Author Topic: เมษ 54 14-16 หัวหิน  (Read 16460 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54
« Reply #15 on: April 18, 2011, 06:17:14 pm »
18 เมษ 54
   เช้านี้ใครไม่บ่นรถติด ก็คงเป็นคนทีทำงานโดยไม่ต้องขับรถยนต์ หรือไม่ก็แอบออกแต่เช้าตรู่ไปแล้ว
   อย่างที่เคยบอก วันที่รถติดกันทั่วเมือง ฝั่งธนฯดูจะไม่ค่อยจะมีปัญหาเหมือนฝั่งพระนคร เพราะชุมชนมันเล็กกว่ากันเยอะ มีถนนสายใหญ่ๆ ให้รถติดไม่กี่สาย จรัลสนิทวงศ์ เพชรเกษม นอกนั้นจะเป็นแค่สี่แยก
   แดดแรงจัดแต่เช้า น่าเบื่อจริงๆ โดดแดดเผาทีไร ผมอดคิดถึงตัวเองตอนขี่จักรยานทางไกลไม่ได้ คิดไปพลางว่า เราเองจะถอดใจหรือไม่ จะทนขี่กลางแดดจัดๆ ได้ตลอดเช้าจรดเย็นไปสักกี่วันกันเชียว
   เปิดงานวันแรกหลังจากหยุดยาว คนงานขาดไป 2 คน นี่ถ้าผมไม่เจ็บหลัง ก็คงต้องออกไปติดรถส่งของแน่นอน เปิดร้านมาสินค้าก็ขาดสต็อคไปมาก ต้องไปเบิกสินค้าจากในโกดังมาไว้ที่หน้าร้าน นี่แหละ หน้าที่ของผม ขนสินค้าจากโกดังไปหน้าร้านอยู่หลายเที่ยวจนถึงบ่ายแก่ๆ จึงไปรับลูก
   แม้ตอนเช้าจะเพิ่งไปส่งมาหยกๆ แต่พอเจอหน้าเขาตอนบ่าย ผมแสนจะดีใจ ทำยังกะไม่ได้เจอกันเป็นเดือนเป็นปี เว่อร์จริงๆ
   มาถึงบ้าน ลูกชวนเล่น Lego กัน แหม ได้สิ Lego นี่คือของเล่นชิ้นโปรดของผมตอนเด็ก ผมมีของเล่นอยู่อย่างเดียวคือเจ้า Lego นี่แหละครับ ต่อแล้วต่ออีก แรกๆ ก็ต่อตามแบบข้างกล่อง หลังๆ พอฝีมือแตกฉานก็เล่นต่อตามจิตนาการ ไม่รู้มันมีส่วนเกื้อกูลกันไหมที่ทำให้ทุกวันนี้ผมทำงานด้วยการใช้สมองและจิตนาการได้อย่างคล่องแคล่วมากๆ ยิ่งได้โจทย์ยากๆ ยิ่งชอบ ยิ่งงานไหนใครไม่อยากทำ ไม่กล้าทำ ผมขอวิ่งเข้าใส่เลย
   คนที่มาหาผมแต่ละคนมักจะได้ไอเดียแปลกประหลาดกลับไป ยอมรับนะว่าบ้างก็ชอบ บ้างก็บอกว่าบ้า ใจใครใจมันครับ บางคนก็ชอบสุดใจ บ้างก็เกลียดกันไปข้างหนึ่งเลยก็มี โดยเฉพาะมาเจอแบบบ้านสองชั้นไม่มีบันได ห้องน้ำสองชั้น หรือบ้านสองชั้นที่มีชั้นลอยแบบปรับระดับได้
   งานในไทยช่วง มีแต่พวกงานบ้านเป็นหลัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็รถยนต์ล้วนๆ เลยครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54
« Reply #16 on: April 19, 2011, 06:00:32 pm »
19 เมษ 54
   ผมซ้อมแพ็คของ สเปคของใช้ตอนออกขี่จักรยานทัวริ่งทริปใหญ่ที่ผมวางเอง ทีต้องสเปคของใช้ใหม่หมด เพราะจะให้มันใช้ของน้อยลงกว่าเดิมอย่างน้อย 30% จากเดิมที่จัดข้าวของอย่างดีแล้ว ก็ต้องมาคิดอีกรอบ สนุกดีเหมือนกันครับ จำลองบรรยากาศคล้ายกับว่าจะออกเดินทางจริงๆ อย่างนั้นแหละ
   เช้านี้ผมต้องยกของอีกแล้วครับ หยุดพักได้แค่ไม่กี่วัน หลังยังไม่ทันหายเจ็บดีเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี คิดง่ายๆ คิดตื่นๆ แบบผมก็คงต้่องเปลี่ยนงานใหม่ แล้วหลังผมมันจะได้หายดีหรือไม่วะนี่ คงจะได้หยุดพักจริงจังก็ต่อเมื่อเข้าโรงพยาลแน่ๆ
   คนงานขาดไป 3 คน เล่นเอาผมอ่วมเลย สาบานได้เลยว่างานต่อไปที่ผมทำ จะต้องไม่เป็นงานที่พึ่งพาแรงงานจากใคร
   ฝนตกหนักตอนสาย ผมขี่จักรยานจดออเดอร์ลูกค้าท่ามกลางสายฝน กลับมาถึงร้านอย่างเปียกโชก ต้องยืนหน้าบ้านให้น้ำหยดจนเกือบหมด ถึงจะเดินเข้ามาข้างใน
   ไม่ได้นำชุดมาเปลี่ยนครับ ผมเปียกฝนเป็นประจำ แต่ไม่เคยถึงกับเปียกโชกขนาดนี้มาก่อน ทำได้แค่ถอดเสื้อและกางเกงออกมาผึ่ง โชคดีค้นเจอกางเกงขาสั้นเก่าๆ ตัวหนึ่ง ก็ใส่มันแค่นี้แหละครับ ท่อนบนเปลือยอก
   บ่ายไปรับลูก รีบกลับบ้านมาเล่น Lego กันต่อจากเมื่อวาน ต่อค้างกันไว้เยอะเลย ผมต่อเป็นสถานีอวกาศ มียานรบต่างๆ คอยปกป้อง ลูกเห็นก็เอาบ้าง อย่างที่บอกไว้เสมอ ว่าเด็กเขาชอบทำเลียนแบบ ถ้าได้ตัวอย่างดีเด็กก็จะดี แต่ถ้าได้ตัวอย่างแย่ๆ เด็กก็จะเป็นไปตามนั้น
   เพราะฉะนั้น การปล่อยให้เด็กดูทีวี ดู CD / DVD เล่นเกมส์ หรือใช้คอมพิวเตอร์โดยลำพังเป็นเวลานานๆ นั้นไม่เป็นประโยชน์ใดๆ เลยแม้แต่น้อย เสียทั้งการเรียนรู้ เสียทั้งสายตา และทำให้เป็นคนมีสมาธิสั้นได้อีกด้วย
   แต่นั่งเล่นได้ไม่นาน ผมปวดหลัง นั่งท่าเดิมๆ นานๆ ไม่ได้เลย ต้องเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เซ็งเหี้ยๆ

   วันนี้ทองคำขึ้นไปทำสถิติสูงสุดถึง 21000 บาท ตกแตกตื่นกันใหญ่ แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าใครเล่นทองคำก็ยังช้อนซื้อได้ เพราะมันจะขึ้นไปอีกจนถึง 22000 ครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #17 on: April 21, 2011, 04:43:29 am »
20 เมษ 54
   ท่ามกลางอากาศร้อนจัด จู่ๆ ก็มีหย่อมความกดอากาศสูงลงมาจากจีน พอปะทะกับไอร้อนที่อยู่ในไทย ก็กลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง และพายุ ที่ไหนร้อนจัด มาเจอไอเย็นจัด ก็จะรุนแรงหน่อย ดังเช่นในภาคเหนือ ภาคอีสาน
   เมือวานก็ยกของไปแล้ว จึงไมใช่เรื่องแปลกที่วันนี้ต้องมายกกันอีก แต่แล้วก็เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตอนบ่ายผมถูกส่งไปช่วยงานยกของกับอีกร้านหนึ่ง เป็นร้านในเครือเดียวกัน ร้านนี้ใหญ่โตเสียด้วยสิ แน่นอน ผมต้องยกของอีกเยอะมาก
   รีบไปรับลูก แล้วบอกเขาว่าพ่อต้องไปทำงานยกของที่ร้านอีกแห่งหนึ่งนะ ลูกอยู่บ้านเล่นคนเดียวได้ไหม เขาทำหน้างง เพราะปกติผมจะอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่ก็รับคำอย่างว่าง่าย
   “ลูกรับปากพ่ออย่างหนึ่งได้ไหม” พูดขณะผมกุมมือเขา ขณะขับรถ
   มิวหันมามอง ทำหน้าสงสัย
   “จงอย่าละทิ้งความฝันของตัวเองนะ ต้องพยายามให้มากนะ ยากลำบากก็ต้องอดทนนะลูก”
   “ครับ” เขาตอบสั้นๆ ผมไม่รู้ว่าเด็กอายุ 9 ปี จะมีความคิดลึกซึ้งเพียงใด ผมแค่อยากให้เวลาที่อยู่กับลูกให้คุ้มค่ามากที่สุด ผมไม่อยากเสียดายเวลาย้อนหลัง

   ส่งลูกถึงบ้านแล้ว ผมก็ไปยังร้านค้าอีกแห่งทันที
   ร้านนี้ใช้รถบรรทุกสิบล้อ ท้ายรถของมันสูงราวหน้าอก จะของของขึ้นใส่ มันก็ใช้แรงมากกว่ายกใส่รถกระบะทั่วไป ยกสูงก็แย่แล้ว ยังต้องยกเยอะอีก เพราะกว่าจะเต็มรถ มันยกกันอยู่นานในสภาพที่หลังเจ็บอยู่
   เจ็บก็พัก อย่างที่บอกไป พอรถคันใหม่มาก็ยกต่อ ชีวิตคนงานมีง่ายๆ แค่นี้ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องใช้สมอง ใช้แรงอย่างเดียว จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน (ถ้าชอบ)
   ปกติถ้าอยู่ร้านแรก ผมจะมีห้องแอร์ให้นั่งตอนทำงานเอกสาร แต่มาร้านนี้ มายกของอย่างเดียว โน่นเลย ไปนั่งโน่น ที่กองสินค้าโน่น
   ตกบ่ายหิวจัด แต่ไม่มีอะไรกิน ข้าวกลางวันก็ไม่ได้กินมา ทนไปจนถึงเย็นค่ำนั่นแหละ
   วันนี้วันแรก อยู่ตั้งแต่ 0330 จนถึงทุ่มกว่า กลับเข้าบ้านแบบไม่สุขใจสักนิด

เป็นอีกหนึ่งวันชีวิตผมไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อยครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #18 on: April 21, 2011, 06:55:19 pm »
21 เมษ 54
   ลืมตาโพลงขึ้นมาตอนตี 3 จิตใจว้าวุ่น มันเลยนอนไม่หลับทั้งๆ ที่ผมเข้านอนตามปกติ
   ใจมันคิดกลัวไปล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้เราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ลำพังร้านแรกที่เราไปช่วยงานก็แย่แล้ว นี่ตอนบ่ายต้องมาช่วยยกของให้อีกร้านหนึ่งอีกในขณะที่หลังก็ยังเจ็บอยู่
   ทางเลือกมีแค่จะทำ หรือเลิกทำ
   ถ้าทำต่อก็ทำไป ไม่ต้องบ่น ยกมันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก จบ
   แต่ถ้าไม่ทำ ก็ต้องปรับชีวิตกันใหม่หมด คือหางานใหม่ ลำพังส่วนตัวผมไม่เคยกลัวการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการลิขิตชีวิตตัวเอง ที่ทนอยู่ทุกวันนี้เพราะเหตุผลเดียวคือ ต้องการช่วยพ่อแม่ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองยังไม่ค่อยทำประโยชน์อะไรให้แก่ครอบครัวที่เลี้ยงดูผมมาเลย
   จะว่าไปแล้ว มันคือการทดแทนบุญคุณดีๆ นี่แหละครับ สิ่งง่ายๆ ที่ลูกทุกคนทำได้
   แล้วความฝันของผมล่ะ อนาคตของผมล่ะ ใจอีกด้านหนึ่งของผมที่อยู่เงียบๆ มันเรียกร้องขึ้นมาบ้าง
   หรือจะต้องสละความฝันตัวเอง เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฝันของตัวเอง ทำไปก็มีความสุขเองคนเดียว แต่ถ้าไปช่วยครอบครัว พ่อ แม่ ภรรยา ดูเขาจะมีความสุขมากกว่า
   เอา ได้ครับ การทำให้คนรอบข้างมีความสุข ก็ถือว่าทำตัวเป็นประโยชน์อีกอย่างหนึง ทั้งๆ ที่รู้ว่า การทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้เดินห่างฝันของตัวเองไปทุกทีๆ รู้สึกเหมือนเดินมาผิดทาง ไม่ใช่หลงทางนะ แต่เป็นการเดินทางผิดโดยที่ตัวเองรู้เป็นอย่างดี

   เช้าไปส่งลูก ออกไปทำงานร้าน 1 จนถึงบ่าย ขากลับแวะซื้อเต้าฮวยมากินที่บ้าน มีเวลาส่วนตัวเล็กน้อยราว 1 ชม แล้วก็ไปรับลูก มาส่งบ้าน ออกไปทำงานร้าน 2 จนถึงร้านปิด นี่คือชีวิตวันนี้ครับ
   
   อาการเดิมมันออก นั่ง นอน ยืน เดิน หรือทำอิริยาบถใดๆ นานๆ ก็จะเจ็บหลัง จะเจ็บมากตอนยกของ เจ้าของร้านก็รู้ บอกให้ผมไม่ต้องยกของ แค่ให้ยืนดูคนงานยกอย่างเดียว แค่เช็คของก็พอ
   มันก็ทำได้เฉพาะแค่ตอนคนงานมานั่นแหละครับ  ถ้าคนงานอู้ เดินไปเดินมา เข้าห้องน้ำ กินข้าว ฯลฯ หรือคนงานขาดงาน มันก็ไม่มีใครมายก สินค้ากองอยู่ท้ายรถตรงหน้า ถ้าไม่ทำ มันก็ไม่เสร็จ ไม่เสร็จ ก็ยังไม่เลิกงาน ก็ยังกลับบ้านไม่ได้    
   แต่งานยกของหนักนี่มันก็ไม่ได้ถึงกับยกกันตลอดเวลาหรอกนะ ยกเฉพาะตอนนำสินค้าส่ง ช่วงว่างก็มี วันนี้แก้เบื่อด้วยการนำหนังสือมานั่งอ่านเล่นตอนว่าง ก็ช่วยได้ดีทีเดียว ติดที่ตอนหัวค่ำยุงเยอะไปหน่อย พรุ่งนี้อาจต้องมีสเปรย์กันยุงติดมาด้วย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #19 on: April 22, 2011, 06:33:47 pm »
22 เมษ 54
   เช้าวันศุกร์ แต่ผมไม่เห็นจะสุขตรงไหน ไม่ได้ขี่จักรยานตอนเช้ามานานมาก ดีที่ทักษะการขี่จักรยานของเรามันติดตัวไปตลอดชีวิต ไม่งั้นคงมีการลืมกันบ้าง
   ตอนสาย เพื่อนชื่อ “กลม” เอ๊ะ ชื่อมันเขียนว่าอย่างไรวะ “กรม” หรือ “กม” ผมไม่รู้ ไม่เคยถาม รู้จักกัน เจอหน้ากันครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นกลมทำงานที่ Ford ส่วนผมทำนิตยสาร Racing Club เจอกันหนเดียวนี่แหละ แต่คุยกันจนถึงวันนี้
   กลมอ่าน Diary ที่ผมเล่าเรื่องราว รู้ว่าผมปวดหลัง โทรมาแนะนำหมอจับเส้นของจีน แต่ตัวหมอเป็นคนไทย ผมขอบใจเขาไป บอกว่าตัวเองอาการดีขึ้นพอควรแล้ว ถึงขั้นกลับมายกของหนักได้แบบเดิมแล้ว เพียงแต่ถ้ายกนานๆ มันจะเจ็บ
   ปิดท้ายด้วยการชวนผมไปขี่จักรยานที่สิงคโปร์ บ๊ะ เข้าท่าฉิบเป๋ง ผมตอบตกลงไปโดยที่ไม่ได้ดูตารางงานล่วงหน้าเลยด้วยซ้ำ
   “เราไปกันเดือนสิงหานะเปิ้ล ถ้ามาได้ก็มานะ มาแจมแค่ไม่กี่วันก็ได้นะ”
   กลม เพื่อนเก่าแก่ เราไม่เคยขี่จักยานด้วยกันสักครั้ง นี่อาจเป็นครั้งแรก
   “ผมไปกับกลมได้ไหม จะได้โหลดจักรยานพร้อมกัน จะได้มีเพื่อน”
   “กลุ่มเราจองตั๋วไว้เรียบร้อยตั้งแต่ที่แล้ว และเราไม่ได้เอาจักรยานไป เปิ้ลไม่ต้องห่วง รถที่โน่นมีเพียบ คุ้นๆว่ามี Trek คันเล็กหน่อยเหลืออยู่”
   “เฮ้ย มีรถให้ด้วยหรอ แจ๋วว่ะ แบบนี้ไม่ต้องขนไปเองหรอก เอาสิทธิในการขนของ 20 กก ไปหิ้วของใช้ยังจะดีเสียกว่า”
   อันที่จริงกลมเขาชวนผมมาหลายปีแล้วล่ะครับ ผมเองต่างหากที่เคลียร์ตัวเองไม่ทัน มาปีนี้ไม่น่าจะพลาดแล้วนะ
   
   กลางวันไปทำธุระที่สำนักงานเขตพระนคร ผมไม่เคยไปมาก่อน กลัวจอดรถยาก เห็นบอกว่าอยู่แถวบางลำภูด้วย ยิ่งไม่กล้าเสี่ยง เลยขี่จักรยานไป พอไปถึง โอ้โห จอดรถยนต์สะดวกมากๆ เป็นสำนักงานเขตที่ใหญ่โตพอควร (แต่แพ้เขตจอมทองแถวบ้านผม จอดรถได้แล้ว ยังเตะฟุตบอลได้อีกหลายวง รวมถึงเต้นแอโรบิคด้วย) ลองมาเทียบกับเขตคลองสานแล้วคนละเรื่อง เขตคลองสานเล็กมากๆ ไปทำธุระต้องขี่จักรยานไปเท่านั้น
   ขากลับแวะร้าน VeloThailand สามเสนซอย 4 ผมเล็งเอาไว้นานแล้ว แต่ร้านนี้อยู่ในซอย ถ้าไม่มีธุระแถวนั้นคงเข้าไปยาก จอดรถยนต์ก็ไม่สะดวก ดูจากหน้าเวปผมคิดว่าร้านใหญ่ เขาเป็นร้านแค่ห้องเดียวเอง แต่มีจักรานเช่าวางไว้เรียงรายเป็นสิบคัน ดูเหมือนร้านจักรยานเช่าเสียมากกว่าร้านขายจักรยาน คงใกล้ถนนข้าวสาร แถวนั้นฝรั่งเยอะ
   แดดแรงจัดครับ ผมใส่ถุงแขน ผ้าคลุมปิดหน้า มีหมวกปีกกว้างอีกใบ ใส่แว่นตาดำด้วย เจอแดดขนาดนี้ ผมคิดอยากได้แว่นใหม่ เป็นสไตล์แว่นแบบ Goggle แต่ไม่มีสายรัดนะ เขาใช้เป็นขาแว่นปกติแทน ผมเคยเห็นแต่มันนานมากแล้วเป็นสิบปี ไม่รู้ว่าทุกวันนี้จะหาได้อีกหรือไม่ เลนส์ใหญ่ๆ ปิดหน้า น่าจะกันแสงแดดได้ดีกว่าแว่นธรรมดา งานนี้ไม่หล่อช่างมันวะ เกรงใจใบหน้า อายุมากแล้ว กระ ฝ้า มาเยือนแล้วมันชอบอยู่ทนนาน
   
   ไปรับลูก แล้วก็กลับมาทำงานที่ร้าน 2 ต่อ เบื่อครับ แต่ต้องอย่าคิดเบื่อ มันจะทำให้เรายิ่งเบื่อ ต้องคิดให้มันสนุกเข้าไว้ คิดบวกให้มาก แล้วใจเราจะเป็นสุขเอง
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #20 on: April 23, 2011, 08:31:27 pm »
23 เมษ 54
   มีเป้าหมายชีวิตแล้ว มีทริปแล้ว ที่เหลือก็คือการฟิตซ้อมร่างกาย นี่แหละ ที่ผมรอคอยมานาน ชีวิตที่ไร้เป้าหมาย ก็คือชีวิตที่ไร้วิญญาณ วันเวลาจะผ่านไปแบบไร้ค่า อยู่แบบเปลืองลมหายใจ ลองคิดดู จะสูดลมหายใจ ยังต้องเกรงใจต้นไม้ ชีวิตแบบนี้มันไร้ค่าจริงๆ
   หลังที่เจ็บอยู่ก็จริง แต่ผมก็ต้องออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ไปด้วย เป็นท่าออกกำลังกายที่ผมคิดขึ้นเอง หวังว่ามันคงจะช่วยพัฒนาร่างกายได้บ้าง หลังเราเจ็บ ก็ต้องทำให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงครับ มันจะได้เจ็บน้อยลง ที่หลังเราเจ็บ เพราะหลังเราไม่แข็งแรง ผมคิดแบบนี้ ไม่รู้ถูกหรือผิด
   การที่จะทำให้หลังแข็งแรง มันน่าจะต้องมีกล้ามเนื้อหน้าท้องมาช่วยรับแรงด้านหน้าด้วย ปล่อยให้กล้ามเนื้อด้านหลังทำงานอย่างเดียวมันก็รับไม่ไหว
   ตรรกะแบบคิดเอง เออเอง ในขณะที่ผมยังเดินเหินไม่เต็มร้อย ทำให้ผมคิดถึงโยคะ
   ยังไม่เคยทำโยคะเลยครับ ว่าจะลองดู

   อยู่ๆ ไป หลังมันก็ค่อยๆ ดีขึ้นเอง เริ่มจากสูบลมรถจักรยานได้ ขี่จักรยานได้ สุดท้ายยกของหนักๆ พอได้บ้าง มีแนวโน้มไปในทางที่ดีครับ ถ้าไม่โดนจัดหนักซ้ำนะ
   
   เช้านี่ขี่ไปทำธุระแถวปากคลองตลาด ไปแบบเร่งด่วน ขี่เร็วมาก แต่กับไอ้รถล้อ 14 Single Speed มันทำความเร็วอย่างเก่งก็แค่ 20 กม/ชม เท่านั้นเอง รอบขาหมุนจี๋ รถแทบไม่วิ่งเลย ฮ่าๆ
   มารู้สึกเริ่มเจ็บตึงด้านหลังเอาตอนบ่ายๆ นึกขึ้นได้ อ้อ เมื่อวานเราขี่จักรยานไปบางลำภูนี่หว่า มาวันนี้โดนซ้ำเข้า หลังเลยออกอาการ มันไม่ถึงกับเจ็บแปล็บ แต่รู้สึกเหมือนจะเกือบจะเจ็บ เป็นอาการที่อธิบายไม่ถูก
   
   กลางวันไปเก็บเงินลูกค้า โดนผลัดผ่อนมาหลายรอบ ตอนสั่งของเขาก็เร่งจะเอาเร็วๆ แต่ตอนจ่ายเงินให้เรา ทำไมมันยากเย็นนัก ตอนจะไปเก็บเงินนี่รู้สึกเหมือนเราไปขอเงินเขากิน วันก่อนเขานัดวันนี้ พอไปวันนี้ นัดวันหน้า นี่แหละครับ ชีวิตเจ้าของกิจการ ที่คนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองทุกคนต้องเจอ
   ยังมีวิบากกรรมของคนเป็นเจ้าของกิจการอีกเยอะ คนกินเงินเดือนมาหลายปีก็เบื่อ อยากมีธุรกิจเป็นของตนเองบ้าง ก็ไม่ไดว่าอะไร คนเป็นเจ้าของกิจการหลายคนก็อยากเป็นมนุษย์เงินเดือนกับเขาบ้างเหมือนกัน และนี่คือทางออกของผม เลยเลือกรับงานแบบอิสระ ได้เงินจากลูกค้า จากการว่างจ้าง แบบอิสระ ได้ไม่เยอะ ได้ไม่มาก แต่มีความสุขอย่างเหลือล้น น่าเสียดายที่ผมทำแบบนั้นได้เพียงแค่ไม่กีปี
   
   บ่ายผมเข้าไปที่คอนโดฯ หลักๆ ที่เข้าไปก็คือแค่การทำความสะอาด เปิดระบบปรับอากาศให้น้ำยาแอร์ไหลหมุนเวียนบ้าง วันนี้เจอฝนตกหนัก เลยถือโอกาสขัดพื้นระเบียง เปลียนชุดเป็นกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว นั่งขัดเช็ดถูระเบียงตอนฝนตกหนัก อารมณ์เหมือนตอนเด็กเล่นน้ำฝนเลยครับ สนุกดี คราวหน้าฝนตกหนักๆ จะออกไปขัดอีก มันส์มากๆ ขัดจนฝนหายตก เลยแถมเช็ดแห้งด้วยเสียเลย ระเบียงสะอาดเอี่ยม
   
   กลับมาบ้านตอนเย็น หิวจัด หาอะไรกินไม่ได้ แต่มีผลไม้สารพัดอย่าง แตงโม ฝรั่ง กล้วย สตอเบอรี่ ซัดเสียหมดทุกอย่าง ก่อนนอน ถ้ายังหิว ก็มีน้ำเต้าหู้อีก 1 ถุงรออยู่
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #21 on: April 25, 2011, 05:56:15 pm »
24 เมษ 54
   วันนี้ที่รอคอย มีวันหยุดแค่วันเดียวในรอบสัปดาห์ ต้องใช้วันหยุดนี้ให้คุ้มค่าด้วยการตื่นแต่เช้า แต่ตื่นมาก็ไม่มีอะไรทำนะ อืม ไม่เชิงไม่มีอะไรทำ แต่ไม่อยากจะทำอะไรเสียมากกว่า
   ท้องฟ้ามืดครึ้มแต่เช้า เอาไงดีล่ะนี่ ถ้าออกขี่จักรยานแบบลากยาวทั้งวัน ออกทริป เดินทางไกล อะไรพวกนี้ผมไม่กลัวฝนหรอก ชอบด้วยซ้ำ แต่ถ้าออกไปขี่แป๊บเดียวแล้วเข้าบ้านนี่สิ จะไม่ชอบฝนเอาเสียเลย
   เดินไปเดินมาในบ้าน ทำได้แค่ยืดเส้นยืดสาย วันนี้มันดูเงียบเหงา ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ทำตัวให้เป็นประโยขน์อะไรสักนิด ดูเหมือนใช้ชีวิตเพียงแค่ผ่านไปวันๆ
   
   นักโทษการเมืองชื่อทักษิณประกาศนโยบายของพรรคหลายอย่าง มีเด่นอยู่หลายข้อ แต่ที่ผมจับตามองเพราะคิดตรงกันคือการสร้างเขื่อนในอ่าวไทย
   คิดเหมือนกันเรื่องเขื่อน แต่เหตุผลต่างกัน อ้าว ทำไมอย่างนั้นล่ะ
   ทักษิณบอกทำเขื่อนกันน้ำท่วม กทม
   ผม บอกทำเขื่อนเพราะป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ไล่กันตั้งแต่บางปู มาทางฝั่งธนฯ มหาชัย สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
   และถ้าเห็นด้วยกับไอเดียผม ก็ต้องทำเป็นเขื่อนขนาดใหญ่มากๆ ป้องกันเขื่อนพัง แถมยังใช้สันเขื่อนเป็นสถานที่ท่องเทียว
   แน่นอน มันต้องมีปัญหาตามมาเยอะ ต้องศึกษากันในรายละเอียด ชาวประมงค์พื้นบ้านเอาเรือออกได้ยากกว่าเก่าแน่ อันนี้ต้องมาหาวิธีแก้ไขปัญหากัน จะทำเป็นประตูน้ำเปิดให้เรือผ่านได้หรืออย่างไรก็ว่ากันไป
   หรือถ้าจะทำกันแบบไม่อยากให้กระทบกับวิถีชาวบ้าน ก็ต้องขยายถนนออกไปในทะเลไกลๆ ยิ่งขึ้น วาดภาพออกมาแล้วก็จะได้ถนนตรงดิ่งจากสัตหีบไปหัวหิน !!! ถ้าทำได้จริงล่ะก็ ผมไม่อยากนึกภาพของการขยายตัวทางเศรฐกิจเลยครับว่าจะมหาศาลขนาดไหน
   เราจะได้ถนนตรงยาวราว 200 กม สามารถสร้างเมือง สร้างชุมชนได้ในระหว่างทางด้วยซ้ำไป
   ผมนึกถึงภาพทางจักรยานเรียบสนิทยาว 200 กม เคียงข้างถนน 4 เลน (ไปกลับรวม 8 ช่องทาง) มีปั๊มน้ำมัน มีร้านอาหาร จุดพักรถ ซ่อมรถ เผลอๆ อาจมีโรงแรมจอดพักนอนได้อีกด้วย
   ไหนๆ ก็สร้างโปรเจคขนาดนี้แล้ว ด้านใต้ล่างสะพานผมขอเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงด้วยนะครับ ชุมชนเมืองต่างๆ ก็อาศัยอยู่ด้านใต้ล่างนี่แหละครับ จะเอาให้มันสูงกว่าระดับน้ำทะเลสักแค่ไหนก็ว่ากันไป ต้องบอกไว้ก่อนครับว่า หากเกิดสึนามิ การอยู่ในทะเลนั้น ปลอดภัยกว่าอยู่บนชายฝั่งเยอะมากครับ
   ที่เล่ามานี่มันเป็นไปได้นะครับ ไม่ใช่เรื่องเฟ้อฝัน ถนนแค่นี้มันเป็นไปได้จริง ดูโครงการแต่ละอย่างของประเทศสหรัฐอารับเอมิเรท มันยากกว่าทำถนนตัดทะเลของเราหลายเท่า
   จะให้วิ่งฟรีหรือเก็บเงินก็ว่ากันไป แต่เก็บเท่าไหร่คนก็มาใช้ครับ

   ประเทศไทยเราเหมือนกับโดนกดปุ่มให้หยุดนิ่งมานานมากแล้วครับ ถึงวันนี้เราควรพัฒนาแบบก้าวกระโดดได้แล้ว
   ปัญหาเดียว ปัญหาใหญ่ของไทยเราก็คือ เรามีปัญหาเรื่องคน และวิธีคิดของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมองของนักการเมือง ที่เห็นชัดๆ ในทุกวันนี้คือวิธีการบริหารงานของพรรคประชาธิปัตย์ น่าเสียดายที่สามารถโค่นทักษิณลงมาได้ แต่พอตัวเองได้มีโอกาสโชว์ฝีมือบ้าง กลับทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แถมยังก่อปัญหาแปลกๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง กรณีน้ำมันปาล์มแพง และขาดแคลน ปัดโธ่ ไทยปลูกปาล์มน้ำมันมากเป็นอันดับสองของโลกนะครับ
   ถ้าเลือกตั้งคราวนี้คนเมืองหลวงไม่เลือกประชาธิปัตย์ก็ไม่ต้องไปโทษทักษิณเขาอีกล่ะ ได้เรื่องโยนความผิดให้คนอื่นนี้ พวกนักการเมืองเขาทำได้เก่งมากๆ ราวกับว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
   
   คุยเรื่องการเมือง แล้วเดี๋ยวไหลไปอีกไกล ทักษิณนั้นเก่งครับ ใช้คนเป็นอีกด้วย แต่ก็มีปัญหาเรื่องคนรอบข้างที่จ้องจะดูดเงินอยู่เรื่อย เลยเป็นที่มาของการจัดสารพัดม็อบเสื้อแดง ก็เพราะการจัด Event แต่ละครั้ง มันคือใบเสร็จที่เอาไปโชว์เจ้าของเงินได้
พูดเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น

พอประชาธิปัตย์ได้ฟังโครงการของทักษิณ แทนที่จะคิดหาโครงการใหม่ๆ หรือรีบทำโครงการเก่าที่คุยโม้เอาไว้ให้สำเร็จโดยเร็ว เขากลับออกข่าวโต้ว่า ทักษิณต่างหากที่เป็นฝ่ายก๊อปโครงการของประชาธิปัตย์
ปัดโธ่ ทำงานด้วยปากกันนี่หว่า
   
วันนี้มีการเปิดตัว VW Beetle ตัวใหม่ จะเรียกว่า Look 2 ก็ไม่ผิด แต่ไม่รู้ว่าเขาใช้ภาษาทางการว่าอะไร หาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามนิตยสารรถยนต์ครับ


   
25 เมษ 54
   ฝนตกอย่างหนักตั้งแต่ตี 3 เช้าแล้วฝนก็ยังไม่หาย ยังคงตกปรอยๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกที่อยู่ในเมืองรถเจอกับรถติดเพียงใด น้ำคงท่วมขังหลายจุด แถมเป็นวันจันทร์เช้าอีกด้วย ดีนะที่เป็นช่วงปิดเทอม ไม่งั้นจะถือว่าครบสูตร
   ผมให้แม่บ้านทำอาหารเช้าสูตรใหม่ ปกติจะกินพวกผักเป็นประจำอยู่แล้ว มาวันนี้แทนที่จะผัดแล้วใส่น้ำมันหอยเฉยๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นใส่พริก ใส่ใบกระเพรา ใส่เห็ด ทำเหมือนผัดกระเพรานั่นแหละ แต่ใส่ผักและเห็ดแทน รสชาติดีครับ กินแล้วติดใจ กินกับข้าวกล้องโรยด้วยงาดำคั่วเองอีก 1 ช้อนโต๊ะ
   ถ้าอยู่บ้าน ผมจะควบคุมคุณภาพของอาหารได้ แต่ถ้าอยู่นอกบ้านแล้วหมดสิทธิ์ ทำได้แค่เลือกอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบเยอะๆ เช่น ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยวใส่ถัวงอกเยอะๆ เส้นหมี่ราดหน้าใส่ผักคะน้ำเพียบๆ ไม่ก็เปาะเปี๊ยะสด
   ออกไปทำธุระที่เขตจอมทองแต่เช้า แต่เดี๋ยวนี้เขตเขาทำงานรวดเร็วมากกว่าสมัยผมหนุ่มๆ เยอะครับ ผมยังเคยอยู่ในยุคที่ทำบัตรประชาชนใช้เวลาครึ่งวัน ทำใบขับขี่รถยนต์สาหัสกว่านั้น ต้องใช้เวลาถึง 1 วันเต็มๆ ใช่เลย ถ้าสอบไม่ผ่าน ก็ต้องมาใหม่ ใช้อีก 1 วันเช่นกัน
   เตรียมเอกสารมาให้พร้อม ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีเสร็จ จะมานานก็ตอนรอคิวเรียก แล้วแต่ว่าช่วงเวลานั้นจะมีคนมากันเยอะหรือน้อย

   เสร็จแล้วก็ไปทำงานที่ร้าน 1 จนถึงบ่าย รับลูกเสร็จมาอยู่ที่ร้าน 2 ลักษณะงานก็คล้ายกัน แต่ร้าน 2 มีคนงานเยอะกว่า ผมช่วยยกของแค่เพียงเล็กน้อย เน้นหนักไปที่การเช็คสินค้าเข้าออก
   ตอนบ่ายโทรหา “กลม” ถามเขาว่าจะไปสิงคโปร์กันวันไหน เห็นเขาไปกันสองครอบครัวใหญ่ แล้วถ้ามีผมไปร่วมด้วยอีกคน มันจะคับแคบมากขึ้นกว่าเดิมไหม แถมเจ้าบ้านที่โน่นก็ยังไม่รู้จักผมอีกด้วย ง่ายๆ คือกลัวว่าตัวเองจะเป็นส่วนเกิน ผมเกรงใจทุกๆ คนครับ แต่ก็ยอมรับเต็มปากว่าอยากไปด้วยจริงๆ
   “เฮ้ย เปิ้ล ไม่เป็นไร มากับเราได้ เพื่อนๆ สนิทกันจริงๆ”
   ได้ยินกลมบอกแบบนี้หลายรอบแล้ว เจ้าบ้านน่าจะเป็นคนใจดีสุดๆ นะ ยิ่งคิด ยิ่งเกรงใจว่ะ
   “เปิ้ลมาวันที่ครอบครัวผมเขากลับกันก็ได้ มาอยู่ต่อกันอีก 2 วัน ขี่รถแม่งให้บ้าเลือดไปเลย” น้ำเสียงของกลมมันพูดออกมาแบบมีพลังมากๆ เล่นเอาไฟในกายผมลุกโชนบ้าง
   ปกติไปต่างประเทศ ผมก็จะรู้จุดที่ผมเข้าพักอยู่แล้ว มักจะเรียกแท๊กซี่ บ้างก็รถไฟฟ้าเข้าเมือง แต่งานนี้ผมไม่รู้ที่อยู่ของเจ้าบ้าน แม้สิงคโปร์จะไม่ใหญ่ แต่มันไปไม่เป็น
   “เอาน่า ไม่ต้องห่วง มาถึงแล้ว ผมขับรถไปรับเอง”
   เอาวะ ยังไงก็ต้องไปแน่ๆ แล้วล่ะ อย่างแย่ที่สุด ถ้าเกรงใจเขามากๆ ผมก็จะหา Guest House พักอยู่เอง คืออยากไปหลายวันน่ะครับ อยากลองเขียนหนังสือดูบ้าง ไม่รู้ฝีมือที่พอมี มันยังจะเฉียบคมอยู่หรือเปล่า
   
   เลิกงานจากร้าน 2 ตอนหกโมงเย็น ร้านขายตั๋วเครื่องบินที่ผมซื้อประจำปิดเสียแล้ว พรุ่งนี้จะลองโทรแต่เช้า หวังว่าคงจะได้ตั๋วถูกๆ กับเขาบ้าง ส่วนกลมเขาลอยตัวไปแล้ว เล่นจองโปร 0 บาท ของ Air Asia ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว หึหึ อิจฉาว่ะ ปีหน้าฝากจองด้วยคนสิ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #22 on: April 29, 2011, 07:27:34 am »
26 เมษ 54

   สองวันก่อนราคาทองคำในไทยทำ New High อีกแล้ว อย่างที่บอก อย่าตกใจ มันจะขึ้นไปมากกว่านี้อีก แตะที่ 22000 บาทได้แบบขำขำ เช่นเดียวกับ US Dollar ที่จะตกลงมาต่ำกว่า 30 บาทอย่างแน่นอน 100% (ใจผมลุ้นให้มันตกมาถึง 26 บาทนะ แต่ว่าคงยาก อาจได้แค่ 27-28 เพราะหากต่ำกว่านี้ อาจมีกลุ่มทุนโยกย้ายฐานเงิน ทำให้เงิน US มันพุ่งตีกลับขึ้นไปอีก

กลางวันกินข้าวหมูแดง ร้านเก่าแก่ รสชาติอร่อยมากๆ เป็นข้าวหมูแดงที่อร่อยสุดเท่าที่เคยกินมา
   “ข้าวหมูกรอบอย่างเดียวครับ”
   “มีแต่แบบผสมนะ” แม่ค้าตอบเสียงห้วนๆ หน่อย
   “ได้ครับ”
   แม่ค้าจับหมูมาเรียงบนข้าว สุดท้ายเอาไข่ต้มครึ่งฟองโปะหน้า แหม ยุคนี้ไข่แพงสุดยอดเลย ไข่ดิบฟองละ 4.50 บาทครับ
   “ไม่เอาไข่ครับพี่”
   เขาหยิบไข่ต้มครึ่งฟองออก เอาหมูกรอบ 1 ชิ้น และผักชี 1 ใบ มาใส่ให้
   “…. อืม รู้งี้กูเอาไข่ดีกว่านะ….”
   
   บ่ายไปทำธุระที่เขตพระนคร วันก่อนขี่จักรยานไปสำรวจเส้นทาง ผบว่าภายในเขตกว้างขวางดี จอดรถสะดวก วันนี้เลยขับรถยนต์ไป แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นคนแน่นเต็มไปหมด ไม่มีที่จอดรถเลย วนเวียนไปมาจนต้องไปจอดในซอยข้างๆ เดินไกลหน่อย
   มาเสร็จเอาตอนบ่ายแก่ๆ กลับมาร้านหมายเลข 1 และอยู่ต่อจนถึงปิดร้าน ทุ่มกว่าๆ จากนั้นก็ต้องไปเฝ้าร้านหมายเลข 2 ต่อจนถึงปิดร้านอีกเช่นกัน นั่นแหละ ถึงจะกลับบ้านได้ 

27 เมษ 54
   เหงื่อไม่ได้ออกหนักๆ มาเป็นเดือนแล้ว ตั้งแต่ไม่ได้ขี่จักรยานตอนเช้าๆ และยกของหนักๆ ไม่ได้ ทำได้แค่เดินไปเดินมา น้ำหนักที่ลดลงมาได้ระดับหนึ่งแล้ว มันค่อยๆ ขึ้นทีละนิดๆ
   เรื่องเขมรยิงไทย มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องการเมืองล้วนๆ โดยฮุนเซนได้รับคำสั่งจากเจ้านายคนไทยให้มายุแหย่ ด้วยหวังผลทางการเมืองทั้งฝั่งไทย และฝั่งเขมร – ผมวิเคราะห์เองนะครับ อาจไม่ถูกต้องก็เป็นได้

   ชีวิตประจำวันซับซ้อนมากยิ่งขึ้น มีงานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เข้ามาให้ปรับผิดชอบ เช้าอยู่ร้าน 1 บ่ายอยู่ร้าน 2 กลับบ้านทุ่มกว่า
   ร้าน 1 ทีว่าน่าเบื่อ กลายเป็นแสนจะสบาย เพราะว่าร้าน 2 นี้ ผมไม่มีกระทั่งเก้าอี้ให้นั่ง วันนี้เดิน ยืน ตลอดเวลาตั้งแต่ 0400 – 0700 ถึงบ้านเพลีย หลับ

28 เมษ 54
   ลูกมีงานปิดภาคเรียนฤดูร้อน เป็นการสรุปกระบวนความคิดที่เขาเรียนมาในรอบ 1 เดือน เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แบบเด็กๆ เขาเรียนเรื่องมอเตอร์ไฟฟ้า และพลังงานแม่เหล็ก
   เลยถือโอกาสโดดงานร้าน 1 ไปโรงเรียนลูกแต่เช้า เห็นเขาเป็นคนเชิญธงชาติขึ้นเสา ผมแอบไปถ่ายรูป เจอคุณแม่ท่านหนึ่งเข้ามาคุยด้วย
   “เคยเห็นน้องมิวนำสวดมนต์ไหมคะ”
   “ไม่เคยครับ”
   “เขานำสวดได้ดี ร้องเพลงชาติอีกด้วย”
   ผมไม่เคยอยู่ทันดูลูกเข้าแถวตอนเช้าสักครั้ง เพราะต้องรีบไปทำงานยกของที่ร้าน 1 ทุกวัน แถมผมยังปล่อยให้ลูกเดินเข้ามาในโรงเรียนเองระยะทางราว 300 เมตร มีสองเหตุผล หนึ่งคือฝึกให้เขาเดินเข้ามาโรงเรียนเอง ให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และสองคือผมจะได้ไม่ต้องไปวนกลับรถไกล แบบนี้เรียก win – win
   
   ขณะอยู่ที่งานกิจกรรมที่โรงเรียน มีผู้ปกครองเด็กท่านหนึ่งเข้ามาทักผม แนะนำตัวว่าเขาชื่อ “ตั้ม” เป็นผู้ติดตามอ่าน Life Diary อันนี้อยู่ ผมยังทำหน้างงไม่หาย ต้องสืบลึกเข้าไปสักหน่อย อยากรู้ว่าเป็นผู้อ่านสายไหน ผมจะได้คุยถูก จะได้วางตัวถูก
   สรุปว่าเขาติดตามมาจากเวปจักรยาน เพิ่งขี่ MTB ได้ราว 2 ปี ใช้ Trek MTB แต่อยากจะอัปเกรดเป็นรถทัวริ่ง ผมเลยแนะนำไปแค่ตระแกรงหลังอันเดียวพอ นอกนั้นใช้ของ MTB เดิมๆ นี่แหละ ลองขี่แบบนี้ดูไปก่อน มันอาจจะจบแค่ตรงนี้ก็เป็นได้ เอาเงินไว้ใช้จ่ายด้านอื่นดีกว่า
   อยู่ที่โรงเรียนลูกจนถึงเที่ยง ทางโรงเรียนอนุญาตให้รับเด็กกลับได้ มิวขอไปกินข้าวที่ร้าน Terrace ที่ห้างเซ็นทรัลใกล้ๆ โรงเรียน
   “อ้าว ตะกี้ลูกเพิ่งกินข้าวมาเองนี่”
   “มิวกินมักโรนีมาแค่ 3 คำ อยากกินข้างนอกมากกว่า”
   โห มีงี้ด้วย เล่นของแพงๆ ตลอดเลย นี่พ่ออยู่คนเดียวถ้าหิวก็แค่ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง 30 บาท น้ำไม่ต้องซื้อ เพราะพกติดตัวไปตลอด
   ตามใจลูกมากๆ ก็กลัวจะติดนิสัยเสียเหมือนกัน แต่ก็มีใจอ่อนกับเขาบ่อยๆ บางทีทำงานมาเหนื่อยๆ การตามใจลูกก็เหมือนกับการปลดปล่อย เห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุข แต่ไอ้สุขแบบนี้ อาจจะเป็นทุกข์ในระยะหลัง เพราะการตามใจเด็กมากเกินไปจนไร้ขอบเขต จะทำให้เขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง
   ฉะนั้น ทุกครั้งที่ผมตามใจเขา ก็จะอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมถึงตามใจ และข้อเสียของการตามใจเด็กมากเกินไป ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจไหม แต่ก็ต้องบอกกันเอาไว้ก่อน
   กลับมาบ้านตอนบ่าย ผมต้องไปร้าน 1 ต่อ ไม่อยากไปเลยว่ะ ร้านโครตจะน่าเบื่อเลย แถมการปล่อยให้ลูกเล่นอยู่คนเดียวแบบนี้ เขาก็เอาแต่เล่นเกม ดู DVD ฯลฯ ต่างจากตอนที่เขาอยู่กับผม เรามักจะเล่นเกมที่มีทักษะการใช้สมอง เช่น Lego โดมิโน เกมเศรษฐี ที่แย่สุดคือหลังจากที่ผมเลิกงานกลับมาแล้ว มักจะรู้สึกหงุดหงิด อ่อนเพลีย ง่วงนอน
   ชีวิตแบบนี้ เป็นชีวิตที่ไม่สมดุลย์เอาเสียเลย ผมฝืนใจทำอย่างมาก แต่ลึกๆ ก็พอจะมีความสุขอยู่บ้างเหมือนกัน ตรงที่ได้ทำอะไรเพื่อครอบครัวที่เขาเลี้ยงดูเรามาบ้าง ทำดีต่อกันขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ ผมคิดแบบง่ายๆ คิดสั้น ๆ อย่างนี้แหละครับ
   
   กลางคืนมีเรื่องน่าเศร้าใจ ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เข้ามาในห้องนอน ลูกกำลังทำการบ้านคณิตศาสตร์ ผมหายใจเสียงดังเพราะเหนื่อย เขาหันมาตวาดผม พูดว่า “อะไร” ลากเสียงยาว พูดเสียงดัง ผมหันไปมองหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องนอนทันที
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #23 on: April 29, 2011, 05:49:12 pm »
29 เมษ 54
   เจองานรุมทั้งภาคเช้าและบ่าย เล่นเอาสมองไม่แล่น คิดงานอะไรตอบสนองช้ามาก ใจโลเล คิดหน้าพะวงหลัง ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน นี่มันคนละคนกับผมที่เคยเป็นมา คิดบวกมาหลายวันแล้วยังไม่พอ คงต้องคิดคูณ และถ้ายังไม่สำเร็จ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นทวีคูณ
   ไม่ได้ออนไลน์มาหลายวัน ใช้เวลาระหว่างรอลูกช่วงเช้าเข้าเวปส่ง Diary ขึ้นไป พิมพ์ทุกวัน วันละนิดละหน่อย แล้วแต่เวลาจะว่าง นี่ค้างมา 3 วันแล้ว ตั้งแต่ต้องเข้าไปช่วยที่ร้าน 2 นี่ เวลาของผมหายไปอีกเยอะมากๆ
   
   ที่ผมรู้สึกว่าไม่มีความสุขในช่วงนี้ ก็เป็นเพราะวิธีคิดของผมเองแหละครับ มัวแต่คิดว่ามันทุกข์ ใจมันก็เลยเป็นไปตามนั้น มาวันนี้ ผมคิดแต่ความสุข จะให้ทำอะไร ก็สุขไปหมด ไล่ไปยกของ ก็คิดว่าดีโว๊ย ได้ออกกำลังกาย แม้หลังจะยังคงเจ็บอยู่ก็ไม่เห็นเป็นไร ยกน้อยๆ ก็ได้นี่หว่า
   ยามว่างที่น่าเบื่อ ก็ใช้เดินสมาธิเอา กำหนดลมหายใจตามจังหวะย่างก้าว ในใจก็คิดถึงเรื่องทริปจักรยานไปด้วยในตัว ใจไม่ได้นิ่งสงบหรอกนะ มีแต่จักรยานเดินทางไกลล้วนๆ เลยล่ะ คิดไปถึงทริปสารพัดรูปแบบ ทริปพันโลบ้าง ทริป 0 บาทบ้าง คืออยากให้แต่ละทริปมันมีคอนเสปในการเดินทาง แค่ขี่เฉยๆ ผมรู้สึกว่ามันยังไม่เท่าไหร่ ใครมีเวลาว่างก็ขี่ได้
   
   วันนี้ไปรับลูกเป็นวันสุดท้ายของการปิดภาคฤดูร้อน จะมาเรียนอีกทีก็วันเปิดเทอม 23 พฤษภาคม เลย ได้หยุดอีก 24 วันเต็มๆ นี่ถ้าเป็นผมได้มีเวลาว่างขนาดนี้ คงมีทริปแบบมโหฬารเป็นแน่
   ยามว่างขณะอยู่ที่ร้าน 2 อันแสนน่าเบื่อ ผมนั่งจดอุปกรณ์ทีใช้ในภาระกิจทัวริ่ง มีโจทย์จะต้องลดน้ำหนักบรรทุกลง 30% ไม่ใช่แค่เอาของออกนะ เอาของไปเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่เลือกใช้ของน้ำหนักเบาแทน เล่น ช้อน ส้อม มีด ผมใช้ของแจกฟรีในร้าน McDonald ทั้งชุด มีดของเขานี่คมมากๆ ครับ หั่นเนื้อได้สบาย ช้อน ส้อม ก็จับถนัดมือดี ชามใช้ถ้วยโฟมเลยครับ เบาสุดยอด แต่ต้องระวังบุบแตกหัก อันนี้เลยยังไม่สรุปว่าเวิร์คหรือไม่ ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงรองเท้า ว่าจะลองใช้รองเท้าแตะรัดส้นออกขี่ดูครับ ไม่เคยเหมือนกัน ทุกทีไปกับรองเท้าจักรยานตลอดเลย ถ้าขี่ด้วยรองเท้าแตะได้นี่ผมจะลดน้ำหนักได้อีกเกือบ 2 กก เลยทีเดียว เพราะผมใช้รองเท้ายางของจีนทรงเดียวกับยี่ห้อ Croc  มันเบามากๆ และถ้าจะลดน้ำหนักเสื้อ ก็มีเสื้อของ Northface รุ่น Flight Series เล็ก บาง เบา เสียอย่างเดียว โคตรแพงเลย
   ขี่ทัวริ่งในไทยดีอย่างครับ คือไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ครัวเหมือนพวกฝรั่งเขา ในไทยหาของกินง่ายมากๆ ทุรกันดารขนาดไหนก็หาของกินได้ ต่อให้เข้าป่าก็เถอะ ป่าของไทยเรายังมีของให้ยังชีพได้มากกว่าป่าของฝรั่งเยอะ (ยกเว้นป่าเสื่อมโทรม) แต่ก็นั่นแหละนะ ถ้ารู้ว่าจะเข้าป่า ก็ขอข้าวเหนียวหมูเค็ม หรืออาหารกินง่าย กินไว ไม่ต้องปรุง เช่นข้าวต้มมัด กล้วย มาม่า ฯลฯ เตรียมไปให้เพียงพอก็อยู่ได้สบายๆ กฏเหล็กสำหรับนักเดินทางก็คือ ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราดนะครับ ขนอะไรเข้าไป กินเสร็จแล้วก็นำมาทิ้งข้างนอกด้วย
จงเก็บมาแค่เพียงภาพถ่าย เหลือทิ้งไว้เพียงแค่รอยยาง
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: เมษ 54 14-16 หัวหิน
« Reply #24 on: May 01, 2011, 07:45:04 pm »
30 เมษ 54
รถ Fixed Gear ที่ผมจับตามอง และรอคอยมาถึงไทยแล้ว ยี่ห้อ RH+O รุ่น Katana 3 หรือ K3 เสียดายตรงขนาดเล็กสุดของเฟรมเขาอาจจะยังใหญ่เกินกว่าที่ผมจะขี่ได้ ผมไม่รู้เหมือนกันครับว่าการเลือกขนาดเฟรมของรถ Fixed Gear มันเหมือนกับการเลือกรถเสือหมอบไหม ถ้าใช่ก็ยังพอมีลุ้น แต่เฟรมใหญ่ยังไม่เท่าไหร่นะ ไอ้ตัวใหม่ K3 มันดันหนักกว่าตัวเก่า K2 อยู่ถึง 1 กก !!!
โหหห หนักกว่า 1 กก ถือว่าเยอะมากๆ ๆ ๆ เขาอาจจะอ้างว่า แข็งแกร่งขึ้นก็เถอะ หนักกว่าตัวเก่าสัก 200 – 300 กรัมยังพอรับได้ ผมเดาว่ามันเกิดจากเรื่องของวัสดุครับ ตัวเก่า K2 เขาใชอลูมินั่ม 6061 แต่ตัวใหม่ K3 ใช้โครโมลี่ 4130 แถมดามเพิ่มความแข็งแกร่งหลายจุด โดยเฉพาะ Chain Stay ช่วงติดกับกระโหลก ทำออกมาสวยมากๆ
   แต่ดูรูปแล้วก็พอได้นะ ผมชอบรถแนว Retro ท่อบนมันต้องขนานกับพื้น เจ้าคันนี้ท่อบนมันลาดลงนิดหนึ่ง แหม นี่ถ้าได้ขนานพื้นเป๊ะๆ จะสุดยอดมาก เอ๊ะ หรือว่ารูปทรงรถที่ผมชอบมันเป็นรถสไตล์ Track ก็ไม่รู้ แต่ผมจะเอามาขี่สไตล์ Trick อย่าเพิ่งตกใจ ไม่ได้เล่นโหดโดดเด้งไปมาเหมือนพวกเด็กๆ เขาหรอก ผมอยากแค่เอามาฝึกทักษะด้านการควบคุมรถ การทรงตัว และผลที่ตามมาคือเรื่องของจิตนาการ
   สำหรับผมแล้ว ขี่จักรยานต้องใช้จิตนาการนะครับ ไม่ใช่แค่ขี่ไปเรื่อยๆ ตามๆ กันไป จิตนาการมันขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของเราด้วย เช่น หากขี่รถทัวริ่ง จิตนาการก็คือเรื่องของเส้นทาง การเดินทาง การผจญภัย หากขี่รถ Fixed Gear / Trick จิตนาการก็คือความคิดพลิกแพลง ผาดแผลง แถมยังต้องฝึกความอดทน ต้องมุ่งมั่น มุมานะ และต้องเตรียมพร้อมต่อการบาดเจ็บอีกด้วย
   ผมเล่นกีฬาผาดโผนมาตลอด เบื่อเต็มทีต่อการบาดเจ็บและได้แผล กีฬาผาดโผนที่ได้แผลน้อยๆ หรือแทบไม่มีก็คือกีฬาทางน้ำครับ ผมคุ้นเคยกับเรือใบและวินเซิร์ฟมาตั้งแต่เด็กๆ ถือว่าเป็นประสพการณ์ที่ดีมากๆ เพราะมันติดตัวผมมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ เล่นอยู่หนัก เล่นอยู่นานหลายปี เล่นจนซื้อวินเซิร์ฟเป็นของตัวเอง เล่นจนเกือบจะติดทีมชาติ
   ไม่ได้เก่งอะไรหรอกนะ แต่กีฬาพวกนี้คนมันเล่นกันน้อย ถ้าเราขยันซ้อม ไปเล่นบ่อยๆ นานเข้า ผู้ใหญ่ก็จะมาชักชวนให้ลองไปคัดตัว ถ้าเข้ารอบ ก็ลงแข่งขัน เส้นทางเดินของมันมีง่ายๆ แค่นี้ หลักๆ คือต้องขยันซ้อม เก่งไม่เก่ง ไม่เป็นไร
   ฉะนั้น ใครอยากให้ลูกแจ้งเกิดด้านกีฬา ก็หาสิ่งที่เขาชอบได้เลยครับ พาลูกไปดู ไปทดลองเล่นให้หมด อันไหนไม่ชอบก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้และประสพการณ์ อันไหนชอบก็เดินหน้าลุย เล่นเป็นงานอดิเรกต่อไปเรื่อยๆ
   ช่วงมัธยม 4-6 ผมใช้เวลาช่วงบ่ายวันอาทิตย์ขลุกอยู่ที่บึงตะโก้ บางนา กม 13 ระหว่างวันธรรมดาก็ขี่จักรยาน BMX ทุกเย็นจนถึงค่ำ และเอารถยนต์ออกฝึกขับหากมีเวลาว่าง ทำทุกสิ่งนี้่พร้อมๆ กัน แต่มีแนวทางเดียวกัน นั่นคือเรียนรู้ด้วยตนเอง และคิดค้นสไตล์การขับขี่ควบคุมในรูปแบบของเราเอง
   จากจุดนั้นเอง มันจึงหล่อหลอมทุกสิ่งทุกอย่างรวมกันไว้เป็นหนึ่งเดียว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride