racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on December 03, 2012, 03:53:01 pm

Title: ธค 55
Post by: O'Pern on December 03, 2012, 03:53:01 pm
1 ธค 55
   เดือนสุดท้ายของปีแล้ว น้ำหนักที่ตั้งเป้าว่าจะลดสัก 4 กก เป็นอันว่าแม่งเท่าเดิมเป๊ะ ทำได้แค่ประคองไม่ให้มันเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ลองสังเกตดูแล้วพบว่าสภาพจิตใจของผมมีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างมาก
   เช้านี้มิวมีเรียนพิเศษที่โรงเรียนเสริมวิชา อยู่ใกล้ร้านขายของ ตอนเลิกมิวเลยเดินกลับมาเองได้ แต่ก็ไม่วายชอบแวะ 7-11 หาซื้อน้ำปั่นที่เรียกแบบหรูๆ ว่า “สเลอปี้” มันก็คือโค๊กปั่นแบบไม่ซ่า
   เรียกว่าปั่นนี่มันฟังดูไม่หรูจริงๆ เลยนะ ยุคนี้หากอยากจะอัปเกรดตัวเอง ต้องหาคำเท่ๆ มาเรียกแทน ตอนเด็กผมกินมะนาวปั่น ส้มปั่น กล้วยปั่น ก็บอกกันไปตรงๆ มายุคนี้ต้องพูด “สมูทตี้” ยิ่งถ้าสั่งในร้านกาแฟไฮโซต้องใช้คำเรียกอีกแบบหนึ่ง ผมจำไม่ได้ว่าอะไร
   บ่ายมิวไปเรียนคุมองต่อ ผมใช้เวลาขณะคอยเขาไปเข้าธนาคาร วันนี้ต้นเดือนด้วย คนแน่นสุดๆ ผมใช้กดบัตรแบบทางด่วนเลยได้แซงคิวชาวบ้านเขาโดยอัตโนมัติ ตอนยืนเข้าคิวรับบริการก็มีชายคนข้างๆ ถามพนักงานว่า จู่ๆ ทำไมหมายเลยถึงเรียกเบอร์อื่นแซงหน้าเขาไป เจ้าหน้าที่ตอบว่าเป็นบริการพิเศษของลูกค้าบัตรเครดิต
   ผมเองก็อายนะที่กดคิวแล้วบัตรมันแสดงเลขแซงหน้าคนอื่นเขา แต่ระบบมันจัดการให้เองนะ จึงกดบัตรแบบทางด่วนพิเศษนี้เฉพาะวันที่คนแน่นมากๆ ถ้าไปสาขาที่คนน้อยๆ ผมก็กดบัตรแบบปกติเหมือนชาวบ้านเขา รอนิดรอหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผม
   เสร็จธุระก็เปิดไอ้แพดหาสัญญาณ wifi ดูดโปรแกรมมาเล่นเหมือนเคย ความจุเครื่องมี 16G ตอนแรกคิดว่าเยอะ ใช้งานจริงแป๊บเดียวเต็มแล้ว เลยต้องลบเกม โปรแกรมที่ไม่ค่อยถูกใจออกบ้าง วันนี้ได้มาอีกสิบกว่าโปรแกรม (เกม)
   กลับถึงบ้านมิวเล่นเกม ผมจัดการถ่ายน้ำอ่างปลา เจ้าปลาพวกนี้ชอบน้ำใหม่สดสะอาด หากมีเวลาเยอะ ถ่ายยิ่งบ่อย ยิ่งดีครับ แต่ไม่ต้องถ่ายกันแบบล้างอ่างละ ถ่ายน้ำแค่ 50% ก็ใช้ได้แล้ว
   จากประสบการณ์พบว่าปลาที่เปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยจะโตเร็ว แข็งแรง ปลาที่อยู่กันอย่างแออัดก็จะโตช้า ตัวเล็ก
   ช่วงนี้ฝนตกตลอด นั่นคือทางเหนือของเราเริ่มเย็นแล้ว แต่ทางกรุงเทพฯยังรู้สึกงั้นๆ อยู่เลย
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 03, 2012, 03:54:07 pm
2 ธค 55
   เตรียมชุดจักรยานเอาไว้ตั้งแต่หัวค่ำ ไม่ได้เจาะจงหรอกว่าจะไปไหน แค่เผื่อๆ ไว้ ไม่อยากเปิดตู้ค้นหาตอนเช้า เกรงใจลูกและภรรยาที่เขายั้งไม่ตื่น บ้านหนังนี้เก่าแก่ครับ มีตู้เสื้อผ้าอยู่ในห้องนอน แต่ถ้าเป็นที่คอนโดของผม ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ในห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็ค้นหาเสื้อผ้าใส่ได้ทันที
   เช้านี้ตื่นสายหน่อย หกโมงเช้าแน่ะ ตื่นมาแบบงงๆ เอ จะไปไหนดีน้า ตอนแรกตั้งใจจะไปลุยทางบางน้ำผึ้ง เพราะได้ลายแทงแผนที่มาจากในงาน a day bike fest แต่เห็นอากาศเย็นสบายเลยนึกถึงป่าชายเลนแถวพระราม 2 จุดที่ผมชอบที่สุด
   ขณะกำลังคิดอยู่มิวลงมาจากบ้านบอกว่าอาม่าชวนไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จะไปด้วยไหม บ๊ะ เข้าท่าว่ะ กะจะเอารถ KHS F20-W ไป ขากลับจะได้พับแล้วใส่ท้ายรถได้
   เดินหาสายยางยืดมารัดรถอยู่นาน เตรียมผ้าหนาๆ ไปอีก 2 ผืน เอาไว้กันชิ้นส่วนรถกระทบกัน เพราะไอ้คันนี้มันใช้การพับท่อคอด้วยวิธีการ “ถอด-สวม” ไม่ได้พับด้วยบานพับเหมือนรถพับทั่วไป นี่คือจุดอ่อนอันใหญ่หลวงของรถคันนี้ และกับข้อดีคือความสวยเพรียวตอนไม่ได้พับ
   ไปรถเปล่าก็ใส่ของไม่ถนัดสิ ต้องย้ายกระเป๋าจากรถ KHS HT มาด้วย จะได้พกของใช้จำเป็นไปได้ เช่นสูบ ชุดปะ ยางอะไหล่ เงิน แว่นตา โทรศัพท์ ฯลฯ
   แทนที่จะได้ออกจากบ้านเร็วๆ กลายเป็นโอ้เอ้เสียนาน แดดเริ่มออกแรง เองไงดีวะ แดดแรงแล้วขี่ไม่สนุกนะ สักพักแม่ลงมาบอกว่าจะออกจากบ้านตอน 0800 นะ
   อืม พอกำหนดเวลาออกมาแล้วเลยตัดสินใจได้ว่าไม่ต้องไปมันแล้วล่ะ ขี่เล่นแถวบ้านแบบเดิมดีกว่า แต่จำได้ว่ามีเส้นทางใหม่แถวบ้านอีกฟากถนน ผมไม่เคยไปขี่มาก่อน เพราะต้องยกข้ามสะพานลอยที่ข้ามถนนพระราม 2 แต่เช้านี้ว่างๆ เลยขอจัดสักหน่อย
   ตัดสินใจไป “ตลาดน้ำวัดไทร” ครับ ตลาดน้ำเก่าแก่ของชาวฝั่งธน ผมเคยไปสมัยเด็กๆ เกินสิบปีมาแล้ว วันนี้เห็นแผนที่ในหนังสือรวมเส้นทางจักรยานแล้วอยากขี่ไปจริงๆ มันห่างจากบ้านผมแค่ 5 กม เท่านั้นเอง ใกล้สุดๆ แบบไม่น่าเชื่อ
   ปกติตลาดน้ำวัดไทรนี่เราจะต้องเข้าทางถนนเอกชัย ซึ่งเป็นถนนเก่า แคบ ยิ่งความเจริญขยายเข้าไป แต่ถนนมีขนาดเท่าเดิม รถก็เลยติดมากทั้งตอนเช้าเย็น แต่ในแผนที่ทางจักรยานมันบอกว่าผมสามารถเข้าทางซอยพระราม2 30 ได้ เฮ้ย ไม่ไกล ต้องลอง
   ลำบากนิดตรงต้องขี่ขึ้นสะพานกลับรถแบบเกือกม้า (เช้านี้รถน้อย เลยขึ้นได้ง่าย) ลงแล้วก็ถึงปากซอยเลยครับ ขี่ตรงตลอดราว 5 กม ถึง โอ้ ง่ายสุดๆ แต่ช่วง 100 เมตรหลังนี่ต้องเข็นนะ เป็นทางเดินแคบๆ ขนาดมอเตอร์ไซค์ยังไม่อยากเข้า
   ลำบากสุดก็ตอนยกข้ามสะพานนี่แหละครับ ขาไปสะพานชันมาก สิบกว่าขั้น ถ้าเป็นรถที่ใส่ Panniers มาก็ลำบากหน่อย ถึงตรงนี้ผมเห็นถึงความยากลำบากหากลากรถพ่วงหลังแบบ Trailer หรือพวก Xtrawheel ทันที
   บรรยากาศเป็นตลาดริมน้ำ ไม่มีใครขายของในเรือนะ ตลาดอยู่บนบกหมดแล้ว ร้านค้าแบบเก่าแก่ เก๋ากึก แต่ไม่ถึงกับตลาดแบบย้อนยุคนะ ไปตลาดไหนๆ ก็ต้องเจอแผงขาย CD ซองใส่มือถือ เสือผ้า ถุงเท้า รองเท้าแตะ ฯลฯ
   ผมสิไปตลาดไหนก็จะเน้นแต่ของกิน วันนี้ผ่านเห็นหมี่กรอบกำลังทำสดๆ เลยจัดมา 1 กล่อง 25 บาท นึกถึงตอนขี่ไปอัมพวาเมื่อปีก่อน ผมก็ซื้อหมี่กรอบมาฝากพนักงานร้าน Probike ไม่รู้สิ ไม่ได้สนิทอะไรกันนักหนาหรอกนะ แค่นึกถึงก็เลยเอามาฝาก นึกถึง คุณอานที” น่ะครับ ระยะหลังไม่ได้เจอนานมาก ยุคแรกที่ผมขี่ MTB ยังเจออานทีพาลูกค้าออกขี่ที่อ่างเก็บน้ำโป่งดินดำ ใกล้สวนสัตว์เขาเขียว ชลบุรี จนตอนนั้นเรียกกันว่าสนาม Probike กันเลย
   ใช้เวลาจากบ้านมานี่แค่สิบกว่านาที เร็วสุดๆ แต่บรรยากาศของตลาดไม่ค่อยสวยครับ หากขับรถยนต์มาจะจอดยาก เลี้ยวเข้าซอยวัดไทรมาก็เจอร้านค้าขายของริมสองข้างทางแล้ว ต้องขับเข้ามาแบบแคบๆ ราว 300 เมตรถึงจะเลี้ยวเข้าที่จอดรถในวัดได้ แต่ก็ต้องฝ่าด่านร้านค้าอีกเยอะกว่าจะจอดได้ แนะนำขี่จักรยานมาดีกว่า ข้าวของเยอะดี แต่ไม่มีที่นั่งกินนะ ซื้อแล้วเอากลับบ้านน่ะใช่เลย คอนเสปเขาเป็นแบบนี้ เพราะตลาดเริ่มกันตั้งแต่ตี 5 จนถึงราว 10 โมง สายๆ ตลาดวาย ปิดร้านกันหมด เรียกว่าเป็นตลาดเช้าละกัน อย่าเรียกตลาดน้ำเลย แม้จะอยู่ริมน้ำก็เถอะ
   วันแรกที่มาเยือนนี้มีเวลาน้อย ต้องรีบกลับ เลยขี่แบบผ่านๆ ลวกๆ ไม่ได้เจาะจงว่ามีร้านค้าไหนน่าสนใจบ้าง ไว้อาทิตย์ไหนว่างๆ จะลองมาแต่เช้าเลย น่าจะได้อารมณ์ดี ผมอยากนั่งเล่นริมน้ำ ไม่ต้องนั่งกินอะไรด้วยนะ แค่นั่งเฉยๆ ผมก็มีความสุขของผมได้แล้ว
   รีบขี่กลับบ้านให้ทัน 0800 ตามเวลานัดหมาย ทำเวลาได้ดีเกินคาด ใช้เวลาแค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว ขี่แค่ 5 กม แต่เหงื่อซ่กเลยนะ ไม่ได้อัดเต็มตีน แต่แดดร้อนต่างหาก
   ถึงบ้านก็ล้างหน้าล้างตา และออกเดินทางไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งต่อ ขับรถพาพ่อแม่ไปด้วยครับ เลยเรียกว่าเป็นวันครอบครัว รถพ่อคันนี่วิ่งไป 10000 กม แล้ว ต้องเข้าศูนย์เช็คระยะครั้งที่ 1 แล้ว ต้นอาทิตย์หน้าผมต้องเป็นคนรับหน้าที่นี้
   จากบ้านไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเป็นระยะทาง 15 กม ครับ ไปบ่อยมากแล้ว ขับสบาย จอดง่าย ข้าวของเยอะ อร่อย บรรยากาศดีมากๆ มันอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการนะ เรียกว่ามาต่างจังหวัดก็ได้
   ผม ภรรยา และลูก กินกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำร้านเดิม ส่วนพ่อแม่ชอบซื้อของจุกจิกตามทางเดิน แล้วเอามานั่งกินที่สวนด้านหลัง นี่แสดงให้เห็นถึงสไตล์ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
   กินเสร็จก็ซื้อของเต็มสองมือกลับบ้าน ของผมมีข้าวเกรียบว่าว ขนมน้ำดอกไม้ มะม่วงกวน ภรรยาซื้อขนมหม้อแกง ข้าวต้มน้ำวุ้น นางเล็ด พ่อชอบข้าวเหนียวปิ้ง แม่ชอบอาหารโบราณหากินยาก เลือกปลาแนม ข้าวตังเมี่ยงลาว ส่วนมิวไม่ชอบกินขนม นี่คือข้อดีของเขา มิวจัดไอติมโบราณ 1 แท่ง และโกโก้เย็นอีกแก้วเดียว
   กลับมาบ้านพักผ่อนกันต่อ ผมจัดการกับลูกปลาเช่นเคย คนอื่นแยกย้ายกันไปหมด มิวขอเล่นสตีฟจ๊อบ จัดไปเลยลูก เรียนพิเศษมาเยอะแล้ว หากการเล่นคือการพักผ่อนของลูกก็โอเค
   ภรรยาลงมาคุยด้วย ถามผมว่ารู้จักครูสอนพิเศษชื่อ “ซุปเค” ไหม
   ผมทำหน้างง คนบ้าอะไรวะชื่อซุปเค ไม่รู้จักหรอก ได้ยินชื่อแล้วก็ยังไม่อยากรู้จักเลย
   ภรรยาเลยแนะนำว่าเขาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์แนวใหม่ สอนสนุก มีเทคนิคการจำใหม่ๆ สอนแล้วเด็กชอบ เข้าใจง่าย เรียนสนุก ไม่น่าเบื่อ
   อ้าว แล้วลูกเรามันมีปัญหาอะไรกับคณิตศาสตร์หรือ ก็เรียนคุมองอยู่แล้วมิใช่หรือ
   ต้องเท้าความกันหน่อย ภรรยามาจากแนวเด็กเรียน เรียนเก่งแบบได้เกียรตินิยม ส่วนผมเรียนแบบเกือบตกมาตลอด วิชาที่ได้คะแนนเต็มคือพวกมีภาคปฏิบัติเยอะๆ และวิชาที่ผมสนใจมากๆ เท่านั้น
   เขาก็อยากให้ลูกเรียนเก่ง เพราะปัจจุบันลูกเรียนได้กลางๆ แม้ไม่อ่อน แต่ก็ยังไม่เก่ง ตีโจทย์ผิดๆ ถูกๆ
   ส่วนผมเรียนด้วยอารมณ์ ทำอะไรแล้วใจต้องรัก ถ้าทำแล้วเหมือนโดนบังคับ อย่าทำเสียดีกว่า
   วันนี้เจอครูคณิตศาสตร์ก็ถูกใจ เกิดวันหน้าเจอครูภาษาไทย ชีวะ ฟิสิกส์ ฯลฯ แล้วอย่างนี้ลูกมิต้องเรียนพิเศษกันหัวโตเลยหรือ
   คำตอบก็คือ “ใช่” ตอนเด็กภรรยาเรียนพิเศษเสาร์ อาทิตย์แบบเต็มวัน
   เอาล่ะสิมึง สองคน สองคม มาคนละแนวเลย แล้วทำไงกับลูกดี
   ทางออกคือคุยกันเปิดเผยครับ ตรงไปตรงมา ภรรยาผมดีสุดยอดตรงที่เปิดใจรับฟังผมหมดทุกอย่าง อยู่ด้วยกันมาจนลูกอาย 11 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้งเดียว
   ภรรยาอยากให้ลูกเก่ง ผมเข้าใจ ผมอยากให้ลูกใช้ชีวิตสบายๆ ภรรยาก็เข้าใจ
   เลยถามสตีฟจ๊อบ หาข้อมูล “ซุปเค” คนบ้าอะไรวะ ชื่อซุปเค
   ได้ข้อมูลมาระดับหนึ่ง เลยโทรสอบถามรายละเอียด สำนักงานใหญ่อยู่สีลมนี่เอง ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก ข้ามสะพานสาทรแป๊บเดียวถึง มีทดลองเรียนฟรีด้วย แถมวันนี้ว่างๆ พรุ่งนี้ลูกก็ปิดเทอม ก็เลยลองไปดูกัน
   ไปถึงภรรยาก็ซักพนักงานอย่างละเอียด มีมิวนั่งฟังชีวิตตัวเองใกล้ๆ ส่วนผมเปิดสตีฟจ๊อบหาร้านอาหารในละแวกนั้น
   ผมยกให้การตัดสินใจของลูกเป็นสำคัญครับ พ่อแม่มีหน้าที่หาข้อมูลมาให้ ส่วนเขาเป็นคนเลือกทางเดินชีวิตเอง ผมให้เกียรติเขาในทุกๆ เรื่อง วันนี้ก็เช่นกัน
   “ลองไปเรียนดูลูก ชอบก็เรียนต่อ ไม่ชอบก็เดินออกมา” ผมชอบคุยตรงๆ ชัดเจน ไม่ต้องถามซ้ำ
   คอร์สหนึงใช้เวลา 2.30 ชม การเรียนจะเป็ดนการเปิดไฟล์ในคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนฟังและจดตามเอาเอง
   ผมกับภรรยานั่งรออยู่ห้องโถงด้านล่าง ผมพูดคุยติดแซวเล่นว่า แป๊บเดียวมิวคงเดินลงมาแน่ๆ
   แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ มิววิ่งยิ้มหน้าระรื่นลงมาหลังจากเรียนไปแค่ 45 นาที แต่คำตอบที่รับจากปากเขาทำให้ผมผิดคาด
   “สนุกดี ผมชอบ ลาออกจากวรรณสว่างจิตมาเรียนที่นี่แทนได้ไหม”
   โห มาแรงมากลูก เล่นจะออกจากโรงเรียนหลักเลยหรือนี่
   สรุปว่าเขาชอบมาก ครูสอนสนุก จะลงมาบอกพ่อแม่ว่าเขาชอบเรียน แล้วก็ขอขึ้นไปเรียนต่อ !!!
   โอ้ งงสิ เมธาสิทธิ มึงแรงจัดจนกูตามไม่ทัน (แต่ในใจลึกๆ ก็ภูมิใจนะ ที่เขารักเรียน)
   ลูกมีสิทธิเลือกทางเดินชีวิตเองครับ พ่อแม่มีแต่ให้ข้อมูลเท่านั้น แล้วผมก็ต้องนั่งรอหง่าวอีกชั่วโมงกว่า เห็นบรรดาพ่อแม่ที่นั่งคอยใกล้ๆ กันแล้วก็เข้าใจ น่าจะยกย่องให้เป็นพ่อแม่ดีเด่นจริงๆ นะ วันหยุดแบบนี้ ต้องมาคอยนั่งเฝ้าลูก
   เป็นอันว่าต้องสมัครเรียนให้เขา วันเสาร์อัดจนเต็มวันแล้ว ต้องเรียนวันอาทิตย์ตอนเช้าแทน
   ภรรยาถามว่าเดี๋ยวกินร้านไหนกันดี ผมบอกว่ามาถึงป่านนี้แล้วผมให้ลูกเลือกละกัน เขาจะกินอะไร อาหารไม่เข้าท่าขนาดไหนก็จะไม่บ่นว่า ถือว่าเขาเรียนหนักมากแล้ว หลังจากนี้มันควรพักผ่อนอย่างอิสระ จะกิน จะเล่นเกม ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้ากินอาหารไม่ดีก็ต้องมาคุยกันนะว่ากินบ่อยไม่ได้ และต้องออกกำลังกายชดเชย
   เป็นไปตามคาด มิวขอกินพิซซ่า ตามด้วยสเวนเซ่น หึหึ จัดเต็ม แน่นท้อง ผมเองก็กินไม่แพ้ลูก กลับมาบ้านอึดอัดมาก ไม่ได้กินของพวกนี้มานานเกือบปีเห็นจะได้ ทนไม่ไหวจนต้องเอาจักรยานออกขี่ ปั่นแบบช้าๆ ให้ร่างกายได้พอขยับบ้าง
   คืนนี้ทุกคนคงจะหลับใหลกันสบายแน่ๆ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 06, 2012, 03:25:23 pm
3 ธค 55
   เมื่อวานกินเยอะผิดปกติ แถมกินอาหารห่วยๆ รู้สึกผิด เช้านี้เลยขี่จักยานไป 1 ชม ออกไปขี่นอกเส้นทางปกติ เข้าไปในสวน แม้จะเคยไปขี่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ไปมานานเป็นเดือนแล้ว ขับตกหลุมข้างทางตอนฟ้ามืดๆ รถเกือบล้ม เล่นเอาใจฝ่อไปเลย อีกสักพักเจอมอเตอร์ไซค์ซ้อนศรมาในโค้งหักศอก ไอ้นี่น่าตกใจสุดๆ มาได้ไงในโค้งแคบและเล็กแบบนี้หนอ ดีที่ไม่ชน จากนั้นเลยขี่ช้าตลอดทาง ผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้เสมือนเทพมาส่งสัญญาณเตือนให้ผมระวังตัว
   เมื่อครั้งได้รถใหม่ๆ ตอนปี 94 ก็เจอคำเตือนครั้งแรก ขี่ที่อ่างเก็บน้ำโป่งดินดำใกล้เขาเขียว ตอนลงเนินมาอย่างเร็วเจองูจงอางตัวเล็กขวางหน้า เห็นแม่เบี้ยชัดเจน ตัดสินใจพารถโดดข้ามงูไป ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรนะ พอลงเนินเสร็จก็ต้องปั่นขึ้นเนินอีกลูกข้างหน้าต่อ ช่วงเลาะเลี้ยวบนเขาผมโดนกิ่งไม้เล็กๆ แต่มีคมฟาดเข้าที่หน้าอย่างแรง โดนแว่นจนปรอทที่เคลือบไว้ลอก แก้มด้านซ้ายมีเลือดไหล (คงจะโดนหนาม) แต่แผลไม่ลึก พอโดนกิ่งไม้ฟาดจากทางด้านซ้าย เราก็เบนรถออกขวา เท่านั้นแหละตกใจแทบเข่าอ่อน เพราะมันเป็นเหมือนหน้าผา ลึกลงไปเป็นเหว อีกฟุตเดียวผมตกลงไปแน่ๆ รีบกระชากรถกลับเข้าไลน์ ขี่ต่อเหมือนปกติ
   พอถึงจุดพักเพื่อนๆ ตกใจกันใหญ่ ถามผมว่าเป็นอะไร ก็งงสิ ตอบไม่ถูก ผมไม่ได้เป็นอะไร ผมปกติดี แต่เพื่อนไม่ขำด้วย เขาเห็นเลือดอาบเต็มแก้มไหลย้อยมาถึงคาง ผมขี่อยู่ในป่า เลยไม่รู้สึกอะไรสักนิด จำได้แค่ว่ามีกิ่งไม้มาฟาดตีโดนหน้า
   งูจงอางตัวนั้นคงจะมาเตือนให้ผมระวังกิ่งไม้ และหน้าผาสูง ผมเดาครับ และหลังจากนั้นเป็นต้นมา พอมีอะไรมาเตือน ผมก็มักจะรับรู้ได้ และใช้ชีวิตอย่างรอบคอบมากขึ้น
   วันนี้มิวปิดเทอมวันแรก เปิดอีกทีวันจันทร์หน้าโน่นเลย หยุดแบบสบายๆ ราว 10 วัน (รวมเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา) หยุดก็คือการพักผ่อน ถ้าเรียนเต็มที่แล้ว วันหยุดก็ควรพักให้เต็มที่เช่นกัน
   กลางวันพามิวไปคลองถม มีร้านประจำที่เขาชอบ เพราะสามารถหาแผ่น DVD เก่าๆ ตกยุคมาดูได้ เขาเลยฝังใจกับร้านนี้ ชื่อร้านชิบูย่า ผมเองสิยิ่งลำบากใจ เพราะคลองถมนี่มันดงหนังโป๊เลย เดินไปทางไหนก็เจอตลอด ใครไม่เจอนี่แปลกมาก ยิ่งถ้ามีเรื่องคลิปหลุด ข่าวดาราแอบถ่าย ไม่ต้องห่วง หาได้ที่คลองถมครับ
   แต่ยังถือว่าโชคดีทีโซนในคลองถมเซนเตอร์ไม่มีหนังโป๊ขายนะ ผมหมายถึงในตัวอาคารนะ เพราะรายรอบนอกอาคารแม่งเพียบเลย ยุคแรกของหนังโป๊นี้จะมีผู้ชายเดินมากระซิบเรียกแบบตัวต่อตัว หลังๆ นี้เป็นหญิงมาขายก็มี เด็กก็มี แถมตะโกนเรียกลูกค้าหน้าตาเฉย เสื่อมสุดๆ
   ไม่อยากให้ลูกเห็นภาพเหล่านี้ก่อนวัยครับ เลยเดินเลี่ยงหลบอ้อม ผมเองอยากได้ของหลายอย่าง แต่ก็ตัดใจไม่ซื้อ เพราะถ้าเดินไปอีกนิดก็เจอไอ้โป๊นี่อีกแล้ว และจะต้องเจอตลอดทางทั้งไปและกลับ
   มาถึงบ้านตอนเย็นมิวลงจากรถรีบเปิด DVD ดู ส่วนผมจัดการให้อาหารปลา ดูแลความเรียบร้อย ล้างไส้กรองระบบหมุนเวียนน้ำ ฯลฯ
   ไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์หลายวัน เพราะอ่านเวปเล็กๆ น้อยๆ จะใช้ไอ้แพดแทน วันนี้เช็คเมล์แทบเป็นลม เจอไป 80 ฉบับ เรื่องหลักๆ ก็เกี่ยวกับคอนโดนี่แหละครับ มีการโวตลงมติกันด้วย ซ่อมแอร์บ้าง เรื่องเรือโดยสารบ้าง สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย เซาน่า โดยรวมแล้วเป็นเรื่องความเรียบร้อยต่างๆ ในคอนโด ผมตอบกับเขาไม่ถูกสักอัน เพราะไม่ได้เข้าไปเลย จนมีเรื่องล่าสุดวันลอยกระทง ผู้อาศัยชาวต่างชาติผิวดำ อุ่นอาหารทิ้งไว้ แล้วลงมาเที่ยวงานลอยกระทงที่จัดริมน้ำ ผลก็คือไฟไหม้ แต่ยังดีที่ระบบป้องกันอัคคีภัยเตือน มีตัว Smoke Detector เลยไม่มีอะไรเสียหายมากนัก
   อยู่ตึกเดียวกับผมด้วยนะ เล่นเอาเสียวเลย
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 06, 2012, 03:26:42 pm
4 ธค 55
   เมือคืนดู James Bond 007 กับลูก ก็เพิ่งซื้อมาจากคลองถมนี่แหละ จัดมาซะหลายตอนเลย มิวเขาเพิ่งรู้จักกับ 007 ก็ตอนได้บัตรฟรีไปดูเมื่อเดือนก่อนนี่แหละ ก็เลยติดใจในพยัคร้าย 007 เขาเห็นมันมีหลายตอน เลยคิดว่าเรื่องมันจะต่อเนื่องกันเหมือนพวกการ์ตูนชุดที่เขาเคยดู แต่เปล่าเลย มันเป็นหนังแบบจบในตอนต่างหาก
   เมื่อคืนดูตอน Casino Royale กว่าจะจบก็ราวห้าทุ่ม ไม่คิดว่าหนังมันจะยาวขนาดนี้ นี่เริ่มฉายกันตอน 0830 นะ ใช้เวลาถึง 2.30 ชมเชียวหรือนี่
   007 ภาคเก่ายังคงสไตล์เดิมของ Bond ที่เน้นหล่อ หรู เพลยบอย มันก็เลยมีฉากเลิฟซีนเยอะ ต่างจากภาคล่าสุดที่เพิ่งดูมาชื่อ Skyfall ที่มีเลิฟซีนน้อยมาก (เด็กดูได้)
   เจอเลิฟซีนมาทีก็ทำตัวไม่ถูก ทำไงดีวะ นอนดูอยู่กับลูกสองคน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยปล่อยมันผ่านเลยไป
   นอนดึก ตื่นสาย เช้านี้ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลย ใช้เวลาหมดไปกับการเปลี่ยนล้างไส้กรองบ่อปลา สายหน่อยไปทำงาน วันนี้มียกของแต่เช้า ปกติจะยกขึ้นท้ายรถให้ลูกค้า แต่วันนี้มีโบนัส เขาให้ยกขึ้นหลังคารถ
   เป็นรถจี๊บแบบ 4X4 บนหลังคาทำเป็นโครงเหล็กสำหรับบรรทุกของอย่างดี ยกขึ้นลำบากมาก แต่ผมว่าตอนยกลงลำบากกว่า เขาจะทำยังไง หรือว่าเขามีคนช่วยยกอยู่ที่บ้าน
   เหนื่อย หมดแรงกลับมาบ้านนอนอย่างเร็ว
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 06, 2012, 03:28:00 pm
5 ธค 55
   วันพ่อแห่งชาติ วันนี้เหลืองทั้งแผ่นดินของจริง ผู้คนมากมายไปรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แค่ที่จะได้เห็นพระพัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ อยากให้ลูกมีประสบการณ์แบบนี้กับเขาบ้างเหมือนกันนะ แต่ทำไม่ได้ ต้องมาเฝ้าร้านขายของ
   ขายของแบบนี้ไม่ค่อยมีวันหยุดหรอกครับ แถมชีวิตแบบนี้จะขี้นอยู่กับคนงานเป็นหลัก ถ้าคนงานมากันครบถ้วน งานก็เสร็จเร็ว แต่ถ้าคนงานขาด ก็ต้องเพิ่มเวลาส่งของออกไปเรื่อยๆ
   เย็นได้ฤกษ์ดี พาลูกไปเล่นเรือที่บึงหนองบอน ดูลาดเลามาเป็นปี วันนี้เพิ่งจะพาเขาไปสมัครสมาชิกและใช้บริการ กะจะให้ลองเล่นเรือใบ แต่ไม่มีลมเลยสักนิด เปลี่ยนแผนเอาเรือคายัคพายกันคนละลำ
   บึงกว้างใหญ่มากๆ ดูจากแผนที่แล้วตัวบึงไม่ไกลจากสนาม BRC ซีคอนสแควร์เท่าไหร่เลย เพียงแต่ทางเข้าของบึงหนองบอนนี้ต้องขับไปทางอุดมสุขโน่นเลย ไม่คุ้นเส้นทางแถวนี้ครับ แถมต้องมาเจอกับการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์อีก รถติดนานมาก จากบ้านผมมาถึงบางนาแค่ 25 นาที แบบขับช้าๆ แต่ต้องใช้เวลาอีกถึง 1  ชม เพื่อเดินทางจากบางนาถึงบึงหนองบอน หึหึ นั่งกันจนเบื่อโลกเลย
   เข้าไปในเขตบึงก็หลงซะแล้ว ขับไปคนละทางกับศูนย์กีฬา ต้องวนรถกลับมาใหม่ มีชาวจักรยานมาขี่กันมากมายครับ นี่ถ้าอยู่ใกล้บ้านผมก็ดีสินะ จะได้เล่นเรือกันทั้งวันไปเลย
   มิวพายเรือเป็นแล้ว ผมเลยปล่อยเขาเล่นเองอย่างอิสระ ส่วนตัวเองก็พายสำรวจบรรยากาศโดยรอบขอบบึง เจอขยะก็ตักช้อนเอามาเก็บไว้บนเรือ โดยมากจะเป็นขวดน้ำดื่มพลาสติก แปลกมาก ทำไมทิ้งลงน้ำแบบนี้
   เหลือบมองมิวเป็นระยะ เห็นเขาคุยกับเรือลำอื่นคงจะพายเข้าไปขวางทางพวกเรือกรรเชียงเป็นแน่ แต่ไม่อันตรายอะไรครับ พอผมพายเรือกลับมาหา มิวเล่าว่าพี่ที่เล่นเรือกรรเชียงถามว่าเขาเป็นชายหรือหญิง พอมิวบอกว่าเป็นผู้ชายกับ พวกผู้หญิงก็กรี๊ด บอกว่า “น่ารักอ่ะ”
   มิวเป็นผู้ชายหน้าหวาน แก้มยุ้ย ผิวพรรณดี แถมไว้ผมยาวอีกด้วย ดูเผินๆ ก็จะคล้ายเด็กหญิง ขนาดครูที่โรงเรียนหลายคนยังเพิ่งรู้ว่ามิวเป็นเด็กชายก็ยังดี
   พายกันแบบอ้อๆแอ้ๆ เพลียจากรถติดน่ะครับ แถมผมหิวสุดๆ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่กลางวัน หารือกันว่าเปลี่ยนเป็นเรือคายัคแบบ tandam น่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ช่วยกันพายได้
   แล้วก็ไม่ผิดคาด เรือลำยาวกว่า พายแล้วนิ่งกว่าพวกเรือสั้น แต่ก็ต้องดูจังหวะกันด้วยนะ ไม่งั้นไม้พายมันจะตีกันเอง
   ระหว่างนั้นก็มองดูลมไปด้วย เกิดมีลมมา  ผมจะลองเอาวินเซิร์ฟลองลงเล่นดู ไม่ได้จับมันมาราว 30 ปีเอง
   มองอยู่นานก็ไม่เห็นมีลม พายคายัคจนเหงื่อท่วม ร้อนแดด แถมไม่มีลม กลายเป็นอบอ้าว น้ำในบึงก็ดูไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไหร่ ไม่งั้นมีโดดน้ำเล่นไปนานแล้ว
   กลับกันหกโมงเย็น ศูนย์ปิด 0630 บรรยากาศในนี้มืดเร็วมากครับ รอบๆ บึงก็ไม่มีไฟส่องสว่างเลย ขับรถออกมาก็เจอรถติดอย่างหนักจากคนมาเที่ยวงานที่สวนหลวง ร9 ที่อยู่ติดๆ กัน
   แวะจุดพักรถบนทางด่วนใกล้ช่วงสุขุมวิท62 มิวชอบให้แวะจุดนี้ทุกทีเลย เขาขอกินสเลอปี้ใน 7-11 ผมหิวจัดมาก เลยชวนเขาหาของกินกันในนี้แหละ เดินมองหาไปเรื่อย จบที่ร้านเชสเตอร์กริล เพราะมีเมนูปลาน้ำตก ถ้ากินนอกบ้าน ถ้าเป็นฟาสฟู๊ด ก็ขอเลือกเป็นปลาสักหน่อย ยังไงก็น่าจะดีกว่าพวกหมู ไก่
   ถึงบ้านก็ค่ำแล้ว อาบน้ำ อ่านหนังสือนิดหน่อยก็ชวนกันหลับทันที หมดแรงกันทั้งพ่อลูก อ้อก่อนนอนมิวแอบเอาการ์ดเขียนอวยพรผมเนื่องในวันพ่อมาให้ น่ารักดี ขอบใจนะลูก 
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:24:42 pm
6 ธค 55
   เช้านี้ขี่จักรยานไป 30 นาที รีบกลับมาเปลี่ยนถ่ายน้ำอ่างปลา เสร็จแล้วก็กินข้าวแล้วก็ออกไปทำงาน ทำมา 11 ปี ยังไม่ชินจริงๆ ครับ ไม่คุ้นกับการทำงานประจำ แถมต้องใช้แรงงานจนหลังเจ็บถาวร ชาตินี้คงไม่มีวันชินได้
   เย็นแวะร้านซีเอ็ดที่สาขา Royal Garden เจริญนคร (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโรงแรมอนันตรา) ไปหาซื้อหนังสือสารคดี เล่มล่าสุดนี้เกี่ยวกับจักรยานครับ ใครชอบและสนใจ รีบๆไปจัดซะ เดี๋ยวหมดจะต้องสั่งซื้อ ผมหาบนแผงไม่เจอ ให้มิวไปถามพนักงานให้ แต่พนักงานบอกหมด ผมก็งงสิ ขายดีขนาดนั้นเลยหรือ ถามว่าลงแผงครั้งละกี่เล่ม ขายกี่วันหมด แล้วสายส่งจะมาเติมของให้เมื่อไหร่ ที่ถามเพราะอยากรู้ ผมเคยทำหนังสือ Racing Club วางแผงขายมาก่อน
   พอซักมากเข้า เธอเดินไปหยิบจากแผงมาให้
   อ้าว ไหนตะกี้ บอกของหมด เล่นเอางง  เขาไม่อยากขายของหรือนี่
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:28:56 pm
 7 ธค 55
   บ่ายเอารถยนต์คันใหม่ของพ่อไปเข้าศูนย์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แค่เช็คตามคู่มือ ซื้อรถมาราว 6 เดือนจนถึงวันนี้ใช้ไป 1 หมื่น กม ปกติทางบ้านผมหากได้รถมาใหม่ๆ ก็มักจะขยันกันเที่ยว ให้เหตุผลในใจตัวเองว่าอยากไปลองรถ อย่างสามเดือนก่อนพ่อก็ขับไปเชียงคานมา พากันไปเที่ยวกับแม่สองคน ตอนนั้นก่อนเขาผ่าตัดปอดนะ ซัดคนเดียวตลอดทาง นอนแค่หนึ่งคืน เช้ามาก็อัดกับกรุงเทพฯ ฟังแล้วเหนื่อยแทน
   รถคันนี้ซื้อจากงาน Motor Show ครับ ตอนซื้อเราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร พอจะทำสัญญาถึงได้เห็นเอกสาร อ้าว เป็นดีลเลอร์จากนครปฐมเชียวหรือนี่ ศูนย์ห่างจากบ้านผมเกือบ 100 กม
   ตอนแรกน่ะ ผมไปมองๆ รถคันนี้ไว้ที่ศูนย์พระราม 2 ใกล้บ้านมากเลย ไปขอดูรถเซลล์ก็บริการดี ผมสนใจตรงไหนก็เปิดให้ดูได้หมด ผมดูแล้วทุกอย่างโอเคดีหมด เหลือแค่ว่าพ่อจะชอบรถคันนี้ไหม ต้องให้พ่อมาตัดสินใจเป็นคนสุดท้าย
   “พี่จะจองเลยไหมครับ”
   “ยังหรอกครับ ผมมาดูให้พ่อน่ะ ไว้พาพ่อมาดูอีกที”
   เซลล์ดับเครื่องลงจากรถเดินหนีหายไปด้านหลัง ผมก็งงสิ อ้าว ตะกี้ยังคุยกันดีๆ อยู่เลย
   มันทำให้ผมคิดไปเองว่า เป็นเพราะเราไม่ได้ตัดสินใจทำสัญญาทันที เขาเลยรู้สึกเสียเวลาอย่างนั้นหรือ
   หรือเขาจะรีบกลับบ้าน หรือเขามีธุระอื่น ฯลฯ แต่ต่างจากศูนย์อื่นๆ ตรงที่เขาไม่ขอเบอร์โทรของผมไว้
   จะอะไรก็สุดแท้แต่ เป็นอันว่าไม่ได้ออกรถจากที่ศูนย์นี้ ทั้งที่อยู่ใกล้บ้านแค่นิดเดียว แต่ไปออกรถที่นครปฐมแทน ตอนแรกก็หวั่นๆ แต่เหลือเชื่อที่บริการดีโคตรๆ
   เริ่มจากมีบริการส่งคนมารับถึงบ้านในวันออกรถ เขาเอารถรุ่นท็อปมารับผมกับพ่อไปโชว์รูมเขาทีนครปฐม และยังบอกอีกว่า หากไม่สะดวกในการนำรถเข้าศูนย์เขา จะโทรมาบอกก็ได้ เขาจะมารับรถจากบ้านให้ และตรวจเช็คเสร็จก็จะนำรถมาส่งคืน
   เฮ้ยย ไม่เคยเจอแบบนี้ จะมีก็จริง แต่ต้องเป็นพวกรถคันละ 10 / 20 ล้านเขาถึงบริการกันแบบนี้ ไอ้นี่คันละไม่เท่าไหร่เอง
   เจ้าของศูนย์ชื่อ “พี่นก” ใจดีมาก คุยง่ายๆ สบายๆ แต่วันนี้เขาไม่อยู่ ไปเที่ยวอยู่เชียงใหม่ ผมมาเข้าศูนย์ถึงที่นี่ก็เพราะต้องการเคลมชิ้นส่วนพลาสติกที่หุ้มขาเบาะสองชิ้น มันแตกตั้งแต่รับรถมา แต่ว่าเพิ่งมาเห็นตอนยกพรมออกมาทำความสะอาด ตอนโทรไปแจ้งก็ลุ้นนะว่าเขาจะให้หรือไม่ เกิดเขาปฏิเสธขึ้นมาผมก็ทำตัวไม่ถูก เราก็ผิดส่วนหนึ่งที่ดูไม่ละเอียดพอ (ดันไปเน้นแต่ภายนอก และห้องเครื่อง) แต่ที่ไหนได้ เขาตอบกลับมาแบบซึ้งใจ
   “อุ้ย ขอโทษด้วยค่ะคุณเปิ้ล ทางเราเองก็ไม่ได้เห็นตอนตรวจเช็ครถก่อนส่งมอบ เอาไว้ทางเราจะรีบแจ้งเคลมไปยังเมืองนอก ถ้าได้อะไหล่แล้วจะรีบโทรบอกคุณเปิ้ลนะคะ ขอโทษอีกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้”
   เป็นไงเล่า ตอบกลับมาแบบไม่ต้องถามซ้ำ และอีกสักไม่ถึงสัปดาห์ถัดมา พี่นกก็โทรมาแจ้งว่าอะไหล่ชิ้นส่วนปิดหุ้มขาเบาะมาถึงแล้วนะ ถ้าอยากจะเปลี่ยนก็นำรถมาได้เลย
   ผมตอบไปว่าจะเข้าไปตอนเช็ครถ 1 หมื่น กม เลยดีกว่า ไม่เสียเวลาด้วย
   พนักงานรับรถแล้วตกใจ บอกว่ารถรุ่นนี้เข้าศูนย์ครั้งแรกตอน 2 หมื่นกม นะครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ เห็นรถญี่ปุ่นตรวจเช็คกันที่ 1.5 หมื่น กม ไม่น่าเชื่อว่ารถคันนี้เล่นกันที่ 2 หมื่นเลย
   แล้วน้ำมันเครื่องมันจะทนไหวหรือวะนี่ ลำพังน้ำมันเครื่องยังไม่เท่าไหร่ ไอ้ที่หนักหนาก็คือเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงครับ ดีเซลของไทยเรามาตรฐานยังต่ำกว่าของยุโรปอยู่ (จากข้อมูลเก่านะไม่รู้ปัจจุบันดีขึ้นขนาดไหนแล้ว) กดคันเร่งสุดๆ ยังมีพ่นปล่อยควันดำออกมากลุ่มใหญ่เลย
   น้ำมันเชื่อเพลิงก็ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติครับ แต่รถใหม่ก็เห็นผลช้าหน่อย การเข้าศูนย์วันนี้ผมเลยออกค่าใช้จ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง และแหวนรองก้นแคร้ง + ค่าแรง เอง หมดไปเกือบ 5 พันบาท ใช้น้ำมัน Fully Syn ของ Castrol ไป 6 ลิตร ถ้าทำเองข้างนอกคงจะหารไปครึ้งหนึ่ง
   ตอนแรกก็คิดว่ารู้งี้ไม่น่าเข้าศูนย์เลย แต่พอทำรถเสร็จ เห็นรายการจ็อบที่เขาทำงานแล้วตกใจ เพราะมันมีการอัปเดทซอฟแวร์ในกล่องถึง 5 อัน !!!
   โอ้โห รถเรานี่มีถึง 5 กล่องเชียวหรือ รถ Nissan 180SX ของผมมีกล่องเครื่องยนต์ กล่องเกียร์ กล่องคุมระบบเลี้ยว 4 ล้อ กล่องแอร์ ก็มีแค่ 4 กล่อง แถมเป็นกล่องแบบใช้แล้วลืม คือไม่ต้องอัปเดท
   “รถคันนี้มีถึง 5 กล่องเลยหรือครับ” ผมถามเจ้าหน้าที่ศูนย์
   “วันนี้อัปเดทแค่ 5 ครับ ปกติมี 15 กล่อง”
   เฮ้ยย รถบ้าอะไรมี 15 กล่อง ควบคุมอะไรกันนักหนาวะนั่น ผมไม่ได้ติดตามรถยุคใหม่มา 10 ปีเห็นจะได้ ก็ตั้งแต่พัก Racing Club ไป ก็ให้เวลาทั้งหมดแก่ลูกและช่วยธุรกิจทางบ้าน
   ด้วยความสงสัย เลยขอดูเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับกล่อง เจ้าหน้าที่บอกว่าจะเรียกกล่องก็ไม่เชิง ภาษาภายในเขาเรียกกันว่า “โมดูล”
   เอาล่ะสิมึง ยิ่งงงกันเข้าไปใหญ่ หน้าตาของมันคงอาจไม่เป็นกล่องมั้ง แต่อาจเป็นชุดวงจรไฟฟ้าหน้าตาแปลกๆ
   เห็นลิสต์ชื่อกล่องแล้วยิ่งมึน ต้องมาอ่านคำแปลถึงเข้าใจ กล่องที่อัปเดทวันนี้ก็คือ
   Climate  Control Module – ควบคุมสภาพอากาศ
   Central Electronic Module – ควบคุมอีเลคโทรนิคส่วนกลาง
   Engine Control Module – ควบคุมเครื่องยนต์
   Supplementaray Restrain System – ควบคุมความปลอดภัยเสริม
   Transmission Control Module – ควบคุมเกียร์อัตโนมัติ
   ที่เหลืออีก 10 กล่อง ยังไม่ถึงเวลาอัปเดท หึหึ เยอะเกิดไปหรือเปล่าวะนี่ ทำให้ผมคิดต่อไปว่า ช่างข้างถนนเขาจะซ่อมรถแบบนี้ได้หรือ นี่ต้องเข้าศูนย์ไปตลอดชีวิตหรือเปล่า
   ยังดีที่คันนี้ใช้การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันแบบไขนอทก้นแคร้ง แบบนี้พอทำรถเองได้ เห็นรถยุคใหม่ๆ จะไม่มีรูนอทให้ถ่ายแล้ว เขาใช้วิธีดูดออกแทน แม้มันจะไม่เกลี้ยงเท่า แต่ก็ป้องกันการไขนอทไม่แน่น ไขปีนเกลียว บ้างก็ไม่ใส่แหวนรองนอท หรือใช้แหวนตัวเก่าใส่เข้าไป ไอ้นี่เหมือนนาฬิการะเบิดเวลา
   แหวนรองก้นแคร้งสำคัญนะครับ มักจะทำด้วยโลหะอ่อนเช่นอลูมิเนียม ทองแดง ไขนอทเข้าไปแล้วนอทจะกดทับจนแหวนบี้ปิดก้นแคร้งจนสนิท มันใช้งานได้ครั้งเดียวนะ แต่พวกเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามปั๊มมักจะใช้แหวนเดิมนี่แหละใส่คืนไป
   ทีนี้รอยบี้มันก็ซีลกับก้นแคร้งเครื่องไม่สนิทสิครับ เกิดการหยด ย้อย เยิ้ม ซวยสุดคือนอทคลาย ไม่อยากนึกภาพเลยจริงๆ
   แหวนถูกๆ ตัวละสัก 2 บาท มีขายทีคลองถม รถใครใช้แหวนแบบใดขนาดใดก็ไปหาซื้อมาเก็บไว้เป็นพวงได้เลย เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกครั้งก็หยิบแหวนติดไป 1 วง เอาไปให้ช่างเปลี่ยนใหม่ (สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าศูนย์)
   นั่งเล่นอยู่ในศูนย์เกือบ 3 ชม เขาบอกว่านานหน่อยเพราะล้างรถให้ด้วย ขับรถกลับมาบ้านรู้สึกว่ารถลื่นขึ้นนิดๆ ไม่รู้อุปทานหรือเปล่า ห่างเหินการทดสอบรถมานาน แต่ผมว่าไม่นะ มันลื่นขึ้นจริงๆ แบบแตะคันเร่งนิดเดียวรถก็ไปแล้ว
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:31:45 pm
8 ธค 55
   มิวเรียนพิเศษตอนเช้า ผมเลยไปทำงานต่อ
   เมื่อวานในหลวงเสร็จสวนสมเด็จย่า (ใกล้สะพานพุทธ) ที่น่าตกใจคือรถขบวนมาจอดหน้าบ้านอีกด้วย งงสิ ปกติรถขบวนจะขับช้าๆ แต่นี่จอดเลย ยังไม่พอนะ ในหลวงเปิดประตูคุยกับคนติดตามชื่อขวัญแก้วที่มารอรับคำสั่ง ไม่มีใครรู้ว่าในหลวงท่านสั่งอะไร แต่ชาวบ้านปลื้มใจที่ได้เห็นในหลวงแบบใกล้ชิดสุดๆ
   ผมเองก็เสียดาย เลยสั่งให้หาว่ามีใครถ่ายภาพในหลวงสวยๆ ที่ท่านเสด็จมาแถวบ้านเราได้บ้างไหม ภาพในหลวงอื่นๆ พอหาได้ มีขายกันเกร่อ แต่ผมจะเอาภาพที่มาแถวร้านเรานี่แหละ อยากเก็บไว้เป็นสิริมงคล
   บ่ายพามิวไปเรียนคุมองต่อ วันเสาร์นี้จัดเต็มจริงๆ โชคดีที่มิวเขาเข้าใจว่าตัวเองต้องเรียนเพราะอะไร ไม่งั้นไปด้วยกันลำบากแน่
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:35:58 pm
9 ธค 55
   มิวมีเรียนซุปเคแต่เช้า ส่วนผมต้องไปรับรถ Isuzu Trooper ที่อู่ช่างวิทย์เจริญนคร เขาบอกรถเสร็จแล้ว วิ่งดีแล้ว แต่รอบเครื่องยังสวิงนิดหน่อย จุดนี้ยังแก้ไม่จบ ติดที่หาลิ้นปีกผีเสื้อมือสองไม่ได้เลย เจอแต่ของใหม่มือ1 ราคาหลายพันบาท เลยไม่กล้าซื่อมา ให้ลองใช้รถดูก่อนว่าพอรับได้ไหม รอบเครื่องสวิงตอนเครื่องร้อนจัดๆ แต่ไม่ดับกลางถนนแล้ว วิ่งดีหมดแล้วทั้งแก๊สทั้งน้ำมัน
   รถคันนี้จอดอยู่อู่ช่างวิทย์ราว 2 สัปดาห์ คราวก่อนก็จอดอู่คนรู้จักของพ่ออยู่นานมาก กลับมาพร้อมค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นบาท แถมใช้ได้แค่วันเดียว แม่งดับกลางถนนอีกแล้ว จนแม่บอกให้ขายทิ้ง เรียกว่าซ่อมจนเบื่อ
   มาวันนี้ช่างวิทย์ อู่ข้างถนนเจริญนครเคลียร์จนจบ รถวิ่งยังกะรถใหม่ ไม่น่าเชื่อ เฮ้ยย ช่างข้างถนนทำได้ขนาดนี้ แต่ช่างร้านใหญ่แม่งทำไม่เป็น หนักกว่านั้นคือโดนหลอกแดกไปเป็นหมื่น สุดยอดเพื่อนแท้จริงๆ
   “ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ครับพี่วิทย์”
   “พันกว่าบาทครับ”
   หา !!! ไม่เชื่อหูตัวเอง จากอาการที่แม่งวิ่งแทบไม่ไป กดคันเร่งแล้วรถไม่อยากแล่น เกียร์ก็ไม่ค่อยเปลี่ยน ต้องลากรอบจนถึง 3000 มันถึงเปลี่ยน ขับๆก็ดับกลางถนนประจำ น้ำก็กินจุแบบสามวันลิตร หารูรั่วไม่เจอ จนคิดว่าเครื่องพังแล้วแน่ นี่กะจะซ่อมแล้วขายทิ้ง
   เปลี่ยนท่อน้ำด้านหลังเครื่อง เปลี่ยนหัวเทียน แล้วก็มีงานจุกๆ จิกๆ นิดหน่อย หมดไป 1600 บาท
   วันนี้นัดไปรับรถตอนสายๆ

   เช้านี้เลยขี่รถ KHS HT ออกตระเวนเมืองเล่น ไปแบบ No Plan บ้านอยู่พระราม2 ขี่เข้าเมืองมาจนถึงแยกมไหศวรรย์ เขากำลังก่อสร้างอุโมงค์ เลยเลี้ยวซ้ายไปทางท่าพระ ผ่านตลาดพลู กะจะขี่เลียบทางรถไฟเอาฟีลโบราณๆ เจอรถไฟมาพอดี จอดถ่ายรูปดีกว่า
   เห็นร้านข้าวหมูแดงใกล้รางรถไฟคนเยอะแต่เช้า คงจะอร่อย แต่เพื่อความมั่นใจเลยถามเจ้าหน้าที่รถไฟว่าเป็นไงบ้าง เขาบอกอร่อย มีชื่อเสียงมานาน หรืออยากลองกุยช่ายก็ต้องซื้อที่หน้าร้านขายทองถัดไปอีกนิด เป็นรถเข็น
   จัดข้าวหมูแดงก่อนเลยครับ ตักคำแรก อืมม น้ำตาไหลพราก ฮืออ แม่งไม่อร่อยเลย
   ว่าเขาก็ไม่ได้นะ เขาก็ว่าอร่อยในสายตาของเขา ส่วนผมเคยกินรสชาติที่มันดีกว่านี้มาแล้ว ขนาดข้าวหมูแดงนครปฐมที่ว่าสุดดัง กินมาแล้วหลายเจ้า ยังสู้ร้านโบราณเก่าแก่แถวร้านขายของผมไม่ได้เลย ต่อให้ร้านข้าวหมูแดงเจ้าแรกในประเทศไทยก็ยังสู้ไม่ได้จริงๆ
   ข้าวหมูแดงร้านแรกของไทย หากใครอยากลองก็ไม่ไกลครับ อยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สนามหลวงนี่เอง
   ไม่อร่อยมากแต่ก็พอกินได้ ออกรสชาติหวานไปหน่อย ส่วนหมูกรอบทำได้ดีครับ ที่เหลืองั้นๆ ขอโทษวิจารณ์ตรงๆ
   หากใครอยากกินข้าวหมูแดงที่ผมว่าอร่อยสุดๆ ก็ต้องมาแถวสะพานพุทธฝั่งธน แถวตลาดพระเครื่องนี่แหละ อยู่ใกล้หัวมุมถนน เปิดแค่กลางวัน บ่ายหมด ขายแค่แป๊บเดียว คนแน่น ผมกินตั้งแต่พ่อเขาขาย  ทุกวันนี้พ่อเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวมาขายต่อแทน
   กินแล้วขี่มาหาผมด้วยนะ ผมอยู่แถวนั้นแหละ อาจเห็นผมยกแบกของอยู่ก็ได้ หรือขี่จักรยานมาแล้วน้ำหมด ก็มาเติมน้ำที่หน้าร้านผมได้ มีคูลเลอร์น้ำเย็นให้คนเดินผ่านไปมากินฟรีๆ ทุกวันนี้หาบ้านที่ตั้งน้ำไว้ให้คนเดินกินฟรีได้น้อยมากๆ แล้วล่ะ แต่ตอนเด็กๆผมเห็นเยอะอยู่นะ
   กินเสร็จก็ขี่เลาะทางรถไฟไปวงเวียนใหญ่ ผ่านชุมชนเก่าแก่สองข้างทาง บ้านเรือนสวยดี ไม่ค่อยมีใครเห็นหรอก ฝั่งธนมันเหมือนหยุดการเจริญเติบโต ย่านนี้เรียกตลาดพลูสมัยก่อนมีสวนพลูเยอะ ทุกวันนี้มีชื่อเสียงเรื่องกุยช่ายเป็นที่สุด ร้านเก่าแก่ก็ยังอยู่นะ คลาสสิคจริงๆ นี่เป็นเอกลักษณ์ของฝั่งธนครับ เลยไปทางด้านริมเจ้าพระยาตรงข้ามปากคลองตลาดก็มีขนมฝรั่งกุฎีจีน อันนี้เก่าแก่สุดๆ เช่นกัน
   ขี่จักรยานข้างถนนแล้วผ่านโชว์รูมห้างร้านต่างๆ ที่มีกระจก มักจะชอบหันไปมองภาพตัวเอง เป็นภาพที่ไม่เคยเห็น แปลกตาดี ปกติเราจะมองแต่คนอื่น เห็นเขาอยู่บนรถ แต่นี่เห็นตัวเองอยู่บนรถของเราเอง ดูแล้วอยากได้รูปถ่ายเก็บไว้บ้าง
   มองนิดมองหน่อยพอได้ครับ มองขำขำ แต่ถ้าการจราจรหนาแน่นแล้วก็อดมอง ไม่อยากนึกภาพกำลังมองแล้วแท็กซี่ปาดเข้ามาเบรกรับผู้โดยสารแบบกะทันหัน
กินอิ่มแล้วเริ่มปวดท้องฉี่ ทำไงดีวะ แถวนี้ไม่มีปั๊มเลย ขี่ไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานพุทธวกไปปากคลองตลาด แวะสวนสาธารณะแถวท่าเตียน จูงจักยานเข้าไปนั่งเล่นริมน้ำ 
   ปี๊ดๆ ๆๆ จักรยานๆ เจ้าหน้าที่ตะโกนเรียกให้นำจักรยานมาจอดด้านนอก ผมเดินตามไปอย่างว่าง่าย แต่เห็นที่จอดแล้วต้องจำใจลาจาก ไม่อยากจอดครับ
   ขี่ต่อไปทางสนามหลวง กะจะวนด้านในสนามสักรอบ เห็นแล้วนึกถึงตลาดนัดสนามหลวงสมัยผมเด็กๆ ตรงกลางลานเป็นลานดิน เป็นจักรยานเช่า สามล้อบ้าง สองล้อบ้าง รถอังกฤษดีๆนี่แหละ อย่างราเร่ย์ ฮัมเบอร์ ถ้ายังอยู่ รถพวกนี้คันละเป็นหมื่นแล้ว สมัยก่อนเช่าขับกัน 2 บาท
   ที่คลาสสิคสุดๆ ของสนามหลวงก็คือโฆษณาขายยาครับ แบบ อับดุล เอย มักจะใช้มุขเดิมๆ คือหลอกตัดหัว ทายเลขแบงค์ ฯลฯ มุขหลอกเด็กทั้งนั้นแต่คนก็ยืนดูกันแน่นตลอด ก็เมื่อก่อนมันไม่มีมหรสพใดๆให้ดูมากนัก อย่างเก่งสุดก็งานวัด ฉายหนังกลางแปลง
   โอ้โห ชอบเล่าเรื่องอดีตอีกแล้ว คนแก่ๆ ๆๆ
   ขี่เลาะสนามหลวงจนถึงธรรมศาสตร์ วกเข้าไปหาห้องน้ำด้านใน แต่ตึกยังไม่เปิด เจอร้านกาแฟชื่อดังในเวปจักรยาน วันนี้ผมเพิ่งมีโอกาสเห็น ชื่อร้าน Café Velo Dome
   อ่านชื่อร้านแล้วไม่เข้าใจความหมายครับ
   Café นี่เข้าใจว่าร้านกาแฟ
   Velo จะหมายถึงคำว่า Velocity ที่แปลว่าความเร็วหรือเปล่า หรือจะเป็นการเล่นคำของ Velodrome ที่แปลว่าสนามแข่งจักรยานรูปวงรี
   ส่วนคำว่า Dome นี่ต้องหมายถึงเอกลักษณ์ของธรรมศาสตร์แน่
   จะอะไรก็ช่าง ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ
   เสร็จแล้วออกมาหน้าร้านก็ขอถ่ายรูปหน่อย ไม่เคยเห็นร้านกาแฟของชาวจักรยาน ร้านสวยดีมาก อยากเข้าไปชม แต่ไม่อยากกินของหวานๆ น่ะในร้านมีแต่เครื่องดื่ม และเค๊ก ผมอยากลดพุง
   ถ่ายรูปแก้เขินไปเรื่อย ไม่คาดฝัน เจอ “พี่กึง” ผู้ปกครองที่ลูกเรียนโรงเรียนเดียวกัน แถมบ้านเขาก็อยู่ใกล้กับร้านขายของผมด้วย พี่คนนี้เจอในงาน aday bike fest ที่มักกะสัน ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะชอบจักรยาน
   พี่กึงชวนนั่งในร้าน บ๊ะ ไปสิครับ อยากเข้า แต่ไม่กล้า ตอนนี้มีเพื่อนแล้ว นั่งแม่งกลางร้านเลย เป็นโต๊ะยาว นั่งสบาย แต่ถ้าคนแน่นๆนี่ผมว่ามีอึดอัดเหมือนกันนะ เพราะร้านไม่ใหญ่มาก ลูกค้าสัก 10 คนนี่เริ่มเดินชนกันแล้ว
   ผลักประตูเข้าไปก็เจอคนกินในร้านยิ้มทักทาย พูดสวัสดีครับ เฮ้ยย แปลกมาก เพราะพนักงานในร้านไม่เห็นพูดทักทายเลย กลายเป็นลูกค้าที่ขี่จักรยานมาทักทายกันเอง มีคนทักผมแบบนี้สองคน แล้วที่เหลืออีกชั่วโมงกว่าหลังจากนี้  ผมก็ทักสวัสดีครับแก่คนเข้ามาไปอีกเกือบ 10 คน
   วัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ทำไม่ยากครับ หมูมากๆ สำหรับผม
   นั่งคุยกับพี่กึงอยู่นานมาก ตอนแรกคิดว่าแดดจะแรง แต่ที่ไหนได้ ตลอดมาตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นพระอาทิตย์เลย ไม่ร้อนน่ะไม่เท่าไหร่ แต่นี่แดดไม่จ้า ชนิดที่ผมขี่โดยไม่ต้องใส่แว่นกันแดดเลย สุดยอดไหมเล่า
   พี่กึงถามว่าผมจะไปไหนต่อ ผมบอกจะขี่ไปเรื่อยๆทางท่าพระอาทิตย์ ไปถึงพระบรมรูปทรงม้า แล้วก็วกกลับ ผมต้องไปรับรถยนต์ที่ถนนเจริญนคร
   พี่กึงขอไปด้วย ผมเลยพาไปสวนสันติไชยปราการ แต่เจอเขาจัดนิทรรศการ และกำลังจะทำซุ้มต้อนรับงานถนนคนเดิน เลยชี้เป้าร้านโรตีชื่อดังเก่าแก่ ผมกินตั้งแต่ยุคที่คุณปู่อิสลามนั่งปิ้งแป้งโรตีเอง จนลูกสาวมาทำ ล่าสุดทุกวันนี้ขายร้านให้คนอื่นไปแล้ว
   พี่กึงบอกหิว ผมเลยพาไปร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแทน ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ร้านนี้เก่าแก่อีกเช่นเคย ผมรู้จักแต่ร้านเก่าๆแก่ๆ และร้านที่อร่อยจริง ส่วนร้านพวกวัยรุ่นตกแต่งโก้เก๋แล้วโฆษณาในย่านไฮโซผมไม่ค่อยรู้จัก ไม่ค่อยนิยมของพรรค์นั้น
   พี่กึงชวนไปสะพานพระราม 8 ผมเห็นดีด้วย เพราะตัวเองไม่ค่อยได้ไป ครั้งล่าสุดก็ไปขี่งานทำลายสถิติขบวนจักรยานยาวสุดในโลกเมื่อสองปีก่อนโน่น ของรายการ The One ปัจจุบันอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ขี่แบบปิดถนนตั้งแต่พระรูปทรงม้า ขึ้นพระราม 8 ลากยาวไปจนเกือบสุดถนนยกระดับบรมราชชนนี เป็นเส้นทางที่สุดยอดมาก แค่ได้ร่วมขี่ก็สนุกแล้ว
   ขี่เข้าชุมชนเล็กๆ  มาทะลุออกเชิงสะพานปิ่นเกล้า เจออาคารของเจษฎา เมื่อก่อนผมมาที่นี่ตั้งแต่ยั้งทำ Racing Club อยู่เลย ตอนนั้นยังไม่เปิดเป็นพิพิทธภัณฑ์ มีรถสุดโปรดของผม BMW Isetta จอดเรียงรายหลายคัน เข้าไปนั่งถ่ายรูปเล่นอย่างสนุกสนาน ฝั่งตรงข้ามกันก็ของเขานะ เป็นโรงเก็บรถโบราณขนาดใหญ่ ถ่ายทำบทความเป็นสารคดีย่อยเก็บไว้กะจะลงหลายๆ ตอน เสียดายที่หยุดการผลิต Racing Club ไปเสียก่อน
   ขับตลุยเข้าไปในชุมชนจนถึงกองเรือราชพิธี กะจะแวะชม แต่เขาให้จอดจักรยานด้านนอก หึหึ คงจะจอดหรอกนะ
   ขี่ต่อไปยังอรุณอัมรินทร์ ผมตามหลังพี่กึงเห็นเขาใช้เกียร์ผิดอย่างมหันต์ คือจานหน้าใบเล็กสุด เฟืองหลังใบเล็กสุด หนำซ้ำเส้นทางคือขึ้นเนิน โซ่ที่อยู่แนวเฉียงสุดๆ แบบนี้ ซ้ำยังโดนกดบันไดอย่างแรง มันคือการทารุณโซ่โดยตรงเลยล่ะ
   ปกติโซ่คือกลไกที่ทนแรงดึงได้สูงเป็นตันในแนวตรง แต่ถ้าบิดเป็นเกลียวล่ะก็ กระชากนิดเดียวหมุดก็หลุดแล้ว กับโซ่แนวเฉียงก็เช่นกันครับ ถ้าโซ่ใหม่ หรือไม่ออกแรงกดบันไดเยอะนักก็รอดไป แต่ถ้ายืนโยกรถนะ แป๊บเดียวหมุดขาดกระเด็นแน่
   ผมขี่ตามหลังใครก็จะสังเกตและบอกผู้ขี่ที่สนิทสนมกัน คนไม่รู้จักนี่บางทีไม่กล้าพูดนะ กลัวโดนด่ากลับมา อย่างพี่กึงนี่บอกได้ กะจะบอกตอนช่วงลงเนิน แต่แล้วก็ไม่ทันจริงๆ
   ขาลงผมปล่อยไหลจนผ่านไฟแดงพรานนก หันไปมองไม่เห็นพี่กึง เลยขี่ย้อนกลับไปดู เห็นเขาพิงรถข้างทางกำลังใส่โซ่
   “โซ่ผมหลุดครับเปิ้ล”
   “ยังดีที่มันแค่หลุดครับพี่” ผมยิ้ม
   พี่กึงหันมามองหน้าแบบงง
   “ดีที่มันไม่ขาดครับ ตอนขึ้นสะพานอรุณอัมรินทร์มาพี่ใช้เกียร์ผิด แนวโซ่เฉียงมาก ถ้าออกแรงกดบันไดมากๆ หรือโซ่เก่าๆ มันจะขาดกระเด็นเลย”
   พี่กึงเพิ่งขี่ MTB และได้รับคำแนะนำมาว่า หากเจอเนิน ให้ใส่จานหน้าใบเล็กรอได้เลย
   อ้าว สอนกันแบบนี้ ก็เหมือนสอนเรื่องผิดๆ ต่อกันมาสินะ เลยล้างสมองพี่เขาใหม่ บอกว่าใช้เกียร์ใดก็ได้ที่ปั่นแล้วสบายเท้า โดยที่แนวโซ่ต้องเป็นเส้นตรงเสมอ และชี้ให้ดูที่รถผมว่ามันอายุ 19 ปี มาแล้วเพิ่งเปลี่ยนโซ่ไปเมื่อสองปีก่อนเพราะโซ่ยืด ไม่ใช่เพราะโซ่ขาด
   ขี่ต่อมายังวัดอรุณ ชุมชนเก่าแก่อีกเช่นกัน แต่ไม่ได้แวะเข้าไป ตอนถึง 1100 แล้ว เพิ่งจะมีแดดนี่แหละ แถมเจอแดดแรกของวันก็ตอนเกือบจะเที่ยง พี่กึงแวะล้างมือ ผมใส่ผ้าคลุมหน้า ใส่แว่นตา ขี่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ถึงวัดกัลยาณ์ขี่เลาะทางจักรยานริมน้ำจนถึงสะพานพุทธ พี่กึงกลับเข้าบ้าน ส่วนผมขี่ไปทางคลองสาน คลองต้นไทร แล้วก็แวะเข้าอู่พี่วิทย์ที่อยู่ตรงข้ามกับตึกสายชลแมนชั่น ตรงข้ามปั๊มเชลล์พอดีเป๊ะ
   พี่วิทย์รออยู่หน้าร้าน แต่เห็นแล้วจำไม่ได้ คิดว่าอาแป๊ะที่ไหน เล่นใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ปกติช่างวิทย์จะใส่ชุดช่างสีน้ำเงินเข้มตลอดเวลา
   จ่ายเงินค่าซ่อมรถ 1600 บาทแบบ งงงง รีบเอารถจักรยานใส่ท้าย Trooper แล้วขับกลับบ้าน รถวิ่งดีจริงๆเลย (ของเดิมแม่งแย่มาก) กลายเป็นตอนนี้มีอาการใหม่คือเบรกไม่ค่อยอยู่ อันนี้ไม่ได้โทษช่างวิทย์ แต่รถมันเหมือนแรงกว่าเดิม รถข้างหน้าเบรกกะทันหันเราจะเบรกไม่ค่อยทัน อาการรถมันทื่อๆ กดแล้วรถไม่อยากหยุด    
   ถึงบ้านราวเที่ยง เจอโจ๊กที่แม่กินไม่หมดก็เลยจัดการซะ มีปาท่องโก๋ด้วย รู้ว่าอ้วนแต่ก็กิน มันหิว มีขนมกูช่ายทอดอีก 4 ชิ้น ซัดคนเดียวหมด อิ่มแน่นพุง เดินไปเดินมาดูปลาเพลินๆดี นอนเก้าอี้ La Z boy เกือบหลับ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:40:23 pm
10 ธค 55 วันรัฐธรรมนูญ
   เช้ามืดฝนตกลงมาแป๊บหนึ่ง ดีที่ไม่ตกนาน ตอนเช้าพอขี่จักรยานได้นิดหน่อย อารมณ์ยังคงเหมือนได้รถคันใหม่อยู่เลยครับ แม้ว่าเมื่อวานจะขี่ไปนานหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม
   ลืมเล่าไปว่า เมื่อเย็นวันเสาร์ตอนเตรียมรถจักรยาน ผมปรับเบาะ Brooks ให้แหงนขึ้น 1 สเตป สันนิษฐานว่าขี่นานๆแล้วเบาะเริ่มยุบตัว นึกสนุกต่อเลยปรับ Stem ให้มันลดลงเหลือ 0 องศา ปรับองศาแฮนด์ให้พลิกเท่าระดับเดิม (ผมใช้แฮนด์ผีเสื้อ และชอบจับข้าง เลยปรับให้มันเอียงขึ้นราว 10 องศา จะได้ใช้แทน Bar End ได้ด้วย)
   มองรถจากด้านข้าง ตอนนี้รถผมแฮนด์ต่ำกว่าเบาะราว 2 นิ้วไปแล้ว ไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ตอนแรกๆ รถผมแฮนด์จะสูงกว่าเบาะ 2 นิ้ว ค่อยๆ ปรับองศา Stem ลงมาเรื่อยๆ ผมว่าแฮนด์ต่ำๆ ขี่สบายกว่า (ทรรศนะส่วนตัวสำหรับคนที่ขี่มานานแล้ว)
   ผลจากการที่แฮนด์ต่ำกว่าเบาะ ก็ส่งผลให้น้ำหนักลงที่เบาะน้อยลง ใช่เลย ทำให้เจ็บก้นน้อยลง แต่ก็แลกกับน้ำหนักที่ลงแขนมากขึ้นแทน
   อารมณ์เหมือนได้รถคันใหม่ที่ยั้งไม่คุ้นมือ รู้สึกว่าทำความเร็วได้ดีกว่าเดิม แต่ปล่อยมือขี่ได้ยากกว่าเก่านิดๆ ไม่รู้ทำไม หรือยังไม่คุ้นก็ไม่รู้
   เช้าไปทำงานร้านขายของ ใช้ชีวิตอยู่จนถึงเย็น วันเรียบง่ายที่แสนน่าเบื่อและผมจะต้องเจอกับมันไปอีกนาน
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:43:44 pm
11 ธค 55
   สามวันจากนี้ผมจะต้องอยู่เฝ้าร้านตั้งแต่เช้าจรดมืด เจ้าของร้านไปต่างจังหวัด
   มิวยังคงปิดเทอม เขาขอตามออกมาด้วย เพราะอยู่บ้านก็ต้องอยู่คนเดียว แต่มาร้านขายของเขาก็เบื่อ ผมเห็นใจ เลยให้สตีฟจ็อบไปช่วยดูแล แล้วก็ไม่ผิดหวัง สตีฟทำหน้าที่เป็นคนดูแลเด็กได้อย่างดี
   กลายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยคอมฯ
   จำใจครับ รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยอมปล่อย ทำไงได้
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:44:46 pm
12 ธค 55
   12 -12 -12
   12 -12-12
   มันคือตัวสกรีนที่กลางเสื้อ ออกแบบไว้ตั้งแต่ต้นปี กะว่าปีนี้ขอออกหนังสือจักรยานสักหน่อย แต่หลังจากได้ข่าวจากพี่วุฒิมาว่าจะมีหนังสือจักรยานฟอร์มใหญ่มาเปิดตัว ผมเลยหยุดพักงานของตัวเอง กะว่าจะรอดูงานของเขาก่อน ถ้าเจ๋งจริง ดีจริง ผมจะไปช่วยอีกแรง คือไม่ต้องไปทำอะไรสู้กันให้เหนื่อย ถ้าเขาเก่งกว่า เจ๋งกว่า ก็ไปเป็นพวกเดียวกันซะเลย
   โลกธุรกิจยุคใหม่ ต้องเปลี่ยนแนวคิดครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ วันนี้ Racing Club ไม่ได้วางแผงตามเวลา 12 นาฬิกา 12 นาที 12 วินาที
   ปล่อยให้วันเลขสวยสุดๆ ในรอบพันปีผ่านไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตลอดวันก็อยู่ร้านขายของ ยก แบก เข็น สินค้าอยู่หน้าร้าน มีคนมาส่งสินค้าก็พาไปลงของในโกดัง เจอบางร้านคนขับรถไม่ยอมช่วยลูกน้องตัวเองยกของ ผมก็ต้องลงมือช่วยเอง ไม่งั้นมันก็ไม่เสร็จเสียที
   เจ็บหลังอยู่ และเจ็บตลอดเวลา แต่ก็ต้องทำ อืมม มันยากนะที่จะทำใจยอมรับได้
   แต่ก็ต้องทำ
   พรุ่งนี้ก็ยังคงต้องทำ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:45:39 pm
13 ธค 55
   ขี่จักรยานไปแป๊บเดียว วันพฤหัสบดีนี่ต้องรีบออกจากบ้าน ไปแย่งที่จอดรถกันริมถนน แถวร้านขายของผมมีตลาดนัดครับ เป็นตลาดนัดพระเครื่อง แปลกดี คนชอบมาดูพระกันเยอะมาก ส่วนตัวผมเองไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
   รีบจอดรถแล้วก็ต้องรีบเข้าร้านทำงาน ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบไปหมด รีบๆ ทำไปให้หมดวัน เพื่อวันพรุ่งนี้ก็ต้องมาเร่งรีบอีกเช่นเคย
   แต่เราสามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้มิใช่หรือ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:48:40 pm
14 ธค 55
   บ่ายมีรถมาส่งสินค้า ผมนำไปลงเก็บไว้ในโกดัง เสร็จแล้วถึงจะว่าง มีเวลาส่วนตัวก็ตอนนี้แหละครับ
   หัวค่ำลงมาประชุม วันนี้มีบริษัทนิติชื่อ QPM มานำเสนองาน ผมไม่ได้เข้าร่วมประชุมกรรมการคอนโดนี้มาหลายรอบแล้ว เกรงใจพวกเขากันสุดๆ ก็บอกปัญหาเขาไปตรงๆ แหละครับว่าผมต้องอยู่เฝ้าจนเลิก ปาเข้าไป 3-4 ทุ่ม แถมผมยังไม่ได้เข้าพักที่คอนโดอีกด้วย ต่างจากกรรมการคนอื่นๆ ตรงนี้แหละ พวกเขาส่วนใหญ่จะพักประจำ เลยเจอกันง่าย คุยกันบ่อย ผมเองมีห้องอยู่ก็เหมือนไม่มี ปีที่แล้วปี 54 พักไป 3 วัน มาปี้นี้ปี 55 ยังไม่เคยเข้าพักเลยสักวัน เฮ้ออออ
   มิวเข้าประชุมกับผมด้วยนะ ผมพาเขาไปทุกที่ๆ ตัวเองต้องเจอ ให้เขาได้รู้ได้เห็นบรรยากาศในห้องประชุมที่มีทั้งการโต้เถียงกัน เห็นถึงปัญหาของการบริหาร อยากให้เขามีข้อมูลเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก หวังว่าคงมีประโยชน์แก่เขาบ้างในภายหน้า
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:50:25 pm
15 ธค 55
   มิวหยุดปิดเทอมมานานจนรักษาเวลาไม่ได้ วันนี้ตื่นสาย เตรียมตัวสาย แน่ล่ะ ส่งผลให้ออกจากบ้านสาย และเข้าเรียนสายไปด้วย
   ส่วนผมจะมาสายก็ไม่มีผลอะไร สายหรือเช้าชีวิตที่เหลือก็เหมือนๆ กัน มาเร็วก็ทำงานได้เยอะหน่อย มาช้าก็อาจมีงานอื่นให้ทำแทน เช่นขับรถไปบรรทุกของที่ห้างแมคโคร ไปซื้อสินค้าจากร้านอื่น ฯลฯ แต่วันไหนที่ไม่ต้องยกของหนักนี่ถือว่าเป็นมงคลของชีวิตก็ว่าได้ เพราะทุกวันนี้มันไม่ได้เจ็บหลังตอนยกของแล้ว แค่ขับรถนานๆ เกิน 1 ชม ก็เจ็บหลังเสียแล้ว
   เช้ามิวเรียนเสริมวิชา บ่ายเรียนคุมอง จะว่าหนักก็หนัก แต่มิวเขารับได้ก็โอเค
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 17, 2012, 02:52:36 pm
16 ธค 55
   ลืมตาตื่นตอน 0430 แต่ยั้งไม่ยอมลุก กลายเป็นเผลอหลับต่อ ตื่นมาอีกที 0630 ฉิบหาย สายไปหน่อย
   รีบอาบน้ำทาครีมกันแดด ลังเลว่าจะแต่งชุดแบบไหนดี คือมันมีสองอารมณ์ไง แบบมาตรฐานนี่ง่าย ถ้าออกทริปยาว ขี่เข้ากลุ่มก็แต่งชุดจักรยานซะ จบ ไม่ต้องคิดมาก แต่ระยะหลังผมวางแผนเขียนหนังสือจักรยานอีกรูปแบบหนึ่ง เลยทำให้อยากใส่ชุดธรรมดาปกติแบบชาวบ้านท้องถิ่นเขาบ้าง ไม่อยากให้ชุดจักรยานทำให้เราเป็นตัวประหลาดตอนเดินตลาด
   ตื่นก็สาย วันนี้แดดจะแรงเหมือนวันผ่านๆ มาหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าได้อากาศแบบเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วก็จะสุดยอดมาก จำได้แม่นว่าสัปดาห์ก่อนแดดออกตอน 1100 ขี่ได้สบายจริงๆ
   ว่าแล้วก็เอาชุดธรรมดาออกขี่ ใส่ชุดทำงานออกขี่ ชุดทำงานของผมไม่ได้เลิศหรูหรอกนะ เป็นแค่เสื้อยืดเก่าๆ โทรมๆ กับกางเกงขาสั้น ยิ่งหน้าฝนนี่ใส่ขาสั้นบ่อยครับ โดนฝนแล้วขากางเกงมันไม่เลอะเทอะมาก
   ขั้นตอนสุดท้ายก่อนเอารถออกขี่วันนี้ต้องใช้ทิชชู่เช็ดคราบไขที่ทาเคลือบเบาะ Brooks ผมไม่ได้ทาไขเคลือบมาเป็นปีแล้วมั้ง เมื่อวานได้ฤกษ์ดี เลยลงไขไว้ตั้งแต่หัวค่ำ
   ออกขี่ไปได้แป๊บเดียวแดดออกแรงจัดเลย ต้องเอาผ้าคลุมหน้าและถุงแขนออกมาสวม นั่งขี่แล้วรู้สึกได้ทันทีว่าเบาะนุ่มกว่าเก่าครับ ผมไม่ชอบลงไขเคลือบเบาะบ่อยจนเกินไป กลัวเบาะมันจะยืดง่าย แต่แปลกนะที่เห็นหลายคนทาบ่อยเหลือเกิน เขาคงไม่รู้ว่ามันเป็นโทษ
   เริ่มชินกับเซ็ทติ้งชุดนี้แล้วครับ ขี่แล้วไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร คงจะขี่แบบนี้ไปอีกสักพักใหญ่
   เลือกใช้เส้นทางเข้าไปในสวนครับ นึกไม่ออก วางแผนไว้ไม่ดีพอ ออกขี่แบบ No Plan ที่มั่วๆ ไปหน่อย เพราะมันสายแล้ว รถยนต์เลยเยอะ ขี่ไม่ค่อยสนุก เข้าสวนแล้วก็โดนหมาไล่กวดแบบขำขำ แต่ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่ได้โดนมานาน
   ขี่ไปจนทะลุกับเส้นถนนวงแหวน แดดร้อนแรงมากขึ้นทุกทีๆ ผมว่าอุปสรรค์สำหรับผมมันคือแดดอันร้อนแรงนี่แหละครับ เมื่อก่อนคิดว่าทางเขาสูงชันนั้นน่ากลัว แต่พอผ่านมาได้แล้ว มันก็รู้สึกเฉยๆ
   ขณะขี่จักรยานคนเดียวนี่ผมได้ไอเดียต่างๆ มากมาย อย่างวันนี้ก็คิดโครงเรื่องสั้น (my father the hero) ที่ยังเขียนไม่จบได้อีกเยอะเลย คิดไปคิดมาแล้วน่าจะสร้างเป็นภาพยนตร์นะ มันเป็นหนังที่แสดงถึงความรัก ความผูกพัน ความมุ่งมั่น กตัญญู อาจไม่ใช่แนวเด็กวัยรุ่นตามกระแส แต่เป็นหนังที่คนอายุ 30 ปีขึ้นไปต้องประทับใจแน่ๆ
   อีกไอเดียคือธุรกิจโรงแรมสำหรับนักเดินทาง แน่ล่ะ ไม่ใช่แบบพวก Hostel ที่พวก backpacker พักกันเหมือนถนนข้าวสาร แต่เป็นโรงแรมของนักจักรยานโดยเฉพาะ ผมใช้ชื่อแบบคิดสดๆ ว่า bike packer hostel
   ไอเดียเหล่านี้ไม่เคยเกิดเลยตอนขี่เป็นกลุ่มครับ และนี่คือเหตุผลที่ระยะหลังมานี้ผมซัดคนเดียวตลอดเลย
   แวะพักหลบแดดที่เกาะคุณกะลา (เกาะลิงแสม ที่บางขุนเทียน) แล้วก็ขี่กลับบ้านย้อนเส้นทางเดิม ช่วงใกล้ถึงบ้านแวะเข้าตลาดหาซื้อของกิน วันนี้เลือกบะหมี่แห้ง ขนมไข่หงส์ และน้ำเต้าหู้ ไม่ได้กินทีเดียวหมดล่ะ เก็บไว้ตุนเป็นเสบียงสำหรับตลอดวันนี้
   ถึงบ้านจอดรถเสร็จก็รีบกินบะหมี่ก่อนเลย เก็บไว้นานจะรสชาติไม่ดี ปกติผมจะจอดกินที่ร้านนะ แต่วันนี้ร้านเขาคนเยอะ จอดแล้วมองไม่เห็นรถจักรยาน เลยซื้อแบบใส่ถุงแทน
   ภรรยาพาลูกไปเรียนซุปเค ผมไม่อยากจะเรียกชื่อนี้ให้มันหลุดออกมาจากปากเลยนะ คนที่ไม่รู้จัก ไม่เข้าใจ เขาก็จะสงสัย เรียนอะไรของมึงวะ
   ผมอยู่บ้านคนเดียวตลอดจนถึงบ่าย ใช้เวลาระหว่างวันด้วยการดูแลลูกปลา ตอนนี้ปลาเริ่มใหญ่มากขึ้นแล้ว ลูกปลาที่มาจากพ่อแม่ปลาตัวใหญ่ ลูกมันก็จะตัวใหญ่ โตเร็ว แต่ในทางกลับกัน หากพ่อแม่ตัวเล็ก ลูกของมันก็ตัวเล็กนิดเดียว แถมโตช้า
   จับพวกตัวโตหน่อยลงในบ่อปลาใหญ่ ถ้าเอาตัวเล็กลงไปล่ะก็ รับรองโดนกินเรียบ ลองมาหลายชุดแล้ว เห็นปลาหายไปก็สงสัยอยู่นาน มาวันหนึ่งเห็นมันไล่กินกับตา
   มิววิ่งเข้ามาบ้านตอนบ่าย เห็นแล้วตกใจปนตะลึง เฮ้ย ทำไมตัดผมทรงนี้ !!!
   ด้านหน้าไว้ยาวลงมาเหนือคิ้วคล้ายทรงผมม้า ด้านข้างคล้ายผมบ็อบ แต่ด้านหลังมีรอยไถตรงต้นคอ เหมือนทรงผมผู้หญิงเลย
   เย็นกินร้านสเต็ค 49 หน้าปากซอยนี่เอง กลับมาบ้านก็เตรียมตัวจัดข้าวของ
พรุ่งนี้มิวเปิดเรียนแล้วครับ ส่วนผม ยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนเดิมๆ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 18, 2012, 03:20:11 pm
17 ธค 55
   มิวเปิดเทอมวันแรก เป็นวันแรกของเทอมสุดท้ายในชั้นปีนี้
   ขี่จักรยานสูดรับลมเย็นช่วงเช้าเหมือนเดิม ขี่ทุกวันไม่ได้ต้องการให้ขาแกร่ง แต่ถ้าเลือกได้ผมอยากให้ก้นคุ้นชินกับการถูกกดทับเป็นเวลานาน เพราะต่อไปผมจะต้องจัดชุดใหญ่ให้แก่ตัวเองแน่ รอแค่โอกาสเหมาะๆ ก่อน
   เห็นโฆษณากระทิงแดงอันใหม่ที่ชายหนุ่มสละตั๋วบัตรรถทัวร์ให้แก่หญิงที่มีธุระต้องกลับไปบ้านอย่างเร่งด่วน เห็นแล้วเกิดไอเดียทำภาคต่อครับ คือให้ผู้ชายเดินไปหยิบจักรยานจากใต้ท้องรถทัวร์มาขี่
   อ่านดวงในหนังสือพิมพ์เขาบอกจะได้รับมอบหมายงานใหม่ ตำแหน่งใหม่ ซึ่งเราจะได้ทำได้ ได้รับความชมเชย เป็นที่ไว้วางใจของผู้ใหญ่ ฟังดูดีไหม
   แต่ในความเป็นจริงมันก็คือวันนี้ได้รับมอบหมายงานใหม่ให้ไปนั่งเช็คสินค้าริมฟุตบาท ตรวจเช็คสินค้าที่หน้าโกดัง
   มันก็คืองานเก่าๆ ของผมนี่แหละ ชั่วชีวิตนี้ หากยังคงอยู่ที่ร้านแห่งนี้ มันก็ไม่มีทางที่จะก้าวหน้าไปกว่านี้หรอก
   วันนี้ช่างมาซ่อมห้องน้ำที่ผมใช้ประจำ เป็นห้องน้ำเก่าแก่อายุราว 30 ปี เป็นแบบอ่างอาบน้ำ บ้านเลอะเทอะไปหมด ไม่รู้ว่ากีวันถึงจะเสร็จ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 19, 2012, 02:59:44 pm
18 ธค 55
   ผมจำวันนี้ได้แม่น วันนี้ในปีที่แล้วผมรู้สึกไม่สบายอย่างมาก แบบชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนมาถึงวันนี้ครบรอบ 1 ปีเต็ม อาการก็ยังไม่หายดี
   เช้าออกขี่จักรยานรับลมเย็น ถ้า กทม เย็นได้ขนาดนี้ ภาคเหนือก็ไม่ต้องพูดถึงครับ นึกถึงพี่สมัครที่เชียงรายจริงๆ บ้านเขาอยู่นอกเมืองด้วย ยิ่งคงต้องเย็นสุดๆ เป็นแน่ แถมห่างจากบ้านเขาไม่มากนักมีบ่อน้ำพุร้อนที่เสื่อมโทรม เห็นแล้วเสียดายมาก หากผมขี่จักรยานมาเจอแบบนี้ ก็อยากจะขอลงไปนอนแช่ อารมณ์น่าจะคล้ายออนเซนของญี่ปุ่น
กลางวันมีคนมาส่งของที่โกดัง ผมได้รับมอบหมายให้เข้าไปดูแล ปกติก็แค่ดูๆ ความเรียบร้อย แต่วันนี้พนักงานส่งของเขามีแค่คนขับมาคนเดียว แล้วมีสินค้าเต็มรถ ยก จัดเรียง ซ้อน คนเดียวเมือไหร่มันจะเสร็จเล่า
   สุดท้ายก็กลายเป็นผมต้องช่วยเขายกไปด้วย ไม่มีใครร้องขอหรอก ผมยินดีเต็มใจช่วยเองทั้งๆ ที่หลังเจ็บ ก็ต้องกะจังหวะท่าทางให้ดี ผ่านพ้นไปเกือบ 1 ชม ก็รอดมาได้ เล่นเอาเหงื่อท่วมตัว ลังสินค้าทำด้วยกระดาษ หยิบจับแล้วลื่นมาก เลยจับแก้มตัวเองให้โดนเหงื่อเปียกๆ แล้วค่อยยกต่อ รู้สึกมีกริปที่ดีขึ้นหน่อย
   แวะเข้ามาบ้านดูห้องน้ำสักหน่อยก่อนไปรับลูก วันนี้ช่างยกอ่างอาบน้ำลงมาแล้ว ยกกันสองคนไม่ไหว เลยต้องให้คนงานมาช่วยรวมเป็น 4 คน แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ เลยใช้ผ้ารองแล้วลากลงมาจากชั้นสอง
   ต้องขอชมช่างว่ารื้อได้เก่งมาก อ่างไม่มีแผลเลย เป็นอ่างทำด้วยเหล็กแบบกรรมวิธีโบราณยี่ห้อ American Standard สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ บ้านหลังนี้ราว 30 ปีแล้วครับ ข้าวของเครื่องใช้ล้วนแล้วแต่เป็นของนำเข้าทั้งนั้น ที่ผมชอบสุดก็คือกระเบื้องของ Domus ประเทศ Italy (Domus คือสถาบันออกแบบและผลิตงานศิลปะที่ดังสุดของ Italy หากเปรียบเทียบกับที่สหรัฐอเมริกาก็คือ Art Center)
   สำรวจดูบ้านสักพักก็ออกไปรับมิว เมื่อวานเปิดเทอมวันแรกเจอครูจัดเต็ม ให้การบ้านพร้อมกัน 4 วิชา กว่าจะนอนได้ก็ 5 ทุ่ม (ยังไม่ได้ทำการบ้านของคุมองที่ต้องทำทุกวัน)
   มิวเล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า เขาเห็นคนเดียวในห้องที่ไม่ต้องโดนทำโทษด้วยการให้ทำการบ้านใหม่ พูดพร้อมกับพลิกหน้าการบ้านที่เป็นรูปแผนที่ประเทศไทย แบ่งเป็นภาค และแบ่งเป็นจังหวัด เขาบอกว่าของเพื่อนๆ เขียนไม่สวย ระบายสีเลอะเทอะ แต่ของมิวทำงานเป็นระเบียบ เขียนถูกต้องหมดทุกจังหวัดก็เลยผ่านครับ
   ได้ทีก็เลยสอนเขาต่อว่า เห็นไหม ทำอะไรให้ทำเต็มที่ ตั้งใจทำในสิ่งที่เราได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ทำดีๆ แล้วก็ทำทีเดียวผ่าน ไม่ต้องมาเสียเวลาภายหลัง
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 20, 2012, 12:34:14 pm
19 ธค 55
   วันนี้รับลมหนาวได้อย่างชัดเจน ขี่รถแล้วจิตนาการล่องลอยดีจริงๆ นึกฝันไปถึงเส้นทางต่างๆ ที่เราอยากไปขี่ เมื่อก่อนอยากไปย่านยุโรป เคยเห็นในหนังมันสวยมาก อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองเพิ่งเห็น จาง เจีย เจี้ย ที่เมืองจีน ก็ฉากที่ถ่ายหนังอวตารนี่แหละครับ
   ตอนนี้ให้คิดถึงที่ไหนก็อยากไปทั้งนั้น เบื่องานที่บ้านเต็มที อยากมีชีวิตใหม่
   วันนี้งานหนักครับ ไปลงของในโกดัง 3 รอบ แปลว่าผมต้องยกของเต็มคันรถ 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นรถกระบะ ส่วนที่เหลือเป็นรถแบบ 6 ล้อ
   “หลังอาน” ไม่ใช่หมา แต่เป็นผมเอง ยกแล้วกลัวเจ็บก็ยกทีละน้อยๆ
กลับเข้ามาบ้านตอนบ่ายตกใจสุดๆ เพดานห้องโถงเหนือโต๊ะกินข้าวมีท่อโผล่ยื่นออกมา สอบถามช่างที่ทำห้องน้ำ เขาบอกว่าจะต้องเดินท่อน้ำทิ้งใหม่ เห็นแล้วจี๊ดสุดๆ เลยพาช่างไปดูด้วยกัน บอกว่าที่เรียกให้มาซ่อมน่ะ ก็เพราะมันมีรอยรั่วซึม ผมอยากให้เขาแก้ที่ตรงจุด ไม่ใช่ของเก่าไม่แก้ แต่เล่นเดินท่อใหม่แม่งเลย
   ถ้าเดินใหม่แล้วมันเก็บงานเนี๊ยบๆ หรือไปแอบอยู่ในซอกหลืบก็ยังพอรับได้ แต่ไอ้ท่อใหม่ของมันนี่อยู่เหนือโต๊ะกินข้าว ลองนึกภาพดูกำลังกินข้าวแล้วได้ยินเสียงน้ำไหลทิ้งไปด้วย อืมม บรรยากาศโรแมนติคจริงๆ
   รีบโทรหาหัวหน้าช่าง เขาอธิบายว่าท่อเก่ามันแค่ 1.5 นิ้ว เขาขยายใหม่ให้เป็น 3 นิ้ว จะระบายดีกว่า ผมเลยแย้งบอกเหตุผลของผมไปบ้าง เขาก็โอเคดีนะ รับฟังดี ไม่มีต่อล้อต่อเถียง แบบนี้พอจะคบหากันได้หน่อย
   ก็แหม ท่อ 1.5 ก็จริง แต่ผมก็ใช้มาเกือบ 30 ปีแล้ว ใช้ต่อไปอีกหน่อยไม่เป็นไรหรอก ดูแลตรงจุดเชื่อมต่อที่ทำใหม่ให้ดีก็แล้วกัน ช่างเก่าๆ เขาฝีมือดี ผมกลัวไอ้ช่างใหม่ๆ นี่แหละครับ แถมช่างคนนี้ผมไม่ได้เป็นคนหามาเสียด้วย
   เย็นไปรับมิวแล้วแวะเดินดูกระเบื้องที่ Home Pro พระราม 2 ตอนแรกตั้งใจจะซื้อกระเบื้องและปูนยาแนว แต่คิดถึงรายละเอียดแล้วมันต้องมีชั้นวางของใช้ในห้องน้ำด้วยนี่หว่า ต้องมีสายชำระ ต้องมีราวแขวนเสื้อผ้า ฯลฯ
   มิวขอแยกตัวไปอยู่ร้านนายอินทร์ เขาก็เหมือนกับผมที่อยู่ร้านหนังสือได้เป็นชั่วโมง หาหนังสือที่ตัวเองชอบไม่เจอก็ไปเรียกให้พนักงานช่วยหา วันนี้หมดค่าหนังสือไปเกือบ 400
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 21, 2012, 01:16:55 pm
20 ธค 55
   ขี่จักรยาน 30 นาที ลมที่ว่าเย็นๆ วันนี้มันลดลงแล้ว เซ็งเลย ทำไงได้ เราอยู่เมืองร้อน คิดให้เป็นสุข ต้องหาความสนุกทำในหน้าร้อน ไม่ใช่มานั่งรอลมหนาว จริงไหมครับ
   มิวบอกเมื่อคืนเขาฝันร้าย ฝันว่าพ่อถูกโจรฆ่าขณะเข้าธนาคาร โจรเข้ามาแย่งชิงกระเป๋า อีกคนก็มาทำร้าย
   เป็นเหมือนลางยังไงพิกล ขออยู่ต่อเพื่อทำความดีอีกสักนิดนะ ยังอยากเห็นมิวเขาทำความฝันของตัวเองสำเร็จ ผมบอกเขาว่า ผมอยากนั่งเครื่องบินลำที่เขาขับ ผมเขียนเรื่องสั้นเอาไว้ มีฉากขี่จักรยานทางไกลที่ผมนัดกับเขาที่ต่างประเทศ หลายเรื่องหลากความผูกพันของพ่อกับลูก
   เขียนเอง น้ำตาไหลเอง ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะอินกับผมบ้างไหม หรือผมคิดไปเองคนเดียวก็เป็นได้
   บ่ายเข้ามาบ้านดูความเรียบร้อยของช่าง เขาทำงานโอเคดีเหมือนกัน ตอนนี้ก็เหลือรอปรับพื้น ปูกระเบื้องใหม่ ติดตั้งที่วางของในห้องน้ำ เป็นอันเสร็จ
   แต่ไอ้ที่วางของนี่เลือกยากมาก ที่เห็นวางขายก็จะเป็นแบบชั้นกระจก มันก็ใช้งานดี แต่ผมขี้เกียจเช็ดกระจก อีกแบบไม่ต้องดูแลเลย คือเป็นสแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ข้อเสียคือแม่งอารมณ์เหมือนอยู่ในครัว อีกแบบสุดท้ายคือเป็นชั้นพลาสติค ดูเผินๆ เรียบร้อยดี แต่จับดูแล้วมันห่วยมาก ก๋องแก๊ง แถมอยู่ไปนานๆ สีซีดด่าง
   เย็นไปรับลูก จอดรถใน Big C อย่างดี ขณะกำลังจะเดินไปเข้ารถ มีชายหนุ่มขับ Ford Fiesta สีน้ำเงินปรี่เข้ามาจอดตรงที่ว่างด้านท้าย แล้วก็ถอยเข้าที่ แต่มันถอยมาชนรถผม ไม่ได้ไหลมาชนเบาๆ นะ อารมณ์เหมือนกับเข้าเกียร์ R แล้วไม่ได้เหยียบเบรกไว้น่ะ ชนดัง ปัง
   ผมเดินไปถึงรถพอดี เจ้าของรถเปิดประตูออกมาดู ตอนแรกเขาทำหน้างง พอรู้สึกตัวก็บอกขอโทษ รถเขาติดฟิล์มมืด เลยมองไม่เห็น
   รถผมมันไม่เป็นไรหรอกครับ โชคดีที่ขับรถตัวเองคัน Nissan 180SX ไป ถ้าเป็นรถพ่อ หรือรถคันใหม่ๆ อาจต้องมีเรียกประกัน รถผมมันมีร่อยรอยเต็มไปหมดแล้ว โดนอีกนิดก็ไม่รู้สึกอะไร
   แต่แปลกนะ ที่เขาไม่โทษตัวเองว่าถอยชน แต่โทษว่าฟิล์มมืด
   ก็เลยสอนมิวต่อไปอีกว่า หากมีสิ่งใด เรื่องใดที่เป็นความผิด ก็ต้องดูตัวเราเองก่อนเป็นหลัก ไม่ใช่โทษโน่นโทษนี่ โทษสิ่งแวดล้อม ไปต่างๆ นานา
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 24, 2012, 01:04:02 pm
21 ธค 55 สุขสันต์วันโลกแตก
   มีคนบางกลุ่มเชื่อว่าวันนี้โลกจะแตก แล้วก็อ้างอิงสิ่งต่างๆ นานามาผูกกันเป็นเรื่องราว ทั้งคำทำนาย ทั้งเอกสารเก่า ทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับแกนแม่เหล็กโลก ฯลฯ
   แต่ผมว่าเรื่องนี้ยังห่างไกลกับคำว่า Joke of the world เพราะยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้เห็นด้วยและคล้อยตาม ส่วนคนที่เชื่อนี่เขายกข้อมูลมาคุยกันเพียบ พายุสุริยะบ้าง แกนแม่เหล็กกลับขั้วอย่างกะทันหันบ้าง ดวงดาวทั้ง 9 เรียงกันเป็นเส้นตรงจะเกิดแรงดึงดูดบ้าง
   บ้านกำลังบูรณะห้องน้ำใหม่ เจ้าของบ้านให้ผมไปหาซื้ออุปกรณ์ของใช้มาเตรียมให้ช่าง ผมรีบไปหาซื้อทันที แต่วันนี้โดนตำหนิว่าไปเลือกซื้อกระเบื้องแบบโมเสคมาทำไม น่าจะใช้กระเบื้องแบบแผ่นเรียบชิ้นใหญ่ๆ จะได้มีรอยต่อน้อยๆ
   ก็ได้แต่ฟัง ไม่ได้เถียงอะไร ตอบไปแค่ว่า จะเปลี่ยนใหม่ไหมครับ จะไปซื้อให้ใหม่
   การบูรณะบ้านเก่า ผมก็อยากจะหาข้าวของแนวเก่าๆ มาใช้ให้มันเข้ายุคกัน กระเบื้องเดิมขนาด 6X8 ปัจจุบันไม่มีขายแล้ว ผมต้องการให้รอยต่อของกระเบื้องใหม่กับกระเบื้องเก่ากลมกลืนกัน และโมเสคมันเป็นชิ้นเล็กๆ น่าจะตัดแบ่งตอนเข้ามุมได้ง่าย
   บ่ายกลับมาบ้านดูช่างปูกระเบื้อง โห แทบรับไม่ได้ ขนาดเพิ่งปู ผมยังต้องให้รื้อแก้ตั้งหลายจุด ทั้งแนวกระเบื้องไม่ตรง และระดับพื้นไม่เรียบ คือปูแล้วนูนสูงๆ ต่ำๆ นั่งเฝ้าอยู่นาน แต่ไม่ได้ยืนคุมแจนะ เดี๋ยวจะเป็นการกดดัน ใช้วิธีเดินไปเดินมาดูบ่อยๆ
   เย็นแวะไป Home Pro อีกครั้ง หาซื้อชั้นวางเครื่องสำอางให้ภรรยา ตอนแรกๆ มาอยู่ด้วยกันก็มีนิดๆ หน่อยๆ ไม่กี่ขวด ถึงตอนนี้ไม่น่าเชื่อ อะเมซิ่งสุดๆ คะเนด้วยสายตา เอาแบบคร่าวๆ ผมว่าไม่น่าต่ำกว่า 30 ขวด (ขวดเล็กขวดน้อย นับหมด) เลยจัดตู้แขวนลอยยึดผนังมา 2 ใบ นี่ถ้าให้เวลาผมเลือกของนานกว่านี้หน่อย น่าจะได้กระเบื้อง ตู้ และพวกชั้นวางของที่ดูดีกว่านี้แน่ๆ
   คนไทยมีความสุขอันดับ  6 ของโลก (ข่าวจากหนังสือพิมพ์ฝรั่ง) ในทางกลับกัน คนสิงคโปร์กลับเป็นคนที่เคร่งเครียดมากสุดในโลก
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 24, 2012, 01:05:16 pm
22 ธค 55
   เช้าวันเสาร์เวียนมาบรรจบอีกครั้ง จากเดิมเด็กๆ ผมเฝ้ารอวันเพื่อจะได้ดูทีวี ความสุขของผมวัยเด็กก็มีแค่การได้ดูการ์ตูน มิวก็เช่นกันนะ และคงเหมือนกับเด็กทั้งโลก แต่ก็ได้ดูแค่หน่อยเดียว เช้าต้องรีบไปเรียนพิเศษ มันเป็นเรื่องลำบากใจของผมพอควร ไม่อยากให้ลูกเรียนเท่าไหร่ อดทนหน่อยนะลูก สอบเข้า ม1 ได้นี่ขอให้หยุดยาวไปเลย
   ตั้งเป้าไว้สูงพอควรครับ อยากให้เข้าโรงเรียนสวนกุหลาบ ก็เลยต้องเสริมภูมิความรู้หน่อย นี่ถ้าเรียนต่อโรงเรียนแถวบ้านอย่างเพื่อนเขาหลายๆ คนก็ไม่ต้องเรียนพิเศษอะไรเลย แต่เป้าหมายชีวิตคนเราต่างกันไง มิวเขามีความฝันชัดเจน ผมเป็นพ่อ มีหน้าที่ช่วยเสริมและผลักดันเขาให้ไปสู่ฝันให้สำเร็จ
   เรียนเยอะก็ต้องผ่อนคลายครับ ไม่ได้ตึงจนเกินไป แต่ก็เหมือนดาบสองคม มิวเลยชอบเล่นไอแพดมาก ขอโหลดเกมมาเล่นบ่อย ทั้งๆ ที่ผมพยายามบอกเสมอว่าไอ้แทบเลทแนวนี้ไม่ได้มีประโยชน์เพื่อเล่นเกมอย่างเดียวนะ เครื่องผมมีพวกโปรแกรมแผนที่มากมาย โดยเฉพาะพวกที่เกี่ยวกับจักรยานและการเดินทาง
   วันนี้คนงานขับรถซาเล้งส่งของไม่มากัน 2 คน (ปกติจะไม่มาแค่ 1 คน) ทำเอาส่งของลำบากมาก ลูกค้าหลายรายที่จอดรถยนต์ไม่ได้ เราก็เอารถซาเล้งไป แต่วันนี้สิ ทำไงดี มันต้องเป็นวันที่ยาวนานแน่ๆ
   อยู่ร้านจนถึงบ่ายเกือบจะเย็น พามิวไปเรียนคุมองต่อ ผมต้องรอลูกเกือบ 2 ชั่วโมง ไม่ชอบเดินเล่นไร้จุดหมาย เลยใช้เวลาไปอยู่ในร้านหนังสือแทน เจอกองหนังสือเก่าเขาเอามาลดราคา แบบนี้ชอบมาก หนังสือจะเก่าใหม่ผมไม่สนใจ ดูแค่เนื้อหาสาระของมันอย่างเดียวเท่านั้น บางทีข้อมูลเก่าๆ มันก็มีประโยชน์ ถ้าใจของเราคิดหาประโยชน์จากมันได้
   วันนี้ได้หนังสือประวัติย่อของนักธุรกิจดังๆ ในไทย เล่มละ 30 บาท อีกเล่มแพงหน่อย แต่รูปเล่มสวยงามมาก ทำมาคล้ายๆ หนังสือโบราณ เป็นตำราพิชัยสงครามของจีน
   กลับมาบ้านตอนเย็น รีบเข้าไปดูห้องน้ำ โอ้โห อะเมซิ่ง ไม่ได้อยู่คุมวันเดียว ช่างปูกระเบื้องได้ส้นตีนมากเลย
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 24, 2012, 01:06:44 pm
23 ธค 55
   ตื่นกลางดึกตีสอง นอนต่อยังไม่ทันหลับดี หมาข้างบ้านเห่าหอนอีกแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้จะนึกถึงคอนโดทันที ที่นั่นเงียบสงบมาก บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบายอีกด้วย
   0300 ลงมาห้องทำงาน นั่งคิดวางแผนจัดระเบียบชีวิต ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ชีวิตของเราในปีหน้าจะทำอย่างไรดีนะ ปี 55 นี้ ดูชีวิตผมจะแย่เอามากๆ เลย การงานไม่ประสพความสำเร็จแม้แต่น้อย ขาดอิสระในทุกๆ ด้าน ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ไม่ได้โทษดวงนะ โทษตัวเอง 100% เลยแหละ
   อยากสร้างอาณาจักรของตัวเองครับ จะเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ได้เงินน้อยก็ไม่เป็นไร ชีวิตผมเอาความสุขเป็นที่ตั้ง จะทำอะไรต้องมีความสุขไว้ก่อน ได้เงินเยอะ แต่ไม่สุขก็ไม่เอา ได้เงินน้อย แต่สุข ก็น่าจะดีกว่า
   ความสุขที่ว่านี้คือความสุขของทั้งผู้ให้และผู้รับ ภาษาธุรกิจเรียก win win เรื่องรถยนต์ผมทิ้งร้างไปนานมาก (แต่ก็ยังคงอยู่ในสายเลือด) ระยะหลังมานี้ให้เวลากับจักรยานแทน เพราะต้องเก็บเงินให้ลูกเรียนหนังสือ การเอารถยนต์ออกแต่ละครั้งมันคือค่าใช้จ่ายล้วนๆ ขี่จักรยานนอกจากประหยัดเงินแล้ว ยังมีสุขภาพดีกว่าขับรถยนต์ แต่ก็ต้องแลกกับการสูดดมควันพิษนิดหน่อย หาทางออกด้วยการเลี่ยงการจราจรติดขัด
   ปีหน้า 2013 น่าจะมีเวลาให้กับจักรยานมากขึ้น ไม่ใช่ซื้อรถเพิ่มล่ะ ไม่ใช่คนแนวนั้น ตอนขี่ใหม่ๆ ก็อยากมีรถอื่นบ้าง แต่พอเดินทางไกลโหดๆ แล้วกลับมาคิดต่อ ผมกลับไม่อยากได้อะไรเพิ่มแล้วล่ะ แต่อยากไปในสถานที่ในฝันแทน
   เรื่องรถน่ะจบไปนานแล้ว แต่การเดินทางไกลของผมมันเพิ่งเริ่มต้น แล้วก็เกิดคำถามว่า “ไปไหนดี”
   ถ้าเส้นทางที่อยากไปขี่มากสุดน่ะ มันไกลโพ้นอยู่ถึงนอร์เวย์โน่นเลย เสมือนเส้นทางในฝัน คือเคยไปแล้วครั้งหนึ่งไง ขณะกำลังนั่งรถยนต์แล้วเห็นพวกจักรยานทัวริ่งเขาขี่ขึ้นเขามาแล้วใจมันจี๊ด คงเข้าใจผมนะ
   เส้นทางไป Nord Kapp เปิดปีละแค่ 3 เดือน ที่เหลือ 9 เดือนมันถูกปกคลุมด้วยหิมะ เป็นเส้นทางที่เหนือสุดของยุโรปที่มีถนนเข้าถึง เลยไปอีกนิดเดียวข้างหน้าลิบๆ ก็จะถึงขั้วโลกเหนือแล้ว ความสูงและความหนาวเย็นไม่ต้องบรรยายครับ สองข้างทางเป็นหิมะทั้งหมด
   เดินทางลำบาก ค่าใช้จ่ายสูง อุณหภูมิต่ำมากระดับติดลบ ลมแรงมาก ร่างกายต้องแกร่งจริงๆ

   เช้าพามิวไปเรียนพิเศษที่ “ซุปเค” ลำบากใจจริงๆ ตอนเอ่ยชื่อนี้ ชื่อมันประหลาดมาก แต่เด็กเรียนเยอะ สอนคณิตศาสตร์อยู่แถวสาทร สีลม เข้าเรียน 0800 ก็ต้องออกจากบ้าน 0700 และก็ต้องกินมื้อเช้าแบบแดกด่วน ไม่ชอบชีวิตแบบนี้เลยจริงๆ ว่ะ
   มื้อเช้าแซนวิชแฮมชีส 2 ชิ้น นม 1 ขวด โออิชิ 1 กล่อง นี่คืออาหารเช้าของมิว ส่วนผมส่งลูกเสร็จก็ไม่รู้จะไปไหนดี ไม่มีจักรยานพับคันเล็กติดรถไว้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว (Neobike 14 คอหักมาหลายเดือน ยังหาแผนซ่อมแบบเนี๊ยบๆ ไม่ได้) ลูกเลิกเรียน 1030 ก็เลยกลับมาตั้งหลักที่บ้าน
   ไม่มีอะไรทำ จัดการล้างบ่อปลาดีกว่า ทำแผ่นกั้นบริเวณให้ลูกปลาตัวเล็กอยู่ ตอนนี้มีปลาตัวโตๆ ว่ายเต็มบ่อไปหมดแล้ว เป็นร้อยตัวแล้วล่ะ อีกไม่กี่เดือนนี่งานเข้าแน่ๆ เพราะมันจะยิ่งแออัด ถ้าไม่มีที่ขยับขยาย ปลามันจะเครียด จะไม่สบาย จะกัดกันเอง
    ล้างบ่อยังไม่ทันเสร็จดี มิวโทรมาเรียกบอกว่าเรียนเสร็จแล้ว รีบออกไปรับที่จุดนัดพบ แล้วก็กลับมาบ้านอีกรอบ ผมล้างบ่อต่อ ส่วนมิวเล่นกับสตีฟ
   เย็นพี่สาวพาลูก 3 คนมาเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน พากันไปกินอาหารทะเลที่ร้านครัวลุงญา อยู่แถวศาลพันท้ายนรสิงห์ ขับเข้าไปทางบางขุนเทียนชายทะเลนี่แหละ แล้วก็ต่อไปทางมหาชัยอีกสัก 20 กม เห็นจะได้ ผมว่าในละแวกนี้ ร้านนี้อร่อยที่สุดครับ กินมาตั้งแต่ร้านเป็นเพิงเล็กๆ จนวันนี้ขยายใหญ่โตทำที่นั่งให้ลูกค้าหลายโซน ตั้งอยู่บนผืนน้ำสวยงามมาก ลมเย็นสบายสุดๆ เมนูอาหารทะเลมีครบ กุ้ง ปู ปลา ขนาดกั้งก็ยังมี แต่เป็นกั้งกระดานนะ (ราคาถูกหน่อยเพราะมีเนื้อน้อย) ผัดผักอร่อยมาก ปลาทอดราดน้ำปลาที่เป็นอาหารยอดฮิตของทุกร้าน ที่นี่ทำได้เยี่ยม กินจนปลาหมด เพิ่งมาเห็นว่ามีน้ำจิ้มวางอยู่บนโต๊ะ มันอร่อยเสียจนกินเปล่าๆ กันเลย
   กินกันไป คุยกันไป หลานคนโตเล่าเรื่องชีวิตการทำงาน บ่นว่าทุกวันนี้ได้เดือนละไม่ถึงแสนเลย คนกลางเรียนจุฬามากับแฟนหนุ่ม ส่วนคนเล็กนี่เล่นแรง เพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยเบิร์คเล่ย์ ซานฟรานซิสโก มกราจะกลับไปเรียน จะมาไทยอีกครั้งกลางปี แล้วไปฝึกงานที่อังกฤษสองเดือน จากนั้นก็ไปเรียนต่อ ฯลฯ
   ฟังชีวิตเด็กๆ แล้วเทียบกับตัวเองโคตรจะหดหู่เลยว่ะ ทุกวันนี้ไม่มีเงินสักบาท ทำงานแบบใช้แรงงานมาตลอด ยกของก็ต้องคอยประคองตัวดีๆ กลัวหลังเจ็บ ไม่ต้องดูอะไรมาก ขนาดจะพาพ่อแม่มากินแบบนี้ผมยังไม่มีเงินเลย ทำได้ก็แค่ซื้อขนมที่พ่อแม่ชอบเล็กๆ น้อยๆ มาฝากเป็นครั้งคราว
   ไม่เป็นไรครับ ฟังชีวิตเขาเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ชีวิตผมไม่ได้ใช้เงินเป็นตัววัดดรรชนี แต่ใช้เรื่องของความสุขเป็นตัวตัดสิน
   แต่เงินก็สำคัญล่ะ มันทำให้เราไปสู่ฝันง่ายขึ้น ทำให้ชีวิตเรามีอุปสรรคน้อยลง
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 25, 2012, 02:46:13 pm
24 ธค 55 Christmas eve
   เฮ้ย แปลกมาก เช้านี้ลมแรงผิดปกติ เป็นลมหนาวเย็นมาก นึกถึงตอนขี่ที่ลำปางเลยครับ ตอนปี 52 นี่จำได้ขึ้นใจ เป็นปีที่ไทยเราหนาวยาวนานมากไปจนถึงเดือนเมษา ไม่รู้จะมีแบบนี้อีกบ้างไหมหนอ
   ขี่จักรยานโต้ลมจนหูเย็น แขนขาเย็นเจี๊ยบ กลับมาบ้านรีบกินข้าวแล้วก็เข้าวงจรชีวิตปกติ
   หน้าหนาวนี้แดดแรงจัดนะ อากาศแห้งมาก ช่วงนี้ยืมรถพ่อมาใช้ตลอดเลย เพราะติดฟิล์มกรองแสง ส่วนรถผมเองก็ขับบ้างตอนเย็นๆ ไปรับมิว
   บ่ายเข้ามาบ้าน ดูช่างทำห้องน้ำ เขาจัดการแก้พื้นกระเบื้องที่ใช้เท้าปูใหม่ ตอนแรกคิดโมโห แต่พอสั่งแก้แล้วเขาก็ไม่อิดออด แบบนี้ค่อยโอเคหน่อย เรียกว่ายังพอคบหาได้
   เจาะยึดชั้นวางของ ตู้ใส่ของใช้ ราวแขวนผ้า ติดตั้งสายชำระ เป็นอันเสร็จพิธี คิดถึงห้องน้ำนี้เหลือเกิน อาบทุกวันมาตั้งแต่เด็ก แม้จะเป็นห้องเก่าๆ แต่มันก็คือห้องของเรา
   ผมออนไลน์ด้วยการใช้ไอ้แพดทำตัวเป็น Hot Spot และใช้ PC เชื่อมสัญญาณด้วย Bluetooth แต่วันนี้เกิดเหตุผิดปกติ พอเปิด Hot Spot ปุ๊บ เครื่องไอ้แพดมันบอกว่าเชื่อมต่อสัญญาณเรียบร้อยแล้ว เฮ้ย งงสิ ผมยังไม่ได้เปิด bluetoothเลย
   ด้วยความอยากรู้ เลยทดลองเปิดเวป เฮ้ย เข้าได้ด้วย แล้วไอ้สองตัวมันติดต่อกันได้อย่างไร โดยที่ Bluetooth มันปิดอยู่ !!! (เครื่องคอมฯของผมไม่มี wifi)
   ใช้งานสักพัก ด้วยความอยากรู้ ก็เลยตัดสัญญาณของ Hot Spot ทิ้งไว้ 10 นาที อยากรู้ว่ามันฟลุ๊คหรือเปล่า ลองเปิดใหม่มันก็เชื่อมต่อให้เองอีกแล้ว งงสุดๆ เลย มาได้ไงนี่
   ช่างทำห้องยังไม่เสร็จดี ผมรีบไปรับมิวแล้วกลับมาคุมงานต่อ กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า บ้านช่องเลอะเทอะไปหมด ก่อนช่างกลับผมขอลองเปิดน้ำดู แล้วก็เห็นความไม่เรียบร้อยอีกแล้ว ไอ้กระเบื้องที่เขาปูใหม่น่ะแหละ แนวมันก็โอเคแบบพอรับได้ ไม่ได้เนี๊ยบอะไรเลย แต่ที่แย่ก็คือยาแนวของมันแทนที่จะเป็นสีขาวสะอาด กลับมีคราบสีเทาๆ เต็มไปหมด ไอ้นี่มันเกิดจากขั้นตอนการปูแล้วมีปูนกาวที่ยึดกระเบื้องมันทะลักขึ้นมา มันก็เป็นเรื่องปกตินะ แต่ช่างต้องคอยเอาเกียงปาดออกสิ นี่เล่นปล่อยแม่งไว้อย่างนั้น แล้วพอลงยาแนวสีขาวมันก็เลยเหมือนเด็กเล่นผสมสีกัน
   ทำงานอะไร ให้ตั้งใจทำ ทำรอบเดียวให้ผ่าน แทนที่วันนี่จะเสร็จจบ กลายเป็นว่าพรุ่งนี้ต้องมาแก้งานใหม่อีกครั้ง
   อีกเรื่องคือสายชำระที่ผมเพิ่งซื้อมาจาก Home Pro วันก่อน เลือกของอิตาลีอย่างดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ ราคาแพงสองพันกว่าบาท รับประกันตลอดอายุการใช้งาน แต่วันนี้กดลองน้ำปืดแรก แม่งหยดครับ ลองไปสักพัก ไม่หยดอย่างเดียว มันไหลพรากเป็นสายเลย
   เฮ้ย อึ้งไปเลย ไอ้ยี่ห้อนี้ผมเองก็ใช้อยู่ที่บ้านเป็นประจำมานานปีแล้ว ไว้ใจได้ มันก็ใช้ถนัดมือดีนะ ไม่มีรั่วหยดซึมอะไร วันนี้เจอของใหม่เอี่ยมรวน งงจัด รีบให้ช่างถอดออกทันที ตัวเองก็รีบไปหาใบเสร็จ พรุ่งนี้จะต้องรีบไปเปลี่ยนอย่างด่วน
   ได้เข้าลองอาบน้ำตอนสามทุ่ม รู้สึกดีครับ ได้อาบในห้องที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 26, 2012, 02:46:56 pm
25 ธค 55
   ขี่จักรยานตอนเช้ารับลมหนาว สูดเข้าไปให้เต็มปอด ไม่รู้จะเย็นได้สักกี่วันหนอ แต่ถ้าทางภาคเหนือไม่ต้องพูดถึง มีเลขตัวเดียวให้เห็นยามเช้าได้ง่ายๆ เล่าแล้วนึกถึงพี่สมัครอีกแล้ว    ถ้ามีโอกาสไปเชียงรายอีกครั้ง ต้องขอแวะไปเยี่ยมสักหน่อย
   เช้านี้ไปส่งมิวเร็วหน่อย เขาไปทรรศนะศึกษาที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คงจะกลับมาเย็นๆ บอกให้ผมไปรับ 0500 ผมกำชับให้ลูกดูดซึมความรู้วันนี้มาให้ดีนะ
   บ่ายรีบไป Home Pro หิ้วสายชำระพร้อมใบเสร็จไปขอเขาเปลี่ยนอันใหม่ ขอให้เจออันดีๆ แล้วจบเลยนะ ไม่อยากกลับมาอีกแล้ว ซื้อของในห้างร้านใหญ่ก็ดีอย่างเสียอย่างนะ ข้อเสียก็คือแพงกว่าพวกร้านเล็ก ข้อดีคือสะดวก เร็ว และดีมากที่สุดที่ร้านเล็กไม่มีก็คือ เคลมสินค้าคืนได้ง่ายมาก
   วันนี้เดินตรงไปแผนกลูกค้าสัมพันธ์ ยื่นใบเสร็จพร้อมตัวสินค้าที่ชำรุด พนักงานโทรเรียกเจ้าหน้าที่ลงมาทันที สอบถามถึงปัญหา แล้วก็พาผมไปเลือกดูสินค้าชิ้นใหม่ พร้อมทั้งเปิดกล่องของใหม่ทดลองเปิดน้ำใช้งานดู
   คนละเรื่องเลยครับ อันใหม่นี่พอปล่อยมือน้ำก็หยุดทันที ต่างจากอันเก่าที่ไหลหยดย้อย บางจังหวะน้ำแรงนี่มันดันพุ่งออกมาเป็นล็อตๆ
   ซื้อม่านอาบน้ำมาอีกชิ้นหนึ่ง อันเก่าขึ้นราแล้ว เพราะใช้แล้วไม่ได้ผึ้งกาง
   
   ด้วยความอยากรู้ วันนี้ลองเปิด Hot Spot ในไอ้แพดอีก อยากรู้ว่ามันจะเชื่อมต่อกับคอมให้เองอีกไหม แล้วก็เป็นจริงครับ มันเชื่อมต่อกันด้วยอะไรหรือวะนี่ wifi ก็ไม่มี Bluetooth ก็ปิดอยู่ แต่ก็สะดวกดีมากนะ เริ่มจะชอบสตีฟแล้วล่ะ
   เย็นไปรับมิว พอถึงโรงเรียนตกใจครับ มีผู้ปกครองยืนออกันมากมาย เข้าไปใกล้หน่อยถึงรู้ว่า รถทัศนะศึกษาของเด็กยังไม่กลับเลย รถติดบนทางด่วน แต่อีกแค่พักเดียวรถก็เลี้ยวเข้าโรงเรียนมาแล้ว เดินจูงมือกันกลับบ้าน มิวเล่าว่าซื้อของชำร่วยที่ระลึกรูป Neil Armstrong และไพ่ UNO ลาย Angry Birds มา ผมบอกที่บ้านก็มีแล้ว ไอ้ไพ่แบบนี้น่ะ แถมยังเป็นของแบบดั้งเดิมอีกด้วย
   กลับถึงบ้านก็รีบทำความสะอาดห้องน้ำทันที ช่างทำเสร็จแล้ว แก้งานหลายครั้งสุดท้ายก็ยังดีขึ้นไม่เท่าไหร่ เลยจำใจยอมรับงาน ด้วยเหตุที่ว่าตัวเองไม่ได้อยู่เฝ้าคุมเขาทำ ต้องไปทำงานยกของที่ร้าน
   รู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยสบาย กลืนน้ำลายลำบากคล้ายมีก้อนๆ อะไรผิดปกติ เลยอัดยาฟ้าทลายโจรไป 2 เม็ด และวิตามินซีอีก 1000 mg
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 27, 2012, 01:54:18 pm
26 ธค 55
   เช้านี้เอาเสื้อกันหนาวมาใส่ขี่จักรยาน กลัวอาการหวัดกำเริบ แต่วันนี้มันหนาวน้อยลงแล้วนะ ขี่ไปได้ 30 นาทีเริ่มร้อน เหงื่อซึม เลยถอดเสื้อกันหนาวออกขี่ต่อไปอีก 10 นาที
   เช้านี้อาการไม่สบายกำเริบหนักขึ้น หลังจากที่เมื่อวานตอนเช้าสูดดมควันรถ อาการมาออกตอนเย็นๆ วันนี้โดนซ้ำครับ แต่เป็นฝุ่นสกปรกจากในโกดังตอนเข้าไปลงของ ทั่งไอทั้งจาม น้ำมูกใสๆ ไหลตลอดเวลา แถมยังต้องเดินเข้าๆ ออกๆ ห้องแอร์และเข็นของส่งลูกค้าหน้าร้าน ไม่อยากกินยาลดน้ำมูก อยากลองดูว่ามันจะหายเองได้ไหม ใช้วิธีกินน้ำเยอะๆ แทน รู้สึกดีขึ้นนะ
   ตอนบ่ายเข้าอินเทอร์เนท ลองดูแบบเมื่อวาน แต่วันนี้สตีฟไม่ได้เชื่อมสัญญาณกับ PC ไห้เองแล้วนะ ก็เลยใช้สายเคเบิ้ลเชื่อมผ่าน USB ประหยัดแบตในไอ้แพดได้พอควร
   เย็นไปรับมิว รีบกลับบ้าน ส่วนตัวเองก็ออกไปเฝ้าร้านขายของต่อ ปกติจะกลับมาส่งมิวที่บ้าน แต่วันนี้เขาขอตามออกไปด้วย บอกว่าอยู่บ้านแล้วเบื่อ ก็แหงสิ อยู่คนเดียวนี่หว่า
   ช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ร้านขายดีมาก เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว คนงานก็ขาดกันหลายคน วันนี้กว่าจะกลับบ้านได้ก็ 10.30 เบ็ดเสร็จเข้านอนตอนห้าทุ่ม 
   เป็นงานที่ต้องทุ่มเทจริงๆ สงสารลูกนี่นั่งหาวนอนหวอดๆ อยู่ใกล้ๆ นี่แหละ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 28, 2012, 02:16:12 pm
27 ธค 55
   อาการหวัดของผมดีขึ้นแค่เพียงเล็กน้อย ทำท่าจะดีขึ้นหน่อย วันนี้เข้าโกดังจัดเรียงสินค้าเจอฝุ่นกองใหญ่อีกแล้ว ฝุ่นอย่างเดียวก็แย่แล้ว นี่เป็นฝุ่นจากยาฆ่าปลวกที่โรยไว้เองอีกด้วย สุดยอดไหมเล่า
   ก็เลย ไอ จาม น้ำมูลไหลตลอดวันเลยครับ สั่งน้ำมูกจนแสบจมูก ลูกมาเห็นยังทักว่าทำไมพ่อจมูกแดงจัง เพลีย หมดแรง เดินเข้าออกร้าน ตากแดดแรงอีกด้วย
   มีเวลาว่างส่วนตัวตอนเย็น โทรหาพี่หน่องด้วยความคิดถึง เห็นห่างหายเวปจักรยานไปนานมาก ไม่ได้โพสถามตอบกันบ่อยๆ มานานมากแล้ว พี่หน่องเล่าว่าย้ายออฟฟิซไปอยู่แถวรัชดา เลยไม่ได้ขี่จักรยานบ่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คุยกันพอหายคิดถึง รู้ว่าพี่เขาสบายดีผมก็โอเค
   โทรหาพี่วุฒิต่อ สอบถามเรื่องค้างคาใจของหนังสือจักรยานที่จะออก 12/12/12 ว่ามันยังไงกันแน่ พี่วุฒิบอกก็เห็นทางผู้ผลิตเขาเงียบๆ ไป ทางเฟซบุ๊คก็ไม่ได้อัปเดทอะไรต่อ
   “ถ้าเขาไม่ทำ ผมทำนะพี่”
   “เอาเลยเปิ้ล มีอะไรให้ช่วยก็ว่ามา”
   พี่วฺฒิกำลังแพ็คของเดินทางไปขี่ที่น่านกับภรรยา ฟังแล้วอิจฉาฉิบเป๋ง ไปรถทัวร์ VIP 24 ที่นั่งอีกด้วย แจ๋วจริงๆ เลย ยังไม่เคยนั่งรถแบบนี้สักครั้ง
   Hotspot ของ ไอ้แพดมันไม่เชื่อมกับคอมฯของผมให้อัตโนมัติเหมือนสองวันก่อนแล้วครับ มีเรื่องมหัศจรรย์เข้ามาแค่สองวัน นับเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก คุยให้ใครฟังเขาก็ไม่เชื่อ หากสตีฟเองรู้เข้าก็คงจะตกใจไม่น้อย
ภาคตะวันออกของสหรัฐเจอพายุหิมะเข้า ตกหนักสุดในรอบ 86 ปีของย่านนั้น ซ้ำด้วยทอร์นาโดอีก 34 ลูก ผู้เสียชีวิต 16 ราย เที่ยวบิน 3000 เที่ยวยกเลิกตั้งแต่คริสมาสเป็นต้นมา หลายคนโดนหนักตั้งแต่พายุแซนดี้เมื่อเดือนก่อน ยังเก็บกวาดไม่เสร็จเลย
ประเทศเขารวยกว่าเราเยอะ แต่เรื่องพวกนี้ หากผมเป็นผู้นำประเทศก็อยากจะส่งทีมกู้ภัยไปช่วยเขาบ้าง แม้จะไม่ได้กู้แบบชุดใหญ่ ช่วยเล็กช่วยน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย 
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on December 29, 2012, 07:58:40 pm
28 ธค 55
   นอนหลับเต็มอิ่ม ไม่มีอะไรมารบกวน เข้านอน 0900 ตื่น 0500 รวดเดียว 8 ชม แบบนี้ค่อยสดชื่นหน่อย เช้านี้ขี่จักรยานไป 45 นาที ตอนลงมาสูดอากาศปืดแรกนี่มีน้ำมูกใสๆ อีกแล้ว แต่อาการดีกว่าเมื่อวานพอควร
   พอไปถึงร้านเท่านั้นแหละ จามอีกหลายชุด น้ำมูกไหลยืด ยังดื้อ ไม่อยากกินยา ผมว่ามันหายเองได้ง่ายๆ ไอ้ที่อาการยืดเยื้อก็เพราะผมโดนฝุ่น โดนแดดจัด และวิ่งเข้าออกห้องแอร์ นี่ถ้าได้อยู่เงียบๆ นิ่งๆ แป๊บเดียวหายแน่นอน
   ด้วยความอยากรู้ สมมุติว่าเราเป็นแบบนี้ตอนออกทริปจักรยานจะทำอย่างไร ถ้าต้องพึ่งยากันตลอดเวลาก็ไม่ไหวเหมือนกัน ไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ไม่อยากหาหมอ ไม่อยากกินยา จะว่าเหนียวก็ยอม ทุกบาททุกสตางค์เก็บไว้ให้ลูกเรียนหนังสือ
   เพราะความฝันของเขามันไม่ธรรมดา
   คว้าให้ถึงนะลูก พ่อจะเป็นแรงผลักดันเจ้าเอง
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on January 03, 2013, 01:22:21 pm
29 ธค 55
   เช้านี้กลับมาหนาวอีกนิดๆ คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ หรือว่าเราตื่นเช้ากว่าปกติ อากาศมันก็เลยยังเย็นๆ อยู่
   อาการหวัดเริ่มหายแล้ว เช้านี้น้ำมูกไหลนิดเดียว ขี่ไปพักใหญ่ก็หยุดเอง ใช้เวลาไป 30 นาทีเหมือนเดิม แล้วก็เข้าวงจรปกติ วันนี้มิวไม่มีเรียนพิเศษครับ เขาขอตามออกไปที่ทำงานด้วย บอกว่าอยู่บ้านเบื่อ ก็จริงนะ ไปทีร้านมีเด็กๆ ละแวะนั้นหลายคน วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
   ส่วนผมก็สิงอยู่ที่นี่ตลอดวัน
   หัวค่ำโทรคุยกับ “เฮ้าส์” เพื่อนเก่าสมัยเรียนอัสสัมชัญ ขอความเห็นเรื่องทำหนังสือจักรยาน แล้วก็ต้องฟังมันอบรมมาชุดใหญ่ พร้อมกับสรุปสั้นๆ ว่า
   “มึงยังไม่พร้อม”
   ให้ผมกลับไปเขียนแผนธุรกิจให้มันดู งงสิ ทำไม่เป็น ไม่เคยเรียนด้านนี้มา เล่นเอาหมดกำลังใจไปนิดหน่อย แต่เขาก็หวังดีกับเรา ถึงได้ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องที่อาจนำไปสู่หายนะเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนทำ Racing Club
   แต่เฮ้าส์ยังไม่รู้ว่าผมยังขาดอีก 2 ส่วนหลักๆ นั่นคือเรื่องการขายโฆษณา และคนทำงานกราฟิกจัดอาร์ตเวิร์คหนังสือ
   คิดเอง เออเอง ทำอะไรเองหมดนี่มันสาหัสเหมือนกั้นนะนี่
   หรือว่าต้องใช้ Plan B
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on January 03, 2013, 01:23:50 pm
30 ธค 55
   อะไรก็เกิดขึ้นได้ วันนี้วันอาทิตย์แต่ร้านยังคงเปิดขาย เจ้าของร้านบอกว่ามันขายดี เราก็ต้องเปิดบริการ ก็ถ้าคนงานมาทำงานกันก็โอเคล่ะครับ แต่ถ้ามากันไม่ครบ ผมก็จะต้องส่งของจนถึงดึกดื่น
   ชีวิตคนงานของร้านผมก็ดีอย่าง คือจะไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ บางคนหายไปเป็นเดือน กลับมาอีกทีก็ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ บอกไปทำนาบ้าง ญาติป่วยบ้าง แล้วก็กลับเข้าทำงานปกติ สุดยอดจริงๆ เลย ผมเป็นหวัดจะขอลายังไม่ได้ และที่จำได้ขึ้นใจคือตัวเองมีธุระสำคัญในงาน Motor Expo ก็ยังลาไม่ได้ สุดๆ ไหมเล่า
   ตลอดปีนี้ผมไม่ได้ไปต่างประเทศสักครั้ง มีไปเชียงรายเมื่อปลายเดือน กพ หนเดียว ไม่ได้หยุดไม่ได้ลาไปไหน ให้ทำอะไรก็ก้มหน้าทำไป ไม่มีคำถาม ไม่มีข้อแม้
   แต่ดูเหมือนว่ามันยังคงไม่พอ
Title: Re: ธค 55
Post by: O'Pern on January 03, 2013, 01:25:19 pm
31 ธค 55
   พ่อแม่ไปหัวหิน ค้าง 2 คืน ให้ผมช่วยอยู่เฝ้าบ้าน อย่าไปไหน
   ตื่นเช้ามาเห็นปลาผสมพันธุ์อีกแล้ว เมื่อวานจับปลาเล็กลงรวมในบ่อเดียวกัน เลยเหลืออ่างดินใบใหญ่ ทำความสะอาดไว้เรียบร้อย เติมน้ำไว้คอยท่า เช้านี้ได้ทีเลยช้อนปลาตัวที่มันกำลังว่ายไล่ผสมกันให้มาวางไข่ในบ่อ
   แล้วก็ได้หยุดเสียที ร้านหยุดวันที่ 31 และ 1 หยุดสองวัน ไปไหนไม่ได้หรอกครับ รถติดหนักมาก เช้านี้ขี่จักรยานไปเสาะหาสถานที่สวยงามในละแวกบ้าน แล้วก็เจอสวนสาธารณะเล็กๆ แห่งหนึ่ง อยู่ริมลำคลองขนาดกลาง ลำน้ำดูสะอาดดี ไม่มีขยะลอย ใกล้ๆ กันเป็นเกาะของคุณกะลา (ลิงแสม)
   ใช้เวลานั่งเล่นตรงนี้พักใหญ่ พูดคุยกับชาวบ้านในละแวกนั้น พอแดดแรงก็รีบปั่นกลับบ้าน วันนี้ขี่ไปแค่ 30 กม ไม่ได้คาดหวังจะเป็นเลิศทางด้านจักรยาน แค่อยากให้ก้นทนกับการนั่งบนเบาะได้นานๆ เผื่อจัดทริปใหญ่กะทันหันจะได้ไม่เกิดเรื่อง
   ร่างกายผมเปราะที่ก้นและสะบักหลังครับ เรื่องก้นนี่ค่อยยังชั่วเพราะได้เบาะ Brooks มาช่วยแล้ว แถมผ่านการทดสอบเรียบร้อย ตอนขี่ไปชะอำเมื่อปีกลาย แต่ไอ้สะบักหลังนี่สิไม่รู้จะทำยังไงดี อาการจะออกตอนขี่กลางแดดจัด มันเหมือนมีเข็มทิ่มอยู่ภายในกล้ามเนื้อ เจ็บแปล็บ เจ็บจี๊ดจนหมดแรง อาการจะออกตอนขี่ไปแล้วสัก 100 กม
   เช้าพาภรรยาและลูกไปท่าน้ำศิริราช ตั้งใจจะไปกินบะหมี่เกี๊ยวชื่อดังร้านเก่าแก่ แต่น่าเสียดาย ร้านเขาปิด เลยกินร้านอื่นใกล้ๆ กันแทน ไม่อร่อยเท่า แต่ก็พอได้เหมือนกัน
   ไปเดินเล่นร้าน Golden Place ในศิริราช ซื้อของใช้ ขนมสุขภาพกลับมา ภรรยาอยากซื้อของในเดอะมอลล์ก็พากันแวะเข้าไป ได้เวลามื้อกลางวันพอดี เลยกิน Sizzler กัน หยุดวันแรกก็กินเสียเยอะขนาดนี้ กลับมาบ้านแบบแน่นพุงสุดๆ