Author Topic: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ 22 ฟาดเคราะห์  (Read 24019 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #15 on: June 17, 2012, 10:35:42 am »
16 มิย 55
   ขี่จักรยานไปได้อีกหน่อย เหมือนจะเป็นแบบขี่สะสมทรัพย์ ปั่นวันละเล็กละน้อย มันจะลดพุงได้หรือเปล่าวะนี่
   ส่งลูกที่โรงเรียนพิเศษ บางทีเห็นเขาเบื่อๆ ก็เลยสอนให้ตั้งเป้าหมายในชีวิต ก็ยกตัวอย่างตอนตัวผมเองขี่จักรยานขึ้นอินทนนน์นี่แหละ ถ้าคิดว่ามันเหนื่อยล้า ทรมานล่ะก็ คุณจะได้รับสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ แต่ผมคิดไปว่ามันคือการท้าทายด่านที่ 1 ถ้าผมขี่ผ่านเขาลูกนี้ได้ เขาที่สูงสุดในประเทศไทยได้ แถมยังเป็นเขาลูกแรกที่ผมขึ้นอีกด้วย มันจะทำให้สถิติในชีวิตเราดีเยี่ยมขนาดไหน มันยังจะเป็นบันไดพาไปสู่ฝันที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ง่ายอีกด้วย
   คิดแบบนี้ตลอดทาง แม้จะเหนื่อยสาหัส แต่ก็มีความสนุกอยู่ในที
   ถ้าลูกคิดว่าเรียนครั้งนี้มันยากลำบาก น่าเบื่อ ก็ลองนึกว่าหากเรามีความสามารถที่จะไปสอบแข่งขัน หรือได้รับทุน ฯลฯ ชีวิตเราจะเจ๋งเพียงใด
   เอาล่ะ เด็กเขานึกภาพพวกนี้ไม่ออกเท่าไหร่หรอก ต้องพูดกรอกหูบ่อยๆ ให้เหมือนสะกดจิต แม้เด็กไม่เก่ง แต่ผมบอกว่าเขาเก่งสุดยอดจริงๆ แม้วันนี้เราจะแพ้คนอื่นอยู่ แต่ก็ดีไม่ใช่หรือที่เรารู้ว่าเราอ่อนกว่าเขา มันทำให้เรายิ่งต้องศึกษาเพิ่มเพื่ออุดรูรั่ว มันอยู่ที่ความตั้งใจจริง ความมุมานะ ความพยายาม พูดกรอกหูไปเรื่อยๆ ว่ามันไม่ยาก แค่ทำความเข้าใจกับมัน ใครๆ ก็ทำได้ ไอ้พวกที่ทำไม่ได้นั่นคือไม่ได้ตั้งใจจริง
   หลักๆ ก็คือสอนเรื่องวิธีคิด สอนเขาไป มันก็เท่ากับสอนตัวผมเองตามไปด้วย

   เย็นนี้มีเลี้ยงรุ่นของอัสสัมชัญรุ่น 100 ปี เลขสวยมาก สองสัปดาห์ก่อนเพิ่งไปเลี้ยงรุ่นสวนกุหลาบรุ่น 104 ปี ได้บรรยากาศที่แตกต่าง แต่ก็คล้ายกันในหลายจุด โดยรวมแล้วชอบทั้งสองที่
   ได้เจอเพื่อนรักเก่าๆ หลายคน บางคนผมไปค้างบ้านเขาตั้งหลายวัน นึกถึงภาพเก่าๆ แล้วสนุกดีครับ บางช่วงของงานผมปลีกตัวไปนั่งโซฟาคนเดียว มองเพื่อนๆ แต่ละคนที่อยู่ข้างหน้า แล้วก็คิดถึงภาพความหลัง นั่งไปก็อมยิ้มไปคนเดียว บางคนเห็นผมนั่งเดี๋ยวกลัวจะเหงาเลยมานั่งเป็นเพื่อน บ้างก็ชวนกินเบียร์
   มีเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทปานกลาง ตอนเรียน ม2 (อายุ 14) เขาเอาซีเรียสมากินในห้องแล้วก็แจกแบ่งกัน ผมกินแล้วอร่อย ชอบมาก ขอดูกล่องว่าขนมอะไร เพราะไม่เคยกินมาก่อน
   ชัชวิน ส่งกล่องมาให้ดู อ่านไม่ค่อยออก กล่องลายการ์ตูน เขาบอกว่าซื้อในห้าง พอพ่อพาไปห้างเซ็นทรัลสีลม (ใหญ่สุดแล้วในยุคนั้น) ก็เลยเดินหา แต่ไปเจอแบบกล่องใหญ่ จำได้แม่นว่ากล่องละ 70 บาท โคตรจะแพงเลย ขณะนั้นผมได้เงินไปเรียนวันละ 12 บาทมั้ง
   กลับมาบ้านก็เทซีเรียสใส่กับนมกิน เพิ่งรู้ว่ามันมีอาหารแบบนี้ในโลกด้วย แจ๋วสิ ไม่ต้องกินข้าวก็ได้ กินแบบนี้แทนข้าวได้ด้วยหรอ เจ๋งว่ะ มันเหมือนในหนังฝรั่งเลย วางกล่องซีเรียสบนโต๊ะ เทนมใส่ชาม ตักกินอย่างเอร็ดอร่อย หนังมันสร้างภาพเอาไว้ให้เราทำตาม
   กินแบบนี้อยู่พักหนึ่งนะ ลองหลายรสชาติ มาติดใจอันเดียวชื่อ Sugar Pops ทำจากข้าวโพดเม็ดกลมๆ ข้างในพองๆ แช่นมสักพักจะนุ่มหอม กินไอ้รุ่นนี้ได้ไม่เท่าไหร่ห้างก็เลิกนำเข้ามาแล้ว ไม่รู้ทำไม จนถึงทุกวันนี้หากไปเดินที่แผนกซีเรียลใจก็ยังแอบฝันมองหา Sugar Pops อยู่เสมอ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้ว
   ศุภชัย (True) ไม่มา แต่เป็ด (Grammy) มา แน่ละ โดนแซวเละว่าปล่อยจอดำ เพื่อนกลุ่มอัสสัมชัญนี้ผมมีความผูกพันมากกว่าเพื่อนทางสวนกุหลาบ เพราะเรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้น ป1 ผมจำชื่อเพื่อนได้ แถมจำนามสกุลได้อีกด้วย ยุคนั้นยังเรียกชื่อจริงกันอยู่เลย
   เลิกงานห้าทุ่มกว่า ไม่ค่อยได้ขับรถกลางคืนบ่อยนัก อากาศดีๆ เลยคิดถึงรถเปิดหลังคาอีกแล้ว คนอื่นอาจไม่ชอบคงเพราะเขาไม่ได้ใช้ แต่ผมชอบ แม้ว่าจะไม่ได้มีโอกาสใช้บ่อยก็เถอะ แต่พอเปิดแต่ละครั้งแล้ว มันทำให้รู้สึกจิตใจสบายดีมากๆ เลย ยิ่งถ้าได้ขับริมทะเลเช้าๆ จะสุดยอดเป็นที่สุด
   กลับถึงบ้านราวเที่ยงคืน มิวเข้านอนเอง ปิดไฟเรียบร้อย ผมรีบอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ กลางดึกเขาตื่นขึ้นมาเอามือควานๆ มาจับแขนแล้วพูดว่า
   “อ้าว พ่อมาแล้วเหรอ” แล้วก็หลับต่อจนถึงเช้า
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #16 on: June 20, 2012, 01:50:41 pm »
17 มิย 55
   ตื่นตี 5 ได้ด้วย ตื่นเองนะ ไม่ได้ใช้นาฬิกาปลุก ไปงานเลี้ยงรุ่นเมื่อคืนเจอเพื่อนหลากหลาย ส่วนใหญ่จะอ้วนๆ ทั้งนั้น มีคนหนึงหุ่นดีชะมัด อิจฉามันสิ แถมเป็นเพื่อนสนิทมากอีกด้วย เลยต้องฮึดฟิตหุ่นเอาไว้สู้กับมันตอนเลี้ยงรุ่นคราวหน้า (เมื่อไหร่ก็ไม่รู้)
   เตรียมจักรยานออกขี่ทันที ท้องฟ้ายังมืดๆ อยู่เลย ติดไฟหน้าหลังครบ เติมน้ำใส่กระติก  2 ใบ ขี่ออกจากบ้านไปได้ 1 กม
   ฝนตก !!!
