racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on July 02, 2012, 02:22:17 pm

Title: กรก 55
Post by: O'Pern on July 02, 2012, 02:22:17 pm
1 กรก 55
   ไม่ได้ขี่จักรยาน ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเลยแม้แต่น้อย ลูกบอกว่าอยากไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ภรรยาฝากให้ดูแลลูกช่วงเช้า บ่ายไปงานศพของญาติผู้ใหญ่ ดูแวววันนี้มันก็คงจะมาในแนวจืดชืดอีกเช่นเคย วันหยุดเพียงหนึ่งเดียวในรอบ 7 วัน ได้แค่นี้เองหรือ
   บ่ายมิวขอกินร้าน Sizzler อีกแล้ว วันนี้เจอเรื่องแปลกประหลาดมากแบบไม่น่าเชื่อ ชนิดที่ว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองรับรองไม่เชื่อ
   ผมสั่งน้ำเปล่า พนักงานหยิบเอาน้ำทิพย์มาให้ มิวบิดฝาเปิดดังแกร็ก มีลมดันฟู่พุ่งออกมาจนเลอะเทอะ เทใส่แล้วก็มีฟองไม่หาย ลองชิมดู เฮ้ยย สไปร์ท !!!
   แล้วมันมาอยู่ในขวดน้ำเปล่าได้อย่างไร งงโคตรๆ น้ำทิพย์เจ้าของเดียวกับโคคาโคล่า แต่มันเป็นสินค้าคนละไลน์กัน หรือมันจะผลิตผิดพลาดออกมา ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องเป็นแบบนี้ยกล็อต (ล็อตเล็กหรือใหญ่ก็ค่อยมาว่ากัน)
   กลัวพนักงานไม่เชื่อ เลยกินแล้วเหลือเอาไว้ครึ่งขวด ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าแค่ให้ข้อมูลเขา พนักงานทราบเรื่องแล้วทำหน้างง รีบจะเปลี่ยนน้ำขวดใหม่ให้ ผมบอกไม่เป็นไร แค่มาบอกเฉยๆ
   แม่กลับมาบ้านพร้อมกับช็อกโกแลตไส้รัมอีก 2 กล่อง พี่สาวผมเอามาฝาก เพราะลูกๆ ไปต่างประเทศกันหมด ไม่มีใครกินแล้ว เสียดายของ เลยเอามาให้ผมช่วยกิน
   จัดมา
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 03, 2012, 01:46:04 pm
2 กรก 55
   เช้าจัดหนัก คนเช็คของหน้าร้านไม่มา ผมรับหน้าที่แทน นั่งริมถนน ดมควันรถ ยกของหนัก มีครบหมดทุกรสชาติ โชคดีที่พอสายหน่อยก็มีคนมาแทน แต่ผมก็ต้องไปตรวจเช็คของที่โกดังต่อ จะมาเสร็จสิ้นบริบูรณ์เอาตอนบ่ายแก่ๆ
   ย่างเข้าเดือน 7 แล้ว เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะสิ้นปี โปรเจคลดน้ำหนักเริ่มมานานแล้วนะ แต่ขาดความจริงจัง จะเรียกว่าลดเป็นช่วงๆ ก็ว่าได้ ช่วงไหนของกินเยอะก็จัดหนัก ช่วงไหนมีเวลามากสบายอารมณ์ก็ออกกำลังกายได้มากหน่อย เล่นแบบผสมผสานแบบนี้กระมัง มันเลยไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่
   โชคดีที่ช็อกโกแลตที่รัมที่พี่สาวเอามาฝากมันเป็นช็อกโกแลตนม ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ นี่ถ้าเป็นช็อกโกแลตดาร์คล่ะก็ เสร็จหมู
   ช็อกโกแลตไส้เหล้าไปได้ดีมากๆ กับช็อกโกแลตดาร์คนะครับ ช็อกโกแลตนมมันกินแล้วมีเหนียวๆ ติดคอ แต่ถ้าเป็นช็อกโกแลตดาร์คแล้วจะมีขมๆ ผสมแอลกอฮอล์นิดๆ นี่ผมเป็นคนไม่กินเหล้านะ แต่เจอช็อกโกแลตแนวนี้จะชอบมาก มันมีขมหอมมาตัดกับหวาน ข้อเสียคือกินแล้วเพลินครับ หยุดไม่ค่อยอยู่ ต้องหยิบใส่ปากแค่ชิ้นเดียวแล้วขับรถออกจากบ้านไปเลย หนีมันไปซะ
   ปลาทองล็อตล่าสุดที่แยกไข่เอาไว้เพาะเลี้ยงล็อตแรก ฟักเป็นตัวออกมาบ้างแล้ว ดีใจวี๊ดวิ๊ว เย็นรีบไปซื้อปั๊มออกซิเจนมาตัวหนึ่ง กะจะเลี้ยงเจ้าตัวเล็กในอ่างดินเผาสักระยะ พอมันโต ก็จะให้ไปอยู่รวมในบ่อกับพวกตัวใหญ่
   ส่วนไข่ปลาล็อตที่สองที่มันวางไข่แบบวันเว้นวันยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพิ่งรู้นะว่ามันวางไข่ได้บ่อยมากๆ เลย หวังว่าผมคงไม่ต้องมีอ่างกระถางเพาะเลี้ยงมากมายเหมือนพวกฟาร์มปลาเขานะ


*ภาพน้ำดื่มในร้าน Sizzler ที่สั่งน้ำเปล่า แต่ข้างในเป็นน้ำสไปร์ท ขวดปิดสนิทแน่นดีอีกด้วย ใครมาเล่าก็คงไม่เชื่อ ถ้าไม่ได้เจอกับตัวเอง
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 03, 2012, 06:51:46 pm
3 กรก 55
   วันนี้มิวเข้าค่ายพุทธบุตร ที่เสถียรธรรมสถาน ค้าง 1 คืน ก็คงจะสนุกตามประสาเด็ก
   ลองชิมช็อกโกแลตรัมเรซิ่นแล้วต้องเปลี่ยนใจ อร่อยกว่าที่คิดเยอะ ตอนแรกเห็นเป็นช็อกโกแลตนมไส้เหล้ารัม ก็เลยเฉยๆ เพราะอย่างที่บอก ผมชอบช็อกโกแลตดาร์คมากกว่า
   หน้าตามันเป็นชิ้นกลมๆ เล็กๆ ช็อกโกแลตนมเป็นแค่เปลือกบางๆ ด้านในเป็นลูกเกดที่หมักกับเหล้ารัมชุ่มๆ กินชิ้นเดียวแล้วหยุดไม่ได้ครับ อร่อยจริงๆ ไม่หวานเลี่ยนเหมือนช็อกโกแลตนมที่เคยกินมา
   ถ้าให้โวตสุดยอดช็อกโกแลตนะ ผมว่าขอเป็นช็อกโกแลตดาร์คเข้มๆ ที่มีเนื้อเนียนๆ กัดแล้วไม่แข็งเหมือนกินหิน มันต้องกัดแล้วรู้สึกรุบกรอบ มีความหอมฟุ้งในปาก ถ้ามีถั่วอยู่ด้านในก็ดีนะ พบเจอแต่พวกถั่วไฮโซแพงๆ แมคคาเดเมีย เฮเซล 
   ชูวิทย์ สส กทม เปิดโปงบ่อนย่านถนนเพชรบุรีซอย 5 เป็นข่าวใหญ่ของช่อง 3 แต่ช่องอื่นกลับไม่มีแม้แต่เงา แล้วข่าวนี้ก็มาออกในช่วงของสรยุทธในตอนเย็นอีกรอบ เป็นไปตามคาดครับ
   สงสัยกันไหมว่าทำไมชูวิทย์ถึงได้ออกข่าวช่อง 3 บ่อยนัก แรกๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ดูแค่ตัวเนื้อข่าว ซึ่งก็น่าสนใจดี เขาทำเพื่อประชาชน
   แต่หลังๆ มันชักบ่อย ตั้งแต่ตอนน้ำท่วมก็มีชูวิทย์เยอะ หาข้อมูลไปมาก็คลายสงสัย
   มันคือธุรกิจประชาสัมพันธ์ครับ สรยุทธเปิดบริษัทรับประชาสัมพันธ์ชื่อไร่ส้ม มีลูกค้าหลายคน มีคนดังๆ อยู่ 2 คน คือ ชูวิทย์ และ ตัน
   อ้อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วทางช่อง 3 ล่ะ กลายเป็นจ้างสรยุทธมาทำงาน แต่สรยุทธเอาเวลางานมาประชาสัมพันธ์งานส่วนตัว แต่เขาก็เล่นในเกมนะ คือยังเน้นเนื้อหาข่าวสาระสำคัญจริงๆ
   มันก็แล้วแต่คนจะมองล่ะครับ มองว่าเป็นงานก็ใช่ มองเป็นธุรกิจก็ใช่ มองเป็นการโปรโมทตัวเองก็ใช่
   เสพสื่อใดๆ พินิจพิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนนะครับ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 05, 2012, 02:05:32 pm
4 กรก 55
   ลูกไม่อยู่ วางแผนออกขี่จักรยานอย่างดี กะว่าวันนี้ต้องซัดให้ได้สัก 50 กม เป็นอย่างน้อย แต่แล้วก็ผิดคาด เจ้าของร้านสั่งให้ขับรถกระบะไปแมคโคร ไปรับสินค้ามาขาย จบข่าวเลย
   หนำซ้ำยังต้องออกแต่เช้า ขับผ่านเส้นจรัลสนิทวงศ์ซึ่งผมไม่ชอบอย่างมาก เพราะกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ ผลก็คือใช้เวลา 30 นาทีในการขับผ่านอุโมงค์แยกท่าพระ ระหว่างเซ็งๆ อยู่ในรถ เปิด จส100 ฟังข่าวก็ตกใจจนหายเซ็ง
   โรงกลั่นบางจากที่สุขุมวิทระเบิด !!! ผมฟังข่าวตั้งแต่มีคนแจ้งเข้ามาคนแรก มีเสียงระเบิดดังสนั่นติดๆ กัน 3 ครั้ง จนกระจกบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงแตกกระจาย เปลวไฟสูงราวตึก 6 ชั้น นับเฉพาะเปลวไฟแดงๆ นะครับ ส่วนควันนั้นพวยพุ่งสูงเสียยิ่งกว่า เอาเป็นว่าอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพฯ ขอแค่ให้เป็นที่โล่ง ก็จะมองเห็นควันชัดเจน เกษตร-นวมินทร์ ยังมองเห็นชัดเลย
   แต่ก็ต้องชื่นชมระบบรักษาความปลอดภัยของเขานะ คือเขามีขั้นตอนเป็นระเบียบปฏิบัติกันเองภายในอยู่แล้ว ไฟไหม้หนักขนาดนี้เขาใช้เวลาแค่ 2 ชม ก็คุมอยู่ จากนั้นจึงเปิดประตูให้รถดับเพลิงที่ใช้โฟมของหน่วยงานนอกเข้าไปช่วยฉีดเลี้ยง ในช่วงแรกราว 1 ชม เขาไม่เปิดประตูให้คนนอกเข้าเลย ใช้กำลังของหน่วยงานตัวเองที่เป็นมืออาชีพแท้ๆ
   รถติดไฟก็ฟังข่าวไป ลุ้นให้ไม่มีใครเจ็บตาย จนผมจัดเรียงสินค้าเต็มรถราว 0900 ก็ได้ข่าวดีว่าคุมไฟได้แล้ว
   แต่แหม บริษัทน้ำมันในไทยปรับตัวขึ้นลิตรละ 50 สตางค์ทันที (ยกเว้น ปตท และ บางจาก) แต่อ้างราคาตลาดโลกนะ
   อัปเดทชีวิตปลาทอง ตัวแม่มันวางไข่ทุกเช้าเลยครับ ตอนสายแม่บ้านก็จะคัดแยกไข่ปลาเอามาใส่บ่อฟัก ราว 5 วันก็เริ่มทยอยฟักเป็นตัวแล้ว ตัวเล็กกระจิ๋วเดียว มองแทบไม่เห็น ให้มันกินไข่แดงครับ อาหารเช้าของผมช่วงนี้จะเป็นแต่ไข่ต้ม ผมกินเฉพาะไข่ขาว เหลือไข่แดงให้พวกลูกปลากิน แบ่งๆ กันไป เราใช้ชีวิตร่วมกันบนโลก
   เย็นแวะซื้อหัวปล่อยออกซิเจนเพิ่มอีก 4 หัว เพราะปลาในบ่อเริ่มมีมากแล้ว ของเดิมมีแค่น้ำตกอันเดียว กลัวจะสร้างออกซิเจนในบ่อได้น้อยเกินไป แต่กลับมาถึงบ้านก็เจอเรื่องเซ็ง ปั๊มออกซิเจนที่เพิ่งซื้อมาวันก่อนพังเสียแล้ว อะไรกันนี่ ใช้งานไปยังไม่ถึง 1 วันเลย

*เจอภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ รถกระบะสองคันที่อยู่ข้างหน้ามีเลขทะเบียน 4 ตัวเหมือนกัน ต่างกันเพียงแค่หมวดอักษร
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 06, 2012, 01:30:57 pm
5 กรก 55
   เช้านี้อากาศเย็นสบายดีมาก เมื่อคืนฝนตก พื้นดินเก็บสะสมความเย็นเอาไว้เยอะ อยู่ กทม ยังเย็นขนาดนี้ ถ้าอยู่ทางเหนือคงจะเย็นเหมือนหน้าหนาวแน่ๆ
   ภารกิจยามว่างระยะนี้คือการบริหารจัดการเจ้าพวกลูกปลาทอง นี่มันวางไข่กันได้ทุกวันๆ เจ้าตัวเล็กก็ฟักออกจากไข่ออกมาเยอะแล้ว แรกๆ ตัวเท่าหัวเข็มหมุด มองแทบไม่เห็น
   บ่ายเอาปั๊มออกซิเจนไปเปลี่ยน เจ้าของร้านโอเคดีครับ ไม่มีซักถามเรื่องมากให้กวนใจ จะเปลี่ยนตัวใหม่ หรือยี่ห้อใหม่ก็ตามสะดวก ชำระส่วนต่างเอาเอง ระหว่างกำลังเลือกปั๊ม ก็มีผู้ชายตัวใหญ่เข้ามาคุยด้วย ชมว่าผมเก่ง ที่เลี้ยงปลาทองจนออกลูกได้ ผมต้องบอกว่าเปล่าเลย ไม่ได้เก่งอะไร เลี้ยงปลามาเป็นสิบปีแล้ว เพิ่งจะได้ลูกก็ปีนี้เองแหละ มันฟลุ๊ค ผมไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับ
   เลือกปั๊มตัวใหญ่กว่าเดิมมาแทน คิดเอาเองว่าชิ้นส่วนภายในน่าจะแข็งแรงกว่า เสร็จแล้วรีบไปรับลูกแล้วมาส่งบ้านทันที เพราะผมต้องรีบกลับไปเฝ้าร้านขายของอีกแล้ว
   กำชับลูกให้ทำการบ้าน และภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย หวังว่าเขาคงจะเข้าใจ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 08, 2012, 05:27:00 pm
6 กรก 55
   ขี่จักรยาน 30 นาที พอฟ้าเริ่มสว่างก็รีบกลับมาจัดการปั๊มออกซิเจนที่บ่อปลา ต่อท่ออากาศไปในอ่างฟักไข่ และอ่างปลาเพิ่งเกิดตัวจิ๋วไอ้ตัวเพิ่งเกิดนี้ผมไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี อ่านหนังสือเขาบอกให้มันกินไข่แดง แต่กับเจ้าปลาเพิ่งเกิดมันไม่เห็นจะกินเลย ต้องรอให้มันโตสักหน่อยถึงจะชอบไข่แดงมาก ก็เลยปล่อยให้มันกินตะไคร่น้ำไปเรื่อยๆ
   วันนี้มิวปฏิบัติภารกิจอาสาทำหน้าที่เป็นจราจรน้อยที่หน้าประตูโรงเรียน เขาบอกเขายกมืออาสารับหน้าที่นี้ ก็ดีครับที่เขาอาสาทำเอง แปลว่าเขาจะเต็มใจ และทำงานด้วยใจที่มีความสุข
   การดำเนินชีวิตในทรรศนะของผมจะเน้นเรื่องมีความสุขมาเป็นอันดับหนึ่ง เงินน่ะสำคัญก็จริง แต่เราจำเป็นต้องใช้เงินก็แค่ในเรื่องพื้นฐานหลักๆ เท่านั้น พอถึงจุดหนึ่งในชีวิต หรือใครที่พอจะมีความคิดที่ตกผลึกอย่างผมไปแล้ว ก็จะต้องการเงินน้อยลง น้อยลงไปเรื่อยๆ สิบปีมานี้ผมใช้เงินน้อยมาก แค่ซื้อของจำเป็นในชีวิตประจำวัน อันไหนไม่พัง ไม่เสีย จะไม่มีการซื้อใหม่
   ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือรถยนต์ สมัยก่อนนี่เปลี่ยนบ่อยเลย คันไหนเกิน 5 ปีนี่เรียกว่าเก่าแล้ว แต่กับ Nissan 180SX คันปัจจุบันมันอายุถึง 14 ปีแล้ว (นับตั้งแต่วันจดทะเบียน แต่ถ้านับตั้งแต่ Production Line ก็จะอายุ 19 ปี) จนคนที่บ้านผมคงจะเห็นแล้วเบื่อแทน ถามอยู่บ่อยๆ ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนรถเสียที ขับรถเก่าๆ พังกลางทางก็บ่อย (ท่อยางหม้อน้ำแตก) จนเป็นรถที่ไม่มีใครอยากจะขับ เพราะกลัวจะไปเสียข้างถนน
   เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียนลูกใช้ครับ นี่แหละคือเหตุผลหลัก มันก็เลยส่งผลให้ผมดูแลสุขภาพแบบเต็มที่ตั้งแต่สิบปีที่แล้วเช่นกัน ช่วงนี้มีเครื่องดื่มตอนเช้าคือน้ำมะเขือเทศ ใส่สัปปะรด มะนาว มีอะไรก็จับมาปั่นคั้นน้ำกินมันเข้าไปครับ เพราะผมไม่อยากเจ็บป่วย หากไม่สบายก็จะต้องใช้เงินเป็นค่ารักษาพยาบาลอีกเยอะ ยังไม่นับพวกโรคหนักๆ ที่ต้องนอนโรงพยาบาลนานๆ ไอ้นี่ตัวดูดเงินเราดีๆ นี่เอง จ่ายวันละเป็นหมื่นๆ นี่ผมรับไม่ได้ ถ้าถึงคราวจะต้องไป ผมก็จะไม่ขอยื้อ มีบุญจะอยู่บนโลกแค่นี้ก็ต้องยอมรับ
   
