racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on May 02, 2013, 05:13:51 pm

Title: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 02, 2013, 05:13:51 pm
1 พค 56
   วันแรงงาน แต่ร้านผมไม่หยุดหรอกนะ ส่วนคนงานก็แล้วแต่เขา บางคนมา บางคนก็ไม่มา คนงานขาด เราก็ต้องทำแทนเขาไป ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เจอแบบนี้บ่อยมาก แต่ยังไม่ชินเสียที ทำใจไม่ได้
   อีก 2 วันก็ต้องไปพัทยาอีกแล้ว แม้จะใกล้ว่าสัตหีบแต่เมืองมันวุ่นวาย ผมชอบเงียบๆ แบบสัตหีบมากกว่า พัทยานี่ไปไหนมาไหนก็เจอแต่รถติด ถ้าจะอยู่ในย่านนี้ก็ต้องรู้จักทางเลี่ยงทางลัดให้มากเข้าไว้ คนท้องถิ่นน่ะพอไหว แต่ถ้าเป็นคนมาเที่ยวก็คงใช้แต่เส้นทางหลัก
   เช้านี้กินอาหารเช้าอย่างเป็นทางการที่บ้าน เมื่อวานก็กินแต่ไม่ได้เป็นทางการ เพราะกินแค่ข้าวกล้อง ผมขี่จักรยานไปซื้อต้มเลือดหมูใส่ตำลึงเยอะๆ มากิน แต่วันนี้กินทั้งข้าวและกับ ยังคงเป็นข้าวกล้องเหมือนเดิม กินกับผัดกระเพราเห็ดใส่เนื้อไก่เล็กน้อย แถมไข่ต้มอีกฟอง
   ขับรถไปร้าน งานของผมวันนี้คือเข้าไปโกดังบรรทุกสินค้าออกมาส่ง ของเยอะ ใส่เต็มคันรถ แถมต้องเปิดโกดังหลายประตู ทำงานกลางแดดแรงจัด ผลก็คือผมขึ้นสินค้าผิด ไปรู้เอาเมื่อตอนถึงร้านลูกค้าแล้ว เลยต้องไปส่งเขาอีกรอบ ไม่มีใครว่าผมหรอกครับ แต่ผมรู้สึกผิด ละอายตัวเอง แทนที่จะเร็ว กลายเป็นว่าต้องขับไปส่งซ้ำสองรอบ
   บ่ายเข้าไปคอนโดไอวี่ ไปอัปเดทรหัสคีย์การ์ดใหม่ คือมันมีเจ้าของหลายคนไม่ยอมจ่ายเงินค่าส่วนกลางไง เขาก็จะแก้เผ็ดด้วยการไม่ให้เข้าตึกจอดรถ ห้องสปอร์ทคลับ ลิฟท์ ฯลฯ ก็แปลกดีนะ ซื้อคอนโดอยู่แต่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าส่วนกลาง อยากรู้ใจเขาจริงๆ ว่าคิดอะไรอยู่
   มิวรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอนอนที่ห้องนี้สักพัก จัดไปเลยลูก ผมอยากเปิดแอร์วอร์มเครื่องมันบ้างอยู่แล้ว แม้ไม่มีใครมานอน ผมก็ต้องมาทำความสะอาดมันเป็นระยะ จนบางทีคิดไปว่านี่มันเป็นการเพิ่มภาระหรือเปล่าวะนี่
   มิวขอนอนเล่นแต่หลับจริง บอกรู้สึกไม่ค่อยสบาย ก่อนนอนขออาบน้ำ เขาคงชอบห้องน้ำแหละ มันสวยใสดูสบายตาดี
   เย็นโน่นเลยครับกว่ามิวจะตื่น ขับรถ 10 นาทีก็ถึงบ้าน ยังดีที่อยู่ใกล้กัน ถึงบ้านก็อาบน้ำเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม เขาบอกเพลียๆ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 02, 2013, 05:17:33 pm
2 พค 56 เปิดตัว Mercedes Benz CLA
   เช้านี้ไม่ได้ออกกำลังกายอีกแล้ว กินอาหารเช้าทรงคุณค่าด้วยข้าวกล้องสีแดงเข้ม ผัดยอดมะระหวาน กับไข่เจียวใส่มะเขือเทศและแครอท ตลอดวันก็มีมื้อเช้านี่แหละครับที่ได้กินดีสุด ที่เหลือก็รอลุ้นว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่ใด กำลังส่งของอยู่ข้างถนนก็ต้องหากินกันแถวนั้นแหละ
   วันนี้คนงานเริ่มมาทำงานกันแล้ว หึหึ ชีวิตของเรานี่ต้องพึ่งพาคนงานเป็นหลักนะนี่ น่าแปลกที่เจ้าของร้านไม่ได้มีมาตรการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเลยสักนิด อะเมซิ่งสุดๆ
   วันนี้มีงานเปิดตัวรถใหม่ของ Mercedes Benz CLA ผมไม่ไปอีกเช่นเคยครับ เขาจัดงานช่วงสายๆ แล้วก็เลี้ยงอาหารกลางวันที่ Central World เป็นเวลาที่ผมยังอยู่ที่ร้านขายของ ช่วงเช้างานเยอะครับ เกรงใจเจ้าของร้านไม่กล้าหยุด ในขณะเดียวกันก็แสนจะเกรงใจ PR ของค่าย Mercedes Benz ที่เชิญชวนผมมาอย่างตลอด ผมไปแค่ไม่กี่ครั้งเอง คราวก่อนเปิดตัว A Class ผมก็ไม่ได้ไป ตอน E Class ก็ยั้งคงไม่ได้ไป เฮ้ออ
   บ่ายเอารถพ่อไปซ่อม เปลี่ยนท่อยางน้ำมันที่ต้องสั่งมาจากต่างประเทศ เขาบอกรถรุ่นนี้มีคนใช้น้อยมาก ขณะเปลี่ยนก็คุยกันไปเรื่อย เขาบอกอีกหน่อยผมจะต้องเปลี่ยนท่อร่วมไอดี และเทอร์โบ
   เฮ้ย !!! เปลี่ยนทำไม ทำไมต้องเปลียน เขาบอกมันพังตามอายุการใช้งาน ท่อร่วมไอดีแต่ละพอร์ทจะมีลิ้นปีกผีเสื้อคุมอยู่ รถคันนี้มี 5 สูบ ก็มี 5 ลิ้น
   โห นี่มันเอาลิ้นปีกผีเสื้อมาคุมตรงปากทางท่อร่วมไอดีเลยหรือนี่ คือเราไม่เคยรู้ไง เล่นมาแต่รถญี่ปุ่นที่มีลิ้นปีกผีเสื้ออันเดียว มาเจอคันนี้มีแบบ 5 ลิ้น แถมตำแหน่งลิ้นอยู่ติดกับเครื่องยนต์เลย
   มิน่าเล่า พอถอนคันเร่งแล้วกดส่งต่อรถมันไม่ lag เลยสักนิด (มันจะเกี่ยวที่จุดนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ฮ่าๆ)
   กลับมาบ้านตอนบ่าย มิวยังคงนอนอยู่ในห้อง บอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากจะอ๊วก เลยให้กินแค่น้ำเต้าหู้ ตอนนี้ทำยังไงก็ได้ขอให้เขาหายก่อน พรุ่งนี้ต้องไปแข่งเรือใบแล้วนะนี่ เฮ้อออ หายเร็วๆ เถอะนะลูก
   มิวลงมาตอนเย็น มาขอไอ้แป๊ดน้อยเล่นเกม อืม ทำไงดีนะให้ห่างจากสิ่งของพวกนี้ คงจะอาการดีขึ้นแล้วมั้ง เห็นชวนผมไปกินร้านสเต็ค 49 หน้าปากซอย
   หัวค่ำจัดกระเป๋าอีกรอบ เริ่มคุ้นละว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง แต่งานนี้โหดกว่าครั้งก่อน เพราะเป็นงานแข่งจริง ส่วนผมก็ต้องเหนื่อยกว่าเดิมเยอะแน่ๆ ต้องอยู่กลางแดดจ้าเกือบตลอดวัน สถานที่แข่งผมก็ไปดูมาแล้ว หึหึ โหดจริงๆ กลางแดดจ้าเลยครับ คิดว่าวันงานเจ้าภาพคงจะนำเต้นท์และเก้าอี้มาให้ แอบหวังเล็กๆ ว่าคงมีพวกเครื่องดื่มไว้บริการด้วย
   เข้านอนหัวค่ำ ตื่นมาหายป่วยทีเถิดนะลูก นี่เป็นงานแข่งครั้งแรกในชีวิต เจ้าก็เจอกับงานระดับ World Class เสียแล้ว จงไปแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าฝีมือการแล่นใบของเจ้าเป็นเช่นไร
   ถ้าทำอันดับได้ดีชีวิตเจ้าอาจเปลี่ยนไป
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:20:24 pm
3 พค 56 the practice day
   ออกเดินทางแต่เช้าเหมือนเดิม อยากออกแต่เช้า เพราะบ้านผมอยู่ใกล้ทางด่วน สายแล้วรถมันติดหน้าด่านหางแถวยาวมาก รีบออกไปให้พ้นๆ ตัวเมืองได้เร็วยิ่งดี
   ขับเส้นเดิมครับ ทางด่วนแล้วต่อด้วยบูรพาวิถีไปจนถึงเมืองชลฯ ขาไปขับสบายมาก ร่างกายเราสดไง แต่ก็เบื่อหน่อยนะตรงที่ขับมุ่งหน้าภาคตะวันออกนี่แดดส่องแรงเข้าเต็มหน้าอกตลอดทางเลย ครั้งนี้เลือกเส้นทางที่ระยะสั้นสุดครับ คือผ่ากลางตัวเมือง มื้อเช้าก็เหมือนเดิมอีกละ แวะกินที่หนองมนร้านโภชนากร เจ้าของคือเพื่อนนักเรียนสวนกุหลาบรุ่นเดียวกันนี่แหละ แต่วันนี้กินแล้วรู้สึกไม่ค่อยอร่อยแล้วล่ะ ไม่รู้เพราะเบื่อหรือเปล่านะ มีสิ่งหนึ่งที่ชอบมากนั้นคือ ข้าวหมูแดงของเขาให้ผักบุ้งลวกมาเป็นผักเครื่องเคียงนี่แหละ จัดไป 1 จานใหญ่ สั่งพิเศษคิดว่ามิวจะกินด้วย แต่เปล่าเลย มิวบอกไม่เอา ผมเลยซัดคนเดียว ตอนแรกคิดว่าจะเหลือ แต่ค่อยๆ กินไปเรื่อยๆ ก็หมดจนได้ คำหลังๆ ไม่อร่อยแล้วล่ะ แต่มันกลับเป็นผลดีในช่วงบ่าย
   จากบ้านถึง Ocean Marina ระยะทาง 160 กม งานแข่งครั่งนี้มีเพื่อนมิวมาร่วมแข่งด้วยอีก 3 คน เป็นเด็กหญิงสองคนชื่อ “พราว” และ “แพรวา” เด็กชายอีกหนึ่งชื่อ “แมมมอธ” มี 2 พ และ 2 ม
   การแข่งเรือใบนี่แปลกมากครับ คือบรรยากาศในงานจะเงียบสนิทเลย มีแค่เพียงเสียงลมเสียงคลื่นและเสียงใบเรือสะบัดลมเท่านั้นจริงๆ ตารางงานจะติดไว้ที่บอร์ดส่วนกลาง ให้เดินไปดูเอาเอง จะสื่อสารกันด้วยธงหลากสี หลายเสา
   ตารางวันนี้ไม่มีอะไรมาก เช้ารับสมัคร บ่ายซ้อม แต่เราไม่คุ้นไง เลยทำตัวไม่ถูก เห็นทะเลอยู่ตรงหน้าก็ไม่รู้ว่าเราจะลงซ้อมได้เลยไหม แล้วเข้าซ้อมกันอย่างไรบ้าง มองไม่เห็นทุ่นให้ซ้อมอ้อมสักอัน มองไปรอบตัวแต่ละคนก็สาละวนง่วนอยู่แต่กับเรือตัวเอง
   บางคนมากลุ่มใหญ่มาก บางคนมากลุ่มเล็ก อย่างมิวนี่เรียกกลุ่มกลางๆ มีเด็กท้องถิ่นจากสัตหีบอยู่ในทีมของมิวด้วย รวมเป็น 9 ลำ เรียกว่าทีมจากกองเรือยุทธการ ชื่อโคตรเท่ ดูยิ่งใหญ่ แต่เปล่าเลย เพิ่งเรียนมาแค่ 17 วันเท่านั้นเอง สดมากๆ สดกว่านี้ไม่มีอีกแล้วล่ะครับ แต่ละคนรอบตัวล้วนเล่นเรือใบกันมาเป็นปีๆ
   มิวเพิ่งเรียนเรือใบเมื่อวันที่ 1-10 เมษ และหลังสงกรานต์ก็มาเรียนระดับ Advance อีก 7 วัน แค่นี้แหละครับ ทำเป็นแค่บังคับเรือ หารู้ไม่ว่าระดับแข่งขันนั้น มันต้องดูพื้นที่อ่าว กระแสน้ำ กระแสลม ส่วนพวกเทพฯ เขาดูกันถึงเมฆ
   โอ้ พระพุทธ ไอ้เทพฯนี่ไม่ใช่ผู้ใหญ่นะ มันคือเด็กตัวเล็กๆ นี่แหละ เล่นมาก่อน เล่นมานาน จนติดทีมชาติตั้งแต่อายุแค่ 8 ปี สุดตีน
   มือใหม่เอี่ยม ไม่คุ้นอย่างแรง สถานที่ก็สวยหรู แต่ไอ้มุมที่แข่งเรือใบเล็กนี่มันมีแค่เต้นท์เล็กๆ ให้หลบร้อน ไม่พอหรอกครับ มากันเป็นร้อยลำเลย สุดท้ายก็ต้องแอบหาร่มเงาไม้ที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยบนชายฝั่ง ร้อนมากครับ นังมองหน้ากันกับผู้ปกครองที่ร่วมชะตากันแล้วอมยิ้ม หึหึ นี่เพียงแค่วันซ้อมนะมึง ยังเหลือวันแข่งอีก 3 ที่รอจัดเต็ม
   หิวน้ำก็ไม่มีแจกนะ เดินไปซื้อก็เจอน้ำดื่มขวดละ 500 cc ไม่แช่เย็น ขายขวดละ 20 บาท !!! แม่งดอกแรกก็ประทับใจกูแล้ว จิบนิดเดียวนะ ห้ามซด ห้ามทำหก แม่งแพงสัตว์
   ดีที่ผมกินมื้อเช้าตุนไว้เยอะมาก คิดไม่ผิดจริงๆ ที่อัดจนเต็ม แม่เพื่อนมิวอาสาไปซื้อข้าวกล่องมาให้กิน ผมเกรงใจบอกว่าไม่กิน กะว่ามิวกินเหลือผมจะกินต่อเอง ช่วงเวลานี้ก็นั่งรอนอนรอคำสั่งจากครูวัฒน์ว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไปกับเรือ จะต้องตรวจเช็คตรงไหน อย่างไร ตอนนี้เหลือแค่เซ็ทติ้งแบบ Fine Tune ผมไม่รู้ว่าลมแรง ลมอ่อน ต้องปรับใบเรืออย่างไร
   คุณแม่ที่ออกไปซื้อข้าวกล่องกลับมาแบบพะรุงพะรัง หน้าตาอาหารเฉยๆ มากเลย ถามราคาแล้วช็อคโลก ข้าวกระเพรากากๆ รสชาติแกนๆ พร้อมไข่ดาวขายกล่องละ 75 บาท !!!
   แม่งเอ๊ย ข้าว 75 น้ำเปล่า 20 บาท ดีนะมึงที่ยังเข้าห้องน้ำฟรี นี่แค่วันแรกก็ประทับใจแล้ว ที่เหลืออีก 3 วัน จะเป็นอย่างไรวะนั่น
   แล้วก็เป็นไปตามคาด มิวกินได้หน่อยเดียวบอกอิ่ม มันแปลว่ารสชาติไม่อร่อย ถ้าเจอราคาแบบนี้สมควรเรียกรสชาติเหี้ยมาก คือถ้ากล่องละ 30 แล้วไม่อร่อยมันก็ยังเฉยๆ ไง ไอ้นี่ 75 มันต้องอร่อยแบบเลิศแล้วด้วยซ้ำไป
   มิวกินเหลือ ผมจัดต่อเอง ผมกินได้ครับ ไม่อร่อยเราก็กินได้ สบายมาก ยิ่งมันแพง ยิ่งต้องกินให้หมด สักพักครูวัฒน์สั่งให้เด็กๆ ลงทะเลซ้อม ข้างหน้าผมมีเรือใบนับร้อยลำจอดเรียงราย การจะนำเรือลงทะเลนั้นเขาใช้เทรลเลอร์ลากลงทีละลำครับ กลุ่มมิวมีเรือแข่ง 9 ลำ มีเทรลเลอร์ 4 ตัว มองเรือ มองเด็ก ไม่ต้องคิดแล้ว ผมนี่แหละที่จะต้องลากเทรลเลอร์ลงทะเล
   เมื่อก่อนหน้าที่นี้เป็นของพวกครูฝึกครับ แต่ตอนนี้ไม่มีใครเขามาช่วยเหลือเราแล้ว ลูกเราเอง ถ้าเราไม่ช่วย แล้วใครหน้าไหนจะมาช่วย
   กว่าจะเอาเรือลงครบ 9 ลำก็เหนื่อยครับ มันต้องลากไกล ลากบนทรายร่วน แถมตอนน้ำลงชายฝั่งที่ Ocean Marina จะมีลักษณะเป็นเนินชัน ตอนลากลงไม่เท่าไหร่ ตอนขึ้นสาหัสกว่า ล้อผ่านทรายที่โดนน้ำมันก็จะจมลงไปเกือบครึ่งล้อ กินแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ ผมทำหน้าที่นี้กับ “พี่นัท” พ่อของพราว สองคนช่วยกันทำโดยมิได้นัดหมาย พอส่งเด็กๆ ลงน้ำกันครบ ผมตรงดิ่งไปร้านรถเข็นขายเฉาก๊วยทันทีจัดมา 1 ชาม ราคา 10 บาท เฮ้ย ไอ้นี่ค่อยเป็นมิตรหน่อย แบบนี้น่าคบหา ไปกันได้นาน
   เหนื่อยๆ ร้อนๆ กินเฉาก๊วยแล้วรู้สึกดีมากครับ  ตอนนี้เหงื่อชุ่มโชกเต็มตัวเลย นั่งใต้ร่มเงาไม้เล็กๆ แทบไม่ช่วยให้เย็นสักนิด กินเสร็จผมเอาจักรยานขี่ไปที่รถยนต์หยิบเอา Uke มาเล่น เฮ้ย ผมรู้สึกมันผ่อนคลายดีมากๆ เลย เล่นอยู่สัก 30 นาที เหนื่อยครับ หมดแรง อยากนอน ร้อนจนง่วง เคยเป็นกันไหม อารมณ์เหมือนตอนเรียน รด เลย นั่งหลับกลางแดดได้ง่ายๆ
   เล่นไปก็มองเด็กของเราไป มันก็น่าเห็นใจเด็กนะ บอกเขาให้ลงไปซ้อม แล้วซ้อมอย่างไรล่ะ ให้แล่นใบไปไหน อย่างไร เด็กเขาไม่รู้ไม่เข้าใจ เพิ่งจะลงแข่งงานแรก เพิ่งจะเล่นเรือใบเป็นมาไม่กี่วันเองด้วยซ้ำ
   คือลองนึกภาพงาน Autocross แล้วปล่อยให้นักแข่งลง walk course ก่อนแข่งน่ะครับ นักแข่งก็ต้องเดินดูผิวสภาพถนนว่าตรงไหนเรียบ ตรงไหนลื่น ควรเบรกตรงไหน บริเวณไหนที่อันตรายบ้าง ฯลฯ
   กับเรือใบก็เช่นเดียวกัน แต่มันละเอียดอ่อนกว่านั้นเยอะ เพราะต้องดูกระแสน้ำว่าตอนนี้ไหลไปในทิศทางใด ลมพัดมาจากทิศไหน ที่บอกว่าหนักกว่านั้นก็คือกระแสลม กระแสน้ำ มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามน้ำขึ้นน้ำลง และตัวแปรสำคัญคือฝน ก่อนฝนมาลมจะแรงมาก พวกเทพนี่เห็นเมฆแล้วเป็นต้องวิ่งเข้าใส่
   เด็กๆ กลุ่มมิวไร้ซึ่งประสบการณ์ครับ บอกให้ออกไปซ้อมก็รีๆ รอๆ กันไปเป็นกลุ่ม ก็เข้าใจ เขาไม่รู้จะวิ่งไปทางไหนไง มันไม่มีถนน ไม่มีลู่ตีเส้นไว้นี่หว่า ทั้งทะเลกว้างใหญ่ มีทุ่นอยู่ไม่กี่อัน แถมอยู่ห่างกันลิบเป็นกิโลฯ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ต้องแล่นใบไปใกล้ๆ ถึงจะเห็น โอ้ พระพุทธ
   หนำซ้ำบ่ายนี้ลมอ่อนมากจนบางช่วงธงดูทิศลมแทบไม่กระดิก ผมโทรหารือครูวัฒน์ว่าเอาไงดี ครูบอกถ้าดูแล้วไม่มีลมหรือใกล้จะเย็นแล้วก็ให้เรียกขึ้นฝั่ง เก็บเรือ เก็บใบได้เลย
   เห็นถึงประโยชน์ของจักรยานอีกครั้ง ผมควบ Neobike 14 ขี่ไปสุดแหลมท่าเรือของ Ocean Marina ป้องปากตะโกนบอกเด็ก “กลับเข้าฝั่งๆ ๆ”
   โชคดีที่เด็กได้ยิน แต่ละคนกลับเรือกลับลำพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย แต่เรือมันแล่นช้ามาก ต้องอาศัยทิศทางของกระแสน้ำช่วยพาเรือเข้าฝั่งแทน
   เอาอีกแล้ว งานเข้าอีกแล้ว เรือของลูกเรามา เราก็ต้องเข็นเทรลเลอร์ไปรับเขา แต่ขาเข้าฝั่งมันต้องมีการล้างเรือ เก็บใบ มีขั้นตอนอีกหลายอย่างราว 1 ชม ก่อนจะกลับบ้านได้ ยังไม่นับช่วงเด็กอาบน้ำอีกนะ และหลังจากนั้นราว 0530 ครูวัฒน์ก็จะมาคุยด้วย นัดกันที่ลานด้านข้างตึกที่มีร่มเงา
   ผมกับพี่นัทช่วยกันสองแรงแข็งขัน เหนื่อยเหี้ยๆ ลุยน้ำไปครึ่งเอว ตัวกว่าจะแห้งคงอีกนาน ทำงานแบบนี้ท่ามกลางแดดร้อนแรงจัด ก็มันดีครับ ผมเจอไอ้พวกนี้มาบ่อยแล้ว ตอนทำงานยกแบกของก็ต้องกลางแดดเช่นเดียวกันนี่แหละ
   พอลากเทรลเลอร์มาถึงที่จอดก็ช่วยกันยกเรือลง ยกใบพร้อมเสาไปเก็บ ทำความสะอาดเรือด้วยน้ำเปล่าและพลิกคว่ำเรือเอาด้านใต้ท้องขึ้น เป็นอันเสร็จพิธีของเรือ ส่วนตัวเราก็ต้องไปอาบน้ำ ซึ่งถึงตอนนี้เด็กบางคนโดยเฉพาะมิวนี่ตัวแห้งแล้วล่ะครับ ถ้ายิ่งได้เสื้อผ้าอย่างดีจะยิ่งแห้งเร็วมาก
   ทำทุกอย่างเสร็จก็ไปจุดนัดพบที่ข้างตึก รอพบคุยกับครูวัฒน์ พอครูมาเด็กๆ ก็ดีใจ นั่งลงล้อมวง ครูบอกวันนี้แม้จะไม่มีลมเลย แทบแล่นใบไม่ได้ แต่เด็กๆ ก็ยังได้ฝึกกันนะ เด็กทำหน้างง ได้ฝึกตรงไหน ได้ฝึกอะไร
   ได้ฝึกความอดทนไงล่ะ เรานั่งกันกลางแดดราว 4 ชม แต่พรุ่งนี้คาดว่าน่าจะมีลมแรง เตรียมตัวผูกใบรอไว้ได้เลย ครูจะมาบอกตารางงานของวันพรุ่งนี้ว่าจะสตาร์ท 1100 แปลว่าเด็กต้องลงน้ำกันตอน 1000 เพราะจุดสตาร์ทอยู่ไกลออกไปกลางท้องทะเล มันจะเริ่มตรงนั้นเวลา 1100 ไม่ได้เริ่มจากชายฝั่ง ครูเผื่อเวลาให้ไปถึง 1 ชม เพราะจะได้ดูทิศทางลมและกระแสน้ำ รวมไปถึงตำแหน่งของทุ่นที่ต้องแล่นใบอ้อม
