พค 55

[O'Pern]

1 พค 55 วันแรงงานแห่งชาติ
   เป็นอันว่างานสถาปนิก 55 ที่อยากไปก็อดไป ชวนลูกไปด้วย แต่เขาบอกไม่ชอบ จะทิ้งเขาไปก็กระไรอยู่ เป็นอีกหนึงงานเสียสละเล็กๆ น้อยๆ
   นี่เป็นวันหยุดของหลายคน แต่ไม่ใช่ร้านผม แม้จะใช้แรงงาน แต่ก็ไม่ได้หยุด ทางร้านจะให้เงินเพิ่มพิเศษแทน รูปแบบงานก็ยังคงเหมือนเดิมเป๊ะ ย้อนไปสิบปีที่แล้วก็เหมือนแบบนี้ ให้ย้อนอีก 20 – 30 ปีก็ยังคงเป็นแบบนี้ และต่อให้อนาคตอีก 10 ปี ผมว่ามันก็ต้องยังคงเป็นแบบนี้
   แน่ล่ะ ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ คิดอยู่เสมอว่าจะหาทางออกให้ชีวิตอย่างไรดี หนึ่งก็เป็นการช่วยเหลือครอบครัว ช่วยเหลือพ่อแม่ แต่อีกหนึ่งมันก็ยิ่งห่างไกลกับความฝันของเราออกไปมากขึ้นทุกทีๆ แต่ที่หนักสุดคือสุขภาพผมนับวันยิ่งจะแย่ลง จากเดิมผมขี่จักรยานได้สุดโหดมาก ลากยาว 280 กม บรรทุกของหนัก 15 กก ขี่ตลอด 17 ชม จนมายกของจนหลังเจ็บเข้า ทุกวันนี้แค่นขี่ได้ 70 กม ก็เก่งแล้ว
   บ่ายเข้าไปคอนโด มีญาติอยากจะซื้อคอนโดที่นี่ เลยให้ผมช่วยดูให้หน่อย ก็จัดไปครับ แค่ช่วยให้ความคิดเห็น จุดไหนด้อยอย่างไร ควรปรับปรุงตรงไหน แต่ดูแล้วเขาชอบห้องพักอันนี้เสียแล้ว ก็เลยไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรมากนัก ก็ใจเขาไปแล้วนี่นา

[O'Pern]

2 พค 55
   เป็นวันสาหัสอีกวันของผม ยกของจนเสื้อชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งเกิดจากความเหนื่อย และความร้อน เล่นจนเสื้อเปียกและแห้งไป 5 รอบ กลับมาถึงบ้านสามทุ่มกว่ากางเกงในยังขึ้นเป็นคราบขี้เกลือ สุดยอดจริงๆ

[O'Pern]

3 พค 55
   เช้านี้เย็นกว่าวันก่อนๆ เยอะเลย เมื่อวานตอนบ่ายมีข่าวฝนตกหลายจุดรอบๆ กทม คลายร้อนไปได้มาก ตั้งแต่ร้อนจัดมานี่ผมสังเกตุดูเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นเร็วกว่าเมื่อก่อนนะ ตีห้าครึ่งก็เห็นแสงขอบฟ้าแล้ว หกโมงนี่สว่างโร่เลย อีกสิบนาทีถัดมาแดดเริ่มออก ใช่เลย เริ่มร้อนอีกแล้ว
   วันนี้แต่งชุดลุยเลอะเต็มที่ (ชุดเก่า และขาด) ไม่รู้จะได้เจออะไรแปลกๆ อีกไม อย่างวันก่อนก็ให้ผมไปเช็คน้ำมันเครื่อง น้ำกลั่นแบตเตอรี่ น้ำหม้อน้ำ งงสิ อ้าว คนขับรถเขาต้องดูแลรถที่ตัวเองขับมิใช่หรือ
   บ้านผมมีแนวความคิดแปลกและแตกต่างครับ หลายอย่างผมเห็นแล้วขัดตา แต่แสดงความคิดเห็นไปก็หาทางออกไม่ได้ สุดท้ายจบลงด้วยเราโต้เถียงกันเอง เจ็บแล้วต้องจำ ผมเลยพยายามไม่ให้เกิดบรรยากาศแบบนั้นอีก ทางออกคือใครใช้อะไรเราก็ทำไปซะ มันจะได้จบๆ กันไป
   กลับเข้ามาบ้านตอนเย็น หิวจัด ซัดกล้วยน้ำว้าอบไป 4 ผล คือกล้วยมันสุกเร็ว และเรากินไม่ทันน่ะครับ ปล่อยทิ้งไว้ก็มีแต่จะเน่าเสีย เลยจัดการจับเข้าเตาอบซะ อิ่มแบบสบายๆ เลยหาขนมขบเคี้ยวที่เหลือๆ ตามก้นขวดโหลเก็บกินให้หมด อืมม อิ่มสบายท้อง
   อีกแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ มีโทรศัพท์เข้ามา ตกใจสิ เขาพูดภาษาอังกฤษใส่ อ้อ เป็นเพื่อนสิงคโปร์นี่เอง มาถึงกรุงเทพฯแล้ว และจะยกขโยงมากินมื้อเย็นกันที่แถวบางขุนเทียนชายทะเลอีกด้วย ผมรีบตอบตกลงแบบไม่ลังเล
   ถึงร้าน “ครัวลุงแถม” บรรยากาศร้านแถวนี้คล้ายๆ กันหมด อาหารก็มาจากแหล่งเดียวกันคือทะเลมหาชัย จุดแข็งที่ต้องแข่งกันก็คือรสชาติของน้ำจิ้ม และความสดของอาหาร แต่ร้านครัวลุงแถมนี้อยู่ในซอยแยกเข้าไปอีก หายากหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยมา ร้านนี้เด่นที่ราคาไม่แพง กินกันเต็มโต๊ะไปกัน 8 คน ค่าอาหาร 1400 บาท
   ผมอิ่มจากบ้านมาแล้ว พอมาเจออาหารวางเรียงรายก็เลยขอจัดบ้าง ตักข้าวผัดปูใส่จานกินไปคุยกันไป เขามากัน 3 คน พรุ่งนี้จะออกเดินทางไปพะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตะลอนเที่ยวแถวนั้นอยู่สัก 5 วัน แล้วค่อยกลับลงมากรุงเทพฯ
   โห เห็นตารางทริปแล้วน่าอิจฉาจริงๆ ถ้าลางานได้นี่อยากไปด้วยนะ เขาจะขี่ขึ้นอินทนนท์กันด้วย อยากไปๆ ๆ ๆ
   เฮ้ยๆ อย่าฝันๆ เอ็งต้องไปยกของ เฝ้าของ ขับรถส่งของโน่น

[O'Pern]

4 พค 55
   ศุกร์อีกแล้ว ลูกน้องในบริษัทห้างร้านอื่นจะดีใจมาก เพราะได้หยุดเสาร์ อาทิตย์ แถมจันทร์อีกวัน หยุดชดเชยวันฉัตรมงคลในวันเสาร์ที่ 5 ร้านผมไม่หยุดหรอก ขนาดวันแรงงานยังต้องใช้แรงงานอยู่เลย
   โปรเจคลดน้ำหนักที่เริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป ดูเหมือนจะไร้ค่า เมื่อวานเพื่อนสิงคโปร์เอาของมาฝากเป็นช็อคโกแลต 2 กล่องใหญ่ และน้ำหอมอีกขวด เขาบอกเห็นมันถูกดี ซื้อในสนามบินชางฮี ยังได้ลดอีก 50% โห ถูกเว่อร์จริงๆ ปกติก็ถูกกว่าไทยอยู่แล้ว ในไทยขาย 2300 – 2500 ที่โน่นจะราคาประมาณ 1500 – 1700 ยิ่งถ้าได้ลด 50% ผมว่าขวดละไม่ถึงพันบาท แหม น่ากวาดเอามาขายจริงๆ
   ภารกิจประจำวันยามเช้าคือการเข้าโกดังไปขนสินค้าออกมาไว้ที่หน้าร้านขายของ ก็แปลว่าต้องเสียเหงื่อแต่เช้า จนไม่อยากจะทาครีมกันแดดเลย มันโดนเหงื่อแล้วแสบตามาก ทำให้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าดีๆ กับเขาไม่ได้หรอก เน้นเก่าขาดเข้าไว้จะเป็นการดี
   
   เข้ามาบ้านตอนเย็น เจอกับลังพัสดุทำด้วยไม้ ยกดูแล้วมันหนักใช่ย่อย ระบุที่มาจากต่างประเทศ ของพ่อแน่ๆ เลย

[O'Pern]

5-5-55
   วันเลขสวยแห่งปี แต่ปีนี้มีอีกวันก็คือ 12-12-12 ย้อนหลังไปสิบกว่าปี ตอน Racing Club วางแผงวันแรก ผมเลือกวัน 9-9-99 เช้าวันนั้นทำบุญตักบาตร สายพาภรรยาไปจดทะเบียนสมรส กลางวันเดินสำรวจแผงหนังสือ ถึงกับร้องโอ้โห ดังๆ ในใจ เพราะนิตยสารของเราโดดเด่นมากที่สุดบนแผง ไม่ฉีกแนว เรียกว่าใครที่เล่นรถและชอบอ่านหนังสือ เห็นแล้วไม่หยิบเป็นไม่มี นำซ้ำเล่มแรกยังมี Autocross Hand Book แถมอีกด้วย
   ก็ต้องยกคุณความดีให้กับที่มงานผู้ผลิตด้วยนะครับ ตัวผมเองดูแลแค่เนื้อหาและดีไซน์ในภาพรวม ลายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดเป็นฝีมือของทีมงานนิตยสาร Thai Driver ที่มีพี่บอย วรพล สิงห์เขียวพงษ์ช่วยหนุนหลังให้ และยังมีทีมฝ่ายศิลป์ชื่อ ชาย เลื่อมใส (ทุกวันนี้ไปทำงานที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ผมชอบไอ้หมอนี่มาก สั่งงานแล้วได้เกินกว่าที่ใจคิด ถ้าคิดจะทำงานหนังสืออีก ผมก็จะอยากได้คนแบบนี้แหละมาร่วมงาน)
   Racing Club หยุดพักการผลิตไปนานแล้ว ส่วน Thai Driver ก็เพิ่งจะไปอยู่กับค่าย Inspire เมื่อสองเดือนที่แล้ว พี่บอย วรพล ไปคุม Option แทน ส่วนพี่แมน ทัศไน ก็ย้ายจาก Option ไปคุม Best Car แทน ส่วน O’Pern ฉีกแนวหน่อย ไปทำงานที่ร้านขายของโชว์ห่วยแบบค้าส่ง คนอื่นเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก แต่ผมได้ทำงานแบบใช้กำลัง
   ใจยังชอบรถยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจ เรียกว่าถึงจุดที่ไม่กล้าฝันต่อไปอีกแล้ว
   วันนี้มีประชุมที่คอนโด ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ตลอดวันนี้ผมทำงานอยู่ที่ร้านขายของ กลับถึงบ้านสี่ทุ่มครึ่ง อาบน้ำเข้านอนตอนห้าทุ่ม
                คิดถึงอนาคตตัวเองสัก 1 นาที มองไม่เห็นวี่แววของความเปลี่ยนแปลงสักนิด

[O'Pern]

