racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on September 03, 2012, 01:48:15 pm

Title: กย 55
Post by: O'Pern on September 03, 2012, 01:48:15 pm
1 กย 55
   “ไปเที่ยวที่คลองโคนกันไหม” ผู้ปกครองท่านหนึ่งมาชวนผมและมิวไว้ตั้งแต่ก่อนปิดเทอม เอาสิครับ ถ้ามิวไป ผมก็ไป งานแบบนี้มิวไม่น่าพลาด เพราะได้เล่นกับเพื่อนๆ อย่างเต็มที่
   จากเดิมที่ชวนกันไปไม่กี่ครอบครัว คุยไปคุยมา เจอใครก็ชวนไปหมด จนวันนี้มีสมาชิกถึง 24 คน (รวมเด็ก) ตารางกิจกรรมคือช่วงเช้าพาไปไถกระดานบนเลน ปลูกป่าชายเลน กินข้าวกลางวันในกระเตงกลางทะเล (กระเตงคือที่พักชั่วคราวของชาวประมง ใช้นั่งนอนพักขณะรอเก็บอวน หรือกระชัง) บ่าย เย็น พักผ่อน คนอื่นเขาไปกันแต่เช้า แต่มิวมีเรียนพิเศษวันสุดท้ายพอดี ตอนแรกสองจิตสองใจจะเรียนดีไหมหนอ แต่คิดถึงเหตุผลแล้วก็เลือกไปเรียนครับ เลยออกจาก กทม ตอนบ่าย
   ใช้เส้นทางถนนพระราม 2 ขับตรงตลอด ผ่านอัมพวา ดอนหอยหลอด เจอปั๊ม ปตท คลองโคน ราวๆ กม ที่ 75 มั้ง ผมคุ้นเส้นทางนี้ดีมาก เพราะเคยขี่จักรยานผ่านมาแล้วทุกตารางนิ้วตอนไปหัวหินเมื่อปีก่อน จำได้ขึ้นใจ ขับรถไปก็มองข้างทางก็นึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ นึกได้ก็เล่าให้มิวฟังไปเรื่อย แต่ดูเขาไม่สนใจเลยสักนิด ฮ่าๆ
   จอดแวะพักเข้าห้องน้ำ และซื้อของกินที่ปั๊ม ปตท คลองโคน เจอนักจักรยาน 3 คนอยู่ในฟู๊ดเซนเตอร์ เจอกลุ่มมอเตอร์ไซค์โบราณ แรกๆ ไม่สนใจ แต่ได้ยินเสียงรถลากยาวๆ แล้วต้องหันจริงๆ เพราะคุ้นมาก รถเหมือนของผมเลยครับ เป็นรถ Harley Davidson 1945 เสียงไม่เพราะหรอก ท่อแตกๆ ดังๆ ออกแนวหนวกหูมากกว่า เสียงก็ไม่เหมือนมอเตอร์ไซค์ แต่เหมือนเครื่องตัดหญ้าเก่าๆ ดังๆ
   ลูกของซื้อของใน 7-11 เขาชอบสเลอปี้มาก (น้ำรสโคล่าปั่นละเอียด) ผมกำลังลดพุง เลยซื้อลูกชิ้นปิ้งกิน 2 ไม้ เดินมานั่งกินในฟู๊ดเซนเตอร์ มิวชี้บนโต๊ะที่กลุ่มนักจักรยานเคยนั่ง
   “พ่อๆ พี่เขาลืมกระติกน้ำ”
   ผมหันไปมอง จริงด้วย เขาลืมกระติกน้ำไว้ เลยให้มิวรีบไปหยิบมา รีบกินลูกชิ้น แล้วขับรถเข้าไปในซอยทางลัดไปชะอำ หัวหิน ซอยข้างๆ ปตท คลองโคนนี่แหละครับ ผมคาดเดาเอาว่าพวกเขาคงจะใช้เส้นทางนี้แหละ ก็เพราะแวะพักปั๊มนี้ เติมน้ำเสียจนเต็มกระติก ไม่น่าจะไปทางอื่นนะ
   แต่ขับไปแล้วก็ไม่เจอเลยครับ เอาไงดีวะ หากเขาไม่มีน้ำกินนี่งานเข้าเลยนะ ช่วงแรกๆ ของเส้นทางยังพอมีร้านค้าบ้าง แต่ช่วงกลางและหลังจะมีแต่นาเกลือ ลมแรงมาก ป่าโปร่งชายทะเล ไม่มีร้านค้า ไม่มีชุมชน สาหัสแน่นอน    
   ก็ได้แต่เอาใจช่วย กลับไปบ้านจะโพสถามในเวปจักรยานว่าใครลืมกระติกทิ้งไว้ในปั๊มนี้บ้าง แต่ตอนนี้ผมต้องรีบเข้าที่พักแล้วล่ะ หลายคนโทรมาตามผมแล้ว เขาคิดว่าผมหลงทาง
   ขับต่อไปอีกราว 20 นาทีก็ถึงจุดหมาย บ้านไม้ธารา resort & watersports ชื่อเท่ดี ดูเหมือนเป็นศูนย์รวมกีฬาทางน้ำ แต่เปล่าเลย มีแค่พายเรือคายัค และฐานแบบผจญภัยแนว Adventure คือโดดหอสูงสัก 5 เมตร ไหลไปสัก 100 เมตร ก็เจอทุ่นโฟมโยกเยก ข้ามแพ ต่อด้วยขึ้นบันไปไปไต่ราวเชือกสัก 30 เมตร เข้าเส้นชัย จบ
   ลักษณะสถานที่เป็นบ้านพักอยู่ในพื้นที่ขุดเป็นบ่อขนาดใหญ่ เป็นน้ำกร่อย รอบข้างบ่อปลูกไม้แสม โกงกาง ฯลฯ มองปราดเดียวก็เห็นข้อบกพร่องอันใหญ่หลวงครับ นั่นคือเขาปล่อยน้ำทิ้งจากห้องน้ำลงในบึงเฉยเลย ทิ้งมันลงจากท่อใต้ถุนบ้านพักนี่แหละ ที่หนักกว่านั้นคือเขาขุดบ่อส้วมซึมซึ่งอยู่ติดกับบึงเป๊ะ แปลว่าของเสียจากการขับถ่ายที่เป็นน้ำสามารถซึมไหลเข้าบึงได้อย่างง่ายดาย OMG ผมไม่ลงเล่นน้ำแน่ๆ
   กลุ่มใหญ่มารอผมอยู่พอดี เอากระเป๋าเก็บเข้าห้องพัก คนอื่นเขาพักผ่อนกันเพราะเพลียจากกิจกรรมตอนเช้า แต่ผมเพิ่งมาถึง แถมแดดรำไร ครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก ไม่รีรอที่จะลงเล่นเรือพายทันที
   แม้จะไม่เคยพายเรือใดๆ มาก่อนเลย แต่ก็ขอลองด้วยใจเต็มร้อย ตอนขี่จักรยานเรามักจะใช้แต่พลังของลำตัวท่อนล่าง (ถ้าไม่นับตอนขี่ขึ้นเขา) แต่พายเรือนี่เราจะใช้พลังของลำตัวท่อนบนล้วนๆ ลงเรือด้วยใจเต็มร้อยที่อยากจะลองของ ใจอยากลองมานานแล้ว
   เป็นเรือคายัคแบบ sit on top สองที่นั่ง พายง่ายมาก ผมเอาพายจ้วงน้ำครั้งแรกเรือก็พุ่งไปแล้ว โคตรหมูเลย ไม่ต้องออกแรงมากอีกด้วย นี่ขนาดเรือโทรมๆ เก่าๆ นะ ถ้าได้เรือดีๆ คงจะพุ่งกว่านี้อีกเยอะ
   จัดไปสองชั่วโมงกว่าครับ เล่นจะแขนล้าเลย อาศัยลมดีแดดไม่มี เลยเล่นได้นานหน่อย ขึ้นจากเรือก็กินอาหารเย็นต่อ เป็นอาหารท้องถิ่นธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ใช้วัตถุดิบสดๆ ในท้องถิ่น เช่น ผัดหอยตลับ หอยหลอดผัดฉ่า ปลาหมึกนึ่งมะนาว ไม่ต้องอะไรมาก เอาแค่ผัดผักธรรมดาๆ ก็ยังอร่อยมาก เพราะได้ผัดสดกรอบ คือเขาเลือกได้ใช้ของสดของดีมาทำให้เรากิน
   แต่เหนื่อยจากพายเรือครับ และยังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักอีกด้วย เลยไม่อยากกินมาก เอาแค่พอหายหิว และอิ่มนิดๆ ขณะนั่งกินกันอยู่นั่นเอง ผู้ปกครองคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า
   “ไปอัมพวากันไหม”
   ทุกคนหันหน้ามามองกันเหรอหรา แล้วก็ปิ๊งไอเดีย
   สรุปคือไปกันหมดครับ เพราะที่นี่ยุงชุมมาก คุยไปตบยุงไป เลยยกขโยงกันไปเดินเล่นอัมพวาดีกว่า ใกล้ๆ กันแค่นี้เอง ขับรถราว 20 นาทีก็ถึงแล้ว
   จัดไปครับ มากัน 24 คน กลัวจะจอดรถที่อัมพวายาก เลยเช่ารถสองแถวคันใหญ่ให้ไปส่งและรอรับกลับ สุดยอดไปเลย บรรยากาศเหมือนตอนเด็กๆ นั่งรถเมล์เป๊ะเลย
   ใช้เวลาเดินเล่นที่อัมพวา 2 ชม กว่า ผมไม่ได้มาที่นี่กว่า 2 ปีแล้ว มาวันนี้อัมพวาเปลี่ยนไปเยอะมาก คนเยอะขึ้นน่ะแน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่ชอบก็คือเรือยนต์พาชมหิ่งห้อยที่เป็นจุดขายนั้นไม่มีเสียงดังเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว แต่ละลำขับอย่างนุ่มนวลมาก เป็นระเบียบสุดๆ เห็นแล้วชอบจัง
   ผมเคยเล่าไปหลายวันก่อนแล้วว่าจะมีโรงแรมขนาดใหญ่มาก่อสร้างแถวนี้ ตอนนั้นคิดว่าเขาจะเหลือห้องแถวโบราณอายุร้อยกว่าปีริมคลองไว้ แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นตรงกันข้าม ฉิบหายครับ ในฐานะนักออกแบบ จะบอกว่าท่านคิดผิดอย่างมหันต์ แม้จะอยากให้สถานที่หรือทางเข้าโอ่โถงปานใดก็เถอะ ยังไงก็ต้องเหลือห้องแถวโบราณนี้ไว้ครับ ออกแบบผิด ก็ออกแบบใหม่ได้ แต่บ้านเก่าแบบนี้ถ้ารื้อแล้วอยากได้กลับมา มันทำไม่ได้
   เดิมตลาดอัมพวาพร้อมกับดูแลเด็กไปทั้งขโยง เดินไปได้ 2 นาทีก็หลงกันแล้วครับ เรียกว่าแทบไม่ได้ดูของอะไรเลย มีแต่ดูแลเด็กนี่แหละ เห็นร้านค้าใหม่ๆ เปิดมากมาย ที่เยอะสุดๆ คือเสื้อยืดที่มีคำว่าอัมพวา เยอะรองลงมาคือร้านอาหารแนวผับ ไอ้ภาพร้านค้าเก่าๆ ก็ยังคงมีอยู่นะ แต่ไม่ได้มีเพิ่มมากขึ้นเหมือนพวกร้านค้าแนววัยรุ่น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป หายนะกำลังจะมาเยือน คงไม่ถึงกับเจ๊งหรือตลาดวายหรอกนะ แต่เอกลักษณ์ตลาดเก่าของอัมพวาจะกำลังเปลี่ยนไป แน่ล่ะ กู้กลับมายากมากด้วย
   เจอขนมน่ากินมากมาย ของกินพื้นบ้านเก่าๆ พวกข้าวเกรียบว่าวนี่ชอบนะ กินง่าย แต่เก็บยากหน่อย เจอร้านขายเครื่องหนังน่าสนใจมาก ราคาไม่แพงอีกด้วย ติดที่ต้องคอยดูแลเด็กๆ นี่แหละครับ ทำให้ไม่ได้ซื้อของอะไรสักอย่าง
   ออกจากอัมพวาตอนชาวบ้านเริ่มทยอยปิดร้าน ถึงที่พักก็เพลียหมดแรง อาบน้ำเข้านอน แต่เปิดทีวีเจอหนังสนุกในช่อง Thai PBS เลยดูกับมิวจนถึงเกือบเที่ยงคืนโน่นเลย
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 04, 2012, 12:46:20 pm
2 กย 55
   นอนไม่สบายเลย ที่นอนแข็งพอทน เพราะนอนพื้นจนชินแล้ว แต่เจอหมอนแข็งหนาสูงนี่สิ เฮ้ออ สภาพห้องก็ทำแบบรวกๆ มีเสียงหมาเห่าหอนเป็นช่วงๆ อีกด้วย เลยหลับๆ ตื่นๆ ตลอดคืน มาลุกขึ้นอย่างเป็นทางการตอน 0530 ออกมายืดเส้นสายหน้าห้องริมบึง แต่ยุงเยอะว่ะ กลับเข้าห้องต่อรอจนฟ้าเริ่มสว่างก็เอาเรือคายัคลงพายเล่น
   วนรอบบึงเจอพวกฝูงนกกินปลา นกกา และนกน้ำสารพัดชนิด ส่วนใหญ่จะเจอคนแล้วตกใจบินหนี แต่มีบางตัวไม่กลัว ไม่หนีก็มีบ้างเหมือนกัน พวกนี้จะหากินตัวเดียว ผมมองดูมันมุดน้ำหากินพวกหอย ปูขนาดเล็กตามโขดหิน มันดำน้ำได้เก่งมากเลย เพิ่งเคยเห็นสดๆ กับตาวันนี้เอง
   ตามชายเลนจุดที่เงียบๆ ก็มีปลาตีน ปูก้ามดาบ แต่ผมว่าอยู่ได้อีกไม่นานหรอก สัตว์พวกนี้ชอบธรรมชาติเงียบๆ จริงๆ มีคนมารบกวนหน่อยมันก็จะอพยพหนีหายไปจนหมด
   พายเรือวันนี้เริ่มเมื่อเอวครับ น่าจะมีพนักพิงนะ ผมเพิ่งพายเป็นครั้งที่สองเอง แต่ก็เริ่มจะเมื่อยแล้ว อยากได้ไม้พายแบบน้ำหนักเบา น่าจะมีพายคาร์บอนไฟเบอร์นะ ผมว่าขายได้แน่ๆ เพราะนั่งพายนี่เราต้องถือไม้พายตลอดเวลานะ อย่างเช้านี้ผมพายไป 1.30 ชม ก็ต้องถือพายนานตามเวลานั่นแหละ
   มาเลิกเอาตอน 0730 แดดเริมแรงแล้ว ชักจะไม่สนุกแล้ว ลูกมาเรียกกินข้าว เจออาหารเช้าแบบง่ายๆ แต่ไม่ค่อยอร่อย เหมือนว่าทำแบบลวกๆ มีข้าวต้มปลา ข้าวผัด กาแฟ ไมโล ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ๊ง ข้าวต้มปลาพอกินได้ ข้าวผัดไม่อร่อย ปาท่องโก๋รสชาติดี แต่เป็นอาหารที่แย่มาก คือแป้งล้วนๆ ทอดในน้ำมันเก่าๆ บั่นทอนสุขภาพสุดๆ เลยกินไปแค่ 1 ชิ้น กินไปคุยกันไป หลังๆ จะไปตักเพิ่ม อาหารหมด เหลือแต่ขนมปังปิ๊ง ผมกินมื้อเช้าหนักสุดเสียด้วยสิ เลยกินขนมปังทาแยมไปอีก 4 แผ่น ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ฮ่วย
   เด็กๆ เล่นกิจกรรมฐาน Adventure กันตอน 0900 แรกๆ ผมอยากจะเล่นด้วย แต่เจอแดดแรง หันไปมองใต้ถุนบ้านเจอน้ำเสียทิ้งไหลลงบึง เจอบ่อส้วมอยู่แทบจะติดกับบึง บอกตามตรงว่าทำใจไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นเขาเสียอารมณ์ เลยกระซิบบอกลูกว่าอย่าให้น้ำเข้าปาก
   อยู่บนฝั่งก็เก็บภาพไป แต่เป็นกล้องจากมือถือนะ ไม่ได้เอากล้องดิจิตอลไป เลยได้ภาพไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ เห็นเด็กๆ เขาเล่นกันอย่างสนุกสนานก็พลอยสนุกกับเขาไปด้วย ผมเลยเล่นเป็นกองเชียร์แทน
   มิวโหนสลิงแล้วไต่เชือกข้ามบันไดลิงไม่ไหว ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เชือกโยกเยกก็จับจนเจ็บมือ จะถอดใจอยู่แล้ว ผมต้องตะโกนบอกให้มิวค่อยๆ สืบเท้าก้าวทีละนิด มองที่เป้าหมายที่เราจะไป อย่าคิดว่าการโยกเยกมันคือปัญหา อย่าใช้เวลาอยู่ในจุดนั้นนาน ยิ่งยืนนานก็จะยิ่งเหนื่อย เมื่อย และหมดแรง ให้รีบๆ เดินให้ผ่านพ้นไป
   เหมือนตอนเราจะเล่น Bungee Jump น่ะลูก จุดที่น่ากลัวที่สุดก็คือตำแหน่งที่ยืนตรงปลายสุด ยิ่งยืนนาน ยิ่งลังเล ยิ่งคิดกังวล กลัวสารพัด ตัดสินใจให้ดีตั้งแต่อยู่บนพื้น มั่นใจแล้วก็ขึ้นไปแล้วโดดลงมาทันที
   ในที่สุด มิวก็ทำได้ เช่นนี้แหละครับ มันคือการเสริมภูมิความแข็งแกร่งให้เขาเองทีละนิด จะเป็นรากฐานที่ดีสำหรับเขาในตอนโต ทุกวันนี้มันคือแค่การเล่นสนุก หรืออย่างเก่งก็ออกกำลังกาย แต่พอวัยรุ่นเขาจะมั่นใจในตัวเองมาก กล้าคิด กล้าทำ กล้าเป็นผู้นำ กล้าลุย กล้าลอง
   ใช้เวลาอยู่ตรงนี้จนถึงสายๆ แดดแรงจัดแล้วผู้ใหญ่เป็นฝ่ายถอยก่อน ทยอยกันขึ้นอาบน้ำ จากนั้นเด็กๆ ก็ขึ้นตาม เก็บข้าวของเตรียม Check Out ผมถึงบอกปัญหาเรื่องการปล่อยน้ำเสียจากห้องน้ำลงในบึงแก่ผู้ปกครองที่เป็นแกนนำในการเลือกสถานที่
   “แหม พอคุณพ่อบอกปุ๊บ ฉันรู้สึกแสบๆ ตายังไงไม่รู้”
   อีกคนมองรู้สึกเหมือนมีสิวขึ้น บ้างก็บอกคันๆ นี่คือผลของจิตวิทยาล้วนๆ ครับ คือถ้าไม่บอก ไม่คุยกัน ก็ไม่รู้สึกอะไรน่ะ
