Author Topic: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม 30 ระยะเอื้อมของรถ Dahon ทีมีผลต่อคนตัวเล็ก  (Read 22832 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53
« Reply #15 on: December 20, 2010, 03:10:48 pm »
18 ธค 53
   เมื่อคืนอากาศหนาวมากจนผมต้องใส่ถุงเท้าเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เป็นอีกคืนในไม่กี่วันในรอบปีที่นอนโดยไม่เปิดแอร์ แถมห่มผ้าอย่างหนา
   งานตอนเช้าของผมมีแต่แบกของ ยกของ ได้เอาจักรยานออกขี่ไปจดออเดอร์ลูกค้าแถวบ้าน
   บ่ายผมเอาจักรยานขี่ไปราชดำเนิน ไปดูรถ F1 วิ่ง รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าคนจะต้องเยอะมากๆ เอาจักรยาน JZ88 ไปจะเป็นการดี ผมขี่ไปทางเสาชิงช้า แล้วก็ต้องตกใจ ผู้คนเยอะแบบชนิดที่คาดไม่ถึง ตามหลังคาบ้านเรือนก็มีชาวบ้านยืนปีนดู ต้นไม้นี่ไม่ต้องพูดถึง ห้อยโหนเป็นลิงเลยครับ หลังคารถกระบะก็ขึ้นไปยืนกัน คนแน่นจนผมเบียดเข้าไปสุดๆ แล้วยังไม่เห็นผิวถนนเลยครับ ไม่ได้การล่ะ ย้ายทำเลดีกว่า นี่คือจุดเด่นของจักรยานครับ เราคือหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จุดนี้คนแน่น เราก็ไปจุดอื่นดีกว่า ขี่อ้อมหลังศาลาว่าการกรุงเทพฯ ไปทางวัดราชนัดดา จุดนี้สวยที่สุด เพราะผมยืนอยู่ในลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ด้านหลังของผมคือโลหะปราสาทที่เหลือหนึ่งเดียวในโลก ของสุดยอดอีกชิ้นที่มีแค่ในไทยครับ
   แต่ก็อีกนั่นแหละ เบียดยังไงก็มองไม่เห็นครับ เอาไงดีวะ รถวิ่งไปแล้วด้วยสิ ตอนนี้ก็บ่ายสองโมงกว่าแล้ว ผมตัดสินใจคิดมุขสุดท้าย คือเราต้องขึ้นที่สูงครับ มันถึงจะเห็น แม้จะเห็นแค่ไกลๆ ก็ยังดีวะ ใจผมไปอยู่บนยอดของภูเขาทองที่อยู่ใกล้ๆ แล้วล่ะครับ ที่อื่นๆ ในโลกเขามี Tower สูงๆ ไว้ชมวิวกัน ไม่ว่าจะเป็น Tokyo Tower / Macau Tower / ไทยเราไม่ต้องสร้าง Tower หรูๆ ครับ เรามีของเจ๋งกว่าใครเป็น Tower โบราณที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ นั่นคือภูเขาทองนั่นเอง
   จากจุดนี้ถ้าเดินเท้าคงต้องใช้เวลานานราว 30 นาที แต่ผมไปกับจักรยานครับ แค่ 3 นาทีผมก็มาถึงภูเขาทองแล้ว ขี่วนอยู่สองรอบ ผมจะหาที่จอดจักรยาน ไม่ได้ติดเอาสลิงล็อคมาด้วยนะสิ ทำไงดีวะ จะฝากแม่ค้าก็เกรงใจ จะฝากพระก็อาย สุดท้ายเลยไม่ได้ขึ้นครับ เซ็งสุดๆ เลยล่ะ ขณะกำลังตัดสินใจอยู่นั่นเอง ก็ได้ยินเสียงรถวิ่งดังลั่น แน่นอน มันคือ F1 !!!! รีบขี่รถกลับมายังด้านประตูทางออกของภูเขาทอง ฝั่งที่มีร้านค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม้เยอะๆ จุดนี้ทะลุราชดำเนินได้ เป็นถนนเล็กๆ แคบๆ แต่คนก็เยอะจับใจเช่นกัน เอาวะ ดูไม่ได้ ขอได้ยินเสียงก็ยังดีวะ
   ใช้โสตประสาทสัมผัสเสียงที่ผมอาจจะไม่ได้ยินไปอีกชั่วชีวิต แม้เพียงช่วงสั้นๆ แต่มันก็ทำให้เราอิ่มใจได้บ้างเหมือนกันนะ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของคนชอบรถยนต์น่ะครับ
   0330 งานเลิก ผู้คนแห่กรูกันออกมา ผมกำลังจะฝ่าฝูงชนเข้าไปซื้อขนมปังมนต์นมสดไปฝากแม่ พอเบียดจนถึงหน้าร้านก็ตกใจอีกครั้ง คนแม่่งแน่นชนิดที่ประตูหน้าร้านเปิดค้างไว้เลย โหห สุดยอด ไม่กินแล้วโว๊ยยย
   ขี่รถกลับออกมาทางดิโอลสยาม มีร้านขายปลาหมึกปิ้งอยู่หัวมุมถนนพาหุรัด จะซื้อไปฝากแม่สักหน่อย โหห คนแน่นอีกแล้ว นี่ขนาดเป็นหามเร่นะครับ หุ้มรุมกันจนแน่น ไม่เอาล่ะ กลับบ้านดีกว่า
   รถติดแบบสุดยอดครับ ผมขี่จักรยานเลยลัดเลาะมาได้เร็วมาก แต่อีกสักพักผมจะต้องติดอยู่บนถนนนานแน่ๆ เพราะข้ามไปฝั่งธนฯ ก็ต้องขับรถยนต์กลับบ้าน รถติดตลอดทางเลยครับ ขับแบบใกล้จะหลับ จากจุดนี้ใช้เวลาเกือบ 1 ชม ทั้งๆ ที่วันอื่นผมใช้แค่ 15 นาทีก็ถึงบ้านแล้ว
   กลับมาบ้านก็รีบอาบน้ำ จัดเตรียมจักรยานไปงานมีทติ้ง ใจแรกจะเอารถ KHS F20-W ไป แต่จู่ๆ เปลี่ยนใจกระทันหัน เอารถ Semi Recumbent ไปบ้างดีกว่า รถคันนี้ไม่ค่อยมีใครเห็น งานมีทติ้งรถพับก็จริง แต่ก็น่าจะมีรถเด่นๆ ให้ดูกันบ้าง ใจไม่ได้คิดโอ้อวดอะไร แต่อยากให้คนที่ไม่ได้เล่นจักรยานเขาเห็นรถหน้าตาแปลกๆ บ้าง เผื่อเห็นแล้วอยากขี่จักรยาน อะไรทำนองนั้น
   คิดจะแต่งแบบทัวริ่งไปด้วยนะ เอา Pannier ห้อยท้ายไป 2 ใบ พร้อมกับแผ่นปูนอน เต้นท์ ถุงนอน ห้อยกันพะรุงพะรัง
   “พ่อๆ พ่อจะไปกี่วันหรอครับ” มิวถาม ขณะที่ผมเอารถแบบ Fully Load ลองขี่วนเล่นในบ้าน
   “พ่อไม่ได้ค้างคืนหรอกลูก ไปเช้าบ่ายๆ พ่อก็กลับแล้ว”
   “อ้าว มิวเห็นพ่อขนของเยอะแยะ”
   “มันเป็นการตกแต่งน่ะลูก”
   
   เย็นลูกขอไปกินสเต็คร้านประจำหน้าปากซอยอีกแล้ว ผมไปเป็นเพื่อนเขา กินเสร็จก็เดินจูงมือกันกลับบ้าน ก่อนนอนก็อ่านหนังสือกันคนละเล่ม มิวอ่านการ์ตูน ส่วนผมอ่านหนังสือสุขภาพ คืนนี้เรานอนกันเร็วเช่นเคยครับ
   อ้อ คืนนี้ไม่เห็นจะหนาวเหมือนคืนก่อนเลย