   อ้าว งงสิ จะตกนานไหมก็ไม่รู้ เอาไงดีวะ วันนี้ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะขี่ไปไหนเลยด้วยซ้ำ เลยเลือกเส้นทางสั้นแถวบ้าน เผื่อฝนเทลงมาหนักจะได้ขี่กลับบ้านได้เร็วหน่อย
   วนอยู่นาน รอท่าทีฝน มันตกปรอยๆ สลับหยุดนิ่ง ตกแบบลังเล เราเองก็เลยขี่แบบลังเลไปด้วย ไม่ได้กลัวอะไรกับฝนนักหรอก ถ้าเป็น Day Trip ลากยาวตลอดวันล่ะก็ ลุยเป็นลุย ขี่กลางฝนเย็นสบายดีออก
   สุดท้ายวกกลับมาบ้าน ตั้งหลักที่นี่แหละ เดินไปเดินมาเห็นรถคันใหม่ของพ่อสกปรก ที่ล้อมีคราบยางมะตอยติด นี่ถ้าคนเช็ดไม่เป็นจะทำให้สีเป็นรอยได้ง่าย เพราะเกิดจากแรงกด แรงขัดถูที่ลงน้ำหนักแรงเกินไปจนทำให้เคลือบเงาของสีเกิดรอยขนแมว
   ใช้แว๊กซ์แบบมีสารทำละลายป้ายทิ้งไว้ สักพักเช็ดออกเบาๆ จบครับ ไม่ต้องออกแรงมาก เปลี่ยนมุมผ้าที่เช็ดบ่อยๆ สำคัญสุดคืออย่าลงน้ำหนักมือมาก ถ้าถูไม่ออกก็เปลี่ยนมุมผ้าใหม่ แล้วออกแรงกดเท่าเดิม ทำซ้ำได้บ่อยๆ ถ้าไม่กดแรงก็จะไม่เกิดรอยขนแมว
   อยู่บ้านทั้งวัน อัปเดทชีวิตลูกปลาทองฝูงใหม่สักนิด ประเมินคร่าวๆ น่าจะเหลือรอดมาราว 20 ตัว ตอนนี้มันตัวเล็กอยู่ ผมกลัวมันโดนปลาทองตัวใหญ่กิน เลยเอาดอกจอกที่มีรากเยอะๆ ลงมาแช่ไว้ในบ่อ เอาไว้ให้พวกลูกปลามันแอบ
   เย็นฝนตกลงมาหนัก ถึงตอนนี้ผ่านมาหลายฝนแล้ว ค่อนข้างจะมั่นใจมากๆ ว่าห้องผมที่มันเคยรั่วซึม บัดนี้ผมจัดการมันได้เรียบร้อยแล้ว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #17 on: June 20, 2012, 02:00:14 pm »
18 มิย 55
   ขี่จักรยานหน่อยเดียวก็รีบกินข้าว รีบออกจากบ้านไปส่งลูก วันนี้ผมมีประชุมใหญ่
   เช้านี้มีประชุมสัมมนาธุรกิจเกี่ยวกับพวกการตลาด การทำ CRM [Customer Relationship Management] ทำงานจับกังยกของอยู่กับบ้านมานาน เจอคอร์สที่มีการใช้สมองแบบนี้ค่อยสนุกหน่อย
   วิทยากรท่านก็พูดสอนไป พบว่าหลายอย่างมันตรงกับตอนที่ผมทำนิตยสาร Racing Club เลยคิดต่อไปว่า เอ๊ะ หรือว่าเราทำหนังสือออกมาเร็วเกินไปสัก 10 ปี เคยมีรุ่นพี่คนหนึ่งบอกกับผมว่า ไอ้นิตยสาร Racing Club ที่ผมทำน่ะ มันเหมือนกับเพลงของ ธเนศร์ วรากุลนุเคราะห์ และ เพชร โอสถานุเคราะห์ คือทำงานของอนาคตออกมาในยุคปัจจุบัน แปลกใหม่แน่ ช็อควงการไปพอควร คนชอบก็มีเยอะ คนตามไม่ทันก็มีมาก
   ประชุมจนถึงเย็น กินข้าวแล้วก็แยกย้ายกันพักผ่อน บางคนกลับบ้าน บางคนค้างคืนที่โรงแรมนี้ ผมเองก็อยู่ในกลุ่มหลังครับ นอนร่วมกับเพื่อนร่วมกลุ่มสัมมนา แต่รออยู่นานเขาไม่เห็นเข้าห้องพักเสียที หรือจะหนีไปเที่ยวก็ไม่รู้ อยู่รอจนดึกไม่กล้าล็อคห้อง จนถึงเที่ยงคืนโน่น คงไม่มาแล้วแน่ๆ
   ตลอดวันนี้เจอแต่อาหารนอกบ้านที่หลากหลาย จัดไปเยอะครับ เพราะมีพวกปลาที่ผมไม่ค่อยมีโอกาสกินด้วย ก่อนนอนเลยทำซิทอัพไปสัก 100 ตามด้วยวิดพื้นอีกนิดหน่อย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #18 on: June 20, 2012, 02:01:58 pm »
19 มิย 55
   ตื่นเองตั้งแต่ตี 5 ไม่น่าเชื่อว่าจะตื่นได้ เพราะนอนไปแค่ 5 ชม เอง แต่สักพักก็รู้สาเหตุ แอร์มันตัดนานครับ ตัดจนร้อนเลยตื่น
   ตอนก่อนนอนก็ทดสอบมันแล้วนะ คอมฯทำงานจริง ตัดช้าอีกด้วย คือผมตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 C คอมฯมันก็ปั่นจนเย็นเจี๊ยบ เย็นต่ำกว่า 25 C แน่ๆ เล่นจนผมห่มผ้าแล้วปลายเท้ายังเย็นเจี๊ยบจนต้องหยิบถุงเท้ามาใส่ เดาว่ามันต้องทำจนถึง 18C แน่ๆ
   พอมันเย็นสุดขีด คอมฯก็จะตัดการทำงาน อันนี้เข้าใจครับ คุ้นเคยคอมฯโบราณแบบนี้อย่างมาก แต่พอในห้องมันร้อนถึง 25C นี่สิ คอมฯมันก็ยังไม่ยอมตื่นมาทำงาน เล่นซะจนร้อนอบอ้าว ถึงจะมีเสียงดัง “ชึ่ง” เย้ๆ ลมเย็นออกมาแล้วโว๊ยย เจอแอร์แบบนี้ก็ทำใจเอาหน่อยครับ
   ตื่นเช้าแต่กลับไม่ได้ออกกำลังกาย ใช้วิดพื้นแทนก็ได้วะ เปิดทีวีดูข่าวยามเช้าพบแต่ผลการรายงานฟุตบอลยูโร เลยอาบน้ำเตรียมตัวลงไปกินอาหารเช้า วันนี้ประชุมอีกยาวจนถึงเย็น
   ลงมาในห้องอาหารราว 0700 แต่กลับไม่เจอใครในกลุ่มเลย มีแต่นักท่องเที่ยวชาวจีน และเวียดนาม เสียงดังลั่นเลยล่ะ
   กินข้าวคนเดียว ไม่มีใครช่วยเฝ้าของ ต้องเอาสายสะพายกระเป๋ามาพันกับพนักเก้าอี้เอาไว้ เผื่อโดนฉกก็ต้องใช้เวลาหน่อย ไม่ได้หยิบฉวยไปได้ง่ายๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ อย่าชะล่าใจไป การไปไหนมาไหนคนเดียวของผม มันสอนให้ต้องระแวดระวังไปเสียทุกอย่าง
   รอจนถึง 0800 เห็นคนในกลุ่มลงมา 2 คน แต่ไม่คุ้นเคยกัน เลยแค่ส่งยิ้ม ออกไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ล็อบบี้ดีกว่า
   ที่ล็อบบี้มีนักท่องเที่ยวมากมาย ใกล้ๆ ผมเห็นหญิงชาวจีน 2 คน เขาถ่ายรูปด้วยกัน กำลังจะอาสาเข้าไปช่วยถ่าย แต่เขาบอกไม่เป็นไร ชวนคุยเรื่องอื่นแทน แต่เขากลับบอกพูดอังกฤษไม่ได้ อ้าว เซ็งเลย หันไปอีกฝั่งก็เจอสาวจีนอีกแล้ว เลยถามเขาว่าวันนี้จะไปไหนกัน เขาบอกไปวังใหญ่ๆ ของพระราชา ผมคิดว่าน่าจะเป็นวัดพระแก้วนะ คนนี้พูดอังกฤษได้คล่อง เลยคุยกันเยอะหน่อย สักพักไกด์ชาวจีนเดินเข้ามาถาม คงจะสงสัยว่าคุยอะไรกัน และผมเป็นใคร ก็เลยแนะนำตัว และแปลกใจที่ไกด์ชาวจีนบอกว่าพูดไทยไม่ได้ กลุ่มเขามาเที่ยวไทยกัน 6 วัน นี่คือวันที่ 2 เอง
   ใช้เวลาว่างขณะนั่งรอด้วยการฝึกพูดภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นชาวจีน แต่ก็พอได้นิดๆ ดีกว่า นั่งปล่อยเวลาให้มันผ่านไป สำหรับผมแล้วทุกนาที ทุกที่ คือการเรียนรู้ครับ
   0900 เริ่มสัมมนา มีพักเบรกเติมความอ้วนด้วยกาแฟ ชา ขนมปัง ของว่าง เอาอีกแล้ว ผมบอกไปหลายหนว่าน่าจะมี Fruit Brake บ้าง กินผลไม้สด ยังไงก็ดีกว่า กาแฟ ขนมปัง
