Author Topic: ขอความเห็นจากเพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน  (Read 4511 times)

Offline Multilink

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 174
  • I'm a llama!
พอดีพิมพ์แล้วพอกดโพสแล้วมันเออเล่อแล้วหายไปเลย ต้องมาพิมพใหม่ ยังไงเว็บมาสเตอร์ช่วยดูเรื่องนี้ด้วยนะครับ เป็นค่อนข้างบ่อย รบกวนด้วยครับ

ส่วนเรื่องที่ผมจะขอความเห็นมีอยู๋ว่า เราๆคงคุ้นเคยกับคำว่า รีแอคชั่น ซึ่งยกตัวอย่างง่ายๆว่า หากเราเจอรถเปลี่ยนเลนกระทันหัน หรือคนกำลังข้ามถนน หากมีทั้งรีแอคชั่นและสติ ผนวกกับฝีมือ เราก็อาจหักหลบ กดแตร เบรค หรือหากมี รีแอคชั่น อย่างเดียว อาจจะกลายเป็นเหยียบคันเร่ง หรือทำอะไรที่เกิดข้อผิดพลาด แต่ที่ผมกำลังจะถามคือไออาการที่ไม่มีรีแอคชั่นกับเหตุการณ์นั้นๆ อย่างคนกำลังข้ามถนนไม่ทันดูรถ เราขณะขับรถแทนที่จะมีรีแอคชั่นออกมา แต่ร่างกายกลับไม่มีปฎิกริยาตอบสนอง หรือเราอาจจะเห็นได้จากกีฬาฟุตบอล ขณะที่ฝ่ายหนึ่งยิงประตู แต่ผู้รักษาประตูกลับยืนนิ่ง ไม่มีรีแอคชั่นอะไรกลับมา ได้แต่ยืนค้างปล่อยให้ลูกเข้าประตูไป ไออาการที่ว่านี้เนี่ย เขาเรียกว่าอาการอะไรครับ แล้วมันจะพอมีวิธีแก้ไขหรือพัฒนาได้เหมือนรีแอคชั่นที่เราฝึกฝนได้ไหม เพื่อนๆพอมีข้อมูลหรือเคยศึกษาเรื่องนี้บ้างรึเปล่า พอดีผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับคนที่ขับรถ เลยอยากลองศึกษาดูครับ
A Top Fuel Dragsters reach over 300 miles per hour before you have completed reading this sentence

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
เรื่องพวกนี้ฝึกฝนกันได้ครับ เรื่องหลักๆ มันอยู่ที่สติ กับ สมาธิ สองอย่างนี้จะออกมาเองโดยพื้นฐานของประสพการณ์ และเชาว์ ไหวพริบ

ค่อยๆ อ่านครับ อ่านด้านบนซ้ำอีกทีก็ได้

อย่างพวก reaction ของนักแข่ง F1 นี้จะไวกว่าพวกเราๆ ท่านๆ อยู่หลายขุม เขาฝึกฝนครับ รถพวกนี้มันตอบสนองไว เบรกช้าไปนิดเดียวรถก็เลื่อนไปหลายสิบเมตรแล้ว

แต่เรื่องของผู้รักษาประตูยืนนิ่ง ขณะที่ลูกบอลวิ่งออกจากเท้าของฝ่ายตรงข้ามแล้วนั้น ไม่ใช่อาการอึ้งนะครับ โดยมากจะมองไม่เห็นมากกว่า มุมมองของกล้องที่เราดูทีวี มันต่างจากมุมมองของผู้รักษาประตูครับ โดยมากเขาจะโดนยืนบังมากกว่า เชื่อไหมว่าหลายครั้งโดนบังโดยกองหลังของฝ่ายเดียวกันเอง

กลับมาที่เรื่องของรถต่อ

การตอบสนองนั้นๆ มักจะขึ้นอยู่กับเหตุที่เกิดด้วย เช่นหากโดนรถข้างๆ เบียดอย่างกระทันหัน
- บางคนเบรก
- บางคนเหหลบออกด้านข้าง
- บางคนหักหลบพร้อมกับเบรกด้วย

 ชนก็ซวยไปครับ หากรอดมาได้ (อาจเพราะรถข้างๆ เขาเองก็หลบเราเช่นกัน) ก็ดีไป

ขับช้าหน่อยเราก็จะมีเวลาตัดสินใจเยอะ - พวกผู้ใหญ่ในสังคมเลยแก้ปัญหาด้วยการไม่ให้ขับเร็ว เพราะมันง่ายดี

แต่ถ้าเราขับเร็วหน่อย เราอาจจะขับเลยไอ้ตัวต้นเหตุนี้ไปแล้วก็เป็นได้ - จริงไหม ผมไม่รู้ หรืออาจไปเจอต้นเหตุอันใหม่อีกก็เป็นไปได้เช่นกัน

อ่านประโยคแรกด้านบนอีกครั้งหนึ่งครับ



อาการกดส่งแล้วเวปแฮงค์ กด back กลับมาตัวหนังสือหาย อันนี้สุดเซ็งครับ แนะนำให้ก๊อปปี้ข้อความไว้ก่อนกดโพสส่งครับผม
- ส่วนทางผมจะให้เวปมาสเตอร์ตรวจเช็คอีกแรงครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline ToppyRacingClub

