ท่านเชื่อฟอเวิร์ดเมลล์อันนี้หรือไม่
ลองคิดดูว่าทำไม เตาไมโครเวฟ จึงมีโทษ
>> >
>> >
>> > ลองคิดดูว่าทำไม เตาไมโครเวฟ จึงมีโทษและหากมีโทษ
>>ทำไมรัฐบาลจึงไม่ห้ามการวางขายในตลาด
>> > และมีการเปรียบเทียบอย่างหนึ่ง อาจอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ กล่าวคือ
>>หากคุณวางกบตัวหนึ่งลงใน
>> > กระทะที่กำลังตั้งไฟร้อนๆ กบจะกระโดดหนีออกจากกระทะทันที
>>แต่ถ้าใช้เทียนไขค่อยๆ ลนกระทะใบนั้น
>> > ให้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ตอนเริ่มต้นกบจะยังไม่รู้สึกถึงความร้อน
>>แต่พอเริ่มรู้สึกและอยากกระโดดหนี ขาก็จะ
>> > โดนละลายติดกับกระทะ จนหนีไม่พ้น ปัจจุบันเตาไมโครเวฟ
>>ก็เหมือนเทียนไขเล่มนั้น คนที่ใช้ก็เหมือนกบ
>> > ตัวนั้น กว่าจะรู้ตัวว่า ถูกละลายติดหนับ ก็อาจสิบ
>> > หรือยี่สิบปีผ่านไปแล้ว
>>แต่จะช้าหรือเร็วต้องถูกยึดติดขา
>> > ไว้แน่...
>> > ในการให้เลือดของโรงพยาบาล ต้องเอาเลือดที่นำออกจากตู้เย็น
>>ไปอุ่นให้ร้อนเสียก่อน ก่อนที่จะฉีดให้
>> > คนไข้ เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัดเวลา
>>ใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นอุณหภูมิของโลหิตนั้น ปรากฏ
>> > ว่าพอฉีดเข้าในร่างกายผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที
>>จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวดในโรง
>> > พยาบาลทุกโรงพยาบาล ห้ามใช้เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด
>>ตั้งแต่นั้นมาบนฉลากขวดนมสำหรับ
>> > เลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด
>>เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟ
>> > จะไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหมด
>> > ผลร้ายที่เกิดเนื่องจากไมโครเวฟนี้
>>มีรายงานมากมายที่ทำ
>> > ในประเทศรัสเซีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์
>> > แต่มีน้อยมากที่ทำในสหรัฐอเมริกา
>>เนื่องจากการวิจัย
>> > ในสหรัฐส่วนใหญ่ จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า
>>มิฉะนั้นจะไม่ค่อยมีคนทำตาม รายงานใน
>> > รัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟ จะทำให้คลื่นสมองลดลง
>> > สมองเสื่อม
>>ทำให้คลื่นสมองมี
>> > ความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งแล้ว
>>ยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่
>> > ได้ คลื่นในระยะยาวจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง
>> > และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ
>>ในผักเปลี่ยนเป็น
>> > อนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย ยังมีคลื่นอื่นๆ
>>อีกหลายตัวในไมโครเวฟที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหาร
>> > เปลี่ยนไป และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง
>> > การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อมะเร็ง
>>เป็นจำนวนมาก
>> > เนื่องจากสารบำรุงในอาหารถูกทำลาย ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร
>>ทำให้ร่างกายอ่อนแอ การรับ
>> > ประทานอาหารแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความจำเสื่อม ขาดพลัง
>> > ทางที่ดีหากเป็นไปได้
>>ใช้ให้น้อยที่สุด
Source : from O'Pern's mailbox