   ครูวัฒน์เองก็ลงแข่งเรือเหมือนกัน แต่เป็นเรือใหญ่ที่เรียก Keel Boat เป็นพวกเรือใบลำใหญ่ ใช้ลูกเรือราว 8-10 คน ส่วน “ไอ้เอ๋” เพื่อนผมที่เป็นทหารเรืออีกคนก็ลงแข่งเหมือนกัน อยู่ในทีมของชาวญี่ปุ่น (กลุ่มเพื่อนเก่าที่เขาทำธุรกิจรถยนต์) “พี่เล็ก” ที่เป็นหัวหน้าครูวัฒน์อีกทีก็ลงแข่งในเรืออีกประเภทหนึ่ง กลายเป็นว่าครูฝึกทุกคนล้วนลงแข่งกันหมดเลย งานนี้เด็กๆ ไม่มีพี่เลี้ยงคอยประกบแล้วบอกให้ทำโน่นทำนี่ มีแค่พ่อคอยลากเทรลเลอร์นำเรือขึ้นลงจากน้ำให้แค่นี้แหละ
   ช่วงเย็นบรรยากาศดีมากครับ วิวทะเล มีอาทิตย์ตกดินอยู่ด้านหน้า มีเรือใบใหญ่จอดลอยลำในอ่าว มีเรือเล็กจอดอยู่บนฝั่ง
พรุ่งนี้แล้วสินะที่เด็กๆ จะต้องเจอกับของจริง
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:31:34 pm
4 พค 56 the race day 1
   ตื่นแต่เช้าทำไมก็ไม่รู้ เอารถจักรยานออกขี่สำรวจตลาดดูว่ามีของอะไรกินบ้าง อันไหนเข้าตา และอันไหนไม่เข้าท่าก็นำมาเป็นข้อมูล
   อาหารห่วยกว่าสัตหีบเยอะมากครับ จุดที่ผมอยู่นี่เรียกว่า “บ้านอำเภอ” มีตลาดเล็กๆ ตอนเช้า เดินดูแล้วไม่พบสิ่งใดที่น่ากินเลยแม้แต่น้อย มีหมูย่างก็ไม่น่ากิน มีก้อนไขมันหมูเสียบอยู่โคนให้ก้อนหนึ่ง เฮ้ย งงว่ะ ให้มาทำไงวะ น่าเกลียดมากๆ น่าจะโยนทิ้งไปดีกว่า คนที่เขาชอบกินหมูติดมันน่ะ มันจะต้องเป็นไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อแดง ผลที่ได้คือเนื้อจะนุ่ม ฉ่ำ หวาน ไม่ใช่ให้กินมันหมูล้วนๆ เป็นก้อนแบบนี้ ไอ้สันขวาน
   ขี่สำรวจตลาดแล้วเซ็งจริงๆ ขี่ไปริมทะเลต่อดีกว่า สำรวจหาดทรายว่ามันเอารถยนต์ลงไปได้ไกลแค่ไหน ต้องผ่านหน้าโรงแรมหรูชื่อ White Sand Beach เขาเอารั้วมากั้นบอกว่าพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้า
   เฮ้ย ขอโทษว่ะ ริมหาดทราย ชายทะเล ผู้ที่เป็นเจ้าของคือกองทัพเรือล้วนๆ ครับ ไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของหาดทรายได้ โอเค ผมเข้าใจว่าบางทีมันอาจจะมีบางสถานที่ๆ เข้าถึงยากมากจนคนภายนอกมาลำบาก เลยดูเหมือนกับว่าเป็นสถานที่ส่วนตัว มันก็เท่านั้นเอง
   แล้วฝันก็เป็นจริง ผมสามารถขี่ไปจนถึงชายหาดของ Ocean Marina ได้เลย รถยนต์ก็สามารถขับเข้ามาได้ด้วย สุดยอดๆ ๆ ๆ
   ขี่จักรยานย้อนกลับมาเข้าที่พักชื่อ “บ้านต้นทอง” ค้นเจอด้วยการเปิดแผนที่ในไอ้แป๊ดนี่แหละครับ คือผมอยากได้ฟังชั่นของห้องพัก 2 อย่าง คือ “สูง” และ “ใกล้”
   สูง เราก็จะได้มองเห็นเด็กกำลังแข่ง
   ใกล้ เราจะได้เดินทางสะดวก รวดเร็ว
   ที่พักแบบสูงคือบนตึกของ Ocean Marina เต็มไปนานมากแล้ว ส่วนที่พักใกล้ๆ ก็แทบไม่มีเหลือ มาเจอบ้านต้นทองนี่ดีใจมาก เพราะลักษณะห้องพักก็คล้ายบ้านเช่าธรรมดาๆ นี่แหละ แต่พอเข้าไปดูแล้วพบว่าห้องพักสะอาดมากๆ เจ้าของดูแลเองคนเดียว มีอยู่ 10 ห้องเอง ส่วนใหญ่จะเช่ายาวรายเดือนกัน ผมไปติดต่อขอเช่ารายวัน เขาคิด 590 ต่อคืน บอกต้องการพัก 3 คืน เลยลดให้เหลือคืนละ 500 บาท ตัดสินใจไม่ยาก เลยจองไปล่วงหน้าตั้งแต่อาทิตย์ก่อนโน้นแล้ว
   แต่เพิ่งมารู้ครับว่าสามารถขับรถเลาะเลียบบนหาดทรายไปถึง Ocean Marina ได้เลยโดยไม่ต้องออกถนนใหญ่ สุดยอดมากๆ และเลยไปอีกนิดก็จะมีเพิงพักริมชายทะเล บรรยากาศดี หน้าตาเป็นเพิงหมาแหงนสภาพสุดโทรม หลังคามุงสังกะสีเปื่อยๆ เช้านี้ลองไปนั่งดูแล้ว วัยรุ่นเรียก “ฟินสุดๆ” (ใช้ค่อนข้างจะผิดความหมายไปหน่อยนะ ฟิน มาจากคำว่า Finale เปรียบก็คือตอนจบของละคร ท่อนสุดท้ายของเพลง แต่เด็กไทยเราใช้ในความหมายว่า “เจ๋งสุดยอด)
   เข้าที่พักปุ๊บ พี่โบ๊ท พี่นัท พี่กันย์ (ภรรยาพี่นัท) ก็ถามผมเป็นเสียงเดียวว่า “กินไรดี” อืม นั่นสินะ คำถามคลาสสิค กินไรดีล่ะ ผมจะรู้ได้ไงว่าเขาชอบกินอะไรกัน ตลาดนี้ไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ แต่จะลองก็ได้นะ เห็นมีร้านขายต้มเลือดหมู โจ๊ก ข้าวมันไก่ ก๋วยจั๊บ ขายแม่ง 4 อย่างในร้านเดียวกัน
   สรุปว่าไปลองกันดู เพราะเวลาจำกัดแล้ว เราต้องรีบไปเตรียมเรือตั้งแต่เช้า ตอน 0900 ครูวัฒน์จะมา Brief (สรุป)
   ต้มเลือดหมูรสชาติพอได้ ดีตรงให้ใบตำลึง ข้าวมันไก่ไม่เท่าไหร่ โจ๊กก็กลางๆ ก๋วยจั๊บนี่เข้าขั้นแย่เลย เอาเส้นใหญ่มาทำแทนเส้นก๋วยจั๊บ
   รีบกิน รีบไป Ocean Marina วันนี้งานแข่งวันแรก จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ไปเร็วไว้ก่อนเป็นการดี สองครอบครัวเขาไปรถคันเดียวกัน ชวนผมไปด้วยแหละ แต่ผมขอเอารถส่วนตัวไป ในรถผมมีของเยอะ เผื่อจะหยิบใช้จะได้สะดวก อย่างน้อยก็มีจักรยานหนึ่งคัน มีเบาะรองนั่งแบบเสื่อนุ่มๆ ผืนใหญ่
   ขับรถตลุยหาดทรายนี่สนุกจริงๆ มีโอกาสใช้เกียร์ขับ 4 ทั้งระบบ 4 Low และ 4 Hi แบบนี้ค่อยคุ้มค่าหน่อย ที่จริงทางก็ไม่ได้โหดอะไรสักนิด ปิคอัพโทรมๆ ขับ 2 ยังไปได้สบายๆ เล้ยย ฮ่าๆ
   ไปถึงก็ช่วยกันจับเรือพลิกหงาย นำใบเรือมาผูกใบใหม่ (เพราะลมแต่ละวันไม่เหมือนกัน) ผูกเสร็จก็นำไปเสียบในเรือ เป็นอันเสร็จพิธี เด็กบางคนมีใบเรือส่วนตัว ก็จะได้มีของดีใช้
   ตอนสายครูวัฒน์มาตรวจเช็คเรือของพวกเด็กๆ ทุกคนอีกครั้ง เห็นแล้วเหนื่อยแทนครับ ครูเองก็ต้องลงแข่งขัน น่าจะเอาเวลาไปดูแลเรือของตัวเอง กลายเป็นต้องมาเสียเวลาดูแลเด็กๆ อีก
   เช้านี้มี Brief จากทางเจ้าภาพที่ห้องประชุมชั้น 6 บอกว่าทุกวันจะมีอาหารกลางวันเลี้ยงสำหรับนักกีฬาเรือ Optimist พูดคุยเรื่องกฎ กติกา ปิดท้ายด้วยการมอบเสื้อและหมวกของแสนสิริสปอนเซอร์ใหญ่ น่าเสียดายนะ ผมว่าเสื้อน่าจะสกรีนชื่องานสักนิดก็ยังดี
   ลงมาข้างล่างเด็กๆ ก็กินข้าวกันเลย ผมก็สบายใจครับ ไม่ต้องคอยหาของกินให้เด็ก มันหายาก แถมมีก็แพงขั้นเทพ รสชาติข้างถนน
   อาหารของเด็กดีมากเลยครับ ทำสไตล์ฝรั่งนะ เป็นเนื้อปลาผัดบ้าง ไก่ผัดขิง และข้าว มีกับอยู่ 2 อย่าง แต่อร่อยครับ รสชาติกลางๆ ไม่เผ็ดสักนิด คนไทยกินอาจบอกจืดไป
   กำลังจะนำเรือลงน้ำอยู่แล้ว แต่ได้ยินเสียงหวูดดัง รีบหันไปมองที่เสาธงของ Optimist กรรมการชักธงเลื่อนเวลาออกสตาร์ทขึ้นสู่ยอดเสา
   เฮ้ย ผมชอบกีฬาเรือตรงนี้แหละครับ ในงานนี่เขาไม่มีการพูดประกาศอะไรกันสักนิดเลยนะ จะสื่อสารอะไรกันก็จะใช้ธงนี่แหละ แปลกดีครับ ไม่คุ้นเลยสักนิด เพราะเราอยู่มากับรถแข่งล้วนๆ ไง แม่งประกาศกันก้องหูแตกเลย บ้างก็เปิดเพลงดังลั่น ใครอยากเด่นดังก็แต่งโป๊ๆ เป็นใช้ได้ละ แจ้งเกิดกันง่ายๆ แบบนี้แหละครับ แต่เกิดแบบ Low Class หน่อยนะ
   บอกเด็กๆ กินกันต่อ ไม่ต้องรีบ อีกพักเดียวหวูดดังอีกแล้ว กรรมการชักธงเลื่อนเวลาลง แปลว่าอีก 1 ชม จะออกสตาร์ท เฮ้ย ถึงตอนนี้โกลาหลครับ บางคนนั่งเล่นเกม บางคนนอนหลับ บางคนไปเดินเล่นไหนก็ไม่รู้ เฮ้ยยย เด็กๆ ต้องนำเรือลงน้ำแล้วโว๊ยยย
   วันนี้แข่ง 3 race แบบ back to back คือจัดแข่ง 3 รอบ ติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก แปลว่าเด็กจะต้องอยู่ในทะเลตั้งแต่ 1100 – 0430 เป็นอย่างน้อย ราว 5.30 ชม ขำขำ
   พี่นัทรีบขับรถไปหาซื้อเจเล่ ขนมแบบเจลที่กินง่าย ดูดง่าย บางคนเป็นแบบ Snack Bar ส่วนมิวผมจัดชาเขียวที่เขาชอบไปให้
   ปฏิบัติภารกิจลากเทรลเลอร์อีกแล้วครับ ลงลุยน้ำไปเกือบครึ่งตัวส่งเด็กลงน้ำ แล้วเด็กๆ ค่อยๆ แล่นใบทยอยออกกันไปจนเสร็จสิ้นทั้ง 9 ลำ ไอ้กลุ่ม 9 คนนี้ มีกลุ่มมิวแค่ 4 คนที่ใหม่เอี่ยมนะ ที่เหลืออีก 5 คนนี่เขาเรียนกันมาเป็นปีแล้ว บางคนมีใบเรือส่วนตัว พวกนี้ระดับไม่ธรรมดาแล้ว
   ส่งเด็กเสร็จก็เก็บเทรลเลอร์ทั้ง 4 ตัว ต้องตรวจเช็คให้ดีนะ เพราะวางไว้แป๊บเดียวหายละ เขาไม่ได้ขโมยหรอก แต่ยืมไปใช้โดยไม่ขออนุญาต ใช้แล้วไม่เก็บที่เก่า คือหยิบไปใช้แล้วแม่งทิ้งเลย น่าแปลกที่คนแบบนี้คือพวกฝรั่งล้วนๆ สั้นๆ เลยนะ คือมักง่ายครับ
   เหนื่อย ร้อน จัดเฉาก๊วยดีกว่า ใส่น้ำตาลทรายแดงด้วย ซดกินแล้วชื่นใจดีจริงๆ ตอนนี้บนชายหาดเกลี้ยงสะอาดเลยนะ เรือทุกลำ ทุกประเภททั้ง Laser / windsurf ลงแข่งกันหมดแล้ว มีแต่พวกกองเชียร์พ่อแม่ผู้ปกครองนี่แหละครับ นั่งมองหน้ากัน ฮ่า บางคนมืออาชีพมีกล้องส่องทางไกลอย่างดี เห็นแล้วอิจฉาเลยล่ะ เดินผ่านไปมาหลายรอบ เลยเข้าไปคุยด้วย สอบถามราคา แล้วก็ขอลองดูบ้าง เฮ้ย แม่งชัดแจ๋วเลยว่ะ เห็นใบเรือ เห็นเสื้อเด็กอย่างชัดเจนเลย เจ๋งดี ชอบสิ น่าจัดบ้าง
   กลุ่มผมชวนมากันดูเด็กที่เพิ่งหมาแหงน ก็สมชือนะ เพราะมีหมาตัวเล็กๆ 5 ตัวอยู่ใต้ถุน เลยเรียกกันเล่นๆ ว่า the dog resort ผมเริ่มสนิทกับผู้ปกครองกลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ตอนอยู่โรงเรียนแทบไม่เคยคุยกันสักคำ
จุดนี้ลมพัดเย็นสบายมากเลยครับ แถมเป็นทะเลบริเวณที่พวกวินเซิร์ฟเขามาแข่งกันตรงหน้าเราชัดๆ เลย สุดยอดจริงๆ ดูกันแบบจะจะ พอสตาร์ทปุ๊บได้ยินเสียงนักกีฬาปั๊มใบเรือกันดังลั่น แล่นฉีกแข่งกันอย่างสนุกสนาน
เฝ้าดูลูกเราไปเรื่อยๆ คุยกันเล่นๆ ว่า นี่หากมีใครชวนไปดูเรือใบก็ปฏิเสธเขาไปได้เลยนะ แม่งไม่สนุกสักนิด ดูก็ยาก ไม่รู้เรื่อง แถมร้อนสุดโคตร
ซื้อของมากินกันเยอะเลยครับ พี่กันย์เป็นคนชอบพวกข้าวของเกี่ยวกับสุขภาพ ผมเลยมีเรื่องคุยเยอะ กินกันไป คุยกันไป ตาก็มองพวกเด็กๆ ที่อยู่ในทะเล นั่งตรงนี้อยู่นานเลยนะ แดดไล่ก็เลื่อนหลบลึกเข้ามาเรื่อยๆ จนเย็นแดดเริ่มเบา กลุ่มพวกเด็กหันหัวเรือเข้าฝั่ง พวกเรารีบเก็บข้าวของจากเพิ่งพักแห่งนี้ไปยังริมหาดของ Ocean Marina อีกครั้ง
ปฏิบัติงานลากเทรลเลอร์ครับ ไปรอรับเด็กๆ ของเราทั้ง 9 แต่แปลกว่ะที่มีแค่ผมและพี่นัทที่มาทำหน้าที่นี้ แล้วพ่อแม่เด็กคนอื่นเขาไปไหนกันหรือ บางคนแค่นั่งดูเฉยๆ บางคนไม่มาดูลูกด้วยเองด้วยซ้ำไป
ขากลับต้องลากเรือขึ้นเนินทรายร่วน ยากลำบากและเหนื่อยมากครับ เด็กเข้ามาแบบติดๆ กันเราก็ต้องวิ่งขึ้นลง ชายหาดก็แสนจะแคบ เจอเรือใบลำใหญ่อย่าง Catamaran มาก็กินพื้นที่ไปเสียเยอะ พลางคิดไปว่า นี่หากเขาไม่จัดแข่งรุ่น Optimist นะ รับรอง งานเหงาสุดๆ แน่ งานนี้มีเรือ Opti ลงแข่งถึง 126 ลำ จากหลายประเทศ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮอลแลนด์ ฮ่องกง อังกฤษ ฯลฯ
สนุกครับ มางานแรกก็เจอแมทช์อินเตอร์เลย เปิดตัวได้สวยงามมาก
นำเรือขึ้นมาก็ต้องเก็บเรือครับ ยกเสาใบไปเสียบเข้าที่เก็บ ล้างเรือด้วยน้ำเปล่าแล้วพลิกคว่ำเรือไว้ ราว 0530 ก็ไปรอครูวัฒน์บรีฟเย็น ครูคนนี้สุดๆ แล้วครับ ขนาดตัวเองลงแข่ง ยังอุตส่าห์ส่องกล้องมองเด็ก เก็บข้อมูลแล้วมาคอมเมนท์ตอนเย็น
สิ่งที่ครูบอกก็คือคลื่นที่พัทยานี้ใหญ่กว่าสัตหีบ ลมก็แรงกว่ามาก ทำให้เด็กคุมเรือลำบาก วิธีแก้คือคุมใบเรือให้ตึงกินลมอยู่เสมอ ใครเผลอใบเรือหย่อนสะบัดก็จะยิ่งโดนคลื่นซัดถอยหลัง แม้จะวิ่งหาทุ่นแต่ก็ไปแบบไม่มีวันถึง ครูเรียกอาการนี้ว่า “ทุ่นวิ่งหนี”
มิวทำวันนี้ได้ไม่ค่อยดีครับ แข่ง 3 race ได้คะแนนแค่ 1 race ที่เหลือ DNF – did not finish คือเข้าเส้นหลังจากอันดับ 1 เข้าไปแล้วเกิน 30 นาที กรรมการจะตัดที่เหลือเป็น DNF หมดทุกคน
เย็นวันนี้รถ Trooper ผมกระจกไฟฟ้าด้านหลังขวาเสียครับ ตอนจอดกลางแดดก็เปิดแง้มทิ้งไว้ทุกบาน พอมิวขึ้นรถก็กดปิดแต่มันมีเสียงดัง “แต๊ก” จากนั้นกระจกก็เลื่อนขึ้นไม่ได้อีกเลย เอาแล้วสิมึง มาเสียเอาตอนอยู่ต่างจังหวัด แถมพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ร้านไหนเขาจะเปิด
มิวบอกขอโทษที่ทำให้กระจกรถพ่อเสีย ผมบอก เปล่าๆ ลูกไม่ได้ทำ มันเสียตามอายุการใช้งานของมันเอง รถคันนี้มันอายุ 16 ปีแล้ว ชิ้นส่วนต่างๆ พร้อมที่จะเสียได้ทุกเวลา เราจะหยิบใช้อะไรก็ให้เบาๆ มือ
เด็กๆ พูดคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน อยู่ที่นี่จนท้องฟ้ามืด แล้วผมก็เจอคำถามคลาสสิค “เย็นนี้กินไรกันดี”
เห็นหน้าแอมบาสเดอร์มี “มิโมซ่า” นะ แต่ผมไม่รู้ว่าข้างในเป็นยังไง
เออ จริงด้วย ข้างในอาหารอร่อย แล้วพวกเราก็กรูกันขึ้นรถพี่โบ๊ทคันเดียว ผมทำหน้าที่ขับ เด็กๆ 3 คนอาสานั่งที่แคบๆ ท้ายรถ ที่เหลือเบียดกันเบาะแถวที่ 2 คงจะมีผมคนเดียวที่นั่งสบายสุด สาเหตุที่ไม่เอารถผมไปก็เพราะมันมีจักรยานอยู่ท้ายรถ แถมเบาะหน้าก็นั่งไม่ได้ (มีข้าวของระเกะระกะวางอยู่)
เฮ้ย มิโมซ่าเก็บเงินค่าเข้าคนละ 50 บาทด้วย!!! ถอยกันออกมาทันที เรามากินข้าว ไม่ได้มาเดินเที่ยวเล่น รีบกิน รีบกลับ ยังต้องมีแข่งเรืออีก 2 วัน
เลยกินกันที่เพิ่งขายของข้างถนนแถวนั้น ผมกินยำปลาดุกฟู เด็กๆ เล่นซูชิ รอดไป 1 วัน คืนนี้เด็กๆ อาบน้ำแล้วเข้านอนกันทันที มิวหลับตั้งแต่ 0830 ผมอาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมามิวหลับปุ๋ยเสียแล้ว
ข่าวเศร้าวันนี้ พี่นัท (พ่อของพราว) สังเวยโทรศัพท์มือถือตอนลากเทรอเลอร์ลงน้ำกับผม เขาบอกมันอยู่ในกางเกง รีบลงไปลากเรือจนลืมหยิบออก
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:41:16 pm
5 พค 56 the race day 2
   คงจะไม่มีสิ่งใดทำให้ผมตื่นสายได้แล้วล่ะนะ แต่ถ้าจะเอาเช้าขนาดไหนล่ะก็บอกกันได้ ผมจัดให้ แต่เช้านี้ตื่นแบบไม่เต็มใจครับ เมื่อคืนแอร์มันไม่เย็นเอาเสียเลย ออกมาแต่ลม ผมลงไปถาม “พี่เอ๋” เจ้าของบ้าน เขาบอกว่าไฟมันตก ต้องรอดึกๆ หน่อยมันถึงจะเย็น ก็โอเคล่ะครับ แอร์กว่าจะเย็นก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม มิวหลับเพราะเพลีย ส่วนผมนอนแบบกระสับกระส่าย อาจเผลอหลับบ้าง แต่หลับไม่สบาย ไม่เต็มอิ่ม ใจคิดจะหาที่พักอื่นเลยนะนั่น แบบโมโหไง เราเหนื่อยโคตรๆ แล้วมาเจอห้องแบบแอร์ตัด มีงี้ด้วย เชื่อเขาเลย
   ตื่นมาแบบเพลียๆ ครับ กายบริหารในห้องนิดหน่อยฟ้าก็สว่างแล้ว ผมชอบห้องพักที่นี่เขาออกแบบตำแหน่งคอมฯแอร์ดีมาก คือเอาไว้นอกระเบียงและยึดติดไว้เหนือหัว ผมเตรียมตะขอเกี่ยวแขวนรูปตัว S ไปด้วย ใช้แขวนถุงมือ หมวก ได้อย่างง่ายดาย แห้งเร็วอีกด้วย ส่วนเสื้อผ้าผมตากใต้คอมแอร์ พอถึงเช้าก็แห้งสนิทเช่นกัน
   เช้านี้กินต้มเลือดหมูอีกแล้ว แต่เปลี่ยนร้านนะ ลองร้านริมถนนใหญ่ดูบ้าง กินแล้วไม่ประทับใจ เพราะมันมั่วๆ เอากะหล่ำปลีใส่ด้วย มิวบอกไม่อร่อยเลย แต่ผมว่ามันพอได้เหมือนกัน มิวคงไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง กระหล่ำปลีเป็นผักราคาถูกที่มีประโยชน์มาก หลายคนอาจไม่รู้
   รีบกิน รีบเดินทางไปเตรียมเรือ ใช้เส้นทางริมทะเล ผ่าน the dog resort เลียบเลาะชายฝั่ง ใช้ระบบขับ 4 ลุยทรายไปเรื่อย สนุกมากครับ ไปถึง Ocean Marina โดยไม่ต้องออกถนนใหญ่เลย ชอบที่พักแห่งนี้ก็ตรงนี้แหละ
   ไปถึงก็ทำแบบเดิมๆ ครับ เตรียมเรือ ผูกใบ ขั้นตอนนี้ก็ไม่ต่ำกว่า 45 นาที เด็กต้องผูกใบใหม่ทุกวัน คะเนเอาจากข้อมูลที่ครูให้ว่าวันนี้ลมจะเป็นเช่นไร แต่เขาผูกกันครั้งเดียวนะ ไม่ต้องลงไปแก้ขณะแล่นใบแล้ว ถ้าเป็นผมจะเน้นผูกแบบกลางๆ ไว้ก่อนน่าจะดี แต่ผมไม่ได้แนะนำเด็กๆ ไปนะ มันอาจผิดก็เป็นได้
   วันนี้ลมน้อยมากๆ แดดกลับแรงจัด แค่อยู่ในที่ร่มก็ต้องใส่หมวกใส่แว่นตั้งแต่ยั้งไม่ 0900 สักพักครูวัฒน์มาบรีฟเช้า บอกว่าวันนี้มีแข่งอีก 3 race เตือนเรื่องเด็กๆ เล่นเรือแล้วปล่อยใบสะบัด และเรื่องของกระแสน้ำ ย้ำสองจุดนี้บ่อยมากๆ ไม่รู้เด็กๆ จะรับรู้ได้มากน้อยเพียงใด
   เช้ากินอาหารจากงานเลี้ยง สตาร์ทตอน 1100 เด็กลงน้ำราว 1030 ผมกับพี่นัทลุยกันเองเช่นเคย แต่วันนี้มีพ่อของเด็กชื่อ “ติม” และ “หนุน” มาช่วยอีกแรง ก็ดีครับ เร็วขึ้นหน่อย เหนื่อยน้อยลงหน่อย แต่ก็มีพ่อของเด็กอีกคนที่ยืนเท้าสะเอวดูพวกเราช่วยลูกเขา แปลกมากๆ อะเมซิ่งสุดๆ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผมแค่ช่วยเด็ก แต่ลูกคุณนี่สิ เขาจะคิดหรือเปล่าว่า ทำไมพ่อไม่มาช่วยเข็นเรือหนูล่ะคะ
