ชวนแอดเฟซบุ๊คคุยกันน่ะครับ ผมไม่ค่อยสนใจโปรแกรมพวกนี้หรอก ลองใช้ตามลูกน่ะ ก็เลยเอาบ้าง ลูกมีเพื่อนๆ เต็มไปหมด ผมสิมีไม่กี่คน แถมบางคนมาเป็นเพื่อนจากไหนก็ไม่รู้ ผมไม่รู้จักไง เลยคิดว่า เอ๊ะ ถ้าเราไม่กดรับมันจะเสียมารยาทไหม หรือบางคนแอทเป็นเพื่อนแล้วแต่ไม่เคยคุยกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมถามอะไรไปก็ไม่เคยตอบกลับมา ไอ้แบบนี้ถ้าเราลบเขาออกจากลิสต์ มันจะผิดมารยาทในโลกไซเบอร์ไหม
   5 นาทีถัดมา มีคนมาขอแอทผม 2 คน และตลอดคืนนี้มามาอีก 5 คน เย้ๆ
   แต่แปลกนะ ไม่เห็นมีใครทิ้งชื่อเฟซบุ๊คให้ผมแอทบ้างเลย คิดอีกแง่ เขาคงไม่อยากคุยกับผมก็เป็นได้ ฮ่าๆ
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 24, 2013, 02:03:19 pm
23 มค 56
   เช้านี้อากาศเย็นหายไปเกลี้ยง เดินตอนเช้า 30 นาที แต่ใช้เทคนิคใหม่ เดินหน้าและเดินถอยหลังสลับกัน แป๊บเดียวเหงื่อซึมเลย จากนั้นมาขี่จักรยานต่ออีก 10 นาที โอ้โห เห็นความแตกต่างชัดเจน ร่างกายที่วอร์มอย่างดีแล้ว พอมาขี่จักรยานนี่ออกแรงนิดเดียวรถแล่นฉิว
   เช้านี้เอารถของผมขับไปส่งลูกครับ จอดนิ่งๆ มานาน กลัวแบตเสีย รถคันนี้ผมชอบมาก ขับเมื่อไหร่ก็สนุกเมื่อนั้น เครื่องยนต์ 2.0 Turbo แต่ตัวรถมันเบา ราว 1.2 ตัน ทำให้อัตราเร่งดีมาก ที่ผ่านมาเป็นเดือนใช้รถพ่อมาตลอด พอมาวันนี้เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า ช่วงล่างไม่ค่อยดีแล้วล่ะ เราก็ปรับตัวเข้าหามันซะ ถ้าจูนเข้ากันลงตัวเมื่อไหร่ รถกับคนก็จะแสดงสมรรถนะออกมาได้เต็มที่
   ผ่านวงเวียนใหญ่ รถติดๆ เลยเปิดเฟซบุ๊คลองกดปุ่มเช็คอิน กดปั๊บ มันขึ้นหน้าจอเลยว่าวงเวียนใหญ่ แต่อยู่จังหวัดเชียงใหม่โน่นเลย เฮ้ย งงสิ เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คคิดว่าผมขี่จักรยานทางไกล ต้องแก้ข่าวบอกว่าเปล่าๆ ไม่ได้ไปไหน ไม่รู้ผมทำอะไรผิดนะ
   เย็นแวะซื้ออาหารปลาอีกแล้ว ช่วงนี้ปลาโตเยอะมาก รุ่นลูกนี่ตัวใกล้จะเท่าพ่อแม่มันแล้ว ปกติมันผสมพันธุ์กันแทบทุกวัน จะมาหยุดช่วงหนาวนี้แหละ เมื่อก่อนอาหารปลาถุงละ 200 อยู่ได้เป็นเดือน พอมาตอนนี้ไอ้ถุงละ 200 นี่อยู่ได้แค่อาทิตย์กว่าๆ หึหึ มีแบบตัวโตร้อยกว่าตัวแล้ว (ของดั้งเดิมมีแค่ 7 ตัว)
   ก่อนนอนเล่นกับมิว ต่อสู้ ปล้ำกอด จั๊กจี๋กัน สนุกดี
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 25, 2013, 01:27:32 pm
24 มค 56
   เช้านี้เดินออกกำลังกายแบบเมื่อวาน แถมด้วยการหายใจแนวใหม่ ไปอ่านจากหนังสือสุขภาพมา หายใจเข้า 3 วิ ค้างไว้ 5 วิ และปล่อยออก 7 วิ ทำไปงั้นๆ แหละ ไม่รู้สึกอะไรหรอก เขาบอกว่าดี เราก็เออออไปด้วย เดิน 15 นาที ขี่จักรยานต่ออีก 30 นาที
