1 มีค 58
แทนที่จะหลับยาวถึงเช้าแต่เปล่าเลย ตื่นตีสาม !!!
ตื่นมาทำควยไรว้า วันนี้มึงต้องลากยาวอีกตลอดวัน รู้สาเหตุแล้วล่ะ เพราะหมอนแม่งแข็งครับ เตียงแข็งนี่กูทนได้ แต่เจอหมอนแข็งเกินนี่พอพลิกตัวแล้วบางมุมมันกดโดนคอไง นอนไม่สบายเลย ยังกะนอนบนเตียงหยกจักรพรรดิราชวงศ์ฮั่น
ต่อจากนี้ก็หลับๆ ตื่นๆ เลยครับ ลุกอย่างเป็นทางการตอน 0530 ดื่มน้ำแล้วก็ออกกำลังกายในห้อง วิดพื้น ซิทอัพ สักพักก็ถ่าย ปกติอยู่บ้านนี่ตื่นมาแป๊บเดียวก็ถ่ายแล้ว แต่นี่เมื่อวานกินน้อยมากๆ มื้อเช้ากินที่บ้าน สาย กลางวัน บ่าย ไม่ได้กินอะไรเลย จิบน้ำไปแค่ขวดเดียว ตอนเย็นยังดีมีเด็กจากค่าย PTT เอามาม่ามาและน้ำแดงมาให้ ตลอดวันกินแต่น้ำเปล่าไปนิดเดียว มากินเยอะก็ตอนเลิกแล้วลงมานั่งคุยข้างแทร็คนี่แหละ หยิบขนมของเด็กๆ เขากินหน้าตาเฉย เริ่มจากเลย์ คาราด้า คอนเน่ หนมแบบนี้ผมไม่เคยกินมาเป็นปี ขนาดมาม่าก็ยังไม่เคยกินในรอบหลายปี
กายบริหารท่าแบบโยคะช่วยให้ขับถ่ายได้เร็วครับ อีกพักก็ถ่าย อาบน้ำ เก็บข้าวของ แล้วก็เตรียมตัวออกไปลุยในห้องอบไอน้ำที่สนามต่อ
มี PTT ใหญ่อยู่ปากทางเข้าสนาม ผมหาข้อมูลมาก่อนแล้วถามลูกมาแล้วว่ามีอะไรอร่อยบ้าง ลูกแนะนำมาหลายอย่าง โดยรวมแล้วโอเคดี ผมจัดแซนวิชแฮมชีสไข่ดาว นมถั่วเหลืองกล่องใหญ่ แต่ที่โต๊ะจ่ายเงินมีกล้วยหอมวางอยู่ ขายผลละ 8 บาท เลยจัดมาอีกอัน เลยเป็นมื้อเช้าที่ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว
มาถึงสนาม 0800 แต่บรรยากาศก็เหมือนๆ เมื่อวานครับ หยิบเอาอาหารมานั่งกินที่เดิม ที่ๆ เมื่อคืนนี้เรานังคุยกันนี่แหละ
เช้าวันนี้ที่สนามค่อนข้างเงียบเหงา นักแข่งเกินครึ่งแข่งกันจบไปแล้ว ไม่มีใครมาวิ่งซ้อมตอนเช้า
สักพัก ที มา ทีคือคอลัมน์นิสต์ของนิตยสาร ARC คนนี้เจอกันจนสนิทแล้ว เป็นรุ่นน้องที่น่ารักมาก อารมร์ขันสูง ชอบสอบถามหาความรู้ ผมชอบคนแบบนี้ครับ ยิ่งคุยก็จะยิ่งฉลาด บางอย่างเขาก็ถามผมยากๆ นะ ทำให้ผมต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมด้วย สนุกดีครับ
คุยกับทีสักพักก็มีหลายๆ คนทยอยกันตามเข้ามา พอคนเยอะ ก็แยกวงไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน ผมขึ้นชั้นสองประจำที่ห้องกรรมการ วันนี้กูเหนื่อยอีกแล้วสินะ ไอ้ห้องกระจกนี้มันช่างอบร้อน แต่ภาพคนภายนอกมองเข้ามาคงนึกว่าพวกเราอยู่ในห้องแอร์เย็นสบาย
เห็นไหมๆ เขาถึงบอกว่า อย่าเพิ่งตัดสิน เพียงแค่คุณเห็น
แต่วันนี้ดีหน่อย มีพัดลมมาเพิ่มอีกตัว และเจ้า เต้ย รุ่นน้องที่เป็นกรรมการด้วยกัน อาสาปีนขึ้นไปเอาแบนเนอร์ติดบังแดดจนเกือบทั่วแผงกระจก ผลก็คือช่วยได้นิดหน่อยครับ ผสมกับแดดที่ไม่แรงเท่าเมื่อวาน ผลก็คือสบายขึ้นนิดๆ
ภาคสนามวันนี้จะเป็นการแข่งแบบแบทเทิ้ลล้วนๆ ผมไม่ต้องมานั่งเพ่ง Apex และทดคิดคะแนนในใจอีกต่อไปแล้ว แต่มันจะเป็นการยากอีกแบบเพราะการแข่งแบบซัดกันพร้อมกัน 2 คัน มันละเอียดอ่อนมาก
อย่างวันนี้ก็มีคู่หนึ่งขับดีทั้งคู่ บี้กันชิดติดตลอดทาง ลักษณะเช่นนี้จะมีการให้คะแนนไป 2 แนวทาง คือ 1 ให้เสมอกัน 5-5 เพราะเจ๋งทั้งคู่ คันหน้าก็เร็ว คันหลังก็ตามได้ติด หรือ 2 ให้คันหลังนำ 5.5-4.5 เพราะคันหลังแม่งเจ๋งกว่าตรงที่สามารถบี้ได้ชิดติดคันหน้า และตีความหมายได้ว่าคันหน้าหนีไม่ออก
ผมแม่งก็ลำบากใจนะ ทั้งสองแนวทางล้วนถูกต้องในทรรศนะของกรรมการแต่ละท่าน แถมเวลาให้นั่งคิดก็มีไม่มากนัก โดยมากพอแข่งจบคะแนนก็ออกเลย ถ้าเขาขับกันแบบทิ้งห่างๆ กันแบบนี้จะง่ายมากเลย
ยังมีอีกตัวอย่างคือทั้งคันนำและคันตามต่างพลาดกันคนละนิดละหน่อย ไอ้นี่ก็ลำบากใจไม่น้อย จนผมว่าจะต้องคิดสูตรวิธีการให้คะแนนใหม่บ้างแล้วล่ะ เช่นถ้าขับพลาดจะตัดคะแนนอย่างไร ถ้าขับดีจะบวกให้คะแนนเพิ่มอย่างไร
วันนี้มีนักแข่งมาประท้วงคำตัดสินอีกแล้ว ครั้งแรกให้น้องชายเขามาคุย เหตุคือรถของเขาขับตกแทร็คคือขับออกนอกเส้น ผลก็คือได้คะแนนเป็น 0 แต่เขามาแย้งว่ารถคู่แข่งของเขาไม่ดริฟท์ในจุด Start Drift
อ้าว งงสิกู เขาไม่ดริฟท์ในจุดนั้นผมก็ตัดคะแนนเขาไป แต่คุณขับตกแทร็ค ผมก็ให้ 0 ไง
งงโคตรเลย มาแย้งแบบข้างๆ คูๆ มาก คนนี้เคลียร์ง่าย คุยแป๊บเดียวจบ แต่อีกพักเดียว คนพี่ที่เป็นตัวนักแข่งเองขึ้นมาคุยและแย้งแบบเดิมๆ
เฮ้ยยย นี่กูต้องอธิบายเรื่องงี่เง่าแบบนี้ถึงสองรอบเชียวหรือวะนี่ แถมเป็นการประท้วงปากเปล่าอีกด้วย ปล่อยไว้แบบนี้จัดแข่งไม่ราบรื่นแน่ ใครไม่พอใจอะไรแม่งก็เดินกันมาแย้งเป็นแถวยาว งานแข่งก็คงวุ่นวาย เลยบอกให้เขียนป้ายว่าหากจะประท้วงก็ต้องวางเงิน 5000 ตามกฎกิตการที่ระบุไว้อยู่แล้ว (แต่พวกเราไม่เคยเข้มงวดกับนักแข่งเลย) อ้อ การประท้วงในระดับสากลนี่ต้องดำเนินการโดยผู้จัดการทีมเท่านั้นนะครับ ต้องทำเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมายื่นก่อนอีกด้วย
วันนี้บรรยากาศในห้องไม่ร้อนอบอ้าวเท่าเมื่อวาน แดดแรงน้อยกว่า แถมเอาแบนเนอร์มาปิดกันแสง มันช่วยได้เยอะมากเลยนะ และวันนี้แข่งแบบแบทเทิล ระหว่างรอบก็จะมีการพัก ไอ้ช่วงพักนี่แหละ นาทีทองของผมเลย รีบวิ่งไปห้องพักตรงข้ามที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำทันที นั่งคุยกับ พี่ตู๋ Toyo และน้องๆ จากนิตยสาร ARC คุยกันสนิทเข้าก็สอนเขาทำคอลัมน์ดริฟท์อย่างไรให้สนุก สมัยก่อนผมเป็นคนเขียนคอลัมน์นี้อยู่พักใหญ่
เดินเข้าเดินออกห้องนี้กับห้องกรรมการเป็นว่าเล่น วันนี้มีอาหาร น้ำ และของว่างมาเสิร์ฟแล้วโว๊ยยย ช่วงพักกลางวันหิวจัด กินข้าวไป 2 กล่อง (เหลือข้าวเปล่าเพียบ) ตามด้วยพัพไก่อีกครึ่งชิ้น จุดเด่นของสนามนี้คือห้องประชุมที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำนี่แหละครับ ตามมาด้วยอาหารที่รสชาติดี แถมไม่ใช้กล่องโฟมอีกด้วย เขาใส่กล่องกระดาษอัดแทน ปิดท้ายด้วยห้องน้ำที่สะอาด นี่คือจุดหลักๆ ที่ทุกสนามควรมีเลยนะครับ สนามเก่าๆ ที่ไม่มีการปรับปรุงพัฒนาก็จะไม่มีใครอยากไปอีกแล้ว สมัยก่อนคนเขาไม่มีตัวเลือกก็เลยอยู่ได้ แต่วันนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
ช่วงบ่ายมีโชว์พาเหรด และสัมภาษณ์สด มีเวลาพักยาวราว 1 ชม ผมอยู่แต่ห้องนี้ไม่ไปไหนเลย ฮ่าๆ ข้างนอกแม่งร้อนโคตร
บ่ายเป็นแบทเทิลรอบ 16 คัน ตามด้วยคลาส A ทีฝีมือระดับเทพมาก ขับเคี่ยวกันแบบชิดจนประตูแทบจะชนกัน และส่วนใหญ่จะไม่มีการชนไพลอนเลยแม้แต่ตัวเดียว ฝีมือหรือไม่ ดูกันตรงนี้ก็พอจะรู้ครับ
พลิกล็อคครั้งใหญ่ ตัวเต็งหลายคนหลุดจากการเข้ารอบ เพราะขับผิดพลาดกันเอง ตกแทร็คเองบ้าง รถพังบ้าง ล้วนเป็นปัญหาเล็กๆ ที่เกิดจากตัวผู้ขับเองทั้งสิ้น สนามสุดท้ายของปีอีกด้วย (ของปี 57นะ) แถมเป็นสนามตัดสินแชมป์ประจำปี โอ้ โอ้ โอ้ เสียหายๆ ๆ
ค่าย PTT นี่ก็หลุดไปหลายคน อย่าง Dre ที่ขับระดับเทพฯ พอรอบแบทเทิลนี่เพลา Spline ที่ต่อกับชุดเฟืองท้ายขาด โอ้โห เซ็งเหี้ยๆ ส่วน เก่ง ก็ขับตกแทร็คไปเกือบเต็มลำเลย พลาดกันแบบไม่น่าเชื่อ
ช่วงระหว่างแข่งนี่ผมอยากเดินไปดูเขาเซอร์วิสรถกันนะ แต่มันปลีกตัวไปไม่ได้เลย ต้องคอยอยู่ในห้องกรรมการคอยให้คะแนน ที่อยากดูในพิทก็เพราะอยากหาข้อผิดพลาดของพวกเขาแล้วเอามาเขียนหนังสือน่ะครับ วันๆ อยู่แต่บ้าน สมัยก่อนยังพบเจอรถซิ่งรถแต่งบ้าง ได้อัปเดทสมองบ้าง แต่สิบกว่าปีมานี้มาช่วยงานที่ร้านขายของตลอด สมองแม่งเหมือนจะทำงานช้าลง เจอของแต่งบางชิ้นยังไม่รู้เขาเรียกอะไร ล่าสุดหลายปีมาแล้วก็คือ กานาด เฮ้ย ไอ้นี่ผมงงจริงๆ นะ ถ้าให้ดูภาพผมก็จะเรียก Aero Foil / หรือพวก Tips อะไรประมาณนี้
แต่ไม่น่าเชื่อนะ ยังอุตส่าห์เจอของแต่งปัญญาอ่อนหลอกเด็กตามมาถึงยุคนี้อีกจนได้ มันคือ
.. ตัวครอบคาลิเปอร์ส
ไอ้ที่เห็นเป็นสีสันสดใสนี่แหละครับ ทำเป็นของแต่งสารพัดยี่ห้อ แต่ว่า มีงจะไปครอบมันทำไมหรอ คาลิเปอร์สมันร้อนจัดอยู่แล้วจะเอาไอ้ตัวห่านี้ไปครอบมันอีกทำไม อยู่เฉยๆ มันยังจะระบายความร้อนไม่ทันเล้ยยย บางรุ่นเขายังทำเป็นครีบระบายความร้อนอีกด้วยซ้ำไป
น่าจะเรียกว่า ของแต่งอัปยศ
เห็นเจ้า M PTT นั่งอยู่ในห้องแอร์คนเดียว นิ่งๆ เงียบๆ หันหน้าไปทางสนามแข่ง เขานั่งแบบนี้อยู่ราว 30 นาที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ มานั่งคนเดียวเงียบๆ แบบนี้ มันคือการทำสมาธิก่อนแข่ง M เป็น 1 ใน 5 นักแข่งที่มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ Drift God ของปีนี้ (เออ กูก็งงเหมือนกันนะ ทำไมใช้คำว่า God วะ) คือถ้า 5 คนนี้ ใครชนะเลิศในสนามนี้ ก็จะเป็นแชมป์ประจำปีไปทันที
น่าเสียดายที่ M แพ้คู่แข่งครับ
ในรอบแบทเทิลมีรถอีกคู่ที่เกิดสะกิดกันเล็กน้อย แต่ไม่สามารถไปต่อได้ทั้งคู่ แปลกดีไหมครับ ผมเองก็เพิ่งเคยเห็น ขณะที่รถแข่งทั้งคู่กำลังดริฟท์แนบชิดจนประตูแทบจะชนกัน จังหวะที่คันแรกเลี้ยว คันหลังคุมไม่อยู่ เกิดโดนรถคันหน้าจนหมุนทั้งสองคัน แต่มันเกี่ยวกันจนแยกไม่ออก โดยที่ล้อหน้าของคันหลังไปปเสียบในซุ้มล้อหน้าของอีกคัน เออ งงว่ะ คือเป็นจังหวะล้อเขาหักสุดไง เลยเกิดพื้นที่ว่างโล่งจนล้อของอีกคันเข้าไปเสียบ
และแล้วหายนะของจริงมาก็มาเยือนในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานเย็นเรารอดจากพายุฤดูร้อนมาแล้วอย่างฉิวเฉียด แต่วันนี้เราโดนแบบจัดเต็ม แรกๆ ก็แค่ฝนโปรย เย็นๆ ขำขำ แต่อีกพักเดียวเท่านั้นแหละมึง ฝนมาแบบพายุเลย ลมพัดแรงจนไพลอนเคลื่อนเหมือนโดนเชือกลาก ตัวที่ไม่แข็งแรงก็ล้มกลิ้งกันไป เต้นท์ปล่อยตัวรถพังเป็นชุดแรก ตามมาด้วยเต้นท์ของนักแข่ง อ้าว ฉิบหายสิครับ รถแข่ง รถเซอร์วิส ต่างพุ่งกระจายตัวออกจากเต้นท์ไปจอดที่โล่งกลางแจ้ง
แสนสงสารก็คือคนดู อัฒจรรย์กลางแจ้งมีแค่หลังคาด้านบนกันฝน แต่ด้านข้างโล่งเลย โดยฝนกันไปเต็มๆ แต่ยังดีที่อยู่ใกล้กับร้านอาหารชั้นล่างที่เป็นห้องแอร์ สามารถวิ่งเข้าไปหลบฝนในห้องนี้ได้
ห้องประชุมด้านบนที่ผมใช้เป็นฐานบัญชาการคนก็ทยอยกันเข้ามาจนแน่น เก้าอี้ไม่พอนั่งก็นั่งพื่นบ้าง ยืนบ้าง เจอจัดเต็มอยู่ชั่วโมงกว่า ยังแข่งไม่จบ เหลืออีกแค่สองคู่ ชิงที่ 1 และชิงที่ 3 แต่คะแนนของตำแหน่งแชมป์ประจำปีมันขาดไปแล้ว คือไม่แข่งก็รู้ผลแล้วว่าแชมป์คือ พี่หนึ่ง P1 Auto สมัยก่อนจะเรียก พี่หนึ่ง ราชาแม็ก
พี่หนึ่งมาดริฟท์ตอนที่ผมเลิกไปแล้ว เลยไม่ได้เจอกันในสนาม ยุคที่ผมเลิกไปนี่ ดริฟท์มันยิ่งบูมใหญ่เลยนะ แต่มันมาพร้อมกับการแข่งขันแบบดุเดือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่ใช่บรรยากาศแบบมิตรภาพเหมือนสมัยที่ผมเล่นตอนแรก
เฮ้ยย พวกมึงขับด้วยกัน ชอบเหมือนกัน ต้องเจอกันปีละหลายหน และจะต้องเจอกันไปอีกหลายปี จะมาเขม่นกันทำไมเล่าน้องพี่
กรรมการเรียกนักแข่งทั้ง 4 คนที่เหลือเข้ามาคุยในห้องกรรมการ ห้องเป็นกระจกใสด้วยไง คนหลบฝนด้านบนก็เพียบ ทำให้ด้านนอกมองเห็นความเคลื่อนไหวทุกอย่าง
สรุปคือแม้ไม่แข่งก็ทราบผลแชมป์แล้ว ก็มอบถ้วยกันไปเลยก็แล้วกัน ส่วนการแข่งขันรอบชิง ก็จะไปซัดกันในสนามหน้าแทน
ทุกคนโอเค เลยจับมือกัน 4 คน ผมขอถ่ายรูปเล่นๆ เพราะมาคุยกันข้างหน้าผมพอดี แต่ก็เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ใครมีโทรศัพท์อยู่ตอนนั้นก็ยกมาถ่ายกันหมดเลย
พิธีมอบรางวัลแจกถ้วยรุ่น C ตามด้วย B ผมเป็นคนมอบถ้วยให้กับนักแข่ง A ทั้งหมด ยืนประกบคู่กับ Dre แล้วถ่ายภาพออกมาแย่มาก เพราะมันสูงกว่าผมราว 1 ฟุต หึหึ ยืนคู่กันแล้วตัวผมสูงเท่าแค่จั๊กแร้ของมันเอง
ปกติเราจะมอบถ้วยกันกลางแจ้ง แต่วันนี้ฝนตก เลยมอบกันในห้องประชุมใหญ่ชั้น 2 บรรยากาศโอเคมากเลย เพราะมีผู้ใหญ่ทุกฝ่ายมากันพร้อมเพรียง นักแข่งก็ถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน นี่ถ้ามีมุมอาหารว่างเบาๆ มันก็จะเป็นงานปาร์ตี้ปิดงานดีๆ นี่เอง
งานเลิกก็แยกย้าย แต่มีคนลืมกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กไว้ใบหนึ่ง ทำไงดีวะ เป็นของพวกเรากันเองนี่แหละ ผมเลยนั่งตากแอร์รอเฝ้ากระเป๋าให้ เมื่อวานก็ทีหนึ่งแล้วนะ ผมเจอวิทยุสื่อสารวางไว้บนโต๊ะ ไม่รู้ของใคร ตามหาเจ้าของยาก เลยถือไว้ในมือตลอดเวลา จนมีคนมองเห็นแล้วมาสอบถามขอดู เขาบอกว่าเขาลืมทิ้งไว้ นั่นแหละ ถึงได้ส่งคืนให้เขา
อีกพักใหญ่เจ้าของกระเป๋ามาหยิบคืนไป ผมเดินลงไปนั่งเล่นด้านล่างต่อ จังหวะนี้แต่ละคนต่างทยอยกันกลับ เก็บข้าวของอุปกรณ์ของตัวเอง นั่งคุยกันกับน้องๆ ทีมงานที่เดิมที่เมื่อวานเรานั่งคุยกันจนดึกนั้นแหละ แต่วันนี้อยู่ถึงแค่สองทุ่ม ผมก็ขอตัวกลับก่อน
ใช้ทางด่วนซัดยาวตลอดสาย ฝนหายแล้ว ขับสบายหน่อย ใช้เวลาราว 1 ชม ก็มาถึงบ้านพร้อมกับอาการ ง่วง เมื่อย เหนื่อย ขอพักแป๊บค่อยไปอาบน้ำนอน