   ทยอยเข็นเรือกันจนหมด เหลือลำเดียว เรือของ “ท็อป” เขารอใบเรือที่พ่อจะเอามาให้ กว่าจะนำเรือลงน้ำได้ก็เกือบจะ 1100 จะออกสตาร์ททันไหมนะ แต่ท็อปเล่นเรือมาหลายปีตอน แม้ตอนนี้จะอายุแค่ 8 ปี ตัวเล็กนิดเดียว แต่ขอโทษ พอผมเข็นเรือลงน้ำ และช่วยผลักเรือออกไป เจ้าท็อปรีบแล่นใบไปอย่างรวดเร็ว พลิกใบเรือรับลมอย่างคล่องแคล่วมาก
   ขอให้ทันสตาร์ทด้วยเถิดนะ ผมนึกในใจ
   ส่งเด็กเสร็จ ผู้ใหญ่ก็เสร็จภารกิจครับ เหนื่อยมาก ร้อนโคตร แล้วก็กินเฉาก๊วยอีกแล้ว ติดใจจริงๆ เลย กินฆ่าเวลาด้วยนะ รอให้กางเกงแห้งสักหน่อยค่อยขึ้นขับรถ กลัวเปียกเบาะครับ
   ยกขโยงกันไปที่ the dog resort คราวนี้เจอชาวบ้านมาหาหอย เลยนั่งคุยกัน สนุกดีครับ ได้ความรู้ด้วย เจอแม่ค้ามาเหมาหอยที่ขุดกันตรงนั้นเลย ผมเอาเบาะนั่งมาปูนอน พี่ๆ ท่านอื่นก็เตรียมน้ำดื่ม เตรียมผลไม้
คุยกันอยู่เพลินๆ เฮ้ยย เด็กตั้งลำเข้าฝั่งกันแล้ว
อ้าว ทำไมเร็วจัง ไหนบอกวันนี้ 3 race คิดไปก็เตรียมเก็บข้าวของอพยพกลับฐาน กางเกงยังไม่ทันแห้ง แม่งต้องมาเปียกอีกแล้ว เด็กเข้าฝั่ง เราก็ต้องคอยไปลากเทรลเลอร์ เมื่อวานน่องขวาก็โดนฐานของเทรลเลอร์ครูดมาเลือดไหลเป็นทางเลย
มิวเข้าฝั่งมา แต่ผมสงสัย เพราะเห็นเด็กอีกหลายคนยังลอยลำในทะเล เอ๊ะ ยังไงวะนี่ ดูที่เสาธงก็ไม่เห็นส่งสัญญาณอะไร สุดท้ายก็ต้องไปถามเต้นท์กรรมการว่าจะเอายังไง กรรมการเองก็ประสานงานกันไม่ได้ สรุปคือตอนนี้ไม่มีลม กรรมการเลยให้เข้าฝั่ง แต่กลุ่มใหญ่ที่อยู่กลางทะเลนั้นเขาจะลอยลำรอลมอยู่ข้างนอก นั่นแปลว่าอีกสักพักผมต้องลากเทรลเลอร์เอาเรือลงน้ำอีกแล้ว !!! พระเจ้า
มิวและเพื่อนๆ พักได้เกือบ 1 ชม ธงเตรียมสตาร์ทก็ชักขึ้นเสา ผมรีบตะโกนเรียกเด็กๆ ลงน้ำ ตอนนี้กลายเป็นเด็กๆ ค่ายอื่นที่อยู่รอบข้างฟังคำสั่งผมกันใหญ่ ผมป้องปากตะโกนไล่ให้มิวรีบไป เพราะลมมันอ่อนมาก ต้องใช้เวลาไปถึงจุดสตาร์ทกลางทะเลนานกว่าเดิม
“แล่นใบไป ไม่ต้องรอเพื่อน เจอกันที่จุดสตาร์ทได้เลย” ผมตะโกนไล่หลัง
แม่งเอ๊ย ไม่มานี่ไม่รู้นะนี่ว่ากีฬาเรือใบมันเป็นแบบนี้ ที่เห็นน่ะก็คือตอนเขาอยู่ในเรือกัน พวกอยู่บนฝั่งก็ส่องกล้องดูบ้าง เฝ้าหน้าจอบ้าง แต่ผมนี่สิ ของจริง ติดขอบสนาม
เหนื่อยว่ะ รอบเช้าจัดเฉาก๊วยไปแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นชานมไข่มุกบ้าง สั่งไม่เป็นครับ ผมไม่ชอบชานมไง แม่ค้าบอกมีหลายอย่างให้เลือกนอกจากชา เลยกินโกโก้ปั่น ส่วนไอ้ไข่มุกนี่ผมไม่รู้จัก แต่หน้าตามันคล้ายสาคู รสชาติเหมือนวุ้น กินๆ ไปก็อร่อยดีเหมือนกัน แต่สำหรับร้านนี้โกโก้ยังต้องปรับปรุง แต่ก็เข้าใจเขานะ ขายแก้วละ 10 บาท จะเอาโกโก้แบบของแท้ได้ไง
   ตอนนี้บ่ายๆ ร้อนฉิบเลย จะอพยพไป the dog resort ก็กลัวเรือลูกจะกลับเข้าฝั่งมาอีก เกิดกรรมการหยุดพักการแข่งอีกครั้งเราก็ต้องกลับมาคอยที่นี่อีกแล้ว ขี้เกียจเทียวไปเทียวมา นั่งรอแม่งตรงใต้ร่มเงาไม้เล็กๆ นี่แหละวะ
   อีกพักใหญ่ก็ออกสตาร์ทกันครับ ลอยลำในทะเลนานก็เพราะรอลม ลมแรงเกินไปก็อันตรายต่อเด็ก ลมน้อยก็แล่นใบไม่ได้ ละเอียดอ่อนสุดๆ นั่งกลางแดดจนแทบหลับ ร้อนๆ หิวๆ จัดไอติมโคนเนสเล่ไปอีกแท่ง
   มิวเข้าฝั่งมาราว 0500 สภาพสุดโทรมเลย หน้าตาแบบเบื่อโลกผสมง่วงนอน สอบถามได้ใจความว่า รอบบ่ายที่ออกเรือไปน่ะ ไม่ได้แข่งเลยสักนิด มีแต่รอลมๆ ๆ
   เก็บเรือ เก็บใบ และประชุมกับครูวัฒน์เหมือนเช่นทุกวัน ก่อนครูมามิวมีเลือดกำเดาไหลเล็กน้อย เขาไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร ให้เขาไปหยิบน้ำแข็งก้อนใหญ่มาวางประคบแถวจมูกให้หลอดเลือดฝอยหดตัว พร้อมกับอธิบายเขาถึงการเกิดเลือดกำเดา คือไม่ได้สอนแค่ให้เขารักษา แต่บอกให้รู้ถึงสาเหตุอีกด้วย เขาจะได้ดูแลตัวเองเป็น
   ประชุมเสร็จก็พากันไปกินข้าว ตอนนี้ผมเห็นโหนกแก้มมิวมีผื่นบวมขึ้น ตาก็บวมๆ ถลกแขนเสื้อดูก็พบรอยนูนเป็นปื้น มิวรู้สึกคันอย่างมาก ผมบอกให้เขาอดทน รีบพาไปซื้อยามาทา และกินแก้คั้น ระหว่างนั้นกลุ่มพวกเราก็นั่งกินกันที่ร้านข้าวต้ม คนอื่นสนุกสนาน สบาย ส่วนมิวนั่งขยับตัวยิกๆ เพราะคัน แต่ผมบอกเขาว่าห้ามเกา ให้อดทน สอนให้สะกดจิตตัวเองว่าเราไม่ได้รู้สึกคันอะไรสักนิด ไม่ได้คันเลย ฉันไม่คันหรอก รู้สึกเย็นสบายดี คิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ
   เฮ้ย มิวทำได้จริงว่ะ แปลกมาก นั่งอยู่กว่า 30 นาทีโดยไม่ได้เกาสักนิด แต่พอถึงห้องพักเท่านั้นแหละครับ มิวร้องไห้เลย บอกว่าคันมาก ผมให้เขาถอดเสื้อให้ดู ผื่นคันขึ้นรอบตัวเหมือนลมพิษหรืองูสวัสดิ์ เห็นแล้วก็ตกใจนะ แต่ผมบอกเขาว่านิดหน่อย เดี๋ยวก็หายเองได้ ให้รีบไปอาบน้ำ
   ทายาให้มิวจนหมดยาไป 1/3 ของหลอด ผื่นขึ้นจนน่าตกใจอย่างมาก ผิวหนังก็ร้อนอุ่นๆ ทายาไปก็คิดไปถึงสาเหตุ เอ มันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันนะ หรือว่าแพ้อะไรสักอย่าง มองหาก็ไม่พบสาเหตุ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งซึ่งผมก็เคยเป็นตอนใส่กางเกงซ้ำๆ ที่ขอบเอวผมจะคันจนเป็นผื่นคัน
   เอ๊ะ หรือว่าชุดมิวสกปรกวะ
   แล้วที่ผ่านมาล่ะ เรียนมาเป็นสิบวัน ไม่เห็นเป็นไรสักนิด
   คิดไปก็ไม่พบคำตอบ แต่สิ่งที่ทำได้เลย ทำได้ทันทีก็คือซักเสื้อผ้าให้มิวใหม่
   ห้องน้ำมีน้ำอุ่นครับ ผมเลยซักด้วยน้ำอุ่นอย่างดีเลย เอาสบู่ก้อนเล็กๆ มาใช้แทนผงซักฟอก ซักเสื้อกางเกงจนมือผมเปื่อย ออกจากห้องน้ำมามิวหลับเสียแล้ว
   ลุ้นสุดตัวว่าพรุ่งนี้มิวจะเป็นอย่างไร ถ้าเขางอแง ยังไม่หาย และไม่อยากลงแข่ง ผมคงจะไม่ฝืนล่ะนะ มันคงจะเป็นที่สุดของเขาแล้ว
   หอมหน้าผากเขา 1 ครั้ง แล้วผมก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:47:28 pm
6 พค 56 the race day 3
   มิวตื่นขึ้นมาแบบโทรมๆ แต่ไม่ได้บ่นอะไร ผมเลยทำเฉยๆ ตามน้ำไป ให้มิวอาบน้ำแล้วใส่ชุดเล่นเรือตามปกติ มิวดูเนือยๆ นี่ถ้าเขาบอกไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว ผมก็เข้าใจเขานะ
   เช้านี้กินข้าวมันไก่กันที่ริมถนนสุขุมวิท เปลี่ยนร้านใหม่ครับ ลองไปเรื่อยๆ ร้านนี้โอเคดี อยู่ฝั่งไปสัตหีบ ริมถนน จอดรถง่าย หาง่าย ใกล้สามแยกทางเข้าบ้านอำเภอ
   กินเสร็จก็เดินทางไป Ocean Marina ทันที วันนี้สุดท้ายแล้วนะลูก อดทนหน่อย ทำคะแนนให้ดี เราจะได้ติดอันดับกับเขาบ้าง แข่งครั้งแรกของเราเชียวนะ
   พูดไปเถอะ เด็กๆ ยังคงเล่นเรือแบบ “รอเพื่อน” กันอยู่เลย เขายังไม่รู้สึกถึงคำว่ากระหายในชัยชนะ
   วันนี้มีแข่ง 3 race เหมือนเดิม แต่ถ้าไม่มีลม กรรมการก็สังหยุดได้ทันที เหมือนเมื่อวานที่มีแข่งแค่รอบเช้าแค่ครั้งเดียว
   แต่วันนี้ดูแล้วน่าจะมีลมแรงครับ พยากรณ์อากาศบอกทางกรุงเทพฯและภาคกลางมีฝนหนัก มีเลี้ยงอาหารเด็กก่อนลงน้ำตอน 1030 จากนั้นอีกพักเดียวก็ชักธงเตรียมสตาร์ทแล้ว เด็กแต่ละคนโกลาหลลงน้ำกันใหญ่ แน่นอน ผมกับพี่นัทและผู้ปกครองเด็กอีก 2 ท่านมาช่วย วันสุดท้ายนี้พวกคุณแม่ก็ยังมาช่วยลุยกันเลยครับ เห็นแล้วอบอุ่นดี ซึ้งๆ น้ำตาไหล ฮ่าๆ
   ลูกลงน้ำเสร็จก็อพยพไปกันที่ the dog resort วันนี้สุดท้ายแล้ว เอาข้าวที่เด็กกินเหลือมาฝากเจ้าของที่ทั้ง 5 ตัว คือจะทิ้งก็เสียดายไง เอามาแจกดีกว่า ไอ้พวกนี้มันหิวโซแน่ๆ
   แล้วก็ไม่ผิดหวัง กินจนจานสะอาดแถมคาบไปทิ้งเสร็จสรรพ หมาน่ารักครับ ตัวเล็กๆ แต่ดูแล้วสุขภาพดี สะอาดดี หมากินที่พื้น ผมอยู่บนบ้านก็นั่งเอนนอนกินถั่ว กินผลไม้ไปด้วย ตาก็ต้องคอยมองเด็กนะ ถ้ามันเหหัวเรือเข้าฝั่งกันเป็นฝูงเมื่อไหร่ล่ะก็เตรียมตัวกลับฐานได้ทันที
   อยู่ตรงนี้หลายชั่วโมงครับ จนพวกคุณแม่ร้อนจัดทนไม่ไหวขอตัวเข้าไปพักที่บ้าน ผมอาสาอยู่ตรงนี้เอง ยังไงก็ไม่ไว้ใจลมฟ้าอากาศ กรรมการเขาจะสั่งหยุด สั่งเลิกแข่งได้ทุกนาทีเลยล่ะ
   กำลังดูอยู่เพลินๆ 0300 เรือเหเข้าฝั่ง เฮ้ย ตกใจสิ ปกติจะต้องเข้าราว 0430 หรือกว่านั้น ตอนนี้ก็ลมดี เข้าฝั่งทำไม งงโว๊ยย แต่ไม่รู้จะถามใคร เห็นเด็กทยอยเข้า ก็ต้องรีบไปรอรับ
   ชุดที่เพิ่งแห้ง ก็เป็นอันต้องมาเปียกแฉะอีกรอบเหมือนเช่นทุกวัน เช้าลากเรือลง เย็นลากเรือขึ้น วันนี้ขึ้นเร็วผิดปกติ อ๋อ รู้แล้ว เขาให้เด็กเตรียมตัวสำหรับงานปาร์ตี้ตอนเย็นมั้ง ต้องใช่แน่ๆ เลย เย็นนี้มีประกาศรางวัลและงานเลี้ยงสำหรับเด็กที่แข่งเรือ Optimist
   ลากเรือเข้าที่ วันนี้สุดท้ายแล้ว เราล้างเรือแค่คร่าวๆ ถอดใบออกจากเสาม้วนเก็บได้เลย วางไว้ให้เป็นระเบียบเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มานำเรือไปเก็บ ขั้นตอนการรื้อถอดก็ไม่มีอะไรมาก แค่ปลดเชือกออก แต่มันมีหลายจุดครับ เฉพาะเชือกหนวดกุ้งที่ขึงใบก็มี 11 จุด นับทั้งหมดก็ราว 20 จุดมั้ง ช่วยเด็กๆ ทั้ง 9 ลำปลดก็นานพอดี ดีที่มีพ่อแม่บางคนมาช่วยด้วย แต่ก็น่าแปลกที่บางคนยืนมองอย่างเดียว
   งานเลี้ยงของเด็กเริ่มจากแจกเครื่องดื่ม ตามด้วย Pizza จาก Pizza Hut และบัตรลดราคาของ Sizzler 100 บาท บัตรลดของ Burger King อีกชุด นั่งกินกันกับพื้นที่สนามหญ้าครับ บรรยากาศดีมาก ผมชอบ ลมเย็นๆ เดินดูเรือยอร์ชหรู ชาตินี้คงไม่มีทางได้ขึ้นเรือพวกนี้แน่
   หัวค่ำประกาศรางวัล ไม่มีชื่อพวกเราติดกลุ่มเลยสักคน ครูวัฒน์มาคุยด้วยบอกว่าปีนี้จัดแย่มาก ไม่มีการแบ่งรุ่นมือเก่ามือใหม่ เขาให้แข่งรวม คิดคะแนนรวม พวกเราเลยแพ้เด็กเก่าที่เขาเล่นมาหลายปีแล้ว ดูอย่างครูสิ ค่าสมัครแข่ง 17000 บาท วันนี้ได้คะแนนรวมที่ 3 ได้มาแค่แก้วเบียร์ใบเดียว
   พวกเราไม่ว่าอะไรหรอกครับ มาถึงตรงนี้ได้ มายืนตรงนี้ก็เพราะคุณครูแนะนำทุกอย่าง แค่ได้มาร่วมงานระดับนี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วล่ะ เด็กๆ ไม่มีใครคิดอะไรกันมาก แต่ครูเขารู้สึกไม่ดีไง ตอนแรกเขามั่นใจว่าพวกเราต้องได้อันดับกันบ้าง เลยมาปลอบใจเด็กๆ
   เดินไปเดินมาในงาน เจอกับ “พี่เล็ก” ผู้อำนวยการของสมาคมเรือใบ พี่เล็กเลยหารือระบายความในใจว่ามีผู้ปกครองบางคนที่ไม่ได้มาร่วมงาน โทรมาต่อว่าเขา บอกว่าคุณครูเลือกปฏิบัติ ไม่ให้ลูกเขามาเรียนด้วย ต่อว่าอยู่นานมาก พี่เล็กก็งงสิ เพราะเป็นผู้ใหญ่ เป็นครูระดับหัวหน้า ไม่ได้มาเป็นครูฝึกสอนเอง
   เลยเรียกครูวัฒน์มาสอบถาม จนสุดท้ายได้ใจความว่า เพื่อนๆ กลุ่มมิวมาเรียนระดับ Advance กันหมด ยกเว้นเขาคนเดียว ไม่มีใครกล้าโทรชวนเขา เพราะตอนแรกเขาเรียนได้แค่ 3 วันก็จะร้องกลับบ้านแล้ว บอกไม่เอาแล้ว ไม่เรียนแล้ว ไม่ชอบเรือใบ ผมเองพามิวมาครั้งนี้โดยไม่ได้ชวนใครเลยสักคน ที่มาเจอกันก็โดยบังเอิญทั้งสิ้น
   เดาว่าคงจะเห็นเพื่อนๆ มาเรียนกันหมด เลยอยากมาบ้าง คุณแม่เลยจัดชุดใหญ่ให้ หึหื เดือดร้อนพี่เล็กและทีมงานครูฝึกทั้งหมดที่โดนตำหนิ ทั้งๆ ที่ครูชุดนี้ผมถือว่าทำงานได้สุดยอดมากๆ เลย ดูแลเด็กอย่างเต็มที่จริงๆ น่าเห็นใจครับ ที่ต้องมาโดนตำหนิด้วยเหตุผลทีไม่มีน้ำหนักเอาเสียเลย
   ตอนแรกครูวัฒน์บอกอาจจะให้ครูป๋อง หรือครูคนอื่นสอนบ้าง แต่เด็กคนนี้ร้องตะโกนลั่นบอกเขาจะเรียนกับครูวัฒน์ ถ้าเป็นครูอื่นเขาไม่เอา    
   อ้าว เลือกได้ไง มันต้องแล้วแต่ครูเขาจัดให้สิ แต่จะบอกอะไรให้นะ ครูที่อยู่ในทีมงานของครูวัฒน์นั้น ทุกคนล้วนเป็นนักกีฬาทีมชาติกันหมด เหรียญทองแทบทุกคน หลานครูวัฒน์นี่ตัวดีเลย แชมป์โลกเรือ Optimist ด้วยซำไป น่าแปลกเน๊อะ เด็กไทยเป็นแชมป์โลก แต่ข่าวแม่งเงียบกริ๊บเลย
   ดูบรรดาครูต่างอึดอัดกับพฤติกรรมของคุณแม่ท่านนี้เป็นอย่างมากครับ พวกทหารนี่ถ้าไม่ถึงที่สุดแล้วเขาไม่ปริปากบ่นกันหรอก เห็นใจพวกครูจริงๆ เลยครับ ทำเอาเราหน้าชาไปด้วยเหมือนกัน ก็มันพวกเดียวกันนี่นา
   งานเลี้ยงเลิกราว 0900 แยกย้ายกันกลับ แต่เราจะต้องพบกันใหม่ในอีกไม่ช้าในงาน ดงตาล คลาสสิค งานแข่งเรือที่กลุ่มของกองเรือยุทธการเป็นผู้จัดเองในต้นเดือนหน้าครับ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:50:45 pm
7 พค 56
   เป็นอีกคืนที่นอนหลับอย่างสบายรวดเดียวถึงเช้า ลืมตาตื่นเอง 0500 ดื่มน้ำแร่ไปครึ่งลิตร ดื่มน้ำตอนเช้าหากได้น้ำแร่ผมคิดว่ามันน่าจะดีต่อร่างกายมากกว่าน้ำปกติ ไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากแค่ว่าดื่มแล้วมันลื่นคอกว่า
   กายบริหารในห้องพักครับ อยากเอาจักรยานออกขี่แต่ก็ไม่ได้ไปนะ มองไปนอกหน้าต่างเห็นเพิงหมาแหงนที่ต้องมานั่งตรงนี้เกือบทุกวันเฝ้าดูลูกแข่งเรือใบ เห็นแล้วก็คิดถึง อาลัย วันนี้เราต้องกลับบ้านแล้วนะ
   ออกจากที่พัก 0800 กะจะไปกินต้มเลือดหมูแถวๆ บ้านอำเภอ แต่ร้านเขายังไม่เปิด เลยไปกินกันกลางทางก่อนจะถึงทางเข้า Siam Country Club เป็นร้านอาหารอิสลาม ผมสั่งข้าวหมกไก่ รสชาติดีมากครับ จานละ 35 บาท กินเสร็จแล้วก็ตรงเข้า Horse Shoe Point ตรงตลอดสุดทางก็จะเจอ Tree Top Adventure เป็นกิจกรรมโหนสลิงในป่า ตอนนี้ราคาล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 2600 บาทต่อคน มี 40 กว่าสถานี ใช้เวลาโหนกว่า 2 ชม
   พี่โบ๊ทเคยมาใช้บริการที่นี้แล้ว เลยขอราคาเก่าโปรโมชั่นในงานไทยเที่ยวไทย บอกว่าเด็กมากัน 5 คน ขอราคาเก่าละกัน เจ้าของใจดีครับชื่อ “ต๊อบ” จัดราคาเดิมให้เหลือคนละ 1300 สุดยอดมาก แถมเล่นได้ไม่จำกัด เล่นได้อย่างอิสระ มีแรงเหลือเท่าไหร่ จัดไป
   เริ่มโหนกันตอน 1000 เสร็จสิ้นเอาเกือบจะ 0300 พ่อแม่ผู้ปกครองก็คอยกันไปสิครับ แต่ก็ไม่เห็นมีใครบ่นนะ พวกเรานั่งคุยกันถึงเรื่องเรือใบกันมากกว่าว่าจะเอาอย่างไรกันต่อไปดี ต้นเดือนหน้าจะมีงานแข่ง “ดงตาลคลาสสิค” ที่หาดดงตาล สัตหีบ งานนี้กองเรือยุทธการจัดเอง กลุ่มผมคงต้องไปร่วมด้วยแน่ๆ
   ผมกับผู้ปกครองกลุ่มนี้เริ่มสนิทกันมากขึ้น วันหลังๆ มีปล่อยมุข มีแซว ทั้งๆ ที่เจอหน้ากันมาตั้งหลายปี ได้แต่กล่าวทักทายสวัสดีกันไปมาแค่นี้เอง คุยกันมากขึ้นก็สนิทกันมากขึ้น แม้จะมีแนวทางการเลี้ยงลูกแตกต่างกันไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้เถียงอะไรเขานะ ผมรับแต่ข้อมูลที่ผมเห็นด้วย ข้อไหนไม่เห็นด้วยก็ปล่อยผ่านเลยไป ไม่ไปโต้เถียงอะไรเขา
   แยกย้ายกันตอน 0300 ผมเปิดไอ้แป๊ดให้มิวช่วยดูทางให้ พอรถเข้าทางหลักก็แยกย้ายกันไป ผมแวะ outlet เพื่อดูข้าวของแต่ไม่เจอสิ่งที่ต้องการเลยเดินทางต่อ มิวขึ้นรถได้แป๊บเดียวก็หลับ ผมเองก็ขับรถเพลินๆ โชคดีรถไม่ติดเลยซัดยาวตลอดทางมอเตอร์เวยจนเข้าพระราม 9 มารถติดนานตรงหน้าด่านอโศกนี่เอง มันเป็นคอขวดครับ พ้นด่านจ่ายเงินรถก็โล่ง
   ถึงบ้าน 0500 รีบเอาข้าวของลง จัดการรถพ่อให้เข้าสู่สภาพเดิม แล้วตรงดิ่งไปรถของผม Nissan 180SX ทันที บิดกุญแจสตาร์ท แชะๆ เงียบ เฮ้ยย จอดนานจนแบตหมด งานเข้าแล้วสิ แถมไอ้แบตลูกล่าสุดยี่ห้อ Spark มันคือของโนเนม สู้ลูกเก่ายี่ห้อ Panasonic ไม่ได้เลย อยู่ได้ถึง 4 ปีแน่ ไอ้ Spark นี่แค่ 2 ปีเอง (แต่ระยะเดือนหลังนี้จอดนานมากนะ)
   หยิบเครื่องชาร์จแบตฯมาเสียบ กระตุ้นด้วยไฟแรงสุด ราว 30 นาทีลองสตาร์ทใหม่ แชะ ๆ ๆๆ เย้ ติดแล้ว อันนี้กรณีสตาร์ทด่วนนะ ถ้าจะชาร์จให้ไฟเข้าเต็มก็ต้องใช้ไฟอ่อนชาร์จข้ามคืนจะดีกว่า
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:52:44 pm
8 พค 56
   คืนแรกที่นอนบ้านหลังจากงานแข่งเรือ ไม่หรูหรา แต่นอนหลับเต็มตื่นถึงเช้า มิวเองก็เช่นกัน หลับแบบพุงอืดเลย ไม่ได้ออกกำลังกายครับ เดินไปเดินมาหน่อยเดียวฟ้าก็สว่างแล้ว ถ้าอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ผมก็จะออกไปช่วยงานที่ร้านขายของ หึหึ งานใช้แรงงานแบบเดิมนั่นแหละ
   เช้านี้ยกของในโกดังคนเดียวล้วนๆ แต่สินค้าน้ำหนักไม่มากนัก (หนักกลางๆ) และไม่ต้องใส่เต็มคันรถ ค่อยๆ ยกไปครับ ชิ้นไหนอยู่ต่ำก็ต้องย่อนั่งยองๆ แล้วออกแรงยก อย่าลืมตัวว่าหลังเราเจ็บถาวรไปแล้ว แต่ผมไม่ได้บอกใครเขาหรอกนะ เจ้าของร้านก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป
   มันไม่จำเป็นต้องบอกหรอก บอกไปก็เท่านั้น งานของบ้านเรามีแต่ยกแบกของอย่างเลี่ยงไม่ได้ หนำซ้ำเกิดเขาไม่เข้าใจจะคิดไปว่าเราขี้เกียจ เปล่าเลย ไม่ได้ขี้เกียจ แต่เกลียดต่างหาก
   กลางวันพามิวไปเรียนพิเศษที่สยามอีกแล้ว ต้องไปทุกวันธรรมดาเลยนะ ต่อไปนี้จะเป็นเด็กหยามอีกสักพักใหญ่ อยู่วันละ 5 ชม ขำขำ จะเดินไปไหนดีวะนั่น ส่งมิวเสร็จก็แวะตั้งหลักที่ร้านจุฑารส ร้านเก่าแก่คลาสสิคที่ปัจจุบันปรับตัวทันยุคสมัยแล้ว ในละแวกนี้ก็เหลือร้าน New Light เท่านั้นแหละมั้งที่ดูจะเป็นตำนาน ไม่ได้เข้าไปนานกว่า 30 ปี ตอนเด็กๆ ก็เข้าไปกินแค่บะหมี่หมูแดง แม่งอร่อยมากว่ะ จำได้ว่าชามละ 45 บาท (แพงมากในสมัยก่อนแล้วนะ) ให้ตะเกียบแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกด้วย โคตรเท่เลย (สมัยก่อนไม่มีไง)
   
   หัวค่ำเพิ่งจะเปิดเวปจักรยานครั้งแรกในรอบหลายๆ วัน เช็คเมลล์ ตอบเมลล์ตามปกติ แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าทางคุณอิททำไมเขาเงียบสนิท นี่ผมส่งคอลัมน์ไป 2 ครั้งแล้วนะ เหลืออีก 1 ก็จะเต็มสต็อคตามที่ผมวางแผนเอาไว้ ไปเจอคำตอบใน pm ของเวปจักรยานนี่แหละครับ เขาบอกว่าไม่ได้รับ อ้าว เราก็งงไปเลย นิตยสารจะวางแผงเดือนหน้าแล้ว ผมอยากเขียนให้เขาตั้งแต่เล่ม 1 แล้วมันจะทันไหมล่ะนี่ เฮ้ออ ไม่น่าพลาดเลย ส่งไปครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายนแล้วด้วยซ้ำไป
   ลนลานเลย รีบจัดส่งคอลัมน์เรื่องการขี่ในหน้าฝนซ้ำไปอีกครั้ง ตามด้วยคอลัมน์เล็ก กะว่าเผื่อเขาจะเอาไปแทรกแบบ 1/3 หน้า เกี่ยวกับการเลือกร้านอาหารในท้องถิ่น วันนี้จัดส่งไป 2 อัน พรุ่งนี้จะโทรหาเขาเพื่อแจ้งยืนยันด้วยเสียงเราอีกครั้ง
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:54:40 pm
9 พค 56
   ตื่นมาแบบเพลียๆ ไม่รู้ทำไม นอนสบายมั้ง ทำได้แค่ยืดเส้นไปมา แป๊บเดียวก็ต้องกินข้าว เตรียมตัวออกไปเฝ้าร้านขายของแล้ว
   ตอนสายโทรหาคุณอิท เขาบอกได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยากได้บทความแนะนำเมืองสัตหีบ เอ้า เดี๋ยวจัดให้ครับ
   สายพามิวไปเรียนพิเศษที่สยาม เริ่มเบื่อแล้วว่ะ ต้องอยู่ที่นี่ถึง 5 ชม แถมวันนี้มีโบนัสต้องไปเรียนคุมองที่เดอะมอลล์ท่าพระต่อ โอ้ พระพุทธ สงสารมิวจริงๆ เลย
   บ่ายพี่โบ๊ทโทรมาบอกให้ช่วยจองเรือใบที่สารินซิตี้ให้หน่อย เด็กๆ จะได้ไปซ้อมกันตอนเย็นวันอาทิตย์ โอเค จัดไปครับ เขามีเรือ Optimist อยู่ 4 ลำพอดี กลุ่มเราก็มีกัน 4 คน นี่จะเป็นครั้งแรกที่เด็กได้เล่นเรือกันในบึงน้ำนิ่ง และต้องดูแลเรือเองทุกขั้นตอน
   แวะซื้อของในซุปเปอร์เล็กน้อย โดยมากจะเป็นพวกถั่ว แต่กินเยอะไม่ได้ ถัวมีประโยชน์ก็จริง แต่ไขมันเยอะ กินมากแล้วอ้วน ไอ้ที่ผมน้ำหนักลงยากก็เพราะกินถั่วเยอะนี่แหละครับ
   เออ แปลกนะ พอบอกชอบกินถั่ว คนมักจะบอกว่ากินแล้วตด มันไม่เกี่ยวกับถั่วหรอกครับ ผมกินถั่วตั้งแต่เด็กแล้ว เลิกตดแล้ว ร่างกายคนเราจะตดมากก็เพราะมี “ไฟเบอร์” มาปริมาณมากๆ แบบกะทันหันครับ ฉะนั้น หากกินอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วหรือไม่ ล้วนมีสิทธิ์ตดกันได้
   แต่ตดมันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ แค่ไปปล่อยให้มันถูกที่ถูกทาง แม้จะไม่มีห้องให้ตดอย่างเป็นทางการ เราก็ต้องเลี่ยงเดินออกไปนอกฝูงชนแค่นี้ก็จบแล้ว
   มีคำถามตอนเด็กๆ ผมเคยได้ยินคนคุยกันถามว่า “ตดสีอะไร”
   ลองทายดู พรุ่งนี้มาเฉลย
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 07:58:31 pm
10 พค 56
   เอ๊ะ ชักแปลกใจ ทำไมเราเพลียสะสมหรือไรกันนี่ ตื่น 0530 แต่มันแสนจะขี้เกียจ ไม่ได้นอนดึกด้วยนะ นอนแค่ 3 ทุ่มเท่านั้นเอง ตั้งแต่ดูแลมิวนี่ไม่เคยนอนดึกเลย สอนเข้านอนหัวค่ำ ตัวเราก็ต้องนอนหัวค่ำด้วย
   เข็นจักรยานออกขี่ ไปแบบเนือยๆ ขี่ราว 15 นาทีไม่ได้เหงื่อสักนิด ขี่ช้าครับ เอาแค่ให้ก้นคุ้นชินกับการรับน้ำหนัก อย่างที่บอกแหละว่าเกิดเจอทริปโหดยาวกะทันหันก้นจะได้ไม่เปราะ
   ขาไหว ใจถึง แต่ถ้าก้นไม่สู้นี่จบข่าวเลยนะนั่น แต่ถ้าขี่บ่อย กล้ามเนื้อก้นคุ้นชินกับการโดนน้ำหนักตัวเองกดทับแล้วล่ะก็จะสบายมาก นั่งกันได้เป็นวัน และหลายวัน
   เออ ลืมเล่าเรื่องหนึ่ง ผมขี่ยาวล่าสุดก็คือทำ 100 กม ไปมหาชัย (ไปกลับ) พบว่าปีกเบาะของ Brooks มันอ้าบานมาครูดโดนโคนต้นขา นี่ถ้ามีโอกาสจัด Brooks ใหม่ จะลองรุ่นแบบ Narrow ดู หรือไม่ก็ทรงเพรียวๆ เรียวๆ สักหน่อย
   ไม่ใช่เบาะรุ่น B17 Champion ไม่ดีนะ แต่มันอยู่ที่การเซ็ทติ้งด้วย ตอนนี้ผมเซ็ทจนเบาะผมสูงกว่าแฮนด์ประมาณ 2 นิ้ว ซึ่งท่านั่งในลักษณะนี้ควรเล่นเบาะทรงเสือหมอบ พวกเรียวๆ เพรียวๆ นี่แหละ ตอนขี่เร็วรอบขาสูงมันจะไม่มาสีกับโคนขาด้านใน
   เรื่องเบาะนี้ละเอียดอ่อนมากครับ น่าจะเก็บไปเล่าในนิตรสารจักรยานจริงๆ ไว้ว่างๆ คงจะต้องจัดสักรอบ ตั้งชื่อเรื่องเอาไว้แล้วแบบเลาๆ ว่า Saddle Time น่าแปลกเหมือนกันนะ ทำไมต้องตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษก็ไม่รู้ คิดหาชื่อไทยแล้วมันเท่ยากมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้แบบไทยมากกว่านะ
   งานเขียนของผมแต่ละเรื่องนั้น ล้วนแล้วแต่สามารถนำมาต่อกันเป็นเล่มได้เลย น้อยครั้งที่ผมจะเขียนแบบตอนเดียวจบ (ยกเว้นพวกแนะนำเส้นทาง หรือเทคนิคต่างๆ )
   เช้านี้ที่ร้านมีคนงานต่างชาติมาใหม่ 3 คน ก็เป็นนิมิตหมายที่ดี แต่อย่าชล่าใจ พวกนี้มาเร็วไปเร็ว เผลอๆ ตอนจะไปนี่ขโมยของก่อนก็มีบ่อย
   กลางวันเป็นเด็กหยามครับ พามิวไปเรียนพิเศษอีกแล้ว วันนี้ไปเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ จันทร์-ศุกร์หน้าก็พบกันใหม่ ใครอยู่สยามตอนกลางวันนี่โทรหาผมได้เลยนะ ผมเดินเตร็ดเตร่จนไม่รู้จะไปไหนอีกแล้ว เหงาจุงเบย
   วันนี้สิงที่ห้างพารากอนดูบ้าง วันก่อนไปสิงที่มาบุญครอง ได้ฝึกภาษาดีเหมือนกันนะ เดินดูของร้านไหนเขาก็พูดภาษาอังกฤษกับเรา แรกๆ เขินเหมือนกัน หลังๆ ทำหน้าชัวร์ ถ้าเขาถามว่ามาจากไหนก็บอกสิงคโปร์ พอกล้อมแกล้มไปได้
   ข้อดีของการพูดภาษาอังกฤษคือคนขายจะไม่กล้ามากวนตีนกับเราครับ ต่อราคาอะไรก็ซัดไป 50% ได้เลย เขาไม่ให้หรอก แต่เขาจะบอกราคาใหม่มาให้เรา ไม่เอาก็เดินออกมาได้เลย แต่ถ้าพูดไทยนะ ต่อแม่ค้าไป 50% มีสิทธิ์โดนไล่ออกมา และมีด่าลับหลัง
   คนไทยส่วนใหญ่เรากลัวฝรั่งครับ แปลกดี ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใครมาก่อน แต่ทำไมเห็นฝรั่งแล้วเหมือนเห็นเทพเจ้า ฝรั่งพูดฝรั่งบอกอะไรก็เชื่อแม่งหมดเลย แบบจูงจมูกได้เลย นี่คืออีกหนึ่งอะเมซิ่งไทยแลนด์ที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้
   อยู่แถวนี้ไม่กล้าซื้อของอะไรหรอกครับ แม่งไม่ใช่แค่แพงธรรมดา ในพารากอนเจอร้าน Tank ด้วย เดินเข้าไปดูสักหน่อย เพราะเขาเป็นสปอนเซอร์ทีมแข่งเรือใบของลูกผม ขายสินค้าพวกนักเดินทาง น่าเสียดายที่ผมไม่ใช้สินค้าแนวนี้แล้ว แต่ก็เจอสินค้าที่น่าสนใจนะ คือพวกถุงกันน้ำยี่ห้อ sea to summit เด่นตรงน้ำหนักเบาครับ ชอบตรงนี้แหละ ถ้าผมขี่จักรยานออกลุยหน้าฝน ผมจะจัดของยี่ห้อนี้
   บ่ายไปจุดนัดพบกับมิวคือร้าน kinokuniya นี่เป็นอีกร้านที่ได้แต่ดู แต่อย่างว่านะ ดูไปนานๆ ใจก็อ่อนเหมือนกัน เห็นพวกหนังสือรถยนต์แล้วทำใจลำบาก ลึกๆ ผมยังชอบและหลงใหลรถยนต์อยู่เสมอ ดีนะที่เจ้ามิวเขาไม่มาชอบแนวนี้สักนิด
   แวะสมัครสมาชิกวารสารวิทยาศาสตร์ของมิวที่ร้าน Nanmee Book แล้วกลับบ้านทันที มิวขึ้นรถปุ๊บหลับผล็อยจนถึงจุดหมาย วันนี้ดีหน่อยไม่ต้องไปเรียนกันหลายที่ ถึงบ้านตอน 0400
   เพลียครับ หมดแรง ผมถ่วงถุงทรายไว้ที่ข้อเท้าข้างละ 1 กก มาหลายวันแล้ว ถึงบ้านก็รีบถอด รู้สึกเบาเท้าอย่างน่าอัศจรรย์
   หัวค่ำดูข่าวต่างประเทศ นักเรือใบมือหนึ่งเหรียญทองโอลิมปิคเรือใบแบบ Catamaran (เรือใบสองกาบ) ล่มที่อ่าว San Francisco เสียชีวิต
   อีกแป๊บเดียวพี่โบ๊ทโทรมาชวนไปซ้อมเรือใบที่สัตหีบในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า แต่ผมติดธุระต้องเฝ้าร้าน แม่ไปต่างประเทศ เลยปฏิเสธไป พี่โบ๊ทบอกไม่เป็นไร ให้มิวมากับเขาได้ เขาจะดูแลให้
   หึหึ เกรงใจครับพี่ มิวมันยังรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้เลย อยู่กับผมดูแลใกล้ชิดยังมีดื้อ จะทาครีมกันแดดก็ยากเย็น ตื่นมาก็ยังไม่เคยเก็บที่นอนเอง แล้วชุดเรือใบนี่ต้องกลับมาบ้านรีบซักรีบตาก มันจะทำได้หรือ
เฉลยปัญหาเมื่อวาน คำตอบคือ “ตดสีตูด”
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 08:13:07 pm
11 พค 56
   โรคหมดไฟยังไม่หาย ตื่นเช้าก็จริง แต่มันไม่อยากขยับตัว ไม่รู้ทำไม แต่ก็เอาจักรยานออกไปขี่เล่นใกล้ๆ บ้าน สัก 15 นาทีก็กลับละ แดดร้อนแรงเหลือเกิน
   กินอาหารเช้าทรงคุณค่าอีกแล้ว ผัดผักบุ้ง แครอทลวก กระเทียมสด มีของไม่ดีแซมเข้ามาอย่างหนึ่งคือขนมกุยช่ายทอด เลือกคัดกินแต่ผักที่อยู่ด้านใน กินแป้งทอดน้อยๆ เหลือเปลือกแป้งเอาไว้เพียบ    
   เช้านี้ผมออกไปเฝ้าร้านขายของคนเดียว ส่วนมิวจะตามมาตอนกลางวัน เลยทดลองสั่งให้มิวเก็บที่นอนให้เรียบร้อย สั่งไปเถอะ ปากเปียก ปากแฉะ จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเขาจัดเก็บที่นอนเองไม่เกิน 2 ครั้ง เดี๋ยวเย็นๆ กลับบ้านมาจะดูผลงาน
   อยู่ที่ทำงานจนถึงบ่าย พามิวไปเรียนคุมองต่อ ส่วนผมทำธุระที่ธนาคาร ช่วงนี้ไปห้างบ่อยมาก ไม่ชอบชีวิตในตึกแบบนี้เลยครับ หรือว่าที่ผมเพลียๆ เบื่อๆ มันจะมาจากโรคแพ้ตึกวะนั่น เพราะเมื่อก่อนไม่เห็นจะเคยเบื่อการออกกำลังกายสักนิด
   ก่อนกลับบ้านแวะหาซื้อเห็ดย่างที่เคยกินเมื่อก่อน แต่วันนี้หาไม่เจอเสียแล้ว สงสัยจะขายไม่ดีครับ ก็เข้าใจนะ อาหารหน้าตาแบบนี้ดูไม่น่ากินหรอก ทั้งๆ ที่เขาทำอร่อย เลยกลับบ้านมือเปล่า แต่ที่บ้านมีส้ม กล้วย แตงโม มะม่วง แค่นี้ก็อิ่มได้นานแล้วล่ะ
   มิวกลับมาถึงบ้านปุ๊บก็ขอไอ้แป๊ดมาเล่นเกมทันที โอ เคยเห็นลูกคนอื่นเขาเป็น ยังเคยคิดในใจ โชคดีลูกเราไม่เป็นแบบนั้น หึหึ หารู้ไม่ มันแค่ยั้งไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง วิ่งขึ้นไปดูบนห้องนอน เห็นเครื่องนอนวางระเกะระกะ มิวเขาไม่สนใจคำสั่งของผมเลยแม้แต่น้อย
   เปิดคอมฯทำงานเขียน แต่ยังนึกหัวข้อเจ๋งๆ ไม่ออก ไม่อยากเขียนงานธรรมดาพื้นๆ ให้เขาไง อยากได้งานแบบอ่านแล้ววิญาณพุ่งโดดออกจากร่าง อ่านแล้วไฟในกายลุกโชน นึกถึงตอนที่ทำ Racing Club ของตัวเองเสียจริง อยากจัดอะไรก็ซัดไปเต็มๆ ได้เลย
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 08:18:54 pm
12 พค 56   
   ก่อนเข้านอนไม่ได้เตรียมแผนการอะไรไว้ กะว่าตื่นมาแล้วค่อยคิดกันสดๆ เพราะบางทีจัดเตรียมไว้อย่างดีก็มีอันต้องเปลี่ยนแผน แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน 0530 ฝนตกครับ ตกอยู่พักใหญ่เกือบจะ 0600 ถึงหยุด
   เลยเป็นอันว่าไม่ต้องไปไหนกันละ ขี่จักรยานก็เลอะเทอะ ไปวิ่งออกำลังกายก็เฉอะแฉะ อยู่บ้านพักผ่อนแบบเงียบๆ คนเดียว นั่งคิดเรื่องงานเขียนหนังสือ ภรรยาพามิวไปเรียนพิเศษข้างนอก
   กลางวันดูทีวีมีข่าวงาน car show ของพวก VW ที่ลานหน้า Central World เห็นรถเขาแล้วจี๊ดขึ้นมาในใจ คิดถึงเจ้าคันเก่าที่ขายไปนานมากแล้ว ผมเคยมีรถ VW Bus แบบนั้นครับ แถมรถผมมันเก่าสะใจสุดๆ ไปตามหามาได้เป็น VW Bus 1957 Type 2 Panel Van Double Door Safari สเปคแบบนี้ฝรั่งเองก็ยังตามหาแบบพลิกแผ่นดิน แต่ผมมีมันอยู่ในมือแท้ๆ แต่ก็เป็นอันต้องขายไป เสียดายสุดๆ จนถึงทุกวันนี้
อยู่บ้านตลอดวันเลยครับ นั่งคิดสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ทั้งงานออกแบบและงานเขียน แต่ก็ไม่ได้ตามฝัน มีเรื่องให้ทำจุกจิก สายล้างบ่อปลา บ่ายรางน้ำฝนที่บ้านหลุดพังลงมาทั้งยวง เลยไม่ได้งานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เย็นนั่งร่วมโต๊ะอาหารกินกับพ่อแม่ครั้งแรกในรอบหลายเดือน ส่วนภรรยาโดนมิวหลอกไปดูหนังเรื่อง Star Trek
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 13, 2013, 08:21:07 pm
13 พค 56
   เช้านี้ออกขี่จักรยานนิดหน่อย ท้องฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก ออกไปแป๊บเดียวก็กลับมากินข้าวที่บ้าน วันนี้อาหารคลาสสิคครับ ข้าวกล้องสีแดง ผัดกระเพราไก่ ไข่ต้ม มีกระเทียมสดสิบกว่าหัว 
   เช้านี้วันหยุดสินะ มิน่าเล่า ถนนโล่งเชียว ขับแป๊บเดียวก็ถึงที่ทำงานแล้ว คนอื่นเขาหยุดกัน แต่มิวยังคงไปเรียนพิเศษเหมือนเดิม แน่ล่ะ ผมเป็นคนไปรับไปส่ง ใช้ชีวิตล่องลอยอยู่บริเวณสยามสแควร์ ไม่รู้จะไปสิงที่ไหนดี ห้างรอบตัวที่มองเห็นก็ไปเดินมาจนทั่วแล้ว ทั้งมาบุญครอง พารากอน สยามเซนเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ จะเหลือก็เซ็นทรัลเวิร์ดนี่แหละ มองเห็นลิบๆ
   ข้าวของแถวนี้แพงครับ อาศัยช่วงนี้ลดน้ำหนักไปในตัว ประหยัดเงินอีกด้วย พกกล้วยน้ำว้ามากิน 3 ลูกไว้ในเป้หลัง หิวก็หยิบกินซะ ตัดสินใจเดินไปร้าน Loft ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ร้านนี้ขายของจุกจิกราคาแพง ผมไม่ชอบซื้อของในย่านนี้ ไม่ได้ซื้อมาเป็นสิบๆ ปีแล้วด้วย แต่ก็ชอบหยิบจับดูนะ แบบเปิดหูเปิดตา
   วันนี้สะสุดกับเป้หลังใบหนึ่ง จำยี่ห้อไม่ได้ แต่ฟังชั่นเขาถูกใจเหลือเกิน เริ่มจากขนาดเป้ที่แคบกว่าเป้ปกติ ใส่แล้วไม่เกินลำตัวของเรา เดินในที่แคบได้สบาย มีช่องใส่ไอ้แป๊ดหรือของบางๆ เช่นโนทบุ๊ค ช่องใส่ของด้านข้างแบบใส่ของจุกจิกได้เยอะ จัดระเบียบด้วยการมีช่องเล็กแบ่งอีก 3 แถว น้ำหนักเบามากๆ เนื้อวัสดุนุ่ม แต่ดูเหมือนจะกันน้ำได้ มีข้อติข้อเดียวคือไม่มีช่องใส่กระติกน้ำ ราคา 7000 กว่าบาทเอง 
   กำลังจะออกจากห้าง อ้าว ฝนตกหนักเลย จะเดินไปห้างที่ติดกันก็ต้องใช้ทางเชื่อมที่ชั้น 4 จัดไป เรื่องเดินเราไม่บ่นอยู่แล้ว ถ่วงถุงทรายที่ข้อเท้าข้างละ 1 กก ยิ่งทำให้ได้ออกแรงเยอะ ดีเสียอีกนะนี่ คนอื่นเขาได้ออกแรงน้อยกว่าเรา
   ก็เพราะคิดแบบนี้ไงครับ ผมถึงไม่ได้สนใจที่จะตกแต่งจักรยานสักนิด ขี่เพื่อออกกำลังกาย ก็แค่ให้มันวิ่งได้ วิ่งดีระดับหนึ่งก็โอเคแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องทำให้มันเบาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกแรงมาก ถ้าเป็นรถแข่งนี่ไม่เถียงนะ แถมจะยุส่งด้วยซ้ำไป แต่สำหรับคนที่ขี่เล่นออกกำลังกายนี่ ผมมองไม่เห็นถึงประโยชน์ของมันสักนิด
   นัดกับมิวที่ร้านหนังสือคิโนคุนิยะ นัดแบบนี้สบายมาก มาสายก็ไม่บ่น ยืนเปิดอ่านหนังสือจนเมื่อยขา สักพักมิวโทรมาบอกว่าเรียนเสร็จแล้ว กำลังเดินมา ผมบอกไม่ต้องมาหรอก ฝนมันตก พ่อจะเดินไปหาเอง ให้นั่งรออยู่ที่ตึกสยามกิตติ์
   รีบมา รีบเรียน รีบกลับ อยู่ย่านนี้ห้ามโอ้เอ้ ชักช้ารถจะติดหนักมากในช่วงเย็น เพราะมันอยู่ใจกลางเมืองไง ดีที่มีรถไฟฟ้าผ่าน แต่แย่ตรงที่ออกแบบรถไฟฟ้าได้ไม่สวยเอาเสียเลย รถไฟแล่นผ่ากลางเมืองแบบนี้ควรเป็นระบบใต้ดิน บ้านเมืองจะดูสวยสะอาดตาครับ
   รถไฟฟ้าแบบลอยฟ้านี่ควรไปอยู่ชานเมือง ถ้าเข้ามาในเขตชุมชนจะต้องมุดลงใต้ดินเท่านั้น
   ผมออกแบบอะไรก็จะคำนึงถึงความสวยงามมาก่อนเสมอ ฟังชั่นการใช้งานตามมาติดๆ แต่ผมยังให้มันเป็นรองเรื่องความสวยงาม
   กลับมาบ้านมิวสารภาพความผิด เพราะเมื่อวานหลอกแม่ไปซื้อเครื่องบินจำลองมา บอกว่าสัญญาแล้วว่าจะรักษาของ เขาโตแล้วไม่ใช่เด็กทารกทีทำข้าวของเสียหาย
   ก็ใช้ให้มันเกิดประโยชน์เถิดครับลูก มองมันทุกวัน มองแล้วทำให้เกิดกำลังใจ และเดินไปสู่ฝันของเจ้าให้สำเร็จ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 16, 2013, 04:18:53 pm
14 พค 56
   ตั้งแต่เป็นเด็กหยามมาหลายวัน รู้สึกได้ชัดว่าตัวเองเป็นโรคขี้เกียจ ตื่นเช้าแบบเดิมก็จริงนะ แต่รู้สึกเพลีย ไม่อยากทำอะไร น่าแปลกมาก ไม่เคยเป็นมาก่อน
   เช้าทำงานเฝ้าร้าน  กลางวันพามิวไปเรียนพิเศษที่สยามอีกแล้ว ส่งเสร็จก็ออกมายืนเกาะระเบียงแล้วคิด เอ วันนี้กูจะไปสิงที่ห้างไหนดีวะ
   ก็ห้างที่มองเห็นด้วยสายตารอบข้างน่ะ ไปเดินมาหมดแล้ว แถมเป็นคนไม่ชอบช็อปปิ้ง ถ้าอยากเดินดูของก็จะเป็นของพวกแคมปิ้ง สินค้าของพวกนักเดินทาง แต่ก็แค่ดูนะ ไม่ซื้อหรอก บางอย่างอยากได้ แต่ก็รู้ทันกิเลสและดับทัน เลยไม่ตกเป็นเหยื่อ แถมคิดมุมกลับว่าไอ้ของพวกนั้นเขาทำมาล่อมือใหม่ ตัวเองเก๋าแล้ว มีระดับแล้ว ต้องกลับไปสู่สามัญต่างหาก
   ก็จริงนะ ผมใช้ Panniers ของ Ortlieb มาตั้งแต่ยุคแรก ได้ไปได้พักเดียวก็ไม่ชอบเสียแล้ว คนอื่นเขาบอกยี่ห้อนี้ดี ทน เจ๋ง แจ๋ว ทีเดียวจบ แต่สำหรับผม มันคือการเริ่มต้นต่างหาก
   เป้าของแต่ละคนนั้นต่างกันไงครับ ผมไม่ชอบของพวกแบรนด์เนม ไม่อยากให้รถดูแพง ขนาดใส่เบาะ Brooks นี่ ขี่ออกนอกบ้านยังหุ้มผ้าคลุมเลย กลัวคนดูเป็นเขาจะเห็นยี่ห้อ ตอนเลือกสีก็เลือกเขียว (อมดำ) ไปแล้วนะ
   เช็คเมลล์ในรอบหลายวัน ตกกะใจ เพราะเจอเมลล์คุณอิทสั่งให้แก้ไขขัดเกลาสำนวนงานเขียน พร้อมกับแก้เปลี่ยนขนาดฟอนท์ กำหนดขนาดมาเสร็จสรรพ เอาล่ะสิ ลนลานเลย เดี๋ยวกลับบ้านจะต้องรีบจัด
   ผมเสนอคอลั้มน์ให้เขาใหม่ไป 2 คอลัมน์ เกี่ยวกับการทดสอบผลิตภัณฑ์ และเกี่ยวกับเรื่องทัวริ่งในสไตล์ที่ผมถนัด เขาตอบกลับมาว่าขอนัดผมเข้าไปคุย แต่ไม่ได้กำหนดวันเวลาแน่ชัด
   ว่าแล้วก็รีบเร่งซ่อมงานและส่งกลับไปทันที เขาบอกให้เซฟไฟล์ text.doc แต่เครื่องผมมันไม่มีนามสกุลนี้ให้เลือก งงสิ ทำไงดี เลยเซฟแบบ plain text ส่งไปให้แทน คิดว่าเครื่อง Mcintosh น่ะจะเปิดอ่านได้นะ
   หัวค่ำว่างหน่อย เปิดไฟล์งานเก่าๆ ที่เขียนสต็อคเอาไว้ เจองานเด็ดๆ เพียบ แต่เขียนไว้แค่หัวข้อ ยังไม่ได้ลงลายละเอียด แต่มีภาพเก็บไว้พอควร สามารถจัดส่งเป็นงานเขียนเจ๋งๆ ได้หลายชิ้น มันก็เกี่ยวกับทัวริ่งทั้งนั้นแหละครับ ถ้าเขาชอบก็โอเคนะ แต่ถ้าไม่นี่สิ ผมอาจจะจัดพิมพ์เอง ขายเองสักวัน
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 16, 2013, 04:25:48 pm
15 พค 56
   นี่เขาเปิดเทอมกันแล้วหรือ มิวเปิดจันทร์หน้า ผมเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก ไม่ต้องมีเครื่องแบบใหม่ ไม่ต้องมีกระเป๋า รองเท้า หรืออุปกรณ์ใด เรียนกันแบบง่ายๆ สบายๆ โรงเรียนแนวนี้เรียกว่าแนวเตรียมความพร้อม ฝั่งธนฯจะมีเด่นก็โรงเรียนแนวนี้แหละครับ เริ่มจากโรงเรียนรุ่งอรุณ (อันนี้ใกล้บ้านมากๆ แต่ไม่ได้เรียน) วรรณสว่างจิต (มิวเรียนอันนี้) ดรุณสิขาลัย (อยู่ในเทคโนบางมด) เพลินพัฒนา (พุทธมณฑลสาย 4) ฝั่งพระนครก็พอมี แต่ที่เข้าตาผมก็คือโรงเรียนสยามสามไตรแถวพระขโนงอ่อนนุช
   จะเรียกว่าเป็นโรงเรียนยุคใหม่ก็ไม่ผิด ไม่ได้เร่งเรียน ไม่อัดการบ้านเด็กมากๆ ให้เด็กเป็นศูนย์กลาง โดยมีครูค่อยช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด เด็กที่เรียนแนวนี้จะชอบมาก เพราะไปเรียนก็เหมือนไปเล่น มีปลูกข้าว ปลูกต้นไม้ ปักชำ ตอนกิ่ง ทำอาหาร ทำขนม หุงข้าว กวาดพื้น ถูห้อง เล่นละคร ออกบูธขายของ ร้องเพลง เล่นดนตรี ฯลฯ
   มีดีก็มีเสียครับ ข้อเสียคือเด็กที่เรียนแนวนี้จะอ่อนด้านวิชาการ ครั้นถึงตอนต้องสอบแข่งขัน ก็ต้องไปเรียนเสริมข้างนอกกัน แต่มันจะมาต่างจากเด็กภาคปกติตรงนี้แหละครับ เพราะเขาเตรียมความพร้อมมาแล้วไง ถึงตอนนี้เขาพร้อมแล้ว ก็จะรับรู้สิ่งต่างๆ จากโรงเรียนสอนพิเศษได้ดีอย่างเห็นได้ชัด เขาไปเรียนด้วยความสนุก ไม่รู้สึกเหมือนโดนบังคับ ยิ่งครูยุคใหม่ๆ นี่สอนกันสนุกสนาน ทำให้เด็กยิ่งชอบ
   วันนี้มิวไปเรียนที่สยามเป็นวันสุดท้ายสำหรับปิดเทอมนี้แล้ว ที่มาอัดกันเยอะเรียนกันทุกวันระยะหลังนี้ก็เพราะตอนเดือนเมษายนเขาไปเล่นเรือใบมานั่นเอง
   ไปเดินที่มาบุญครองครับ วันนี้เจาะลึกชั้น 5 ที่ขายแต่พวกมือถือ ตาลายครับ นี่เป็นครั่งแรกที่ผมมาเดินดู ละลานตาไปหมด แต่ละร้านขายของเหมือนๆ กันเป๊ะ โดยมากจะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ของ Apple ร้านไหนขายซองใส่มือถือนี่คนจะเข้ามาเลือกดูกันมากมาย
   น่าสนใจจุดหนึ่งคือพนักงานขายของหลายร้านเป็นชาวต่างชาติครับ หน้าออกไปทางอินเดียนี่เยอะมาก คือผมไม่ค่อยได้ออกจากบ้านมาเดินแบบนี่ไง เห็นแล้วก็รู้เลยครับว่า ทุกวันนี้หากเราไม่รู้ภาษาอังกฤษนี่แย่แล้ว เราเป็นประเทศที่รู้ภาษาอังกฤษน้อยมากที่สุดในอาเซียน
   เล่าเรื่องหนึ่ง กลางวันผมกินก๋วยเตี๋ยวร้านจุฑารส ร้านริมถนนเชยๆ เลย เจอพนักงานเป็นชาวพม่ามารับออเดอร์ ก็ปกตินะ ผมเฉยๆ แต่อีกพักเดียวมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นสองคนเข้ามานั่ง แล้วผมก็ตกใจ
   เฮ้ยย พนักงานแม่งพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋ดเลย คล่องกว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเสียอีก !!!
   อาทิตย์ก่อนตอนที่ผมอยู่พัทยา ซื้อของใน 7-11 พนักงานเคาเตอร์พูดภาษารัสเซียกับลูกค้าด้วย !!! ไม่ได้พูดแค่แบบซื้อขาย แต่พูดแบบคุยเล่นหยอกล้อกัน เฮ้ยย นี่ผมอยู่บ้านนานมากจนตามโลกเขาไม่ทันแล้วหรือวะนี่
   พนักงานระดับพื้นๆ ภาษาเขาคล่องระดับเทพกันแล้ว หันมาดูตัวเองนี่ระยะหลังไม่ได้เดินทางบ่อย ทักษะการใช้ภาษาแม่งถดถอยจริงๆ ของเดิมก็ไม่ค่อยเก่งอยู่แล้วด้วยสิ
   ปกติมิวจะเรียนถึงเกือบจะบ่ายสาม วันนี้แค่บ่ายโมงกว่าก็โทรมาหาบอกว่าเรียนเสร็จแล้ว ผมรีบเดินไปจุดนัดพบ เห็นมิวหน้าตาเพลียๆ เขาบอกรู้สึกไม่ค่อยสบาย เลยเรียนไม่ครบคอร์ส ไว้คราวหน้ามาเติมใหม่ได้
   ขี้นรถปุ๊บก็หลับ ถึงบ้านก็ตื่น เดินหยิบไอ้แป๊ดน้อยไปเล่น บอกว่าหายดีแล้ว
   เฮ้ยย มาเร็วไปเร็ว
   มิวเรียนหนัก เขาขอเล่นเกมผ่อนคลาย เลยไม่อยากเข้มงวดอะไรกับเขามากนัก อีกไม่กี่วันก็เปิดเทอมแล้ว
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:09:10 pm
16 พค 56
   เช้านี่ขี่รถไปราว 30 นาที ไม่ได้เหงื่อสักนิด มีเวลาน้อยเกินไปครับ นี่ถ้าอยู่แบบนี้นานๆ ร่างกายฝ่อหมดแน่
   อาหารเช้าวันนี้อร่อยมาก คงได้วัตถุดิบที่ดีด้วยแหละ คะน้าหมูกรอบผัดน้ำมันหอย ปลาสลิดทอด กินกับข้าวกล้องเช่นเคย
   วันนี้มิวไม่มีเรียนพิเศษที่สยามแล้วนะ รอดไปที ไปทุกวัน วันละหลายชั่วโมงนี่โคตรเบื่อเลย    
   บ่ายเข้ามาบ้าน เข้าเวปจักรยานตอบปัญหา เจอท่านหนึ่งต้องการอัปเกรด Java Fit โดยมีงบ 1.5 หมื่น ผมตาโตสิ เพราะรถ Java เดิมๆ มันไม่น่าจะถึง 1.5 หมื่นนะ ผมเลยโพสถามราคาล่าสุดของเจ้าของรถไป แล้วก็เจอท่านหนึ่งสวนกลับมาแบบนี้
   “ตกแต่งรถอยากให้ดูที่ความพอใจกับการเอาไปใช้งาน ถ้าเอาราคารถมาคิดยังไงมันก็ไม่มีคุ้ม
ความพอใจมันวัดกันเป็นมาตรฐานไม่ได้ ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ เองครับ
มองว่าถ้าไม่เดือดร้อนเงินทองช่วงนั้น ถือว่าเป็นความสุขทางใจดีกว่าครับ
เกิดวันไหนมีปัญหาการเงินมา ก็ยังสามารถเอาไปขายได้ แม้จะไม่กำไรค่าเงิน แต่ก็ได้กำไรใช้งานมาแล้วครับ

   โดนวัยแรงสวนมา กลัวครับ โคตรกลัวเลย จึงตอบขอบคุณเขากลับไป ผมไม่นิยมโพสโต้เถียงกับคนตอบกระทู้ด้วยกันครับ แต่จะมุ่งไปประเด็นที่เจ้าของกระทู้โพสถามมากกว่า คนเราคิดเห็นแตกต่างกันได้ ผมโพสอะไรไปเจอคนทีไม่เห็นด้วย และโพสแย้ง ผมก็ไม่เคยซัดใครกลับไปสักคน ก็แต่ละคนนั้นความคิดแตกต่างกันนี่ครับ ตามอายุ ตามประสบการณ์ ตามสภาพแวดล้อม และตามภูมิปัญญา
   ให้คนอ่านตัดสินเอาเองครับ แต่แค่นี้ก็พออ่านแล้วเข้าใจอะไรบ้างแล้ว
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:12:47 pm
17 พย 56
   เช้านี้ขี่จักรยานไปเกือบ 30 นาที คนอื่นเขาขี่จักรยานเพื่อสนุก เพื่อออกกำลังกาย เพื่อท่องเที่ยวกัน แต่ระยะหลังมานี้ผมขี่แล้วกลับไปโยงกับเรื่องทางธรรมะเสียนี่ กำหนดลมหายใจเข้าออกตามรอบเท้า ขณะย่ำบันไดก็เหมือนการเดินซ้ายขวาทีละก้าว ขี่ไปสักพัก ถ้าเจอทางสวยๆ จิตจะนิ่ง พักเดียวเข้าสู่ภวังค์ นี่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มีสิทธิ์สู่นิพานได้ไม่ยาก
   มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญครับ แต่หากเกิดขึ่นแล้ว มันก็จะเกิดขึ้นได้ซ้ำอีก กลายเป็นว่านอกจากออกกำลังร่างกายแล้ว ยังออกกำลังจิตใจได้อีกด้วย บ๊ะ ทัวริ่งนี่สุดยอดจริงๆ เลย
   ผลจากจิตที่ดี ทำให้ผมคิดเรื่องราวต่างๆ ได้มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือแผนพัฒนาประเทศไทยแบบก้าวกระโดด ก็ไทยเราล้าหลังชาวบ้านเขามาเยอะแล้วนี่นา
   พลิกจุดอ่อนเป็นจุดแข็ง พลิกจุดด้อยเป็นจุดเด่น คิดบวก คิดเรื่องธุรกิจมามากมาย วันนี้สานต่อไอเดียเดิมคือคิดแผนพัฒนาประเทศบ้าง ไอเดียผมนี่จัดแบบเต็มชุด พัฒนาทั้งระบบยกแผงเลยนะ ชนิดที่ใครปรับตัวไม่ทันก็หงายหลังกันไปเลย
   การพัฒนาครั้งนี้ต้องทำกันทุกคนในประเทศครับ ทุกคนจริงๆ จัดตัวเองและครอบครัวเป็นวงกลมเล็กๆ ละแวกท้องถิ่นเราก็วงใหญ่ขึ้นมาหน่อย ระดับตำบลก็วงโตขึ้นมาอีก จนถึงระดับจังหวัด
   ในแต่ละวงกลมนั้นก็ต้องมาคุยกันถึงรายละเอียดว่าจะดำเนินไปในแนวทางใด โดยยึดนโยบายเพื่อนส่วนรวมเป็นหลัก
   นำปัญหาของแต่ละวงกลมมาช่วยกันหาทางออก แก้จากวงกลมเล็กไปสู่วงกลมใหญ่
   ภาครัฐก็จัดสร้างวงกลมของตัวเองขึ้นมา โดยให้แต่ละกระทรวงจัดทำวงกลมของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน เช่นกระทรวงศึกษาธิการ ก็ต้องลงไปลุยในเรื่องของวิธีคิดว่าทำไมเด็กไทยเราเรียนเยอะ แต่ฉลาดน้อย เหมือนกับยิ่งเรียนยิ่งโง่ กลายเป็นโง่ตั้งแต่เด็ก แล้วโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จะโง่ขนาดไหน
   กระทรวงเกษตร นี่พระเอกเลยนะ ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรครับ ไม่ต้องกระแดะทำเป็นฝรั่ง ยอมรับเถอะว่าเราอาศัยภาคเกษตรเป็นหลัก ฉะนั้น จงทำให้คนทำเกษตรคือเจ้าของประเทศตัวจริง โจทย์มีแค่นี้ พวกเอ็งไปค้นหาวิธีการมา แล้วค่อยเข้าประชุมกัน คนไหนไอเดียดีก็เสนอมา เข้าท่า เข้ารอบ ก็ลองจัดทำกันดู
   ราวๆ นี้แหละครับ แนวทางของผมคือไทยเราจะต้องยืนด้วยภาคเกษตร และรายได้หลักของไทยเราก็คือการท่องเที่ยว สองอย่างนี้ต้องโตไปด้วยกัน พอได้แล้วกับการพัฒนาอุตสาหกรรม มันสร้างของเสียมากมายจนแก้ไม่ไหวแล้ว ไปดูมาบตาพุดระยองได้ ชาวบ้านเป็นมะเร็งกันแทบทุกคน (เรื่องจริง ไม่ได้เว่อร์)
   ภาคเกษตรจะโตพร้อมกับการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวไปในตัว มันง่ายมากเลยครับที่ให้ชาวบ้านเขาดูแลป่าของเขาเอง หากมีใครบุกรุกก็แจ้งมา ถ้าเป็นนักการเมืองหรือพวกมีสีก็ทำเรื่องรายงานเข้ามาส่วนกลาง จะจัดทีมไปเคลียร์ให้
   เราจะต้องเข้าใจคำว่าอนุรักษ์ในมุมกว้างมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่รักษา ยังคงต้องฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนที่มันเสียหายไปด้วย ใครบุกรุกป่า ถางป่าทำไร ก็ต้องย้ายออกไปให้พ้น จะมาอ้างยากจนไม่ได้ เพราะจะแปลว่าคนจนสามารถบุกรุกป่าได้งั้นหรือ แม้กระทั่งป่าที่เสื่อมโทรมแล้วก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ นานวันเข้าธรรมชาติจะเยียวยากันเอง ส่วนพวกตัดไม้ทำลายป่านี่ก็ต้องคาดโทษให้แรงเท่าคดีอาชญากรรม
   นี่ผมเล่าแบบภาพรวมนะครับ ทำจริงต้องปรับวิธีคิดกันอีกเยอะมาก แต่มั่นใจว่าทำได้ ขอให้เราได้ผู้นำที่ดี ไม่ได้หมายถึงนายกนะ ผู้นำทุกระดับต้องเป็นคนดีมีวิสัยทัศน์ ดำเนินชีวิตด้วยธรรมะ ถ้าได้คนแบบนี้ ประเทศไทยจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยาก
   อากาศร้อนแบบจับจิตจับใจจริงๆ ครับ ขับรถกลางแดดยังแสบแขนเลย หรือว่ารถพ่อฟิล์มเสื่อมสภาพเสียแล้ว ก็เป็นไปได้นะ รถก็อายุเกือบจะ 10 ปีแล้ว ผมคนรุ่นเก่าครับ ไม่คิดอะไรมาก เลือก 3M นี่แหละ คลาสสิคดี ความเสี่ยงน้อย
   กลางคืน 1000 พี่โบ๊ทโทรมาอย่างเร่งด่วน บอกว่าพรุ่งนี้ครูเรียกให้ไปฝึกเรือใบเพิ่มเติมหลักสูตรต่อเนื่อง เรียนกับพวกกลุ่มทีมชาติ
   ผมตอบปฏิเสธพี่โบ๊ทไปอย่างนุ่มนวล มิวมีเรียนพิเศษครับ ที่ผ่านมาก็ยกเลิก เลื่อน มาหลายครั้งหลายหนมากแล้ว ถึงคราวที่จะต้องกลับเข้าวงจรชีวิตเด็กเตรียมสอบ พี่โบ๊ทยังคะยั้นคะยอ บอกว่าไหนๆ ก็มากันถึงนี่แล้ว น่าจะผลักดันต่ออีกหน่อย
   ใจผมก็อยากอยู่น่ะครับ แต่ทางภรรยานี่เขาอยากให้ทุ่มเทการเรียนมากกว่า ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ ปีหน้ามิวต้องสอบเข้ามัธยม 1 แล้ว แถมผมเลือกโรงเรียนเก่าตัวเองไว้ด้วย แน่ล่ะ โรงเรียนสวนกุหลาบมันสอบไม่ง่ายอยู่แล้ว
   มิวยืนอยู่ใกล้ๆ พอได้ยินผมตอบปฏิเสธก็ถึงกับวิ่งไปนั่งร้องไห้ที่หน้าประตู ทำใจลำบากนะ ที่ผ่านมาทุกอย่างล้วนเอาตัวลูกเป็นหลักในการตัดสินใจ
   หวังว่ามิวคงจะเข้าใจ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:20:38 pm
18 พค 56 ก้าวแรกสู่การฝึกแบบทีมชาติ
   เสาร์นี้มิวมีเรียนที่สยามอีกครั้ง เข้าอีกหรอบเดิม ผมต้องไปหาที่สิงอีกแล้ว เดินจนหมดมุขตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แค่คิดก็เบื่อแล้วล่ะ
   มิวเรียนตอนสายๆ ครับ เช้านี้เลยออกมาที่ทำงานกับผมด้วย พอมีเวลาว่างนิดหน่อยเลยหารือกับภรรยาเรื่องว่าวันนี้มิวมีซ้อมเรือใบอีกแล้วนะ และมันน่าจะเป็น “ลูกฟลุ๊ค” ครั้งที่ 3
   ครั้งที่ 1 คือการได้เรียนในระดับ Advance ซึ่งทางกองเรือยุทธการเพิ่งจะเปิดเป็นครั้งแรก และมิวกับเพื่อนอีก 3 คน ติดกลุ่มกับเขามาด้วย
   ครั้งที่ 2 คือการได้ไปแข่งครั้งแรกเป็นงานระดับอินเตอร์ชื่องาน Top of the gulf regatta 2013 ที่ Ocean marina พัทยา
   และล่าสุดก็คือครั้งนี้ มิวกับเพื่อนอีก 2 คน ติดกลุ่มให้เข้าไปฝึกเรือในหลักสูตรต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาเยาวชน ฝึกร่วมกับทีมชาติชุด A และ B จะเรียกว่ามิวคือชุด C ก็พอจะได้ เพราะอยู่ปลายแถวท้ายสุด แต่คนอื่นเขาเรียนกันมาหลายปี แต่มิวเพิ่งเรียนมาแค่ 17 วัน !!!
   ภรรยาได้ฟังก็เข้าใจ บอกให้มิวไปได้เลย ผมตกใจสิ ไม่ได้ตั้งตัวอะไรสักนิด เลยรีบเรียกมิวให้ไปจัดกระเป๋าไปสัตหีบกันอีกครั้ง
   มิวดีใจมาก ลิงโลดสุดๆ ตาเป็นประกายปิ๊งๆ
   ผมไม่เคยจัดข้าวของแบบเร่งด่วนอย่างนี้มาก่อน แต่ก็ไม่ยาก เพราะไปที่เดิม บรรยากาศแบบเดิมๆ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนสถานที่เรียนจากสมาคมเรือใบกองเรือยุทธการ ไปเป็นที่สมาคมเรือใบ อยู่ห่างกันราว 1.5 กม บนชายหาดเดียวกัน แต่บรรยากาศมันคนละเรื่องเลยครับ ที่กองเรือยุทธการบรรยากาศจะธรรมชาติสุดๆ สถานที่สวยงาม มีหาดทราย มีร่มเงาไม้ แต่ที่สมาคมเรือใบนั้นตรงข้ามเลย ไม่มีชายหาด ไม่มีต้นหญ้า ไม่มีหาดทราย มีต้นตาลสูงโด่อยู่ไม่กี่ต้น แบบแทบจะพึ่งพาร่มเงาไม่ได้
   แต่ที่นี่คือฐานของพวกนักกีฬาทีมชาติครับ เขาฝึกกันอย่างจริงจัง จะมาทำเป็นเล่นเหยาะแหยะไม่ได้อีกแล้ว ที่นี่ครูจะฝึกแบบนักกีฬา เล่นเรือเป็นงานแข่งที่ต้องชนะ ชิงไหวชิงพริบ ครูฝึกก็มือระดับเทพชื่อ “ครูตึ๋ง” เป็นพี่ชายแท้ๆ ของ “ครูวัฒน์” ลูกสาวครูตึ่งนี่แชมโลกเรือใบแบบ Optimist ครับ
   แชมป์โลกเลยนะ แต่ไม่เคยได้ยินข่าวสักแอะ เด็กไทยเก่งเรือใบมากมายตั้งหลายคน รู้กันเองในท้องถิ่น คนนอกวงการไม่เคยล่วงรู้ นักข่าวไม่เคยติดตามกีฬาเรือใบ มันไม่ฮิตไง ลองมีดาราดังมาเล่นสิ    
   ก็เหมือนพวกดริฟท์ล่ะนะ ยุคผมเล่นกันไม่กี่คน คนดังยุคนั้นก็มี “ปั๊ปปิ Jun ” และ “เล็ก Project M” คนอื่นเขาต้องมีนามสกุลเท่ๆ ต่อท้าย ส่วนผมไปกับรถธนูไฟ คนเลยเรียก โอเปิ้ล ธนูไฟ เย้ๆ กูมีนามสกุลกับเขาแล้วโว๊ย
   ดริฟท์แรกๆ นี่คนด่าว่าปัญญาอ่อน เขามีแต่ขับกริปกัน นี่มาทำรถให้มันลื่นไถล ติงต๊องป่าว อะไรทำนองนี้ แต่พอมีดาราและคนดังมาเล่นเท่านั้นแหละ มึงเอ๋ย ไอ้ที่ว่าปัญญาอ่อนแม่งกลับบอก “เหี้ยย เท่สาด เจ๋งโคตรๆ” ฯลฯ ถึงตอนนี้ก็สรรหาสารพัดคำชมมาให้กันล่ะ เหี้ยยยย พลิกลิ้นกันง่ายเหมือนนักการเมืองเลย
   เอาล่ะ ไม่ว่ากัน ผมคิดก่อนทำก่อนมาหลายเรื่องแล้ว ดริฟท์ก็ก่อนชาวบ้าน จักรยานขี่มานานหลายปีมาก จะมีอะไรอีกล่ะ ช่วงนี้จักรยานฮอทฮิตจริงๆ พี่เขยผมเอง ยุมาหลายปีก็ขี่เล่นแต่ในบ้าน มาตอนนี้ไปขีที่ราบ 11 เสียแล้ว เจ๋งจริงๆ เลยครับ
   ออกทะเลอีกแล้ว กลับเข้ามาเรื่องเรือใบต่อ เอ๊ะ เรื่องเรือใบก็ต้องออกทะเลสิวะ ฮ่าๆ
   เอารถพ่อไปครับ เติมน้ำมันที่ปั๊มบางจากใกล้โรงเรียนมิว พนักงานเติมไปได้ 200 กว่าบาท ผมตะโกนทันที
   “หยุดๆ ๆ ไม่ได้เอาเงินมา”
   ตัวเลขหยุดที่ 260 มิวทำหน้าตกใจมาก ผมเลื่อนรถไปจอดที่ร้านกาแฟ โทรถามพ่อให้เอากระเป๋าเงินมาให้ โชคดีพ่ออยู่บ้านครับ ไม่งั้นคงต้องนั่งรถเมล์ไปเอง
   จะเร่งรีบกลับกลายเป็นยิ่งเชื่องช้า บนทางด่วนก็รถติด เลยใช้ถนนวงแหวนที่ไปเชื่อมตรงบางนาแทน พอได้เหมือนกัน เห็นมานานเป็นปี เพิ่งได้ใช้วันนี้เอง จากนั้นก็อัดตรงยาวถึงสัตหีบ ถึงที่โน่นเอาตอน 0230 ให้มิวแต่งตัวทาครีมกันแดดตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว ถึงปุ๊บก็โดดลงทันที
   มาสายเป็นคนสุดท้าย ก็เหลือเรือลำเก่าๆ โทรมๆ ใบเรือก็สภาพพอๆ กัน แต่ไม่เป็นไร เราฝีมืออ่อนสุดในกลุ่ม มันก็ไม่มีสิทธิมาบ่นอะไรหรอก
   ลงน้ำเอาตอน 0300 ทันเวลาแบบฉิวเฉียด ลากเรือลงน้ำเป็นลำสุดท้าย ทางลาดของที่สมาคมเรือใบแห่งนี้มีตะไคร่จับจนลื่นครับ ผมเกือบล้มไปหลายครั้ง ส่วนมิวลื่นพรวดเดียวก้นกระแทกพื้นเลย รองเท้ามันลื่นด้วยน่ะ เราใช้รองเท้าแบบ Croc แต่เป็นของจีนห่วยๆ แต่มือโปรใช้รองเท้าเรือใบอย่างดี ก็จะไม่ลื่น
   ส่งเด็กลงน้ำเสร็จผู้ใหญ่ก็นั่งคุยกัน พี่โบ๊ทใจดีจองห้องพักให้ผมไว้ล่วงหน้า ขอบคุณจากใจเลย พี่คนนี้เจอหน้ากันมาหลายปี ไม่เคยคุยกัน ได้แต่ส่งยิ้ม เพิ่งจะมาสนิทกันก็ตอนลูกเรียนเรือใบช่วง 7 วันหลังนี่เอง ตอน 10 วันแรกก็ยังห่างๆ หน่อยนะ เพราะผมพักแยกต่างหากกับพวกเด็กกลุ่มใหญ่เขา คือพอจะนึกภาพของความวุ่นวายออก ก็เลยปลีกตัวออกมาก่อนแล้ว
   สถานที่และสภาพแวดล้อมของสมาคมนี่ดูไม่ดีเอาเสียเลย ไม่มีที่ให้นั่งสบายๆ สักแห่ง บรรยากาศแบบแห้งแล้ง ไม่มีหาดทราย จะดูลูกนี่ต้องอาศัยร่มเงาของต้นตาล ซึงมันมีอยู่นิดเดียว
   ช่วงเย็นเริ่มมีเมฆมาก ความร้อนลดลงหน่อย เลยนั่งที่ม้าหินริมทะเลคุยกัน แหม ทำยังกะมาปิกนิก ลูกขึ้นจากน้ำเอาเกือบจะ 0500 ล้างเรือ เก็บเรือ เก็บใบ เบ็ดเสร็จก็ 0600 ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว
   นัดกินข้าวเย็นกันที่ตลาดที่ร้าน “โจ๊กปลาทะเล” ผมตั้งชื่อเองแหละ เป็นร้านขายอาหาร ที่มีตู้ปลาทะเลอยู่ด้านใน ร้านนี้โจ๊กอร่อยมาก เด็กติดใจกันทุกคน
   มิวขอให้พาไปซื้อนาฬิกากันน้ำ เขาต้องใช้ตอนเล่นเรือใบ ผมพาไปซื้อที่ร้านภัณฑุของทหารเรือ ภัณฑุนี่คือร้านขายของเบ็ดเตล็ด ของกิน ของใช้ อะไรพวกนี้แหละ ขายในค่ายทหารเลยราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นนาฬิกาโนเนมนะ แต่กันน้ำได้จริง ราคาเรือนละ 500 บาท แต่ถ้าซื้อที่อาคารห้องพักศูนย์สมุทรกีฬาจะเหลือเรือนละ 450 บาท
   กะเข้าไปซื้อแค่นาฬิกา แต่ด้านในมันใหญ่โตมาก เหมือนซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ มองภายนอกไม่รู้เลยสักนิด เลยได้พวกข้าวของเครืองใช้กลับมาเยอะ มันถูกกว่าในห้างทั่วไปอีกด้วย และจะยิ่งถูกมากขึ้นเมื่อเทียบกับร้าน 7-11
   รีบขับรถไปร้านโจ๊กปลาทะเล เจอพรรคพวกนั่งกินกันอิ่มเกือบจะหมดทุกคนแล้ว มิวกับผมรีบสั่งโจ๊กหมูใส่ไข่มากินคนละชาม ซัดโจ๊กเสร็จก็ไปต่อที่ร้านน้ำเต้าหู้ขาประจำของเราที่อยู่ใกล้ๆ กัน
   ร้านน้ำเต้าหู้รถเข็น มีโต๊ะรองรับลูกค้า 2 โต๊ะ พวกเรานั่งกันเต็ม กินเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าที่พัก ผมพักที่ศูนย์สมุทรกีฬาที่เป็นห้องพักของนักกีฬาติดกับสมาคมเรือใบเลย แต่ที่เหลือเขาไปพักกันที่ Sea Paradise ที่อยู่ถนนใหญ่
   อาบน้ำเสร็จแป๊บเดียวมิวหลับปุ๋ย ผมอาบทีหลังเดินออกมาเห็นมิวนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้แค่ 0830 เอง ผมเปิดไอ้แป๊ดเช็คข่าวสาร อีกสักพักก็หลับตามกันไป แม้จะไม่ได้ลงเล่นน้ำ แต่ก็เพลียแดดไม่แพ้เด็กๆ เลย
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:24:30 pm
19 พค 56
   ตื่นแต่เช้า ขับรถไปตลาดซื้อข้าวผัดอเมริกันให้มิวตามสั่ง แต่วันนี้ร้านเขาปิด เลยเอาข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ทอด และหมูย่างข้าวเหนียวมาให้มิวเลือก สรุปแล้วมิวกินหมูย่างครับ ข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ รสชาติไม่เอาไหน ซื้อในร้านค้าในตลาดสดครับ จำไว้ๆ
   เช้าเบิกเรือ ติดตั้งเสา ตรวจเช็คสภาพและปรับใบ จากนั้นก็รอบรีฟ เด็กบางคนรู้หน้าที่ดี เช่นพวกทีมชาติชุด A นี่ ทำงานกันเร็วมาก แป๊บเดียวลงน้ำไปแล้ว ส่วนทีม B และพวกมิวนั่นเขาฝึกด้วยกัน
   เด็กๆ เข้าบรีฟตอน 1000 ลงมาอีกทีก็ 1130 โน่นเลย พวกเราก็นั่งรอกันไปสิ มีเวลาว่างเยอะนะ แต่มันหมดไปกับการนั่งรอลูกตลอด คือเราไม่รู้ตารางของเขาไงครับว่าจะมีกำหนดการอย่างไรบ้าง
   เด็กวิ่งกรูกันลงมาจากห้องประชุม บอกว่าให้กินข้าวได้เลย ลงน้ำตอน 1230 มีเวลาแค่ 1 ชม ก็จัดกันแถวๆ นั้นเลยครับ เด็กบางคนที่พ่อไม่ไม่ได้มาด้วยก็ไปซื้อข้าวของกินจากร้านภัณฑุ บ้างก็กินอาหารตามสั่งแบบจานเดียที่ร้าน “เรือนไม้ชายน้ำ” ที่อยู่ติดกับสมาคมฯนี่แหละ
   เลยบอกพรรคพวกว่าลองร้านนี้ดูบ้างไหม มันใกล้สุดแล้วนะ แต่ที่ผ่านมาพวกเราไม่เคยลองเลย แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ อาหารรสชาติดีใช้ได้ ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวจานละ 35 บาท ราคาไม่โหดร้ายสำหรับเด็กครับ มิน่าเล่า พวกเด็กชุด A รุ่นเก่าๆ มานั่งกินกันเพียบเลย
   1230 เด็กเริ่มจับขยับเรือ ผมแม่งเตรียมเปียกอีกแล้ว ใส่หมวก ใส่ถุงแขนกันแดด สวมแว่น ใส่ผ้าคลุมหน้า จัดแม่งเต็มยศจนลูกจำไม่ได้ แต่วันนี้พวกเด็กโตมาช่วยเด็กเล็กนำเรือลงน้ำ ครูคงจะสั่งมา เพราะพวกเขาอยู่กันครบถ้วนหน้าเลย พอเด็กๆ ลงน้ำหมด พวกเขาก็ลงน้ำตาม แต่แป๊บเดียวก็ไปทันกันในทะเลแล้ว
   พอเด็กไปแล้ว ผู้ใหญ่ก็มองหน้ากัน จะไปสิงที่ไหนกันดี ที่นี่บรรยากาศแม่งแย่เหลือเกิน ผมชอบที่กองเรือยุทธการมากกว่า (ตัวย่อ กร) ที่นั่นมีหาดทรายสวย ต้นสนร่มรื่น ในตัวอาคารแม้จะเก่าโทรม แต่ก็สะอาด ดีกว่าที่สมาคมเรือใบเยอะเลย
   มีพี่น้องของเด็กบางคนที่ไม่ได้เข้าคอร์สเรือใบก็มาเช่าเรือเล่นเอง พ่อแม่ถ้าเล่นไม่เป็นก็เช่าเรือแล้วให้ครูสอนเล่นแบบตัวต่อตัวได้ แป๊บเดียวก็เล่นเป็นแล้ว ส่วนผมอยากจะลงด้วยเหมือนกันนะ แต่ติดที่ต้องขับรถกลับตอนเย็น กลัวเล่นเรือแล้วจะยิ่งเพลีย ผมยิ่งไม่ชอบขับรถกลับตอนค่ำอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ขับรถแล้วกลัวง่วงครับ เพราะสิบกว่าปีมานี้พาลูกเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำทุกวัน จนตัวเองติด พอค่ำหน่อยก็หาวหวอดๆ เสียแล้ว
   นังคุยกันกับกลุ่มผู้ปกครองนี่แหละครับ สาระหลักๆ คือเรื่องเกี่ยวกับลูก แน่ล่ะ ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าล้วนเลี้ยงลูกเอง มันก็ดีตรงที่เราจะเข้าใจกันได้ง่ายกว่าพวกที่จ้างคนมาเลี้ยง
   เด็กๆ กลับเข้าฝั่งกันราว 0400 ล้างเรือ เก็บเสา เก็บไบ เก็บหางเสือ อาบน้ำ ทุกอย่างเสร็จสิ้นเอาตอน 0500 ผมรีบบอกมิวให้รีบกลับ เพราะต้องใช้เวลาราว 3 ชม ในการขับรถแน่ๆ เย็นวันอาทิตย์รถติดอยู่แล้ว แถมเราอยู่สัตหีบ มันต้องผ่านพัทยาซึ่งเป็นจุดรถติดแบบถาวร
   อยากหาของกินให้มิว แต่ก็ไม่อยากแวะนาน ตัดสินใจเข้าพัทยากลางไปกินที่ร้านแม่ศรีเรือน ร้านเก่าแก่มาก ผมกินตั้งแต่ชามละ 3 บาท สมัยก่อนอยู่ฝังตรงข้ามเป็นเพิงเล็กๆ ทุกวันนี้เป็นตึกใหญ่ตกแต่งสวยหรูจอดรถสะดวกสบายที่ลานใหญ่ด้านหลัง ล่าสุดชามละ 45 บาทแล้วครับ รีบกิน รีบกลับ แต่รถมันติดไง ไปได้แบบไหลๆ พักใหญ่โน่นถึงจะได้ออกถนนใหญ่และเข้ามอเตอร์เวย์
   มิวกลัวผมหลับครับ เลยนวดๆ ให้เกือบตลอดทาง ไม่ยอมหลับ บอกว่ากลัวผมขับรถชน โชคดีจริงๆ ที่เอารถพ่อมา มันเร็ว แรง และประหยัดไปในตัว คือขับช้าก็ได้ประหยัด กดสุดๆ แม่งแรงจริงๆ เครืองยนต์ดีเซลสมัยใหม่นี่แรงบิดสูงมากๆ
   มาถึงบ้านเอาตอน 0830 เหนื่อยครับ ไม่ชอบขับรถดึกๆ เลย ไฟริมทางดับไปหลายช่วง รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ นี่ขนาดถนนหลักจากพัทยาเข้ากรุงเทพฯนะนี่ ถ้าเป็นถนนอื่นจะขนาดไหน ยังดีที่ถนนดีตลอดทาง ถ้าเจอพวกทำถนนอยู่รถจะยิ่งติดเอามากๆ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:27:34 pm
20 พค 56 เปิดเทอม ป6
   เปิดเทอมแล้วจ้า เช้าไปส่งมิว แต่ก็เกริ่นๆ บอกว่าอีกหน่อยจะต้องฝึกหัดนั่งรถเมล์มาเองนะ เพราะลูกโตแล้ว ค่อยๆ ฝึกหัดการใช้ชีวิตทีละนิดละหน่อย ช่วงฝึกแรกๆ อยากให้นั่งรถเมล์คันใหญ่ๆ นี่ก่อน คนคล่องแล้วค่อยนั่งพวกรถสองแถวได้ 
   ถึงที่ทำงานวันแรก เปิดประเดิมด้วยการยกของในโกดังเต็มเพียบรถกระบะ ร้อน เหนื่อย ไม่บ่นหรอก แต่มันยกเยอะ ยกหนักจนหลังเจ็บถาวรไปแล้วไง นี่แหละปัญหาหลัก เลยต้องนั่งลงย่อต่ำสุดๆ แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับสินค้าในมือ ทำแบบนี้ทุกครั้ง โห แม่งเมื่อยขามากเลย
   ทาครีมกันแดดไว้บนใบหน้ามันก็เยิ้มหยดย้อย น่ารำคาญเลยเอาแขนเสื้อปาดออกซะ มิน่าเล่า เสื้อหลายตัวแขนเสื้อมีรอยด่างๆ จากครีมกันแดดนี่เอง
   เย็นไปรับมิว ไปแบบโทรมๆ แต่พอเห็นเด็กๆ นักเรียนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาก็ดีใจนะ คิดถึงพวกเขาทุกคนเลย
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:34:33 pm
21 พค  56
   เฮ้ย เดจาวู เช้านี้ยกของอีกแล้ว จัดเต็มเพียบท่วมรถกระบะเหมือนเดิมเป๊ะ ให้คนงานมาช่วย 1 คน ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ยกไปก็คิดพลางไปว่า นี่เราจะต้องยกจนถึงเมื่อไหร่หรือ หลายปีก่อนคิดว่าคงจะยกจนถึงวันที่หลังเจ็บ แต่เปล่าเลย หลังเจ็บแล้วเอ็งก็ยังคงต้องยกต่อไป โอ้ พระพุทธ
   คิดแล้วพอสรุปคร่าวๆ ได้ว่า คงต้องยกกันจนตายไปข้าง มันคงเป็นแบบนี้แหละ ไม่ได้ประชด ไม่ได้เว่อร์
   กลางวันรีบออกจากที่ทำงานกลับบ้านมาเอารถพ่อไปเข้าศูนย์ที่พระราม 2 อันที่จริงผมจะซื้อรถที่ศูนย์นี่อยู่แล้วล่ะครับ อุตส่าห์ไปด้อมๆ มองๆ รถหลายครั้ง มาแล้วไม่เจอรถก็กลับไป (รุ่นนี้บางทีเขาไม่มีจอดโชว์) จนมาวันโชคดีเจอรถจอดอยู่ เลยขอเขาดูอย่างใกล้ชิด เซลล์ก็พรีเซนต์รถเต็มที่ ผมก็สนใจมาก ก็ต้องหาข้อมูลให้มากสุดแล้วมาบอกพ่อต่อ ถ้าพ่อสนใจ ก็ค่อยพาพ่อมาดู
   เซลล์บริการเต็มที่เลย อยากรู้ระบบอะไรจัดให้หมด รถคันนี้มันไฮเทค มีระบบเบรกเองอัตโนมัติ มีระบบเตือนเมื่อเราขับคร่อมเลน ซึ่งจะคล้ายกับคนที่หลับใน สนุกมากครับ น่าจะขับแล้วไม่ค่อยเบื่อดี ระบบที่ชอบสุดคือ Adaptive Cruise Control มันเจ๋งตรงที่สามารถล็อคตามรถคันหน้าไว้ รถเรามันจะรักษาระยะห่างเองอัตโนมัติ เรียกว่าหากขับตามท้ายคันหน้าไปเรื่อยๆ แค่ถือพวงมาลัยเฉยๆ ยังไงก็ไม่มีวันชน (ยกเว้นคันหน้าแกล้งกดเบรกกระทันหันจนรถหยุดนิ่งอย่างเร็ว) 
   นั่งคุยกันในรถกว่า 30 นาที เซลล์บอกว่าจะจองเลยไหมครับ ผมตอบว่าเดี๋ยวจะพาพ่อมาดูรถเองอีกครั้งหนึง
   เซลล์ได้ยินปุ๊บ แม่งเดินฉีกหนีหายไปเลย กลายเป็นคนละคนกับตอนที่บริการเราตะกี้ งงสิ อ้าว เฮ้ย ยังไม่จองทันที โกรธผมเลยหรือนี่
   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานแล้ว จนทำให้ผมต้องพาพ่อไปซื้อรถในงานมอเตอร์โชว์แทน ได้ซื้อตัวร้านที่อยู่นครปฐมโน่นแน่ะ ทั้งๆ ที่ร้านแถวบ้านพระราม 2 ใกล้ๆ แค่นี้เองก็มีรถเหมือนกัน ราคาก็เท่ากัน น่าแปลกชะมัด
   รถพ่อเช็คระยะ 20000 กม ครับ คันนี้ผมแทบไม่ได้แตะสักนิด ผมขับไม่กี่ครั้งเอง ก่อนเข้าศูนย์ก็เลยต้องถามพ่อว่ารถมีอาการใดผิดปกติบ้างไหม จะได้แจ้งซ่อม
   ไปถึงศูนย์ 0100 เป๊ะ เจ้าหน้าที่ชื่อ “หนุ่ย” บอกใช้เวลา 3-4 ชม เซอร์วิสครั้งนี้มีเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง โอริง กรองแอร์ น้ำมันเบรก แล้วก็อัปเดทซอฟแวร์
   จำได้ไหมครับผมเคยเล่าแล้วว่าไอ้รถคันนี้มีกล่องแบบ Module อยู่ราว 15 กล่อง แม่งจะเยอะไปไหนวะนี่ วันนี้อัปเดทไป 3 กล่องครับ เกี่ยวกับระบบกรองอากาศแอร์ กล่องอีเลคโทรนิคส่วนกลาง และกล่องข้อมูลคนขับ (กล่องแม่งเยอะจัดกว่าที่คิด)
   ศูนย์นี้มีของให้ลูกค้ากินเยอะดีครับ จากประสบการณ์ศูนย์อื่นๆ ก็มีแค่ชากาแฟ น้ำเปล่า ลูกอม แต่ที่นี่มีเคาเตอร์บาร์ขนาดใหญ่ ด้านหลังมีมาม่าคัพหลายแบบ เลย์ ซันไบท์ คัพเค๊กและเค๊กกล้วยหอมของ S&P แครกเกอร์เกรดดีปานกลาง ในตู้เย็นมีน้ำเปล่าบรรจุขวดเล็ก 330 cc น้ำอัดลมขวดแก้ว และมินิทเมด
   นั่งเพลินๆ ก็จัดมันทีละอย่างครับ เล่นซะเกือบครบเลย ยกเว้นมาม่า ชา กาแฟ นี่ไม่เอาเลย นอกนั้นพอได้ มีทีวีให้ดู 2 จอ จอแรกโฆษณาของรถเขาเองทั้งหมด อีกจอเปิดสารคดี Geographic Channal ขากลับบ้านแอบจิ๊กเลย์มา 1 ซอง เอาไปฝากมิว
   ตอนนี้แหละที่เปิดไอ้แป๊ดเป็นเพื่อน นั่งอยู่นี่ 4 ชม แบบเพลินๆ เลยนะ เดินดูรถบ้าง ของแต่งรถบ้าง ดูนานๆ มีเคลิ้มครับ แต่แม่งแพงสัตว์ เลยเคลิ้มยาก ชุดแต่งปลายท่อไอเสีย 6 หมื่นบาท
   ศูนย์นี้ดีตรงที่อยู่ใกล้โรงเรียนมิว จะเดินไปก็ราว 500 เมตร อ้อ ทำรถเสร็จเขาล้างให้ด้วยนะ ไม่ได้ล้างลวกๆ เหมือนที่อื่น เขาเคลือบเงาให้ด้วย ผมไม่รู้ว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร แต่มันสะอาดและผิวรถลื่นๆ กว่าที่ผมล้างเองเสียอีก ดีๆ ชอบๆ
   กะเวลาได้ตรงเป๊ะ รับรถตอน 0500 แล้วก็เลยไปรับมิวพอดี เข้าศูนย์ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ ฟรีทุกอย่าง 5 ปี หลังจากนั้นก็มาลุ้นกันว่าชะตาชีวิตจะเป็นอย่างไร
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:36:41 pm
22 พค 56
   ขี่จักรยานแบบขำขำยามเช้า วนไปได้หน่อยเดียว เจอภรรยายืนอยู่หน้าบ้าน ฝากไปซื้อขนมปังมาทำอาหารให้ลูกหน่อย ได้เลย จัดไป รีบขี่ไป 7-11 แป๊บเดียวถึงครับ แต่แล้วก็นึกถึงเพื่อนๆ ในเวปจักรยานที่บอกระวังรถหาย
   เอาแล้วสิมึง มาตัวเปล่าสดๆ ไม่มีสายล็อคอะไรสักอย่าง ทำไงดีๆ ตอนเช้าแบบนี้ไม่น่ามีโจรนะ ยังไม่ 0600 เลย พวกโจรคงจะยังไม่ตื่น เพราะพวกนี้เขาทำงานดึกครับ ตื่นสายเป็นเรื่องธรรมดา
   รีบเข้าไปหาซื้อ รีบออกมา รอดโจร แต่ไม่ได้ขนมปังมานะ มันหมด ฮ่วย
   เอาไงดี เช้าๆ แบบนี้จะหาซื้อขนมปังได้จากที่ไหนอีกนะ ขีเลยไปอีกนิดเจอป้ายรถเมล์ บริเวณนั้นมีร้านค้ากลุ่มหนึง ขายชุดอาหารตักบาตร หมูย่างข้าวเหนียว ดอกไม้สด หนังสือพิมพ์ ฯลฯ แล้วก็เจอซุ้มขายแซนวิชของฟาร์มเฮ้าส์
   คุยกับเขาตรงๆ ว่าขอซื้อแค่ขนมปังเปล่าๆ ได้ไหม เอามาทำอาหารให้ลูกกิน ขอแบ่งเขามา 4 แผ่น คิด 10 บาท เย้ๆ แล้วก็รีบขี่กลับบ้านทันที
   ยังพอมีเวลาขี่เล่นต่ออีกนิดหน่อย ก่อนที่จะกินอาหารเช้าคือกระเพราเต้าหู้ ไข่ต้ม สายๆ ก็ไปส่งลูกเข้าเรียน ส่วนผมผจญรถติดอย่างหนักต่อ เช้านี้ต้องเข้าไปที่ทำงานครับ
   เช้านี้โชคดี ไม่ต้องไปยกของในโกดัง ผมนี่โคตรจะดีใจเลย เจอมาสองวันติดนี่หลังแย่มาก อยู่ร้านจนถึงบ่ายก็กลับเข้ามาบ้าน เพิ่งจะได้เปิดคอมในรอบหลายวัน สิ่งแรกที่ทำคือเช็คเมลล์ครับ ตามด้วยเข้าเฟซบุ๊คติดตามข่าว เพิ่งรู้ว่าหนังสือจักรยานที่ผมเขียนให้กับเขาใกล้จะเปิดตัวแล้ว แต่ดันไปเปิดที่สวนรถไฟตอนเย็น ผมอยากไปร่วมงานนะ แต่ติดต้องดูแลลูกนี่สิ
   เจอข้อความฝากไว้แบบนี้ครับ เล่นเอางง อิอิ 
Hello,.......My name
is rose,i saw your profile.... ...... today and became
intrested in you,..... ......i will also like to know
you the more,...... .....and i want you to send an email
to my.... ..... email address so i can give you my......