   บางคนมีธุระขอตัวแยกกลับไปก่อน ที่เหลือตกลงคุยกันว่าจะไปกินมื้อกลางวันกันที่ดอนหอยหลอด สรุปร้านเสร็จสรรพชื่อร้าน “คุ้นลิ้น” ผมไม่รู้จักหรอก เป็นผู้ตามก็ขับตามไปเรื่อยๆ สัก 20 นาทีก็ถึง
   ร้านสวย บรรยากาศดี เพราะบุกรุกป่าชายเลน สร้างตอม่อแล้วปูพื้นไม้ยื่นเข้าไปในบริเวณป่าชายเลนเลย อาหารพื้นบ้านเหมือนเดิมครับ ของดังก็คือหอยหลอด แต่ที่อร่อยมากคือห่อหมกทะเล ปลาเก๋าทอดราดอะไรก็ไม่รู้ หน้าตาเหมือนกระเทียมดอง แต่ดูใกล้ๆ มันคือหอมแดงเอาไปดอง รสชาติคล้ายกระเทียมดอง เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยดี
   กินกัน 24 คน หมดไป 4900 บาท ปู ปลา กุ้ง ครบหมด แล้วงานเลี้ยงก็ถึงเวลาแยกย้าย แต่ก็ขำนะ ล่ำลากันเหมือนจะพลัดพราก แต่พรุ่งนี้พวกผู้ปกครองก็ต้องมาเจอกันที่โรงเรียนตอนเย็นอีกครั้งตอนรับลูกกลับบ้าน ฮ่าๆ
   ขึ้นรถพักเดียว มิวก็หลับตามคาดหมาย หลับรวดเดียวจนถึงบ้าน ผมก็ขับง่าย ตรงตลอดถนนพระราม 2 ก็ถึงบ้านแล้ว ระยะทางก็ราว 90 กม เท่านั้นเอง
   พระราม 2 ขาเข้าในเย็นวันอาทิตย์รถเยอะน่าดูครับ รับรถที่กลับจากทางภาคใต้ หัวหิน ชะอำ ยิ่งเข้าใกล้เขตเมืองรถยิ่งชะลอตัว จนช่วงใกล้ถึงบ้านรถเริ่มหยุด พอผ่านมาได้ก็เจอ Civic ซัดท้าย Harrier จนหน้าของ Harrier เหไปทิ่มเอาแท่งปูนขอบทางด้านเลนขวาสุด
   มีภาพอุบัติเหตุเตือนให้เราเห็นสดๆ ต่อหน้าต่อตา มันดีกว่าคำสอนใดๆ ทั้งปวง ขับรถใช้ถนนต้องคิดว่าเรามายืมถนนคนอื่นเขาใช้ครับ ค่อยๆ ไป ไม่ต้องเร่งรีบ มันถึงเร็วกว่ากันไม่เท่าไหร่จริงๆ เรียกว่าได้ไม่คุ้มเสีย แถมการขับช้าลงหน่อยจะทำให้จิตใจเราไม่หงุดหงิด ไม่เคร่งเครียด ใครมาแซงเบียดก็อย่าไปคิดอะไรมาก คิดเสียว่าเขาคงจะต้องรีบมาก หรือเขาเป็นมือใหม่ ขับไม่เก่ง ไม่ได้ตั้งใจจะมาแกล้งเราหรอก คิดแบบนี้ใจเราเองก็จะเป็นสุขครับ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 04, 2012, 12:50:01 pm
3 กย 55
   อุบัติเหตุใหญ่เช้านี้ รถชนกันสิบกว่าคันบนทางยกระดับบรมราชชนนี และคนนามสกุล “อยู่วิทยา” ขับ Ferrari คันละประมาณ 30 ล้านบาท ชนตำรวจ สน ทองหล่อเสียชีวิต อยู่วิทยา ก็คือตระกูลของทางกระทิงแดง ชนแล้วหนีแบบดื้อๆ ทั้งๆ ที่มีร่างตำรวจติดรถอยู่ ขับลากไปราว 200 เมตร ผลก็คือตายคาที่ และยังโชว์หลักฐานคือมีรอยน้ำมันเครื่องรั่วหยดเป็นทางไปตลอดตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปจนถึงบ้านตัวเอง
   ร้ายกว่านั้นคือนำพ่อบ้านมารับผิดแทนตน โอ้ ไม่น่าเชื่อ เป็นฝีมือหัวหน้าของตำรวจผู้เสียชีวิตนั่นเอง สุดยอดมาก (เหี้ย)
   มิวเปิดเทอมแล้ว ไปส่งที่โรงเรียนเหมือนเดิม ขับรถไปที่ทำงานเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คสินค้าไม่มาทำงาน แน่นอน ผมเข้าไปทำแทน เช็คสินค้าให้ถูกต้องตรงกับในใบนำส่งสินค้า งานง่ายๆ แต่เช็คนานๆ แล้วตาลาย สินค้าก็หน้าตาคล้ายๆ กัน มีดูผิดบ้างเหมือนกัน เจ้าของร้านต้องมาช่วยตรวจดูอีกรอบ
   บ่ายเข้ามาบ้าน นั่งดูปลาอย่างเป็นทางการเสียที เจ้าพวกตัวเล็กๆ ที่เคยปล่อยลงบ่อใหญ่ไป 30 ตัว มาวันนี้นับแล้วเหลือไม่ถึงสิบตัวเลย เอ๊ะ มันหายไปไหนหมด หรือว่ามันจะโดนตัวใหญ่แดกไปอีกแล้ว โอ๋ๆ น่าสงสารจริงๆ ทำไงดีวะนี่ 
               ข่าวดีวันนี้ โปรเจคโรมแรมหรูที่อัมพวาที่ผมเล่าไป โดนต่อต้าน คัดค้าน จนต้องยกเลิกโปรเจคไป หึหึ อย่าเพิ่งดีใจไปนาน มันอาจจะกลับมาอีกรอบแบบเงียบๆ ก็เป็นได้
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 05, 2012, 02:58:16 pm
4 กย 55
   อ่านเดลินิวส์ทุกวันมาตลอดหลายสิบปี วันนี้ผิดหวังใหญ่หลวง ข่าวใหญ่ในสังคมคือคนตระกูลอยู่วิทยาไฮโซระดับโลกชนตำรวจแล้วหนี แถมยังเอาแพะมารับบาป แต่ไม่น่าเชื่อว่าเดลินิวส์เอาข่าวแพทย์ที่อำนาจเจริญซ่อนกล้องแอบถ่ายไว้ในห้องน้ำ เอาข่าวนี้มาลงพาดหัว ส่วนข่าวฉาวของอยู่วิทยา ซ่อนไว้มุมเล็กๆ ด้านล่างซ้าย
   เข้าใจครับว่าสนิทกันมาก พรรคพวกกัน แต่จุดยืนของเดลินิวส์เปลี่ยนไปแล้วหรือ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ลูกเศรษฐีชนแล้วหนี แต่มันมีเรื่องของตำรวจท้องที่ช่วยหาแพะมารับบาปให้ คนตายคือลูกน้องตัวเองแท้ๆ แต่ลูกพี่เล่นเอาใจเศรษฐี ที่นี่ประเทศไทย
   วันนี้ผมดุมิวครั้งใหญ่ในรอบปี
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 06, 2012, 08:05:52 pm
5 กย 55
   ขี่จักรยานยามเช้านิดหน่อย ไปส่งลูก ไปทำงานต่อ ชีวิตแบบเดิมๆ เป๊ะ อยู่แบบนี้นานๆ สมองฝ่อชัวร์ ยามอยู่คนเดียวก็เลยต้องจิตนาการออกแบบของต่างๆ ไปเรื่อย คิดไปวนมาเข้าเรื่องจักรยานอีกแล้ว ไม่ใช่แค่หนังสือ นิตยสาร ยิ่งคิดยิ่งต่อยอดไปอีกไกล คุยกับคนไม่เข้าใจอาจคิดว่าเพ้อฝัน ถ้าคนสนิทกันก็อาจบอกว่าบ้า
   บ่ายมีพนักงานนำป้ายทะเบียนรถคันใหม่ของพ่อมาให้ ผมลุ้นในใจอยู่นานว่าจะได้ป้ายรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ รุ่นเก่าก็คือป้ายแบบเดิมๆ ส่วนรุ่นใหม่จะมีฟอนท์ที่เล็กลง ผมว่าไม่สวยเอาเสียเลย โดยเฉพาะตัว ญ เขาเอารองเท้าของ ญ เอาไปอยู่ในบรรทัดเดียวกัน ฟอนท์เลยดูเหมือนโดนบีบอัด ตัวเลขแบบใหม่ที่เล็กลงก็ดูไม่คุ้นตา
   โชคดีได้ป้ายรุ่นเก่าครับ เพราะเป็นเลขที่จองเอาไว้นานแล้ว ไม่ได้เลขตอง เรียง แพงๆ หรอกนะ ผมชอบเลขที่มันตรงกับรุ่นของรถ เล่นถ้าขับ BMW 325 ก็จะเลือกเลข 325 หรือใช้ Nissan 180SX ก็อยากได้เลข 180 เช่นเดียวกับ Nissan Skyline GT-R ก็เลือกตามรุ่นได้เลยทั้ง 32 33 34 ราวๆ นี้ เลขแบบนี้แทบไม่มีราคา ยกเว้นเลข 2 ตัว อาจต้องมีเสียเงินบ้าง ตอนขายก็ปล่อยไปทั้งรถทั้งเลขได้เลย ไม่ต้องคอยกั๊กไว้ ขอเบอร์ใหม่ ทำเรื่องย้ายเลข วุ่นวายว่ะ ไว้มีรถคันใหม่ ก็ค่อยหาเลขใหม่ ทางบ้านผมไม่ค่อยถือเรื่องโชคลาง ไม่มีเลขนำโชคส่วนตัว แต่เชื่อในเรื่องบุญกรรม ยังไงทำดีก็ต้องได้ดีเข้าสักวัน ถ้าวันนี้ยังไม่ได้ดี ก็คือยังทำดีไม่พอ จงทำต่อไป และทำให้มากขึ้นกว่าเดิม นี่คือตรรกกะง่ายๆ ของผม
   เย็นไปรับลูก แวะซื้ออาหารปลา เจ้าของร้านเห็นหน้าผมจำได้แม่น ถามถึงลูกปลาว่าเป็นไงบ้าง เจ้าของร้านแบบนี้ดีครับ เขาจำลูกค้าได้ ก็จะทำให้ลูกค้าประทับใจ พูดคุยกันเอง มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส อนาคตรุ่งโรจน์อยู่ไม่ไกล
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 06, 2012, 08:06:50 pm
6 กย 55
   พยากรณ์อากาศว่าวันนี้จะเริ่มมีฝน และจะตกกันทั้งวัน บ๊ะ ตรงเป๊ะจริงๆ ตกตั้งแต่เช้าเลย ทำให้ลังเลว่าจะไปส่งมิวที่โรงเรียนดีไหม ปกติผมจะจอดให้เขาเดินไปเองสัก 400 เมตร เพราะผมจะได้ขึ้นสะพานกลับรถได้ง่าย เร็ว สะดวก แต่ถ้าไปส่งถึงหน้าโรงเรียน ผมจะต้องขับไปกลับรถอีก 10 กม ปล่อยให้มิวเขาเดินเองแบบนี้มาหลายปีแล้วล่ะครับ ปล่อยครั้งแรกตอนอนุบาล 1 มั้ง จำได้ว่าเอาไฟกระพริบติดเป้หลังให้เขาไปด้วย แล้วก็เป็นไปตามคาด พอไปรับตอนเย็น มิวบอกไฟหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
   ผมฝึกเขาทุกอย่างตั้งแต่เด็กเล็กครับ สิ่งเหล่านี้จะเป็นภูมิให้เขามีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้นทีละน้อยๆ โรงเรียนก็มีส่วนช่วยผลักดันในจุดนี้อย่างมาก ผมชอบโรงเรียนนี้อย่างหนึ่งตรงที่มันเล็ก ก็เลยควบคุมหลายอย่างได้ง่าย ครูให้นักเรียนมาพูดหน้าชั้นบ่อยๆ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก สอนให้เขากล้าแสดงออก ตอนโตจะได้ไม่อาย
   ตอนแรกมิวบอกให้ผมช่วยไปส่งที่โรงเรียน แต่พอใกล้ถึงโรงเรียนก็เปลี่ยนใจ เขาบอกขอลงเดินเองแบบเดิม ก็ดีครับ ช่วยๆ กันหน่อย เพราะฝนตกรถติดหนักมาก ระยะทางที่ผมต้องขับเพิ่มอีก 10 กม จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสุดก็ราว 45 นาที ให้มิวเอาร่มพับอันเล็กไปใช้ ส่วนผมก็เข้าวงจรชีวิตเดิมๆ คือไปร้านขายของ
   เช้านี้รับมอบหมายตรวจเช็คสินค้าขึ้นรถ ยามว่างก็ต้องช่วยคนงานเขาจัดเรียงสินค้าไปด้วยเพื่อความรวดเร็ว ลูกค้ามาซื้อของหน้าร้านก็ช่วยยกขึ้นรถ ช่วยเข็นไปส่ง ทำอะไรได้ก็ทำไป
   บ่ายเข้ามาบ้าน พอมีเวลาส่วนตัวเล็กน้อยก่อนจะไปรับลูกตอนเย็น ใช้เวลาว่างหมดไปกับการดูแลลูกปลา และคิดงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ กันสมองฝ่อ ฝนยังคงตกปรอยๆ ตลอดวัน จะหยุดอย่างเป็นทางการเอาตอนสี่โมงเย็น และเริ่มตกอีกทีตอนเกือบสองทุ่ม คืนนี้คงจะหลับอย่างสบาย
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 07, 2012, 08:25:06 pm
7 กย 55
   ได้น้ำฝนทีไร ปลาผสมพันธุ์ทุกที เช้านี้ก็ผสมอีกแล้ว แต่เพาะไม่ไหวแล้วล่ะครับ เยอะแยะเต็มบ้านไปหมด เลยให้มันผสมและวางไข่อยู่ในบ่อใหญ่เหมือนเดิม ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็จะโดนปลาตัวอื่นไล่เก็บกินไข่จนเกลี้ยงแบบไม่มีเหลือ
   ไปร้านขายปลาเมื่อวาน ลูกค้าเขาก็คุยกันนะ บอกว่าบางคนเลี้ยงมาเป็นปีๆ ปลาก็ไม่เห็นผสมเสียที บ้างก็เลี้ยงแล้วลูกปลาตายหมด แต่ผมเลี้ยงแบบปล่อยทิ้งๆ ขว้างๆ บ่อตะไคร่เต็มไปหมด กลับผสมพันธุ์กันเป็นว่าเล่น
   วันนี้ฝนน้อยลงหน่อยแล้ว เช้าแดดแรงแบบต้องใส่แว่นกันแดด นี่ผมใช้รถพ่อมาราว 1 สัปดาห์เต็มๆ แล้ว รถพ่อติดฟิล์มอย่างดี ปกติถ้าแดดไม่แรงจัด ไม่ต้องใส่แว่นก็ขับได้สบายตา
   ลูกดูหนังฝรั่งมา เช้านี้เลยขอกินซีเรียลแบบในหนัง พฤติกรรมเลียนแบบอีกแล้ว ผมมักจะสอนเรื่องพฤติกรรมเลียนแบบนี้แก่ลูก ยกตัวอย่างเช่น ตอนไปเที่ยวไหนกัน ถ้าเกิดมีใครคนหนึ่งถ่ายรูป เท่านั้นแหละ คนที่เหลือต่างควักกล้องออกมากันใหญ่ เหมือนกับเพิ่งนึกได้ว่า เฮ้ย เราก็มีกล้องนี่หว่า
   พฤติกรรมเลียนแบบนี้เป็นกันทุกคนครับ คุณและผมก็เป็น แต่ถ้ารู้ตัวแล้ว ก็ต้องชั่งใจก่อนที่จะเลียนแบบ เช่นพอรถติดหนักๆ ก็มักจะมีคนเปิดเลนพิเศษขับย้อน ก็ต้องถามตัวเราล่ะว่ารีบร้อนจัดขนาดยอมมักง่ายขนาดนั้นไหม แต่คนส่วนใหญ่ก็จะขับตามกันออกไป เหมือนกับว่ามันเป็นเลนที่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้ผมต้องโทษเจ้าหน้าที่ด้วยนะ เพราะเขาชอบโบกให้รถขับย้อนศรออกมาเอง เข้าใจครับว่าต้องเร่งระบายรถ แต่รู้ไหมว่ามันเป็นการทำให้คนขับเสียนิสัย ติดนิสัย จนรถรับจ้างเจ้าถิ่นหลายๆ คันพอมาถึงจุดดังกล่าวก็จะขับย้อนศรเปิดไปอีกเลนทั้งๆ ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่โบก
   ข่าวใหญ่วันนี้คือมีตำรวจหญิงกร่าง ขับรถ Curze ป้ายแดงไปซ่อมสีที่ศูนย์แล้วศูนย์ทำออกมาไม่ดี ศูนย์รับผิดชอบทั้งหมด แต่เจ้าของไม่พอจะ จะเอารถคันใหม่พร้อมเงินอีกราว 3 แสน โวยวายจนเป็นคลิปข่าวฉาว แทนที่จะเห็นใจเจ้าของรถ ผู้คนต่างพากันเห็นใจศูนย์แทน ก็เพราะท่านเล่นโวยวายด่าซะเสียๆ หายๆ ใส่อารมณ์เต็มที่ ปิดท้ายด้วยพฤติกรรมเท่ตามสไตล์ตำรวจคือ “ชักปืนออกมาขู่” แถมด้วยการทุบรถด้วยค้อน
   เห็นไหม พฤติกรรมเลียนแบบอีกแล้ว ผู้นำคือหญิงที่เคยทุบ CRV ที่ซ่อมไม่จบสิ้นเสียที เขาขอรถคันใหม่ งานนั้นฮอนด้าอ่วมสุดๆ จนต้องปลดผู้บริหาร รถคันละ 1.2 ล้าน แต่ฮอนด้าต้องใช้เงินกว่า 10 ล้านบาทในการกู้ภาพพจน์ ด้วยการใช้เบิร์ดดาราที่ค่าตัวแพงที่สุดมาสร้างภาพว่าเป็นครอบครัวฮอนด้า 10 ล้านนี้เฉพาะค่าตัวเบิร์ดนะครับ ค่าซื้อสื่อต่างหาก เหมารวมแล้วก็ต้องโดนไปไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
   แต่งานนี้มันผิดกัน เพราะรถวิ่งดี แต่แค่ทำสีไม่เรียบร้อย เอาอะไหล่เก่ามาย้อมแมว ออกแนวชุ่ย มักง่าย หรือโกงก็ว่าได้ แต่พฤติกรรมเจ้าของรถเลวกลบเรื่องตัวรถไปสนิท เหมือนกับพลอย เชอมาลย์ที่ด่าออแกไนเซอร์เสียๆ หายๆ (ด่าแบบเหมือนสคริปละคร) จนโดนแฉว่าเอาบัตรประชาชนคนอายุ 70 มาหักภาษี ไอ้เรื่องด่ากันมันไม่มีใครสนใจกันแล้ว เขาหันมาสนใจเรื่องการเลี่ยงภาษีของพลอยแทน
   ทั้งเจ้าของรถที่เป็นตำรวจหญิง และพลอย จะต้องยอมรับผลที่ตามมาจากอารมณ์ชั่ววูบของตนอย่างเลี่ยงไม่ได้ และมันจะต้องอยู่ในความทรงจำของเขาไปตลอดกาล
   อาเมน
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 10, 2012, 02:08:35 pm
8 กย 55
   เรียนพิเศษของมิวปิดคอร์สแล้ว ผมให้เขาพัก 1 เทอม อัดเรียนมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดีสำหรับเด็ก เราคุยกันเรื่องเหล่านี้เสมอครับ บอกเขาว่าปีหน้า ป6 จะต้องเรียนเข้มกว่านี้นะ เพราะต้องไปสอบเข้ามัธยม 1 ที่ต้องมีการแข่งขันสูงมาก
   แม้จะไม่ต้องไปส่งมิว แต่ก็ต้องไปทำงานที่ร้านขายของเหมือนเดิม วันนี้ไหล่ซ้ายเจ็บเพราะเมื่อวานกระแดะทำท่าแบบโยคะ ฝืนหัวไหล่ตัวเองไปหน่อย มาออกอาการเอาวันนี้ ยกแขนซ้ายสูงไม่ได้เลย เฮ้ออ
   เย็นมีงานเลี้ยงรุ่น แต่เลี้ยงกันเองเฉพาะในห้อง แม้จะไม่ได้เลี้ยงกันทั้งรุ่นเป็นร้อยๆ คน แต่ก็เรียกกันติดปากว่างานเลี้ยงรุ่น จัดที่ร้านอาหารชื่อ Room No5 แถวท่าน้ำเทเวศร์ ของรุ่นพี่ OSK พาอาจารย์ประจำชั้น ม6 ของพวกเราไปด้วย บรรยากาศน่าสนุกนะ ได้ข่าวว่าไปกันกว่าครึ่งห้องแน่ะ
   ใกล้จะออกจากบ้าน เพื่อนนักเรียนชื่อโอภาส ชื่นเล่นว่าหนึ่ง โทรมาหา บอกว่าจะมารับไปด้วยกัน บ๊ะดีสิ จะได้นั่งคุยกันไปด้วย หนึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก หลายเดือนก่อนก็สั่งรถ Neobike 14 มาให้เขาคันหนึ่ง
   สักพักใหญ่หนึ่งมาถึงหน้าบ้านพร้อมเพื่อนนักเรียนอีกคนชื่อดำรง ไอ้คนนี้ตอนเรียนโดยเรียกว่า “ไอ้เตี้ย” ก็มันเตี้ยจริงๆ แต่ขอโทษ ผมเห็นมันแล้วจำไม่ได้ เพราะสูงราว 175 ซม จากเดิมผอมๆ เล็กๆ กลายเป็นหุ่นดีสูงใหญ่
   ขับไปรับเพื่อนอีกคนเป็นอาจารย์เอแบค ชื่อไอ้เป็ด ไอ้คนนี้สนิทกันมาก มันเพิ่งมาฮิตขี่จักรยานไม่กี่ปี แต่ไปเล่นเอาของแรง เล่นเสือหมอบ ทุกวันนี้เลยมีทั้ง Bianchi / Orbea แต่ล่าสุดโดนเด็กเลี้ยวจักรยานตัดหน้า เป็ดซัดซะเต็มลำ แต่เด็กไม่เป็นอะไร เป็ดเองไหปลาร้าหัก รถตีลังกา เบาะ และ Stem ครูดพื้น ขับรถยนต์ไม่ได้ ไปทำงานไม่ได้ เพื่อนเลยมารับ
   อ้อ วันนี้มิวเปลี่ยนใจมาในงานด้วยนะ ตอนแรกบอกจะอยู่บ้าน แต่พอหนึ่งมาถึงบ้านผมปุ๊บ มิวบอก ไปด้วยคนดีกว่า แล้วก็รีบฉวยเป้คู่ชีพวิ่งตามผมออกมา
   ไปถึงร้านอาหารก็เจอเพื่อนๆ OSK มากันเต็มร้าน พวกเราลงมาจากรถกันกลุ่มใหญ่ เพื่อนๆ เลยจับตามองว่าใครเป็นใคร ดีใจครับ ได้เจอเพื่อนๆ ที่ไม่เคยเจอกันมากว่า 30 ปีตั้งแต่เรียนจบ มีคนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่ปัตตานี เลยได้สนทนาทุกข์สุข งานนี้เจ๋งตรงมีอาจารย์ประจำชั้นพวกเรามาด้วย เลยขอกอดไปทีหนึ่ง คิดถึงจริงๆ
   Room no5 ปากทางเข้าท่าน้ำเทเวศร์อาหารดีมากครับ จอดรถก็สะดวกสบาย มีขาหมูทอดแบบเยอรมัน และซี่โครงหมูเหล้าจีน สองอย่างนี้เด็ดสุดสำหรับผมนะ เพราะมันกินง่าย แต่ก็อร่อยอีกหลายอย่าง พวกปลาทอดราดน้ำปลาก็มี อีกอย่างที่อร่อยมากคือโกโก้เย็น แต่แพงหน่อย แก้วละ 55 บาท
   กินไป คุยไป เพื่อนที่เป็นสาวก็แต่งหญิงมาแบบจัดเต็ม เขาเหมือนหญิงจริงๆ จนมิวดูไม่ออกเลย เป็นอีกงานที่มาแล้วสนุกมาก แต่เพื่อนสวนกุหลาบจะออกแนวบ้านๆ จนๆ หน่อย สู้ชีวิตกันดีครับ มีคนหนึ่งบ้านขายแป้งเปาะเปี๊ยะ เขานั่งปิ้งแป้งมาหลายปี จนคิดว่าไม่ไหวแล้ว ตัวเองพอมีความรู้ทางด้านระบบไฟฟ้า เลยออกจากบ้านมากับมอเตอร์ไซค์คันเดียว ทางบ้านและคนรอบข้างดูถูกว่าไปไม่รอดแน่ แต่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ สวนกุหลาบในการช่วยลงชื่อจดทะเบียนบริษัทที่ต้องใช้ 7 คน
   ขอโทษทุกวันนี้แม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็มีรถกระบะเอาไว้ขับไปทำงาน มี Nissan March ให้ภรรยาใช้ มีตึกแถวห้องหนึ่งเอาไว้เป็นโกดังเก็บของและออฟฟิซ
   บอกตามตรง ผมโคตรอิจฉาเลยครับ ที่ได้ทำตามฝันของตัวเอง
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 10, 2012, 02:12:49 pm
9 กย 55
   เช้าไปตลาดบางน้ำผึ้งอีกแล้ว ผมอยู่ในช่วงลดพุงอยู่ด้วย เมื่อคืนก็จัดหนักมาแล้ว วันนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ซื้อขนมกลับมากินที่บ้าน แต่ตอนสายไปซื้อของใช้ที่เดอะมอลล์ ภรรยาและลูกอยากกิน Osishi Buffet ผมทำใจลำบาก แต่ก็ตามใจเขาไป เพิ่งเคยกินครับ แรกๆ ก็ดูตื่นตาตื่นใจดี มีหม้อน้ำซุบสองสีเหมือนที่เคยกินในสิงคโปร์เลย (ร้านของมิสเตอร์ลี นักปั่นกลุ่ม Bike Aid ของสิงคโปร์) มีอาหารดิบจานเวียนไหลมาที่โต๊ะเรา จะกินอะไรก็หยิบไป แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะอร่อยตรงไหน
   ที่บาร์ของทอดมีกุ้งเทมปุระ ก็ทอดแบบอมน้ำมัน ใช้น้ำมันเก่า กินแล้วแหยะมาก คำเดียวแทบคายทิ้ง โดยรวมแล้วอาหารรสชาติค่อนข้างจะธรรมดาเอนไปทางแย่ ถ้าคนเคยกินของดีๆ มาแล้ว รับรองจะกินไม่ลง ส่วนผมยิ่งอยากจะลดพุงอยู่ด้วย พอมาเจอแบบนี้กินได้ไม่กี่อย่างเอง เลือกเนื้อปลาเนื้อกุ้งมากิน มีของหวานอร่อยคือถั่วแดงร้อน
   กลับมาบ้านตอนบ่าย ดูทีวีรายการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ เขาพาไปที่บางตะบูน เพชรบุรี ไอ้นี่ผมคุ้นมาก เพราะตอนขี่จักรยานไปหัวหินผมผ่านจุดนี้ ถ่ายรูปมาด้วย จำได้แม่นยำ ไม่มีวันลืม เพราะมาหมดแรงพักนอนเอาแถวนี้ ลมเย็นดีเหลือเกิน
   เล่าเรื่องพาราโอลิมปิคบ้าง เพราะเห็นไม่ดังเท่าโอลิมปิคของคนธรรมดาเลย ทั้งๆ ที่คนพิการเขาต้องฝึกอย่างหนักไม่แพ้คนปกติ ร้ายกว่านั้นคือส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตแบบอดมื้อกินมื้อ เรียกว่าจนเลยก็ว่าได้ จะได้มากินดีอยู่ดีหน่อยก็ตอนเก็บตัวซ้อม
   ฮีโรของผมคนหนึ่งคือ สายชล คนเจน ช่วงนี้คงจะได้ยินชื่อของเขาบ่อยขึ้น ผมเคยอ่านประวัติของเขาแล้วขนลุก เพราะจนแบบแทบไม่มีจะกิน แต่ความพยายาม อุตสาหะ มานะ ของเขานั้นอยู่ในขั้นสุดยอดแล้ว ตอนขี่จักรยานแล้วไปไม่ไหว ผมก็คิดถึงสายชลนี่แหละครับ ขนาดเขาไม่มีขา ยังทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 13, 2012, 02:19:10 pm
10 กย 55
   จำตำรวจหญิงที่ยืนด่าศูนย์เชฟโรเลตพร้อมชักปืนขู่ที่ผมเล่าวันก่อนได้ไหม ฟังข่าวเช้านี้กลายเป็นว่ามันคือตำรวจปลอม ในวันเกิดเหตุที่เห็นมีตำรวจหนุ่มยืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยนั้น กลับกลายเป็นภรรยาเจ้าของรถ
   งานเข้ากรมตำรวจครับ ตลอดวันนี้ข่าวนี้คงจะเป็นที่จับตามองของสังคม ในขณะที่ข่าวลูกกระทิงชนตำรวจเริ่มจะซาๆ ลงไปละ กระแสสังคมก็แบบนี้แหละครับ ชอบเล่นกันแบบฉาบฉวย เช่นเดียวกับสื่อทีวี สิ่งพิมพ์ พวกนี้ชอบจับกระแสอย่างมาก เพราะข่าวของเขาขายได้
   เมื่อวาน Honda Rama 3 เอารถ Honda Step wagon Spada มาโชว์ที่เดอะมอล์ท่าพระ ผมเข้าไปดูแล้วน่าสนใจรถ เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง ที่เบาะหลังสุดท้ายยังนั่งได้สบาย มีแอร์ทุกตำแหน่ง ประตูสไลด์สองด้าน กระจกรอบรถบานใหญ่มาก ดูโปร่งสบายตา ราคา 2.174 ล้าน เสียอย่างเดียวน่าจะมีหลังคาแก้วมาให้ แต่ก็เข้าใจนะ ว่าถ้าให้หลังคาแก้วก็จะไม่ได้ราคานี้แน่
   ผมทดลองนั่งทุกตำแหน่งแล้วโอเค คือรับได้ ที่ชอบมากสุดคือเบาะแถวกลางปรับระดับพนักพิงได้ เลื่อนไปไกลถึงหลังสุดแล้วเบาะนั่งชุดสุดท้ายยังนั่งได้แบบไม่ชนเข่า ทัศนวิสัยโปร่งตาดีมาก
   เลยเอารถคันนี้ไปบอกที่บ้าน ไม่เชิงว่าอยากได้ แต่บอกว่าถ้าอยากได้รถครอบครัวคันใหม่ ก็มีเจ้าคันนี้แหละที่น่าสนใจ เพราะเล็กและถูกกว่า Toyota Alphard เยอะ ขับน่าจะคล่องตัวกว่า คือเจ้าของขับเองได้สบาย ที่บ้านผมไม่นิยมจ้างคนขับรถ ไม่อยากฝากชีวิตไว้กับเขา
   เข้าใจครับว่ามีคนขับให้น่ะสบาย แต่อย่าลืมนะ เขาเป็นผู้ควบคุมชีวิตของเราทั้งครอบครัว สมมุติวันอาทิตย์ไปต่างจังหวัดกันไกลๆ แล้วคืนวันเสาร์คนขับคนนี้เขานอนมากี่ชั่วโมงเราก็ไม่รู้ ยังไม่นับเรื่องการควบคุมอารมณ์ขณะขับที่อาจเป็นปัญหาตามมา ฯลฯ
   รถนำเข้าจากอินโดนีเซีย ดูนานๆ ชักน่าสนใจ แต่ที่บ้านไม่มีที่จอดรถแล้ว ถ้าเอาคันใหม่เข้ามา ก็ต้องขายคันเก่าออกไป ทั้งบ้านมองมาที่รถผมสิครับ เจ้า Nissan 180SX ใช้มาตั้งแต่ปี 98 เพิ่งจะแสนกว่าโล แต่มันทนโคตรๆ ไม่เคยพัง ไม่เคยเสีย
   ได้รถคันใหม่น่ะใครๆ ก็ชอบ แต่ถ้าให้ขับใช้งานทุกวันก็เริ่มลังเล เพราะรถคันใหญ่ หาที่จอดยาก ถ้าขับใช้งานคนเดียวหรือแค่รับส่งลูก ผมอยากได้รถเปิดประทุนมาขับแบบเดิมมากกว่า แต่ไอ้คันใหญ่นี่มันพิเศษตรงที่ผมสามารถใส่จักรยานไปขี่เล่นกับครอบครัวได้ ในขณะที่รถ Nissan 180SX ผมใส่ได้แค่ Neobike 14 คันเดียวเต็มแล้ว
   ภรรยาดูจะสนใจไม่น้อย เพราะได้เงื่อนไขพิเศษคือผ่อน 48 เดือน ดอกเบี้ย 0% แปลว่าจ่ายเงินราว 8 แสน ก็ออกรถได้เลย ผ่อนเดือนละ 2.7 หมื่นอีก 48 งวด จบ
   ผมมีแผนอยากได้รถใหญ่ๆ เอาไว้มาทำเป็นรถบ้านมานาน แต่รถบ้านของผมไม่ถึงกับต้องมีเตียง ครัว ห้องน้ำอะไรนะ ผมแค่ขอให้ผมนอนในรถได้ ใจจริงอยากนอนบนหลังคาด้วยซำ ห้าปีก่อนผมมอง Mercedes Benz Sprinter เอาไว้ มันใหญ่เว่อร์จริงๆ แหละ ขับไปไหนมาไหนลำบาก แต่เอาสะใจไง ภายในรถก็จะมีจักรยาน มอเตอร์ไซค์คันเล็ก แล้วก็เรือคายัค มีคันเดียวตระเวนทั่วไทย เดินทางและเขียนหนังสือไปด้วย น่าจะเป็นชีวิตที่สุดๆ ดีนะ
   คิดฝันมาหลายอย่าง แต่ถ้ายังไม่ตายและถ้ามีโอกาสก็อยากจะจัดให้ได้ดังฝันสักครั้ง ทุกวันนี้ถึงได้ทำให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ เพราะเป้าหมายในการใช้ชีวิตของผมยังอีกยาวไกล (มันมาจากการคิดบวกมาเข้าจนเป็นคิดคูณ คิดแบบทวีคูณ)
   น้ำหนักลดลงมาได้ราว 3 กก เหลืออีก 3 กก จะถึงเป้าที่ผมตั้งไว้ก็จะไปขี่จักรยานที่ต่างประเทศ ตั้งเป้าไว้ให้มันสูงและน่าตื่นเต้นหน่อย จะได้มีแรงกระตุ้น จะลางานไปได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย เจ้าของร้านให้หยุดไหมก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็ขอลดลงให้ได้ก่อน เรื่องอื่นค่อยมาว่ากันอีกที ถ้าลดได้จริงก็จะเป็นตัวเลขนำหนักแบบ New Low ในรอบสามปี (มั้ง)
   ประเทศแรกที่เล็งไว้ก็คือสิงคโปร์ครับ แน่ล่ะ ไม่ได้ไปแบบเน้นเที่ยวตามไฮไลท์แบบในหนังสือพวก Guide Book ไม่ได้กินหรูหรา แต่มันจะเป็นการใช้ชีวิตแบบสุดขีด
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 13, 2012, 02:27:31 pm
11 กย 55
   ภรรยาไปงานเลี้ยง จับสลากได้ของรางวัลมาหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ipad และ Sumsung Galaxy อีก 3 เครื่อง
   เดือดร้อนสิครับ สองจิตสองใจว่าจะเอาไว้ใช้เองดี หรือจะขายต่อเหมือนปีที่แล้วที่ได้ Black Berry ดี ผมไม่ชอบหน้าตาเจ้า BB เลยรีบๆ ขายในเวปจักรยานไป แค่วันเดียวก็มีคนมาเอาถึงบ้านแล้ว
   Ipad ที่ได้นี่มันรุ่นไหนก็ไม่รู้ ข้างกล่องเขียนแค่ว่า ipad 16G หาข้อมูลในเวป เขาก็บอกถึงความต่างของแต่ละรุ่นนะ แต่มันดูภายนอกไม่ออกไง เช่นบอกว่าตัวใหม่กล้องดีกว่าเดิม หน้าจอแสดงผลดีกว่าเดิม หึหึ แล้วผมจะรู้ไหมล่ะครับ ในเมื่อยังไม่เคยเห็นว่าของเดิมมันเป็นอย่างไร
   ผมไม่ค่อยชอบใช้อุปกรณ์แบบนี้ เพราะมันจะเป็นตัวอย่างแก่ลูก ลูกเห็นเราทำอะไร เขาก็จะบันทึกภาพนั้นไว้ แล้วก็จะดึงออกมาใช้ตามเวลาที่เขาเห็นว่ามันเหมาะสม พ่อแม่พูดคำหยาบ แน่นอน มันบันทึกเอาไว้แล้ว ในทางตรงข้าม พ่อแม่พูดจาไพเราะ เขาก็จะจำไว้เช่นกัน อยากให้ลูกเป็นอย่างไร ก็ทำตัวแบบนั้นให้ลูกได้เห็นครับ รับรองไม่ผิดหวัง
   ผมไม่ชอบเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยคอมฯ ตอนอยู่กับลูกก็อยากเสริมสร้างทักษะให้เขาตลอดเวลา เอาเวลาเล่นคอมฯ ไปเล่นหมากรุก หมากฮอสกันจะสนุกเสียกว่า ช่วงนี้เล่นกับมิววันละ 2 เกม ก่อนนอน เขาชอบหมากฮอส และหมากรุกฝรั่ง
   วันนี้เฝ้าอยู่ร้านขายของตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ยังดีที่กลับมาบ้านได้ดูแลลูกเล็กน้อยก่อนเข้านอนหลับปุ๋ยไปพร้อมกัน
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 13, 2012, 02:29:40 pm
12 กย 55
   ตื่นเช้ากว่าเดิม เพราะนอนเร็ว เลยขี่จักรยานไปได้ 30 นาที ที่ผมขี่ทุกวันก็เพราะแค่ต้องการให้กล้ามเนื้อก้นจุดที่กดทับคุ้นชินกับการรองรับ ไม่อยากทิ้งไปนาน กลับมาขี่ใหม่มันจะเจ็บ
   เบาะ Brooks นี่ใช้ดีจริงๆ เล่นเอาติดใจเบาะหนังสไตล์นี้เข้าเสียแล้ว ตอนนี้ก็เร่งลดน้ำหนักอยู่ หากทำได้ตามเป้าที่ตั้งใจ ก็อาจมีอะไรสนุกๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น
   น้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัยแบบไม่คาดฝัน รัฐบาลทำอะไรไม่เป็นเช่นเคย ได้แค่อุด ปะ สูบ เพราะเขามัวแต่คิดปกป้องแต่กรุงเทพฯ พอเจอพนังกั้นน้ำทะลุ น้ำลอดเข้ามาทางใต้พนังนี่ไปไม่เป็นเลย วลี “เอาอยู่” ยังคงโดนแซวแบบเจ็บลึกไปอีกนาน
   ตอนเย็นข่าวช่อง 3 สรยุทธนำ สายชล คนเจน และภรรยา มาออกรายการ ใจเดียวกับผมเลย เพิ่งเอ่ยถึงเขาไปเมื่อสองวันก่อน
   วันนี้อยู่เฝ้าร้านจนดึกอีกแล้ว ยังไงก็ไม่รู้สึกชินสักที
   คิดถึงแต่อิสรภาพ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 17, 2012, 01:03:57 pm
13 กย 55
   ตื่นนอนกลางดึกเพราะหมาข้างบ้านเห่าอีกแล้ว เห่าแค่นิดหน่อยพอทน นี่มันเห่าเหมือนจะกัดกัน คงน่าจะเป็นเหมือนการเอาหมาตัวใหม่มาเลี้ยง แต่เอามาตอนโต มันเลยเข้ากันได้ไม่ง่ายนัก ตื่นตั้งแต่ตีหนึ่งครึ่ง ถึงตีสามก็ยังไม่หลับ ได้แค่หลับตา แต่ใจมันไม่ได้หลับเลย เจอแบบนี้บ่อยๆ สุขภาพแย่ ผมสงสารภรรยาและลูก ไม่รู้เขาจะตื่นแบบผมไหม แต่ถามมิวตอนเช้า เขาบอกไม่เห็นได้ยินอะไร ภรรยาก็บอกไม่ได้ยิน เอ๊ะ หรือผมจะชิงแก่ไปเองคนเดียวล่วงหน้า
   ขี่จักรยานได้แป๊บเดียวสิบกว่านาทีเอง เอาแค่พอให้ก้นได้สัมผัสเบาะทุกวัน หากมีโอกาสถ้าสักวันได้จัดทริปไกล ก้นกับเบาะจะได้ไม่ทะเลาะกัน ฝันนะ จะได้ทำจริงเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย
   เย็นรีบไปรับมิว และไปทำฟันต่อ ทำที่ร้านเก่าแก่ชื่อสมภพ-อัมพุช คลินิก สมัยก่อนอยู่สีลม ตอนนี้ย้ายไปตึกชาญอิสสระแล้ว น่าจะเป็นร้านหมอฟันที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเจอแล้วนะ เพราะทำให้กับบุคคลในราชวงค์ ทุกท่าน ทุกองค์ ถ้าจะทำต้องมาที่คลินิก ยกเว้นในหลวงคนเดียวที่หมอจะถวายการตรวจให้ถึงในวัง นี่คือข้อมูลเก่าเท่าที่ผมรู้มานะ ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่
   มิวกับผมนัดทำฟันเวลาเดียวกัน หมอของมิวเรียกชื่อตรงตามเวลา แต่หมอของผมช้ามาก ติดพันลูกค้าทีคิวก่อนผม แต่รอนานเว่อร์ถึง 1 ชม เต็ม ไม่เอาแล้วล่ะ พรุ่งนี้มิวต้องมีเรียน แถมการบ้านก็ยังไม่ได้ทำ เลยเดินออกมาหาอาหารเย็นกินกัน
   ลงเอยที่ร้านสีฟ้า ร้านอาหารเก่าแก่ที่ผมชอบในรสชาติ แต่ที่เกลียดสุดคือราคา โคตรจะแพงเลยครับ ของที่สั่งประจำคือขนมเบื้องญวน กินตั้งแต่แผ่นละ 60 บาท หลังๆ มาก็ 80 จนทุกวันนี้เป็นร้อยแล้ว ที่ช็อคก็คือน้ำชามะนาว เมื่อก่อนแก้วละ 45 บาทก็ว่าสุดแพง แต่วันนี้ 65 แล้วครับ
   กลับถึงบ้านรีบให้มิวอาบน้ำทำการบ้าน อ่านหนังสือกันคนละนิด สักพักก็เข้านอน
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 17, 2012, 01:08:05 pm
14 กย 55
   เช้านี้ผมทำปลาตายไปตัวหนึ่ง ขณะช้อนสิ่งสกปรกในอ่างดินเผาทิ้ง ผมคิดว่าเป็นอ่างที่ไม่มีลูกปลา เลยช้อนเสียอย่างรุนแรง พอจะเทสิ่งสกปรกทิ้ง มองเห็นลูกปลาตัวเล็กนอนอยู่ ทิ้งไว้สักพักคิดว่ามันอาจจะมึนงง ที่ไหนได้ ตายเลย น่าเศร้าจริงๆ
   กลับมาถึงบ้านฝนก็เทลงมาอย่างหนัก แถมตกต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ถือโอกาสรองน้ำฝนเอาไว้เลี้ยงปลา เอากาละมังมารอง ล้างอ่างที่ว่าง จัดเตรียมน้ำฝนใส่ไว้จนเต็ม เผื่อมีตัวไหนผสมพันธุ์ก็จับมาลงในอ่างซะ
   ฝนยังคงตกหนัก นานเข้าน้ำเริ่มระบายไม่ทัน เอ่อล้นจากท่อระบายน้ำ ท่วมขังที่หลังบ้านสูงราวตาตุ่ม บ่อปลาก็เช่นกัน เจอฝนเทแรงจัด ระบบท่อน้ำล้นเอาไม่อยู่ น้ำเลยสูงล้นบ่อ ใจแป้วเลย ไม่รู้ว่าพวกลูกปลาตัวเล็กๆ มันจะหลุดลอยหายไปเยอะขนาดไหน
   มาหยุดตกอย่างเป็นทางการเอาตอนทุ่มครึ่ง เดินสำรวจความเสียหาย โอ้โห ฟ้าฝ่าลงตรงไหนไม่รู้ แต่มาระเบิดเอาสองที่ จุดแรกเป็นกล่องรวมสายอากาศทีวีและจานดาวเทียม กล่องแตกกระจาย ชิ้นส่วนกระเด็นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไกลราว 3 เมตร สายไฟแตกฉีกขาดจนเหลือแต่แกนโผล่ออกมาราว 2 ฟุต เดินไล่ตามสายไฟไปเรื่อยก็เจออีกจุดที่ระเบิด มันคือตู้รวมไฟแบบ Safe T Cut ระเบิดแบบฝาเปิดอ้า แผงหน้าปัดที่มีนอตล็อคไว้ 4 มุม เผยออ้าออกมา สายไฟที่เดินไว้เป็นแผงและทาสีทับอย่างดี มันดีดตัวออกมาจากผนังทั้งแผง สีที่ทาไว้หลุดตามติดออกมาด้วย
   ขณะกำลังมองด้วยความเซ็ง ก็ได้ยินเสียงน้ำหยด เฮ้ย ซ่อมไปแล้วนี่หว่า เจอฝนมาหลายรอบก็ไม่รั่ว มาวันนี้เล่นหยดติ๋งๆ น้ำนองเต็มพื้นเลย รีบหยิบผ้าปูรองตอนซ่อมจักรยานไปซับทันที ผ้าผืนนี้ซื้อมาจากจตุจักร ลักษณะคล้ายเสื่อ แต่ทำด้วยผ้าทอ ถ้าเห็นเป็นผืนเล็กก็จะดูเป็นพรมเช็ดเท้า แต่นี่ผืนใหญ่เท่าเสื่อ ผมเอามาปูวางแล้วเอาจักรยานนอน ใช้ตอนซ่อมจักรยานนี่แหละ
   เดินกลับเข้ามาบ้านใหญ่ เปิดทีวีไม่ติด อ้าว งานเข้าแล้วสิ จานดาวเทียมของ PSI เปิดติด แต่รับสัญญาณไม่ได้เลย ห้องนอนผมอาการหนักสุด เพราะทั้งทีวีและกล่อง PSI เปิดไม่ติดเลย
   พรุ่งนี้คงต้องเรียกช่างไฟ ช่าง PSI มาช่วยจัดการ งานนี้เสียเงินแบบไม่น่าจะเสียเลยจริงๆ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 17, 2012, 01:11:59 pm
15 กย 55
   สำรวจความเสียหายในบ้านอีกรอบ เมื่อคืนดูตอนมืดๆ แถมใช้ไฟคาดหน้าผากของ Petzl ซื่อมาจากสิงคโปร์ รุ่น e+lite คือผมชอบเน้นเบา พกพาง่าย แต่ไฟมันก็ดวงเล็กจิ๋วตามไปด้วย ให้แสงแค่พอสว่างแบบไม่มืด ถ้าต้องการแบบสว่างเจิดจ้าต้องใช้รุ่นใหญ่กว่านี้ ซึ่งก็จะต้องมีน้ำหนักมากกว่าตามไปด้วย
   กล่องตู้ไฟ Safe T Cut เสียหายหนัก ต้องเดินสายไฟใหม่ ชุดแผงสายไฟที่กระเดิดดีดออกมาจากกำแพงราว 1 ซม เดินออกมาดูที่จุดเกิดเหตุ โอ้โห กล่องรวมสายสัญญาณทีวีและดาวเทียมแตกกระจาย สายไฟขาดกระจุยเหลือแต่แกนกลางโด่เด่ ฉนวนไหม้ละลายหายไปหมด นี่คงจะผ่าลงมาจากยอด แล้ววิ่งมาตามสายนำสัญญาณ พอมาถึงกล่องเจอข้อต่อ เลยแยกทางกัน ไปซ้าย เข้าห้องของผม ตู้ไฟระเบิด ไปทางขวาเข้าบ้านใหญ่ ทีวีพังไปหลายเครื่อง
   เสียหายเยอะครับ ดีที่ตอนนั้นไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่งั้นเละตามไปด้วย
   ตอนสายช่างมาดูพื้นที่เกิดเหตุ ประเมินสถานการณ์ นัดวันจันทร์เข้ามาซ่อมแซมให้ เช่นเดียวกับช่างจาก PSI ที่บอกว่ากล่องพัง เลยเสนอให้เปลี่ยนเป็นกล่องรุ่นใหม่ ดูบอลได้ ไม่จอดำ ผมไม่ได้สนใจบอลอะไรกับใครเขาสักนิด ใจอยากดูแต่พวกแข่งรถในแมทช์ต่างๆ โดยเฉพาะ F1 และแนว Rally ส่วนดริฟท์นั้นแทบไม่เคยดู ได้แต่ส่งใจไปให้พวกน้องๆ ที่ป่านนี้เขาเทพกว่าผมเยอะแล้ว
   ไปถึงที่ทำงานก็ต้องขับรถกระบะไปซื้อของที่แมคโครอีกแล้ว แต่วันนี้ขนของน้อยหน่อย มีเจ้าหน้าที่ช่วยยกของขึ้นด้วย ก็ผ่อนแรงหลังผมไปหน่อย กลับมาถึงร้านก็ทะยอยนำสินค้าลง
   บ่ายไปธนาคาร พามิวไปเรียนคุมอง มีเวลาเหลือนิดหน่อย เดินไปร้าน istudio ถามเขาไปตรงๆ อย่างอายว่า
   “พี่ครับ ผมมี ipad แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นรุ่นไหน พี่ช่วยดูให้ผมหน่อยครับ” ไม่รู้อะไร ก็ถามมันไปซื่อๆ อย่างนั้นแหละ
   เจ้าหน้าที่หนุ่มมองดูปราดเดียวก็ให้คำตอบ
   “นี่รุ่น ipad2 ครับ ตัวเครื่องมันจะบางๆ กว่าตัว the new ipad นิดหน่อย”
   ผมรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที อ้าว เพิ่งจะจับฉลากได้มาไม่กี่วันก่อน คิดว่ามันจะเป็นตัวใหม่ล่าสุดนะนี่ ก็อย่างที่บอกแหละครับ ผมไม่เคยรู้สึกอยากได้ผลิตภัณฑ์ของค่ายนี้มาก่อน ไม่ชอบแนวทางการตลาดของเขาอย่างมาก มันจะทำให้เราต้องเป็นทาส และเสียเงินให้เขาอยู่ตลอดเวลา
   มีเจ้าหน้าที่หญิงเดินปราดเข้ามาคุยด้วย ผมหันไปมองและยื่น ipad2 ของผมให้ดู เธอหยิบพลิกดูด้านหลังทีเดียว แล้วยืนคืนให้ผม
   “ตัวนี้ the new ipad นะคะ เป็นตัวล่าสุดของเรา เป็นรุ่น Celluar ใช้ระบบ 3G รองรับอนาคตได้ถึง 4G ค่ะ”
   ถ้าเป็นการ์ตูนก็จะเห็นผมตาปิ๊งเป็นประกาย ไอ้คนแรกมันบอกผมผิด เจ้าหน้าที่หญิงที่ทางทางจะเป็นหัวหน้า เลยอบรมวิธีดูความต่างของเครื่องจากด้านนอก คือตัว the new ipad เขาจะมีเลนส์กล้องที่ใหญ่กว่า ตัวเครื่องหนากว่า และถ้าเป็นรุ่นรองรับ 3G ก็จะมีแถบสีดำอยู่ด้านบนของเครื่อง นัยว่าคือสายอากาศ
   ผมเงี่ยหูแอบฟังเขามา จับใจความได้แบบนี้แหละ
   ลิงโลดใจขึ้นมาทันใด เดินต่อไปยังแผนกอื่น เจอร้านขายเคสของ ipad คุณครับ บอกตามตรงว่าดูแล้วตาลาย มันไม่เหมือนพวกซองใส่มือถือที่แค่หุ้มไง ไอ้ ipad มันมีฝาพลิกเปิดปิดได้ หน้าจอหมุนได้ วางตั้งได้ วางนอนและปรับเอนได้
   เอาสิมึง เลือกยังไงดี มันแขวนไว้เรียงเป็นตับยังกะวอลเปเปอร์ ทุกอันอยู่ในซองแข็ง หุ้มมิดชิดสนิทอย่างดี มีตัวล็อคกันลูกค้าหยิบออกมาจากราวอีกด้วย
   “สอบถามได้นะคะ” เจ้าหน้าที่หญิง ละมือจากการกดมือถือ เดินมาให้บริการ
   ตามสไตล์ผมครับ ไม่รู้อะไร ก็สอบถามกันไปตรงๆ
   “ผมเพิ่งจะมี ipad ครับ กำลังมองหาเคส แต่ไม่รู้ว่าแต่ละรุ่นมันต่างกันอย่างไร เขามีวิธีเลือกกันอย่างไร”
   “พี่เอาเครื่องมาด้วยไหมคะ เพราะของแบบนี้มันต้องลองใส่ ลองถือ ลองใช้งานจริง พี่จะได้รู้ว่าตัวพี่ชอบแบบไหน”
   ผมเปิดกระเป๋า หยิบ ipad ที่อยู่ในซองผ้าเชยๆ ยืนให้พนักงานเหมือนโดนสะกดจิต
   เขาหยิบตัวที่เจ๋งที่สุดออกมาให้ผมลองใช้ เป็นเคสที่ใส่แล้วเราสามารถหมุนหน้าจอ ipad ได้เลย จะวางตั้งโต๊ะก็ยังหมุนหน้าจอได้ มีพลาสติคหุ้มปิดรอบเครื่องอย่างมิดชิด แม่งมิดชิดเสียจนกดปุ่มข้างไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แถมยังหนา หนัก แพงอีกด้วย น่าจะ 2500 บาทมั้ง เลยไม่เอา
   หยิบเอาของออสเตรเลียมาให้ดูต่อ ทำจากหนังแท้อย่างดี ราคาราว 2300 จับถือถนัดดีหมดทุกอย่าง เสียตรงตำแหน่งการวางตั้งของมันยังไม่ถูกใจผม คือวางแล้วพิมพ์งานไม่ค่อยถนัด และมีเฉพาะสีสันบาดใจ เขียว ส้ม ชมพู ขาว ฯลฯ ไอ้นี่ตกรอบตามไปอีกอัน
   เล่นของถูกดูบ้าง หยิบเอาของจีนมาลอง มันก็โอเคดีนะ กำลังสองจิตสองใจคิด
   “รุ่นนี้ขอบนอกมันหลุดลอกง่ายนะคะ ตัวมันทำจากผ้า ห้ามโดนน้ำ โดนแล้วมันจะเหลือง”
   อ้าว ฉิบหายสิ เคสมันมีไว้เพื่อปกป้อง แต่ตัวเอ็งเองกลับทำใจเสาะ ไม่แข็งแรง แบบนี้มิต้องหาเคสมาหุ้มเคสอีกทีหรือ
   “คนใช้ ipad เขาเปลี่ยนกันบ่อยค่ะพี่ ใช้ไม่ถึงปีก็เปลี่ยนกันแล้ว”
   นั่นประไร ว่าแล้วไง ผลิตภัณฑ์ของสตีฟ จอบส์ มันมาแนวนี้กันหมด ผมถึงไม่อยากใช้สินค้าของค่ายนี้ก็เพราะเหตุผลนี้แหละ
   นี่ผมกะจะมาซื้อแบบอันเดียวแล้วใช้ตลอดชีวิตเลยนะนั่น แต่ไม่กล้าพูด เลยให้เขาแนะนำอันทีแข็งแรง ทนทาน ราคาไม่แพงมาก บอกกันตรงๆ แบบนี้แหละครับ แมนดี
   เลือกของอยู่กว่า 30 นาที ถอดใส่ ลองถือ ลองวาง ลองกาง บนโต๊ะเคสกระจายเกลื่อนกลาด พนักงานใจดีมาก หยิบมาให้ลองหลายรุ่น สุดท้ายได้ของถูกใจ เป็นของญี่ปุ่นทำจากหนังแท้สีดำ ชอบตรงบางเบา ทน ราคา 1800 มีส่วนลดให้หน่อยเหลือ 1500 ตอนแรกกะจะมาดูเฉยๆ แต่เจอพนักงานตั้งใจแนะนำ ก็เลยอุดหนุนเขาไป