   ขับรถแล้วติดใจ วันนี้เอารถตัวเองไปขับอีก ตอนไม่มีแดดก็โอเคล่ะนะ พอกลางวันแดดร้อนๆ นี่สิ แสบแขนเลย ยังไม่ได้ติดฟิล์มครับ มาแบบใสๆ เลย
   ผ่านวงเวียนใหญ่อีกแล้ว ลองเช็คอินในเฟซบุ๊คดีกว่า กดปั๊บ แม่งขึ้นเชียงใหม่เหมือนเมื่อวานอีกแล้ว เฮ้ยย แก้ไงวะนี่ มันต้องเซ็ทอะไรเพิ่มอีกหรือนี่ ผมทำไม่เป็น
   บ่ายโทรหาอัน มือจัดเลย์เอาท์หนังสือ คุยเกริ่นให้พอรู้แนวทางกันแล้วก็ให้เขาส่งเมลล์ผลงานมา ยังดีที่บ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก แบบนี้พอไหว ประสานงานง่ายหน่อย ยังไงก็ต้องค่อยๆ ดูกันไปครับ
   รู้จักกันวันแรก เลยขอดูผลงานของเขาสักหน่อย อยากรู้สไตล์ แนวทาง ที่จริงถ้าจะร่วมงานกันจริงๆ นี่ต้องคุยกันอีกเยอะพอควร ถ้าเขาขี่จักรยานหรือเล่นรถยนต์ด้วยมันจะยิ่งสุดยอดมากๆ
   มีคนทยอยแอทผมในเฟซบุ๊คมาวันละ 2-3 คน เริ่มอายเพราะว่าในหน้าเฟซบุ๊คของผมมันแทบไม่มีเรื่องราวของจักรยานอะไรเลยสักนิด ไว้ต้องค่อยๆ ทยอยเอาภาพสวยๆ ไปลงบ้างคงจะดีกว่านี้
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 27, 2013, 09:28:57 am
25 มค 56
   เช้านี้อากาศเย็นนิดๆ เดินออกกำลังกาย ตามด้วยขี่จักรยาน ชิวิตผมคงจะขาดการออกกำลังกายไปไม่ได้แน่ เพราะทุกครั้งที่ขี่จักรยาน รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน แถมตอนที่ขี่คนเดียวมักจะมีไอเดียต่างๆ ทางด้านธุรกิจแว่บเข้ามาเสมอ เรื่องใดในชีวิตที่หาทางออกไม่ได้ ตัดสินใจลำบาก ขี่จักรยานคนเดียว แป๊บเดียวก็สามารถสรุปได้
   นี่กระมังที่ทำให้ผมชอบขี่คนเดียว มันเริ่มจากมีเวลาว่างไม่ตรงกับกลุ่มเขาน่ะ พอนานเข้าเราก็ชิน กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของเรา แต่ขี่กับกลุ่มก็สนุกดีล่ะ มันได้เพื่อน ได้สังคม ได้สนุก และอีกอย่างคือ “ไปด้วยกัน ไปได้ไกล”
เข้ามาบ้านตอนบ่าย มีเวลาส่วนตัวเล็กน้อย รีบเช็คเมลล์ ดูผลงานที่อันส่งมาให้ ดูโปรไฟล์ประวัติของเขา เห็นเขาว่าถ่ายรูปได้ด้วย (ยังไงก็น่าจะดีกว่าผม) ขั้นตอนต่อไปคือผมนี่แหละครับต้องสรุปแนวทางของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั่นค่อยนัดอันคุยในรายละเอียดต่อไป
   ไอเดียเยอะโคตรจนออกแนวฟุ้งซ่าน จะเรียกว่าได้แต่คิดก็ไม่เถียงล่ะนะ อัดอั้นมานานไง มีสมุดจดไอเดียต่างๆ เต็มไปหมด ตอนนี้เลยต้องคัดๆ อันไหนที่เด็ดๆ และทำได้จริงออกมาก่อน
   อ่านในเฟซบุ๊ค “ป๋าโน” บอกว่าวันนี้รับสมัครขึ้นอินทนนท์วันสุดท้าย
   ผมยังไม่ได้โอนเงินอะไรให้เขาเลย
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 27, 2013, 09:33:52 am
26 มค 56
   ออกกำลังกายนิดหน่อย รีบออกจากบ้านไปส่งมิว วันเสาร์เขาเรียนพิเศษเช้าและบ่าย ให้กำลังใจเขาเสมอ สอนให้คิดถึงเป้าหมายเราเข้าไว้ มีความมุ่งมั่น อดทน สักวันเราทำฝันของเราสำเร็จ เราจะรู้สึกสะใจสุดๆ
   สอนลูกแล้วก็เอาคำสอนนั่นมาปฏิบัติเองด้วยนะ แต่จิตใจของผมมันอ่อนล้าเหลือเกิน มีไอเดียโน่นนี่มากมาย แต่ไฟมันไม่แรงเหมือนเมื่อก่อน ขอเวลาชาร์จไฟให้เต็มประจุอีกสักนิด
   นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีไอเดียแรงขนาดนี้ ผมแม่งรีบฟอร์มทีมทำทันทีเลย นี่เราใกล้จะหมดไฟแล้วหรอ หรือเรามีเรื่องใดกังวลหรือ สรุปคำตอบออกมาได้ก็คือ หากทุ่มกับงานเต็มที่ ผมก็จะมีเวลาดูแลลูกน้อยลง
   ตั้งใจจะเลี้ยงลูกเองตั้งแต่เขายังไม่เกิด จะไม่จ้างใครเลี้ยง จะไม่โยนให้พ่อแม่ดูแล ลูกของผม ผมจัดการเอง มันจะต้องเจ๋งกว่าผมเป็นสิบเป็นร้อยเท่า
   ช่วงนี้ผมเข้าเฟซบุ๊คบ่อย เพราะไปให้แอทเดรสกับกลุ่มจักรยานเขาไว้ มีบางคนมาชวนคุยและสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับจักรยาน ก็สนุกดีครับ แต่เล่นมากมันก็จะเสี่ยเวลาทำงานสร้างสรรค์ไปเยอะเหมือนกัน
   พอเปิดนานเข้าก็มีกลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัยแอทเข้ามา บอกว่าเสิร์ชหาเจอ มีกลุ่มเพื่อนอัสสัมชัญเข้ามาอีกขโยง ยิ่งตอนนี้มีข่าวประท้วงไล่บราเดอร์ออกอีกด้วย ยิ่งแรงเข้าไปใหญ่ ในขณะที่เพื่อนกลุ่มสวนกุหลาบก็ส่งข่าวคุยกันสม่ำเสมอ
   โห หลายกลุ่มจัดจริงๆ
   ยิ่งมีไอ้แพดมาช่วยนี่ทำให้ออนไลน์ได้สะดวกรวดเร็วมาก ก่อนนอนยังเปิดเล่นเลย แต่ก็อธิบายลูกนะว่าเราเปิดบ่อยเพราะอะไร กลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัยจะชวนกันจัดงานมีทติ้ง ไม่ได้เจอกันมาตั้งแต่ปี 90 โน่น
   เจอหน้าเฟซบุ๊คของพี่ธานินท์ เขาขายรถยี่ห้อ rit ตอนแรกผมเฉยๆ เพราะเขามีแต่สีดำ ผมไม่ถูกฉโลกกับสีนี้จริงๆ ขับรถสีดำได้ไม่นานมีอันต้องแยกจากกันทุกที เริ่มจาก Supra สีดำ Dahon Vitesse สีดำ
   แต่เฟรมที่ผมเห็นมันเป็นแบบ raw lacquer ดิบๆ ด้านๆ สีออกเทาไทเทเนียมโทรมๆ ถูกใจมากจริงๆ เพราะผมอยากได้รถแนว rat bike มันดูเก่าๆ เหมือนกับทำยังไม่เสร็จ ไม่ได้ทำสี ชอบ ๆ ๆ
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 28, 2013, 02:30:55 pm
27 มค 56
   เอาจักรยานออกขี่แต่เช้า ซัดไปได้หน่อยเดียวก็วกกลับบ้าน ฝนตกครับ ใช้เดินออกกำลังกายแทน ฝนยังคงตกปรอยสลับหยุด ตอนสายหน่อยตกแรงเทมาสองล็อต มาหยุดสนิทเอาตอน 0900
   ไอเดียกระฉูด เห็นกลุ่มป๋าโนและเพื่อนๆ ในเวปจักรยานไปซ้อมที่เขาใหญ่กัน เพราะอาทิตย์หน้ามีงานแข่งขึ้นอินทนนท์ ผมอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ซ้อมอะไร คิดท่าออกกำลังกายบริหารแทน วันนี้ได้ท่าใหม่ที่เวิร์คสุดๆ เวิร์คแบบเว่อร์ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเล่นแค่ 1 นาที ตะคริวกิน !!!
