racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on November 05, 2013, 02:09:21 pm

Title: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22... 28 Motor Expo
Post by: O'Pern on November 05, 2013, 02:09:21 pm
1 พย 56
รัฐบาลเพื่อไทยเดรัจฉานผ่านกฎหมายล้างผิดทักษิณให้สะอาดหมดจดไปเรียบร้อยแล้วตอนเวลาตีสี่กว่าๆ
   เราทำอะไรเขาไม่ได้ เขามีอำนาจในมือ มีเงินซื้อเสียงให้ สส โวตผ่าน ต่อไปก็ต้องรอเรื่องกฎแห่งกรรมว่าจะมาเยือนทรราชกลุ่มนี้เมื่อไหร่
   ค่ำคืนแห่งวันฮาโลวีนของฝรั่ง มันเป็นการปลดปล่อยผีไทยได้อย่างแนบเนียน ไม่น่าเชื่อว่าพวกนักการเมืองที่แสนจะร่ำรวยก็ยังคอยเฝ้าแดกเศษเงินของคนตระกูลชิน
   อนาถใจว่ะพี่น้อง
   เช้านี้ผมเล่น Uke อีกแล้ว อากาศเย็นๆ สบายดีครับ แต่พอสายเท่านั้นแหละ เจอแดดแรงแบบแสบผิวกลับมาเยือน ยังไงก็ไม่คุ้นครับ
   กลางวันลองกินก๋วยเตี๋ยวใกล้ร้านขายของ เห็นมานานปีแล้วล่ะ แต่สภาพร้านโทรมๆ ไม่อยากลอง พอวันนี้ได้ฤกษ์ เล่นเอาผมตาสว่าง
   รสชาติเหี้ยจริงๆ ครับ เป็นอีกร้านที่กินแล้วรู้สึกเสียเวลา ยังดีที่ราคาไม่แพง จานละ 30 บาท สั่งบะหมี่ต้มยำ แต่ซดน้ำคำแรกก็ได้รสชาติเปรี่ยวจี๊ดของน้ำส้มสายชู ขาดความกลมกล่อม รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม มันแยกกันอยู่โดดๆ ซดแล้วอยากจะคายทิ้งทันที
   กลับมาบ้านติดตามข่าวทรราชเร่งผ่านกฎหมายนิรโทษทักษิณ ผมว่าในประเทศแทบจะไม่มีใครเห็นด้วยเลยนะ มีแต่ไอ้ทักษิณและพวกพ้องมันแค่นั้นเอง เฮ้ยย แบบนี้ยังไงก็ไปไม่รอดว่ะ ถึงมึงจะกลับมาไทยได้ มึงก็อยู่แบบไม่มีความสุข
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 07, 2013, 03:40:12 pm
2 พย 56
   เสาร์อีกแล้ว มิวเปลี่ยนที่เรียนพิเศษไปเรียนที่สยามเหมือนเดิม เขาชอบมาก เพราะได้นั่งรถไฟฟ้า บอกว่าไม่ชอบนั่ง ชอบยืนชมวิว
   ส่งให้เขาหัดเดินทางเอง จนทุกวันนี้น่าจะคล่องแคล่วแล้ว เขาเรียนจนถึงเย็น เลิกเรียนแล้วจะโทรมาบอก ผมส่งมิวแล้วก็ไปเฝ้าร้านขายของต่อเหมือนเดิม
   บ่ายไปทำธุระที่ธนาคาร เหลือเวลาราว 3 ชม กว่ามิวจะเลิกเรียน เลยเข้าไปคอนโดเพื่อทำความสะอาดห้อง เปิดแอร์ให้น้ำยาแอร์หมุนเวียน ล้างระเบียง ฯลฯ
   ห้องนี้ไม่ได้มาเหยียบเดือนกว่า ตั้งแต่ J เพื่อนสิงคโปร์กลับไป ก็ไม่ได้มาอีกเลย พอมาถึงห้องก็ต้องรีบเปิดหน้าต่างทุกบานเพื่อระบายอากาศ ตามด้วยยกถังน้ำมาราด กวาดล้างระเบียงห้อง ไอ้ห้องนี้มี 2 ระเบียงอีกด้วย ล้างอยู่พักหนึ่ง ยังไม่ได้เช็ดแห้งดีเลย มิวก็โทรมาหา บอกว่าเรียนเสร็จแล้ว
   เฮ้ยย ตกใจ ทำไมเลิกเร็วมาก เขาบอกรู้สึกเพลียๆ
   ไปรับที่จุดนัดพบ พอถึงบ้านก็หยิบไอแพดไปเล่นแบบลิงโลดมาก อ้าว เฮ้ย ไหนว่าเพลีย
   มิวเล่นเกม ผมเลยอาศัยเวลาว่างประกอบชุดคิทของ SBK – Shuttle Bike Kit เป็นชุดคิทที่ทำให้ขี่จักรยานในน้ำได้ สมัยก่อนประกอบแค่ 15 นาที มาวันนี้ใช้เวลาถึง 1 ชม เต็ม เสร็จแล้วก็เติมลมอัดเข้าทุ่นทั้ง 2 กะว่าพรุ่งนี้จะนำออกลุยแถวเกาะลิง ที่ไปดูลาดเลาไว้แล้ว
   ส่วนมิวเล่นไอแพดตั้งแต่บ่าย 3 จนถึง 3 ทุ่ม ซัดไป 6 ชม !!!
   วันนี้ม็อบสามเสนเริ่มจุดประกายแล้ว
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 07, 2013, 03:47:01 pm
3 พย 56
   เป็นอีกอาทิตย์ที่ผิดแผน เตรียมชุดคิทลงน้ำเอาไว้ แต่ทุ่นมันกลับแฟ่บ เฮ้ยย รั่วได้ไง เก็บไว้นานเกินหรอ เก็บไว้ไม่ดีพอหรอ
   งานเข้าสิ ชุดคิทนี้สั่งมาจากอิตาลีตั้งแต่ปี 11 ใช้ไปแค่หนเดียวแล้วก็เก็บ เพิ่งมาเอาติดตั้งอีกทีเมื่อวานนี้เอง
   นั่งหารูรั่ว กลายเป็นเจอว่ามีลมซึมออกที่โคนของวาล์วลม ไอ้จุดนี้มันคือจุดคลาสสิคของจักรยานเลย ถ้าเจอยางในเป็นแบบนี้ก็โยนทิ้งอย่างเดียว แต่กลับไอ้นี่ทำแบบนั้นไม่ได้ มันแพงมาก คงต้องหาวิธีอุดปะกันต่อไป
   เซ็งว่ะ ไว้ต้องส่งเมลล์ไปหา Alice เพื่อสอบถามวิธีแก้ไข ผมว่าน่าจะหาพวกกาวแบบ Epoxy มาทาได้นะ เพราะฐานของวาล์วลมมันเป็นพื้นแข็งๆ และเนื้อของทุ่นลมนี่มันหนาและเหนียวมากๆ วัสดุเดียวกับเรือยางเกรดดีๆ เลย
   อกหัก กลับมาเล่น Uke และล้างบ่อปลาแทน สายๆ ขี่จักรยานไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลอด แล้วก็มาขลุกอยู่บ้านตลอดวัน
ม็อบสวนลุมนำโดยจำลอง ศรีเมืองนำกลุ่มมวลชนมารวมกันที่อุรุพงษ์แล้ว
   เอาล่ะโว๊ยยย
   ไฟลามทุ่งแล้วครับ รัฐบาลบริหารงานแบบเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ก็ต้องเจอแรงต้านแบบนี้ ประชาธิปัตย์ก็เลยดูดีขึ้นมาในทันที ทั้งๆ ที่คนก็ไม่ค่อยจะชอบเท่าไรนักหรอก
   เย็นดูรายการ The Voice สลับกับถ่ายทอดปราศรัยจากม็อบต่างๆ นี่ถ้าว่างแบบสมัยหนุ่มๆ คงไปแจม ไม่ต้องคิดมากแล้ว
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 07, 2013, 03:48:47 pm
4 พย 56
   กิจกรรมยามเช้ากลายเป็นซ้อม Uke ไปเสียแล้ว เล่นอยู่ราว 30 นาที เพลินมากๆ วัยรุ่นเรียกฟิน (ผมว่ามันคงใช้คำทับศัพท์แบบผิดๆ แน่นอน)    
   วันนี้ต้องทำใจ เป็นวันเปิดเทอมวันแรก รถไม่ติดก็ถือว่าเกิดอาเพศ
   อยู่บนท้องถนนก็ทำได้แค่ฟังวิทยุ หาคลื่นที่ชอบ หรือ CD เพลงที่ถูกใจ สำคัญคือต้องคิดบวกอยู่เสมอ
   ตลอดวันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย บ้านเมืองก็มีแต่คนด่ารัฐบาลเรื่องจะนิรโทษยกเข่ง แปลกไหม ทักษิณมันบอกมันไม่ผิด แต่ยิ่งลักษณ์กลับออก พรบ ยกโทษล้างผิดให้ โคตรงงเลยว่ะพี่น้อง
กลางดึกมิวมาคุยกับผม บอกว่าผมนอนตะแคงแล้วขดตัวดูน่ารักดี มันลุกมาบอกแค่นี้แล้วก็นอนต่อ ผมก็งงสิ มาปล่อยมุขอะไรตอนดึก พอรุ่งเช้าผมถาม เขาบอกจำไม่ได้ อ้าว เฮ้ยย
   ตื่นเช้ามาเจออากาศเย็นมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นเองแหละนะ พอแดดมาความเย็นก็หาย แต่แดดกลับแรงมาก ยังดีที่มีลมเย็นพัดตลอดวัน    
   
   เย็นมีนัดพบคุยกับครูมิวอีกครั้ง คราวนี้ไม่ลืมแล้ว ไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย นั่งดูเด็กๆ อยู่ในห้องเรียน น่ารักดี ดูแล้วนึกถึงสมัยตัวเองตอนเป็นเด็กๆ
   แล้วครูก็รายงานแบบเดิมๆ ที่ผมฟังจนท่องได้ ครูทุกท่านพูดแบบนี้ทุกครั้ง ทุกเทอม ตั้งแต่ ป1 จนถึง ป6
   “มิวชอบคุยเล่น สนใจเรียนน้อย ตักเตือนก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วก็กลับมาคุยอีก”
   มิวคงจะเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ฟังครูรายงานซ้ำๆ ผมเองก็เบื่อเหมือนกัน โรงเรียนยุคใหม่เขาไม่มีการตีไง ถ้าเป็นแบบนี้สมัยผมเด็กๆ ก็จะต้องโดนตีกันแทบทุกวัน
   ผมว่าการศึกษาของไทยเราล้มเหลวเพราะเราตามฝรั่งมากเกินไป ลองดูการเรียนสมัยใหม่นี้สิครับ หลายอย่างมันปัญญาอ่อนมากเลย อันดับแรกเลยคือการแจก Tablet ไอ้นี่คือเครื่องมือสกัดกั้นความคิดและจิตนาการของเด็กอย่างดีเลย แถมแทนที่จะใช้เวลาไปกับการฝึกเขียน ฝึกคัดลายมือ กลายเป็นเอานิ้วจิ้มๆ แทน
   เฮ้ยย แบบนี้ลายมือเสียหมด แถมเขียนผิดๆ ถูกๆ อีกด้วย อย่าลืมนะความผิดแบบนี้มันจะติดตัวเด็กไปตลอดหากไม่ได้รับการแก้ไข
   ตามมาด้วยการอ่าน ยุคใหม่นี้ไม่เห็นท่องอาขยาน บทโคลง กาพย์ กลอน ฉันท์ ฯลฯ ไม่มีเลย กุศโลบายของการท่องอาขยานก็คือเด็กได้รู้จักการอ่านออกเสียง คำควบกล้ำ คำพ้อง คำคล้องจอง คือเรียนรู้ได้หลายอย่างในบทอาขยานสั้นๆ
   โทษระบบการศึกษาแล้ว ก็ต้องหันมามองตัวเองอีกครั้ง ผมโทษตัวเองด้วยครับ ไม่ว่าลูกจะแย่ขนาดไหน มันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของผมร่วมอยู่ด้วย
   Ipad เปลี่ยนชีวิตลูกได้จริงๆ หรือนี่ แล้วความฝันของลูกล่ะ ลูกบอกอยากเป็นนักบินไม่ใช่หรือ ล้มเลิกความฝันนั้นเสียแล้วหรือนี่ ไม่น่าเชื่อ

ม็อบสามเสนนำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ นำกลุ่มมวลชนมาสักการะวัดพระแก้ว นั่งพักกันที่สนามหลวง แต่แล้วจู่ๆ ก็เดินต่อมายังราชดำเนิน !!!
   เฮ้ยย แผนแม่งโคตรแยบยลเลย เพราะว่ายังคงทิ้งข้าวของต่างๆ ไว้ที่สามเสน เข้าตำราทุบหม้อข้าว เข้าตีเมืองจันทร กลยุทธสุดตีนมากๆ
   เพราะราชดำเนินมันคือสัญลักษณ์ของการต่อสู้ไงครับ อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นที่นี่ มันคือถนนแห่งประวัติศาสตร์
   คืนนี้เป็นคืนแห่งไฟ !!!
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 07, 2013, 03:52:16 pm
5 พย 56
   เมื่อคืนมิวมีอาการไอแห้งๆ คุ้ยหายาเก่าๆ ที่ยังกินไม่หมดเอามาให้กินอีกครั้ง เก็บไว้เป็นปีแล้วล่ะ หมดอายุหรือยังก็ไม่รู้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ตามด้วยวิตามิน C 1000 mg
   เช้านี้อากาศเย็นชัดเจน แปรงฟันยังรู้สึกว่าน้ำเย็นเจี๊ยบ และถ้าเราอยู่ กทม ยังรู้สึกแบบนี้ ลองคิดถึงความรู้สึกของคนทางเหนือดู
   เดินออกกำลังกายยามเช้าได้พักหนึ่ง ก็มาเล่น Uke ต่อ ช่วงนี้เล่นบ่อยมากๆ ฝีมือเริ่มพัฒนา เริ่มคิดหาเทคนิคใหม่ๆ มาเล่น เล่นไปเล่นมา ชักอยากได้เพิ่ม เฮ้ยย เอาอีกแล้ว ไอ้ตัวที่อยากได้มันเรียก Baritone เป็น Uke ตัวโต ขนาดใกล้กีตาร์ ให้เสียงทุ้ม แต่ก็แค่คิดล่ะนะ ผมไม่มีเงินไปทำอย่างนั้นหรอก
   มื้อเช้ากินอาหารไทยที่ยอดฮิตในญี่ปุ่น คือผัดกระเพราไก่ไข่ดาว แต่ของผมใช้น้ำมันมะกอกมาทอด มีบร็อคโคลี่และแครอทลวกอีก 1 จาน จะได้กินของดีๆ ก็มื้อเช้านี่แหละครับ ที่เหลืออยู่นอกบ้านก็ได้กินแบบตามมีตามเกิด
   ขับรถไปส่งมิว ตอนใกล้จะลงรถก็จับมือเขา แล้วบอกให้เขามุ่งมั่นกับการเรียนและมีสมาธิมากกว่านี้ เขารับปาก แล้วก็ลงจากรถไป
   ผมไม่รู้หรอกว่าเขารับปากแล้วจะทำจริงเหมือนที่ตัวเองพูดไหม เด็กๆ ก็คิดแต่เล่นเอาสนุกไปวันๆ
   ส่วนผมก็เข้าโหมดใช้ชีวิตเดิมๆ แบกยกของบ้าง เข็นของส่งแถวบ้านบ้าง เข้าโกดังยกของบ้าง ตราบใดที่อยู่แบบนี้ ผมเลี่ยงการยกของไม่ได้หรอก หลังที่เจ็บมันก็ดีขึ้นบ้างตอนหยุดยกของ แต่พอเจอยกเยอะๆ ก็เริ่มออกอาการ
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายก็ถือว่าเป็นการพักหลัง มาถึงก็หยิบ Uke เล่นก่อนเลย ไม่รู้เป็นไร ชอบจริงๆ ช่วงนี้เล่นมันบ่อยมากกว่าขี่จักรยานเสียอีก ชอบขนาดขี่จักรยานก็เอาพกไปด้วยเลยละกัน เว่อร์ขนาดไหน
   0630 ที่ราชดำเนินจะมีสุหฤท สยามวาลา ขึ้นเวที และ 0800 จะเป็นพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
   คนดังเริ่มเปิดเผยตัวกันแล้ว !!!
