racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on July 01, 2015, 06:22:50 pm

Title: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 01, 2015, 06:22:50 pm
1 กรก 58
   เมื่อคืนมิวกลับมาบ้านพร้อมกับ Dell Core i7 ถือมาอวด แล้วพูดเองว่า
“พ่อ มิวจะไม่ติดเครื่องนี้นะ”
“แล้วไอโฟนล่ะ” ผมถามกลับ
“อ๋อ อันนั้นติดอยู่แล้ว”
   จบข่าวสั้นประจำวัน

   วิ่งไปอีก 1 ชม ครับ ถ้าวันไหนขี้เกียจ ก็นึกถึงภาพคนที่เขาเดินไม่ได้ แค่นี้แหละ พลังใจมาเพียบเลย ใจมันคิดว่า “มึงจะวิ่งตอนนี้ในวันที่มึงมีขา หรือต้องรอให้เดินไม่ได้แล้วถึงมานึกอยากวิ่ง”
   อาหารเช้าวันนี้คล้ายของเมือวานเลยนะ แค่เปลี่ยนจากผักบุ้งเป็นผั้กคะน้า และเปลี่ยนจากไข่เจียวเป็นไข่ดาว
   Pop P Style (รุ่นน้องที่ดริฟท์ด้วยกัน) กรามหัก ผมเดาว่าน่าจะเกิดจากการโดดเนินของมอเตอร์ไซค์วิบากนะ ชีวิตของป๊อบน่าอิจฉามากๆ เห็นเดินทางและเล่นกีฬาผาดโผนที่เขาชอบบ่อยเหลือเกิน ทั้งเจทสกี มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ฯลฯ ติดตามในเฟซบุ๊คก็เจอเขาเดินทางไปแทบทุกหนแห่ง เด็ดสุดคือเอาลูกชายไปด้วย
   เขาเอาภาพโดดเนินมาลง ผมก็แซวว่าให้เล่นท่า Superman Seat Grab ทุกที รู้สึกผิดเลยว่ะ ไม่รู้มันคิดอยากจะเล่นท่าผาดโผนอวดผมหรือเปล่าถึงได้มาพลาดเช่นนี้ แต่ล่าสุดก็ผ่าตัดออกมาเรียบร้อยดีแล้วนะ คงต้องพักพื้นอีกหน่อย แนะนำให้เลิกเลยนะครับน้อง อายุเริ่มมาก กระดูกมันต่อกันติดได้ยากกว่าสมัยเด็กหรือวัยรุ่น
   วันนี้เป็นวันหยุดกลางปีของธนาคาร เฮ้ยย แปลกดีว่ะ มีวันหยุดแบบนี้ด้วยน่ะ ปกติมึงก็โคตรจะหยุดอยู่แล้ว เสือกมีกลางปีด้วย เท่สัสสส
   จะทำธุระก็เลยต้องเข้าไปในห้างแทนครับ บ่ายบริษัท LG โทรมาบอกว่าแบตที่สั่งไว้ได้แล้วนะ ราคา 217 บาท อิอิ
   ผมใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ามากน่ะครับ สไตล์ผมคือไม่พัง ไม่เสีย ไม่เปลี่ยน นี่เล่นจนใช้แบตฯแท้ชิ้นที่ 3 แล้ว หาซื้อตามร้านทั่วไปก็ไม่มีของ ขนาดเข้าศูนย์ก็ยังบอกไม่มี เลยต้องโทรเข้า Call Center แล้วสังไว้ พอของมาก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อโทรมาบอกให้เราไปรับของได้
   ค่ายเกาหลีนี่ผมชอบ LG มากกว่า Samsung ครับ จำได้แม่นเลยนะ ฝังใจโคตรๆ ผมใช้แอร์ของ Samsung ได้แค่ปีครึ่ง คอมฯแม่งพังแล้ว ต้องทิ้งเลย ค่าซ่อมเกือบหมื่นน่ะ ในขณะที่แอร์ทั้งตัวหมื่นกว่าบาท
   แอร์ทุกตัวในบ้านใช้กันเกินสิบปีขึ้นไป แต่ไอ้ห่านี่ใช้แป๊บเดียวพังแล้ว ลูกกูยังไม่ทันโตเลย จำฝังใจกับผลิตภัณฑ์ของ Samsung ทุกอย่างครับ จะเรียกว่าอคติก็ย่อมได้เลย ไม่เถียงสักนิด

   ศูนย์ทดสอบยางล้อระดับมาตรฐานโลกจะเกิดขึ้นแล้วนะที่ฉะเชิงเทรา เห็นรูปแบบสนามนี่ผมชอบมากๆ เลย อยากเข้าไปทำงานข้างในเลยนะ สร้างเสร็จ 2561 ครับ



