รถป่วยสู้ร้องนายกฯคดีถูกตื้บ
ม็อบรถป่วยเตรียมร้อง"แม้ว" หลังโดนกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายขณะนำเอารถป่วยไปจอดโชว์ภายในงานมอเตอร์โชว์ แฉนาทีเถื่อนเจอถอยรถยกพุ่งชนก่อน เมื่อหัวหน้าศูนย์มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคไปห้ามกลับโดนชก คนอื่นจะเข้าช่วยก็ถูกทำร้าย ทนายความจากสภาทนายความชี้ ตร.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเกิดเหตุทำร้ายกันขึ้นตรงหน้า จับได้ทันที
จากกรณีกลุ่มเจ้าของรถร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำรถที่ไม่มีคุณภาพ มีปัญหาในกรณีต่างๆ ไปจอดประท้วงที่งานมอเตอร์โชว์ ไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดซาฟารีเข้ามาข่มขู่ให้เคลื่อนย้ายรถ เมื่อไม่ทำตามจึงถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ภายในซอยงามวงศ์วาน 31 อ.เมือง นนทบุรี น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา เลขาธิการมูลนิธิ นายนคร ชมพูชาติ กรรมการคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนและคุ้มครองผู้บริโภค สภาทนายความ พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าว
นายชลเดช ผลภาษี เจ้าของรถตู้นิสสัน หนึ่งในผู้ถูกทำร้าย กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุขณะที่พวกตนกำลังรอเพื่อนๆ ที่ประสบปัญหาในการซื้อรถไม่ได้คุณภาพ ปรากฏว่าได้มีรถยกขับเข้ามาจอดเพื่อยกรถของพวกตน จึงได้บอกกับคนขับรถยกว่า ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับรถยนต์จะรับผิดชอบได้หรือไม่ คนขับรถจึงเดินออกไป ระหว่างนั้นมีชายกรรจ์ 6 คนเดินเข้ามา ซึ่งชายฉกรรจ์ 1 ใน 6 ได้ขึ้นไปนั่งบนรถยกที่เบาะที่นั่งคนขับ และถอยรถพุ่งเข้าใส่พวกตนที่ยืนอยู่ท้ายรถจนได้รับบาดเจ็บ นางพจศนา บุญทอง หัวหน้าศูนย์ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจึงวิ่งไปเคาะกระจกรถยกเพื่อบอกให้คนขับหยุดรถ แต่ชายคนดังกล่าวกลับใช้กำปั้นชกใส่นางพจศนาซึ่งเป็นผู้หญิง ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้เดินเข้าไปห้ามแต่กลับถูกชายฉกรรณ์ที่เหลือฉุดกระชากออกไปรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่คอจนต้องใส่เครื่องช่วย ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่มาเข้าชมงาน ซึ่งก็รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา แต่ก็ไม่สนใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ขนาดไปแจ้งความยังต้องรอถึง 2 ชั่วโมง
ด้านนางพจศนา กล่าวว่า ระหว่างที่ถูกกลุ่มชายฉกรรณ์รุมทำร้าย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งยศร.ต.อ.และส.ต.ท.ยืนดูเหตุการณ์ เมื่อเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือกลับเดินหนีออกไปหมด พวกเราก็อยู่ในที่แจ้งแต่กลับถูกทำร้ายแบบนี้ เรียกว่าผู้มีอิทธิพลหรือไม่ อยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนช่วยติดตามคดีให้ด้วย "สิ่งที่ไม่มั่นใจในเรื่องของความเป็นธรรม เพราะได้ยินจากปากตำรวจว่า พวกคุณเจรจาตกลงกันได้ไหม แล้วยังให้นั่งรอนานถึง 2 ชั่วโมงกว่าจะรับแจ้งความ" นางพจศนากล่าว และว่าพวกตนจะไปร้องเรียนต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับกรณีการทำร้ายร่างกายเจ้าของรถที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า มูลนิธิดำเนินการในภาคประชาชนในขอบเขตของกฎหมาย ต้องการให้มีการพูดคุยกันระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูจะรุนแรงไป การกระทำของบุคคลกลุ่มดังกล่าวถือว่าเป็นการท้าทายกฎหมาย เย้ยกฎหมาย อยากจะถามถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าจะปรับปรุงขบวนการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนได้อย่างไร เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เหมือนกับเหตุการที่มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งรุมทำร้ายพ่อค้า-แม่ค้าที่ตลาดโบ๊เบ๊ บ้านเมืองมันน่ากลัวถึงขนาดนี้เลยหรือ อยากจะทำร้ายอยากจะกระทืบทุบตีใครก็ทำได้ ทั้งๆที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่ด้วย แล้วอย่างนี้ความปลอดภัยมีได้อย่างไร
ด้านนายนครกล่าวว่า ถ้าจะพูดในแง่ของกฎหมายแล้วถือว่าตำรวจสามารถจะจับกุมได้ทันที เพราะว่ามันเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า แต่ตอนเกิดเหตุตำรวจกลับยืนดูเฉยๆ ถือว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และการกระทำของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวที่จะมายกรถยนต์ของผู้อื่นก็ถือว่าทำนอกเหนือกว่าตำรวจ ขนาดตำรวจจะยกรถยนต์ของประชาชนจะต้องดูว่าเจ้าของรถเขาอยู่หรือไม่ กีดขวางแบบไหนไม่ใช่นึกจะยกก็ยก
ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา นายจาตุรนต์ โกมลฆิศร์ รองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 26 เปิดเผยว่า ตลอดการจัดงาน 10 วัน ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-3 เม.ย. ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของจำนวนยอดจองรถภายในงานที่สูงถึงกว่า 14,000 คัน จากที่เดิมคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12,000 คัน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ เพราะมีปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเพราะค่ายรถต่างระดมจัดแคมเปญแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในเรื่องของเงินดาวน์ และอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องการซื้อรถยนต์ต่างเข้าใจ และยอมรับในส่วนนี้แล้ว ทำให้ไม่มีผลกระทบกับยอดจองภายในงาน อย่างไรก็ตาม หากรวมยอดจองรถยนต์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆแล้ว คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนภายในงานไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท
นายจาตุรนต์เปิดเผยต่อว่า สำหรับค่ายรถที่มียอดจองสูงสุดคือโตโยต้า ที่คาดว่าจะมีทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 4,000 คัน อันดับ 2 คือ ค่ายอีซูซุ คาดว่าจะอยู่ที่ 1,700 คัน และอันดับ 3 ได้แก่ ค่ายมาสด้าที่น่าจะทำยอดจองได้มากกว่า 1,600 คัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของมาสด้าที่สามารถทำยอดจองรถมากที่สุดติดอันดับ 3 ในงานมอเตอร์โชว์ ทั้งนี้ เป็นเพราะกระแสความแรงของมาสด้า ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะเปิดตัวไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รวมกับฟรีเงินดาวน์ หรือฟรีดอกเบี้ย 48 เดือน ด้วย
"ส่วนกรณีที่มีลูกค้ารวมตัวกันมาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมหน้างานมอเตอร์โชว์ แล้วแจ้งความว่าถูกรุมทำร้ายร่างกาย ยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับผู้จัดงานแต่อย่างใด เพราะไม่มีสาเหตุที่จะต้องไปทำแบบนั้น ไม่เกิดประโยชน์กับทางผู้จัดหรืองานแสดงแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ ทางผู้จัดงานมองว่าหากกระแสนี้ยังคงรุนแรงต่อเนื่องต่อไป การจัดงานครั้งต่อไปในปีหน้า อาจจัดให้มีสถานที่สำหรับให้ลูกค้าที่ต้องการมาร้องเรียนความเป็นธรรมและตัวแทนค่ายรถยนต์ รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
(สคบ.) ไว้สำหรับใช้เจรจาหาข้อตกลงกันเป็นกรณีไป โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่เป็นกลางมาร่วมแก้ไขปัญหา จะได้ไม่เกิดปัญหาไปรบกวนผู้มาชมงานทั่วไปด้วย" นายจาตุรนต์กล่าว
ข้อูลจาก นสพ.มติชน 04-04-48