   เข้าเวปช่วงนี้หาแต่ข้อมูลการเลี้ยงปลาทอง เจอมือโปรแนะนำมากมาย แต่มันก็ไม่เห็นจะมีใครทำเหมือนผมเลย คือผมเลี้ยงในบ่อไง คนส่วนใหญ่เขาจะเลี้ยงในตู้กัน ผมเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ตามคำแนะนำไม่ได้แน่ๆ เลยใช้เครื่องกรองน้ำอย่างดีแทน วันนี้ไปซื้อไส้กรองใยแก้วแบบแผ่นใหญ่สุดมา จะกรองมัน 3 ชั้นก่อนปล่อยสูงลงบ่ออีกที แถมบ่อของผมตะไคร่เพียบ เลี้ยงแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะตอนเปลี่ยนน้ำทีไร ต้องมีปลาตายทุกที คราวหน้าจะลองเปลี่ยนน้ำแบบ 50% ดูบ้าง
   อาหารลูกปลาคือไข่แดงบด แต่เขาว่าอย่าให้เยอะ น้ำจะเสียง่าย แต่แปลก ผมให้มันเยอะแยะ น้ำไม่เห็นเสีย คงเป็นเพราะวิธีการแตกต่างกัน คนอื่นเขาเอาไข่มาบดละเอียดผสมน้ำ แล้วค่อยๆ หยดลงไปให้ปลาตอดกิน แต่ผมเล่นเอาไข่แดงทั้งลูกมาวางไว้ในจานเล็กๆ ให้มันว่ายมาตอดกินเองเมื่ออยากกิน น้ำก็เลยไม่ขุ่นเสีย มันคือวิธีการแบบคิดเอง เออเองของผม ไม่รู้จะเวิร์คหรือไม่นะ คอยดูกันต่อไป
   เลี้ยงให้ปลาออกไข่ก็ยากแล้ว ทำให้มันฟักเป็นตัวก็ยิ่งยาก เลี้ยงดูเจ้าพวกตัวเล็กให้รอดชีวิตนี่สิผมว่ายากที่สุด
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 08, 2012, 05:28:01 pm
7 กรก 55
   ไม่มีเวลาขี่จักรยานแล้ว ภารกิจวันนี้คือการคัดแยกลูกปลาที่เพิ่งฟักออกจากไข่ เอาไปใส่บ่ออนุบาล เช้านี้มีลูกปลาฟักออกมา 16 ตัว ช้อนจับยากใช่เล่น เพราะมันเล็กกระจิ๋วเดียว ถ้าอยากรู้ขนาดของมันก็ลองเอาปากกาจุดลงบนกระดาษ นั่นแหละ ตัวมันเท่านั้นเอง
   อ้อ ช้อนด้วยกระชอนไม่ได้นะ มันเพิ่งเกิด ยังไม่แข็งแรง รุนแรงเข้าหน่อยจะทำให้ปลาพิการ หรือไม่ก็ตายไปเลย ต้องใช้ทัพพีตักข้าวเก่าๆ ไม่ใช้แล้ว ค่อยๆ ช้อนเจ้าลูกปลาน้อยทีละตัว
   หาอ่างมาล้างทำความสะอาดเตรียมไว้เผื่อวันพรุ่งนี้จะมีเจ้าลูกปลาฟักออกมาอีก เพราะเช้าวันนี้เห็นปลามันว่ายไล่กวดกันอีกแล้ว พอมันผสมพันธุ์เสร็จต้องรีบเก็บไข่มันเลยนะ เพราะไอ้ตัวที่ผสมก็ผสมกันไป ตัวทีไม่เกี่ยวมันเล่นเก็บกินไข่เฉยเลย มิน่าเล่า เลี้ยงมาเป็นสิบปี ไม่เคยได้ลูกปลาเลยแม้แต่ตัวเดียว
   เช้านี้ส่งลูกที่โรงเรียนสอนพิเศษ ส่วนผมอยู่เฝ้าร้านตลอดวันจนร้านปิด เบื่อใช่เล่น แก้ด้วยการคิดบวกไปเรื่อยๆ
   กลับมาบ้านราวสามทุ่ม เบื่อ เหนื่อย เพลีย แต่ก็รีบจัดเตรียมชุดและเติมน้ำใส่กระติก เช็คระบบไฟ เสบียงอาหาร พรุ่งนี้เช้ากะจะจัดหนักสักหน่อย
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 09, 2012, 02:24:51 pm
8 กรก 55
   ตื่น 0500 ออกจากบ้าน 0530 ข้อดีของการจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ล่วงหน้า ทำให้ออกจากบ้านได้เร็วกว่าเดิมราว 15 นาที แถมไม่เป็นการรบกวนคนในบ้านที่ยังหลับอยู่ กรณีค้นหาสิ่งของแล้วต้องเปิดไฟหรือทำเสียงดัง
   ขี่ไปบางขุนเทียนชายทะเลอีกแล้ว แถวบ้านผมก็มีจุดนี้แหละครับที่ดูเหมือนจะเป็นเมกกะของชาวจักรยาน จุดพักรถใหญ่สุดคือร้านกาแฟ Coffee House ที่อยู่ในป่าชายเลน บรรยากาศดีมากครับ นั่งหน้าร้านก็จะเห็นจักรยานขี่ผ่านไปผ่านมา ดูแล้วเพลินตา สบายใจดี
   ออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังมืด จอดซื้อเบอร์เกอร์ใน McDonald เลือกแบบมีโปรโมชั่น เพราะจะราคาถูกหน่อย วันนี้ได้ Chicken n Cheese ชิ้นละ 29 บาท
   เจอชาวจักรยานกลุ่มหนึ่งเข้ามาเหมือนกัน เป็นคนแถวนี้เองแหละ คุยกันสักพัก ผมแยกตัวไปก่อน ผมซื้อใส่ถุง เอาไว้กินตอนพัก
   หน้าร้าน McDonald มีกลุ่มรถสปอร์ทหรูนัดกันออกทริป รถที่เด็ดสุดคือ Lamborghini เปิดประทุน และ Ferrari เปิดประทุน เลยขอเขาถ่ายรูปสักหน่อย เอาจักรยานมาจอดขวางหน้ารถสปอร์ทที่ชาตินี้คงไม่มีวันได้ขับ ได้ภาพออกมา ผมตั้งชื่อว่า ความจริงกับความฝัน
   “ไปไหนกันหรือครับ” ผมเอ่ยปากถามคนขับ Lamborghini เปิดประทุนสีส้ม
   “ไปอัมพวาครับ พี่ล่ะครับ ไปทางเดียวกับผมหรือเปล่า”
   “ผมไปบางขุนเทียนชายทะเลข้างหน้านี่แหละครับ”
   เจ้าของรถทุกคนยังดูหนุ่มอยู่มาก อายุราว 30 ปี คนมีเงินซื้อรถขนาดนี้ ก็คงต้องมีเป็นพันครับ ไม่ใช่แค่หลักร้อยแน่ๆ รถถูกที่สุดในกลุ่มคือ Nissan 350Z แม้จะเปิดหลังคาเหมือนกัน แต่มันดูคนละเรื่องเลย คนคงจะมองคันนี้แปลกๆ หน่อย

   
   ขี่ต่อไปยังบางขุนเทียนชายทะเล เจอรถ Volvo XC90 ลากเทรลเลอร์บรรทุกจักรยานมาหลายคัน เอ เขาจะไปขี่เล่นกันที่ไหนนะ เล่นชุดใหญ่ขนาดนี้น่าจะไปทางนอกเมือง มองรถเขาจนลับตา ในขณะที่รอบขาผมยังไม่ไปถึงไหนเลย
   ที่บางขุนเทียนชายทะเล ผมเจอพี่จั๊ว พี่ที่อยู่ใกล้บ้านผมมากที่สุด รู้จักกันตั้งแต่สมัยคุยวิทยุ VR พีจั๊วขี่เสือหมอบครับ ขี่โหดด้วย ตัวเล็กก็จริงแต่แรงเหลือๆ คุยกันนิดหน่อย เกรงใจเพราะเขามากับเพื่อน
   ผมแวะพักที่ Coffee House ร้านกาแฟที่สวยสุด น่านั่งสุดในย่านนี้ หยิบเอา McDonald มากิน นึกเกรงใจเหมือนกัน ไม่ได้ซื้อกาแฟของเขากินเล้ยย นี่คงเป็นร้านกาแฟที่แปลกอีกอย่าง คือไม่ว่าใครจะขึ้นมา เราก็ส่งยิ้มให้กัน ถ้าโต๊ะเต็มก็ยังเชื้อเชิญกันนั่งอีกด้วย น่ารักดี ผมชอบแบบนี้
   เห็นบรรยากาศแล้วนึกถึงร้านกาแฟที่ผมเองก็เคยคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเราจะทำธุรกิจแนวนี้ ร้านของเราจะมีบุคลิกอย่างไร ถ้าอยากจะบริการโดยเน้นชาวจักรยานเป็นหลักจะต้องทำอย่างไร
   นั่งพักตรงนี้ได้คุยกับคนแปลกหน้าหลายคน ก็สนุกดีครับ เจอมือใหม่บ้าง เก่าบ้าง แต่โดยมากจะเป็นคนมาเดี่ยว ถ้ามากันเป็นกลุ่มเขาก็จะพูดคุยเฉพาะในกลุ่มตัวเอง
   ผมอยู่ตรงนี้ราว 30 นาที ก็ขี่กลับบ้าน ใช้เส้นทางใหม่ ไม่ซ้ำกับขามา จะได้ไม่เบื่อ ถึงบ้านราว 0900 ได้ระยะทางมา 55 กม AV 22.2 เจ๋งดีว่ะ (ทุกทีได้แค่ 12-15)
   กลับมาบ้านก็อาบน้ำ สระผม แล้วทำกรรมวิธี mask หน้า (ที่บ้านมีเยอะมาก ภรรยาซื้อมาแล้วไม่ค่อยได้ใช้) วันนี้ใช้ของ Itude รุ่น Collagen เป็นแบบหน้ากากครับ จัดวางให้แนบผิวหน้าแล้วก็นอนพักยาว ยกขาสูงอีกด้วย ผ่อนคลายสุดๆ ทิ้งไว้ 20 นาทีก็ลอกออก จะได้ผิวหน้าที่นุ่มนวลราวๆ นี้แหละ

มาเลเซียประกาศการแสดงอย่างหนึ่งเป็นสมบัติของชาติ เล่นเอาอินโดนีเซียที่อยู่ติดกันโมโห เดี๋ยวคงมีข่าวโต้เถียงกันไปอีกนาน ในขณะที่ กรีซ อิตาลี สเปน โมรอคโค ร่วมจดทะเบียนอาหารเมดิเตอร์เรเนียนด้วยกัน ก็ถือเป็นทางออกแบบ win win

   ข่าวใหญ่ระดับโลกวันนี้คือ เกิดน้ำท่วมใหญ่ในทางใต้ของรัสเซีย เขาไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน อารมณ์เดียวกับที่กรุงเทพฯเราโดนสินามิน้ำจืดเมื่อปลายปีที่แล้ว น่าตกใจกว่านั้นคือน้ำมาเร็วโคตร คืนเดียวขึ้นถึง 7 เมตร เล่นเอาเสียชีวิตกัน 150 ศพ แล้ว (ข้อมูลล่าสุดวันนี้)
   ประเทศไทยที่รัก โปรดส่งความช่วยเหลือไปโดยด่วนครับ เพื่อนแท้ของเรากำลังประสพภัย ส่งทีมกู้ภัย ทีมเก็บศพ หรือทีมอะไรก็สุดแท้แต่ หรือจะบริจาคข้าวของก็ว่ากันไป แต่ยังไงก็ต้องช่วย ประเทศนี้คือมิตรแท้ตัวจริง ถ้าไม่มีราชวงศ์รัสเซีย บอกได้เลยครับว่า “ทุกวันนี้จะไม่มีประเทศไทยอยู่ในแผนที่”
ย้อนอ่านเรื่องรัสเซียได้ในไดอารีของวันที่ 28 มีค 53 เป็นต้นมาครับ แล้วจะซึ้งว่านี่แหละคือมิตรแท้ตัวจริงที่ชาวไทยทุกวันนี้ลืมเลือนเขาไปหมดแล้ว
ตอนที่พระราชินีของไทยเราเสด็จไปรัสเซียเมื่อปี 90 ทางโน้นเขาต้อนรับแบบนึกไม่ถึง เพราะจัดให้เสวยอาหารในตำแหน่งโต๊ะเก้าอี้เดียวกับตอนที่ ร5 ท่านเสวย เด็ดสุดประทับใจไม่ลืมก็คือเมนูอาหารยังเป็นเมนูเดียวกันเป๊ะอีกด้วย
หนำซ้ำพระราชินีไทยเราทรงโปรดคณะบัลเล่บอลชอย ทางรัสเซียทราบจึงสั่งให้คณะบัลเล่นี้ที่กำลังตระเวณออกทัวร์ทั่วโลก ให้ยกเลิกกะทันหัน และมาแสดงในไทยต่อหน้าพระพัตรเป็นการด่วน 
มีประเทศไหนเขาดูแลเราแบบ “สุด” เท่าที่นี่บ้างไหมครับ
   เขารักและจริงใจกับเรามาตลอด แล้วยามนี้ล่ะ เขาประสพภัย ถ้าไม่ช่วยเขา ก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ
   น่าเสียดายที่พวกนักการเมืองคงไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์เหล่านี้ เลยหันไปซบอกพวกอเมริกัน ที่เขาจะมาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาหน่อยก็ออกอาการตื่นเต้น
   อย่าไปให้มันมาเด็ดขาดนะ เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย
   ครั้งล่าสุดที่มันมายืมสนามบินอู่ตะเภาก็คือในยุคจอมพล ป พิบูลย์สงคราม มาแบบมัดมือชก มันมาทำไหมรู้ไหม มันใช้สนามบินเราเป็นฐานกำลังเพื่อทิ้งระเบิดเวียดนาม เล่นซะจนเวียดนามอ่วมจนแทบสิ้นชาติ
   เวียดนามมีป่าเยอะ ทหารอเมริกันมองไม่เห็น ยิงไม่ถูก ยุคนั้นยังไม่มี Night Vision มันเล่นเอาสารเคมีโปรยจนใบไม้ในป่าร่วงจนหมด จากป่ารกๆ กลายเป็นเสมือนที่โล่ง ให้พวกมันไล่ยิงได้สบาย
   ผลจากสงครามคราวนั้น ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างมองไทยแบบดูถูกสุดๆ ก็สมควรล่ะนะ ทำตัวเสมือนสุนัขรับใช้พวกฝรั่ง ทุเรศจริงๆ เลย
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 10, 2012, 02:54:31 pm
9 กรก 55
   ปลาทองวางไข่อีกแล้ว เริ่มจับทางได้ว่ามันชอบวางไข่ตอนเช้า มองเห็นมันว่ายไล่กัน จังหวะนี้แหละที่มันวางไข่ กะว่ารอให้มันผสมพันธุ์เสร็จ เดี๋ยวค่อยไปเก็บไข่ไปใส่รังฟัก แต่กลับมาอีกทีก็ตกใจ ไข่โดนกินเกือบหมด โห เร็วมากๆ
   วันนี้ได้ทำความดีอย่างใหญ่หลวง ช่วยเหลือชีวิตเด็กได้อีกคนแล้ว คนแรกช่วยตอนอยู่ในห้องพักผู้โดยสารขาออกจะไปรัสเซียนี่แหละ (รายละเอียดอยู่ในไดอารี่วันที่ 26 มีค 53) แต่เหตุการณ์ในวันนี้น่ากลัวเสียยิ่งกว่า
   แม่วัยรุ่นจูงลูกอายุไม่ถึง 2 ขวบดีมากด ATM ตัวแม่ยืนกดที่ตู้ ปล่อยให้ลูกเล่นตามลำพัง ลูกเดินเตาะแตะมาถึงระเบียงธนาคาร (ตู้ ATM อยู่ชั้น 2) เอามือเกาะรั้วลูกกรงอยู่ กำลังจะโงกหน้าลงไปด้านล่าง หัวโผล่ออกไปแล้ว ลำตัวกำลังจะลอดตาม
   ผมเปิดประตูธนาคารออกมา เห็นแล้วตกใจมาก รีบวิ่งไปคว้าตัวเด็กเอาไว้ ดึงได้แค่ชายเสื้อ แต่ยังดีที่คว้าไว้ทัน ปลายมือนิดเดียวเอง มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นใครสักคน หันไปด้านหลังเห็นแม่เพิ่งจะเดินออกมาจากตู้กดเงิน 
   เด็กก็ยังคื้อเด็ก ไม่รู้ว่าตัวเองได้ชีวิตใหม่แล้ว
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ดูแลปลาทองตัวจิ๋วเต็มที่ ให้ไข่แดงต้มสุกมันกิน อ่านดูในเวปเขาบอกให้บดไข่แดงผสมน้ำแล้วค่อยๆ หยอดให้ลูกปลา แต่ผมไม่ค่อยเชื่อ เพราะมันทำให้น้ำขุ่นและเน่าเสีย ผมใช้ไข่แดงผ่าซีก ใส่ในถ้วยกระเบื้อง แล้ววางไว้ในอ่าง ให้มันเลือกมากินเองแบบบุฟเฟ่ต์ หิวก็มากิน ไม่หิวก็ว่ายเล่นกับเพื่อนไปก่อน
   เย็นไปรับลูก แวะซื้อปั๊มน้ำตัวใหม่ (ตัวเก่าเพิ่งเสียไปวันก่อน) เลือกเอาแบบแรงกว่าเดิมหน่อย ตอนนี้มีปลาเยอะขึ้นแล้ว น้ำแรงขึ้นก็น่าจะได้ออกซิเจนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผมคงจะเดาไม่ผิดนะ ผมไม่รู้ว่าไอ้ปั๊มแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร ก็เลยนำกล่องเปล่าไปด้วย
   ผลักประตูก้าวเข้าไป “พี่บอย” เจ้าของร้านเห็นผมก็ตกใจ
   “เฮ้ย เฮีย พังอีกแล้วเหรอ” หน้าตาเหรอหรามาก
ก็เพราะวันก่อนผมเพิ่งจะซื้อปั๊มออกซิเจนไป ใช้ได้แค่คืนเดียวก็เสียแล้ว รุ่งขึ้นนำมาเปลี่ยนตัวใหม่ พี่บอยให้เลือกตามสบาย เปลี่ยนได้ง่ายๆ ไม่งี่เง่า ผมชอบ เขาแมนๆ ดี ร้านแบบนี้หายาก
“เปล่าครับพี่บอย อันนี้ตัวใหม่ ผมจะมาหาซื้อปั๊มแบบนี้ เรียกไม่เป็น เลยนำกล่องมาให้พี่ดู”
“โอ โล่งอก คิดว่าไปอีกตัวแล้ว เพราะตัวเก่าผมยังไม่ได้ส่งเคลมเลย”
ร้านพี่บอยอยู่ในลานจอดรถกลางแจ้งของห้าง Big C พระราม 2 ขายอาหารและของใช้สัตว์ นก ปลา แมว หมา กระต่าย แฮมสเตอร์ ฯลฯ แต่ไม่มีอาหารสดขายนะ (หนอน แมลง) บอกเอาไว้เผื่อใครอยู่ละแวะนี้จะได้มาใช้บริการ
รับลูกเสร็จรีบกลับบ้านมาต่อปั๊มน้ำ ต้องดัดแปลงท่อนิดหน่อย งายง่ายๆ แต่ใช้เวลาทำไปราว 1 ชม ไม่น่าเชื่อจริงๆ ปั๊มตัวใหม่นี้แรงกว่าเดิมพอควร
เหนื่อย แต่สนุก
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 11, 2012, 01:31:03 pm
10 กรก 55
   ฝนตกหนักตอนตี 3 ทำใจไม่ได้ เลยลุกขึ้นมาดูเจ้าปลาน้อย เอาร่มมากางให้มันสักหน่อย เผื่อจะโดนเม็ดฝนลงมาใส่จนเต็มแล้วน้ำล้น เดี๋ยวจะกลายเป็นบาปบริสุทธิ์
   ลงมากลางดึกก็เห็นปลาว่ายไล่ผสมพันธุ์กันอีกแล้ว โอ้โห ทำไมผสมบ่อยมากๆ เลย อ่างอนุบาลก็มีฟักมาเป็นร้อยตัวแล้ว นึกภาพตอนมันโต นี่ถ้าผมเลี้ยงแล้วรอดหมดก็ยุ่งไม่ใช่น้อยนะ เพราะต้องสร้างบ่อเลี้ยงปลาใหม่แน่ๆ
   กางร่มเสร็จก็ขึ้นไปนอนต่อ ทีนี้ล่ะ หลับยาว ปกติตื่นตี 5 วันนี้เล่นเอาเกือบจะ 6 โมงเช้า ไม่ได้ออกกำลังกายล่ะครับ ดูปลาอีกแล้ว ลูกปลาจิ๋วตอนนี้มีหลายรุ่นมาก ลองทั้งแบบใส่ออกซิเจน ใส่กาละมังพลาสติก แต่อันที่ผมคิดว่าดีสุดคือใส่อ่างกระเบื้องดินเผา ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ ผมว่ามันธรรมชาติกว่านะ อย่างน้อยน้ำก็จะเย็นกว่า ดูน่าจะสบายกว่า
   เข้ามาบ้านบ่ายแก่ๆ จับปลาน้อยในอ่างเล็กๆ ทั้งหลายที่เพิ่งจะฟักรอบล่าสุดมารวมในบ่ออนุบาล นับได้ 150 ตัว เฉพาะครอกนี้นะ และนับเฉพาะที่ฟักตัวแล้ว ถ้ารวมกับล็อตก่อนๆ ก็ต้องมีกว่า 200 ตัวแล้วล่ะ ยุคแรกๆ ทำอะไรไม่ค่อยเป็น เลยเหลือรอดมาน้อย เอาแค่เก็บไข่ขึ้นช้าไปนิด ไข่ที่แม่ปลาวางไว้ก็โดนตัวอื่นไล่กินเกือบหมดแล้วล่ะ
   ปลาออกจากไข่ใหม่ๆ จะเกาะนิ่งๆ กับผนังข้างอ่าง มันมีอาหารติดตัวมากับถุงไข่ตอนแรกเกิด คล้ายๆ กับเป็นอาหารยังชีพที่ธรรมชาติมอบให้ อีกสัก 3 วันเสบียงมันหมด ก็จะต้องออกหากินเองแล้ว
   เดือนก่อนผมเอาปลาทั้งหมดเลี้ยงรวมกัน มิน่าเล่า เจ้าตัวเล็กที่เพิ่งเกิดมันเลยกลายเป็น “เป้านิ่ง” ให้เจ้าพวกปลาใหญ่กินแบบสำราญใจ ล็อตนั้นเหลือมาแค่ 2 ตัวเอง เก็บเอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียนครับ โง่มาก่อนฉลาด
   หัวค่ำ “พี่เกร็ก” โทรมาคุย พี่คนนี้สนิทกับผมมาก ช่วยเหลือผมมาตลอดตั้งแต่ Racing Club เล่มแรก พอหยุดพักการผลิตก็ห่างหายกันไป พี่เกร็กมีบ้านอยู่ที่ USA เราก็เลยขาดการติดต่อกันไปสักพัก แต่ก็ยังมีเบอร์โทรกัน นานๆ ก็โทรคุยกันทีให้หายคิดถึง
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 12, 2012, 02:30:08 pm
11 กรก 55
   เห่อดูปลาตั้งแต่เช้ามืด มองไม่เห็นก็ยังอุตส่าห์เปิดไฟ เอาจักรยานออกไปขี่ได้หน่อยเดียวฝนตกปรอยๆ กลับเข้าบ้านดีกว่า มาดูปลาต่อ เช้านี้ปลาไม่ได้ว่ายไล่กวดกัน คือไม่ได้ผสมพันธุ์กัน
   อาหารเช้าของผมทุกวันนี้จะต้องมีไข่ต้ม แน่ล่ะ ผมกินเฉพาะไข่ขาว คัดแยกไข่แดงเก็บไว้ให้เจ้าปลาน้อยกิน ตอนแรกคิดว่ามันจะกินแค่ตัวลูกๆ ที่เพิ่งเกิด ที่ไหนได้ มันเป็นที่โปรดปรานของพวกปลาตัวโตๆ อย่างมาก แบ่งออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ โยนลงน้ำ ยังไม่ทันถึงก้นบ่อก็โดนฮุบเข้าปาก เห็นมันกินแล้วน่าอร่อยดีครับ อ้อ เช้านี้ไม่มีไข่ปลาครับ มันไม่ได้ผสมพันธุ์กัน
   ขับรถไปถึงที่ทำงานสายมาก รถติดแบบเว่อร์ ตอนสายไปธนาคารได้ยินเด็กๆ คุยกันว่ามีรถแก๊สเกิดอุบัติเหตุบนถนนสาทร มิน่าเล่า หางแถวพาดมาถึงทางฝั่งธนฯ
   บ่ายเข้ามาบ้านก็ดูปลาอีกละ ฮ่าๆ ประคบประหงมจริงๆ ดูชิ้นไข่แดงที่แบ่งให้ปลาเพิ่งเกิดกิน เห็นมันยังไม่ค่อยแหว่งไป แสดงว่ามันยังไม่อยากกิน ไม่เป็นไร ทิ้งไว้ถึงเย็นค่อยเอาออก กลัวน้ำเสียเร็วน่ะครับ ปลายังเล็กมากๆ ผมไม่อยากเปลี่ยนน้ำ กลัวมันตาย
   มีข่าวดี ไข่ปลาที่แยกไว้ในบ่อฟักบ่อสุดท้ายเริ่มฟักตัวแล้ว ตอนนี้มีบ่ออนุบาลด้วยกันถึง 3 อ่างๆ ละร้อยกว่าตัว อ่างแรกเยอะสุดน่าจะทุลุ 200 ตัว เพราะจัดเก็บลูกปลาหลายๆ รุ่นเอามารวมกัน มีปลาหลายรุ่น แต่อายุไล่เลี่ยกัน ล็อตแรกมันเริ่มโตแล้ว ว่ายน้ำเล่นแล้ว เอาไข่ต้มแบ่งมานิดหน่อยให้มันกินก่อนออกไปทำงาน
   หัวค่ำก่อนปิดปั๊มกรองน้ำบ่อปลา ก็เอาไส้กรองฟองน้ำในตัวปั๊มออกมาล้าง เพิ่งรู้นะว่ามันมีไส้กรองด้วย ใช้มาได้แค่ 2 วัน ไส้กรองก็มีสกปรกอุดตันเสียเยอะ มิน่าเล่า ปั๊มตัวเก่าที่ไม่เคยถอดมาล้างเลย มันถึงได้พัง
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 15, 2012, 11:08:24 am
12 กรก 55
   ไม่เรียกเห่อ ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรล่ะวะ วันๆ เดินไปเดินมาก็ต้องมานั่งมองดูปลาเล่น คิดเผื่อไปว่า หากเจ้าปลาตัวเล็กมันโตขึ้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาแค่ให้มันรอดสักครึ่งหนึ่งก็ต้องมีปลากว่า 200 ตัว แล้วผมจะหาที่ไหนให้มันอยู่
   โปรเจคทำบ่อปลาใหม่เลยผุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เอาล่ะสิ บ้านยิ่งเล็กๆ แคบๆ อยู่ด้วย แต่จะให้เลี้ยงใส่ตู้ในบ้านผมไม่ชอบนะ ตอนเปลี่ยนถ่ายน้ำจะยุ่งยากมากเลย ชอบเลี้ยงในบ่อมากกว่า ดูปลาทองจากด้านบนก็สวยดีเหมือนกันนะ แถมพอมีคนเดินผ่าน มันชอบว่ายมาให้คนจับตัวเล่นได้ น่ารักดี
   ปลาทุกบ่อฟักไข่คลอดออกมาครบหมดแล้ว ระยะนี้ไม่มีอะไรมาก เลี้ยงแบบสูตรของผมก็คือปล่อยให้มันหากินตะไคร่น้ำในบ่อเพาะเอาเอง ไม่ต้องให้ไข่ต้มบดละลายน้ำเหมือนที่ปรมจารย์ในเวปท่านว่าไง บอกแล้วไงครับว่าผมอ่านอะไรของใครแล้วไม่ค่อยจะเชื่อเขาหรอก ทิ้งให้มันหากินเองได้เลยราว 2 สัปดาห์
   เย็นไปรับลูก กลับมาบ้านก็นั่งเฝ้าดูบ่อปลา ช้อนเก็บพวกไบไม้ที่ร่วงและใบที่เน่าเสียออกจากบ่อ หัวค่ำปิดปั๊มน้ำแล้วก็ถอดไส้กรองออกมาล้าง โหห สกปรกมาก นี่ขนาดล้างทุกวันแล้วนะ แล้วไอ้ปั๊มตัวเก่าที่ไม่เคยถอดมาเลยล่ะ หึหึ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 16, 2012, 02:33:17 pm
13 กรก 55
   วันนี้มีประชุมครับ จัดอย่างหรูที่โรงแรมดุสิตธานี หัวมุมถนนสีลม ผมไม่เคยเหยียบเข้าไปมาก่อนเลย นี่คือโรงแรมแรกที่ผมเห็นตั้งแต่เด็กๆ จุดเด่นคือชั้นบนสุดที่น่าจะเป็นร้านอาหาร และมียอดตึกสูงแหลมคล้ายเสากระโดง ได้แต่มอง ไม่มีสิทธิ์เข้าย่างกราย
   งานเริ่มตอนสาย แต่ทำเลของดุสิตธานีอยู่ใจกลางเมือง รถติดแบบไม่ต้องสงสัย ผมให้พ่อไปส่งและรับลูกแทน ตัวเองออกจากบ้านแต่เช้า ไปถึงงานก่อนเวลาเยอะมาก ยอมรอหน่อย ดีกว่าขับรถแบบติดตลอดทาง เสียสุขภาพจิตสุดๆ
   ผมบอกเจ้าหน้าที่แลกบัตรว่าจะมาประชุม เขายื่นบัตรผ่านแบบโบราณมากๆ เป็นบัตรกระดาษแข็งที่เคลือบพลาสติก วินาทีแรกก็สัมผัสความเก่าคลาสสิกแล้ว ตึกจอดรถวกวนครับ เนื่องจากเป็นอาคารเก่าที่ผ่านการปรับปรุงหลายครั้ง ผมเพิ่งรู้ว่าเขาสร้างอาคารใหม่อีกหลายตึก ที่จอดรถน้อยมากๆ ผมไปแต่เช้า เลยได้จอดชั้นใต้ดิน จอดในช่องอย่างดี ไม่ต้องจอดซ้อนให้ใครมาเข็นรถเล่น
   ไปถึงก่อน ก็เช็คอินก่อน ตอนแรกคิดว่าจะได้พักตึกเก่าแก่ที่เคยได้แต่มองเสียอีก กลายเป็นได้ตึกด้านหลัง วิวไม่ค่อยสวย ต้องปิดม่านโปร่งตลอดเวลา ตึกข้างๆ มองเห็นชัดเจนเลย แม้จะได้ชั้นสูงสุดของตึกใหม่นี้คือชั้น 14 แต่มันก็ยังเตี้ยกว่าตึกอื่นๆ เยอะ
   เอาข้าวของไปเก็บในห้องจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้เข้าที่ วางแขวนเสื้อสูท ทดลองนอนบนที่นอน โอ้โห สุดยอดว่ะ หมอนนอนสบายมากๆ สบายกว่าของที่บ้านเสียอีก นุ่ม สบาย คืนตัวช้า แบบใช้วัสดุ Memory Foam แต่แปลกใจ ทำไมนุ่มขนาดนี้
   สายหน่อยลงไปเตรียมตัวเข้าประชุม เจ้าหน้าที่จัดงานออกบูธของฝ่ายต่างๆ ในองค์กร มีมุมขายเสื้อผ้า ตอนแรกเดินผ่านไม่สนใจ แต่วนอยู่หลายครั้งเลยลองแวะ สะดุดตาเสื่อยืดคอกลมสีขาวตัวหนึ่ง
   เฮ้ยย งานดีไซน์ของผมเอง ผมสเกชมือให้เขาเมื่อ 3 ปีก่อน สุดยอดๆ เอามาทำได้สวยดี ฝีมือใช้ได้ เนื้อผ้านุ่มบางเบา สวมสบาย ทรงแขนสั้นกว่าปกติ คอกลมแต่กว้างกว่าเสื้อปกติ นี่แหละ เสื้อที่สวยสบายจะเป็นทรงนี้ หุ่นแบบพอดีตัว ใส่แล้วจะหล่อมาก (ถ้าไม่มีพุงยื่นออกมานะ)
   ใช่เลย ผมจัดมา 1 ตัว เห็นป้ายราคา 1900 แล้วท้อใจ แพงโคตรๆ สำหรับเสื้อยืดคอกลมสีขาวธรรมดา ราคาพอๆ กับเสื้อหรูๆ แบรนด์เนมระดับโลกจากอิตาลีเลย
   “300 บาทค่ะ”
   อ้าว งงสิ ราคาติดไว้ 1900 คิดผม 300 เลยทำหน้างง เจ้าหน้าที่พูดซ้ำ บอกว่าเป็นสินค้าลดราคาพิเศษ บ๊ะ สะใจดีชะมัด อย่างนี้สิรักกันจริง จ่ายเงินแล้วก็ไล่ดูสินค้าอย่างอื่นต่อเลย รู้ว่าลดราคาก็พุ่งเข้าใส่ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะสินค้าแบรนด์นี้แม้จะไม่ดัง แต่ราคาระดับโลกจริงๆ
   เจออีกชิ้นแล้ว เป็นเสื้อแขนยาวสีขาวธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ชอบตรงแขนเสื้อออกแบบมาสำหรับใส่กระดุมแบบ Cuff Ring ไอ้นี้แหละที่ผมคิดว่ามันคือสุดยอดแห่งความเท่ ใส่สูทให้สวยแล้วต้องมี Cuff Ring เท่ๆ จบเลยครับ หล่อแบบไร้ตำหนิ
   น่าเสียดาย ขนาดที่ผมต้องการไม่มี ผมใส่เบอร์ M แต่สินค้าลดราคามีแต่ L ไม่อยากฝืนครับ ใส่ชุดสูทต้องใส่ให้พอดีตัวถึงจะหล่อ หุ่นดีๆ อย่าให้มีพุง เลือกสูทให้เหมาะกับสรีระ ใช่เลย เลือกเหมือนเลือกจักรยานนี่แหละ สูทมีหลายทรง ทั้งกระดุม 1 แถว 2 แถว กระดุม 3 เม็ด กระดุม 5 เม็ด ยังมีแบบปกสารพัดแบบ ด้านหลังก็มีผ่ากลางอันเดียว และผ่าข้าง 2 ฝั่ง รายละเอียดเยอะมากครับ ศึกษาให้ดี แล้วซื้อทีเดียวจบแบบหล่อๆ ตลอดกาล
   สายหน่อยงานเริ่ม ผู้คนทยอยกันเข้า ผมนั่งติดกับรุ่นน้องนักธุรกิจหนุ่ม สนิทกันพอควร รู้จักกันมาหลายปีแล้ว ชื่อ “ปอนด์” กำลังเบื่อธุรกิจครอบครัวอย่างหนัก เลยลงทุนไปซื้อธุรกิจร้านอาหารไทยที่ USA รัฐ Washington ชื่อเมือง Ballevue ก็เลยคุยกับเขาเยอะหน่อย เพราะมีประเด็น รัฐนี้เป็นรัฐที่พูดภาษาอังกฤษได้เพราะที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกาครับ
   โรงแรมดุสิตธานีเด่นด้านอาหารอย่างมาก ไม่ผิดหวังครับ มื้อกลางวันเป็นแบบรีบกินรีบเข้าประชุมต่อ แต่ก็อร่อยจับใจ มีเวลาแค่ 1 ชม มันเพียงพอสำหรับกิน แต่มันไม่ได้ความรื่นรมย์ ไม่ได้อรรถรส ไม่ได้ดื่มด่ำ
   ประชุมต่อจนถึงเย็นโน่นเลย มีเวลาว่างนิดหน่อยก่อนงานเลี้ยงตอนเย็น กลุ่มหนุ่มสาวชวนกันไปเดินสยาม ผู้ใหญ่หน่อยก็นั่งร้านกาแฟ ส่วนผมชอบฉายเดี่ยว เลยออกไปเดินเล่นถนนสีลม เลี้ยวไปทางถนนคอนแวนต์
   มันตรงกับเวลาเลิกงานออฟฟิซพอดี ผู้คนมากมาย มาจากไหนกันก็ไม่รู้ มองไม่เห็นถึงความสวยงามของบ้านเมืองเลย มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน บดบังทัศนะวิสัย ถนนสีลมยิ่งแคบๆ อยู่แล้ว เจอแนว BTS เข้าไป อึดอัดอย่างมาก เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือทำไมถึงปล่อยให้มีการค้าขายบนทางเท้าแคบๆ สมัยก่อนมี่แต่ฝั่งทางพัฒนพงษ์ แต่วันนี้มันลามมาฝั่งตรงข้ามเฉยเลย ประชาชนที่อยากเดินเร็วก็ต้องลงมาเดินบนพื้นถนน หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือเดินบนทางแบบ Sky Walk
   เจอนักท่องเที่ยวยืนกางแผนที่ รีบเข้าไปหาเขาเลย ไปช่วยเขา เขาต้องการความช่วยเหลือ การทำตัวให้เป็นประโยชน์แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เป็นนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาว Holland สอบถามทางเดินกลับโรงแรมที่พักของเขาย่านช่องนนทรี เลยแนะนำให้เดินตามเส้นทาง BTS นี่แหละ ง่าย สะดวก ไม่มีพลาด
   หมดมุข รู้สึกเหมือนเดินอยู่ต่างประเทศ เพราะเดินแบบเลื่อนลอย ไร้จุดหมาย แถมยังเดินยากเพราะแผงลอยมาตั้งบนทางเท้า เดินไม่สนุกเลยว่ะ แวะร้าน Golden Place ในตึก CP Tower ซื้อขนมฝากลูกและภรรยา ขากลับเดิน Sky Walk มาลงหน้าดุสิตธานี