19 ธค 53   
   ไม่รู้ว่าตื่นเต้นอะไรนักหนา ลืมตาตืนเอาตอน 0400 อากาศก็เย็นๆ ครับ ใจคิดลุ้นให้มันเย็นลงไปอีก อยากจะใส่เสื้อแขนยาวขี่จักรยานดูบ้าง มาลุกเอาตอน 0500 อาบน้ำเตรียมตัวจะออกไปสวนลุม ไม่ได้เร่งรีบอะไรหรอกนะ ผมไม่ได้ขี่จักรยานไป เอารถ Giant Semi Recumbent ใส่ท้ายรถกระบะไปแทน บอกตรงๆ อย่างหน้าไม่อายว่าขี้เกียจขี่ครับ รถคันนี้มันเป็นแบบ Semi Recumbent ท่านั่งขี่มันสบายอย่างมาก แลกกับท่านั่งที่แสนจะโต้ลม
   ขับรถไปจอดที่สวนลุมไนท์บาซาร์ แล้วก็ขี่จักรยานไปที่สวนลุม ผมขี่รอบๆ สวนมองหาร้านขายอาหารกินสักหน่อย เจอของถูกใจหลายร้าน แต่คนแน่นสุดๆ โต๊ะแน่นยังไม่พอ ยังมีคนยืนต่อคิวหุ้มรุมร้านจนแน่น มีร้านหนึ่งเล็งเอาไว้แล้ว คราวหน้ามาจะขอลองกิน เพราะเป็นของชอบ นั่นคือโรตีครับ ขายอยู่ฝั่งตรงข้ามร้าน Pro Bike เยื้องไปทางแยกสารสิน กลิ่นหอมโชยมาเตะจมูกตอนขี่จักรยาน อารมณ์เดียวกับตอนที่ได้กลิ่นป๊อปคอร์นหน้าโรงหนั่งนั่นแหละ
   วนไปด้านหน้าสวนลุมฝั่งรถ BTS ที่มีลานจอดรถ จุดนี้คนก็แน่นครับ หมดมุขจนจะกินอาหารสิ้นคิด ไม่ใช่ข้าวกระเพรา แต่เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขอโทษ ที่เห็นปิ้งๆ กันเต็มเตาน่ะ มีคนยืนเฝ้าจองกันหมดแล้ว โธ่..
   มุขสุดท้าย ก็คือกินอาหารว่างที่เราเตรียมมาเอง ก่อนออกจากบ้านผมเอาถั่ว Pistachio และ Almond พร้อมด้วยขนมเซมเบ้อีก 2 ซองมาด้วย ตัดสินใจขี่เข้าไปลานตะวันยิ้ม จุดนัดพบที่พี่คากินัดหมายไว้ว่าจะเป็นที่จัดงานมีทติ้ง จะไปนั่งกินที่หน้างานนี่แหละครับ
   อ้าว มีคนมาจัดงานก่อนเราด้วย เป็นงานเดินวิ่ง แต่เขาใกล้จะปิดงานแล้วล่ะ หน้างานมีของกินแจกด้วย แรกๆ ผมเขินๆ ไม่กล้าไปขอ แต่คิดอีกแง่ แหม เขาเอามากแจกนี่นา เลยเข้าไปขอรับขนมปังไส้มันเทศมา 1 ชิ้น กาแฟเย็นของนมตรามะลิ และขาเขียวเย็นแบบใส่นมของโออิชิ ได้ของมาแล้วก็ขี่ไปทางวงเวียนกลางสวนลุม นั่งบนก้อนหินใหญ่ กินอย่างเอร็ดอร่อย เพราะหิวสุดๆ ผมกินอาหารเช้าทุกวันตอน 0630 แต่ตอนนี้มัน 0800 เข้าไปแล้ว
   ขนมปังมันเทศรสชาติโอเคดีครับ กาแฟเย็นผมไม่ค่อยชอบ ปกติก็ไม่ค่อยกินกาแฟอยู่แล้ว ส่วนชาเขียวเย็นแบบใส่นมนี่ไม่คุ้นเลย ถ้าได้แบบชาเขียวเย็นธรรมดาจะดีกว่านะ
   กินเสร็จก็ขี่จักรยานเล่นไปรอบกว่าๆ ขี่แบบช้าๆ เกรงใจคนร่วมถนน ผ่านยามสิบกว่าจุด ไม่เห็นจะมีใครว่าผมสักคน ระหว่างทางผมเจอคุณ Bob ฝรั่งอายุ 81 ปี ที่เจอตอนออกทริปบ่อยๆ ผมวนรอบสวนเสร็จแล้วก็มาที่จุดนัดพบ เจอพี่คากิ อาสุวิทย์ ช่วงแรกนี้คนมายังไม่ถึงสิบคนเลย แต่ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้แหละครับ
   สักพักเจอพี่วัฒน์ Hasa และที่วุฒิ (แซงแซว) ผมชอบพี่สองคนนี้มาก พี่วัฒน์เป็นผู้ใหญ่ใจดี คุยสนุก เฮฮา ร่าเริง ส่วนพี่วุฒิจะเน้นถ่ายภาพ ผมเห็นเขาทีไร เป็นต้องขออาสาช่วยถ่ายภาพให้เขาบ้าง ผมรู้ดีครับว่าคนถือกล้องมักจะไม่ค่อยมีภาพตัวเอง แม้ใจจะบอกว่าไม่ชอบถ่ายภาพ ไม่เป็นไร แต่ในใจลึกๆ นั้นใครๆ ก็อยากมีภาพถ่ายสวยๆ ของตัวเองบ้างทั้งนั้นแหละครับ
   เจอน้าชูมากับ Strida นั่งคุยกันนานเลยครับ ไม่ได้เจอน้าชูมาเกือบ 2 ปี น้าชูยังใจดีเสมอ บอกว่าถ้าผมจะขึ้นเหนือหรือมาขี่จักรยานในละแวกนี้ก็ขอให้บอก มาตัวเปล่าก็พอ มาใช้รถของเขาได้ 

   มีรายการ TV ของ True Vision มาถ่ายทำรายการด้วยครับ เขาเอาจักรยานพับหน้าตาแปลกๆ มาถ่ายเจาะทีละคัน หันไปหันมา เขามาขอยืมจักรยานของผมไปขี่ แถมช่วงว่างๆ ในงานก็มาหยิบรถผมไปขี่เล่นอีกหลายหน พิธีกรหญิงหน้าตาดี ตัวสูงมากจนขี่รถของผมแล้วดูเก้งก้าง รถแบบ Semi Recumbent มันนั่งแบบเอนๆ นอนขี่อยู่แล้ว คนตัวสูง ขายาว ก็เลยยิ่งเห็นได้ชัดเจน
   ราว 1230 พี่คากิตั้งขบวนขี่จักรยาน ผมไม่ได้ไปร่วมด้วย ไม่ชอบขี่ตอนกลางวันร้อนๆ แบบนี้ ถ้าขี่แต่เช้าแบบนี้พอไหวครับ พวกเราที่เหลือก็แยกย้ายกันกลับ ผมไปกินอาหารกับพี่วุฒิ คุยกันเรื่องราวเกี่ยวกับแวดวงจักรยานจนถูกคอ พี่วุฒิกับผมคุยกันได้ทุกเรื่อง เขามีมุมมองที่เปิดกว้าง หลายประเด็นที่ผมไม่กล้าคุยกับคนอื่น แต่ก็มาเปิดใจคุยกับพี่วฺุฒิ เช่นประเด็นเรื่องมุมมองที่คิดว่าคนที่ขี่ไกล ขี่นาน นั้นเจ๋ง เก่ง เท่ หารู้ไม่ว่านั่นคือการค่อยๆ ทำลายร่างกายตัวเองโดยตรงอย่างช้าๆ อีกเรื่องคือการที่มีชาวจักรยานบางคนขี่รถแบบไม่มีมารยาท ใช้จักรยานแบบไร้สำนึก ขี่แบบเห็นแก่ตัว
   จบมื้ออาหารข้างถนนแบบง่ายๆ ก็ลาจากกันจริงๆ แล้วล่ะ ผมต้องขี่จักรยานย้อนกลับไปที่สวนลุมไนท์บาซาร์ ขับขึ้นทางด่วนแป๊บเดียวก็ถึงบ้านแล้วล่ะ
   กลับมาบ้านนี่อย่างหิวเลยครับ อาบน้ำแบบลวกๆ แค่ราดให้พอหายร้อน ก็ลงมากินสตอเบอรี่ ส้ม ถั่ว ขนมเซมเบ้ กินอย่างละนิดละหน่อย แต่ถ้าหลายอย่างมันก็อิ่มเหมือนกันนะ
   อิ่มเสร็จก็ง่วงครับ นั่งพิพม์เล่าเรื่องไปก็จะหลับไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่ากินคาร์โบไฮเดตรเยอะ หรือว่าเพลียแดดกันแน่ อ๊ะ ไม่แน่อาจถูกทั้งข้อ ก และ ข
   