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 07, 2013, 03:55:52 pm
6 พย 56
   มิวไม่สบาย ไอ มีน้ำมูกนิดหน่อย เลยเข้านอนเร็ว อดฟังปราศรัยของมหาชนเลย ได้ข่าวว่าดาราชื่อแตงโมขึ้นเวทีด้วย เจ๋งดีว่ะ แมนมากๆ ส่วนโต้ สุหฤท พูดได้ดีมาก (โต้เป็นรุ่นน้องผม 1 ปี จากโรงเรียนอัสสัมชัญ)
   เช้านี้ขี่จักรยานหน่อยหนึ่ง กลับมาเล่น Uke อีกหน่อยหนึ่ง ปั่นโต้ลมเย็นตอนเช้ารู้สึกดีมาก ในใจนี่จิตนาการไปถึงต่างจังหวัดทางเหนือ
   สาย กลางวัน บ่าย เหมือนเดิมเป๊ะ คิดบวกเท่านั้นถึงจะอยู่รอดได้
   เย็นไปรับมิว แล้วเลยไปงานศพครูนิด ครูที่เคยสอนมิวตอน ป5  น่าตกใจมากนะ อายุไม่เท่าไหร่เอง อ้วนนิดๆ แต่เสียชีวิตเพราะเส้นเลือดอุดตันอย่างกระทันหัน วันนี้กลุ่มผู้ปกครอง ป6 เป็นเจ้าภาพ ที่วัดราชโอรส
   ระหว่างที่อยู่ในงาน เลยได้คุยกับผู้ปกครองหลายท่าน แต่ที่สนิทสุดก็เห็นจะเป็นกลุ่มเรือใบ เขาเล่าว่าอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปแข่งเรือที่สโมสรราชวรุณมา
   เฮ้ยยยย สโมสรนี้ผมชอบมาก อยู่บนเขาพระตำหนัก พัทยา (ใกล้คอนโดเก่าของผม) เข้าไปด้านในนะ คนละโลกเลย เหมือนโรงเรียนอินเตอร์ มีแต่พวกฝรั่งเต็มไปหมด แน่นอน ค่าใช้จ่ายก็แพงแบบสุดโลกเช่นกัน
   วิวที ทำเลเยี่ยม มีสระว่ายน้ำอยู่ริมหน้าผา ถ่ายรูปออกมารับรองไม่รู้ว่านี่คือมุมหนึ่งในพัทยา ฟังเขาเล่าแล้วอยากไปมากๆ ผมเคยไปที่นี่สมัยหนุ่มๆ (สมัยนั้นยังไม่ได้ขายคอนโดที่พัทยา)
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 07, 2013, 05:24:37 pm
7 พย 56
   เช้านี้ขี่จักรยานหน่อยหนึ่ง และกลับมาเล่น Uke ต่อ วางไม่ได้จริงๆ เลย เล่นแล้วติด
   กลางวันนายกแถลงข่าวยอมถอนเรื่องนิรโทษ โถ อีเวร กูนึกว่ามึงจะยุบสภา หรือลาออก
   ไฟมันจุดติดไปแล้วน่ะ เอ็งตั้งรับให้ดีก็แล้วกัน
   พล ต ต วิสุทธิ์ วานิชบุตร บอกจะเอาลูกน้องมาดูแลประชาชน ไอ้หัวหน้ามันที่เป็นลูกน้องทักษิณก็สวนกลับว่า “มึงจะมาชนกับกูหรอ”
   วันนี้ พล ต ต วิสุทธิ ลาออกจากตำรวจแล้ว จะมาดูแลประชาชนด้วยตนเอง !!! โหห แม่ง โคตรแมนเลยพีน้อง รบแบบนี้ แตกหักแน่นอน ไม่ใช่แค่ล้ม พรบ นิรโทษ ไม่ใช่แค่ไล่รัฐบาล แต่มันคือการถอนรากตระกูลชินและลิ่วล้อ
   ข่าวเหี้ยๆ มาอีกแล้ว คนดังคนไหนขึ้นเวทีปราศรัย จะโดนตรวจสอบภาษีย้อนหลังโดยกรมสรรพากร ลิ่วล้อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงๆ
   มหาชนยังคงจัดมหกรรมเป่านกหวีดไปทั่วเมือง กลางวันแถวอโศก พอบ่ายเป็นราชประสงค์ เย็นมาสีลมอีกครั้ง คนยิ่งหนาแน่นขึ้นทุกวันๆ
   รัฐบาลอยู่ยากแล้วล่ะ แต่.. ยังมีเฉลิมคอยซุ่มวางแผนอยู่ที่โรงพยาบาล ไอ้นี่ก็สุนัขรับใช้ตัวจริงที่ยังมีลมหายใจอยู่
Title: Re: พย 56
Post by: O'Pern on November 08, 2013, 05:07:40 pm
8 พย 56
   บนเวทีราชดำเนิน (เวทีประชาชนนะ ไม่ใช่เวทีมวย) เมื่อคืนมี ดร เสรี วงศ์มณฑา และครูลิลลี่ มิวติดตามฟังคุณครูลิลลี่ เพราะเป็นครูของเขา ดีที่สองท่านนี้ไม่ได้มีคำหยาบคาย นี่ถ้าเจอเวทีเสื้อแดงรับรอง ฟังไม่ได้ครับ หยาบแบบบรรยายไม่ถูก ฟังแล้วรู้สึกอายตัวเอง
   เออ เมื่อคืนฝนตกตลอดตั้งแต่หัวค่ำ ชาวราชดำเนินเขาก็ปราศรัยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมดูทางทีวีลุ้นให้ทุกท่านอย่าจับไมค์ กลัวไฟดูดครับ
   ฝนตกลากยาวมาถึงเช้า ผมเช็คพยากรณ์อากาศดูก็ตกใจ เพราะจะมีฝนสลับกับครึ้มๆ ไปจนถึงต้นอาทิตย์หน้า ผมจะไปงาน a day bike fest ในวันอาทิตย์นี้ ยังไม่รู้ว่าจะขับรถไปดี หรือขี่จักรยานดี ขาไปไม่เท่าไหร่ เป็นห่วงขากลับ กลัวฝนนี่แหละ บ้านไกลอีกด้วย
   มหกรรมไม่เอา พรบ นิรโทษ ลามกลายเป็นขับไล่รัฐบาล และตระกูลชินวัตร หลายกลุ่ม หลายหน่วยงานออกมาค้านกันหมด กลุ่มนักธุรกิจก็เป่านกหวีดกันกลางเมืองทุกวันๆ กลายเป็นเหมือน Event Marketing นี่ถ้าใครจับตลาดไว ผมว่าทำเงินได้เยอะจากการขายของที่ระลึก ก็เพราะพวกงานแบบนี้มันไม่ได้มีกันง่ายๆ นะ แบบอยากบอกให้โลกรู้ว่ากูคือคนเดือนพฤศจิกา แบบอยากมีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์กับเขาบ้าง อีก 40 ปีต่อมา จะได้เล่าอย่างภาคภูมิใจว่าข้าก็เป็นหนึ่งในกลุ่มชนที่ขับไล่พวกชิน
   ช่วงนี้ในหน้าเฟซบุ๊คข่าวสารขึ้นเป็นพรืด มีทั้งข่าวจริงและข่าวลวง เลือกบริโภคให้ดีครับ อย่างวันนี้มีข่าวบอกว่าตอนบ่ายตำรวจจะสลายม็อบที่มัฑวาฬ ให้มาช่วยด่วน
   อ่านแล้วตกใจ แต่ผมว่ายังไม่น่าจะใช่ ถ้าผู้ชุมนุมไม่บุกรั้วเข้าไป เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายประชาชนนอกกำแพงกั้น
   เกมกลยุทธตอนนี้เหมือนการรบเสมือนจริงเลยครับ ชิงไหวชิงพริบ มีบ้านเมืองของตัวเองเป็นเดิมพัน ฟังแล้วละเหี่ยใจจริงๆ สงสารบ้านเมือง สงสารในหลวง และสงสารคนรุ่นลูกหลานที่พอเขาโตแล้วมาย้อนอ่านประวัติศาสตร์จนพบว่าชาติไทยเราล่มสลายเพราะคนไทยด้วยกันเอง
   น่าอนาถใจว่ะ
   ข่าวเด่นวันนี้ จตุพร ณัฐวุฒิ ที่ตอนแรกโมโหรัฐบาลอย่างมาก แต่ตอนนี้พลิกลิ้นหลังรับเงินแล้ว บอกว่าจะพาคนเสื้อแดงมาชนกับคนเป่านกหวีดที่ราชดำเนิน
   โอ้. ไม่น่าเชื่อในอำนาจเงิน
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 14, 2013, 04:13:11 pm
9 พย 56
   สถานการณ์การเมืองต้องเกาะติดแบบห้ามละสายตา ฝ่ายทักษิณปกป้องผลประโยชน์ตัวเองอย่างสุดฤทธิ์ ในขณะที่ฝ่ายประชาชนตอนนี้มีประชาธิปัตย์เป็นแกนนำก็ประกาศต่อสู้แบบไร้อาวุธ ถ้าสู้กันแค่นี้ก็พอไหว แต่นี่มีลูกน้องพาคนใส่เสื้อแดงมาเป็นม็อบชนม็อบ แล้วก็รู้ๆ อยู่ว่าไอ้เสื้อแดงพวกนี้แม่งถ่อย ต่างจากม็อบนกหวีดที่เป็นประชาชนคนมีการศึกษา คนทำงาน นักร้อง ดารา ฯลฯ
   ยังไม่พอ มันยังขนเอาคนชุดดำมาซุกไว้ที่ธรรมกายอีกล็อตใหญ่ 400 คน ตอนกลางวันปลอมเป็นพระ ตอนกลางคืนใส่ชุดดำ โห พี่คิดเหี้ยๆ แบบนี้ได้ไงวะนี่ จุดนี้ผมยกให้แม่งเลยนะว่าคิดได้เหี้ยจริงๆ
   ฉะนั้น หากงานนี้เห็นพระโดนรุมกระทืบ โดนยิง ก็อย่าไปคิดว่ามันเป็นพระ จะได้ไม่รู้สึกบาป ตรงกันข้าง กลับได้บุญเสียอีกนะนี่
   เสาร์สนุก เสาร์สโมสร ตอนเด็กๆ วันเสาร์ผมอยู่บ้านรอดูรายการเหล่านี้ ยุคนั้นไม่มีอะไรให้เล่นสนุกสนานมากนัก มีแต่เพื่อนแถวบ้าน เล่นดิน เล่นทราย อย่างหรูสุดก็เครื่องเล่นเด็กตามสวนสาธารณะที่มีอยู่น้อยนิด
   เด็กยุคใหม่อย่างมิวเกิดมาในยุคคอมพิวเตอร์ เล่นมือถือ เล่นไอแพด เป็นเรื่องปกติของเขา แต่มันเป็นของเล่นที่กีดขวางพัฒนาการทางร่างกายของเด็กนี่สิ เล่นมาก ก็นั่งอยู่กับที่ ก่อให้เกิดโรคอ้วน ขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เครียด สมาธิสั้น เอาแต่ใจ รอคอยไม่เป็น ฯลฯ โอ้ อีกเพียบ โรคที่เกิดจากเกมเหล่านี้น่ะ
   ผมก็ต้องยอมรับมันครับ โลกทุกวันนี้มันเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว หากเลี่ยงไม่ได้ ผมก็ต้องอยู่ร่วมกับมันอย่างมีความสุข
ม็อบคางคกและขี้ข้าพาลูกจ้างที่รับเงินแล้วให้ใส่เสื้อแดงมาชุมชมกันที่เมืองทองธานีในวันพรุ่งนี้ หวังว่าชุมนุมเสร็จแล้วจะเดินทางมาร่วมกับคนราชดำเนินต่อนะ และถ้าเป็นเช่นนี้จริง รับประกันความฮา
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 15, 2013, 04:56:26 pm
10 พย 56 a day bike fest
   วางแผนอย่างดี จะไปขี่จักรยานที่สวนเบญจกิตติตอนเช้า พอสายๆ ก็หาของกินละแวกใกล้เคียง แล้วก็ไปงาน a day bike fest ที่สถานีรถไฟฟ้ามักกะสันต่อ อยู่จนบ่ายๆ ก็กลับบ้าน
   พ่อแม่ไปบ้านที่มวกเหล็ก เอารถคันใหม่ไป เหลือ Isuzu Trooper คันใหญ่เอาไว้ ผมชอบคันนี้มาก เพราะใส่ MTB ได้ 3 คันโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนใดๆ เลย
   เช้ามาก็จัดแจงเตรียมจักรยานขึ้นรถ จัดระเบียบด้านท้ายรถอย่างดี เตรียมจะออกจากบ้านอยู่แล้ว สตาร์ทเครื่องได้ยินเสียงแปลกๆ คล้ายอะไรหลุดหลวม เลยเปิดฝากระโปรงดู 
   เฮ้ยย !!! มีน้ำมันหยดจากท่อลงไปที่เฮดเดอร์ !!! แม่งพอดีเป๊ะเลยน่ะ คงจะหยดมานานพอดู เพราะเห็นคราบด่างเต็มไปหมด
   รถคันนี้พ่อใช้ประจำ ผมไม่ได้ขับมาหลายเดือนแล้ว ล่าสุดก็คือการขับเอาไปซ่อมระบบแก๊สเมื่อหลายเดือนก่อน
   จากเดิมจะไปขี่จักรยานเล่น ก็กลายเป็นต้องเอาข้าวของลงจากรถทั้งหมด นี่เตรียมพก Uke ไปด้วยนะครับนี่ เลื่อนรถมาจอดกลางแจ้ง จะได้เห็นชัดๆ หยิบเอาถุงมือมาสวม หิ้วกระเป๋าเครื่องมือชุดเล็กที่เตรียมไว้สมัยเล่นรถดริฟท์มาใช้
   น้ำมันน่าจะหยดมานานพอควร เห็นคราบเป็นดวงๆ เต็มฝาครอบเฮดเดอร์ รถรุ่นใหม่มีฝาครอบแล้วนะ ถ้าเป็นรถยุคเก่าจะไม่มี หรือถ้าเป็นรถแต่งซิ่งก็จะถอดไอ้แผ่นนี้ออกกันหมด นึกไม่ออกจริงๆ ถ้าไม่มีแผ่นนี้กันไว้ ไฟคงไหม้ไปนานแล้ว รถใครถอดออกก็พิจารณาดูกันเอาเองครับ
   จุดนี้มีท่อน้ำมัน 2 ท่อ เป็นท่อเข้าและท่อออก ส่งเข้ารางหัวฉีด ที่มีตัว Pressure Regulator ควบคุมแรงดันไว้ แล้วก็มีท่อส่งกลับถัง มักจะเดินคู่กัน
   จุดที่น้ำมันรั่วเกิดจากเข็มขัดรัดสายหลวมครับ ถอดคลายเกลียวออกมา ตรวจสอบสภาพ ไม่พบรอยฉีกขาดอะไร ก็เลยใส่กลับเข้าไป แต่ดันสายให้ลึกขึ้น และเลื่อนตัวเข็มขัดรัดสายให้ไปรัดที่จุดใหม่แทน
   มือเลอะแล้ว ก็ตรวจสอบสภาพโดยรวมไปด้วยเลย จับๆ โยกๆ ที่ขั่ว ข้อต่อของสายน้ำมัน สายไฟ และท่อลม แล้วก็พบท่อลมแตกจุดหนึ่ง แต่ผมไม่มีอะไหล่ ก็เลยใช้เทปพันสายไฟพันทับเอาไว้แล้วสวม พบว่าแน่นหนาดีกว่าเดิม เสียงเครื่องตอนเดินเบาเงียบลง
   เช็คท่อน้ำ เติมน้ำในถังพัก ฯลฯ สุดท้ายกว่าจะเสร็จก็สาย แปดโมงกว่า แดดแรงแล้ว หมดอารมณ์ขี่จักรยาน เดินเล่น ดูปลา สักพักก็ออกไปงาน a day bike fest ไปมันก่อนเวลาทั้งๆ ที่เขาเปิดตอน 1000
   ในที่สุดก็ต้องขับรถไป เอารถ Nissan 180SX ไปครับ ใช้ทางด่วน ขับเรื่อยๆ แค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว กะว่าต้องนั่งรอนานแน่ๆ แต่ก็โอเค
   ลงจากรถลองเดินเข้าไปดูในงาน เพราะเห็นคนเดินเข้าออกกันบ้างแล้ว แต่คงเป็นเจ้าของบูธ กะว่าหากเขาไม่ให้เขา ก็จะนั่งรอหน้างาน
   แต่กลายเป็นว่า แม้งานจะยังไม่เปิด แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นคนมาก่อนเลย แจ๋วว่ะ ตอนนี้ 0900 แต่ก็มีคนทยอยมากันบ้างแล้ว ร้านที่คนแน่นสุดก็คือร้านพี่อู๊ดเครา ขายของจุกจิก น่ากลัวโดนขโมยเสียจริง
