5 มค 53
ออกขี่จักรยานแต่เช้า ปั่นไปราว 1 ชม ยังไม่หนำใจ ตอนสายๆ ออกปั่นอีกรอบ แต่ที้นี้เจอฝนครับ แม้จะไม่หนัก แต่ไม่ค่อยคุ้น รถผมไม่มีบังโคลน เลยเลอะเทอะเต็มไปหมด ดีที่สวมผ้าคลุมหน้าแบบไอ้โม่งไว้ ไม่งั้นต้องกินน้ำจากพื้นถนนแน่ๆ
วันนี้เอาจักรยานออกปั่นไปธุระข้างนอก ทั้งๆ ที่ไม่อยาเอาจักรยานออก แต่เพราะรถผมแอร์เสีย เลยเอาไปซ่อม ไม่ไกลหรอก ช่างอยู่หน้าปากซอยบ้านผมเอง
กลางวันมีเพื่อนสมัยนักเรียนมาหาที่บ้าน เขาผ่านมาแถวนี้ลองโทรมาหาผม ผมอยู่บ้าน ก็เลยได้พบกัน ดูเขาตกใจที่เห็นผมขี่จักรยาน ก็ไม่แปลกอะไรหรอก คนส่วนใหญ่เขาไม่ขี่กันทรหดเหมือนพวกคนเล่นจักรยานนี่นา
เพื่อนเก่าๆ มักจะคุยกันเรื่องอดีตครับ สงสัยจะเริ่มแก่ ไม่มันก็ผม หรืออาจถูกทั้งข้อ ก และ ข ก็เป็นได้ ด
มีช่วงหนึ่งคุยกันเรื่องการเงิน เรื่องอนาคต เพื่อนผมเป็นคนประหยัด แต่ก็มีเที่ยวบ้างตามเทศกาล ส่วนผมประหยัด เทียวน้อย (ตอนไปต่างประเทศมักไปเรื่องงาน) เขาดูผมว่าจะมีเงินเก็บมาก เลยแนะนำเขาไปเล็กๆ น้อยๆ ทำนองว่า เก็บเงินน่ะดี แต่ถ้าใช้เงินให้ถูกต้องจะเป็นการดีกว่า การใช้เงินก็มีศิลปะของมันนะครับ บางครั้งเราก็ต้องมีให้รางวัลชีวิตบ้าง ทำงานมาหนักๆ ก็หาซื้อของให้ตัวเองภาคภูมิใจบ้าง สมัยก่อนผมเล่นรถยนต์ ก็ซื้อรถยนต์มันนี่ล่ะ ช่วงหลังเล่นจักรยานแทน แต่ไม่ได้ซื้อจักรยานเป็นรางวัลชีวิต ผมซื้อคอนโดแทน
ผมแนะนำเรื่องการใช้เงินแก่เพื่อน และให้เขานึกภาพตอนหนุ่มๆ เก็บเงินเดือนละ 1 หมื่นบาท ปีหนึ่งได้ 120,000 บาท ให้เก็บอีก 10 ปี เพิ่งจะได้ 1.2 ล้านบาทเอง ให้เก็บจนถึงเกษียณอายุคือ 60 ปี สมมุติว่าเจ๋ง ทำงานตั้งแต่อายุ 20 ปี คือเก็บเงินถึง 40 ปี ก็เพิ่งจะได้แค่ 4.8 ล้านบาทเท่านั้นเอง อันนี้อยู่บนพื้นฐานว่า ไม่เจ็บป่วย ไม่ล้ม ยังทำงานได้ดี ไม่ถูกจ้างให้ออกยังคงต้องประหยัด ต้องกินข้าวถูกๆ ต้องอดเที่ยว ต้องส่งค่าเทอมลูก ยังไม่นับค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน (ถ้ามี)
เฮ้ยย ชีวิตมันต้องรันทดอย่างนี้เชียวหรือ
ผมเชื่อในทฤษฎีที่ผมเขียนขึ้นเองนั่นคือ ตัวเราเองเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตครับ ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ต้องวิ่งออกจากวังวนเดิมๆ ไม่อยากเป็นเจ้าของกิจการก็ต้องวิ่งหนีมันออกมา ไม่อยากทำอะไร ไม่ชอบอะไรก็รีบถอยออกมาครับ อย่าไปทน และอย่าไปบ่นอีกด้วย เพราะคุณเป็นคนเลือกทางเดินชีวิตตัวเอง
เคยเห็นคนตั้งชื่อตัวเองใน msn ทำนองนี้ไหมครับ เช่น
เบื่อว่ะ งานแม่งเยอะฉิบเป๋ง
อะไรๆ ก็กู
ทำงานเยอะ เสือกได้เงินน้อย
นี่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันมาแนวนี้จะโดนผมด่าสวนกลับไปว่า
แล้วมึงไปทนทำไมเล่า เบื่อนักก็ลาออกสิ ไปหางานอื่นทำดู ฯลฯ
