โดยส่วนตัวเข้าใจว่า Drift ในความหมายของ Keichi Tsuchiya อาจจะเป็นอะไรที่คนทั่วไปรู้จักกันดีเกี่ยวกับเค้า เป็นธุรกิจก็ว่าได้ (Tsuchiya มีกิจการของแต่งรถ เป็นนักขับใน VDO ต่างๆ Drift เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าที่ดีมากของเค้า) จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง Drift แต่ว่าเวลาเค้าขับรถแข่งแบบมืออาชีพขับจริงๆ (เค้าขับรถแข่งมาเยอะแต่ที่เคยเห็นเค้าขับ ใน DVD ก็Honda NSX, McLaren F1 GTR, Toyota GT1) นั้นขับแบบนิ่มๆ Smooth, Fluid Motion อย่างเดียว เพราะนั้นเป็นวิธีการขับที่เร็ว ถ้า Drift คงโดนไล่ออกไปนานแล้ว
ถ้าเข้าใจว่ายางทำงานอย่างไร เข้าใจเรื่องของ Slip Angle, Cornering Force, Load เคยเห็นและเข้าใจกราฟของค่าต่างๆที่พูดมา จะพบว่าทุกครั้งที่ Drift นั้นช้าเสมอ
Drift ไม่ได้ไร้ประโยชน์ เพราะเวลารถเสียการควบคุมการจาก"ไปให้เร็วที่สุด" ก็สามารถประคองกลับมาขับต่อได้ เสียเวลาน้อยกว่าการกลับรถเวลารถหมุน หรืออาจจะรอดจากการตกเขาก็ได้เวลาแข่งบนเขา
ตัวอย่างที่ดีของการขับแบบไปเร็วที่สุดคือดูจากพวกรถแข่งที่เป็นรถแข่งระดับมืออาชีพจริงๆ เช่น F1, A1, GP2, Champ Car, IRL, DTM, F3, WTCC, Super GT (JGTC),Le Mans, ELMS, ALMS หรือ BTCC คือไปแบบไหลลื่น ราบเรียบ ไม่หวือหวา ไม่มีออกอาการใดๆทั้งสิ้น ไม่มี Oversteer, Understeer, Power Slide มีแต่ Neutralsteer (ยกเว้น ใน GP2 สนาม Monaco ที่ Adam Carroll ขับชนะ....ด้วยรถที่เป็น Oversteer เนื่องด้วยทางขดเคี้ยว) ลองดูที่ F1 ควอลิฟายแบบ Single Lap เวลาที่รถผิดไปจาก Neutral นิดเดียว นักขับจะออกอาการเซ็งสุดๆ เพราะรู้ว่าช้า