6 พค 55
   ใจตื่น แต่ลืมตาไม่ขึ้น เพลีย ล้า หมดแรง ความคิดที่จะไปขี่จักรยานให้ผ่อนคลาย คงจะทำไม่ได้ทำเสียแล้ว มันเหมือนหมดไฟ เบื่อหน่าย แต่ยังไม่ถึงกับหงุดหงิด อารมณ์ฉุนเฉียว ถ้าเป็นแบบนั้นก็คือเข้าใกล้วัยทองเต็มตัว
   หลายปีมานี้ผมคิดถึงเรื่องอนาคตตัวเองเยอะมาก คิดรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ๆ ออกมา คิดโครงสร้างการทำงานใหม่ๆ ออกมาได้หลายรูปแบบ แน่ล่ะ ผมยึดตัวเองเป็นหลัก ใครจะว่าเผด็จการก็ช่าง ผมขอเอาข้อดีของเผด็จการมาใช้ นั่นคือ รวดเร็ว ว่องไง ง่าย สะดวก เห็นผลชัดเจน
   โครงสร้างธุรกิจของผมจะต้องเป็นงานที่ทำเงินได้ตลอด 24 ชม ผมมองข้ามงานแบบมนุษย์เงินเดือนไปเลย งานแบบนี้ไม่เคยอยู่ในสมองสักนิด (แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ข้อดีก็มีเยอะ เพียงแต่ไม่เหมาะกับตัวผมเท่านั้นเอง) 
   ถ้าเราเน้นเงินเป็นหลัก ก็ต้องหาธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูง ใช่เลย ยาม้า ยาบ้าถึงได้เกลื่อนเมืองไง เพราะมีผลตอบแทนสูงมาก แต่พวกเขามองข้ามเรื่องความเสี่ยงไปเสียนี่ แถมยังผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย มีแนวโน้มว่าชีวิตบั้นปลายจะต้องอยู่ในกรง แบบนี้ก็ต้องตัดออกไป บวกลบกับความเสี่ยงแล้วไม่ผ่าน
   ธุรกิจใดอีกเล่าที่ให้ผลตอบแทนสูง และทำเงินได้ 24 ชม มีอีกเยอะมากเลยครับ มีทั้งแบบเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย และแทบจะไม่เสี่ยง แต่ล่ะ High Risk = High Return ฉะนั้น ก็เลยมีคนชอบมาลุ้นตัวโก่งกันในโลกของตลาดหุ้น และตลาดทองคำ
   ยังมีธุรกิจอีกมากมาย เอาแบบ Low Risk ก็มี เช่นธุรกิจขายตรง เน้นสร้างเครือข่าย ไม่ได้เน้นขายของจริงจังหรอก หา Down Line เก่งๆ สร้างเครือข่ายเยอะๆ ก็ทำเงินให้เราได้มากแล้ว (ถ้าขายสินค้าได้ด้วย ก็ถือว่าเป็นโบนัส)
   ธุรกิจทำเงิน 24 ชม แบบ No Risk ก็มี เช่นธุรกิจแฟรงชายน์ หรือพวกทำหอพัก อพาร์ทเมนท์ให้เช่าก็ใช่
   เห็นไหม เงินทองอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด วิธีจะหาเงินทุกวันนี้มันเริ่มกันที่วิธีคิดเป็นอันดับแรก โครงสร้างการศึกษาของไทยเรา เน้นเรียนเพื่อให้ออกมาเป็นลูกจ้าง ระบบความคิดแบบนี้มันล้าสมัยไปแล้ว เราสอนเด็กให้เรียนเก่งเข้าไว้ โอเค เรียนเก่งย่อมดีกว่าไม่เก่งแน่ล่ะ แต่เก่งแล้วยังไงต่อล่ะ จบออกมาแล้วก็จะได้งานดีๆ ใช่ไหม แล้วคิดไหมว่าเกิดเจอเก่งๆ เหมือนกัน หรือคนที่เก่งกว่าล่ะ เราจะทำอย่างไร ไปต่อกันไม่เป็นเลยใช่ไหม
   ก็เพราะกระบวนการสอนในบ้านเรามันแค่สอนให้เด็กรู้ในวิชาไงล่ะ ไม่ได้สอนให้รู้จักทำตามความคิดความฝันของตัวเอง
   ยกตัวอย่างตัวผมเอง ชอบรถยนต์แบบโคตรๆ หัดขับรถยนต์เป็นด้วยตัวเอง ขับออกถนนตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่โดนปิดกั้นความฝันมาตลอด ในทางกลับกัน สมมุติว่ามีคนมาช่วยผมสานฝัน
   เฮ้ย เปิ้ล ถ้าชอบรถยนต์นะ ต้องมุ่งไปทางวิศวะเลย มัธยมปลายต้องเข้าเรียนสายวิทย์ให้ได้ จากนั้นพอมหาวิทยาลัยก็เลือกวิศวะ จบแล้วจะไปต่อสาขาอื่นได้อีกมาก
   หรือชอบแนวช่าง จบ ม3 ก็ต่อ ปวช ช่างยนต์เลย เรียนต่อ ปวส ปิดเทอมก็ฝึกงานตามบริษัทที่เราชอบ ศึกษาภาษาอังกฤษให้มากเข้าไว้ จะได้เก่งกว่าช่างข้างถนน ยกระดับฝีมือตัวเองให้เป็นช่างในโรงงาน หรือช่างในทีมแข่ง สนามแข่ง มันก็เป็นไปได้ ไม่เห็นจะยากสักนิด หรืออยากจะเรียนต่อก็มาสอบเข้ามหาวิทยาลัยคณะวิศวะก็ยังไหว พื้นฐานเราจะแน่นกว่าเด็กเรียนมัธยมเยอะมาก
   นี่คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ผมเรียกมันว่าเข็มทิศชีวิต ทุกคนควรมีครับ ใครยังไม่มีก็รีบหาซะ ยังไม่สาย และไม่มีวันสาย แต่บอกไว้ก่อนว่า ยิ่งค้นพบเร็วก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง
   มันทำให้เราเห็นภาพของตัวเองในอนาคตเป็นฉากๆ ทำให้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ได้เรียนแบบเลื่อนลอย เรียนแค่ให้มันผ่านไปวันๆ หนำซ้ำ บางคนยังเรียนผิดทางอีกด้วย อันนี้เสียเวลามากๆ เราถึงเห็นเด็กมากมายที่จบออกมาอย่างไร้คุณภาพ จบออกมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ พ่อแม่ก็ยินดีปรีดาในวันรับปริญญา ถามว่าแล้วไงต่อ ก็มันจบแล้วไง ดีใจแล้วก็ถ่ายรูปกัน จบ กลับบ้าน หางานทำ รอเขาเรียกตัว หลายคนหมดมุขไม่รู้ทำอะไรต่อดี ก็เรียนต่อแม่งอีก จบตรี เรียนโท จบโท เรียนเอก เอ้า เอาเข้าไป เรียนเพื่ออะไรตัวมันเองก็ยังไม่รู้เลย รู้แต่ว่าจบออกมาแล้วชีวิตมันก็ยังไม่มีเป้าหมายเหมือนเดิม
   เฮ้ยย ชีวิตมันมีอะไรมากกว่านั้นอีกเยอะ
   เป้าหมายครับ ชีวิตคนต้องมีเป้าหมายนะครับ จะยิงปืนไปที่ใดก็ต้องเล็งให้ดี ชักปืนออกมายิงมั่วๆ ก็เปลืองกระสุน เปลืองเงิน แถมอันตรายอีกด้วย ถ้าคิดเล็งสักหน่อย ยิงอย่างถูกวิธี อย่างน้อยก็กระสุนก็จะอยู่ในกลุ่ม ฝึกยิงอีกนิด มันก็ตรงเป้าได้ในไม่ช้า 

[O'Pern]

7 พค 55
   ภารกิจยามเช้าเหมือนเดิมเป๊ะ แต่รู้สึกว่าจะขี่จักรยานได้น้อยไปหน่อย ก็เลยเล่นกระโดดเชือกเสริม ไปทำงานที่ร้านก็เจอสภาพเดิมๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ ได้แค่ทำตามน้ำไป คอยนั่งแก้ปัญหาที่ไม่น่าเกิดไปเรื่อยๆ
   บ่ายไปรับรถที่พ่อซื้อไว้ตั้งแต่งาน Motor Show โชว์รูมอยู่ถึงนครปฐม แต่ทางร้านเขามีเจ้าหน้าที่บริการขับรถมารับถึงบ้าน ค่อยยังชั่ว ท่าทางพ่อจะชอบรถดีนะ ส่วนตัวผมน่ะชอบอยู่แล้ว เพราะเป็นรถที่มีลูกเล่นมากที่สุดตั้งแต่ผมเคยเห็นมา คงได้สนุกกับเจ้านี่อีกนานกว่าจะเบื่อ
   เจ้าของศูนย์ใจดีมากๆ พูดคุยง่าย ให้ส่วนลดเงินสดที่น่าพอใจ ผมไม่ได้สนใจอะไรกับพวกของแถม เพราะส่วนใหญ่จะแถมให้แต่ของห่วยๆ แต่กับเจ้าคันนี้ เขาให้พรมปูพื้น และ ผ้ายางปูพื้น ของแท้ ซึ่งปกติเราจะเลือกใส่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่นี่ได้มา 2 แบบเลย
   ที่ประทับใจมากก็คือทางศูนย์ปลดล็อคหน้าจอ DVD ให้แสดงผลได้ตลอดเวลาให้ ของเดิมมันจะตัดภาพออกหากขับที่ความเร็วเกิน 40 กม/ชม และไอ้การปลดล็อคนี่มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หลายศูนย์หลายยี่ห้อไม่ยอมทำให้ลูกค้าเด็ดขาด ยกตัวอย่างศูนย์ของ Mercedes Benz ไม่ทำให้แน่ๆ ของ BMW ผมไม่ทราบ ส่วนพวก Grey Market นี่ถือว่าต้องทำให้ลูกค้าเป็นมาตรฐานเลยล่ะ ไม่งั้นขายไม่ได้ ค่าใช้จ่ายในการทำก็ไม่ถูกเลยนะ น่าจะหลักหลายพันบาท แถมถ้าเป็นรถ Mercedes Benz ล่ะก็ จะถือว่าชุดเครื่องเสียงนั้นหมดประกันไปโดยปริยาย
   ศูนย์นี่เขาทำให้ผมฟรีครับ ไม่ได้ประทับใจเพราะได้ฟรีนะ แต่เห็นเขาทำงานอย่างรวดเร็วแล้วประทับใจ คือมันต้องให้เจ้าของรถเซ็นเอกสารยอมรับสภาพของรถ รวมถึงการฟ้องร้องบริษัทของเขาหากเกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับมัวแต่ดูทีวี
   เขาต้องนำรหัสของรถแจ้งไปยังบริษัทแม่ที่ต่างประเทศ และรอการตอบกลับ บริษัทแม่จะส่งไฟล์เป็น Software มาให้เพื่อโหลดใส่รถ เรียกว่าเป็นการตั้งค่ากันใหม่
   รถยนต์คุยใหม่ๆ จะคุมด้วย Software กันหมดแล้ว รถยิ่งไฮเทค ลูกเล่นแพรวพราว ก็จะมีข้อเสียคือหาอู่เล็กๆ ข้างนอกได้ยากมากขึ้น เป็นข้อที่ผมต้องทำใจ แต่ถ้ามี Service Manual สักเล่ม ก็น่าจะพอไหว ถ้าไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับพวกระบบอีเลคโทรนิค
   ขากลับบ้าน ผมคิดว่าพ่อจะขับ นี่เป็นรถของพ่อนี่นา แต่พ่อยกให้ผมขับ เอาล่ะสิ ตั้งตัวไม่ติด ปุ่มเยอะแยะแพรวพราว ระบบไฮเทคมาก ทั้งเซนเซอร์ เรดาห์ กล้องจับการเคลื่อนไหวของรถข้างๆ กล้องหลังแสดงภาพตอนถอย ยังไม่พอ มันมีกล้องตรวจจับชีพจรคนขับว่าเหนื่อยล้าหรือยัง มีเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของบุคคลภายในรถ โห พี่ระบบเยอะโคตรๆ แต่ก็สนุกดีนะ ขออย่าเจ๊งง่ายก็แล้วกัน
   ส่วนเจ้ามิวลูกผมเอา DVD Lord of the ring ไปด้วย นั่งดูแบบสบายอารมณ์เลย รถจะติดยังไง มิวไม่สนเลย
   ยังมีระบบเจ๋งๆ อีกเยอะ เอาไว้เล่าวันหน้า เพราะยังไม่ได้เปิดใช้งาน ยอมรับว่าใช้ไม่เป็น คือระบบขับตามรถคันหน้า และระบบเบรกอัตโนมัติ
   มาถึงบ้านเอาตอนเย็น อาการบ้าเห่อรถใหม่ก็กำเริบ ตกดึกลงมานั่งเล่นในรถ เซ็ทติ้งให้เป็นค่าที่ผมต้องการ เช่น ปรับตั้งความจำของเบาะนั่ง กระจกมองข้าง ตั้งความจำของวิทยุ และนำ CD VCD DVD MP3 มาลอง ผลคือเล่นได้ทุกแผ่น เจ๋งดี ยังไม่ได้ลอง USB และ AUX เอาไว้วันหน้า

[O'Pern]

8 พค 55
   คงจะเห่อรถใหม่ไปอีกหลายพัก นี่ขนาดไม่ไช่รถของตัวเองนะ ยังขนาดนี้เลย
ขี่จักรยานยามเช้า ตามด้วยกระโดดเชือก แล้วก็ก้มมุดดูใต้ท้องรถ พบว่าเป็นแบบเปิดโล่ง ต่างกับรถพ่อคันเก่าที่เป็นแผ่นพลาสติคปิดตลอดใต้ท้องรถ (Belly Pan) เสียมิดชิดจนผมทำอะไรกับมันไม่ได้สักอย่าง จะหาอู่นอกเข้า ก็ต้องเป็นอู่ที่มี Hoist สำหรับยกรถโดยเฉพาะ ถ้าเอาแม่แรงดันเข้าไปล่ะก็ จะได้ยินเสียง “แป๊ก” นั่นคือพลาสติดปิดใต้ท้องแตกเสียแล้ว
Belly Pan มีประโยชน์นะครับ ต้นกำเนิดเกิดจากรถแข่งทางเรียบ ที่ปิดแผ่นโลหะใต้ท้องทั้งหมดเพื่อประโยชน์ทางด้านอากาศพลศาสตร์ ให้อากาศไหลผ่านใต้ท้องรถเร็วๆ จะยิ่งดี มันจะสอดประสานกันกับอากาศที่ไหลผ่านตัวรถด้านบนที่ไหลช้ากว่า ทำให้เกิดแรงกด แถมลมด้านใต้ท้องที่ไหลผ่านเร็ว ยังลดการเกิดเสียง ลดแรงยก และประหยัดน้ำมันอีกด้วย
คอนเสปนี้จะมาอยู่ในธนูไฟรถดริฟท์ของผม แต่ยังทำไม่เสร็จดีก็มีอันต้องจากกันเสียก่อน การออกแบบเซ็ทติ้งชุดนี้มาคู่กับสเกิร์ตยาง และ Aeropack ที่ทำจากพลาติคใส ตอนนั้นน่ะ กะจะทำเจ้ารถคันนี้เผื่องาน Car Show ด้วย
แม้จะมีรถคันใหม่ แต่ใจก็ยังผูกพันกับรถคันเก่าๆ อยู่นะ ตั้งแต่ Mazda MX-5 NA / Toyota Supra MK IV / Nissan Cefiro A31 จนถึงคันล่าสุด Nissan 180SX Type X RPS13
เจ้าคันล่าสุดเป็นเพียงคันเดียวที่ผมไม่ได้ตกแต่งอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะคันนี้จะต้องขึ้นแท่นรถ Classic ในอนาคต
รถรูปทรงนี้จะไม่มีอีกแล้ว หน้ายาว ท้ายสั้น ไฟป๊อป แถมขับหลังอีกด้วย
แต่ก็มีรถยนต์ใหม่ๆ ใช้คอนเสปเดิมอันนี้อยู่นะ เช่น BMW Z4 ตัวปัจจุบัน แรกๆ เล่นเอาผมใจหวั่นไหว (อยากได้) แต่ลองเข้าไปนั่งแล้ว รู้สึกว่านั่งไม่ถนัด คนขับน่าจะต้องสูงสัก 175 จะกำลังดี แถมไม่มี MT เลยไม่สน ถ้าเป็นประเทศที่คนเล่นรถเขาเล่นจริงจังนี่ รถสปอร์ท AT ขายกันแทบไม่ออกเลยนะ มีไทยเรานี่แหละที่คนซื้อซื้อรถแบบยอมจำนน ก็มันไม่มีนี่หว่า ก็เลยตามเลย
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายก็สาละวนกับรถใหม่อีกแล้ว หยิบเอาตาข่ายคลุมสัมภาระออกมากางเล่น นั่งงมอยู่สักพักถึงจะติดตั้งได้ มันเป็นรถแบบ Crossover น่ะครับ ถึงได้มีของพวกนี้มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก็ขนาด Honda CR-V ตัวแรก ยังมีชุดโต๊ะพับปิคนิคแถมมาให้เลย เจ้าของรถหลายคนใช้รถอยู่เป็นปีก็ยังไม่รู้ มันพับจนเรียบ และวางอยู่ใต้พื้นในห้องโดยสารด้านหลัง
   ทดสอบระบบเชื่อมต่อ USB โดยนำโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลง บ๊ะ แจ๋วว่ะ หน้าจอ DVD โชว์ชื่อเพลง ชือนักร้องอีกด้วย เสียงก็ดี เครื่องเสียงคันนี้แจ๋วจริงๆ เลย
   
   เจ้ามิวก่อเรื่อง ไปยืมของเล่นเพื่อนมาตั้งแต่เรียนซัมเมอร์แล้วไม่ยอมคืน ไปยืมจากเด็กต่างโรงเรียนมาอีกด้วย (ซัมเมอร์นี้เขาเปิดรับเด็กจากข้างนอกด้วย) ผู้ปกครองของเด็กโทรมาทวงถาม ผมก็งงสิ สอบถามมิวก็บอกว่าไปยืมเขามาจริง และลืมคืน
   โห มิว เล่นพูดง่ายดายแบบนี้เลย ถ้าเป็นรุ่นผม เขาเรียก “หลอกแดก” ครับพี่น้อง ยืมแล้วลืมคืนนี่มันเป็นข้ออ้างที่รับไม่ได้ แย่มากๆ ใครรู้เข้า เขาก็จะมองเราแบบไร้คุณค่า น่ารังเกียจ เป็นคนเอาแต่ได้
   ตกเย็นผู้ปกครองขับรถมารับของเล่นลูกคืนที่บ้าน มิวจัดส่งคืนให้พร้อมกับแนบจดหมายมิตรภาพเขียนขอบคุณและขอโทษไปให้ 1 ฉบับ มีขนมปังกรอบแถมให้อีก 1 ห่อ

[O'Pern]

9 พค 55 วันพืชมงคล
   กัมพูชา และ ลาว จัดงานพิธีแรกนาขวัญเหมือนกับไทยเป๊ะ ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเราคือชนชาติเดียวกันมาก่อน สมัยก่อนดินแดนแถบนี้เป็นของไทย แต่เรายอมเฉือนดินแดนยกให้ต่างชาติ เพื่อแลกกับคำว่า “เอกราช” ไปเรื่อยๆ จนเหลือเท่าที่เห็นในปัจจุบัน
   วันหยุดราชการอีกแล้ว เล่นเอาถนนโล่งไปเยอะ แต่ธนาคารไม่หยุดนะ ไม่งั้นถนนโล่งกว่านี้อีก
   เช้านี้พ่อเอารถใหม่ไปลองขับบ้าง กลับเข้ามาบ้านพร้อมกับสารพันคำถาม
   “เปิดวิทยุตรงไหน”
   “หรี่แอร์อย่างไร”
   “เปิดฝาเติมน้ำมันตรงไหน”
   ผมเป็นคนที่อ่านคู่มือเล่มเต็มก่อนขับรถทุกครั้ง ยอมรับเลยครับว่าไอ้คันนี้อ่านแล้วเข้าใจยากมากที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา ไม่ใช่เขียนไม่ดี แต่ระบบมันเยอะจัด เยอะแบบเว่อร์ๆ อ่านมาสองวันแล้ว ยังไปได้แค่ครึ่งเล่มกว่าเอง (มันหนาเกือบ 2 นิ้วแน่ะ)
   บ่ายเอารถพ่อคันเก่าไปซ่อมช่วงล่าง นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าอู่นอก ปกติจะเข้าศูนย์ใหญ่มาตลอด แต่ทนไม่ไหวกับราคาที่แพงแบบสุดกู่
   อาการรถคือลูกหมากปลายแร็ค และลูกหมากคันชักเสีย ตอนพ่อผมเอารถเข้าไป ศูนย์บอกแสนกว่าบาท (อาจรวมกับการเช็คระยะประจำปีด้วย) พอผมเอาเข้าไปบ้างตอนก่อนน้ำท่วม เจ้าหน้าที่บอก 28,000 บาท
   วันนี้ไปอู่นอก แต่เป็นช่างจากศูนย์มาเปิดเอง มีเครื่องมือคอมพิวเตอร์เสียบตรวจเช็คพร้อม คิดราคามาแบบยังไม่ได้ต่อราว 7500 บาท ใช้อะไหล่ของ OEM ทุกชิ้น (ไม่ใช่ของปลอม)
   กำหนดรับรถพรุ่งนี้ตอนกลางวัน ซึ่งถ้าเป็นศูนย์ใหญ่ ก็ต้องมีอย่างน้อย 2-3 วัน ก็รอดูกันต่อไปครับว่าจะจบที่อู่นอกนี้ได้หรือไม่ ถ้าทำดีก็จะแนะนำต่อ ถ้าทำไม่ถูกใจก็จะมาเล่าให้อ่านเช่นกัน
   หัวค่ำลมแรง มีฝนตก ผมดีใจมาก จะได้นอนแบบเย็นๆ แต่แค่ 10 นาทีฝนก็หยุดเสียแล้ว อ้าว มีมาแค่นี้เองหรือนี่

[O'Pern]

10 พค 55
   บ่ายไปรับรถพ่อที่ซ่อมช่วงล่าง งานก็โอเคดี จะว่าไปก็มองไม่เห็นหรอกนะ รถมันมีแผ่นพลาสติคปิดใต้ท้องจนเรียบ ต้องหาอู่ใหญ่ๆ หน่อยที่เขามี Hoist เอาไว้ยก ช่างข้างถนนที่มีแต่แม่แรงแบบไอ้เข้นี่ต้องหนีให้ไกล
   รับรถมาแล้วก็เอาไปเปลี่ยนยางต่อครับ ใช้บริการร้านแถวบ้านเหมือนเดิม ร้านนี้แปลกดีตรงที่ไปทำรถทีไร จะต้องได้ไวน์แถมกลับมา 1 ขวด ก็ไวน์จากทางเจ้าของร้านเขาทำขายเองนั่นแหละครับ ได้มาจนจะครบโหลอยู่แล้ว คราวก่อนๆ จะได้ไวน์ขาว ไวน์แดง วันนี้แปลกหน่อย ได้ไวน์ผลไม้จำพวกพีช ขวดเรียวทรงสูงดูหน้าตาเหมือนสินค้าของญี่ปุ่น ดูดีกว่าไวน์เก่าๆ เยอะเลย
   การเปลี่ยนยางนี่เราจะต้องเลือกเอายางปีล่าสุดนะครับ เอาให้ใหม่ที่สุดเท่าที่จะหาได้ เริ่มจากต่อรองราคาก่อน พอต่อจนเขาไม่ยอมลงแล้วก็ยื่นข้อเสนอเพิ่มว่า ขอเป็นยางปี 2012 นะ แน่นอน ใครๆ ก็ต้องบอกว่าได้
   แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ร้านค้าแบบหลอกเด็ก ก็จะเอายางล่าสุดที่คัดแยกเอาไว้ เอาลงมาให้เราดูให้ชื่อตาสัก 1 เส้น ให้เห็นว่าเป็นปี 2012 จริง จากนั้นก็จะเชิญเราเข้าไปนั่งพักผ่อนรอรถ
   ช่วงนี้แหละ เขาก็จะเอายางอีก 3 เส้นที่มันไม่ใหม่เหมือนไอ้เส้นแรกที่เราเห็นมาให้ กลายเป็นว่าได้ของใหม่แค่เส้นเดียว
   โลกนี้มันมีแต่ความไม่ไว้วางใจกันเสียแล้วครับ โดยเฉพาะร้านค้าที่เน้นวัยรุ่น หรือเน้นของราคาถูก ต้องยืนดูจนเห็นว่ายางของเราใหม่ทั้ง 4 เส้น เอาให้เห็นกับตา แล้วถึงจะไปนั่งพักผ่อนได้อย่างสบายใจ อ้อ การเปลี่ยนยางนี่ทุกร้านจะต้องเปลี่ยนวาล์วลมใหม่ให้เราทั้ง 4 ล้อด้วยนะครับ ร้านไหนบอกไม่รวมในค่ายางจะต้องมีเคือง
   ถ้าเปลี่ยนในร้านใหญ่ๆ ที่เขามีเครื่องตั้งศูนย์ด้วยก็จะสะดวก แต่ถ้าเป็นร้านข้างถนนแบบแถววงเวียน 22 ก็จะต้องวิ่งไปร้านตั้งศูนย์อีกรอบ
   ได้ยางใหม่ บูชปลายแร็คใหม่ บูชคันชักใหม่ โอ้โห ไม่น่าเชื่อ ขับแล้วเหมือนรถใหม่ป้ายแดงเลยครับ นิ่ม นุ่ม รู้สึกรักรถมากกว่าเก่า
   เย็นนี้ต้องกลับไปเฝ้าร้านขายของครับ  อยู่จนปิดร้านสามทุ่มกว่า กว่าจะได้นอนก็ราว 4 ทุ่ม เปิดเข้ามาในห้องนอน ลูกหลับครอกฟี้ เปิดทีวีให้ดูเขาแทนเสียแล้ว

[O'Pern]

11 พค 55
   เพลีย ตื่นสาย ไม่ได้ขี่จักรยาน ไม่ได้กระโดดเชือก ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เดินไปเดินมา เหลือบไปเห็นรถคันใหม่ ก็ก้มๆ มองๆ ดูใต้ท้องรถเล่น คันนี้ออกแบบมาโดยไม่มีแผ่นปิดใต้ท้องเหมือนรถพ่อคันเก่า อืม ค่อยซ่อมบำรุงง่ายหน่อย
   แต่ทำอะไรมากกับมันไม่ได้ เป็นรถของพ่อครับ รอเขาเบื่อก่อน ทุกวันนี้ยังต้องสอนพ่อใช้อุปกรณ์แต่ละชิ้นทีละนิดละหน่อย เช่นวันนี้สอนปลดล็อคเกียร์ P ไปที่ N เผื่อจอดขวางชาวบ้านจะได้เข็นได้ ที่ต้องสอนก็เพราะมันต้องใช้สลักกุญแจกดลงไปในช่องแล้วค้างไว้ พร้อมกับกดปุ่มคันเกียร์ ถึงจะเลื่อนคันเกียร์จาก P ไป N ได้
   ไอ้พวกฝรั่งมันทำอะไรให้ยุ่งยากไปทำไมวะนี่ รถ Nissan 180SX ของผม มีปุ่ม Shift Lock อยู่ใต้ปุ่มคันเกียร์เลย ถ้าจะปลดไป N แค่กดปุ่มสีแดงอันนี้แหละ ก็จะเลื่อนจาก P ไป N ได้แล้ว ง่ายและสะดวกมากๆ เลย
   เข้ามาบ้านตอนเย็นๆ มองเห็นรถพ่ออีกคันที่จอดทิ้งเอาไว้ ไอ้คันนี้แหละที่ผมเล็งเอาไว้ มันคือ Isuzu Trooper ปี 96 ครับ ชอบเพราะใส่จักรยานได้เยอะดี ใจผมอยากเอามาแต่งเป็นรถบ้าน แต่คำว่ารถบ้านของผมไม่เหมือนกับรถบ้านที่ฝรั่งเขาทำกันนะ เพราะผมไม่นอนในรถแน่ ก็มันร้อนจนนอนไม่หลับน่ะสิ
   ทยอยออกแบบชุดแต่งเจ้า Trooper ออกมานานแล้วครับ ยังไม่ได้ขึ้นตัวต้นแบบเลย ทำออกมาน่าจะขายได้ดีนะ ผมว่าทุกคนที่ใช้รถรุ่นนี้น่าจะต้องอยากได้แน่ๆ ถ้ามีโอกาสได้ยึดรถมาใช้สักพัก คงจะมีเวลาผลิตชิ้นงานออกมา

[O'Pern]

12 พค 55
   บ้าเห่อรถใหม่ยังไม่หาย เดินไปเดินมาก็ต้องหันไปมองบ่อยๆ โคตรเว่อร์เลยจริงๆ นั่งในเบาะแต่ละตำแหน่ง สำรวจดูว่าเราจะทำอะไรเพิ่มกับมันได้บ้างไหม คิดออกแบบตำแหน่งจุดแขวนของได้ 2 จุด อยากได้ม่านด้วยนะ (เผื่อผู้โดยสารด้านหลัง) แต่น่าจะเป็นม่านด้านข้างแบบเท่ๆ หน่อย
   ลูกเล่นกับเพื่อนแถวบ้านวัยใกล้เคียงกัน ไปขลุกอยู่บ้านเขาจนถึงเย็น สอบถามดู มิวบอกว่า บ้านเพื่อนมีอินเทอร์เนททีวี โห ทันสมัยสุดๆ เลย 

[O'Pern]

13 พค 55
   วันนี้พี่คากิ (นิคเนมในเวปจักรยาน) จัดทริปรถพับไปอยุธยา น่าสนุกมากเพราะไปกลับโดยรถไฟ ขึ้นรถที่หัวลำโพงแต่เช้า แค่คิดก็สนุกแล้ว แต่ผมไม่ได้ไป เพราะวันนี้มีประชุมใหญ่ของคอนโดที่ผมพักอาศัยอยู่ เสียสละเพื่อส่วนรวมอีกแล้ว
   รอจนบ่ายโน่นถึงจะเริ่มงาน แต่เอาเข้าจริงคนมากันน้อย มากันไม่ถึง 25% เลยลงมติเลือกบริษัทนิติไม่ได้ สุดท้ายเลยเป็นการพูดคุยสอบถามปัญหาของลูกบ้านแทน กลายเป็นว่าเสียเวลาไปฟรีกันทุกๆ คนที่มางานครับ นึกแล้วท้อใจจริงๆ น่าไปขี่จักรยานเสียยังดีกว่า
   ทำงานที่มันต้องเสียสละนี่ มันทำให้เราสูญเสียเวลาส่วนตัวไปมากจริงๆ

[O'Pern]

14 พค 55
    ขี่จักรยานยามเช้าหลังจากเว้นไปเสียหลายวัน รู้สึกว่านี่แหละ คือการออกกำลังกายที่สนุกสุดแล้ว โดยเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมทำอยู่เช่น เดิน เดินเร็ว วิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ ตอนไปคอนโดผมชอบเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์ (ขึ้นราว 10 ชั้น) เคยเจอยามในนั้น ต่างคนต่างตกใจ คิดว่าโจร ฮ่าๆ
   ไปถึงที่ทำงานก็เจอบรรยากาศแบบเดิมๆ ครับ เช้าเข้าโกดังไปขนสินค้าออกมาขายที่หน้าร้าน แต่วันนี้พิเศษหน่อยคือต้องเป็นคนขับรถไปส่งของที่ร้านอาหาร ขับไปไม่ไกลหรอกครับ แต่เจ้าของร้านให้เอารถกระบะคันที่ไม่มีหลังคาไป (คงจะเอาสะดวก เพราะจอดอยู่ใกล้ๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันร้อนเหลือเกิน) ปัญหาหนักใจผมที่สุดนั่นคือ อาการเจ็บหลังจะกำเริบอีกไหม เพราะสินค้าหนักลังละ 25 กก ยังดีที่ไม่ต้องยกขึ้นชั้น (บางร้านสั่งให้ยกขึ้นชั้น 3)
   ตำแหน่งคนขับรถคือหน้าที่ๆ ผมไม่ชอบมากที่สุด มีหลายเหตุผลครับ คือผมไม่คุ้นเคยรถกระบะ แถมหลังคาสูง ขับแล้วมันจะไปชนกันสาดชาวบ้านอยู่เรื่อยโดยเฉพาะตอนเข้าซอยแคบ / หาที่จอดรถยากมาก ต้องจอดซ้อนคัน จอดในที่ห้ามจอด จอดบนทางเท้า อะไรที่ต้องทำผิดกฎหมาย กูไม่สน ขอแค่จอดส่งของได้ จบ มันต้องคิดแบบนี้ และทำแบบนี้จริงๆ ผมไม่ชอบเลย
   แถมช่วงเช้าขี่จักรยานโดนแมลงเข้าตา ตาแดงอยู่ แล้วก็ต้องมาอยู่กลางแดดแรงจ้าอีกเสียนี่ โอ้ พระพุทธเจ้า ข้าลืมตาแทบไม่ขึ้น
   อดทน อดทน อดทน

[O'Pern]

15 พค 55
   ถ้ารถคันใหม่มันจอดอยู่ในบ้าน ผมเป็นต้องหันไปมองมันทุกๆ 10 วินาที กำลังออกแบบกรอบป้ายทะเบียนครับ ไม่เอาแบบผิดกฎหมายล่ะ แล้วก็ไม่เอาแบบที่มีคนนั่งเลื่อย หั่น กันข้างถนนด้วย กฎหมายไทยเรากำหนดไว้ว่า ห้ามมีวัสดุใดมาปิดบังป้ายทะเบียน แปลว่าแม้กระทั่งพลาสติกใสก็ถือว่าผิด (ถ้าเขาจะจับ) ส่วนป้ายทะเบียนยาวรุ่นเก่าๆ ที่มีการตัดแล้วจัดเรียงใหม่ให้ป้ายมันเตี้ยลง อันนี้ผิดชัดเจน เรียกว่าทำไว้ให้ตำรวจเรียกเล่น
   ช่วงนี้ไทยเราเริ่มมีฝน แต่กรุงเทพฯฝนกลับน้อยกว่าภาคอื่นๆ แค่10% ของพื้นที่เท่านั้นเอง แต่ก็ทำให้ความร้อนอบอ้าวทุเลาลงไปได้นิดหน่อย
   เข้าเวปของกลุ่ม Isuzu Trooper เจอท่านหนึ่งไปดอยช้างที่เดียวกับผมไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาบอกว่าอ่านเจอในเวปหนึ่งเจอคนขับ Vios ยังขึ้นไปได้ ตัวเขาขับ Trooper เลยลองขึ้นไปบ้าง ผมเลยได้ทีโพสตอบไปว่าไอ้หมอนั่นที่พี่อ่านเจอในเวป ก็คงจะเป็นผมเองนี่แหละครับ
   เย็นมีประชุมกรรมการที่คอนโดอีกแล้ว งานเสียสละมาอีกแล้ว ยังดีวันนี้มิวออกไปเล่นกับเด็กๆ แถวร้านขายของ ไม่งั้นต้องอยู่คนเดียว ประชุมอยู่จนถึงดึกดื่น มีการแต่งตั้งผู้จัดการอาคาร เป็นหน้าที่ๆ ต้องรับผิดชอบสูง เช่นเซ็นใบปลอดหนี้ในกรณีที่มีใครจะขายห้อง มีการฟ้องร้องขึ้นศาลก็ต้องไปกับเขา เกิดเหตุอะไรรุนแรงในคอนโดหลังนี้ เราก็ต้องออกหน้าคนแรก ไม่ค่อยมีใครอยากแบกรับหน้าที่นี้กันเลย ลำพังเป็นกรรมการก็จะแย่อยู่แล้ว ผู้จัดการอาคารมันยิ่งหนักเสียกว่า หนำซ้ำคืองานเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อลูกบ้าน แน่ล่ะ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเบี้ยประชุม ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรเลยสักอย่าง ไม่มีผลประโยชน์อะไรตอบแทนแม้แต่น้อย
   รู้ไหม ว่าใครได้รับหน้าที่นี้
   ใช่แล้ว คุณเดาถูก