คือผมไม่แน่ใจว่าเรื่องที่ 7 บอกมาจะมา comment หรือว่าถามผมกันแน่นะ แต่
ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากมาย สิ่งที่ผมเข้าไปเรียนมาเต็มๆ 15 วัน ด้วยดัวเองและ
ด้วย อาจารย์ต่างๆ ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟัง ในเชิงของ ชีวิตทางโลกกันมากกว่า
ส่วนเรื่องปราชิท หรือว่าโลกทางธรรม ผมว่าผมไม่น่าจะหยิบมันมาพูดไว้มากเพราะว่า
เราอาจจะไม่ได้นำมันไปใช้เลย
เรื่องแรก คำว่าทิดเนี่ย มันมาจากคำว่า บัญดิญ<สะกดไม่ได้อ่ะ โง่ภาสาไทย ไม่ได้เรื่องเลยผม
คือคนที่เรียนจบ หรือว่าเป็นผุ้ที่มีความรู้นั่นแหละ
เรื่องปาติหาร เนี่ยเอาอย่างนี้ เชื่อได้คับ แต่ว่าบางทีต้องเข้าใจว่า พระไตรปิฎกนั้นได้มีการ
ปรับปรุง และถอดมาจาก ภาสาบาลี ท่านต้องเข้าใจว่า มันต้องมีผิดเพี้ยนและได้ผ่านมา 2500 กว่าปีแล้ว
ครั้งแรกที่มีการ สังคายนา ก็ไม่ได้มีการลงบันทึกไว้
ผมว่าให้คิดไว้ว่ามันมี ปริญนาทำไว้อยู่ เช่น ประสูติตรัสรู้และปรินิพาน
พวก มารพจญ โน่นนี่ มันอาจจะเป้นมารผจญทางจิตก็ได้
คือมารุมเร้าที่จิตใจทำให้ไม่สามารถ บรรลุได้ ประมานนั้น
ให้เข้าใจว่า ศาสนาพุธ นั้นมันมาด้วยหลักการและเหตุผล
ถ้าอันใหนไม่มีเหตุผล คุนจะไปเชื่อทำไมล่ะ ใช่ไม๊?
ไอ้เรื่องคำว่าบาปเนี่ย ถ้าผมเดินไปเหยียบมดโดนไม่มีความตั้งใจเนี่ย
เค้าถือว่า พระสง ไม่ต้อง อาบัตินะคับ และก็ไม่ใช่บาปด้วย มันต้องดูที่เจตนาคับ
ไม่งั้นทำอะไรก็บาปหมดสิคับ ขุดดินก็บาปแล้วท่าน!5555
พี่ๆน้องๆต้อง เข้าใจอย่างเดียวกันก่อนว่า ถ้าอะไรที่มันไร้เหตุผล
ท่านจะไปเชื่อมันหรอ? อยาอย่างนี้ก่อนดีกว่า
"พระพุทธเจ้ามีนิ้วมือนิ้วเท้ายาวเท่ากันหมดทุกนิ้ว มีติ่งหูที่ยาวกว่าคนทั่วไป...."
ผมอ่านพุทธประวัตืเล่มนึงนะ แต่ไม่พบว่ามีอะไรเขียนไว้แบบนั้น
แต่ท่านจะไปสนใจมันทำไรละคับ มันเป้น ประวัติ ตอนนี้เราใช้อะนั้นมาเป็นแบบแผนอะไรละคับ
ตอนนี้เราใช้ พระธรรม หรือคำสั่งสอนมาเป้นแบบแผน ดังนั้น ท่านพุทธทาส กล่าวไว้ว่า
"ผู้ใดเห็นพระธรรม ผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า" มันมีหลักการไม่มากคับ
สรุปคือผมเขียนเรื่องนิพพานให้พี่ๆน้องๆเข้าใจตรงกันว่า มันมีหลักการคับ
แล้วก็สามารถปฎิบัตืได้ ไม่มีอะไรเป้น ปาติหาร น่ะคับ ไม่มีความขลัง!!
การห้ามหรือศีลของพระ:
ห้ามเพื่ออะไร ห้ามเพือให้การประพฤติพรหมจรรย์ หรือการแสวงหานิพพานเนี่ยง่ายขั้น
และบางทีมันมีอะไรที่เกิดขึ้นในพุธการหลายๆ กรณี แต่ผมคงไม่อยากจะสาทยายเรื่องนี้อ่านะเดี่ยวยาว
ปราชิก คือตัด จากการเป้นพระสงฆ์ ที่จริงแล้วมีโทษ เบา กลาง หนัก , ปาจิตีย์ , นิสคีย์ปาจิตตี 9ฯ9
เบาก็สามารถ ลบได้โดยการแสดงอาบัติ แต่เราน่าจะ คุยกันเรื่องทางโลกมากกว่า เพราะว่าเราก็ไม่ใช่ พระสงฆ์
คำว่า4 รูป หรือ 9 รูป หรืออะไร มันเป้นประเภนีมากกว่า เอาอย่างนี้ผมมาอธิบายว่าสวดเพื่อทำไมดีกว่า
เราจะได้เห็นเข้าใจง่ายกว่าผมมาพูดว่า มันไม่สำคัญอะไรเลย 555 งั้นยิ่งแย่ใช่มะ
เช่น สวดสพเนี่ย สวดเป็นภาสาบาลีเนี่ย แปลว่าอะไร
พระเค้าไม่ได้สวดให้คนตายนะคับ เค้าสวดให้คนอยู่ เค้าสวดว่า มึงน่ะเข้าใจนะ สังยารา อนัตตา
สังขารมันไม่เที่ยว ชีวิตเกิดมาแล้วก็ดับไป ดั่งเช่นคนที่อยู่ในโลง
วัตถุ สิ่งของ ลาภ ชื่อเสียง เกีรติยส ก็เอาไปไม่ได้ ที่แล้วก็ไม่มีอะไรเลย
สิ่งของเกิดมาแล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ทุกสิ่ง เป็น อนัตตา
ดังนั้นพวกท่านจงมีสติ และเข้าใจสิ่งพวกนั้น ว่า ทุกอย่างมัน "ไม่แน่"
บทสวดทั้งหลายทั้งแหล่ ก็ออกมาแนวนี้ ไม่ได้ขลังหรืออะไร มันต้องมีเหตุผลสิคับ
สวดไปทำไม ใช่มะ ทำไมถึงต้องสวย สวดไปแล้วได้อะไร
เดี่ยวผมจะเอาคำแปล สวดให้พรมาให้ทุกท่านใน topic ต่อไปเลยละกันน่ะ จะได้เข้าใจตรงกัน
ไม่มีความขลังไม่มีอะไร เป็นเพียงแค่ ความจริงและให้เรียกว่าไรดี สัจธรรม นั่นแหละ
อาบัติที่ต้องปราชิกเลยคือ การ อุตริ โอ้อวด อิทฤทธิ ปาติหาร
เช่นการไบ้หวย นั้นเป็นอาบัติแบบ ปราชิก ดังนั้น ขอให้เข้าใจว่า พระท่านนั้น ไม่ได้ศึกษาพระวินัยเลย
ผมมาตอบคำถามหรือว่า นัท เข้าใจแล้วเนี่ย เขียนมาซะนาน? 5555