   ผมไม่เคยโดนตะคริวมาตั้งแต่ปี 52 แล้ว ขึ้นอินทนนท์นี่ไม่มีตะคริวแม้แต่น้อย แต่เช้านี้เกือบล้ม เป็นท่าเดินแบบใหม่ครับ เดินแค่ 1 นาทีเท่านั้นเอง กลับมาบ้านขึ้นลงบันไดบ้านไม่ไหว แทบคลาน !!!
   เหมือนเว่อร์ แต่เรื่องจริง นี่ขนาดรู้ตัวรีบ Stretch ยืดกล้ามเนื้อเรียบร้อยแล้วนะ เลยรีบพักครับ กลัวกล้ามเนื้อเสียหาย เดินเล่นในบ้านยังแทบไม่ไหว ขาจะพับหมดแรงล้มไปเลย
   เอาไงดีวะ กลัวเดี้ยง เอารถพับ Neobike 16 ออกขี่ดีกว่า คันนี้ใช้น้อยมาก ปกติจะให้แม่บ้านใช้ขี่ไปตลาด วันนี้เอามาลองหน่อย ขี่แล้วมันหนักดีครับ GI สูงมาก กดออกตัวต้องใช้แรงเยอะ แต่พอรถแล่นแล้วเติมน้อย รถเก่าโทรมไม่ลื่นไหล พอหยุดปั่นรถจะไหลฟรีไม่ไกล คนอื่นอาจไม่ชอบ แต่ผมว่ามันทำให้เราได้ออกแรงเยอะกว่าปกติ คิดบวกไง มีเวลาน้อย แต่ออกแรงได้เยอะกว่า เผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า
   ข้อเสียของไอ้คันนี้คือเบาะมันเจ็บก้นครับ เดี๋ยวนี้ก้นผมไฮโซไปแล้วตั้งแต่ใช้ Brooks นั่งเบาะอื่นแล้วไม่ถูกใจเลย แต่ก็ต้องคิดบวกนะ ถือเสียว่าเป็นการฝึกให้ก้นเราแข็งแรงขึ้น เผื่อเจอทริปโหดต้องขี่ยาวต่อเนื่อง อย่างอินทนนท์นี่ถ้าผมไปต้องมีไม่น้อยกว่า 6-7 ชม แน่นอน
   ฝนตก ไม่ได้ไปตลาด อาหารเช้าวันนี้คือส้ม 4 ผล ตามด้วยอัลมอนด์อบ 1 กำมือใหญ่ ทำความสะอาดบ่อปลานิดหน่อย กลางวันหิวไม่มีอะไรกิน เอามาม่ามาเคี้ยวกินกรอบๆ พอกินเสร็จปุ๊บ แม่เข้ามาบ้านพร้อมกับอาหารเยอะแยะ อืมม ช่างพอเหมาะพอเจาะจริงๆ เลยซัดราดหน้าไปอีกห่อ ขำขำ
   ขาปวดไม่หายเลยครับ เดินไปไหนลำบากมาก ไม่น่าเล่นท่าพิสดารเลยกู เดินพื้นราบยังยาก ขึ้นลงบันไดไม่ต้องพูดถึง ต้องเกาะกอดราวบันไดตลอดเวลา ตอนขึ้นนี่พอเกร็งๆ สู้ได้ แต่ตอนลงนี่สิ ขามันแบบอ่อนแรงไปเลย กลัวจะกลิ้งเอา
   จนถึงเย็นก็ยังเดินไม่ไหว ฉิบหายแล้วครับท่านผู้ชม ลอง Stretch อีกรอบวะ จะดีขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำแบบเก้ๆ กังๆ ต้นขามันเจ็บไปหมด เกร็งไม่ได้เลย แทบทรุด
   เย็นกินข้าวที่บ้านกับพ่อแม่ ภรรยา และลูก พร้อมหน้าพร้อมตากันในรอบเดือน ปกติจะต่างคนต่างกินสลับเวลากันแล้วแต่ใครจะสะดวก เสร็จแล้วผมก็ขี่ Neobike 16 ต่ออีก 30 นาที หัวค่ำรู้สึกเหมือนมีลมเย็นๆ ครับ อากาศสบายดีจริงๆ เลย ขี่จนก้นเริ่มตึงๆ ถึงได้หยุด ตอนขี่จักรยานไม่เจ็บต้นขานะ แต่พอลงเดินเท่านั้นแหละ เจ็บอีกแล้ว
