25 ตค 58
ตื่นเช้ามายังแอบอิดออดว่าจะออกวิ่งดีไหม โห มึงนี่ขี้เกียจเข้าขั้นแล้วนะ แต่พอนึกถึง เป้าหมายใหม่ ที่นึกขึ้นได้เมื่อวานแล้ว รีบกระโดดตัวลอยจากที่นอนเลย
แรงบันดาลใจใหม่ๆ สามารถสร้างพลังให้เราได้ดีจริงๆ ครับ
ตอนวิ่งวันนี้ก็นึกถึง ภาพจริง ตามที่เป้าหมายเราตั้งไว้ นึกทุกช็อทแบบ real time เลยนะ อย่างเช่นฝันล่าสุดของผมเมื่อวานนี้คือการพายเรือข้ามอ่าวไทย เราก็นึกไปเลยว่าจะออกลงน้ำกี่โมง และก่อนหน้านั้นเราต้องเตรียมอะไรมาแล้วบ้าง ร่างกายเราต้องแกร่งขนาดไหน ตอนลงน้ำแล้วมันจะยังไงกันต่อไป ฯลฯ
เอาเข้าจริงจะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่ว่าฝันแล้วผมมีความสุขมาก วันนี้วิ่ง 2 ชม แบบเพลินๆ เลย ตอน 30 นาทีสุดท้ายแดดแรงเริ่มล้า ก็นึกไปว่า เฮ้ยย ถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วมึงจะพายเรือไหวหรอ โหห คิดแบบนี้ปุ๊บ บูสท์ต้นมาเลย รอบตีสูงปรี๊ดปั่นเทอร์โบอีกตัวช่วยอัด วี๊ดดดด แป๊บเดียว ซัดครบ 2 ชม
กลับมาบ้านซดน้ำส้มคั้นสดทำเอง 1 แก้ว อาบน้ำอย่างสบายเลย มื้อเช้าวันนี้กินซาลาเปา 3 ลูก (เหลือแป้งไว้เยอะมาก เอาไว้ให้ไอ้ถุงเงินถุงทองกิน) ขนมจีบ 3 ลูก ปิดท้ายด้วยถั่วอบเขาช่องอีก 1 กำมือ
พอสายก็เริ่มง่วงครับ อิ่มจากมื้อเช้า เพลียจากการออกำลังกายหนัก หึหึ อยากหลับจริงๆ เล้ยยย แต่อีกสักพักต้องออกไปงานเลี้ยง วันนี้มีเลี้ยงวันเกิดพ่อ กินกันที่ร้านครัวเจ๊ง้อ แถวๆ บ้าน
ร้านนี้มีหลายสาขานะ คนละเจ้าของด้วยนะ แปลกดีไหม ครัวเจ๊ง้อต้นแบบอยู่แถวสี่พระยา นอกนั้นเป็นพวกเพื่อนๆ เจ๊ที่ขอชื่อไปใช้เฉยเลย เป็นการตั้งชื่อร้านที่โคตรตลก เหมือนจะเป็นแฟรงชายน์ แต่มันก็เวิร์คดีนะ เห็นขายดีกันหมด
ร้านสไตล์อาหารจีนลูกผสมไทย รสชาติก็โอเคดี แต่ผมไม่คุ้นเคยกับการกินอาหารมากๆ กินอย่างละนิดละหน่อย เน้นนั่งคุยกันในหมู่ญาติ
กลับมาบ้านดูรายการทีวี เจอรายการรถยนต์เขากำลังทดสอบยาง Michelin โหห ผมเห็นแล้วอึ้งไปเลย เพราะว่ายางคือชิ้นส่วนที่ทดสอบ ยาก ที่สุดในบรรดาอุปกรณ์รถยนต์ทั้งหมด
แต่ดูทางรายการเขาตั้งใจทำมากเลยนะ มีสถานีทดสอบการทรงตัวหลากหลายแบบ ทดสอบระยะเบรก ทดสอบบนทางเปียก แถมมียางคู่แข่งมาทดสองอีกด้วย โหห ผมงี้อึ้งไปเลย
ทำให้นึกถึงเมื่อหลายเดือนก่อนตอนที่ผมเริ่มจะทำคอลัมน์รถยนต์ใน Sanook Auto ที่ว่าจะไปได้สวยแล้วแต่ก็ดันเกิดการไม่ลงตัวเกิดขึ้นจนได้ ความผิดของผมเองแหละครับที่ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเขียนคอลัมน์ให้เขาได้อย่างน้อย 3 เรื่องต่อเดือน และผลของการไม่ส่งงานนี้ ทำให้ผมมีสิทธิ์ถูกปรับเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย
ไอ้นี่ก็คิดหนักแล้วนะ แต่มาคิดหนักเอาตอนงาน รับจ้างเขียนรีวิว นี่แหละครับ ถ้าเป็นคนอื่นคงยินดีเปิดรับอย่างเต็มที่ เพราะได้เงิน แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นการ ขายวิญญาณ รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเต็มที
มีเยอะนะครับที่คอลัมนิสต์ขายตัวรับจ้าง เขียนเชียร์ เราก็ไม่ว่ากันครับ ทางใครทางมัน คุณมีทางเดินของคุณ ผมก็มีทางเดินของผม และที่สำคัญคือ ผมทรยศผู้อ่านของผมไม่ลง
มันน่าแปลกตรงที่สังคมก็รู้กันว่าเขาเขียนเชียร์ แต่ก็ยอมรับกันหน้าตาเฉยเลย เฮ้ยย เกิดอะไรขึ้นกับพวกมึงกันวะครับ
สังคมเปลี่ยนไปขนาดนี้กันแล้วหรือ มันเริ่มมาจากพวกดารารับจ้างรีวิวสินค้าโน่นนี่ แปลกนะนี่คนดูแม่งก็เชื่อสนิทใจ เฮ้ย เขาคือ นักแสดง ของเหี้ยห่าขนาดไหนเขาก็พรีเซนต์ให้แม่งเจ๋งได้
พอดาราทำได้ พวกอยากเป็นดาราก็เอาบ้าง ตั้งตัวเองเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่รีวิวสินค้า ยิ่งมีช่องทางสื่อเป็นของตัวเองอย่าง Youtube ด้วยแล้วก็เหมือนติดปีกเลยล่ะ หลายคนได้รับเงินจากเจ้าของสินค้ามาแล้ว แถมยังได้ยอดวิวจาก Youtube อีกต่อ บ๊ะ สุดยอดไปเลย
ลองมาคิดในมุมกลับอีกที กลายเป็นว่า นี่ผมโง่หรือเปล่าวะนั่นที่ทิ้งโอกาสทำเงินก้อนใหญ่ไปอย่างหน้าตาเฉย Sanook เป็นบริษัทลูกโดยตรงของ Yahoo.com จาก USA เชียวนะ น่าจะเป็นบริษัทยักษ์ลำดับแรกที่เข้ามาไทยอย่างเป็นทางการ แต่ปัจจุบันนี้มีทั้ง Google, Youtube และล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาก็คือ Facebook
ผมอาจจะคิดผิดก็ได้นะ ไม่รู้สิ แต่ในใจลึกๆ ของผมมันบอกว่าให้ผมทำเฉพาะในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น อยากเป็นนักทดสอบรถ ก็ต้องให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ไม่เลี่ยงบาลี ไม่เชียร์ ไม่เลีย และ ไม่รับเงิน