racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on November 03, 2015, 06:16:40 pm

Title: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on November 03, 2015, 06:16:40 pm
1 พย 58
   ตื่นเช้ามาแบบสภาพร่างร้าวอีกวัน แขนยกไม่ขึ้น นอนทับแขนตัวเองยังเจ็บเลย ยกเวทมาหลายวัน ตั้งใจว่าวันนี้จะออกวิ่งบ้างเป็นอันต้องยกเลิก ตื่นเช้ามาซ้อม Uke แทนก็แล้วกัน
   สายๆ หิว เจอกล้วยน้ำว้าก็รีบซัดเลย 1 ผล อ่านในเฟซบุ๊คมีคนบอกว่ากินกล้วยตอนท้องว่างไม่ดี แต่อ่านเหตุผลแล้วมันดูข้างๆ คูๆ เลยไม่เชื่อหรอก กินแล้วก็มาซ้อมดนตรีต่อ วันไปเวียนมา หมดกล้วยไป 4 ผล ยังไม่หายหิวเลย ปกติเราเป็นคนกินมื้อเช้าเยอะไง เปิดตู้ดูของกินที่อ้วนน้อยๆ หน่อย เจอถั่ว Maruti อยู่ 2 แพ็ค เปิดหยิบมากิน 1 หลอด
   ดี (แม่บ้าน) จะไปตลาด เลยฝากซื้อก๋วยเตี๋ยว สักพักกลับมาเลยได้อิ่มสบาย มิวยังคงไปเรียนพิเศษอย่างต่อเนื่อง ชอบเรียน แต่ก็ไม่ค่อยชอบขยันทำการบ้านเท่าไหร่นะ กลับมาอยู่บ้านก็เสพเนทตลอดเวลา ยิ่งมี 3 จอก็ออนแม่ง 3 เครื่อง สะใจโคตรๆ ผมงี้เห็นแล้วถึงกับอึ้งแดกไปเลย
   ก็ไม่ต้องไปโทษอะไรใครเขาครับ ใครหาซื้อจอมาให้เขาเล่น ใครติดต่อหา wifi มาใช้ที่บ้าน มันก็คนรอบข้างตัวเราเองทั้งนั้น เซ็งจริงๆ เลย อุตส่าห์เลี้ยงลูกมาในแนวทางอย่างดี พอมีโทรศัพท์เหี้ยนี่เข้ามาชีวิตก็เปลี่ยนไปทันที
   กลางวันนี่อย่างหิวเลย กินน้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้ไป 3 ขวด (ขวดละ 350 cc) ตามด้วยช็อคโกแลตดาร์คแบบผสมบิสกิตไป 4 ชิ้นเล็กๆ (อันนี้ยี่ห้อใหม่ เพิ่งลอง อร่อยดี) ปิดท้ายด้วยเค๊กไอศกรีมของฮังเกนดาสที่เหลือจากงานวันเกิดพ่อ แต่ไม่ค่อยอร่อย เพราะเอารสสตอเบอรี่กลับมา รสช็อคโกแลตอร่อยกว่า แต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะจะได้ไม่กินต่ออีก จะได้ไม่อ้วน
   แนวทางการดำเนินธุรกิจของช่อง 3 กับช่อง 7 นีมันยิ่งตรงกับที่ผมวิจารณ์ไปสิบกว่าปีก่อนแล้วมากขึ้นทุกทีๆ ล่าสุดเห็นโฆษณาทีวีละครแนวจักร์ๆ วงศ์ๆ ของช่อง 3 แล้วสะดุ้งเลย เพราะมันคือแนวทางของช่อง 7 ที่ทำมาจนเป็นเอกลักษณ์ของเขา
   ที่ผมวิจารณ์ไว้ก็คือช่อง 3 พยายามทำตัวเหมือนช่อง 7 ส่วนช่อง 7 ก็พยายามทำตัวเหมือนช่อง 3 คือสมัยก่อนช่อง 7 ดังที่สุดในประเทศ ช่อง 3 อยากได้กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่กลุ่มนี้ที่เป็นระดับชาวบ้าน
   เรื่องของธุรกิจนี่เป็นเรื่องของ “การปรับตัว” ครับ ที่ล้มหายตายจากไปก็เพราะไม่ปรับตัว หรือไม่ก็ปรับไม่ทัน
   เก่งไม่เก่งก็อีกเรื่องหนึ่งนะ แต่ยังไงแล้วมันก็มีปัจจัยที่เรานึกไม่ถึงเข้ามาเสมอ ยกตัวอย่างธุรกิจร้านเหล้าหน้ามหาวิทยาลัยที่เปิดกันมาเป็นสิบๆ ปี จู่ๆ ปีนี้ลุงตู่บอกให้เลิกก็จำเป็นต้องเลิกตามกฏหมายครับ หลายร้านปรับตัวได้ก็เปลี่ยนเป็นหมูกระทะแทน เป็นร้านอาหารแทน บางคนชิ้งเลยคือปล่อยเช่าต่อไปเลยก็มี ถือว่ามากันแบบกะทันหันมาก จะมาก่อม็อบเรียกร้องความเห็นใจ บอกว่าไม่มีที่ไป ฯลฯ มันฟังไม่ขึ้นหรอกครับ เพราะธุรกิจของคุณมันมอมเมาเยาวชน
   อีกตัวอย่างคือสองวันก่อนที่หาดวงศ์อมาตย์พัทยา เจ้าของเตียงผ้าใบมาไล่นักท่องเที่ยวที่เขาเอาเสื่อมาปูนอนเอง พอเป็นข่าวได้วันเดียวในเฟซบุ๊ค ตำรวจพัทยาก็รีบเคลียร์ทั้งหาดนั้นเกลี้ยงเลย ผู้ประกอบการมีอยู่ 4 รายก็โดนยกเลิกห้ามตั้งแบบถาวรตลอด แต่ไม่แต่ใจว่าสามารถกางแบบชั่วคราวได้อยู่หรือเปล่านะ นี่ก็อีกตัวอย่างที่บอกว่าไม่มีอะไรแน่นอน เราต้องปรับตัวตลอด
   ธุรกิจของที่บ้านผมก็เช่นกันครับ สักวันก็อาจต้องปรับตัว ผมเองก็เตรียมไว้แล้วแบบเงียบๆ แม้รายได้อาจไม่เยอะเท่าเก่า แต่สิ่งที่ผมได้กลับมามันแสนจะคุ้มค่า เพราะผมได้ “เวลา” และ “ความสุข” กลับมาครับ
   ในโลกออนไลน์ก็ฟาดฟันกันทุกวันครับ แอ๊ปต่างๆ พากันอัปเกรดตัวเองเพิ่มความสามารถใหม่ๆ เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคขยันใช้ ทั้ง Line / Instragram / Facebook ส่วน Social Cam ที่เคยโด่งดังกลับปรับตัวไม่ทัน จู่ๆ ก็เลิกทำหายไปเฉย หวังว่าคงผันตัวไปทำด้านอื่นที่ต่อยอดได้ดีกว่านะ
   มื้อเย็นกิน “หมี่กรอบ ร5” ร้านจิ้นหลี ร้านเก่าแก่ย่านตลาดพลู ดู The Voice ผมว่าไอ้รอบนี้ไม่สนุกเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีความเป็นตัวของตัวเองของนักร้องหลงเหลืออยู่เลย แต่ก็ดูเพราะเอาใจช่วยพวกเขาที่ตามหาความฝัน
   วันนี้ผมปล่อยมุขในเฟซบุ๊ค เอาภาพแม่ค้าสวยๆ แต่งตัวเซ็กซี่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยว มาคู่กับยายแก่ๆ ที่ร้านเดียวกัน โพสไปทำนองว่าสิ่งที่ผมคิดว่าจะได้พบเป็นแม่ค้าสาว แต่สิ่งที่ผมเจอจริงๆ เป็นคุณยาย เรียกร้องความฮาได้เป็นอย่างดี มีคนไม่รู้จักส่งคำร้องขอ Add Friend ไม่ต่ำกว่า 30 คน และคนยังกด Share ไปอีกเพียบเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกดไลค์คืนเดียวซัดไป 2000 กว่าไลค์แน่ะ ตกใจเลย ปกติผมโพสก็จะมีแค่ 10-20 ไลค์เท่านั้นเอง อะเมซิ่งสุดๆ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 03, 2015, 06:18:32 pm
2 พย 58
   มิวดองการบ้านไว้เยอะ กว่าจะเสร็จก็ดึก เลยนอนดึกตามกัน เช้านี้ตืนสายมาก เกือบจะ 0600 แน่ะ
   อาหารเช้า ผักโขมผัดน้ำมันหอย กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย ไข่ดาว ข้าวกล้อง
   เช้านี้ต้องขับรถไปส่งของ เป็นตำแหน่งหน้าที่ๆ ผมไม่ชอบเอาเสียเลย เพราะไม่คุ้นรถครับ เคยขับไปเฉี่ยวชนกันสาดของชาวบ้าน โดนด่าชุดใหญ่ ขนาดเรียกประกันมาให้แล้วยังด่าไม่เลิก ผมผิดก็ให้เขาด่าไปครับ แต่มันฝังใจ ไม่อยากขับอีกเลย
   โทรหาญาติทีเป็นไกด์ทำทัวร์ยุโรป เสนอถั่ว Maruti เผื่อเขาจะสนใจไปขายนักท่องเที่ยว แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเขาเฉยๆ มาก ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ คงต้องหาช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ต่อไป
   บ่ายไปธนาคารในห้าง แวะซุปเปอร์ดูผลิตภัณฑ์ถั่วที่ใกล้เคียงกับ Maruti บ้าง พบว่ามีเพียงยี่ห้อเดียว รุ่นเดียว แต่ของเขาเป็นเจ้าตลาดเพราะวางจำหน่ายมานานกว่า แม้จะผลิตภัณฑ์เหมือนกัน แต่ถั่วของ Maruti เป็นเกรด Premium กว่า เอ๊ะ แล้วนี่เราจะนำเสนอความพรีเมียมให้ลูกค้าสัมผัสได้อย่างไรกันล่ะนะ เพราะหน้าตามันก็เหมือนกันเป๊ะเลย
   เดินออกมาด้านนอกเป็นบูธขายอาหารและขนม เจอผลิตภัณฑ์น้ำถั่วเขียว ผมงี้อึ้งไปเลย ไม่รู้ว่าจะเป็นแนวไหน ไม่ได้ลองชิม แต่ช่วงนี้ผมเห็นอะไรเกี่ยวกับถัวเขียวก็จะสนใจไปหมด นี่ผมคิดแทน “โก้” เขาไปหลายอย่างมากเลยนะ บางอย่างคิดไปไกลมากๆ เช่นขายในตลาดโลก ผมนึกไอเดียอะไรได้ก็จะรีบบันทึกเอาไว้ รอได้โอกาสเหมาะๆ ก็คงเข้าไปหาเขาอีกสักครั้ง
   ยอมรับนะว่าผมชอบคิดงานใหญ่ๆ จะได้เหนื่อยทีเดียวแล้วคุ้มไง อย่างงานของ Neya ก็เช่นกันครับ ตอนนี้ส่งเขาขึ้นฝั่งจนเริ่มสยายปีกบินเองได้แล้ว ได้ข่าวว่าปีหน้านี้จะเข้าไปที่เวียดนาม สุดยอดไปเลย
   Maruti นี่ทำตลาดคนละแนวกับ Neya เลยครับ รายละเอียดมากกว่าเยอะ สินค้าราคาถูกกว่าเยอะ กำไรน้อยกว่า ต้องขายกันแบบยกลังและหลายๆ ลัง ไม่งั้นกำไรยังไม่คุ้มค่าน้ำมันรถเลย ถั่ว Maruti เป็นสินค้าบริโภคที่กำไรน้อยครับ ลงทุนอะไรไปมากๆ มันก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ต่างจาก Neya ที่ต้องโหมอัดทุ่มทำการตลาดมากๆ มันเป็นสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องกิน แต่คนกินเพื่ออยากผิวสวยและสุขภาพดี ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้เขารับรู้ได้
   บ่ายเข้าไปคอนโดต่อ ตอนเช้าไม่ได้วิ่งก็มายกเวทที่นี่แทนแล้วกันวะ ซัดไป 1 ชม และนั่งเล่นริมน้ำทำสมาธิอีก 15 นาที เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ๆ ทุกวันแบบนี้ ผมอยากเอาเรือคายัคมาไว้ที่นี่เสียจริง ติดตรงไม่มีที่จอดเรือนี่แหละครับ
   เข้ามาบ้านตอนเย็น ได้รับเชิญเข้ากลุ่มไลน์ของ “ถ้ำหมี” กลุ่มองค์กรลึกลับเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเวปพันทิพย์ใหม่ๆ โน่นเลย ราวปี 1994 โหห กลุ่มนี้ราว 20 ปีมาแล้วนะนั่น โคตรตื่นเต้นเลย
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 03, 2015, 06:20:40 pm
3 พย 58
   นอนดึก ตื่นสาย แต่ถ้าตื่นเช้าได้ก็คงหมดแรงออกวิ่ง ช่วงนี้แทบไม่ได้วิ่งตอนเช้าเลย แต่กลับไปเข้าฟิตเนสที่คอนโดแทน แรงบันดาลใจจากการคิดจะพายเรือข้ามอ่าวไทยนี่แหละครับที่ทำให้ผมเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
   มื้อเช้ากินผัดผักปวยเล้ง ปลาสลิดทอด ข้าวกล้อง กระเทียมสด งาดำคั่วบด
   รู้สึกว่าเปิดเทอมครั้งนี้รถจะติดหนักมากๆ กว่าทุกทีนะ ขับรถแล้วนึกถึงจักรยานทุกที
   บ่ายไปธนาคาร แล้วเข้าไปคอนโดต่อ เฮ้ย นี่ผมมาแทบทุกวันแล้วนะ แต่ไม่เคยเข้าห้องสักที ไปแค่ฟิตเนส นั่งเล่นริมแม่น้ำ แล้วก็กลับบ้าน วันนี้จัดไป 1.30 ชม เริ่มใช้เครื่องแบบเป็นระบบระเบียบมากกว่าเก่า ซิทอัพไป 300 ครั้ง เล่นแบบเพลินๆ เลยนะ สนุกดี
   นั่งเล่นริมเจ้าพระยา อากาศครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก แต่ทางภาคใต้โดนฝนถล่มหนักมา 2 วันแล้ว สมุยโดนจัดหนักแค่ 2 ชม ก็น้ำท่วมตามระเบียบ ไม่ต้องโทษอะไรหรอกครับ ตัวเมืองมันขยายไปมาก พอเทน้ำลงมาจากฟ้า น้ำมันหาทางออกไม่ได้ ก็ต้องท่วมขังเป็นธรรมดา
   กลับมาบ้านหิวโฮก มีถั่วเขียวต้มเลยชัดไปชามใหญ่ นึกสนุกใส่งาดำคั่วบดลงไปด้วย กินแล้วก็อร่อยดีนะ หิวติดลมยังไม่หาย หยิบถั่วเขียวซีกยี่ห้อ “เปล่” มากิน ผมพยายามจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Maruti โดดเด่นไปกว่าถั่วเขียวซีกแบบทั่วไปในท้องตลาด คิดได้หลายไอเดีย แต่ไม่รู้ว่าขั่นตอนการทำมันจะยุ่งยากขนาดไหน และที่สำคัญคือออกมาแล้วจะอร่อยไหม
   แบบนี้ก็ต้องลองซัดกันสักตั้งสินะ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 04, 2015, 05:59:44 pm
4 พย 58
   ตื่นแต่หมดแรงลุก เป็นอีกวันที่ไม่ได้วิ่ง เอาจักรยาน Neobike16 ออกไปขี่เล่นแถวบ้านแทน ช่วงนี้มีลมหนาวโชยมานิดๆ ก็เย็นสบายดี แต่ก็มีข้อเสียคือแดดแม่งแรงสัส
   เช้านี้กินเนื้อปูผัดกับหอมไหญ่ พริกหยวก ลาบเนื้อปลาทอด ไข่ต้ม บร็อคโคลี่และแครอทลวก ข้าวกล้องโรยงาดำคั่วบด เป็นอีกวันที่อุดมสมบูรณ์มาก
   ไปถึงร้านก็รับบทหนักเหมือนเดิม เข้าโกดังยกของครับ จัดไปเต็มคัน พอมาถึงหน้าร้านก็รับหน้าที่ตรวจเช็คสินค้าขึ้นรถ แถมวันนี้พิเศษตรงที่จัดกันกลางแดดริมถนนเลย ร้อนเหี้ยๆ ไม่เป็นไร คิดบวกเข้าไว้ เขาให้เรามารับวิตามินดีจากแดดฟรีๆ
   กลางวันหิวโฮก ที่กินประจำคือก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเพราะใกล้กัน แต่วันก่อนแอบดูเขาทำแล้วตกใจ เฮ้ยย มันไม่ได้ล้างผักเลยนี่หว่า แกะออกจากถุงก็หั่นแล้วจุ่มน้ำในถัง 1 ครั้ง แล้วก็ใส่ตะกร้าให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเขาก็เอาลงกระทะผัดให้เราแดกกันเลย โหห โหดสัสเลย ยาฆ่าแมลงในผักคะน้านี่เพียบเลยนะนั่น
   แล้วนี่กูแดกร้านมึงมากีปีแล้วนะนั่น
   เลยไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นแทน ยังคงอยู่ใกล้ๆ กันอยู่ดี แต่ไม่ค่อยได้กินเพราะผมชอบผักสีเขียวอย่างคะน้ามากกว่า กินก๋วยเตี๋ยวก็มีแต่ถั่วงอก แต่ยังดีนะ ป้าเอาใบโหระพามาให้ เลยเด็ดมา 3 ช่อ มีผักสดแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย หวังว่าป้าคงล้างมันอย่างดีแล้วนะ
   บ่ายไปฟิตเนสอีกแล้ว วันนี้ไปตั้งแต่บ่ายสองแม่งเลย เวลาเหลือเยอะ จัดไป 2 ชม ขำขำ นั่งเล่นริมน้ำก่อนกลับ อยากเอาเรือลงพายจริงๆ เล้ยยย แต่หาที่เก็บเรือไม่ได้ ทำไงดีวะ
   กลับมาถึงบ้านกินกล้วยน้ำว้าไป 2 ผล มื้อเย็นนี้มีขนมจีบ 10 ลูก เห็นแล้วตกใจ เพราะไม่มีผักเลยสักใบ เลยเอาผักแพวและโหระพามากินแกล้มไปด้วย ผักงี้เยอะท่วมจานยิ่งกว่าขนมจีบเสียอีก
   กลางคืนซ้อม Uke สลับกับเหยียดยืดท่าโยคะ และคิดถึงแผนการพายเรือ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 06, 2015, 05:36:30 pm
5 พย 58
   ขี่จักรยานไป 10 นาที รีบกินข้าว รีบออกไปทำงาน
   
   เข้าไปฟิตเนสตั้งแต่ 0200 อยู่ยาวจนถึง 0400 ซัดจัดเต็มซิทอัพไป 500 ครั้ง กลับมาบ้านจัดแหนมเนืองต่ออีก อืมม ได้ผักเพียบๆ แบบนี้ค่อยดีหน่อย
   กลางคืนหาข้อมูลเรื่องเรือ ยิ่งค้นคว้า รู้สึกว่าตัวเองยิ่งโง่ แต่ในใจกลับยิ่งอยากพายเข้าไปใหญ่
   คืนนี้มิวกลับบ้านดึกหน่อย ไปทำฟันที่ตึกชาญอิสสระ พระราม 4
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 06, 2015, 05:38:19 pm
6 พย 58
   ตื่นมาขี่จักรยานไป 30 นาที ได้ออกกำลังกายตอนเช้าค่อยยังชั่วหน่อย
   ช่วงเช้าระยะนี้รถชักจะติดมาก ตั้งแต่มิวเปิดเทอมนี่ยิ่งเห็นได้ชัดเจนมาก ขับรถแล้วโคตรเบื่อเลย อยากขี่จักรยานแทน
   เช้านี้รับภารกิจขับรถไปส่งของอีกแล้ว มันไม่ใช่แค่ขับหรอกครับ ไปถึงร้านลูกค้าก็ต้องช่วยยกแบกของขึ้นลงรถจนเสร็จ ก็เบื่อๆ ดีครับ กลับถึงร้านนี่ “แดก” ใหญ่เลย รู้ตัวทันทีว่า “กินเพราะเครียด” กินกีวีไป 2 ผล ตามด้วยถั่วอัลมอนด์อีก 1 ซอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์อีก 1 ซอง ปิดท้ายด้วยกูลิโกะป็อกกี้ คือมีอะไรในตู้ กูกินแม่งหมดเลย
   ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ไอ้ความเครียดในจิตใจนี่ตัวดีเลยนะ ผมรู้ตัวก็ยั้งทัน แต่คนที่เขาไม่รู้ตัวล่ะ ปล่อยตามใจอารมณ์เครียดเป็นปีๆ แบบนี้แป๊บเดียวเห็นผลครับ ไม่ใช่แค่อ้วนนะ ไอ้อ้วนน่ะมันอ้วนอยู่แล้ว แต่โบนัสของคุณคือโรคภัยที่จะตามมาหาตลอดชั่วชีวิต
   ไม่เคยมีคนอ้วนคนใดอายุยืนนะครับ เข้าใจตรงกันแล้วนะว่าควรทำตัวอย่างไร อยากเก็บเงินไว้ให้ครอบครัว ให้ลูก ให้พ่อแม่ หรือเอาไปให้หมอเพื่อรักษาตัวเอง
   ไอ้เงินก็เรื่องหนึ่งนะ ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่ที่ซีเรียสสุดๆ นันคือ “เวลา” ครับ
ถ้าเป็นไปได้ ผมอยาก “ตาย” อย่างสงบสุข ไม่เจ็บ ไม่ทรมานทั้งตัวเองและคนรอบข้าง คุณตาของผมเสียชีวิตไปตังแต่ผมเด็กๆ ตายแบบสุขมาก หน้าตายิ้มแย้ม เข้านอนตามปกติแล้วก็หลับยาวไปเลย ไม่เจ็บป่วยใดๆ อีกด้วย สุดยอดไหมเล่า
   เฮ้ยย เป็นการจากไปที่เจ๋งมากๆ เลยนะนั่น เสียดายนิดตรงที่อายุแค่ราว 60 ปีเท่านั้นเอง
   วันนี้งานเยอะจนผมต้องอยู่ร้านจนถึงเย็น ไม่ได้เข้าไปฟิตเนสเหมือนวันที่ผ่านๆ มา กลับเข้าบ้านเกือบ 0500 แวะตลาดนัดซื้อข้าวโพดต้มมากิน 2 ฝัก และสาคูถั่วดำ แปลกที่กินหมดไปทั้งสองอย่างแล้วยังไม่เลิก หยิบ “เลย์” ถุงละ 10 บาทของมิวที่เขาเก็บไว้ เอามากินเฉยเลย ปิดท้ายด้วย kit kat อีกชิ้น หึหึ
   เฮ้ยย เครียดอะไรนักหนาวะนั่น
   อ่านเรื่องดริฟท์เก่าๆ ในเวปของตัวเอง (racing-club.net) ดูแล้วตกใจมากมีเรื่องดริฟท์ตั้ง 51 หน้า อ่านเรื่องเก่าๆ ที่เล่าไว้เองแล้วโคตรตลกเลย อารมณ์คล้ายนั่ง Time Machine ตามไปดูเลย ขำขำดี
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 09, 2015, 05:47:58 pm
7 พย 58
   ขี่จักรยาน 30 นาที วันเสาร์มิวจะออกจากบ้านกับผม มีเวลาพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดก็แค่ตอนนี้แหละครับ ประเด็นหลักๆ ก็คือคุยปลุกจิตใต้สำนึกเขาให้มีพลัง ให้ทำความฝันให้สำเร็จได้ได้ ถ้าทำได้ เขาจะมีความสุขมากๆ
   ส่งเขาขึ้นรถไฟฟ้า แล้วผมก็เข้าส่งวงจรชีวิตแบบเดิมๆ น่าเบื่อสุดๆ ไม่อยากไปร้าน ไม่ชอบงานแบบนี้ แต่ทำไปเพราะแค่ได้ช่วยแม่
   กลางวันขี่จักรยานไปซื้อเป็ดย่างให้ภรรยา ส่วนผมกินเปาะเปี๊ยะสดแทน จัดไป 1 กล่อง 45 บาท ถั่วงอก เต้าหู้ เพียบๆ กินแล้วรู้สึกดีต่อสุขภาพหน่อย
   อยู่แบบแกนๆ ไปจนถึ่งบ่าย ไปธนาคารต่อ วันนี้เสร็จธุระเร็วหน่อยครับ แค่ราวบ่าย 2 เอง เลยเดินซูปเปอร์มาเก็ตในห้างสักหน่อย วันนี้ผมมา Big C นะ ร้านคนละแนวกับเดอะมอลล์เลย ห้างเกรดต่ำกว่า สินค้ามีน้อยกว่า แต่ที่ดีกว่าก็คือจอดรถโคตรง่ายเลย
   เดินหาซื้อเฉพาะของที่ลดราคาหรือไม่ก็ของที่ถูกกว่าเดอะมอลล์ แล้วก็เจอกี่วี 4 ผล ขาย 60 บาทเอง ในขณะที่เดอะมอลล์นี่เขาขายถูกสุดก็ผลละ 25 บาท ถ้า 4 ผลแบบนี้ก็จะคิด 100 บาท สำหรับกีวีนิวซีแลนด์นะ ถ้ากีวีไทยจะถูกกว่านั้นอีกเยอะ
   ปกติสินค้าจะถูกกว่ากันแค่ไม่กี่บาท ไม่น่าเชื่อว่ากีวีนี่ต่างกันแพ็คละ 40 บาทแน่ะ โหห แบบนี้มีพลังเลย เดินแม่งทั่วทุกแผนกเลย แต่เขาจัดร้านไม่สวยน่ะ สถานที่ใหญ่มาก กว้างมาก สินค้ามีไม่หลากหลายมากเท่าเดอะมอลลล์ จัดวางแบบหลวมๆ คนเดินก็น้อย กลายเป็นโหรงเหรงไป
   แผนกช็อคโกแลตนี่มีน้อยเหลือเกิน ไม่มีช็อคโกแลตดาร์คเลยสักยี่ห้อ จบกัน
   ช้อปเสร็จเข้าไปยกเวทที่คอนโดต่อกันเลย เมื่อวานพักไป 1 วัน รู้สึกเสียสถิติจริงๆ วันนี้เลยซิทอัพไป 600 ครั้ง เล่นกล้ามท้องเป็นหลักเพราะอยากมี 6 packs สวยๆ กับเขาบ้าง แต่ทุกวันนี้ยังห่างไกลนะ ยังมีชั้นไขมันอยู่พอควร นี่ถ้าผมรีดไขมันออกไปได้ ก็คงจะเห็นกล้ามท้องชัดขึ้น
   “โก้” ส่งภาพหนุมานที่จะใช้เป็นโลโก้ของ maruti มาให้ดู ผมก็ติไปเล็กน้อย แต่โดยรวมโอเคดีแล้ว คิดงานออกมาได้ดี แต่มันยังไม่ “โดน”
   กลับมาบ้านก็รีบอาบน้ำ ซ้อม Uke ดูทีวี คิดเรื่องงานเขียนต่อ นึกถึงเรื่องเรือ เลยโทรหา “นิค” รุ่นน้องคนนี้รู้จักกันเพราะผมไปซื้อช้อคฯสปริงของ Toyota Supra ต่อจากเขา (ซื้อของเดิม) จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เจอกันในเฟซบุ๊คเห็นเขาเดินทางท่องเที่ยวบ่อยมาก ไปกับรถบ้าน เรือ เจทสกี ฯลฯ
   เอาตรงๆ เลยนะ ผมรู้สึกว่าผมกับเขามันคนละชั้นกัน เลยไม่กล้าไปพูดคุยอะไรด้วย กลัวว่าเขาจะคิดว่าเราต้องการผลประโยชน์หรืออะไรทำนองนี้ (อันนี้เป็นนิสัยค่อนข้างโรคจิตส่วนตัวของผมนะ เกิดจากสมัยมัธยมต้นไปบ้านเพื่อนด้วยการแต่งตัวโทรมๆ แล้วแม่เขาไม่ให้เข้าบ้าน เลยเก็บกดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) อ้อ ลืมบอกไป นิคเป็นเจ้าของโรงเรียนรีเจนท์ โรงเรียนอินเตอร์ใกล้แยกเหม่งจ๋าย
   เล่าแล้วก็นึกถึง “เต๊อะ” เจ้าของ AAS ที่ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเขาคือใคร ผมนี่โทรคุยเป็นเพื่อนเล่นเลยนะ มีงานแข่ง Autocross ก็โทรบอก พอมารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของ AAS ผมงี้แม่งไม่กล้าคุยกับเขาอีกเลย ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอกนะ
   คุยกับนิค ถามว่าผมกำลังสนใจเรือคายัค นิครู้จักใครเล่นแนวนี้ไหม สิ่งที่นิคตอบกลับมาที่ทำให้เราคุยกันไปกว่า 30 นาที
   นิคเล่าเรื่องทะเล เกาะแก่งต่างๆ นิคไม่ได้เล่นคายัคอย่างจริงจัง แต่ก็มีคายัคอยู่ 8 ลำ เป็นแบบ Tandem ยี่ห้อดังอีกด้วยคือของ Ocean Kayak แต่เรือมันยาวมาก ใหญ่ หนัก ขนย้ายลำบาก ทุกวันนี้ของอยู่ที่เกาะช้าง ถ้าพี่เปิ้ลจะไปก็บอกได้ เขาจะโทรบอกคนที่นั่นให้ เอาไปพายเล่นได้เลย เรือมันเก่าแล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะขายยังไง
   คุยกันนานเข้าผมเลยเผยแผนในใจ เกริ่นไปว่านิคอย่าว่าผมเว่อร์นะ ผมอยากพายเรือข้ามอ่าว
   “โหห เอาจริงหรอพี่ ผมไม่เคยพายข้าม เคยแค่ขี่เจทสกีข้าม ใช้ไป 4 ชม” นิคใช้เส้นทางบางปะกง – บางตะบูน
   แต่ผมอยากใช้เส้นทางเพชรบุรี – พัทยา แต่ถ้าปีกกล้าขาเข็ง ก็อยากจะใช้เส้นทางที่ในหลวงท่านทรงเรือใบ นั่นคือ หัวหิน – สัตหีบ
   นิคบอกให้ผมไปซ้อมพายที่เกาะช้างก่อน พวกฝรั่งเก่งๆ พายรอบเกาะกัน 18 ชม หึหึ เห็นขนาดเกาะแล้วผมแม่งขาสั่นเลย คงได้นอนริมหาดใดหาดหนึ่งก่อนถึงจุดหมายแน่ๆ
   “พี่ไปวันไหน บอกผมด้วยนะ อยากลองดูเหมือนกัน” นิคปิดท้าย
   วางสายจากนิคแล้วผมนี่เปิดแผนที่วัดระยะทางและวางแผนพายเรือเลย
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 09, 2015, 05:49:40 pm
8 พย 58
   ออกไปวิ่งตั้งแต่ 0530 แต่พอถึงศูนย์เยาวชนบางมด ที่ๆ ผมไปวิ่งประจำ เขากลับปิดทางเข้า เพราะมีการจัดงานแฟร์ของทางเขตทุงครุ เอ้า ไม่เป็นไร เราไปวิ่งสวนธนบุรีรมย์ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ได้
   แต่ไปถึงแล้วที่จอดรถเต็ม เฮ้ยย งงมาก เต็มอะไรกันแต่เช้า จะจอดริมถนนก็เกรงใจ เพราะยังไม่มีใครมาจอดสักคัน เอาไงดีวะ อ้อ นึกออกแล้ว ไปวิ่งที่ Central Park ดีกว่า
   เฮ้ย เขาใช้ชื่อนี้จริงๆ นะ เป็นสวนสาธารณะของห้างเซ็นทรัลพระราม 2 ชื่อเหมือนกับสวนสาธารณะที่ New York เป๊ะเลย
   รอบละ 600 เมตร จัดไปแค่ 2 รอบ เอง วิ่งแค่ 10 นาทีก็เลิกเลย เบื่อเสียงเพลงของพวกเต้นแอโรบิคมากๆ เปิดเสียงดังเว่อร์ เบสตึบๆ ๆ ๆ เต้นกันอยู่ 5 คน เสียงเพลงลั่นทั้งสวนเลย ตัวทำลายบรรยากาศสุดๆ
   เปลี่ยนจากวิ่งมาเป็นกายบริหารริมน้ำแทน ผมไม่ได้มาสวนแห่งนี้นานหลายปีเลย จากสมัยก่อนมาบ่อยมาก พาลูกมานั่งเล่น เดินเล่น เล่นเรือถีบ ตั้งแต่มิวเขาอยู่อนุบาล ประถมต้น
   เดิมทีที่เปิดใช้สวนสวยมาก แต่ตอนนี้มีเสื่อมโทรมลงไปหลายจุดโดยเฉพาะเครื่องเล่นของเด็ก สมัยก่อนมิวชอบมาปีนป่ายเล่นตอนเลิกเรียน ผมก็นั่งรอเขาเล่นจนหมดแรงแล้วก็กลับบ้านด้วยกัน
   ผมดูแลมิวเองอย่างใกล้ชิดตั้งแต่อนุบาล 1-3 ประถม 1-6 รวม 9 ปี เต็มที่ต้องไปรับส่งแทบจะทุกวัน แต่ก่อนหน้านั้นก็ดูแลเขาตั้งแต่เกิดแล้ว แปลว่า 12 ปีแรก มิวอยู่กับผมเยอะมากๆ