   เดินได้แป๊บเดียวก็รู้สึกไม่ตื่นเต้น ไม่ตื่นตาอะไรเลยสักนิด เห็นของอะไรแปลกใหม่ก็รู้สึกเฉยๆ รถเทพ เฟรมมหัศจรรย์ อุปกรณ์ไฮเทค ฯลฯ จะอะไรก็แล้วแต่ ผมเห็นแล้วเฉยๆ ทั้งสิ้น
   เอ๊ะ หรือเราจะหมดไฟไปแล้ววะนี่
   เดินไปเรื่อยๆ ก็ถามตัวเองไป คำตอบที่ได้ก็คือ วัยที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้ความคิดของเราเปลี่ยนตาม
   ช่วงนี้เลี้ยงลูกแล้วบางทีลูกดื้อ เราก็หมดแรง หมดกำลังใจ สมัยก่อนเล่นนิทานก่อนนอนจนลูกหลับ มาวันนี้ เป็นวันที่ลูกไม่ต้องการนิทานก่อนนอนอีกต่อไปแล้ว เขามีเพื่อนใหม่ชื่อไอแพดแล้ว
   หนังสือนิทานยังคงวางกองอยู่ตรงนั้น ยังคงคั่นหน้าอยู่แบบนั้น พร้อมรอที่จะหยิบมาพลิกอ่านอีกครั้ง
   นึกแล้วเศร้าว่ะ วันเวลาแบบนั้นคงไม่หวนมาอีกต่อไปแล้ว
   
   งานใหญ่กว่าปีที่แล้วเป็นเท่าตัว ไฮไลท์ของผมคือการคุยกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ เริ่มจาก Vincita / Granny Bike / Tiny Wheel ร้านอื่นไม่รู้จักแล้วล่ะ วงการจักรยานบูมเร็วมาก ผมไม่ค่อยได้ขี่รถเข้ากลุ่ม เลยไม่ค่อยรู้จักใครมากนัก เดินผ่านๆ แต่ละร้านก็แค่เพื่อดูอัปเดทข้อมูลใส่หัวตัวเอง
   คือเราไม่คิดจะหาซื้อรถเพิ่มอยู่แล้วไง ดูไปก็เท่านั้น ยกเว้นแต่จะมีรถแบบพิเศษ แปลกๆ เช่นค่าย Granny Bike นี่ผมชอบมาก มีของแปลกเยอะ แต่เขากลับพรีเซนต์สินค้ายังไม่ดีเท่าที่ควร แล้วต่อมเสือกก็ทำงาน
   คุยกับเจ้าของอยู่สักพักใหญ่ เดินวนเวียนรอบบูท รอบงาน แล้วก็วกกลับมาหาเขาอีกครั้งพร้อมกับคำแนะนำให้เขา ทั้งเรื่องบูธ เรื่องตัวสินค้า เรื่องการพรีเซนต์ จัดวาง ฯลฯ
   เจอ “พี่วี” Venono คุยกันในเวปหลายปี เพิ่งได้เจอกันวันนี้ พี่วีอยู่ในกลุ่มของ TCC คนละกลุ่มกับ TCHA ที่ปรับใหม่เป็นสมาคมแล้ว ตอนนี้มีกลุ่มก้อนจักรยานเกิดขึ้นเยอะมาก แต่ละคนก็อยากควบคุมมวลชนของตัวเองได้ เหมือนกับว่าเราจะมีกำลังสนับสนุนเป็นของเราเอง จะจัดกิจกรรมอะไร ก็สามารถเรียกระดมพลได้อย่างรวดเร็ว
   โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายผู้ผลิต ก็จะมีการจัดตั้งกลุ่มย่อยๆ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ แต่ถ้าจะให้ตรงกลุ่ม กระชับ บางค่ายก็เลยจับกลุ่มเฉพาะลูกค้าตัวเองล้วนๆ
   กลุ่มแบบมือสมัครเล่น จัดตั้งกันเองก็เยอะ พวกนี้ลุยกันเอง ออกเงินกันเอง สนุกกันเอง ถ้าไม่คิดอะไรมาก็โอเค ได้ความเท่ ความมันส์ สะดวก รวดเร็ว แต่ถ้ากิจกรรมอ่อนเมื่อไหร่ กลุ่มจะแตกทันที
   งานของ a day นี่ผมถือว่าเป็นงานจักรยานที่โอเคที่สุดแล้วนะ นี่เป็นครั้งที่ 2 พัฒนาจากครั้งแรกเยอะมาก ร้านอาหารมากันแบบกินอิ่มดี แพงนิดหน่อยไม่ว่ากัน แต่ละคนก็มีค่าใช้จ่ายแฝง ขอให้อร่อยก็แล้วกัน
   ผมกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยไป ชามละ 75 บาท ยังดีที่ใส่ชามกระดาษอัด ไม่ใส่ถ้วยโฟมที่กินแล้วอายุสั้น รสชาติกลางๆ นะ ไม่ได้อร่อยเลิศเลย ไอ้นี่ก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันแพงเกินไป
   ซื้อหนังสือ a day มา 1 เล่ม และซื้อผ้าคลุมหน้ามา 1 ผืน เดินด้านบนชั้น 2 ของงาน จัดโชว์รถเก่า และขายของกระจุกกระจิก ผมว่าโซนนี้เงียบไปหน่อย บางคนไม่รู้ว่ามีด้วยซ้ำไป
   เติมพลังแล้วก็เดินในงานต่อ ไม่น่าเชื่อ ผมเถลไถลอยู่ในงานตั้งแต่ 0900-0300 ไม่ได้หย่อนก้นลงนั่งพักเลย ยกเว้นตอนกินก๋วยเตี๋ยว พอขึ้นรถได้นี่นั่งแบบสบายตัวมาก ขับรถเคลื่อนตัวออกมา พยายามจะขึ้นทางด่วน แต่แล้วก็ออกมาเหมือนเดิม คือเส้นทางมันบังคับให้เราต้องไปออกด้านข้างทางด่วน ขึ้นทางด่วนไม่ได้ เซ็งจริงๆ
   ต้องไปวนถนนจตุรทิศ วกเข้ามักกะสัน กลายเป็นขับรถวนรอบตึก Airport Link นี่แหละ มาขึ้นทางด่วนตรงถนนเพชรบุรี อันเดียวกับที่ลงมาตอนเช้า
   กลับมาบ้านก็เปิดข่าวดูความเคลื่อนไหวการเมือง เย็นดู the voice

ม็อบคางคกรับเงินแล้วชิ่งตามคาด เกณฑ์คนมาฟังตัวเองพูดแล้วก็พาเขากลับไปส่งบ้าน เออ แปลกดี กูโคตรงงกับวิธีคิดของมึงจริงๆ
   อย่าเพิ่งเอียน ช่วงนี้มีแต่ข่าวการเมือง ผมต้องเล่าลงในบันทึกเอาไว้ให้ลูกอ่านย้อนหลัง เมื่อเขาโต ไดอารี่นี้จะคือเอกสารสำคัญชิ้นหนึ่ง
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 15, 2013, 05:00:25 pm
11 พย 56 ตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร
   เช้านี้จิบน้ำอุ่น 1 แก้ว และเล่น Uke ไปด้วย พบว่าเสียงใสมาก น้ำอุ่นดีต่อลำคอเราจริงๆ ไม่ได้ออกกำลังกายอีกแล้ว ทำได้แค่เดินเล่นนิดหน่อย
   อาหารเช้าวันนี้ดีเลิศ ผัดผักบุ้ง ไข่เจียวใส่มะเขือเทศ กระเทียมสด ข้าวกล้อง ไปส่งลูกที่โรงเรียน แล้วก็เลยไปทำงานต่อ มียกของช่วงเช้านิดหน่อยตามฟอร์ม
กลางวันขับรถกระบะส่งของ ไม่ค่อยชอบนักหรอก แต่คิดบวกเข้าไว้ คิดเสียว่าได้ขับรถเกียร์ธรรมดาที่หาขับยาก ได้ฝึกเทคนิคการขับระดับสูงที่เราไม่ค่อยได้ฝึก เช่น No Clutch Shift / Rev Match Down Shift กว่าจะส่งของเสร็จก็เย็นเลย เมื่อยหลังนิดๆ กลับมาบ้านรีบเหยียดยืดเส้น กลัวหลังเจ็บ
   ทักษิณส่งทนายเอาผิด “แตงโม” หมิ่นประมาท ขำมาก บอกได้เลยว่าไม่ต้องกลัว ฟ้องกลับสิครับน้อง จะเอาพยานก็มีเพียบ รับประกัน
   ข่าวเด่นวันนี้มีหลายเรื่อง เด่นสุดคือคดีเขาพระวิหาร ผมทำนายไว้สองอาทิตย์ก่อนว่าศาลจะตัดสินออกมาแบบกลางๆ
   ศาลก็ช่างใช้คำพูดที่ฟังยังไงก็เข้าใจยาก คงต้องไปตีความกันทีละตัวอักษร ส่งผลให้คดีนี้ยังจบแบบไม่สนิท อนาคตคนรุ่นหลังนึกสนุก อาจฟ้องศาลโลกพร้อมหลักฐานใหม่ๆ แล้วก็ให้ตีความอีกรอบก็เป็นไปได้ ฉะนั้น จงสร้างหลักฐานใหม่ๆ เพิ่มนับแต่บัดนี้
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 15, 2013, 05:01:55 pm
12 พย 56
   ขี่จักรยานหน่อยหนึ่ง มาเล่น Uke อีกหน่อย แล้วก็หมดเวลาส่วนตัว
   อาการเจ็บหลังกำเริบอีกแล้ว เจ็บแบบก้มไม่ลง เดินไม่ไหวมา 4 ครั้ง วันนี้รู้สึกแปล็บๆ นิดๆ ในช่วงเอี้ยวตัวบางจังหวะ ยังไม่น่าจะนับว่าถึงขั้นเจ็บหลังนะ หรือถ้าจะนับก็คงเป็นครั้งที่ 4.1 ยังไม่ได้ขึ้นเวอร์ชั่น 5 ยังไม่ต้องอัปเดทซอฟแวร์
   วันนี้ผมอยู่เฝ้าร้านขายของตลอดเช้าจรดค่ำ เลยไม่มีอะไรสนุกๆ มาเล่ามากนัก ยังดีมีไอแพดเปิดอ่านข่าวสารเล่นแก้เหงา
   ฟิลิปปินส์โดนพายุมหาประลัยไฮ่เหยียนเล่นงาน ข่าวบอกคนตายเป็นหมื่น
   เฮ้ยย น่าตกใจมากนะ ตายเป็นหมื่นนี่มันระดับสงครามเลยนะ น่ากลัวว่ะ
   หลังจากรู้สึกเสียหน้ากับการปลุกม็อบเสื้อแดงที่เมืองทองเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ๊แดงและพลพรรคสมุนเลยไปปลุกกันอีกรอบถึงที่เชียงใหม่ ถิ่นของพรรคของเขาเลย เตรียมสถานที่อย่างดี กะว่าคนจะมาสัก 3 หมื่น กะว่ามันต้องแน่นสุดๆ มันต้องอลังการ์มากๆ เหมือนเมื่อก่อน คือมันคิดไปเองไง
   ผลก็คือ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ปราศรัยให้เก้าอี้ 26000 ตัวฟัง ที่เหลือเป็นคนที่จ้างมา ลูกน้องบอกว่า หามาได้แค่ 4000
   แล้วก็เป็นอีกงานที่ทักษิณถูกลูกน้องหลอกแดก
   อ้อ ข่าวเด่นวันนี้คือ แตงโม โพสอินสตราแกรม ถึงคุณอาหน้าเรขาคณิต บอกว่า ไม่ไปขอโทษนะ กระเป๋ามีเยอะแล้ว มีแฟนแล้ว จบนะ
   อึ้งแดกไปเลยไหม ไอ้เฒ่า
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 15, 2013, 05:03:47 pm
13 พย 56
   จิบน้ำอุ่นตอนเช้า พบว่าร้องเพลงตอนเล่น Uke ได้ดีกว่าเดิม เสียงดูมีพลัง กว้าง กังวาน แถมลากได้หลายอ๊อกเตป เล่นสักสองเพลง เพลงโปรดในช่วงนี้คือ “ทะเลใจ” และ “Killing me softly [with his song]”
   วาง Uke ไปขี่จักรยานต่อ ไม่ได้ซ้อมเอาพลัง ให้แค่ก้นชินกับการรับน้ำหนักตัวเอง ช่วงนี้น้ำหนักขึ้นแล้วไม่ยอมลงเลย รู้สึกร่างกายผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
   ไปส่งลูก ไปอยู่เฝ้าร้านขายของ วันนี้โชคดี รถไม่ติดหนักเหมือนเมื่อวาน ตอนสายลุ้นวอลเล่ย์บอลสาวไทย แต่ลุ้นไม่ขึ้น แพ้บราซิล 3 เซ็ทรวด เขาเป็นถึงแชมป์โอลิมปิค 2 สมัย ส่วนเราเพิ่งจะตกรอบเข้าโอลิมปิคเมื่อปีก่อน
   Google Glass เปิดตัว Ver II แล้ว มีหูฟังเพิ่ม ติดตั้งเลนส์สายตา หรือเลนส์กันแดดได้ เจ๋งกว่าผลิตภัณฑ์ Apple ตรงที่ ใครมีแว่นรุ่นแรก ให้นำมาเปลี่ยนเป็นรุ่น 2 ได้ฟรี !!! ราคาราว 4 หมื่นกว่าบาท ขำขำ โดยแว่น Ver I ขายให้แก่กลุ่มผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์หมดไปแล้ว จึงได้ออก Ver II มา
   ไฮไลท์ในค่ำนี้ สี่ทุ่ม พบกับงิ้วธรรมศาสตร์ ล้อเลียนการเมือง รับประกันความฮา แม่งด่ากันแบบไม่ไว้หน้าเลย ผมดูตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว สำคัญกว่านั้น มันคืองิ้วอาถรรพ์ เล่นทีไร ฝ่ายทรราชต้องมีอันเป็นไป !!!
   อัปเดทข่าวจากฟิลิปปินส์ที่โดนพายุไฮ่เหยียน ล่าสุดวันนี้บอกตายไปพันกว่าคน ค่อยยังชั่วหน่อย เมื่อวานบอกหมื่นกว่า เล่นเอาผมตาค้าง
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 15, 2013, 05:05:32 pm
14 พย 56
   เล่น Uke ตั้งแต่ 0530 สักพักหนึ่งก็ออกไปขี่จักรยาน เจอฝนปรอยๆ เลยกลับมาเล่นดนตรีต่อ
    ข่าวการเมืองนี่ต้องจับตามองตลอด สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดภายในเดือนนี้ !!! ยิ่งทำเอาน่าจับตามองเข้าไปใหญ่ เพราะคนอยากจะรู้ว่ามันจะจบอย่างไรหรือ ตะโกนไล่มาร แล้วมันจะออกไปเองหรือ แต่ได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้าจะมีตัดสินคดียุบพรรค แต่ยุบแล้วมันจะตั้งใหม่อีกได้ไหม ฯลฯ
    วันก่อนยิ่งลักษณ์ประกาศให้ความช่วยเหลือฟิลิปปินส์ ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ แต่คนที่มันเกลียดกันแล้ว ทำอะไรมาก็ต้องโดนด่าตลอด ในเฟซบุ๊คนี่อัดกันเละ บอกปัญหาตัวเองยังแก้ไม่ได้ ยังจะไปช่วยคนอื่นเขาอีก อยากได้หน้าหรอ อะไรประมาณนี้
   ช่อง 3 ก็มีเปิดรับบริจาคเหมือนกัน คนบริจาคกันเยอะเลย แต่ที่น่าสนใจคือช่อง 7 ครับ เขาเปิดรับบริจาคเหมือนกัน โดยจะนำเงินนี้ส่งผ่านรัฐบาลไทยไปยังฟิลิปปินส์ !!!
