จำได้เด่ะ ยิ่งเคยสร้างบุญคุณไว้ให้ด้วยการช่วยลากรถแล้วยิ่งจำได้ไปใหญ่ ;D
เหตุการณ์นี้ ไอ้นัทจะเป็นคนที่จำได้ดีที่สุด เพราะ...
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้วพอสมควร หลังจากที่สนาม BRC ได้ทำการแข่งขันดริฟท์จบลง และผู้คน
บางส่วนเริ่มกลับกัน ผมก็หนึ่งในนั้นโดยมีที่หมายไปยังบ้านของ J-DOGG โดยในรถของผมมีไอ้นัทเป็น
ผู้โดยสารเพียงคนเดียว หลังจากขับออกมากลับรถและกำลังผ่านฝั่งตรงข้ามของห้างฯซีคอนสแควร์ ถึง
ตรงนี้ต้องเกริ่นก่อนว่า โดยปกติรถผมจะเป็นรถที่มีเสียงปั๊มติ๊กดังมาก เพราะภายในได้ทำการรื้อออก
หมด และระหว่างห้องโดยสารกับห้องเก็บสัมภาระด้านหลังซึ่งเป็นที่พำนักของปั๊มติ๊กนอกถังสองลูกนั้น
ไม่มีแผงกั้น ..ต่อ.. กำลังขับผ่านหน้าห้างฯซีคอนสแควร์ ผมก็รู้สึกได้ว่าเสียงของปั๊มติ๊กเงียบหายไป
จังหวะนึง และก็กลับมาดังใหม่ ตอนนั้นผมคิดไปว่าอาจจะหูฝาดไปเองเนื่องจากความอ่อนเพลีย เพราะ
สภาพอากาศในสนามตอนแข่งนั้นร้อนโคตาระตามประสาประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นเขตศูนย์สูตร ยังไม่
ทันจบความคิดดี จมูกก็เริ่มได้กลิ่นบางอย่างไหม้ ผมรีบเอ่ยถามนัททันที "เฮ้ย มึงได้กลิ่นไหม้รึป่าว
วะ ?" นัททำจมูกฟุดฟิดก่อนหันมาตอบ "เออว่ะ" แน่นอนว่าความคิดแรกของผมก็คือปั๊มติ๊ก ผมจึงรีบหัน
ไปด้านหลังเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ผมเห็นคือมีควันสีขาวลอยออกมาจากบริเวณปั๊มติ๊กลูกนึง ผมไม่
พูดอะไรต่อ ได้แต่หาทางเอารถเข้าข้างทางทันทีพร้อมบิดกุญแจดับเครื่อง และหันมาตะโกนบอกกับไอ้
นัทว่า "เฮ้ย ตัวใครตัวมัน~! ! ปั๊มติ๊กไหม้~! !" เมื่อสิ้นประโยค หากใครได้ขับรถผ่านไปแถวนั้นเมื่อวัน
และเวลาที่เกิดเหตุ จะเห็นชายหนุ่มสองคน เปิดประตูและกระโจนออกมาจากรถทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง
พร้อม ๆ กัน... เป็นที่มาของการโจษขานยามเมื่อเพื่อนของผมคนใด"จำ"ต้องโดยสารไปกับรถผมคันนี้
ว่ารถนี้เป็น "ระเบิดเคลื่อนที่" ไปโดยปริยาย สรุป เจ้าบิส ที่วันนั้นดั่งฟ้าลิขิตให้ขับรถกระบะมาแทนที่
จะเป็นเจ้าซีรี่ย์ 3 เครื่อง 2เจ คันเก่ง จึงต้องรับหน้าที่ลากพารถผมไปไว้อู่ ;D
...The End...