   พักเที่ยงกินข้าวแล้วก็เข้าประชุมต่อจนถึงเย็น นัดกับลูกว่าวันนี้จะไปรับเขา แต่จนเย็นแล้วก็ยังสอนไม่เสร็จ ภรรยาโทรมาถามว่าไปรับลูกหรือยัง ผมบอกยังอยู่ในห้องประชุมอยู่เลย เอาไงดีล่ะ ขอให้พ่อผมช่วยไปรับแทนก็แล้วกัน
   อีกพักใหญ่ภรรยาโทรมาเสียงกระหืดกระหอบ เพราะพ่อผมหาลูกไม่เจอ ไอ้เรื่องแบบนี้เกิดกับผมประจำ หาลูกไม่เจอ ใจเราก็คิดไปเองโน่นนี่ จิตเราปรุงแต่งไปเองแท้ๆ
   ผมบอกภรรยาว่าลูกนั่งทำการบ้านอยู่บนห้องเรียนชั้น 4 เดี๋ยวผมจะไปรับกลับมาเองก็แล้วกัน
   สักพักเลิกประชุม ผมรีบอัดรถกลับมาบ้านอย่างเร็ว โชคดีขับตามหลังรถพยาบาล ฮ่าๆ ให้เขาช่วยเปิดทางให้
   ไปถึงโรงเรียนเห็นลูกนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ เขาบอกขอซื้อไข่นกกระทาทอดในเตาขนมครก (ผมไม่รู้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ) มิวนั่งกินในรถอย่างเอร็ดอร่อย พอถึงบ้านก็มีเพื่อนนักเรียนสวนกุหลาบมาจอดรถรออยู่ปากซอย เขาเอา CD เพลงโรงเรียนมาให้ ผมชอบมาก เพลงเพราะจริงๆ เป็นเพลงไทยเดิมนะ จำได้ว่าตอนขับรถกลับจากงานเลี้ยงรุ่นสวนกุหลาบ ผมยังเปิดกระจกร้องเพลงโรงเรียนเลย ซึ้งใจจริงๆ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #19 on: June 20, 2012, 10:10:12 pm »
20 มิย 55
   ขี่จักรยานยามเช้าในรอบหลายวัน ยังคงสนุกเหมือนเดิม แต่สนุกได้หน่อยเดียวเท่านั้นแหละ วังวนชีวิตเดิมๆ ที่น่าเบื่อก็กลับมาอีกแล้ว
   ใช่เลย งานที่ร้านขายของมันไม่ใช่แนวของผมเลยสักนิด เช้านี้ขับรถกระบะบรรทุกเอารถซาเล้งไปซ่อม น่าแปลกนะ ที่รถซาเล้งน่ะมันขับได้ ที่มันเสียก็คือแค่ขาสตาร์ทมันเอียงๆ หน่อย ไฟหน้า ไฟท้าย แตกหายพังหมด แต่เจ้าของร้านกลับให้ผมขับรถกระบะบรรทุกไป ต้องยกขึ้น ยกลง ด้วยแรงงานคนงานอีก 3 คน (รวมผมด้วยก็เป็น 4)
   ด้วยความสงสัยจับใจ เลยเอ่ยปากถามว่าทำไมไม่ให้คนที่เขาใช้รถซาเล้งประจำเป็นคนไปซ่อม คำตอบที่ได้รับก็ทำให้ผมเข้าใจ คือเขาต้องการให้คนงานรีบไปส่งของ การนำรถไปซ่อมเป็นการเสียเวลา
   โอ พระพุทธเจ้า มิน่าเล่า รถคนงานบ้านผมแต่ละคันล้วนแล้วแต่สภาพสุดโทรม ก็เพราะมันขับกันแบบไม่ดูแล พอพังแล้วค่อยมาบอก ก็มีคน(อย่างผม)ขับนำไปซ่อมให้นี่เอง
   สมัยก่อนขับกันจนพังคาตีนจริงๆ เล่นจนน้ำมันเครื่องแห้งสนิท ขับกันแบบไม่ดูแลรถเลยสักนิด สุดยอดจริงๆ เลยเพื่อนรัก
   ไปรับมิวตอนเย็น วันนี้นัดให้ผมไปรับเกือบๆ หกโมงเย็น ผมไปตามเวลานัดหมาย แต่ปรากฏว่ายังทำการบ้านไม่เสร็จก็วิ่งเล่นกับเพื่อนเสียแล้ว
                ท่าทางคืนนี้จะต้องเป็นราตรีอันแสนยาวนานแน่เลย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #20 on: June 22, 2012, 07:56:12 pm »
21 มิย 55
   เมื่อคืนมิวยังทำการบ้านไม่เสร็จดี ก็ขอนอนเสียก่อน หัวค่ำใช้เวลาหมดไปกับการบ้านภาษาไทย ต้องแต่งกาพย์ยานี 11 1 บท ไอ้เรื่องแนวนี้หมูมากสำหรับผม ตอนหนุ่มๆ ในวงเหล้าก็ชอบว่ากลอนสดกัน (ผมกินน้ำอัดลมแทน)
   ช่วยมิวแต่งกลอนจนจบ สอนให้เขาคิดหาคำลงท้ายที่มีสัมผัสเสียงกัน ระหว่างนั้นก็หยิบเอาสมุดไดอารี่ที่ผมจดบันทึกตั้งแต่ปี 90 มาอ่านให้เขาฟัง อ่านเฉพาะบนโคลงกลอนสารพัดแบบ ยุคนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ผมใช้ดินสอจดบันทึกแบบสดๆ แน่นอน ไม่มีรอยยางลบครับ มันสอนให้เราต้องคิดให้ดีก่อนเขียนใดๆ ลงไป
   นาซ่าขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจสภาพอากาศในประเทศไทย หึหึ กูคงจะเชื่อมึงล่ะนะว่าจะสำรวจอากาศอย่างเดียว ไอ้ประเทศนี้มีหรือจะจริงใจกับใครแบบลูกผู้ชาย ยังไงมันก็ต้องหวังผลประโยชน์ ถ้าให้เดา งานนี้ก็คือมาสำรวจแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ที่หลังจากปีที่ผ่านมาย่านเอเชียเรามีแผ่นดินไหวบ่อย และหนักสุดคือมีแผ่นดินไหวในไทยที่ระนอง แนวสายแร่ และทรัพย์ในดิน สินในน้ำ มันจะมีการเปลียนเส้นทางหรือไม่ มันรู้นะครับว่าไทยเรามีแหล่งเหล่านี้มาก (แต่คนไทยเราเองยังไม่ค่อยรู้กัน) มันอยากจะรู้ว่าทรัพยากรยังคงอยู่ไหม หรือย้ายไปจุดใด เพื่อที่ว่ามันจะไปวางแผนฮุบเอาภายหลัง อาจมาในแนวของนักธุรกิจที่ดิน อะไรประมาณนี้
   แถมวันนี้ยังมีข่าวเกกลับว่าหากไม่รีบอนุมัติจะมีการถอนตัว โอ้โห น่ากลัวจังเลย อยากถอนก็ถอนไปสิวะ ประเทศมันเองมีทรัพยากรมากมาย มันก็เก็บเอาไว้ไม่อยากถลุงมาก คือกะจะเก็บเอาไว้ใช้เป็นแหล่งสุดท้ายของโลกไง กลยุทธของมันคือมาหลอกประเทศที่ฉลาดน้อยกว่า ทำทีมาช่วยเหลือในด้านต่างๆ ที่เราขาด พอตายใจนี่แหละ มันก็จะมาขอสิทธิทำวิจัย (จะทำสากกะเบืออะไรก็แล้วแต่มันจะยกมาอ้าง)
   ประเทศนี้มันคือมาเฟียของโลกดีๆ นี่เอง ลำพังตัวประเทศ หรือตัวคน ผมรู้สึกเฉยๆ นะ ที่วิจารณ์แรงๆ และเกลียดมากก็คือนโยบายต่างประเทศของเขา เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้แบบสุดๆ ใครบี้ได้มันบี้แหลก แต่ถ้าใครแข็งแกร่งกว่ามันก็ทำเป็นมองไม่เห็น เดินผ่านไปซะ บี้เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในไทย และประเทศจนๆ แต่กับจีนแล้วมันไม่กล้าหือแม้แต่น้อย แมนโคตรๆ เลยครับพี่
   มันกำหนดมาตรฐานต่างๆ ของมันเองมาทั้งหมด แล้วป่าวประกาศให้ทุกคนทำตามมัน ไม่งั้นไม่ผ่านมาตรฐานของมันเอง เริ่มจากระบบ ISO ที่มาหลอกแดกเงินคนไปทั่วโลก ลำพังถ้าจะค้าขายกับมันก็โอเคนะ แต่นี่โรงพยาบาลในไทย ทำไมต้องกระแดะมี  ISO หรืออยากให้คนรู้ว่าตัวเองมาตรฐานสูง แค่นี้เองหรือ เสียเงินไปมากมายแค่ไอ้ป้าย ISO ที่ติดบนตึก อืมม น่าคิดนะ ไว้ผมอาจจะทำป้ายติดที่ร้านขายของผมบ้าง
   ลองศึกษาประวัติศาสตร์ดูครับ ค่อยๆ คิดและวิเคราะห์ตาม จะรู้ว่าไอ้พวกฝรั่งมันร้ายเพียงใด จีนล่มสลายในสงครามฝิ่นก็เพราะโดนอังกฤษที่เสียดุลการค้าอย่างหนักเอาฝิ่นมาปล่อยในดินแดนจีน ทำให้คนจีนเสพติดฝิ่นอย่างหนัก ยื้อกันหนักเข้าก็จบลงด้วยการทำสงคราม แน่ล่ะ จีนแพ้ โดนยึดดินแดนไปบางส่วน และเกาะใหญ่อีก 1 เกาะนั่นคือฮ่องกง ที่มันเพิ่งจะคืนตามสัญญาไม่กี่ปีมานี้เอง คงจะจำกันได้
   หลังจากโดนอังกฤษยำ ก็โดนฝรั่งเศสมารุมกินโต๊ะบ้าง ส่วนทางมาเก๊าก็โดนล้อมด้วยโจรสลัดนานาประเทศ เพราะเป็นทำเลทอง ดินแดนหลักโดนอังกฤษ ฝรั่งเศสเข้ามายึดไปแล้วในบางส่วน โปรตุเกสมีกองเรือที่เข้มแข็งอยากเข้ามามีส่วนแบ่งบ้าง มาเก๊าเลยให้โปรตุเกสช่วยเคลียร์เรือโจรสลัดที่คอยปล้นเรือสินค้าในอ่าวให้ งานนี้เรียกว่าจบแบบ win win ไม่ต้องเสียดินแดน ไม่ต้องสู้รบ แถมยังมีพี่ใหญ่คุมเส้นทางเดินเรือให้
เขาถึงเรียกว่ายุคล่าอาณานิคมไงครับ ไทยเราก็มีผลกระทบในสมัย ร5 ก็มีการเฉือนเนื้อแบ่งให้ไป แลกกับอิสรภาพ ลองไปดูแผนที่ประเทศไทยสมัยโบราณแล้วจะอึ้ง หลายส่วนในลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย มันเป็นดินแดนของไทยมาก่อนทั้งนั้น

เช้านี้ผมยังคงขี่จักรยานเหมือนเดิม ขี่ไปได้สัก 30 นาที รู้สึกว่าตัวเองออกแรงน้อยไปหน่อย นี่ถ้าได้อัดแรงๆ ยาวๆ หัวใจเต้นแรงๆ หน่อย มันคงจะลดน้ำหนักตัวได้เร็วกว่านี้
   สายไปทำงาน บ่ายแก่ๆ เข้ามาบ้าน เย็นไปรับลูก จบชีวิตไปอีก 1 วัน
   จืดสนิท
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มิย 55 13 อิชิตันทำแสบ
« Reply #21 on: June 22, 2012, 07:59:55 pm »
22 มิย 55 ฟาดเคราะห์
   ขี่จักรยานท่ามกลางลมเย็นพัดโชย เช้านี้รู้สึกสัมผัสถึงลมหนาวนิดๆ ครับ ภารกิจช่วงเช้าเหมือนเดิมเป๊ะ รีบกินข้าว อาบน้ำ ไปส่งลูก และไปทำงานที่ร้านขายของ
   “ปัง” เสียงเหมือนมีใครเอาหินมาขว้างใส่รถ รีบหันไปมองจุดเกิดเหตุ มันคือรถมอเตอร์ไซค์ขี่ทับก้อนหินที่กระเด็นออกมาจากจุดก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยก ผมคงไปอยู่ในจุดแจ๊คพอทพอดีก็เลยโดนซะ
   ตอนขี่จักรยานผมเองก็เคยขี่ทับหินแล้วมันกระเด็นไปด้านข้างอย่างแรง ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ไม่ได้โดนอะไรใครนี่หว่า แถมเราก็ไม่ตั้งใจอีกด้วย มาวันนี้โดนกับตัวเอง โชคดีที่เป็นรถของผมคันเก่า Nissan 180SX ไอ้คันนี้อายุมากที่สุดในบ้านแล้วครับ (นับเฉพาะรถที่ใช้งานอยู่)
   ก็นั่งงงอยู่สักพักขณะรถติด ย้อนไปเมื่อวานใกล้จุดเกิดเหตุเดียวกันนี้ ผมก็โดนมอเตอร์ไซค์ชนกระจกมองข้างแบบแหกไปด้านตรงข้าม ตอนนั้นกำลังฮัมเพลงตามวิทยุ จำได้ว่าเป็นเพลงเก่าๆ ในยุคดิสโก้ กำลังเพลินเลย จู่ได้ยินยินเสียง “แกร๊ก” หันไปมอง อ้าว กระจกกู
   แต่แปลกนะที่ไม่ได้โมโหอะไรเลยสักนิด ต่างจากตอนวัยรุ่นลิบลับ ตอนนั้นเคยโดยเฉี่ยวหน่อยเดียว มอเตอร์ไซค์มันขี่ต่อหน้าตาเฉย เลยเดินลงไปกระชากมันลงมาจากรถ พูดต่อว่าเสียงดัง เขาเลยบอกขอโทษ ทำให้ใจเราเย็นลงนิด
   ด้วยความที่อายุมากขึ้นกระมัง แถมมอเตอร์ไซค์ที่ชนแล้วก็รีบจอดรถช่วยพลิกกระจกกลับมาตำแหน่งเดิม โบกมือ ก้มหัว ขอโทษก่อนขี่จากไป
   ผมว่ามันสำคัญตรงที่ถ้ารู้ว่าตัวเองผิด ก็ต้องยอมรับผิด และรีบขอโทษ จุดนี้ช่วยลดความร้อนแรงของอารมณ์ไปได้มากจริงๆ
   บ่ายกำลังจะขึ้นรถขับกลับบ้าน ก็มีมอเตอร์ไซค์ปรี่มาใกล้ๆ จอดด้านท้ายรถผม แล้ววิ่งมาเคาะกระจก
   งงสิ มาไม้ไหน หรือจะมาขอเงิน (เคยโดนบ่อย)
   เขาชื่อ “บอย” บ้านอยู่นครปฐม เคยผ่านแถวนี้เห็นรถผมจอดอยู่เมื่อหลายปีก่อน วันนี้เขามีโอกาสผ่านมาอีกครั้งเลยอยากจะมาดูรถผมอีก เพราะเขาชอบ อยากได้รถรุ่นนี้ในสภาพเดิมๆ พอเจอรถผมเป็นตัวรถนำเข้าก็เลยยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ แบบจำฝังใจ
   บอยยกมือไหว้ก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าพี่คิดจะขาย จะขายสักเท่าไหร่ครับ” บอยยิงเข้าประเด็น
   “ราว 6 แสนบาทครับ” ผมตอบแบบไม่ต้องคิด เพราะมีคนถามบ่อยมาก ขับรถไปต่างถิ่นก็จะได้รับนามบัตรเหน็บไม้ปัดน้ำฝนประจำ บอกทำนองว่าถ้าขายให้โทรหาเขา
   บอยดูสนใจมาก คุยถึงขั้นจะวางเงินมัดจำ
   เฮ้ยๆ อย่าเพิ่ง ขายไปแล้วผมจะเอารถที่ไหนใช้ล่ะ แม้ว่าจะเล็ง BRZ เอาไว้ แต่ก็ขอดูรถในไทยก่อน ถ้าไม่ถูกใจก็อาจสั่งเข้ามาเองอีกครั้งก็เป็นได้ แต่ไอ้รถแนวนี้ ผมว่ามันเป็นมหากาพย์ครับ คือเปิดขายด้วยตัวธรรมดา สักพักจะมีตัวแต่งพิเศษ แล้วก็มีตัวเฉลิมฉลองอะไรของมัน ตามมาด้วย Limited Edition แต่งพิเศษ สีพิเศษตามฟอร์ม ที่รู้ก็เพราะผมเคยเขียนแผนการตลาดแนวนี้ส่งให้บริษัททางอิตาลีตอนสมัยหนุ่มๆ
   บอยไม่เร่งรีบอะไรผม คุยกันอยู่ราว 15 นาที เขาแสดงให้เห็นถึงความต้องการในรถแบบนี้จริงๆ ก่อนจากกันก็เลยขอเบอร์โทรเขาไว้ มีอะไรคืบหน้าจะได้โทรติดต่อกันได้
   ขากลับบ้านผมแวะซื้อส้มตำที่ตลาดสำเหร่ ร้านนี้รสชาติใช้ได้ ราคาประหยัด ขายข้างทาง กลางวันคิวแน่น รอนาน ต้องใช้โทรสั่งล่วงหน้า มาวันนี้ผมกลับบ่ายหน่อย เลยจอดรถสะดวก จัดไป 1 ถุงพร้อมผักสดกำใหญ่ น่องไก่อีก 1 ชิ้น
   ขณะกำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้าน ผมหยุดรถให้รถในซอยออกมาก่อน มอเตอร์ไซค์มาจอดต่อท้าย แล้วจู่ๆ
   “โครม” แหงนหน้ามองกระจกหลังทันที มอเตอร์ไซค์มันโดนรถเก๋งมาสอยท้าย ปัดโธ่ โดนชนท้ายครั้งล่าสุดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นไปมีทติ้งบ้านอาหมู (ธเนศ เสนีวง ณ อยุธยา) เจอมอเตอร์ไซค์ชนท้ายตอนผมจอดติดไฟแดง ตัวมันลงไปนอนกลิ้ง แถมมาถามว่าผมเบรกทำไม เฮ้ยย กูเบรกและจอดนิ่งมานานมากแล้ว