รู้สาเหตุไหมครับว่าทำไมไม่ลาออก ก็เพราะกลัวไปทำงานที่อื่นไม่ได้ คือตัวเองรู้ว่าตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรนักเลยสักนิด ลาออกไปก็เหมือนลอยคอในทะเล สู้เกาะซุงเก่าๆ ผุๆ แบบนี้ดูจะมีทางรอดมากกว่า
จะบอกอะไรให้ว่า คนที่เขาเจ๋งๆ ไม่มี่ใครเขาบ่นว่างานเยอะกันหรอกครับ การที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานเยอะกว่าเพื่อน นั่นคือคุณเป็นคนมีฝีมือ ฉะนั้น โปรดจงใช้โอกาสนี้แสดงฝีมือซะ
ผมจะเน้นไปกับเรื่องวิธีการใช้เงินมากกว่าวิธีเก็บเงินครับ ไอ้เก็บน่ะง่าย แค่แบ่งบางส่วนมาออมไว้ก็จบ แต่ไอ้การใช้เงินนี่สิ ผมว่ามันคือศิลปะ (ใช้ให้เกิดประโยชน์นะ ไม่ได้ใช้แบบมั่วๆ ไอ้แบบนั้นใครๆ ก็ทำเป็นวะ)
หากทำงานออฟฟิซ กินข้าวแกงจานละ 20 บาทในตึกทุกวัน คุณก็จะพบแต่พวกพนักงานระดับเดียวกัน วันหยุดกินข้าวตามฟู๊ดเซนเตอร์ในโลตัส บิ๊กซี คุณก็จะเจอกับคนไลฟ์สไตล์เดียวกัน หรือซื้อของตามตลาดนัดแถวบ้าน ก็เป็นธรรมดาที่คุณจะเจอเฉพาะคนในย่านนั้นๆ
นักธุรกิจที่เขานั่งเครื่องบินชั้น First Class ไม่ใช่แค่เขาอยากนั่งสบายนะครับ ไม่ใช่แค่เขารวย การนั่ง First Class ของเขาคือการลงทุน เพราะเขามีโอกาสได้เจอคนระดับไม่ธรรมดา หลายครั้งมันเป็นการต่อยอดในด้านธุรกิจ
แต่ชาวบ้านอย่างเราคงไม่อาจหาญบิน First Class แล้วจะไปเจรจาธุรกิจกับใคร เอาแค่แนวคิดไปใช้ครับ เอาไปประยุกต์ เช่น
เดินตามร้านหนังสือหรูๆ ดูบ้าง เดินในแผนกที่คุณคิดว่าจะมีคนดีๆ เขาเดินกัน เช่น มุมหนังสือท่องเที่ยวก็จะมีคนสนใจด้านการท่องเที่ยว การเดินทาง ในทางกลับกัน มุมการ์ตูนก็มักจะมีแต่เด็กๆ นั่งเรี่ยงแถวเต็มไปหมด
อย่าลืมเก็บเกี่ยวมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างทางด้วยนะครับ สำคัญมากๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังตัวไว้ด้วย เพราะเราเพิ่งจะรู้จักกัน แต่จงเชื่อในสัณชาติญาณของตัวเอง แล้วก็อย่ามองคนแต่เพียงผิวเผิน
ชีวิตจริงของผมเองก็เจอคนระหว่างทางมาเยอะมาก สานต่อมิตรภาพจนถึงทุกวันนี้ก็เยอะ หน้าที่การงานของผมก็มีส่วนหนึ่งมาจากเพื่อนที่พบกันตอนเรียน และเพื่อนไปแนะนำให้รู้จักกับคนอื่นอีกที
แม้เงินเดือนจะไม่มาก แต่แทนที่จะได้เงินเก็บเดือนละหมื่น กลายเป็นได้โอกาสทำเงินมหาศาล ได้เป็นที่ปรึกษาโครงการ ฯลฯ
แม้ว่าที่ผ่านมาผมใช้เงินหมดไปกับรถแข่งมากมาย แต่ผมก็ได้รู้จักคนในวงการนี้อีกเยอะ คิดไปแล้วผมว่าคุ้ม
ช่วงนี้ผมกำลังใช้ชีวิตกับวงการจักรยาน แต่อย่าดูถูกคนขี่จักรยานไปนะ ผมเริ่มจะรู้จักและกำลังหาโอกาสต่อยอดทางธุรกิจ และมันจะดีมากเลย หากทำเงินให้ผมได้บ้าง
อีกตัวอย่างหนึ่งของศิลปะการใช้เงินก็คือ เพื่อนแม่ผมเป็นคนเชียงใหม่ มีลูกสาวสองคน ส่งมาเรียนที่ ABAC ยุคนั้นนักเรียนต่างจังหวัดยังน้อย หากจะมาอยู่ในเมืองก็มักจะเช่าหอพักอยู่ ก็ดูเป็นเรื่องปกติดี