   ตอนถือ ipad ในมือนี่ ดูไฮโซมาก นึกภาพหนุ่มสาวนั่งในร้านสตาร์บัค จิบกาแฟ มือถูรูดหน้าจอไปมา โอ๊ยย ดูหรูหรา ดูเป็นผู้ดี แหวะ ผมไม่เอาหรอกนะ
   กำลังจะเดินเอาของไปเก็บซ่อนในรถ นี่ผมปิดข่าวลูกมาหลายวันแล้วนะ ไม่อยากให้เขารู้ว่ามี ipad เพราะพฤติกรรมชีวิตเด็กจะเปลี่ยนไป พอว่างเมื่อไหร่ก็จะหยิบไอ้แพดนี่แหละมารูดปาดเล่นเกม ผมไม่ชอบเลยจริงๆ
   เดินไปไม่กี่ก้าว เจอมิวที่ istudio กำลังเล่น ipad อย่างเมามัน ไอ้ร้านนี้ก็ใจดีเสียจริง เอาเครื่องมาวางไว้ให้ลูกค้าหยิบจับเล่น จะว่าดีก็ดีล่ะนะที่เราได้จับ ได้ลองก่อนซื้อ แต่ก็จะมีพวกเด็กๆ ยืนเล่นเหมือนกับว่าเขาวางไว้ให้มันเล่นอย่างนั้นแหละ มิวลูกผมก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ ไม่ได้ว่าเด็กคนอื่นเลย
   เย็นกลับมาบ้าน มิวขอกินร้านสเต็ค 49 หน้าปากซอย ร้านนี้รสชาติดีนะ ราคาไม่แพงอีกด้วย ใครผ่านมาแถวนี้แล้วนึกไม่ออกจะกินอะไรดีก็แนะนำร้านนี้เลย จอดรถสะดวก ร้านอยู่หน้าปากซอยบ้านผมเอง พระราม 2 ซอย 21
   ร้านเพิ่งจะปรับปรุงใหม่ น่ะจะได้แม่ครัวใหม่ด้วยนะ เพราะรสชาติอาหารเปลี่ยนไป อร่อยขึ้นกว่าเดิม เมนูโปรดของผมคือซี่โครงบาร์บีคิว ส่วนมิวชอบซุปเห็ด และสเต็คประหลาดอริ
   วันนี้ในร้านเจอลูกค้ารักหมาครับ อุ้มมาอย่างดี ทะนุถนอม ให้นั่งเก้าอี้ แต่มันไม่นั่ง มันอยากนั่งบนโต๊ะก็จัดไป แม้ผมจะเลี้ยงหมาเหมือนกัน รักหมาก็คงไม่แพ้กัน แต่การแสดงออกมันต่างกัน ผมรักโดยที่มันเป็นหมา
ไม่ได้พยายามเอาหมามาแทนที่คนรัก
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 17, 2012, 01:19:16 pm
16 กย 55
ตีสามครึ่ง
   มิวเดินลงจากเตียงมาเล่าว่าฝันว่าพ่อขับยาน USS Kelvin ออกไปในอวกาศแล้วโดยยิงยานตกตาย เล่าจบก็เดินขึ้นไปนอนต่อ
   อ้าว เฮ้ยย เอ็งนอนต่อได้ แต่ข้าตื่นแล้วตื่นเลยนะเฟ้ย คนอายุเริ่มมากแล้วจะนอนหลับยากกว่าพวกหนุ่มสาว เมลาโทนินในร่างกายมันน้อยลง ทำไงดีล่ะ แป๊บเดียวมิวก็นอนหลับไปแล้ว ผมสิ นอนกระสับกระส่ายอยู่ถึงตีสีครึ่งก็ยังไม่หลับ ลุกขึ้นมาทำงานดีกว่า
   นอนไม่หลับนี่เราไม่ต้องไปเครียดอะไรนะครับ ไม่ต้องพยายามข่มใจให้หลับ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เราสามารถเพิ่มเมลาโทนินได้ด้วยการออกกำลังกายครับ แต่อย่างที่รู้ ผมเลี้ยงดูลูกเองแบบ 100% เวลาว่างก็จะให้ไปกับลูกทั้งหมด เวลาส่วนตัวก็เลยแทบไม่เหลือ ทำให้ออกกำลังกายน้อยลง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
   แต่ช่วงนี้ลดลงมาได้ 3 กก แล้วนะ ใช้หลักการของผมเอง คิดขึ้นมาเองด้วยตรรกะง่ายๆ แบบที่ใครก็เถียงไม่ได้ คือ “กินให้น้อยกว่าที่ร่างกายใช้งาน”
   แต่มันมีรายละเอียดในนั้นอีกเยอะ เช่น ต้องห้ามขาดน้ำ กินน้ำให้เยอะเข้าไว้ และยังคงเน้นอาหารคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะหาได้ในมื้อเช้า (เพราะทำกินเองที่บ้าน) มื้ออื่นๆ ผมกินนอกบ้าน มีตัวเลือกน้อย เลยกินไม่เยอะ เอาแค่พอหายหิว ห้ามกินแบบอิ่มแน่นท้อง สำคัญสุดคือถ้าเป็นไปได้ก็กินผักสด ผลไม้ ให้มาก
   อ้อ สำคัญคือห้ามอดอาหารนะ ห้ามกินน้อยเกินไปอีกด้วย มันจะกลายเป็นดาบสองคม ร่างกายจะปรับสภาพเข้าไปอยู่ในโหมดเก็บกักไขมัน เจอแบบนี้งานเข้าเลย เสียเวลาเปล่า แถมเสียสุขภาพซ้ำเข้าไปอีก
   ระหว่างวันไม่ได้ออกกำลังกายอะไร ก็ใช้วิธีแขม่วท้องบ่อยๆ ยิ่งบ่อยยิ่งดี เล่นจนเมื่อยพุงกันไปเลย แขม่วให้สุดๆ แล้วเกร็งค้างไว้ด้วยนะ ยิ่งนานยิ่งดี นี่คือวิธีสร้างกล้ามท้องแบบง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องขยับร่างกายเลย
   ยังมีวิธีออกกำลังกายที่ผมคิดขึ้นมาเองอีกหลายอย่าง แบบชนิดที่ว่าไม่ต้องขยับตัวเลยก็มี แต่ท่าทางอาจจะตลกหน่อย ถ้าอยู่คนเดียวในห้องทำงานก็โอเค มันคือท่า air chair ท่าเหมือนเฉินหลง ฝึกมวยจีนน่ะ คนจีนเรียกว่า “นั่งม้า” ท่าจะคล้ายเราตอนขี่ม้า แต่ไม่มีม้าจริงๆ นะ ยืนกางขาแล้วย่อลงเหมือนนั่งเก้าอี้ แค่นี้แหละ แต่ค้างไว้นานๆ
   ผมทำ air chair พร้อมกับแขม่วท้องไปด้วย โอ้โห สุดยอดมาก เหมื่อยเหี้ยๆ เลยครับ ทำยิ่งบ่อยยิ่งดี จิบน้ำเปล่าตลอดวัน แป๊บเดียวลงมา 3 กก แล้ว ไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ออกวิ่ง ไม่ได้ขี่จักรยาน ไม่ได้ว่ายน้ำ ไม่มีเหงื่อออกเลย เป็นการออกกำลังกาย ที่ไม่ต้องขยับเขยื้อนร่างกาย
   อันนี้สูตรของผมเองนะ ผิดถูกหลักการอย่างไรหรือไม่ ผมไม่รู้หรอก แต่อยู่กับสิ่งใดนานๆ เข้า ก็ชอบคิดค้นอะไรใหม่เสมอครับ ตอนสมัยขับรถก็คิดวิธีขับเอง ทำจนสามารถติดเครื่องขณะรถเข้าเกียร์ 1 คาไว้ สตาร์ทแล้วรถไม่กระตุกดับ (โดยไม่ต้องเหยียบคลัตช์) อันนี้ทำได้ตั้งแต่ตอน ม5 มั้ง
ขี่จักรยานก็หาสไตล์การปั่นของตัวเอง หาความเป็นตัวของตัวเองให้เจอ ชีวิตนี้เราจะไม่ก้าวตามรอยใคร คิดสโลแกนแล้วอยากพิมพ์สกรีนใส่เสือขายอีกด้วย
เรื่องราวของผมจักรยานยังมีอีกเยอะมาก แม้จะขี่มาหลายปี แม้จะมีฝีมืออยู่ในระดับปลายแถว แต่ชีวิตยังคงต้องก้าวไป
“จงอย่าลืมความเป็นตัวตนของตัวเอง จงขี่ในแบบของตัวเอง อย่าไปไล่ตามเงาของใคร เพราะจะไม่มีวันไล่ได้ทัน”
“เขาคงไม่รู้กระมังว่านับแต่วันที่เจ้าเริ่มขี่จักรยาน ชีวิตของเขาที่เหลือจะเปลี่ยนไป”
“ขอบคุณคำสบประมาท และคำดูถูก”
   “จงอย่ากลับมาอย่างผู้แพ้ “
ตัดทอนบางประโยคหนึ่งในเรื่องที่ผมเขียนไว้มาให้อ่าน ตอนขับรถยนต์ผมเขียนเรื่อง Midnight Racing : the untold story ตอนนี้ขี่จักรยานก็มีเรื่อง Ultimate Biking Experience – UBX และเรื่อง my father the Hero (ยังไม่เคยนำเผยแพร่)

ตีห้าครึ่งฝนเทลงมาอย่างหนัก นี่ดีนะที่ไม่ได้ออกไปขี่จักรยาน ไม่ได้กลัวเปียกนะ แต่กลัวอุบัติเหตุครับ ขี่ตอนมืดๆ กลางฝนนี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย พลาดมาหน่อยก็ต้องมีเจ็บตัว
   อยู่บ้านว่างๆ ลองเปิดบลูทูธจับคู่เครื่องคอมฯ กับ ipad ผลคือไม่สำเร็จ ไอ้ ipad นี่มันแปลกประหลาดหรือผมทำไม่เป็นวะนั่น เพราะมันจับคู่กับโทรศัพท์มือถือของผมก็ยังไม่ได้ ฟ้องว่าระบบไม่รองรับ งงปนเซ็งจริงๆ
   เอ๊ะ หรือว่า มันรองรับเฉพาะผลิตภัณฑ์ของค่ายมัน
   นี่ผมต้องหา iphone5 มาใช้ด้วยหรือนี่ ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 18, 2012, 01:31:48 pm
16 กย 55

0700
   ฝนหยุดตกแล้ว พ่อแม่ไปไหว้พระที่วัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา ผมอยากไปด้วย แต่ลูกไม่อยากไป มิวยังเด็กชอบแต่เล่น โตขึ้นมาหน่อยนี้ชักเริ่มชอบกิน แต่ไม่ได้กินหลากหลายแบบผู้ใหญ่นะ เด็กเขาก็ชอบแต่ของเดิมๆ ที่คุ้นปาก สมัยใหม่นี่ก็มีพิซซ่า ไก่ทอด ฯลฯ ผมถึงต้องคอยพาไปให้กินของแปลกใหม่บ้าง จะได้ไม่ยึดติดกับแต่ฟาสฟู๊ด
   ภรรยาอยากกินซุปใสเห็ดที่ฟู๊ดแลนด์ จัดไปครับ มิวก็เล่นชุดอาหารเช้าแบบเดิมๆ ส่วนผมเน้นผัก สั่งสุกี้แห้ง มันก็ยังดีที่มีผักเต็มจาน แต่ข้อเสียก็คือมีพลังงานสูงมากจากน้ำมันประกอบอาหาร แถมใช้น้ำมันอะไรก็ไม่รู้ ถ้าอยู่บ้านผมจะใช้แต่น้ำมันมะกอก
   มิวชอบอยู่ร้านหนังสือมาก เช้านี้เลยพาไปร้านใหม่ที่ถนนสาทรตึก Double A ตรงข้ามซอยเซนหลุยส์ 3 ร้านนี้ขายหนังสือหลายค่าย เดินดูได้เพลินๆ เป็นชั่วโมง ที่จอดรถสะดวกสบายในวันอาทิตย์ แต่วันธรรมดาไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
   ระยะหลังมิวชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ผมก็เลยหยิบมาอ่านบ้าง แล้วก็ชอบนะ เพราะมันทำให้เราได้รู้ถึงวิธีคิดของเขา วิธีแก้ปัญหา หลายเรื่องในอดีตของแต่ละประเทศมันเชื่อมโยงถึงกันหมด เช่นสมัยอ่านประวัติของโรมันมา พอมาอ่านประวัติฝรั่งเศส ก็พอจะสานต่อเรื่องได้ในใจ สนุกดีครับ อ่านไปอ่านมาก็พอจะเข้าใจว่าทำไมไทยเราถึงไม่ค่อยพัฒนาไปถึงไหนเลย
   ก็เพราะเราไม่เคยถูกรุกราน ไม่เคยมีภัยพิบัติใหญ่ เรียกว่าอยู่มากันแบบสบายๆ รศ 112 อังกฤษ ฝรั่งเศส มายึด ก็ไม่ได้สู้รบกับเขา แต่ใช้วิธี “เฉือนเนื้อ” ให้เขาไป ผมไม่ได้วิจารณ์ว่าผิดนะครับ ประเด็นที่กำลังเล่าก็คือ เราไม่เคยทำสงครามอย่างจริงจัง ทั้งกับคนชาติ้เดียวกัน และคนต่างชาติ เราไม่เคยอดอยาก ยังภูมิใจในสโลแกน “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว”
   การอยู่อย่างสบายๆ ทำให้คนขี้เกียจครับ เลยเกิดการพัฒนาช้า ไทยเราต่างจากประเทศอื่นตรงนี้ น่าพิจารณานะครับ ผมถึงไม่อยากเลี้ยงลูกให้สบายมากจนเกินไปนัก
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 18, 2012, 01:33:19 pm
17 กย 55
   ฝนปรอยตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ไม่ได้ออกกำลังกายอะไร แถมน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 1 กก จากการกินเยอะเมื่อวาน ส่งมิวเข้าเรียนก็ไปทำงานทีร้านขายของต่อเหมือนเดิม
   บ่ายรีบเข้ามาบ้าน ช่างไฟมาซ่อมตู้ไฟที่ฟ้าผ่าจนระเบิด ช่างของ PSI มาติดตั้งกล่องรับสัญญาณให้ใหม่ เขาทำงานกันรวดเร็วมาก แป๊บเดียวเสร็จแล้ว ช่างไฟนำตู้ไฟพร้อมเบรกเกอร์ชุดใหม่มาใส่ให้ ส่วนช่าง PSI นำกล่องรุ่นใหม่ น่าจะชื่อ O2 มั้ง หน้าตาดูดีกว่าเดิมเยอะ ดูมีราคา น่าใช้ แต่เชื่อเถอะว่าภายในยังคงก๋องแก๋งเหมือนเดิม
   ทีวีห้องผมพังครับ เป็น Sony 29 นิ้วรุ่นเก่าแก่ แต่ระบบดี ภาพสวย 100Hz ดูสบายตา ยกลงมาไว้ข้างล่างรอซ่อม ระหว่างนี้เลยได้ทีหยิบเอา Toshiba 32 ที่จับสลากได้มาใช้งานแทน ไม่ค่อยคุ้นกับภาพของ LCD เลย ดูแล้วผมว่าภาพจากจอหลอดดีๆ แบบอันเก่าของผมมันสวยกว่า ธรรมชาติกว่า ไอ้อันใหม่นี่มันจ้า สดเกินจริง หรือว่าเรายังไม่คุ้นก็ไม่รู้นะ
   ไอ้ไอแพดของผมยังนิ่งๆ อยู่เลย ยังหาซิมมาใส่ใช้งานที่ถูกใจไม่ได้ ไม่รู้จะเอาค่ายไหนดี มองหาโปรที่ถูกใจก็เจอเยอะ แต่มันไม่ถูกสตางค์เลย นับรวมๆ แล้ว หากเป็นพวกบ้าออนไลน์นี่ต้องเตรีมเงินไว้จ่ายค่าออนไลน์เดือนหนึ่งน่าจะหลายพันบาท
   เริ่มจากมือถือต้องออนไลน์ได้ กลับมาบ้านก็ต้องใช้คอมฯ ในการออนไลน์ ถ้าใครมีไอแพดก็ต้องโดนชุดออนไลน์ไปอีก 1 ชุด มันทำให้ผมเกิดความคิดว่า เอ๊ะ มันน่าจะมีแบบ All in one
   แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีแบบ All in one มานานมากแล้ว คือระบบหนึ่งเบอร์หลายซิม ใส่มือถือซิมหนึ่ง ในไอแพดซิมหนึ่ง แต่ที่ไม่นิยมก็เพราะโดนชาร์จค่าใช้ซิมไปฟรีๆ นี่แหละ น่าจะเดินละ 150 บาทมั้ง
   เย็นฝนตกหนัก แต่ดีที่ไม่นานนัก ไม่งั้นน้ำท่วมขังอีกแน่ เห็นข่าวน้ำท่วมแล้วสงสารชาวบ้านจับใจ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 19, 2012, 02:48:20 pm
18 กย 55
   เมื่อคืนเพิ่งมีโอกาสดูทีวี LCD รุ่นกลางๆ ของ Toshiba 32 นิ้ว ขนาดมิวเด็กอายุ 10 ปี ยังดูออกว่าคุณภาพของภาพยังห่างชั้นจากจอหลอดรุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด แต่จอหลอดของผมมันเป็นรุ่นท็อปนะ อัตราการกระพริบของภาพมีน้อยมาก ดูสบายตา เครื่องนี้เอามาใช้ในห้องนอน เพราะตอนเด็กๆ ลูกชอบดูสารคดีมาก กลัวเขาจะสายตาเสีย เลยหาของดีๆ มาใช้เพื่อถนอมสายตา
   ฝนตกพรำ ๆทั้งคืน เช้านี้เป็นอีกวันที่ไม่ได้ออกกำลังกาย จัดการกับลูกปลาที่เริ่มโตขึ้น บ่อน้ำตอนนี้เขียวเต็มไปด้วยตะไคร่ ไม่ล้างหรอกนะ ให้เจ้าพวกลูกปลามันตอดกินแก้หิว ตอนสายก็ไปส่งมิว แล้วก็ไปทำงาน
   บ่ายมีฝนตกกลางๆ แต่ดูข่าวทีวีแล้วน่าตกใจ น้ำท่วมขังในกรุงเทพชั้นในหลายจุด ก็เพราะระบายลงท่อไม่ทันน่ะครับ หนำซ้ำทางด้านวิภาวดีขาออก ยังมีม็อบน้ำท่วมประท้วงปิดช่องทางอีก ทำให้หางแถวอยู่บางนาโน่น !!!
   อีกหนึ่งอะเมซิ่งไทยแลนด์ เพราะผู้นำม็อบก็คือนักการเมืองนั่นเอง
   วันนี้ Honda CR-V Gen4 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หน้าตาดุดันดี รูปลักษณ์เริ่มใกล้เคียงรถยุโรปขึ้นทุกที ราคาก็พอๆ กับตัวเก่า ล็อตแรกมีแค่ 4 รุ่น คือ 2.0 ขับ2 / ขับ 4 และ 2.4 ขับ2 / ขับ4 ระยะหลังนี้ผมติดใจพลังของเครื่องดีเซลมาก ถ้า CR-V ตัวนี้มีดีเซล ผมว่ามันจะเป็นรถ Crossover ที่เจ๋งที่สุดในตลาดไทย
                ใครที่เพิ่งซื้อตัว Gen3 ไปน่าจะเจ็บใจนะ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 20, 2012, 02:47:09 pm
19 กย 55
   ตื่นมาขี่จักรยานนิดหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรนะ ขี่จักรยานทีไร ได้ไอเดียเจ๋งๆ ทุกทีเลย นี่คืออีกเหตุผลที่ผมชอบขี่คนเดียวครับ
   ช่วงนี้บนท้องถนนเริ่มเริ่มเห็นรถ Honda Stepwagon Spada แล้ว เอ๊ะ หรือผมเพิ่งสังเกตเองวะนี่ ผมว่ามันเป็นรถที่น่าใช้มากเลยนะ ราคาราว 2.17 ล้าน ภายในกว้างขวางดี ตัวรถก็ไม่ใหญ่เทอะทะ พอจะขับเองได้
   บ่ายขับรถกลับบ้าน เจอรถMercedes Benz C Class C63 AMG ป้ายทะเบียนลาว ขับแบบซิ่งโคตรๆ ขับร่อนปาดชาวบ้านจนน่าโมโห ปกติผมเลิกโมโหใครบนท้องถนนมากว่า 20 ปีแล้ว วันนี้ขับรถพ่อเสียด้วย ถนนก็พอจะอำนวย เลยขอจัดสักหน่อย
   แต่ไม่ได้ขับเร่งแข่งกันหรอกนะ แค่แซงเขาแล้วกดให้มันมิดแค่นั้นเอง เห็นรถเขากดตามมาแค่ครึ่งทางก็เลิก อ้าว เราก็งงสิ ทำไมไม่กดตามมาให้สุด สงสัยอาจจะไปคนละทางกันก็เป็นได้ เสียงท่อก็ดังมาก แถมดังแบบแตกๆ ผมไม่เคยขับตัว AMG เสียด้วย แต่คิดว่ามันน่าจะออกแนวทุ้มนุ่มๆ นะ เพราะเครื่องตั้ง V8 6.3 (ดูจากป้ายท้ายรถเขา)
   ไอ้เรื่องป้ายทะเบียนลาวนี่เคยมีข่าวลงในเดลินิวส์หลายวันก่อนครับ เขาเขียนทำนองว่า ตั้งแต่ไม่มีด่านกลางวัน เจอรถพวกนี้ออกมาบ่อย
   เฮ้ยย ไม่เกี่ยวกันเลย รถพวกนี้มาอย่างถูกกฎหมายนะครับ เขาเสียค่าเหยียบแผ่นดินไทยราว 3000 บาท และใช้ได้แค่ 15 วัน ต้องเอารถกลับออกไปที่ด่านเดิมที่เข้ามา ไม่ใช่ว่าจะเป็นพวกรถติดป้ายทำเองเสมอไป ถ้าไปทางใต้ก็จะเจอรถป้ายทะเบียนมาเลเซียขับเข้ามาไทยมากมายครับ
   ก็แหม ไทยเราเองก็ยังขับไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านตั้งเยอะแยะนี่นา อีกหน่อยอาเซียนรวมเป็นหนึ่งเดียว รับรองจะเห็นอะไรสนุกๆ มากกว่านี้เยอะ
   แต่ไอ้พวกติดป้ายทะเบียนญี่ปุ่นนี่สินะ ไอ้นี่จงใจ เจตนา ฯลฯ
   คอลัมนิสต์รุ่นใหม่อาจความคิดไวไปนิด เห็นอะไรผิดหูผิดตาก็รีบเขียนข่าวซะ ใจเย็นๆ ครับพี่น้อง
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 21, 2012, 01:49:30 pm
20 กย 55
   ฝนตกตอนกลางคืน ลากมาถึงเช้า ยังคงปรอยๆ แต่ได้ข่าวว่าทางต่างจังหวัดจะโดนกันหนัก ทำใจครับ ห้ามฟ้าห้ามฝนกันไม่ได้ สิ่งที่ทำได้แน่ๆ ก็คือยอมรับและปรับตัว
   Honda CR-V ถือว่าเปิดตัวมาได้จังหวะนะ เพราะวิกฤติน้ำไง คนกรุงเทพฯที่ต้องลุยน้ำเมื่อสัปดาห์ก่อนคงเข้าใจได้เป็นอย่างดี แค่ฝนตกหนักซู่เดียวชั่วโมงเดียวเท่านั้น กรุงเทพฯก็จมบาดาลเสียแล้ว นาทีนี้ไม่มีใครห่วงสวยห่วงหล่อเรื่องรถครับ คิดอย่างเดียวก็คือ “กูจะกลับถึงบ้านไหม”
   ท่วมกันแบบขำขำก็ราวครึ่งล้อรถเก๋ง รถกระบะนี่ลุยได้สบาย แต่รถซิตี้คาร์นี่สิมีลุ้นหน่อย ลำพังถนนแห้งๆ มันก็โอเคดี ประหยัดดี แต่ถ้าเจอแบบลุยแล้วดับแค่ครั้งเดียว ผมว่ามันจะเป็นประสบการณ์แบบจำฝังใจ
   นับวันสภาวะอากาศก็ยิ่งแปรปรวนนะครับ หากจะซื้อรถใหม่ เอาแบบสบายใจ ผมว่ารถ Crossover นี่แหละเหมาะสมที่สุด เสียตรงในบ้านเรายังไม่มีรถ Crossover ขนาดเล็ก มีแต่พวกขนาดกลางอย่างเดียว ขนาดใหญ่ก็จะเป็นพวก 4X4 ไปเลย เช่น Toyota Land Cruiser / Mitsubishi Pajero ฉะนั้น ตลาดกลุ่มรถ Crossover คันเล็กนี้ยังมีช่องว่างเหลือๆ ครับ เพราะมีแค่ Suzuki SX4 คันเดียว รุ่นเดียวเท่านั้นเอง แต่ผมว่าทาง Suzuki เขาคงไม่รู้จุดเด่นของตัวเองในจุดนี้ เลยมุ่งหน้าปั้นแต่ตัว Swift Eco กันท่าเดียว น่าเสียดายจริงๆ ถ้าสักปีหน้า SX4 มีตัวแต่งให้สูงอีกนิด หรือปรับไมเนอร์เชนจ์ ทำการตลาดดีๆ หน่อย พรีเซนต์จุดเด่นของตัวเองให้ชัด จะขายได้ดีกว่านี้อีกเยอะ
   นอนหลับๆ ตื่นๆ มาสองคืนแล้ว หมาข้างบ้านเห่าอีกเช่นเคย ไม่ได้นอนหลับรวดเดียวถึงเช้า ทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์ครับ น้ำหนักเริ่มไม่ค่อยลงแล้ว การนอนหลับนี่เราควรหลับแบบรวดเดียวถึงเช้านะครับ จะทำให้สุขภาพดี ผิวพรรณดี การคุมน้ำหนักก็จะง่ายตามไปด้วย ยิ่งหลับในที่มืดสนิทได้ยิ่งดีครับ
บ่ายช่างมารื้อเสาอากาศแบบ Tower ที่ผมใช้ติดตั้งเสาอากาศวิทยุสมัครเล่นลง แม้จะไม่ได้ใช้มาเป็นสิบปีแล้ว แต่พอรื้อออกแล้วมันรู้สึกใจหายเหมือนกัน สมัยก่อนเสาของผมต้นนี้ สูงแค่ 24 เมตร แต่ก็พูดคุยได้กับนักวิทยุต่างจังหวัดได้มากมาย
   เห็นว่าเป็นแค่เสาเหล็กธรรมดา แต่มันเก่าแก่ มีร่องรอยผุ แถมช่วงเย็นฝนตกหนัก ทำงานลำบากมาก กว่าจะเสร็จแบบปิดบ้านขึ้นนอนได้ก็เกือบสองทุ่ม
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 22, 2012, 04:09:56 pm
21 กย 55
   ใช้พลังพอสมควรในการที่ทำให้น้ำหนักตัวเองลดลงมานิดหนึ่ง เพราะไม่ได้ออกกำลังกายเยอะเหมือนเมื่อก่อน นี่เป็นการลดน้ำหนักโดยที่ผมแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลยสักนิด อาศัยสโลแกนง่ายๆ “กินให้น้อยกว่าที่ใช้พลังงาน”
   ช่วงนี้ทิ้งห่างช็อคโกแลตไปเลย สมัยก่อนนี้ต้องกินประจำ ไม่เกินหนึ่งวันก็ต้องมีหยิบเข้าปากสักชิ้น วันไหนกลับมาบ้านหิวๆ ซัด 2-3 ชิ้นก็มี เห็นมันไม่ค่อยหวานไง เลยชล่าใจ ที่ไหนได้ มันก็ยังคงมีน้ำตาลอยู่นั่นเอง
   วันนี้ที่บ้านทำน้ำเต้าหู้ครับ จัดไปเลย เดินผ่านตู้เย็นก็หยิบซดได้ตามใจ มื้อเช้าจัดอาหารคุณภาพเช่นเคย มีผัดผักบุ้ง ปลาสลิดทอด ข้าวกล้อง กระเทียมสด 1 กำมือ ก็ได้ของดีแค่มื้อเช้านี่แหละครับ ออกจากบ้านแล้วก็หาของดีๆ ยาก
   ได้ไอแพดมาสองสัปดาห์แล้วนะ ยังตัดสินใจหาซื้อซิมมาใส่ไม่ได้เลย ยิ่งหาข้อมูล ก็ยิ่งเลือกยาก เพราะแต่ละค่ายล้วนมีคนบ่นด่า ค่ายที่มีคนชมเยอะๆ แต่เขาอาจไม่มีสัญญาณ wifi ในละแวกที่เราใช้งานก็เป็นได้ เอาไงดีวะนั่น
   คิดๆ แล้วหาข้อสรุปมาได้ก็คือ ลองแม่งทุกค่ายเลยละกัน หาซิมแบบเติมเงินมาลองดูก่อน ใช้แล้วไม่เวิร์คก็ทนจนเงินหมดแล้วก็จบกันไป ลองค่ายใหม่ไปเรื่อยๆ น่าจะเป็นทางออกของผมในนาทีนี้นะ
15-16 ธค สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก จะมีงานแข่งรถชื่อ ROC – race of the champion เขาจะคัดเอาคนดังๆ ที่ถนัดในรถแต่ละแบบมาแข่งกัน ไฮไลท์ก็คือไมเคิล ชูมัคเกอร์จะมาลงแข่งด้วย
จำง่ายๆ ก็คือหลังงาน Motor Expo ที่เมืองทองก็มาเจองานนี้ต่อเลย บ๊ะ น่ามันส์ชะมัด
เด็ดกว่านั้น คือประเทศไทยน่าจะได้จัดงานแข่ง F1 ในปี 2014 สนามก็ไม่ต้องทำใหม่ แข่งกันแบบ Street Circuit เหมือนที่สิงคโปร์ ถนนราชดำเนินครับ แน่นอน Night Race ชัวร์
แค่คิดก็มันส์อีกแล้ว
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 23, 2012, 05:35:17 am
22 กย 55
   วันเสาร์มาถึงอีกแล้ว วันที่มิวรอคอย เพราะผมให้เขาหยุดเรียนพิเศษระยะหนึ่ง ช่วงเช้าเลยว่าง แต่บ่ายยังคงต้องไปเรียนคณิตศาสตร์ที่คุมองอยู่นะ
   มิวชอบดูการ์ตูนช่วงเช้า ผมว่าใครๆ ก็เป็นนะ ตัวผมเองวัยเด็กก็มีการ์ตูนที่ชอบในดวงใจ ยุคผมมันต้อง Cobra ตามมาด้วยหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ แบบชกทีหัวระเบิด ตัวทะลุ เว่อร์เสียจนไม่รู้จะว่ายังไง แต่เด็กๆ มันก็ทนดูไปได้ แถมอินซะจนต้องติดตาม
   แล้วก็มีพวกคนใส่ชุดยางวิ่งชกต่อยกัน เช่นอุลตร้าแมน โตมาหน่อยจะมีขบวนการมนุษย์ไฟฟ้าที่ตอนจบแม่งเหมือนเดิมทุกที เบื่อก็เบื่อ แต่ก็ดูมันมานาน ล่าสุดนี้มันใช้ชื่อใหม่อะไรก็ไม่รู้ ลงท้ายว่า “เรนเจอร์”
   ข่าวเด่นเช้านี้เป็นข่าวเศร้าปนขำ เพราะขี้เมาสองกลุ่มทะเลาะยิงกัน ด้วยข้อหา “เต้นกังนำสไตล์” ล้อเลียนกัน ได้ยินข่าวแล้วก็ไม่รู้จะขำหรือนึกสงสารดี ทำไปได้
   หัวผมยังอินกับข่าวงานแข่ง F1 เลยขอเล่าต่อสักหน่อย เพราะไอ้ถนนสายประวัติศาสตร์นี้ผมเป็นคนเสนอกับหนึ่งในลูกชายเจ้าของกระทิงแดงเขาเอง ตระกูลอยู่วิทยาที่เป็นข่าวดังสองสัปดาห์ก่อน
   ตอนนั้นผมไปพรีเซนต์จัดงานแข่งรถโบราณ เพราะตระกูลนี้เขาชอบรถโบราณมาก มีกันเป็นสิบคัน เสนอให้ใช้ถนนราชดำเนินตลอดสาย เพราะขับรถโบราณบนถนนสายนี้ ผมถือว่าสุดยอดในชีวิตแล้วนะ มันคือถนนประวัติศาสตร์ของไทย
   เขาขอนำไปคิดแล้วก็เงียบหายไป จนปีที่แล้วมีการนำ F1 มาวิ่งโชว์ เพราะรถของ Red Bull ได้แชมป์ คนแน่นเอียดแบบไม่ต้องสงสัย ผมยังไปกับเขาเลย แต่เบียดไม่ไหว ขี่จักรยานไป เลยเลือกทำเลได้หลายจุด สุดท้ายได้ยินแต่เสียง มาดูไฟล์ภาพเอาทีหลัง
   ถนนสายนี้สวย แต่เหมาะกับเฉพาะรถโบราณครับ ถ้าเอา F1 มาวิ่งโชว์แบบขำขำก็พอได้ แต่ถ้าจะจัดแข่ง ผมว่ายังไม่เหมาะ และจะอันตรายอย่างมากอีกด้วย
   เพราะถนนเราห่วยครับ มันไม่เรียบ F1 วิ่งแล้วรับรองมี “เหิร” ไอ้นี้คือหายนะของ F1 เลยนะ เพราะเหิรแล้วมันจะพลิกตีลังกาไหม หรือเหิรแบบแค่ล้อหน้าลอยทำนอง “ยกล้อ” ยังไงก็แล้วแต่ ไม่มีนักขับคนไหนอยากเหิรแน่นอน มันเหมือนเอาชีวิตมาทิ้งดีๆ นี่เอง
   ทางแคบก็ยังพอทำเนา แต่ถนนห่วยนี่สิ แถมเป็นคลื่นลอน ไหนจะฝาท่ออีก ถ้าไม่มีการปรับปรุงบูรณะผิวถนน ยังไงก็ไม่ผ่านครับ รถเหิรปลิวเข้าคนดูชัวร์ อย่าไปเทียบกับสิงคโปร์ที่เขาจัดแบบ Street Race และยังเป็น Night Race ได้ เรายังห่างไกล
   แต่ก็ขอชื่นชมในความคิดและความสามารถที่ดึงเข้ามาได้ แม้จะต้องลงทุนไปหลายพันล้าน แต่ถ้าแลกกับการโปรโมทประเทศเพื่อการท่องเที่ยว ก็โอเคนะ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 27, 2012, 05:53:08 pm
23 กย 55
   ตื่นตีสี่ครึ่ง ลุกขึ้นมาหาข้อมูลทีวี แม่ให้จัดมาอย่างด่วน เพราะวันนี้พ่อจะเข้าโรงพยาบาลไปผ่าตัดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับปอด
   พ่อผมสูบบุหรี่จัดตั้งแต่หนุ่ม มาหยุดได้กว่า 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีของเสียจากบุหรี่สะสม มีอาการหอบ หายใจไม่สะดวก ไอ มีเสมหะ ไปหาหมอมานาน ตรวจสุขภาพมาหลายครั้ง จนหมอบอกว่าผ่าดีกว่า
   แม่เลยจัดบ้านใหม่ ปรับโฉมบูรณะห้องรับแขกที่ปกติแทบไม่มีใครมาบ้าน ตอนนี้ต้องรองรับแขกอีกวันละเป็นสิบคนที่จะมาเยี่ยมพ่อหลังกลับมาพักพื้นที่บ้าน
   ให้ผมจัดหา TV ใหม่มาติดตั้ง พร้อมเก้าอี้ Lazy Boy อีก 1 ตัว ไอ้สองชิ้นนี้ถ้าเราเล่นเกรดสูงๆ นี่รวมกันแล้วก็เกือบแสนบาทเลยนะ ผมไม่เคยตัดสินใจจ่ายเงินซื้อของในระยะเวลากระชั้นแบบนี้เลย รู้สึกถูกกดดัน คือเรารู้ว่าหากให้เวลาเรามากกว่านี้หน่อย ก็จะหาได้ของดี และถูกกว่านี้เยอะ
   จะว่าขี้เหนียวก็ไม่เถียง ผมเป็นคนละเอียดมาก คิดแล้วคิดอีกก่อนจะจ่าย แต่ถ้าสิ่งใดเลือกซื้อแล้ว ตัดสินใจซื้อแล้ว ก็ไม่เคยรู้สึกผิดหวังกับมัน ก็ขนาด ipad ที่มีมาสองสัปดาห์กว่า กับอีกแค่ซิมไม่กี่สิบบาท และแพ็คเก็จอีกหลักไม่กี่ร้อย ยังคิดอยู่นานฉิบเป๋ง จนวันนี้ภรรยารู้สึกรำคาญแทน เลยจัดซิมของค่าย AIS มาให้เรียบร้อยแล้ว เย้ๆ ๆ
   หาข้อมูลเสร็จเอาตอนรุ่งสาง ก็ยังคงเป็นข้อมูลเดิมๆ คือ หากเน้นดูฟรีทีวี ก็แนะนำให้เล่นพลาสม่า ถ้าดูหนังบ่อย ก็เล่น LCD/LED ว่าแล้วก็ไปจัด Plasma ของ Panasonic มา ยังไม่ไว้ใจแบรนด์เกาหลีครับ LG ผมพอได้ แต่กับ Sumsung แล้วเข็ดๆ ๆ ๆ ขอเล่าซ้ำอีกทีนะ ก็เพราะเผลอลองของใหม่ เล่นแอร์ Sumsung ใช้ได้แค่ปีกว่า ซื้อตั้งแต่ลูกเกิด มันยังเดินไม่ได้เลย แอร์แม่งคอมฯพังแล้ว เฮ้ยย เร็วไปๆ ๆ ๆรับไม่ได้ เทียบกับ Mitsubishi ที่ใช้มาเป็นสิบปีแล้ว เปิดวันละ 8 ชม ทุกวันนี้ยังเย็นเฉียบ
   เช้าพาพ่อแม่ไปโรงพยาบาลธนบุรี หมอนัดเจาะเลือด ให้พ่อรีบกินอาหารให้เสร็จก่อน 0900 จากนั้นให้งดน้ำ งดอาหารทุกอย่าง ต้องการให้กระเพาะว่างสนิท จะมีการผ่าตัดตอนบ่ายสามโมง
   แม่บอกนอนไม่หลับมาทั้งคืน ส่วนพ่อบอกหลับสบายมาก มาถึงก็ไหว้ศาลเอาฤกษ์เอาชัย ซื้อธูปเทียนส่วนตัวมา กำลังไว้อยู่ มีสาวคนหนึ่งเดินมาไหว้บ้าง หยิบเอาธูปที่แม่เพิ่งเปิดซองมาจุดไฟหน้าตาเฉย ผมสะกิดให้ภรรยาดูแล้วแอบอมยิ้ม ไม่ได้หวงธูปหรอก มันไม่กี่บาท แต่ขำไง เขาคงคิดว่ามันเป็นของฟรีที่ทางโรงพยาบาลจัดให้
   ส่งพ่อขึ้นห้องพัก แล้วแม่ไล่ให้รีบไปหาซื้อทีวี ไปเดอะมอลล์ท่าพระอีกแล้ว โคตรเบื่อเลย ขับรถพ่อคันใหม่ไปด้วย ยิ่งจอดไม่ถนัด กลัวคนอื่นจะมาเฉี่ยวชน กลัวรถข้างๆ จะเปิดประตูกระแทก กลัวรถเข็นมาครูด กลัวขนาดนี้น่าจะไปจอดไกลๆ ซึ่งถ้าผมมาคนเดียวน่ะ จะหนีไปจอดชั้นบนสุดแน่ แต่นี่ภรรยาบอกจะซื้อของในซูเปอร์ด้วย เลยยอมจอดแบบเสี่ยงๆ
   “จอดแบบเจ็บข้างเดียวสิพ่อ” มิวเขาจำได้ดี ผมเรียกการจอดชิดเสาว่าเจ็บข้างเดียว คือถ้าจะโดน ก็น่าจะโดนด้านที่ไม่แนบเสา ไม่ได้คิดเองหรอก ผมก๊อปมาจาก “พี่บอย” วรพล สิงห์เขียวพงษ์ ปัจจุบันเป็น บก.บห ของนิตยสาร Option และ ThaiDriver
   สักพักใหญ่ก็ได้ทีวีกลับมาสมใจ รถคันนี้พับเบาะหลังราบได้ดีมากๆ เลย แต่พับแล้วมิวนังหลังไม่ได้ ต้องมานั่งเบาะหน้าเบียดกับภรรยา นึกถึงรถโบราณเลยนะ ที่เบาะหน้าเป็นแบบแถวยาวน่ะ นั่งแบบนี้จะใกล้ชิดกันได้ดีมาก
   กลับมาบ้านปุ๊บฝนตกพอดี เย้ๆ รถไม่เปียก
   วันนี้ประเทศไทยจัดงานกิจกรรม Car Free Day ชื่อก็บอกกันตรงตัวอยู่แล้วว่าลดการใช้รถยนต์ แก่นของมันก็คือต้องการให้เราตระหนักถึงภาวะโลกร้อน ปีนี้กรุงเทพฯ จัดกิจกรรมใหญ่รวมตัวกันได้ราว 12,000 คัน ไม่น่าเชื่อ ผมเคยเห็นแค่ 4000 คันก็ยืนกันแน่นลานพระรูปทรงมาแล้ว นี่มากันถึง 1.2 หมื่น จะเอาที่ไหนมายืน
   คอนเสปเขาดีนะ แจกเสื้อแดง ขาว น้ำเงิน แล้วจัดให้ขี่เรียงกันเป็นแถวยาว มองดูก็จะเป็นสีธงชาติตลอดขบวน นี่ถ้าปิดถนนขี่ หรือขี่กันบนทางยกระดับ ภาพออกมาจะสวยสุดๆ
   แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นมันไม่ใช่ครับ เขาขี่กันบนถนนนี่แหละ นึกภาพดูนะ 1.2 หมื่นคันมันจะวุ่นขนาดไหน อย่างที่บอกแหละครับ แค่ผมเจอมา 4000 คัน หัวแถวออกจากพระบรมรูปทรงม้าไปถึงอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ท้ายแถวยังยืนตากแดดอยู่ที่จุดสตาร์ทเลย ต้องรอให้ถึงสนามหลวงโน่นแหละ ท้ายแถวถึงจะได้เริ่มออกขี่
   ขบวนมันยาวมากๆ ๆ ๆ แล้วปีนี้มีถึง 1.2 หมื่นคัน !!! ขบวนมันจะยาวขนาดไหน ความวุ่นวาย โกลาหล ยิ่งขี่เข้าตัวเมืองชั้นในจะยิ่งวุ่น เจอแยกใหญ่ เจอซอย มีรถยนต์เลี้ยวเข้าออก การตัดขบวนจักรยานแต่ละครั้งคือปัญหา ๆ ๆ
   นี่เป็นปีแรกที่ผมไม่ได้ไปร่วมงานครับ
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 27, 2012, 05:54:30 pm
24 กย 55
   ตื่นเช้าตรู่ขับรถไปส่งแม่ที่โรงพยาบาลธนบุรี ขากลับรถติดหนักมาก ไม่คุ้นอย่างแรง ปวดท้องฉี่แบบทนแทบไม่ไหว กลับมาถึงบ้าน ด้วยความอยากรู้ ชั่งน้ำหนักก่อนฉี่ พอฉี่เสร็จออกมาชั่งอีกครั้ง ฮ่าๆ ลดไป 0.9 กก อีกแค่ 100 กรัมก็จะครบ 1 กก
   ยังไม่ได้กินข้าวเช้าก็รีบออกไปส่งลูกเข้าเรียนต่อ ถึงที่ทำงานแบบโทรมๆ หน่อย หิวโหยมาก กินกล้วยน้ำว้าไป 2 ลูก ค่อยยังชั่ว
อยู่ร้านขายของจนถึงบ่าย กลับเข้ามาบ้าน ก็รีบเอาซิมการ์ดใส่ใน iPad เย้ๆ เครื่องกูออนไลน์ได้แล้วโว๊ยย อย่างแรกที่ทำคือดูแผนที่ครับ ผมชอบดูแผนที่มาก เพิ่งจะได้ดู Google Street View ก็วันนี้เองแหละ ภาพแรกที่เปิดดูคือบ้านตัวเอง ต่อมาก็เป็นที่ทำงาน แต่ภาพที่ประทับใจที่สุดก็คือภาพอพาร์ทเมนท์ที่ผมเคยนอนอาศัยอยู่ตอนเรียนต่างประเทศ ภาพโรงเรียง ภาพสถานที่ทำงาน ฯลฯ มันผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว แต่เห็นแล้วรู้สึกหวนคืนความหลังได้ดีมากๆ
เย็นไปรับมิวแล้วไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล ไปถึงก็หัวค่ำแล้ว รถติดหนักมาก ไปให้พ่อเห็นหน้าหน่อยหนึ่งแล้วก็ลงมาหาของกินหน้าโรงพยาบาล มิวชวนกินร้านอาหารญี่ปุ่น ก็จัดไปครับ เขาเลือกกุ้งเทมปุระ ผมเลือกยากิโซบะ เพราะมีผักเยอะสุด
มิวกินแล้วบอกว่าร้านนี้อร่อยดีมาก ดีกว่าร้านฟูจิเสียอีก ยากิโซบะก็อร่อย แต่อาหารผัดแบบนี้มันมีน้ำมันเยอะเหลือเกิน สักพักภรรยาตามมาสมทบ มาพร้อมกับฝน เลยไม่มีตัวเลือกมากนัก รีบวิ่งเข้าไปในร้าน “มนต์นมสด”
ร้านนี้ชื่อเสียงดังมากๆ เมื่อก่อนเขาบอกหน้าร้านว่า “ไม่มีสาขา” แต่วันนี้มีสาขาใหม่ที่หัวมุมถนนใกล้โรงพยาบาลธนบุรีแล้ว ขนมปังแผ่นละ 20 บาท เครื่องดื่มแก้วละ 35 บาท มิวชอบชามะนาว จัดมา 1 แก้ว รู้สึกรสชาติดีมากครับ ชามะนาวที่อร่อยสุดของผมก็คือจากร้าน “สีฟ้า” ร้านมนต์นี้ทำได้ใกล้เคียงมาก ร้านสีฟ้าแก้วละ 65 บาท ร้านมนต์แก้วละ 35 บาท ไม่น่าเชื่อเน๊อะ แค่น้ำชาดำเย็นใส่มะนาวนิดหนึ่งแค่นี้เอง ขายกันแพงขนาดนี้เลยหรือ
ร้านคนแน่นครับ มันแน่นเพราะคนกินเสร็จแล้วไม่ยอมลุก นั่งแอ๊คชั่นถ่ายรูปกัน ชูสองนิ้วกัน ทำแก้มป่อง ตาปรือๆ รอบข้างมีแต่คนยืนถือถาดรอที่นั่ง ผมกับภรรยาและลูกก็ยืนกินมันตรงนั้นแหละวะ
กินเสร็จฝนตก เลยเดินไปหลบในฟู๊ดเซนเตอร์ใกล้ๆ กัน ภรรยากินหมูกรอบผัดผักกระเฉด ฝนตกหนักขึ้นๆ จนน้ำท่วมขัง ตกไม่เห็นหนักมาเลย แค่ราว 45 นาทีเอง ท่วมเสมอทางเท้าเสียแล้ว
ขอยืมร่มเจ้าของร้านแล้วก็ลุยกันกลับโรงพยาล เสียดายรองเท้าจริงๆ ครับ เอารองเท้าหนังมาลุยน้ำ มันคือการบั่นทอนอายุการใช้งานโดยตรงเลย
อยู่เป็นเพื่อนพ่อจนดึก รอฝนหาย รอให้น้ำท่วมขังลดลง กว่าจะถึงบ้านก็สี่ทุ่มกว่า อาบน้ำเข้านอนกันราวห้าทุ่ม
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 27, 2012, 05:56:34 pm
25 กย 55
   ตื่นสายกันหมดทั้งบ้าน ผมลุกจากที่นอนเอาเกือบหกโมงเช้า ชั่งน้ำหนักดูก็ไม่ผิวหวัง น้ำหนักขึ้นมาจริงๆ ด้วย เพราะซัดยากิโซบะไปเมื่อคืน ปกติไม่กินมื้อเย็นครับ ถ้ากินก็จะเป็นพวกผลไม้ ถั่ว นิดหน่อย ไม่ได้กินแบบเป็นมื้อ
   ช่างมาตกแต่งบ้านแต่เช้า งานวันนี้คือรื้อตู้โชว์บิ๊วอินที่ติดตั้งมาพร้อมกับบ้านอายุกว่า 30 ปีออก เดินสายไฟ สายอากาศทีวีใหม่ โจทย์คือทำห้องนั่งเล่นให้กว้างกว่าเดิม เพื่อรองรับพ่อกลับมาพักฟื้นหลังผ่าตัดเสร็จในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
   ผมกลับเข้ามาบ้านตอนบ่าย คอยกำกับช่างอย่างละเอียดในแต่ละจุด ยามว่างก็ฝึกซ้อมหัดใช้ iPad ถามใครเขาก็บอกว่าใช้งานง่าย แต่ทำไมกับผมมันยากวะ ขนาดแค่ลงทะเบียนธรรมดาๆ ที่เรียกว่า ขอ Apple ID ผมทำอยู่ 5-6 รอบยังไม่ผ่านเลย มีข้อความแปลกๆ ฟ้องว่า “อายุคุณไม่ถึงเกณฑ์ที่จะสมัคร”
   อืมม ลูกผมสิบปีแล้วนะ ผมเองก็เลยไปทางรังสิตโน่นแล้ว ลองใส่ พศ และ คศ ก็ยังไม่ผ่าน ทำไงดีวะนี่ ไม่มี Apple ID ก็จะไม่สามารถทำการดาวโหลดโปรแกรม (แอ๊ป)ต่างๆ มาใส่เครื่องได้เลย
   นี่ยิ่งตอกย้ำความเกลียด Apple Product ให้กับผมมากยิ่งขึ้น แล้วผมต้องทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ ต้องถือเครื่องไปที่ iStudio ให้เขาสอนหรือนี่ ไหนว่าใช้งานง่ายไง หรือว่าผมเองทำอะไรโง่ๆ ผิดขั้นตอนของมันไป
   ช่างทำบ้านเสร็จเอาตอนเย็น ผมแวะซื้ออาหารปลาแล้วก็ไปรับมิวต่อ กลับมาบ้านมิวเห็นทีวี Plasma 50 นิ้ว ร้อง โอ้โห ช่องแรกที่มิวเปิดคือ Gang Gartoon
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 27, 2012, 06:02:16 pm
26 กย 55
   เช้านี้ขี่จักรยานได้หน่อยเดียวก็ใช้ชีวิตในกรอบ เครื่อง iPad ใช้งานได้แค่ออนไลน์อ่านเวปอย่างเดียว ก็ยังดีนะที่ออนไลน์ได้ อ่านข่าวได้ หาข้อมูลที่ต้องการได้
   ช่วงนี้ฝนตกตอนบ่ายแทนตอนค่ำเสียแล้ว เล่นจัดหนักตั้งแต่หลังเที่ยงกันเลย ทำเอารถติดพัวพันไปถึงตอนเย็น ใกล้เทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วหรือนี่ กลับมาบ้านเจอขนมไหว้พระจันทร์ของ Starbucks เท่จริงๆ เล้ยย ปรับตัวเข้ากับกระแสสุดๆ
   เย็นเร่งให้มิวจัดกระเป๋าเตรียมไปงานทัศนะศึกษาที่อยุธยา ทางโรงเรียนทำลิสต์รายการของใช้มาให้ ดีครับ ทำให้เด็กมือใหม่เตรียมของใช้ได้ถูกต้อง คืนนี้เร่งให้มิวเข้านอนเร็วหน่อย เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
   ตอนค่ำแม่มาบอกว่าหมอให้พ่อกลับบ้านได้แล้วนะ พวกเราเลยช่วยกันจัดห้องรับแขกที่บ้านเสียใหม่หมด เก็บกวาดข้าวของเข้าที่ กว่าจะเสร็จก็สี่ทุ่ม
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 27, 2012, 06:05:15 pm
27 กย 55
   ตื่นตีห้าแบบไม่เต็มใจ ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย เมื่อคืนฝนตกหนักมากแถมนานอีกด้วย เลยลุกขึ้นมาตรวจสอบบริเวณรอบบ้าน น้ำท่วมขังหลังบ้าน ฟ้าร้องโครมคราม เลยถอดปลั๊กทีวีพลาสม่าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ กลัวโดนฟ้าผ่าอีก
   รีบอาบน้ำแต่งตัวและกินอาหาร มิวต้องออกจากบ้านแต่เช้า โรงเรียนนัดตอน 0650 ผมต้องออกจากบ้านไม่เกิน 0640 ขับรถสิบนาทีถึง ข้อดีของการเลือกโรงเรียนใกล้บ้านก็อย่างนี้แหละ
   ไปส่งลูกเสร็จแล้วก็เลยไปทีทำงานต่อ ร้านยังไม่เปิด เลยอ่านหนังสือเล่นอยู่บนรถ ตอนสายพ่อโทรมาเรียกให้ไปรับกลับบ้าน ขับรสักพักก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว รถไม่ติดเลย กำลังจะเก็บของกลับก็มีเพื่อนพ่อมาเยี่ยมอีก 3 คน เลยนั่งคุยกันอีกครู่หนึ่ง ผมทยอยเอาข้าวของไปเก็บบนรถ ไม่น่าเชื่อว่าของเยี่ยมอันดับ 1 คือ รังนก อันดับสองคือนมสด ตามมาด้วย ผลไม้
   ผมปล่อยมุขกับคนรอบข้างบ่อยๆ ว่า รู้สึกเกรงใจจริงๆ แค่มาเยี่ยมก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาข้าวของอะไรมาหรอก ขอแค่เงินสดก็พอ
   แกคงจะได้ยินเงินสดเป็นนมสดน่ะครับ เช้านี้เลยหิ้วนมหลายแพ็ค อ้อ แปลกอีกอย่างคือเขาซื้อยี่ห้อเดียวกันหมดเลย คือ “นมตราหมี” กระป๋องกลมๆ คล้ายปลากระป๋องน่ะ หรือว่ามันเป็นมาตรฐานของนมสำหรับเยี่ยมคนไข้ไปแล้ว
   แวะซื้อก๋วยจั๊บที่ตลาดท่าดินแดงให้พ่อก่อนกลับบ้าน นี่คืออาหารมื้ออร่อยสุดมื้อแรกในรอบหลายวัน ส่วนผมซื่อข้าวโพดต้มสีม่วงติดมือกลับมา 1 ฝัก ยังคงต้องคุมน้ำหนักครับ แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดกับอาหารนะ บางทีก็กินขนมบ้างนิดหน่อย คือตั้งใจจะลดจริงๆ แต่ถ้าลดลงมาได้บ้างแล้ว ก็ให้กินของที่อยากกินได้บ้าง ฮ่าๆ กติกาของผมเองแหละครับ
   เย็นฝนตกหนักแบบมาตามนัด พยากรณ์อากาศบอกว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีก 10 วัน
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 29, 2012, 07:16:40 pm
28 กย 55
   เมื่อคืนก่อนนอนนัดกันว่า เช้ามืดวันนี้ให้ไปส่งแม่ออกกำลังกายที่สวนธนบุรีรมย์ ปกติแม่จะไปกับพ่อทุกเช้า แต่พ่อเพิ่งจะกลับมาพักฟื้น ผมเลยรับอาสาทำหน้าที่นี้ น่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกหลายวัน
   แต่ฝนตกพรำๆ ตลอดคืน ลากยาวมาถึงเช้า ฟังข่าวพยากรณร์อากาศก็บอกแบบเดียวกันว่าฝนจะตกแบบนี้ไปอีกนานจนถึงกลางเดือนตุลาคมโน่นเลย ได้ฟังแล้วหนาวหัวใจ สงสารคนต่างจังหวัดที่โดนน้ำท่วม
   ไอ้ที่รัฐบาลบอกว่า “เอาอยู่” หรือ “ปีนี้น้ำไม่ท่วม” มันแปลว่า น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯแค่นั้นเองนะ หรือต่อให้อยู่กรุงเทพฯ แต่ถ้านอกคันนั้นน้ำ ถ้าเจอน้ำเหนือไหลมาแบบปีก่อน ยังไงก็ต้องท่วม
   แต่ปีนี้พิเศษหน่อย แม้ไม่ได้โดนน้ำเหนือ แต่อาจโดนน้ำจากฟ้าทำให้ท่วม ฝนตกหนักนาน น้ำก็ท่วมขังได้ง่ายๆ แล้ว ยิ่งวันนี้วันศุกร์ ฝนเริ่มตกตั้งแต่หลังเที่ยงมาตลอด โอ้ ศุกร์ปลายเดือนด้วยสินี่ รถจะติดแบบมหากาพย์โดยไม่ต้องสงสัย