   คืนนี้ผมหลับสบายแน่ แต่พรุ่งนี้ไม่รู้กล้ามเนื้อต้นขาจะเป็นอย่างไร
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 29, 2013, 04:42:45 pm
28 มค 56
   ฉิบบบบบบ หายยย เจ็บต้นขาฉิบหายเลย นอนตะแคงทับขายังเจ็บ พอจะกัดฟันเดินขึ้นบันไดได้ แต่เดินลงไม่ได้ ต้องใช้วิธีเดินถอยหลังลง (ใคตรคลาสสิคเลย)
เมื่อคืนฝนตกหนัก ตกมาสองล็อต เช้านี้ปลาทองผสมพันธุ์กันทันที แต่น่าเสียดาย อ่าง กระถางเต็มหมดแล้ว ไม่มีที่ให้เก็บเพาะไข่ นึกถึงเมื่อก่อนผ่านมาสิบกว่าปีเลี้ยงปลาแบบปล่อยๆ ไม่ค่อยได้ดูแลอะไรมันนัก ไม่เห็นจะมีไข่มีลูกให้เห็น พอมาตอนนี้สิ จะให้ผสมวันไหนยังเลี้ยงแบบสั่งได้เลย
   เช้านี้ขี่จักรยานรับลมเย็นไปอีก 30 นาที ขี่เบาๆ ครับ ทดลองออกแรงกดบันไดดูรู้สึกตึงๆ ขา ออกแรงมากไม่ได้แน่เลย อีก 6 วันจะถึงงานขึ้นอินทนนท์ เอาไงดีวะนี่ ขี่ไปคิดไปเรื่อยเปื่อย ผมคิดเรื่องธุรกิจได้มากมายจริงๆ นี่ถ้าเป็นมหาเศรษฐีคงจะโทรสั่งให้ลูกน้องไปทำตามที่ผมคิดฝันไปแล้ว
   คนเรามีหลายแบบนะครับ บางคนถนัดเป็นหัวคิด บางคนถนัดทำ ผมอยู่ในคนกลุ่มแรก ชอบงานคิดสร้างสรรค์ อะไรแปลกใหม่ ขวางโลก นี่ถนัดเลย ไอ้ที่คนบอกเป็นไปไม่ได้ บ้า นั่นแหละ ใช่ผมเลย
   ตอนเล่นรถจักรยาน BMX ก็แต่งแบบแปลกๆ ขับรถยนต์นี่ยิ่งไปไกลใหญ่เลย อายุแค่ 18 ก็ขับรถยนต์ที่เป็นลายม้าลายทั้งคัน และเปลี่ยนลวดลายทุกปีจนจบมหาวิทยาลัย
   ก็ถึงขนาดออกแบบบ้านเอง สร้างบ้านเอง (แค่คุมงาน ไม่ได้ลงมือก่ออิฐ) เป็นบ้านสไตล์ Loft ที่สร้างในปี 90 และยังคงดูโดดเด่นมาจนถึงทุกวันนี้ (ดูรูปประกอบประจำวันนี้) ยุคนั้นยั้งไม่มีอินเทอร์เนทนะครับ เอาแค่คอมพิวเตอร์ธรรมดาๆ ก็ชุดละแสนกว่าบาทเข้าไปแล้ว เด็กวัยรุ่นคนอื่นมีรถขับส่วนตัวก็เจ๋งเท่แล้ว พอเพื่อนมาเห็นบ้านส่วนตัวของผมแล้วตกตะลึง เฮ้ยย มึงมีอย่างนี้ด้วยหรอ
   คนแก่ชอบเล่าเรื่องอดีตอีกแล้วสินะ
   ยอมรับว่าเป็นกังวลกับไอ้ต้นขาที่เจ็บนี่จริงๆ สองจิตสองใจว่าจะออกกำลังกายเบาๆ ดี หรือจะพักไปเลยดี เพราะตอนขี่จักรยานมันก็ไม่เจ็บอะไร (แต่ขึ้นเขาไม่ได้แน่นอน เดินยังลำบากเลย)
   เย็นไปรับมิว เขาขอไปซื้อไส้ปากกาในเซ็นทรัล ไปก็ไป ค่อยๆ เดินช้าๆ ดีนะในห้างเป็นบันไดเลื่อน ถ้าไม่เลื่อนล่ะก็ หึหึ
   กลางคืนเอาผ้าห่มไฟฟ้าแบบประคบร้อนมาพันขา มิวเข้ามานั่งดูใกล้ๆ ถามว่าเป็นไงบ้างพ่อ รู้สึกดีขึ้นไหม ผมหันไปกระซิบที่หูเขาเบาๆ
   “ไข่เกือบจะสุกละ”
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 30, 2013, 01:40:27 pm
29 มค 56
   เช้านี้ขาดีขึ้นนิดๆ ไม่รู้ว่าเพราะมันดีขึ้นเองหรือเพราะประคบร้อน แต่ยังเดินลงบันไดลำบากนะ ถ้าอยู่ในบ้านคนเดียวผมใช้วิธีเดินถอยหลังลง แต่ถ้าอยู่นอกบ้านทำไม่ได้ คนจะมองว่าติงต๊อง เลยฝืนๆ จับราวลงมาแบบช้าๆ ตอนไปธนาคารได้ยินคนแก่กระซิบคุยกันดังๆ ว่า “จา โบ้ว ฮ่วง”
   เอากลับมาถามแม่ แม่หัวเราะ บอกแปลว่า เป็นโรคผู้หญิง
   หึหึ แรงนะอาม่า
   เช้านี้เจอศึกหนัก ต้องยกของในโกดังอีกแล้ว ขาเจ็บแบบชนิดงอไม่ลง เหยียบคลัตช์แทบไม่ไหว นี่ยังจะต้องยกของอีกเต็มรถกระบะ
   
   บ่ายเข้าไปที่คอนโด Ivy River ไปแจ้งขอลาออกจากการเป็นคณะกรรมการ เซ็นเอกสารเรียบร้อย จะเข้าไปทำความสะอาดห้อง อ้าว… ไม่ได้เอากุญแจห้องมา มันอยู่ในรถพ่อคันที่ผมใช้ประจำเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้ผมกลับมาใช้รถตัวเองแล้ว ลืมหยิบเอากุญแจห้องพักมา เซ็งเลย
   หิวข้าว เลยขับต่อไปอีกนิดที่ Big C มีร้านประจำของผมคือเปาะเปี๊ยะสด ขอต้นหอมเยอะๆ แล้วเขาหยิบให้สะใจ เลยชอบ รสชาติก็งั้นๆ แหละ แต่เขาใจดีไง มาแถวนี้ก็แวะกินหลายครั้ง นี่ไม่ได้มาหลายเดือนแม่ค้ายังจำได้ ทักว่าหายไปไหนมา
   อยู่บ้านเปิดเวปตัวเองอ่านเรื่อง UBX เล่น แต่งเอาไว้นานหลายปี อ่านซ้ำยังโอเคดีอยู่ อยากเอาไปขายคนทำหนังจริงๆ แต่ไม่รู้จะไปขายใครคนไหนอย่างไร พลอทเรื่องต่างๆ มีไว้หมดแล้ว วันนี้ทยอยเขียน (พิมพ์) ต่อไปอีกนิดหน่อย
   หัวค่ำขี่รถ Neo bike 16 เล่นช้าๆ แต่ต้นขาก็ตึงๆ เหมือนกัน ตอนขี่ไม่เจ็บอะไร แต่พอลงจากรถพอเท้ายันพื้นแล้วขาอ่อนหมดแรงเกือบล้มแน่
   ก่อนนอนประคบด้วยผ้าห่มร้อนอีกครั้ง สงสัยอดไปอินทนนท์แน่ๆ
   วันนี้มีเปิดตัวรถ Bentley ราคาขำขำ 22 ล้านบาท รุ่น GT แบบ 2+2 คือรถที่เน้นแค่สองที่นั่งหน้า ส่วนเบาะหลังก็นั่งแบบทำใจเอาหน่อย เหมือนเป็นส่วนเกิน เครื่องยนต์ 6.0 L V 12 ความแรงคงไม่ต้องบอกแล้วนะ
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on January 31, 2013, 01:29:35 pm
30 มค 56