   จนมาเข้า ม1 นี่แหละครับที่เริ่มห่างกันหน่อย มิวไปกลับกับภรรยาผมแทน เป็นช่วงที่มิวเริ่มโตเข้าวัยรุ่น เราก็ต้องดูแลเขาต่างไปอีกแบบครับ จะมาเป็นห่วงตรงเรื่องการติดเล่นเนทในโทรศัพท์หรือไอแพดนี่แหละ
   ใช้เวลาอยู่ในสวนนี้แค่ 1 ชม คนเยอะมากครับ เพราะรอบข้างเป็นหมู่บ้านมากมาย ผมไม่คุ้นสถานที่คนเยอะๆ แต่ที่ไม่ชอบสุดคือเสียงดังแบบน่ารำคาญจากดนตรีงี่เง่า
   กลับมาบ้านไม่เจอของกินอะไรสักอย่าง ผมขี้เกียจออกไปหาของกินข้างนอก เลยเปิดน้ำมะเขือเทศกินไปครึ่งลิตร พักสัก 30 นาที ตามด้วยถั่วพิสตาชิโอ ถั่วทอง house brand ของ big c
   เข้าปากคำเดียวแล้วอึ้งเลย รสชาติต่างจากของ maruti อย่างเห็นได้ชัด ถั่วไม่หอมสดใหม่ เชื่อว่าเก็บนานกว่านี้อาจได้กลิ่นหืนของน้ำมันที่ใช้ทอด กินแล้วไม่ได้เคี้ยวมันๆ แล้วอยากกินซ้ำ โดยรวมคือไม่อร่อย
   ช่วงนี้เจอถั่วทองเป็นต้องหาซื้อกินไปหมด ทำเพื่อหาข้อมูลของสินค้าคู่แข่งในท้องตลาด
   บ่ายภรรยาชวนไปกินร้าน “ครัวเจ๊ง้อ” แถวบ้านนี่เอง เขาอยากกินกั้ง เอ้า จัดไปครับ แต่ไปถึงร้านตอน 0130 กั้งหมดแล้ว เลยเปลี่ยนเป็นปูแทน มื้อนี้อุดมสมบูรณ์มาก มีกุ้งตะกาด (กุ้งสดลวก) ผัดผัก ส้มตำไทย
   กินเสร็จไปรับมิวในห้าง แวะดู James Bond 007 ผมไม่ได้ดูหนังมาเป็นสิบปี ตื่นเต้นเลย โรงหนังยุคใหม่สวยหรู แต่ตั๋วแม่งแพงสัสใบละ 200 หึหึ ป็อบคอร์นพร้อมน้ำอัดลมแก้วยักษ์แบบเป็นการ์ตูนสวยๆ นี่ชุดละ 250 โหดเหี้ยๆ เลย มิวอยากกิน อยากได้ ก็เพราะยังไม่รู้ว่าของเงิน ก็พร่ำสอนกันไปครับ หวังว่าคงจะคิดได้ในเร็ววัน
   ตอนใกล้จะจบไฟแม่งดับทั้งห้าง ผมอยู่ในโรงหนังมันก็ดับ แต่มีไฟฉุกเฉินติดขึ้นมา เลยปล่อยมุขกับลูกว่า “เขากำลังเปลี่ยนแผ่น 2” แบบสมัย VCD น่ะ คุยกันขำๆ รอจังหวะไฟมา แต่ก็ต้องรอราว 15 นาที เลยปล่อยไปอีกมุข
   “เฮ้ย เกิดไฟมาแล้ว มันฉายใหม่ตั้งแต่ต้นเลยทำไงวะ”
   มิวหัวเราะร่า แสดงว่ามุขเราเวิร์ค แต่บางทีมุขแป็กก็มีนะ แบบเล่นเอง ขำเองคนเดียว มิวไม่รู้ ไม่เข้าใจ
   กิน MK กันก่อนกลับ ผมเลือกกินแต่ผัก เห็ด เต้าหู้ กินกุ้งไป 1 ตัว ถึงบ้านก็รีบอาบน้ำ อ่านหนังสือเล่นนิดหน่อยก่อนนอน ผมสอนให้เขาทำแบบนี้ ไม่ใช่เล่นโทรศัพท์กันจนถึงวินาทีสุดท้ายของวัน 
   กรุงเทพฯเป็นเมืองที่ใช้เฟซบุ๊คมากที่สุดในโลกคือ 8 ล้านคนต่อวัน เฉลี่ยใช้อินเทอร์เนทกันคนละ 5 ชม ต่อ วัน หึหึ ประเทศชาติจงเจริญ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 09, 2015, 05:50:54 pm
9 พย 58
   ขี่จักรยาน 30 นาที ช่วงนี้ไม่ได้วิ่งเลย ขี่จักรยานจริงนี่กับจักรยานในฟิตเนสนี่คนละเรื่องเลยนะ ขี่รถจริง 30 ผ่านไปแป๊บเดียว ขี่รถในฟิตเนสนี่ 5 นาทียังโครตเบื่อเลย มันไม่ได้ฟีลของจักรยานเล้ยย ทั้งการทรงตัวที่ต้องใช้เอวช่วย จังหวะการบาลานซ์รถที่เราจะโน้มหน้าบ้าง หลังบ้าง แต่ที่ชัดเจนสุดก็คือเรื่องของลมปะทะหน้า
   เช้านี้กินไก่ผัดขิง ไข่ต้ม แครอทลวก ข้าวกล้องโรยงาดำคั่วบด กระเทียมสด ไปถึงร้านก็อารมณ์เดิมๆ จนผมเริ่มจะไม่อยากเล่าแล้ว ก็คือเข้าไปยกของในโกดัง แล้วก็ออกมาอยู่ที่หน้าร้าน รับโทรศัพท์ โทรหาลูกค้า คิดเงิน ฯลฯ ทำแบบนี้ไปทั้งวัน ผ่านมากี่ปีก็เป็นแบบนี้
   วันจันทร์งานเยอะดี คนงานขาดเหมือนเดิม แต่พอมีคนมาสมัครใหม่ เจ้าของร้านบอกคนเต็มแล้ว ไม่รับ เพราะเขาเป็นพม่า
   หวังจะหาคนไทยมาทำงานยกแบกของกันอีกหรือครับนี่
   บ่ายไปธนาคารแล้วก็เสร็จงานของผม เวลาเหลือเยอะเลยวันนี้ ดีใจๆ รีบเข้าไปฟิตเนสที่คอนโด เข้าไปอย่างฮึกเหิมเลย ซิทอัพไป 700 ครั้ง เล่นซะพุงชาเลย ยังไม่นับเครื่องเล่นแบบ Station อีกหลายอย่าง ขา หลัง ไหล่ แขน น่อง ฯลฯ ปิดท้ายด้วยการเดินถอยหลังบนลู่วิ่ง 10 นาที โดยปรับความชันไว้ที่ 12% โหดกำลังดี
   ใช้เวลาไป 2 ชม แอบเห็นคนเดินถือน้ำเต้าหู้เข้ามาในคอนโด ขากลับเลยเดินออกไปดูบ้าง เจอร้านขายน้ำเต้าหู้อยู่หน้าเซเว่น ไม่รีรอเลย รีบจัดมา 1ถุง ใส่ลูกเดือยด้วย กะว่าไอ้นี่แหละ คืออาหารมื้อเย็นของข้า
   ถึงบ้านปุ๊บรีบแช่เม็ดแมงลัก 4 ช้อนชาให้พองตัว แล้วก็เทผสมกัน โดยเพิ่มงาดำคั่วบดอีก 2 ช้อนชา บำรุงโคตรๆ เลยครับท่านผู้ชม
   ตักเข้าปากคำแรก … มึงเอ๋ยยย น้ำตากูแทบไหล ไอ้สัส จะบ้วนทิ้ง หรือเททิ้งก็เสียดายพวกสารอาหารที่เติมเสริมเข้าไป ทั้งเม็ดแมงลัก ลูกเดือย งาดำ
   รถชาติแม่งเหี้ยจริงๆ เลยครับพี่น้อง เหมือนแดกน้ำเปล่าเลย ไม่มีความเป็นน้ำเต้าหู้เล้ยยย เหมือนเอานมผงมาชง มีกลิ่นเหมือนนมนิดๆ
   เอาเป็นว่าไม่ประทับใจ แถมโกรธอีกด้วยที่ทำไมถึงทำร้ายกันเช่นนี้ลงคอ ตอนคนโกรธนี่ร่างกายจะหลั่งสารอะไรสักอย่าง กูลืม แต่ทำให้ร่างกายอยากแดกโดยไม่มีเหตุผล เจอเหี้ยไร แดกแม่งหมดเลย
   โชคดีมีเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดเสร็จไว้พอดี ผึ่งรอให้เย็นก่อนเก็บลงกล่อง หึหึ จัดไป 2 กำมือใหญ่ๆ คั่วเองหอมๆ ทอดใหม่ๆ สดอร่อยมากๆ กินแล้วฟิน หายโมโหละ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 10, 2015, 05:44:43 pm
10 พย 58
   ขี่จักรยาน 45 นาที กลับเข้าบ้านเจออาหารทรงคุณค่า เนื้อปลาเก๋าผัดฉ่า ใส่มะเขือพวง มะเขือเปาะ กระชาย ใบโหระพา ฯลฯ สุดยอดเลยนะนั่น มีไข่ต้มอีกฟอง ข้าวกล้องโรยงาดำ
   เช้าขับรถไปส่งของอีกแล้ว ไม่ชอบเลยว่ะ ยังดีที่ขับไปไม่ไกลนัก ตอนกำลังยกของลงจากรถเจอกับ “พี่หมอ” พี่หมอเป็นตำรวจใน สน ละแวกนี้ เขาเห็นผมกำลังยกของเลยเข้ามาคุยด้วย บอกว่าอย่าไปยกเดี๋ยวหลังหัก แล้วก็เล่ายกตัวอย่างคนแถวนั้นที่ยกของหนักจนเจ็บหลัง อีกไม่กี่เดือนต่อมาก็เป็นอัมพฤกษ์ ล่าสุดเสียชีวิตไปแล้ว ทรมานสุดๆ ก่อนตาย
   โหห พี่หมอครับ ผมเองใช่ว่าอยากจะไปยกนะ เจ็บหลังนี่ผมเจ็บมา 6-7 รอบแล้วมั้ง เป็นครั้งแรกนี่ถึงกับอึ้งเลย แต่ทุกวันนี้แม่งเริ่มชินละ การมาช่วยแม่ที่ร้านนี้มันแปลว่าผมต้องแลกกับหลังของตัวเองด้วยหรือนี่ โหห ทุ่มเทสุดๆ ไปเลย คุ้มโคตรๆ เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระแบบเต็มที่แล้ว
   วันเสาร์ที่ผ่านมาเพิ่งจะดีใจ ไปซื้อกีวีที่ Big C ได้ราคาถูกกว่าที่เดอะมอลล์เยอะมากๆ แต่พอมาชิมแล้วรสชาติแม่งคนละทางกันเลย บทเรียนครับ อย่าเห็นแก่ของถูก หึหึ ไอ้ Big C มึงได้เงินกูครั้งเดียวนี่แหละวะ
   บ่ายเข้าฟิตเนสอีกแล้ว จัดเต็ม จัดจริง ไปตั้งแต่ 0200 กันเลย ซิทอัพไป 800 ครั้ง หึหึ ค่อยๆ ทำทีละนิดละหน่อยนะ ไม่ใช่รวดเดียวครบ เปิดพุงดูยังไม่เห็นมีสักแพ็ค มันต้องลดชั่นไขมันที่ปกคลุมกล้ามเนื้อออกก่อน ถึงจะเห็นชัด
   เข้ามาบ้านหิวโหยเลย กินไวตามิ้ลกล่องกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด (ทำเอง) กินไปเยอะยังหิวไม่เลิก เลยกินถั่วลันเตาอบอีกซอง ยังคันปาก ปิดท้ายด้วย kit kat อีกชิ้น จบได้แล้วนะ
   Toyota Revo ขายออกได้ช้า แผนที่วางไว้กลางปีหน้า เลยเอาออกมาใช้ทันที นั่นคือเพิ่มชุดแต่ง TRD เข้าไปให้ ไม่ต้องตกใจไป เดี๋ยวจะมี TRD อีกแบบ และอีกสารพัดชื่อ ไม่รู้จะใช้ชื่อ Sportivo อีกไหม
   การตลาดแนวนี้ของ Toyota คนซื้อเขารู้แกวกันหมดแล้ว อยากได้รถครบๆ ต้องรอตัวหลังๆ แบบออกไปแล้วสักสองปี จะมีเปลียนหน้ากระจัง เพิ่มกล้อง และอีกสารพัดระบบที่รถเพื่อนๆ เขาให้มาตั้งแต่แรกแล้ว
   เอ้า พวกเรา ซื้อ Pajero Sport ไปก่อนได้เลย สวยและครบกว่ากันเยอะ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 11, 2015, 05:56:35 pm
11 พย 58
   งานขึ้นอินทนนท์ปีหน้า เปิดรับสมัครแค่ 3 ชม คนก็เต็มแล้วถึง 4000 คน เฮ้ยยย งงโคตรเลย ไวสัส ผมไปตอนปี 52 ยังมีแค่ไม่กี่ร้อยคันเองนี่นา ถ้าจุดสตาร์ทในงานนี้ยังคงเป็นที่เดิมคือลานหน้าวัด ผมว่า 4000 คนไปแน่นอยู่ตรงนั้นนี่ลำบากเลยนะ นึกไม่ออกจริงๆ เพราะลานมันไม่ใหญ่เท่าไหร่
   ขี่จักรยานตอนเช้าเหมือนเดิม จัดไปแค่ 30 นาที ไม่ได้เน้นออกกำลังอะไรหรอก แค่ให้ก้นคุ้นกับการโดนกดทับ จะได้ไม่เจ็บก้นตอนขี่ทางไกลนานๆ
   เช้านี้กินของดีอีกแล้ว แกงจืดแบบต้มเลือดหมู แต่ไม่ได้ใส่เลือดหมู ใส่แค่หมูสับกับผักจิงจูฉ่าย ไข่เจียว เด็ดสุดตรงมีมะเขือเทศย่าง 1 ลูกใหญ่ๆ กินกับข้าวกล้องเหมือนเดิม
   เช้านี้มาแนวเดิมอีกแล้ว แต่ยกของจากโกดังเยอะเหลือเกิน เล่นซะเพียบเต็มลำ ตอนยกก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอใกล้เที่ยงรู้สึกตึงๆ ที่สะบักซ้าย จุดนี้ตรงกันข้ามกับจุดที่ผมมักจะเจ็บตอนขี่จักรยานทางไกลคือสะบักขวา
   ที่ร้านก็งานเพียบ กลางวันกินกล้วยน้ำว้า ถั่วนิดหน่อย น้ำกระเจี๊ยบ (ทำเอง)
เข้ามาบ้านตอนเย็น ไม่ได้ไปฟิตเนส กินน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก 5 ช้อนชา แช่น้ำแล้วมันจะพองมาเยอะมาก โรยงาดำอีก 3 ช้อนชาพูนๆ
กลางคืนซ้อม Uke อย่างหนัก แหกปากร้องอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียว
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 13, 2015, 06:09:11 pm
12 พย 58
   
   งานวันแรกของ a day bike fest เริ่มแล้ววันนี้ จัดที่ Airport Link มักกะสันที่เดิม เป็นงานจักรยานที่ผมชอบที่สุดนะ 
   
   บ่ายไปไอวีอีกแล้ว ไปทุกวัน แต่ไม่เคยขึ้นห้องพักเลยนะ ไปถึงก็เข้าฟิตเนสแล้วก็กลับ วันนี้เดินเร็วขึ้นเนินชัน 12% 1 ชม และเดินเร็วแบบสลับวิ่งอีก 1 ชม เหนื่อยไม่มาก แต่เพลียและเมือยขาตอนเดินเสร็จ เหงื่อเพียบจริงๆ
   วัดระยะทางรอบเกาะช้างได้ราว 80 กม บ๊ะ นั่นมันใกล้เคียงกับระยะที่ผมต้องพายข้ามอ่าวเลยนะ พอรู้ระยะทางแล้วเริ่มมีพลังเลย เปิดปฏิทินหาวันและเวลาที่เหมาะๆ ทันที แต่ต้องหารือกับ “นิค” ก่อนสินะว่าเขาจะไปด้วยไหม อย่างไร คุยกันล่าสุดวันก่อนเขาบอกถ้าพี่จะไปให้เรียกเขาด้วย
   กลางคืนเชียร์บอลไทย VS ไต้หวัน แค่ 3 นาทีก็โดนเขาซัดไปแล้ว 1 ลูก โห งงแดกเลย แต่ลุ้นจนจบเอาคืนมาได้เป็นไทยชนะ 4-2 ค่อยยังชั่วหน่อย
   บอลไทยชุดนี้คงจะดังไปอีกนาน เพราะเล่นเป็นทีมมากกว่าใช้ความสามารถส่วนบุคคลเหมือนบอลยุคก่อน
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 13, 2015, 06:11:00 pm
13 พย 58
   ขี่จักรยาน 35 นาที ลมหนาวที่เคยมีทำไมมันหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้
   มื้อเช้าวันนี้มีผักเจ๋ง คือบร็อคโคลี่ แครอท ลวก บร็อคโคลี่นี่จะเรียกว่าเทพแห่งผักก็ว่าได้นะ ประโยชน์เยอะเหลือเกิน  รสชาติไม่ค่อยอร่อย แต่ก็ฝืนกินจนหมดจาน รู้สึกภูมิใจที่ได้ใส่สารอาหารทรงคุณค่าให้แก่ตัวเอง