   เฮ้ยยย พี่น้อง รู้จักรัฐบาลไทยเราดีแล้วหรือยัง คนไทยกันเองยังไม่อยากให้มันถือเงินเลย กินทุกอย่างที่ขวางหน้า อันไหนกินไม่ได้ มันก็ใช้แก้กฎหมายแล้วมากินภายหลัง
   มีกระแสข่าวมาม็อบราชดำเนินกำลังหมดพลัง มันก็จริงล่ะนะ แต่ละคนมันเป็นคนทำงานนี่หว่า ไม่ใช่ม็อบมืออาชีพ มาด้วยใจ ผมก็เลยคิดมุขใหม่ส่งไปให้ ดังนี้
   ประกาศให้โลกรู้ว่า เรากำลังจะทำงานสถิติโลกในการชุมนุมไล่ผู้นำโกงกินด้วยมวลชนไร้อาวุธที่มีคนมากสุดในโลก
   ประกาศไปแค่นี้ รับประกันความฮือฮา กินเนส เวิร์ล ออฟ เรคคอร์ด ก็จะส่งทีมงานมาสังเกตการณ์ สื่อทุกแขนงจะมาทำข่าว จะยิ่งดัง คนจะยิ่งเยอะ
   แค่คิดก็มันส์แล้วว่ะ 
   กลางคืนสุเทพประกาศชัดว่าจะรบจนถึงสิ้นเดือนนี้ พรุ่งนี้วันที่ 15 ให้มากันเยอะๆ เพื่อยกระดับการชุมนุม
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 19, 2013, 04:58:18 pm
15 พย 56
   เมื่อคืนฝนตกหนักมาก ตกหลายรอบ สงสารม็อบราชดำเนินและละแวกนั้นจริงๆ แต่ดูถ่ายทอดมาเขาก็ลุยกันดีนะ ผมไม่สะดวกไปร่วมงานสำคัญนี้  แต่ก็ส่งใจไปตลอด แม้ว่าเขาจะต้องการตัวเรามากกว่าใจก็ตาม
   ตื่นมาจิบน้ำอุ่นและเดินสูดอากาศให้เต็มปอด มาเล่น Uke อีกแล้ว จักรยานแทบไม่ได้ขี่ ได้แต่เติมลมรถคันที่ลมยางอ่อน แล้วก็มากินอาหารเช้า สักพักก็ออกไปส่งลูก
   เช้านี้ผมต้องไปเสียภาษีที่เขต บอกที่บ้านว่าให้ทำอารยขัดขืน เขาสวนกลับมาว่า วันนี้วันสุดท้ายแล้ว จ๋อยไป
   กลางวันก็อยู่ทีทำงานแบบเหงาๆ ติดตามข่าวผู้ชุมนุมเป็นระยะทางเฟซบุ๊ค เพราะฟรีทีวีแทบไม่มีข่าวอะไรสักนิด
   ผู้ชุมนุมมาราชดำเนินกันตั้งแต่บ่าย และทยอยกันมาจนแน่นขนัด นี่ผมว่ามันเป็นม็อบประชาชนที่ใหญ่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมาแล้วมั้งครับนี่ จากเดิมคิดเล่นๆ ว่าจะทำสถิติเพื่อเรียกแขก ตอนนี้มันเป็นสถิติของจริงแล้วล่ะ เพียงแต่ไม่มีใครนับตัวเลขประชาชนอย่างเป็นทางการให้
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 19, 2013, 05:05:35 pm
16 พย 56
   เสาร์อีกแล้ว มิวเรียนพิเศษเช้าถึงเย็น ผมอยู่ร้านขายของเหมือนเดิมเป๊ะ เช้าไปส่งมิวที่สถานีรถไฟฟ้า ก่อนลงเขาฝากซื้อ “รังถ่าน” บอกจะเอาไปใช้กิจกรรมของวิชาวิทยาศาสตร์ ให้ผมช่วยไปซื้อให้หน่อย
   รังถ่าน ก็คือที่ใส่แบตเตอรี่ มีหลากหลายแบบ มิวจะเอาแบบ AA 2 ก้อน พร้อมมีสวิทช์ปิดเปิดด้วย อืมม จำไว้ จดไว้
   บ่ายๆ เดินจากร้านขายของข้ามสะพานพุทธ ผ่านโรงเรียนสวนกุหลาบ เข้าไปในตึกดิโอล์สยาม ทำธุระที่ธนาคาร เสร็จสิ้นก็เดินหาไอ้รังถ่านให้ลูก ชักเริ่มสงสัยว่ามันเรียกว่ารางถ่าน หรือว่ารังถ่านกันแน่
   เจอร้านอมรในตึกดิโอล์สยามเลยเดินเข้าไปคุย แต่พบว่าร้านนี้เป็นศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น เลยเกิดไอเดีย เพราะว่ามีเครื่องเล่นเทป mini DV เก่าแก่มันเสีย เล่นแล้วกินเทป ถามเขาว่ารับซ่อมไหม
   เจ้าหน้าที่ไม่ตอบ แต่ชี้โบ้ยให้ไปถามช่างที่อยู่ด้านใน มองเข้าไปมีโต๊ะช่างนั่งซ่อมอยู่หลายสิบคน นั่งเรียงแถวกัน มีป้ายเขียนเฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น
   ผมเดินไปหยุดอยู่แค่ทีป้ายห้ามเข้า แล้วก็ตะโกนถามช่าง
   ช่างชี้ๆ ให้เดินเข้าไปจนสุดทาง แล้วเลี้ยวซ้าย
   เอาๆ จัดไปครับ ไม่ต้องเคารพป้ายกันแล้วล่ะ เดินลุยเข้าไปแม่งเลย พบว่าที่นี่เขาแบ่งกันเป็นแผนกๆ ครับ แต่ละโซน แต่ละแถวก็จะซ่อมสินค้าเป็นอย่างๆ ไป ไอ้แผนกกล้องวีดีโอนี่คนซ่อมกันน้อย เขาจัดไว้ด้านในสุดเลย
   เจอช่างกำลังนั่งรื้อกล้องหน้าตาคล้ายๆ ของผม เลยถามเขาว่ารับซ่อมไหม
   ช่างบอกรับทุกอาการ เอาของมาไหม จะได้ดูให้เลย
   โหห บริการทันใจดีจริง แต่ผมไม่ได้เอามาครับ ถ้ารู้ว่าพี่รับซ่อม คราวหน้าจะได้ติดมือมา ไอ้กล้องนี่เสียมาหลายปี สองจิตสองใจจะซื้อใหม่ดีไหม แต่ก็เสียดายเทปเก่าๆ มีอยู่ราว 30 ม้วน มันจะเอามาเล่นอีกครั้งได้อย่างไร เป็นข้อมูลสำคัญมากๆ เพราะผมถ่ายลูกเก็บไว้ตั้งแต่เขายังเด็ก
   ช็อทที่ประทับใจสุดคือตอนอนุบาล ผมปล่อยให้เขาเดินเข้าไปโรงเรียนเองคนเดียว ติดไฟกระพริบไว้ที่เป้หลังด้วย ผมจอดรถแล้วแอบมาถ่ายเขาจากบนสะพานลอย
   หิวครับ ลองหาของกินก็ตาลาย เยอะจัดไปหมด นึกขึ้นได้ ไปร้าน “ออน ล็อค หยุ่น” ดีกว่า ผมเรียกมันว่า the original retro café ไปนั่งเอาฟีลบรรยากาศเดิมๆ ร้านก็เรียบง่าย ขายพวกอาหารเช้า ไข่กระทะ ขนมปังสังขยา กาแฟ ผมสั่งขนมปังมากิน 28 บาท รสชาติก็กลางๆ แหละครับ แต่เห็นคนรุ่นใหม่เขาบอกอร่อยมาก ก็ว่ากันไป ปากใครปากมัน
   0300 มิวโทรมาตาม บอกว่าเรียนเสร็จแล้ว กำลังจะกลับ ผมบอกให้มิวเถลไถลอีกสัก 15 นาทีแล้วค่อยขึ้นรถไฟฟ้า จะได้ไม่ต้องมารอผม พูดจบก็รีบจ้ำเท้าเดินข้ามสะพานพุทธกลับฝั่งธน แล้วขับรถไปยังจุดนัดพบทันที
   กลับถึงบ้านมิวรีบคว้าไอแพดมาเล่นและลากยาวจนถึงกลางคืน ผมไม่รู้จะทำอย่างไรกับเขาแล้ว เลยออกกฎว่า ต่อไปนี้ทุกครั้งที่จะหยิบไอแพดมาเล่น ให้พูดเสียงดังๆว่า
   “ไอแพดเปลี่ยนชีวิตมิว”
   หวังว่าสักวันเขาคงเข้าใจ
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 19, 2013, 05:07:19 pm
17 พย 56
   นอนดึก ตื่นสาย ลืมตามาก็ใกล้จะ 0600 แล้ว อยากจะเอาจักรยานไปขี่ไกลๆ แบบเอาใส่รถยนต์ไป แต่ก็ไม่รู้จะเอารถคันไหนไปดี คือไม่รู้ว่าวันนี้พ่อจะใช้รถคันไหน บางทียืมรถเขาใช้ก็เกรงใจ ไอ้รถเราเองก็แค่ 180SX ใส่รถจักรยานไม่ได้
   เริ่มอยากได้รถที่ใส่จักรยานได้มานานสักพักใหญ่ แต่ติดที่เรื่องการดูแลรักษา แถมทุกวันนี้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ที่ร้านขายของ ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตตัวเองจะต้องมาเป็นแบบนี้ คาดไม่ถึงจริงๆ
   ล้างบ่อปลา จัดการรวบรวมปลาตัวเล็กจากหลายๆ บ่อมารวมกันในบ่อใหญ่ที่เป็นอ่างว่ายน้ำสำหรับเด็ก ใช้น้ำประปาปกตินี่แหละ แต่คราวนี้ต้องทิ้งไว้สัก 1 คืน ผมกลัวเอาลูกปลาตัวจิ๋วๆ ลงไปแล้วมันน็อคน้ำตาย
   อาหารเช้าวันนี้เป็นซาลาเปา แม่ซื้อมาจากตลาด รสชาติพอใช้ได้ มีไส้หมูสับ และหมูแดง จัดไป 3 ลูก สายหน่อยออกไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า เขาบอกอยากไปเรียนพิเศษ เฮ้ยย มาแปลกมาก วันนี้มีเรียนบ่ายหน่อยเดียว แต่อยู่บ้านเฉยๆ กลับบอกอยากไปเรียน
   เอ้า จัดไปครับ ส่งให้เขาเดินทางไปเอง ตอนบ่ายภรรยาอาสาไปรับ ผมส่งมิวเสร็จก็กลับบ้านเลย ไม่รู้สินะ รู้สึกเหมือนตัวเองเบื่อหน่ายชีวิตยังไงไม่รู้ ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ออกแนวเบื่อโลก นี่ถ้าต้องตาย ก็คงไม่เสียดายอะไร อยู่ไปวันๆ หายใจทิ้งไปเป็นสิบปีแล้ว รู้สึกเหมือนโดนแช่แข็ง
   ผ่านตลาดแถวบ้านแวะเข้าไปกินก๋วยเตี๋ยว 0100 ลุ้นวอลเล่ย์สาวไทยรอบสุดท้าย วันนี้ซัดกับรัสเซีย เห็นแล้วยิ่งเหนื่อย เพราะตัวของเขาสูงกว่าเราราว 1 ฟุต !!!
   เห็นสภาพแล้วก็ไม่อยากแข่งแล้วล่ะ เหมือนเอารถ 1.6 ไปซัดกับพวก 2.0 Turbo ตัวเตี้ยกว่าเยอะ เล็กกว่าเยอะ ประสบการณ์น้อยกว่า ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานนี้ก็เพราะเราเป็นแชมป์เอเชีย อ้อ งานนี้เขาแข่งกันเฉพาะแชมป์ครับ เลยไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเราถึงแพ้ทั้งอเมริกา บราซิล และยังแพ้เจ้าภาพญี่ปุ่นอีกด้วย
   แต่ก็สร้างปาฏิหาริย์นะ สามารถชนะรัสเซีย 3-1 เซ็ท ปิดเกมได้เจ็งสุดตีนมาก ที่ผมชอบสุดคือเล่นแล้วยิ้มแย้มกันทุกคน มีการหยอกล้อกันเองอีกด้วย จะได้แต้ม หรือจะเสียแต้ม แสดงสีหน้าเหมือนกันหมดเลย
   ว่างระหว่างวันก็เล่น Uke ไป อ่านหนังสือบ้าง เดินไปดินมา ดูปลา เย็นดูรายการ The Voice อีกในก็อยากไปราชดำเนิน อยากไปเป็นหนึ่งในเม็ดพิกเซลเล็กๆ อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย โตขึ้นจะได้บอกลูกได้ว่าเราเป็นคนเดือนพฤศจิกา
   ในที่สุดก็ไม่ได้ไปนะ หาข้ออ้างไปเรื่อย ติดลูกบ้าง ติดธุระบ้าง
   เวทีราชดำเนินประกาศรวมพลครั้งยิ้งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 24 พย เป้าหมาย 1 ล้านคน !!!
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 19, 2013, 05:08:46 pm
18 พย 56
   จิบน้ำอุ่นและเดินสูดลมหายใจลึกๆ เดินไปเดินมา ดูปลาในบ่อที่ติดตั้งระบบออกซิเจนเพิ่มอีก 4 ท่อ ปลาเยอะมากขึ้นแล้วครับ เอาพวกตัวที่ค่อนข้างโตลงไปผสมรวมด้วยแล้ว ส่วนบ่อเก่าก็เอาไว้เพาะเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งฟักเมื่อสัปดาห์ก่อน
   เช้านี้ปลาก็ผสมพันธุ์กันอีกเช่นเคย ผสมกันแทบทุกวัน จะเว้นก็ไม่เกินวันเดียว ปลาในบ่อตอนนี้น่าจะราว 150 ตัว เป็นปลาทองพันธุ์ออรันดา ผสมพันธุ์ไปมา กลายเป็นมีรุ่นหางสั้น รุ่นตัวเล็ก หัววุ้น สีดำ ตาโต ฯลฯ
   ชื่นชมปลาได้พักเดียวก็ต้องเตรียมตัวออกจากบ้าน
   อยู่ร้านขายของจนบ่าย เข้ามาบ้านนั่งขีดเขียนงานเล็กน้อย อยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ อีกสักพักก็ต้องออกไปรับลูก
   เย็นไปรับมิวที่ Big C กลับมาบ้านก็ให้เขารีบอาบน้ำ และทบทวนหนังสือที่จะสอบในวันพรุ่งนี้ แต่มิวไม่เห็นรู้สึกตื่นเต้นอะไรสักนิด เอ๊ะ นี่มันชัวร์ หรือมันยังไม่เข้าใจว่าสอบคื่ออะไร
   กลางคืนช่วงนี้ติดตามข่าวแต่ช่อง Bluesky ลุ้นเอาใจช่วยชาวราชดำเนินทุกท่าน
คนนามสกุล ณ ระนอง ออกมาตัดญาติกับ กิติวัฒน์ ณ ระนอง หนึ่งในสมุนของทักษิณ
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 19, 2013, 05:12:42 pm
 19 พย 56
   เฮ้ย เมื่อวานผมพิมพ์ชื่อกิติรัตน์ผิดไป ขอแก้ไขวันนี้แทน อย่างที่เคยบอกครับ เล่าไดอารี่สดๆ ปล่อยอารมณ์แรกล้วนๆ ไม่มีการย้อนมาแก้ไขเพื่อให้ตัวเองดูดี หากผิดพลาดพลังไป มันก็คืออารมณ์ขณะนั้น

    เช้านี้ขี่จักรยานได้ 15 นาที รับลมเย็นหน้าหนาว แต่ยังไม่ได้ออกขี่อย่างเป็นทางการเลย มีเวลาว่างแค่วันอาทิตย์วันเดียว เราก็อยากพักผ่อน พักแผ่นหลัง แม้จะไม่ได้ยกของอะไรหนักมากแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังต้องมียกอยู่บ้าง ยังดีที่แค่ล้าๆ ไม่ถึงกับเจ็บจนทรุด
   อย่างเช้านี้ก็มียกสินค้าหนัก 25 กก 6 ลัง ลังบนๆ นี่พอไหว แต่ลังด้านล่างนี่ต้องระวังสุดๆ ลงย่อตัวนั่งตามคำแนะนำของหนังสือแล้วก็ยังรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
   กลางวันมีโทรศัพท์ลึกลับ งงสิ ปกติไม่ค่อยมีใครโทรมาหา แต่คราวนี้เป็น PR จากค่าย BMW โทรมาเชิญไปงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ ใจหนึ่งก็ดีใจ อีกใจก็ลังเล ผมไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มากกว่า 20 ปีแล้ว ล่าสุดขี่ Harley Davidson 1945 พร้อม Side Car ไปเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัย แถมแต่งตัวกวนตีนอีกนะ คือใส่เสื้อเชิร์ตขาว ผูกเนคไท
   เลยถาม PR เพิ่มว่า เขาดูแลเฉพาะแผนกมอเตอร์ไซค์อย่างเดียวหรือเปล่า ดูแลแผนกรถยนต์บ้างไหม แล้วคำตอบเขาก็ทำให้ผมในชื้น
   “ดูแลทั้งสองอย่างค่ะ เอาไว้จะส่งการ์ดเชิญไปให้นะคะ”
   โอ กลายเป็นว่ามีค่ายรถอีกค่ายที่จะเข้ามาในชีวิตเราแล้ว ปกติมีแค่ Mercedes Benz ตอนนี้จะมี BMW เข้ามาเพิ่ม ดีใจๆ ๆ ๆ ไอ้แต่แอบมองรถเขามาสิบกว่าปี รถคันล่าสุดที่ผมจับก็คือ BMW Z3 ยังจำอารมณ์นั้นได้ครับ
   แต่ตอนนี้ BMW มีรถน่าสนใจเยอะมากๆ จุดเด่นของรถค่ายนี้คือเทคโนโลยี่เครื่องยนต์ดีเซลครับ อยากลองยาวๆ จริงๆ เลย แบบขับไปเชียงราย แล้วดูว่ากินน้ำมันไปกี่บาท
   นี่ถ้าเป็นตอนทำ Racing Club อยู่มีแผนเยอะกว่านี้อีกนะ ถึงขั้นฟอร์มทีมทดสอบรถยนต์ที่ประกอบไปด้วยนักขับจาก Car Club ต่างๆ ที่ผมเล็งเอาไว้ คือใจเราอยากทำนิตยสารทดสอบอย่างจริงจังไง ด้วยเหตุผลที่เคยเล่าครับ คืออ่านเล่มไหนแม่งก็เชียร์ตลอดเลย โคตรเบื่อเลย ผมไม่เชื่อหรอกนะว่ารถมันจะไม่มีที่ติ ชมกันจนเบื่อ จนเลี่ยน แต่ก็เข้าใจ มันเป็นเหตุผลทางด้านธุรกิจ ใช่แล้ว เพราะกลัวเจ้าของค่ายรถเขาไม่ซื้อโฆษณาในนิตยสารของตัวเองนั่นแหละ
   เล่าถึง Racing Club มาหลายครั้งหลายหน ก็เพราะผมเตรียมแผนจะกลับมาใหม่ถึงสองครั้ง แต่ก็ล้มเหลวตลอด จนทุกวันนี้แม่งหมดแรงแล้วล่ะ ถึงได้อยู่ในช่วงซึมเศร้าที่สุดในชีวิต ปล่อยให้ตัวเองน้ำหนักขึ้น แล้วทุกอย่างก็ยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เป็นแบบนี้นานๆ อีกหน่อยคงมีโรครุมเร้า
   PR ค่าย BMW โทรมาวันนี้ก็ทำให้ผมกระปรี้กระเปร่าได้เล็กน้อย ยังไงก็ขอบคุณนะที่ช่วยเติมไฟในกองขี้เถ้าที่ใกล้มอดแล้ว ถ้าผมยังพอทำประโยชน์ให้กับวงการรถยนต์ได้บ้าง แม้เพียงเล็กน้อย ผมก็ยินดี
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 21, 2013, 04:53:01 pm
20 พย 56
   ข่าวร้ายประเดิมเริ่มวันตั้งแต่เช้ามืดตอนตีสามกว่า คือพวกรัฐบาลและสมุนยกมือสนับสนุนเงิน พรบ เงินกู้ 2 ล้านล้าน บาทไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าให้คิดรวมดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายด้วยก็ปาเข้าไป 5 ล้านล้านบาท ยังไม่นับเรื่องเหี้ยๆ ที่แฝงเข้ามาอีก เช่น ยกเลิกอุทยานแห่งชาติเภตรา-ตรุเตา ระเบิดภูเขา 8 ลูก เพราะอยากได้ทราย 20 ล้านตันเอาไปถมทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติเพื่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
   โอ้ พระพุทธ นี่มันคือแผนการทำร้ายประเทศไทยชัดๆ
   
   ข้างบ้านที่อยู่ติดๆ กันโดนขโมยขึ้นบ้าน รื้อข้าวของในรถยนต์ไปเกลี้ยง ทำเอาผมเสียวเหมือนกัน เพราะรั้วกั้นแค่เตี้ยๆ เอง ปีนข้ามง่ายมากๆ โดนแล้วก็แล้วกันไป คิดบวกเข้าไว้ให้เราระมัดระวังในการเก็บทรัพย์สินให้มากยิ่งขึ้น
   หลายปีก่อนบ้านผมก็เคยโดนนะ แต่ไม่ได้เข้าไปในตัวบ้าน โดนขโมยพวกรองเท้าไปหมดเลย คิดบวกครับ ยังดีที่โดนแค่รองเท้า
   
เฮ้ยยย หากล้อง mini DV ไม่เจอ ทำไงดี กล้องเสียนานหลายปีแล้วล่ะ มีอาการกินเทป เก็บไว้นิ่งๆ จนลืมว่าไปอยู่ไหนแล้ว ฉิบหายเลย ตอนแรกหาร้านซ่อมไม่ได้ พอมาตอนนี้หาร้านได้แล้ว เสือกหากล้องไม่เจอ
   กลางวันได้เมลล์ตอบจาก Alice เจ้าของ SBK ที่อิตาลี บอกวิธีให้ผมซ่อมบำรุงชุดคิทเบื้องต้นด้วยการให้ทำความสะอาดวาล์วลมให้ดี และกำชับว่าต้องปิดวาล์วให้แน่นหลังสูบลมแล้ว
   อืมม มันรั่วตรงโคนของวาล์วนะ Alice ไม่ได้รั่วจากตัววาล์ว แต่ Alice บอกว่าให้ใจเย็นๆ ยังไงก็ซ่อมได้ทุกกรณี ไม่ต้องเป็นกังวลไป
   แอ๊ปผีจีนแม่งเอ้าท์แล้วจริงๆ ด้วย ผมโหลดมาตามกระแส ยังไม่ทันเปิดเล่นเลย แม่งเอ้าท์เสียแล้ว
   เปิดทีวีของ PSI ช่อง 6 เจอรายการ Safety First ของเกาหลี เฮ้ยย แม่งดีมากๆ เลย คล้ายแนว Sponge น่ะ แต่ไอ้นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับภัยรอบตัวที่เราคาดไม่ถึง
   ได้รับบัตรเชิญจากค่าย BMW เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ พร้อมประชาสัมพันธ์แผนการตลาดในปี 57 จัดงานที่ โพธาลัย เลเซอร์ ปาร์ค
   เฮ้ยย !!! ที่ไหนวะ จังหวัดอะไรหรอ แล้วกูจะไปอย่างไร มีรถไปส่งไหม ฯลฯ งงแดก ไม่ได้ออกงานมาหลายปี เปิดไอแพดเสิร์ชหา ปรากฏว่าอยู่เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรานี่เอง
   เขาจัดงานตอนสายๆ ผมคงจะส่งลูกแล้วเลยไปร่วมงาน แต่มันไกลจากบ้านพอควร แถมต้องขึ้นทางด่วน และไอ้ทางด่วนตอนเช้านี่มันไม่น่าใช้บริการเลยแม้แต่น้อย
   เย็นไปรับลูกที่ร้านหนังสือ ช่วงนี้กลับมากินข้าวบ้านตลอดเลย บอกมิวไปตรงๆ ว่าพ่อไม่มีเงินรายได้อะไรเข้ามา ที่เห็นว่ามีนั่นคือเงินสำรองที่เอาไว้ใช้ในอนาคตของลูกเอง มีน้อยใช้น้อยก็จะทำให้เราอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างเป็นสุข ไม่ต้องไปดิ้นรนที่จะตามใครเขา เราไม่รวยเหมือนเขา จะไปเอาอย่างเขาได้อย่างไร
   เห็นจักรยานของพ่อไหม ปีหน้ามันจะมีอายุครบ 20 ปี

Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน
Post by: O'Pern on November 22, 2013, 01:38:58 pm
21 พย 56
   เริ่มกินน้ำอุ่นมาได้ราวสองสัปดาห์แล้ว ลองไปเรื่อยๆ ครับ ก่อนหน้านั้นก็กินน้ำแบบอุณหภูมิปกติมานานเป็นเดือน ไอ้น้ำเย็น น้ำแข็งนี่เลิกกินมานานมาก
   ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอะไรที่ชัดเจนนะ เพราะปกติก็แข็งแรงดีมาตลอด
   อยู่ที่ทำงานก็ยังคงมียกของบ้างประปราย เรียกว่ายกแบบขำขำ แต่กลัวเจ็บหลังไง มันเลยไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ไม่เป็นไรครับ ชีวิตคนเรามันมีหลากหลาย สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ปนๆ กันไป มันขึ้นอยู่กับวิธีคิดของตัวเราเอง คิดสุขใจก็สุข คิดทุกข์แบบที่ผมเคยทำ มันก็แสนจะทุกข์
   นี่ๆ รู้ไหมว่าทุกวันนี้ผมคิดอย่างไร เรื่องลูกที่เคยโมโห เครียด จนปลดปล่อยด้วยการกินจนอ้วน ผมเอารูปเขาตอนเด็กๆ เล็กๆ มาดู แล้วก็คิดถึงบรรยากาศช่วงนั้น ตอนนั้นเขาแสนจะน่ารัก เลี้ยงดูประคบประหงมด้วยมือของผมเองมาตลอด ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ทำความสะอาด ซักผ้าอ้อมผมก็ยังซักเอง ตอนนั้นไม่เห็นจะโมโหเขาสักนิด
   เอาอารมณ์ตอนนั้นแหละครับ เอามาใส่แทนตอนนี้ซะ แค่นี้เราก็มีความรู้สึกดีๆ ต่อกันตลอดเวลา จะเล่นไอแพดหรอ ก็เล่นไปสิ จำกัดเวลาเล่นสักหน่อย แต่ก็จะมาเสียเรื่องสายตานี่แหละ จ้องจอตลอดเวลา สายตาก็เหนื่อยล้า พอวางไอแพดก็อยากจะหลับตานอน กลายเป็นว่าไม่ได้ทบทวนแบบฝึกหัด
   อีกไม่กี่เดือนจะสอบเข้าสวนกุหลาบ โรงเรียนชายอันดับ 1 ของรัฐบาล ไม่ใช่ยากธรรมดา ต้องเรียกโคตรยาก แล้วอย่าหวังว่าผมจะมีเงินไปยัดใต้โต๊ะ งานนี้ซัดกันสดๆ
   กลางคืนติดตามข่าวการเมืองทางช่อง Bluesky อัปเดทข่าวสารกันบ้าง พบว่าทักษิณนี่ยิ่งอยู่ยิ่งเหี้ยจริงๆ ศาลตัดสินออกมาไม่ถูกใจมัน ก็ให้สมุนออกมาปั่นป่วนไม่ยอมรับคำตัดสิน บอกว่าศาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
   เฮ้ย ไอ้เหี้ย แบบนี้กูขับรถแล้วโดนตำรวจไถ กูก็บอกได้สิว่า กูไม่ยอมรับคำตัดสินของตำรวจ เพราะตำรวจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
   และถ้าทุกคนเป็นศรีธนนชัยอย่างมึงล่ะก็ ….. ความฉิบหายมันก็จะบังเกิดไปทุกหย่อมหญ้า 
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on November 24, 2013, 04:33:52 pm
22 พย 56
   เช้านี้มีน้ำรางจืดให้กิน จิบอุ่นๆ คล้ายน้ำชา ไม่รู้หรอกว่าดีอย่างไร รู้แต่ว่าดีก็กินๆ เข้าไป อยู่บ้านนี่มีของดีๆ กินเยอะครับ จิบไปก็เดินสูดหายใจลึกๆ ไป ไม่ได้ออกกำลังกายอีกแล้ว
   จิบไปเล่น Uke ไปด้วย ร้องเพลงเบาๆ เพลงโปรดโดนใจตอนนี้คือเพลง ทะเลใจ มันดูเลื่อนลอยดีนะ แบบวันๆ ไม่ต้องคิดฝันถึงอะไรอีกแล้ว แต่มีชีวิตเพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน
   ฟังรายการรถยนต์ทางวิทยุแล้วขัดหูอีกแล้ว คำว่า Fuel Cell วิทยากรท่านเรียกว่า “ฟูเอล เซล” ทุกคำเลย มันเรียกผิดน่ะครับ ต้องเรียก “ฟิว เซล”
   อีกคำคือ Hydrogen ท่านเรียก “ไฮโดรเย่น” ออกเสียงไทยๆ ง่ายๆ ว่า ไฮโดรเจน จะน่าฟังกว่าเยอะ
   บ่ายเข้ามาบ้าน นั่งดูเจ้าลูกปลาตัวเล็กๆ ที่ตอนนี้จัดการให้มันอยู่ในอ่างน้ำใบใหญ่ ไอ้บ่อนี้ใช้มาสักระยะ ล้าง ขัด ถู หลายครั้ง จนพลาสติกมันบางจนเปื่อยขาด มีน้ำรั่วออกมา กะว่าวันไหนว่างจะจัดการปะเสียที ไม่น่าจะยากนะ
   กลางคืนก่อนนอนผมโมโหฟิวส์ขาดอีกครั้ง เฮ้ยย โดนลูกแม่งหลอกอีกแล้ว หลอกว่าทำการบ้านเสร็จหมดแล้ว แถมเล่นไอแพดอย่างบ้าคลั่ง รู้สึกตัวเองแม่งเหมือนคนโง่ไง โดนคนที่เรารักหลอกแม่งโคตรเจ็บเลยว่ะ โมโหอย่างมาก แต่วันนี้ไม่ตีแล้ว เปลี่ยนกลุยทธใหม่ ด่าแม่งเลย
   ด่าแบบเหี้ยๆ เลยด้วย พูดกู พูดมึงตลอด ตะคอกเสียงดัง ด่าว่ามึงจะเล่นไอ้เครื่องเหี้ยนี่ไปถึงไหน มึงไม่รู้ตัวหรือว่าอีกแค่สองเดือนมึงก็ต้องไปสอบเข้าโรงเรียนใหม่ ไอ้เครื่องเหี้ยนี่มันเปลี่ยนชีวิตมึงไปแล้ว ๆ ๆ (ตะโกนดังๆ)

   ครั้งแรกที่หลอกกู ก็วันที่ 24 กรก มาวันนี้ 29 พย มึงเอาอีกแล้ว ทำใจไม่ได้ว่ะ ผมด่าลูกแบบไม่เคยเสียงดังตะคอกโวยวาย และมีคำหยาบแบบนี้มาก่อน ภรรยากลับมาบ้านพอดีถึงกับงง ผมต้องยกมือห้ามให้เขามายุ่ง
   ด่าเสร็จ ก็ไล่ลงไปอยู่ข้างล่าง บอกว่าสำนึกผิดได้แล้วถึงขึ้นมานอนได้
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on November 24, 2013, 04:37:17 pm
23 พย 56
   เฮ้ยย วันหยุดแท้ๆ แต่ก็ดันมีเรื่องไม่สบายใจเข้ามารบกวนจนได้ เสาร์มิวมีเรียนตลอดวัน ผมเห็นแล้วเบื่อแทน ผมคิดเห็นไม่ตรงกับภรรยาในเรื่องพวกนี้อย่างมาก คือตัวผมเองมาจากคนเรียนไม่เก่ง แต่ภรรยาเป็นเด็กเรียนแบบได้เกียรตินิยม มาแบบคนละขั้วเลย ก็ถึงได้มีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกันบ้างในบางเรื่อง
   ผมเน้นเรื่องชีวิต ภรรยาเน้นวิชาความรู้ แต่อีกไม่กี่เดือนมิวก็จะต้องสอบเข้าสวนกุหลาบไง ผมเลยไม่อยากไปโต้เถียงอะไรเขามาก เรียนหนักๆ ก็น่าเบื่อเหมือนกัน ใจอยากให้เขาไปเล่นเรือใบเสียมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะพวกเพื่อนๆ เขาที่เริ่มเรียนมาด้วยกันตอนนี้ไต่อันดับเข้าไปใกล้พวกทีมชาติเข้าไปทุกทีๆ แล้ว
   
   เช้าไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า ผมอยู่ที่ทำงานก็มียกของอีกแล้ว ยกย้ายของในโกดังแบบเดิมๆ ยกไปยกมา ยกแล้วจัดเรียงใหม่ ทำแบบนี้วนเวียนไปเรื่อยๆ มันเลี่ยงไม่ได้หอรก ผมเข้าใจชีวิตดี หากทำงานแบบนี้ อยู่ร้านขายของแบบนี้ มันก็ต้องยกแบกของไปตลอดแหละ
   บ่ายไปธนาคาร เหลือเวลาว่างนิดหน่อยเลยแวะเข้าไปคอนโดทำความสะอาด ก็บรรยากาศเดิมๆ ครับ ล้างระเบียง เปิดแอร์ทั้งสองตัวให้น้ำยาแอร์หมุนเวียน เปิดไฟ เปิดน้ำ หย่อนก้นนั่งพักได้ราว 10 นาที มิวโทรมาเรียกให้ไปรับ บอกเรียนเสร็จแล้ว
   เฮ้ยย เร็วมาก ตามตารางต้องเลิกราว 0500 แต่มิวจะกลับตอน 0300 ทุกที แต่วันนี้โทรมาตอน 0200 เขาบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย พะอืดพะอม อืม คงจะเหนื่อย คงจะเครียด เอ้า ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปรับ
   ไปรับที่จุดนัดพบทางลงรถไฟฟ้า กลับถึงบ้านมิวหายสนิท ขอหยิบไอแพดไปอัปเดทโปรแกรม ส่วนผมก็นั่งดูข่าวช่อง bluesky
   กลางคืนผมไม่เอาไอแพดเข้ามาในห้องนอนแล้ว ใช้อ่านหนังสือแทน คิดว่ามิวจะทำตาม เพราะคืนก่อนเพิ่งโดนดุไป แต่เปล่าเลย มิวเปิดวีดีโอที่อัดไว้ในไอแพดดูอยู่นานจนเข้านอน
   ปล่อยเขาแล้วล่ะ ผมเหนื่อยล้ากับชีวิตมากแล้ว ยกของหลังเจ็บๆ แทนที่จะได้นอนสบายๆ กลายเป็นต้องมาบ่นด่าดุว่ากัน ผมไม่ชอบชีวิตแบบนี้เลย
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on November 25, 2013, 02:59:58 pm
24 พย 56 วันมหาประชาชน
   ผมติดตามข่าวทางการเมืองอย่างใกล้ชิด แต่พออยู่กับลูกก็ไม่อยากใช้คอมพิวเตอร์หรือไอแพดขณะอยู่กับเขา ล่าสุดเมื่อคืนนี้ก็ได้ข่าวว่ารถบัสจากทางใต้โดนตะปูเรือใบโรยเกลื่อนถนน โดนเจ้าหน้าที่ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนมาท่วมถนนที่ชุมพร รถติดอยู่ที่นั่นราว 2000 คัน
   เหี้ยไม่เลิกจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเชื่อฟังคำสั่งของมันด้วย หรือกลัวแค่ตัวเองหลุดจากตำแหน่งหน้าที่ กลัวจะหมดอำนาจ แค่นี้เองหรือ แล้วไม่คิดหรือว่าหากเป็นอย่างนี้ต่อไป ลูกของพวกมึงเองจะเป็นอย่างไร หรือว่าไม่เคยคิด สัตว์เอ๊ยย
   ลุกมาเดินตอนเช้า จิบน้ำรางจืดอุ่นๆ เตรียมจักรยานเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ไม่รู้ตารางชีวิตตัวเองในวันนี้ว่าจะต้องไปส่งลูกตอนเช้าหรือเปล่า หยิบ Uke มาซ้อมเล่นไปเรื่อย เล่นนานๆ ชักเมื่อยข้อมือซ้าย ไม่ได้เล่นต่อเนื่องนานๆ สงสัยต้องวอร์มอัพให้ดี
   สักพักภรรยากลับมา พ่อแม่กำลังจะไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งพอดี พอรู้ว่าไม่ต้องไปส่งลูก ผมเลยอาสาขับรถให้พ่อแม่แทน นี่เป็นการขับรถให้อีกครั้ง ในรอบหลายเดือน
   แม่บ่นบอกเจ็บตรงฝ่าเท้า เลยพาแม่ไปลองนวด ยืดเส้น ที่ร้านขายลูกประคบดู ทำสักพักแม่บอกดีขึ้น รู้สึกสบายขึ้น แต่ผมดูปราดเดียวก็รู้ว่ามันมาแนวเดียวกับโยคะ การยืดเหยียดเส้นมันทำให้ร่างกายเรารู้สึกผ่อนคลายอยู่แล้ว แม่ไม่เคยเหยียดยืนเส้น พอมาโดนทำ ก็เลยรู้สึกสบายตัว ก่อนกลับเลยอุดหนุนกะลานวดเท้ามา 1 ชุด
   ผมเห็นแม่ชอบแนวนี้ เลยพาไปดูแท่นยืนที่ปรับพื้นเอียงได้ เอาไว้ยืดเส้นบริเวณขาโดยตรง พาพ่อแม่ไปลองก่อนซื้อ เจ้าของร้านบริการอย่างดีเยี่ยม จัดไปอีก 1 ชุด
   กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำกันร้านเดิมครับ น่าจะอร่อยสุดแล้วนะ เอ๊ะ จะว่าอร่อยสุดก็ไม่ได้ ต้องเรียกว่า “ถูกปาก” ดีกว่า เพราะคำว่าอร่อยของคนหนึ่ง อาจจะไม่ใช่กับอีกคนหนึ่ง ประสบการณ์ตรงของผมเองนี่แหละครับ ลองไปกินร้านที่แนะนำในเวป โหห เสียดายเวลาอย่างมาก ไม่ประทับใจเลยก็มีเยอะ
   นี่เป็นครั้งแรกที่มาตลาดน้ำแล้วไม่ซื้อขนมกลับบ้านเลยแม้แต่อย่างเดียว มีแค่สลัดแขกชุดเดียวเอาไว้กินตอนกลางวัน
   มาถึงบ้านก็เปิดทีวีติดตามข่าวคนราชดำเนินทันที สักพักล้างบ่อปลา และกำลังจะจัดการปะบ่อปลาพลาสติคที่รั่ว ใช้กาวปะยางจักรยานนี่แหละครับ พร้อมกับตัดยางในมาเป็นชิ้นๆ ละเลงกาวเตรียมพร้อมอย่างดี แต่พอกดปะแล้วมันไม่ยึดติดกับผิวที่เป็นพลาสติคของบ่อ อ้าว งงสิ ลองเอามือมาลูบๆ เฮ้ยย กาวแม่งไม่เหนียวเลยสักนิด
   กาวเสื่อม? หลายเดือนก่อนเคยเจอครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเป็นเกิดเหตุจำเป็นต้องปะยาง เห็นกาวเต็มหลอด พอบีบออกมากลับมีแต่ลม หลังจากนั้นผมเลยไม่ไว้ใจกาวปะ ต้องพกสติกเกอร์ปะของ Lyzene ไว้อีกชุด
   มาวันนี้เจอกาวเสื่อม เฮ้ยย งงว่ะ คิดบวกครับ ยังดีที่รู้ว่ามันเสื่อมตอนนี้ ดีกว่าไปรู้ตอนออกเดินทาง รับรองงานเข้า
   กลายเป็นปะไม่ได้ ขณะนั้นเองก็พลิกๆ บ่อปลาพลาสติคดู เห็นรูรั่วหลายรูเลย ปัดโธ่ บ่อมันคงเสื่อมสภาพหมดอายุเอาแล้วกระมัง ใช้มาได้เป็นปีแล้วล่ะ ตั้งแต่ลูกปลาคลอดออกมาล็อตที่สอง ผมว่าน่าจะสัก 2 ปีกว่าๆ
   เดินไปเดินมาดูทีวีติดตามข่าวการเมือง วันนี่น่าจะเป็นวันระดมพลครั้งใหญ่ การต่อสู้ของทางแกนนำก็ฉลาดดีครับ ย้ำเสมอว่าไม่ใช้อาวุธ สู้แบบอหิงสา
0200 เวทีของเสื้อแดงที่สนามกีฬาราชมังคลา คนร้าง !!! และมีแววที่จะยกเลิกการประชุม จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือจะคุยเอามันเอาฮาต่อหน้าชุมชน
   ตลอดเวลาก็มีชาวบ้านมาร่วมสมทบที่ราชดำเนินมากขึ้นเรื่อยๆ เขาตั้งเป้าไว้ 1 ล้านคน ไอเดียดีนะ ตรงที่แจกสติกเกอร์แบบมี running number ตั้งแต่เบอร์ 1 – 1,000,000 แบบจะได้มีหลักฐานว่าล้านจริง แจกจริง
   เอาใจช่วยครับ ประเทศไทยเราบอบช้ำมามากพอแล้ว สำหรับตัวเองนี่ก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะที่ไม่ได้ออกไปเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครั้งนี้ อย่างพฤษภาทมิฬนี่ผมก็ไป แต่ไม่ได้อยู่ตลอดหรืออยู่นานจนถึงวันแตกหักนะ แค่เอาจักรยานไปขี่สังเกตการณ์ จำได้เลย ตอนนั้นจักรยานนี่ยังไม่มีใครเขาฮิตกันเลย ผมขี่จักรยานนี่มีแต่คนมอง
   ตอนนั้นว่างด้วยไง ยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีลูก ยังแข็งแรง หลังไม่เจ็บ ขี่ลากยาวทั้งวันก็ทำได้สบายๆ
   เอาใจช่วยให้ทุกคนปลอดภัย และไม่ต้องมีเหตุรุนแรงนะ ผมไม่อยากสาปแช่งใคร เพราะคำพูดของตัวเองมักจะเป็นจริง ได้แค่เตือนว่ากฎแห่งกรรมมีจริงก็แล้วกัน
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on November 26, 2013, 03:17:10 pm
25 พย 56
   เช้านี้มิวไปเรียนเช้าเว่อร์ เขาบอกต้องถึงโรงเรียนก่อน 0620 เพราะจะไปชมการแสดงโขนที่ศูนย์วัฒนธรรม กลับเย็นๆ ให้ผมไปรับที่จุดนัดพบเวลาเดิม
   ผมถามพ่อเรื่องสมัย 14 ตุลา 2516 พ่อบอกคนก็พอๆ กับตอนนี้แหละ แต่ยุคนั้นมีแต่นักศึกษา ต่างจากวันนี้ที่มาจากประชาชนทุกสาขาอาชีพ ตอนนั้นแม้ผมจะเกิดแล้ว แต่ก็เด็กจนกว่าที่จะรับรู้อะไรได้
   วันนี้แกนนำผู้ชุมนุม สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจะเดินขบวนแบบดาวกระจาย มาแนวเดียวกับ 14 ตุลา เลย ยุคนั้นพวกนักศึกษาก็โดนขบวนประท้วง ชูป้าย ก่นด่ารัฐบาล
   วันนี้ชาวราชดำเนินเดินขบวนแบบดาวกระจาย 13 เส้นทาง หลักๆ ก็คือตามหน่วยงานต้นสังกัดของราชการ ตามกองทัพภาคต่างๆ ที่แปลกคือมีไปที่ตึกของฟรีทีวีที่โดนซื้อไปหมดประเทศแล้วทั้งช่อง 3 / 5 / 7 / 9 / 11 ไม่รู้มี ThiaPBS ด้วยไหม แต่เท่าที่ดูข่าวมาผมว่าช่องนี้เสนอข่าวของผู้ชุมนุมมากกว่าช่องอื่นเยอะมาก
   การเดินขบวนครั้งนี้ไปแบบมิตรครับ แม่งเท่มาก นำดอกไม้ นกหวีดไปมอบให้คนทำสื่อ ขอให้สื่อนำเสนออย่างเป็นกลาง ไม่ต้องไปกลัวว่าทักษินจะไม่ซื้อโฆษณา
   เฮ้ยย แม่งเหมือนหนังสือรถยนต์เลยว่ะพี่น้อง ยุคเก่าๆ ไม่มีใครกล้าวิจารณ์รถทดสอบกันเลย กลัวเขาจะไม่ซื้อหน้าโฆษณาไง บ้านเราอยู่ในวังวนแบบนี้มาเป็นสิบๆ ปี ผมว่ามีทุกวงการแหละ เขาซื้อหน้าโฆษณาเรา อุดหนุนเรา ก็เลยไม่กล้าวิจารณ์เขา
   แต่.. พวกมึงลืมอะไรไปแล้วหรือเปล่าครับ มึงเป็นสื่อหรือเปล่า หรือเป็นลูกน้องของพวกบริษัทรถมันไปเสียแล้ว พอนานเข้าพวกมึงก็ลืมจรรยาบรรณในการนำเสนอ พอปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ทำตัวกร่าง คิดว่ามึงเจ๋งสุดแล้ว
   ช่อง CNN รายงานว่ามีผู้มาร่วมชุมนุมถึง 2 ล้านคน !!! เฮ้ยย เยอะเว่อร์จริงๆ ถ้าได้ถึงล้านนี่ผมว่าเก่งแล้วนะ ในเฟซบุ๊คก็มีคนโพสโชว์สติกเกอร์หมายเลขของตัวเอง เห็นแล้วอยากได้บ้างจัง แต่เราไม่ได้ไปร่วม ไม่กล้าไปหามาแล้วแอบเท่หรอกครับ
   รถติดแบบโกลาหลครับ แต่บ้านผมอยู่ฝั่งธน รถโคตรจะโล่งเลย บ่ายเข้ามาบ้านก็ติดตามข่าวชาวราชดำเนินต่อ ไม่ได้ไปร่วม แต่ก็เอาใจช่วยสุดใจครับ
   0200 สุเทพ พามวลชนไปที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง บอกให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในตึก ไปนั่งเฉยๆ อย่าทำลายทรัพย์สิน
   เฮ้ยย นี่มันคือแผนการหรือนี่ ฉลาดมากๆ ตอนวันแรกที่มายึดราชดำเนินก็ทึ่งแล้ว วันนี้มายึดกระเป๋าตังของรัฐบาลได้แบบนิ่มๆ สุดยอดเกมกลยุทธครับ
   ในขณะเดียวกันที่ London ประเทศอังกฤษยังมีกลุ่มคนไทยไปยืนกดดันที่หน้าบ้านของทักษิน โอ้โห เจ๋งจริงครับพี่น้อง (ดูรูปได้ด้านล่าง)
   เย็นไปรับมิว เขาบอกไปดูโขนสนุกดี แต่เกือบหลับ ซื้อของที่ระลึกเป็นโมเดลกระดาษรูปทศกรรณ และกุมภรรณ เอามาอวดโชว์ แต่ผมบอกว่าให้เก็บไว้ อย่าเอามาตัดเล่น มันคื่อของที่ระลึก เขาไม่ได้ปรุกระดาษมาให้ เราตัดตามแบบได้ยากมาก
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on December 01, 2013, 05:56:03 pm
26 พย 56 เปิดตัว BMW Motorrad
   แต่งหล่อแต่เช้า แต่เพิ่งมาประจักษ์กับสายตาว่าตัวเองอ้วนอย่างไร้ที่ติเอาตอนหยิบชุดสูทมาใส่แล้วติดกระดุมไม่ได้ (ติดได้ แต่มันดึงจนเสื้อเป็นรอยยับ ไม่สวย)
   ฉิบหายแล้วครับท่านผู้ชม อีกสองวันข้างหน้าจะต้องไปงาน Motor Expo อีกด้วย นี่ขนาดเลือกสูทตัวใหญ่สุดแล้วนะนี่ เอาวะ มีอยู่ตัวเดียวนี่นา
   สถานที่จัดงานก็ทำเอาผมวุ่นพอควร เขาว่าชื่อ โพธาลัย เลเซอร์ ปาร์ค ก็เสิร์ชหาอยู่นาน ยังนึกแต่แรกว่าทำไมตั้งชื่อได้บ้านนอกขนาดนี้ เสิร์ชหาก็ไม่เจอภาพแผนที่อีกด้วยนะ แต่รู้ว่าอยู่แถวเลียบทางด่วนรามอินทรา
   อ่านผลเสิร์ชหลายๆ หน้าก็เจอครับ เจอแล้วหัวเราะก๊ากเลย เพราะสถานที่ชื่อ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค ผมอ่านผิดเองแหละครับ นี่ถ้าพิมพ์ภาษาอังกฤษคงไม่พลาด ของแท้คือ Leisure แต่เขาเขียนภาษาไทยเป็น เลเชอร์ ผมเลยอ่านเป็น Laser ซะ
   สรุปว่าได้แผนที่มาจากการ์ดแต่งงานของคนในเวป pantip.com เขามาโพสชวนแขกร่วมงาน ผมเลยได้อานิสงค์ และได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกว่า อยู่ใกล้ๆ กับบ้านยิ่งลักษณ์ อยู่ซอย โยธินพัฒนา 3
   ไปส่งลูกแล้วเลยไปงานเลย เขานัด 1000 บริษัท BMW ก็ใจดีนะ มีรถตู้บริการให้ด้วย โดยหากใครจะไปก็ให้ไปขึ้นรถตู้ได้ที่ตึก All season place ถนนวิทยุ รถออกตอน 0900
   คิดหนักสิ จากบ้านผมไปถนนวิทยุก็ต้องผ่านสาทร รถติดแบบเดินดีกว่า ไม่ต้องคิดมากเลย ยอมขับรถไปเองดีกว่า เมลล์ตอบเขาไปว่ายินดีไปร่วมงานด้วย 1 ท่าน จะเดินทางไปเอง เพราะขากลับผมขึ้นทางด่วนกลับได้เลยสะดวกมากๆ และหากเลิกงานเร็วก็อาจไปเดินเล่น CDC – Crystal Design Center ที่อยู่ใกล้ๆ กัน    
   ยอมรับเต็มปากว่านี่เป็นการมาร่วมงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก จุดประสงค์หลักก็คืออยากมาพบกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเขาครับ
   ย้อนหลังไปในปี 1999 ตอนนั้นผมไปเอารถ BMW 5 Series ไปทดสอบอยู่เกือบเดือน ขากลับ CEO ยังให้ลูกน้องหยิบเอากุญแจ BMW Z3 ให้ไปขับเล่นต่อ พูดปิดท้ายบอกว่า คันนี้ไม่ต้องเขียนลงหนังสือก็ได้ พี่ให้เอาไปขับเล่น
   และคนที่นำกุญแจมาให้ผมนั้นก็คือคุณพิสมัย แม้ CEO จะเปลี่ยนไปหลายคนแล้ว แต่คุณพิสมัยยังคงอยู่เหมือนเดิม ล่าสุดอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์สื่อสารองค์กร
   วันนี้ถนนโล่งแบบโคตรๆ ยิ่งกว่าวันหยุดเสียอีก ธรรมดาหน้าบ้านผมถนนพระราม 2 ช่วงใกล้ทางด่วนนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย รถติดหน้าด่านท้ายแถวยาวเป็นหลายกิโลเมตร แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น
   ต้องเป็นเพราะเหตุการเมืองแน่ๆ ไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกแล้ว ตอนแรกวางแผนว่าจะขับทางถนนวงแหวนอ้อมไปทางบางนา ไปจนถึงมอเตอร์เวย์ แล้ววกเข้าทางพระราม 9 ไกลโคตรๆ แต่ก็ยอม ดีกว่ารถติดหนักนานบนทางด่วน แต่เห็นถนนโล่งจัดแล้วน่าลุ้นน่าลอง เลยเปลี่ยนใจกะทันหัน ไปใช้ทางด่วนตามปกติ
   ขับแบบสบายเสียยิ่งกว่าวันหยุด โล่งไม่แพ้วันอาทิตย์ ทั้งๆ ที่มันคือเช้าวันอังคาร อะเมซิ่งสุดๆ ว่ะ มาชะลอตัวเล็กน้อยหน้าด่าน จ่ายเงินแล้วก็ไหลๆ ไปจนถึงสะพานแขวน พ้นแล้วก็อัดได้เลย โห เจ๋งว่ะ
   จากเดิมเผื่อเวลาไว้แล้วนะ กลายเป็นว่าผมใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นเองก็มาถึงจุดหมายแล้ว ก่อนถึงมีหลงเล็กน้อย เพราะไม่รู้จักซอย แผนที่ๆ ก๊อปมาไม่ได้สเกล เซ็งเลย
   ขับจนเลยซอย กำลังจะจอดถามทางชาวบ้าน เจอชายคนหนึ่งขี่ MTB มาเปิดร้าน เลยเช้าไปถามทาง เขาบอกอย่างละเอียด เลยทักเขาว่า “พี่ขี่จักรยานด้วยหรือครับ ผมก็ขี่เหมือนกัน” จากกันด้วยรอยยิ้ม
   และแล้วก็เห็นบ้านนายกหญิงคนแรกของไทย คนที่ไทยต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จริงๆ ต้องผ่านบ้านนายก มีตำรวจเยอะพอควร เลยไปอีกนิดก็เจอแล้ว จุดหมายของเรา โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค อยู่ด้านขวามือ
   ผมมาถึงตรงนี้ 0830 โอ้โห เช้าเว่อร์ๆ ยังไม่เห็นมีรถ BMW สักคันในงาน แสดงว่ายังไม่มีผู้ใหญ่มา อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่เลย ผมยังมาก่อนเจ้าหน้าที่ของเขาอีกหลายคนเลยด้วยซ้ำ
   นั่งเล่นในรถได้พักหนึ่งก็รู้สึกร้อน เข้าไปในงานดีกว่า ไปคนแรกก็เขินๆ หน่อย ไม่เป็นไร
   คนแรกแบบเว่อร์เลยครับ โต๊ะลงทะเบียนก็ยังไม่ได้จัดตั้งเลย จึงเดินดูรถมอเตอร์ไซค์ที่เขาจอดโชว์อยู่สิบกว่าคัน กระจายเป็นหย่อมๆ ผมดูไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ ไม่ได้เล่นรถมอเตอร์ไซค์ ให้ขี่ก็ไม่กล้าแน่ๆ กลัวทำรถเขาล้ม รถคันเบ้อเริ่มครับ 800 cc หนักอึ้งเลย ล้มแล้วลุกเองไม่ได้ชัวร์
   เดินไปเดินมาดูสถานที่ ยุคปี 2000 ผมออกแบบแพลทฟอร์มธุรกิจใหม่เป็นการให้เช่าสถานที่และบริการคล้ายที่โพธาลัยนี่เลย แต่ของผมมันเน้นแนวกีฬาเยอะหน่อย มีสนามแข่งรถ และกีฬาที่หาเล่นได้ยาก มีสนามยิงปืนด้วย และอีกสารพัดอย่าง ตอนนั้นผมโมโหโดนหักค่าคอมไป 5 ล้าน โดยไม่บอกล่วงหน้า โมโหมาก เลยคืนเงินแม่งไป 15 ล้านให้แก่นายทุน บอกอีก 5 ล้านอยู่ที่ลูกน้องพี่นะ ไปทวงมันเอง ผมไม่ทำแล้ว
   เบิกเงินก้อนแรกมา 20 ล้าน โดนยักไป 5 แล้วเงินอีกตั้งหลายก้อนที่เหลือ ผมต้องโดนอีกเท่าไหร่วะนั่น เห็นแววเจ๊งตั้งแต่แรก เลยขอลาจาก
   เห็นโพธาลัยก็เลยนึกถึงไอเดียเก่าของเรา เลยเล่าได้เยอะ ธุรกิจแนวนี้ต้องใช้ที่ดินเยอะมาก อย่างโพธาลัยเขามี 80 ไร่ ส่วนไอ้ที่ผมคิดตอนนั้นชื่อ Racing City มี 150 ไร่ และสามารถขยายไปรอบข้างได้อีกพอควร
   ยุคนั้นคิดชื่อแนว Racing ไว้หมดเลย มี Racing Pub / Drag Bar / Drift Lounge ฝันสลายหมดเลย เสียดายเหมือนกัน
   เดินเล่นวนๆ รอบสถานที่จนพนักงานเริ่มมา ผมลงทะเบียนคนแรก ได้เอกสาร เสื้อยืด และ CD พลิกอ่านดูผ่านๆ หนึ่งรอบก็เอาไปเก็บไว้ที่รถ ขี้เกียจถือ กลัวเอกสารยับ
   1000 ใกล้เปิดงานแล้ว มีเลี้ยงของว่าง ไม่ได้หิวหรอก แต่อยากลองชิมฝีมือว่าโอเคไหม จัดแซนวิชแฮมชีส และทาร์ตแอ๊ปเปิ้ล กินกับชาร้อน ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล รสชาติธรรมดามากครับ ไม่เด่นอะไรเลย ซึงตามคอนเสปของผม อาหารต้องรสชาติดีระดับห้าดาว เพราะเราจะดึงคนไง ก็ต้องเอารสชาติอาหารมาดึง
   1030 เปิดงานในห้องประชุม ผมนั่งแถวที่ 2 จากด้านหน้า ใจอยากนั่งแถวหน้า แต่จากประสบการณ์ เคยเจอหลายงานเขาขอแถวหน้าเอาไว้ให้สำหรับผู้บริหารนั่ง
   บรรยากาศก็เหมือนๆ งานรถยนต์ครับ ช่างภาพแต่ละสำนักมาก็รุมถ่ายแบบไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไหร่ แต่คิดอีกแง่ก็ดูเหมือนคนดังดีนะ ไอ้คนข้างหลังผมนี่กดยิงรัวดัง แพล็บๆ ๆ ๆๆ  ติ๊ดๆ ๆ ๆ  ถ่ายแบบเยอะโคตรเลย
   ไม่เป็นไรครับ งานใคร งานมัน ตอนผมทำข่าวก็แนวนี้เหมือนกันแหละ แต่เราจะเข้าไปดูสถานที่ก่อน วางมุมของภาพ จัดแสง วัดแสง ชดเชยแสง เช็คค่า ISO ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทั้งๆ ที่ผมใช้แค่กล้องคอมแพคธรรมดา
   สไตล์ผมไงครับ คือจะใช้ประสิทธิภาพในของที่เรามีอยู่ให้เต็มพิกัด ผมทำแบบนี้หมดกับทุกสิ่งอย่าง
   ตอนแรกผมคิดว่า Motorrad มันคือรุ่นของรถมอเตอร์ไซค์นะ กลายเป็นว่า Motorrad นี่แหละมันคือแผนกหนึ่งของรถมอเตอร์ไซค์ BMW ซึ่งประเด็นหลักในวันนี้คือเขาแถลงข่าวจะเปิดโรงงานประกอบรถ BMW / Mini / Motorrad ในที่เดียวกันคือโรงงานในนิคมอมตะ เป็นโรงงานแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่มีไลน์การผลิตทั้ง 3 อย่าง นี่คือไฮไลท์ที่เขาอยากสื่อสารออกไป
   แถลงข่าวไม่ยาวนักก็ให้ผู้สื่อข่าวสอบถาม แต่กลับตอบได้ไม่ชัดเจน เพราะยังไม่ได้ผลิตจริงไง เหมือนกับว่าทาง BMW ยังเตรียมข้อมูลมาตอบไม่แน่นพอ
   มีโชว์ Stunt Bike สนุกๆ จาก Christ Pfeiffer ชาวเยอรมัน มากับ BMW F800R โชว์กันสดๆ ต่อหน้าต่อตา เล่นแบบไม่พลาดสักท่า ผมชอบท่าที่เบรกหน้าแล้วล้อหลังยกแบบลากยาวๆ มาเลย เสียดายลานโชว์เล็กไปหน่อย รถเลยทำความเร็วไม่ได้มาก อ้อ มีท่าหนึงไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนคือท่าแบบจั๊มแนว BMX นี่แหละ ดึงรถทั้งคันลอยจากพื้นโดยไม่มีเนิน ลอยขึ้นมานิดเดียวนะ ไม่สูง แต่แม่งเจ๋งว่ะ
   โชว์เสร็จก็มีพูดคุยสัมภาษณ์และแจกลายเซ็น ผมยังได้กลับมาแผ่นหนึ่งเลย ไม่ได้เป็นแฟนมอเตอร์ไซค์เลยแม้แต่น้อย ฮ่าๆ
   กลางวันมีเลี้ยงอาหาร เลยได้ชิมอาหารคาวบ้าง รสชาติกลางๆ เหมือนพวกโรงแรมทั่วไป คนไทยอาจบอกมันเฉยๆ แต่ผมว่ารสชาติแบบนี้ฝรั่งกินได้และน่าจะถูกปาก (สำหรับฝรั่งมือใหม่นะ ถ้าเป็นพวกฝรั่งที่คุ้นอาหารไทยแล้วล่ะก็ รับรองเขาจะชอบรสจัดกว่านี้)
   เอาเป็นว่าให้คะแนนด้านสถานที่คือดี อาหารค่อนข้างดี ทำเลสถานที่ดีเยี่ยม เพราะใกล้ถนนใหญ่ เข้าออกสะดวก ใกล้ทางด่วน ถ้าใกล้รถไฟฟ้าด้วยจะเฟอร์เฟค
   1230 งานจบแล้ว ผมขอตัวกลับ ก่อนกลับไปไหว้พี่พิสมัยเพื่อลา ถามเขาว่าให้ผมติดต่อเขาที่บริษัทได้เลยใช่ไหม เขาเลยนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้แจกนามบัตรให้ผม ว่าแล้วก็หยิบออกมาให้ ผมยื่นมือไปรับแบบดีใจ เพราะนี่แหละครับมันคือจุดประสงค์หลักของผมในการมางานวันนี้ ในการติดต่อขอรถทดสอบ ผมต้องติดต่อกับพี่พิสมัยคนนี้เลย
   ขับรถออกมานิดเดียวรถก็ติด เฮ้ยย งงสิ เห็นทหารผ้าพันคอแดงเยอะแยะอยู่รายล้อมบ้านนายก รอบนอกถัดออกมาเป็นพวกผ้าพันคอฟ้า และมีกลุ่มเสื้อแดงที่ย้ายมาจากสนามราชมังคลากลุ่มเล็กๆ มาปราศรัยอยู่ริมถนนใหญ่ นัยว่าเอาไว้กันมวลชนจากราชดำเนิน คือหากจะเข้ามาก็ต้องผ่านหลายด่าน ผ่านเสื้อแดง ผ่านทหารสีฟ้า สุดท้ายคือทหารสีแดง โอ้ ชีวิตแม่งจะมีความสุขไหมวะนี่
   คนที่ผมสงสารเป็นที่สุดตอนนี้คือลูกชายของยิ่งลักษณ์นี่แหละครับ เขาไม่ได้เด็กเล็กๆ แล้ว ตอนนี้ได้ข้อมูลรับรู้ความเลวชาติชั่วของตระกูลตัวเองแบบชัดๆ มันคงจะจำไปตลอดชีวิต
   ในซอยก็มีการปิดกั้นถนนให้รถเข้าออกได้ทางเดียว จากเดิมเป็นซอยลัดทะลุได้ รถมันก็เลยยิ่งติด ปัดโธ่
   ผ่านพ้นออกมาได้ก็กลับบ้านเลยดีกว่า ไม่แวะ CDC แล้ว เดี๋ยวม็อบมาแล้วตำรวจปิดถนนผมจะกลับไปรับลูกไม่ทันเอา ขับเลียบทางด่วนไปเรื่อยๆ พบว่ามีซอยเล็กซอยน้อยสองข้างทางเยอะจริงๆ มันตัดผ่านชุมชนหลายแห่งด้วยไง รถก็เลยมาใช้กันมากจนรถติดเป็นประจำ
   ขับไปเรื่อยๆ จนถึงทางด่วน แต่จุดนี้ต้องใช้ทางด่วน 2 ต่อกว่าจะถึงบ้าน พอขึ้นทางด่วนได้ก็โล่งเลยครับ วันนี้เอารถพ่อคันเก่ามาใช้ แต่ไม่อยากอัดแรงๆ กลัวเปลืองน้ำมัน กลางทางเห็น Mercedes Benz SL65 AMG แต่งซะรถเยอรมันกลายเป็นรถญี่ปุ่น ท่อไอเสียก็ดังแบบแตกๆ เหมือนรถสองแถว ฮ่วย …
   บ่ายมีเปิดตัว Nissan Juke หลายคนไปร่วมงาน แต่ผมไม่มีบัตรเชิญ เข้างานไม่ได้ อดไป รถคันนี้น่าสนใจมากๆ เป็น Mini Crossover จำได้ไหมหลายเดือนก่อนแล้วผมเคยบอกว่า Suzuki SX4 เป็น Mini Crossover คันเดียวในตลาด น่าแปลกที่ไม่เน้นขาย กลับไปดัน Swift แทน แล้วเป็นไงล่ะ มาวันนี้เจอ Juke เปิดตัวมาราคาพอๆ กับ SX4 เลย เจอ Juke มา เลยจุกเลย
   เย็นมีฝนตก นั่นแปลว่าด้านเหนือของเราจะเริ่มเย็น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปีก็พอจะเดาๆ ออก (ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นฝนจากพายุนะ)
   เย็นไปรับมิว วันนี้เขานัดที่ร้านหนังสือในห้างเซ็นทรัล จัดไปครับ มีห้างใหญ่อยู่ใกล้โรงเรียนก็ดีอย่างเสียอย่าง
   กลางคืนมีข่าวตำรวจจะสลายม็อบที่กระทรวงการคลัง ประชาชนต่างขับรถของตัวเองมาจอดขวางเกะกะเต็มถนนจนตำรวจทำงานไม่ได้ รถตำรวจที่อยู่ใกล้ๆ ก็โดนปล่อยลมยางคันละแค่ 1 ล้อ และควบคุมตำรวจให้อยู่ในที่สงบในปั๊มน้ำมัน
   เออ ฮาดีว่ะ ม็อบนี้น่ารักโคตร
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on December 01, 2013, 05:57:14 pm
27 พย 56
   เล่น Uke ยามเช้า จิบน้ำอุ่น ดูปลา อืมม ไม่ได้ขี่จักรยานอีกแล้วสินะ ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันนะ มันรู้สึกว่าเบื่อๆ ชีวิตยังไงก็ไม่รู้ ฝันอะไรไว้เยอะแยะมากมาย แม่งไม่ได้ทำสักอย่าง อยู่ร้านขายของก็มีแต่เบื่อๆ กลับบ้านมาเจอลูกดื้อๆ ก็เลยสติแตกมั้ง
   คิดบวก คิดบวก กูบวกมากจนเป็นคูณแล้วว่ะ
   ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าการติดตามข่าวม็อบครับ สุเทพเดิน 17 กม ไปจนถึงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแล้วก็ยึดอีกเช่นเคย คราวนี้ได้พื้นที่ใหญ่แถมไม่เกะกะถนนเหมือนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีกด้วย
   กลุ่มของสุเทพเป็นที่น่าสนใจที่สุด เพราะเป็นแกนนำ แต่ก็มีอีกหลายกลุ่มเข้าไปยึดกระทรวงต่างๆ ด้วยตนเองโดยไม่มีผู้นำม็อบ เออ เอากับเขาสิ ทางต่างจังหวัดนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เล่นยึดศาลากลางจังหวัด โดยเฉพาะทางใต้ที่กวาดไปเยอะมากเกือบทุกจังหวัดแล้ว
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on December 02, 2013, 04:39:49 pm
28 พย 56 Motor Expo
   เช้านี้ไปส่งลูกแล้วเลยไปงาน Motor Expo ทันที ถนนทางด่วนโล่งๆ มา 2 วันคงจะเพราะกลัวม็อบเลยไม่เอารถยนต์ออก แต่พอมาวันนี้รถเริ่มหนาแน่นอีกแล้ว แต่ก็ยังคงโล่งกว่าตอนสถานการณ์ปกติ
   รถติดแค่หน้าด่านจนถึงสะพานแขวนแล้วก็เริ่มโล่ง ขับแค่ 30 นาทีก็ไปถึง Impact แล้ว ไปถึงก็จอดใต้อาคารก่อนเลย รับบัตรมาแล้วช็อกในราคาค่าจอดชั่วโมงละ 30 บาท หึหึ
   มาถึงงานตั้งแต่ 0830 ครับ กด Check In ใน Facebook เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าผมมาถึงแล้ว หากเพื่อนๆ พี่น้องคนใดจะมางานก็จะได้มาเจอกันหน่อย
   ก้าวแรกที่เข้าไปในงานก็ต้องไปลงทะเบียนก่อนครับ ผมลงทะเบียนออนไลน์ไว้นานหลายเดือนแล้ว แค่ไปแจ้งชื่อ เขาก็จะส่งมอบของใช้จำเป็นสำหรับยังชีพนักข่าวมาให้ 1 ชุด
   ประกอบด้วย บัตรประจำตัวนักข่าวแบบพิมพ์ชื่อเราลงในบัตรเลย ตารางกำหนดการเปิดตัวของรถแต่ละค่าย หนังสือรวมรถทุกคันในปี 2014 ใบแถลงการณ์ของผู้จัดงาน คูปองอาหารกลางวัน 150 บาท ใช้ในฟู๊ดเซนเตอร์
   ลงทะเบียนเสร็จก็เข้าไปในห้อง Press Center ที่อยู่ติดๆ กัน ห้องนี้ถือว่าเป็นฐานของบัญชาการของพวกนักข่าว เพราะมีทุกอย่างที่เราต้องการ เริ่มจากล็อคเกอร์สำหรับฝากของ และของว่าง ชา กาแฟ บะหมี่ถ้วย เค๊กกล้วยหอม
   ผมกินชาเขียวไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม กับเค๊กกล้วยหอม ปกติปีก่อนเขาจัดห้องเลี้ยงรับรองของว่างนี้ไว้อีกห้องหนึ่ง แต่สงสัยจะโดนมั่วดริ๊ง ปีนี้เลยมาจัดเป็นมุมเล็กๆ ในห้อง Press Center นี่แหละ
   ทีแรกผมเห็นห้องนี้แล้วยังไม่เข้าไปนะ ก็เราไม่มีธุระที่จะต้องใช้คอมฯ ไง แต่พอเดินหาห้องรับรองไม่เจอก็เลยหมดมุขไม่รู้ทำอะไรต่อดี เลยกะจะเข้าไปเดินเล่นในห้องนี้สักหน่อย แล้วก็ถึงบางอ้อ มันมาหลบอยู่ในห้องนี้เอง
   ได้เจอเพื่อนเก่าที่เป็นนักข่าวหลายคนครับ ที่สนิทสุดก็คือกลุ่มของคนที่เคยอยู่กับนิตยสาร ThaiDriver เก่า กลุ่มนี้ช่วยผมอย่างมากตอนทำ Racing Club เพราะผมไปแบบตัวคนเดียวเลย ผมจ้างให้ทีมของเขาช่วยผลิตให้ทุกขั้นตอน
   ผมเข้างานตั้งแต่ก่อน 1000 ตอนแรกพนักงานหน้าประตูห้าม แต่พอเห็นบัตรมีแถบสีทองก็เลยปล่อยให้ผ่านเข้าไป (บัตรปกติจะเข้าได้ตอน 1000) ไปถึงก็รู้สึกเหมือนบรรยากาศคืนสู่เหย้า เหมือนกับว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
   เดินดูรอบๆ งานด้วยความตื่นตาตื่นใจ แต่ผมว่ารถที่น่าสนใจจริงๆ มีแค่ไม่กี่คัน ทั้งงานน่าจะมีไม่ถึง 20 คัน อย่าง Toyota ก็มี Yaris Honda ก็มี Odessey Nissan นี่ต้อง Juke เลย Ford ก็มี 2 คัน คือ New Fiesta ที่ใช้เครื่อง Eco Boost และ Ford Eco Sport Volvo มี V40 Cross Country และอีกมาก
   คู่กับรถก็คือสาว Pretty ที่ผมไม่ค่อยได้ให้ความสนใจมากนัก กลับรู้สึกไม่ชอบด้วยซ้ำ ถ้าบางคนแต่งแบบสวยน่ารักก็พอได้ แต่หลายค่ายแม่งเน้น SEX ล้วนๆ เลย โดยเฉพาะค่ายมอเตอร์ไซค์ ขนาดไม่กล้าไปยืนในกลุ่มคนดูเลยน่ะ รู้สึกอายแทนที่ตัวเองจะไปยืนตรงนั้น
   ที่มาแปลกกว่าปีอื่นก็คือมีบูธของการไฟฟ้ามาด้วย เปิดตัวระบบชาร์จไฟ บ๊ะ นั่นแสดงว่า EV จะมาแล้วหรือนี่ หรือจะส่งสัญญาณบอกค่ายรถต่างๆ ว่า ระบบชาร์จของฉันพร้อมแล้วนะ พวกเอ็งนำ EV เข้ามาได้เลย แต่ไม่มีใครมั่นใจหรอกนะ จนกว่าจะได้เห็นแผนการจัดตั้งสถานีชาร์จไฟอย่างเป็นทางการ
   เจอรถสวยๆ ผมก็ซ้อมมือถ่ายรูปไปเรื่อย เอากล้อง Compact ไป ผมเน้นความคล่องตัว ไม่ถนัดพกกล้องใหญ่เลนส์โต ไม่ใช่ช่างภาพอาชีพ แต่อยากเป็นนักทดสอบรถมืออาชีพ เลยต้องมองรถด้วยความละเอียดอ่อนกว่าชาวบ้าน และถ้าได้ทดสอบขับ ก็ต้องขับแบบสุขุมรอบคอบถึงจะได้ข้อมูลกลับมา
   เมื่อยขาก็ไปนั่งพักที่ค่าย Mercedes Benz ผมมีเพื่อนสนิทมากสุดอยู่ที่นี่ และยังโชคดีได้พบรุ่นน้องชื่อเบิร์ท ปัจจุบันอยู่ Benz Leasing เมื่อก่อนคุมอยู่ Daimler Chrysler (ชื่อเก่า) ตามด้วย Mitsubishi Motors และไปจบที่ Hyundai จนมันรีไทร์ตัวเอง
   เบิร์ทเป็นรุ่นน้องไอ้บี๋เพื่อนสนิทมากของผม รู้จักตั้งแต่เขาเรียนอยู่จุฬา เป็นคนเรียบร้อยมากๆ พูดจาลงท้ายครับๆ ทุกคำ บุคลิกดี หน้าตาหล่อเหลา แน่ล่ะ สาวๆ เพียบ
   ค่าย Mercedes Benz มีรถเด่นคือ A Class เข้าไปนั่งแล้วชอบมาก วัสดุดี นั่งสบาย อารมณ์ซิ่งนิดๆ ไปลองรถในพิกัดใกล้เคียงกันคือ BMW Series 1 แค่หย่อนก้นก็เห็นถึงความต่างอย่างชัดเจน สั้นๆ เลยนะ A Class ทำได้ดีกว่าทุกอย่างครับ ทุกอย่างจริงๆ ไม่นับการขับนะ เพราะ Series 1 เขาเป็น FR ส่วน A Class เป็น FF
   หันรีหันขวางก็ไปเจอเพื่อนเก่า Mazda MX-5 ครับ เข้าไปนั่งแล้วรู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่า ผมคุ้นกับ MX-5 เป็นอย่างมาก โดยส่วนตัวชอบมันมากๆ อีกด้วย ติดที่มีแต่เกียร์ AT
   แล้วก็เจอรถที่ผมคิดว่า Cockpit ออกแบบได้พร้อมซิ่งมากที่สุด นั่นคือ Hyundai Veolster ครับ กระจกมองข้างเยี่ยม ชัดเจน มุมมองจากคนขับแจ๋ว เท่ตรงมี 3 ประตูแบบไม่สมดุล ผมว่าคนที่จะขับไอ้คันนี้ได้นี่มันต้องมั่นใจสุดๆ เลยว่ะ เพราะราคาก็ล้านแก่ๆ แล้ว เพิ่มอีกนิดอัปไปเล่นตัวอื่นได้อีกเยอะ
   ไอ้คันนี้ผมชอบมากสุดตรงตำแหน่งคนขับครับ เป็นรถคันเดียวที่สามารถใช้หัวเข่าซ้ายยันที่อุโมงค์กลางได้
   คนไม่เข้าใจอาจไม่รู้ว่ามันสำคัญอย่างไร บอกได้เลยครับมันมีไว้ยันตอนเข้าโค้งครับ ขับอัดเข้าไปเต็มๆ แล้วใช้เท้ายัน จะทำให้รับรู้การตอบสนองของรถได้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะ
   น่าแปลกใจในค่าย BRG ขายรถนำเข้า บูธใหญ่มาก ผมเห็นรถคันโปรด Toyota FJ แม้จะออกมาหลายปีแล้ว แต่พบเห็นน้อยไง เลยไม่เกร่อ ตรงเข้าไปดึงมือเปิดประตู
   เสียงดัง “ปั๊ก” แม่งล็อค !!!
   เฮ้ยย นี่วัน Press Day รถ Porsche คันละ 15 ล้านเขายังเปิดต้อนรับ แต่ค่ายนี้ล็อครถ ลูกน้องแกจะมาขายอย่างเดียวเลย ในมือถือแต่ใบราคา เจอแบบนี้รีบชิ่งเดินออกทันที
   รถใหญ่แนว Van ผมยกให้ Honda Odessey ราคาเกือบ 3 ล้าน  แพงกว่า Step Wagon Spada ราว 1 ล้าน ใหญ่กว่านิดหน่อย เบาะแถวกลางดีกว่าเยอะ คันนี้เลือกง่าย เพราะเงินถึงเลือก Odessey ได้เลย แต่เหนื่อยหน่อยนะ เพราะต้องสู้กับพวก Alphard และ Velfire
   และแล้ว Mini Crossover ที่เด่นสุดในงานก็คือ Nissan Juke ไอ้ไฟหน้ากลมๆ นี่ถ้าใครไม่ชอบก็เกลียดกันไปข้างหนึ่งเลย น่าเสียดายตำแหน่งนี้นะ เพราะค่าย Suzuki เขามี Mini Crossover มานานหลายปี แต่ตัวเองดันไม่สนใจทำตลาดเสียนี่ มันคือรุ่น SX4
   เสียดายที่ไม่ได้ดู Ford Eco Sport อย่างใกล้ชิด เพราะดันเอาไว้วางไว้บนแท่นหมุน เป็นรถที่ผมให้ความสนใจมาก ชอบในเทคโนโลยี Evo Boost ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.0 Turbo
   เดินไปเดินมาเจอ “เต๊อะ” เจ้าของค่าย AAS คนนี้ผมรู้จักเก่าแก่มาก บอกตามตรงเลยนะว่าหากตอนนั้นรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของ AAS ผมคงไม่กล้าไปพูดคุยด้วยแน่ๆ รู้จักกันครั้งแรกเต๊อะมากับ “พี่แมน มานิต” มาร่วมงานแข่ง Autocross
   เต๊อะชอบกีฬายานยนต์อย่างมาก มาร่วมงานแข่งหลายครั้ง และมารู้อีกทีตอนเขาให้ผมไปช่วยสอนเซลล์ของเขาขับรถ Porsche ขับแบบฟรีเซนต์รถน่ะครับ ไม่ได้ขับแบบเน้นสมรรถนะแต่อย่างใด
   นี่ผมว่าหากไม่มีงานทำจะขอไปเป็นเซลล์ขาย Porsche นี่แหละวะ ฮ่าๆ
   “ดนัย” โทรมาหา บอกว่าจะมางานด้วย แต่ไม่มีบัตรเข้า ผมตอบว่ามาได้เลย เดี๋ยวหาให้ แล้วอีกแป๊บเดียวก็ได้เจอกัน แยกกันเดิน แบ่งกันดู สไตล์ของใครของมัน คุณชอบผมอาจไม่ชอบ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เมื่อยขาก็มาเจอกัน ดนัยพาผมนั่งที่บูธ BMW อยู่พักใหญ่
   ที่บูธนี้ผมเจอกับ “พี่พิศมัย” จากค่าย BMW อีกครั้ง เพิ่งเจอกันสองวันก่อนเอง ได้เจอกันอีกแล้ว ดีใจๆ ที่ดีใจก็เพราะผมต้องติดต่อพี่คนนี้แหละครับในการขอยืมรถทดสอบ
   เย็นแล้วล่ะ แต่ยังเดินไม่ทั่วงานเลยนะ ทางฝั่ง Accessory นี่ยังไม่ได้ก้าวผ่านเข้าไปเลย ยังมีอีกหลายบูธที่ผมรู้จักและสนิทเช่น Meng Header
   ต้องกลับไปรับลูกครับ เลยขอตัวแยกกับดนัย รีบขับรถกลับบ้านทันที ดีที่รถไม่ติดครับ ใช้ทางด่วนที่อยู่ในอิมแพคเลย สะดวกมากๆ ส่วนภายนอกทางด้านแจ้งวัฒนะก็คงรถติดเยอะหน่อย เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยึดศูนย์ราชการไว้
   วันนี้เป็นวันสุดท้ายของภาคเรียนที่ 2 ของมิวพอดี เขาจะเลิกเรียน 0200 แต่เด็กๆ นัดกันไปดูหนังเรื่อง Thor ผมอนุญาตให้เขาไปได้ จะได้เลิกตอนเย็นๆ พอดี ผมไปถึงจุดนัดพบตรงเวลา แต่มิวไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป ผมเลยยืนรออยู่ราว 1 ชม เห็นผิดปกติ ก็เลยโทรเข้าเบอร์เพื่อนเขา ปรากฏว่าทั่งกลุ่มนั่งกินอาหารกันอยู่
   เลยบอกมิวว่าให้คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้าง เรานัดกันแล้วลูกมาช้าก็ต้องโทรมาบอก นี่ไปนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แต่ปล่อยให้พ่อยืนคอยอยู่นานมาก
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22... 28 Motor Expo
Post by: O'Pern on December 02, 2013, 04:46:35 pm
29 พย 56
   ตื่นมาแบบขี้เกียจลุก เมื่อคืนหมาของข้างบ้านเห่าหอนจนนอนไม่หลับ แต่ภรรยากับลูกบอกว่าไม่ได้ยิน แถมนอนหลับสบายดี
   จิบน้ำอุ่นแล้วเล่น Uke สักพัก เดินไปเดินมาในบ้าน ดูปลา กินข้าวอาบน้ำ ไม่ต้องไปส่งลูก เขาปิดเทอมแล้ว ขับรถไปทีทำงานเลย นี่แหละ เช้านี้มีแค่นี้เอง
   เช้านี้เย็นน้อยลงมาก พอแดดออกก็ลืมไปเลยว่าเคยเย็น ตลอดวันมีแต่แดดแรงจัด ข่าวฮอทไม่เลิกก็คือม็อบการเมือง คนเชียร์กันเยอะ คนไม่เข้าใจก็บอกน่ารำคาญ
   ม็อบบุกกองบัญชาการกองทัพบกได้แล้ว ไล่ยึดไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มีกลายกลุ่มหลายก้อนมากแล้ว ทั้งที่มัฆวาน สะพานผ่านฟ้า ราชดำเนิน กระทรวงการคลัง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ต่างจังหวัดก็ศาลากลางจังหวัด
   กลางวันมีชุมนุมเป่านกหวีดที่ถนนเพชรบุรี หน้าตึกชาญอิสสระ แล้วก็เดินไปป่วนหน้าพรรคเพื่อไทย    กลุ่มนี้เป็นกลุ่มของนักธุรกิจสีลม ไม่ได้ไปยึดที่ไหนเป็นหลัก ไปแค่ปลุกกระแสคนเกลียดตระกูลชิน
   ค่ำนี้ยิ่งต้องจับตามมองนโยบายของสุเทพ มันมีเกมแบบล้ำลึกแน่นอน ผมไม่กล้าเดา อย่างเมื่อคืนสุเทพก็ด่ากรณ์อย่างเสียๆ หายๆ ทั้งๆ ที่เป็นคนพรรคเดียวกัน ผมว่าเขากำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง
   ดูถ่ายทอดสดตามเวลาทีต่างๆ แล้วไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อน เพราะคนเด่นๆ เขากระจายกันไปคุมแต่ละเวที
   พระคุ้มครองทุกท่านครับ
Title: Re: พย 56 เปิดตำนานคนเดือนพฤศจิกา 56 ที่ราชดำเนิน 22...
Post by: O'Pern on December 02, 2013, 04:47:53 pm
30 พย 56
   อากาศหนาวเย็นละลอกใหม่มาอีกแล้ว วันนี้เย็นอย่างเห็นได้ชัด อยู่ กทม ร้อนๆ พอมาเจอลมเย็นๆ นี่สดชื่นดีจริงเลย
   เช้าไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า เขาไปเรียนพิเศษ ส่วนผมก็เฝ้าร้านขายของ มียกของบ้างประปรายพอขำขำ จนถึงบ่ายก็ว่างเล็กน้อยก่อนมิวเลิกเรียน เข้าไปคอนโดจะทำความสะอาด แต่พอจอดรถเท่านั้นแหละ มิวก็โทรมาเรียก บอกว่าเรียนเสร็จแล้ว
   เฮ้ยย ตกใจสิ ตอนนี้เพิ่งแค่ 0130 เอง รับสายเสร็จก็ติดเครื่องเพื่อไปจุดนัดพบ ปัด
โธ่เอ๊ยย เพิ่งมาถึงแท้ๆ
   อีก 30 นาทีก็ไปถึงจุดนัดพบ มิวแต่งชุดสุดเท่หิ้วกระเป๋านักเรียนแบบหนังสีดำ วันนี้ต้องไปเรียนคุมองต่ออีก ตอนมิวเรียนผมก็เดินเตร็ดเตร่ในห้างเกือบ 3 ชม ไม่ได้นั่งเลยแม้แต่น้อย อาการปวดหลังเริ่มมาอีกแล้ว นี่ขนาดสะพายเป้เบาๆ แล้วนะนี่
   นัดพบมิวในร้านหนังสือ เลยยืนอ่านหนังสือรอ ก่อนหน้านั้นเดินผ่านขนมของกินเยอะแยะ แต่ก็ตัดใจไม่ซื้อ เริ่มอยากผอมอย่างจริงจังแล้วว่ะ ต้องสะกดจิตอยู่นานเลยนะ คิดในใจว่าไอ้ขนมของกินพวกนี้เมื่อไหร่อยากกินก็มาซื้อได้ง่ายๆ เลย ตอนนี้เอาให้ผอมลงก่อนดีกว่า เพื่อสุขภาพ แต่งตัวจะได้หล่อๆ หน่อย นี่หุ่นตุ้ยนุ้ยขนาดใส่สูทยังฟิตเลย
   ถึงบ้านเอาราว 0600 ผมเปิดทีวีเช็คข่าวราชดำเนิน ส่วนมิวคว้าไอแพดไปเล่นตามเคย
   กลางคืนลุ้นราชดำเนิน สุเทพประกาศแผนพรุ่งนี้ ซึ่งก็ออกแนวเดิมๆ คือไปยึดกระทรวงต่างๆ ยังใจดีบอกกระทรวงที่จะไปด้วยนะ แต่มีอีกหลายเส้นทางที่บอกว่าจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ไม่รู้จะเดาไปไหน แต่ผมว่าไม่ใช่บ้านยิ่งลักษณ์แน่นอน
   
   เย็นนี้ที่ราชมังคลากีฬาสถานพวกเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ แสดงแสนยานี้ที่ราชมังคลากีฬาสถานพวกเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ แสดงแสนยานุภาพ พร้อมๆ กับนักศึกษารามตั้งเวทีประท้วงรัฐบาล โอ้ ประจันหน้ากันชัดๆ แบบนี้
   เสื้อแดง VS นักศึกษารามฯ
   คืนนี้จะเป็นคืนแห่งไฟ !