ฝนตก ถนนลื่น ระยะเบรกจะยาวขึ้น ลูกจะกดเบรกเต็มแรงกระทันหันเหมือนตอนขับถนนแห้งไม่ได้ ไม่เชิงไม่ได้หรอก กดน่ะได้ แต่กดแล้วโอกาสรถหมุน ลื่นไถล มีสูงมาก
ฝนปรอย ฝนเพิ่งเริ่มตก
- ช่วงนี้ถนนจะเริ่มเปียกมากขึ้นทีละน้อยๆ น้ำเมื่อมาเจอกับฝุ่นบนผิวถนนก็จะมีลักษณะคล้ายเลน ลื่นดีชมัด
ฝนปรอย ตกมาสักพักแล้ว
- ถนนจะลื่นน้อยลงกว่าตอนมีเลน แต่ก็ยังลื่นอยู่ดี เพราะเลนมันไม่ได้ไปไหน ยังคงอยู่บนผิวถนน เพียงแต่มีน้ำเข้ามาผสมมากหน่อย
ฝนตกกลางๆ
- ถ้าต้องขับเลนซ้าย ให้ลดความเร็วลงให้มาก น้ำที่ท่วมขังขอบถนนจะกระเด็นไปโดนคนเดินเท้า ลำพังปกติเขาก็เดินยากอยู่แล้ว อย่าให้เขาต้องมาคอยหลบน้ำที่มาจากล้อรถเราอีกเลย
ฝนตกหนัก
- เจอกลางวันยังพอไหว กลางคืนนี่ถือว่างานเข้า เพราะประสิทธิภาพสายตาของผู้ขับแต่ละคนไม่เท่ากัน ทำให้การตัดสินใจแตกต่างกันออกไป ขับแบบต้องเผื่อเอาไว้ให้มากๆ และถ้าหนักจนปัดน้ำฝนเอาไม่อยู่ก็ยิ่งต้องระวังขั้นสูงสุด หรือจะแวะพักจอดรถเลยก็ไม่เลวนะ
ยางใครดีใครห่วยวัดกันตอนเบรกแรงๆ ตอนถนนเปียกนี่แหละครับ แต่ก็ใช่ว่ายางห่วยแล้วจะต้องชนเสมอไปนะ ถ้าเรารู้ว่ารถเรายางห่วย เราก็อย่าขับเร็ว อย่าไปจี้ท้ายคันหน้ามาก จะได้มีระยะเบรกเพียงพอ
อย่าขับตามหลังรถมอเตอร์ไซค์ ยางเขาจะดีดน้ำใส่กระจกรถเราตลอดเวลา ถ้าขับๆ อยู่แล้วเจอรถมอเตอร์ไซค์มาแทก ก็ยกคันเร่งทิ้งระยะห่างเพิ่มเท่านั้น ไม่ต้องเบรก ไม่ต้องเปลี่ยนเลนหลบ
ผิวถนนที่เป็นลอนคลื่นจะเป็นจุดที่ลื่นที่สุด
เลนขอบทางซ้ายมือสุดและไหล่ทางจะมีเศษนอท แก้ว ของมีคม มันโดนพัดพามาจากน้ำบนท้องถนนและไหล่มารวมกองกันไว้
อย่าขับไหล่ทาง โดยเฉพาะที่มีน้ำท่วมขัง ลูกไม่รู้ว่าหลุมมันลึกและใหญ่ขนาดไหน
อันตรายร้ายกว่านั้นคือเจอพายุพัดแล้วเสาไฟฟ้าล้ม ต้นไม้ล้ม ป้ายโฆษณาปลิว จงใช้ทักษะการช่างสังเกตของลูกเอาตัวรอดมาให้ได้