   เข้าห้องอาบน้ำ ล้างหน้า ล้างตัว เก็บข้าวของเข้ากระเป๋า ลงมางานเลี้ยงตอนเย็น ไม่ผิดหวังจริงๆ กับโรงแรมนี้ อาหารสุดยอดๆ ๆ ที่ผมชอบสุดคือแฮมสด เอาขาหมูมาทั้งท่อน หมัก อบน้ำผึ้ง ย่างแบบผิวกรอบๆ ด้านในนุ่ม มีอะไรเจ๋งกว่านี้อีกไหม
   ผมจัดไป 2 ชิ้น อร่อยมากๆ ราดกับซ้อสแอ๊ปเปิ้ล ใส่มัสตาร์ดนิดๆ กินกับมันฝรั่งอบ และข้าวผัดในสูตรของเขา จานนี้จานเดียวก็อิ่มแล้วนะนี่ แต่แหม ไม่เคยเจอบุฟเฟ่อาหารดีๆ แบบนี้ เลยไปจัดเป็ดปักกิ่งมาอีก 2 จาน งงสิ บุฟเฟ่อะไรวะ มีเป็ดปักกิ่งด้วย แม้จะอ้วนก็ยอมล่ะนะ กินไป 6 ชิ้น กินขำขำแต่อิ่มจริง อ้วนจริง
   ผมเป็นคนที่เข้าได้กับทุกคน ยินดีที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้า ต่างจากคนส่วนใหญ่ที่จะชอบนั่งกินกับเฉพาะในกลุ่มตัวเอง เย็นนี้ผมเลือกนั่งเดี่ยวครับ เผื่อจะมีใครอยากคุยกับผม เขาก็จะนั่งด้วยเอง ผมเปิดกว้างเสมอ อยากรู้เหมือนกันแหละครับว่า ไอ้คนอย่างเรา มันจะมีใครเขาอยากจะมานั่งคุยด้วยไหม
   กินแบบช้าๆ ค่อยๆ ลิ้มรสชาติ เคี้ยวนานๆ ดื่มดำกับมัน สักพักมีหญิงสาวมานั่งใกล้ๆ แรกๆ เขาคุยโทรศัพท์ เลยคิดว่าเขาแค่มานั่งพักขา ไม่ได้สนใจอะไร จนเขาเอ่ยปากถาม
   “โอ้โห มีเป็ดปักกิ่งด้วยหรือนี่”
   “ใช่ครับ อร่อยดีนะ อยู่ซุ้มทางโน้นครับ”
   “ปลาเพิ่งกลับจากคลาสโยคะมา งานเขาเริ่มกันนานหรือยังคะ”
   “ก็เริ่มแบบไม่เป็นทางการอะไรน่ะครับ ห้องอาหารเปิด คนก็ทยอยกันเข้ามาได้สักครู่ใหญ่ ยังไม่มีพิธีกรมาเปิดงาน มีแต่ดนตรีสดอย่างที่เห็นแหละครับ”
   “ชื่อปลานะคะ เดี๋ยวคุณจะเรียกชื่อไม่ถูก” เธอแนะนำตัวเอง เอามือแตะด้านบนของหน้าอกตัวเอง
   “ผมชื่อเปิ้ลครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
   ปลาเป็นเจ้าหน้าที่ PR ของบริษัทที่จัดงานประชุมนี่เองแหละ ก็ดีเหมือนกันที่นั่งแล้วมีเพื่อนคุย สักพักก็มีรุ่นน้องจากนครพนมทีเคยเจอกันเมื่อสองปีก่อนเดินผ่าน ชื่อ “เอียง” เลยเชิญชวนให้เขานั่ง เขามาคนเดียว เป็นคนเงียบๆ มาจากจังหวัดชายแดน ไม่มีเพื่อนนั่งกินข้าวแน่ๆ
   จากเดิมนั่งเดี่ยว ตอนนี้ผมมีเพื่อนขนาบข้างซ้ายขวาเลย เห็นไหม ได้เพื่อนใหม่ด้วย ได้เจอเพื่อนเก่าอีกด้วย
   กินไปคุยกันไป สนุกดีครับ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของแต่ละคน รุ่นน้องจากนครพนมก็เล่าเรื่องต่างๆ ภายในประเทศลาว (ภรรยาเขาเป็นชาวลาว) ส่วนปลาก็เล่าชีวิตของงาน PR น่าสนใจดี ต้องใช้ทักษะส่วนตัวสูงมากๆ
   บนเวทีมีการแสดงตลกของคณะชวนชื่น มีคนชื่อ “จิ้ม” คนที่เป็นพิธีกรรายการจ้อจี้ร่วมแสดงด้วย
   ไม่ชอบเลยครับ เกลียดมากๆ อีกด้วย เพราะเล่นมุขแบบแช่งพ่อตัวเองให้ตาย ขอให้ตายเร็วๆ เมื่อไหร่จะตายเสียที ฯลฯ ไม่ได้พูดแค่คนเดียวนะ อีก 6-7 คนในคณะก็ยังย้ำในทำนองเดียวกัน ฟังแล้วหดหู่ใจอย่างมาก นี่หมดมุขจะเล่นกันแล้วหรือนี่
   ใจไม่ชอบแล้ว ดูไปยังไงก็ไม่สนุก เพราะไอ้มุขแบบนี้เขาเล่นกันถี่มาก ทุเรศกว่านั้นคือมุขทะลึ่งแนวลามก ผมนั่งกับปลาสาว PR ก็เลยยิ่งทำตัวไม่ถูก อายแทนครับ
   “นี่ผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นกระเทยหรือคะ” ปลาถาม เพราะมีการแสดงจับนม ขยำนมกัน
   ตอบไม่ถูก ก็เลยส่ายหัว จะชวนคุยเรื่องอื่นก็ไปต่อได้ยาก เสียงคณะตลกบนเวทีดังมากๆ
   แม้เพื่อนคุยจะสนุก แต่บรรยากาศบนเวทีกลับตรงกันข้าม นั่งอยู่ไปจิตใจเราก็จะยิ่งถดถอย เลยขอตัวกลับห้องพัก ให้ดูตลกถ่อยๆ แบบนี้ ผมขึ้นไปดู UBC ในห้องสนุกกว่าเยอะ
   ทุกอย่างดีไปหมดตลอดวัน จนกระทั่งการแสดงตลกนี่แหละ ที่ทำให้รู้สึกแย่ตอนก่อนเข้านอน
   แต่ก็มาเจอประทับใจตอนอาบน้ำ ที่นี่เขาให้แชมพู เจลอาบน้ำ อย่างดีเลยครับ ไม่ใช่ของห่วยๆ แต่งสีแต่งกลิ่น ที่นี่เขาใช้ยี่ห้ออะไรผมไม่รู้ แต่ใช้แล้วหอมสบายตัว รู้ว่าเอาของดีมาให้ใช้
   อ้อ น้ำดื่มที่แจกฟรีวันละ 2 ขวด ของเขายังเป็นน้ำแร่เลยครับ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 16, 2012, 02:35:15 pm
14 กรก 55
   ตื่นอัตโนมัติ 0530 ดื่มน้ำ 1 ขวด ออกกำลังกายยืดเส้นสายในห้อง เปิดทีวีดูไปด้วย มองไปยังวิวฝั่งสวนลุม นี่ถ้ามีรองเท้าและชุดวิ่ง คงจะออกไปซัดสักรอบ ครั้งล่าสุดที่วิ่งในสวนลุมก็กว่าสิบปีมาแล้ว
   เช้านี้ลูกต้องไปเรียนพิเศษ ให้ภรรยาไปส่งแทน ผมมีประชุมตอนสายต่ออีกหน่อย เลยลงไปทานอาหารเช้า เขาจัดให้กินที่ห้องโถงด้านล่าง ผมแจ้งชื่อและบอกว่ามากับคณะที่ร่วมประชุม แต่พนักงานจัดให้ผมนั่งรวมอยู่กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ไม่เป็นไร ผมนั่งไหนก็ได้อยู่แล้ว ฉายเดี่ยวออกจะบ่อย
   กินบุฟเฟ่ให้สนุก ต้องกินของที่เราไม่เคยกินครับ อยากลองอะไรก็จัดไปเลย เช้านี้มีแกงข้นใส่ถั่วเลนทิลของอินเดีย จิ้มกินกับแป้งที่ชื่อ “นาน” ลอง 1 ชิ้น ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เล่นแบบคลาสสิกดีกว่า เบคอนกรอบๆ มันแห้งๆ มันฝรั่งทอดแบบ Harsh Brown (แบบสับบดหยาบๆ แล้วทอดจนข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่ม) มี French Toast ที่รสชาติดีที่สุดเท่าที่เคยกินมา มันไม่ใช่ขนมปังธรรมดาชุบไข่ทอด เขาใช้ขนมปังอะไรก็ไม่รู้ แป้งด้านในนุ่มโคตรๆ ด้านนอกชุบไข่บางๆ ทอดแล้วไม่อมน้ำมัน สุดยอดจริงๆ มีมะเขือเทศย่างเหมือนที่ผมทำกินที่บ้าน
   ธรรมดาอาหารเช้าของฝรั่งจะหาผักกินแกล้มยาก นอกจากจะเล่นสลัดไปเลยก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่นี่เขาทำเห็ดและผักโขมผัดเอาไว้ให้ด้วย กินด้วยกันกับของทอดนี่เข้ากันมากๆ อ้อ ถ้าใครกินเนื้อสัตว์มากๆ ก็ควรกินมันฝรั่งควบคู่กันไปด้วยนะครับ เพราะจะช่วยปรับสมดุลในเลือดให้ความเป็นกรดลดน้อยลง ฝรั่งเขาถึงมีมันอบ มันบด เป็นเครื่องเคียงในมื้ออาหารไงครับ
   รูปแบบอาหารคล้ายกับโรงแรมทั่วไป แต่ต่างกันตรงที่นี่เขาเลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี กินแล้วก็เลยรู้สึกถึงความต่างได้อย่างชัดเจนว่าอาหารดีกับไม่ดีนั้นเป็นอย่างไร อย่าว่าโง้นงี้เลยนะ เอาแค่ไข่ดาวของที่นี่ก็ยังดีกว่าของที่อื่น
   มองเห็นไข่ต้มแล้วตาลุกวาว ไม่ได้อยากกิน แต่อยากแคะเอาไข่แดงไปฝากปลาที่บ้าน เอาไงดีวะ บอกตรงๆ ว่าอายถ้าจะแอบขโมยไข่ต้มกลับไป เลยตัดใจ ไม่เอาดีกว่า ทำอะไรที่ใจเราไม่เป็นสุขก็อย่าทำเลยครับ นี่คือวิธีคิดแบบง่ายๆ ของผม
   ขณะนั่งกินก็มีพนักงานมาถามว่ารับชากาแฟไหม เขาจะถามเป็นภาษาอังกฤษนะ ผมตอบเป็นไทยว่า “ไม่ครับ ขอบคุณครับ” แต่ก็ยังมีพนักงานใหม่ๆ เวียนมาถามอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ผมหยิบเอาหนังสือพิมพ์ไทยวางกางอ่านอยู่บนโต๊ะ
   เอ๊ะ หรือเป็นเพราะเรานั่งอยู่ในกลุ่มคนญี่ปุ่นวะนี่ จะย้ายก็เกรงใจ เพราะพนักงานเป็นคนพามานั่งเอง หรือว่าหน้าตาเราออกไปทางชนชาตินี้ก็ไม่รู้สิ
   สังเกตดูแล้วรู้สึกว่าโซนฝั่งที่ผมนั่งมันเป็นของพวกชาวต่างชาติล้วนๆ เลยครับ ฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลี เขาจัดมาทางนี้หมดเลย อ้าว พวกเพื่อนผมอยู่คนละฟากกัน
    นั่งกินแบบถ่วงเวลาอ่านหนังสือพิมพ์ไปเรื่อย จนสุดท้ายก็มีเพื่อนรุ่นพี่มานั่งเป็นเพื่อน ผมกินอิ่มนานแล้ว เลยสั่งกาแฟมากิน ทั้งๆ ที่ปกติเป็นคนไม่กินกาแฟ แค่อยากรู้ว่ากาแฟของที่นี่จะมีอะไรเซอร์ไพร์สผมหรือไม่ ผลก็คือไม่มี
   กลับขึ้นห้องพักเก็บกระเป๋าและ Check Out จุดนี้มีเซอร์ไพร์สครับ ก่อนออกจากห้องผมโทรบอกที่เคาเตอร์ด้านล่างว่ากำลังจะลงไป ให้แม่บ้านเข้ามาตรวจเช็คห้องได้เลย ใช้เวลาราว 1 นาทีในการเดินทางจากห้องพักชั้น 14 ลากกระเป๋าลงไปข้างล่าง เจ้าหน้าที่ยืนรอน้าลิฟท์ พาไปยังหน้าเคาเตอร์
   “Check Out เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ลืมสิ่งของใดในห้องนะครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มใส่สูทอย่างหล่อ พูดน้ำเสียงสุภาพมาก
   เฮ้ย ทำไมเช็คเร็วนักวะ ใช้เวลาแค่ 1 นาทีเขาตรวจสอบห้องได้เรียบร้อยแล้วหรือนี่ สุดยอดจริงๆ
   
   ออกจากดุสิตธานีด้วยความประทับใจ ไปร้าน Pro Bike ต่อดีกว่า ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมกว่า 1 ปีแล้ว ไปอัปเดทสมองสักหน่อย
   จอดรถหน้าร้านพอดี ชอบร้านนี้ตรงจอดง่าย ถ้าริมถนนเต็ม ก็ไปจอดในร้านเก่าที่อยู่ในซอยได้
   ก้าวเข้าร้านแล้วรู้สึกไม่คุ้น พนักงานที่เราคุ้นหน้าเหลือไม่กี่คนเอง เห็นพี่หวาน พี่นก ส่วนลุงผมคิดว่ายังอยู่ แต่มองไม่เห็น เดินดูไปทีละแผนกเลยครับ รถของ Tern จอดอยู่หน้าประตูทางเข้าเลย คันแพงสุดเกือบแสนบาท หึหึ มันไม่ได้เกิดมาเพื่อผมแน่ๆ
   เห็นเด็กหนุ่มขี่รถ Tern เข้ามาในร้าน เหงื่อชุ่ม เลยชวนเขาคุย
   “ขี่มาจากไหนหรือครับ”
   “วงเวียนใหญ่ครับ”
   เริ่มต้นสนทนากันแบบง่ายๆ เขาชื่อ “นิค” ทำงานด้านศิลปะ ผมกำลังหานักวาดการ์ตูนอยู่พอดี เลยให้นิคช่วยอีกแรง เขาขอแอทชื่อผมทาง Facebook ผมโอเค คุยกันพักใหญ่เขาก็ขี่ต่อไปยังประตูน้ำ ไปสอนศิลปะเด็กๆ ต่อ ก่อนจากกันผมแนะนำเวปไซต์ Thaimtb.com แก่เขา
   อยู่ในร้าน Probike ราว 1 ชม เศษ กลับบ้านเอาตอนกลางวัน เจอหน้าลูกเขาวิ่งโผเข้ามากอด ยิ้มหน้าบาน บอกคิดถึงพ่อ
   “พ่อก็คิดถึงลูกจ๊ะ”
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 17, 2012, 08:29:28 pm
15 กรก 55
   ตื่นตี 5 พร้อมลุย แต่งชุดออกศึก (กันแดด) อย่างดี จูงจักรยานเดินผ่านบ่อปลา เห็นมันว่ายไล่กวดกันอีกแล้ว นี่มันไม่ได้ออกไข่มาหลายวัน ผมคิดว่าไข่จะหมดท้องเสียแล้ว แต่สงสัยเมื่อคืนมีฝนตก เลยคงจะไปกระตุ้นการวางไข่ของมัน (เดา)
   เอาล่ะสิ ทำไงดี ถ้ามันวางไข่แล้วก็ต้องรีบเก็บ ไม่งั้นจะโดนปลาตัวอื่นเก็บกินหมด นั่งสังเกตการณ์พักหนึ่ง มันมีท่าทีจะวางไข่แน่ๆ ในบ่อมีดอกจอกเหลืออยู่น้อย เลยไปหยิบในอ่างเพาะดอกจอกมาโยนลงไปในบ่อ อีกพักเดียวเท่านั้นแหละ มันวางไข่จริงๆ ด้วย
   เอาล่ะสิ คงไม่ได้ขี่จักรยานแล้วล่ะ ตรวจดูสภาพรากของดอกจอกที่จะมีไข่ปลามาเกาะติด
   เนื่องจากวันนี้มีเวลาเหลือมากๆ เลยนั่งดูปลาอย่างใจจดจ่อ เพิ่งเห็นการสะบัดตัววางไข่ของมันกับตา เห็นไข่ปลาเม็ดเล็กๆ ปลิ้วว่อนในน้ำ ถ้าไม่มีรากของต้นไม้น้ำให้เกาะ ไข่ก็จะร่วงลงพื้น มิน่าเล่า เจ้าปลาตัวเล็กๆ ชอบหาของกินตามพื้น ตอนแรกคิดว่ามันเก็บกินตะไคร่น้ำเพียงอย่างเดียว
   รีบหยิบกระชอนมาช้อน ไข่ปลาจะมีเมือกเหนียวติดกระชอน จับออกยากครับ กลัวไข่ปลาแตกเสียหายด้วยล่ะ เลยไม่กล้าออกแรง เลยจุ่มในกาละมังแล้วแกว่งให้ไข่หลุด นี่ปลามันไม่วางไข่มา 3 วันแล้ว ผมคิดว่าหมดฤดูผสมพันธุ์แล้ว แต่เมื่อวานเย็นฝนตกหนัก ผมว่าฝนน่าจะมีส่วนในการเร่งให้มันวางไข่
   จัดเตรียมกระถางดินเผาใบสุดท้ายในบ้าน เอามาเป็นบ่อฟักไข่ วันนี้ได้ไข่ปลามาเยอะ ก็เพราะผมจับเจ้าลูกปลาล็อตแรกๆ ที่มันตัวโตสัก 2 ซม แล้วออกมาจากบ่อ เพราะไอ้ตัวจิ๋วนี่แหละตัวดีนักเลยในการแอบกินไข่ คือตัวใหญ่จะวางไข่ก็วางไป มันก็ไล่เก็บกินเสียอย่าง เห็นกับตาเลยแหละ พอช้อนตัวจิ๋วออกมาก็นับได้ว่าพวกมันมีกันถึง 40 ตัว นี่เลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เลยนะ ในอ่างอนุบาลที่ฟักเป็นตัวแล้วมีไม่น่าจะต่ำกว่า 400 ตัว ถ้าเกิดเราเลี้ยงดูดีๆ จะหาที่ตรงไหนให้มันอยู่ล่ะนี่
   จัดการปลาเสร็จเรียบร้อยก็ปาเข้าไปสิบโมง ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลานานขนาดนี้ อาบน้ำอีกรอบก็ลงมาคัดแยกลูกปลาจากบ่อฟักไปบ่ออนุบาล คัดแบบยังไม่เสร็จได้มา 222 ตัว ตอนนี้มันตัวเล็กจิ๋วก็เลยอยู่กันอย่างแออัดในอ่างได้ แต่อีกไม่นานมันจะโตขึ้นอย่างเร็วมาก ถ้าผมไม่จัดเตรียมอะไรไว้ล่ะก็ งานเข้า
   กลางวันว่างพิมพ์เล่าไดอารีชีวิต ที่ระยะหลังเรื่องราวเกี่ยวกับจักรยานลดน้อยลงไปมากเลย จากเดิมเป็น Bike Diary ก็เลยต้องเติมคำว่า Life Diary เสริมเข้าไป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรน่าอ่านไหม ผมก็เล่าชีวิตอย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา มีสอดแทรกความคิดและทรรศนะบ้าง วิจารณ์คนโน้นคนนี้บ้าง แน่ล่ะ บางทีก็เสนอไอเดียบ้าๆ บอๆ ออกไปบ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยทำนั่นคือ การแก้ไขไดอารีย้อนหลัง
   ต่อให้พิมพ์ผิดผมก็ไม่แก้นะ แต่จะใช้วิธีอัปเดทข้อมูลไปเรื่อยๆ จะได้รู้ว่าของเก่าเริ่มแรกผมคิดอย่างไร และช่วงหลังผมมีจุดที่คิดเปลี่ยนไปบ้าง จะมีแค่ไดอารีในวันที่ 1 ของแต่ละเดือนเท่านั้นที่มีการแก้ไข แต่ไม่ได้แก้ไขในเนื้อหานะ ผมแก้ไขหัวข้อ โดยการเพิ่มเน้นเรื่องที่น่าสนใจในแต่ละเดือนเท่านั้น เผื่ออนาคตผมอยากจะกลับมาอ่านชีวิตตัวเองย้อนหลัง
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 17, 2012, 08:31:39 pm
16 กรก 55
   ตื่นเช้ามานั่งคัดแยกลูกปลาต่อ ได้มาอีก 70 ตัว สรุปอ่างล่าสุดได้ลูกปลามา 295 ตัว นับเฉพาะล็อตหลังนะ อ่างแรกมีอีกกว่า 200 ตัว
   รถติดอย่างสาหัส ส่งลูกแล้วก็ต้องมาใช้ถนนพระราม 2 ขาเข้า ท้ายแถวยาวหลายกิโลเมตร รถติดนานเข้าก็ปวดท้องฉี่ อดทนไว้ แถวนี้ไม่มีปั๊ม
   ถึงที่ทำงานสายมาก แต่ไม่มีใครว่าหรอกนะ เราเองต่างหากที่รู้สึกละอาย เจอปัญหาซ้ำซากคือคนงานขาดงานอีกแล้ว
   ในขณะที่สุวรรณภูมิของเรายังคงพังแล้วพังเล่า เพิ่งเปิดไม่กี่ปีก็เจอปัญหาแออัด ส่วนทางสิงคโปร์ประเทศเล็กๆ วันนี้เขาเปิด Terminal 3 เรียบร้อยแล้ว ไทยเรายังต้องปรับปรุงเรื่อง “วิธีคิด” อีกเยอะครับ ผมขับรถเข้าเมือง เห็นสิ่งต่างๆ ไม่เข้าท่ามากมาย รู้สึกว่าบ้านเมืองของเรามันไม่สวยเอาเสียเลย ทำอะไรก็ไม่รู้จักออกแบบให้ดี ทำๆ แก้ๆ สิ้นเปลืองเงิน เสียเวลาที่จะไปพัฒนาประเทศในด้านอื่น
                ไปรับลูกตอนเย็น เอาร่มไป 2 คัน เผื่อลูก 1 อัน กลับมาบ้านก็ชื่นชมเจ้าลูกปลาตัวน้อย รู้สึกภูมิใจนิดๆ ที่ทำให้มันมีชีวิตรอดมาได้ 
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 17, 2012, 08:33:12 pm
17 กรก 55
   เช้านี้คิดค้นวิธีการออกกำลังกายใหม่ จากเดิมขี่จักรยานเรื่อยๆ วันนี้ใช้วิธีผสมผสาน คือกระโดดเชือก และเดินเร็วแบบซิกแซก คิดหาอะไรแปลกใหม่ทำไปเรื่อย นัยว่าคงจะช่วยสร้างเซลสมอง
   บ่ายมีประชุมทีสุขุมวิท เย็นไปรับลูก พอมีเวลาเหลือนิดหน่อย แวะห้างเซ็นทรัลซื้อสระว่ายน้ำพลาสติกของเด็กเล็ก ผมจะเอามาเลี้ยงบรรดาพวกลูกปลา เพราะล่าสุดมีประมาณ 500 ตัวแล้ว (ยังไม่รวมไข่ชุดล่าสุดที่ยังไม่ฟัก) ตอนนี้ผมมีปัญหาคือ ดูเหมือนว่าลูกปลาตัวเล็กมาก เหมือนมันจะโตช้า เลยเดาว่ามันอยู่กันอย่างแออัดในอ่างดินเผา ถ้ามีที่ให้มันว่ายน้ำเล่นกว้างๆ น่าจะดีกว่านี้
   กลับมาถึงบ้านก็ใจหายวาบ !!!
   ท่อยางหลุด ทำให้ปั๊มน้ำตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมามันฉีดน้ำออกมานอกบ่อปลา ร้ายกว่านั้นจุดที่มันฉีดลงไปก็คือบ่ออนุบาลของปลาที่เพิ่งฟัก
   ฉิบหายยยย ผมอุทานในใจ รีบวิ่งไปปิดปั๊มน้ำ ผลก็คือน้ำในบ่อเหลืออยู่หน่อยเดียวติดพื้นล่าง นี่ถ้าผมกลับมาช้าไปอีกนิด คงจะปั๊มน้ำทิ้งไปจนหมดบ่อ ปลาตัวพ่อตัวแม่ก็คงจะตาย และปั๊มก็คงจะพัง
   เป็นความสะเพร่าของผมเองที่เปลี่ยนตำแหน่งที่วางปั๊มน้ำใหม่เมื่อเช้านี้ แต่ก็ว่าตัวเองคิดถูกแล้วนะ เพราะเปิดปั๊มทดสอบดูมันก็โอเคดี สายท่อยางมันเพิ่งจะมาหลุดตอนก่อนผมกลับมาถึงบ้านแค่ 1 ชม เท่านั้นเอง สอบถามแม่บ้านเขาบอกว่าตะกี้ยังเพิ่งมาให้อาหารปลาเลย ยังมานั่งดูปลาเล่นอยู่เลย
   ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ใจมันร้อนรนไปหมด เสียดายลูกปลาก็หนึ่ง แต่แย่กว่านั้นคือผมสงสารพวกมัน ผมกลัวมันตาย สู้อุตส่าห์ฟูมฟักมาตั้งนาน
   ตัวไหนที่พอจะมองเห็นก็ช้อนกลับเข้าบ่อ แต่ตัวมันเล็กจิ๋วมาก ถ้าโดนแรงหน่อยก็จะเหมือนถูกบี้ตายคามือ ขณะกำลังว้าวุ่นใจ ฝนก็เทลงมาอย่างหนักซ้ำ ขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นแล้วมาลุยต่อ
   จัดการทุกอย่างเสร็จเอาตอนมืด ค่ำนี้ผมมีประชุมกรรมการที่คอนโดด้วยนะนี่ แต่ไม่ได้ไปแล้วล่ะ หมดอารมณ์อย่างมาก ทั้งเซ็ง ทั้งเศร้า
               โคตรเศร้าเลยด้วย
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 19, 2012, 02:21:01 pm
18 กรก 55
   “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ผมอ่านเจอประโยคนี้ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่มันเหมาะกับสถานการณ์ช่วงนี้เหลือเกิน
   ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ขอให้เจ้าจงมีชีวิตรอดและอยู่อย่างเป็นสุข ส่วนตัวที่ตายก็ขอให้คิดเสียว่าเจ้าหมดเคราะห์แล้ว หากได้ชีวิตใหม่ ก็ขอให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา
   เช้าเอาน้ำเติมลงในบ่อปลาใหญ่เพิ่ม เมื่อวานเติมไปหน่อยหนึ่ง ไม่อยากใส่เยอะเพราะกลัวน้ำจะมีคลอรีน น้ำของเก่าก็มีเหลือติดพื้นแค่หน่อยเดียว ยังไม่พ้นหลังปลาเลย นึกแล้วฉิวเฉียดจริงๆ นี่ถ้าผมกลับมาช้าไปอีกสัก 10 นาที คงจะมีข่าวร้ายกว่านี้แน่
   ใส่น้ำเข้าไปทีละนิด เช้านี้เติมหน่อย เดี๋ยวเย็นกลับมาก็จะเติมอีกนิด ให้ปลาค่อยๆ ปรับตัวได้ ผมไม่อยากใส่น้ำยาปรับสภาพน้ำ รู้สึกว่ามันเป็นสารเคมี เอาล่ะ ปรับน่ะปรับได้ แต่น่าจะใส่ตอนที่ไม่มีปลาอยู่ในน้ำ และทิ้งไว้หลายๆ วันหน่อยน่าจะดีกว่านะ ผมรู้สึกแบบนั้น
   ไปถึงที่ทำงานก็ต้องเข้าโกดังยกของอีกแล้ว คนงานขาดครับ ขาดประจำ ยกเสร็จสตาร์ทรถไม่ติด เอาล่ะสิ ผมลองให้คนงานสตาร์ทให้ดู บิดปุ๊บ เสียงดัง “แต๊ก” ทีเดียว แล้วเงียบสนิท ไฟหน้ามี แตรมี วิทยุดัง คือไฟมีพอ แต่เครื่องไม่หมุน
   ตรวจเช็คขั้วแบตฯ ถ้าแน่นหนาดีก็ไล่ไปดูที่จุดง่ายๆ เช่นสายกราวด์ จากนั้นไล่ไปที่ไดสตาร์ท ผมลองเอาท่อนไม้กระทุ้งเคาะๆ หน่อยเดียว ลองสตาร์ใหม่ก็ชึ่งเดียวติด คนงานทำหน้างง เหมือนกับผมเป็นผู้วิเศษ
   
   บ่ายแวะร้านสินเจริญ สำเหร่ ซื้อยางในจักรยานแบบชุดใหญ่ ซื้อมา 6 เส้น สำหรับรถทุกคันในบ้าน ตั้งแต่ KHS MTB / Giant Revive DX / Neobike 16 สองคัน นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้บริการซื้อของ วันนี้เจอคนขายเป็นหญิงตัดผมสั้นเหมือนผู้ชาย รูปร่างทะมัดมะแมง พอกันทีกับร้านแสงเพชรที่เคยใช้บริการประจำ แถมตอนนี้กำลังทำรถไฟฟ้าย่านจรัลฯอีกด้วย ไม่อยากย่างกรายเข้าไปเลย
   กลับมาถึงบ้านก็รีบเติมน้ำใส่บ่อปลาใหญ่ ใช้น้ำประปานี่แหละ แต่เปิดให้ไหลเข้าช้าๆ เติมน้ำใส่สระว่ายน้ำเด็กที่เพิ่งซื้อมา แต่ใส่น้ำแล้วได้กลิ่นยางหรือพลาสติกนี่แหละ ทิ้งไว้นานก็ยังไม่หาย เลยเอาน้ำยาปรับคลอรีนเติมเข้าไป พรุ่งนี้จะไปดมดูอีกที
   ปลาตัวเล็กหายไปเยอะพอควรจากอุบัติเหตุเมื่อวาน แต่วันนี้ก็มีลูกปลาฟักออกจากไข่ล็อตล่าสุดเยอะมาก ยังนับไม่ไหว เล็กจิ๋วเหลือเกิน นั่งดูพัฒนาการของมันก็เพลินๆ ดีครับ
   เย็นเปลี่ยนยางรถ Neobike 16 #2 ยางเดิมใช้แบบไส้ไก่ ของใหม่ที่เตรียมมาเป็นยางในไทย หัวเติมลมแบบใหญ่ เติมได้ง่าย แต่ถอดยางออกมาแล้วก็เห็นถึงความผิดพลาดที่ทำให้ยางในรั่ว
   เจ้าของเดิมจากญี่ปุ่นยัดยางในแบบมั่วมากๆ ทำให้ยางในขดทับกัน เจอรอยเสียดสีจนยางรั่ว เลยตัดสินใจปะดู ยางในที่เตรียมไว้เลยยังไม่ได้ใช้ ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาไปถึง 30 นาที ไม่ค่อยได้ปะยางบ่อยนัก ฝีมือหายหมดแล้ว
   ปะเสร็จก็ลองขี่เล่นดู รถ Neobike 16 #2 คันนี้ ขี่สบายกว่า Neobike 16 ทั่วไปที่พบเห็นกันเยอะมาก คือช่วงรถมันสั้นกว่า เฟืองทดก็สบายขากว่า เหมาะสำหรับขี่สั้นครับ ข้อเสียคือรถหนักมาก หนักกว่าตัว 16 ทั่วไปเยอะ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 20, 2012, 02:03:37 pm
19 กรก 55
   ฝนตกแต่เช้า ไม่ได้ออกกำลังกาย นั่งดูปลาเล่น พบว่าเจ้าลูกปลาที่เก็บไข่ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มันฟักตัวออกมาเยอะมากแล้ว เห็นแล้วค่อยดีใจหน่อย เพราะของเก่าโดนน้ำซัดหายไปเยอะมาก
   หันไปดูบ่อใหญ่ อ้าว มันว่ายไล่ผสมพันธุ์กันอีกแล้ว ไม่น่าเชื่อ เพราะเพิ่งจะเติมน้ำใหม่เข้าไป ใจผมคิดว่ามันคงจะหยุดการผสมพันธุ์ไปเสียแล้ว เพราะคิดว่าการเปลี่ยนน้ำใหม่จะเป็นการรบกวนสมดุลของมันเสียอีก
   รีบหยิบเอาดอกจอกจากถังเพาะมาวางใส่บ่อสัก 5 ต้น แป๊บเดียวก็เห็นมันวางไข่กับตาอีกแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่เห็น ปลาสะบัดตัวอย่างแรง ตัวเมียปล่อยไข่ออกมา พร้อมกับตัวผู้จะฉีดน้ำเชื้อออกมาผสม ไข่ปลาจะเกาะติดกับรากของดอกจอก และมีบางส่วนร่วงลงก้นบ่อ ช่วงจังหวะนี้แหละที่ผมเห็นไข่มันค่อยๆร่วงหล่น เอากระชอนมาช้อนเก็บไว้ได้บางส่วน เห็นเจ้าปลาตัวเล็กว่ายเก็บกินของบนพื้น อ้อ มันกินไข่นี่เอง
   กลางวันไปเก็บเช็คลูกค้า บ่ายเข้ามาบ้านก็ทดลองเอาลูกปลาล็อตแรกที่หลงเหลืออยู่สัก 20 ตัว เอามาใส่บ่อใหม่ที่เพิ่งซื้อ เป็นบ่อใหญ่ขนาด 1.5 เมตร หวังว่ามันคงจะมีที่ให้ว่ายน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน
วันนี้มิวไปเข้าค่ายอีกแล้ว ค้าง 1 คืน เมื่อคืนสอนให้เขาจัดของแพ็คของเอง จัดกระเป๋าให้เบา ให้เป็นระเบียบ เสื้อผ้าต้องม้วนและวางเรียงกัน ของใช้ส่วนตัวต้องแบ่งถ่ายใส่ขวดเล็กเอาแค่พอใช้แล้วเหลือนิดๆ
   
   ข่าวใหญ่วันนี้สำหรับผมคือ Mercedes Benz Thailand ประกาศไม่รับบริการรถจาก Gray Market ทุกค่าย ก็เสมือนประกาศสงครามกันรอบที่ 2 เพราะเมื่อหลายเดือนก่อนก็เพิ่งจะประกาศชาร์จค่าบริการแรกเข้าจำนวนหลายแสนบาท ในกรณีที่เป็นรถจาก Grey Market
   แต่ประกาศครั้งนั้นก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายของค่าย Grey Market ลดลงแต่อย่างใด หากแต่กลับเพิ่มเสียอีก โดยเฉพาะรถรุ่น CLS ที่มันถูกกว่าเกือบล้านบาท !!! ถ้าเป็น E Class ที่เห็นกันเกร่อมากๆ ก็ถูกกว่าหลายแสน หึหึ แถมค่าย Grey Market ดังๆ เขาก็มีเครื่องมือแทบไม่ต่างจากศูนย์บริการ
   ทั้งหลายทั้งปวง มันจะเห็นผลก็ตอนมีการ Recall รถครับ บางชิ้นส่วนจะได้รับการเปลี่ยนฟรีไม่ว่ารถจะอยู่ในประกันหรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัยด้วยแล้ว รถเก่ากว่า 5 ปีขึ้นไปทางศูนย์ก็จะมีจดหมายเรียกให้เข้าไปเปลี่ยน
   แต่น่าเสียดายที่การ Recall ในบ้านเรากลับกลายเป็นด้านลบเสียนี่ กลายเป็นไม่กล้าออกข่าว Recall กัน เพราะกลัวคู่แข่งจะเอามาเป็นจุดโจมตี ทั้งๆ ที่มันคือจุดเด่นต่างหาก
   อยู่บ้านก็เอาแต่เฝ้าดูที่บ่อปลา ลองเอาลูกปลาสัก 20 ตัวมาปล่อยในอ่างใหม่ ถ้าพรุ่งนี้พวกมันดูโอเคดี ก็จะนำเพื่อนๆ อีกหลายร้อยตัวลงมาอยู่ด้วยกัน
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 21, 2012, 08:47:49 pm
20 กรก 55
   ปลาวางไข่อีกแล้ว น่าแปลกใจจริง ทำไมมันวางได้บ่อยขนาดนี้ ไล่เก็บไข่มานานแล้ว วันนี้เลยคิดหาวิธีใหม่ เอาตัวพ่อตัวแม่มันไปวางไข่ในอ่างใหม่เลยดีกว่า วางเสร็จก็ย้ายพวกมันกลับบ่อเดิมซะ
   กลายเป็นว่าบ่อใหม่ที่เตรียมไว้ใส่ลูกปลา ตอนนี้กลายเป็นบ่อฟักขนาดใหญ่เสียแล้ว คราวนี้ได้ไข่ปลามาเยอะมากๆ แรกๆ ก็ดีใจ แต่คิดต่อไปดีๆ ถ้ามันโตแล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ
   ที่ทำงานยามเช้า วันนี้ผมได้ไปเป็นคนงานติดรถส่งของ ไปส่งที่วงเวียนใหญ่ จอดรถยากฉิบเป๋ง มีเจ้าถิ่นเป็นคิวรถสามล้อคอยจองที่และจอดกันแบบติดๆ กันเป็นแถว ร้านนี้น่าจะเป็นร้านที่จอดรถยากที่สุดแล้วล่ะครับ ผมต้องคอยลงไปกั้นรถด้านท้าย ให้คนขับถอยโยกเข้าอยู่นาน สุดท้ายก็ถอยไปชนรถสามล้อซุ้มล้อหน้าบุบ ดีที่เจ้าของเขาไม่เอาเรื่อง
   กลับมาบ้านดูปลา เย็นไปรับมิว ขอแวะเข้าร้านหนังสืออีกแล้ว ผมเจอหนังสือถูกใจหลายเล่ม แต่ไม่ได้รีบอ่าน จำชื่อเอาไว้ ถ้ามีงานสัปดาห์หนังสือคราวหน้า จะไปจัดชุดใหญ่
   เปลี่ยนยางนอก ยางในรถ Neobike 16 #1 (รถเบอร์ 1 คือ รถ Neobike ที่ทรงมาตรฐานทั่วไป) ใช้ยางนอก ยางในของไทยเรานี่แหละครับ เน้นใช้งาน เน้นเบา ผมเลยเลือกรถแบบ Single Speed เอามาทดลองขี่เล่นๆ โดยรวมก็โอเคดี แต่ผมไม่ชอบระบบเบรกก้ามปูของมันเลย โบราณมาก ประสิทธิภาพต่ำ รวนง่าย ปรับตั้งลำบาก
   มือใหม่เปลี่ยนยาง เอาแค่ 2 ล้อ ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาไปราว 1 ชม เล่นซะเพลียเลย
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 23, 2012, 02:10:54 pm
21 กรก 55
   กระโดดเชือกไปนิดหน่อย แล้วก็พักมาเดินดูปลา โชคดีที่มันไม่ผสมพันธุ์ ไม่งั้นผมเดือดร้อนอีกแน่ ไม่มีที่จะใส่ไข่ปลาแล้ว
   ระยะหลายวันมานี้กินน้ำมะเขือเทศวันละ 1 แก้วในตอนเช้า อะไรที่เขาว่าดี แล้วถ้าเราไม่ลำบากก็กินมันเข้าไปครับ โชคดีที่มีแม่บ้านช่วยจัดการให้ ลำพังให้คั้นปั่นเองก็คงจะขี้เกียจ
   ส่งลูกไปเรียนพิเศษแล้วเลยไปทีทำงานต่อ วันนี้เป็นอีกวันที่ผมงานหนักมาก หลังจากได้พักหลังมาสักระยะ เจ้าของร้านคงจะเห็นผมแข็งแรงดีแล้ว ก็เลยให้ออกไปส่งของ เริ่มจากร้านแถววงเวียนใหญ่ที่เดิม ไปส่งทีไรก็เกือบจะต้องมีเรื่องกับพวกรถสามล้อเจ้าถิ่น คือเขาจ่ายรายเดือนไง ก็เลยคิดว่าเป็นที่ของตัวเอง แล้วผมต้องไปจอดรถตรงไอ้ที่เขาจ่ายค่าที่กันนี่แหละ หลายครั้งพวกเขาก็ไม่ค่อยพอใจ
   ผมเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย แต่พอไปส่งของร้านนี้ต้องทำตัวให้กวนตีนเข้าไว้ ลงมาจากรถก็ถ่มน้ำลายก่อนเลย (ปกติเป็นปีๆ ไม่เคยถ่ม) ยกตีนขึ้นมาเหยียบกันชนรถผูกเชือกรองเท้าบ้าง ยืนนิ่งๆ ติ๋มๆไม่ได้นะ ต้องยืนเท้าสะเอวบ้าง ทำท่าทางให้มันกักขฬะหน่อย 
   ทำเหมือนเล่นละครน่ะ ผมทำได้ ไม่ยากเท่าไหร่ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็เล่นละครให้คณะตลอดทั้ง 4 ปีที่ศึกษาอยู่ อ้อ พี่บอย ThaiDriver ที่ทุกวันนี้เป็น บก.บห ของ Option Thailand ก็เรียนอยู่ที่เดียวกัน ตอนนั้นเขาขับเต่าซิ่ง ส่วนผมขับ KE70 ลายม้าลาย แต่งแรลลี่ (ตอนนั้นฮิตมากๆ )
   ยกไปได้แป๊บเดียวหลังเจ็บอีกแล้ว ก็สมควรล่ะนะ เจ็บมาหลายรอบแล้วนี่หว่า มันมีหน้าที่การงานใดบ้างที่มันไม่ต้องทำแล้วเสียสุขภาพขนาดนี้บ้างไหมนะ
   เจ็บก็ต้องยกไปจนจบครับ ต้องปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ กว่าจะจบได้ก็เล่นเอาเย็น ไม่ได้งานหมดหรอกนะ เขาให้ผมเอาเงินไปเข้าธนาคารต่างหาก ก็เลยโชคดี
   พอขึ้นรถได้ก็ปรับเบาะเอนนอนราบเลยครับ บอกตามตรงว่ากลัวหลังเสียตอนอายุมากเป็นที่สุด ซึ้งถ้ายังคงใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ล่ะก็ แววมันออกให้เห็นโดยไม่ต้องลุ้น อยู่ที่ว่าจะอาการหนักแค่ไหน
   เฮ้ออ เซ็งโคตร
   หรือผมจะต้องไปนอนโรงพยาบาล หรือต้องให้หมอสั่งห้ามยกของ หรือจะต้องทำอย่างไร พวกเขาถึงจะเข้าใจผมบ้าง
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 23, 2012, 02:13:19 pm
22 กรก 55
ตีสอง ของเช้าวันนี้
   มิวลุกขึ้นมาบอกว่าฝันร้ายและนอนไม่หลับ ผมถามว่าฝันอะไร เขาบอกจำไม่ได้แล้ว ขอเปิดทีวีดู ดีนะ ยุคใหม่นี้มีรายการบันเทิงตลอด 24 ชม สมัยผมเป็นเด็กๆ ทีวีมีถึงแค่ราวห้าทุ่มเที่ยงคืนก็ปิดสถานีกันหมดแล้ว
   มิวดูทีวีแป๊บเดียวก็หลับต่อ แต่ผมสิ ตื่นแล้วจะหลับช้ากว่าเดิม แต่ผลจากความเพลียก็เลยหลับได้เร็วกว่าปกติ
   ลุกแต่เช้า ใจอยากขี่จักรยาน แต่ยังเจ็บหลังไม่หาย กลัวจะต้องคลานกลับบ้านเหมือนเมื่อก่อนอีก ขอบคุณนะครับที่ช่วยกันทำลายหลังผม
   เจ้าลูกปลาที่ลองเอาไปปล่อยในบ่อใหญ่หายเกลี้ยง คาดว่าคงจะโดนแดกไปเรียบร้อยแล้ว ยังดีปล่อยไปแค่ 10 ตัว
   ข่าวดีวันนี้คือไข่ปลาที่ได้จากเช้าวันพฤหัสบดีเริ่มฟักเป็นตัวแล้ว ล็อตนี้น่าจะได้ไข่ปลาเยอะที่สุด เพราะเป็นครั้งแรกที่ทดลองเอาตัวพ่อตัวแม่จับแยกมาวางไข่ในบ่อฟักโดยตรงเลย พอผสมพันธุ์เสร็จก็จับมันลงบ่อใหญ่ไปตามปกติ
   เพลียจัดจากเมื่อวาน เลยไม่ได้ออกกำลังกายอะไรสักอย่าง ล้างตู้กรองบ่อปลาดีกว่า มีไส้กรองละเอียด 3 ชั้น กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จก็ใช้เวลาไปราว 2 ชม จากนั้นก็หิว แต่ไม่มีอะไรกิน พ่อแม่ไปตลาด ไม่รู้ตลาดไหน รอเขากลับมา อาจมีของกิน
   กลายเป็นว่าพ่อแม่ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แต่ซื้อแค่ขนมกลับมา อืมม มีอะไรก็จัดไปแค่นั้นครับ เช้านี้เป็นวันแรกในรอบหลายๆ ปีที่กินอาหารคุณภาพต่ำมาก เริ่มจากขนมครองแครงน้ำกะทิ ปั่นสิบ ขนมต้ม แคบหมู กินหลายอย่างแต่อย่างละนิดละหน่อยล่ะ ไม่ได้จัดอย่างละถุงนะ
   กลางวันกินดีหน่อย เป็นส้มตำ เริ่มค่อยมีผักเข้ามาในชีวิตบ้าง อยู่บ้านทั้งวันก็เดินไปเดินมาวนเวียนอยู่กับอ่างปลา บ่อปลา จัดระเบียบปลาเล็กปลาน้อยรุ่นอายุใกล้ๆ กันเข้ามาอยู่ในอ่างเดียวกัน จัดเตรียมต้นไม้น้ำใส่กระถาง เอาไว้สำหรับอ่างอนุบาลอันใหม่ที่เพิ่งซื้อ
   มิวเดินเข้ามาถามภาษาอังกฤษคำว่า Airport สะกดเป็นภาษาอังกฤษอย่างไร ผมเลยพูดคำว่า Airport ให้เขาฟังช้าๆ หลายๆ ครั้ง ให้เขาหัดฟังเสียงแล้วเทียบเคียงกับตัวพยัญชนะ (ตัวคำว่า Air นั้นง่ายมากเลยเล่าข้ามไป) มิวเริ่มพูดออกมาว่า P-O-R- T
บ๊ะ ใช้ได้ว่ะ การเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับผมมันจะต้องมาจากพื้นฐานการฟังก่อนครับ ฟังให้เยอะเข้าไว้ ฟังไม่รู้เรื่องก็ช่างมัน ฟังลูกเดียว ฟังจนหนำใจแล้วก็ค่อยพูดตาม พูดให้เหมือนต้นฉบับ ออกเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษาเขาพูด จากนั้นก็ค่อยอ่าน แล้วตามด้วยเขียน
ผมว่าการเรียนภาษาใดๆ ก็ต้องใช้ทักษะพื้นฐานเดียวกันนี่แหละนะ มีแต่ประเทศไทยเรานี่แหละที่เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก แต่คนส่วนมากกลับพูดสื่อสารกับต่างชาติไม่ได้
ก็เพราะเราเรียนเพื่อเอามาทำข้อสอบไงล่ะครับ หลายคนเก่งแกรมม่า ไวยกรณ์เป๊ะ ตรงไหนเติม S ตรงไหนเป็นอดีต แกจัดเทนส์ได้ถูกต้องหมด แต่พอเจอฝรั่งถามทางเข้าหน่อย เล่นเอางง บางคนถึงกับใบ้แดก เพราะไม่เคยได้ฝึกหัดฟังไงครับ ได้ยินตัวจริงเขาพูดมาก็อ้าปากหวอ เพราะฟังไม่รู้เรื่อง (แต่ถ้าให้ฝรั่งเขียนถาม เขาตอบได้หมดเลยนะ) ย้อนกลับไปอ่านข้างต้น ผมบอกเลยว่าการฟังคือทักษะอันดับแรก ถ้าไม่ค่อยได้ฟัง เราก็จะพูดไม่ค่อยเก่ง
   อยากจะบอกกระทรวงศึกษาธิการนะครับว่าหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษที่ใช้อยู่นั้นมันผิดพลาดมาก เรียนเพื่อเอาไว้เพื่อทำข้อสอบอย่างเดียว แต่มันแทบจะใช้จริงในชีวิตประจำวันที่เน้นการสื่อสารด้วยการพูดไม่ได้เลย 
   เย็นพาภรรยาและลูกไปเดินเที่ยวหาข้าวกินที่ Asiatique เจริญกรุง ชื่อนี้มีที่มา เพราะเจ้าของเดิมคือบริษัท East Asiatic เป็นบริษัทขนส่งสินค้าตั้งแต่สมัยโบราณ ง่ายๆ แค่นี้แหละครับ
   เย็นวันอาทิตย์ ไปไหนก็คนแน่น ที่นี่ก็แน่น รถจอดซ้อนกันเต็มไปหมด เจอรถคันข้างหน้ากำลังจะออก ผมลงไปช่วยเขาเข็น คุณลุงคุณป้าขึ้นรถแล้วค่อยๆ เคลื่อนออกมาช้าๆ แล้วจู่ๆ หนุ่มสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็เปิดประตูขึ้นรถที่ด้านหลัง
   อ้าว เฮ้ย มาด้วยกันหรอกหรอ แล้ว…  เอ็งไม่มาช่วยพ่อแม่เอ็งเข็นรถบ้างเลยหรอ งงโคตรๆ ภรรยาผมเป็นคนเงียบๆ ถึงกับบอกลูกให้ดูไว้ว่านี่คือตัวอย่างของคนไม่มีน้ำใจ ขนาดมากับพ่อแม่ตัวเองแท้ๆ
   ให้มิวเลือกอาหารกิน เขาจ้องมองแต่ร้านพวกฝรั่ง ผมสอนให้เขาอ่านดูเมนูที่มักจะวางอยู่หน้าร้าน ดูว่าเขามีเมนูอะไรเด่น เขาขายอาหารสไตล์ไหน ราคารับได้ไหม ฯลฯ
   สุดท้ายได้ร้านแนว Pub & Restaurant ชื่อ Fire & Dine เป็นการเล่นคำของคำว่า “ไดน์” หรือ “ดาย” เลยสอนภาษาอังกฤษให้ลูกไปในตัว ร้านนี้ตกแต่งสวยงามในสไตล์โกดังเก่า เข้ากับบรรยากาศด้านนอก มีมุมเล่นดนตรีสดด้วย
   มิวชอบพิซ่าฮาวาย ผมกับภรรยาชอบซีซาสลัด และลองซี่โครงหมูบาบีคิว ปิดท้ายด้วยปลาหมึกชุดแป้งทอด
   สามคำก่อนออกจากร้านคือ อิ่ม แน่น อ้วน
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 25, 2012, 01:22:48 pm
23 กรก 55
   กระโดดเชือกยามเช้า สลับกับเดินเร็ว คัดแยกจัดระเบียบกลุ่มของลูกปลา เอาไข่แดงต้มแบ่งมาเล็กน้อยให้เจ้าลูกปลากิน ที่เหลือโยนใส่บ่อปลาใหญ่ แป๊บเดียวหมดเกลี้ยง คงจะชอบกันมาก
   ไปถึงที่ทำงานก็เริ่มจะเข้าวงจรชีวิตเดิมๆ อีกแล้ว ขับรถส่งของครับ ไม่ค่อยชอบตำแหน่งหน้าที่นี้ เพราะผมไม่ค่อยคุ้นรถกระบะ แถมขับไปส่งแต่ละแห่งก็จะจอดยากๆ ทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นรถหลังคาสูง เข้าซอยแคบๆ ก็ไปชนร่มแม่ค้า ชนกันสาดบ้านลูกค้าก็เยอะ
   “ผมนั่งรถมาทุกคันแล้วนะ ผมว่าพี่เปิ้ลขับได้นุ่มที่สุดเลย” สมบัติ (คนงาน) เอ่ยปากพูด เขาเพิ่งจะย้ายที่นั่งจากทางด้านท้ายรถมานั่งในห้องโดยสาร
   ผมก็อมยิ้มในใจ เขาอาจจะชมจริงก็ได้ อาจจะพูดเอาใจก็ได้ หรืออาจจะเมาอยู่ก็เป็นได้ คนนี้คือคนที่เมาได้เก่งที่สุดในร้าน เกิดมายังไม่เคยมีใครชมผมว่าขับรถได้ดีแม้แต่คนเดียว ผมก็จะถือว่าคำชมของสมบัตินี้แหละ เป็นคำชมแรกในชีวิตที่ผมได้รับ จะว่าไปก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ
   แต่จะว่าตั้งใจขับให้นุ่มก็ใช่นะ เพราะเมื่อใดที่ขับรถเกียร์ธรรมดา ก็จะต้องหาวิธีขับแบบแก้เบื่อ และฝึกฝีมือทักษะที่คนรุ่นใหม่แทบจะทำไม่เป็นกันแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ต้องมี Rev Match Down Shift ที่บ่อยหน่อยก็คือ No Clutch Shift และถ้าขับที่ความเร็วสูง ก็จะใช้ Left Foot Braking ส่วน Heel & Toe นั้น หาจังหวะทำได้ยากมากสำหรับรถกระบะบรรทุกสินค้า
   โชคยังดี ขับส่งแค่ช่วงเช้า บ่ายไปธุระที่ธนาคาร เย็นไปรับลูก วันนี้ครูนัดคุยกับผู้ปกครอง คุยกันรายละ 30 นาที ครูจะรายงานพฤติกรรมลูกให้ผู้ปกครองทราบ ผมว่าดีนะ เขามีแบบนี้เทอมละครั้ง ปีหนึ่งมีสามเทอม ก็จะทราบความเป็นไปของลูกโดยตลอด
   มิวยังคงได้รับคำตำหนิและคำชมแบบเดิมๆ ตำหนิเรื่องชอบคุยเล่นไม่สนใจเรียน ส่วนคำชมก็คือมีน้ำใจ ร่าเริง สนุกสนาน กล้าแสดงออก มีจิตนาการดี
   อยู่ในรถขากลับบ้านก็พูดคุยกับลูกให้ปรับปรุงตัวในจุดด้อย และยังคงรักษาจุดเด่นของเราเอาไว้ หวังว่าสักวันมิวคงจะเข้าใจ 
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 25, 2012, 01:25:01 pm
24 กรก 55
   ขี่จักรยานไปได้หน่อยเดียว วกกลับมาบ้านดูปลาดีกว่า ช่วงนี้เห่อมาก นั่งอยู่ริมบ่อปลาได้เป็นชั่วโมง ปลาตัวใหญ่ไม่ได้วางไข่มาหลายวันแล้ว ก็ดีเหมือนกัน ไม่เหนื่อยเรา เท่าที่สังเกตดูผมรู้สึกว่าถ้าคืนไหนฝนตก ตอนเช้าปลามันชอบผสมพันธุ์กัน
   อาหารเช้าผมมีไข่ต้ม ตัวเองแกะกินแต่ไข่ขาว เหลือไข่แดงเอาไว้ให้บรรดาลูกปลา แต่พ่อแม่ปลาก็ขอแจมด้วยทุกที เพิ่งรู้นะว่ามันชอบกินไข่ต้ม กินเฉพาะไข่แดงสุกล่ะ มีไข่ขาวติดไปนิดเดียวก็ไม่ได้ มันกินแล้วบ้วนออกมา
   ส่งลูกไปเรียน ไปทำงานที่ร้านขายของ วันนี้ฟ้าเมตตา ไม่ต้องออกไปส่งของ แต่ต้องจัดเตรียมของขึ้นรถอยู่ที่ร้านแทน
   กลับเข้ามาบ้านก็ต้องแวะดูปลาก่อนทำสิ่งอื่นใด ดูพัฒนาการของมัน บ่อไหนโตแค่ไหนแล้วบ้าง แต่ดูบ่อล่าสุดที่เป็นสระว่ายน้ำเด็กสีฟ้าท่าทางจะไปได้สวย ได้ปลาในบ่อนี้เยอะมากที่สุด เพราะจับพ่อแม่ปลามาผสมในบ่อนี้ เป็นการทดลองที่ประสพผลสำเร็จดี ตอนนี้ก็เลยเตรียมบ่อผสมพันธุ์สำรองเอาไว้แล้ว
   ลูกปลาตัวเล็กมันกินไข่แดงทีละน้อย แทบไม่เห็นว่ามันกิน แต่เจ้าตัวใหญ่มันเล่นแบบฮุบทีเดียวหายวับ ตกเย็นผมเอาไข่แดงจากบ่อลูกปลามาเทให้ปลาในบ่อใหญ่กิน เทปุ๊บปลามากินปั๊บ น้ำยังไม่ทันขุ่นดี ไข่แดงหายหมดแล้ว
   หัวค่ำล้างไส้กรองปั๊มน้ำ ล้างทุกวันครับ ทำให้น้ำใสสะอาดดีมาก ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำยาปรับน้ำใส น้ำยาลดตะไคร่ ฯลฯ ผมว่าปลามันก็ไม่ได้ชอบพวกสารเคมีนักหรอกนะ คนเราเองต่างหากที่คิดค้นของเหล่านี้มาขาย ไม่มีใครเคยถามปลาสักคำ
   ข่าววงการรถยนต์วันนี้ ค่าย Rolls Royce เปิดตัวอย่างเป็นทางการแถวถนนพระราม 3 เขาคงจะมั่นใจอะไรบางอย่างถึงได้ลงมาลุยขนาดนี้ ทั้งๆ ที่โปรเจครถคันแรกของรัฐบาลสั่วๆ ยังไปไม่ถึงไหนเลย มันบอกว่าผู้ซื้อได้รับสิทธิเป็นส่วนลด แต่จะรับเงินอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ชัดเจน 100% ถึงกระนั้นผู้บริโภคต่างแห่ซื่อแห่จองกันยกใหญ่ เหมือนกับว่าซื้อเพราะได้ส่วนลด ไม่ได้อยากได้รถ
   หารู้ไม่ว่าค่ายโตโยต้าเขาออกข่าวเป็นการภายในว่าให้ยกเลิกรับจองรถในโปรเจครถคันแรกแล้ว


*รถเทพ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 25, 2012, 07:59:56 pm
25 กรก 55
   เวปแฮงค์ไป 1 วันเต็มๆ เกิดจากฐานข้อมูลผิดพลาด ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนโปรแกรมป้องกันพวกสแปมมาสมัครสมาชิกแล้วโพสมั่วนั้นยังรอเวอร์ชั่นใหม่ครับ ของเก่าลองเอามาใช้แล้ว แต่ก็ยังไม่รอด กรองไม่อยู่
   ฝนตกยามเช้า แต่ตกปรอยๆ ไม่หนัก สงสารเด็กนักเรียนและพวกคนทำงานที่ต้องนั่งรถโดยสารจริงๆ ผมนั่งอยู่คนเดียวในรถ มองไปที่ป้ายรถเมล์แล้วนึกอยากจะชวนเรียกขึ้นมานั่งด้วยกัน รถผมนั่งได้ 2 คน ถ้าส่งลูกแล้วก็จะรับผู้โดยสารได้อีก 1 คน ปัญหาคือเราสองคนจะสื่อสารกันได้อย่างไร จะติดป้ายไว้ที่รถผม หรือผมต้องตะโกนเรียก หรือมีวิธีอื่น
   มีอีกวิธีที่ง่าย คือหาคนร่วมรถแบบ Car Pool มันซะเลย ทำเป็นระบบแบบในต่างประเทศ ผู้โดยสารก็จะช่วยออกค่าน้ำมันให้เราด้วย เรียกว่าเป็นสมาชิกกันเลย
   เช้านี้ไปส่งของที่วงเวียนใหญ่อีกแล้ว ร้านเดิมที่บอกว่าจอดยากที่สุดนั่นแหละ ต้องจอดซ้อนคันรอรถคันอื่นออกเราถึงจะเข้าไปจอดแทนได้ ระหว่างรอมีคุณยายขายผักอยู่ใกล้ๆ เดินมาบอกว่าให้ระวังตำรวจเขียนใบสั่งนะ ผมขอบคุณยายและพูดคุยกันสักพัก ทำให้วันนี้ผมได้รู้จักคุณยายเป็นเพื่อนเพิ่มอีก 1 คน ผมมีคติของตัวเองว่า หากออกจากบ้านก็ต้องรู้จักคนอื่นให้ได้เพิ่มอย่างน้อยวันละ 1 คน
   เพราะผมเป็นคนมีเพื่อนน้อยมากๆ เพื่อนที่ว่าสนิทก็ยืมเงินและหายหน้าหายตา จากเดิมที่เด็กๆ เราสนิทกันดี กลายเป็นตอนนี้อยู่ในสภาพไร้เงา เรื่องเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก หากไม่อยากเสียเพื่อน โปรดอย่าคุยเรื่องเงิน
   ทุกวันนี้เพื่อนที่สนิทที่สุดกลายเป็นเพื่อนในโลกออนไลน์ เพื่อนจากวงการจักรยานนี่แหละดูจะเยอะที่สุด
   ข่าววงการรถยนต์วันนี้ Honda Jazz Hybrid เปิดตัวในไทยแล้ว เอาล่ะโว๊ยๆ ถ้าฮอนด้าลงมาเล่นตลาด Hybrid นั่นคืออีกไม่นานรถยุโรปจะมาเล่นด้วย แน่ล่ะ เขามีอะไรเจ๋งๆ อีกเยอะ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 26, 2012, 07:58:44 pm
26 กรก 55
   คัดแยกลูกปลาตัวโตออกจากตัวเล็กอย่างเร่งด่วน เพราะเพิ่งไปมองเห็นว่ามันไล่กัดเจ้าตัวเล็ก แม้จะเป็นไปตามธรรมชาติก็เถอะ แต่งานนี้ขอล่ะวะ เอ็งไปอยู่อ่างใหม่ต่างหากจะดีกว่า
   เรื่องเล่าระยะนี้มีแต่เรื่องของปลา เพราะตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเลี้ยงปลาทองแล้วออกลูก แถมวางไข่หลายล็อต ได้ลูกมามาเยอะมาก ขอเห่อหน่อย
   ในขณะเดียวกันเรื่องจักรยานก็ลดน้อยลงไป ช่วงนี้รู้สึกอยากได้รถล้อ 14 แบบดีๆ หน่อยเอาไว้ใช้งาน ผมมอง Java X1 เอาไว้ ส่วนเจ้า Neobike 14 ที่มีคอมันหักครับ ยังไม่ได้ซ่อมเลย กะว่าจะซ่อมแล้วขายถูกๆ ไป หรือไม่ก็ให้เจ้าของใหม่ไปซ่อมเอง จะได้ถูกใจเขา เรื่องของเรื่องก็คือผมกลัวซ่อมแล้วมันหักอีกน่ะ น่าเบื่อมาก เพราะหักมาสองรอบแล้ว หากจะซ่อมอีกทีก็น่าจะต้องมีการทำแกนใหม่ ดามสอดไส้ ยอมหนักขึ้นนิดหน่อย แต่ถ้าทำแล้วจบก็ถือว่าคุ้ม
   ตอนนี้มีบ่อปลาเล็กปลาน้อยมากมาย เริ่มทยอยจัดระเบียบให้มันอยู่รวมกันในบ่อใหญ่อันใหม่อันเดียวน่าจะดีกว่า ยกเว้นไอ้ตัวโตหน่อยที่มันชอบรังแกเด็ก คัดออกมาได้ 6 ตัว เป็นพวกลูกปลาล็อตแรกๆ ตอนนี้ตัวยาวสัก 2 ซม
   ช่วงนี้ปักกิ่งเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ก็เหมือนๆ กับที่เราโดนเมื่อปลายปี 54 ไทยเราน่าจะแสดงความช่วยเหลืออะไรสักอย่างแก่เขานะ จีนคือมิตรแท้อันดับต้นๆ ของเรามานาน ส่งทีมกู้ภัยไปก็ได้ หรือส่งนวัตกรรมต่างๆ ที่เราคิดค้นได้ตอนน้ำท่วมก็ได้ ทว่ารัฐบาลยังคงสาละวนกับการนำพี่ชายตัวเองกลับมาอย่างไร้มลทิน อุบาทว์ว่ะ
   เย็นฝนตกหนัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในเมืองต้องมีน้ำท่วมขังแน่ๆ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 28, 2012, 08:14:08 pm
27 กรก 55
   ช่วงนี้ปลาทองไม่วางไข่แล้ว หรือมันจะหมดช่วงฤดูผสมพันธุ์แล้วนะ ก็ดีเหมือนกัน ออกมาเยอะมากกว่านี้คงจะไม่มีที่เลี้ยงแล้ว ตอนนี้ก้าวผ่านด่านแรกคือฟักไข่ไปแล้ว ปัญหาตอนนี้คือจะเลี้ยงเจ้าลูกปลาตัวจิ๋วอย่างไรให้มีชีวิตรอด ตัวมันเล็กเหลือเกิน ให้อาหารก็ไม่เห็นจะกิน เลยปล่อยให้บ่อมีตะไคร่น้ำเยอะๆ กะให้มันเก็บกินตะไคร่แบบอาหารบุฟเฟ่ต์
                เช้านี้ฝนยังคงตก แต่ตอนสายแดดออกแรงจัด ช่วงนี้ผมยังออกคงไปส่งของอยู่ทุกวัน ร้านประจำคือร้านที่อยู่แถววงเวียนใหญ่ ไม่ค่อยชอบเลย จอดรถยากมาก มีเจ้าถิ่นคุมอยู่เยอะ
   กลับมายกของแรกๆ ก็พอไหว ยกนานเข้ามันก็เริ่มเจ็บอีกแล้ว อ้าว ก็แหงสิ เอ็งเจ็บหลังถาวรไปนานแล้ว ไม่รู้ตัวหรอกหรือ
   เฮ้ย ตัวกู กูรู้ แต่คนใช้งานกู เขาคงไม่รู้
                หรือรู้ แต่ก็จะใช้งาน ใครจะทำไม หลังของมึง ไม่ใช่หลังของกู
   มันไม่ใช่ลิขิตฟ้า หรือปาฏิหาริย์ ที่ทำให้ชีวิตผมเป็นแบบนี้
   อยากใช้ชีวิตอิสระ เลือกทำงานอิสระที่เราถนัด จะได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ที่บ้านเห็นคิดว่าเราอยู่ว่างๆ ก็เลยเรียกมาช่วยงาน และนั้นคือที่มาของงานหลักที่ทำทุกวันนี้
   เซ็งสัตว์
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 30, 2012, 01:10:33 pm
28 กรก 55
   ปลาวางไข่อีกแล้ว บ่นอยู่แหมบๆ วันนี้จัดมาเลย มีประสบการณ์แล้ว จัดเตรียมอ่างให้ผสมพันธุ์ไว้แล้ว คราวนี้คัดแม่ปลาตัวใหญ่ๆ กับตัวผู้สีสวยๆ มาให้มันผสมพันธุ์กัน ช่วงสายรอลุ้นว่าจะได้ไข่ปลามากแค่ไหน
   เช้าส่งมิวไปเรียนพิเศษ ปกติผมไม่อยากให้เรียนหรอก แต่นี่เขาต้องไปสอบเข้าชั้น ม1 ก็เลยต้องอัดฉีดกันหน่อย แถมโรงเรียนของเขาไม่ได้เน้นวิชาการอะไรมากนักเลย ทำให้เริ่มเป็นกังวลหากต้องไปสอบแข่งขัน
   บ่ายพาลูกไปเรียนพิเศษคุมอง (คณิตศาสตร์) เย็นกลับมาบ้าน ผมดูปลา มิวเล่นเกมส์
   ฝนตกปรอยๆ ตลอดวัน อย่าบ่นเบื่อ เปียก แฉะ คนที่หนักหนาสาหัสกว่าเรานั้นมีอีกเยอะ
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 30, 2012, 01:12:27 pm
29 กรก 55
   เช้าไปงานทำบุญบ้านที่บ้านพี่สาวแถวพระราม 9 บ้านนี้แปลกตรงที่ชอบทำบุญช่วงเช้า คือจะมีงานเลี้ยงพระเช้า (ปกติจะเจอแต่เลี้ยงพระเพล) จัดเตรียมงานกันตั้งแต่เช้ามืด ต้องจัดสถานที่ เตรียมอุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ
   พระที่นิมนต์มาเป็นพระป่ามาจากทางภาคอีสาน เคร่งมาก ฉันวันละมื้อเดียวคือมื้อเช้า ฉันในบาตร แน่ล่ะ ท่านจะเทของที่ถวายให้ทุกอย่างรวมกันในบาตรแล้วฉัน
   ไปบ้านพี่สาวแต่ละครั้งก็เห็นบ้านช่องตกแต่งบูรณะอย่างสวยงาม อย่างเช่นวันนี้ผมได้ไอเดียชั้นวางหนังสือแบบปรับเลื่อนได้ ชอบมาก ขอนำไปต่อยอดใช้กับห้องของตัวเอง
   ช่วงสายแขกทยอยกันกลับ ผมกับพ่อแม่เป็นญาติสนิทเพียงกลุ่มเดียวที่เหลืออยู่ นั่งเล่นคุยกันที่เรือนรับรองนอกบ้านพักใหญ่ คุยกับหลานที่กำลังจะไปอเมริกาในเดือนหน้า แล้วก็พาภรรยาและลูกไปสยามพารากอนต่อ
   ไปถึงห้างตอน 10.30 รถติดแน่นตามฟอร์มห้างดัง วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมไปจอดรถบนตึก (ทุกทีจอดชั้นใต้ดิน) ผ่านชั้นแรกก็เจอที่จอดรถสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ สำหรับรถซูเปอร์คาร์ที่ซื้อจากโชว์รูมสยามพารากอน ฯลฯ งงสิ ไม่เคยเห็นป้ายแบบนี้ ต่อมาก็เป็นที่จอดรถของพวกที่ถือบัตรดังๆ City Bank Visa บ้าง บัตรเครดิตต่างๆ บ้าง เอาวะ ขอใช้สิทธิหน่อย วนอยู่สองรอบในเขตนี้ถึงจะจอดได้ หึหึ นี่ถ้าไม่มีบัตรอะไร ก็ต้องวนขึ้นไปชั้นบนเรื่อยๆ
   พ่อฝากซื้อเป็ดย่างร้าน Four Season ร้านชื่อดังจาก London ที่เพิ่งมาเปิดสาขาในไทยที่ห้างนี้เป็นแห่งที่สอง ได้ข่าวว่าคนแน่น รอนาน เลยไปจองคิวซื้อไว้ตั้งแต่ตอนสาย เอาไว้ขากลับบ่ายๆ จะมารับ
   ลูกชอบดูหนังสือ จัดไปครับ มีร้าน Asia Book, Kinokuniya ซัดไปเป็นชั่วโมง ภรรยาชอบพวกเครื่องสำอาง จัดไปเช่นกัน ซัด La Mer ไปหนึ่งชุด หึหึ ไม่ต้องบอกนะว่าเท่าไหร่ ส่วนผมชอบประหยัด เปิดหูเปิดตา เปิดใจ ไม่ซื้ออะไรสักอย่าง เก็บเงินอย่างเดียว อนาคตลูกยังอีกไกล
   กลางวันกินร้านโปรดของครอบครัว Tony Roma’s ราคาแพงจัด ตกลงกันว่ากินกันสักปีละหนก็พอ เมนูประจำคือซี่โครงบาร์บีคิว อร่อยแบบไม่ต้องบรรยาย แต่กินแล้วก็คิดไปพลางว่าเขาใช้ “เนื้อปลอม” มาขายเราหรือเปล่า
   เนื้อปลอมที่ผมบอกก็คือเขาจะใช้เนื้อหมูส่วนขาหน้าเอามาหุ้มกระดูกซี่โครง ติดด้วยกาวสำหรับทำอาหาร
   เนื้อปลอมจะพบบ้างได้ในเกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศที่เขาชอบกินเนื้อสัตว์แพงๆ กัน ในไทยเราผมคิดว่าไม่น่าจะมีนะ แต่ที่อดสงสัยไม่ได้ก็เพราะว่า เนื้อมันร่อนหลุดออกมาจากกระดูกซี่โครงได้ง่ายดายเหลือเกิน เลาะกินก็แทบไม่มีสิ่งใดยึดติดกับกระดูกเลย คุณลักษณะเช่นนี้เหมือนใช้เนื้อปลอมเป๊ะ แต่ว่ารสชาตินี่ยังดีเป๊ะเหมือนเดิมนะ
   BBQ Rib Half Rack 495 บาท ลูกกินไป 3 ชิ้น ภรรยากิน 2 ชิ้น ผมได้ 1 ชิ้น วันนี้ไม่ได้สั่งซีซาร์สลัดเหมือนทุกครั้ง เพราะเพิ่งจะสังเกตราคา เฮ้ยย ซีซาสลัดชามละ 490 บาท !!! ราคาแม่งเท่ากับเนื้อซี่โครงเลยเว้ยยย
   ลูกตั้งใจจะมากินซุปเห็ดซึ่งปกติมันจะเป็นหนึ่งในเมนูของซุปประจำวัน แต่วันนี้เสียใจด้วย ซุปประจำวันในวันนี้ของเขาคือซุปข้าวโพด มิวจ๋อย
   แต่วันนี้โชคดีหน่อยตรงที่มีส่วนลด 15% ให้แก่ผู้ใช้โทรศัพท์ค่าย AIS กดรหัสหน้าร้านแล้วโชว์หน้าจอแก่พนักงานก่อนสั่งอาหาร เอ๊ะ หรือว่าเขาจะคัดของแบบตกเกรดหน่อยเอามาให้พวกลูกค้าที่ใช้ส่วนลดวะนี่ นี่ออกแนวคิดมากแล้วนะ ก็เพราะหากจะลดราคา เราก็โชว์หน้าจอหลังกินเสร็จก็ได้นี่หว่า น่าคิดไหม
   กินเสร็จเดินไปยังตึก Siam Discovery Center มิวอยากจะไปดูของที่ร้าน Loft และดูพวกร้านขายของดีไซน์ ปกติจะต้องเดินผ่านห้างคลาสสิคชื่อ Siam Center แต่วันนี้เขาปิดปรับปรุงครับ เปิดใหม่คงจะสวยงามมาก ตึกนี้เป็นตำนานของวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ ดารา นางแบบในยุคผมที่ดังๆ เกือบทุกคนแจ้งเกิดจากสถานที่แห่งนี้ มาช่านี่เจอบ่อยตั้งแต่ ม3 (เขาอ่อนกว่าผม 1 ปี) ตอนนั้นยังแต่งชุดนักเรียน ACC อยู่เลย (อัสสัมชัญ คอมเมิร์ซ) บรินทร์ ดุ๊ก (เก่ามาก ทุกวันนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้) ร้านดังสุดที่เอ้าท์ไปแล้วก็คื่อ Domon มันเป็นเหมือน “a must” สำหรับวัยรุ่น
   เดินผ่านร้าน North Face เห็นป้ายเซลล์เลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย ปกติยี่ห้อแบรนด์เนมหรูของนักเดินทางอย่างนี้ไม่ค่อยถูกกับสไตล์ของผมนัก ผมชอบของดิบๆ เถื่อนๆ อันไหนมียี่ห้อติด มักจะไม่ชอบ แม้จะชอบในตัวสินค้าก็อยากละเลาะป้ายยี่ห้อมันออกเสียนี่ ไม่รู้สิ ผมรู้สึกอายๆ ที่ใช้ของมียี่ห้อ รู้สึกไม่ค่อยถูกับจริตตัวเอง
   เจอเสื้อกันฝนตัวหนึงเป็นของ Summit Series ประทับใจตรงความบางเบา เนื้อผ้าเหมือนถุงขยะสีดำ ผมว่าพับดีๆ จัดระเบียบสักหน่อย เสื้อแขนยาวมีฮูดตัวนี้จะมีขนาดราวๆ 1 กำมือ ชอบสิครับ ดูป้ายราคาแบบขำขำ รู้อยู่แล้วล่ะว่าแม่งแพง ต่อให้มันลด ก็ยังแพง แต่วันนี้จะทำให้สิ่งที่ผมเคยคิดนั้นเปลียนไป
   ไม่ใช่แพงธรรมดา แม่งโคตรแพง ราคาเต็ม 7000 กว่า ลดเหลือ 4950 !!!
   เฮ้ยย 950 หรือเปล่า ถ้าแค่นั้นผมก็ยังไม่ซื้อเลยนะ
   แวะกินไอติม Hagen Daz ไม่ได้ซื้อนะ มีบัตรฟรีเพราะถือหุ้นของ SCG อยู่ เขาให้บัตรฟรีเป็นของกำนัล ไม่เคยกินไอติมแพงๆ อย่างนี้มาก่อน รสชาติต่างจากพวก Swensens เยอะมาก ไอติมก็ต่างแล้ว เจอวิปครีมสิยิ่งต่าง รู้ได้เลยว่าเขาใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีกว่า
   ก่อนกลับบ้านไปรับเป็ดย่างที่พ่อฝากซื้อครึ่งตัว 640 บาท ขึ้นรถปุ๊บภรรยาและลูกก็หลับกันคนละมุม รถติดหนักหน้าห้าง พอผ่านพ้นมาได้ก็โล่งตลอดจนถึงบ้าน หยิบเป็ดย่างระดับเทพที่เขาว่าดัง เคยได้ยินบางคนเรียกว่าเป็นเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดในโลกด้วยซ้ำไป
   พ่อหยิบน้ำราดมาเท เข้าปากหนึ่งคำ ผมมองหน้า กำลังจะถามความเห็น แม่กินอีกคำตาม ใจผมเต้นเหมือนรอลุ้น
   “แถวถนนตกอร่อยกว่า” เคี้ยวหมดคำปุ๊บ พ่อตอบออกมา โดยที่ผมไม่ต้องถาม
   “มันจะอร่อยกว่านี้นะ ถ้าให้น้ำจิ้มมาด้วย เขาให้มาแค่นี้เองหรือ” แม่ถาม
   มันมีมาแค่นี้แหละครับ ก็เรียกว่าเป็นอีกร้านชื่อดัง ที่ดังเพราะโปรโมท ไม่ว่าใครล่ะ คนไม่เคยกินของดีๆ มาก่อน พอมาเจอรสชาติแบบนี้ก็ถูกใจกันหนักหนา แต่รุ่นพ่อแม่ผมเขาเจออะไรมาเยอะแล้ว ไอ้รสชาติแบบนี้สำหรับเขาถือว่า “เฉย เฉย”
   “ซื้อมาเท่าไหร่หรือ” แม่ถาม
   “640 ครับ”
   “อืม ซื้อเป็ดย่างที่ถนนตกได้ตัวครึ่ง ที่นั่นขายตัวละ 400”
   ผมไม่ใช่พวกเซียนของกิน เกิดมาก็ไม่ค่อยจะได้กินของดีๆ เจอหรูสุดก็ตามพวกโรงแรมนี่แหละครับ แต่สมัยพ่อแม่ผมยังหนุ่มสาว เขาก็ออกขับรถตระเวนกินหาความสุขหลังจากทำงานหนัก กินมากก็มีข้อมูลมาก อยากกินอาหารอะไร ที่ไหน ขอให้ถามมา จะจัดให้
   Four Season มาได้ยินเข้าคงจะเซ็ง
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on July 30, 2012, 09:12:44 pm
30 กรก 55
   แม่เห็นผมสาละวนอยู่กับอ่างปลาได้ทั้งวัน เลยซื้อลูกน้ำอบแห้งมาให้ ถูกใจสิ เพราะทุกวันนี้ให้กินไข่แดงต้มสุก และอาหารเม็ด มันก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยกิน ต่อให้อาหารเม็ดเล็กเพียงใดก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าตัวลูกปลาเลย
   ลูกน้ำแห้งลอยน้ำสักพัก แล้วก็จมลง ข้างซองเขียนบอกว่าใช้แล้วน้ำไม่ขุ่น แต่ตอนท้ายบอกว่าให้อาหารแล้วปลาควรกินหมดภายใน 15 นาที ไม่งั้นน้ำจะเสีย
   อ้าว เฮ้ยย ทำไมคำให้การมันขัดแย้งกันเองล่ะ
   ลูกปลาเยอะจัดจนต้องปล่อยครับ คือทิ้งให้อาหารปลาจมลงก้นอ่าง หวังว่ามันคงจะมาเก็บกินกันเองภายหลัง และคงจะกินหมดจนน้ำไม่เสีย
   อุตส่าห์ลดน้ำหนักมาได้ 1 กก เจอวันอาทิตย์จัดเต็มอีกแล้ว ภารกิจลดน้ำหนักยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก เพราะนี่ปลายเดือน 7 เข้าไปแล้ว เส้นตายของผมอยู่ที่สิ้นปีนี้ จะต้องเอาลงมาอีก 5 กกให้ได้
   4 เดือน ต้องลด 5 กก ผมว่าผมไหวนะ
   อย่างที่เคยบอกครับ ยิ่งอายุมาก ยิ่งลดยาก กินน้อย อ้วนง่าย ระบบเผาผลาญไม่ดี ระบบขับถ่ายเริ่มแย่ลง แถมตัวเองยังต้องมาเจอเรื่องเจ็บหลังเข้าไปอีก ออกกำลังกายโหดๆ เหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
   ยามทุกข์ก็มองคนทีด้อยกว่าเราเพื่อให้เกิดกำลังใจ ยามท้อแท้ก็มองคนที่สูงกว่าเพื่อให้เกิดความทะเยอะทะยาน วิธีคิดเท่านั้นที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ในสภาวะลำบาก
   เข้ามาบ้านตอนบ่าย ดีใจมากที่ไข่ปลาที่ได้จากการผสมเมื่อเช้าวันเสาร์ มันฟักเป็นตัวแล้ว ตัวเล็กกระจิ๋วหลิว ออกจากไข่มาใหม่ๆ มันจะเกาะนิ่งอยู่กับที่ สัก 2 วันต่อมาจึงจะเริ่มว่ายน้ำออกหากิน
   จากเดิมที่เป็นกังวลว่าจะเอาอะไรให้มันกินดี ไอ้ไข่แดงสุกผสมน้ำผมไม่เอาแน่ น้ำมันขุ่นเสียเร็ว จากการเฝ้าสังเกตดูผมคิดว่าปลาทองชอบน้ำใสสะอาด น้ำยิ่งใหม่ยิ่งดี แต่น้ำใหม่ต้องไม่มีคลอรีน สำคัญมาก
   กลายเป็นว่าผมเพาะตะไคร่น้ำให้ลูกปลามันกินครับ เอาหินไปแช่ในบ่อน้ำที่โดนแดด สักพักใหญ่ก็จะมีตะไคร่น้ำมาเกาะ นำก้อนหินนี่แหละมาใส่ในอ่างลูกปลา ฮ่าๆ วิธีนี้ไม่เคยอยู่ในตำราการเลี้ยงปลาของพวกโปรเลย
   จัดเตรียมอ่างเพาะใบใหม่ให้พร้อมใช้งาน ตักช้อนอาหารปลาแบบเม็ดที่มันลงไปนอนก้นอ่างแล้วปลาไม่กินออก มีความสุขดีเหมือนกันนะ อยากให้เจ้าพวกปลามันโตเร็วๆ จะได้คัดแยกขนาดและสายพันธุ์
   Honda Jazz Hybrid จัดงาน Test Drive วันนี้ อยากไปสิ ต้องมีอะไรแปลกใหม่เยอะมากแน่ๆ ระบบ Hybrid ของเขาจะต่างกับของ Toyota Prius ตรงที่รถ Prius สามารถวิ่งได้ด้วยไฟฟ้าล้วนๆ (วิ่งได้ไม่นาน และไม่ไกลเท่าไหร่) แต่ของ Jazz ตัวนี้จะต้องใช้เครื่องยนต์ตลอดเวลา แต่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.3 (Jazz ปกติเครื่อง 1.5)
   ก็เป็นอันว่าไม่ได้ไปอีกตามเคย มิวโทรมาหาบอกให้ไปรับเร็วหน่อย เขาบอกรู้สึกไม่ค่อยสบาย ผมรีบไปรับกลับ มาถึงบ้านก็นอนหลับสนิท เอาน้ำแข็งแบบเจลหุ้มผ้าขนหนูแล้ววางบนหน้าผาก อีกสองชั่วโมงถัดมาอาการดีขึ้น อืม ค่อยยังชั่ว เพราะผมไม่ชอบให้กินยาเท่าไหร่ ชอบให้ร่างกายรักษาตัวมันเอง แต่เราต้องดูแลระบบพื้นฐานของร่างกายเราให้ดีก่อนล่ะ ผมมีแนวคิดของผมอย่างนี้แหละครับ ซึ่งภรรยาผมมักจะคิดตรงกันข้าม แบบคนละทางไปเลย
   ส่วนใหญ่เราจะไม่สบายก็เพราะร่างกายอ่อนแอ ถ้าเราแข็งแรงดีแล้ว มันไม่เจ็บป่วยง่ายหรอก ฉะนั้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ กินน้ำก็ต้องกินให้ถูกวิธีด้วยนะ คือกินแบบจิบๆ แต่กินให้บ่อย ช่วงเวลาที่ไม่ควรกินน้ำคือช่วงกินอาหาร ไอ้ที่บอกกินน้ำสองแก้วก่อนกินอาหารนั่นเขาเน้นให้เรากินได้น้อย ไม่ได้คำนึงถึงสุขภาพโดยรวมเลย ช่วงเวลาที่ควรกินน้ำมากสุดคือหลังตื่นนอน ซัดไปเลยสัก 500 cc ขนาดแค่เรื่องน้ำยังมีรายละเอียดขนาดนี้ อาหารไม่ยิ่งกว่าอีกหรือ
   แน่ล่ะ อาหารไทยมันคือยาดีๆ นี่เอง เลือกกินให้ถูกชนิดก็แล้วกัน กินให้ดี พักผ่อนให้เหมาะสม อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี จิตใจคิดดี อะไรที่เป็นความดีก็ขยันทำมันเข้าไป ทั้งกับคนใกล้ตัว และคนรอบข้าง ทำโดไม่ต้องคาดหวังผลตอบแทน มันจะเป็นกุศล ดีกว่าพวกที่ทำบุญแล้วชอบป่าวประกาศบอกความดีของตัวเอง
   ค่ำแล้วอาการมิวยังเป็นๆ หายๆ เลยให้กินยาลดไข้ 1 เม็ด แล้วพาไปนอน ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ตลอดคืนนี้ผมเองก็คงแทบไม่ได้นอนเช่นกัน ต้องลุกขึ้นมาคอยแตะตัวเขาดูว่าร้อนไหม อาจต้องให้กินยาลดไข้เพิ่มอีกครั้งตอนตี 1


4 rotor
Title: Re: กรก 55
Post by: O'Pern on August 03, 2012, 08:57:42 pm
31 กรก 55
   นอนหลับๆ ตื่นๆ ต้องคอยมาดูว่าลูกตัวร้อนหรือไม่ ถ้าไม่ร้อนมากก็ปล่อยไป ถ้าเย็นนี่ยิ่งดี แต่ถ้าร้อนก็คืองานเข้า ต้องลุกขึ้นมาเช็ดตัวท่ามกลางความง่วงทั้งคนเช็ดและคนไข้
   กลางดึกมิวตัวลุมๆ (ลุมๆ แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่เข้าใจว่าคือตัวอุ่นๆ หน่อย ไม่ถึงกับร้อนจนน่าตกใจน่ะ) แต่ตื่นเช้ามาก็โอเคหน่อย เขาบอกอยากอาเจียนก็เลยให้ยาก่อนอาหารไปปรับสภาพกระเพาะก่อน
   ฝนไม่ตก อากาศดี เอาจักรยานออกขี่เล่นซะเลย แต่กลับบ้านเร็วหน่อย เพราะต้องคอยจัดการเจ้าลูกปลาในอ่าง ช้อนสิ่งสกปรกที่นอนก้นอ่างออก โดยมากจะเป็นอาหารปลาแบบเม็ดเล็กๆ ที่มันไม่กิน หรือว่ากินไม่หมดก็ไม่รู้ แต่ถ้าทิ้งไว้นานน้ำจะเสีย
   ลูกปลาล็อตล่าสุด ผมคัดพ่อแม่พันธุ์ตัวโตสีสวยมาผสม ต่างจากล็อตแรกๆ ที่ให้ผสมกันเองตามอัธยาศัย ลูกปลาชุดหลังนี้ออกจากไข่เร็วมาก แค่สองวันเองก็ออกมาแล้ว ช่วงแรกนี้ดูแลง่ายมาก ปล่อยให้มันโตเองอย่างเดียวเลยครับ ให้อะไรไปมันก็ไม่กิน น้ำจะเสียเอา สิ่งที่มันชอบสุดน่าจะเป็นตะไคร่น้ำ ต้นไม้น้ำ (เดา)
   วันนี้โชคดีที่ไม่ต้องออกไปส่งของ นึกดีใจได้ไม่นานก็เข้าใจ เพราะจะมีสินค้ามาส่งที่ร้านนี่เอง หน้าที่ผมจึงเข้าไปโกดังตรวจเช็คสินค้า จัดเรียงให้ถูกหมวดหมู่ อยู่ในโกดังจนถึงกลางวันโน่นเลย
   ตลอดวันไม่มีโทรศัพท์มาจากโรงเรียน แปลว่ามิวปกติ แอบลุ้นอยู่นาน เพราะหาไม่สบาย ทางโรงเรียนจะโทรมาแจ้ง ผมก็ต้องรีบไปรับกลับ เข้ามาบ้านช่วงบ่ายก็สาละวนกับอ่างปลา มีอ่างทดลองเลี้ยงลูกปลาตัวโตอย่างอ่างหนึ่ง อ่างนี้ทดลองหลายอย่าง เช่นการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ การให้อาหารหลากหลาย อยากดูพัฒนาการของมัน เบื้องต้นปลาทุกตัวรอดหมดและโตเร็วมาก เป็นไปได้ว่าเลี้ยงแบบไม่แออัด หรืออาจจะเป็นช่วงที่มันเริ่มออกหาอาหารกินเองแล้วก็เป็นได้นะ เพราะเห็นมันตอดกินตะไคร่น้ำ สาหร่าย ให้ไข่แดงก็ตอดกินทีละนิด ต่างจากพวกเจ้าปลาตัวโตที่มันกินแบบฮุบคำโต
   ไปรับมิวตอนเย็น หน้าตาสดใสร่าเริงสุดๆ แวะร้าน SE-ED อ่านหนังสือเล่นสักพัก กลับมาบ้านก็รีบทำการบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องคอยดุว่าแต่อย่างใด ทำอย่างตั้งอกตั้งใจมาก
   “ถ้าลูกเหนื่อยหรือท้อแท้ ก็ให้คิดถึงเป้าหมายของเราเข้าไว้ มันอาจจะไม่ได้ทำให้เราเหนื่อยน้อยลงหรอก แต่มันทำให้ใจเราสู้มากขึ้น เหมือนตอนพ่อขี่จักรยานขึ้นอินทนนท์นั่นแหละ”
   มิวรับฟังอย่างดี หวังว่าคงจะซึมเข้าไปในจิต และจะดีกว่านั้นหากเขานำมันมาใช้