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 1382
ต้องฝึกบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคับ... ;D/

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
สำหรับการขับรถนั้น คนขับจะมี reaction หรือการตอบสนองกับสิ่งรอบตัวได้ดีขนาดไหนนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคนขับคนนั้นมี..เรียกว่าอะไรดีหว่า...ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า awareness อ่ะ เอาเป็นความตื่นตัวหรือความพร้อมในการรับรู้สิ่งรอบตัวขนาดไหน เคยดูสารคดีที่มีการทดลองตรวจสอบ awareness ของคนขับรถด้วยการจับความเคลื่อนไหวของดวงตา เพื่อดูว่าคนขับคนนั้นมองอะไรอยู่บ้างในการขับรถ บางคนมองอยู่แต่ตูดรถคันข้างหน้า จะมองกระจกข้างหรือกระจกหลังก้อเฉพาะตอนจะเปลี่ยนเลน ซึ่งถือว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีในการขับรถ คนที่มี awareness ในการขับมากๆตาเขานั้นจะสแกนซ้าย ขวา หน้า หรือเลยไปอีกสองคันหน้า และหลัง อยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่แต่ละคนมีการพัฒนาที่ไม่เท่ากัน

แต่แค่นั้นมันก้อยังไม่พอ คนขับอาจจะมีความพร้อมในการรับรู้สิ่งรอบตัวแล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น การตัดสินใจของคนขับคนนั้นเป็นอย่างไร ตัวอย่างง่ายๆ สมมุติว่าขับอยู่บนถนนสองเลนสวน แล้วอยู่ๆรถกลุ่มข้างหน้าเบรคกระทันหัน ทำยังไงดีเอ่ย จะหลบขวาแต่มีโอกาสประสานงากับรถทัวร์ดี รึจะหลบซ้ายไปเสยเสาไฟฟ้าดีหว่า มองขวาผ่านกระจกรถคันหน้าทะลุไปอีกสองคันแล้วไม่มีรถอะไรสวนมา เอาละวะไปขวาได้ มองซ้ายแล้วมีเสาไฟแต่อีก 2 millisec จะมีช่องผ่านได้แถมมี นศ.สาวแอ๊บแบ๊วยืนรอรถเมล์อยู่ด้วย อืมมซ้ายก้อน่าไปนะ รึไม่ต้องหลบมันหรอก อุตส่าห์ใส่จานเบรค 14 นิ้ว กับ คาลิเปอร์ AP monoblock 6 pods มาแล้ว ความเร็วอยู่ที่ 120 ระยะเหลืออีก 40 เมตร เบรคหยุดด้ายยยยยยย. ตรงเนี้ยเป็นสิ่งที่สมองของคนขับต้องคิดและสั่งงานเพื่อการตัดสินใจ"อย่างถูกต้อง"โดยเร็ว โดยเร็วในที่นี้หมายถึงเวลาไม่ถึง 1 วินาทีอ่ะนะ ซึ่งมันกลายเป็น Instinct มากกว่า Reaction ไปแล้ว

เพราะฉะนั้น การที่จะพัฒนาให้คนขับให้เป็นคนขับที่ดีได้นั้น ต้องให้เขาพัฒนา Awareness ซะก่อน เพื่อให้เขานำไปใช้ในการพัฒนา Instinct อีกทีนึง ยากนะเนี่ย....คนสมองเสื่อมรึ  RAM น้อยจะลำบากหน่อย  ;D
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline iamtul

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 904
  • G'Day Mate
ผมว่ามันก็เหมือนกับเครื่องคอมอ่ะครับ คือต้องมีทั้งSoftware กับHardware

ถ้าHardware ต่อให้ดีแค่ไหนถ้าไม่เคยถูกสอนให้ทำอย่างไรกับโจทย์แบบนี้มันก็ทำไรไม่เป็น แต่ละสถาณการณ์แต่ละแบบมันก็มีโจทย์กับคำตอบต่างกัน อย่างพี่เปิ้ลว่าครับในพวกนักกีฬาอาชีพเค้าก็จะมีทักษะที่ถูกสอนมาเฉพาะครับ

ในทางกลับกันถ้าSoftware ดี คือถูกสอนมาแล้ว แต่ตัวมันไปได้แค่นั้นมันก็ได้เท่านั้นครับ อันนี้น่าจะรวมถึงความพร้อมทางร่างกายด้วย เช่นการทำWeight training ฯลฯ รวมถึงไม่เมา ไม่แฮงค์ ไม่ป่วยอะไรประมาณนั้น

ทีนี้ถึงมันดีทั้งสองอย่างแล้ว ปรากฏว่าคุณเปิดโปรแกรมพ้อมกันหลายๆตัว มันก็ทำให้ประมวลผลช้าเหมือนกัน เช่น ฟังเพลง(เผลอๆดูหนัง)ไปด้วย คุยโทรศัพท์กับแฟนไปด้วย กินหนมไปด้วย แถมเมา ขับรถ อันนั้ต่อให้ ทั้งSoftware กับHardware ดีแค่ไหน โอกาศเครื่องHangต้องอุ้มเข้าศูนย์ก็ยังสูงอยู่ดีครับ

 ;D ;D ;D
Drift is not a fashion , It 's my passion

"Anything 's Possible, If you got  HEART !!! "
TT Motorsport