Author Topic: อยากทราบเกี่ยวกับเกียร์close ratino  (Read 8642 times)

Offline Drift_DanceR

  • Amateur Racer
  • *
  • Posts: 29
  • น้องใหม่หัดDrift
เกียร์close ratino เป็นยังไงและมีความสำคัญยังไงเหรอครับแล้วดียังไงสามารถดัดแปลงเองได้ไหมแล้วต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไร

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
เกียร์แบบ Close Ratio คือเกียร์แบบอัตราทดชิด แปลกันง่ายๆ ตรงๆ ตัวอย่างนี้แหละ

ต้องอธิบายเรื่องเกียร์ก่อนครับ

ดูตัวอย่างง่ายๆ ได้จากจักรยานเมาเทนไบค์ เสือหมอบ หรืออะไรก็ได้มีมันมีชุดเฟืองด้านดุมหลังเรียงซ้อนๆ กัน แต่ละเฟืองก็คืออัตราทดที่แตกต่างกัน และถ้าลองนับจำนวนฟันของเฟืองดูก็จะสามารถจัดลำดับไล่เรียงตามความใหญ่ของเฟืองได้ (เช่นเดียวกับเกียร์ของรถยนต์)

เฟืองใหญ่สุด มีฟันมาก ถืบแล้วออกตัวได้เร็ว เขาเรียกเกียร์ 1
- เกียร์อื่นๆ ก็ไล่ลำดับกันลงมา

ถ้ามีจักรยานแบบนี้ ก็ลองออกไปปั่นเล่นดู รักษารอบขาให้นิ่งไว้ แล้วไล่สับเกียร์เล่นดู ก็จะรู้สึกหนักบ้าง เบาบ้าง ขณะออกตัวเราต้องสับเฟืองหลังให้ใหญ่เข้าไว้ จะได้ออกตัวเบาแรง รถพุ่ง (เปรียบได้กับเกียร์ 1 ในรถยนต์) พอรถเริ่มมีแรงส่ง เราก็สับเกียร์ให้เฟืองหลังลดขนาดลงทีละสเตป (เปรียบได้กับรถยนต์เข้าเกียร์ 2-3-4)

จบเรื่องเกียร์



ส่วนเกียร์แบบ Close Ratio

มันก็หน้าตาเหมือนเกียร์ปกตินี้แหละครับ แต่จำนวนของเฟือง (ฟัน) มันจะไล่กันแบบไม่ก้าวกระโดดมากนัก ทำให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ต่อเนื่อง มันไม่ได้เร็วขึ้นเลยนะ มันได้สมูธ ได้ราบรื่น

รอบเครื่องจะตกลงน้อยกว่าเกียร์แบบปกติ ถามว่าดีไหมก็ตอบว่าดี แต่ไม่ได้หมายความว่าเกียร์แบบปกติจะแย่สักหน่อย แถมข้อเสียของเกียร์ Close Ratio ที่ผมไม่ชอบก็คือเสียเวลาเปลี่ยนเกียร์บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นพวกรถเครื่องแรงๆ นี้ยิ่งขับไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย เพราะจับพวงมาลัยได้แค่มือเดียว อีกมือต้องอยู่ที่หัวเกียร์ตลอด ยิ่งพวกรถที่รอบกวาดไวๆ ยิ่งแล้วใหญ่เลย ขับยาก (หากจะรีดสมรรถนะของรถให้สุดขีด)

เกียร์แบบ Close Ratio จะเหมาะกับรถที่แรงปานกลางถึงน้อยครับ แบบนี้สิสนุกของจริง กดลากกันได้เต็มที่ รอบค่อยๆ กวาด เราก็มีช่วงเวลาให้สับเกียร์เหลือเฟือ แถมผิดพลาดนิดหน่อยรถก็ยังนิ่งดี ไม่กระตุกกระชาก (ดูแล้วเหมือนพวกหัดขับ)

เกียร์ Close Ratio ในรถแข่ง เขาจะต้องคำนวนมาแล้วอย่างดี คือทำเครือ่งกันเต็มสุดแล้ว ค่อยมาไล่ที่เกียร์ โดยมากจะทำเฟืองใหม่ให้มัน Close แค่ไม่กี่เฟือง อาจทำแค่เกียร์ 3 และ 4 ก็ได้ มันแล้วแต่รูปแบบของสนามนั้นๆ ด้วย

