LSD = Limited Slip Differential
รถยนต์ทุกคันในเฟืองท้าย(แล้วทำไมในรถขับหน้าไม่เรียก"เฟืองหน้า"หว่า ???)จะมีDifferentialอยู่ Differentialนั้นทำให้ล้อขับเคลื่อนด้านซ้ายและขวาสามารถหมุนในความเร็วที่แตกต่างกันได้ เพราะเวลาที่รถเคลื่อนที่เป็นแนวโค้งนั้น ล้อด้านในมันจะหมุนช้ากว่าล้อด้านนอก เพราะระยะทางที่มันต้องเคลื่อนที่มันน้อยกว่า ทางเทคนิคแล้วจะเรียกว่า Open Differential
ปัญหาของ Open Differential มันมีอยู่ว่า ถ้าล้อขับเคลื่อนข้างใดข้างหนึ่งนั้นมันยกลอยจากพื้นหรืออยู่บนพื้นผิวถนนที่มีแรงเสียดทานน้อยกว่าหรือน้ำหนักกดลงบนล้อข้างนั้นน้อยกว่า แรงขับเคลื่อนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดจะถูกส่งไปที่ล้อข้างนั้น เพราะมันหมุนได้ง่ายกว่า ล้อข้างนั้นก้อจะเริ่มหมุนฟรี แรงขับเคลื่อนไปข้างหน้าก้อจะหดหายไปเฉยๆ พอเราเอารถมาใช้ในการแข่งขันมันก้อจะเกิดปัญหา"เร่งออกจากโค้งไม่ได้"เพราะล้อด้านในมันจะคอยหมุนฟรีอยู่เรื่อย LSDก้อเลยถือกำเนิดขึ้น เพื่อยับยั้งการหมุนฟรีที่ว่านั้น แต่ก้อยังปล่อยให้มีความแตกต่างในการหมุนของล้อซ้ายและขวาอยู่บ้าง มันถึงเรียกว่า Limited Slip Differential ไง
จากนั้น LSD ก้อพัฒนาขึ้นมาเรื่อย จาก Plate Type, Cone Type, Viscous Coupling, Detroit Locker, Torsen, 1 way, 1.5 way, 2 way และอื่นๆ
พอจะช่วยไขข้อกระจ่างได้บ้างป่ะ ;D
อ้อ ปล. สงสัยอยู่อย่างว่า แล้วใน Drift เนี่ย ล้อขับเคลื่อนทั้งสองข้าง(รถRWDนะ) มัน"หมุนฟรี"ทั้งคู่เวลา Drift ก้อแปลว่า LSD มันก้อแทบจะไม่ได้ทำงานเลยอ่ะดิ แล้วทำไมไม่ใส่ Spool ซะเลยล่ะ หมดเรื่องหมดราว ???