   ไม่มีธุระอะไรก็อยู่ในฐานที่มั่นกันดีกว่าครับ สมัยหนุ่มๆ ผมจัดงานมีทติ้งก็จะกินกันตามบ้านเพื่อน หรือบ้านผมเองก็เคยจัด หิ้วอาหารมาคนละอย่าง เจ้าภาพเตรียมน้ำ น้ำแข็ง แก้ว ฯลฯ แค่นี้ก็สนุกสุดๆ กันได้ทั้งคืน ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นใครจัดเลี้ยงแบบนี้เลย เอาไว้ผมว่างอยากจะลองจัดอีกสักครั้ง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเชิญชวนใครเขามา ทุกวันนี้เพื่อนเหลือน้อยจริงๆ
   เช้ามาจัดการเจ้าพวกลูกปลาต่อ นี่มันไม่ได้ผสมพันธุ์กันมานานแล้ว ชักแปลกใจว่ามันหมดฤดูแล้วหรือไร ปลาตัวโตหน่อยก็ช้อนลงบ่อใหญ่ไปซะ โดนกินบ้าง รอดบ้าง พิการก็มี ก็เลี้ยงๆ มันไป สงสารมัน
   และแล้วยิ่งลักษณ์ทำสิ่งที่เข้าท่าเรื่องหนึ่ง คือเสนอตัวเป็นคนกลางเจรจาข้อพิพาทระหว่างจีนและญี่ปุ่นในกรณีแย่งเกาะเตียวหยูในชื่อจีน และชื่อเซนกากุของชาวญี่ปุ่น
   ญี่ปุ่นคือยักษ์เก่า จีนคือยักษ์ใหม่ อันที่จริงเกาะนี้มันเล็กนิดเดียว ได้ไปก็เหมือนไม่มีอะไร แต่มันคือเรื่องของศักดิ์ศรี แต่ถ้าจะหาทางออกแบบผม ก็จะแบ่งกันอยู่อาศัยแบบ win win มีอะไรก็แบ่งกันคนละครึ่ง ทำทุกอย่างให้เป็นระบบ น่าจะจบแบบสวยๆ
   ผมปล้ำกับ iPad มาหลายวันแล้ว ขนาดแค่จะลงทะเบียนฟรีของ Apple ID ยังยากเย็นแสนเข็ญ ไหนบอกว่าออกแบบมาให้ใช้งานง่ายๆ ไง ทำไมคนโง่ๆ อย่างผมยังลงทะเบียนไม่ผ่าน กรอกข้อมูลตามความจริงหมดทุกอย่าง กด next เลื่อนหน้าต่อไป มันฟ้องว่า “อายุไม่ถึงเกณฑ์”
   วันนี้ลุยต่อ กรอกข้อมูลเหมือนเดิมแหละ กด next ก็ผ่านหน้านี้ไปได้แล้ว ดีใจฉิบเป๋งเลย (ไม่น่าเชื่อว่าระบบของ Apple จะซับซ้อนเพียงนี้ ต้องอฐิฐานขอก่อนถึงจะเข้าได้)
   แต่แล้วก็ผ่านไปได้แค่หน้าเดียวครับ มาหน้านี้มันให้กรอกเลขที่บัตรเครดิต ก็กรอกไปตามนั้น แต่ก็กลัวนะว่าจะโดนหลอกเอารหัสไปทำอะไรหรือเปล่า บรรทัดต่อมา เขาบอกให้กรอก security code เอาแล้วสิมึง รหัสความปลอดภัยมันคืออะไรวะ
   คู่มือเอ็งก็ไม่มีอะไรให้มาสักอย่าง ทั้งกล่องมีแต่สายชาร์จและเข็มหนึ่งอัน เอาไว้ถอดซิมการ์ด
   โทรถามรุ่นน้องที่ทำงานธนาคาร เขาหัวเราะลั่น บอกว่า security code ก็คือเลขท้าย 4 ตัวของบัตรเครดิตเราเองนั่นแหละ
   อ้าว สตีฟ แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมว่าโปรดระบุเลขท้าย 4 ตัวของบัตรเครดิตล่ะครับพี่ ปัดโธ่
   โอเค กรอกเลขไป 4 ตัว แล้วบรรทัดต่อมาก็งงอีกแล้ว ถามหารหัสของ iTune เอาล่ะสิมึง คุ้นๆ ว่า iTune นี่มันเอาไว้โหลดเพลง แต่ไม่รู้ว่าต้องมีรหัส
   ขายแม่งทิ้งดีไหมวะนี่ นี่ผมโง่หรือเครื่องมันฉลาดเกินวะ ขณะกำลังนั่งคิดว่าจะกรอกอย่างไรดี ก็คงจะคิดเกิน 2 นาทีมั้ง หน้าจอปรับเข้า sleep mode ดับแบบพักหน้าจอ ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่ากดเรียกอีกครั้งก็คงจะกลับมากรอกต่อได้
   แต่เปล่า ไอ้หน้าที่ลงทะเบียนอยู่มันหายไปหมดเลย กลายเป็นหน้าว่างเปล่า !!! ถ้าผมจะลงทะเบียนของ Apple ID ก็ต้องเริ่มขั้นตอนใหม่ทั้งหมด
   สุดยอดของผลิตภัณฑ์จริงๆ มิน่าเล่า ทั่วโลกถึงกล่าวขวัญถึง Apple เปิดตัวทีไรเป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก บริษัท Apple มีรายได้มากกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเสียอีก
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on September 29, 2012, 07:19:07 pm
29 กย 55
   ฝนตกแต่เช้า ตกปานกลาง ไม่หนักเท่าไหร่ กว่าจะหายสนิทก็ตอนสายมากแล้ว
   วันนี้เหมือนได้หยุด คื่อไม่ต้องไปทำงาน เพราะพาพ่อไปหาหมอแต่เช้า จะเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เลยให้ผมรอรับกลับด้วย หยิบ iPad ไปด้วยสิ อยู่บ้านไม่เคยมีสัญญาณ wifi ของ AIS เลย จะลองดูว่านอกบ้านจะเป็นอย่างไรบ้าง
   ตลอดทางบนท้องค้นหาเจอแต่สัญญาณของ True และชื่ออะไรแปลกๆ ที่อ่านยาก เข้าใจยาก พอถึงโรงพยาบาลก็เจอของค่าย AIS ลองต่อ wifi เป็นครั้งแรกดูก็ผ่านสะดวกดี อืม ใช้งานง่ายดี แต่ผมไม่รู้ว่าความเร็วของ wifi กับ 3G อันไหนมันจะเร็วกว่ากัน ตอนอยู่บ้านใช้ 3G ล้วนๆ นี่ถ้ามี iPad รุ่น 3G แต่ไม่มี wifi คงจะขายผมได้คนหนึ่ง (ถ้าคิดจะซื้อนะ) บ้านผมอยู่ในซอยเล็กๆ เป็นซอยตัน AIS และ True คงไม่สนใจจะโยงระบบ wifi เข้ามา
   ยังไม่มี Apple ID ก็จะไม่สามารถโหลดห่าเหวอะไรได้สักอย่างเลย ไอ้พวกแอ๊ป (application) ที่เขาว่าเจ๋งๆ ก็ต้องใช้ Apple ID เป็นรหัสในการเข้าไปดู อยากอ่าน e book ดูกับเขาบ้างก็หมดสิทธิ์ สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คืออ่านเวปทั่วไป อ้อ อีกอย่างคือดู you tube นี่แหละ พอแก้เหงาได้นิดหน่อย แต่รู้สึกเหมือนตัวเองโง่ๆ ยังไงไม่รู้นะ แล้วคนอื่นเขามีปัญหาอย่างผมกันบ้างไหมวะนี่
   นั่งรอพ่อหน้าห้องตรวจ เห็นพ่อสอดแขนเข้าเครื่องวัดความดัน แป๊บเดียวมีค่าตัวเลขออกมา 3 บรรทัด แถมพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษให้ด้วย เลยขอลองบ้าง นี่เป็นการวัดความดันของผมครั้งแรกเท่าที่จำความได้ ผมไม่เคยไม่สบายถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลย
   ได้กระดาษที่พิมพ์ออกมาก็ดีใจ ให้พ่ออ่าน พ่อบอกว่าสุขภาพดี เลยเก็บกระดาษนี้เป็นที่ระลึก ไม่รู้ว่าหมึกพิมพ์ของมันซึ่งเป็นแบบกระดาษความร้อนเหมือนกระดาษแฟกซ์นั่น หมึกของมันจะจืดจางไปในระยะเวลากี่เดือน
   เห็นฝนซาลง รีบเดินไปข้างนอกซื้อถั่วต้มไปฝากพี่สาว น่าแปลกนะ ไอ้ของพวกนี้แถวบ้านผมมีขายกันเยอะมาก แต่ทางฝั่งพระนคร พี่สาวอยู่พระราม 9 เลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา เขาบอกหาร้านขายถั่วต้มอร่อยๆ ได้ยากมาก
   ย่านไฮโซก็อย่างนี้แหละนะ มีแต่ของกินหรูหราแพงๆ ผิดกับฝั่งธนฯที่ข้าวของจะต้องเน้นถูกเข้าว่า ร้านอาหารดังๆ ของฝั่งธนฯมักจะเป็นร้านเก่าแก่ในตำนาน แต่ร้านในฝั่งพระนครจะมีหลากหลาย บ้างก็หรู บ้างก็วัยรุ่น และมีอีกเยอะมากที่เป็นร้านดังแบบเน้นโปรโมท เข้าไปลองแล้วรู้สึกเสียเวลาไปกินจริงๆ
   นั่งเล่นได้แป๊บเดียว พ่อเดินยิ้มออกมา บอกว่าเสร็จแล้ว กลับบ้านได้ ไม่ต้องมียาอะไรเพิ่ม สุขภาพแข็งแรงดี เย้ๆ
   ขับกลับบ้าน และไปรับมิวออกมาเรียนคุมองต่อ แอบหิ้วเอา iPad ติดตัวมาด้วย นี่ผมซ่อนไว้ไม่ให้มิวเขารู้นะ อย่าบอกใคร
   เดินหาร้าน iStudio เผื่อจะเข้าไปสอบถามเขาเรื่อง iPad ก็ไม่มีร้านนี้ มีร้านพวก IT มากมาย ขายของ Apple เยอะแยะ เคยเข้าไปถามเขาแล้ว เขาบอกว่าหากอยากถามลึกๆ ละเอียดมากๆ ให้ไปร้าน iStudio นี่ผมคงจะถามอะไรเขาลึกซึ้งเกินไปมั้ง
   ลองเชื่อมต่อ wifi ของ AIS ดูอีกว่า อิอิ ชักสนุก ปกติผมจะใช้เวลาหมดไปกับร้านหนังสือ วันนี้แอบนั่งรูดหน้าจอ iPad เล่น ถ้าว่างไม่มีอะไรทำมันก็เพลินดีนะ แต่เกิน 30 นาทีแล้วผมรู้สึกว่าเสียเวลาชีวิตว่ะ เลยไปสิงอยู่ในร้านหนังสือตามเดิม
   มิวเรียนเสร็จออกมาบอกอยากกินร้าน Chester Grill สมัยก่อนร้านนี้ขายแต่ไก่ย่าง เน้นไก่ย่างเป็นหลัก ตอนนี้มีเมนูต่างๆ มากมาย ใหม่สุดคือไก่ทอดสไตล์เกาหลี ลองจัดมากินดูก็อร่อยดี แต่คงจะไม่กินซ้ำอีก เพราะชิ้นเล็กมาก มีแต่หนังไก่และแป้งชุบทอด น้ำราดหวานๆ อร่อยดี 4ชิ้น 59 บาท เอาเงินไปกินก๋วยเตี๋ยวใส่ผักเยอะๆ แถวบ้านได้ประโยชน์กว่ามาก แถมยังเหลือเงินอีก 30 เอาไว้กินต่อมื้อถัดไป
   เย็นเพื่อนพ่อมาเยี่ยมที่บ้าน เห็นอ่างปลาทองเรียงรายแล้วเข้ามาขอดูและสอบถามถึงวิธีเพาะ เขาเองก็เลี้ยงปลาทอง แต่ก็ไม่เคยออกลูกสักครั้ง เพิ่งรู้ว่าต้องแยกเอาไข่ออกมาฟักข้างนอกก็วันนี้เอง
   ฝนหยุดแบบแห้งสนิท แดดออกแรงจนถึงเย็น ชักแปลกใจ ไหนบอกว่าจะตกตลอดจนถึงกลางเดือนตุลาคมไง อืมม หรือว่าจะมาจัดหนักเอาตอนกลางคืน
Title: Re: กย 55
Post by: O'Pern on October 01, 2012, 01:44:10 pm
30 กย 55 I love my mu
   ใส่บาตรวันเกิดมิวตอนเช้า ไม่ได้เกิดวันนี้หรอก แต่สะดวกวันนี้ ก็เลยตักวันนี้แทน ครบรอบ 11 ปีแล้วนะมิว
   เพื่อนวัยผมมีลูกกันหมดแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ได้เลี้ยงเองเต็มที่แบบผม ก็เข้าใจว่ารูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนมันต่างกัน ส่วนใหญ่จะให้ภรรยาดูเป็นหลัก และจ้างพี่เลี้ยงเด็กเอาไว้เป็นลูกมือ แต่พอลูกเริ่มโต กลายเป็นว่าปล่อยให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยงเป็นหลักไปเสียนี่ แบบนี้ผิดคอนเสปครับ เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง และเป็นที่มาของปัญหาอีกมากมายตอนเด็กโตเป็นวัยรุ่น
   ก็เพราะเด็กเขาก็มีพฤติกรรมเลียนแบบไง เห็นใครทำอะไรก็ทำตาม ตามในสิ่งดีก็ดีไปจนโต ตามในสิ่งผิดผลก็ออกมาตรงกันข้าม ลูกเพื่อนคนหนึ่งให้อยู่กับพี่เลี้ยงพม่า ทุกวันนี้พูดไทยไม่ชัด เจอหน้าแม่บอก “แม่ๆ ขอ ยี่สิ” อีกคนให้ลูกเรียนสองภาษา แต่กลับพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง บอกให้ไปอาบน้ำ มันนั่งฟังหูทวนลม โรงเรียนคงจะเน้นภาษาสากล ไม่ได้เน้นภาษาคน
   ลูกจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องไปโทษใคร โทษตัวพ่อแม่เองนี่แหละครับทีทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนั้น ทุกวันนี้ผมบอกลูกเสมอว่า ดูชีวิตของพ่อเอาไว้ ถ้าเจ้าไม่ชอบไม่อยากทำงานยกแบกของไปตลอดชีวิต ก็จงเร่งทำตามความฝันเสียแต่วันนี้ คิดฝันอยากทำอะไรให้มาบอกพ่อ เราจะช่วยกันสร้างฝันนั่นให้เป็นจริง
   ยุคพ่อ พ่อคิดเอง ฝันเอง ทำเอง ไม่มีใครช่วย แต่มีคนขัดแข้งขัดขาเยอะ จนต้องพักความฝันนั้นไป ดูเหมือนจะเลิกฝันแล้ว แต่ในใจลึกๆ นั้นยังหรอก ทุกทีที่พ่อขี่จักรยานก็จะรู้สึกอิสระและโหยหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำอยู่เสมอ เพียงแต่ไม่ได้บอกใคร ความใจถึงมันน้อยลงไปจากเดิมเยอะ แต่กลับมีความสุขุม อดทน เพิ่มขึ้นมาแทน
   หากลูกล้มเหลว หรือผิดพลาดในวันนี้ เจ้าก็ยังมีพ่อช่วยประคอง เก็บเอาความพลาดพลั้งมาเรียนรู้เป็นประสบการณ์ว่าอย่าทำผิดแบบเดิมๆ อีก ลูกล้มพ่อช่วยดึงมือขึ้นมาได้ สิ่งที่พ่อโหยหา สิ่งที่พ่อขาด มันจะไม่เกิดขึ้นกับลูก พ่อสัญญา
   เช้านี้ตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป ให้มิวเขาเป็นคนหยิบของใส่ในบาตรเอง ผมกับภรรยายืนอยู่ข้างๆ เป็นลูกมือ ขณะมิวใส่บาตรก็อฐิฐานในใจว่าขอให้สิ่งใดที่เขาฝัน จงประสบความสำเร็จ หากพรของพ่อแม่คือพรอันประเสริฐแล้วไซร้ ผมขอมอบพรนั้นแก่มิว
   ตอนสายพาแม่ข้ามฟากเมืองไปยัง Fashion Island รามอินทรา ไม่เคยไปมาก่อน แต่หาข้อมูลมาแล้วว่านี่คือโชว์รูมของเก้าอี้ La Z Boy ลองนั่งลองนอนทุกตัว แต่สำหรับผมแล้วดูปราดเดียวก็รู้ว่าจะต้องเลือกตัวไหน จากประสบการณ์ที่ต้องตัดสินใจเลือกของมานาน ถ้าเป็นไปได้ ถ้างบถึง ผมจะเลือกอันที่ดีที่สุด ชอบที่สุด อย่าขี้เหนียว อย่าเห็นแก่ของถูกของแถม หรือโปรโมชั่นล่อใจ
   ปล่อยให้แม่และภรรยาหารือกัน สักพักใหญ่เขามาถามความเห็น ผมถึงเอ่ยปากบอกเขาไปว่า จะเลือกของอะไรก็เลือกอันที่ดีสุด เก้าอี้แบบนี้เราซื้อกันครั้งเดียวทีเดียว ถ้าซื้อเก้าอี้ก๊อปแต่ราคาถูกกว่าเป็นเท่าตัวแล้วเกิดไม่ถูกใจทีหลัง ใจเราก็จะคิดว่า ปัดโธ่ รู้งี้น่าจะซื้อของดีๆ หน่อย
   หลังใจการเลือกของใช้ของผมเกิดขึ้นจากตรรกะง่ายๆ ซื้อของดี ซื้อทีเดียว และหากตัดสินใจแล้ว เราก็จะไม่มองของแบบเดียวกันนี้ที่ไหนอีก ของเก่าไม่เจ๊ง ไม่พัง ไม่เสีย จะไม่มีการซื้อใหม่
   ยกตัวอย่าง โทรศัพท์มือถือผมใช้รุ่นที่ผมชอบมากที่สุด (แน่นอน ไม่ใช่ iPhone) ดีไซน์สวยที่สุด ถ่ายรูปเจ๋งสุด ผมก็จะใช้จนมันพังจริงๆ ถึงจะมองหาอันใหม่
   กลับถึงบ้านเอาบ่ายแก่ๆ ขากลับพอขึ้นรถได้ทุกคนก็หลับกันหมด ผมเองก็เพลียจากแสงแดด กว่าจะเข้าออกห้างได้รถติดนานมากจนเบื่อ ถึงบ้านก็จัดการช้อนเศษของเสียก้นบ่อปลาทิ้ง ดูแลความเรียบร้อยเจ้าลูกปลาตัวน้อยที่ตอนนี้มันโตขึ้นเยอะแล้ว
   น่าแปลกมาก ตลอดวันนี้ฝนไม่ตกเลย ไหนบอกว่าจะมีฝนหนักจนถึงกลางเดือนตุลาคมไง