   ปวดขา ตื่นตี 3 มาเข้าห้องน้ำ เลยนอนต่อเพลินตื่นเอาเกือบหกโมง เดินสูดลมหายใจเต็มปอดสัก 10 รอบ รีบกินข้าว รีบเข้าวงจรชีวิต ส่งลูก ไปทำงาน
   เช้านี้เจอศึกหนักครับ ต้องขับรถไปรับสินค้าแถวบางแค มันแย่เพราะขาผมเจ็บอยู่ไง เหยียบคลัตช์ยังเจ็บ เกือบตลอดทางที่ถนนโล่ง เลยขับแบบ No Clutch Shift ไอ้เทคนิคนี้หัดมาตั้งแต่ตอนอายุ 16 มาได้ใช้จริงเอาวันนี้นี่เอง เล่นมันแบบทั้ง Up Shift และ Down Shift เลยครับ Up Shift นี่ง่ายหน่อย เพราะรถมันกำลังพุ่ง แต่ตอน Down Shift นี่สิ กะจังหวะลำบาก โดยเฉพาะถ้ารถคันหน้าเบรกแล้วเราต้องกดเบรกตาม รอบมันจะตกเร็วมากจนผิดพลาดได้ง่าย
   ขับรถ MT ก็เจ็บขาอยู่แล้ว พอถึงโกดังสินค้านี่สิ เจอร้านเขามีแค่คนงานหญิงมาเปิดประตู แล้วผมต้องยกของเองทั้งหมดขึ้นรถ แต่ไอ้ที่หนักหนามากสุดคือต้องเข็นรถเข็นลงเนิน
   ลงเนิน !!! ปกติลงบันไดตัวเปล่าผมยังต้องถอยหลังลงเลย มาวันนี้ต้องเข็นสินค้าลงเนิน เฮ้ยย ไม่นะ
   เลยเรียกพนักงานหญิงให้คอยประคองตอนลง ไม่มั่นใจว่าขาตัวเองจะหมดแรงพับล้มไปตอนไหน เจ็บครับ เกร็ง อดทน และคิดบวกเข้าไว้ คิดว่าเราแค่เจ็บขา แต่ยังมีขาเดิน นึกถึงภาพคนพิการขา แล้วปลอบใจตัวเองให้เจ็บน้อยลง สุดท้ายก็ผ่านมาได้
   ไม่เป็นไรครับ คิดบวกเข้าไปเสมอ ชีวิตอยู่ได้ด้วยการคิดบวกเท่านั้น มองโลกให้สวยๆ เจอใครมาเบียดก็ยกคันเร่งให้เขาไปก่อน เจอคนยืนข้ามถนนนี่ต้องยกคันเร่งแต่ไกล บางคนหยุดรถให้แล้วยังไม่กล้าข้าม ต้องกดแตรปิ๊นๆ เรียก แล้วโบกมือให้ข้าม
    กลางวันฟังวิทยุในรถมีข่าวกำนันเป๊าะโดนจับ เด็กรุ่นใหม่ๆ อาจไม่คุ้น ไม่รู้จัก แต่เขาคือผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในภาคตะวันออกในอดีต
   ย้อนกลับไปในยุคนั้น นักการเมืองท้องถิ่นโดนจับคดียาเสพติดแล้วมีการยึดทรัพย์ เมื่อก่อนจับเข้ากรงเฉยๆ แต่พอมียึดทรัพย์แล้วมันเหมือนที่โกงมาทั้งหมดจะโดนเอาคืน คนชั่วๆ ก็เลยรีบหาแหล่งฟอกเงิน
   ฟอกกันทั้งในและต่างประเทศเลยครับ ในประเทศจะเล่นที่ดินกัน เงินเหลือๆ ก็สร้างโรงแรมรีสอร์ทเพิ่ม หากหาที่ดินไม่ได้ ก็เอาเงินทุ่มให้หน่วยงานฮุบที่ดินป่ามันซะ วงจรแบบนี้คนทำมาหากินทั่วไปคิดกันยากครับ ต้องเป็นพวกเลวมาจากรากเท่านั้น เพราะมันไม่ได้มีแค่เงิน มันมีอิทธิพลด้วย โกง ข่มขู่ ฆ่า และอีกสารพัด
   วันนี้ปวดขามากขึ้นกว่าเดิม เซ็งฉิบเป๋งเลย งานจักรยานใหญ่ๆ ต้นปีผมพลาดหมด เริ่มตั้งแต่หัวหิน มาอาทิตย์นี้ก็อินทนนท์ เฮ้อออออ เซ็งจริงๆ เล้ยยยย
   หัวค่ำเอารถ KHS F20-W ออกมาขี่บ้าง ไอ้คันนี้จอดทิ้งหลายเดือนแล้ว ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย เพราะว่าผมไม่ถนัดเบาะแบบหนานุ่ม นี่ถ้าเป็นเบาะหนังคงจะดี ขี่เบาๆ ไปเกือบ 1 ชม แปลกนะ เดินแล้วเจ็บขา แต่ขี่จักรยานแล้วไม่รู้สึกอะไรสักนิด
   กลางคืนประคบผ้าห่มร้อนก่อนนอน รู้สึกได้ชัดเจนว่ามันดีขึ้น เพราะประคบเสร็จเดินลงบันไดบ้านได้โดยไม่ต้องจับราวเลย รู้สึกแค่ตึงๆ ขา ไม่รู้สึกเจ็บ ลองแล้วก็มาประคบต่อ ผ้ามันผืนเล็ก เลยต้องพันขาที่ละข้าง ซ้ายที ขวาที ใช้จับเวลาเอา กะให้มันเท่าๆ กัน 
Title: Re: มค 56
Post by: O'Pern on February 01, 2013, 01:43:09 pm
31 มค 56
   เดินช้าๆ สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด นี่ถ้าเป็นกำหนดการเดิม ตอนเช้าส่งลูกเสร็จ ผมก็จะเดินทางไปอินทนนท์ทันที ไม่ได้จองตั๋วอะไรก็ขับไปเองคนเดียวมันนี่แหละวะ เป็นการเดินทางแบบ No Plan
   แต่ในโลกแห่งความจริงแล้วขายังเจ็บอยู่เลย เจ็บมากตรงต้นขาเหนือหัวเข่ามา 1 คืบ และลงจากสะโพกไป 1 คืบ แต่โดยรวมแล้วก็เจ็บน้อยลงๆ เรื่อยๆ สังเกตตัวเองได้อย่างชัดเจนตอนเดินลงบันไดนี่แหละ วันแรกๆ นี่ไปไม่เป็นเลย ต้องใช้วิธีถอยหลังลง มาวันนี้พอจะลงปกติได้แล้ว แต่ยังต้องกอดราวเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
   หึหึ มันทำให้ผมนึกถึงบ้านอีกหลังที่ออกแบบเอาไว้สไตล์ Loft ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ตอนบูรณะครั้งล่าสุดผมตัดราวบันไดทิ้งไป หึหึ
   บ่ายเข้ามาบ้าน มีช่างมาล้างแอร์ เป็นแอร์แบบเก่าที่ยึดบนฝ้าเพดาน ได้กลิ่นเหม็นเน่าจางๆ เลยพากันเดาว่าเป็นกลิ่นหนูตาย แต่ช่างแอร์มาเปิดแล้วหาไม่เจอ ช่างบอกสงสัยอยู่บนฝ้าเพดาน เอาล่ะสิ แล้วจะทำยังไงดีล่ะคราวนี้ เปิดฝ้าไม่ได้เสียด้วย
   ตอนนี้รู้สึกต้นขาจุดที่เจ็บมันมีกล้ามเนื้อปูดนูนขึ้นมาชัดเลย (ตอนเกร็งขา) กดแล้วเจ็บนิดๆ เหมือนกล้ามเนื้อมันขยายใหญ่ขึ้นน่ะ
   เย็นขี่จักรยานเบาๆ อีก 30 นาที หัวค่ำชั่งน้ำหนักดูแล้วตาถลน แม่งขึ้นมาอีก 1 กก ได้ฤกษ์จัดการเปลี่ยนแบตฯ ของมาตรวัด Cateye Micro Wireless ของรถ KHS F20-W ก่อนนอนประคบผ้าห่มร้อนอีกพักหนึ่ง