แต่ครอบครัวนี้เขาซื้อคอนโดให้ลูกอยู่ครับ แน่นอน เขามีเงิน ขั้นเทพฯ ในจังหวั้ดเชียงใหม่เลยล่ะ เจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่
เขากล้าใช้เงินครับ และมองการณ์ไกล ผลที่ตามมาก็คือ เมื่อลูกทั้ง 2 คนเรียนจบ ก็ขายคอนโดฯ ได้เงินกำไรกลับมาเป็นค่าเรียนตลอด 4 ปี ของลูกทั้ง 2 คน (รวมกันก็ 8 ปี)
กลายเป็นว่าลูกได้เรียน ABAC ฟรีๆ แจ๋วดีไหมครับพี่น้อง
6 มค 53
เช้านี้ขี้เกียจเฉยเลย อากาศครึ้มๆ ด้วยกระมัง แต่ตอนสายผมเข้าคลองถม เอาสายชาร์จโทรศัพท์ไปเปลี่ยน ถ้านับเส้นที่เปลี่ยนวันนี้ด้วยก็จะเป็นเส้นที่ 4 แล้วในรอบ 2 เดือน สินค้ารับประกัน 3 เดือนครับ ยังไม่มีเส้นไหนใช้ได้ถึง 1 เดือนเลย ฮ่าๆ
ไปคลองถมผมมักจะไปกับรถพับ JZ88 แม้ล้อจะจิ๋วแค่ 14 แต่นี่แหละคือจุดเด่นของความคล่องตัว พับแล้วเข็นง่ายมากๆ เอาเป้วางบนรถแล้วเข็นก็ยังได้
พอถึงร้าน พนักงานจำผมได้ ส่งยิ้มหวานให้ ผมเองก็ยิ้มจนแก้มปริ
ขอเปลียนสายชาร์จหน่อยครับ
พูดพร้อมกับส่งของเก่าให้ เขาเอาไปลองดูอาการ แล้วหยิบอันใหม่มาให้แทน ลองเสี่ยบแล้วใช้ได้ ก็กล่าวขอบคุณแล้วก็ลาจากไป
แต่ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเราจะต้องมาพบกันอีก
กลางวันผมเข้าไปที่คอนโด ไปดูสระว่ายน้ำ และฟิตเนท สระโอเคดี ส่วนฟิตเนสนั้นสวยมากๆ สวยแบบเว่อร์เลยก็ว่าได้ เห็นแล้วตกตะลึง เครื่องเล่นคุณภาพสูง มีเยอะ ผมชอบลู่วิ่งที่ปรับมุมลาดชั้นได้ถึง 12% ลองวิ่งดูแล้ว สุดยอดเหลือหลาย
จักรยานก็มี แต่ไม่ได้ลองลูกเล่นมากนัก แค่ปั่นเฉยๆ แต่แค่แป๊บเดียวก็ได้ระยะทางถึง 1 กม แล้ว ยังงงว่าทำไมมันไวขนาดนั้น หรือพลังเราเหลือเฟือ นั่งปั่นเพลินๆ จนไม่รู้เวลาที่ผ่านไป ส่วนที่ชอบอีกอันผมเรียกไม่ถูก คล้ายเรากำลังเดิน แต่มีก้านให้เราจับโยกด้วย สนุกดีเหมือนกัน กึ่งเดินกึ่งวิ่งในอากาศ
ที่เหลือก็เป็น Free Weight อันนี้แหละ พวกกล้ามใหญ่เขาชอบกัน ผมเฉยๆ จะใช้ตอน Strecth เสียมากกว่า
เย็นไปรับลูก แต่เจอฝนตกหนัก นึกแปลกใจ แต่ก็เข้าใจ เพราะทั่วโลกทางยุโรปและอเมริกาเขายังโดนพายุหิมะถล่มกันอย่างหนัก ของเราแค่นี้ถือว่าจิ๊บๆ มาก ฝนตกก็แค่เปียก ตกนานหน่อยก็แค่น้ำท่วม นี้คือวิถีคนเมือง หากจะอยู่ในเมืองก็ไม่ต้องมาบ่น
ผมเข้าไปโพสในเวปจักรยานว่ากำลังมองหา GPS เลยได้รับ pm จาก Printer (คน) เขาให้ข้อมูล GPS ราคาถูกและใช้งานได้ดีมาให้ เขาลองแล้ว เขาชอบ ก็เลยบอกต่อ ก็ตอบขอบคุณเขาไป ผมเอามาใช้งานกับจักรยานเป็นหลักครับ ไอ้พวกรุ่นหน้าจอใหญ่ๆ มันกินไฟเยอะมาก แบตหมดเร็วจัด มีบางคนแนะนำให้ผมใช้รุ่น Etrax Legend HXC ผมเองก็เล็งๆ ไว้เหมือนกัน แต่ก็แค่เล็งแหละนะ ไอ้พวกนี้มันของเล่นน่ะครับ ยังไม่ถึงขั้นที่จำเป็นจริงๆ หรืออยากได้อย่างสุดเหวี่ยงหรอก
เอ๊ะ หรือจะลองใช้โทรศัพท์ของ Garmin ดูดี เขามีรุ่น M20 เป็น GPS ที่โทรศัพท์ได้ ต่างจากยี่ห้ออื่นที่เป็นโทรศัพท์แต่ใช้ GPS ได้