   เช้านี้ขับรถกระบะไปให้คนงานใช้ รถคนงานที่เขาใช้ประจำจะเอาไปเข้าอู่ ได้ขับรถเกียร์ธรรมดาในรอบหลายเดือน รู้สึกสนุกดี ได้ฝึกหลายๆ ทักษะ ไม่ใช่ Heel & Toe นะ อันนี้เริ่มจะเอ้าท์ไปแล้ว จะว่าเอ้าท์ก็ไม่เชิง แต่มันไม่จำเป็นต้องทำมากกว่า ระบบเกียร์ของรถรุ่นใหม่ๆ นี่มันเข้าง่ายมาก ช่วง Power Band กว้างโคตร ชิฟมั่วๆ แม่งยังเข้าได้ง่ายเลย รถมันช่วยคนไปเยอะมากแล้ว 
   แต่อีกเทคนิคที่ยังต้องหัดไว้ตลอดนั่นคือ Rev Match Down Shift ได้ใช้ตลอดครับ ยิ่งรถเครื่องดีเซลยิ่งทำง่ายมาก
   กลางวันฝนตกหนัก ผมไปธนาคารพอดี เลยลุยฝนกลับมา ตอนเดินกลางฝนนี่คนมองกันมาก เพราะส่วนใหญ่เขาจะหลบใต้ชายคากัน แต่ผมนี่เดินฝ่าไปเลย อารมณ์เหมือนตอนเด็กๆ วิ่งเล่นตากฝน
   เฮ้ยย ฟีลดีว่ะ นึกถึงตอนกำลังขี่จักรยาน ตอนกำลังพายเรือ เจอฟ้าแล่บๆ งี้คงมีเสียว เพราะเรืออยู่กลางทะเลไง ไม่มีที่ให้หลบ นี่คืออีกสิ่งที่ผมต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม หากจะเอาดีทางด้านนี้
   เดินถึงร้านเปียกโชกชุ่มไปทั้งตัว ถอดเสื้อบิดตาก แล้วเอาเสื้อโฆษณาแจกฟรีมาใส่ เป็นเสื้อของ บิ๊ก โคล่า โคตรเห่ยเลย สีเหลืองแปร๋น กางเกงนอก กางเกงใน รองเท้า ชุ่มไปด้วยน้ำ แต่ก็ทำไงดี ช่างแม่ง นั่งรอฝนซาลง แล้วก็เดินไปขึ้นรถเมล์กลับ แต่รอรถเมล์นานมาก รำคาญตัวเองแล้วน่ะ เลยใช้บริการแท็กซี่แทน
   ถึงบ้านนี่หมาเห่าไม่หยุดเลย คงเห็นเสื้ออย่างเด่น เดินไปให้มันดมๆ ถึงจะหยุดเห่าได้
   รีบเปลี่ยนชุดทันทีเลย รำคาญสัสๆ ที่บ้านมีแหนมเนืองอีกแล้ว ผักเพียบๆ สุดยอดจริงๆ เลย จัดไป 15 คำ (วันนี้นับด้วยนะ ปกติไม่เคยนับ)
   เปิดคอมทำงานเขียนต่อ มีข่าว GTH จะปิดตัวลงสิ้นปีนี้ เฮ้ยย งงเลย ยังไม่ได้เอาผลงานไปเสนอเลยนะ แต่ผมว่าคงเป็นการเปลียนเพื่อก้าวรุกหน้ามากกว่า ไม่ใช่แค่ปิดเพื่อเลิกหรอก อาจเป็นการ “ล้างไพ่” (ผมเดา) ต้องคิดตามกันต่อไป
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 14, 2015, 06:06:17 pm
14 พย 58
   เช้านี้เอาท่อเอสลอนมาควงแบบรำกระบอง ทำท่าทางแบบคิดเอง เห็นขนาดมันยาวพอๆ กับไม้พายเรือ เลยฝึกทำท่าพาย ดูกระจกไปด้วย นึกภาพตัวเองหากพายข้ามอ่าวจริง เราต้องถือไอ้ไม้พายนี้ราว 24 ชม เชียวหรือ นึกปุ๊บกูอยากได้ไม้พายคาร์บอนไฟเบอร์ทันที
   เช้านี้กินปลาผัดขิงกับคึ่นฉ่าย ไข่ต้ม แครอทลวก งาดำ ข้าวกล้อง ส่วนมิวกินพิซซ่า เสร็จแล้วก็ไปส่งเขาที่รถไฟฟ้า มิวเรียน 0800 ออกจากบ้านเช้าหน่อย
   งานเพียบอีกเช่นเคย แบก ยก เข็น กันไป ทำวันนี้ของเราให้ดีที่สุดครับ
   แทรกข่าวด่วน ตอนตี 3-4 ในไทย ปารีสโดนก่อวินาศกรรม ระเบิดพลีชีพ 6 จุด แถมกราดยิงอีก ข่าวนี้ดังไปทั่วโลก เพราะมีอินเทอร์เนท ไม่รู้เป็นอะไร พอเกิดเหตุร้ายๆ ที่ใดในโลก ผมยกให้เป็นฝีมือ USA แม่งก่อนเลย
   กลางวันกินกล้วยน้ำว้าไป 5 ผล ไม่น่าเชื่อเลย ค่อยๆ กินไปทีละลูกๆ เล่นจนอิ่มได้เหมือนกันนะ
   บ่ายไปธนาคาร กำลังจะไปออกกำลังกายต่อ มิวโทรมาหา บอกว่าเรียนเสร็จแล้ว ครูลิลลี่งดสอน เลยจะกลับบ้านเลย ผมเลยเปลี่ยนใจ กลับไปอยู่บ้านกับลูกดีกว่า ใช้เวลาอยู่กับเขาให้คุ้มที่สุด ยิ่งเข้าวัยรุ่น ก็ต้องเลี้ยงดูเขาต่างไปอีกแบบจากตอนเด็กครับ
   ตอนนี้ต้องเลี้ยงแบบดูอยู่ห่างๆ และต้องเข้ามาทันทีที่เขาต้องการเรา ผมไม่ได้เลี้ยงแบบเป็นเพื่อนกันนะ ยังคงเป็นพ่อแม่เหมือนเดิม แต่ก็สนใจเรียนรู้ในสิ่งที่เขาชอบด้วย เพื่อที่จะได้คุยกันรู้เรื่อง และมีเรื่องคุยกันเยอะหน่อย
   มิวกลับมาบ้านพร้อมกับแจ้งราคา iPad Pro ที่เพิ่งวางจำหน่าย รุ่นถูกสุดคือ 32g wifi only ราคา 3.6 หมื่น ถ้าเป็นรุ่น Cellular ด้วยนี่ทะลุ 4 หมื่น หึหึ เก็บไว้ให้สตีฟพี่ใช้เองเถอะนะ ราคาพอๆ กับ Mc Book เลย
   กลับมาถึงบ้านก็หิวอีกแล้ว กินขนมเปี๊ยะแบบย่างไป 2 ชิ้น ตามด้วยถั่วลันเตาอบ แอบกินเลย์ไป 4-5 ชิ้น เย็นมีน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลักเพียบๆ
   เย็นดูรายการ The Face Thailand เป็นครั้งแรก ก็ทำแนวเรียลริตี้ค้นหานางแบบ สร้างสถานการณ์จำลองมาหลายๆ อย่างให้ผู้เข้าแข่งกันต่อสู้กัน ก็แปลกๆ ดี แต่ดูแป๊บเดียวผมรู้เลยว่าเขามีสคริปต์ให้ผู้เข้าแข่งขันพูด อาจไม่ใช่สคริปต์เต็มๆ แต่บอกแนวทางให้พูด โดยเฉพาะการกล่าวว่าผู้แข่งขันคนอื่น ที่รู้ก็เพราะว่าปกติคนไทยเราไม่มีนิสัยแบบนี้ครับ
   ตอนแรกก็โอเคดี แต่พอเจอ “เฟค” แล้ว รู้สึกเหมือนดู “ละคร” ที่แสดงโดยผู้ร่วมแข่งขัน
   จากเดิมที่ผมชอบดูคนตามหาความฝันในชีวิต ตอนนี้กลับหดหู่กับผู้กำกับรายการ
Title: Re: พย 58
Post by: O'Pern on November 18, 2015, 06:00:31 pm
15 พย 58
   เช้านี้ออกไปวิ่งที่ศูนย์เยาวชนบางมด แต่แล้วก็ตกใจที่เจอไอ้งานแฟร์ของสัปดาห์ก่อนมันยังจัดกันไม่จบเลย แต่ยังดีที่เปิดให้รถเข้าได้ เลยเข้าไปวนดู ไปจอดรถเอาตรงที่ใกล้สนามฟุตบอล แล้วก็เข้าไปวิ่งด้านใน
   วันนี้จัดไปชั่วโมงกว่า 30 นาทีแรกวิ่งระดับ 2 30 นาทีต่อมาวิ่งแบบสลับช่วงความเร็ว วิ่งระดับ 4-2 บ้างก็ 4-3 เหนื่อยกว่าวิ่งปกติเยอะเลย อัดเร็ว 100 เมตร แล้วก็ผ่อน 100 เมตร สลับไปเรื่อยๆ จนครบ 30 นาที ปิดท้ายด้วยการเดินอีก 15 นาที
   กลับมาถึงบ้านพบความว่างเปล่า ภรรยาพาลูกไปเรียนหนังสือ พ่อแม่ไปต่างจังหวัดงานทอดกฐิน หิวจัดมีกล้วย 1 ลูกรีบกินทันที อาบน้ำ แต่งตัว วันนี้อยากไปงานจักรยาน a day bike fest
   เอารถพ่อคันใหม่ไปก็แล้วกัน คันนี้ไม่ได้ขับนานเป็นเดือน ล่าสุดก็ตอนขับไปงานดริฟท์ที่พัทยา มาดูอีกทีรถพ่อมีรอยขีดครูดกรีดมากมาย โห เสียดายเลยน่ะ
   ขับไปรถไฟฟ้า airport link มักกะสันไม่ยากครับ ตอนเช้าถนนโล่ง ขับสบายมาก ผมไปถึงงานตั้งแต่ 0830 ปกติจะมีร้านเปิดหลายร้านแล้ว แต่วันนี้เปิดกันน้อยมาก เลยเดินดูบรรยากาศโดยรอบก่อน เจอร้าน Vincita เลยเข้าไปคุยกับพี่ “ยิ่งศักดิ์” ที่ตอนนี้มีลูกสาวสองคนมาช่วยแล้ว ตัวเองก็ไปดูแลงานด้านอื่นได้ แต่ก็ยังคงเน้นพวกกระเป๋าจักรยานอยู่
   ปกติผมไม่เคยให้คอมเมนท์อะไรกับพี่เขาเลย มาวันนี้ผมแม่งเผือกเต็มที่ แนะนำเขาไปเยอะมากๆ ทั้งการจัดบูธ การตลาด การสร้างแบรนด์ ฯลฯ คือเราเห็นว่าเขาไปต่อได้ดีกว่านี้อีกเยอะมากๆ นึกถึงว่านี่ถ้าเป็นธุรกิจของครอบครัวเราเองนี่คงจะสนุกมากๆ คงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แนวๆ ออกมาเยอะมากแน่ๆ
   น่าเสียดายที่บ้านของผมมีแต่พวกของโชว์ห่วย ซื้อมาขายไป ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าการออกไปส่งของ บ้านผมต้องการคนงานที่ซื้อสัตย์และขยัน ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้เลย
   ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบริษัททัวร์มาเปิดบูธด้วย มีของญี่ปุ่น และทางไต้หวัน งงมาก มาได้ไง เลยคุยกันสักหน่อยเพื่อหาข้อมูล เอาโบร์ชัวร์มาเพียบเลย ดูแล้วก็เกิดไฟเหมือนกันนะ
   อีกร้านที่ผมสนิทคือ Granny Bike ของปาน มาวันนี้ตกใจที่เขาไม่ได้เอา Cargo Bike มาขาย เขาบอกว่าบริษัทแม่จะออกรุ่นใหม่ และสินค้าใหม่กับตัวเก่ามันแตกต่างกัน เลยคงจะอยากเคลียร์สต็อคเก่าให้หมดก่อนมั้ง เขาเลยไม่มีของมาขาย
   ปานเอารถของ All City มาขายแทน รถค่ายนี้ดังในแนว Fixy แต่พอกระแสรถ Fixed มันหายไป (จำไว้ อะไรที่ดังเร็ว ก็จะดับเร็ว) ก็เลยเอารถแนวอื่นของค่ายนี้มาขายแทน เช่น Cyclocross, Light Touring, City แนวๆนี้ แต่ผมว่าเขานำเสนอจืดไปหน่อย เอาแค่เฟรมมาแขวนไว้ คนดูไม่ออกครับว่ามันคือรถแนวอะไร ถ้าจะให้ดีต้องมีคำอธิบายระบุไว้ใต้เฟรมให้ลูกค้าเดินอ่าน หรือถ้าให้ดีสุดควรอธิบายด้วยภาพจากจอทีวี น่าเสียดาย ปีนี้เขาไม่เอาจอมา
   บูธข้างๆ กันเป็นร้านรับสั่งตัดจักรยาน ปานบอกเขาเพิ่งเรียนจบมาจาก Oregon พอบอกชื่อรัฐนี่ผมรู้เลย เคยมองๆ เอาไว้ ตอนนั้นอยากหนีไปไกลๆ แต่ลึกๆ แล้วผมไม่ได้ชอบถึงขนาดเป็นช่างทำเฟรมเป็นอาชีพหรอก อย่าเก่งก็ทำเฟรมที่ตัวเองออกแบบเอง นี่ผมลดเกรดจากรถยนต์มาเป็นจักรยานแล้วนะนี่ แต่ขอโทษ ตอนนี้สนใจเรือ ยังไม่ได้ซื้อเป็นของตัวเอง ผมยังออกแบบเรือที่ต้องการไว้แล้วเลย
   
   ร้านจักรยานชั้น 3 นี่มีเยอะมากขึ้น จากปีก่อนเป็นแผงลอย ปีนี้เป็นบูธ ดูดีหน่อย แต่น่าเสียดายตรงที่ตรงลานกว้างชั้น 1 เขามีเวทีดนตรีจัดในร่ม (ปีก่อนจัดนอกอาคาร) พอเล่นดนตรีนี่เสียงจะก้องดังมากๆ ดังมาจนถึงชั้น 3 เลย พูดคุยกันลำบาก
   ชั้นนี้ยังมีอาหารด้วยนะ ปีนี้ทำดีกว่าเดิมมากๆ ร้านอาหารมีหลากหลายเลย ผมกินข้าวแกงกะหรีญี่ปุ่นชามละ 59 บาท เดินตั้งแต่เช้า หิวมาก กินกล้วยมาลูกเดียวเอง จัดไปหมดเกลี้ยงชามเลย เดินเล่นนิดหน่อยก็กลับบ้าน
   เจอ “พี่หมู” ร้าน Global Globe Motors สมัยก่อนที่เป็นตัวแทน The Trust ยุคที่อู่ Jun เพิ่งจะเปิดได้สักพัก สมัยก่อนผมไปนั่งอยู่ร้านนี้บ่อยมาก เพราะใกล้บ้าน ไปจนสนิทกัน จนช่วยขายของได้ ร้านนี้ดังมากในยุคนั้น จนระยะหลังก็ปิดตัวไป แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย พี่หมูขี่จักรยานเหมือนกันด้วย ดีๆ ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ
   ขาออกนี่ถึงกับตกใจเลย รถเยอะมากๆ ถึงกับต้องจอดตรงลาน และตามข้างทางนอกอาคาร นี่ถ้าออกจากแล้วเลี้ยวขึ้นทางด่วนได้เลยนี่สุดยอดมากเลยนะ ผมจะถึงบ้านเร็วกว่านี้อีกเยอะมาก
   ถึงบ้านก็หิวโหยอีกแล้ว กินขนมเปี๊ยะไป 2 ชิ้นกลางๆ กูลิโกะป็อกกี้อีกกล่อง ที่บ้านยิ่งของกินเพียบๆ อยู่ด้วย อย่าเผลอเชียวนะ อ้วนได้ง่ายๆ เลย ขนมฝรั่งกุฎีจีนมีอยู่ 2 ชิ้นใหญ่ๆ ไอติมก็มี ยังดีที่ยั้งใจไว้อยู่
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on November 19, 2015, 02:47:14 pm
16 พย 58 – 18 พย 58
   เช้าขี่จักรยานราว 30 นาที บางวันก็ควงกระบอง (ไม้พายเรือ) เช้าวันไหนฝนตกก็ซ้อม Uke cmo
   บ่ายไปฟิตเนส เน้นกล้ามท้องอีกรอบ แถมด้วยเดินเร็วขึ้นเนินชัน 12% อีก 1 ชม คนอื่นเขาวิ่งกันนะ แต่ผมเดินและปรับความชันสูงสุด เพราะปกติผมวิ่งอยู่ที่สนามกีฬาแล้วไง มาเข้ายิมก็ต้องทำให้มันแตกต่างจากปกติ
   พกน้ำดื่มไปเอง 1.5 ลิตร อยู่ในยิม 2 ชม กินน้ำหมดขวดพอดี แล้วก็กลับบ้าน เหนื่อยแบบกำลังดี
   มาถึงบ้านนี่หิวโหย ส่วนมากจะกินกล้วยน้ำว้า น้ำเต้าหู้ หัวค่ำอาบน้ำแล้วก็เตรียมซ้อม Uke ไปจนถึงกลางคืน หลับยาวววว
   นี่ใกล้ถึงงานแข่งดริฟท์แล้วนะ (19-22 พย) ทั้งเอกและไผ่ยังไม่มีใครมาบอกผมว่าเดินทางเมื่อไหร่ อย่างไรเลย งงโคตร ผมทวงถามไป 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดนี่อาทิตย์ที่แล้ว เขาก็บอกว่ายังไม่รู้ แต่เจ้าไผ่ขอชื่อผมเป็นภาษาอังกฤษไป ก็เดาว่าคงจะเดินทางด้วยเครื่องบินนะ แต่วันใด เวลาใดล่ะ
   งง โคตรเลย ทำไมไม่บอกผมทันทีที่เขาได้ตั๋วล่ะ ?
   นี่กะจะไม่ให้ผมวางแผนเตรียมตัวอะไรกันบ้างเลยหรอ
   นี่แม่งไม่ใช่แนวผมเลยสักนิดนะ
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on November 19, 2015, 02:59:28 pm
19 พย 58
   ยังคงชีวิตรูปแบบเดิม เช้าจักรยาน บ่ายยิม เย็นซ้อมดนตรี
   กลางคืนเจ้าไผ่ส่งภาพไฟล์ทเที่ยวบินไปกับ กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์มาให้ ผมดูแล้วก็เฉยๆ เพราะมันเป็นเหมือนตารางเที่ยวบิน ผมสงสัยจึงพิมพ์สอบถามกลับไป เจ้าไผ่บอกว่านี่คือตั่วเครื่องบิน
   !!! เฮ้ยย ไม่ใช่แล้วนะ มันไม่มีอะไรระบุว่าเป็นตัวผมเลย ทักท้วงจนไผ่ต้องไปนำเอกสารอีกอันมาเพิ่มให้ ที่มีชื่อผมและ Code ระบุไว้ แบบนี้ค่อยโอเคหน่อย
   เป็นอันว่ามีคนมาบอกผมกำหนดการเดินทางแล้วนะ บอกก่อนล่วงหน้าแค่ 2 วัน หึหึ
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on November 29, 2015, 05:28:21 pm
20 พย 58
   เช้านี้ตื่นสาย นอนดึก มิวนั่งทำรายงาน แถมต้องมีพรินท์งานอีกด้วย เช้านี้เลยได้แค่ควงไม้พายแบบรำกระบองแนวพวกชีวจิต
   มื้อเช้าเทพโคตร ปลาเก๋าทั้งตัวทอดแล้วราดพริก ผักเคียงเป็นบร็อคโคลี่ แครอทลวก ไข่ต้ม ช่วงสองเดือนมานี่ผมกินปลาเยอะมากๆ เลยนะ
   อาบน้ำ แต่งตัว ออกเดินทางจากบ้านราว 0900 ไปถึงสนามบินดอนเมือง 1000 เครื่องบินออก 1205 ถึงสนามบินบุรีรัมย์ราว 0100
   “อาคารไหนครับ” คนขับถาม
   เออ จริงด้วย มันมี Terminal 1 กับ 2 แต่รถถึงตึก 1 ก่อน ผมเลยบอกเอา 1นี่แหละ คนจอดกันเยอะ
รถจอดปุ๊บผมลากกระเป๋าเข้าอาคารทันที แต่ลากไปไหนต่อนี่ยังไม่รู้เลย คือยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าบินสายการบินอะไร เลยมองตารางเที่ยวบิน เทียบดูแล้วพบว่าของผมเป็นแอร์เอเชีย เลยไปเคาเตอร์ของเขา แต่แล้วก็งงต่อ เฮ้ย คนแม่งเยอะมาก อันที่เป็นลูกทัวร์มายืนต่อคิวยาวเหยียดนี่ผมก็พอจะเข้าใจว่าเขามากันเป็นกลุ่มเดียว เช็คอินกันรวดเดียว แต่ของผมจะไปบุรีรัมย์ว่ะ ต้องเช็คอินตรงไหนวะ
ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็ถามแม่งเลยครับ ถามเจ้าหน้าที่ไปตรงๆ เขาบอกว่าเข้าแถวไหนก็ได้
อ้าว ง่ายขนาดนี้เลย ฮ่าๆ
“หรือพี่จะเช็คอินด้วยตนเองก็ได้นะครับ” เจ้าหน้าที่พูดพร้อมกับชี้ไปที่ตู้แบบ Self Check In
อืมม น่าสนนะ แต่กูกลัวกดไม่เป็นว่ะ มือใหม่อยู่ด้วย ไม่ได้บินไปไหนมานานมาก สมัยก่อนนี่ปีละอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่มันนานมาแล้ว
   ผมเช็คอิน ฝากกระเป๋า แต่แล้วคำตอบของเจ้าหน้าที่ทำให้ผมสุดอึ้ง
   “ตั๋วไม่ได้ซื้อพื่นที่โหลดกระเป๋าไว้นะคะ ต้องคิดเงินเพิ่ม 900 บาทค่ะ”
   ห๊ะ !!!
   “แต่กระเป๋าพี่ถือขึ้นเครื่องได้นะคะ” พนักงานเสนอคำแนะนำ
   ถือน่ะถือได้ แต่ปกติผมจะโหลดใต้ท้อง เพราะตัวเองมีมีดพับติดตัวไว้ใช้เสมอไง แล้วไม่บอกกันล่วงหน้าล่ะ ผมจะได้ไม่เอามีดพับมา
   ได้ตั๋วมา แต่ก็เดินไปคิดไปว่าจะทำยังไงดีกับไอ้มีดพับอันเล็กจิ๋วนี้ ไอเดียแรกผมกะจะฝากร้านค้า หรือธนาคาร แต่ร้านค้าไม่เวิร์คแน่ๆ พนักงานงานยุ่งกันมาก ธนาคารก็ไม่มี เอาไงดีวะ
   อ้อ เขามีแผนกรับฝากสัมภาระ ผมงี้รีบวิ่งเข้าไปเลย บอกปัญหาที่ผมมี บอกขนาดมีดพับ แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า
   “75 บาทค่ะ”
   ผมดีใจมาก รีบจะควักเงิน แต่แล้วคำพูดต่อมาของเขาทำให้ผมสุดอึ้ง
   “75 บาทต่อวันค่ะ”
   โห กูไป 4 วัน ซัดไป 300 บาท มีดกูราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่นักแต่มันเป็นของ Victorinox แถมใช้มาเป็นสิบปี มันคล่องมือ โดยมากจะใช้ตัดเล็บ หากมีกรณีเล็บฉีกตอนไปต่างจังหวัด หรือเล่น Uke
   เดินไปคิดไป แล้วก็ปิ๊ง ผมเห็นไปรษณีย์อยู่ใกล้ๆ กัน เลยไปส่งมันกลับบ้านดีกว่า ค่าส่ง 21 บาท ส่งเสร็จก็โล่งใจ และคิดถูกนะที่เผื่อเวลาเดินทางมาเยอะ ผมเผื่อมา 2 ชม ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 1 ชม
   เดินเข้าสแกนกระเป๋า เขาห้ามเอาของเหลวเกิน 100 cc เข้า ผมกินน้ำจนเหลือไว้นิดหน่อยแล้วก็แอบซุกเข้าไป ถ้าเขาจับได้ก็แค่โยนทิ้ง แต่มันก็มีไม่เกิน 100 cc หรอกนะ
   ก้าวเข้ามาด้านในนี่ของกินเพียบเลย ร้านแบรนด์เนมทั้งนั้น แต่ร้านที่คนแน่นสุดคือ 7-11 ครับ ผมเองยังซื้อน้ำดื่มไปอีกขวด และกล้วยหอม 1 ผล เอาไว้กินตอนอยู่บนเครื่อง และหลังลงจากเครื่องที่นั่น (หาข้อมูลมาว่า สนามบินห่างจากสนามช้างราว 40 กม)
   เดินไปนั่งรอที่ Gate 73 ก็เจอคนคุ้นๆ หน้ามากขึ้น แต่โดยมากจะไม่รู้จักชื่อ แค่เคยเห็นหน้ากันตามงานแข่ง มีคนรู้จักก็คือ ปอ (น้องไผ่) และ จอห์น (โฆษกสนาม) ส่วนเล็กนี่รู้จักกันมานามมากแล้ว
   ใช้เวลาบินแค่ 55 นาที ผมก็งงนะ ตอนอยู่บนท้องฟ้า กัปตันประกาศบอกว่าขณะนี้กำลังใช้ความเร็ว 800 กม/ชม ผมงี้ตกใจเลย แบบนี้บิน 30 นาทีก็ได้ระยะถึง 400 กม สินะ ระยะทางจากกรุงเทพฯถึงบุรีรัมย์ก็ราว 400 กม มันก็น่าจะใช้เวลาราว 30 นาทีก็ถึงได้แล้ว
   แต่ก็คงต้องมีการบินเผื่อที่มันต้องอ้อม เช่นตีวงเลี้ยวและตั้งลำ ขณะขึ้นลงสนามบิน และการไต่ระดับความสูง
   ตอนลงเครื่องผมปล่อยมุขกับจอห์น บอกว่าลงมาจะมีโพเชคาเยนจอดรอเราอยู่ จอห์นำหน้างง ผมว่าเขาไม่เชื่อผมหรอก แต่ผมก็ทำหน้าชัวร์เหมือนกัน
   โพเชคาเยนมันคือในความฝัน โลกแห่งความจริงมันคือ เจ้าเอกขับ Mazda 2 มารับ ผมกับจอห์นนั่งหลัง เล็กนั่งหน้า รถคันเล็กๆ แต่นั่งเต็ม 4 คน เอกขับเร็วพอควร ผมว่ามันแรงกว่าไอ้ 180SX ของผมเสียอีก ฮ่าๆ
   ไปถึงก็เข้าสนามช้างเลย เป็นครั้งแรกที่ผมมาบุรีรัมย์ ครั้งแรกกับสนามช้าง ส่วนคนอื่นเขามากันบ่อยแล้ว โดยเฉพาะเจ้าจอห์นนี่มาบ่อยสุดเพราะรับงานพากย์
   พื่นที่สนาม 1200 ไร่ครับ สนามดริฟท์อยู่ด้านในสุด ไกลสุด ต้องขับผ่านสนามฟุตบอล สนามแข่งรถยนต์ทางเรียบ สนามมอเตอร์ไซค์วิบาก แล้วก็จะเจอลานทดสอบรถ นี่แหละคือแทร็คที่เราจะใช้แข่งดริฟท์ในวันนี้
   สนามไม่ใหญ่มาก เป็นลู่วิ่งคล้ายสนาม BRC (ปกติเราจะจัดกันในลานโล่ง) แต่ข้อเสียของสนามทดสอบนี้คือมันไม่มีพื้นที่ด้านข้างแทร็คเลย ตกแทร็คไปก็เป็นดินทราย บางมุมใกล้อัฒจรรย์คนดู เลยต้องใช้แท่งปูนมากั้น และเสริมกองยางไว้หน้าแท่งปูน จากเดิมที่แทร็คไม่กว้างนัก พอเจอกำแพงยางวางรอบนอกโค้ง มันยิ่งดูแทร็คแคบเข้าไปใหญ่เลย ยิ่งขับเร็วๆ ด้วยนะ โคตรเสียวสยองเลย
   สิ่งแรกที่ทำคือผมไปดู “ห้องทำงาน” ของตัวเอง สนามนี้เขาใช้ตู้คอนเทนเนอร์วางซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นล่างสำหรับช่างภาพและสื่อ ชั้นบนเป็นห้องกรรมการ ติดแอร์อย่างดีทั้งสองตู้
   ก้าวเข้าไปในห้องนี่พบกับความเย็นฉ่ำ แม้ตู้จะตั้งอยู่กลางแดด แต่ไม่มีความร้อนระอุทะลุเข้ามาสักนิด ยังมีห้องทำงานแบบนี้อีกชุดวางตั้งอยู่คู่กัน ทำมุมเป็นรูปตัว V คืออีกด้านเขาใช้แข่งมอเตอร์ไซวิบากด้วย
   อ้อ มีตู้เย็นแช่น้ำดื่มช้าง และ EST Cola ให้ด้วย พร้อมเสิร์ฟกันตลอดช่วงเวลาทำงาน มีเติมกันให้เต็มตลอดเวลา !!!
   เฮ้ย นี่มันห้องทำงานในฝันชัดๆ
   มีดี ก็มีเสียครับ คือ มีแทร็คคั่นกลาง แปลว่าพวกนักแข่ง และพิท อยู่ฝั่งตรงข้ามผมทั้งหมด อยู่ตรงจุดนี้จะห่างไกลผู้คนมากๆ เปรียบเทียบเหมือนอยู่สนาม BRC เดินไปห้างซีคอน ที่ต้องผ่านลานโล่งกว้างใหญ่ก่อน (ทุกวันนี้เป็นตลาดนัดหมดแล้วมั้ง ผมไม่ได้ไปเป็นสิบๆ ปี)
   จอห์น นั่งกับผมตรงนี้ตลอดเวลา เลยพากย์เฉพาะรถล้วนๆ อย่างเดียว ผมมาถึงนี่ก็บ่ายวันศุกร์แล้ว ฝนกำลังปรอยๆ สลับหยุดนิ่ง พอตกลงมาแทร็คเปียกนี่จะรู้สึกว่าลื่นมาก แต่พอเริ่มแห้งมันก็จะเหนียวมาก สนามแบบนี้มือใหม่ หรือคนไม่คุ้นรถ รับรองไปไม่รอด เพราะมีกำแพงยางรอคุณไปจูบมันอยู่ ผมเห็นแล้วนึกเสียวทันที
   คิดปุ๊บ เจอปั๊บครับ มีรถแข่งวิ่งเข้าไปชนกำแพงยาง หน้าย่นยู่ แต่บุคลิกของยางมันรับแรงแล้วจะกระเด้งออก บางคนที่หัวเข้าไปชนแล้วรถจะระบัดเอาเท้าเข้าไปฟาดแถมให้อีกด้วย
   ขนาด “เก่ง” ที่ขับแม่นๆ ก็ยังมีไปซัดบ้างเลย แต่เป็นมุมที่รถสไลด์ไปโดนนิดๆ ต่างจากคนอื่นที่ซัดกันแบบรถแถไปชน มันแรงกว่ากันเยอะ และเจ็บมากๆ
   ฝนตกๆ หยุดๆ ราว 5 รอบจนถึงเย็น มีรถชนกันไปราว 5 ครั้ง หนักบ้าง เบาบ้าง สลับกันไป เห็นแล้วท้อเลยนะ คิดเป็นตัวเองนี่ผมคงจะเศร้าสุดๆ เลย
   ผมคุยกับเล็กว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ ปล่อยให้เขาชนกันเยอะขนาดนี้ แม้จะเป็นมือใหม่ แต่ก็เห็นใจโคตรๆ
   ทางตรงออกสตาร์ทยาวเกินไป ทำให้รถมีความเร็วสูงมาก พอเข้าโค้งแรกที่เป็นยูเทิร์น จะชนกันเยอะก็ตรงจุดนี้แหละครับ คุยกันว่าลองปรับจุดสตาร์ทให้เข้ามาใกล้กว่าเดิมหน่อยจะดีไหม วันนี้วันซ้อม จะลองก็ลองมันวันนี้แหละ
   ลองเลื่อนดูแล้วพบว่าขับกันง่ายขึ้น จากเดิมกดคันเร่งมาเต็มตีนแล้วก็ต้องเบรกแรงๆ แล้วค่อยไหลเข้า ตอนนี้พอจะกดคันเร่งเข้าได้แล้ว ถ้าหาจังหวะดีๆ นี่จะสาดขวางเข้าได้สวยมาก คือจะต้องดริฟท์มาก่อนเข้าเส้นสตาร์ทดริฟท์น่ะ
   แต่ขับแบบนี้มันอันตรายต่อรถคันที่ตามหลังมา (กรณีรอบ Battle) เพราะเขาไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะดริฟท์จังหวะไหน เมื่อไหร่ กลายเป็นจะยิ่งชนกันง่ายเข้าไปใหญ่ เล็กเลยออกกฏว่าห้ามระบัดรถดริฟท์ (Yaw Drift) ก่อนจุดสตาร์ทดริฟท์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลให้นักแข่งหลายคนไม่พอใจในวันแข่งจริงที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้
   หัวค่ำสนามเปิดไฟ แล้วก็มีแมลงมาเล่นไฟเยอะมากๆ ในห้องกรรมการก็มีแมลงเล็ดลอดเข้ามาเป็นระยะตอนจังหวะเปิดปิดประตู
   ข้อเสียอีกอย่างก็คือ ไม่มีของกินให้ซื้อหาในละแวกใกล้เคียงเลย ฉะนั้น พรุ่งนี้มึงต้องมาแบบจัดเต็ม ไม่งั้นมีอด
   ทุกอย่างดูจะพร้อมหมดแล้วนะ เหลือตรงทีมกล้องถ่ายทอดนี่แหละ ยังไม่เห็นวี่แววเลย สอบถามทีมงาน เขาบอกกล้องจะมาพรุ่งนี้
   หัวค่ำไผ่ขับรถมาส่งจอห์น โดยมีผมนั่งมาด้วย ส่งจอห์นพักที่ Siam Boutique Hotel แต่ผมพักที่ Loft Buriram ชื่อแม่งเท่เน๊อะ แต่ขอโทษ ที่พักเป็นแบบหอพักตึกแถวนี่เอง ตั้งชื่อ Loft ก็ไม่เห็นจะ Loft ตรงไหน
   ห้องพักแบบเกรดพื้นๆ มากๆ ยังดีที่เตียงแข็ง แอร์เย็น ห้องน้ำงั้นๆ
   รับกุญแจแล้วผมก็ถามเจ้าของเขาว่าแถวนี้มีอาหารอะไรแนะนำบ้าง เขาแนะนำให้ไปแถวย่านหอนาฬิกาดู พร้อมยกตัวอย่างร้านต้มเลือดหมู บ๊ะ แจ๋วเลย ผมให้เขาชี้พิกัดด่วน
   กลางคืนเข้านอนมีดราม่าเล็กน้อย แม่งมีเสียงจิ้งหรีดร้องเป็นระยะ แต่ร้องไม่เป็นจังหวะ นึกจะร้องแม่งก็ดังจี๊ดดดดๆ ๆๆๆ พอหยุดก็จะเงียบสงบดี เป็นเพราะห้องผมมีหน้าต่างอยู่ติดกับที่รกร้างด้านข้าง
   เที่ยงคืน ตื่นขึ้นมา ฉิบหาย เอาไงดี แม่งร้องดังมาก ผมเลยเปิดไอแพดมาโหลดแอปเสียงจิ้งหรีด เอามาเปิดแข่งกับมัน จากเดิมร้องๆ หยุดๆ ผมเปิดให้แม่งร้องตลอดเลย แล้วก็หลับไป
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 01:30:06 pm
21 พย 58
   จะนอนทีไหนผมก็ตื่นเช้าได้เสมอ ไผ่กลับไปและทิ้งรถ Mazda 2 ให้ผมเอาไว้ใช้งาน (ผมยังคงเรียกมันว่าคาเยน) ส่วนเล็กได้รถ Vios ไป รถเขามีฟิล์มดำอย่างดี ของผมไม่มี ใสแจ๋วไปเลย แต่ผมชินแล้ว รถ 180SX ของผมก็ใส
   ตื่นมาแบบงัวเงีย เข้านอนดึกราวเที่ยงคืนกว่า เมื่อคืนเข้าที่พักแล้วเล็กชวนไปกินข้าวต้ม บขส (ร้านดังในเมืองนี้) ปกติไม่กินมือดึกนะ แต่เล็กเพื่อนเก่าชวนไปก็หยวนๆ ไปกินเป็นเพื่อนเขา ขนาดผมไม่กินดึก แต่พออาหารมาผมก็กินไปเยอะเลย ฮ่าๆ
   เช้านี้ไปไหนดีน้า มีรถให้ใช้ แต่เสือกไม่รู้จักสถานที่ มีนัดกลับมารับเล็กตอน 1030 เพื่อจะไปสนามด้วยกัน (รถ Vios เล็กเขายกให้เพื่อนที่จะตามมาใช้) จะว่าไปก็มีเวลาไม่เยอะนัก ยังดีที่เมืองไม่ใหญ่ ขับรถง่าย รถไม่เยอะมาก
   คุยกับ “แอร์” รุ่นน้องทีมงานที่พักอยู่อีกแห่ง เขาบอกอาหารเช้าที่โรงแรมเขาห่วยมาก ผมเลยชวนไปกินมื้อเช้าด้วยกัน
   ขับไปหอนาฬิกาทันที เจอร้านต้มเลือดหมูแล้วโว๊ยยย ร้านเก่าดี สั่งใส่หมูสับและเลือดแค่ 1 ชิ้น ขอใบตำลึงอย่างาเดียวเยอะๆ
   เจ้าของร้านทำหน้าไม่พอใจ บอกมีอยู่แค่นี้ ให้เยอะได้ไง
   ผมก็ยิ้มตอบ บอกว่าให้ได้แค่ไหนก็เท่านั้นครับ
   เห็นไหม เราจะไปโกรธใครเขาง่ายๆ ได้อย่างไรกันเล่า เราฝึกจิตด้วยตนเองมาพอควรแล้ว
   นั่งกินแบบหันหน้าออกนอกถนน ดูเมือง ดูผู้คน น้ำแกงใสจ๋องแจ๋ง แต่แม่งอร่อยว่ะ แปลกดี ผมว่ามันต้องมาจากวัตถุดิบชั้นดีแน่นอน ใบตำลึงที่ตอนแรกบอกว่าไม่มี กลายเป็นใส่มาให้เยอะเลย น่ารักจัง
   กินแบบแทบไม่เหลือน้ำเลย อร่อยดี กินเสร็จกลับไปส่ง “แอร์” และย้อนกลับไปรับเล็กที่โรงแรม เล็กมาช้านิดหน่อย เขาลงมาอีกทีก็เจอเพื่อน สุดท้ายเขาก็ไปสนามกับเพื่อน ผมขับรถไปเองคนเดียว
   ไปถึงสนามก่อนใครเขาตามเคย มาคนแรกของทีมงานเลยนะ (ไม่นับภาคสนาม) เช้านี้มีจอมอนิเตอร์จัดเรียงเตรียมพร้อม สุดยอดมาก แบบนี้ทำงานสบายหน่อย อีกสักพักเล็กมาถึงก็ไปช่วยกำกับมุมกล้องอีกครั้ง ทีมกล้องเริ่มคุ้นมือกันมากขึ้น เป็นทีมเก่าที่ใช้บริการกันมาหลายสนาม เขารู้แล้วว่าเราต้องการ “เห็น” อะไร ตรงไหนเรียก “เอเปก” รู้หมด
   จากกำหนดการเดิมงานแข่งดริฟท์ที่บุรีรัมย์วันที่ 19 นี้จะเป็นวันซ้อม ส่วน 20 จะเป็นวันควอลิฟาย และ 21-22 จะเป็นวันแข่ง แต่ทางผู้จัดเขาเลื่อนใหม่ให้วันซ้อมคือ 20 ควอลิฟาย แข่งจริง คือ 21-22 มันทำให้ตารางแน่นขึ้นไปมาก เพราะงานนี้รถแข่งมากันเกือบ 100 คัน เล็ก (เพื่อนที่เป็นกรรมการด้วยกัน) ถึงกับบ่น “เยอะขนาดนี้จะมีเวลาให้กรรมการไปเยี่ยวกันบ้างไหมนี่”
   อ้อ งานนี้มี Class เพิ่มมาใหม่คือรุ่น bric เป็นงานของทางสนามบุรีรัมย์เองล้วนๆ แปลว่าเราต้องเหนื่อยขึ้นอีกหลายชั่วโมง เพราะมีรุ่นใหม่ ก็ต้องควอลิฟาย จัดลำดับ ฯลฯ ทุกอย่างใหม่หมด
   ทำให้มีนักแข่งบางคนลงแข่งหลายรุ่น แต่บางคนก็ลงรุ่นที่ตนสังกัดเพียงรุ่นเดียว ตามชอบได้เลยครับ ลงเยอะ ได้ขับเยอะ โอกาสพังก็เยอะ โอกาสชนก็เยออะ โอกาสพัฒนาฝีมือก็เยอะ
   1200 ประชุมนักแข่งที่ห้องด้านล่างกรรมการ นักแข่งเกือบร้อย อัดแน่นเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ขนาดติดแอร์สองตัว ยังรู้สึกอุ่นๆ เลย
   บอกกฎกติกาพื้นฐาน จนผมสงสัยนะว่าทำไมเราต้องคุยกันเรื่องกฎเดิมๆ กันบ่อยมากขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจครับ เพราะแต่ละงานมีนักแข่งมาจากต่างถิ่นต่างแดน สนามนี้มาจัดทางอีสาน ก็มีนักแข่งท้องถิ่นหน้าใหม่มากันเยอะ นักแข่งเดิมๆ ผมก็ยังจำชื่อจำชื่อได้ไม่หมด นี่มันของใหม่มาเพิ่มอีกเพียบเลย
   และกฎที่ทำให้นักแข่งเริ่มไม่พอใจที่อาจไปบีบบังคับเขามากเกินไปนั้นคือการห้ามทำ Yaw Drift ก่อนถึงจุดสตาร์ทดริฟท์ แต่ทั้งนี้กรรมการทำไปก็เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ผมว่าส่วนใหญ่จะเข้าใจเราดีนะ
   วันนี้ควอลิฟายเกือบจะตลอดวัน ผม เล็ก เต้ย ให้คะแนนกันไปตามหน้าที่ แต่โดยภาพรวมแล้วคะแนนในจุด Apex จะสูงสุด สนามนี้มี 3 Apex แบ่งเป็น 40-20-40 จุดไหนเข้ายากก็จะให้คะแนนสูงหน่อย
   เริ่มจาก Class C ที่มักจะเป็นมือใหม่ หรือคนที่ยังไม่ค่อยเก่งนัก โค้ง 1 นี่ขับกันแบบ “หลบเอเปก” ตั้งลำรถมาอย่างดี พอใกล้ๆ ก็ไถลออกไปซะงั้น คะแนนเลยเป็น 0 กันมาก พอเอเปก 2 ก็เข้ากันแบบไม่ลึก ทั้งๆ ที่เข้าง่ายมาก ส่วนเอเปก 3 ที่ใกล้กำแพงก็ไปกันไม่ค่อยถึง มีคนได้คะแนนเป็น 0 เยอะมากๆ ปกติต้องคะแนนสัก 80 ขึ้นได้มีลุ้นเข้ารอบ แต่งานนี้แค่ 70 ก็ได้แล้วแบบสบายๆ
   จากนั้นก็เป็นรุ่นของ Bric ตามด้วย Class A-B ที่ควอลิฟายรวมกัน คะแนนออกมาก็ทำให้ A หลายคนแปลกใจในคะแนนตัวเอง เพราะถ้าไม่เข้าเอเปกกรรมการก็ไม่มีคะแนนจะให้ มี A ได้ 0 กันเยอะแยะเลยนะ จากเดิมนี่ไม่เคยมีใครได้ 0 เลย อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ราวๆ ครึ่งหนึ่ง แต่งานนี้ใครได้สักครึ่งหนึ่งนี่ถือว่าโอเคแล้ว แต่ก็มีคนได้ 90 นะครับ ได้เกือบเต็มเลยล่ะ มีอยู่ไม่กี่คน
   ช่วงให้คะแนนนี่กดดันพอควร ต้องมองให้แม่น เอเปก 3 นี่อาศัยกล้องช่วยล้วนๆ เลย คิดในใจว่า เกิดกล้องเขาพลาดขึ้นมานี่เราจะทำอย่างไรดีนะ นึกไม่ออกจริงๆ แต่ยังดีที่เขาแม่นคิวตลอดเลย ทีมกล้องนี่สุดยอดจริงๆ เป็นทีมเดิมที่เราเคยทำงานร่วมกันมาตลอด บอกเขาว่าเราต้องการเห็นภาพแบบไหนนี่เขาจัดให้ได้เป๊ะๆ เลย
   มีเรื่องน่าประทับใจในนักแข่งที่ชื่อ N ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อ Engine เรียกกันว่า N เป็นอันเข้าใจ อยู่ทีม Deestone คนนี้เรียนอยู่เอแบค มาซ้อมวันศุกร์ แล้วก็กลับไปสอบในวันเสาร์เช้า บ่ายวันเสาร์มาทันขับควอลิฟายของรุ่น Bric ขอซ้อม 1 รอบ แล้วก็ทำคะแนนได้เป็นอันดับ 1 ในรุ่นนี้เสียด้วย
   แข่งกันไปก็มีชนสลับกันประปราย ทีมงาน Safety ภาคสนามโชว์สกิลเทพในการเคลียร์แบบเร็วสัส รถของทีม “พลังชล” ยับกันทุกคัน คนที่อาการหนักสุดคือ “พี่แดง” ถึงกับต้องส่งโรงพยาบาลเอ็กเรย์กระดูก เพราะมาจากรัดเข็มขัดนิรภัยไม่แน่น (ผมเดาว่าจุดที่อยู่ด้านล่างสุดตรงเป้าน่ะ คนไม่ชอบล็อคตรงนี้กัน พอชนแล้วตัวจะเลื่อนจากเบาะ)
   “พี่วิชัย” ก็เอากับเขาด้วย ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ ขับซ้อม Battle กับ “ตี๋ พลังชล” ไล่บี้จนไปชนเขานิดหนึงในช่วงสุดทางตรง พอถึงโค้งก็เอารถไม่อยู่เอง ฟาดชิ่งไปเต็มๆ ชนแบบยับเลย ผมเห็นกับตาทุกคู่ เขามาชนกันตรงหน้าผมกันหมด เห็นแล้วโคตรสงสารเลย ส่วนรถตี๋ผ่านไปได้แบบไร้ร่องรอย
เช้าชนจนท้ายยับหัวฉีก กลางคืนชนหัวย่น แถมซ้ำตรงท้ายอีก รถนี่สภาพเป็นลูกเต๋าเลย เรียกว่าอาการ “สาหัส” ที่สุดกว่ารถทุกคันในงาน เห็นแล้วโคตรสงสารเลย จนผมบอกให้จอห์นช่วยประกาศบอกว่าให้พี่วิชัยถอดชิ้นส่วนสลับของกันกับรถคันที่สภาพดีอีกคัน แล้วเอามารวมเป็นคันเดียว พรุ่งนี้ยังพอแข่งต่อได้นะ คือต้องให้กำลังใจเขาอย่างหนักมาก นึกถึงว่านี่ถ้าเป็นรถตัวเอง ผมคงแอบไปนั่งร้องไห้แน่ๆ
วันนี้แข่งกันจนเกือบห้าทุ่ม ผมขับคาร์เยนกลับห้องพัก ไม่ได้แวะกินข้าวอะไร แต่ตอนอยู่ห้องกรรมการนี่กินหนมที่เด็กๆ ซื้อมาเพียบเลย ขอขอบคุณ “น้องเมย์” ผู้น่ารักด้วยครับ (เมย์เป็นแฟนปอ ปอเป็นน้องไผ่ ผมไม่เกี่ยวเหี้ยไรกับเขา แต่ชอบแซวเขาในเฟซบุ๊ค)
กลางคืนฟังเสียงจิ้งหรีดกล่อม แถมด้วยแมลงกลางคืนในห้องอีกพอควร มันมุดเข้ามาเล่นแสงไฟตามช่องที่มุ้งลวดขาด หวังว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 02:35:02 pm
22 พย 58
   ตื่นเช้าแล้วออกไปหาของกินแถวหอนาฬิกาเหมือนเดิม หาข้อมูลบะหมี่เซาะกราวมาตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้มุ่งหน้าไปกันเลย ขับไปแป๊บเดียว ไม่นานนัก เมืองเขาไม่ใหญ่ รถไม่ค่อยติด แต่แล้วก็พบข่าวเศร้า ร้านแม่งปิด คงจะขายเย็นถึงกลางคืนแน่เลย
   ขับตระเวนหาแถวๆ นั้น เจอก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ ชื่อร้านนี้คุ้นๆ สมัยก่อนเดิมที่เป็นของดาราชื่อดังในยุคก่อน วันท์ทิพย์ มั้ง นามสกุล ภวภูตานนท์ จำไม่ได้ว่าอันเดียวกับก๋วยเตี๋ยวชักธงหรือเปล่านะ จะมีธงอยู่หน้าร้านให้รู้ว่าเปิดหรือปิด
   ก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋จะมีชื่อเรียกแปลกๆ จำกันไม่ได้หรอก สั่งก็ยาก แต่รสชาติดี ให้น้อยๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวเรือ กินกันคนละหลายๆ ชาม
   แต่พอผ่านไปนานๆ เข้า ผมเห็นก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋เต็มไปหมด แต่ไม่มีร้านไหนรสชาติเหมือนกันเลย ตอนไประยอง “ปาล์ม” พาไปกินก็แบบหนึ่ง วันนี้มากินที่ตัวเมืองบุรีรัมย์นี่รสชาติแม่งไปต่างต่างชาติเลย คือห่วยมาก แต่ก็กินหมดนะ เพราะเสียดายตังค์
   วันนี้แข่งบ่ายสองโน่นเลยครับ แต่ผมก็ไม่รู้จะไปเที่ยวเล่นที่ไหน เลยแวะ 7-11 ซื้อของกินแล้วก็ตรงเข้าสนามเลย
   ไปถึงคนแรกในกลุ่มทีมงาน เจอกับ “พี่พล” เจ้าหน้าที่ของสนามช้าง มาอยู่ช่วยพวกเราประสานงานในห้องกรรมการ ก็เลยคุยกันอยู่นาน ผมเลยได้รู้จักสนามแห่งนี้มากยิ่งขึ้น
   กลางวันเปิดสนามซ้อม ดูไปได้สักพักใหญ่ก็มีการชนเกิดขึ้นอีกแล้ว โดยมากจะเป็นมือใหม่กันนะ แต่ก็มีมือเก่าไปฟาดชิ่งกันบ้างเหมือนกัน เห็นแล้วไม่สบายใจนะ อยากให้เขาขับกันแบบสบายๆ มุ่งเรื่องเทคนิค แทนที่จะต้องมาคอยระวังการชน
   วันนี้หน่วยกู้ภัยสนามทำงานได้เร็วมากๆ ต่างจากวันซ้อม (ศุกร์) พี่พลบอกว่า วันศุกร์ส่งมาแค่ 30% เพราะชนกับงานแข่งมอเตอร์ไซค์ในสนามใหญ่ แต่วันนี้จัดมา 100% สุดยอดไหมเล่า
   ประชุมนักแข่งตอนบ่าย จอห์นรับตำแหน่งโฆษกสนามเป็นคนตอบปัญหาหัวใจว่าทำไมนักแข่งฝีมือดีๆ มาสนามนี้ถึงได้คะแนนรอบควอลิฟายกันน้อย ก็เพราะขับไม่เข้าเอเปคกันเสียเยอะ โดยเฉพาะเอเปก 1 และ 3 และคะแนนสองจุดนี้เยอะมากเสียด้วยสิ พอเข้าไม่ได้ คะแนนก็เลยเป็น 0 มันก็เท่านั้นเอง
   ช่วงเวลาแห่งความเครียดใกล้เข้ามาแล้ว แข่งรอบ Battle นี่ต้องดูกันละเอียดสุดๆ ครับ จากเดิมที่เล็กบอกว่าให้คะแนนแบบอิสระ คือต่างคนต่างให้ จนมาต้องเสนอว่า ต่างคนต่างให้เหมือนเดิม แต่ขอให้มาช่วยกันดูแล้ววิเคราะห์กันก่อน มีสามหัวมันดีกว่าหัวเดียว ทุกคนเห็นด้วย เพราะมีหลายคู่ที่ดูแล้วหนักใจเอามากๆ
   ซัด Battle C จนจบ แล้วพักเบรกมีพาเหรดกลางสนามเหมือนทุกที ก็สนุกดีครับ ให้คนดูใกล้ชิดกับนักแข่งได้ ช่วงนี้จะพักนานหน่อย ผมมีเวลากินข้าว เข้าห้องน้ำ จะทำอะไรก็รีบทำ แล้วอีกพักเดียวผมก็ต้องตกใจ เฮ้ยย พี่เนวินมา
   ผมไม่รู้จักส่วนตัว แต่เขาเป็นรุ่นพี่สวนกุหลาบ นักเรียนสวนกุหลาบจะแข่งฟุตบอลแมทช์ใหญ่ๆ เขาให้มาเก็บตัวที่สนามนี่เลย สุดตีนมากๆ
   เจ้าจอห์นโฆษกสนามประกาศชื่อ เนวิน ชิดชอบ เป็นประธานเปิดงาน คนก็เฮกันลั่น ผมว่าตั้งแต่เขาเลิกเล่นการเมืองแล้วมีคนรักมากขึ้นอีกเพียบ
   อีกพักใหญ่งานแข่งรุ่น Bric ก็เริ่ม ซัดรอบ Battle กันเลย เอาคะแนนควอลิฟายของเมื่อวานมาจับคู่นักแข่งกัน คัดมา 32 คัน เริ่มไปได้ครึ่งทาง เหลือรอบ 16 คน จะคัดเอา 8 ก็เกิดเรื่อง
   เออ มีดราม่าอีกแล้วเว้ยย นักแข่งมาประท้วงว่าทำไมเขาถึงแพ้ เฮ้ย เราก็งงดิ ก็มึงขับแพ้ไง ทำไมถึงแพ้ ถามได้ เลยเปิดเทปในการขับทั้งสองรอบให้ดู รอบแรกเขาขับได้ดีกว่า เราก็ให้เขาชนะ คะแนนนำ แต่พอรอบสองคู่แข่งทำได้ดีกว่า คือการยืดระยะ และมุมองศาที่เข้าโค้ง ไลน์ และความสมูธ ผลก็คือคู่แข่งเขาเฉือนเขาไปนิดหน่อย
   แต่เขาไม่ยอม เอากล้องที่ถ่ายเองมาให้ดู บอกว่านี่ไง ขับดี ขับตามได้ชิดกว่า เปิดกล้องมาดูก็เข้าใจ เขายืนถ่ายด้านข้างสนาม มันคนละมุมกับที่กรรมการมองเห็น ผมอยู่ตำแหน่งสูงกว่าเขา มองเห็นชัดเจนกว่ามาก
   ก็อธิบายเขาไป แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่พอใจ เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป
   ผมก็สงสัยอีกอย่างว่าทำไมตัวนักแข่งไม่ขึ้นมาประท้วงเอง แต่ส่งเมียมา (ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเป็นเมียนักแข่ง) ถ้านักแข่งมาคุยเอง มาเห็นภาพเองที่พวกเราสโลว์ภาพและอธิบายทีละจุดว่ารอบแรกคุณชนะเพราะอะไร และรอบสองเขาชนะคุณเพราะอะไร ผมว่ามันชัดเจนมากๆ
   ดราม่าหนักกว่านั้นคือนักแข่งงอนกลับบ้านแม่งเลย เฮ้ยย โคตรงงเลย ยังแข่งไม่จบงานเลยนะ นี่แค่รุ่นของ Bric เองนะ ตัวเขาเป็นถึงนักแข่ง Class A แล้วด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าในรุ่น A ก็ไม่ลงแข่งด้วย !!!
   ดราม่าขั้นเทพอีกก็คือ ไปโพสระบายความรู้สึกในเฟซบุ๊คมีเหน็บกรรมการอีกด้วย โหห พี่นี่แม่งแมนสัสๆ เลย คนเขาลือกันผมก็เข้าไปอ่านบ้าง ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็เลือกที่จะไม่โต้ตอบอะไร
   แล้วก็มาแนวเดิม คือเจ้าของเฟซบุ๊คโพสอะไร ก็จะมีเพื่อนๆ เขามาแสดงความคิดเห็น ไอ้ตรงนี้แหละที่ผมโดนคนไม่รู้จักด่าเข้าให้ทั้งขโยง ฮ่าๆ กูไม่โกรธ แต่กูงง
   มึงแพ้ มึงสู้เขาไม่ได้ มึงไม่มีน้ำใจนักกีฬา มึงพาลอีกด้วย
   แต่หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วนะ แต่พวกเรากรรมการกลับยิ่งต้องละเอียดมากเป็นพิเศษ เผื่อมีพวกเกรียนๆ มาประท้วง จะได้ซัดมันกลับไปว่าที่มึงแพ้เพราะ 1 2 3 4 ดังนี้
   ดูนานๆ มากเข้า แม่งมึนครับ มึนสัสเลย บางคู่ดูสโลว์กันเป็นสิบ จนผมเกรงใจคนดูจะเบื่อน่ะครับ เพราะตอนที่ผมดูเทปซ้ำ การแข่งขันมันก็มันก็ต้องหยุดไปด้วยไง เอาแล้วสิมึง เกิดอาการ Death Air
   อ้อ มีอีกคู่ที่ดรามาแบบน่าประทับใจในความรู้สึกของผมคือคู่ของ “พี่แดง” กับ “N” สองคนนี้เป็นพ่อลูกกัน ต้องมาแข่งกันในรอบแพ้ชิงที่ 3 ชนะชิงที่ 1
   ผมเข้าใจความรู้สึกของพ่อดีว่าคิดอะไรในใจ ส่วนตัวลูกนี่ผมไม่กล้าเดาว่าเขาคิดอย่างไร แต่เด็กคนนี้ผมว่าฝีมือเขาพัฒนาขึ้นไปทุกวันๆ คนนี้ไงที่ผมเล่าว่ากลับไปสอบวันเสาร์เช้าแล้วรีบกลับมาควอลิฟายในวันเสาร์ ขับลองรถ 1 รอบ ก็ขับควอลิฟายเก็บคะแนนเลย แล้วก็ได้คะแนนนำมาเป็นที่ 1 ในรุ่นเลย สุดตีนมากๆ
   ดราม่าหนักตรงที่พ่อลูกฝีมือสูสีกันอีกด้วย ตัวพ่อคือ “พี่แดง” ก็ทำคะแนนได้ดีมากในรอบควอลิฟาย พอมาเจอกันในรอบ Battle ชิงที่ 1 นี่ทำเอากรรมการหนักใจ ถ้าไม่มีใครพลาดนี่กรรมการเหนื่อยมากเลยล่ะ
   แล้วก็เป็นดังคาด ทั้งสองคนผลัดกันนำ ผลัดกันตาม ทำได้ดีทั้งคู่ สุดท้ายลูก N เฉือนชนะพ่อนิดเดียว ได้เข้าชิงที่ 1 ส่วนพ่อก็เป็นการแพ้แบบภาคภูมิใจจริงๆ
   ตอนผมเห็นทั้งคู่จอดเตรียมออกตัว ผมแม่งน้ำตาจะไหลให้ได้ (แอบดราม่านิดๆ) ผมเป็นพ่อที่ทุ่มเทกับความฝันของลูกมากๆ เลยขอแอบอินหน่อย
   เล่าเพิ่มอีกนิดว่าน้อง N เข้าาชิงที่ 1 แต่มาแพ้เจ้า Dre ไปแบบฉิวเฉียด เขาก็แสดงสปิริตแบบผู้แพ้ ไม่เห็นต้องมาประท้วงเหี้ยห่าอะไรเหมือนไอ้นักแข่งคนที่ผมเล่านั้นเลย การที่ไม่มาเอง แถมส่งเมียมาคุยนี่มันทำให้การสื่อสารบานปลายไปกันใหญ่ เฮ้ออ กูล่ะโคตรงงเลย
   กีฬามอเตอร์สปอร์ทเขาวัดความแมน ไม่แมน กันตรงนี้ครับ
   
   อีกเรื่องที่ไม่เล่าไม่ได้ คือเรื่องของ “พี่วิชัย” ที่รถชนหนักเมื่อคืนวันเสาร์จนต้องถอนตัวจากงานแข่งไปรุ่นหนึ่ง มาวันนี้ผมเห็นพี่เขาซ้อมตอนกลางวัน เห็นแล้วถึงกับตะลึง เฮ้ยย แม่งมาได้ไง ชนแบบรถยับเลยนะ จนผมให้ไอเดียไปว่า พี่ใช้วิธีสลับของเอาดีกว่า เอารถสองคันที่ชนจนยับมารวมกันเป็นคันเดียว
   แต่ที่มาเห็นวันนี้คือรถเขาพร้อมแข่งทั้งสองคันอีกด้วย สุดตีนมากๆ พี่คนนี้มีเรื่องให้เซอร์ไพร์สเสมอ สนามก่อนเกียร์พัง ใช้ได้แค่เกียร์ 3 เกียร์เดียว ก็เอาชนะชาวบ้านเขามาตลอดตั้งแต่รอบ 8 คันสุดท้าย จนมาได้ที่ 1 หรือ 2 นี่แหละ ลืมละ แต่วันนี้เขาได้ที่ 3 ใน Class B ไม่ได้ชนะที่ 1 แต่ผมถึงว่าพี่เขาโคตรเท่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
   เรืองของพี่วิชัยยังไม่จบ สนามนี้โชว์สกิลเทพของพิทเซอร์วิสอีกด้วย รถพี่วิชัยนอทล้อขาด ล้อหลุดออกมาทั้งวง ตามกิตกามีให้ขอเวลานอกได้ 5 นาที แต่เวลาเพียงเท่านี้จะทำทันได้ไง ผมกับจอห์นก็นั่งคุยกันไป เล่าเรื่องโน่นนี่ ผ่านไป 5 นาที กำลังจะตัดสินให้แพ้ แต่แล้วรถพี่วิชัยก็เบิ้ลเครื่องเร่งเข้ามากริทสตาร์ท
   เฮ้ยย พี่ทำได้ไงวะ !!! นอทล้อเกลียวขาด 5 ตัว ก็ต้องตอกออก 5 ตัว แล้วก็ต้องหานอทล้อใหม่ (ใครจะสำรองมาวะ หรือจะถอดจากรถคันอื่นนี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่) ทำได้ทันใน 15 นาทีนี่ผมถือว่าเก่งมาแล้ว แต่นี่แค่ 5 นาทีเสร็จ !!!
   สุดตีนๆ ๆ ๆ
   ยังไม่พอนะ พอรอบชิงนี่พี่วิชัยมีดราม่าขั้นสูงสุดอีกครั้ง รถพังอีกแล้ว ไดชาร์ทเสีย แต่รอบนี้มีเวลาพักแค่ 1 นาที ผมล่ะเศร้าใจแทนพี่เขาจริงๆ เจอแต่อุปสรรค์ตลอดเลย นั่งคุยถ่วงเวลาไปเรื่อยจนครบ 1 นาที
   และแล้วก็เห็นไฟหน้าเขาติดขึ้นมา เฮ้ยย นี่แปลว่า …..
   เขาเปลียนไดชาร์ทในเวลา 1 นาที !!!
   เทพไปแล้วมั้ง
   มันเกิดขึ้นจริงครับ เป็นคู่แข่งนี่คงเสียขวัญแน่ พี่วิชัยและทีมงานทำผมโคตรประทับใจจริงๆ ครับ
   พี่วิชัยได้อันดับ 3 ใน Class B ครับ หายเหนื่อยกันเลยนะ เอาถ้วยรางวัลวางบนหลังคารถแล้วถ่ายเก็บไว้หลายๆ มุม ผมว่าไม่มีสนามไหนที่รถพี่จะยับได้ขนาดนี้แล้วแน่ๆ ก็มันยับที่สุดในงานเลยล่ะครับ
   ปิดงานด้วยการมอบรางวัล ผมจะยืนอยู่ดูร่วมแสดงความยินดีกับนักแข่งที่ได้รับรางวัลทุกท่าน แต่ท่านที่ไม่ได้รางวัลก็ไม่ต้องไปคิดเสียใจอะไรไปครับ เราแค่ต้องเรียนรู้มันให้มากขึ้น มองไปข้างหน้าเท่านั้น
   ดูอย่างพี่วิชัยสิครับ แข่งมาตั้งหลายปีจนอยากจะเลิกเพราะไม่เคยชนะเลยสักครั้ง แต่พอสนามที่แล้วเกียร์พังเหลือแค่เกียร์สามเกียร์เดียวยังชนะได้ถ้วย มาสนามนี้ถึงขั้นชนยับและพังแบบไม่น่ารอดแต่ก็ได้ถ้วยมาอีกเช่นกัน
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 02:40:15 pm
23 พย 58
   กลางคืนไผ่โทรมาขอยืมรถ ให้เอากุญแจไปฝากไว้ที่ล็อบบี้
   ตื่น 0600 ฟังจิ้งหรีดร้องจนเป็นเพื่อนกันแล้ว เพลียมาก หลับยาวรวดเดียว แต่เช้านี้จะไปไหนดีนะ ไม่มีรถแล้วสิ นั่งๆ นึกๆ ก็เปิดออกไประเบียงรับลมเย็น เห็นรถคาเยนของเราจอดอยู่ที่เดิม เฮ้ยย เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้เอารถเราไปหรือ เย้ๆ ๆ ๆ รีบวิ่งลงไปล็อบบนี้ด้านล่างจะขอกุญแจรถเอามาขับไปหาข้าวกิน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า มีคนมาเอาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
   อ้าว ถ้างั้นแสดงว่ามีคนเอารถไปใช้ และกลับมาจอดที่เดิม
   ฝันสลายเลยกู น่าจะฝากกุญแจไว้สักหน่อยนะ ผมขับไปกินข้าวแล้วก็เอามาคืนก็ได้ เพราะตลอดช่วงเช้าจนถึง 1100 ผมเห็นรถจอดที่เดิมตลอดเวลาเลย มีคนเอาไปใช้หลัง 1100 เสียดายๆ ๆ ๆ
   ฝั่งตรงข้ามที่พักมี 7-11 ครับ แต่เมื่อวานก็เอาขนมที่ตุนไว้เหลือจากสนามกลับมาเพียบ มีขนมปังช้อคโกแลต 2 แผ่น จัดไปขำขำ ไม่เคยกินแบบนี้เป็นมื้อเช้าเลยนะนั่น เน้นดื่มน้ำเยอะๆ ตาม มันก็พออยู่ได้เหมือนกันนะ ถ้ายังหิวก็มีถั่วอีกถุง
   มีไอแพดเป็นเพื่อนก็เล่นกันไปครับ อ้อ ตอนนี้ผมมีเพื่อนในเฟซบุ๊ค 400 กว่าคนแล้วนะ จากเดิมมีร้อยกว่าๆ (มีเฉพาะเพื่อนนักเรียน) พอเป็นกรรมการแข่งรถนี่มีเพื่อนเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว ผมรับหมดนะ เจ้า M Dre นุ เก่ง อาร์ต ฯลฯ เพื่อนจักรยานก็มาอีกขโยงทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ไปขี่กลุ่มกับใครที่ไหนเขาเลย
   การสื่อสารนี่ทำให้คลายเหงาไปได้เยอะมากเลยนะ ทำคนไกลให้เป็นคนใกล้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำคนใกล้ให้เป็นคนไกลได้ง่ายๆ
   ใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้านบวกเท่านั้นครับมันจึงเกิดประโยชน์สูงสุด ผมเพิ่งจะใช้ไลน์มาเกือบสองปี ใช้เฟซบุ๊คก่อนหน้านั้นราว 1 ปี ใช้ด้วยความไม่อยากใช้ แต่เป็นเพราะคนรอบตัวเขาใช้ส่งข่าวกัน มันก็ต้องเลยตามเลย เช่น ผู้ปกครองในห้องของลูก เขาส่งข่าวกันทางไลน์ ทางโรงเรียนแจ้งข่าวทางเฟซบุ๊ค
   นัดกับปอว่าจะมารับผมที่ล็อบบี้ด้านล่าง 1130 แต่กลายเป็นไผ่อาสาไปส่งแทน เพราะปอไปส่งจอห์น อ้าว ทำไมไม่มาคันเดียวกันเลยล่ะ หรือว่าเกรงใจว่าพวกเราจะต้องนั่งอัดกันมา
   สนามบินเล็กๆ ขากลับนี้มีแต่พวกนักแข่งรถและทีมงานทั้งนั้นเลย เป็นพวกเราราว 20% ได้มั้ง ก็สนุกดีครับ ปกติผมไปไหนมาไหนคนเดียวไง ไม่ค่อยมีความรู้สึกเป็นกลุ่มก้อน
   ใช้เวลาราว 1 ชม ก็ถึงกรุงเทพฯ บนเครื่องผมนั่งกับชายชาวอังกฤษที่ไปอยู่สเปน และชอบมาเที่ยวไทย เขามาหลายครั้งแล้ว ก็เล่าให้ผมฟังว่าไปโน่นมา นี่มา หลายแห่งนี่ผมยังไม่เคยไปด้วยซ้ำ ก็ดีเหมือนกัน ได้ฝึกภาษาบ้างเล็กๆ น้อยๆ เขาสั่งไก่อบมากิน แต่พอกินหมดแล้วบอกว่ามันเย็นชืด ไม่อร่อย ไม่เอาอีกแล้ว พูดพลางเปิดเมนูชี้ให้ผมดู ราวกับจะให้ผมเมมไว้
   ออกจากสนามบิน ผมขึ้นไปชั้น 3 (จากเดิมอยู่ชั้น 1) เพื่อไปเรียกแท็กซี่ ที่ต้องขึ้นไปก็เพราะจะได้เจอแท็กซี่ตัวจริง เข็ดขยาดกับแท็กซี่โจรที่อยู่ตามสนามบิน
   อีก 1 ชม ถัดมาก็มาถึงบ้าน อาบน้ำ เปลี่ยนชุด เล่นกับหมา แล้วก็ทำงานเขียนต่อเลย โดยเฉพาะไดอารี่ชีวิตอันนี้


- ภาพห้องทำงานของผมเองครับ
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 02:53:05 pm
24 พย 58
   เข้าโหมดสุขภาพ ผัดผักบุ้ง ปลาสลิดทอด (ซื้อแบบทอดมาแล้ว – กรอบแข็ง แต่ไม่หอม) ไข่ต้ม กินของห่วยๆ มา 4 วัน เห็นพวกทีมงานเขากินแล้วถ่ายมาลงเฟซบุ๊คก็แอบอิจฉาเหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมื้อดึก ผมไม่ถนัดแนวนี้
   ได้ฤกษ์ไปทำงานเสียที หนีมา 4 วัน มาถึงก็ไปยกของที่โกดังทันที

   กลางวันรถติดโคตร ร้านผมอยู่ใกล้สะพานพุทธด้วยไง มีคนต้องการไปปากคลองตลาดเพื่อซื้ออุปกรณ์ทำกระทงกันมากมาย บ้างก็ไปซื้อแบบสำเร็จรูป พรุ่งนี้แล้วสินะคือวันลอยกระทง
   ผมไม่ได้ต่อต้านอะไรหรอก แต่ไม่อยากสร้างขยะ ผมใช้ชีวิตอยู่กับน้ำมาตั้งแต่สมัยเล่นเรือใบตอนเด็ก จนมาตอนนี้อยากจะเล่นคายัคอีก มันก็ยิ่งใกล้ชิดสายน้ำเข้าไปใหญ่ ไม่เคยแม้แต่จะทิ้งขยะสักชิ้น แต่ก็ยอมรับว่าปัสสาวะลงน้ำบ้างเหมือนกัน ซึ่งผมจะต้องขอขมาก่อนเสียทุกครั้ง แต่วันลอยกระทงนี้เหมือนเป็นประเพณีที่ให้คนมาร่วมขอขมาไปพร้อมๆ กัน จนกลายเป็นอีเวนท์ทำเงินระดับโลกกันไปแล้ว
   อยู่ในเมือง ไม่อยากให้พลาดภูเขาทองครับ สวย คลาสสิค และฮาจากบ้านผีที่มักจะมีเด็กกลุ่มศิลปากรมาจัดกิจกรรม
   คลองโอ่งอ่างเพิ่งจะเคลียร์ “สะพานเหล็ก” เปิดให้เห็นสายน้ำสวยๆ แบบคุณต้องตะลึงกันไปเลย ยังกะคลอง “ซองเกชอน” ของเกาหลี
   เอเชียทีคก็สุดยอดทำเลทอง สวยแบบไม่เกรงใจใครเลย ขนาดคอนโดผมเล็กๆ ยังจัดลอยกระทงกับเขาเลยก็แล้วกัน
   ทำเลริมแม่น้ำต่างจัดกิจกรรมกันหมด เรือท่องเที่ยวนี่ต้องแน่นกันทุกลำครับ
   กลางคืนซ้อม Uke และอ่านหนังสือ
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 02:54:35 pm
25 พย 58
   วันลอยกระทง ประเพณีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติรองจากสงกรานต์ ผมว่าไทยเราแม่งเจ๋งดีนะ ทั้งที่ลาว กัมพูชา ต่างมีสงกรานต์ และลอยกระทงเหมือนกัน แต่ของเขากลับไม่มีใครสนใจสักนิด
   เป็นอีกวันที่เหนื่อยผสมเบื่อ ผมอยู่ร้านขายของนี้ตลอดวัน
   กลับมาบ้านอย่างหิวโหย เจอหาอาหารเพียบ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ขนมจีน หมูสะเต๊ะ กล้วยบวดชี หึหึ จัดไป แถมปิดท้ายด้วย kit kat อีกชิ้น ไม่ได้กินมื้อเย็นอย่างเป็นทางการมานานมาก
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 02:57:26 pm
26 พย 58
   ตื่นเช้าแบบสายหน่อย 0530 ขี่จักรยานออกไปซื้อโจ๊กให้มิว ไข่ลวก 1 ฟอง พร้อม ปาท่องโก๋ 2 ตัว ให้เขากินในรถ ไม่งั้นไปโรงเรียนมีแต่กินของห่วยๆ
   ช่วงนี้เปลี่ยนเป็นออกกำลังกายตอนบ่ายบ้าง เช้าเลยแค่ขี่จักรยานบ้าง ซ้อม Uke บ้าง
   เช้านี้กินเนื้อปลาทอดกับยำมะม่วง ไข่ต้ม ข้าวกล้อง โหระพาสด และผักสดอีกอย่าง ไม่รู้ชื่อมัน
   เช้าเข้าโกดังยกของเหมือนเดิม ยกแม่งทุกวัน ช่วงเข้าฟิตเนสนี่ผมออกกำลังเสริมกล้ามเนื้อด้านหลังเยอะมาก มาสู้กับไอ้การที่ต้องมายกของนี่แหละวะ
   ตอนสายกินองุ่นไปกล่องใหญ่ เป็นองุ่นแบบไม่มีเมล็ด กินง่ายหน่อย แป๊บเดียวหมดเกลี้ยงเลย
   กลางวันไปธุระสองธนาคาร บ่ายมีเวลารีบไปยิมทันที ไม่ได้เข้ามา 7 วันเต็ม กลับจากบุรีรัมย์มาน้ำหนักขึ้นเล็กน้อย เพราะกินแต่ของห่วยๆ ตลอด 4 วัน มีดีหน่อยก็ตรงมื้อเช้าที่ออกไปหากินเอง ถ้าอยู่สนามล่ะก็ มีแต่ข้าวกล่องโฟม ซึ่งสองวันนี้มันคือข้าวมันไก่ และข้าวมันไก่ทอด ยังดีนะที่ผมกินแต่น้ำเปล่าตลอด 4 วัน แม้ Est Cola จะกินฟรีตลอดไม่อั้น ผมยังไม่แตะสักนิด เจ้า “น้องเมย์” หวังดี ออกไปข้างนอกซื้อชาเย็น กาแฟนเย็น มาฝาก ผมก็ยังไม่เอา
   เดินเร็วบนลู่ ปรับความชันสูงสุด 12% เดินเร็วเต็ม 1 ชม เผาไป 450 Kcal เหงื่อออกเพียบ ตอนอยู่บนลู่วิ่ง มีสองสาวมาวิ่งขนาบข้าง เราก็งงว่าทำไมเขาไม่ไปวิ่งคู่กัน ลู่วิ่งมันก็มีเหลือเฟือ วิ่งกันไปแล้วก็ตะโกนคุยกันผ่านหน้าเรา (ทั้งคู่ต่างใจหูฟัง คงจะฟังเพลง)
   ก็เลยได้ฟังภาษาผู้หญิงคุยกันอย่างใกล้ชิด ราวกับอยู่ในเหตุการณ์ เธอคุยกันเหมือนกับผมแม่งไม่มีตัวตนเลยน่ะ ผมล่ะต่อต้านพวกผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ในฟิตเนสจริงๆ แม่งทำเราเสียสมาธิสุดๆ ต้องเอาธรรมะเข้าช่วยถึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
   อยู่ในฟิตเนสสองชั่วโมงกว่า กลับมาบ้านหิวโหย ไม่มีอาหารอะไรเลยสักอย่าง เลยเปิดน้ำมะเขือเทศกระป๋องละ 500 CC กิน แกล้มกับปลาสลิดทอด (สำเร็จรูป) เผือกเส้นทอด
   ว่างเล็กน้อยเปิดคอมบันทึกไออารีชีวิตต่อ
   Bird SK แอทผมมาในเฟซบุ๊ค เลยได้โอกาสสอบถามถึง “พี่แดง” นักแข่งในทีมที่ชนหนักจนต้องออกจากการแข่งขัน ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนะ แต่รู้สึกเจ็บขา ทางสนามบุรีรัมย์เลยส่งไปเอกซ์เรย์ ทราบในวันนั้นว่าปลอดภัยดี ไม่มีอะไร
   แต่วันนี้เจอเบิร์ด ก็เลยสอบถามโดยตรงอีกครั้ง เบิร์ดตอบกลับมาว่าพี่แดงไม่เป็นไร และทีมเขาพร้อมสู้ตลอด
   บ๊ะ มันต้องอย่างนี้ๆ ทีมนี้เขามีกันหลายคัน แต่ผมจำไม่ได้สักคัน เพราะทุกคันสีเดียวกันหมด และแต่งเหมือนๆ กันหมด เด่นที่มีครีบฉลามบนหลังคา เห็นรถน่ะรู้ว่าเป็นของทีมนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าใครขับ
   นี่ผมเป็นกรรมการมาจะสองปีเต็มแล้วนะ ผมจำนักแข่งได้ไม่กีคนเองว่ะ ฮ่าๆ ตอนให้คะแนนก็ยังมีเรียกผิดเรียกถูก จนผมต้องเรียกว่า “คันนำ” และ “คันตาม”
   แชทคุยกันสักพัก เบิร์ดให้กำลังใจผมในการเป็นกรรมการ อ่านแล้วอมยิ้มลืมเหนื่อยเลย ขอบคุณมากครับน้องชาย
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 02:59:52 pm
27 พย 58
   กายบริหารนิดหน่อยแล้วก็ออกไปทำงาน อยู่ร้านเช้าจรดเย็น
   เป็นอีกวันที่ไม่มีอะไรพิเศษสักนิด
   กลางคืนมิวกลับมาชวนดูเดี่ยว 11 อืมม ผมว่ามุขเริ่มห่วยตรงมีมุข “สกปรก” และ “มุขต่ำ” รวมถึงมุขตอนไป “ยะลา” และมุขที่ “ทุเรศ” สุดก็คือเรื่องเสียงแตรของรถ
   ให้คะแนนแผ่นนี้เป็น 0 ครับ ไม่ต้องไปซื้อ ถ้าเสี้ยนอยากดูจริงๆ ไว้รอคนเอาปล่อยใน youtube แทน 
   ยุคตำต่ำของอุดมได้มาถึงแล้วหรือนี่
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 03:01:16 pm
28 พย 58
   เช้าซ้อมควงไม้พายเรือ (ที่จริงคือท่อเอสลอน) ยังไม่มีเรือก็ซ้อมท่าพายมันเข้าไป ควงไปควงมามันออกไปแนวการควงกระบองไฟไปเสียนี่
   บ่ายไปธนาคาร แล้วเลยไปยิมต่อ เดินเร็วบนลู่วิ่งความชัน 12% เป็นเวลา 1 ชม เผาไปเกือบๆ 400 Kcal ตามด้วยเวทนิดหน่อย
   เวทนี่เป็นตัวช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อและกระดูก แต่เดินเร็วและวิ่งจะเผาผลาญไขมันได้ดีกว่า ถ้าอยากผอมเร็วผมแนะนำให้วิ่ง แต่ถ้าอยากแข็งแรงโดยรวมก็ต้องเอามันทั้งสองอย่าง นี่ยังไม่นับเรื่องการทำสมาธิด้วยนะ
   วันนี้อยู่ยิมนานถึง 3 ชม กลับบ้านเอาค่ำเลย ถึงกับต้องเปิดไฟหน้า
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 03:03:37 pm
29 พย 58
   วิ่งวอร์ม 30 นาที วิ่ง interval อีก 30 นาที เดิน cool down 10 นาที เหนื่อยเหี้ยๆ แดดแรงฉิบเป๋ง กะจะวิ่ง 2 ชม เลยทำได้แค่นี้ ร้อนมาก แสบผิวไม่สนุกแล้ว
   แต่เอ๊ะ ตอนมึงจะไปเล่นเรือนี่มันร้อนกว่านี้เยอะนี่นา ยังไงก็ต้องเตรียมใจไหม้ไว้ได้เลยนะ
   แวะซื้อน้ำพักข้าว และขนมจีนเวียดนาม กลับมากินที่บ้าน รีบอาบน้ำแล้วลงมากิน เจอแม่ซื้อต้มเลือดหมูมาฝาก อ้าว เลยจัดของแม่ไปก่อน กินข้าวน้อยๆ แล้วตามด้วยขนมจีนเวียดนาม แต่ก็กินแบบเน้นผัก เหลือเส้นขนมจีนไว้เพียบ ปิดท้ายด้วยซาลาเปาไส้หมูแดง 2 ลูก กินแบบเน้นไส้ เหลือแป้งรอบนอกเอาไว้
เจอคนนำภาพงาน Boat Show ที่พัทยามา คนอื่นสนใจแต่คายัค แต่ผมแม่งปรี๊ดแตกเมื่อเห็นเรือใบลำที่เราอยากได้ มันคือ Hobie Bravo แถมราคา 1.6 แสน โหหห เฮ้ยยยย จะเอาๆ ๆ ๆ
   ซื้อแล้วเอาลงน้ำแล้วแล่นไปจอดที่บ้านระยองซะเลยนี่
   ถ้าบ้านตัวเองก็จัดไปแล้วแน่ๆ แต่ที่จริงมันคือบ้านของพี่สาวน่ะสิ แถมเอาเรือใบไปฝากจอด ก็ต้องใช้พื้นที่พอๆ กับรถยนต์คันหนึ่งกันเลย เพียงแต่ไอ้นี่พอจะเข็นโยกย้ายได้สะดวกกว่าหน่อย
   เกรงใจก็เกรงนะ แต่เห็นเรือราคานี้แล้วผมแม่งนั่งไม่ติดเลยว่ะ จะว่าไปแล้ว ผมอยากได้มันมากกว่า Mazda MX5 ตัวใหม่เสียอีกนะ
   แต่ในโลกแห่งความจริงแล้ว ผมจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ ปีหนึ่งจะได้เล่นสักกี่ครั้ง แถมสำคัญสุดคือผมต้องเก็บเงินเอาไว้ให้มิวเรียนนักบินตามที่เขาใฝ่ฝัน
   มิวต้องทำตามความฝันของเขาให้สำเร็จ ฝันของผมมันเจ๊ง มันพัง มันไม่เคยไปถึงไหน แต่สิ่งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นกับลูกผม
   กลางวันกินซาลาเปา 3 ลูก กินแต่ไส้ ถั่วอบ 1 ถุง ป็อกกี้อีกกล่อง อันหลังนี้ของแถม ฮ่าๆ
   ได้ฤกษ์บันทึกไดอารี่ชีวิตต่อ แต่ก็ติดค้างยังไม่ได้อัปโหลดขึ้นเวปอีกเยอะ เพราะยังเล่าบรรยากาศงานแข่งไม่จบนี่แหละ
   ตลอดวันนี้ใจผมคิดถึงแต่ไอ้เรือ Hobie Bravo และคงจะคิดถึงมันไปอีกหลายวัน
Title: Re: พย 58 15 a day bike fest 19-22 Drift Comp สนาม 3 บุรีรัมย์
Post by: O'Pern on December 06, 2015, 03:05:12 pm
30 พย 58
   ขี่จักรยาน 1 ชม นอนหัวค่ำก็จะตื่นได้เช้า ทำให้มีเวลาเหลือมมาก
   ทำงานตามปกติ บ่ายไปฟิตเนส นี่ผมไปบ่อยมากๆ แล้วนะ วันนี้อยู่จนค่ำ มีเดินเร็วด้วยน่ะ ก็เลยบวกเวลาเพิ่มไปอีก 1 ชม