ผมเองเคยขับรถเกียร์ Close Ratio มาหลายปี ไม่เห็นมันจะวิเศษอะไรเหมือนที่พวกหนังสือซิ่งเขาเชียร์เลยแม้แต่น้อย ยิ่งตอนซิ่งๆ นะ เผลอๆ จะเป็นข้อเสียเอาด้วยซ้ำไป เช่นโค้งหนึ่งในสนาม ขณะเราทำ Down Shift (ลดเกียร์ลง) ความเร็วลดลงตาม แต่มันเป็นโค้งแบบความเร็วต่ำ เลยทำให้ผมต้องลดเกียร์ลง 2 ครั้ง แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้เกียร์แบบปกติ เขาก็จะลดกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
- การลดเกียร์ลงสองจังหวะ ทำให้ต้องรักษาแรงเบรกที่ปลายเท้าขวาไว้ และทำ Heel & Toe สองครั้ง
- ขับแบบนี้ไปได้สักพัก ผมก็เริ่มประยุกต์ด้วยการชิฟข้ามช็อท คือจากเกียร์ 5 ไป 3 เลย หัดไม่นานก็ทำได้ครับ แต่มันแปลกๆ ตรงจังหวะข้อมือเราที่ไม่ได้ลากลง หรือดันขึ้น แบบที่เคยทำในเกียร์ปกติ แต่มันต้องโยกจากเกียร์ 5 ที่อยู่บน ลงมาเกียร์ว่าง แล้วดันขึ้นบนเพื่อไปเกียร์ 3 อีกที
- ระยะหลังๆ เริ่มห้าวหาญ ผมเล่นชิฟแบบข้าม 2 -3 ช็อทเลย คือจาก 5 ไป 2 บ้างก็จาก 6 ไป 2 อะไรทำนองนี้ (ไม่รู้เหมือนกันว่าการขับแบบนี้มีในตำราไหม แต่ผมทำแล้วมันเร็วกว่าเดิม)

สรุปให้แบบสั้นๆ
- ข้อดี ได้ความต่อเนื่อง ราบเรียบ เนียน นุ่ม
- ข้อเสีย หากเครื่องแรงมากๆ จะขับแล้วเหนื่อย เพราะต้องคอยสับเกียร์กันตลอดทาง

i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
แถมอีกหน่อย

คือเกียร์ close-ratio เนี่ย จะดีไซน์อัตราทดในแต่ละเกียร์ให้เวลาที่เรา shift-up แล้วรอบมันไม่ตกลงต่ำกว่าช่วง powerband ของเครื่อง เพราะถ้ารอบมันตกลงไปต่ำแล้ว มันจะเกิดอาการที่เราชอบเรียกกันว่า"รอรอบ"หรือเร่งไม่ขึ้น เพราะฉะนั้นอัตราทดจึงมีความแตกต่างกันสำหรับแต่ละเครื่อง มีคนเข้าใจผิดกันมากที่ไปซื้อเกียร์ close-ratio มา(จากไหนก้อแล้วแต่)แล้วมาต่อกับเครื่องตัวเอง แล้วไม่ได้ดังใจหวัง ก้อเพราะไอ้เกียร์ที่ซื้อมานั้นมันไม่ได้ออกแบบอัตราทดมาสำหรับเครื่องของตัวเอง

เครื่องที่มี powerband แคบๆก้อจะต้องใช้ชุดเกียร์ที่มีอัตราทดชิดกันมากๆ บางครั้งอาจจะต้องเพิ่มจำนวนเกียร์ (เหมือนรถบางคันที่มี 6-7 เกียร์ แล้วทุกคนก้อเข้าใจผิดคิดว่ามันแรง) เครื่องที่มี powerband กว้างก้อไม่ต้องใช้ชุดเกียร์ที่มันชิดเท่าไหร่

ถ้าถามต่อว่า แล้วอัตราทดเท่าไหร่ดี ก้อจะถามก่อนตอบว่า จะเอาไปวิ่งที่ไหนล่ะ ถ้าใช้แข่ง Drag ก้อต้องรู้ powerband ของเครื่อง Max HP และ Max Torque อยู่ที่ไหน ใช้ยางเบอร์อะไร น้ำหนักรถเท่าไหร่ ประมาณนั้น ถ้าจะเอาไปวิ่งใน circuit ก้อต้องดูก่อนว่าสนามนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร อย่างสนามพีระฯ ถ้าหาเกียร์3ที่สามารถวิ่งขึ้นเขาหลังจากโค้งสุดทางตรงได้ ที่อื่นก้อจะง่าย หลายๆคนที่เคยวิ่งคงบอก "จะบ้ารึไง วิ่งขึ้นเขาเกียร์ 3 วิ่งไม่ขึ้น" ก้อเพราะเขาเหล่านั้นหาเกียร์ที่มันลงตัวตรงนั้นไม่เจอไงล่ะ

ถ้าถามอีกว่า "เกียร์ทั้งชุดเอาให้เหมาะกับเครื่องในรถเลยราคาเท่าไหร่" ขอตอบว่า IF YOU HAVE TO ASK, YOU CAN'T AFFORD IT!!! จะเอาบอก แต่อย่าถามเรื่องราคา เหอๆๆ ;D
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline H U S T 7 E R

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 1725
  • รถก็สวยดี แต่คนขับหน้าหมา....
 เอ้าพี่... :o ลงท้ายกลายเป็นทีวีมีเดียซะงั้น  ;D  เอิ๊กๆๆๆๆๆ