.....picture for you to know whom i am.....
   ท้ายด้วยทิ้งอีเมลล์ไว้อย่างดี ไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ไม่อยากหลงเชื่อ ใครจะมาหลงใหลเราได้ง่ายขนาดนั้น
   พอมีเวลาว่างถึงได้มาพิมพ์เล่าไดอารี่ชีวิตซึ่งตอนนี้ชีวิตผมแม่งโคตรจะไร้ค่าเลย หาสาระอะไรไม่ได้สักอย่าง รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้วไอ้อาการคนไร้ค่านี่น่ะ มันบอกไม่ถูกนะ มันหมดความภูมิใจในตัวเองไปอย่างมาก
   เริ่มจากที่บ้านนี่ไม่มีใครเห็นด้วยกับความคิดผมเลยแม้แต่อย่างเดียว ในขณะที่คนอื่นๆ ที่ไม่รู้จัก คำตอบของผมกลับกลายเป็นการชี้ทางสว่างให้กับเขา โอ้ แม่งช่างตรงกันข้ามกันแบบคนละภพ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:39:44 pm
23 พค 56
   ยกของอีกแล้ว ยกแม่งเข้าไป ยกยังไงก็ไม่มีวันจบสิ้น บ้านเราเป็นร้านขายของ ก็ต้องมีแต่ของให้ยก แต่ยกเยอะๆ แล้วหลังมันเจ็บ อืมม ค่อยๆ ยกละกัน คิดบวกโคตรๆ แล้วนะนี่
   บ่ายไปซื้อตั๋วเครื่องบินแบบเร่งด่วน ไม่ได้หาข้อมูลอะไรไปเลยครับ เข้าไปถึงร้านก็บอกต้องการตั๋วไปสุราษฯ ร้านนี้ผมเคยใช้บริการมาแล้ว แต่ไม่บ่อย โดยมากจะเป็นการซื้อตั๋วแบบเร่งด่วน
   มาจองแบบเร่งด่วนอย่างนี้ เช็คราคากันแค่ไม่กี่ที่ก็จองได้เลย เริ่มจาก Air Asia สุดฮิต ตามมาด้วย Nok Air แล้วก็มาสะดุดที่นี่แหละ ตอนนี้ Nok มีโปรพอดี ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 800 บาท เลยรีบทำการจองให้ ทุกอย่างเรียบร้อยดี เสียค่าบริการไป 200 บาท
   ระหว่างทำการจองระบบก็ค้าง เจ้าหน้าที่บอกเป็นเรื่องปกติของช่งวมีโปร ก็ทำได้แค่รอ สักพักเขาก็ได้รับ SMS และเอารหัสนี้แหละไปกรอกในช่องพาสเวิร์ด เพื่อทำการออกตั๋ว เป็นอันเสร็พิธี
   เป็นการไปประชุมที่ฉุกละหุกมากครั้งหนึง แถมไม่ได้เที่ยวสักนิด และต้องเหนื่อยสุดๆ กับการรอคอยเวลาให้เครื่องบินออก เพราะออกแต่เช้า และกลับค่ำของอีกวัน
   ไม่เป็นไรครับ ยินดีทำเพื่อพ่อ เขาสั่งอะไรมาเราก็ทำโดยไม่ต้องมีคำถาม ตอนแรกคิดจะขับรถไป เห็นแค่ 663 กม ผมขับเรื่อยๆ น่าจะสัก 10 ชม กะจะแวะเก็บภาพ และดูสภาพเส้นทางด้วย ยังไงสักวันถ้าว่างต้องขี่จักรยานผ่านเส้นนี้แน่ๆ แต่ก็เปลี่ยนใจครับ ขาไปขอจะขับไหว แต่ขากลับกลัวจะง่วงนอนเสียก่อน
   ไม่ค่อยชอบหรอกนะแบบรีบไปรีบกลับ มันเสียโอกาสที่จะเปิดหูเปิดตาจริงๆ ผมชอบเขื่อนรัชประภามานาน จนมีโอกาสแต่ก็ไม่ได้แม้กระทั่งเห็น แทนที่จะได้งานเขียนกลับมาสักชิ้นก็ยังดี แต่นี่เปล่าเลย น่าเสียดายโอกาสจริงๆ
เย็นมิวขอโหลดเกมใส่ไอ้แป๊ด กลับมาบ้านปุ๊บอาการเด็กติดเกมก็ออกอีกครั้ง ผมไม่ได้ดุลูกมานานหลายเดือน วันนี้ตบะแตก โวยเข้าไปหนึ่งยก พอเขาเดินออกจากห้องไป ผมก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้น
   จิตใจของผมแม่งผิดปกติว่ะ หรือว่าวันนี้เครียดไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน ไอ้การจองน่ะไม่เครียดหรอก แต่กำหนดการและเวลาการเดินทางนี่สิแม่งโคตรจะไม่ต่อเนื่องเลย แถมวันกลับก็ต้องนั่งรอเครื่องบินออกอีกกว่า 4 ชม ไม่เห็นความสนุกสักนิด แต่ก็ทำครับ ทำเพื่อคนอื่น เขาใช้อะไรมาเราก็ทำไป อย่าไปมีปัญหา
   พรุ่งนี้วันหยุด ร้านผมหยุดด้วยครับ นานๆ ได้หยุดที แต่ใจไม่สนุกเสียแล้ว ไม่อยากจะไปไหนสักแห่ง
   อ้อ อยากอย่างเดียวคือหนีไปให้ไกลจากทุกสิ่ง ผมคิดแบบนี้จริงๆ
   คิดมานานแล้วด้วย แต่บางทีที่ชีวิตกระชุ่มกระชวยก็ค่อยๆ ลืมมันไป ทว่าหากเมื่อไหร่ที่จิตใจไม่สบายมันก็วกมาคิดเรื่องเดิมๆ นี้อีก
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:44:53 pm
24 พย 56 วิสาขะบูชา
   ตื่นเช้ามาแบบมึนๆ ไม่ได้มึนหัวนะ แต่มึนในความคิดของตัวเองที่นับวันคล้ายอาการคนสมองฝ่อ หมดแรงบันดาลใจ กลายเป็นคนไร้ค่า ไม่มีความภูมิใจให้ตัวเอง วันนี้ว่างนะ แต่ก็ไม่รู้จะไปไหนดี
   เดินไปเดินมาหน้าบ้าน ไม่ได้ออกขี่จักรยาน คือไม่รู้ไงว่าจะต้องพามิวไปเรียนพิเศษอีกไหม อย่างไร
   ถ้าไม่ติดเรียน วันนี้มิวต้องไปฝึกเรือใบที่สัตหีบ วันหยุดยาวก็ซัดมัน 3 วันเลย กลับอาทิตย์เย็นอีกเช่นเคย
   ตอนสายภรรยาพามิวไปเรียนซุปเคที่สยาม ผมถึงรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง เลยสั่งให้แม่บ้านทำอาหารเช้า จากนั้นก็ยังมึนงงนะ งงกับชีวิตัวเอง ทำไมมันช่างตกต่ำแบบนี้ ไม่โทษอะไรใครครับ อะไรมันเกิดก็ต้องโทษตัวเราเองอย่างเดียวนี่แหละ คนอื่นรอบข้างก็แค่องค์ประกอบ แล้วก็ได้คำตอบของชีวิตออกมาแบบง่ายๆ คือ
“ผมคงจะยังพยายามไม่มากพอ”
ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยแบบหายใจทิ้งจนถึงกลางวัน มิวเข้ามาบ้านพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ผมซัดแป๊บเดียวเกลี้ยง
   กลางวันเปิดทีวีเจอข่าวสะพานข้ามประเทศระหว่าง Seattle ไป Vancuver แคนาดา พัง !!! ตกใจครับ ผมเคยอยู่เมือง Seattle มาระยะหนึงสมัยหนุ่มๆ ดูแล้วก็คิดถึงเหมือนกัน ตอนอยู่ที่นั่นใช้รถ Toyota SR5 ก็หน้าตาเหมือน AE86 ที่ทาคุมิขับแหละครับ แต่มันเป็นตัวธรรมดา ไม่ได้ตัว A’Pex Tune
   บ่ายพี่โบ๊ทโทรมาหาจากสัตหีบ บอกว่าครูที่รับสั่งตัดชูชีพมาแล้ว จะให้ตัดเผื่อน้องมิวด้วยไหม ก็ตอบตกลงไป ทั้งๆ ที่ในใจคิดว่าไม่รู้จะได้ไปซ้อมเรืออีกครั้งเมื่อไหร่เลย น่าเศร้านะ เสียดายโอกาสจริงๆ เลย
   ตลอดวันนี้จิตใจผมไม่ปกติเลย รู้ตัวดี อาการก็คือความคิดไม่แล่น อยากอยู่คนเดียว หดหู่ เดินไปเดินมาก็หยิบของกินเข้าปากทั้งๆ ทีไม่หิวสักนิด เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด
   นั่งคิดวิเคราะห์ตัวเองแล้ว ผมว่าจะเป็นเหมือนโรคซึมเศร้า ไม่ต้องไปหาหมออะไรที่ไหน โรคเกิดจากความคิดและจิตใจ ก็ต้องแก้ไขด้วยใจ แก้ด้วยวิธีคิด ใจมันอยากได้อิสระ มันคงจะโหยหาอดีตที่แสนจะเสรี
   อยู่แบบนี้นานๆ เข้า เผลอๆ จะฆ่าตัวตายลาโลกเอาได้ง่ายๆ เลยเข้าใจพวกคนที่เขาคิดสั้นแล้วล่ะ พวกเขาอยู่คนเดียว เก็บความเศร้าไว้คนเดียว แต่ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ถึงขั้นนั้น ผมไม่ฆ่าตัวตายหรอก
   แต่ถ้าเก็บข้าวของแล้วออกเดินทางด้วยจักรยานแบบไร้จุดหมายนี่สิ ไม่แน่ ตั้งชื่อเรื่องเอาไว้แล้วด้วยนะว่า “เส้นชัยที่อยู่ข้างหลัง” ชื่อภาษาอังกฤษก็มีว่า The world is my playground
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:46:05 pm
25 พค 56
   เช้าวันเสาร์ เพื่อนมิวกลุ่มเรือใบยังคงฝึกซ้อมอย่างขะมักเขม้น ส่วนมิวไม่ได้ไปครับ เพราะผมต้องมาเฝ้าร้าน ลาหยุดมากเกินไปจนโดนตำหนิ ก็ลำบากใจนะที่ต้องทำเพื่อคนรอบข้างจนไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลยสักนิด
   ทำเพื่อลูก ทำเพื่อพ่อ ทำเพื่อแม่ ทำเพื่อภรรยา ผมพยายามทำตัวให้มีปัญหาน้อยๆ คือพูดน้อยๆ ใครสังอะไรมาก็ทำให้หมด ยากเย็นลำบากก็อดทนกันไป แต่ดูเหมือนว่ามันคงยังไม่พอ
   เย็นนี้มีงานเลี้ยงรุ่นของนักเรียนสวนกุหลาบ แต่เป็นเลี้ยงกันเองในห้อง ไปกันที่ร้านอาหารของเพื่อนนักเรียนด้วยกันนี่แหละ อยู่แถวรามคำแหง คนไปกันเยอะครับ และก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่ได้ไปร่วม
   เพราะต้องอยู่เฝ้าร้านขายของจนเลิก
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:49:04 pm
26 พค 56
   วางแผนไว้อย่างดีว่ายังไงก็จะออกไปขี่จักรยาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ที่คลาสสิคก็คือบางขุนเทียนชายทะเล ที่ร่มรื่นก็ต้องไปทางบางกระเจ้า
   จัดเตรียมชุดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ตื่นมาจะได้จัดซะ แต่ที่ไหนได้ มีพลิกผันอีกแล้ว
   เช้านี้ลูกไปเรียนพิเศษแต่เช้า เป็นห่วงเขากลัวไม่มีอะไรกิน เลยออกไปซื้อโจ๊กสยามที่แถวบางปะกอกมาให้ ซื้อฝากลูกและภรรยา ไปๆ มาๆ ก็เลยเผื่อตัวเองอีกถุง รีบกลับมาบ้าน จัดเทเตรียมให้ลูก ภรรยา ไหนๆ แล้วก็เลยนั่งกินด้วยซะ
   กินอิ่มอร่อยดี แต่แดดออกตั้งแต่ 0630 โอ้ แสบผิวแต่เช้า ถอดใจครับ เป็นอีกวันที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ทั้งๆ ที่ว่างแสนว่าง
   มิวเข้าโหมดจัดเต็ม เพราะปีหน้าต้องเตรียมสอบเข้ามัธยม 1 วันนี้ก็ต้องลาการซ้อมเรือใบไป 1 ครั้ง นี่วันหยุดยาว 3 วัน ที่เรือใบเขาก็ซ้อมกันเต็ม 3 วันเลยนะ ครูฝึกที่นี่สุดยอดจริงๆ เลย สอนเด็กเหมือนกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มีครูสองชุดครับ “ครูตึ๋ง” สอนทีมชาติชุด A และ “ครูชา” สอนทีม B และเด็กๆ กลุ่มมิว (บางคนเรียกว่าชุด C แต่ผมอาย ไม่กล้าเรียก)
   อยู่บ้านทุกวันมันก็แสนจะเบื่อนะ ไม่ได้ไปข้างนอกเปิดหูเปิดตาเลย สมองไม่แล่นครับ ขาดการกระตุ้นทางความคิดสร้างสรรค์
   ข้อดีของการอยู่บ้านมีเพียงข้อเดียวคือ “ประหยัดเงิน”
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:51:17 pm
27 พค 56
   ฝนตกกลางคืนมาหลายวันแล้ว ก็ดีนะ รู้สึกเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด นอนสบายขึ้น มิวเองก็บอกว่าชอบนอนตอนฝนตก เขาจะหลับได้สบาย
   เข้าสู่วงจรชีวิตเดิมๆ ไปส่งลูก ไปทำงาน เย็นก็ไปรับลูก และดูแลเขาจนเข้านอน จบวันแบบเรียบง่าย
   ช่วงนี้ผมเบื่อชีวิตอย่างเห็นได้ชัด ทำอะไรก็ไม่รู้สึกสนุกเลยสักนิด
   กลางวันมี SMS บอกว่าเบอร์โทรผมได้รางวัลเกือบจะหนึ่งแสนปอนด์ หึหึ ไอ้มุขแบบนี้มีหลอกเป็นระยะ สมัยก่อนหลอกแบบเด็กๆ คือให้เราจ่ายค่าภาษีก่อน พอโง่โอนให้เขาไปก็เสร็จโจร
   แต่ล่าสุดมันเนียนกว่านั้น มีคนมาส่งเอกสารถึงหน้าบ้านเลย บอกได้เงินรางวัล แต่ต้องจ่ายค่าอากรต่างๆ โดยรวมคือหลอกเอาเงินเราแหละ แต่พอมาคุยสดๆ แม่งเนียนไง ถือซองเช็คให้เห็นตรงหน้า มันได้ใจกว่า
   ผลก็คือหลายคนจ่ายค่าดำเนินการ ค่าภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าอะไรอีกสารพัดจะเรียก และสุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ คืออดแดก ไม่มีโชคแบบลาภลอยเข้ามาเหมือนฝัน
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 01:54:32 pm
28 พค 56
   เช้านี้ขี่จักรยานไปหาซื้อขนมปังให้มิวกิน แต่ไม่มีรุ่นที่เขาชอบ เลยเอาแบบผสมแครอทและลูกเกดมาแทน คิดเอาเองว่าพอจะแทนกันได้ แต่เปล่า มิวไม่กิน เซ็งจริงๆ
   รถ Nissan 180SX ของผมจอดทิ้งนานจนแบตหมด เครื่องชาร์จไฟที่บ้านก็มาพังพอดี ทำอะไรไม่ถูก เลยถอดแบตออกมาแล้วส่งไปชาร์จ ตอนบ่ายไปรับแบต กลับมาบ้านดีใจ อยากขับสุดๆ แล้ว แต่บิดกุญแจแล้วมันเงียบสนิท
   เฮ้ย เกิดไรขึ้น เขาไม่ได้ชาร์จให้เราหรือ แต่ก่อนออกจากร้านเขาก็วัดไฟให้ดูแล้วนะ ไฟไม่เต็มหรอก แต่มันก็ต้องมีไฟพอจะสตาร์ทได้แน่ๆ หรือว่าแบตมันเก็บไฟไม่อยู่แล้ว เสือกเป็นแบตโนเนมด้วยสิ ยี่ห้อ Spark เข็ดเลย ไม่เอาแล้ว เล่น Panasonic แบบเดิมดีกว่า จำได้ว่าแบตเดิมอยู่ได้ถึง 4 ปีกว่า สุดยอดมากๆ เลย
   พี่สาวกลับมาจากต่างประเทศ มาเยี่ยมบ้าน เลยนังคุยกัน อัปเดทชีวิตลูกเขา (หลานผม) คุยสัพเพเหระ แล้วก็วกมาเรื่องรถยนต์ ลูกคนโตใช้ Mini คนกลางใช้ Mercedes Benz A Class คนเล็กเพิ่งขับได้ ใช้ New Vios หึหึ
   ส่วนผมไม่ต้องพูดถึง ยังคงใช้ไอ้คันเก่านี้ไปอีกนาน ช่วงนี้เริ่มอยากได้รถใหม่แล้วนะ อยู่สัตหีบกับมิวหลายวันอยากได้รถเปิดประทุนมาขับ แต่ติดตรงไม่มีตังว่ะ ถึงมีก็ต้องเก็บไว้ให้ลูกเรียนก่อน ใจอยากบูรณะให้มันสภาพปิ๊งๆ ยังทำไม่ได้เลย เพราะรู้ว่าหากลงเงินไปก็ต้องจมอีกเยอะ
   ไปรับมิวตอนเย็น วันนี้ไม่โอ้เอ้ รีบกลับมาทำการบ้าน มิวดูมีความรับผิดชอบดีขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องบอก สักพัก “ปุ๋ย” โทรมาหา คนนี้เพื่อนเก่าแก่มากของผมเลย รู้จักกันตั้งแต่ตอนมัธยม 6 ตอนไปเรียนพิเศษที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วดันมาพบกันโดยบังเอิญอีกตอนเรียนมหาวิทยาลัย เจ๋งกว่านั้นอีกคือเรียนคณะเดียวกัน และสุดยอดไปเลยก็คือแสดงละครเวทีตอนปี 1 ด้วยกันอีกด้วย
    ปุ๋ยเพิ่งกลับมาไทย เลยโทรมาคุยด้วย แต่อยู่แค่ไม่นานก็ต้องกลับ คงไม่ได้พบกัน เลยโทรมาคุยแทน
   ปัจจุบันปุ๋ยอยู่ประเทศอังกฤษ แม้นานๆ จะพูดคุยกันสักครั้ง แต่เพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อนเสมอ และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on May 30, 2013, 02:00:14 pm
29 พค 56
   รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติมาหลายวัน มันเบื่อๆ ไม่อยากจะทำอะไร สมองไม่แล่น รู้สึกไม่สนุก ไม่ยินดียินร้ายกับทุกเรื่อง เบื่อและเหนื่อยหน่ายกับชีวิต
วันนี้ Nissan ไปทดสอบรถกันที่กัมพูชา เมื่อสัปดาห์ก่อน Mazda ก็จัด BT50 ไปพม่า
   กลับมาบ้านตอนบ่าย ตกใจ อ้าว ทำไมรถผมมีแบตฯแล้ว อ้อ พ่อจัดให้นี่เอง คงเห็นผมงมอยู่หลายวัน แบตเก่าก็ถอดไปชาร์จ ยกกลับมาก็ยังสตาร์ทไม่ติด ถึงขั้นงงว่าแบตมันเสื่อมสภาพได้เร็วขนาดนี้เลยหรือนี่ เป็นแบตโนเนมครับ ยี่ห้อ Spark สีม่วง จำฝังใจ เปลี่ยนแบตอันใหม่ผมจะเอายี่ห้อเดิมนี่แหละคือ Panasonic พ่อจัดให้ถูกใจครับ แต่แปลกที่เลือกเอารุ่นที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นมาให้
   เย็นรีบขับคันนี้ไปรับลูก ไม่ได้แตะมานาน นั่งลงแล้วรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า รู้สึกดีครับ แต่ขับแป๊บเดียวก็ถึงโรงเรียนลูกแล้ว ยังไม่ค่อยมันส์เท่าไหร่
   อยู่ที่โรงเรียนผมพูดคุยกับผู้ปกครองที่ลูกเขาจบไปแล้ว สอบถามถึงรายละเอียดขั้นตอนวิธีการต่างๆ ในการเลือกโรงเรียนใหม่ให้ลูก (มัธยม 1) และคุยกับเด็กๆ ที่ยังคงไปซ้อมเรือใบกันอยู่ 2 คือ คือ “พราว” และ “มอส” (แมมมอธ) มีมิวคนเดียวที่โดดการซ้อมไปจนไม่มีคะแนนซ้อมกับเขาเลย
   มิวเข้าใจเรื่องนี้ดี ผมบอกให้เขามุ่งมั่นกับการสอบที่จะเกิดขึ่นในอีก 8 เดือนข้างหน้านี้ก่อน หากเข้ามัธยม 1 ได้เรียบร้อยแล้ว เราจะมาลุยเรือใบกันอีกรอบ คราวนี้เอาให้สุดๆ ไปเลย
   สักพัก “พี่โบ๊ท” แม่ของมอส และ “พี่กันย์” แม่ของพราว ก็มาคุยด้วย ตอนนี้ครบองค์ประชุมพอดี เลยคุยกันอย่างออกรส ผมฝากจองที่พักของวันที่ 8-9 เดือนหน้าให้ด้วย เป็นงานแข่งชื่อ “ดงตาล คลาสสิค” เป็นงานแข่งเรือที่จัดโดยกองเรือยุทธการ สังกัดของพวกเราเอง แหม แบบนี้ไม่ไปร่วมได้ไงเล่า
   เย็นกลับมาบ้าน มิวรีบทำการบ้าน ส่วนผมเดินไปมา หาจิตนาการเพิ่ม
   แล้ววันนี้ผมก็เตรียมรถขี่สไตล์ใหม่ ในขณะที่คนอื่นเริ่มฮิตทัวริ่ง แต่ผมเขยิบไปอีกขั้นของ Expedition Bike
   ข่าวใหญ่วันนี้คือรถหรู BMW X6 / Lamborghini / Merc SLS โดนไฟไหม้ ขณะที่อยู่บนรถเทรลเลอร์ เฮ้ย งงสิ ไหม้ได้ไง รถจอดนิ่งๆ รถดับเครื่อง โคตรจะเมซิ่ง ผมสนใจและอยากติดตามข่าวนะ ไม่ได้สนใจว่ามันหรูหรือไม่หรอก แค่อยากรู้เพื่อเป็นกรณีศึกษาว่า “มันไหม้ได้อย่างไร”
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on June 02, 2013, 03:46:41 pm
30 พค 56
   เช้านี้ขี่จักรยานไป 30 นาที ขี่แถวบ้าน ปั่นช้าๆ เหมือนเดิม มันไม่ได้ออกแรง ออกกำลังกายอะไรสักนิด ไม่มีเหงื่อสักหยด ได้แค่ทำให้ก้นคุ้นชินกับการถูกกดทับนานๆ แต่ผลพลอยได้อีกอย่างก็คือความคิดลื่นไหลขึ้นหน่อยหนึ่ง
   เช้านี้มีข้าวกล้องสายพันธุ์ใหม่มาให้กิน ผมบอกที่บ้านว่าอย่ากินอะไรซ้ำๆ เดิม ให้หมุนเวียนเปลี่ยนไปบ้าง แม่เลยจัดข้าวกล้องสีน้ำตาลอ่อนมาให้ ของเดิมสีน้ำตาลเข้ม และกากแข็งมาก อันใหม่นี้นุ่มนวล นุ่มลิ้น กินง่ายกว่าเดิมเยอะ น่าจะเป็นข้าวสำหรับคนเริ่มต้นหัดกินข้าวแดง
   วันนี้เอา 180SX ออกไปซัด ขับสนุกมากๆ ไม่ได้เจอกันราว 2 เดือน เช้านี้ขับอย่างสนุกสนาน แม้มันจะไม่แรง ไม่ไฮเทคอะไร แต่ Handling นี่สุดยอด แถมมาเจอระบบเลี้ยว 4 ล้ออีก ถอยจอดเข้าซองหรือจะถอยจอดขนานทำได้ง่ายมาก ไม่ได้ขับมา 2 เดือน แต่พอมาจอดที่แคบๆ ก็ถอยได้ภายในเกียร์เดียว บ๊ะ สุดยอดว่ะ
   บ่ายเข้ามาบ้าน เพิ่งจะได้ฤกษ์เอาไดอารี่ชีวิตลงเวป ห่างเหินมาหลายวันมาก ช่วงนี้ผมจะออนไลน์น้อยลง ไม่อยากใช้คอมฯให้มิวเห็น ตอนอยู่ด้วยกันก็จะเล่น Uke บ้าง อ่านหนังสือบ้าง เขาจะได้เห็นภาพแบบนี้บ่อยๆ
   เย็นจัดเตรียมแพ็คกระเป๋าไปสุราษฯ เครื่องบินออก 0600 ไปถึงสุราษ 0700 จะเข้าห้องเช็คอินได้เลยหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากเอาจักรยานไป แต่ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย จึงค้างแค่คืนเดียว
   แต่ลังเลตรงเอากระเป๋าเดินทางใบเล็กมีล้อลากไป หรือจะเป็นแบบเป้ หรือจะกระเป๋าถือ
   รายละเอียดมันอยู่ตรงนี้ด้วยครับว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไรบ้างขณะอยู่ที่นั่น ถ้าต้องขี่จักรยาน เดิน ผมเลือกเป้หลัง ถ้าขึ้นรถลงรหยิบข้าวของจากกระเป๋าบ่อย ผมเลือกกระเป๋าถือ และถ้าจะเผื่อพื้นที่ใส่ของ ก็ต้องเป็นกระเป๋าล้อลาก
   คิดไปมาแล้วสรุปคือเอากระเป๋าถือไป ผมชอบหยิบข้าวของใช้บ่อยมาก เริ่มจากกระติกน้ำ หนังสือ ไอ้แป๊ด ฯลฯ
   ดูข่าวกลางคือ เครืองบินนกแอร์แบบ 737-800 ล้อหลุดตอนร่อนลงที่เชียงราย
   ไอ้ฉิบหาย ฤกษ์ดีจริงๆ พรุ่งนี้ผมบินนกแอร์ด้วยเครื่องแบบเดียวกันเป๊ะ
Title: Re: พค 56 3-7 Top of the gulf regatta 2013
Post by: O'Pern on June 02, 2013, 03:56:39 pm
31 พค 56
   ตื่นตี 3 ออกจากบ้านตี 4 ถึงสนามบินตี 5 เครื่องออกตี 6 ถึงสุราษฎร์ตี 7 ถึงโรมแรมตี 8
   กะไว้คร่าวๆ ราวๆ นี้ ไปถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่เคาเตอร์เขายังไม่เปิด พอเปิดให้เช็คก็เป็นเที่ยวบินไปหาดใหญ่ แต่ผู้คนแห่กรูกันไปต่อคิว ผมก็งงสิ ไม่เคยบินนกแอร์ ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร เราจะไปสุราษฎร์ฯ
   เลยเดินไปถามพนักงานซื่อๆ นี่แหละ
   “ผมจะไปสุราษฎร์น่ะครับ ไม่ทราบว่าจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่เปิดแถว หรือว่าผมสามารถเช็คอินได้จากจุดนี้ครับ”
   “ลูกค้ามีสัมภาระหรือเปล่าคะ”
   “ไม่มีครับ ผมถือขึ้นเครื่องใบนี้ใบเดียว”
   “ถ้างั้นก็เช็คอินจากจุดนี้ได้เลยค่ะ”
   รีบไปยืนต่อคิวเลย แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงกลางคนเดินลากกระเป๋ามาตัดหน้า ยกวางขึ้นชั่งน้ำหนักเรียบร้อย พนักงานเงยหน้ามาก็งง ไล่ไปต่อคิวท้ายแถว ฮ่าๆ ดีๆ มันต้องแบบนี้ ไอ้พวกชอบทำเป็นมึน
   ยื่น e ticket ให้ ตั๋วยุคใหม่ดูไม่มีค่าเลยนะ ต่างจากตั๋วยุคเก่าที่หน้าตาเหมือนสมุดเช็ค และยุคถัดมาก็ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เป็นกระดาษแข็ง แต่พอปัจจุบันแม่งเป็นแค่กระดาษ A4 ปริ๊นมาเองจากบ้าน
   พนักงานบอกว่าปกติผมจะต้องไปเช็คอินฝั่งตรงข้าม แต่ตอนนี้เคาเตอร์เขายังไม่เปิด เลยจะทำรายการจากจุดนี้ให้แทน ผมไม่มีสัมภาระฝากโหลด ก็เลยสะดวกหน่อย สอบถามเขาเรื่องการนำจักรยานไปด้วย พนักงานตอบว่า
   “สามารถนำเข้ามาทั้งคันได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ”    
   “เฮ้ยย นอกจากไม่ต้องแพ็คแล้ว ยังฟรีอีกด้วย เฮ้ย เหมือนฝันไป นกแอร์คงจะเป็นเพื่อนเราไปตลอดแล้วสินะ”
   เพราะขนาด Air Asia ยังต้องแพ็ค ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ถึงแม้ตั๋วของนกจะแพงกว่าหน่อย แต่ถ้ามันสะดวกขนาดนี้ ยังไงก็ยอมจ่ายครับ
   ข้อเสียของการแพ็คลงกล่องก็คือ พนักงานลากกระเป๋าเขาจะโยนกล่องของเราอย่างไม่ใยดี นี่คือที่มาของอาการล้อคด กล่องขาด เฟรมถลอก ตีนผีหัก ฯลฯ
   ในทางกลับกัน หากเป็นรถทั้งคัน มองเห็นอยู่ทนโท่ว่าเป็นจักรยาน เขาก็จะใช้วิธีเข็นไปพิง ไปจอดกองไว้กับกลุ่มสัมภาระชิ้นใหญ่
   อีกเหตุผลหลักที่ผมไม่ชอบแพ็ครถใส่กล่องก็คือ ตอนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ผมจะเอากล่องนั้นเก็บไว้ที่ไหน มันไม่มีที่ให้เก็บ ประเทศใหญ่ๆ เขาจะมีเคาเตอร์รับฝากของชิ้นใหญ่ แต่ก็ต้องโดนวันละประมาณ 10 USD จะไปขี่เล่นกี่วัน ขากลับถ้าจะมาเอากล่องก็ต้องจ่ายค่าฝากไอ้กล่องนี้ด้วย หึหึ ภาระชัดๆ สนามบินสุวรรณภูมิของไทยเราเองก็มีรับฝากนะ น่าจะคิดวันละ 100 บาทมั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกัน
   ผมไปแค่คืนเดียว เลยไม่ได้นำจักรยานไปด้วย แต่ทริปอินทนนท์ต้นปีหน้านี่สิ คงได้จัดแน่ๆ จองตั๋วตอนโปรแค่ 800 บาท จักรยานฟรี บิน 1 ชม ถึง ผมว่าแม่งถูกกว่ารถทัวร์ชั้นดีอีกนะนี่
   ผมว่าหากมีคนรู้ข้อมูบนี้ จำทำให้นกแอร์ก็เป็นสายการบินที่อยู่ในใจอันดับ 1 ของชาวจักยานได้ง่ายๆ
   ผมซื้อประกันภัยด้วยนะ เขาคิด 150 บาท แต่คงจะไม่ได้ประกันอุบัตเหตุอะไร คือต้องถึงฆาตน่ะ ถึงจะเคลมได้ ซื้อแบบสิ้นคิดนะ นึกในใจหากเราเป็นอะไรไป ก็ยังพอได้เงินประกันกลับคืนมาบ้าง เราไม่ได้ใช้ แต่คนข้างหลังเขาจำเป็น
   ไมได้มาเหยียบดอนเมืองหลายปีมาก ตั้งแต่มีสุวรรณภูมิแล้วผมก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย จนมาวันนี้แหละ ชอบครับ เพราะใกล้กว่า คนก็หนาแน่นน้อยกว่า มีสายการบินแค่ไม่กี่สายเอง ส่วนใหญ่จะในประเทศ
   ขั้นตอนพิธีการก็เดิมๆ ครับ เอาเอกสารที่เราจองตั๋วไปขอออกบัตรโดยสาร (Boarding Pass) แล้วก็ผ่านด่านตรวจวัตถุต้องสงสัย (ห้ามเอาของเหลวเกิน 100 cc เข้า) ขาไปผมมีน้ำ 1 ขวด เลยกินไปให้เหลือครึ่งขวด (250cc) ผมว่ามันน่าจะผ่านได้นะ ลองดู อยากลอง
   วางกระเป๋าบนสายพานเครื่องสแกน ส่วนตัวเราก็เดินผ่านซุ้มสแกน ผลคือผ่านทั้งคนทั้งของ
   แต่คราวหน้าไม่ต้องเอาน้ำมาก็ได้ ผ่านด่านนี้แล้วข้างในมี 7-11 ขนาดใหญ่ ข้าวของไม่แพงเลย พอๆ กับ 7-11 ปกติ มาจัดเอาในนี้ดีกว่าเยอะ ผมเลยซัดซาลาเปาไป 2 ลูก ขำขำ ไปถึงโน่นยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร หาของรองท้องไว้ก่อนดีกว่า
   จากจุดนี้ไปถึงประตูขึ้นเครื่องผมว่าไกลราว 500 เมตร หนุ่มสาวเดินสบาย คนแก่ก็พอไหว แต่ผมสงสารคุณลุงคุณป้าสองคนเดินถือของหนักมาก ลุงถือกระเป๋าสองใบ และสะพายเฉียงอีกอัน คุณป้าถือลังเบียร์ผูกเชือกจนตัวเอียง ไหล่อีกข้างสะพายกระเป๋าถือ เห็นแล้วรู้สึกไม่ดีเลย
   “คุณป้าครับ ให้ผมช่วยถือครับ” พูดพร้อมกับถือวิสาสะเอาเอง มือสอดเข้าไปใต้เชือกคล้องทันที
   คุณป้างง แต่ก็หันมายิ้ม บอกว่าขอบคุณมาก คุณลุงหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็พูดต่อ
   “ผมช่วยถือให้ลุงอีกใบครับ”
   กระเป๋าใบใหญ่ของผมสะพายเฉียง มือซ้ายถือลังเบียร์ผูกเชือก (แม่งเจ็บมือมากๆ เลย) มือขวาถือกระเป๋าให้ลุง (หนักพอๆ กับลังเบียร์)
   เดินไปคุยกันไป ไม่อยากให้เงียบ ลุงป้าจะไประนอง เป็นคนท้องถิ่นที่นั่น เดินไปส่งจนถึงที่นั่งพักขึ้นเครื่อง คุยกันเล็กน้อย เชิญชวนให้ผมไปเที่ยวระนองบ้าง ผมตอบตกลงรับปาก แล้วก็แยกจากกัน
   ว่างครับ เวลาเหลือเยอะ ถ้าออกนอกบ้านแล้วชีวิตผมมักเป็นแบบนี้แหละ เจอใครที่ไหนก็ต้องช่วยเหลือเขาร่ำไป เมื่อก่อนตอนหนุ่มๆ นี่ไปต่างจังหวัดคนเดียวก็ช่วยจอดเปลี่ยนยางให้รถไปหลายคัน ไอ้พวกจั๊มแบตฯนี่ก็หลายครั้ง หรือเดินถนนเจอนักท่องเที่ยวกางแผนที่ ก็เข้าไปบอกทางได้เลย ไม่ต้องรอให้เขาถามหรอก เขาน่ะอยากถาม แต่ไม่รู้ว่าคนไทยคนไหนพูดภาษาเขาได้บ้าง ก็เลยลังเล ใจเขาใจเราครับ มีไมตรีก็หยิบยื่นให้ก่อนไปเลย รับไม่รับก็อีกเรื่อง
   ผมมีความรู้ความสามารถด้านนี้ ก็ใช้ให้มันเต็มที่ ใครเก่งหรือถนัดด้านไหน ก็ใช้มันไปอย่างนั้น นี่แหละ จะทำให้สังคมเราน่าอยู่ รู้กันหรือเปล่าว่าปีนี้กรุงเทพฯเราได้รับโหวดให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกแล้วนะ (ปีก่อนอยู่อันดับ 3) จากหนังสืออะไรสักอย่างของฝรัง    
   เพราะไม่มีประเทศไหนแสดงน้ำใจให้การช่วยเหลือกันเหมือนคนไทยครับ นี่คือเอกลักษณ์ของเรา ใช่!!! หมายถึงผมและคุณด้วย คุณๆ ก็มีน้ำใจด้วยกันทั้งนั้น แต่บางคนจะไม่กล้าแสดงออก อายบ้าง เขินบ้าง ปัดโธ่ ทำความดี มีอายด้วย
   มันต้องภูมิใจสิ อย่างผมตอนวางของให้ลุงป้าแล้วเดินย้อนกลับมาด้วยความอิ่มเอิบ เช้านี้กูได้ประเดิมฤกษ์ดีแห่งการเดินทางแล้ว แม้มันจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เถอะ
   เครื่องออกตรงเวลาเป๊ะ ไปถึงประตูทางออกสัก 30 นาทีกำลังดีครับ เผื่อเกิดเหตุมันจะออกก่อนเวลา มีนะครับ ไม่ใช่ไม่มี
   เครื่องไปสุราษฯ ใช้ 737-800 แบบเดียวกับที่ล้อหลุดที่เชียงรายเลย ฮ่าๆ ขึ้นเครื่องปุ๊บก็แจกน้ำดื่ม และขนมปังชิ้นเท่าฝ่ามือของ Aunty Anne กินเสร็จก็เข็นของมาขาย แป๊บเดียวเครื่องก็ลดระดับเตรียมลง
   ผมนั่งริมหน้าต่าง มองเห็นวิวตลอดทาง เฮ้ย เห็นตลอดทางที่เครื่องบินผ่าน เห็นบ้านตัวเอง ไล่ลงใต้มาทางพระราม 2 อ่าวไทย เห็นหัวหิน ประจวบ มาจนถึงพวกหมู่เกาะต่างๆ จนถึงชายฝั่งสุราษฯ แจ๋วไปเลย
   ลงเครื่องปุ๊บก็เดินตัวปลิวออกไปได้เลย เราไม่มีกระเป๋าที่โหลดใต้ท้อง จากจุดนี้ต้องหาทางเข้าเมืองครับ วิธีที่ถูกสุดคือนั่งรถของบริษัทพันทิพย์ ค่ารถคนละ 100 บาท เป็นรถแบบมินิบัส ไปลงที่สุดสายในเมือง จุดนี้เรียกว่า “ตลาดเกษตร” ใช้เวลาราว 45 นาทีจากสนามบิน
   ลงท่ารถ ผมก็สอบถามหารถไปโรงแรมที่พักชื่อ K Park มีคนพาเดินไปขึ้นรถฝังตรงข้าม เรียกผมให้นั่งด้านหน้าที่เล็กแคบมาก แต่ให้ฝรั่งสองคนนั่งด้านหลังกว้างๆ ชักเอะใจ สอบถามค่ารถ
   “คิด 100 บาทครับ”
   โห ผมหาข้อมูลมามันต้องแค่ 20-30 เองนี่หว่า หรือว่าเราโดนซะแล้ว
   “ผมไม่ค่อยมีเงินครับพี่ มีรถที่ไปถูกกว่านี้ไหมครับ”
   เขาบอกให้ผมไปหารถข้างนอกเอาเอง ชีโบ้ยๆ ไปข้างหน้าโน่น แน่ล่ะ ผมรีบเปิดประตูชิ้งหนีอย่างเร็ว
   เดินข้ามถนนกลับไปฝั่งตลาดเกษตร ยืนรอที่ป้ายรถเมล์ แป๊บเดียวไอ้รถแบบเดียวกับที่ไล่ผมมาก็มาจอดเทียบ ผมบอกจะไปโรงแรม K Park เขาบอกให้ขึ้นมาได้ แต่ยังระแวง เลยถามราคา
   “30 บาทครับ เดี๋ยวไปส่งให้ถึงโรงแรมเลย”
   โอเค เคลียร์ ชัดเจน จัดไป วิ่งไปขึ้นท้ายรถอย่างว่าง่าย ในรถมีเด็กนักเรียน 2 คน รถแบบนี้เขาวิ่งวนรอบเมือง ในเส้นทางคิดเงิน 10 บาท แต่ไปส่งผมเขาบอกต้องวิ่งออกนอกเส้นทาง เอ้า ไม่เป็นไร เล็กๆ น้อยๆ แบ่งกันกิน ยังดีกว่าไอ้คันแรกที่จะเอาผมตั้ง 100 เดาว่าหลอกฝรั่งไปส่งที่ท่าเรือ แล้วมันผ่านจุดที่ผมจะต้องไป ก็เลยหลอกแดกผมอีกคน
   ถึงโรงแรม 0900 ตรงเข้าไปเช็คอิน ต้นสังกัดจองไว้ให้แล้ว น่าแปลกที่คนอื่นๆ เขาพักห้องคู่ มีผมคนเดียวที่เขาให้พักห้องเดี่ยวคนเดียว
   พักชั้น 4 ห้อง 416 เป็นห้องแบบเตียงใหญ่เตียงเดียว นอนสบายครับ ห้องกว้าง สะอาด อุปกรณ์มาตรฐานครบ แต่ทีวีมีช่องน้อยไปหน่อย เจอแม่บ้านผ่านมา ผมขอน้ำเปล่าเขาเพิ่มอีก 2 ขวด
   เข้าห้องพักปุ๊บ อย่างแรกที่ต้องทำคือเช็คความเรียบร้อย อันดับ 1 คือแอร์ เปิดแล้วเย็นดีไหม ถ้าผิดปกติก็แจ้งซ่อมหรือเปลี่ยนห้องซะ ผลคือห้องนี้โอเคดีหมดทุกอย่าง แอร์เย็น น้ำไหล ไฟดี ทีวีติด
   เข้าห้องได้แป๊บเดียว คิดถึงจักรยานเลยว่ะ นี่ถ้ามีรถมานะ คงจะขี่มาตั้งแต่สนามบินละ ขี่เอาของมาเช็คอิน แล้วก็คงตระเวนขี่เที่ยวลัดเลาะแม่น้ำตาปี หาร้านในตำนานกิน โอ๊ย แค่คิดก็สุขแล้ว
   แต่เข็ดกับการโดนหลอกเรื่องค่ารถ เลยหวาดระแวง กูจะโดนอะไรอีกไหมวะนี่ ตื่นตั้งแต่ตี 3 เจอแอร์เย็นๆ เตียงนุ่มๆ ฮ่าๆ นอนพักดีกว่าเรา แค่นอนเล่นนะ ไม่หลับหรอก
   ฉุกคิดขึ้นได้ โทรหา “จอย” ดีกว่า เขาเป็นรุ่นน้องอยู่สุราษนี้เอง เกริ่นเขาสองสามวันว่าจะมาหา คุยกันมาหลายปีนะ ไม่เคยเจอกันเลย พบกันในเวปพวกนักเดินทาง ตอนนั้นกำลังหาคนร่วมทริปไปคินาบาลู ผมสนสิ เลยส่งชื่อไป จึงได้รู้จักกัน
   เฮ้ย โทรติด แต่เขาไม่รับสายว่ะ อ๊ะ ไม่เป็นไร คงจะเช้าเกินไป เราโทรไปแล้ว มีชื่อขึ้นแล้ว เดี๋ยวเขาว่างคงจะโทรกลับมาเอง
   นั่งดูทีวีไป นอนพักไป รอจอยโทรกลับมา เอ๊ะ ใกล้เที่ยงแล้วว่ะ ทำไมไม่โทรมาสักที ผมเป็นคนไม่ชอบตามครับ โทรหาทีเดียวพอ เกรงใจเขาด้วย คิดไปพลางว่า เขาคงจะติดธุระ ไม่ว่าง มีงานด่วน หรืออะไรสักอย่าง
   รอจนบ่าย จอยคงไม่โทรกลับมาแล้วแน่ๆ หิวว่ะ หาของกินดีกว่า ไม่มีจักรยานก็ต้องใช้เดินล่ะวะ แล้วก็พบว่าทำเลของโรงแรมแม่งช่างกันดารจริงๆ เลย ขนาดหา 7-11 ใกล้ๆ ก็ยังไม่มี ละแวกใกล้เคียงที่มองเห็นก็มีแต่พวกอู่ซ่อมรถ ร้านทำกันสาด ร้านค้าใกล้ๆ ก็มีแบบมินิมาร์ทเล็กๆ น่าแปลกที่มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็กด้วย ร้านชื่อดังย่านฝั่งธนฯ มาถึงนี่เชียวหรือ เดินปรี่เข้าไป ตกใจเลย ร้านคนแน่นโคตร ถอยฉากออกมา หาที่นั่งไม่ได้
   เดินเลียบเลาะรอบโรงแรมก็มาเจอร้านขายก๋วยเตี๋ยวแบบถูกๆ ขายพวกคนงานน่ะ ผมชินกับร้านแนวนี้ครับ ตอนทำงานส่งของก็จอดกินกันข้างทางแบบนี้แหละ นี่ขนาดมาประชุมยังต้องกินแบบนี้อีกหรือนี่ สุดยอดจริงๆ เลยมึง
   จัดไปครับ บะหมี่ต้มยำ ชามละ 35 บาท รสชาติพอได้ แดดร้อนแรงจัดจนไม่อยากเดินไปไหนต่อ เพราะรอบข้างมันกันดาร คิดจะเข้าเมืองก็ไม่รู้ไปจุดไหนดี มึน ตั้งหลักไม่ถูก เพราะตอนแรกจอยบอกจะพาเที่ยว เลยไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาสักนิด
   แวะซื้อของกินจุกจิกขึ้นห้องพักหลบร้อน ยังแอบหวังว่าบ่ายๆ จอยคงจะโทรมา ช่วงเช้าคงไปธุระ แต่เปล่าเลย ผมแม่งคิดไปเองคนเดียว จอยไม่โทรมา แถมมีฝนตกอีกด้วย พระเจ้า ทำเอากูไม่ต้องไปไหนกันเลย เสียเวลาอยู่นิ่งๆ ในห้องตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
   บ่ายเอาขนมมากิน เลยงดมื้อเย็นครับ เป็นคนนอนหัวค่ำอยู่แล้ว แถมเพลียจากการตื่นเช้า เข้านอนตั้งแต่ยังไม่สามทุ่ม ชิงหลับก่อน เพราะอยู่ดึกๆ จะต้องหิวชัวร์ แล้วจะมาเดือดร้อนเพราะหาของกินไม่ได้