   ตลอดบ่ายถึงเย็นผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกอยากินโน่นนี่ไปหมด หยิบของกินในบ้านใส่ปากอย่างละนิดละหน่อย อยากกินจนตาลาย เจออะไรก็อยากกินอยากชิมไปหมด ทั้งถั่วสารพัดอย่าง ช็อคโกแลตดาร์คหลากหลายรูปแบบ ขนมเซมเบ้ พวกผลไม้ก็จะเป็นส้ม สัปปะรด ฯลฯ ร่างกายหรือจิตใจผมต้องผิดปกติบางอย่างแน่ๆ หรือว่าเก็บกดจากการคุมน้ำหนัก พอมาวันนี้รู้สึกผ่อนคลาย เลยซัดแหลก ไม่รู้สินะ นานๆ ผมจะรู้สึกหิวแบบนี้สักที
   ก่อนนอนไถ่บาป ด้วยการทำซิทอัพไป 100 ครั้ง ไม่รู้จะเพียงพอหรือไม่
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53
« Reply #16 on: December 20, 2010, 06:34:45 pm »
20 ธค 53
   เมื่อวานเย็นทำผิดมหันต์เรื่องกินไม่ยั้งทั้งๆ ที่ไม่ได้หิว เป็นการกินด้วยอารมณ์ เช้านี้เลยขี่จักรยานชดเชย อ้อ อากาศหนาวเย็นมันแทบจะหายไปอีกแล้วนะ ที่มีคนบอกว่าปีนี้จะหนาวนานน่ะ ผมว่ามันคงจะหนาวเป็นหย่อมๆ แบบวันเว้นห้าวันแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ไม่ได้หนาวแบบต่อเนื่องลากยาวนานๆ เหมือนตอนปี 52 ผมจำปีนั้นได้ดีจนขึ้นใจ เพราะเป็นปีที่ผมไปขี่ขึ้นอินทนนน์
   เอารถ Giant Revive ออกขี่ครับ เพราะมันจอดอยู่นอกสุด หยิบฉวยง่ายสุด ปกติแทบจะไม่ได้แตะคันนี้เลยนะ เพราะมันจอดอยู่ด้านในสุดไง ขี่ขำขำเหมือนทุกวัน แต่วันนี้แปลกหน่อยที่เปลี่ยนรถ ทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในด้านการใช้พละกำลัง เจ้ารถคันนี้มันหนักมากกว่าทุกคันครับ มันดีตรงขี่สบาย นั่งสบาย ท่านั่งกึ่งเอนนอน ทำให้ผมสามารถเกร็งหน้าท้องขณะออกแรงถีบได้พร้อมๆ กัน ผมว่ามันคล้ายกับการทำซิทอัพและขี่จักรยานในเวลาเดียวกัน บ๊ะ แจ๋วว่ะ แบบนี้ก็ได้ออกกำลังแบบควบคู่เลยสินะ ไว้พรุ่งนี้ลองใหม่อีกทีครับ อาจได้สูตรในการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ก็เป็นได้
   เช้าวันนี้เน้นอาหารสุขภาพครับ เป็นปลาเก๋าผัดกับคึนช่ายใส่ขิงเยอะๆ กินกับกระเทียมสด 1 ถ้วยน้ำจิ้มเล็กๆ แต่พอกลางวันนี่สิ กินแบบไร้สาระจริงๆ ไม่ได้ออกไปซื้ออาหารข้างนอก เห็นอะไรใกล้ตัวเลยหยิบกิน ตอนเย็นเลยไถ่โทษด้วยการกินเกี๊ยวน้ำ ใส่ผักกวางตุ้งเยอะๆ ของว่างก็จะมีพวกถั่วสารพัดแบบ สตอเบอรี่ ส้ม
   
   ตลอดวันนี้ไอเดียเกี่ยวกับการทำธุรกิจใหม่ในไทยของผมฟุ้งมากๆ นั่งคิด วางแผน เจอปัญหาหรือทางตันก็จะจดๆ เอาไว้ เช่นเดียวกับไอเดียแปลกใหม่ก็ต้องจดเอาไว้ บางทีสิ่งที่ดูติงต๊องในวันนี้มันอาจเป็นนวัตกรรมสุดยอดในวันหน้าก็เป็นได้
   สิ่งของแปลกใหม่สำหรับบางคนในวันนี้ แต่มันคือความคิดเก่าแก่ของผมเมื่อเกือบจะสิบปีที่แล้ว ทำงานดีไซน์ เราจะต้องมองโลกมุมกว้าง มองเผื่อคนอื่น คิดเผื่อคนทั้งโลก และคิดไปล่วงหน้า
   
   เรื่องเด่นประจำวัน แชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยมาแล้ว ทีมจากเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ป้องกันแชมป์ได้ 5 ปีซ้อน ปีหน้าทีมนี้จะไปแข่งที่ตุรกีครับ บอกได้เลยครับว่าไทยเราคือสุดยอดในด้านนี้
   น่าสงสารผู้ใหญ่ปัญญาอ่อนตาดำๆ ในสภาที่เพิ่งจะประกาศขึ้นเงินเดือนตัวเองและพวกพ้อง สส เพิ่มอีก 15% ทั้งๆ ที่วันๆ ในหัวของมันมีแต่คิดว่าวิธีใดจะครอบครองอำนาจได้นานๆ กำจัดคู่แข่งได้อย่างถาวร
   สุดยอดกว่านั้นคือ พวกมันไม่ชอบเข้าประชุม ถ้ามา ก็มักจะนั่งหลับ ประเทศไทยไม่พัฒนาไปไหนก็ไม่ต้องไปโทษใครกันหรอก ก็ขนาดท่านผู้ทรงเกียรติในสภายังทำตัวทุเรศขนาดนี้เลย
   เออ… วิญาณปู่ จะร้อง “ไอ้ลูกหลานจัญไร”
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #17 on: December 22, 2010, 02:26:45 pm »
21 ธค 53
   เอารถ Giant Revive ออกขี่อีกแล้ว ช่วงนี้คงจะหันมาฮิตรถคันนี้ อยากรู้ว่ามันจะช่วยด้านการออกกำลังได้ดีกว่า MTB ปกติหรือไม่
   ข่าวดังที่สุดในวันนี้คือรถนักท่องเที่ยวที่มาเลเซียเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ คนไทยตาย 25 น่าตกใจมาก เพราะมันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ “จอย” รุ่นน้องที่รู้จักกันในเวป Trekking เขาชวนผมไป Cameron Highland พอดี
   เจอจอยออนไลน์ msn เลยได้คุยกัน ปรากฎว่าเจ้าตัวเองก็ตกใจมาก เขาไม่ได้ไปที่ Cameron ย้ายจุดท่องเที่ยวแทน แต่มีคนอื่นบางคนยังจะไป Cameron อยู่
ถนนทางขึ้น Cameron คดเคี้ยวครับ แต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุใหญ่ จนกระทั่งครั้งนี้แหละ ขอให้ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตไปสู่สุขติ 
   สภาวะน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายกันหมดทั่วประเทศแล้ว แต่งานออกแบบของผมยังไม่จบ หากแต่มันแค่เพิ่งเริ่มต้น ที่พอจะเปิดเผยได้ในวันนี้ มันคือจักรยานน้ำครับ ผมชอบมันมาก แต่ยังขี่แล้วกินแรงเยอะ ยังต้องพัฒนาระบบขับเคลื่อนกันอีกสักพัก ส่วนบ้านสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกนั้นออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อให้ท่วมสูงเป็นเมตร ก็เอาอยู่ครับ
   มีไฮไลท์อีกอัน นั่นคือทุ่นสำหรับจอดรถยนต์ ไอ้นี่สนุกมาก รถยนต์คือสินทรัพย์ราคาแพง แถมเคลื่อนย้ายลำบาก โดนน้ำท่วมแล้วก็แทบจะขายทิ้งกันหมด ทุ่นจอดรถอันนี้ยังสามารถประยุกต์เป็นทุ่นสำหรับแทงค์น้ำจืดก็ยังได้

   เขาว่าจะลมหนาวอีกระลอกจะมาในวันคริสมาส ก็เสาร์นี้สินะ จะเริ่มหนาวกันตั้งแต่คืนวันศุกร์ หรือคืนวันเสาร์ก็ไม่รู้ หนาวเป็นหย่อมๆ ก็อย่างนี้แหละ ที่ต้องเล็งกันแบบวันต่อวันก็เพราะอาทิตย์เช้าผมอยากขี่จักรยานแบบโต้ลมหนาวกับเขาบ้างไงล่ะ
   
   ฟังข่าวทีวีแล้วอึ้ง ตำรวจบอกจะกวาดล้างตู้ม้าทั่วเมืองอีกแล้ว  ที่ว่าอีกแล้วก็เพราะมันเคยกวาดล้างมาแล้วหลายหน ฮ่าๆ ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย ตู้ม้าที่เห็นกันเกลื่อนเมืองน่ะ มันเป็นของตำรวจทั้งนั้น เห็นมันตั้งอยู่ในบ้านคนธรรมดาก็จริง เพราะตำรวจมันไปขอวาง แล้วก็มาเก็บเงินค่า % เป็นส่วนแบ่ง มันเป็นธุรกิจของตำรวจครับ เอาชาวบ้านมาบังหน้า พอโดนจับก็รับบาปแทนพวกมัน ก็มักจะมาตอบแทนด้วยการเคลียร์ให้ภายหลัง
   อ้อ พวกยาบ้า ยาม้าก็เช่นกันอีกนะ ของตำรวจทั้่งนั้น นี่ถ้าประเทศไทยเราไม่มีตำรวจ ประเทศคงจะเจริญกว่านี้อีกเยอะมาก เพราะตำรวจก็คือโจรเราดีๆ นี่เองแหละครับ ต่างกันที่มันมีเครื่องแบบใส่
แหม ลืมไป ตำรวจที่ดีก็มีครับ ไม่ใช่ไม่มี ที่ไม่โกงกินเลยก็คือตำรวจที่ยืนอยู่กลางลานกรมตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนตากแดดตากฝนมานานนับปี กับอีกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมก็คือ “จ่าเฉย” และ “จ่ายิ้ม” ที่เหลือ บอกได้เลยว่าเหี้ยทุกตัว มากน้อยต่างกันตามสันดานของมัน
คุยเรื่องตำรวจเลวกับผม คุยได้นานครับ รอบกายก็รายล้อมด้วยไอ้พวกนี้เต็มไปหมด ปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ ก็จะมาเยี่ยมเยียนพร้อมกับมาขอทาน พาพรรคพวกเพื่อนฝูงมากันเต็มร้านไปหมด ใครทำธุรกิจการค้าคงจะเข้าใจดี
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #18 on: December 23, 2010, 03:10:36 pm »
22 ธค 53
   เอา Giant Revive ออกขี่ บอกตรงๆ เลยครับว่าไม่เคยขี่ใช้งานมันติดต่อกันทุกวันแบบนี้มาก่อนเลย ซื้อมาใหม่ๆ ก็ขี่เล่นประเดี๋ยวประด๋าว ไม่เคยไปไกลๆ เลยด้วยซ้ำ ตั้งใจทีแรกว่าจะซื้อมาให้พ่อขี่น่ะครับ แต่พ่อขี่แล้วไม่ชอบ เพราะขี่จักรยานเขาจะขี่คนเดียว เพื่อนๆ เขาจะเดินและวิ่งกันหมด ก็เลยกลับไปอยู่ในกลุ่มเดินวิ่งแบบเดิม เข้าใจเขาดีครับ ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้น้อยใจ สังคมของคนเรามันต่างกัน ผมมันเป็นคนสันโดษมาตั้งแต่เด็ก ทำอะไรก็ลุยเดี่ยวตลอด มีเรื่องชกต่อยสมัยเด็กๆ ก็ยังซัดกันแบบเดี่ยวๆ เลยครับ จำได้ว่าชกกับเพื่อนอย่างเป็นทางการครั้งแรกตอนมัธยม 3 หลังจากนั้นก็พอมีบ้าง แต่ไม่บ่อยนักหรอก ทำไปเพื่อป้องกันตัว ป้องกันสิทธิ์เสียมากกว่า
   ผมไม่ใช่นักเลง ไม่นิยมใช้กำลัง แต่ไปไหนมาไหนคนเดียว จึงต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวในหลากหลายรูปแบบ รู้จักใช้สิ่งของรอบตัวให้เป็นประโยชน์ รู้วิธีเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ ก็เลยสอนลูกให้รู้เรื่องเหล่านี้ เขาเริ่มโตแล้ว อีกหน่อยก็ต้องออกไปเผชิญโลกตามลำพังเช่นเดียวกับผม
   ถ้าเรานั่งเรือ ก็ต้องเตรียมใจคิดว่าหากเกิดอุบัติเหตุจะต้องทำอย่างไรบ้าง ห่วงยางชูชีพอยู่จุดใดบ้าง จะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร นั่งใกล้ๆ ห่วงยางจะดีไหม และต่อให้ว่ายน้ำเป็นหรือเก่งเพียงใด หากเกิดอุบัติเหตุทางน้ำก็ขอแค่ลอยคอพอแล้วครับ อย่าอาจหาญว่ายสู้กับกระแสน้ำ เอาแรงที่เหลือไว้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจะดีกว่า
   ถ้านั่งรถก็คิดเช่นกัน แต่รถเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าคาดเข็มขัดนิรภัย และถ้าขับเองก็ง่ายหน่อย เริ่มคุมปัจจัยได้หลายอย่าง สำคัญที่สุดเลยก็คือการวางตำแหน่งของตัวเองบนท้องถนน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มีสติ มีฝีมือนั้นยังไม่พอครับ ต้องคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจให้ถูกต้องด้วย
   แต่ขับรถให้ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ ผู้ขับนอกจากจะต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้โดยสารในรถทุกคนแล้ว ยังต้องดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถยนต์ที่ตัวเองขับด้วย โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย ชิ้นส่วนใดชำรุดก็ต้องรีบซ่อมบำรุง ยาง ช่วงล่าง ฯลฯ เหนือสิงอื่นใด คือความสามารถและภูมิปัญญาของผู้ขับ เจอคนขับมีจิตใจดีก็สบายไป แต่ถ้าเจอคนพื้้นฐานอารมณ์ร้าย เกรี้ยวกราด ฉุนเฉียว เจอแบบนี้โปรดหลีกหนีให้ไกล
   อย่าเป็นคนแบบนี้โดยไม่รู้ตัวก็แล้วกันล่ะ 
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #19 on: December 23, 2010, 07:45:22 pm »
23 ธค 53
   เมื่อวานตอนเช้าผมขี่จักรยานไปตลาด ซื้อต้มเลือดหมูมาฝากลูก เขากินแล้วชอบใจ บอกวันนี้ขออีกนะ แถมขอเพิ่มหมูด้วย เขาบอกว่าหมูอร่อยมาก ผมชอบร้านนี้ครับ คุณลุงคนขายให้ผักเยอะดีมาก มีทั้งใบตำลึง และอีกอย่างมีชื่อจีนว่า “จิงจูฉ่าย” ผมไม่รู้ว่าเรียกภาษาไทยว่าอย่างไร รู้แต่ว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก
   มิวเขาเป็นเด็กที่กินผักเก่งมาก เกิดจากการฝึกฝนโดยตรงครับ ไม่ได้เกิดมาแล้วจะชอบกินผักได้เอง เด็กต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับรสชาติอาหารใหม่ๆ ราว 16 ครั้ง ถึงจะเริ่มเข้าใจในรสชาติ เด็กเล็กๆ ป้อนอะไรใส่ปากก็กินได้หมด แต่พอโตแล้วก็มักจะเลือกกิน ช่วงนี้แหละ มันเกิดการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งแวดล้อม จากการเลี้ยงดู เด็กที่กินของหวานเป็นประจำ ก็จะคุ้นเคยกับรสชาตินั้น อันไหนไม่หวานก็จะไม่ชอบ
   แต่แค่จัดอาหารให้เด็กนั้นยังไม่พอนะครับ การห้ามไม่ให้เด็กกินน้ำอัดลม แต่ถ้าผู้ใหญ่ที่นังโต๊ะด้วยกันนั้นซดเอาๆ ก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เด็กอยากกินตามบ้าง วิธีเลี่ยงเด็กที่ถูกก็คือทำตัวอย่างให้เด็กดูครับ อยากให้เด็กเป็นอย่างไร ก็ทำตัวอย่างให้เขาเห็น อยากให้เขาพูดเพราะๆ ก็ต้องพูดเพราะๆ กับเขา อยากให้เขามือไม้อ่อน ไหว้สวัสดีคนอื่น ก็ต้องถามว่าพ่อแม่เคยไหว้ใครให้ลูกใด้เห็นบ้างไหม
   เหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือการเดินสายกลางครับ พอเด็กโตขึ้น เขาก็จะมีความคิดเป็นของตนเอง เริ่มจะมีการต่อต้านบ้าง เริ่มไม่เชื่อฟังบ้าง ไม่ใช่ว่าเขาจะดื้อ เขากำลังเรียนรู้ต่างหาก ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ ปัญหาก็จะไม่เกิด แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น อยากจะบอกว่านี่คือต้นเหตุของเรื่องราวต่างๆ  และจะมาแสดงอย่างเด่นชัดตอนวัยรุ่น ที่บางคนอาจบอกว่าสายเกินไปแล้ว ถึงจุดนี้ ถ้ายังกู่ไม่กลับ บางส่วนก็จะกลายเป็นปัญหาสังคมในระยะยาว
   
   เย็นไปรับเขากลับบ้าน มิวเห็นน้ำส้มคั้นของใครก็ไม่รู้ แขวนไว้บนเสาที่ลานจอดรถ ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย ต้องเป็นของผู้ปกครองที่ลืมเอาไว้แน่ๆ
   “อยากกินไหมลูก”
   “อยากครับ”
   ผมลองยุให้ลูกหยิบมากิน แต่ลูกไม่เอา ผมเลยบอกว่าดีแล้ว เผื่อเจ้าของเขานึกขึ้นได้ เขาจะกลับมาเอาไปกิน จากนั้นเราก็เดินผ่านมันมา ระหว่างทางผมให้ลูกคิดต่อไปว่า ถ้าเราไม่หยิบ น้ำส้มถุงนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป
   1 มันก็คงจะแขวนทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น
   2 เจ้าของนึกขึ้นได้ และกลับมาเอา
   3 คนอื่นมาเห็น แล้วก็หยิบเอาไปกิน
   จะอย่างไรก็แล้วแต่ จุดประสงค์ของผมคือต้องการให้ลูกรู้จักคิด คิดทุกมุม ทุกด้าน คิดถึงผลกระทบ สำคัญสุดคือต้องคิดอย่างมีระบบ คิดและวิเคราะห์ได้
   สอนเรื่องพวกนี้นี่แสนจะยากครับ แถมวัดผลกันยากอีกด้วย ก็ได้แต่สอนไปเรื่อยๆ ทำหน้าที่พ่อที่ผมตั้งใจหยุดรับงานส่วนตัวทุกอย่างเพื่อมาเลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุด
   สิบปีเต็มแล้วสินะ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #20 on: December 26, 2010, 03:51:16 pm »
24 ธค 53
   ตื่น 0400 เพราะหมาเห่าไล่แมว ผมตื่นมาดุหมาให้มันหยุดเห่า แล้วก็ออกกำลังกายยามเช้าต่อ วันนี้นึกสนุก ไม่ขี่จักรยานครับ ใช้เดินแทน เดินอยู่ราว 1 ชม เหงื่อซึมหน่อยๆ แต่ตอนขี่จักรยานนี่เหงื่อไม่ออกสักนิด แปลกดี
   ผมไปโพสแสดงความเห็นว่ารถของ Dahon ไม่เหมาะกับคนสูงน้อยกว่า 175 ซม วันนี้มีเจ้าของรถมาตอบว่าตัวเขาสูง 170 ซม และรถคันนี้ไม่ได้ยาวเกินไปสำหรับเขา อืมม มีเหตุผล ก็มันรถของเขา เขาพอใจ ก็จบ ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรไปให้มันยืดยาว
   แต่ถ้าใครจะเล่นจักรยานอย่างจริงจังล่ะก็ ผมยังคงยืนยันคำตอบเดิมของผมครับ
มีประเด็นหนึ่งน่าสนใจ คือรถของ Dahon มันมีหลายรุ่น หลายปี รถหลังจากปี 09 เริ่มที่จะมีช่วงรถสั้นลงนิดหนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่ารถในปีหน้าจะมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ออกมาอีก Dahon เขาเด่นทางด้านนี้ครับ และถือลิขสิทธิ์เอาไว้ในมืออีกมากมาย

   คนงานเมา ไม่มาทำงาน หึหึ คงไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผม เช้าจรดค่ำจนปิดร้าน เย็นไปรับลูกจากโรงเรียนมาส่งบ้าน แล้วผมก็ออกไปเฝ้าร้านต่อ มาถึงบ้านเอาตอน 3 ทุ่มครับ 

25 ธค 53
   เช้านี้ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่ใช้ขี่จักรยานไปทำงานแทน ตลอดวันโดนลูกค้าบ่นด่าเพราะว่าสินค้าปรับขึ้นราคา ก็ได้แต่รับฟังเขาไปครับ อย่าไปโต้ตอบอะไร ยิ่งพูดมาก ก็จะยิ่งทำให้เขาโมโห
   วันนี้อยู่ร้านตลอดวันอีกเช่นกันครับ บรรยากาศไม่ค่อยจะน่าสนุกเท่าไหร่ อาศัยวิชาคิดบวก และอาศัยช่วงที่ได้่ขี่จักรยานออกไปซื้อของ ไปทำธุระ การได้ขี่จักรยานนี่แหละ คือความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะหาได้ในระหว่างวัน
   แต่ช่วงเวลาที่ปลดปล่อยที่สุดก็คือตอนขี่จักรยานกลับบ้านครับ ผมไม่คุ้นกับการขี่กลางคืน วันนี้เล่นเอาห้าทุ่มเลย สองข้างทางบรรยากาศแตกต่างจากกลางวันโดยสิ้นเชิง ร้านค้าหาบเร่แผงลอยเต็มไปหมด แต่มองมากไม่ได้ครับ บนพื้นถนนยิ่งอันตราย มีฝาท่อเต็มไปหมด มองไม่ค่อยเห็น ต้องระวังล้อมันจะแฉลบ
   ช่วงใกล้บ้านมีบางจุดไฟส่องสว่างเข้าไม่ถึง มีสาวๆ ยืนข้างถนนหลายคน แต่งตัวไม่ธรรมดา เหมือนพวกขายบริการ นี่ถ้ามากลางวันไม่เคยได้พบเจอแน่นอน
ตามคาเฟ่ข้างถนนก็จะมีสาวๆ มานั่งหน้าร้าน เหมือนคอยเรียกลูกค้า ผมไม่เคยและไม่คิดจะเข้าสถานที่แบบนี้อยู่แล้ว เหล้าก็กินไม่เป็น ไม่ชอบดนตรีเสียงดังหนวกหู
   เข้าบ้านปุ๊บ เห็นไฟในห้องนอนยังเปิดสว่าง เอ๊ะ หรือว่าลูกผมหลับแล้วลืมปิดไฟ ค่อยๆ ย่องเข้าไป ลูกเงยหน้ามามอง
   “อ้าว ยังไม่หลับหรือลูก”
   มิวส่ายหัว ไม่ได้พูดตอบ ตาปรีอแบบใกล้จะปิดแล้ว
   “มิวรอพ่อหรือ”
   เขาพยักหน้า ผมนั่งลงกับพื้น คุกเข่าใกล้ๆ ที่นอนเขา แล้วก้มลงไปจูบมือเขา อยากจูบหน้าผาก แต่ตัวผมสกปรก เพราะทำงานยกของตลอดวัน
   เดินไปปิดไฟ บอกให้เขานอน พ่อจะอาบน้ำแล้วเดี๋ยวจะมานอนด้วย กลับเข้ามาอีกทีมิวหลับไปเรียบร้อยแล้ว
ผมเอื้อมมือไปจับมือเขาเบาๆ แล้วนอนหลับตามไปด้วยอีกคน
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #21 on: December 27, 2010, 03:11:58 pm »
  26 ธค 53
   ตื่นเช้าขี่จักรยานไปตลาด ตั้งใจจะหาซื้อขนมโตเกียวให้ลูก เขาบ่นอยากกินมาหลายวัน ผมขี่ไปตลาดสินทวีแถวบ้านนี่เองแหละ เป็นตลาดใหญ่ยามเช้า แต่ก็หาไม่เจอ มีแต่ฮอทด็อก เลยเอามาแทน แต่มิวบอกไม่อร่อย สู้โตเกียวไม่ได้ เขาสั่งแบบใส่ไข่นกกระทาด้วยน่ะครับ
   ของกินมากมายในตลาด เลยซื้อขนมจีนมาฝาก “ดี” แม่บ้าน ซื้อขนมเบื้องญวนแบบไข่มากินด้วย เห็นแล้วปิ๊งเลย ไม่ได้กินมาหลายปี ของกินทำยาก ซับซ้อน เครื่องปรุงจุกจิก แต่ขายแค่แผ่นละ 25 บาท รสชาติอร่อยเสียด้วยสิ เสียตรงอาจาดรสชาติหวานไปนิด
   ตอนสายลูกไปเรียนพิเศษ ผมอยู่บ้านแบบเนือยๆ มันเบื่อๆ แบบไม่มีอารมณ์ ผลมาจากการทำงานที่ร้านทั้งวันนี่แหละครับ ตื่นมาแต่เช้าก็จริง แต่ก็ไม่สดใส ร่างกายเหมือนจะทำงานไม่สมบูรณ์เต็มร้อย เกิดอะไรขึ้นกันวะนี่ ไปล้างรถออกแรงสักหน่อยดีกว่า แดดเริ่มแรงแล้ว ไปขี่จักรยานก็ไม่สนุกแล้วล่ะ
   ล้างแบบธรรมดา คือไม่ขัดถู ใช้เวลาไป 30 นาที รู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่ง จนต้องไปอาบน้ำน่ะแหละ ถึงจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา แต่วันหยุดแบบนี้มาอยู่กับบ้านเฉยๆ มันเหมือนเสียสิทธิ์ยังไงก็ไม่รู้สิ น่าจะได้ไปเที่ยวพักผ่อน
   อยู่บ้านคนเดียว กลางวันกินของไร้สาระ เป็นขนมปังกรอบที่ผมซื้อมาจากมาเก๊า เอามาทาแยมกิน เป็นแยมผลไม้ที่ใกล้จะหมดอายุแล้ว กินเพราะความเสียดาย
   ช่วงกลางวันแม่บ้านมาเรียกผมให้ไปช่วยปลาทองในบ่อ มันว่ายไปติดในซอกหิน ออกมาเองไม่ได้ ต้องลงไปในบ่อ หยิบพลิกก้อนหินเพื่อหาช่องด้านหลังเพื่อที่จะช่วยดันมันออกมา
   มันเป็นช่องหินขนาดใหญ่ แต่มีแง่งหินเล็กๆ ยื่นออกมาบัง แต่ปลามันคงว่ายถอยหลังออกแนวเดิมไม่ได้ เลยดิ้นในซอกนั้นอยู่นานจนเกล็ดถลอกไปแถมหนึ่ง
   “หนูเห็นมันตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ คิดว่ามันเล่น” แม่บ้านชื่อดีพูดขึ้น ส่วนผมกำลังท้าวเอวยืนดูมันแหวกว่าย หลังจากเพิ่งช่วยมันสำเร็จ
   ก็ดีครับ ได้ทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ในวันหยุด ช่วยชีวิตปลาตัวเล็กๆ มันก็เป็นอีก 1 ชีวิตเหมือนกัน
   
   บ่ายสามโมงวันอาทิตย์ ถ้าผมไม่ได้ไปไหน และไม่ลืม ก็จะดูทีวีช่อง 9 รายการฉันรักเมืองไทย เป็นรายการเกี่ยวกับชีวิตคนต่างชาติในเมืองไทย เขารักเมืองไทยยิ่งกว่าที่คนไทยหลายคนเป็น ดูทุกครั้ง สนุกทุกครั้ง แต่วันนี้รู้สึกผิดปกติ ทั้งๆ ที่แขกรับเชิญในรายการคืออาจารย์ บรูส แกสตั้น ผู้ก่อตั้งวงฟองน้ำ
   เรื่องผิดปกติในรายการคุณภาพสูงเช่นนี้ก็คือมีโฆษณาแฝงมา 2 ชิ้นครับ ทำให้รายการนี้ดูด้อยค่าลงไปอย่างมาก ทำแบบนั้นทำไม
   ฉากแรก คือพิธีกรนำรถไปติดตั้งฟิล์มลามิน่า ถ่ายป้ายหน้าร้านเห็นชื่อลามิน่าตัวโตเบ้อเริ่ม และเขียนสคริปให้อาจารย์นั่งในรถและพูดทำนองว่า รู้สึกเย็นสบายเพราะรถติดฟิล์ม …ปัดโธ่
   ฉากสอง คือภรรยาและลูกของอาจารย์เป็นตัวแทนโฆษณาของไทยประกันชีวิต ถ่ายภาพลูกกำลังใช้คอมพิวเตอร์ แม่พูดว่าวางแผนอนาคตให้ลูกไว้แล้ว โดยการซื้อประกัน …แหวะ
   สุดท้ายเป็นโฆษณาน้ำมันเครื่อง Shell Advance อันนี้ทุเรศน้อยหน่อย เพราะทำเป็นสารคดีสั้นๆ มาแทรกระหว่างเบรก แต่มันยังอยู่ในส่วนเนื้อหาของรายการ อีกหน่อยคงจะมีโฆษณาแฝงของสินค้าที่สนับสนุนรายการทุกตัวครับ ถึงตอนนั้น รายการคงจะเละและน่าเกลียดเอามากๆ
   ติติงด้วยใจปรารถนาดี รายการดีๆ แบบนี้หายากมากในโลกปัจจุบัน ไม่อยากให้เรื่องธุรกิจเข้ามาแทรกซึมจนมากเกินไปครับ

สงสัยกันไหมว่าทำไมบ้านเมืองเรามันไม่เห็นจะพัฒนาไปถึงไหนกันบ้างเลย พวกผู้ใหญ่มีแต่แก่งแย่งอำนาจ พวกข้าราชการก็ทำงานไปแบบเอื่อยเฉื่อย พนักงานบริษัทก็เฝ้ามองปฏิทินรอวันหยุด งานเยอะก็บ่น งานน้อยก็เกี่ยงกันทำ ใช้ชีวิตแบบหนักแผ่นดินอย่างมาก ผมลองวิเคราะห์ให้ลึกขึ้น มีแนวความคิดหนึ่งน่าสนใจ
   ผมให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพแวดล้อมและพื้่นฐานการใช้ชีวิต เริ่มจากอากาศเสีย ควันพิษ อาหารรอบตัวก็มีสารปนเปื้อน ไม่ต้องอะไรมาก แค่น้ำดื่มในโรงเรียนที่เป็นตู้น้ำเย็น ก็อุดมไปด้วยสารตะกั่ว ใช้ตะกั่วบัดกรี ตะกั่วที่อยู่ในตู้นี้ก็จะค่อยๆ ละลายปนออกมากับน้ำดื่มช้าๆ ทีละนิด คือกินน้ำน่ะไม่ตายทันทีหรอก แต่คุณหรือลูกคุณกินสารตะกั่วเข้าไปวันละนิดละหน่อย พิษของสารตะกั่วก็ไม่มีอะไรมากครับ มันจะซึมซาบอยู่ในสมอง ทำให้พัฒนาการด้านต่างๆ ของร่างกายถอถอยลง นี่นี่ พอจะเห็นภาพความปัญญาอ่อนของนักการเมือง และผู้ใหญ่ในวงการต่างบ้างหรือยัง
   ในชุมชนที่มีทางเข้าออกเป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ ก็จะมีพวกรถมอเตอร์ไซค์วิ่งกันตลอดวัน แน่นอน มันปล่อยควันออกมาตลอดทาง ส่งเสียงดังลั่นตลอดทางทีมันผ่าน พอจะมองเห็นภาพคนแก่นั่งเลี้ยงเด็กอยู่ในบ้านละแวกนั้นไหมครับ พวกเขาต้องดมควันตลอดวัน นอนหลับแบบได้ยินเสียงรถตลอดเวลา ต้องจำเป็นทำให้ร่างกายชินชาเข้าไว้ คิดต่อไปอีกว่าสุขภาพของคนในละแวกนี้จะเป็นเช่นไร สำคัญกว่านั้นนะ สุขภาพจิตของพวกเขาล่ะ โตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร
   ผมขี่จักรยานผ่านชุมชนแบบนี้เสมอ เจอแต่วัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ ขี่มือเดียว อีกข้างคุยโทรศัพท์อีกด้วย รถมันก็ปล่อยควันและส่งเสียงไปให้ญาติๆ และพ่อแม่ของตัวเองได้ดมและได้ยิน เจริญจริงๆ น่าจะกำหนดเขตการเข้าถึงของมอเตอร์ไซค์กันบ้างนะครับ เพื่อสุขภาพของคนในชุมชนนั้นๆ เอง
   สี่เพียงแค่จุดเล็กๆ ที่ผมสะกิดขึ้นมาเองนะ ลองมองภาพรวมให้ถี่ถ้วน จะพบอีกหลากหลายปัญหา ล้วนแล้วแต่สงผลถึงการพัฒนาศักยภาพของสมอง
   ประเทศไทยเรามีจุดเด่นจุดขายมากมาย และเป็นประเทศที่จะปั้นให้ดังแบบเกาหลีได้ไม่ยากเลยนะครับ เรามีของดีๆ อีกเพียบ ผมเคยเล่าไว้เยอะแล้วล่ะ แต่น่าเสียดายที่คนของเรามักมองข้ามกันไปเสียหมด
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #22 on: December 27, 2010, 07:43:56 pm »
27 ธค 53
   งานใหญ่ประจำปีของชาวฝั่งธนบุรี คืองานวันพระเจ้าตากครับ เขาจัดวันที่ 27-28 ธค ของทุกปี ปิดถนนลาดหญ้าสองวัน รถติดเพียบครับ ผมเอาจักรยานออกขี่จากบ้านมาทำงาน ใช้รถ KHS HT ครับ คันนี้ถนัดมือที่สุด เก่าแก่ที่สุด และขี่ได้ดีที่สุดอีกด้วย
   เช้านี้อากาศเย็นมากกว่าทุกวัน สัมผัสลมหนาวแล้วรู้สึกเย็นสบายใจดีครับ ขี่รถมาจอดพักที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งให้หายเหนื่อย ยืดเส้นยืดสาย เห็นเรือนักท่องเที่ยวผ่านมาก็โบกมือให้ ส่วนใหญ่จะโบกมือตอบ มีบางลำมองผมแล้วเขาเฉยๆ ก็รู้สึกเก้อๆ นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ไม่เสียฟอร์มแต่อย่างใด เราเป็นเจ้าบ้าน ทักทายด้วยไมตรี
   ผ่านร้านน้ำเต้าหู้ จอดซื้อกิน 1 ถุง ใส่ลูกเดือย เช้านี้กินแค่นี้แหละครับ รีบออกจากบ้าน เลยไม่ได้กินอะไรสักอย่าง แต่ที่ทำงานผมมีอัลมอนด์อบเก็บไว้ 1 กระปุก หยิบกินได้ตลอดวัน
   ตอนกลางวันขี่จักรยานไปเก็บเงินลูกค้า ไปซื้ออาหารกลางวันให้แม่ ทำอะไรเพื่อคนอื่นนี่มันมีความสุขดีจริงๆ ครับ
   ตอนบ่ายเข้าบ้าน อากาศร้อนจัดแล้วครับ ขี่ไม่ค่อยสนุกเลย พอถึงบ้านนั่นแหละจึงมีความสุข อาบน้ำจากฝักบัวเย็นๆ รู้สึกสบายตัวเอามากๆ ล้างหน้าแล้วรู้สึกแสบนิดๆ เลยเอาเจลว่านหางจรเข้โปะเข้าไปหนาๆ เย็นดี
   มีเวลาว่างทำงานส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ก็ตอนนี้แหละ สัก 2 ชม ก็ยังดี พอจะวางแผนงานของปีหน้าได้บ้าง มีโครงการแปลกใหม่เยอะแยะไปหมด กลัวตัวเองจะไม่มีเวลาว่างจัง นึกถึงภาพตัวเองนังเฝ้าร้านแล้ว…

   เข้าเวปของกลุ่มรถพับ KHS เห็นมีคนหนึ่งเอาภาพรถมาลง เขาใส่ชุดคอพับด้วย น่าจะสะดวกดี ของเดิมเป็นแบบถอดสวม ถอดแล้วเกะกะมากครับ ขนย้ายลำบาก ท่อคอ และแฮนด์จะไปชนกับเฟรม รถจะเป็นรอยได้ง่ายมากๆ เห็นแล้วอยากได้เลยครับ เลยไปดูภาพในเวปร้านค้าออนไลน์ ดูนานๆ เริ่มคิดหนัก เพราะท่อคอของเขามันไม่มีจุดยึดกระติกน้ำ แต่ท่อคอของเก่าของผมมี อ้อ รถของผมไม่เหมือนรถพับ KHS ทั่วไปนะครับ มันเป็นทัวริ่ง เลยมีจุดยึดกระติกน้ำ 2 ใบ ซึ่งผมได้ใช้ฟังชั่นนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะตอนขี่ขึ้นเขาอินทนนน์ กระติกหนึ่งเป็นน้ำเปล่า อีกระติกเป็นเกลือแร่
   อ้อ จุดด้อยอีกอย่างของคอพับก็คือ จุดพับมันอยู่สูงจากชุดคอมากๆ เลยครับ เรียกว่าดีตรงพับได้อย่างเดียวนี่แหละ เป็นการพับที่ผมเรียกว่าแบบ “พับนอก” คือพับแล้วแฮนด์อยู่ด้านนอก ไม่ได้อยู่ระหว่างตัวถัง รถของ Dahon เองก็มีทั้งพับนอก และพับในครับ แล้วแต่การออกแบบเฟรม
จากเดิมตอนแรกที่ชอบ และอยากได้ ตอนนี้พอเห็นภาพใกล้ๆ ก็รู้สึกเฉยๆ เสียแล้ว ผมไม่ได้ใช้ฟังชันการพับบ่อยด้วยมั้ง
นี่เป็นตัวอย่างวิธีคิด ของคนที่ไม่อยากเสียเงินครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #23 on: December 30, 2010, 03:25:11 pm »
28 ธค 53
   ขี่จักรยานออกถนนมาหลายปี เช้านี้เป็นวันแรกที่ขี่จักรยานไปชนกระจกข้างรถยนต์ มันเกิดจากการที่ถนนตากสินรถติดหนักสุดยอด ช่วงเช้ามีงานพระเจ้าตากที่วงเวียนใหญ่ มีการวางพวงมาลา ถวายพระพร มีขบวนพาเหรดของนักเรียนในละแวกใกล้เคียง รถติดหนักขนาดที่จักรยานต้องติดไปด้วย
   ช่องว่างเล็กๆ ที่จักรยานพอไปได้ ผมก็แทรกไป ก็ไปแบบเฉียดๆ ตลอดทาง มีช่องหนึ่งเป็นรถเมล์กับรถเก๋ง ผมก็จะขี่แทรกไป แล้วจู่ๆ รถเมล์ก็ออกตัว
   เฮ้ยๆ ๆ เฉียดแขนไปนิดเดียวเอง เล่นเอาตกใจ สองเท้าก็มีคลิปล็อคอยู่ติดกับบันได เริ่มเสียการทรงตัว เลยเอนตัวไปทางฝั่งรถเก๋ง แล้วก็ได้เรื่อง ท่อนแขนขวาไปชนกับกระจกข้าง จนมันพับไป ตกใจมากครับ ขี่จักรยานมาเป็นสิบปี ไม่เคยชนกระจกใครเลย
   “ขอโทษครับ ๆ ๆ” ผมพูดตะโกนดัง เผื่อคนขับในรถจะได้ยิน พูดไป ก็เอามือดันกระจกให้เข้าที่ และโบกมือขอโทษ ก้มหัวขอโทษด้วย จำได้ว่าพูดคำว่าขอโทษครับอยู่หลายหนเลย
   เล่นเอาเสียความมั่นใจไปเลยครับ เจอช่องแคบๆ เลยไม่กล้าไปแล้ว มอเตอร์ไซค์ยังติดเป็นแพ ดมควันของกันและกันจนเพลินจมูกไปเลย ผมเลยขี่บนทางเท้าแทนครับ ขี่แบบนี้ไปเกือบตลอดทางจนถึงที่ทำงาน
   ระหว่างทางเจอจักรยาน 2 คันครับ ท่าทางวัยรุ่นซิ่งน่าดู เลยขี่แข่งกัน ฮ่าๆ แข่งกันแบบรถติดๆ นี่แหละ ผลัดกันนำ ผลัดกันแซง จนมาถึงช่วงที่ผมขี่บนทางเท้านั้นแหละ ถึงได้แยกทางกัน
   ขี่ไปจอดพักริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เดิมครับ ยืดเส้นยืดสายสัก 1 ชุด ถอดเสื้อและนั่งพักจนเหงื่อแห้ง ก็เปลี่ยนเสื้อยืดขี่เข้าที่ทำงาน แวะซื้อน้ำเต้าหู้ใส่ถัวแดง 1 ถุง เก็บไว้กินตอนสายๆ
   
   บ่ายขี่จักรยานเข้าบ้าน แดดร้อนแรงจัดตามสไตล์หน้าหนาว (แต่หน้าร้อนก็ไม่ได้เบากว่านี้นักหรอก) วันนี้ผมขี่โดยการใส่หมวกปีกกว้างครับ ทดลองดู รู้สึกว่าดีกว่าใส่หมวกจักรยานแบบเก่า โดนแดดเผาตลอดทางจะรู้สึกร้อนหัวน้อยกว่ามากเลย ข้อเสียก็มี คือปีกหมวกด้านหน้ามันจะหุบขึ้นลงตามจังหวะที่เราก้มเงยหัว ขี่กลางแดดนี่ไม่สนุกเอาเสียเลยครับ พรุ่งนี้อาจจะไม่ขี่แล้วล่ะ งานวันพระเจ้าตากก็หมดแล้ว เอาไว้ซ้อมขี่ช่วงเช้าเหมือนเมื่อก่อนจะดีกว่า
   
29 ธค 53
   คนงานเก่าแก่ไม่สบาย คนนี้แทบจะไม่เคยขาดงานเลย แต่เขาต้องพักอย่างน้อย 7 วัน ผมขับรถกระบะส่งของแทน เป็นรถรุ่นเก่า ไม่มีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ตอนขับไม่เท่าไหร่ จะมาเหนื่อยตอนจอด และต้องโยกรถเข้าที่ในที่แคบๆ ก็ต้องใช้ฝีมือดีครับ
   วันนี้เลยไม่สนุกเท่าไหร่ ไม่มีอะไรมาเล่า ตกเย็นไปรับลูก ถึงจะได้พัก ลูกวิ่งเล่นกับเพื่อนจนเย็นค่ำ ขากลับขอไปกินอาหารร้านยาโยอิ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Fast Food คือทำเร็ว เสิร์ฟเร็ว เพราะมีเมนูอยู่จำกัด เขาเห็นในทีวีโฆษณาเมนูใหม่ๆ ของร้านนี้ เป็นเมนูจำพวกปลา เลยอยากกิน ผมก็เลยเออออไปด้วย สั่งปลาดอริมาคนละจาน มิวสั่งทำแบบสเต็ค ส่วนผมสั่งแบบย่างเกลือ ก็รสชาติโอเคดีครับ จานละ 119 บาท แพงแบบพอรับได้ ไม่โหด
   กลางคืนโทรบอกเพื่อนที่คอนโด พี่ที่เขาชวนผมไปทริปเรือที่อยุธยากันน่ะครับ คนงานผมขาดงานเสียแล้วสิ ผมคงต้องขอยกเลิกทริป
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: ธค 53 19 มีทติ้งรถพับ สวนลุม
« Reply #24 on: December 30, 2010, 07:56:23 pm »
30 ธค 53
   ตัดสินใจไม่ไปทริปเรือกับเพื่อน เสียดายสุดๆ อากาศหนาวเย็น รถติดหนักขาออกเมืองก็จริง แต่เราไปเรือส่วนตัว โหหห สุดยอดจริงๆ เลย แต่ผมอดไปครับ ตัดสินใจไปทำงานยกของที่ร้านแทน
   ลูกหยุดเรียน เขาขอไปกับผมด้วย พาเขานั่งรถเมล์ไป แต่ยืนรออยู่นาน รถเมล์ไม่มาสักที เลยพาขึ้นแท๊กซี่แทน สอนให้เขาพูดบอกจุดหมายปลายทางกับแท๊กซี่ ถ้าขณะที่ลูกอยู่กับผม ทุกวินาทีคือการเรียนรู้ครับ สอนเขาทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ทุกอย่างที่เราพบ ชี่ให้เห็นถึงด้านดีและด้านเสียของเรื่องนั้นๆ สุดท้ายก็ให้เขาตัดสินใจเอง ว่าจะเลือกอย่างไร
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ ลูกนอนหลับบนรถ จะอุ้มลงเหมือนตอนเด็กๆ ก็ทำไม่ไหว เขาหนัก 35 กก แล้ว ตัวก็สูง 135 ซม ต้องปลุกให้ตืน เขามานอนต่อในบ้านแทน ส่วนผมหิวจัด ไม่มีอะไรจะกิน ขับรถมาก็ไม่ได้แวะจอดซื้อ กินขนมปังกรอบแครกเกอร์ที่ซื้อมาจากมาเก๊า และส้มสดผลเล็กๆ สิบกว่าผล อิ่มแบบกลัวอ้วนเหมือนกัน เพราะขนมปังนี่มันคาร์โบไฮเดรตล้วนๆ เลย นี่ถ้าเป็นช่วงจะออกทริปคงไม่เป็นไร แต่นี่เปล่าเลย
   
   เข้าเวปชาว Fixed Gear เริ่มงงกับการตอบกระทู้ เพราะเขา (หลายคนในเวป) ตอบว่ารถผิดไซส์ก็ขี่ได้ ปรับแฮนด์ ปรับ Stem เอาหน่อย แล้วแต่เราชอบ อีกคนมาตอบว่าเขาสูง 170 ยังใช้รถขนาด 54 ได้เลย โหหห ตอบได้โหดร้ายมากๆ
   คนถามเขาถามว่า ยืนคร่อมเฟรมแล้วชนเป้า คือเฟรมันใหญ่เกินไปไหม มันใหญ่เกินไปเห็นๆ แต่งงสุดยอดที่หลายคนพากันตอบว่าไม่เป็นไร ใช้ได้ อยู่ที่ใจเราชอบ งงว่ะ งงโครตเลยด้วย
   หันมาเข้าเวปจักรยานประจำ อ่านกระทู้เก่าที่ผมแสดงความเป็นเกี่ยวกับช่วงของรถ Dahon ที่ไม่เหมาะกับคนสูงต่ำกว่า 175 ซม มีหลายคนแสดงความเห็นเชิงไม่เห็นด้วย คนถามก็ละเอียดสุดยอดดีครับ วัดความยาวของช่วงรถจนถึงคอแฮนด์มาเปรียบเทียบกับรถแบบ Full Size ซึ่งมิติของมันอาจไม่ได้แตกต่างกันมาก หรือต่อให้มันเท่ากันพอดีเป๊ะ ผมก็บอกได้เลยครับว่ามันขี่ต่างกันคนละเรื่อง ต่อให้ตำแหน่งของมือจับ เบาะนั่ง และบันไดเท่ากันกับรถ Full Size เป๊ะๆ 100% ด้วยเอ้า มันก็ยังขี่แล้วไม่เหมือนกันครับ
   เหตุผลมีดังนี้ครับ ลองมองภาพรถด้านข้าง ให้นำรถสองคันมาซ้อนกันเลย จะยิ่งเห็นชัด แม้มือจะวางตำแหน่งเดียวกัน แต่มันก็จะทรงตัวไม่เหมือนกัน เพราะรถพับมันมีท่อคอที่ยื่นสูงปรี๊ดขึ้นมา ต่างจากรถ Full Size ที่ไม่มีท่อคอเลย นี่คือจุดต่างครับ ส่งผลให้รถใหญ่นิ่งกว่า รถพับมีท่อคอ และไอ้ท่อคอนี้มันจะสั่น สะบัด ตลอดเวลาที่ขี่ จะเห็นชัดสุดตอนลุยทางไม่เรียบ ขี่เจอรอยต่อถนนแล้วจะสะเทือนกันจนมือแทบหลุดจากแฮนด์ก็มี ส่วนรถใหญ่นั้นจะไม่มีปัญหานี้ เพราะผู้ขี่วางมือกดลงบนแฮนด์ ยิ่งกดมาก หน้ารถก็จะยิ่งนิ่งมาก (ถ้าเลือกรถถูกขนาด และเซ็ทติ้งถูกต้องนะ)
   มาต่อที่เรื่องตำแหน่งกระโหลก อันนี้สัมพันธ์กับเบาะนั่งโดยตรง รถพับแต่ละคันจะมีองศาท่อนั่งนี้ไม่เท่ากัน นี้เป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เคยพูดถึงกันเลย และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ช่วงของรถแตกต่างกันอย่างมากอีกด้วย
   รถที่ Seat Tube เอนไปด้านหลังมาก จะขี่สบาย อัตราเร่งจะด้อยกว่ารถที่องศาชันกว่า ที่ผมกำลังจะเล่าคือหากเราเลื่อนเบาะสูงขึ้นมาเท่าไหร่ ช่วงของรถก็จะยิ่งยาวมากขึ้นเท่านั้น รถที่ท่อนั่งชันพอเลื่อนเบาะขึ้น ช่วงจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ถ้ารถคันไหนท่อนั่งเอนไปด้านหลังมาก การเลื่อนเบาะแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ช่วงระยะเอื้อมไกลขึ้น แถมช่วงขาตำแหน่ง knee over pedal จะยิ่งเปลี่ยนไปได้ง่าย นี่เป็นอีกปัจจัยเสริมในเรื่องของเซ็ทติ้ง ที่ผมจะเน้นนักหนาว่าให้เลือกรถถูกขนาด บวกกับเซ็ทติ้งที่ถูกต้อง ต่อให้เป็นรถเกรดต่ำห่วยๆ มันก็ขี่ได้ดีไม่แพ้รถแพงๆ เลย
   กลับมาที่เรื่องรถพับต่อ การเลือกรถพับของผม ผมต้องการให้ผู้ขี่สามารถทิ้งน้ำหนักลงบนแฮนด์ได้ด้วย นี่กระมังอาจเป็นจุดที่ผมกับเพื่อนหลายคนมองต่างกัน บางคนแค่มือยืดไปจับแฮนด์ได้ก็บอกว่าขี่ได้แล้ว ยิ่งบางคนบอกว่าสูงไม่ถึง 160 ซม ขี่ Dahon Mu ได้สบาย อันนี้ยิ่งไปไกลคนละทางกับผมเลย รถ Mu นี่ช่วงมันยาวสุดๆ ในบรรดารถพับเลยนะ ถ้าเจอแบบนี้ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นให้ขัดใจกันเปล่าๆ ครับ มากันคนละแนว
   สูง 170 ขี่ Dahon ได้สบายครับจริงครับ ไม่เถียงสักนิด แต่ถ้าสูงถึง 175 คุณจะทิ้งน้ำหนักกดลงบนแฮนด์ได้ดีกว่า จะควบคุมรถได้ดีกว่า ทรงตัวดีกว่า ทำอัตราเร่งได้ดีกว่า และถ้าสูงถึง 180 นี่จะสุดยอดมากๆ นั่งปุ๊บ เลื่อนหลักอานยื่ดเกือบสุด วางมือแล้วตัวจะก้มนิดๆ ดูเหมือนตัวจะใหญ่กว่ารถนิดหน่อย นี่แหละ สุดยอดแล้ว
เหล่านี่ต่างหากคือประเด็นที่ผมต้องการจะบอก แต่ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในเวปจักรยาน ผมจึงไม่ได้ตอบเรื่องราวเหล่านี้ไป ปล่อยให้มันค้างๆ คาๆ ไว้อย่างนั้นแหละ เพราะผมเน้นประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงสุดครับ ไม่ใช่แค่ซื้อรถแพงๆ แล้วขี่ได้ไม่เต็มที่
   มีหลายคนที่ใช้รถใหญ่กว่าสรีระ แต่ด้วยความที่เขาคุ้นชิน หรือไม่เคยขี่รถที่เหมาะสม เขาจึงบอกว่าเขาสามารถใช้งานมันได้อย่างสบาย ไม่เห็นมีปัญหาเรื่องเอื้อมสักนิด เจอแบบนี้ยิ่งคุยยากครับ ปล่อยเขาไปดีกว่า โน้มน้าวไปก็ไม่เกิดประโยชน์ รถก็รถของเขา ตัวก็ของเขา แล้วเราจะไปยุ่งอะไรอีก เขาอาจต้องการใช้งานแค่นั้น แค่ถีบเล่นๆ ขำขำ ผมไปเกี่ยวอะไรด้วยเล่า
   วันนี้่ซัดเรื่องช่วงของรถ Dahon แบบเต็มเวอร์ชั่น เรียกว่าเปิดใจแต่ไม่ตอบในเวปจักรยานก็แล้วกัน ให้เฉพาะคนใกล้ชิดผมได้อ่านเท่านั้น 
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
31 ธค 53 วันสิ้นปี
   อากาศหนาวเย็นจากจีนไหลลงมาเติมอีกแล้ว รู้สึกดีใจแทนทุกๆ ท่านที่ไปเที่ยวเหนือรับลมหนาว ผมเองก็อยากจะไปกับเขาบ้างเหมือนกัน แต่ทำไม่ได้ ลำพังงานส่วนตัวผมสบายมาก แต่งานของทางบ้านนี่สิ เป็นงานแบบใช้แรงล้วนๆ ยิ่งเทศกาลก็จะยิ่งขายดี มีลูกค้าสั่งของมาก ก็ต้องรีบจัดส่งมากตามไปด้วย เจอลูกค้าดีๆ พูดจาไพเราะก็ต้องถือว่าเป็นโชคของเรา เพราะส่วนใหญ่จะไม่ใช่
   “ไอ้เหี้ย มาอะไรป่านนี้วะ เอาของมึงกลับไปเลย” พอไปส่งของตอนดึกๆ มักจะเจอแนวนี้ครับ ไม่รู้ว่าเขาเมาด้วยหรือเปล่า หรือว่าสบถจนติดปากเป็นนิสัย จะอย่างไรก็เถอะ เราเป็นคนงาน ตอบโต้อะไรเขาไม่ได้หรอกครับ ก้มหน้าก้มตาให้เขาด่าไปจนอิ่ม บางรายด่าไม่เลิกราตั้งแต่เริ่มมายันส่งของเสร็จ
   “จะไม่ส่งก็บอก กูจะได้สั่งร้านอื่น” บ้างก็มาแนวนี้ ส่งของดึกๆ ทำให้เขาไม่พอใจ แม้จะโดนบ่นด่ามาบ่อย แต่ยังไงๆ ก็ไม่ชินครับ และคงจะไม่มีทางชินไปได้
   วันนี้ผมขับรถส่งของ และยกของจนเจ็บหลังอย่างมาก นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผมเจ็บหลัง ครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ขับรถส่งของอยู่ราว 3 เดือน จนเจ็บหลังไปเกือบเดือนถึงจะหาย ครั้งที่สองเมื่อสามปีถัดมา ยกของหนักๆ อยู่ราว 1 เดือน ครั้งนี้ยกจนน้ำตาไหล ผมจำได้ดี ส่งผลให้ขี่จักรยานไกลๆ นานๆ แล้วจะเจ็บแปลบที่หลังอย่างมาก และมาครั้งล่าสุด คือวันนี้ ยกของอยู่แค่วันเดียว อาการออกเสียแล้ว ชักกระอักกระอ่วนใจว่าผมจะขี่จักรยานทางไกลได้อีกหรือไม่
   เสร็จงานเอาตอนสี่ทุ่ม ขึ้นรถกลับบ้านก็ไม่มีแรง ผมเปิดกระจกนอนในรถอยู่สัก 15 นาที เห็นจะได้ นอนจนรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ถึงขับรถกลับบ้าน
   ถึงบ้านก็อาบน้ำนอนทันที พรุ่งนี้ยังมีงานหนักรออยู่
   ผมน่าจะไปทริปเรือกับเพื่อนที่อยุธยาเน๊อะ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride