racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on December 01, 2011, 08:25:39 pm

Title: ธค 54
Post by: O'Pern on December 01, 2011, 08:25:39 pm
1 ธค 54
   เข้าเดือนสุดท้ายของปี 54 แล้ว แต่รู้สึกเบื่อๆ ก็ไม่รู้
   บ่ายเข้าไปที่คอนโด ไม่ได้มาเหยียบที่นี่เกือบเดือน สงสารต้นกระบองเพชร 3 ต้น เข้าไปดูแลรดน้ำมันสักหน่อย ผมชอบห้องนี้เพราะลมพัดเย็นสบายดีมากๆ นั่งเล่นเพลินๆ สุดท้ายก็ทำความสะอาดทั้งห้องจนหมด มันอยู่เฉยๆ เลยอดไม่ไหว ถูระเบียงเสียจนสะอาดลงไปนอนรับลม สบายดีจริงๆ
   กลับมาบ้านตอนเย็น ได้ข่าวชาวบ้านประท้วงปิดถนนอีกแล้ว ประชาชนเขาทำถูกแล้วครับ เพราะถ้าใครนิ่งเฉยจมอยู่ในน้ำ ทางรัฐบาล และ กทม เขาก็จะปล่อยให้แดดมันเผาจนน้ำระเหยไปเอง การออกมาแสดงพลัง ทำให้โลกภายนอกเห็นว่าคุณยังมีชีวิตอยู่
   ออกแนวประชด แดกดันไปหน่อยนะ เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิด ถ้าคนมีอำนาจมันทำงานเป็น
   วันนี้โคตรเบื่อจริงๆ 
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 02, 2011, 10:35:45 pm
2 ธค 54
   ชีวิตดูเงียบเหงา มืดมน เหมือนอยู่ในอุโมงค์มืด ปล่อยไว้แบบนี้นานๆ ไม่ดีแน่ วิธีแก้ระยะสั้นก็คือจัดทริปจักรยานทางไกลส่วนตัวโดยด่วน ไปมันคนเดียวแบบเดิมนี่แหละครับ ไปแบบ No Plan ก็ง่ายดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไปคิดเอาตอนอยู่บนอานจักรยาน คิดสดๆ แล้วก็ลุยกันเลย
   ชีวิตยังคงเป็นไปแบบเดิมๆ มีแต่ยกของ แบกของ ดีหน่อยตรงที่ช่วงนี้ไม่ต้องติดท้ายรถกระบะส่งของเหมือนปีก่อนๆ สงสัยเพราะหลังเจ็บยกของหนักไม่ได้มากแล้วกระมัง เจ้าของร้านปราณีให้ผมยกแต่พวกสินค้าในโกดัง และเข็นส่งของในละแวกแถวร้าน
สมุทรสาคร ต้นแบบการบริหารน้ำตัวจริง ผมยังย้ำเสมอว่าให้รัฐบาล และ กทม ไปดูวิธีการทำงานเป็นทีมของเขา เขาสามารถนำน้ำมหาศาลที่ไหลบ่ามาจากด้านบนลงทะเลได้ดีมากๆ เขาขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไป ก็ได้กลับมาแค่กระสอบทราย ปัดโธ่ คนเรา
   วัดพระแก้วเปิดถึงเที่ยงคืน โอกาสนี้หายากมากๆ บรรยากาศละแวกเกาะรัตนโกสินทร์นี่ผมชอบมาก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ขี่จักรยานแล้วนึกภาพประวัติศาสตร์ออกเลยครับ วันที่ 5-9 จะเปิดให้เขาชมวัดพระแก้วตอนกลางคืน ส่วนวันที่ 3-9 จะฉายภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่กำแพงด้านสนามหลวง ผมล่ะอยากไปขี่จักรยานเล่นคืนวันพรุ่งนี้เสียจริง จะมาติดก็ตรงต้องดูแลลูกนี่แหละครับ ถ้าผมออกมา เขาก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว
   ทำใจลำบากเหมือนกัน
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 03, 2011, 10:18:05 pm
3 ธค 54
   เช้านี้ลมหนาวพัดเย็นกว่าวันก่อนมากเลย ขี่จักรยานแล้วสดชื่นจริงๆ เอารถคันใหม่ (แต่เก่าเน่าของคนอื่น) คือ Neobike 16 ออกขี่ไปซื้อโจ๊กให้ลูก รถมันขี่นิ่งดีกว่าตัว 14 พอควรเลยล่ะครับ ฟรีหลังเป็นแบบ 16 ฟัน กดบันไดตอนออกตัวจะหนักหน่อย แต่ขี่ไปสักพักจะรู้สึกว่ามันพอดีกับการขี่บนท้องถนน คือทำความเร็วได้เหมาะสมกับสภาพตัวของมัน เร็วกว่านี้ก็ไปได้แต่รถมันจะแกว่งๆ
   ฮิราลี คลินตัน เยือนพม่า คุยกับอองซาน ซูจี หึหึ มาแนวนี้อีกแล้ว มันจะมาบุกเศรษฐกิจในพม่าอีกแล้ว หลังจากที่เล่นไปสร้างฐานทัพในหลายประเทศในแถบเอเชียไปเยอะ เริ่มตั้งแต่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ดีที่ยังไม่มีฐานในไทย
   ประเทศสหรัฐอเมริกามักจะมาแนวนี้ตลอดครับ เข้าแทรกแซงประเทศที่อ่อนแอกว่า เอาเรื่องประชาธิปไตยเข้ามาอ้างว่าช่วยประชาชน ไอ้เรื่องช่วยจากใจจริงก็เข้าใจนะ แต่มันมักจะมีเรื่องผลประโยชน์ และธุรกิจแฝงเข้ามาเสมอ คือเขารู้ไงว่าที่ใดในโลกมีทรัพยากรที่มีค่า อย่างพม่านี่มีบ่อน้ำมัน ก๊าซ อัญมณีเยอะมาก แต่ที่เด่นสุดในโลกก็คือป่าไม้ครับ 
   เรือยอร์ชหรูๆ ลำละกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ที่ต่อขึ้นในย่านสแกนดิเนเวีย เจาะจงเลือกเฉพาะไม้สักทองที่มาจาก 3 ประเทศเท่านั้น คือ ไทย ลาว พม่า แพงเท่าไหร่ก็ไม่สน ขอให้มีของส่งให้ตลอด เพราะไม้สักทองของเรามันแกร่ง ทน มอด แมลงไม่กิน แดน ฝน ทนได้ น้ำทะเลยังทนได้สบายมาก ไม่มีไม้ใดในโลกมีคุณสมบัติเช่นนี้อีกแล้ว
   ไม้สักทองของประเทศอื่นก็มี แต่ด้อยคุณภาพกว่าของเราครับ
   นอกจากนี้ เขามีข้อมูลของทุกประเทศในโลกผ่านทางระบบ GPS โดยมีดาวเทียมสำรวจมากว่า 30 ปีแล้ว (เริ่มมาจากกลยุทธทางทหาร) นโยบายต่างประเทศของเขามีจุดยืนอย่างมากไม่ว่าพรรคไหนเข้ามา ต่างก็สานต่อนโยบายนั้น มันทำให้เกิดความแข็งแกร่ง และต่อเนื่อง ดังเช่นโครงการ Star Wars ที่โด่งดังเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่มีแนวคิดการใช้ดาวเทียมยิงจรวดต่อต้านขีปนาวุธแบบอัตโนมัติ ป่านนี้คงเสร็จเรียบร้อยแล้วมั้ง แต่ไม่กล้าคุยบอกใครว่าประเทศตัวเองใช้ระบบนี้แล้ว
   ธุรกิจหลักของสหรัฐอเมริกาก็คือการแทรกแซงทางการค้ากับประเทศที่อ่อนแอกว่า (เขากีดกันกุ้ง แลพืชผลทางการจากไทย แต่ไม่กล้าหือเรื่องสินค้าลิขสิทธิ์ต่างๆ จากจีน) สินค้าส่งออกสำคัญของเขาคืออาวุธสงคราม การที่เขาส่งกำลังพลไปยังประเทศต่างๆ โดยอ้างมนุษยธรรมนั้น มันมีเหตุผลหลักๆ ของเขานั่นคือการทดสอบอาวุธสงครามในรูปแบบใหม่ๆ มันคือ War Show ธุรกิจบนความตาย
   ผมเกลียดนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกานะครับ แต่ไม่ได้เกลียดประชาชนของเขา เหมือนกับผมเกลียดรัฐบาลไทย เกลียดนักการเมืองกว่าครึ่งในสภา แต่ผมไม่ได้เกลียดคนไทยแม้แต่น้อย
   หนังสือ a day ประกาศหาคนร่วมปั่นออกทริปถึง 1 เดือนเต็ม อ่านแล้วของขึ้น กรี๊ดในใจ ถ้าเป็นผมในเมื่อก่อน ไม่ได้ต้องมาเฝ้าร้าน ก็สามารถไปไหนก็ได้อย่างอิสระ แต่ทุกวันนี้มันไม่มีเสียแล้ว
   แต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งรายละเอียดแนะนำตัวไปนะ ทั้งๆ ที่คุณสมบัติของเรามันไม่เข้าข่ายกับเขาเลยสักนิด ไม่ได้เผื่อฟลุ๊ก แต่แค่อยากให้กำลังใจเขา
   เป็นอีกวันที่นึกถึงความอิสระ ที่นับวันยิ่งจะโบยบินไกลออกไปทุกที
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 04, 2011, 09:33:17 pm
4 ธค 54 water ride
   ในเมื่อเบื่อสุดขีด ก็ต้องหาอะไรทำที่มันหลุดโลก เช้านี้เอาจักรยานออกขี่ในน้ำครับ ระยะทางแค่ไม่กี่กิโลเมตร แต่ต้องขี่ทวนน้ำ ปั่นแทบตาย รถไม่วิ่งไปไหนเลย ตอนแรกคิดว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า เห็นท่าเรือเล็กๆ กลางทางก็จอดแวะพัก ตรวจเช็คดูพบว่าจุดเชื่อมต่อกับเฟรม Down Tube มันเคลื่อน ผมยึดมันไม่แน่นพอ ตอนแรกคิดว่าแน่นดีแล้วแหละ แต่พอขี่ไปสักพัก มันเจอน้ำหนักตัวผมกดทับไปนานๆ ก็เลยเคลื่อนตัว หรืออีกกรณีหนึ่งนั่นคือ ผมเลือกใช้บูชตัวโตเกินไป กลับไปบ้านตอนลองเป็นขนาดเล็กลงกว่านี้ดู (เขามีบูชมาใช้เลือก 48 ชิ้น สำหรับจุดยึด 3 ตำแหน่ง เพียงพอต่อจักรยานทุกขนาด)
   ในสเปคบอกว่าติดตั้งแค่ 10 นาที แต่ผมทำไปถึงเกือบ 30 นาที ครั้งแรกครับ ให้อภัยตัวเอง ครั้งต่อไปคงจะเร็วกว่านี้แน่นอน ก็เหมือนการพับจักรยานแหละครับ รถ Strida บอกใช้เวลา 10 วิ หึหึ ผมทำได้ 3 วิ ครับ ส่วนรถ Dahon ที่มีจุดพับสองจุดคือกลางตัวถัง และท่อคอ เขาบอกพับได้ใน 30 วิ ผมทำได้ 15 วิ
   ไม่ได้อวดเก่ง เพราะทุกคนเก่งกันได้ง่ายๆ แค่ช่างสังเกตสักหน่อย อย่างแรกคือเราต้องรู้ว่าต้องจับรถตรงไหน ยืนมุมไหนของรถ ตรงไหนติดขัดอย่างไรก็แก้ไขกันไป ลองซ้อมพับๆ กางๆ อยู่กับบ้านให้คล่องก่อนออกผาดโผนในยุทธจักร แล้วคุณจะเป็นยอดฝีมือได้ไม่ยาก
   ระยะทางในลำคลองไม่กี่กิโลเมตร แต่ขี่ทวนน้ำครับ ใช้เวลาไปเกือบ 1 ชม ขี่ไปจนถึงใต้สะพานยกระดับวงแหวน จอดพักดีกว่า ขี่มาตลอดทางเมื่อยก้นอย่างมาก มันลำบากตรงที่จอดพักกลางทางไม่ได้ ถ้าจะพัก ก็ต้องหาท่าเรือ จอดแล้วก็ต้องผูกรถไว้นะ ไม่งั้นมันลอยไปตามน้ำจะยุ่งกันใหญ่
   จอดแวะพัก ก็ชาวบ้านมาหาปลาก็เดินเข้าไปคุยกับเขา สร้างสัมพันธ์กันไว้ ละแวกนี้ผมมาขี่จักรยานบ่อย กลุ่มพระราม 2  บางมด สวนธนฯ ต่างก็ใช้ถนนละแวกนี้ขี่ออกกำลังกายกันแทบทุกเย็น และในวันหยุดจะแถมรอบเช้าเพิ่มอีก
   คลองแถวบ้านผมดีครับ เป็นคลองที่ชาวบ้านใช้เรือสัญจร ข้างๆ ทางเลยมีร้านมินิมาร์ทแบบชาวบ้านๆ จากเดิมเราขี่จักรยานแล้วแวะซื้อของที่ 7-11 แต่วันนี้ผมจอดซื้อน้ำดื่มจากชาวบ้านริมคลอง บรรยากาศกันเองดีมากๆ เหมือนกับย้อนยุค
   ข้อเสียของการเล่นแบบนี้มีเยอะมากครับ อย่างแรกคือแม่งร้อนฉิบหายเลย ไม่มีร่มเงาให้หลบแม้แต่นิดเดียว ทวนลมยังไม่พอ แม่งมีทวนน้ำอีกด้วย ยังไม่พอนะ ถีบจักรยานก็จริง ล้อหมุนจริง แต่มันส่งกำลังผ่านกลไกไปปั่นใบพัด เกิดการสูญเสียกำลังขณะขับเคลื่อนเยอะมาก ภาษารถยนต์เรียก Drive Train Loss เล่าให้นึกภาพเห็นก็คือเราออกแรงขี่ที่ความเร็วราว 18 กม/ชม แต่รถมันวิ่งจริงได้แค่ราว 6-7 กม/ชม สาหัสสุดท้ายนั่นคือปล่อยฟรีแล้วหยุด ใบพัดไม่มีกำลังขับมันก็หยุดหมุน แรงส่งก็หยุดตาม แต่ถ้าเป็นจักรยานวิ่งบนถนน ถ้าปล่อยฟรีมันยังไหล่ส่งต่อได้ ยังได้ระยะทางเพิ่มไงครับ
   แต่โดยรวมแล้วมันสนุกดีมากเลยนะ ขากลับสบายหน่อย ขี่ตามน้ำ ไปได้เร็วกว่าเดิมเยอะมากเป็นเท่าตัว แล้วจู่ๆ
   เฮ้ยย งูๆ ๆ เอาไงดี รถกูเบรกไม่ได้เสียด้วย ทำได้แค่เลี้ยวหลบ แต่หลบไม่พ้นหรอก มาเจอกันแบบซึ่งๆ หน้าเลย
   กลัวใบพัดโดนตัวมันครับ เลยปล่อยฟรี กะจะให้รถไหลๆ ตามน้ำผ่านไป แต่..
   ไอ้ฉิบหาย มึงมาเลื้อยขึ้นทุ่นของกูทำไม เอาล่ะสิ นาทีนี้จะหนีไปไหนก็ไม่ได้ นั่งอยู่บนเบาะยกขาขึ้นอย่างเดียวเลย งูมันไม่ยอมไปครับ เจอทุ่นเรียบๆ แห้งๆ นี่มันนอนพักเลย คงจะว่ายน้ำมานาน ขอพักเหนื่อยหน่อย
   จดๆ จ้องๆ กันสักพัก เราก็จากกันด้วยดีครับ ผมน่ะทำได้แค่นั่งบนเบาะนิ่งๆ แต่งูเขาเลื้อยลงน้ำว่ายน้ำต่อไป เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน คิดไม่ถึงเลยจริงๆ
   ระหว่างทางเจอรือติดเครื่องยนต์ ลักษณะคล้ายเรือหางยาว วิ่งเร็ว คลื่นแรง ผู้คนใจดี ขับแบบยกคันเร่งปล่อยไหลแซงผมไป เมื่อพ้นแล้วค่อยเร่งส่งต่อ ชาวบ้านเขารู้ครับว่าคลื่นน้ำจากเรือของเขาที่วิ่งเร็วกว่า มันจะทำให้เรือลำเล็ก หรือจักรยานอย่างผมโคลงเคลงได้ง่าย
   แต่กับไอ้เจ้านี่เขาออกแบบมาให้ลุยคลื่นได้อยู่แล้วครับ ไม่มีปัญหาใดๆ สักนิด
   ข้อดีก็มีเยอะนะ ขี่เข้าไปในสวนแบบนี้ หมาเฝ้าสวนเยอะมาก แต่ก็ได้แค่เห่าครับ มันวิ่งไล่กวดผมเหมือนทำกับคนอื่นไม่ได้ ขี่แล้วยิ้มเยาะเย้ยมันในใจ ฮ่าๆ ดูท่าทางมันจะโมโหกว่าเดิมนะนี่
   เจอชาวบ้านเก็บผักบุ้ง จับปลาแบบยกยอ ก็ทักทายเขาก่อนครับ เจอหน้าผมก็ส่งยิ้มให้แล้ว ยิ้มให้แบบเห็นฟันชัดๆ สบตากันผมก็จะจะพูด “สวัสดีครับ” แน่ล่ะ ทุกคนยิ้มตอบ ทักทายตอบ เห็นไหม มิตรภาพมันเกิดจากตัวเราก่อนครับ
   ได้ข้อสรุปแล้วล่ะ ไอ้จักรยานน้ำแบบนี้มันเหมาะมากๆ ตอนเช้าและเย็นครับ พอสายหน่อยแดดแรง ชักจะไม่สนุกแล้วล่ะ และก็ต้องจำ “ร่องน้ำ” เอาไว้ด้วย ต้องจำว่าจุดใดมีตอ มีสิ่งแหลมคมยื่นออกมาไหม ไว้จะลองทริปเย็นๆ ดูสักครั้ง แต่คงต้องมีไฟส่องสว่างไปด้วย เพราะในคลองมันไม่มีไฟเลยสักดวง นึกแล้วน่าสนุกชะมัดเลย เลยเถิดไปถึงทริปค้างคืนเข้าให้
   กลับมาบ้านเอาตอน 1030 ออกจากบ้านตอน 0630 ตื่นตั้งแต่ตีห้าแล้วล่ะครับ แต่ขี่จักรยานวอร์มแถวๆ บ้านหาข้อสรุปว่าจะไปลุยน้ำที่ไหนดี แถวบ้านผมมีคลองให้ขี่เยอะเลยนะ วันนี้เลือกลงที่ท่าเรือของวัดพุทธบูชา เดี๋ยวสักพักฝีมือแก่กล้าจะเล่นชุดใหญ่แบบจัดหนัก ใจถึง พาออกทะเลกัน 
   หาอาหารเช้าที่บ้านตัวเองครับ ไม่ได้จอดแวะซื้ออะไรที่ไหน ลูกโทรมาเรียกตอนผมอยู่กลางน้ำ บอกให้รีบกลับมาบ้าน เขาซื้อโจ๊กมาฝาก
   กลับมาก็รีบเอาทุ่นวางตั้ง ฉีดน้ำล้างทำความสะอาด ทิ้งไว้สักพัก ใช้เวลานี้ไปกินข้าว เสร็จแล้วก็มาเช็ดทำความสะอาดก่อนพับเก็บเข้ากล่อง
   เช็ดไปก็สังเกตไป พบร่องรอยครูด ขูดขีดบางๆ เยอะเลย มันคงจะเกิดตอนผมจอดเทียบท่า และตอนจังหวะลากขึ้นลงท่าเรือแน่ๆ ยังดีทีไอ้ทุ่นนี้มันใช้วัสดุที่หนาเหนียวแข็งแรงดีมาก แบบเดียวกับพวกเรือยางชั้นดีแพงๆ เลยล่ะครับ
   เช็ดเสร็จก็ผึ่งลมให้แห้งสนิท ไว้ว่างๆ ค่อยเก็บ จะเป็นการซ้อมแพ็คเก็บเข้าที่อย่างเป็นทางการ แต่อีกใจก็อยากลองดูว่า มันจะไปได้ดีกับรถพับด้วยไหม
   ออกไปข้างนอกหน่อยเดียวมีเรื่องเล่าในบันทึกมากมาย ตรงกันข้าม บางวันอยู่เฝ้าโกดังแบบเบื่อสุดๆ ยกของหนักๆ หรือโดนลูกค้าระบายอารมณ์ใส่ แบบนี้ไม่ค่อยสนุกเอาเสียเลย
   เล่นในน้ำแล้วชักอยากได้เรือคายัคครับ แถวบ้านเรามีคลองน้ำสะอาดให้เล่นไง วิถีชาวบ้านของแท้ๆ ก็ยังหาได้อยู่ มีสวนมะพร้าวน้ำหอม สวนส้มบางมดแท้ๆ แบบดั้งเดิม สวนเกษตร แปลงปลูกพืชผัก ฯลฯ
   คลองที่ผมขี่ในวันนี้ยังออกทะเลได้นะครับ แต่อีกไกลพอดู เขาบอกว่าเรือเครื่องยนต์ใหญ่แบบ 4 สูบ ใช้เวลาราว 1.30 ชม ถ้าให้ผมขี่ก็คงจะถึงเอาตอนเย็นโน่นแหละครับ แถมขี่กลับไม่ไหวอีกด้วย โปรดส่งรถมารับข้าด้วย
   ภรรยาและลูกกลับมาตอนบ่าย ซื้อก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาฝาก แถมรู้ใจว่าผมชอบกินผักสดเยอะๆ นั่งเล่นอยู่บ้าน จัดสวน จัดบ่อปลา เอาต้นไม้มาปลูกริมบ่อเล่น จนถึงเย็น แม่ชวนไปกินข้าวนอกบ้าน ตัวผมมีแผนจะออกขี่จักรยานไปสนามหลวง แต่ไม่ได้บอกใคร เลยยกเลิกแผนของตัวเอง
   พาพ่อแม่ไปกินอาหารเวียดนามครับ ร้านแถวบ้านนั่นแหละ แต่พ่อแม่ไม่เคยมากิน รสชาติดีครับ ราคาก็กลางๆ ทุกคนลงมติว่าอร่อย เก็บไว้ในลิสต์ร้านโปรดของพวกเรา
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 05, 2011, 07:37:22 pm
5 ธค 54 วันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชฯ
   วันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบรอบ 84 ปี เช้านี้ถนนโล่งแบบไม่น่าเชื่อ โล่งกว่าวันน้ำท่วมเสียอีก รถบนท้องถนนยามเช้าแทบจะนับคันได้เลยครับ แต่ก็อีกแหละนะ พอถนนโล่งๆ มักจะมารถติดกันที่ป้ายรถเมล์ครับ เพราะเลนซ้ายสุด พวกแท็กซี่เขาจอดแช่จอง รถสองแถววิ่งมาเข้าไม่ได้ก็จอดซ้อน แล้วก็แช่มันอยู่อย่างนั้นแหละ พอรถเมล์มาก็ต้องซ้อนสามซะ เหลือเลนขวาสุดให้รถยนต์ทั่วไปแล่นได้ แต่ยังไม่พอ ที่เด็ดขาดสุดคือพวกรถตู้รับจ้าง พวกนี้ทำได้ทุกอย่างเพื่อความสะดวกส่วนตัว ไม่เคยคิดถึงกฎ มารยาท และความปลอดภัย เขาจะขับมาเลนที่สี่ แล้วโฉบ ปาดจอดเฉียงๆ ขวางไอ้สามเลนที่เขาจอดรอผู้โดยสาร เจ๋งว่ะ คนไทย
   คำแนะนำ หากขับรถในวันหยุด ถ้าใกล้ป้ายรถเมล์ ให้วิ่งขวาสุด
   ถนนโล่งๆ แบบนี้ เหมาะแก่การขี่จักรยานเป็นที่สุด แต่ถ้าเป็นพรุ่งนี้ วันแรกของการเปิดเทอม หยุดกันยาวแบบไม่ทันตั้งตัวเพราะน้ำท่วมหนัก จนผมเขียนโครงของหนังสือเรื่อง 11-11 Bangkok Dooms Day ออกมา เป็นเรื่องราวของเหตุการณ์ทั้งหมด และสดุดีทหารกล้าของไทยที่ใส่ใจช่วยเหลือประชาชนโดยตลอด
   วันพรุ่งนี้รถจะต้องติดแบบไม่คาดฝัน ทุกทางด่วนจะมีท้ายแถวสะสมยาวมาก ผมเองก็ต้องเผื่อเวลาออกจากบ้านเอาไว้เยอะๆ หน่อย แต่คงเลี่ยงยาก เพราะตอนเช้าต้องไปส่งลูกที่โรงเรียน จากนั้นค่อยเลยไปร้านขายของ งานก็ยังคงเป็นแบบเดิมๆ เป๊ะ ยกของเข้าออกโกดัง เข็นของส่งลูกค้า ตรวจเช็คสินค้า ที่รู้ก็เพราะวันนี้ก็เป็นแบบนั้น และเมื่อวาน หรือวันก่อนๆ ที่ผ่านมาเป็นสิบปี มันก็เป็นเช่นนั้น
   บ่ายผมเข้าไปคอนโด แวะเข้าไปโดยไม่มีเหตุผล นั่งเล่น พักผ่อน ผ่อนคลายสมอง นี่ถ้าในห้องนี้มีคอมพิวเตอร์สักชุด ผมคงจะนั่งพิมพ์ (เขียน) หนังสือได้อย่างสบายอารมณ์ ห้องพักนี้ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากครับ ลมพัดแรงดีตลอดวัน เข้ามาห้องนี้แล้วไม่อยากกลับบ้านเลยล่ะ นั่งเล่นที่ระเบียงรับลม ก็อยากได้ Ukulele มาดีดตีเล่น หรือดึกๆ จะให้นอนตรงระเบียงนี้ก็ยังไหว ผมว่ามันน่าจะนอนสบายกว่าในห้องเปิดแอร์บนเตียงนุ่มๆ เสียอีก
   กลับมาบ้านตอนเย็น ทำงานเขียนหนังสือนิดหน่อย เอารถ Neobike 16 ออกขี่เล่น เบาะของไอ้รถคันนี้มันเจ็บก้นมากๆ เหมือนนั่งบนตอไม้ หรือว่าก้นผมคุ้นชินกับเบาะนั่งอย่าง Brooks ไปเสียแล้วก็ไม่รู้นะ เพราะนั่งรถคันไหนก็จะรู้สึกไม่ชอบอย่างเห็นได้ชัด อาการแบบนี้น่าจะเรียกว่า Brooks Syndrome
   เออ ดีๆ เดี๋ยวหัวค่ำจะไปตั้งกระทู้ในเวปจักรยานเรื่อง Brooks Syndrome เสียหน่อย น่าจะต้องมีคนที่ก้นเป็นแบบผมอีกเยอะพอควร ไม่น่ามาเล่นเบาะ Brooks เล้ยย
   มื้อเย็นกินผลไม้นานาชนิด สัปปะรด ส้มเขียวหวาน แตงโม ถั่ว โอ้โห กินยังกะช้าง ส่วนมื้อพรุ่งนี้เช้าเตรียมไว้เป็นแบบอาหารกวาง นั่นคือบร็อคโคลี่ แครอท มันฝรั่ง ผัดน้ำมันหอย และไข่เจียวใส่มะเขือเทศ
   เข้าเวปจักรยาน เจอคนมาโพสถามหาซื้อจักรยานพับแบบ Tandem ลงชื่อนิคเนมว่า “พ่อน้องต้นไม้” ผมเลยตอบไปว่า มันมีอยู่รุ่นเดียวคือ KHS T20 และถามเขากลับว่า เป็นคนทีอยู่บ้านตรงข้ามกับผมหรือเปล่า
   เพราะว่าขณะนี้ลูกผมออกไปกินข้าวเย็นกับครอบครัวของน้องต้นไม้อยู่ครับ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 06, 2011, 08:50:01 pm
6 ธค 54
   วันแรกของการเปิดเรียน หลังจากต้องหยุดโดยไม่เต็มใจในเทศกาลน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ ใช่เลย ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึกเอาไว้แน่ๆ ถ้าจะให้ดีก็ต้องบอกว่าปีที่แล้วในเมืองโดนเผาวอดวาย ปีถัดมา (54) รอบนอกก็โดนน้ำท่วมกันยกใหญ่ ปีหน้า (55) จะมีแผ่นดินไหวดีไหมหนอ
   พี่วุฒิ นิคเนม Zangzaew ประกาศรถจักรยาน Marlin หาย รู้ข่าวแล้วตกใจมาก พี่เขาเป็นคนใช้จักรยานจริงจัง เป็นถึงบรรณาธิการของสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย น่าเห็นใจสุดๆ เพราะเขาจอดอย่างดีริมป้อมยาม แถมล็อคเรียบร้อย แต่ยังโดนจนได้ ไม่น่าเลย
วันนี้เจองานหนักครับ ขับรถกระบะไปรับสินค้าจากโกดัง บรรทุกจนล้นเต็มเปี่ยม ขับได้แค่ความเร็ว 40 กม/ชม ใช้เลนซ้ายสุดๆ ออกไปแต่เช้า ขนของขึ้นรถ และขับกลับร้านก็ปาเข้าไปเที่ยงครึ่ง แต่แทนที่จะได้พักกินข้าว กลับต้องนั่งรออีก 1.30 ชม กลางแดด ข้างถนนที่รถติดหนัก เพราะไม่มีใครช่วยเฝ้าของเฝ้ารถ และไม่มีที่จอดรถ
   นอนหลับฟุบลงบนท้ายกระบะในท่านั่งกับขอบฟุตบาท เหนื่อย ร้อน และคงดมควันไอเสียรถ มันเลยหลับเอาได้ง่ายๆ คนขับรถผ่านไปมาก็มองว่าไอ้หมอนี่มันเป็นอะไร ถึงได้มานอนหลับฟุบเอาตรงนี้
   เพลีย หมดแรง กลับบ้านแบบสะโหลสะเหล พอขึ้นรถตัวเองได้ก็แทบหลับคาพวงมาลัย
   ตกเย็นไปรับลูกที่โรงเรียน ขากลับเขาขอกินไก่ KFC ปกติผมจะไม่ค่อยให้ลูกกินของพวกนี้ แต่วันนี้ให้เขากินโดยง่าย มันเหมือนกับว่าเราเหนื่อยมามากแล้ว การให้อะไรแก่ลูกสักนิดก็ทำให้เราสุขใจได้เหมือนกัน เป็นความสุขจากการให้
   แต่ก็สอนลูกนะว่าอาหารแบบนี้มันไขมันสูง อ้วนง่าย เด็กๆ น่ะพอได้ แต่อย่าติดนิสัยกินแบบนี้ไปจนโต
   สอนลูกนี่ไม่ได้สอนแค่ปากนะครับ ต้องทำให้เขาดู ผมเองก็กินแต่อาหารสุขภาพ ผัก ผลไม้ มีเต็มบ้านครบ ทำตัวอย่างที่ดีให้เด็กดู ไม่ต้องพูดพร่ำเพื่อ โดยที่พ่อแม่ไม่ทำตัวอย่าง มันไม่เกิดประโยชน์สักนิด แถมสักวันถ้าโดนลูกย้อนเข้าให้ จะหน้าหงายกลับมา
   “อ้าว ทีพ่อยังทำได้เลย”
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 07, 2011, 07:41:14 pm
7 ธค 54
   อาการ Brooks Saddle Syndrome ทำให้ผมหาข้อมูลตัวเบาะ และหนังชนิดต่างๆ ผมชอบลายหนังรุ่น Aged ท่าทางจะสากๆ ไม่ลื่นดี แต่อาจมีข้อเสียตรงที่กางเกงจักรยานของเราจะเป็นขุยหรือไม่ คงต้องศึกษากันต่อไป ยังไงชื่อเสียงของ Brooks ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว
   Brooks Saddle Syndrome – ย่อ BSS เป็นอาการที่นั่งแล้วก้นคุ้นชินกับลักษณะของเบาะ Brooks อย่าตกใจไป มันไม่ใช่โรคจริงๆ แค่ผมบัญญัติศัพท์ขึ้นมาเอง
   ผมชอบหน้าตาของเบาะรุ่น Imperial มันแปลกตรงมีร่องกลาง และด้านชายล่างของเบาะมีเจาะรูสำหรับร้อยเชือก ป้องกันเบาะบาน แสดงว่าใช้ไปนานๆ มันต้องบานแน่ แต่เป็นห่วงร่องกลาง ผมกลัวร่องมันกว้างมากขึ้นแล้วหนีบไข่ เรื่องจริงนะ ไม่ได้ปล่อยมุข
   เย็นของเมื่อวาน ลูกกิน KFC เช้านี้อ๊วกแตกตั้งแต่ตอนตื่น หลังจากนั้นก็ให้กินโจ๊ก คิดว่าปกติดีแล้ว แต่ที่ไหนได้ ไปถึงที่โรงเรียนก็อ๊วกอีกรอบ สายๆ ก็อ๊วกอีก โรงเรียนเรียกให้ไปรับตัวกลับ อาการแบบนี้ผมเรียกว่าโรคแพ้โรงเรียน หยุดมาได้เป็นเดือน ปกติดีตลอด ไปเรียนวันเดียว อ๊วกแตก อืมม
   กลับมาบ้านก็อ่อนเพลีย นอนหลับตั้งแต่บ่าย ปกติก็จะตื่นมาแล้วหายดี แต่วันนี้ผิดคาด ตื่นมาอาบน้ำแล้วก็ขอนอนต่อ บอกไม่อยากกินอาหาร
   หัวค่ำไปดูลูก เขามีไข้ และปวดท้อง ผมเอายาให้กิน แล้วบอกให้เขานอนพัก ทำสมาธิไปด้วย ขอให้การเจ็บป่วยหายโดยเร็ว ผมทำแล้วมันหายน่ะ ก็เลยสอนให้ลูกทำบ้าง
   ข่าวเด่นวันนี้
   
ตร.คลอด 7 ข้อหาเอาผิดฝ่าฝืนจราจร
กทม. 7 ธ.ค.-ตำรวจ บช.น. คลอด  7 ข้อหามาเอาผิดผู้ใช้รถใช้ถนนที่ฝ่าฝืนวินัยจราจร โดยจะปรับในอัตราโทษสูงสุด เริ่มใช้เดือนมกราคมปีหน้า

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยมาตรการกวดขันวินัยจราจรเพื่อปลุกจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ว่า ได้ออกมาตรการกวดขันวินัยจราจรรวม 7 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ประกอบด้วย ความผิดที่พนักงานสอบสวนต้องส่งฟ้องศาล มี 2 ข้อหา คือ แข่งรถในทางสาธารณะ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต และข้อหาขับรถขณะเมาสุรา จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต

ส่วนความผิดที่พนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้มี 5 ข้อหา คือ ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 500 บาท ขับรถแซงเมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย ปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท จอดรถซ้อนคัน ปรับไม่เกิน 500 บาท ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดปรับไม่เกิน 1,000 บาท และขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 500 บาท

ส่วนรถที่ป้ายทะเบียนหล่นหายระหว่างน้ำท่วมนั้น ให้เร่งติดต่อกรมการขนส่งทางบกเพื่อทำป้ายใหม่หรือติดต่อสอบถามป้ายทะเบียนที่ตำรวจเก็บได้ช่วงน้ำลดกว่า 10,000 แผ่น ซึ่งนำส่งกรมการขนส่งทางบกไปแล้ว ทั้งนี้จะเริ่มจับปรับอย่างจริงจังในเดือนมกราคม 2555 โดยจะปรับในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด. -สำนักข่าวไทย

   อ่านแล้วตลกแบบเศร้าๆ เพราะมันก็คือกฎหมายเดิมนี่แหละ แต่จะมาบอกอีกทีว่า เฮ้ย ฉันจะเอาจริงแล้วนะ คราวนี้เอาแน่นะ แปลว่าที่ผ่านมากูจับมึงเล่นๆ ว่ะ จับขำขำ
   ปัญญาอ่อนจริงๆ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 09, 2011, 01:12:57 pm
8 ธค 54   
   ลูกไม่สบาย ยังไม่หายดี เลยหยุดเรียน ส่วนผม ก็ออกไปยกของที่ร้านเหมือนเดิม รอจนเที่ยง ถึงกลับเข้ามาบ้านและรับลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาล
   อันที่จริงผมต่อต้านการไปหาหมออย่างมาก แต่ภรรยาผมคิดตรงกันข้าม เขาศรัทธาหมอเป็นที่สุด เรื่องนี้เรามองกันไปคนละทางเลยครับ ผมจะเน้นให้ร่างกายรักษาตัวเอง ไม่อยากกินยาใดๆ และใช้ผักผลไม้เป็นวิตามินบำรุง
   แต่ก็ไม่อยากเถียงกันให้มันเป็นเรื่อง พาลูกไปหาหมอ ก็ได้ยามาแบบเดียวกับที่ขี่จักรยานไปซื้อตามร้านหมอตี๋ ยาแก้อาเจียน กินก่อนอาหาร แผงละ 10 เม็ด หมอตี๋ขาย 15 บาท ส่วนหมอในโรงพยาบาลน่ะ ไม่ต้องพูดถึง คูณไปอีกหลายเท่าตัว
   กลับเข้ามาบ้านพักผ่อน ลูกนอนเล่น อ่านหนังสือเล่น คงจะอาการดีขึ้นบ้างแล้ว ส่วนผมก็มีงานเขียนให้ทำเล็กๆ น้อยๆ แต่ไอ้งานแบบนี้ ถ้าจิตใจไม่โล่งโปร่งสบายจริงๆ มันเขียนแล้วจะติดขัด ไม่ลื่นไหล
   วันนี้ผมต้องออกไปเฝ้าร้านจนเลิก ออกจากบ้านไปตอนบ่ายแก่ๆ ก็ช่วยดูแลร้าน แปลว่า ต้องทำงานทุกอย่างที่เห็น คนมาซื้อของหน้าร้านก็ช่วยจัดส่งยกขึ้นรถให้เขา หรือใครมาส่งของร้านเราก็ต้องนั่งเช็คสินค้า บ้างก็ไปลงของที่โกดัง ฯลฯ
   ลูกเขาเบื่ออยู่บ้านคนเดียว เลยขอผมออกมาที่ร้านด้วย ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ อยากมาก็มาเถอะ ทำอะไรมีความสุขแล้วไม่เดือดร้อนใครก็ทำไปครับ
   ลูกอาการดีขึ้น มาถึงร้านก็วิ่งเล่นกับเด็กๆ ในละแวกนี้ ส่วนผมก็ต้องออกไปยกของรอบดึก เสร็จเอาตอนเกือบจะสองทุ่ม กลับเข้าบ้านอีกทีใกล้สามทุ่ม
   แล้ววันนี้ก็ผ่านพ้นไป
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 09, 2011, 08:52:45 pm
9 ตค 54
   หมาข้างบ้านเห่าเสียงดัง เลยตื่นแต่เช้า เอาจักรยานออกขี่เล่น ผมเพิ่งปรับเบาะ Brooks ให้เงยขึ้น 1 สเตป เดาว่ามันคงจะยุบตัว ขี่เมื่อวานโอเคดีนะ สบายดี แต่มาวันนี้รู้สึกขอบเบาะด้านล่างมันจะบานออกมาชนโคนขา รู้สึกเสียดสีอย่างชัดเจน เลยปรับก้มลงไปเป็นตำแหน่งเดิม
   ขี่ไปก็จิตนาการถึงเส้นทางต่างจังหวัดไปเรื่อยๆ ทำได้แค่คิด คงจะไปขี่ที่ไหนไม่ได้อีกแล้วมั้ง ชั่วชีวิตนี้เราจะต้องอยู่ร้านแห่งนี้ตลอดไปหรือนี่ ไม่น่าเชื่อจริงๆ
   ขี่ไปได้สัก 30 นาที ลงมายืดเส้น หลังเริ่มเจ็บนิดๆ มาหลายวันแล้ว ไม่ได้เจ็บแปล็บเหมือนเมื่อก่อน มันเป็นแบบเริ่มจะตึงๆ เมื่อวานยกสินค้าไป 200 ลัง ขำขำ
   วันนี้ลูกไปโรงเรียนแล้วล่ะ ส่วนผมก็ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ขี่จักรยานจดออเดอร์ลูกค้ากลางแดดแล้วแสบผิวดีจริงๆ ครับ ใช้ชีวิตสุดเบื่อให้ผ่านไปวันๆ นี่มันช่างยากเย็นเสียจริง
   กลับเข้ามาบ้านตอนบ่าย นั่งออกแบบที่เก็บจักรยานได้ 2 แบบ น่าจะเป็นงานดีไซน์ที่สวยอันหนึ่ง ผมชอบของผมละกันน่ะ มันเรียบๆ พับเก็บไว้เรียบร้อย สวย ไว้คงต้องสั่งทำเป็นงานต้นแบบเก็บไว้สักชุด กันลืม
   เย็นไปรับลูก คำแรกที่ผมถามคือเป็นอย่างไรบ้าง มีอาเจียนไหม ปวดท้องไหม พอรู้ว่าลูกสบายดีก็ดีใจ เดินจูงมือกันกลับบ้าน ขับรถไปก็คุยกันไปถึงเรื่องอนาคตของเขา สิ่งที่เขาต้องเจอในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เช่นเรื่องการคบหาเพื่อน ลูกจะชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ และตอนที่ลูกอยู่กับเพื่อน ก็จะมีทางเลือก 2 อย่างคือ เป็นผู้นำ และเป็นผู้ตาม
   เป็นผู้นำ ลูกก็นำเขาไปในแนวทางของลูก และถ้าเป็นผู้ตาม ก็ขอให้ตามผู้นำที่ดี มาถึงตรงนี้ลูกต้องคิดเองได้แล้วว่าควรตามใคร และควรนำเพื่อนไปในทิศทางใด
   อยากให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องคิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ พูดคุยกันแบบผู้ใหญ่ แล้วเขาจะแสดงทรรศนะออกมาแบบผู้ใหญ่
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 10, 2011, 09:04:58 pm
10 ธค 54 lunar eclipse
   ขี่จักรยานไปซื้อต้มเลือดหมูให้ลูกกินเป็นอาหารเช้า เขาสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เอาใจเสียหน่อย อยากให้กินมื้อเช้าเยอะๆ วันนี้เขาต้องไปเรียนพิเศษ ยังดีนะที่เขาบอกว่าสนุก เลยโล่งอก ถ้าบอกว่าเรียนแล้วเบื่อคงจะยุ่งกันใหญ๋
   ซื้อกับข้าวตามที่สั่งมาให้ แต่เขากลับกินแค่ไม่กี่คำก็บอกว่าอิ่มแล้ว และรีบมาเปิดคอมพิวเตอร์เล่นเกม หึหึ เชื่อเขาเลยว่ะ ซึ้งจริงๆ
   ส่งลูกไปเรียนพิเศษ ส่วนผมก็ไปที่ร้านขายของต่อ แล้วก็เข้าวงจรชีวิตแบบเดิมๆ เช้านี้ยกของหนักจนเจ็บหลังอีกแล้ว มีของแถมอีกอย่างคือเจ็บข้อเท้าซ้ายเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างให้กลุ้ม
คงจะเป็นลิขิตฟ้า ไม่ก็ปาฏิหาริย์ ที่ดลบันดาลให้ผมต้องมาทำงานใช้แรงงานอย่างนี้
   ผมเป็นคนไม่ชอบเสียดายเวลาย้อนหลังมากกว่า ชีวิตควายๆ ของผมแม่งไม่ประสพความสำเร็จอะไรสักอย่าง แต่ทุกวันนี้ก็ได้ทำงานช่วยแม่ เหตุผลมีแค่นี้ข้อเดียวเท่านั้นแหละ แม่เลี้ยงผมมาจนโตได้ ทำไมผมจะตอบแทนด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เล่า คิดมันง่ายๆ อย่างนี้ล่ะ
   สิบกว่าปีที่ผ่านมา ที่อยู่มาได้ก็เพราะเหตุผลข้อนี้เพียงข้อเดียว คือได้ช่วยแม่
   แล้วใจอีกด้านของผมมันก็ทวงถามกลับมาบ้าง อ้าว เฮ้ย แล้วฝันของมึงล่ะ อนาคตของมึงล่ะ งานต่างประเทศที่มึงสานไว้ล่ะ งานรถยนต์ในไทยมึงก็แทบจะทิ้งแม่งไปหมดแล้ว มันคือสิ่งที่มึงทำได้ดีที่สุดในชีวิตไม่ใช่หรือ ปล่อยมันไปง่ายๆ อย่างนี้น่ะหรือ
   ถุย ไอ้ส้นตีน ในที่สุดมึงมันก็แค่ไอ้คนขี้คุย ได้แต่เพ้อฝันไปวันๆ อย่างมึงน่ะ กูว่าคงทำได้แค่ขี่จักรยานต๊อกต๋อยแบบเดิมน่ะดีแล้ว

   เล่น Ukulele ไปแบบเศร้าๆ น้ำตาไหลออกมา เบื่อก็ขี่จักรยานเล่นในบ้านแบบเบาๆ เพราเจ็บข้อเท้า เงยหน้ามองท้องฟ้า เจอจันทรคราสพอดี
   มันมาระเบิดเอาวันนี้เหมือนผมพอดี
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 11, 2011, 08:48:29 pm
11 ธค 54 
   อากาศหนาวเย็นอย่างเห็นได้ชัด หนาวนานด้วย สิบโมงกว่าแล้วยังมีลมเย็นพัดตลอดเลย แดดก็ไม่แรง บรรยากาศแบบนี้ใครไม่ออกไปขี่จักรยานนี่เสียดายแย่ เออ.. ผมเสียดายว่ะ
   ก็เพราะเช้านี้ต้องขับรถไปส่งแม่ที่บ้านพี่สาวผมที่พระราม 9 เขาจัดงานทำบุญเลี้ยงพระเช้า ขับรถขึ้นทางด่วนเห็นป้ายโฆษณาของ AIS ที่บอกชีวิตมีหลายด้าน อยากให้มันมาถ่ายชีวิตผมบ้างนะ เมือวานยังเข็นของส่งอยู่ข้างถนน แต่วันนี้เข้าไปอยู่ในกลุ่มคนไฮโซใช้ชีวิตหรูหรา บอกตามตรงว่าทำตัวไม่ถูกครับ พออยู่ด้วยนานๆ เข้าก็กลายเป็นโรคเกลียดคนรวย ถ้ารู้จักกันแล้วไม่รู้ว่ารวยนี่ไม่เป็นไร แต่ถ้ารู้ว่ารวย ผมจะไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย รู้สึกขยะแขยง
   ชีวิตคนเรามันคนละระดับกันกระมัง ผมจน ก็ปล่อยผมให้อยู่ในสังคมของผมเถิด นับวันผมยิ่งจะปลีกตัวออกมาจากสังคมขึ้นไปทุกทีๆ อยากเข้าไปอยู่ในป่า ในเกาะ ในถ้ำ ไปในที่ๆ ไม่มีผู้คน รู้สึกอยากอยู่คนเดียว และมั่นใจว่าสามารถอยู่ได้
   ใครจะอยู่ในสังคมชั้นสูงก็ให้เขาอยู่ไป กินอยู่อย่างหรูหราก็เพราะเขาเหลือๆ ส่วนผมแค่พออยู่ได้ รู้สึกไม่สบายทุกทีที่ต้องไต่บันไดคุยกัน แม้เขาจะไม่ถือตัวก็เถอะ    
   ไอ้อาการแบบนี้ผมเป็นมาหลายปีแล้ว บางช่วงเบา บางช่วงโรคก็กำเริบหนัก บางคนนี้ผมสนิทด้วยอยู่ดีๆ พอรู้ว่ารวยปุ๊บ ก็เลิกคุยด้วยแม่งเลย ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด แต่มันคิดไปเองว่าเขาจะดูถูกเรา เขาจะคิดว่าเราไปหวังผลประโยชน์จากเขา เลยอยู่กันคนละฟากดีกว่า เป็นความคิดด้านลบที่ฝังใจมานาน
   ช่วงเข้าสังคม พอแนะนำกันให้รู้จัก บอกว่าเป็นลูกของรัฐมนตรีกระทรวงโน้นนี้ เป็นลูกของนักธุรกิจใหญ่โต ยกมือไหว้มันทีเดียวแล้วก็เดินหนีเลย รู้สึกไม่สบายตัว ไม่สบายใจทุกครั้งที่เข้าสู่โลกแห่งความจอมปลอม
   โลกแห่งความจริงของผมอยู่บนหลังอานจักรยานนี่แหละครับ ขี่แล้วรู้สึกลึกซึ้งถึงคำว่าอิสระที่โหยหา ยิ่งถ้าได้เป็นทริปค้างคืนนี่สุดยอดเหลือเกิน ไปคนเดียว จะจอดแวะ จะพัก หรือขี่ไม่ไหว จะขอใครโบกรถขึ้นอาศัยด้วยก็ทำได้อย่างอิสระ
   ผมถูกกดดันจากสังคมและคนรอบข้างมากขึ้นทุกวัน ก็หาทางปลดปล่อยด้วยการขี่จักรยาน แรกๆ ก็ขี่เล่นๆ สนุกๆ พอบีบคั้นผมมากเข้า มันก็จะยิ่งขี่ไกลออกไปเรื่อยๆ เชิญเลยครับ อยากให้ผมไปไกลแค่ไหน ก็กดดันผมมากขึ้นเท่านั้น
   เย็นภรรยาซื้อยำข้าวทอดมาฝาก ซื้อจากตลาดนัดแถวบ้านนั่นแหละครับ ได้ผักแกล้มมาเต็มถุง มีใบโหระพา ใบชะพลู กินไปเสียเยอะก็ยังไม่หมดซะที
   ผมมีประชุมที่เขาใหญ่ 3 วัน ถ้าได้เจอแบบหนาวจัดๆ คงจะดีไม่น้อย เปลี่ยนสถานที่กินอยู่ อาจได้ความคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 15, 2011, 04:52:27 pm
12 ธค 54
   ออกจาบ้านแต่เช้า เพราะจุดนัดพบนั้นอยู่ในเมือง กลัวรถติดครับ กะเวลาไม่ถูก แต่ขับออกจากบ้านไปได้หน่อยเดียวก็สงสัย ทำไมวันจันทร์นี้ถนนโล่งมาก อ้อ วันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญ
   ไปถึงจุดนัดพบก่อนเวลาเช่นเคย นี่แหละผมล่ะ ไม่เคยไปสาย นัดใคร ก็ไม่เคยสาย ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนในระดับใด การรักษาเวลา คือรักษาสัจจะ คือการแสดงความเป็นตัวตนของเราได้อีกอย่างหนึ่ง
   สายๆ นั้นแหละ ผู้คนถึงได้ทยอยกันมา เวลานัดหมาย 0830 รถออก 0900 แล้วก็ต้องสายไปอีกถึง 1000 ตามเคย เพราะรอคนมาช้า ซึ่งผมไม่เห็นด้วยอย่างมาก
   ทำไมต้องรอคนมาสายด้วย รอไปเขาก็ไม่สำนึกผิดอะไร เพราะผ่านมากีปีๆ และที่ไหนๆ ก็ต้องมารอคนสายจนเป็นวัฒนธรรม กลายเป็นการทำโทษคนมาตรงเวลามากกว่า จะให้เหตุผลว่าอลุ้มอล่วยผมก็เข้าใจ แต่ยังไงก็ไม่เห็นด้วย ใครมานัดกับผมแล้วผิดเวลา ถ้าไม่โทรมาบอกล่วงหน้า ผมรอ 15 นาที ก็จะถือว่ายกเลิกนัดหมายนั้น และจะดูถูกคนผิดนัดคนนั้นอยู่ในใจ แน่ละ ไม่คบหาเพื่อทำธุรกิจด้วยอย่างแน่นอน
   รถวิ่งออกจากเมืองไปทางภาคเหนือ ใช้ถนนวิภาวดี-รังสิตตลอดสาย ผมชะเง้อมองสภาพเมืองที่ผ่านศึกน้ำท่วมแล้วยังรู้สึกหดหู่ใจไม่หาย จากเดิมที่เห็นแต่ภาพจากทีวี วันนี้เห็นภาพของจริงแล้วน่าทึ่งเสียยิ่งกว่า ดูจากคราบระดับน้ำยิ่งน่าตกใจว่าน้ำมหาศาลมาได้อย่างไร
   ข้างทางช่วงนี้ยังแสดงเห็นสภาพเมืองผ่านศึกไปตลอดทางจนถึงวังน้อย อยุธยาโน่นเลยครับ น่าเศร้าใจจริงๆ กองขยะมากมายเกลื่อนกลาด ยังคงมีรถยนต์จอดทิ้งไว้บนโทลเวย์อยู่บ้าง (ไม่กีคัน)
   ผมมองข้างทางอย่างใจจดใจจ่อ เพราะปกติจะเป็นผู้ขับเอง มองแต่ท้องถนน วันนี้เป็นผู้โดยสาร จึงรู้สึกสบายสุดๆ
   “ขึ้นเหนือนั่งซ้าย ลงใต้นั่งขวา” นะครับ ถ้าชอบหลบแดดอย่างผมก็ทำตามนี้ แต่ถ้าชอบอาบแดดก็ทำตรงข้ามได้
   พอมาถึงถนนธนรัตน์ ผมถึงกับลุกขึ้นยืน เพราะจะดูสภาพถนนที่เขาขยาย และมีคนมากมายมาค้าน นักการเมืองเองก็ยังค้าน สื่อก็มาทำข่าว แต่ก็เหมือนกระแสนะ ค้านแล้วก็เท่านั้น เขาขยายไปแล้ว และมันเสร็จเรียบร้อย เกมโกงกินต้นไม้ใหญ่อายุเป็นร้อยปีสองข้างทางได้อย่างแยบยล น่ามีคนไปทำข่าวว่าต้นไม้โตๆ สองข้างทางมันหายไปอยู่ในบ้านใคร
   แน่ล่ะ ถามเขา เขาก็ตอบว่า หั่นทิ้งไปแล้ว ไม่ก็มันใหญ่มาก ขนย้ายไม่ได้หรอก อะไรทำนองนี้ แต่ระวังกูจะเชื่อมึง ถ้าไม่อยู่ในบ้านนักการเมือง ก็ต้องเป็นพวกทหาร ผู้มีอำนาจตัวเหี้ยๆ ในประเทศไทยมีแค่ไม่กี่กลุ่ม หาง่าย แต่จัดการกับมันยาก น่าแปลกจริงๆ คงจะกลัวอำนาจมืดที่จะย้อนกลับมาหาตัวเอง แถมไทยเป็นเมืองพุทธ ศาสนาสอนให้ปล่อยวาง ไม่ยึดติด รอให้กรรมตามสนองไปเอง
   โหห ไม่ทันใจเลยว่ะพี่น้อง
   เข้าพักที่ Greenery Resort ครับ ดูหรูหรา สวย สบาย แต่แย่หนักๆ ตรงอาหารไม่อร่อยครับ เจอมื้อแรกเป็นมื้อกลางวันก็กินแบบงั้นๆ รีบกิน รีบเข้าประชุมตอนบ่าย มาเลิกเอาหัวค่ำ เจอมื้อเย็น โอ้โห้ พระพุทธเจ้า แม่งแย่เหมือนเดิมเป๊ะ อาหารหลากหลายก็จริง แต่มันไม่อร่อยไง แกงเขียวหวานก็ไม่หอมเครื่องแกง ผัดผักก็ไม่หอมหวาน มันเหมือนกับว่าทำอาหารให้อร่อยไม่เป็นน่ะครับ อ้อ ขนาดก๋วยเตี๋ยวที่ทำง่ายๆ ยังลวกเส้น ไม่อร่อยเลย ลวกเสร็จส่งให้ลูกค้าปรุง ผมถามว่า ไม่มีน้ำมันกระเทียมเจียวหรือ เขาชี้ไปยังกระเทียมเจียวเปล่าๆ แห้งๆ กรอบๆ เออ ทรงพระเจริญครับพี่
   มันก็ดีไปอย่างคือไม่ต้องกินเยอะ ไม่ต้องเติมบ่อย สรุปกันในที่ประชุมแล้วว่า ของที่อร่อยสุดในงานคือโค๊ก และน้ำเปล่า
   หัวค่ำพวกเด็กๆ วัยรุ่นขับรถกันออกไปเที่ยวข้างนอก ผมไม่สนิทกับใคร เลยไม่ได้ไป แต่ก็ใช้เวลาที่เหลือนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หนาวเย็นดีชะมัด
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 15, 2011, 08:36:09 pm
13 ธค 54
   เช้านี้อุณหภูมิ 11.7 C ครับ วัดที่ระเบียงห้อง ตอน 0641 ตึกมีสองด้านนะ ฝั่งด้านผมจะมีลมพัด ส่วนอีกฝั่งลมเงียบสนิท ผมบอกใครๆ ว่าเมื่อเช้า 11.7 C แทบไม่มีใครเชื่อ ต้องเอารูปถ่ายอุณหภูมิขณะนั้นออกมาแสดง
   ต้องคอนเฟิร์มแล้วล่ะว่าอาหารแย่จริงๆ ด้วย เมื่อวานกลางวันแย่ เย็นก็งั้นๆ เช้านี้เจอแบบไข่ดาวเย็นๆ ชืดๆ ทำทิ้งไว้แล้วยังไม่พอ มีการนำไฟสีออกส้มๆ มาส่องหลอกให้ดูน่ากินอีก อันที่จริงไอ้ไฟแบบนี้ก็ใช้กันในร้านอาหารหรูๆ เหมือนกันนะ แต่พวกนั้นเขาอร่อยจริง ไม่เหมือนไอ้ที่ผมกินวันนี้
   ปกติผมจะกินมื้อเช้ามาก วันนี้เจอแบบคำเดียวอิ่ม แต่ก็กินจนหมดจานนะ ไม่ชอบเหลืออาหารทิ้งไว้ เสียดายมาก แอบเอาธัญพีช (Cereal) เติมใส่กระปุกที่เตรียมมา เอาไว้กินเล่นตอนอยู่ในห้องประชุม
   วันนี้ประชุมเต็มวันครับ พักกลางวันออกมาก็เจอกับอาหารแบบเดิมๆ อีกแล้ว เห็นผมด่าเรื่องอาหารเยอะเดี๋ยวจะคิดว่ามันแย่เกินเยียวยา อันที่จริงมันไม่ใช่อาหารคุณภาพต่ำอะไรหรอกนะ เพียงแต่มันไม่อร่อยเมื่อเทียบกับสถานที่ และราคา เท่านั้นเอง
   ผัดกระเพรา เสิร์ฟถึงในห้อง จานละ 200 กว่าบาท กับรสชาติเห่ยๆ โอเคนะครับ เข้าใจกันแล้วนะครับ
   บ่ายเข้าประชุมต่อ มาจบเอาตอนเย็น บรรยากาศคล้ายกับเด็กเลิกเรียนเลยครับ กรูออกจากห้องอย่างหน้าชื่นตาบาน นี่ถ้าได้อาหารอร่อยๆ คงจะดี มื้อนี้ดูดีหน่อย มีอาหารญี่ปุ่น มีเทมปุระ ผมชอบมาก แต่กินเข้าไปคำเดียวจุก คิดว่าจะไม่ด่าเรื่องอาหารแล้วนะ แต่ขออีกหน่อย
   มันคงจะไม่รู้มั้งว่ากุ้งชุปแป้งทอด กับเทมปุระต่างกันอย่างไร มันเอาแป้งเทมปุระ มาทำกรรมวิธีเดียวกับกุ้งชุปแป้งทอดครับ ไอ้ติงต๊องเอ๊ยยย ออกมาเลยกลายเป็นกุ้งตัวเหยียดตรงที่ชุ่มไปด้วยน้ำมัน ใครหิวๆ มาเจอแบบนี้ แป๊บเดียวอิ่มจนจุก
   กินเสร็จก็มีงานเลี้ยงเล็กๆ กัน สไตล์เดิมที่ผมเกลียดครับ คือเรียกแต่ละคนขึ้นมาร้องเพลงกัน ร้องกันเสียงดังมากๆ ขนาดนั่งอยู่ติดกันยังคุยกันแทบไม่รู้เรื่อง รู้สึกไม่ค่อยสนุก เลยปลีกตัวมานั่งเล่นดื่มด่ำกับบรรยากาศข้างนอก ผมว่าดีกว่าเยอะเลย
   มีสองมุมที่ผมชอบที่สุดในนี้ คือริมสระน้ำ และที่โซฟาใต้ต้นไม้ใหญ่ นั่งเล่นเพลินๆ คิดดีไซน์ที่จอดจักรยานได้ออกมาเพิ่มอีก 1 แบบแล้ว ในสัปดาห์นี้ผมคิดที่จอดจักรยานได้ถึง 2 แบบ เด่นตรงที่ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับพวกคอนโดอย่างมาก
   ไม่ได้เอาคอมพิวเตอร์ไปครับ ระยะหลังไปงานไหนๆ ก็เห็นคนหิ้วอุปกรณ์เหล่านี้กันราวกับเครื่องประดับ ฟังไอพอท ถือไอแพด ใช้ไอโฟน พอว่างสักนิดก็ต้องหยิบโทรศัพท์มากดแชท (BlackBerry) ผมว่าสังคมมันเริ่มจะดูแปลกไปหน่อย นี่เราไม่ต้องการพูดคุยกับคนที่อยู่รอบข้างกันบ้างเลยหรือ
   พอดึกมากเข้ามีการตั้งวงไพ่ อันนี้ยิ่งไม่ถนัดเข้าไปใหญ่ ผมเข้าห้องนอนตอนสามทุ่มกว่า นั่งริมระเบียง แหงนหน้ามองท้องฟ้า
   ยิ่งมืด ยิ่งเห็นดวงดาว
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 16, 2011, 01:53:01 pm
14 ธค 54
   13.9C ที่เวลา 0641 อุ่นขึ้นมานิด แต่ยังมีควันออกปากอยู่
   วันนี้ไม่มีอะไร กำหนดการบอกว่าจะออกเดินทางกัน 1000 แวะที่ Paleo (ร้านขายของสวยๆ แต่งแบบยุโรปโบราณ) ถ่ายรูปเล่น กินข้าวกลางวัน แล้วก็กลับ ฟังดูแล้วน่าจะถึงกรุงเทพฯสักบ่าย 3
   เอาเข้าจริง แม่งก็เลทกันอีกแล้ว ไม่รักษาเวลากันเลย ออกเดินทางจริงก็เล่นเข้าไปราว 1100 เลยอดแวะที่ Paleo (เห็นไหมว่ากูบอกแล้ว พอมีคนเลททีไร ไอ้คนที่เสียสิทธิ มักจะเป็นพวกคนตรงต่อเวลาทุกที) แวะกินข้าวกลางวันที่ร้านแถวตลาดปากช่อง ชื่อร้านบ้านไม้ชายน้ำมั้ง อาหารก็อร่อยดี แต่แปลกกว่านั้นคือร้านเขาตกแต่งด้วยของสะสมโบราณเก่าแก่ คล้ายๆ ของในเพลินวาน (หัวหิน) และแถวบ้านเก่าๆ ที่อัมพวานั่นแหละครับ ชอบของเก่าก็ดูได้เพลินตา สนุกดี อาหารรสชาติใช้ได้ครับ บรรยากาศริมลำน้ำก็สดชื่นไม่เลว เก็บบันทึกเอาไว้ในลิสต์ร้านถูกใจ
   ออกจากปากช่องแวะซื้อของฝากที่ร้านครูต้อ ผมซื้อขนมเปี๊ยะฝากพ่อแม่ ซื้อบ๊วยฝากภรรยา ซื้อกล้วยตากอบน้ำผึ้งเอาไว้ฝากพวกชาวจักรยานที่ผมอาจเจอเขากลางทาง (อันนี้คิดสดๆ )
   จากนี้ไปรถบัสจะขับตรงดิ่งเข้ากรุงเทพฯ คนอื่นหลับกันเกือบจะหมดรถ ผมสิไม่ค่อยจะหลับ นั่งเครื่องบินก็ไม่หลับ นั่งนานถึง 16 ชั่วโมงก็ยังทำได้แค่สัปปะหงก (หลับแบบชั่วคราว) นั่งไปก็มองวิวข้างทางไป ไม่เบื่อสักนิด มาถึงกรุงเทพฯเอาตอน 0430 ขับรถกลับถึงบ้านตอน 0530 วันนี้ฝากให้พ่อผมไปรับลูกแทน
   รู้ไหมว่าเข้าบ้านปุ๊บ ผมทำอะไรเป็นสิ่งแรก นอกจากเปลี่ยนเป็นมาใส่กางเกงขาสั้น สิ่งที่ผมชอบทำ และทำได้บ่อยๆ ก็คือ เล่น Ukulele, เขียนหนังสือ/ดีไซน์, ขี่จักรยาน, และเข้าสู่โลกออนไลน์
   เฉลยให้ครับ ผมขี่จักรยานเป็นอย่างแรก ขี่จนฟ้ามืด แล้วถึงเล่น Ukulele ต่ออีกเกือบ 1 ชม อาบน้ำปะแป้งหอมๆ แล้วค่อยมานั่งออนไลน์ตอนกลางคืนรอลูกกลับมาบ้าน
   คิดถึงจังเลย
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 16, 2011, 10:27:44 pm
15 ธค 54
   เมื่อคืนนอนหลับอย่างสบาย แม้จะไม่หรูหรา แม้จะต้องนอนกับพื้น แต่มันคือบ้านของเรา ที่ๆ เราคุ้นเคย
   เช้าไปส่งลูกแล้วเข้าร้านต่อ น่าแปลกใจที่บนถนนตากสินมีการตัดต้นไม้แบบเหมือนจะขนย้ายไปไหนสักแห่ง หวังว่าคงนำไปปลูกในที่สาธารณะนะ อย่าให้เหมือนกรณีการขยายถนนบนเขาใหญ่ แล้วนำต้นไม้อายุเป็นร้อยๆ ปีสองข้างทางเป็นร้อยๆ ต้นไปทำอะไร มันหายไปไหน ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่ามันคงไปตั้งอยู่ในบ้านของผู้มีอิทธิพล ถ้าตัดแล้วตาย มันก็จะโดนแปรรูปไปเป็นบ้านไม้หลังงาม แน่ล่ะ บ้านแบบนี้มีเงินก็ยังหาซื้อไม่ได้ แต่ถ้าเป็นนักการเมืองผู้มีอิทธิพลในไทย เขาทำได้สบายๆ แบบไร้ยางอาย
   การขยายถนนเสร็จสมบูรณ์ไปนานมากแล้ว กลุ่มต่อต้านก็คงจะไม่ได้ติดตามเรื่องต่อ ตอนแรกผู้คนสงสัยกันว่าจะขยายไปทำไม เพื่ออะไร แต่วันอาทิตย์ที่ 11 ธค 54 มันมีคอนเสิร์ตงาน Big Mountain ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ ระยะทางขึ้นเขาจากถนนธนรัตน์เข้าที่พักชื่อ Greenery จากเดิมแค่ 15 นาที แต่วันที่มีงาน Big Mountain มันใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง
   ตอนนี้รู้หรือยัง ว่าการขยายถนนมันทำเพื่อใคร
   เช็คต่อไปให้ลึกๆ อีกว่าเจ้าของโบนันซ่าคือใคร ไม่ต้องคิดต่อ ผมบอกให้เองว่าเป็นลูกน้องทักษิณ มิน่าเล่า ตัวลูกถึงได้กล้าทำกระทั่งสนามแข่งรถยนต์ทั้งๆ ที่อยู่แนบชิดติดกับเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่มีเสียงคนใดกล้าออกมาคัดค้าน สุดยอดดดดดดดดด
   ที่นี่… ประเทศไทย
   ผมว่าทักษิณไว้เยอะ แต่ก็ใช่ทางประชาธิปัตย์จะขาวสะอาด ไอ้นี่ก็ชั่วไม่แพ้กัน เลวแบบเข้าเส้นเลือดเลยล่ะ แต่คนดีๆ เขาก็มีเยอะ โดยเฉพาะนักการเมืองรุ่นใหม่ๆ มันก็เลยโดนผมด่าน้อยหน่อย แต่บอกได้เลยนะครับว่าถ้าเป็นพวกนักการเมืองหน้าเก่าล่ะก็ เหี้ยไม่แพ้ฝั่งตรงข้ามเลย
   มาถึงร้านตอนเช้า แอ่น แอน แอ้น ขับรถกระบะไปลงของในโกดังซะ หลังเจ็บแล้ว ยกไม่ได้ คนงานยกแทน เราเป็นคนสั่งการ มันก็โอเคหน่อยตรงไม่ต้องยก และต้องขอบคุณเหล่าบรรดาคนงานที่มทำงานด้วย ถ้าไม่มีเขา ผมก็ต้องยกเองแน่ๆ เหมือนทุกทีที่ผ่านมา
   อยู่ร้านจนถึงบ่ายๆ กลับเข้ามาบ้านก็นั่งเขียน (พิมพ์) ไดอารี่ ไม่ได้อยู่บ้านมาหลายวัน มีเรื่องให้เล่ามากมาย นั่งอยู่นานจนหิว หยิบเอาขนมเปี๊ยะที่ซื้อฝากแม่มากิน (ให้แม่แล้ว แต่แม่บอกให้ช่วยกันกิน เดี๋ยวอ้วน) ผมเลือกแบบไส้งาดำ กัดคำแรกก็ซึ้งใจแล้ว เพราะมันไม่ใช่งาดำ อ้าว เอ็งเอาอะไรมาให้ข้ากินล่ะนี่ กินไปก็ยังไม่รู้ว่าเป็นรสชาติของอะไร สักพักนึกได้ว่ามันคงจะเป็นเผือกกวน โธ่ ไอ้สันดานเอ๊ย
   ขนมเปี๋ยะรสชาติแย่ครับ สู้ขนมจากทางนครสวรรค์ไม่ได้แม้แต่น้อย ขนมเปี๊ยะรสชาติชืดๆ ไม่มีกลิ่นหอมสักนิดเดียว จะว่าเก่าเก็บก็ไม่น่าจะใช่ ร้านครูต้อมีชื่อเสียงขนาดนี้
   เพราะหิว ก็จำใจกินไปจนหมดลูก แต่ไม่กล้าเก็บให้แม่กินแล้วล่ะ ของฝากรสชาติแบบนี้ มันมีไว้ฝากสุนัข ไม่ได้ไว้ฝากคน
   จะให้ของอะไรแก่คนอื่น ต้องให้ของดีๆ นะครับ ให้ของไม่ดี แทนที่ผู้รับเขาจะชื่นชม กลับจะโดนด่าลับหลังเข้าให้ โดยเฉพาะพวกของเก่าเก็บ ของหมดอายุ ทิ้งได้ก็ทิ้งไปเลยครับ อย่าไปเสียดาย โดนคนด่าลับหลังแล้วมันไม่คุ้ม
   อย่างร้านครูต้อที่ทำขนมเปี๊ยะปัญญาอ่อนแบบนี้ออกมาก็โดนผมด่าไปเยอะแล้ว แถมยังจะต้องโดนไปอีกนานหลายปีจนกว่าผมจะลืม คุ้มกันไหมเล่า 
   หรือถ้าให้คิดบวกก็คือ นี่แหละ สุดฝีมือของฉันแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะให้อภัย แต่ไม่ขอซื้อซ้ำอีกแน่นอน
   เย็นไปรับลูก แวะร้านปลาซื้ออาหารปลา วันนี้เลือกแบบมีสารอาหารเสริมเยอะหน่อย จากเดิมซื้อแต่แบบคุ้นหูเช่น ซากุระ ไม่ก็ CP แต่เลี้ยงจนมันออกลูกได้หลายครอกแล้ว เราก็ฝีมือไม่ธรรมดาแล้วนะ เปลี่ยนอาหารบำรุงสักนิดน่าจะดี
   เลือกอยู่นาน ได้มาแบบผสมสาหร่ายสไปรูไรน่า 12% เขียนสรรพคุณไว้มากมายเช่น เน้นสี เพิ่มความเงาวาวของเกล็ด เร่งลาย ฯลฯ จะอะไรก็เถอะ ขอให้มันมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขผมก็ดีใจจะแย่แล้วล่ะ
   ช่วงนี้ฤดูผสมพันธุ์ มีข่าวหมาพิทบูลกัดคนตาย ปลาในบ่อผมเองก็ว่ายไล่กวดกันเป็นพรวน น่าจะใกล้วางไข่และผสมพันธุ์ในอีกไม่ช้า ถ้ามีข่าวดี จะมาเล่าใหม่ครับ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 16, 2011, 10:51:46 pm
16 ธค 54
   ทักษิณไปกัมพูชาเมื่อวันวาน วันนี้มีข่าวเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ไทยโดนยิง ย้ำอีกครั้งแบบเดิมๆ นะครับ ฮุนเซนเป็นลูกน้องทักษิณครับ
   จะยิงเพื่ออะไรสุดจะคาดเดา แต่ถ้าให้ผมวิเคราะห์ก็คือ ต้องการแย่งพื้นที่ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ กลบกระแสการคืนพาสปอร์ทให้ทักษิณ ไอ้พวกนี้มันไม่คิดอะไรมากครับ ชีวิตคนอื่นไม่มีค่าเท่าขี้ตีนของพวกมัน
   เล่นแบบนี้บ้านเมืองสงบยากครับ ปีหน้าก็ยังคงวุ่นวาย ไม่ต้องรอให้หมอดูทายหรอก ผมก็ทายได้ ผมว่าผมแม่นด้วย ทายล่วงหน้าให้อีกว่าปีถัดไปก็ยังคงวุ่นอยู่
   ยังไม่พอ เพราะตำรวจจับผู้วางระเบิดก่อสถานการณ์ได้ แต่ตอนแถลงข่าว แทนที่จะให้ผู้ต้องสงสัยตอบ เฉลิม อยู่บำรุง มันตอบแทนผู้ต้องหาเกือบจะหมดทุกคำถาม โอ้โห พี่ อุ้มกันแบบเปิดเผยขนาดนั้น พี่ปล่อยเขาไปเลยดีกว่าครับ อย่าเสียเวลาเล่นละครหลอกควายไทยเลย
   ศุกร์หวยออก ช่วงเช้างานน้อยมาก ผู้คนพากันสาละวนกับการเขียนแทงหวย ไอ้เรื่องแบบนี้มีกันทุกชุมชนครับ นี่คุยถึงเฉพาะหวยใต้ดินนะ ไม่นับล็อตเตอรี่ที่ซื้อกันอย่างเสรี
   หนังสือพิมพ์นี่แหละตัวดี มีการบอกใบ้ทะเบียนรถแท็กซี่ที่นายกนั่ง เอาเข้าไปครับ คนประเทศนี้ชอบการพนันกันก็เพราะมีคนคอยยุยงส่งเสริมนี่แหละ ไอ้เรื่องพวกนี้ผมยกให้ช่อง 3 เขาเป็นอันดับหนึ่งเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่ไม่เป็นเรื่อง เช่นหมู 5 ขา วัว 2 หัว จั่นมะพร้าวรูปพญานาค ต้นตาล 3 ยอด ฯลฯ สรยุทธเขาจะอ่านข่าวเช้าวันหวยออก เป็นต้องมีบอกใบ้ แล้วก็ออกตัวว่าเปล่าบอกใบ้นะ เล่าข่าวเฉยๆ โธ่พี่ เป็นคนยุคใหม่เสียเปล่า กลับเข้าวังวนแบบเดิมซะแล้ว
   เหมือนกับไอ้พวกพนันบอลเป๊ะเลยครับ มีการบอกแต้มต่อให้เสร็จสรรพ บนแผงขายหนังสือนี่ยังมีโฆษณาเปิดโต๊ะรับแทงกันอย่างเปิดเผย ขนาดหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆ ก็ยังเอากับเขาด้วย แปลกดีไหมครับ
   เย็นนี้ออกจากบ้านไปรับลูกเร็วหน่อย เขาบอกขอแวะซื้อของในห้างเซ็นทรัล เอารถไปจอดที่ห้างแล้วก็เดินช็อปปิ้งของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นคือกางเกงใน ผมชอบ กกน แบบที่มีขาลงมานิดๆ ไม่ได้ใส่แบบทรง V เหมือนทั่วๆ ไป มันหาซื้อที่ถูกใจได้ยาก แถมยี่ห้อที่ชอบก็ยังหายากอีกด้วย เลยต้องขยันเดินหาดู ถ้าเจอเมื่อไหร่ก็ต้องรีบซื้อเก็บสำรองไว้
   เดินข้ามฟากไปรับลูก แล้วก็เดินกลับมาที่ห้างนี้เพื่อกินอาหารเย็นต่อ เขาเลือกสเต็คปลา และซุปเห็ด ส่วนผมกินซีซาร์สลัด จากนั้นแวะร้านนายอินทร์ เจ้ามิวเล่นหนังสือชุดใหญ่หลายเล่ม เช่นชีวประวัติสตีฟ จ็อบส์ และ เจ เค โรวลิ่ง ตามมาด้วย Harry Potter เล่มโตที่หนากว่าสมุดหน้าเหลือง และหนังสือรวบความรู้รอบตัวอีก 1 เล่ม
หมดไปพันกว่าบาท แลกกับการพัฒนาสมองของลูกในอนาคต สมองที่ผมเชื่อว่าเป็นอาวุธสำคัญที่สุดในโลก และสมกับชื่อของเขาที่ผมแปลเป็นไทยว่า “ผู้มีปัญญาเป็นอาวุธ”
               เขาชื่อ เมธาสิทธิ ครับ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 17, 2011, 09:01:39 pm
17 ธค 54
   เสาร์นี้ลูกเรียนที่โรงเรียนตามปกติ ตามคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการที่ให้เปิดสอนชดเชยจากการหยุดยาวช่วงน้ำท่วม ลูกเรียนตามปกติ ส่วนผมก็ทำงานที่ร้านขายของตามปกติเช่นกัน อาการหลังเจ็บนี่ถ้าไม่ยกของก็ไม่เจ็บอะไร แต่ข้อเท้าขวาเจ็บนี่ยังคงมีอยู่ เดินเร็วๆ ไม่ได้ วิ่งยิ่งไม่ได้ แต่ยังคงขี่จักรยานได้
   ส่วนผมก็แบบเดิมๆ ครับ อยู่เฝ้าร้านคอยรับสินค้า ส่งสินค้า วันนี้มีการสั่งสินค้าเข้าร้านหลายรายการ เลยใช้ชีวิตอยู่ในโกดังเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีอะไรพิเศษ
   
   
   เย็นลูกนัดตีแบดฯกับเพื่อนที่คอร์ดแถวโรงเรียน ไปกันหลายคนเลยครับ บรรยากาศในคอร์ดเลยเหมือนกับสนามเด็กเล่นเสียมากกว่า ตีไปก็เฮฮากันไป มันส์เขาล่ะ ก็คอร์ดหนึ่งใส่เข้าไปกัน 6 คน มั่วดีชะมัด พ่อแม่ก็หอบหิ้วเอาน้ำ อาหารมานั่งกินกัน บรรยากาศคล้ายปิกนิก
   อยู่จนถึงทุ่มครึ่งก็แยกย้ายกันกลับ ถึงบ้านก็เพลียแทบจะหลับ แต่พรุ่งนี้ของมิวเขามีเรียนพิเศษต่ออีก ก็ย้ายจากเดิมที่เรียนวันเสาร์ มาเรียนวันอาทิตย์แทน
   “ช่วงนี้มิวเรียนหนักหน่อย ต้องอดทนนะลูก มันเป็นการเรียนชดเชยที่เราหยุดช่วงน้ำท่วมเสียนาน”
   อธิบายถึงเหตุผลให้เขาเข้าใจ เขาก็รับได้นะ ไม่ได้บ่นอะไร สองวันก่อนยังบอกว่ายิ่งเรียนยิ่งสนุก ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจครับ เพราะการที่คนเราจะประสพความสำเร็จ มันจะต้องเริ่มจากการรักในสิ่งที่ทำเสียก่อน ไม่งั้น ยาก
   โฆษณาชื่อ ให้เหล้า = แช่ง กลับมาอีกแล้ว ผมชอบมาก คิดใครทำหนอ โดนใจ สะใจดีเหลือเกิน โฆษณาแนวนี้ แรงแบบนี้ อยู่ได้อีกหลายปี เก็บเข้าตำนานคลาสสิคได้เลยครับ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 18, 2011, 07:49:12 pm
18 ธค 54
   ข่าวหน้าหนึ่ง นสพ วันนี้ เป็นประเด็นที่ผมเล่าไว้เรื่องเฉลิม อยู่บำรุง ที่แถลงข่าวและตอบคำถามสื่อมวลชนแทนผู้ต้องสงสัย
   มาแล้วๆ อัปเดทข่าว ผู้ต้องสงสัย (หรืออาจเป็นผู้ต้องหา) มันคือคนที่ติดสอยห้อยตามเฉลิมเมื่อหลายปีก่อน มีคนนำรูปถ่ายมาลงในเฟซบุ๊ค เหมือนกันเป๊ะๆ บ๊ะ ลางสังหรณ์เป็นจริง กากฝั่งธนฯ คนนี้ ชั่วไม่แพ้ลูกเลย
   ตลอดวันนี้ผมอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน รู้สึกไม่ค่อยสบาย อ่อนเพลีย วินิจฉัยโรคด้วยตนเองได้ความว่า น่าจะเป็นอาการคล้ายโรคซึมเศร้า เกิดจากความเครียดสะสมที่มาจากการทำงานที่เราไม่ได้มีใจรัก
   ร่างกายคนเราจะแสดงออกแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าจุดใดของเราที่มันเปราะ บ้างก็แสดงออกทางการเป็นภูมิแพ้ ไอ จาม มีน้ำมูกใส บ้างก็ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง สติปัญญาเหี่ยวเฉา บ้างก็ปวดหัว มึน นอนพักตื่นมาหาย เดี๋ยวก็เป็นอีก
   ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีอาการโรคอื่นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ฯลฯ ไอ้นี่ยิ่งออกอาการง่าย อาการของโรคจะเป็นแบบขึ้นๆ ลงๆ แบบไม่ทราบสาเหตุ ถ้ามีแผลก็จะหายช้า เจ็บป่วยง่ายแต่หายช้า
   ทั้งหลายทั้งปวง แก้ง่ายๆ ด้วยการทำงานที่เราทำแล้วมีความสุข
   ก็รู้ทั้งรู้นะ แต่ก็ยังทำไม่ได้
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 20, 2011, 10:07:40 pm
19 ธค 54
   เมื่อคืนนอนไม่หลับครับ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย มันคงจะมีเรื่องค้างคาใจอะไรสักอย่าง เข้านอน 0930 จนถึง 1230 ก็ยังคงพลิกตัวไปมา เลยตื่นมาอ่านหนังสือ 1 ชม เข้านอนอีกทีตอน 0130 มาตื่นเอาตอน 0530 แบบงัวเงีย
   นอนน้อย ตื่นเช้า ช่วงบ่ายเลยง่วงๆ หน่อย
   อ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้า ขำก๊าก ข่าวเขมรขอโทษทหารไทยที่ยิง ฮ ของเรา เมื่อวันก่อน โห พี่ มารยาทโครตจะงามเลย ทีรัฐบาลอภิสิทธิ์เอ็งไม่เห็นทำแบบนี้มั่งวะ คราวนั้นเอ็งยังต่อปากต่อคำ แถลงการณ์ต่างๆ นานา ที่เจอลูกพี่ทักษิณสั่งหน่อยเดียว เอ็งรีบกระดิกหางดิ๊กๆ สุดยอดจริงๆ ฮุนเซน
   อีกข่าวต่อเนื่องจากเมื่อวาน เรื่องเฉลิม อยู่บำรุง บอกปัดว่าคนวางระเบิดไม่ใช่ลูกน้องตัวเอง และบอกว่าเป็นภาพตัดต่อ เออ เอาเข้าไปครับ เรื่องนี้คงมาแนว “ไอ้ปื๊ด”
   จำไอ้ปื้ดกันได้ไหมครับ มันคือหัวหุ่นไล่กาตัวหนึ่ง ที่เฉลิมปั้นแต่งขึ้นมา ไม่มีตัวตนอะไรสักนิด เล่นเกมหลอกคนรายวัน ยุคนั้นที่ลูกเขาไปยิงตำรวจตายในผับ
   สรุปออกมาคือ ตายฟรี คดีนี้พลิกแบบสุดยอด เพราะการสร้างหลักฐานเท็จล้วนๆ ครับ ประเทศไหนก็ทำไม่ได้ แต่ที่นี่ประเทศไทย เราทำได้ เย้ๆ
   วันนี้ออกแนวเหงาๆ หน่อย ผมอยู่เฝ้าร้านตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ไปรับลูกแล้วก็กลับมาบ้าน จืดชืดสนิทจริงๆ

20 ธค 54
                 ข่าวเช้านี้วัวเฉลิมแก้ข่าวว่าคนหน้าเหมือนผู้ต้องหาวางระเบิดนั้น ที่แท้คือคนขับรถของลูกชาย ผมอ่านข่าวแล้วสรุปได้แค่นี้ ก็รอพิสูจน์กันต่อไป แต่เชื่อเถอะนะ ยังไงวัวตัวนี้มันก็ต้องชนะ ต้องถูก ก็บ่มเพาะปัญญาจนจบปริญญาระดับด็อกมาแล้ว มันชำนาญด้านสร้างข่าวลวง ปล่อยข่าวลือ ทำหลักฐานเท็จ ราวกับว่าฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
   ผมอยู่เฝ้าร้านทั้งวันอีกแล้ว กลับเข้ามาบ้านสามทุ่มกว่า พอลูกเจอหน้าก็บอกว่าพรุ่งนี้ต้องใช้อาหารสดหลายอย่างไปทำอาหารที่โรงเรียน มีปลาทู 1 เข่ง มะนาว ไข่ไก่ ไอ้มะนาวและไข่นี่พอหาง่ายหน่อย แต่ปลาทูนี่สิ ตลาดแถวบ้านผมจะมีขายไหมนะ มารู้ตัวเอาตอนสามทุ่มครึ่งนี่ตั้งหลักกันไม่ติดเลย นี่ถ้าผมไปรับลูกเองที่โรงเรียน ขากลับบ้านก็แวะตลาดซื้อมาเก็บไว้ก็เสร็จแล้ว เฮ้ออ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 21, 2011, 07:54:22 pm
21 ธค 54
   อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นทีละน้อยๆ รู้สึกอยากขี่จักรยานขึ้นภาคเหนือจริงๆ แต่ก็คงได้แค่คิด ได้แต่ฝัน ถ้าหากยังคงต้องรับผิดชอบอยู่ที่ร้านขายของแห่งนี้อยู่ อะไรๆ ที่วาดฝันเอาไว้ มันก็คงยังเป็นแค่ฝันต่อไป
   วันนี้มีการทลายบ่อนใหญ่ย่านเตาปูน เจ้าหน้าที่แถลงว่าบ่อนนี้ใหญ่สุด จับยากสุด และไม่มีบ่อนใน กทม อีกแล้ว จะมีก็พวกรายย่อยที่เรียกบ่อนวิ่ง
   เฮ้ย ยังมีครับ อยู่แถวสะพานพุทธนี่แหละ ติดถนนใหญ่อีกด้วย ยังไม่พอ ยังมีตำรวจมาเล่นการพนันเยอะด้วย ยังไม่พออีก ไอ้ตำรวจนี้มันยังขับรถกระบะของตำรวจสีดำขาวมาเล่นเป็นประจำทุกวันๆ อีกด้วย
ผมว่าบ่อนนี้เจ๋งกว่าบ่อนเตาปูนเยอะครับ เพราะเข้าออกได้ง่ายดาย สะดวก จอดรถสบาย ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ต้องพรางตัวอะไรให้มากมาย
   ไข้หวัดนกระบาดฮ่องกงอีกแล้ว เลยประกาศฆ่าสัตว์ปีกทั้งหมด ดูโหดร้าย แต่โลกนี้มันคุมโดยคน ลองให้ไก่คุมโลกบ้าง ผลคงจะออกมาเป็นอีกอย่าง
   เย็นไปรับลูก ผมชอบไปก่อนเวลา ชอบนั่งดูเด็กๆ เขาเล่นกัน วิ่งไล่กันบ้าง กินขนมบ้าง เลอะเทอะ ขนมหกกระจัดกระจาย ผมชอบเด็ก ป2 คนหนึ่ง ชื่อน้องมิ้นท์ วันนี้เพิ่งได้เจอเขาในรอบหลายวัน เจอหน้าปุ๊บก็ชวนผมเล่นเป่ายิงฉุบ เล่นสักพักก็ชวนเขาทำการบ้าน สอนการบ้านเขาเล็กน้อย สักพักแม่เขามา เลยคุยกันนิดหน่อย
   ส่วนลูกผมวิ่งเล่นจนเหนื่อย กลับมาบ้านเอาตอนหัวค่ำ การได้อยู่กับลูกนั้นเป็นความสุขอย่างมาก นี่ขนาดผมเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกเองแบบเต็มตัว ผมยังรู้สึกขนาดนี้ เห็นบางคนพ่อแม่ก็มีเวลาว่างเยอะ แต่กลับให้ลูกเติบโตอยู่กับพี่เลี้ยงแล้วรู้สึกเสียดายโอกาสจริงๆ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 22, 2011, 10:16:43 pm
22 ธค 54
   พยากรณ์อากาศบอกว่า 23-24 ธค จะเริ่มหนาวอีกแล้ว อากาศระยะหลังนี้แปลกดีครับ หนาวเย็นเป็นระยะ ต่างจากวัยเด็กของผมที่ถ้าจะหนาว ก็หนาวกันแบบต่อเนื่องนาน เด็กๆ นี่ใส่เสื้อกันหนาวกันทุกวัน มันไม่ได้หนาวเป็นหย่อมๆ เหมือนทุกวันนี้ ถ้าให้เดาก็คงมาจากสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง
   จะร้อนจะหนาวอย่างไร วันนี้ผมก็ต้องอยู่เฝ้าร้านตลอดวันอีกแล้วล่ะ กลับมาบ้านเอาตอนสามทุ่มกว่า เข้ามาบ้านเจอลูกกำลังนั่งเล่นเกมเครื่องบิน ใส่หมวกนักบิน ทำท่าตะเบ๊ะสวัสดีตอนเจอหน้า
   ผมมอบหมายภารกิจจัดข้าวของเข้าค่ายลูกเสือให้เขาดูแลตัวเอง กลับมาบ้านก็ตรวจเช็คสิ่งของให้เขา และสอนเขาแพ็คของให้เล็ก ให้เบา ของใช้จำเป็นก็ถ่ายใส่ภาชนะเล็กๆ เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แป้ง จะได้ประหยัดพื้นที่ และไม่ต้องแบกของหนักอีกด้วย ส่วนเสื้อผ้าก็ใช้พับแล้วม้วนเป็นหลอดกลมๆ ผ้าเช็ดตัวเอาแบบผืนใหญ่ไป เพราะตอนกลางคืนใช้พับหนาๆ แล้วหนุนแทนหมอนได้
   ให้ยืมถุงนอนของ Quechua ไปใช้ สอนวิธีใช้ให้เขาว่าถ้าหนาวก็มุดเข้าไปข้างใน ถ้าร้อนก็ใช้มันปูนอนแทน หรือเปิดซิปเอาไว้ก่อนนอน ถ้าหนาวแล้วค่อยรูดซิปปิดก็ได้ แล้วแต่สะดวก
   มือใหม่ เพิ่งจะค้างคืนข้างนอกครั้งแรก กลับมาคงมีอะไรสนุกๆ มาเล่า
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 23, 2011, 10:12:48 pm
23 ธค 54
   ไปส่งลูกแต่เช้า วันนี้เขาเข้าค่ายพักแรม นอนค้างที่โรงเรียนนี่แหละ แต่โรงเรียนเขาสุดยอดมาก อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย ผมยังอยากจะไปนอนค้างด้วยเลย ยิ่งอากาศแบบนี้ น่าจะสบายเป็นที่สุด
   ส่งลูกแล้วที่เหลือชีวิตของผมก็ยังคงเป็นแบบเดิมๆ เป๊ะ ไปเฝ้าร้านขายของครับ เช้านี้มีร้านแอร์มาติดตั้งเครื่องใหม่ (เครื่องเก่าพัง) ผมเป็นคนติดต่อมาเองแหละครับ วิธีการเลือกร้านที่ต้องมีการใช้บริการภายหลัง แนะนำให้เลือกร้านใกล้บ้านครับ ไม่จำเป็นต้องใกล้ที่สุดล่ะ เอาไกลออกไปนิดหน่อยก็ได้ ถ้าดูโหวงเฮ้งร้านแล้วฝีมือดีกว่า
   ร้านใกล้บ้าน มักจะเรียกง่าย มาง่ายครับ ค่าบริการก็ต่อรองกันได้ ไม่น่าจะโดนชาร์จเยอะ
   เข้ามาบ้านตอนบ่าย ใจลิงโลดมาก เพราะไม่ต้องไปรับลูกตอนเย็น ระหว่างขับรถอากาศก็มืดครึ้ม ไม่มีแดดเลย สะใจดีชะมัด คิดจะเอาจักรยานออกขี่ไปไกลๆ ให้หายเบื่อ แต่พอกลับถึงบ้านเท่านั้นแหละ แดดเปรี๊ยงเลย เฮ้ยย ล้อเล่นน่า
   อยู่บ้านนั่งเล่น Ukulele สองวันก่อนได้รับจดหมายจากทางโรงเรียน เขาบอกว่าจะให้เด็กประถม 4-6 เรียน Ukulele แหม ถูกใจผมชะมัดเลย แต่เด็กๆ ส่วนใหญ่เขาจะเลือกซื้อแบบ Soprano (ตัวเล็กสุด) มีบางคนใช้แบบ Concert (ขนาดกลาง) ส่วนเจ้ามิวของผม เขาใช้แบบ Tenor (ตัวใหญ่) อันที่จริงมีอีกตัว มันใหญ่สุดละม้ายกีตาร์แล้ว ไม่ค่อยได้รับความนิยม เจ้าตัวนี้ชื่อ Baritone
   นึกภาพวันเรียนดนตรี คงจะหิ้วกระเป๋าใส่ Ukulele กันเป็นแถว นี่ถ้าเรียนต่อเนื่องกันหลายๆ ปี จบออกมาเด็กๆ น่าจะเล่นกันได้คล่องพอตัวนะ เพราะขนาดผมเล่นแค่ไม่กี่เดือน ก็ยังพอกล้อมแกล้มกับเขาได้เหมือนกัน
   ตกเย็นไม่ต้องไปรับลูก แต่ก็คิดถึงเขา ป่านนี้จะทำอะไรอยู่หนอ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 24, 2011, 09:12:30 pm
24 ธค 54
   เมื่อคืนนอนอย่างเหงามาก ปกติจะนอนข้างๆ กันทุกวัน อากาศเย็นสบายดีมาก อยากขี่จักรยานท่องเที่ยว แต่ก็ต้องออกไปเฝ้าร้าน ก็คงจะต้องเป็นแบบนี้ตลอดไปนั่นแหละครับ หลังเจ็บยังไม่หายสนิทดี เอียงบิดตัวผิดมุมหน่อยก็จะรู้สึกเจ็บแปล็บๆ
   เย็นไปรับลูก เด็กๆ สนุกสนานเฮฮากันมาก นึกแล้วอยากเป็นเด็กอีกครั้ง มันเป็นไปไม่ได้หรอก เราอายุมากแล้ว หึหึ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะ วันเวลาผ่านไปก็จริง แต่ใจเรายังคงนึกสนุกอยู่เหมือนเด็กๆ ตลอดทุกครั้งที่ได้ออกขี่จักรยาน ได้ผจญภัย ได้ออกไปไหนไกลๆ ที่มาชอบจักรยานก็เพราะจุดนี้ด้วยแหละครับ มันรู้สึกอิสระอย่างบอกไม่ถูก
   แม้มันจะไปได้ช้า แต่มันไปแบบเงียบๆ และได้ออกกำลังกายไปในตัว
   แน่ล่ะ ขี่มอเตอร์ไซค์สนุกกว่า มันส์กว่า แต่มันคนละอย่างกันเฟ้ย ไม่เอารถยนต์มาเปรียบเทียบเลยล่ะ จะได้ยิ่งไปกันใหญ่
   ความสนุกของจักรยาน มันอยู่ที่การเดินทาง มิได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง ฉะนั้น เราจึงสนุกทุกทีที่อยู่บนอานใบเล็กๆ นี่แหละ
   อืมม แล้วพรุ่งนี้ผมจะขี่จักรยานไปไหนดีนะ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 25, 2011, 08:32:48 pm
25 ธค 54
   มีความรู้สึกว่าอยากขี่จักรยาน แต่ไม่ชอบแดดแรง ไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องโรคมะเร็งมา พบว่าตัวเองมีจุดเสี่ยงอยู่ที่เรื่องการตากแดดตอนกลางวันนานๆ นี่แหละครับ
   นี่ถ้าจักรยานเรามีหลังคาแบบ Canopy ก็ดีสินะ พวกมอเตอร์ไซค์เขายังมีกันเลย แต่มันคงจะต้านลมน่าดู น่าจะออกแบบขายึด ใช้โครงแบบพวกเสาเต้นท์ที่เราต้องพกไปด้วยตอนเดินทางอยู่แล้ว และขึงด้วยผ้าใบสักผืน เล่นแบบง่ายๆ แบบนี้ไปก่อน เพราะเน้นเรื่องน้ำหนักเบาเป็นหลัก
   เป็นวันว่าเช้านี้ไม่ได้ไปไหนอีกแล้วครับ ลูกมีเรียนพิเศษที่ย้ายจากวันเสาร์มาเป็นวันอาทิตย์ ตอนเช้าขี่จักรยานไปซื้อโจ๊กให้ลูกแทน เสียสละเรื่องส่วนตัวไปเยอะมากๆ เปล่าๆ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเสียสละ ผมอยากให้มองถึงพ่อแม่ในโลกนี้ทุกๆ คนต่างหาก ถ้าคนใดทุ่มเทกายใจเลี้ยงลูก ก็จะต้องเสียสละแบบนี้กันทุกคน ยกเว้นพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน
   ลมหนาวพัดมาแบบรู้สึกได้ชัดมาก นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนที่สนามหลวงยังคงเป็นแบบดั้งเดิมก็จะมีคนออกมาเล่นว่าวกัน ในไทยเรานิยมเล่นว่าวตอนหน้าร้อนและหน้าหนาวครับ และจะมีการปิ้งข้าวเกรียบว่าวกินกันในครัวเรือนอีกด้วย ก็เพราะว่าปิ้งไปกินไป แถมยังได้อิงไออุ่นจากเตาไปในตัว
   อ้อ สนามหลวงแบบดั้งเดิมที่ผมเห็นตอนเด็กๆ มันเป็นตลาดนัดเหมือนสวนจตุจักรนี่แหละ แต่เป็นแค่แผงลอยวางเรียงรายโดยรอบ รถยนต์ก็จอดกันรอบนอกและบริเวณใกล้เคียง ตรงกลางเป็นลานทรายกว้าง มีจักรยานให้เช่าขี่ เป็นพวกจักรยานโบราณสามล้อ ถัดออกมาวงนอกก็จะมีเล่นกลขายยา แบบ อับดุล เอ๊ย ไม่ก็โชว์ตัดแขนตัดขา (แต่ก็ยื้อเวลาเอาไว้ ไม่เคยตัดจริงสักที ปิดท้ายด้วยขายยาสารพัดนึก แก้ได้ทุกโรค) 
   เฮ้ย อาการคนแก่อีกแล้ว ชอบเล่าเรื่องอดีต ฮ่าๆ
แต่ว่าสมัยก่อนนี่มันฮาดีนะ ผมยังนึกภูมิใจว่าเราได้เกิดมาในยุคที่มีทีวีขาวดำ มีช่อง 4 บางขุนพรหม ได้เห็นในหลวงท่านทรงนั่งอ่านข่าวทางทีวีบ่อยๆ แปดโมงเช้า และหกโมงเย็นอยู่ตรงไหนของแผ่นดินไทย เป็นต้องยืนตรงเคารพธงชาติ ได้ดูหนังจีนกำลังภายในเรื่องแรกชื่อมังกรหยก ได้ดูการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกชื่อโดเรมอน ฮีโร่ญี่ปุ่นตัวแรกคืออุลตราแมน ตามมาด้วยไอ้มดแดง (แต่ตัวจริงมันคือมนุษย์ตั๊กแตน)
บนท้องถนนยิ่งแล้วเข้าไปใหญ่ ผมทันยุครถซิ่งที่อัดกันบนถนนสุขุมวิท เพชรบุรี อังรีดูนังต์ ที่เด็ดขาดสุดคือวิภาวีเรซซิ่ง The Palace เจ้าตำนาน Midnight Racing ขนานแท้ ตอนนั้นมาช่า ยังยืนดิ้นอยู่ข้างๆ ตู้ลำโพงใบใหญ่เลย สนามแดร็กที่สวนสยามก็ยังมี สนามแข่งจักยาน BMX ที่แฮปปี้แลนด์ ในเมืองยุคนั้นยังไม่มีถนนแบบวันเวย์เลยสักเส้น ทุกเส้นทีทุกวันนี้เป็นวันเวย์ สมัยก่อนขับสวนกันได้หมด ผมว่ามันสะดวกสุดๆ นะ ทุกวันนี้เราคิดอะไรผิดไปแล้วหรือเปล่า
มอเตอร์ไซค์แว้นสมัยก่อนไม่มีครับ แต่เคยเห็นชายคนหนึ่งขี่ยกล้อไกลหลายกิโลเมตร ใช้รถมอเตอร์ไซค์วิบาก Yamaha DT เรียกว่าขับแบบไม่กล้าแซงเลยล่ะ เพราะอยากดูว่าเขาจะยกได้ไกลแค่ไหน
สมัยก่อนไม่มีระบบเงินผ่อนครับ จะออกรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ต้องใช้เงินสดไปซื้อ สมัยนี้ตรงกันข้ามกันไปหมด มอเตอร์ไซค์ซิ่งถึงได้เยอะ
   ได้ทันยุคใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน (คนอื่นใช้) ตามมาด้วยเพจเจอร์ และใช้อินเทอร์เนทออนไลน์ครั้งแรกในปี 94 ถึงวันนี้ผมออนไลน์มาเกือบจะ 18 ปีแล้ว ฮ่าๆ รุ่นเดอะจริงๆ
   โห สงสัยแก่จริงว่ะพี่น้อง แม่งเล่าซะครบเลย แต่นี่ยังไม่ได้เจาะลึกนะ ถ้านั่งคุยกันแล้วเกิดมีใครจุดประเด็น อาจมีเรื่องต่างๆ ให้เล่าอีกเยอะมาก

   วันนี้อยู่บ้านตลอดวันอีกแล้ว ไม่ได้ออกไปไหน ไม่มีของกินดีๆ เลย (ของดีนะ ไม่ไช่ของแพง) มื้อเช้าเป็นโจ๊กไปแล้ว กลางวันหยิบเอาคุกกี้แมคคาเดเมียของขวัญปีใหม่ของแม่มากิน ยังไม่อิ่มเลยกินส้มไป 3 ลูก ต่อด้วยม่าม่าแห้งแบบกรอบๆ
   นี่คงไม่ได้ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกพักใหญ่ เพราะมิวเขาเปลียนเวลาเรียนพิเศษมาเป็นวันอาทิตย์
   ชุมพร ประจวบ โดนคลื่นสูงพัดเข้าฝั่ง มันคล้ายกับสึนามิเล็กๆ หัวหิน ปราณบุรี บางสะพาน เขาตะเกียบ และอีกหลายจุดทางภาคใต้ช่วงบน ร้านค้าร้านอาหารชายหาดพังหมด สภาพอากาศแปรปรวนขึ้นทุกที เหตุเกิดครั้งแรกในรอบ 50 ปี สาเหตุจากมรสุมเข้า และน้ำทะเลหนุนสูง
เรื่องนี้จะพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 26, 2011, 09:32:53 pm
26 ธค 54
   อากาศหนาวเย็นต่อเนื่องมาจากเมื่อวาน หนาวทีไร คิดถึงภาคเหนือ และการนอนเต้นท์ทุกที เช้านี้ออกขี่จักรยานแบบหนาวมากๆ ต้องเอาผ้ามาปิดคลุมหน้าคลุมคอ สักพักแดดออกถึงจะเริ่มอุ่นขึ้นมานิด สองวันมานี้หนาวดีจริงๆ ครับ ชอบ ชอบ
   ชีวิตดำเนินไปแบบเดิมๆ เช้าไปช่วยงานที่ร้านขายของ อยู่จนถึงเย็น ไปรับลูก แล้วก็กลับบ้าน จืดจริงๆ
   พอไปถึงโรงเรียนลูกนี่ค่อยสนุกหน่อย หยิบเอา Uke มาเล่น เด็กๆ เข้ามาฟังกันหลายคน เล่นให้เด็กฟัง ไม่ค่อยเขินเท่าไหร่ แต่ถ้าผู้ใหญ่ฟังนี่ไม่แน่ เพราะฝีมือยังอยู่ระดับชั้นฝึกหัด
   มีผู้ปกครองเข้ามาคุยสอบถามถึงวิธีการเลือกซื้อ ผมก็ได้แต่อธิบายคร่าวๆ เอาเข้าจริงแล้วผมแนะนำให้ดูยี่ห้อกันไปเลยจะดีกว่า แต่ก็อีกนั่นแหละ ได้ข่าวว่ามีของปลอมขายกันอีกด้วย เฮ้ออ ปลอมกันได้ทุกอย่างจริงๆ
   ขากลับผ่านตลาดนัด ลูกขอกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ตามด้วยน้ำเต้าหู้ ส่วนผมได้แค่สลัดแขก
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 27, 2011, 08:40:20 pm
27 ธค 54
   วันนี้ และวันพรุ่งนี้ มีงานประเพณีใหญ่ของชาวฝั่งธน นั้นคืองานวันพระเจ้าตากสิน มีการปิดถนนลาดหญ้า 2 วัน จัดงานออกร้านขายของมากมาย แน่ล่ะ เน้นของกินของใช้ตามเคย สมัยหนุ่มๆ ผมไปร่วมงานด้วย ตอนนั้นยังใช้วิทยุสื่อสารแบบนักวิทยุสมัครเล่นช่วยรายงานความปลอดภัยเป็นระยะ
     ในเวปจักรยานมีคนนำรถ KHS ยุคปีเดียวกับรถที่ผมใช้มาขายในราคาถึง 12800 บาท เขาก็พรีเซนต์ดีล่ะนะว่าเฟรมเป็นโครโมลี่ของ True Temper วัสดุจาก USA มันก็จริงนะ ไม่ผิดหรอก แต่แหม ถ้ารถของเขาได้ราคานี้ มากับอุปกรณ์เกรดพื้นๆ แล้วรถผมล่ะ ที่การรีดเหล็กแบบ Double Butt รหัส OX ultra II heat treated มันคือ KHS Team ตัวแรกที่ทำให้ KHS แจ้งเกิด รถผมมันน่าจะราคาพุ่งปรี๊ด เพราะใช้ตีนผี XTR เบรก XTR จาน XT ยังมีช้อคหน้าของ Rock Shock Judy XC อีกด้วย
   บ่นเยอะเพราะอิจฉาเขามั้งที่ทำราคาได้ดี อาชีพพ่อค้าใครๆ ก็อยากขายรถได้ราคาแพงกันทั้งนั้นแหละ ส่วนผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะคิดขายรถ กว่าจะซื้อของแต่ละอย่างก็ต้องหาข้อมูลให้ละเอียด พอได้มาแล้วเราก็จะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย (ถ้ามันไม่หักพังไปเสียก่อน)
   รถยนต์ของผมมีอาการแปลกๆ กดคันเร่งแล้วรถไม่มีแรงเลย เร่งแซงอะไรใครไม่ได้เลย ทำได้แค่ค่อยๆ เร่งขึ้นไปทีละนิด วันแรกคิดว่าเป็นที่ระบบแก๊ส แต่พอลองตัดมาใช้น้ำมันก็เป็นเหมือนกัน เอาล่ะสิ งานนี้หนีไม่พ้นระบบไฟแน่ๆ อีกกรณีแต่เป็นไปได้น้อยนั่นคือกรองอากาศตัน (คือมันจะต้องตันแบบเว่อร์จริงๆ แบบไม่ได้ดูแลเลยถึงจะออกอาการได้)
   เย็นไปรับลูก เขาวิ่งเล่นจนกลับบ้านเอาเกือบจะค่ำ ขอแวะซื้อน้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลักกินกับปลาท่องโก๋อีกแล้ว สงสัยจะชอบจริงๆ
                ส่วนผมวันนี้เล่นอาหารสุขภาพล้วนๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เริ่มจากเนื้อไก่ผัดพริกขี้หนู กินกับบร็อคโคลี่นึ่ง แครอทนึ่ง สายหน่อยกินเต้าฮวยน้ำขิง กลางวันเป็นถั่วต้ม 1 ถุง โกโก้เย็น มื้อเย็นเป็นข้าวโพดต้มสีม่วงเข้ม 1 ฝัน ลูกชิ้นปิ้ง 2 ไม้ ดึกๆ ถ้าหิวก็มีผลไม้หลากหลาย เช่นเชอรี่ แตงโม เมลอน สัปปะรด
   ใกล้สิ้นปี อุดมสมบูรณ์จริงๆ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 28, 2011, 07:58:10 pm
28 ธค 54
   ต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้าอีกวัน วันนี้ถนนลาดหญ้าจะปิดเป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่มีลูกมานี่ ผมไม่ได้มางานนี้ตอนกลางคืนอีกเลย คิดถึงวันวานเสียจริง
   เช้านี้ได้รับภารกิจขับรถกระบะส่งของครับ แต่เป็นวันที่ผมไม่อยากขับรถเอาเสียเลย เพราะเขามีการปิดถนนลาดหญ้ากัน ทำให้รถติดอย่างมาก น่าเบื่อเป็นที่สุด จอดรถติดแบบหยุดนิ่งนานจนง่วง หันไปข้างๆ เห็นรถสปอร์ทเปิดประทุนอย่างหรู น่าอิจฉาเขาจริงๆ ผมคงไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว ต้องเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก และคงต้องเก็บอีกเป็นสิบปี
   เป็นพ่อนี่มันมีความรับผิดชอบเยอะเลยเน๊อะ
   วันนี้ยังคงเน้นอาหารสุขภาพแบบสุดๆ อีกวัน เช้ามีเต้าหู้ราดพริก ข้าวกล้องงอก กินแกล้มกับบร็อคโคลี่นึ่ง กระเทียมสดสิบกว่าหัว สายๆ มีเต้าฮวยอีกแล้ว กลางวันข้าวโพดต้ม 1 ฝัก บ่ายกินเชอรี่สดๆ ไปยี่สิบกว่าลูก กล้วยน้ำว้า คุกกี้แมคคาเดเมีย 1 ชิ้นใหญ่
   เย็นไปรับลูก ชีวิตจืดๆ เรียบง่าย หัวค่ำลูกบอกรู้สึกไม่ค่อยสบาย ให้กินยาพาราฯ ไป 1 เม็ด และลุ้นว่าตื่นมาคงจะหายดีเป็นปกติ
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 29, 2011, 07:46:43 pm
29 ธค 54
   ลูกไม่สบายอีกแล้ว ลุกขึ้นมาอาเจียนตอนตี 3 มีไข้ตัวร้อน ผมเลยแทบไม่ได้นอนทั้งคืน ลุกขึ้นมาดูลูกอยู่หลายครั้ง ตื่นเช้าเลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำแถวบ้าน หมอบอกเป็นไวรัสลงกระเพาะ ไม่มียารักษาโดยตรง ถ้าร่างกายแข็งแรงก็จะหายเอง
   รีบเข้ามาบ้านตอนบ่ายเพื่อดูลูก อาการก็ยังคงทรงแบบเดิมๆ ดีตรงไม่อาเจียนแล้วแค่นั้นเอง
   ขี่จักรยานไปหน้าปากซอย ไปดูรถยนต์ของผมที่ให้ช่างเอาไปซ่อมตั้งแต่เช้า ไปถึงก็แปลกใจ อ้าว ไม่เห็นทำอะไรสักอย่างเลย คงเห็นว่าผมเป็นลูกค้าประจำ อยู่ใกล้บ้าน เขาเลยรับลูกค้าขาจรที่ขับเข้ามาหาก่อน ไม่ได้โกรธอะไร แค่แปลกใจที่ว่า เราจองคิวก่อน มาก่อน แต่ได้รับการบริการทีหลัง
   ตอนเย็นดูข่าวทีวี มีประเด็นเรื่องการคิดจะสร้างกระเช้าถึงภูกระดึง หึหึ แค่คิดก็ผิดแล้วน้องเอ๋ย แม่งมาแนวเดียวกับขยายถนนขึ้นเขาใหญ่เลยว่ะ
   ต้นไม้ป่าธรรมชาติมันหายากสุดๆ ยิ่งกว่าทรัพย์สิน ต่อให้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ แต่.. มัน (คนคุมนโยบาย) สามารถฮุบมาเป็นของส่วนตัวได้ ไอ้สันดาน
   วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on December 30, 2011, 07:28:49 pm
30 ธค 54
   เช้านี้ออกวิ่งไป 30 นาที ไม่ได้วิ่งมาหลายเดือน ตอนใกล้เหงื่อออกรู้สึกคันยุบยิบทั่วตัว เป็นเพราะเส้นเลือดฝอยส่วนปลายขยายตัวใหม่ๆ (เป็นอาการปกติของคนที่ไม่ค่อยออกวิ่ง) พอเหงื่อออกก็รู้สึกสบายตัว วิ่งเสร็จก็ทำการยืดเส้น กินอาหารเช้า อย่างดี เป็นเนื้อไก่ผัดฉ่า ใส่มะเขือเปาะ มะเขือพวง มีผักนึ่งคือแครอท บร็อคโคลี่ ใบกระเพราสด อาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ที่ร้านขายของ
   ลูกไม่สบายยังไม่หายดีเลย สอนให้เขาดูแลตัวเอง ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายบ้าง ผมออกจากบ้านแต่เช้า กลับเข้ามาตอนบ่าย ลูกมีอาการตัวร้อน ถามว่ากินยาหรือยัง บอกว่ากินแล้ว ให้ไปหยิบยาที่กินมาให้ดู กลายเป็นว่ากินยาลดกรดในกระเพาะ ยาแก้ไข้ไม่ได้กิน โธ่ลูก
   ก็ไม่รู้จะไปโทษใคร ได้แค่ไหนก็แค่นั้นแล้วกันนะลูก บางทีพ่อก็รึสึกเบื่อหน่ายเหมือนกัน จนทุกวันนี้กลายเป็นเบื่อทุกอย่างที่อยู่รอบตัว อาการเข้าข่ายโรคซึมเศร้า เป็นไปได้ที่จะเกิดโรคจิตที่คลั่งทำร้ายผู้คนรอบข้างโดยไม่สาเหตุ
   บ่ายแก่ๆ ขี่จักรยานออกไปดูรถยนต์ที่อู่ อ้าว ยังจอดเหมือนเดิมเป๊ะเลย เฮ้ยย อะเมซิ่ง ไม่ว่างทำอีกแล้วหรือ นี่ผมไม่ได้ถอดรื้อรถตัวเองมาเป็นสิบปีแล้ว แต่สมัยหนุ่มๆ จะทำรถเองทั้งหมดที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือหนัก
   รถยนต์สมัยก่อนมันไม่มีอะไรซับซ้อนเลย จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บิวเรเตอร์นี่ง่ายมาก รถวิ่งไม่ดี วิ่งสะดุด ก็ถอดคาร์บมาล้างได้เลย ตามด้วยขัดแต่งเขี้ยวหัวเทียน ถ้ารถวิ่งไม่ออกแบบที่อาการของผมเป็น ก็เริ่มจากระบบพื้นฐาน น้ำมัน อากาศ ไฟ แต่งานนี้เทใจไปที่ระบบไฟก่อน ตามมาด้วยอากาศ ส่วนน้ำมัน/แก๊สไม่น่าจะมีปัญหา
   ระบบไฟก็เริ่มได้สองทาง คือจะไล่จากแบตฯ หรือไล่จากหัวเทียน จะเริ่มทางไหนก็แล้วแต่ แต่ต้องไล่ให้จบ เหนื่อยทีเดียว ไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อน
   ตั้งแต่มีลูกก็ไม่ได้มือเลอะอีกเลย มันทำอะไรไม่ค่อยสะดวก ต้องดูแลลูกตลอดเวลา ถ้าเขาทำตัวดีน่ารักเราก็สุขสบายใจ แต่ถ้าเจอมุมงี่เง่าก็เล่นเอาท้อใจไปไม่น้อย
   การออกกำลังกายน่าจะเป็นอย่างเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย อย่างวันนี้ออกวิ่งเพราะเบื่อขี่จักรยาน และอยากเหงื่อออกมากๆ สนุกดีเหมือนกันนะ พรุ่งนี้อยากจะออกวิ่งอีก
   อย่างน้อย มันก็ทำให้ใจผมเป็นสุข แม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ก็ตาม
Title: Re: ธค 54
Post by: O'Pern on January 02, 2012, 03:09:31 pm
31 ธค 54 วันสิ้นปี
   อ่านเวปสุขภาพแล้วมาดูลักษณะอาหารที่ผมกินส่วนใหญ่จะออกเป็นอาหารแนว Vegan (เน้นอาหารธรรมชาติแท้ๆ ดิบๆ สดๆ ไม่ปรุงแต่ง) แต่ไม่ได้เคร่งครัดอะไรนะครับ ผมเน้นสะดวก บางวันในช่วงปลายปีมีเค๊กมาเยอะ ก็ต้องทยอยกำจัดมันให้หมดไป กินแบบ Vegan แท้ๆ นี่รายละเอียดมากเสียยิ่งกว่าพวกกินเจเป็นเท่าตัว
   ช่างเอารถมาส่งเมื่อคืน บอกว่าองศาไฟจุดระเบิดเพี้ยนไป ผมทำหน้างง เพราะตอนเครื่องเย็นมันวิ่งปกติดี จะออกอาการตอนเครื่องร้อน เช้านี้ลองขับไปทำงานตามปกติ ขาไปโอเค ขากลับตอนบ่ายอากาศร้อน รถออกอาการอีกแล้ว วิ่งไม่ออกเลย ต้องขับเลนซ้ายสุดตลอดทาง โดนรถเมล์ รถสองแถวเปิดไฟไล่ วิเคราะห์ดูแล้วอาจเป็นปัญหามาจากระบบเกียร์ก็เป็นได้ เป็นรถเกียร์อัตโนมัติครับ รถผมวิ่งไป 1.4 แสน กม เป็นรถนำเข้ามาเอง จดทะเบียนในไทยปี 98 ถึงตอนนี้ก็อายุราว 13 ปี Nissan 180SX Type X มีระบบเลี้ยว 4 ล้อแบบเดียวกับ Skyline GT-R ที่เรียกว่า Super Hicas ทำให้รถเลี้ยวได้แคบกว่าเดิมที่ความเร็วต่ำ และเกาะถนนดีมากขึ้นตอนเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง
   กลับถึงบ้านก็เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้รอให้เครื่องเย็น จะได้ตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์ ถ้ามันพร่องก็คือเจอต้นเหตุเข้าแล้ว แต่ถ้าไม่นี่สิ อาจต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อีกครั้ง ทั้งๆ ที่เพิ่งถ่ายมาเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง แต่ตอนนั้นช่างใช้ Dexron III ใส่ให้ผม ซึ่งในความเป็นจริงรถผมมันน่าจะเหมาะกับ ATF Dexron II เสียมากกว่า ผมเห็นกระป๋องน้ำมันเกียร์แล้วล่ะ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะรถเก่ามากแล้ว ให้มันแค่วิ่งได้วิ่งดีก็โอเคแล้ว ถ้าครั้งนี้จำเป็นต้องถ่าย ก็จะเจาะจง Dexron II แล้วล่ะ
   แต่ถ้าเปลี่ยนถ่ายเป็น Dexron II แล้วยังไม่หายนี่สิ งานเข้าสุดๆ อาจต้องมีการ Overhaul เกียร์ ซึ่งกับเครื่อง SR20DET แล้ว ผมว่าหาเกียร์มือสองมาใช้น่าจะจบได้ง่ายและเร็ว แถมถูกกว่า
   ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปครับ ทั้งหมดมันเป็นการวางแผนของผมล่วงหน้าเท่านั้นเอง หากเกิดเหตุการณ์จริง จะได้ทำตัวถูก การมีแผนคร่าวๆ ก็เหมือนกับการที่เรามีเข็มทิศอยู่ในมือ
   เย็นหารือกับลูกว่าจะไปไหนกันดี สรุปได้ว่าไปคอนโดกันดีกว่า ตอนเที่ยงคืนจะมีการจุดพลุกัน น่าจะเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ จะมีดอกไม้ไฟสว่างไสวกระจายเต็มทั่วท้องฟ้า
   ที่จอดรถในคอนโดโล่งมาก เข้าไปห้องก็รีบทำความสะอาดระเบียงทั้งสองด้าน ตามด้วยถูพื้น ปัดกวาด เช็ดถูทั่วไป มาเสร็จเอาตอนเย็น ชวนลูกไปกินที่ร้านอาหารริมสระน้ำในคอนโด แต่เขาปิด เลยใช้บริการในห้าง Big C แทน มิวชอบ MK สุกี้ ผมเองก็ชอบเหมือนกัน เพราะเลือกสั่งผักกินได้หลากหลาย เสียตรงแพงไปหน่อย
   กลับมาที่ห้องพัก นั่งคุยนั่งเล่นกัน พอตกดึกมิวง่วงนอน ขอไปนอนก่อน บอกให้ผมปลุกตอน 11.59 แต่เอาเข้าจริง ผมเขย่าตัวอย่างไรก็ไม่ยอมตื่น เลยออกไปเกาะระเบียงดูพลุดอกไม้ไฟอยู่คนเดียว
   เป็นภาพที่สวยงามมากครับ เห็นพลุจากทั่วท้องฟ้ากรุงเทพฯ ต่างจากภาพตอนพวกเสื้อแดงเผาเมืองในปี 53 แบบคนละโลกเลย