Author Topic: กรก 56 24... 31 ...  (Read 20059 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: กรก 56 24...
« Reply #30 on: July 31, 2013, 03:58:21 pm »
31 กรก 56
   ฝนตกยามเช้าอีกแล้ว ตกทุกวันเลย ทำได้แค่กายบริหารและเดินไปเดินมาในร่ม
   คราบน้ำมันที่ ปตท ทำรั่วลอยมาเต็มอ่าวพร้าวที่เกาะเสม็ด และกำลังจะเคลื่อนตัวไปทางบ้านเพ สวนสน ก็คงจะไปทางตะวันออกเรื่อยๆ อย่าว่าผมเว่อร์นะ ถึงตอนนี้หาดแม่พิม อ่าวไข่ อ่าวมะขามป้อม เกาะมันนอก เกาะมันกลาง เกาะมันไน ไปจนถึงจันทบุรี ก็ต้องเตรียมตัวครับ
   เตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์เอาไว้ ดักมันก่อนที่มันจะขึ้นฝั่ง ถ้ามันมาจริงเราก็ตั้งรับทัน แต่ถ้ามันมาไม่ถึง ก็ถือเสียว่าเป็นการซ้อมใหญ่
   วันนี้มิวมีสอบภาษาอังกฤษ เขาไม่ชอบวิชานี้เลย แน่ล่ะ ก็เลยอ่อนวิชานี้มากที่สุด ให้กำลังใจเขาก่อนไปโรงเรียน บอกให้ตั้งใจมากๆ ต้องยอมสู้เพื่อสักวันฝันของเราจะได้สำเร็จ ถึงวันนั้นแล้วหากเรานึกย้อนหลังก็จะรู้สึกภูมิใจ คุ้มค่ากับการที่อดทนมานาน
   
พร้อมกับยกตัวอย่างชีวิตที่ล้มเหลวของตัวผมเองให้เขาเห็น ฟังนะลูก
   สิ่งที่พ่อทำได้ดีที่สุดในชีวิตก็คือการขับรถยนต์ พ่อขับรถยนต์เป็นด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 14 ขับวันละนิดละหน่อยจนอายุ 16 ก็เรียกว่าขับได้คล่อง คำว่าคล่องก็คือ สามารถถอยจอดเข้าซองแคบๆ หรือจอดขนานได้ภายในเกียร์เดียว (เข้าเกียร์ถอยครั้งเดียว ถอยได้เข้าที่เป๊ะ) ดึงเบรกมือกลับรถบนถนน ถอยหลังหมุนรถ 180 แบบ J Turn เข้าเกียร์ 1 ไว้แล้วสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องเหยียบคลัตช์ก็ยังทำได้
   นี่คือตั้งแต่แค่อายุ 16 นะ พออายุ 18 ได้ขับรถอย่างเป็นทางการ ได้ขับทุกวัน ก็มาฝึกอีกระดับเป็นพวกเทคนิคในการแข่งขัน เช่น Heel & Toe / Rev Match Downshift / Left Foot Braking / No Clutch Shift อะไรพวกนี้
   มิวฟังคงไม่เข้าใจ ก็เลยยกตัวอย่างฉากที่ทาคุมิขับแข่ง เขาร้องอ๋อ
   มิวรู้ใช่ไหมว่าพ่อเคยทำ Racing Club ตั้งแต่ลูกยังไม่เกิด
   รู้ครับ
   รู้ใช่ไหมว่ามันเจ๊งไปแล้ว
   รู้ครับ
   ทำไมพ่อปล่อยให้มันเจ๊งล่ะ
   ไม่รู้ครับ
   ก็กระทั่งพ่อ แม่ ตัวเองยังไม่สนับสนุนเลย พ่อไปขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครสนใจ ไม่ช่วยแถมยังกีดกันอีก สิบกว่าปีก่อนโน้นเบียร์สิงห์นำเข้าเบียร์ยี่ห้อ Miller มา เขาทำทีมแข่งรถ แล้วมีงานหนึงเขาขาดนักแข่ง เจ้าของทีมเลยมาเรียกพ่อ แต่ติดต่อผ่านมาทางอากงอีกที (พ่อของผมเอง)
   อากงไม่เห็นมาบอกพ่อสักคำ พ่อไปเจอคุณอาคนนั้นในอีกหลายปีต่อมา เขายังต่อว่าๆ โอกาสมาถึงแล้วปฎิเสธทำไม
   โอกาสอะไรหรือครับ
   อ้าว มึงไม่รู้หรอ กูหานักแข่งมาขับรถ Miller อยู่ นักแข่งตัวจริงไปแข่งให้ทีมเบียร์สิงห์ เจองานแข่งชนกัน รถก็เลยว่างอยู่คันหนึ่ง ถึงเรียกให้มึงมาขับให้ไง
   แล้วนี่มึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรอ
   เงิบแดก !!!! ผมไม่รู้เรื่องเหี้ยนี่เลยสักนิดจนกระทั่งวันนี้ (นานมากแล้ว แต่จำได้ฝังใจ)
   พ่อแท้ๆ ของกูเอง ยังคอยกีดกัน แล้วจะมีใครหน้าไหนในโลกนี้มาช่วยกูอีกวะนี่
   
   หลัง Racing Club เจ๊งไปพักหนึ่ง พ่อก็เริ่มต้นผลิตทำหนังสือภาค 2 เร่งทำงานเขียนเก็บสต็อคเอาไว้ ทำได้อยู่พักหนึ่ง อาม่า (แม่ของผมเอง) ก็มารื้อห้อง เก็บเอากองเอกสารไปทิ้ง บอกว่ารก เกะกะบ้าน
   เงิบแดกอีกครั้ง คราวนี้แม่เป็นจนจัดให้ จำฝังใจ ขอบคุณครับ
   แต่อาท่าไม่ได้จัดให้พ่อครั้งเดียว ถัดมาอีกหลายปี พ่อฟอร์มทีมทำ Racing Club อีกครั้ง คราวนี้วางแผนทำสต็อคเก็บไว้ล่วงหน้า 3 เล่ม ทำเป็นนิตยสารเพื่อการทดสอบรถ และเพื่อ Car Club ต่างๆ ให้พวกเขามีพื้นที่ในการใช้สื่อ ผลก็คือ Car Club ต่างๆ จะมีพลังมากขึ้น ต่อกรกับพวกบริษัทรถที่ชอบเอาเปรียบได้
   ราว 5 ปีที่แล้วเองมั้ง อาม่าก็มาจัดแจงกับห้องของพ่ออีกครั้ง คราวนี้ข้าวของเยอะ ถึงขั้นเอารถกระบะคนงานมาใส่ ขนเอกสารของพ่อไปทิ้งเป็นลังๆ เอาไปขายของเก่าได้ กก ละ 3 บาท !!!
   พ่อกลับมาถึงบ้าน เห็นห้องทำงานว่างเปล่า โล่งเหลือแค่โต๊ะ
   เฮ้ยย เหี้ย งานของกู !!!
   รีบขับรถพร้อมกับคราบน้ำตาไปยังร้านขายของเก่า เจ้าของร้านงง บอกว่าให้ไปคุ้ยดูแถวในกองนั้น โบ้ยมือชี้ไปส่งๆ พ่อปีนป่ายกองกระดาษมหึมา หาอยู่ 30 นาที ไม่เจอกระทั่งซาก
   ขึ้นรถขับกลับบ้าน ร้องไห้ในรถตอนขับคนเดียว แหกปากตะโกนโวยวาย แต่พอถึงบ้านก็ทำตัวปกติ
   มันคงเป็นพรอันประเสริฐที่พ่อแม่มอบให้แก่เรา เราต้องรับไว้ ไม่ต้องปริปากบ่น
   
   ถึงตรงนี้ลูกเข้าใจหรือยังว่าทำไมพ่อถึงไม่ชอบธุรกิจที่บ้านเราทำอยู่
   เข้าใจหรือยังว่าทำไมพ่อไม่อยากทำงานที่บ้าน
   
   ฝันของพ่อมันพังทลายไปหมดแล้ว อายุที่มากขึ้น มันทำให้ความกล้า ความใจถึงของเราลดน้อยลงไปมาก
   ส่วนลูก ลูกมีพ่อฝันเป็นเพื่อน พ่อหาข้อมูลมาให้ทุกอย่าง ฝันอยากเป็นนักบิน จะต้องเรียนอะไร ต่อด้วยอะไร เดินทางไหน พ่อแนะนำตลอด ตราบใดที่ลูกยังคงมีฝัน เราจะฝันไปด้วยกัน นับจากนี้ ฝันของลูกก็คือฝันของพ่อ เจ้าไม่ได้ฝันเองคนเดียวเหมือนกับที่พ่อเคยคิดฝันอยากเป็นนักทดสอบรถอันดับหนึ่ง
   
   คุยเรื่องชีวิตย้อนอดีตมาถึงโรงเรียนเขาพอดี
   “วันนี้ลูกไม่ใช่แค่ทำสอบนะ”
   มิวหันหน้ามามอง
   “จงไปทำความฝันของลูกซะ”
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride