ผมขอคิดดังๆ และทิ้งไว้ตรงนี้สักพัก หวังว่าคงมีคนสนใจบ้าง จะเอาไปคุยกันต่อวงนอก หรือจะก๊อปไปผมก็ไม่ว่าอะไร หรือจะมาช่วยแสดงไอเดียเพื่อพัฒนาประเทศก็จะยิ่งขอบคุณ
เสียแล้วก็เสียไป ยังไงก็ต้องสร้างกันใหม่ คิดกันแบบหักดิบ ไม่ได้แล้งน้ำใจหรือไม่ได้คิดถึงใจคนสูญเสีย แต่เพราะมัวแต่นั่งเศร้า คุณก็ต้องจมอยู่ในความเศร้าตลอดไป สู้กัดฟันเดินลุยกันไปเลยดีกว่า
ข้อดีของการเกิดเหตุครั้งนี้
- ล้างไพ่กันใหม่หมด ระบบมาเฟีย ระบบเจ้าถิ่น ไม่รู้จะมีอยู่ไหม อาจมีบ้างที่หวนกลับมาสร้างฐานอำนาจใหม่ โดยมากจะแฝงมากับธุรกิจผิดกฏหมาย ไม่ก็พวกค้ายา ช่วงล้างไพ่นี้หากเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดทั่วถึง หมั่นลงพื้นที่บ่อยๆ (ไม่ใช่ลงไปเก็บส่วยล่ะ) แบบนี้ผมว่าเราพัฒนาได้ไวครับ
- ระยะนี้ผมเรียกระยะฟักตัว ระวังอย่าให้พวกที่แจ้งเกิดยุคแรกๆ ทำตัวเป็นขาใหญ่ หรือเป็นเจ้าถิ่นเสียเอง เพราะคนที่เป็นเจ้าถิ่นตัวจริงควรจะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า
- (อันนี้เห็นดีด้วยกับไอเดียของผู้สื่อข่าว ITV) ถึงเวลาเหมาะพอดีที่จะจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวเสียที จะแบ่งโซน หรือแบ่งด้วยอะไรก็สุดแท้แต่ อย่าให้มีสิ่งสกปรกแฝงอยู่ก็แล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เน้นถึงศิลปวัฒนธรรมของความเป็นไทย จะเน้นศิลปะทางภาคใต้ก็ไม่เลว
- ขอสักที่ได้ไหมที่ไม่ต้องมีบาร์เบียร์ ทำไมถึงคิดกันว่าฝรั่งชอบบาร์เบียร์ เขาไม่ได้ชอบกันหรอก เอ็ง( คนคิดทำบาร์เบียร์) อยากขายบริการทางเพศเป็นออปชั่นมากกว่า ผมถือว่าบาร์เบียร์เป็นสถานที่ๆ ไม่เหมาะสมจะมาสร้างกันให้เอิกเกริก ถ้าเดินสายกลางก็อยากให้มีแค่เฉพาะเป็นเทศกาล คล้ายกันเบียร์การ์เด้นท์อะไรทำนองนี้ หากเป็นช่วงปกติขอเป็นร้านเหล้าสไตล์ผับที่จัดให้ดูดีมีสไตล์กันหน่อย เลิกเสียทีที่มีการยืนกอดจูบดูดล้วงกันริมถนน
- ที่เห็นฝรั่งเขาเข้าบาร์เบียร์กันเยอะก็เพราะเขาไม่มีที่อื่นไปเที่ยวนี่หว่า มีแต่ไอ้พวกร้านแบบนี้อยู่รายรอบโรงแรมที่พักเขา เปรียบเหมือนมีร้านเหล้ารายรอบมหาวิทยาลัยน่ะ พอๆ กันเลย เข้าใจความเป็นนักท่องเที่ยวไหม เขาไม่คุ้นถิ่นไง ก็เลยต้องเที่ยวใกล้ๆ ที่พักที่ตัวเองคุ้นเคย เพราะออกไปไกลก็ต้องระวังอันตรายอีก อยู่ใกล้ก็มีแต่บาร์เบียร์แบบนี้ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ เบียร์ก็เบียร์วะ เฮ้อออ
- เร่งหาเงินเข้าพื้นที่ อาจเริ่มโดยให้หน่วยงานราชการจัดสัมนาในพื้นที่ที่บอบช้ำ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต ระนอง กระบี่ ฯลฯ คือไหนๆ คุณก็ต้องเสียเงินอยู่แล้ว สู้เอาเงินไปจ่ายในพื้นที่เขาจะดีกว่า ส่วนทางบริษัททัวร์ก็ให้นโยบายเชิงขอร้องให้ลดราคาสำหรับหนักท่องเที่ยวซะ หากไม่ร่วมมือก็บีบด้วยมาตรการทางด้านภาษี รับรองแบบนี้เงินไหลมาอีกเพียบ
- หรืออีกวิธีที่หาเงินเข้าพื้นที่ได้ง่ายๆ ก็คือการจัดแข่งกีฬา จะเป็นนัดพิเศษ นัดกระชับมิตร หรืออะไรก็ตามแต่จะตั้งชื่อกันมา หาคนดังๆ มาลง แล้วจัดทัวร์ลงไปชม จะเป็นเทนนิส กอล์ฟ ฯลฯ
- สถานที่ๆ เคยถูกรุกล้ำจากนายทุน (อันนี้ไปดูแลให้ดี) ก็อย่าให้พวกมันกลับมาฮุบแผ่นดินไทยไปเป็นของส่วนตัวกันอีก เจ้าหน้าที่รัฐเอาใจใส่จริงจังกันหน่อย อย่าเห็นกับแค่เศษเงินของเดนมนุษย์ แน่จริงต้องดัดหลังมันกลับ ทำงานคนเดียวสู้ไม่ไหวก็หาสมัครพรรคพวกช่วย หรือว่าพวกมันจะกินกันเป็นทีมแบบนี้เห็นทีจะแย่ วิญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร
- เกาะบางเกาะที่สวยงาม เล็ก ไกล ไม่ควรให้มีสิ่งก่อสร้างถาวรเลยด้วยซ้ำไป ประกาศเป็นเขตอุทยานซะ ให้พักค้างแรมแค่กางเต้นท์ เก็บค่าเข้าเกาะคนละสัก 50 - 100 บาท เป็นค่าขนขยะออกไปทิ้ง (เก็บเข้าจังหวะนะ ไม่ได้เก็บเข้ากระเป๋ามาเฟีย)
- ประชาสัมพันธ์ภาพในเชิงสร้างสรรค์บ่อยๆ เช่นภาพนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ภาพเด็กวิ่งเล่นเริงร่า ภาพท้องทะเลสวยงาม (ภาพจริงนะ ไม่ใช่ภาพเมค)
- ผลักดันธุรกิจอาหารไทยให้โดดเด่น คนมาเที่ยวไทย เขาก็อยากสัมผัสความเป็นไทยครับ ไม่มีคนอเมริกันอยากกินแมคโดนัลเป็นอาหารกลางวันในไทยหรอก เว้นเสียแต่ว่าเขาหมดมุข คือเขาหาร้านอาหารถูกใจไม่ได้ กล่าวคือธุรกิจในบ้านเรายังต้องเปิดตามองให้กว้างกว่านี้ ทำร้านอาหารไทยให้มันน่าเข้า จัดบรรยากาศให้มันดูกันเอง ไม่ต้องสุดหรู แต่ต้องเน้นสะอาด เติมความเป็นไทยในทุกรายละเอียด จัดโปรโมชั่นอาหารไทย จัดขายอาหารเป็นเซ็ท (เพราะฝรั่งเขาสั่งไม่เป็น) ทำเมนูรูปภาพ พร้อมคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเพื่อช่วยเพิ่มความน่ากิน ที่สำคัญคือ ขายราคาคนไทย ทางโรงแรมก็ช่วยเสริมด้วยการทำแผนที่แนะนำร้านอาหารไทยที่โดดเด่นแจกนักท่องเที่ยวที่มาพัก ทำได้แบบนี้ รับรอง ฉลุย ไม่ใช่แค่ฟื้นนะ เผลอๆ รวยกันเลย (อ้อ หรือถ้ารวยแล้วมาบอกผมด้วย จะต่อยอดธุรกิจนี้ให้)
- มีซุ้มของ Tourist Police อยู่เป็นระยะๆ และมีเจ้าหน้าที่ประจำตลอดเวลา หากเป็นกลางคืนก็ขอเจ้าหน้าที่สองคนเป็นอย่างน้อย จุดนี้เป็นตัวเพิ่มความอุ่นใจให้นักท่องเที่ยวครับ คนไทยหรือต่างชาติเห็นก็รู้สึกว่าปลอดภัย ยิ่งชุมชนช่วงไหนคนเยอะนี้ ยิ่งต้องมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเดินด้วยนะครับ ใส่ชุดตำรวจเดินแล้วโจรมันจะทำชั่วให้ท่านเห็นหรือไง และวิธีการของตำรวจนอกเครื่องแบบนี้ก็คือแค่สอดส่อง สืบข่าว และแจ้งข่าวให้พรรคพวกจับกุมนะครับ ท่านไม่ต้องแสดงตัว เดี๋ยวไก่ตื่น
- ร้านขายของที่ละรึกของชาวบ้านพวกโมบายเปลือกหอย กำไรกระ ฯลฯ ผมว่ามันไม่สร้างสรรค์เท่าไหร่ว่ะ ก่อนมาเที่ยวก็หาข้อมูล หนังสือก็เตือนกันมาว่าอย่าเก็บของมาจากทะเล แต่พอขึ้นฝั่งพวกท่านเก็บมาขายกันเพียบเลย ตกลงคือไม่ให้พวกนักท่องเที่ยวเก็บ เพราะว่าจะสงวนไว้ให้ท่านพ่อค้าเหล่านี้เก็บแต่เพียงฝ่ายเดียวใช่หรือไม่ ทางแก้ทำได้โดยให้ออกเป็นกฏหมายซะ ให้เจ้าหน้าที่คุมเข้ม ห้ามค้าขาย ทำเหมือนหนังสัตว์ เขาสัตว์ งาช้าง ไม่อายคนไทยก็อายต่างชาติเขาสักหน่อยนะ
- ร้านขายของละเมิดลิขสิทธิ์ โหห อันนี้เพียบเลย รู้นะว่ามันคือสีสัน แต่มันผิดกฏหมายนี่หว่า จะให้ทำอย่างไรดีล่ะ เริ่มจาก CD ก๊อป ไปจนถึงข้าวของเครือ่งใช้ กระเป๋า LV Gucci Prada เสื้อผ้ายิ่งเพียบใหญ่ เข็มขัด นาฬิกา พวกนี้มีหมด สินค้าพวกนี้อยู่ได้เพราะมีมาเฟียคุมอยู่ครับ กำจัดจุดนี้ได้ ท่านก็ช่วยชาติไปแล้วหนึ่งสเตป ว่าแต่เจ้าหน้าที่จะกล้างัดข้อไหม หรือว่าจะยอมตามน้ำแล้วรับเศษเงินรายเดือนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์จะมีเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เลยนะครับ เพราะคนที่มาเที่ยวแต่ละคนล้วนแล้วแต่ระดับหัวแถว เอาแค่เขาไปพูดต่อเราก็เสียชื่อแย่แล้ว แต่กลับกันคือถ้าเขาเอาไปคุยต่อในแง่ดี อันนี้ไทยเราก็จะยิ่งดังเป็นทวีคูณ
- เรื่องนี้ต้องขอชื่นชมจากใจ เรื่องความมีน้ำใจต่อนักท่องเที่ยว นี่แหละครับ สุดยอดจุดเด่นของความเป็นไทยเลย บอกได้เลยนะครับว่าหากเกิดเหตุนี้ที่เมืองนอก คนเขาก็ไม่ออกมาดูแลเราขนาดนี้ จะมีก็เจ้าหน้าที่ของรัฐ อาสา ฯลฯ หาคลื่นน้ำใจแบบเต็มๆ อย่างไทยได้ยากครับ แต่ว่า เราจะมีน้ำใจกับเขายามสถานการณ์ปกติด้วยได้หรือไม่ ถ้าทำได้ล่ะก็ ประเทศไทยจะอยู่ในใจเขาไปอีกนานแสนนาน ไม่ใช่ว่าทำดีกันเฉพาะกิจ ส่วนยามปกติก็หลอกเขา ค่าบริการก็ฟันเขา อะไรทำนองนี้ ผมว่าไม่เวิร์คว่ะ คุณได้เงินมานิดหน่อยแล้วมันก็จบ แต่ความรู้สึกลบๆ มันติดใจเขาไปถาวร
แอนตี้อย่างสูงกับร่มชายหาด เก้าอี้ผ้าใบ พ่อค้าหาบเร่ และหมอนวด
- ไม่มีไม่ได้เลยหรอ บางแสนก็เละไปแล้วหาดหนึ่งนะ จำไม่ได้ ไม่ได้จำ หรือไม่คุ้นก็ลงไปดูอีกรอบ ไปวันไหนๆ มันก็เละและมั่ว หาดสวยๆ ใกล้ๆ กลับทำให้มันเละ คนท้องถิ่นเองจะมาอ้างว่าตัวเองจับจองมาก่อนก็ไม่ถูก ในเมื่อมีร่มของท่านแล้วหาดมันเละ เพราะมีท่านคนเดียวที่ไหนกันเล่า ท่านทำได้ ใครๆ ก็ต้องทำได้ กลายเป็นชายหาดมีแต่ร่มๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ
- หมอนวดก็อีกหนึ่ง พ่อค้าหาบเร่ก็ด้วย พวกนี้คือตัวกวนความเป็นส่วนตัวอย่างสูง ไม่ว่าคุณจะนอนพัก อ่านหนังสือ หรือทำอะไร ก็จะมีท่านเหล่านี้เดินเข้ามาเสนอขายของ ลำพังมีคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ บอกปัดไปก็จบ แต่โทษที แม่งมีทั้งวันครับ ตกลงไม่ได้ทำห่าอะไรกันเลย ลักษณะเช่นนี้ผมถือว่าเป็นการรบกวนนักท่องเที่ยว โทษทีที่ผมซีเรียส เพราะว่าหากเราไม่ซื้อ บางทีเขาก็นั่งพักใกล้ๆ กับเราตรงนั้นน่ะแหละ เราคนไทยด้วยกันยังรำคาญเลย แล้วนักท่องเที่ยวฝรั่งล่ะ เขาก็รำคาญแต่ไม่กล้าหือกับเจ้าถิ่นหรอก สุดท้ายก็ได้แต่ทนๆ ไปและเก็บเอาไปเม้าท์ลับหลัง
- จะค้าขายหรือจะนวด ก็จัดไว้เป็นหลักแหล่งครับ ทำได้ แต่ต้องมีขอบเขต ทางโรงแรมที่พักก็บรรจุรายละเอียดเรื่องนวดแผนไทย และจุดขายของว่างว่ามีอยู่จุดใดบ้าง อาหารแบบใด ราคาเท่าไร แบบนี้จะสวยกว่าเยอะ แถมนักท่องเที่ยวไม่ดูถูกท่านอีกด้วย
วันนี้คิดสดๆ ออกเพียงเท่านี้ ไว้มีความคิดใหม่ จะมาเพิ่มเป็นระยะครับ
แหม อยากเป็นที่ปรึกษาหน่วยงานใหญ่ๆ ที่มีอำนาจจัง :)