   คนขับรถเก๋งลงมาพูดจาดี ยอมรับผิดชอบหมด แต่ได้กลิ่นเหล้า ผมถามว่าเขามีประกันไหม เขาบอกไม่มี อืม แบบนี้เล่นง่ายครับ ตีราคาแล้วก็จ่ายสดกันเลย
   รถผมกันชนท้ายถลอก อ้อ รถ Nissan 180SX ของผมนี่ด้านในกันชนเป็นโครงเหล็กใหญ่ๆ เลยนะ คือมันกันชนได้จริง ไม่เหมือนรถทุกวันนี้ที่มีแค่เปลือก แค่ดันๆ หน่อยเดียวก็ยุบแบบไม่เด้งคืนแล้ว
   การตีราคาทำง่ายครับ คิดเป็นชิ้นๆ โดนกี่ชิ้นก็ว่ากันไป ค่าทำสีราวชิ้นละ 1500 บาท รถผมเก่ามากแล้ว กันชนก็มีรอยเต็มไปหมด คิดแบบกลางๆ เลยบอกเขาไปว่า 500 บาท ผมตีเป็นแค่ค่าขัดสีเท่านั้นเอง
   เจ้าของรถฉลาดครับ รู้ว่าตัวเองเมานี่รีบควักจ่ายทันทีไม่มีต่อรอง ผมก็เห็นใจเขา ไม่มีใครอยากขับรถชนคนอื่นหรอก แต่มันเกิดจากความประมาท สะเพร่าของเขาเอง
   ผมชี้ไปยังอู่สีที่อยู่ซอยถัดไป ให้มอเตอร์ไซค์กับรถเก๋งขับไปตีราคากันเอง ส่วนผมขับเข้าบ้านกินส้มตำ
   ใช้เวลาเคลียร์เรื่องทั้งหมด 1 นาที จบง่าย เพราะรถเก๋งรู้ตัวว่าผิด ยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหาย
   ผิดแล้วยอมรับโดยดี คนโดนชนแม้จะเซ็งแต่ก็เข้าใจ และก็ต้องยอมรับมัน ก็มันชนไปแล้วนี่หว่า ให้ทำไงได้
   มีเยอะนะครับที่ลงมาถึงก็บ่นด่ากัน สุดท้ายก็ชกต่อยกัน ในยุคผมเด็กเจอบ่อยเลย โดยเฉพาะพวกที่ขับแบบปาดกันแย่งเลนกัน
   
   วันนี้ผมถือว่าฟาดเคราะห์ไปถึง 2 ครั้ง เช้าโดนหินกระเด็นใส่ตัวรถ บ่ายโดนชนท้าย คนโบราณถือว่าเคราะห์นั้นได้ผ่านไปแล้ว ต่อไปก็จะมีแต่โชคดีกลับมา
   จะเป็นเรื่องจริง หรือว่าเป็นการคิดแบบปลอบใจก็ไม่รู้สินะ แต่ผมเชื่อมั่นในเรื่องคุณความดี คนทำดี ยังไงมันก็ต้องได้ดีเข้าสักวัน
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
23 มิย 55
   ขัดสีกันชนท้าย รอยที่โดนชนจางลงไปนิดหน่อยเอง สีเดิมมันเก่ามากไงครับ จากเดิมขาวมุก ตอนนี้มันเป็นสีขาวครีมออกเหลือง เพราะกันชนเป็นพลาสติกด้วยน่ะ ขัดอย่างไรก็ไม่เหมือนเดิม ดีที่ไม่มีรอยบุบ กันชนท้ายมีโครงเหล็กอย่างหนาเลย
   ขัดถูจนเจ็บมือ จุดที่โดนขัดมันขาวสะอาดว่อก ต่างจากกันชนทั้งแผ่นที่เป็นสีขาวโทนออกเหลือง รอยชนอย่างแรงทำให้พลาสติกผิวกันชนเป็นรอยครูด อันนี้ต้องทำใจแล้วล่ะ ถ้าจะแก้ก็ต้องรอตอนทำสีรอบคันไปทีเดียวเลย

   เช้านี้ฟิตจัดหน่อย ขี่จักรยานไป 30 นาทีเหมือนเดิม แต่ใช้เส้นทางเลียบทางด่วน ที่ผมทำความเร็วได้มาก วันนี้กลับมาบ้านแบบเสื้อเปียกชุ่ม ซัดอาหารเช้าคุณภาพสูงดังเช่นทุกวัน สำหรับวันนี้มีผัดผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียวใส่มะเขือเทศทอดในน้ำมันมะกอก กระเทียมสด 1 กำมือ และข้าวกล้อง
   ประเดิมตอนเช้าวันทำงานด้วยการที่คนงานหญิงสองคนทะเลาะเถียงกันแบบไม่เข้าเรื่อง ไม่มีใครยอมกัน ด่ากัน ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ พูดกูมึง น่าแปลกที่สองคนนี้อายุห่างกันราว 30 ปี ไม่มีใครในร้านแก้ปัญหาได้ ผมเลยออกไปยืนอยู่ตรงกลางที่สองคนเขาด่ากัน อืมม แป๊บเดียวหยุด
   ในเวปจักรยานมีคนเล่าว่านิตยสาร a day เล่มล่าสุดมีเนื้อหาเกี่ยวกับจักรยาน รู้ข่าวเมื่อวานนี้แล้วล่ะ บ่ายวันนี้รีบไปจัดมาทันที พลิกอ่านคร่าวๆ แล้วโอเคดีนะ นึกไปถึงเมื่อหลายเดือนก่อนที่ผมส่งเมลล์แนะนำตัวว่าอยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขาด้วย ทั้งๆ ที่รู้ตัวดีว่าขาดคุณสมบัติ เพราะเขาต้องการคนที่มีเวลาออกไปขี่กับเขานานถึง 30 วัน นี่ถ้าผมไม่ได้ทำงานเฝ้าร้านขายของคงจะไปไหนมาไหนสะดวกกว่านี้เยอะมาก ทุกวันนี้ต้องตัดงานส่วนตัวออกแทบทั้งหมด รู้สึกเสียดายจริงๆ เสียดายมากๆ 
   เวลาผ่านไป อายุมากขึ้น แต่เวลาส่วนตัวกลับลดน้อยลง แปลว่าผมยิ่งเดินห่างความฝันไปเรื่อยๆ นี่คือเรื่องที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดกับชีวิตตัวเองมาก่อน
   อนิจจา
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
24 มิย 55 เคราะห์ยังไม่หมด
   ยามนี้ เพื่อนที่ดีที่สุดคนเดียวที่ผมพอจะพึ่งพาได้ก็คือจักรยาน KHS HT เช้านี้จึงพามันออกขี่ไปเรื่อยๆ
   ในใจลึกๆ แล้ว ทุกคนต้องการเป็นคนมีคุณค่า ตอนอยู่บ้านเฝ้าร้านผมไม่มีค่าอะไรสักนิด แต่ยามใดที่อยู่นอกบ้าน ผมช่วยเหลือผู้คนที่รถเสียตามหาทางที่ผ่าน แม้จะร้อน เลอะเทอะ ได้ยินแค่คำขอบคุณ ได้เห็นแค่รอยยิ้ม มันกลับมีความหมายกับผมเสียยิ่งกว่า
   เจอรถตุ๊กๆ จอดเสียสตาร์ทไม่ติด เจ้าของรถบอกวิ่งมาดีๆ จู่ๆ ก็สะดุดแล้วดับไป สตาร์ทไม่ติด แต่เย็นวานเพิ่งจะลุยฝนมา
   น้ำมัน อากาศ ไฟ 3 เทพนี้แหละที่บันดาลให้เครื่องยนต์วิ่งได้
   น้ำมันมีไหม / แก๊สมีไหม ปั๊มน้ำมันโอเคไหม แรงดันน้ำมันปกติดีไหม
   อากาศนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ดูสักหน่อยก็ดีว่าไส้กรองอากาศเก่าโทรมเพียงใด
   ไฟ ไอ้นี้แหละไฮไลท์ เริ่มจากแบตมีไฟไหม สายการาวด์เรียบร้อยไหม ขั้วแบตแน่นไหม ไล่มายังคอยล์ ถ้าเป็นรถรุ่นเก่าจะใช้คอยล์แบบมีหัวนกกระจอก น้ำชอบเข้าในจุดนี้ ส่งผลให้รถวิ่งสะดุด แค่ถอดมาเช็ดก็จบแล้ว
   ไล่ต่อไปยังสายหัวเทียนว่ามีปริแตกไหม บางทีเป็นแค่รอยร้าวก็ทำให้รถวิ่งสะดุดแล้ว สุดท้ายคือหัวเทียน เจอบ่อยสุดก็คือน้ำเข้าไปขังที่ขั้วหัวเทียน ถ้าใครเพิ่งจะออกมาจากร้านคาร์แคร์แล้ววิ่งสะดุด ก็ดูขั้วหัวเทียนก่อนเพื่อนได้เลย
   อ้อ ไม่ต้องถอดมาเช็ดเสียให้ยาก มันเช็ดไม่ออก เพราะอยู่ในซอกลึก วิ่งเข้าปั๊มแล้วหาหัวฉีดลมแรงดันสูง ถอดหัวเทียนออกมาแล้วฉีดลมไล่ แป๊บเดียวจบ
   เช้านี้ซัดไปราว 55 กม ใช้เส้นทางในสวน ไปทะลุบางขุนเทียนชายทะเล แล้วก็วนออกไปทางจังหวัดสมุทรปราการ วกกลับบ้านใช้เส้นทางถนนใหญ่ (เพราะไม่เคยขับรถผ่านถนนสายนี้เลย จะได้เก็บข้อมูล)
   ระหว่างทางผมนั่งพักที่ร้านกาแฟ Coffee House ร้านสวยๆ ที่เปิดตรงใกล้ป่าชายเลน เจอนักจักรยานเป็นสิบคนเลยครับ บรรยากาศคึกคักดี ผมเข้าไปนั่งบ้าง ไม่ได้สั่งอะไรมากินหรอกนะ หยิบเอากล้วยน้ำว้ามากิน 3 ผล (นำมาเอง) เก็บภาพแบบ Panorama มา 1 ช็อท (ดูจากภาพประจำวันนี้ด้านล่าง) วันธรรมดาร้านเปิด 1000 – 2000 วันอาทิตย์เปิด 0700 – 2000 ใครมาขี่แถวนี้ผมแนะนำเลยครับ ร้านสวย บรรยากาศดี กาแฟแก้วละประมาณ 50 บาท หอมฉุย มีห้องน้ำอย่างดี มีน้ำเปล่าให้นักจักรยานเติมฟรี จอดรถยนต์สะดวก จอดรถจักรยานยิ่งง่าย เขาทำเป็นราวให้แขวนเลย
   ช่วงหนึ่งของเส้นทางก่อนมาถึงร้านกาแฟนผมโดนหมาไล่ ปกติครับ ใครๆ ก็เคยโดนหมาไล่กันทั้งนั้น ผมเองก็เหมือนกัน โดนไล่มาเป็นสิบปี แต่วันนี้โดนกัด !!! สงสัยเคราะห์ยังไม่จบ
   คงทำความดีมาบ้าง หมาเลยกัดไม่เข้า อาจจะไม่ถูกมุมกับปากของมัน ก็นับว่าโชคดีไปครับ ไม่งั้นงานเข้าจริงๆ เจ้าของหมาเองก็ยืนอยู่หน้าบ้านแท้ๆ ไม่มีดุว่าหมาตัวเองให้สักหน่อยเลย
   ขากลับต้องผ่านจุดที่หมากัดนี้อีกครั้ง ทำใจขี่ช้าๆ ไปเลย โชคดีที่มันไม่อยู่ เลยไม่ต้องมาเผชิญหน้ากัน
   แดดร้อนแรง พลังกล้วยน้ำว้าเริ่มหมด หยิบเอาธัญพืชอัดแท่งมากิน ขี่ไปกินไปนี่แหละ
    ความสนุกของผมคือการได้ขี่ในเส้นทางใหม่ๆ ขากลับเลยลองไปเส้นที่ไม่เคยขี่ดูบ้าง จากบางขุนเทียนชายทะเลขี่ไปทะลุออกซอยประชาอุทิศ 90 โน่นเลย แปลกใหม่ดี ได้รู้ได้เห็นว่ามีร้านค้าอะไรบ้าง กลับมาถึงบ้านราว 0900 ผมออกจากบ้าน 0600 นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปีที่พักจากการขี่ไกลมานาน น่าแปลกที่ทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 21 กม/ชม ทุกทีจะแค่ 12 อย่างเก่งก็ 15 เอาแรงมาจากไหนกันนะ ซ้อมก็ไม่ได้ซ้อมอะไรสักนิด นึกสนุกจู่ๆ ก็จับรถออกขี่เลย อนุมานเอาเองว่าร่างกายเราก็ฟิตพอควร ถ้าผอมลงได้กว่านี้ 5 กก จะเลิศมาก (จะได้ไปเอาเบาะ Gilles Berthoud เสียที)
   ที่บ้านมีโจ๊กรออยู่ ซัดไปไม่มีเหลือ เห็นว่าออกแรงมาเยอะ เลยจัดปาท่องโก๋ไปอีก 3 ตัว ฮ่าๆ ปกติไม่กินนะนี่ ของทอดแบบชุ่มน้ำมัน แถมใช้น้ำมันเก่า เอาวะ นานๆ ที
   อาบน้ำ นอนแช่พร้อมกับยกขาสูง เสร็จแล้ววันนี้ขอกระแดะหน่อย เล่นมาสค์หน้าครับ เป็นแผ่นสำเร็จยี่ห้อ Skinfood ภรรยาผมมีของพวกนี้เยอะ เขาไม่ค่อยได้ใช้หรอก นี่ผมเพิ่งจะลองใช้มาสค์แบบนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่วันนี้ใช้รุ่นใหม่ มันเป็นเหมือนแผ่นยางรูปหน้ากาก เอ๊ะ แล้วจะเอาด้านไหนแนบกับผิวหน้าเราดีวะ มีด้านเรียบ กับด้านไม่เรียบ หึหึ
   อ่านวิธีใช้บนซองก็บอกอย่างละเอียด ยกเว้นในจุดที่ผมสงสัย มันไม่ได้บอก เจริญมาก
   มั่วๆ เอาครับ เอาด้านเรียบแนบผิวหน้า นอนราบพักไป 30 นาที แล้วก็ถอดออก จับหน้าดู โหห หน้านุ่ม
   Skinfood ที่ผมใช้วันนี้มันเป็นรุ่นวิตามินซี ใช้สำหรับโดนแดดแรงจัดแบบ Sun Burn
   แต่ไอ้ Skinfood ที่ใช้วันนี้มันยังไม่ใช่ตัวที่ดีสุดนะ คราวก่อนผมใช้ของ SK-II (ของภรรยาอีกเช่นเคย) ไอ้นี่เทพมาก นุ่มแบบไม่รู้จะหาอะไรเปรียบ (ออกแนวเว่อร์นิดๆ)
   ส่วนของ Itude ก็โอเคดี ซื้อที่เกาหลีไม่แพง แผ่นละไม่ถึง 40 บาท มาไทยราคาโดดไปร้อยกว่าบาท มีให้เลือกหลายสูตร ทั้งวิตามินซี คอลาเจน งา เบอรี่ ชาเชียว ฯลฯ
   
   เย็นพาแม่ไปเลี้ยงวันเกิด มีแค่ครอบครัวเราเองและญาติสนิทไม่กี่คน พาไปร้านคุณตุ่มที่มหาชัย ร้านนี้อาหารรสชาติเด็ดขาด เสียตรงร้านไม่สวยเล้ยย จัดอาหารทะเลกันล้วนๆ ปลา กุ้ง ปู มีหลานผมมาอีก 2 คน กำลังจะไปศึกษาต่อต่างประเทศทั้งคู่ ส่วนหลานคนโตไปอยู่อังกฤษเรียบร้อยนานแล้ว
   หลาน 3 คนของผม ก็คือลูกของพี่สาวแท้ๆ สนิทกันมากครับ คนโตอยู่ลอนดอน คนกลางจะไปนิวยอร์คพรุ่งนี้ คนเล็กเจ๋งสุดได้ทุนจากเบิร์คเล่ย์เข้าเรียนมหาวิทยาลัยฟรี สุดยอดว่ะ มองชีวิตของหลานก็เห็นถึงอนาคตอันรุ่งโรจน์สดใส เปรียบกับตัวผมเองแล้วแม่งโครตจะหดหู่เลย ทุกวันนี้อยู่อย่างคนไร้ค่าจริงๆ ทิ้งไว้นานเข้าคงจะเข้ากลุ่มโรคซึมเศร้าเต็มรูปแบบ
   อีกหน่อยคงจะเห็นแก่คนอ้วนพุงป่อง นัยย์ตาเหม่อลอย อ้าปากน้ำลายไหลยืด นั่งอยู่ริมถนนหน้าร้านขายของ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
25 มิย 55 เคราะห์ยังไม่หมด
   ขี่จักรยาน 30 นาที แต่วันนี้ขี่เร็วหน่อย กลับมาบ้านได้เหงื่อ จะขี่แบบนี้ได้ต้องออกจากบ้านแต่เช้าหน่อยครับ รถยนต์น้อย ถ้าออกสายแล้วหมดสิทธิ์ ขี่เร็วท่ามกลางสภาพถนนไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่เรื่องสนุกเท่าไหร่ ได้ไม่คุ้มเจ็บ
   หลงดีใจเมื่อวานน้ำหนักลดไปถึง 1.5 กก มาเช้านี้มันตีคืนกลับมาเท่าเดิมเป๊ะ ถ้าผมอยากลดจริงจัง ก็คงต้องคุมอาหารให้เข้มข้นกว่านี้
   บ่ายขับรถกลับมาบ้าน เพลินๆ อยู่บนถนน มีเบรกกะทันหัน รถคันหลังแทนที่จะเบรกตาม กลับเลือกหักออกมายังเลนผมที่ขับอยู่คู่ๆ กัน เขาโยนมา ก็เบนหลบให้นิดหนึ่งเพราะขับอยู่ขวาสุดล้อจะปีนเกาะอยู่แล้ว พ้นมาได้แบบหวุดหวิด กระจกข้างเกือบจะชนกัน รอดมาได้แบบเฉียดๆ หรือว่าเคราะห์เรายังไม่หมดวะนี่ ทำไมช่วงนี้มีเรื่องราวไม่ดีเกิดกับผมบ่อยมาก
   เย็นฝนตกหนัก ไปรับลูกต้องติดร่มคันใหญ่ไปด้วย ส่วนผมใช้เสื้อกันฝนที่ซื้อมาแสนจะแพง หน้ามืดซื้อไปได้ไงก็ไม่รู้ตั้งหลายพันบาท ใช้ยังไงก็ไม่มีวันคุ้ม
   การบ้านลูกวันนี้เป็นการแต่งกาพย์ยานี 11 มิวพอทำได้ แต่ยังใช้คำไม่ค่อยสวย ช่วยไปช่วยมา เลยเป็นทำการบ้านให้ลูกซะงั้น โดยอาศัยประโยคที่เขาแต่งแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ ออกมาเป็นกาพย์ยานี 11 ที่มีโจทย์คือให้เด็กแนะนำตัวเอง ดังนี้

ผมชื่อเมธาสิทธิ       ไม่มีพิษไม่มีภัย
วันวันขีดเขียนไป       บอกใครๆ ว่าเป็นนักเรียน
นิสัยชอบเฮฮา                   แม่ย้ำว่าให้พากเพียร
เช้าเดินเข้าโรงเรียน       ผ่านพวกเกรียนหน้าบิ๊กซี

นั่งรถพ่อขับมา      เรียนป.ห้า เลขที่สี่
กินมื้อเช้าอย่างดี      พ่อบึ่งจี๋ส่งเข้าเรียน
เป้าหมายในชีวิต      ผมเคยคิดเป็นนักเขียน
และแล้วผมก็เปลี่ยน      จากนักเขียนเป็นนักบิน
      
แม้รู้ว่ามันยาก       แสนลำบากและสุดหิน
เม็ดกรวดทรายบนดิน                   กำลังดิ้นไปเป็นดาว
อนาคตยังไกล                   ต้องอย่าให้เสียเวลาเปล่า
มองฟ้าทุกๆ คราว      กำลังก้าวสู่ฝันเอย 
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
26 มิย 55
   ฟังรายการวิทยุเกี่ยวกับรถยนต์อยู่เพลินๆ ก็ต้องผงะ เพราะผู้ดำเนินรายการบอกว่าข้อเสียของรถเกียร์ออโตอันหนึ่งก็คือไม่สามารถเข็นติดได้
   อะแฮ่ม ผมไม่เห็นด้วยครับ
   รถเกียร์ออโตก็สามารถเข็นติดได้นะ เพียงแต่ว่ามันต้องเข็นกันนานหน่อย เพราะต้องให้รถไหลที่ความเร็วราว 40 กม/ชม ลำพังให้มนุษย์เข็นก็คงต้องใช้ฝูงนักกล้าม ผมเองไม่เคยเข็นมาก่อน แต่ถ้าให้คิดสถานการณ์ล่วงหน้า ผมก็จะใช้หมอนมารองกันชนแล้วหารถอีกคันมาช่วยดัน ส่วนวิธีการนั้นผมไม่แน่ใจว่าจะต้องคาคันเกียร์ไว้ที่ D หรือว่าให้มันอยู่ที่ N ก่อน แล้วพอความเร็วได้ที่ถึงโยกมา D เพราะว่ารถรุ่นใหม่ๆ อย่างเช่นรถพ่อคันล่าสุด หากไม่เหยียบเบรกแล้ว ไม่สามารถโยกมา D ได้ นั่นแปลว่าหมดสิทธิ์เข็นของจริง
   ฉะนั้นรถ AT เก่าๆ ตอนไปไหนมาไหนไกลๆ ก็น่าจะมีสายพ่วงแบตฯสักชุดติดรถเอาไว้ครับ ได้ทั้งช่วยเหลือคนอื่นที่เราพบเจอ และเผื่อตัวเองจะต้องเป็นผู้ประสพภัย
    บ่ายไปคลองถมเดินอัปเดทสมอง แต่ก็ต้องเจอกับภาพเดิมๆ ที่มีแผงขายหนัง X เยอะโคตรๆ เดินผ่านก็ส่งเสียงเรียกลูกค้าว่าป๋าๆ บางคนเดินมาจับแขนคล้ายจะจูงเข้าร้าน น่ากลัวจริงๆ
   เจอพี่วัฒน์และพี่หลินจากสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทยโดยบังเอิญ เขาไปหาลูกค้าแถวนั้น ไม่ได้เจอกันนานมากหลายเดือน นั่งคุยกันในร้านกาแฟได้ครู่ใหญ่ผมต้องขอปลีกตัวกลับก่อน วันนี้ผมต้องกลับไปเฝ้าร้านขายของต่อจนร้านปิด
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
27 มิย 55
   ขี่จักรยาน 30 นาที กลับมาบ้านกินอาหารสุขภาพ ไปส่งลูก แล้วก็ไปทำงาน เฮ้ยย ชีวิตกูมีแค่นี้เองหรือวะนี่
   ทำไมรูปแบบของชีวิตมันต้องเหมือนๆ กันด้วยหรือ เริ่มจากเข้าเรียน เรียนจบก็มีแฟน ทำงาน เก็บเงิน ซื้อรถ แต่งงาน ซื้อบ้าน และถ้าหากมีลูกล่ะก็ ชีวิตมันจะเหมือนโดนกดปุ่มฟรีซแช่แข็ง เพราะตั้งแต่นี้ต่อไป เอ็งต้องดูแลลูกตลอดชีวิต ยังไม่นับกรณีลูกหาเรื่องมาให้
   ชีวิตคนเราไม่ต้องเหมือนกันก็ได้นะ ไม่ต้องสร้างความสุขด้วยการใช้เงินเป็นตัววัดก็ได้นะ ไม่รู้จะมีใครคิดเหมือนผมมากน้อยแค่ไหน ผมใช้ดรรชนีความสุขในชีวิตเป็นตัวตั้ง
   เริ่มจากเราต้องรู้ความต้องการของตัวเองก่อน รู้เป้าหมาย รู้ความฝัน เพราะมันคือเข็มทิศชีวิต จากนั้นก็ลุยแม่งเลย ทุ่มเข้าไปให้สุดตัว รับรองว่าคุ้มค่าเหนื่อย (ถ้าทำเต็มที่)
   ผมรู้ เพราะผมเองไม่ได้ทำเต็มที่ครับ เงื่อนไขมันเยอะเหลือเกิน ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ไร้ซึ่งคนสนับสนุน ที่หนักหนาสุดคือทางบ้าน และคนรอบข้าง ไม่มีใครมาช่วยสักคน แถมยังกีดกันอีกด้วย สาหัสจริงๆ
   ไม่อยากให้คนรุ่นหลังเสียเวลาเปล่า ตั้งหลักให้ดี ถ้าจะลุยก็ลุยให้มันเต็มที่ไปเลย
   โครงสร้างของการใช้ชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกิจการ ทำอะไรก็ได้ที่แวดวงธุรกิจเขาต้องการ ขายในจุดที่เขายังไม่มี ผมเรียกมันว่าความต้องการซ่อนเร้น บางครั้งเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการมันเหมือนกัน
   ยกตัวอย่างในแวดวงงานดีไซน์เช่น ใช้สายหูฟังสมอลทอล์ค มันเก็บและหยิบใช้ลำบากมาก สายพันกัน หากใจร้อนดึงแรงหน่อยสายก็จะขาดในเอา หรือไม่ก็ยิ่งพันกันหนักเข้าไปอีก ยิ่งรีบก็ดูจะยิ่งเชื่องช้า
   ก็เลยมีคนคิดออกแบบตลับม้วนเก็บสายออกมา พอเห็นปุ๊บ เฮ้ยย ใช่เลย มันแก้ไขข้อรำคาญใจเราได้
   อยากให้ทุกคนมองหาช่องว่าง แล้วช่วยกันเติมเต็มในส่วนที่ขาด โลกก็จะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แน่ล่ะ เราเองก็พลอยจะมีความสุขไปด้วย
   เพราะชีวิตคนเราขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความสุขครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
28 มิย 55
   เมื่อคืนผมทำพฤติกรรมแย่ๆ กับลูก ดุว่าเขาอย่างแรงเรื่องไม่สนใจทำการบ้าน ตื่นเช้ามาวันนี้รู้สึกผิด ก็เลยขอโทษเขา ผมขอโทษลูกมาหลายครั้งหลายหนแล้วนะ ไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้วจะไม่ต้องขอโทษ หรือคิดว่าตัวเองถูกเสมอ ไอ้ผู้ใหญ่นี่แหละที่ทำอะไรปัญญาอ่อนเยอะมาก ใครทำอะไรลงไปบ้างก็ลองย้อนดูพฤติกรรมของตัวเองดู
   ขอโทษแล้วก็รู้สึกดี มิวเองก็เข้าใจ เขาบอกไม่โกรธพ่อหรอก ผมได้ยินก็ดีใจ ต่อไปต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากกว่านี้
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
29 มิย 55
   ตื่นสายเลยขี่จักรยานไปได้หน่อยเดียว มาดูบ่อปลาเป็นมันว่ายไล่กวดกันอีกแล้ว นี่มันจะวางไข่อีกรอบแล้วหรือนี่ รอบเก่าเพิ่งจะฟักไป หรือโดนพวกลูกปลาด้วยกันกินไข่จนหมดก็ไม่รู้ ครั้งนี้ถ้าเจอไข่ปลาอีกจะลองคัดแยกมาเพาะในอ่างต่างหากดีกว่า เลี้ยงปลามาหลายปีเพิ่งจะได้ลูกมันก็ไม่นานมานี้เอง
   กลางวันไปวรจักรครับ เดินหากระปุกพักน้ำหม้อน้ำของรถ Nissan 180SX เป็นครั้งแรกที่เดินวรจักรเพื่อหาอะไหล่รถยนต์ ไม่คุ้นอย่างแรงครับ ต้องดูป้ายโลโก้หน้าร้านว่าร้านใดขายอะไหล่ของค่ายใดบ้าง
   เห็นป้าย Nissan Diesel เฮ้ย ร้านนี้ขายของนิสสัน เปิดประตูเข้าไป บอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้าของร้านบอกบอกไม่มี พร้อมกับโบกมือไล่ ไป ๆ ๆ ๆ
   อ้าว งงสิ ไม่มีแล้วทำไมต้องไล่ด้วย หรือว่าเขาอารมณ์ไม่ดี ไม่ต้องใส่ใจครับ เดินหน้าหาต่อไป เจอร้านขายของที่ไม่น่าจะขายได้ นั่นคือะไหล่รถจี๊ปรุ่นเก่าโบราณ เฮ้ย รถคันล่าสุดมันก็อายุราว 50 ปีแล้วนะ ยังจะมีคนมาหาซื้ออะไหล่อีกหรือนี่ ถัดไปอีกหน่อยเดียวเจอยิ่งกว่า นั่นคืออะไหล่รถ Austin / Triumph / MG ไอ้นี้โหดกว่าจี๊ปอีก ผมรู้เพราะผมเคยเล่นรถมอเตอร์ไซค์อังกฤษค่าย AJS
   เดินแล้วเหมือนตลาดย้อนยุคเลยครับ สนุกดี ร้านขายอะไหล่ Mercedes Benz / BMW ก็จะมีโลโก้ยุคเก่าติดไว้ที่หน้าร้าน สวยมากๆ ดูขลังดี เดินไปสักพักก็เจอร้านเป้าหมาย เด็ดสุดแล้ว เพราะเขาขายของ Nissan อย่างเดียว
   บอกความต้องการไป เขาเปิดคัมภีร์พร้อมบอกราคาเต็ม และราคาลดแล้ว ถ้าตกลง เขาจะไปให้เด็กนำมา
   ราคาเต็ม 3600 ลดแล้วเหลือ 3100 แต่อีกสัก 2 นาทีถัดมาเด็กวิ่งของบอกหมดแล้ว สั่งโรงงานก็ไม่มีของแล้ว เจ้าของร้านบอกมีทางเดียวคือสั่งญี่ปุ่น แต่จะต้องโดนบวกเพิ่มอีก 10% เป็นราว 4000 บาท และรอของ 40 วัน
   ขอนามบัตรติดมือกลับมา ร้านใจดีแบบนี้ชอบครับ เจ้าของชื่อ “ตง” ไส้กรองอากาศผมเคยซื้อร้านอะไหล่แถวบ้าน เขาคิดผมหลายร้อย บอกว่าของแท้ เจอร้านพี่ตงนี่คิด 300 กว่าบาท แท้ยิ่งกว่าแท้ เพราะที่นี่ขายแต่ของแท้ล้วนๆ
   เดินในอาคารศรีวรจักรอัปเดทสมอง เห็นของแต่งรถมากมายจริงๆ เข้าท่าบ้าง ไม่เข้าท่าบ้าง สมัยก่อนย่านนี้มีแต่ของปลอม มาวันนี้ของท้วางขายเพียบ ไอ้ที่ไม่น่าจะเจอก็คือสินค้าสำหรับรถแข่งตัวจริง เช่นฉนวนพันท่อไปเสียของ Thermo Tec / เบรกมือไฮดรอลิคสำหรับดริฟท์ / ผลิตภัณฑ์ของ Momo Sparco หมวกกันน็อคใบละหลายหมื่นก็ยังมีขาย
   ผมสนใจ pin hood แบบหลอกๆ นะ ถ้าแต่งรถแนว Retro แล้วใส่ pin hood ด้วยน่าจะซิ่งดี แต่ต้องเลือกให้ถูกสไตล์ด้วยนะ ผมอยากได้แบบมีสายสลิงล็อค เขาไม่มีครับ มีแต่แบบของ Sparco มันดูใหม่ไปหน่อย เลยยังไม่จัดมาก อ้อ ขายกันมั่วมาก ร้านแรกขาย 280 บาท มาอีกร้านขาย 350 บาท ผมเข้าใจว่าร้านแรกบอกราคาเน็ทแล้ว แต่ร้านที่สองบอกราคาเผื่อต่อ เขาน่าจะลดให้เหลือ 300 บาท (เดา)
   กลายเป็นว่าหากจะซื้อของ ยังไงก็ต้องต่อครับ เว้นแต่ของเซลล์ในกะบะหน้าร้าน  เจอของเคยอยากได้อีกแล้ว มันคืออุปกรณ์ถอดคอนโซลและภายในรถยนต์ สมัยก่อนใช้แค่ไขควงงัดแงะ เจอเครื่องมือช่างเฉพาะทางแล้วอึ้งมาก แต่ทุกวันนี้ไม่ได้รื้อรถแบบสมัยหนุ่มๆ แล้วล่ะ
   ร้านขายสติกเกอร์เยอะมากๆ เลือกไม่ถูก ดูไม่เป็น โดนหลอกแน่ๆ ขายราคาแบบตามไม่ทัน คือไม่รู้อันไหนถูก อันไหนแพง ที่สนใจอีกอย่างคือพวกกรอบป้ายทะเบียน ดูไว้เผื่อจะเอามาใส่กับรถพ่อคันใหม่
   ปิดท้ายด้วยของแต่งรถแนว VIP ผมไม่คุ้นกับคำนี้ ยุคผมเขาเรียก Big Sedan แต่ผมก็ว่ามันยังไม่ตรงความหมาย ถ้าเป็นภาษาไทยน่าจะเรียกว่าแนว “เยอะ” แม่งอะไรก็ไม่รู้ อีรุงตุงนังไปหมด โคตรจะเกะกะเลย มีพวกเกล็ดเป็นประกายเยอะมาก แถมไอ้แนวนี้ถ้ามีอะไรเข้ามาใสรถสักชิ้น ก็ต้องมีให้ครบชุด คือแต่งแบบนิดๆ ไม่เต็ม มันจะดูไม่ครบ และถ้าจัดครบ มันก็จะดูเว่อร์ เป็นแนวแต่งรถที่เปลืองเงินมากทีเดียว
   เจอของชิ้นหนึ่ง ดูอยู่นานก็ไม่รู้ว่ามันจะเอาไว้ใส่ตรงไหน หน้าตาเหมือนขนมโดนัทแต่วงเล็กหน่อย จนเจ้าของร้านเฉลยบอกว่า มันเอาไว้ใส่รองหัวหมอน
   ของแนวนี้มียี่ห้อแค่ 2 อันเองนะ คือ D.A.D และ Junction Produce เล่นกันง่ายมากเลย ทำอะไรให้มันเยอะๆ เข้าไว้ มีกระทั่งหีบสมบัติขาย คิดดูละกัน
   ของเด็ดสุดมาเจอเอาตอนจะกลับบ้าน มันคือเครื่องไล่หมา ใช่แล้ว มันคือของที่ชาวจักรยานใฝ่หา เพราะตั้งแต่ขี่ออกจากบ้านมา รู้สึกว่าศัตรูถาวรของพวกเราก็คือเจ้าหมานี่แหละ
   จะว่าไปแล้วมันก็คือสัญชาติญาณการหวงถิ่นของมัน แค่เราขี่เข้าไปในเขตของมันเอง ถ้าเราไม่เข้าไป มันก็จะไม่วิ่งไล่กวด ไล่เห่า (ล่าสุดที่ผมโดน มีกัดด้วยว่ะ) อืม เรื่องแบบนี้ไม่รู้จะตัดสินให้ใครผิดดี หมามันพูดไม่ได้ คนเราก็เลยคิดหาวิธีแก้เผ็ดมันต่างๆ นานา
   ที่ผ่านมาก็ได้แต่ขี่หนี มาวันนี้พบทางสว่าง มันคือท่อนพลาสติคยาวเกือบคืบ กำพอดีมือ มีปุ่มเดียว ใช้ได้ 3 ฟังชั่น 1 เปิดไฟเลเซอร์สีแดง 2 ปุ่มรูปหมายืนสองขา 3 ปุ่มหมาวิ่งหนี
   อ่านข้างแพ็คแล้วจับใจความได้ว่าเอาไว้ฝึกหมา และไล่หมาได้ในอันเดียวกัน ราคา 280 บาท (ยังไม่ได้ต่อ) ติดที่มันใช้ถ่านแบบ 9Volt นี่แหละครับ ไอ้ถ่านแบบนี้ก้อนละราวๆ 100 บาท นี่ถ้ามันใช้ AA หรือ AAA ก็จัดมาแล้ว
   และนี่เป็นการมาคลองถมครั้งแรกที่กลับบ้านมือเปล่า ไม่ได้เสียเงินซื้ออะไรสักอย่าง เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียนหนังสือดีกว่าเยอะครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
30 มิย 55
   ปลาทองออกไข่อีกแล้ว ระยะหลังเริ่มเลี้ยงเป็น ก็เริ่มจะมองพฤติกรรมของมันตอนวางไข่ออก วันนี้ลองคัดแยกไข่ใส่อ่างเพาะไว้ต่างหากดู เพราะล็อตเก่าขนาดแยกไข่เอาไว้ในบ่อปลาเล็ก ก็ยังโดนลูกปลาด้วยกันแอบกินจนได้
   ถือว่าเป็นการลองผิดลองถูกก็ใช่ ค่อยๆ หาหนังสืออ่านบ้าง ตามเวปไซต์บ้าง แน่ล่ะ เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง อ่านสิ่งใดๆ แล้วล้วนต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองไตร่ตรอง
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride