8 มิย 56
ออกจากบ้าน 0600 รีบขับ รีบออกให้พ้นเขตเมืองโดยเร็ว จุดหมายคือสมาคมเรือใบ สัตหีบ วันนี้มีงานแข่งเรือที่จัดโดยกองเรือยุทธการ ชื่องานว่า ดงตาลคลาสสิค จัดแข่ง 2 วัน 2 รูปแบบ คือแบบอ้อมทุ่น และแบบทางไกล (อ้อมเกาะ)
วันนี้ขอยืมรถพ่อคันใหม่ไปครับ ตั้งแต่เอาไปเข้าศูนย์เช็ค 20,000 กม มา ผมก็ไม่ได้จับมันอีกเลย เป็นรถที่ขับไม่ถนัดที่สุดในบ้าน และเป็นรถแบบ FF คันเดียวในบ้านอีกด้วย
รถมันตอบสนองไม่เหมือน FR ครับ ยิ่งตอนเลี้ยวแล้วเร่งนี่รถมันดึงจนพวงมาลัยเป๋ ต่างจาก FR ที่มันจะไปแบบนุ่มๆ คิดบวกว่ามันก็ดีเหมือนกันครับ ถือเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ชีวิตเราต้องอย่างทำอะไรซ้ำซากจำเจ พื้นฐานของผมนี่ขับแต่ FR มาตลอดชีวิตเลยนะ เริ่มต้นตั้งแต่ตอนอายุ 14 เอารถพ่อไปหัดขับเอง พออายุ 16 ก็ขับได้คล่อง ตอนทำใบขับขี่อายุ 18 เลยไม่มีปัญหา ชีวิตนี้ผมทำใบขับขี่มา 2 ครั้ง อีกครั้งหนึ่งทำที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ข้อเขียนคะแนนเต็ม 100 ผมได้ 100 ภาคปฏิบัติเต็ม 100 ผมได้ 97 โดนหักไป 3 เพราะชวนครูฝึกคุย ฮ่าๆ (เล่าเรื่องอดีตอีกละ)
รถคันนี้ดีตรงที่น่าจะประหยัดน้ำมันกว่ารถของผมเยอะนะ ผมขับความเร็ว 110 ความเร็วรอบเครื่องประมาณ 2000 rpm เลย สุดยอดมาก วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันที่สุดจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่วัดรอบประมาณ 1800 rpm ครับ แต่ไม่ต้องเป๊ะขนาดนั้น ดูคร่าวๆ ว่าไม่น่าจะเกิน 2000 rpm
ค่าประมาณนะครับ รถแต่ละคันนั้นเครื่องยนต์ต่างกัน ขนาดตัวรถก็ยิ่งแตกต่าง ยังมีเรื่องของเกียร์ และเฟืองท้ายเข้ามาผสมอีก (เอ๊ะ จะมีใครค้านอีกไหมว่า บอกว่ารถ FF ไม่มีเฟืองท้าย)
ผมชอบคันนี้ตรงที่ดู DVD ได้ด้วยครับ ไอ้นี่จะช่วยได้มากตอนขากลับเย็นวันอาทิตย์ที่ผมจะรุ้สึกง่วง เพลีย เลยให้มิวเอา DVD เดี่ยว ของโน๊ท อุดม ติดไปด้วย เอาแบบฮาที่สุดเลยนะลูก
ขาไปนี่โอเคครับ ขับแล้วชอบมาก ผมชอบขับรถตอนเช้าๆ อยู่แล้ว นี่ถ้าเปิดประทุนได้นะ รับรองว่าขับแบบหัวฟูจนถึงสัตหีบชัวร์ เล่าแล้วคิดถึง MX-5 คันเก่าจัง
รีบออกจากบ้านแต่เช้า ยิ่งไปถึงเร็วยิ่งดี ผมจองเรือแข่งเอาไว้ให้มิว 1 ลำ ถ้าไปเลือกได้ก่อนก็โอเค จะได้จัดการผูกใบ ปรับตั้งเสา (ภาษาเรือเรียก Tuning) ขั้นตอนนี้หากทำอย่างละเอียด ใช้เวลาเป็นชั่วโมงครับ
ไม่น่าเชื่อว่าผมจะต้องขับรถเทียวไปมาสัตหีบบ่อยขนาดนี้ แต่ก็เพื่อฝึกฝนลูกในกีฬาเรือใบ เพราะผมเองก็เล่นวินเซิร์ฟเป็นตั้งแต่มัธยมเช่นกัน ไอ้ความสามารถเหล่านี้มันติดตัวเราไปจนวันตาย กีฬาเรือมันปลูกฝังให้ผมทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ เลยคุ้นชินกับการโดดเดี่ยว อยู่คนเดียวตามลำพัง ปัจจุบันเลยทำอะไร ไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด แล้วมันก็ชินกับความอิสระ
ใช้ทางยกระดับบางนา ขับไปได้หน่อยเดียว เจอท้ายแถวยาวมาก ผมบอกลูกว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุชัวร์ อีกแค่ 5 นาทีถัดมา รถก็เคลื่อนตัวมาถึงจุดเกิดเหตุ รถทางฝั่งตรงข้ามชัดกัน 5 คัน เกลื่อนกระจายครับ และยังมีร่องรอยอุบัติเหตุในฝั่งเดียวกับที่ผมขับนี้ด้วย เลยสันนิษฐานว่าคงจะเบรกกะทันหันเพื่อดู ก็เลยโดนสอยท้ายซะ
เศษไฟหน้า ไฟท้ายเกลื่อนกระจาย พบเห็นอุบัติเหตุบนท้องถนนทุกครั้ง มันคือการเตือนให้เราระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ความประมาทเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เราสูญเสียทรัพย์สิน เสียเวลานับชั่วโมงในการรอประกัน และเสียเวลาไปซ่อมรถ แถมรถที่ได้รับกลับมามักจะไม่เหมือนเดิม
ยอมช้าไปสักครึ่งนาทียังดีเสียกว่าครับ อยู่บนทางยกระดับนี่เห็นพวกรถตู้โดยสารขับแล้วเพลียใจ แม่งขับมุดร่อนไปมายังกะคนเมา มันจะขับเอาเร็วหรือเอามันกันแน่วะ ผมว่าคนอยู่บนรถน่าจะตบกบาลมันให้สักฉาด
วันนี้ทดลองขับเส้นทางใหม่ ใช้ทางยกระดับมาสักพักก็ลงแล้วมาเชื่อมกับเส้นมอเตอร์เวย์ ผมไม่เคยใช้ทางนี้มาก่อน พอลงปุ๊บก็เชื่อมมอเตอร์เวย์เลย บ๊ะ สะดวกดีมาก
พ้นโค้งมาก็เจอป้ายบอกระยะทางไปสุวรรณภูมิ อ้าว เฮ้ยยย กูมาผิดทิศหรือวะนี่ ผมจะไปสัตหีบ ก็ต้องดูป้ายทาง พัทยา ชลบุรี หรือระยอง แต่นี่มันเป็นทิศเข้ากรุงเทพฯนี่หว่า
สับสนๆ ๆ เอาไงดีวะ ไม่น่าเลยกู นี่คงต้องเสียเวลาอีกอย่างน้อย 30 นาทีแน่ๆ แถมต้องเสียเงินค่าผ่านทางแบบไม่เข้าท่าเล้ยยย
กำลังคิดๆ ๆ ก็เจอป้ายสวรรค์ บอกทางไปชลบุรีให้แยกออกขวา จะมีทางวนกลับรถให้ ส่วนถ้าไปสนามบินก็ตรงต่อไป อันนี้เข้ากรุงเทพฯแบบไม่มีเงื่อนไขแล้ว
เย้ๆ ๆ รอดๆ ๆ มิวเองก็ลุ้นตัวโก่งไม่แพ้ผม พอเข้าทางที่ถูกต้องได้ก็ลิงโลดเลย เปิด DVD เดี่ยวไมโครโฟนของอุดมอย่างสนุกสนาน
แวะจุดพักรถกินมื้อเช้า มิวเลือกฮอทดอกและนม 1 ขวดเล็กใน 7-11 ส่วนผมตาลาย ของกินแม่งเยอะจัด แต่เป็นของซ้ำๆ กัน เช่นข้าวแกง มีเยอะมาก สรุปเอาที่ร้านอาหารอิสลาม กินข้าวหมกไก่ครับ และลูกชิ้นปิ้งที่กัดเข้าไปคำแรกแล้วน้ำตาแทบไหล
รสชาติแม่งเหี้ยมากเลย มีแต่แป้งล้วนๆ น้ำจิ้มก็ส้นตีนจริงๆ ส่วนข้าวหมกไก่ก็ยังไม่คู่ควรกับการเสียเงิน
เจอของไม่อร่อยก็อิ่มแบบไม่ประทับใจ ขับรถต่อไปยังจุดหมายทันที เช้านี้ไปถึงยิ่งเร็วยิ่งดี
ช่วงเช้าถนนโล่งครับ ขับทำความเร็วได้ดี ผมขับไม่เกิน 120 ตามกฎหมายกำหนด มาถึงกองเรือยุทธการ อ สัตหีบ จ ชลบุรี ตอน 0830
มาถึงก็ไม่พบใครเลย เจอแต่พวกทหารเด็กๆ ที่มาทำความสะอาด อ้าว เฮ้ย กูมาคนแรกเลย เด็กในพื้นที่ยังไม่มีใครมาสักคน
มาก่อนก็ไม่รู้จะทำอะไรครับ แต่ปกติก็จะต้องมาเตรียมเรือ ทว่าเราไม่รู้ว่าวันนี้เราจะใช้เรือลำไหนน่ะสิ สุดท้ายก็คือต้องรอครูวัฒน์
สักพักมีเด็กๆ ทยอยกันมา กลายเป็นว่าชวนไปวิ่งเล่นในทะเล เด็กพื้นที่สอนมิวจับกั้ง เขาเอาปูเสฉวนมาวางบนปากรูที่กั้งอยู่ แล้วกั้งจะไต่โผล่ขึ้นมา จากนั้นก็จะเอาส้อมตักเจ้ากั้ง เป็นอันเสร็จพิธี
เฮ้ย ผมเองก็เพิ่งรู้ เพิ่งเคยเห็นรูกั้ง มองดูผ่านๆ ก็เหมือนพวกรูปูลมนี่นา นี่เป็นข้อดีอีกอย่างที่มิวมาเล่นกับเด็กพวกนี้ เพราะเด็กพื้นที่เหล่านี้ วัยใกล้เคียงกัน ผมเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกันไปอีกตลอดชีวิต
อีกหน่อยพอมิวโตขึ้น นึกอยากมาเล่นเรือลำใหญ่ขึ้นที่ต้องใช้ลูกเรือหลายคน เขาก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ กลุ่มนี้ได้อย่างไม่ยากเลย แถมได้ลูกเรือที่มีฝีมือระดับเทพด้วยซ้ำ
เหล่านี้มันจะเห็นผลกันตอนโตครับ ยิ่งตอนที่เขาวัยรุ่นนี่แหละ ใช่เลย การลงทุนไปตั้งแต่เด็ก ทั้งหลายทั้งปวงมันจะมาแสดงออกกันในช่วงนี้ ลูกใครจะเตลิด ลูกใครจะจำพ่อแม่ตัวเองไม่ได้ ฯลฯ ก็จะได้เห็นกัน
เด็กๆ เริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ เลยรีบไปสมัครลงทะเบียน ค่าสมัครงานดงตาลคลาสสิค 500 บาท ค่าเช่าเรือแข่ง 500 บาท แต่มิวมีชื่อติดอยู่ในกลุ่มของนักกีฬาทีมชาติชุด C ผมเลยไปสมัครแข่งซี่รี่ส์เก็บคะแนนของทางสมาคมเรือใบเขาด้วย
กลายเป็นว่า วันนี้มิวลง 2 รุ่นครับ เป็นการลงแข่งแบบไม่คาดหวังอะไรเลยสักนิด เพราะเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ได้มาซ้อมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ขาดซ้อมไปถึง 3 สัปดาห์ อย่าลืมว่าเด็กพื้นที่เขาซ้อมเรือกันทุกวันตอนเย็นหลังเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์อีกเต็มวัน !!!
เตรียมเรือ ผูกใบ ปรับแต่งเสร็จก็รอบรีฟ วันนี้ลงแข่งตอน 1230 เช่นเคยครับ การแข่งเรือเขาสื่อสารกันด้วยสัญญาณธง แต่งานนี้มีแต่เด็ก ชักธงไปเด็กก็ไม่รู้เรื่อง เลยต้องเขียนป้ายบอกเพิ่มด้วย วันนี้แข่ง 3 race แบบ back to back
รีบไปซื้อข้าวให้มิว สั่งกระเพราไข่ดาว สุดคลาสสิค สั่งแล้วนะว่าไม่ใส่พริก ไม่ใส่ชูรส แต่เปิดออกมาแล้วผงะ พริกเพียบเลย สรุปคือมิวกินได้แต่ข้าวกับไข่ดาว ปัดโธ่
มิวขอซื้อขาเขียว 1 ขวด และน้ำเปล่า 1 ขวดไปกินในเรือ บางคนติดของกินแบบ Snack Bar ไปด้วย บ้างก็กินเยลลี่เจเล่แบบซอง อยู่ในเรือนานราว 4-5 ชม ครับ ควรมีของกินไปเติมพลังด้วย จุดนี้แหละครับที่แตกต่างจากพวกจักรยาน เพราะจักรยานสามารถจอดแวะหาซื้อได้ แต่เรือใบทำไม่ได้ แถมหากทำเรือพลิกคว่ำ ก็จะอดกินทั้งหมด
ออกสตาร์ทตามกำหนดการ พอเด็กลงทะเลไป ผู้ใหญ่บนชายฝั่งก็ตั้งป้อมนั่งหามุมสงบ ยกกล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่ออกมาวางกันหลายคน นี่คงเป็นพวกมือโปรกระมัง พวกเขาซุ่มส่องดูลูกของตัวเอง
ผมเจอ เต๋า เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันตอนเดือนเมษายน เขามาเรียนเรือใบแบบเลเซอร์ และลูกเขามาเรียนเรือใบออฟติมิสต์ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเดียวกับมิว วันนี้เต๋ามาแข่งด้วย แถมเอาจักรยาน Dahon Mu P24 มาด้วย
ผมเอ่ยปากขอยืมรถเขาไว้ตั้งแต่เช้า ตอนนี่เลยมีโอกาสเอารถมาขี่เก็บภาพริมทะเลสัตหีบเล็กน้อย เป็นครั้งแรกที่ขี่รถแบบเกียร์ดุม และเกียร์ตีนผีในคันเดียวกัน รู้สึกแปลกๆ ดีครับ มือขวาชิฟตีนผี มือซ้ายชิฟเกียร์ดุม
เก็บภาพเสร็จก็กลับมานั่งร่วมวงสนทนาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรทำก็นั่งดูลูกแบบไกลๆ พูดคุยกันในประเด็นที่ฮอทฮิตคือ ปีหน้าจะไปสอบเข้า ม1 กันที่ไหนดี
พ่อแม่ส่วนใหญ่จะให้เรียนแนวเดิมแต่เป็นโรงเรียนใหม่ มีผมที่แหวกแนวมาสวนกุหลาบคนเดียว ตามที่ผมวางเป้าไว้ให้ลูกก็คือ เรียน ม1-ม3 ที่สวนกุหลาบ แล้ว ม4 ก็ไปสอบเข้าเตรียมทหาร เข้าไปแล้วก็เลือกเรียนเหล่าทหารอากาศ นี่แหละ เขาจะได้ขับเครื่องบินสมใจ
มันไม่ง่ายเลย มิวต้องฟันฝ่าต่อสู้ในการสอบอีกเยอะ แต่มันคือวิธีที่ประหยัดเงินที่สุด แลกกับการทำงานใช้ทุนกองทัพ 10 ปี หลังจากจบและติดยศนายเรืออากาศแล้ว
บินใช้ทุน ก็เท่ากับเราฝึกฝนฝีมือ สะสมชั่วโมงบินไปด้วยในตัวนะลูก ยังไงก็ดีกว่าไปเรียนเอกชนอยู่แล้ว
เข็มทิศชีวิตของมิวแน่วแน่ตั้งแต่ ป2 แต่ก็เผื่อใจไว้นะ หากเขาเปลี่ยนเข็มทิศ ผมก็ต้องช่วยหาข้อมูลให้เขาใหม่
เรื่องนี้สำคัญมากที่สุดเลยนะครับ หลายคนไม่รู้ว่าเป้าหมายของตัวเองในชีวิตคืออะไร บางคนทำงานมาเยอะ เปลียนงานมาหลายแห่ง ก็ยังไม่รู้ความต้องการของตัวเองอีกเช่นกัน
มองดูเรือใบแล่นในทะเลแล้วผมไม่รู้เรื่องครับ แต่พวกคนที่มีกล้องส่องเขารู้ว่ะว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ แข่งถึงรอบไหนแล้ว บ่ายแก่ๆ เห็นพวกเขาทยอยเก็บกล้อง ก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไม่ทันเอ่ยปากถาม
แข่งเสร็จแล้วครับ เด็กกำลังเข้าฝั่ง พูดจบก็เก็บกล้อง เก็บเก้าอี้พับขึ้นรถ เตรียมตัวรอรับลูก
โหห มืออาชีพสุดๆ แล้วพี่ ไว้ผมต้องจัดมาบ้าง ๆ ๆ
เรือเข้าฝั่งมาทีละลำ วิธีเก็บเรือแบบลวกๆ ก็คือฉีดน้ำล้าง ยกใบเรือไปเก็บเข้าที่บนราว และพลิกคว่ำเรือ จากนั้นช่วงเย็นมีงานปาร์ตี้ของเด็กๆ เลี้ยงของกินแบบง่ายๆ ข้าวผัด ไส้กรอกทอด ไก่จ้อ ข้าวเกรียบ ยำหมูยอ เครื่องดื่มคือน้ำอัดลม
มิวเห็นแล้วหัวเราะฮ่าๆ เพราะเขาไม่ค่อยได้กินของแบบนี้ไง ไม่ห้ามครับ จัดไปเลย ระยะหลังมานี้ผมเลี้ยงลูกแบบพลิกแพลง คือไม่ให้มันรู้แนวของเรา บ้างก็เข้มงวด บ้างก็ปล่อยสุดๆ แต่ก็จะบอกเหตุผลเสมอนะว่าอันไหนเป็นอย่างไร แล้วให้เขาเลือกเอาเอง
ผลก็คืออิ่มกันตั้งแต่ปาร์ตี้ ผมเองก็รอให้เด็กๆ เขากินกันก่อน พอเด็กๆ ไปวิ่งเล่นกัน ก็ถึงคิวของพวกผู้ใหญ่มาเก็บให้เรียบ
ช่วงเย็นแยกย้ายกันเข้าที่พัก ผมนอนที่ศูนย์สมุทรกีฬา ที่พักที่ผมชอบมากสุด แต่วันนี้ทำไมได้ห้องแบบเตียงเดี่ยว (ขนาดใหญ่) วะ ทุกทีเป็นเตียงคู่ต่างคนต่างนอนก็สบายดี
มิวชอบนอนดิ้นไง แถมผ้าห่มเป็นแบบผืนใหญ่ผืนเดียว กลางคืนมิวพลิกตัว ดึงผ้าห่ม ผมก็ตื่นแล้ว แต่ที่ร้ายสุดก็คือเตียงมันยุบครับ ที่นอนตรงกลางมันนุ่มจนเป็นแอ่ง เจอแบบนี้โคตรทนมานเลย
หลับแบบไม่สบายเอาเสียเลย