ภาพวิวจากคอนโด ถ่ายจากมือถือกาๆ ตัวปัจจุบันนี่แหละ
Title: Re: กรก 58
Post by: O'Pern on July 02, 2015, 06:05:31 pm
2 กรก 58
   ออกวิ่งไป 55 นาที พักนี้ไม่ขี้เกียจแล้วนะ แม้น้ำหนักตัวจะไม่ลดลงเลย แต่การวิ่งมันช่วยทั้งระบบร่างกายให้ทำงานสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของฮอร์โมน ผลดีอีกอย่างที่ไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึงก็คือพวกหลอดเลือดทั้งระบบจะแข็งแรงขึ้น ลดอาการหลอดเลือด ตีบ ตัน แตก ไปได้มาก
   ติดตามข่าวรถ Subaru BRZ ที่เขาประกาศลดราคามา 5 แสน เล่นเอาหูผึ้ง แต่พอสอบถามก็บอกรถที่นำเข้ามา 100 คันแรกขายหมดแล้ว เลยไม่ต้องฝันต่อ แต่สองวันก่อนได้ข่าวว่าจะมีรถล็อตใหม่เข้ามาอีก แถมขายราคาเดิม !!!
   เฮ้ยยย ไม่นะ ข่าวนี้เล่นเอาผมใจสั่น คนเคยเล่นรถยังไงมันก็ชอบอยู่ล่ะนะ ที่ผ่านมาไม่เคยมีรถคันใดเข้าตาเลย มีพวก mini แต่มันก็ออกแนวเกย์ๆ ตุ๊ดๆ หน่อย แถม FF อีกด้วย ไม่ชอบเลย หน้าตารถก็ดูไม่แมน มาเจอ 86 / BRZ นี่แหละพี่พอได้ แต่ก็ติดที่ราคา 2.7 ล้าน (ประมาณ) แต่พอ BRZ ลดลงเหลือ 2.08 ล้าน เฮ้ยๆ ๆ ๆ รอกูแพร๊บบบบ
   หาข้อมูลเพิ่ม มาเจอคู่รักเก่า Mazda MX-5 จะมาปีหน้า เฮ้ยยย ไอ้นี่เพื่อนสนิทเลยนะ ผมขับตัว NA (MK I) ตัวแจ้งเกิดของเขาเลย หลังจากนั้นก็มีตัว NB ที่ใหญ่ขึ้นมานิด และ NC ที่เริ่มใหญ่ขึ้นเยอะ ผมไม่ชอบครับ รถแนวนี้มันต้องคันเล็กๆ คล่องๆ ปราดเปรียว จนตัวล่าสุดที่จะออกขายปีหน้าคือ ND มันกลับมาเล็กลงแล้ว ดูด้านข้างคล้าย BMW Z4 ตัวแรกเลย รุ่นนี้ออกแบบโดยค่าย Lancia ที่อิตาลี ปรับปรุงด้วยการใช้คอนเสปเดิมของตัว NA ก็เลยต้องมีการลดน้ำหนักของหลายๆ ชิ้นส่วน แต่ผมว่าถ้าไอ้ชิ้นที่มันน้ำหนักเพิ่มขึ้นน่ะ ทางโรงงานเขาคงไม่เอามาคุยบอกเราหรอกนะ
   ตอนนี้เลยมีรถ 2 คันที่ผมสนใจ คือ BRZ และ MX-5 แต่ก็อาจได้แค่สนล่ะนะ เพราะยังไงแล้วก็ต้องเก็บเงินไว้ให้มิวเรียนนักบินในอนาคต
   ความฝันของผมมันพังทลายไปหมดแล้ว เหลือแต่ฝันของลูกที่ผมยังพอจะช่วยผลักดันให้เขาถึงที่สุดได้
   ขอให้เขาเอาจริง และทำให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน
Title: Re: กรก 58
Post by: O'Pern on July 05, 2015, 03:50:25 pm
3 กรก 58
   วิ่งเข้าไปอีกสินะ วิ่งไปเรื่อยๆ ถ้ายังอยากที่จะใช้ชีวิตอย่างแข็งแรงอยู่เช่นนี้ ก็ต้องวิ่งมันเป็นประจำ แต่ถ้าเบื่อก็ไปทำอย่างอื่นบ้างก็ได้นะ จักรยาน เรือ ฯลฯ แต่สำหรับผมแล้ว ถ้ามีเวลาแค่ 1 ชม ไอ้การวิ่งนี่แหละครับ สะดวกสุดแล้ว แถมได้ออกแรงเยอะกว่ากีฬาอื่นอย่างมากเลย
   ขี่จักรยาน 1 ชม นี่แม่งเสื้อแทบไม่เปียกสักนิด แถมระหว่างทางก็ต้องลุ้นกับหมา เสี่ยงคนและรถตัดหน้า ฯลฯ ส่วนเรือนี่ถ้าไม่ได้ไปริมน้ำก็หมดสิทธิ์
   เช้านี้จัดไป 1.05 ชม แปลกใจมากที่น้ำหนักตัวไม่ลดลงเลย เฮ้ย นี่วิงกันเป็นเดือนแล้วนะ แถมวิ่งต่อเนื่องประจำ หรือเป็นเพราะยังคุมอาหารได้ไม่ดีพอ
   ผมชอบคิดค้นสูตรของตัวเองครับ เชื่ออีกอย่างว่าร่างกายคนเราสภาพไม่เหมือนกัน ก็จะเหมาะสมกับการออกกำลังไปคนละแบบ ยกตัวอย่างเป็นพวกจักรยานจะเห็นได้ชัดมาก บางคนซ้อมตามตารางเป๊ะเลย ขี่ให้หัวใจเต้นอยู่ในโซนนั้นโซนนี้กี่นาที แล้วมีการเร่งสลับผ่อนกี่นาที ฯลฯ ฟังดูดีใช่ไหม แต่จะบอกให้นะว่า ผมไม่เชื่อแม่งเลยสักนิด
   ส่วนใหญ่จะเป็นการไปแปลตำราของฝรั่งเขามาครับ ไอ้พวกฝรั่งนี่ก็ตัวมั่วเลย โดยมากสูตรนี้จะเป็นของพวกนักกีฬาอาชีพ ทำเพื่อรีดประสิทธิภาพของร่างกายออกมาให้ถึงที่สุด คือถ้ามึงหวังจะขี่ให้ได้อย่างเขาก็โอเคนะ แต่ผมเน้นสุขภาพไง มันมากันคนละทาง
   อีกเรื่องที่หลายคนพลาดกันเยอะ นั่นคือการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขี่จักรยานนี่แหละ ไอ้ขี่ออกทริป ขี่เล่นนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นพวกแก๊งเสือหมอบนี่สิ ที่การขี่ของเขามักจะซ้อมกันแบบเป็นทีม มีผลัดกันนำ (เรียกว่าหัวลาก) คนหลังทำ Drafting (เรียกว่าดูดมั้ง) ถ้าเป็นวัยรุ่น วัยหนุ่มก็ไม่เท่าไหร่ ปัญหาจะมาเกิดกับวัยกลางคนที่บางคนสุขภาพไม่ดีแต่ไม่รู้ตัว
   ไปซัดอัดตามกลุ่มเด็กนานเข้าก็เลยช็อคกลางถนนเสียชีวิตไป มันคือเรื่องจริงที่เกิดบ่อยมาก มีปีละไม่ต่ำกว่า 2 ราย แรกๆ ก็ตกใจ แต่ทุกวันนี้ได้ยินคำว่า “หัวใจวาย” จนเป็นเรื่องปกติแล้ว 
   บ่ายไปศูนย์ LG ไปรับแบตฯโทรศัพท์ที่หาซื้อไม่ได้แล้ว เขาเพิ่งย้ายออฟฟิซมา จอดรถยากมาก แบตฯราคา 217 บาท รวมแวตแล้ว รับประกัน 6 เดือน เปลี่ยนใหม่ฟรี
ไอ้แบตฯชิ้นนี้มันผลิตเมื่อปี 2014 ส่วนโทรศัพท์นี่เก่ากว่านั้นเยอะเลย
   กลับมาบ้านก็รีบชาร์จแบตทิ้งไว้ ไม่รู้ว่าของเดิมมันจะเก็บไฟได้ดีอยู่ไหม ยังมาใหม่ๆ ต้องอัดไฟเข้าไปให้เต็มเสียก่อน เทียบกับก้อนเก่านี่ต้องชาร์จกันทุกวันเลยนะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้คุยอะไร ข้ามวันแบตก็ค่อยๆ ลดลงไปเอง มันคงเสื่อมนานแล้วล่ะ
   มี่ข่าว คสช จะอนุมัติซื้อเรือดำน้ำจากจีน
   ผู้คนต่างตำหนิกันไปต่างๆ นานา อย่าเพิ่งตามน้ำกันไปครับ ลองหาเหตุผลของทางฝั่งกองทัพแล้วพิจารณาดูกันก่อน ฟังความทั้งสองด้าน 
   เห็นข่าวอะไรก็อย่าเพิ่งไปด่าตามเขากันเสียหมดครับ ออนไลน์อย่างฉลาด เลือกเสพเฉพาะข่าวจริง และแสดงความคิดเห็นด้านสร้างสรรค์เท่านั้นครับ
Title: Re: กรก 58
Post by: O'Pern on July 05, 2015, 03:54:56 pm
4 กรก 58
   มิวเล่นคอมฯ นอนดึก เป็นตามที่ผมคาดการณ์ ทำเอาผมนอนดึกไปด้วย ส่งผลให้ตื่นสาย เช้านี้วิ่งไปได้แค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง เนื่องจากมีเวลาน้อย เลยวิ่งแบบอัดซะ ได้เหงื่อเพียบดี
   ปกติผมจะวิ่งแบบเบาๆ ให้หัวใจเต้นปานกลาง ร่างกายจะเผาพลาญไขมัน แต่ถ้าวิ่งแบบโหมอัดร่างกายจะอยู่ในโหมดไม่ใช้อ๊อกซิเจนในการเผาผลาญ พวกนักจักรยานจะรู้ดี พวกขี่แบบบ้าพลังร่างกายจะบึกหนาตัวยิ่งโต พวกขี่ปานกลาง ลากยาว ไกลๆ นานๆ จะผลาญไขมันได้ดีกว่า
   อันนี้นับเฉพาะการขี่นะ แต่ปัจจัยหลักนั่นคือเรื่องของการกินนี่แหละครับ ขี่อย่างไรก็แล้วแต่ หากกินไม่เลือกมันก็ลดแทบไม่ลง
   สิ่งที่นักออกกำลังกายมือใหม่พลาดกันเยอะนั่นคือคิดว่าควรจะต้องออกกำลังระดับปานกลาง ยาวๆ ต่อเนื่องนานๆ โดยคิดว่าพวกที่โหมอัดเร่งนั้นทำผิดวิธี
   ไม่ใช่นะครับ ไม่ได้ผิดอะไรเลย มันแค่ผลาญไขมันได้ช้ากว่าเท่านั้นเอง แต่ข้อดีของมันล่ะ
   กล้ามเนื้อแข็งแรง ทรงพลังขึ้น ทนทานขึ้น
   กล้ามเนื่อดีก็ส่งผลให้ปกป้องคุ้มครองกระดูกและข้อต่อได้ดีกว่าคนกล้ามเนื่อเล็กๆ
   ระบบหายใจดีขึ้น (ถ้าเขาฝึกหายใจอย่างถูกต้องไปด้วยขณะออกกำลังนะ)
   ปอดแข็งแรงขึ้น จุอากาศได้มากขึ้น สูดออกซิเจนได้มากขึ้น
   หัวใจแข็งแรงขึ้น บีบอัดแต่ละครั้งได้ปริมาณเลือดมากกว่า ทำให้ในสภาวะปกติหัวใจจะเต้นช้ากว่าคนทั่วไปมาก
   ยังดีข้อดีของการออกกำลังแบบสายโหดอีกมากนะ แต่สิ่งที่ผมชอบและคนกล่าวถึงกันน้อยมากๆ นั้นคือเรื่องของ “หลอดเลือด”
   พวกสายโหดหลอดเลือดจะแข็งแรงมากกว่าคนปกติ (แต่ก่อนจะเป็นสายโหด ต้องแน่ใจว่าร่างกายเราสภาพแข็งแรงดีก่อนนะ ไม่งั้นอาจน็อคคาเวที) ปัญหาเรื่องหลอดเลือด ตีบ ตัน แตก ก็จะลดลงไปได้มาก
   ขณะร่างกายอยู่ในโหมดบ้าพลัง หลอดเลือดจะขยายตัวมาก เช่นนี้ก็เท่ากับเรากำลังออกกำลังกายหลอดเลือดไปในตัว
   เห็นไหมว่าสายโหดก็มีข้อดีเยอะแยะ อ่านในเวปจักรยานแล้วกูจะอ๊วก ไปจำขี้ปากคนอื่นแล้วมาเล่าต่อกันอีกแล้ว แถมใส่ความคิดเห็นแบบเว่อร์มาก เช่น บอกว่าปั่นผิดวิธียังไงก็ไม่ผอม
   เฮ้ย พี่ครับ ผอม ไม่ผอม มันอยู่ที่วิธีการกิน และเรื่องของวัยก็มีส่วนสำคัญมาก
   เด็ก วัยรุ่น หนุ่มสาว พวกนี้ลดได้เร็วมากครับ แต่ถ้าลองเป็นพวกอายุมากๆ สิ ต่อให้ขี่เหมือนกัน กินเหมือนกัน รับรองว่าลดโคตรยาก เพราะกระบวนการเผาผลาญในร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่าง อายุยิ่งมากการเผาผลาญก็สู้เด็กหรือหนุ่มสาวเขาไม่ได้
Title: Re: กรก 58
Post by: O'Pern on July 06, 2015, 06:28:12 pm
5 กรก 58
ตื่นสายหน่อย แต่ก็ออกวิ่งไป 1 ชม ตอนแรกอยากเอาจักรยานออกขี่บ้าง แต่เปลี่ยนใจ เพราะมีเวลาน้อย ขี่แค่ 1 ชม นี่ กลับมาเสื้อยังไม่เปียกเลย
   เออ ผมไม่ได้จับจักรยานขี่แบบเป็นทางการมาเป็นเดือนแล้วนะ ไปดูอีกทีลมยางอ่อนยวบเลย ปีก่อนๆ โน้นสนใจ Fixy กะจะมาเล่นผาดโผน ฮ่าๆ (ยังไม่เจียมนะ คิดว่าตัวเองพอมีพื้นฐานจาก BMX มาบ้าง) แต่ก็ไม่ได้ซื้อหรอกครับ มันแค่อยากได้เฉยๆ ผมแยกคำว่า “จำเป็น” กับ “อยากได้” ออกจากกันชัดเจน
   มาปีนี้คิดอยากได้รถเดินทางไกลแนว Audax กับเขาบ้าง แบบเอาเท่ไง ไอ้แรงปั่นน่ะไม่มีหรอก แต่อาศัยรถหรูดูดี ทั้งๆ ทีรู้นะว่าไม่มีทางทำได้วันละเป็นร้อยๆ กม อย่างพวกที่เขาขี่กัน
   คิดเล่นๆ ขำขำครับ ผมไม่ซื้อรถจริงหรอก และถ้าซื้อจริง ก็คงจะเป็นพวกรถทัวริ่งเสียมากกว่า อ้อ ผมออกแบบรถทัวริ่งในสไตล์ของตัวเองไว้แล้วนะ หางยาวปรี๊ดในสไตล์ที่ผมชอบเลย ว่างๆ ก็ขีดเขียนเล่นเก็บไว้ รถแบบนี้ไม่มีขายหรอก ถ้าอยากได้ก็ต้องหาคนสร้างให้
   ไอ้รถคันนี้พอจะเป็นจริงได้นะ เพราะอย่างไรแล้วในอนาคตผมก็คงต้องใช้ชีวิตกับจักรยานเดินทางไกลเข้าสักวัน ก็สร้างมันขึ้นมาวันนี้เลยไม่ดีหรอ นี่ก็เหลือแค่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการออกแบบ เช่นตำแหน่งจุดยึดกระติกน้ำ จุดยึดกระเป๋า ฯลฯ
   ไม่เคยคิดเลยนะว่าตัวเองจะต้องมาออกแบบจักรยาน ราวปี 2003 ผมคุยกับ “พี่ภูมิ” ที่ทุกวันนี้เขาทำร้าน Tiny Wheels ขายรถ Brompton เขาบอกว่าผมทำงานออกแบบมาหลายอย่าง ทำไมไม่ลองออกแบบจักรยานดูบ้าง
   ผมฟังแล้วก็เฉยๆ มาก ไม่ได้สนใจจะต่อยอดเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่ถนัดงานสเกลเล็กๆ เลย เราจับแต่งานด้านรถยนต์มาตลอดจนมันอยู่ในสายเลือดไปแล้ว ที่มาสนใจจักรยานก็เพราะมันเชื่อมโยงถึงเรื่องการเขียนหนังสือ และด้านสุขภาพ เท่านั้นเอง
   หลายคนที่เริ่มมาขี่แล้วบอกสนุกมาก คืนชีวิตวัยเด็ก ได้ออกกำลังกาย ได้พบเพื่อนใหม่ ฯลฯ ไอ้พวกเหล่านี้มันอยู่ในตัวผมมาตลอดเวลานานมากแล้ว ผมเลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับจักรยานมากไปกว่านี้ ที่ขี่ก็เพราะสนุก ถ้าไม่สนุกก็หยุดขี่
   
   เช้านี้กินต้มเลือดหมู ใส่ใบตำลึงเพียบๆ รสชาติกลางๆ ครับ แต่เห็นผักก็ซัดเรียบจานแล้ว สายๆ ซ้อม Uke พักหนึ่ง นี่เล่นไปแล้วรู้สึกฝีมือมันจะไม่ค่อยพัฒนาเลย ไม่ใช่ถึงระดับเทพแล้วล่ะ เรียนรู้แบบมั่วเองน่ะ
   กลางวันกินสลัดแขก ผักเพียบๆ อีกแล้ว แต่ไม่อิ่มว่ะ เลยกินข้าวเหนียวปิ้งไปอีกชิ้น หึหึ จะอ้วนก็เพราะไอ้ตัวนี่แหละนะ
   เย็นกินข้าวโพดต้ม 3 ฝัก กะว่าจะไม่กินอะไรอีกแล้ว แต่หัวคค่ำแม่เข้าบ้านมาพร้อมกับอาหารเพียบ เลยกินร่วมวงไปอีกหน่อยหนึ่ง
   ดูรายการ Thailand Got Talent ผมเริ่มมั่นใจแล้วครับว่ามันเป็นเวทีการแจ้งเกิดของพวกกระเทย ทั้งนี้ก็เพราะมีกรรมการเป็นกระเทย แล้วแสดงพฤติกรรมอย่างออกหน้าออกตาว่าชื่นชอบในกลุ่มคนสปีชีเดียวกัน
   กระเทยมาทีไร กูได้เปลี่ยนช่องหนีทุกที
   ไม่ได้แอนตี้อะไรนักหรอก แต่การแสดงออกของกรรมการอย่างออกนอกหน้าว่าชื่นชมกระเทยนี่สิ ผมว่ามันเป็นเหมือนว่าจะส่งเสริมให้คนรุ่นหลังเป็นกระเทยกันมากขึ้น
Title: Re: กรก 58
Post by: O'Pern on July 06, 2015, 06:34:45 pm
6 กรก 58
   
   วันนี้น่าจะเป็นวันที่น่าจดจำของผมอีกวัน ผมทะเลาะกับภรรยาเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา

   รู้สึกแย่มากๆ

   ผมคงจะแสดงความคิดเห็นน้อยลง ๆ ๆ ๆ ๆ

รู้สึกว่าตัวเราจะค่อยๆ
เล็กลงๆ
ทุกวันๆ
เรื่อยๆ

นานเข้า ก็คงจะกลายเป็นฝุ่นผงแล้วปลิวหายไป
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 09, 2015, 05:19:06 pm
7 กรก 58
   ออกวิ่งไป 45 นาที เดินอีก 10 นาที วันนี้ลองเพิ่มความเร็วขณะวิ่งช่วง 30 นาทีสุดท้าย เหนื่อยสะใจดีครับ เอาไว้พรุ่งนี้ลองใหม่
   เช้านี้กินแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ใส่เห็ดเข็มทอง แครอท เอารถพ่อออกไปขับใช้งานบ้าง กลัวแบตฯมันจะพังเสียก่อน
   วันก่อน “ไผ่” โทรมาคุยบอกว่ามีงานใช้สมองมาให้พี่เล่น เกริ่นไว้หน่อยเดียวก็วางสายไป วันนี้ “หมวย” ลูกน้องของไผ่โทรมาคุยรายละเอียดเพิ่มเติม
   มันคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชื่อ Neya Cavi สไตล์เดียวกับพวกที่กินแล้วผิวสวยใสนั่นแหละครับ ของแนวนี้แต่ละค่ายก็จะใช้ของต่างกันออกไป กลูต้าไทโอนบ้าง โคเอนไซม์ Q10 บ้าง สเตมเซลบ้าง รกแกะบ้าง แล้วแต่กระแสว่าตัวใดจะมาแรง
   สินค้าแนวนี้หลอกขายผู้หญิงง่ายครับ ผู้หญิงส่วนใหญ่ยินดีจ่ายเพื่อให้ตัวเองสวย ดูดี ขาว เนียน ใส ฯลฯ
   อีกอย่างคือ ผู้หญิงกล้าลอง ชอบลอง ได้ผลหน่อยก็โคตรดีใจเลย อันไหนไม่ได้ผลก็จะเงียบๆ ไป คิดเสียว่ากูเสียค่าโง่ แต่ก็มักจะไม่เข็ดหรอก เจอการตลาดใหม่ๆ ก็หลงกลเข้าให้อีก
   ลูกค้าอยากให้ทำโฆษณาออกมาเป็นซีรี่ส์ 5 ตอน โจทย์มีให้มาแค่นี้แหละ ที่เหลือให้ผมไปจัดการ แล้ววันพฤหัสนี้เอาไอเดียมาเสนอพร้อมกับค่าใช้จ่ายด้วย
   เฮ้ยยย เร็วไปเปล่าพี่
   งานโหดๆ ก็เจอมาพอควร แต่แบบกระชั้นชิดนี่ไม่คุ้นเลยนะ
   งานใช้สมองล้วนๆ เลยนะครับ ยากนะครับ
   วางสายจากหมวยแล้วรีบโทรหา “ไอ้อาร์ต” เลย
   อาร์ตเป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานร่วมกลุ่มกับผมมาตลอดตอนเรียน งานด้านศิลปะทุกอย่างไว้ใจอาร์ตได้เลย มันทำออกมาได้เจ๋งกว่าที่ผมคิดเยอะ ขอแค่ให้โจทย์มันไปเท่านั้น
   มีเพียงไม่กี่คนที่ผมสามารถปล่อยให้เขาคิดงานได้เต็มที่ โดยมากผมจะต้องให้ไกด์ไลน์ไปก่อน บางคนถึงขนาดต้องถึงขั้นแบบสั่งให้ทำ เจอแบบนี้ไม่อยากเรียกว่าเป็นทีมงานเลย มันเหมือนผมไปจ้างคนนอกมารับช่วงต่อเลย (out source)
   รับงานมาแล้วหัวสมองก็ทำงานทันที คิดโฆษณาออกมาเป็นตอนๆ แต่ละตอนมีคอสเสปต่างกันไป แต่ก็สามารถอธิบายในตัวผลิตภัณฑ์ได้ครบ
   กลับมาบ้านนี่รีบส่งข้อมูลทั้งหมดให้ไอ้อาร์ตเลย แล้วก็รอช่วงเย็นให้อาร์ตโทรมาฟรีเซนต์
   หึหึ ไม่ผิดหวังครับ ปล่อยมันทำงานได้เต็มที่จริงๆ แม่งคิดงานได้เจ๋งมากกว่าผมเสียอีก สุดยอดมากๆ
   แต่ปัญหาคือลูกค้าใจร้อนนัดคุยงานวันพฤหัสที่ 9 นี้เลยสิ โห เร็วเว่อร์เลยนะ ไอ้งานเร่งๆ น่ะเจอมาเยอะ แต่อันนี้ให้เวลากูแค่สองวันเองกับโฆษณา 5 ซีรี่ส์ และให้คิดค่าใช้จ่ายออกมาด้วย ฮ่าๆ
   ไอ้ค่าใช้จ่ายนี่แหละครับตัวบอกยากเลย จะถ่ายในสตูดิโอ หรือถ่ายนอกสถานที่ จะใช้ดาราดังหรือดาราหน้าใหม่ จะใช้กล้องเทพฯ หรือแค่ปานกลาง ตัดต่อเทคนิคพิเศษหรือแค่พื้นๆ ฯลฯ
   “เฮ้ย มึงไปนัดเพื่อนมึงที่รับงานมาคุยกันก่อนนอกรอบดีไหมวะ กูจะได้รู้ว่ากูมีอะไรอยู่ในมือบ้าง มีทีมงานลูกน้องอะไรให้กูบ้างไหม อะไรทำนองนี้” อาร์ตมันบ่นออกมา
   โอเค รับทราบ จัดไปครับ
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 09, 2015, 05:35:50 pm
8 กรก 58   
   วิ่ง 50 นาที เดิน 10 นาที ขณะวิ่งก็คิดแต่เรืองงานโฆษณาของ Neya Cavi นี่แหละครับ
   อาหารเช้ามีผัดผักบุ้ง ไข่เจียวใส่มะเขือเทศ ข้าวกล้องสีน้ำตาลอ่อน
   ตลอดวันนี่คิดงานกันหัวปันเลย ไม่เคยทำโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาก่อน แต่ผมเป็นคนชอบทำงานยากๆ ไอ้ที่หาใครทำไม่ได้ ใครๆ ก็หนี เอามาๆ ผมชอบ
   งานง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ ทำไปก็เท่านั้นครับ ไม่มีอะไรเด่น หากอยากแจ้งเกิด ต้องจับงานยากๆ โหดๆ
   ว่างก็คิดพลอทเรื่องมาตามโจทย์ที่ลูกค้ามอบหมายมา เพราะวันพรุ่งนี้ดันไปรับปากเขาไว้ว่าจะไปพรีเซนต์งาน จัดแจงให้อาร์ตเตรียมไฟล์งานของเก่าๆ ไปด้วย เพื่อนำเสนอตัวเองว่าเขาคือใคร ส่วนผมไม่ต้องเปิดเผยอะไรมาก ไม่ชอบเปิดเผย ชอบงานเบื้องหลัง ยินดีเป็นครีเอทีฟแบบเงียบๆ
   เย็นไผ่โทรมาคุยเรื่องงาน คงได้รับฟังพรีเซนต์จากหมวยต่ออีกที และแล้วเจ้าไผ่ก็เปิดเผยสิ่งที่ผมอยากรู้และสอบถามหมวยมานาน นั่นคือเรื่องของงบประมาณ
   “ผมมีงบมา 3 แสน แต่กันไว้ซื้อสื่อ 1 แสน เลยเหลือให้พี่ทำงาน 2 แสนครับ”
   !!! ฟ้าผ่าเปรี้ยง เฮ้ยยย ทั้งโปรเจคมีให้ 2 แสน แบบนี้ฝันที่คิดมาตลอดสองวันนี่สลายไปกับตาเลยนะ
   แว๊บแรกคิดว่ามีให้ตอนละ 2 แสน ก็ยังจะถัวเฉลี่ยไปกับตอนอื่นๆ บ้าง เพราะมี 5 ตอน แต่ถ้ามีให้มาน้อยขนาดนี้ทำงานลำบากนะ
   ทำน่ะทำได้ครับ แต่งานออกมาจะเสียของ เสียมือ
   ไผ่ก็เกรงใจผม เพราะผมคิดงานออกมาแล้ว
   ผมก็เกรงใจไผ่ เพราะรับบรีฟงานมาแล้วปิดงานไม่ลงตัว
   ผมก็เกรงใจอาร์ต ที่เรียกมันมาคิดงานให้
   ในเมื่อทุกอย่างไม่ลงตัว ก็เลยส่งข้อความไปยกเลิกนัดกับหมวยและทางลูกค้าเจ้าของผลิตภัณฑ์
   
   ดราม่าสุดๆ ที่พักใหญ่เจ้าไผ่โทรกลับมาหาพร้อมบอกว่าแม้จะร่วมงานกันไม่ได้ แต่ผมยังชอบงานของพี่ ผมขอซื้องานพี่ ขอให้พี่เป็นที่ปรึกษา ผมจะหาทีมงานผลิตรายใหม่เข้ามา
   โหห แม่งแมนโคตรๆ ครับ ปกติถ้าลาจากกันไปเขาก็จะเอางานไปทำกันเอง ต่อยอดกันเอง แต่เจ้าไผ่นี่แมนมากที่ยังโทรมาบอก
   ผมโดนขโมยไอเดียมาเยอะ พอมาเจอแบบนี้ก็รู้สึกดีนะ รู้สึกว่าไอ้เด็กคนนี้มันคบได้ว่ะ
   ก็เลยเสนอไอเดียอีกอันที่ผมคิดไว้เมื่อสองปีก่อน แต่ยังไม่มีโอกาสทำ ผมคิดว่าไผ่เขามีศักยภาพที่จะทำนะ อยู่ที่ว่าเขาอยากจะทำหรือเปล่าเท่านั้นเอง 
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 09, 2015, 05:38:05 pm
9 กรก 58
   วิ่งไป 1 ชม เดินอีก 10 นาที ซดน้ำกระชายก่อนอาหาร 15 นาที
   อาหารเช้าโคตรคลาสสิค กระเพราไก่ ไข่ต้ม แครอท กระเทียม ขิง ข้าวกล้อง อร่อยมากนะ แต่กินแบบเกือบอิ่ม ลองหัดกินน้อยๆ ดูบ้าง
   กลางวันไปประชุมแถวสุขุมวิท ไอ้ย่านนี้ไปกีทีก็ไม่คุ้น รีบไปรีบกลับครับ ออกจากตึกก่อน 0400 รถจะยังไม่ติด นาทีทอง ต้องรีบชิ้งกลับก่อน
   ระหว่างพัก โทรคุยกับหมวยถึงเรื่องงานขั้นต่อไปที่ผมจะรับหน้าที่ “ครีเอทีฟ” และ “ที่ปรึกษา” ผมบอกสิ่งที่ควรทำให้หมวยทั้งหมด และขอนัดประชุมทีมงานใหม่ในบ่ายวันจันทร์
   ผมยังคงต้องทำงานต่อทั้งหมด เพียงแต่ไม่ต้องเป็นคนลงมือ แต่ต้องคิดให้หนักกว่าเดิม คิดใหม่ทั้งหมด เพราะงบน้อยเลยลดขนาดของการถ่ายทำลงมามาก
   ไอ้ที่คิดมาไว้แล้วคร่าวๆ ก็ต้องมาไล่ทำใหม่หมด เพราะทีมงานใหม่จะใช้กล้องขนาดเล็กลง ลดงบประมาณในการผลิตเกินครึ่ง ผมเลยออกแบบให้ถ่ายนอกสตู แสงธรรมชาติ บางช็อทใช้ Action Cam
   เรื่องการตัดต่อก็ออกแบบให้ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เทคนิคการเล่าเรื่องมากนัก
   เหนื่อยแบบแปลกๆ ดีครับ

   กลับมาบ้านเจอเจ้าเอกโพสขอเปลี่ยนแปลงกำหนดการงานดริฟท์ทั้งหมด !!!
   เฮ้ยยย เกิดอะไรขึ้น
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 10, 2015, 06:11:03 pm
10 กรก 58
   วิ่งเข้าไปๆ วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติ วิ่งไป 1.20 ชม เดินถอยหลังอีก 10 นาที เหงื่อออกเพียบแบบที่เสื้อไม่เคยเปียกแบบนี้มานานมาก
   เออ เมื่อคืนฝันถึงเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วภาพในฝันคือพวกเราหน้าตารูปร่างยังเป็นเหมือนสมัยนั้นเลยนะ เหมือนฝันแบบใช้ Time Machine ย้อนเวลาได้ แอบมีดราม่านิดๆ ที่ไปเจอกับคนที่ผมชอบเขาอีกด้วย
   วันนี้มิวหยุดเรียน ทางโรงเรียนมีประชุมครู เมื่อวานบอกว่าจะออกไปเรียนพิเศษช่วงบ่าย แต่พอมาวันนี้บอกว่าไม่ไปแล้ว อยากจะอยู่บ้าน โอเค จัดไป
   เช้านี้กินลาบเห็ด ใช้เห็ดหลายๆ อย่างรวมกันเอามาทำลาบ กินกับไข่ดาวที่ทอดในน้ำมันน้อยๆ ใช้กระทะเทฟลอน ใบสะระแหน่ ขิง กระเทียม แครอท ข้าวกล้อง
   ผมมีความรู้สึกว่าตั้งแต่ดูแลร่างกายอย่างดีมานี้ มันทำให้สมองเราทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมสามารถคิดงานใหม่ๆ ออกมาได้ตลอดเวลา แถมยังทำงานยากๆ ได้ดีขึ้นมาก ทำงานในสภาวะกดดันได้ดี ล่าสุดคิดงานโฆษณา 5 เรื่อง ได้ในเวลา 2 วัน แถมฟรีเซนต์ปากเปล่าแล้วเขาก็ซื้องานแล้ว โหหห สุดตีนว่ะ
   แต่เนื่องจากงบลูกค้าจำกัดมาก ทำให้ต้องยุบหนัง 5 เรือง ลงมาเหลือแค่ 3 ตอน แต่เนื้อหาทั้งหมดยังอยู่ครบตามเดิม
   เมือวานคิดได้ 1 เรื่อง เช้านี้คิดได้อีกเรื่อง พิมพ์พลอทเรื่องเก็บไว้ในไอแพด ทำเป็นไฟล์ pdf เอาไว้พรีเซนต์งานในวันจันทร์ที่ผมนัดประชุมตอนบ่าย
   ส่งข้อความไปนัดประชุมเลยดีกว่า เมื่อวานนัดกันแบบยังไม่ยืนยัน นัดกันที่ร้านกาแฟอาร์ตเหมือนเดิมนี่แหละครับ แม้จะไกลจากบ้านผมพอควร แต่มันสะดวกคนอื่น หมวยอยู่แค่ทองหล่อ วอไม่รู้อยู่ไหน แต่คงไม่ลำบากนัก ส่วนอาร์ตนั้นสบายสุดเลย นัดที่ร้านมันเอง
   คิดและทำแบบผม คือคิดแบบที่เห็นประโยชน์แก่คนอื่นมากๆ คิดถึงตัวเองลำดับท้ายๆ ใช้ชีวิตแบบนี้ผมมีความสุขดีนะ เราได้ทำเพื่อให้คนอื่นเขาทุกวันๆ
   ขับรถก็หยุดให้รถจากในอาคารเขาออกมาก่อนบ้าง ทางม้าลายนี่ผมหยุดประจำมานานมากแล้ว เจอทางร่วมทางเบี่ยงก็สลับกันไปซ้ายคันขวาคัน ไม่ใช่ขับแบบพวกรถตู้ที่กูต้องไปก่อนพวกมึงทุกคน
   ขับเหี้ย หน้าด้าน เบียด แทรก ปาด แล้วคิดว่านั่นคือฝีมือ อ้างว่าทำมาหากิน เอาเหตุผลถ่อยๆ เข้าข้างตัวเองล้วนๆ มาอธิบายว่าตัวกูทำถูกแล้ว
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 12, 2015, 10:13:39 am
11 กรก 58
   วิ่งเพื่อชีวิต นี่วิ่งมาเป็นเดือน น้ำหนักแทบจะไม่ลดลงเล้ยยย มันช่างแสนจะยากเย็นกว่าปีที่แล้วที่ว่ายากอีกนะนี่ ตามคิดผมคิดไว้มันถูกต้องจริงๆ คือ “ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งลดยาก”
   ฉะนั้น จงเริ่มออกกำลังกายเสียแต่วันนี้ครับ แล้วมันจะส่งผลดีต่อร่างกายตัวเองชั่วชีวิต
   ซัดจัดไป 1.20 ชม เดินอีก 10 นาที ขณะวิ่งเจองูนอนอยู่ริมถนน ไล่ก็ไม่ยอมไป เลยวิ่งไปเอาไม้เขี่ยให้มันกลับเข้าพงหญ้าข้างทาง ไม่งั้นโดนรถเหยีบทับตายแน่ๆ วันนี้ช่วยได้ 1 ชีวิต แต่วันก่อนๆ ก็มีวิ่งแล้วเหยียบหอยตัวเล็กจิ๋ว กิ้งกือจิ๊ว ตายไปบ้างก็มี ทำอะไรไม่ได้ ก็ยกมือไหว้ขอโทษมัน บอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีนะ
   ช่วงนี้หัวสมองมีแต่เรื่องคิดพลอทโฆษณาของ Neya Cavi จากเดิมที่คิดไว้แล้ว นึกว่าจะแค่เอามาปรับแต่งใหม่ แต่เปล่าเลย คราวนี้ต้องคิดใหม่หมดอีกครั้ง เพราะต้องทำงานในโจทย์ใหม่ที่มีงบประมาณจำกัด
   ยากครับ ยากกว่าเดิมอีก ของเดิมที AE – Account Executive ไม่ยอมบอกงบลูกค้ามาตั้งแต่แรก ทำให้ผมคิดงานอิสระมาก พอเปิดราคาไปล้านกว่าบาทเขาถึงกับอึ้ง และบอกว่ามีให้แค่ 2 แสน นี่เขายังไม่รู้นะว่าล้านกว่าบาทน่ะ ยังไม่รวมค่าตัวค่าแรงของผมและทีมงานเลย มันเป็นแค่เรื่องของการผลิตล้วนๆ
   ในเมื่อมีงบแค่ 2 แสน ก็ต้องลดขนาดกล้องลงครับ จากเดิมอยากให้ภาพสวยใสออกมาเหมือนแนวหนังสั้นเท่ๆ ตอนนี้แม่งไม่ใช่แล้วล่ะ แม้คุณภาพของภาพจะเปลี่ยนไป แต่หนังโฆษณายังคงต้องทำออกมาให้มันดูดีอยู่ครับ อย่าคิดว่างบน้อยแล้วจะทำงานไม่ได้นะ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ
   งบขนาดไหนก็ทำโฆษณาได้ครับ แต่มันจะออกมาดูดีมากน้อยเพียงใด ดึงดูดคนให้ดู หรือชวนกันดูบ้างไหม คนดูแล้วเขากล่าวถึงมันกันในวงสังคมหรือเปล่า (เช่นโฆษณาเรียกน้ำตาของไทยประกันชีวิต) ดูแล้วเขารู้สึกดีต่อแบรนด์ไหม (เช่น บัตรอิออน) ดูแล้วเขาอยากทดลองใช้ไหม (เช่น โฆษณาส่วนใหญ่ที่ใช้พรีเซนเตอร์ดารา)
   จากหนังโฆษณา 5 ตอน ผมยุบรวมลงมาเหลือ 3 ตอน หั่นลงเป็นตอนสั้นๆ ราวๆ 1 นาที เพราะไม่แน่ใจในทีมผลิตว่าจะฝีมือขนาดไหน กลัวทำออกมายาวแล้วคนไม่ดูจนจบ ทีนี้เซ็งเลยนะ บางสิ่งบางอย่างเราเล่าเรื่องตามลำดับเวลามา บางทีอยากทิ้งท้ายคำพูดเท่ๆ แต่ถ้าคนไม่ดูจนจบ ไอ้ที่ทำมาก็สูญเปล่าเลยนะ
   เราน่ะคนทำ ทำแล้วก็รับเงินแล้ว แต่เจ้าของงานเขาคือลูกค้าน่ะสิ เขาใช้โฆษณาชิ้นนี้อีกนานเท่าไหร่เราก็ไม่รู้ ทำอะไรต้องคิดถึงใจคนอื่นเขาให้มากๆ คิดถึงตัวเองน้อยๆ เอาผลประโยชน์ของตัวเองไว้ท้ายๆ
   ให้คนอื่นมากๆ เข้าไว้ครับ
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 13, 2015, 05:19:59 pm
12 กรก 58
   ออกวิ่งสายกว่าเดิมหน่อย แต่ก็จัดไป 1.20 ชม และเดินถอยหลังสลับเดินหน้าอีก 15 นาที
   กลับเข้ามาบ้านกินต้มเลือดหมูอีกแล้ว เฮ้ยย ซ้ำ 3 สัปดาห์แล้วนะ ภรรยาซื้อมาฝาก ผมก็กินมันเข้าไปเพราะเห็นแก่ผักกำใหญ่ในจานที่เป็นใบตำลึง ไอ้ตำลึงนี้ผมจะได้กินก็เฉพาะต้มเลือดหมูนี่แหละครับ ปกติไม่ค่อยได้กินเลย
   เอาข้าวกล้องมาอุ่นกินกับต้มเลือดหมู เติมกระเทียมสดอีกสิบกว่าหัว ยังกินไม่ทันเสร็จดี แม่ซื้อของจากตลาดมาเสริม มีซาลาเปา และกุยช่าย อืมม เก็บไว้กลางวันก็แล้วกันนะ
   เปิดคอมทำงานต่อครับ ช่วงนี้มีงานเร่งด่วนเข้ามาแทรกเป็นงานโฆษณา ผมนัดคุยงานเบื้องต้นไว้พรุ่งนี้ แต่ทางหมวย (AE) ยังไม่แจ้งยืนยันกลับมา ก็รอกันต่อไปครับ
   ยามว่างซ้อมเล่นเพลง Redemption Song ของ Bob Marley คนดังชาวจาไมก้า
   กลางวันกินกูช่ายทอด 5 ชิ้น ทอดในกระทะเทฟลอน จะได้ไม่ต้องใช้น้ำมันมากเกินไปนัก กินกับผักแกล้มจานใหญ่เว่อร์ หยิบเอาสารพัดผักที่ปลูกไว้เองในกระบะดิน มีพักแพว ต้นหอม โหระพา แถมด้วยกระเทียมสด
   ว่างเป็นต้องคิดงานโฆษณาเวอร์ชั่น Low Budget ต่อ ยากดีครับ ที่ว่ายากก็เพราะต้องมาทำมันรอบสองนี่แหละ และต้องกดให้อยู่ในงบ 2 แสนบาท โดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนจับอุปกรณ์ใดๆ เลยสักชิ้น
   ผมรับเป็นครีเอทีฟ และขาย Story Board ให้กับทีมผลิตอีกทีมที่เป็นเด็กรุ่นน้องชื่อ “วอ” เขาเป็นช่างภาพตามงานรถดริฟท์ ผมรู้จักเขา แต่เราไม่เคยคุยกัน
   เย็นโทรคุยกับอาร์ต มันเลยเตือนสติผมว่า “เฮ้ย เขาตอบตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายที่เราแจ้งไปหรือยัง”
   เออว่ะ จริงด้วยสิ หมวยเขารับฟังแล้วก็คุยเรื่องอื่นต่อเลยนี่หว่า
   ว่าแล้วก็ส่งข้อความไปบอกหมวยว่าจะให้คำตอบว่าอย่างไร
   Say Yes ผมและอาร์ตก็จะได้คิดงานต่อในระดับที่ลึกลงไปอีก
   Say No ก็จบกันไป ผมได้ฝึกสมองเล่นๆ และไปขอโทษไอ้อาร์ตมัน

   รายการโปรดตอนเย็นวันอาทิตย์ช่วงนี้คือ Thailand Got Talent แต่ดูๆ ไปก็เบื่อเหมือนกันนะ อย่างที่เคยบ่นแหละครับ ของประเทศอื่นเขาก็โอเคดี แต่ของไทยเรานี้แม่งกลายเป็นที่ปลดปล่อยของกระเทยเก็บกด โชว์ดีๆ ก็มี นักร้องก็เยอะ แต่ผมอยากให้แยกนักร้องไปประกวดเวทีอื่นจะดีกว่า เช่นพวก The Voice ส่วนรายการอื่นที่เอาพวกดาราเอ้าท์แล้ว ตลก หรือคนไม่มีความรู้มาเป็นกรรมการนี่ บอกตามตรงนะครับว่า ดูแล้วเสียเวลาชีวิตครับ
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 13, 2015, 05:27:21 pm
13 กรก 58
   วิ่งไป 45 นาที เดินอีก 15 นาที ช่วงวิ่งนี้สมองผ่อนคลายมาก ผมสามารถคิดงานต่างๆ ได้หลายชิ้นเลยนะ ขนาดโฆษณาของ Neya Cavi ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ แต่ผมคิดถึงชิ้นงานโฆษณาของปีหน้าไปแล้ว
   เว่อร์ดีไหมครับ นี่ถ้าเจ้าของผลิตภัณฑ์รู้นี่คงจะคิดว่าไอ้หมอนี่มันจะมาแนวไหนกับกูวะ
   หมวย AE ส่งข้อความตอบตกลงว่าจ้างแล้ว โอเคๆ ๆ แบบนี้ค่อยมันส์หน่อย
   ที่ว่ามันส์หมายถึงเราจะได้คิดงานแบบเต็มที่ฟูลสเกลกันไปเลย
   อาร์ตโทรมาอัปเดทงานตอนเช้า เพราะพรุ่งนี้จะนัดประชุมกันตอนบ่าย ผมให้เขาทำเป็น Story Board แบบคร่าวๆ มาเสนอทีมงานใหม่ที่เราจะต้องประสานงานด้วย ส่วนผมจะเน้นทางด้านการวางแนวคิดและรูปแบบการนำเสนอ อาร์ตจะถนัดพวกขั้นตอนการผลิตทุกอย่าง เราทำงานกันมาแนวนี้ตั้งแต่ตอนเรียนแล้วนะ ไม่น่าเชื่อว่าจบมาแล้วเกือบ 30 ปี จะได้มาทำงานสนุกๆ เหมือนตอนทำงานกลุ่มสมัยเรียนกันอีก
   ใช้อินเทอร์เนทให้เป็นประโยชน์ มันก็จะมีคุณสูงมาก ผมหาเจอผลิตภัณฑ์คู่แข่งของ Neya Cavi แล้วดูจากที่เขานำเสนอ เพื่อทำโฆษณาของเราให้ออกมาเหนือกว่า
   ผมทำแผนร่างการพรีเซนต์งานพรุ่งนี้เป็น 2 เรื่อง 1 วัตถุประสงค์หลักของงานโฆษณาชุดนี้ 2 แนวทางการผลิตงานโฆษณา เอาแค่หัวข้อนี้ทีมงานใหม่หากไม่เป็นมืออาชีพจริง มีสิทธิจุกได้
   มาตรฐานการทำงานของผมสูงครับ ทำอะไร ซัดเต็มที่ และเหมือนเดิมที่ผมทำมาตลอดก็คือ “ทำให้เกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง”
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 16, 2015, 05:16:45 pm
14 กรก 58
   นี่ผมวิ่งแบบต่อเนื่องมานานเท่าไหร่แล้วนะ เกินเดือนแล้วแน่ๆ ล่ะ น้ำหนักตัวช่างลงยากลงเย็นเสียจริง แต่ไม่ได้วิ่งเพื่อเน้นลดน้ำหนักล่ะ ผมชอบอารมณ์ความรู้สึกขณะวิ่งมากกว่า มันเกิดสมาธิอย่างบอกไม่ถูก และมักจะได้ไอเดียแปลกๆ บ้าๆ บอๆ ตอนสมองโล่งเช่นนี้แหละ จัดไปอีก 1.15 ชม เดินอีก 15 นาที
   เช้านี้กินแกงจืดหมูสับใส่ใบตำลึง เอ๊ะ รสชาติเหมือนต้มเลือดหมูเลยนี่นา สองวันก่อนมีข่าวหน่วยงานไหนไม่รู้บอกว่าต้มเลือดหมูคืออาหารเช้าที่ทรงคุณค่าที่สุด ผมเห็นด้วยนะ เพราะมีผักใบตำลึง แถมกินกับข้าวกล้อง โอ้โห สุดยอดมากๆ

   บ่ายไปประชุมที่ร้านกาแฟอาร์ต RCA ได้กลับมาย่านนี้อีกครั้ง สมัยก่อนก็มีโปรเจคจะทำงานร่วมกันในกลุ่มเพื่อนอีกคนหนึ่งนะ แต่ก็คิดงานจนเสร็จแล้วเขาก็เงียบหายไป เราเลยไปต่อกันไม่เป็นเลย เดาๆ เอาว่าคงจะไม่ได้ทำแล้วล่ะ หรือถ้าโหดร้ายกว่านั้นคือเขาเอางานของกลุ่มเราไปทำเองเรียบร้อยแล้ว
   กลับมาตรงนี้อีกครั้งในรอบหลายเดือน ผมไปถึงก่อนเวลานัดหมายนานมาก นัดกับทีมงานไว้ตอน 0300 ผมไปถึงตั้งแต่ 1245 ก่อนเวลาถึงหลายชั่วโมง ก็เพราะอยากเห็นงานของอาร์ตก่อนที่จะนำเสนอในที่ประชุม 
   ให้อาร์ตลองพรีเซนต์งานให้ดูสักรอบ ฟังดูแล้วโอเค ผ่านครับ อาร์ตเป็นไม่กี่คนที่ผมสั่งงานแล้วสามารถ “ทิ้ง” ได้เลย คือมันทำงานออกมาได้ดีมาก เราไม่ต้องไปตามประกบ หรือคอยเช็คความเรียบร้อย เรียกว่าหากมีลูกน้องแบบนี้นะ คุณสั่งงานแล้วออกไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ พบกันอีกทีวันพรีเซนต์งานต่อหน้าลูกค้าแล้วก็นั่งยิ้มรอเซ็นสัญญาได้เลย
   นั่งทีร้านกาแฟอาร์ตดูงานไปเรื่อยๆ พอใกล้เวลานัดหมายค่อยเดินไปที่ร้านกาแฟติดๆ กันชื่อ “เฌอแตม” อ้าว ร้านใหม่แล้วหรอ สมัยก่อนตรงนี้ชื่อร้าน “Fx” ยังคงเป็นร้านกาแฟแนวๆ เดียวกัน แก้วละ 50 กว่าบาท ติดแอร์อย่างดี มี wifi แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องปิดตัวไป ในขณะที่ร้านกาแฟอาร์ตแก้วละ 30 บาท ไม่มีแอร์ แม้กระทั่งโต๊ะนั่งยังต้องคอยลุ้น เพราะอยู่ในดงร้านอาหาร ส่วนใหญ่จะซื้อแล้วรีบเดินเข้าตึกไปทำงาน ขายได้วันละเป็นร้อยแก้ว และส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่เป็นพนักงานในตึกประกันภัยฝั่งตรงข้าม
   นั่งรออยู่หน้าร้าน เห็นผู้หญิงยืนเก้ๆ กังๆ ผมคิดว่าเป็น “หมวย” แน่ๆ เลยตะโกนเรียก แล้วก็ใช่จริงๆ อีกสักพักมีผู้ชายมายืนแนวๆ เดียวกันเลย มั่นใจอีกแหละว่าเป็น “วอ” คนนี้เคยเห็นกันมาแล้วในสนามดริฟท์
   ตั้งใจรีบขึ้นไปยึดกองบัญชาการชั้น 2 เลยทันที แต่ชั้นสองไม่มีโต๊ะให้นั่ง อ้าว เงิบเลย ลงมานั่งข้างล่างแทน ตอนนี้มากัน 4 คน ไผ่โทรมาบอกว่ากำลังจะเดินทางมาถึง สั่งเครื่องดื่มกินกันไปก่อน ผมจัดแบบเดิมครับ คลาสสิคสุดๆ แล้ว โกโก้เย็นนี่แหละ บอกว่าขอแบบเข้มๆ หวานน้อย
   สูดคำแรก มึงเอ๋ยยย น้ำตาแทบไหล
   รสชาติแม่งเหี้ยมากเลย อ่อนแก่เราไม่ว่ากัน แต่นี่แม่งขาดความอร่อย เหมือนคนชงไม่เป็น ทุกอย่างผิดสัดส่วนไปหมด อธิบายไม่ถูก รสชาติมันอ่อน จาง บาง เหมือนเอาโกโก้ทีคนกินเหลือแล้วมาเทน้ำเติมใส่
   ไอ้อาร์ตสั่งกาแฟร้อนอะไรสักอย่าง มันก็จิบไปคำเดียวแล้วก็วางจนประชุมเสร็จ เหลือไว้เกือบเต็มแก้ว
   ระหว่างรอไผ่ ผมขอดูผลงานของวอที่เคยทำ เปิดมาก็ทำเอาอึ้งเหมือนกันนะ ฝีมือใช้ได้เลย แถมมี Drone บินถ่ายอีกด้วย เจ๋งดีๆ ดูไป 3-4 อันก็เริ่มมั่นใจแล้วล่ะว่าทางกลุ่มนี้เขาเลือกถูกคนแล้ว ผมทำงานด้วยไม่ลำบากแน่
   จากนั้นก็เอางานของอาร์ตให้ทางกลุ่มเขาดูบ้าง เอางานของ Car Show ที่บุมไบ และงานประจำปีที่ Goodwood ประเทศอังกฤษ ให้ดู
   ให้พวกเขาทำความรู้จักกันผ่านงานที่ทำ แบบนี้ต่างคนก็ต่างพอจะรู้ฝีมือกันและกัน ผมทำหน้าที่ครีเอทีฟล้วนๆ มีเสนอมุมกล้องหรือเทคนิคบ้าง แต่ลึกๆ แล้วผมสู้คนที่เขาอยู่กับเครื่องมือไม่ได้หรอกครับ
   พอไผ่มาถึงผมก็เริ่มเปิดประชุมด้วยการนำโจทย์ของลูกค้ามาตีแบ่งเป็นประเด็น หัวใจหลักลูกค้าเขาต้องการอะไร ทำไมถึงอยากจะผลิตงานโฆษณา และทำไมเขาถึงมาจ้างเรา
   จากนั้นนำเสนอคอนเสปของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ว่าภาพรวมต้องการนำเสนออะไร แต่ละตอนที่เขียนเป็น Story Board มานั้น นำเสนออะไร โดยที่ทั้งหมดมันเกื้อกูลกัน และแต่ละตอนล้วนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
   จากนั้นผมยกให้อาร์ตพรีเซนต์แต่ละตอนอย่างละเอียดโดยเรียงกันไป 1-4 ใช้เวลาไปกว่า 1 ชม โดยผมจะพูดเสริมในแต่ละจุดที่อาร์ตมันไม่ได้ขยายความ
   มีจุดหนึ่งทั้งกลุ่มหัวเราะ เพราะผมหยิบผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งขึ้นมาทีละชิ้นๆ วางกองบนโต๊ะทั้งหมด 3 ชิ้น และผลิตภัณฑ์อื่นอีก 2 ชิ้น หมวย AE คงนึกไม่ถึงว่าผมจะหาของเหล่านี้ผมให้ดู ถึงกับขำก๊าก
   คือเราต้องรู้เขารู้เราไง ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งสวยและดูดีกว่าของเราอีก แถมถูกกว่าอีกด้วย (แต่ส่วนผสมคนละอย่างกัน)
   เป็นเพราะจังหวะที่ผมหยิบออกมาพร้อมกับเล่าเรื่องราวของแพ็คเก็จจิ้งน่ะครับ ผมบอกว่าเบื่อสีชมพู ของกินแนวนี้ทุกอย่างในท้องตลาดเป็นสีชมพูไปหมดเลย พูดพร้อมกับหยิบออกมาจากเป้ทีละอันๆ
   ติแล้วก็ต้องช่วยแนะนำครับ สไตล์ผมเป็นแบบนี้ ผมแนะนำทำแพ็คเก็จสีขาวคาดทอง (ถ้ายังคงทำด้วยกระดาษนะ) แต่ถ้ามีงบมาก อยากหรู แนะนำกล่องไม้แม่งเลย คราวนี้ล่ะมึง จะเป็นอาหารเสริมของเทพชัดๆ ขายกล่องจะ 3000 ยังได้
   มาแนวเดียวกับกล่องซิการ์เลย แม่งแพงจนต้องเก็บกล่องเอาไว้เป็นที่ระลึก
   มาวันนี้ผมมาในฐานะของนักโฆษณาและนักการตลาด จะว่าสร้างภาพก็ไม่เถียงล่ะนะ ผมทำงานเกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวังเสมอ ลูกค้าที่ว่านี้ก็คือเจ้าไผ่ และทางเจ้าของผลิตภัณฑ์
   คุยกันจนจบแล้วก็สรุปเสริมพร้อมดูภาพตัวอย่างของมุมกล้องกันไปเรื่อยๆ โดยงานทั้งหมดนี้หมวยจะกลับไปนำเสนอลูกค้าว่าชอบตอนใดเป็นพิเศษหรือไม่ อยากผลิตตอนใด แต่ผมบอกว่าอย่าไปถามเขา ให้เราเสนอไปเลยว่าอยากทำตอนแรกเป็นเรื่องของ “หวานๆ กับจักรยาน”
   ผมมีหน้าที่คิด ผมก็จะคิดสิ่งที่ดีสุด เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้า เรียกว่าใช้ผมทำงานแล้ว สามารถไปทำงานอย่างอื่นได้เลย ผมเคลียร์ทุกอย่างให้จบอย่างสมบูรณ์
   นี่คือวิถีของคนฟรีแลนซ์ครับ งานธรรมดา งานง่ายๆ ผมไม่ทำ งานที่รับมาต้องเป็นงานที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่

ข่าวเด่นค่ำนี้ เกรียนไทยไปป่วนใน You Tube ตอนที่ NASA ถ่ายทอดสดภาพจากดาวพลูโต ระยะทางเป็นหมื่นล้านกิโลเมตร ภาพยังต้องใช้เวลาเดินทางถึง 4.5 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงสถานี งานนี้ไทยแม่งเอาฮาล้วนๆ ป่วนระดับโลกกันเลยมึง คนทั่วโลกเขารอข่าวจาก NASA เป็นต้องเงิบกับพวกมึง
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 16, 2015, 05:20:43 pm
15 กรก 58
   ออกวิ่งไป 1 ชม เดินอีก 15 นาที วันนี้กินน้ำ ACV ตอนวิ่งไปแล้ว 30 นาที เริ่มเห็นได้ชัดเจนว่าอีก 15 นาทีต่อมารู้สึกเหมือนจะมีพลังมากขึ้น วิ่งได้เร็วขึ้น ใจฮึกเหิมขึ้น คงไม่อุปทานนะ เพราะจับสังเกตตัวเองมาตลอด
   เริ่มหายใจตามจังหวะการก้าวเท้า สูตรนี้ผมคิดเอง มีทั้งแบบ 4 และ 6 ก้าว ลอง 8 แล้ว แต่มันโหดเกิน
   ตอนสูดลมหายใจลึกๆ เราก็นึกภาพห้องในหัวใจทั้ง 4 ที่มันปั๊มจากห้องบนลงห้องล่าง อัดผ่านเข้าปอดเพื่อฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดง แล้วส่งต่อมายังหัวใจห้องบนอีกซีก อัดผ่านลงมาหัวใจห้องล่าง ไอ้ห้องนี้จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมาก เพระจะปั๊มเลือดส่งผ่านเส้นเลือดใหญ่ ฝอย ส่งไปเลี้ยงทั่วร่างกาย
   มันคือช่วงเวลาสำคัญในการฝึกจิต สมาธิ ผมไม่เอาเวลาช่วงนี้มาฟังเพลงเหมือนนักวิ่งหลายๆ คนแน่นอน
   ทุกคนมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไงครับ สำหรับพวกเขาก็แค่การออกกำลังร่างกาย แต่สำหรับผมมันคือทั้งร่างกาย จิตใจ วิญญาณ สมาธิ ฝึกจิต และค้นหาคำตอบของชีวิต
   อย่าว่าเว่อร์นะ ผมอยู่คนเดียวมากๆ จนลึกซึ้งกับเรื่องของชีวิต รู้ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร และเราควรทำอะไรในชีวิตที่เหลือ 
   สมัยก่อนมีเพื่อนบางคนเรียกว่าเป็นพระนอกเครื่องแบบ เปรียบเปรยอย่างนั้นบางทีก็เกินไป แต่คงพูดเอาขำ ลองย้อนมานึกดูแล้วผมปฏิบัติตามศีล 5 ได้มากว่า 20 ปี จนทุกวันนี้ขยับเป็นศีล 8 แต่ติดอยู่สองข้อก็คือผมยังเล่น Uke อยู่ และกินอาหารหลังเที่ยงอยู่
   เช้านี้กินผัดผักโขม ไข่เจียว ข้าวกล้อง กระเทียมสด
   ที่ทำงานมีการยกแบกของเล็กน้อยแบบขำขำ ก็จัดกันไป ปรับตัวให้ได้กับทุกสถานการณ์ เราก็จะสุขใจเอง
   ภรรยาซื้ออาหารมาฝาก ผมไม่รู้จะเรียกชื่อว่าอะไรดี ลักษณะเป็นเหมือนผักสลัด เทราดคลุกรวมกับน้ำจิ้มของก๋วยเตี๋ยวลุยสวน มีโรยหมูสับด้วย เด็ดสุดคือมีเส้นบุก (คอนยัคกุ) ถั่วคั่ว
   กินตอนใกล้ๆ เที่ยง รสชาติแปลกๆ ดีครับ ได้กินผักสดๆ ก็โอเคแล้ว วัยรุ่นคงเรียก “คลีน” ผมโคตรจะเลี่ยนกับคำพวกนี้เลย แสดงว่าปกติพวกมึงกินแบบ “เดอตี้” หรอ
   เข้าบ้านตอนบ่ายมาจัดระบบงานต่อ ก็งานของ Neya Cavi นี่แหละครับ จากเดิมที่พรีเซนต์จบแล้ว แต่ผมนี่คิดข้ามช็อทถึงปีหน้า และผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆ ของเขาไปเรียบร้อยแล้วนะ
   อย่างที่บอกไงครับ “ทำมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง”
   ถ้างานแรกเขาประทับใจเราแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีงานหลังๆ ตามมา เมื่อวานหมวยนั่งคุยกับผมตอนก่อนจะแยกกัน บอกว่าอยากให้ผมไปพบกับลูกค้าสักครั้ง ลูกค้าน่าจะชอบผมนะ
   จัดไปครับน้อง อะไรที่ผมทำแล้วเป็นประโยชน์ ผมยินดี
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 16, 2015, 05:25:00 pm
16 กรก 58
   นอนดึกกว่าเดิมหน่อยเดียว ทำเอาตื่นสายได้ง่ายๆ เลย แถมมีอาการมึนหัวตอนตื่น เฮ้ย แปลกมาก ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือว่าเราจะรีบลุกเร็วเกินไปนะ
   อาการนี้ยังคงเป็นอยู่จนถึงตอนวิ่งเลยนะ ผิดปกติว่ะ วันนี้วิ่งไปได้แค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง เดินต่ออีก 5 นาที แต่อาการมึนก็ค่อยๆ ลดน้อยลงขณะวิ่งนะ พรุ่งนี้ค่อยดูอาการกันใหม่
   เช้านี้กินคะน้าผัดหมูกรอบ กระเทียมสด ข้าวกล้อง กินหมูกรอบไปไม่กี่ชิ้น เน้นผักใบเขียวเข้มเยอะๆ
   วันนี้มีงานใหญ่เปิดตัว Toyota Fortuner ใหม่ ผมไม่ได้รับการเชิญเข้าไปร่วมงานเช่นเคย เอาไว้อีกสักพักคงต้องไปดูแถว Big C ใกล้บ้าน
   โคตรสมเพชชีวิตตัวเองในวงการรถยนต์จริงๆ นะ จากเดิมสมัยเฟื่องฟูนี่ได้การต้อนรับอย่างดี ตอนนี้มันเป็นคนละเรื่องไปแล้ว
   แต่ว่าเขาไม่ได้หรอกครับ ก็ผมเสือกหยุดพักการผลิตไปเอง แถมหยุดนานเป็นสิบปี ใครเขาจะไปรู้จักผมอยู่กันเล่า
   เจอโฆษณาทีวีซัมซุงซุปเปอร์ดีล คุยทำนองว่าซื้อของรุ่นใหญ่แต่จ่ายในราคารุ่นเล็ก หึหึ ไอ้ยี่ห้อนี้ผมเข็ด เคยบ่นให้อ่านแล้ว แต่จะมาบอกข้อมูลเพิ่มว่าบริษัทซัมซุงประกาศเลิกผลิตทีวีแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนครับ เดาว่านี้คือการลดราคาแบบล้างสต๊อกครั้งใหญ่
   ดูทีวีเจอโฆษณาเครื่องดื่มเกลือแร่ “ซันโว” เอา “ติ๊ก” และ “บัวขาว” มาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ทำหนังออกมา แม่งเอ๊ยยย ไม่ได้มีความน่าดู และไม่ได้ดึงดูดอะไรสักนิดเล้ยยยยแบบนี้ผมเรียก “เสียของ” ครับ
   บริษัทใหญ่ มีงบสู้ แต่เจอคนทำโฆษณาออกมาแบบนี้เซ็งมากนะ ยิ่งพวกซื้อโฆษณาผ่านเอเจนซี่นี่ยิ่งแล้วเลย บริษัทคุณจะโดนหลอกแดกไปหลายขั้นตอน เริ่มจากคนของบริษัทคุณเอง ตามาด้วยคนของเอเจนซี่ และปิดท้ายด้วยการนำเงินของคุณไปลงในสื่อที่ไม่ตรงเป้า ไม่ก็ทำหนังโฆษณาห่วยๆ ออกมา
   ผมเกลียดพวกแดกใต้โต๊ะแนวนี้มาก เจอมากับตัวเองยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ งงไง เฮ้ย มึงก็กินเงินเดือนสังกัดตัวเองอยู่แล้ว พอมาติดต่อกับผมแม่งยังจะมาขอเศษเงินอีก เป็นคนอื่นเขาอาจจะให้เพื่อแลกกับความสะดวก และการติดต่องานที่ราบรื่น
   แต่มันไม่ใช่ผมว่ะ เจอแบบนี้ผมแม่งเฉ่งกลางวงเลย แถมบอกเจ้านายแม่งอีกด้วย ไม่ได้คุยโม้ให้ตัวเองดูเจ๋ง ดูแมน แต่เรื่องแนวนี้ผมทำมาแล้ว คุ้นๆ ว่าเคยเล่าแล้วด้วยนะ แต่คงจะนานมากแล้ว เล่าใหม่อีกทีก็แล้วกัน เอาแบบสั้นๆ พอ
   ตอนปี 2000 ที่ผมหยุดผลิตนิตยสาร Racing Club ผมก็มารับงานเป็นคนต้นคิดโครงการทำสนามกีฬา Outdoor ครบวงจร ที่มีทั้งสนามแข่งรถ สนามยิงปืน พอรู้ทำเลที่ตั้งแล้ว ผมบอกนายทุนเจ้าของเงินเลยครับว่า “ปิดประตูเจ๊ง”
   ผมคิดทั้งหมดออกมา รวมถึงวางผังโครงการเอง ออกแบบให้มีรายได้เข้าสนามทุกวัน ไม่ใช่เป็นสนามที่มีรายได้เฉพาะวันหยุดเหมือนพวกสนามแข่งรถทั่วไป
   เบิกเงินก้อนแรก 20 ล้าน แต่มันมาถึงมือผมแค่ 15 ล้าน โทรไปคุยกับเลขาที่ผมติดต่องานเขาประจำ คำตอบที่ได้รับถึงกับเงิบ
   เขาหักผมไป 5 ล้าน บอกเป็นค่าเจรจา
   เฮ้ยยย งง สัสสส
   โมโหโคตร เลยล้มกระดาน โทรไปบอกเจ้าของเงินบอกว่าผมทำงานต่อไม่ได้แล้วนะ โดนลูกน้องพี่หักค่าคอมฯผมตั้งแต่เบิกเงินงวดแรกซะแล้ว
   โอนเงินจ่ายคืนกลับไปทุกบาท และบอกว่าอีก 5 ล้าน พี่ไปทวงเอากับลูกน้องของพี่เอง
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 19, 2015, 03:06:48 pm
17 กรก 58
   วิ่งซัดจัดเต็มไป 1 ชม
หมวยโทรมาคุยเรื่องงาน แต่เป็นงานของอีกแห่งหนึ่ง อันนี้ไม่ใช่งานของหมวย แต่เพื่อนหมวยเขาทำสื่อออนไลน์ให้แก่บริษัทขายทีวีของไทย เขาเหมือนกำลังหลงทาง อยากให้ผมเข้าไปช่วยเสริม เสนอทางเลือกให้ผม 2 ทาง
1 รับงานทำโฆษณาร่วมกับทีมของเพื่อนเขา
2 ไปรับงานตรงจากเจ้าของ Prisma ดูแลด้านโฆษณาและกลยุทธการตลาดตลอดปี
   เฮ้ยๆ ตั้งตัวไม่ติด ไอ้ทางเลือกที่ 2 นี่มันงานประจำหรือเปล่าวะ ถ้าใช่ผมไม่เอานะ แต่ถ้าเป็นพวกแนวที่ปรึกษา เข้าออฟฟิซบ้าง ประชุมบ้าง แบบนี้พอไหว
   คุยกันอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไปได้ไม่ถึงไหน เพราะงงไง ตั้งตัวไม่ติด งานเก่าเพิ่งเสร็จไป เอางานใหม่มาให้อีกแล้ว แถมยากกว่าเดิมเยอะมาก สินค้าแบบ mass product กลุ่มลูกค้ากว้างมาก แต่แบรนด์กลับยังไม่เป็นที่สนใจ (สินค้าโนเนม)
   บอกให้หมวยส่งข้อมูลเพิ่มมาให้ ขอรายละเอียดทั้งหมดที่เขามี วางสายเสร็จก็เสิร์ชหาข้อมูลทันที
   หึหึ เข้าพันทิพย์ก็มีแต่คนด่า บอกอย่าไปเสี่ยงกับสินค้าโนเนมเลย เงินขนาดนี้ซื้อของมียี่ห้อดีกว่า
   อืม มีเหตุผล ไม่เถียงเลย
   แต่มันคือความคิดเห็นของคนที่ยังไม่รู้จักสินค้าตัวนี้เลยนะ (ผมคิดในใจ)
   ^ ประโยคด้านบนนี้ ทำให้ผมต้องเอาไปตีความต่อ และในที่สุดก็ได้แผนการทำโฆษณาการตลาดตลอดปีออกมาแบบคร่าวๆ
   
   บ่าย “ปุ๋ย” เพื่อนเก่าแก่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยมาหาที่บ้าน เลยพาไปกินร้านอาหารชื่อดังแถวย่านนี้คือข้าวหน้าเป็ดแถวพระประแดง แต่ไปแล้วร้านปิด เงิบแดก ไม่เป็นไร มีก๊อกสอง เป็นร้านอาหารอิสลาม อยู่ละแวกเดียวกัน
   ไปถึงก็ปิดอีก อันนี้เงิบกำลังสองเลย ฉิบหายแล้ว เจ้าถิ่นอย่างเราจะทำไงดี เจอร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่ตัวเองก็ไม่เคยลอง แต่เห็นมีรถจอดเยอะ เลยบอกว่าวันนี้เอาไอ้นี่ไปก่อนแล้วกันนะ คราวหน้าค่อยจัดข้าวหน้าเป็ด
   แต่กินแล้วไม่ผิดหวังนะ รสชาติดีครับ ชามละ 40 แต่เนื้อเป็ดน้อยมาก มีแต่พวกหนังและมัน ผมไม่กินเลย ปกติก็แทบจะไม่กินเนื้อสัตว์อยู่แล้ว เลยไม่ค่อยเดือดร้อน
   น้ำซุปซดอร่อยแบบไม่ต้องปรุง น้ำของก๋วยเตี๋ยวเป็ดเป็นน้ำพะโล้ ใส่เครื่องยาจีนหลายอย่าง อาหารแนวนี้ไม่ควรปรุงรสจัดแบบต้มยำนะครับ ควรให้ลิ้นรับรสชาติของเครื่องเทศแปลกใหม่บ้าง
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 19, 2015, 03:11:46 pm
18 กรก 58
   วิ่งไปได้แค่ 40 นาที เดินอีก 5 นาที นอนดึก ตื่นสาย ก็ได้แค่นี้แหละ แต่ไม่ซีเรียสอะไรนะ ผมไม่ชอบพวกกฎเกณฑ์อะไรอยู่แล้ว
   ภารกิจยามเช้าที่โกดังก็มียกของบ้างเล็กๆ น้อยๆ ยกมันทุกวันนี่แหละครับ ทำงานแบบนี้แต่งตัวดีๆ ไม่ได้หรอกนะ รองเท้าดีๆ ก็ใส่ไม่ได้ งัดรถเข็นพังหมด เสื้อสะอาดๆ สวยๆ แป๊บเดียวก็เลอะเหงื่อจนชุ่ม บางทีก็ต้องปีนกองสินค้าที่มีฝุ่นเพียบๆ เนื้อตัวมอมแมม (แต่มันล้างได้ไง)

   บ่ายไปรอมิวในห้างเดอะมอลล์ ตั้งใจมาที่นี่ก็เพราะจะไปดูการจัดบูธของทีวีกลุ่มโนเนม เข้าไปก็เจอ AJ Aconatic Soken TCL อะไรแนวๆ นี้ หึหึ ไปว่าเขาโนเนม ไอ้ที่ของมึงจะทำน่ะ มันโนเนมกว่าเขาอีกวะโว๊ยยย
   เดินดู เดินวนอยู่หลายรอบ พบว่าถ้าสินค้าของมึงโนเนมนะ คนเขาจะเดินผ่านไปแบบเหมือนมึงไม่มีตัวตนเลย
   เออ จริงด้วย เพราะผมเองก็ไม่เคยมองสินค้าพวกนี้มาก่อนเลย หากตัวเองจะสนใจซื้อทีวี ถ้าไม่มีความรู้อะไรก็จะเลือกจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียง ยี่ห้อที่คุ้นเคย ไอ้ของโนเนมนี่เราก็ไม่เคยมองมันมาก่อนเลยเหมือนกัน
   อ้อ มีสิ ครั้งหนึ่งไปซื้อจอมอนิเตอร์มาใช้กับกล้องวงจรปิด คราวนี้เน้นถูก เลยไปดูของโนเนม ได้ TCL มา แต่นานหลายปีแล้วล่ะ
   อ๊ะ ฉะนั้น คนจะมองของโนเนมก็ต้องอยากได้ของถูกสินะ (นี่ผมเอาตรรกะส่วนตัวล้วนๆ เลย)
   โนเนม ต้อง ราคาถูก โอเค ผมจะจำข้อนี้ไว้
   แล้วเรื่องการพรีเซนต์สินค้าล่ะ ผมลองเดินไปดูแต่ละบูธนี่แทบไม่มีใครสนใจเรื่องสเปคสินค้าเลย มีแต่บอกว่าผ่อน 0% หน้าจอความละเอียดเท่าไหร่ ระบบทีวีเป็นแบบใด (Plasma, LCD, LED) แบบไหน ดี ด้อย อย่างไร ?
   สำคัญสุดคือ ทำไมผมถึงควรซื้อสินค้าของคุณ
   ตั้งคำถามไว้เยอะๆ แล้วเอามาปล่อยแบบจัดเต็มในงานโฆษณาของเราครับ
   
   นี่ผมคิดแผนการไปไกลมากทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าไปคุยอะไรกับทาง Prisma เขาเลยนะ ฮ่าๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือเสียว่าเป็นการเตรียมตัวทำการบ้านมาล่วงหน้า ถ้าเจอกับระดับผู้บริหารก็คงได้คุยเรื่องตัวสินค้าและแผนการตลาดกันชุดใหญ่

   ในห้างนี่มีมุมที่ผมชอบเดินหาไอเดียอยู่หลายแห่ง ที่ชอบและคลาสสิคของผมเลยนะ ก็คือซูปเปอร์มาเก็ต ผมจะดูทั้งสินค้า การจัดเรียง พฤติกรรมลูกค้า พนักงาน ฯลฯ ดูแม่งหมดเลย แล้วนำกลับมาวิเคราะห์
   (โห มึงลึกไปเปล่าวะ)
   ดูไปดูมาก็ได้ของน่ากินหลายอย่างเลยนะ ฮ่าๆ ผมเน้นแนวถั่วครับ ชอบมาก พยายามกินให้มันหลากหลาย แต่ถั่วไฮโซก็มักจะราคาแพง บราซิล เฮเซล อัลมอนด์ วอลนัท พีแคน พิสตาชิโอ แมคาเดเมีย อย่าว่าเขาเลย เพราะมะม่วงหิมะพานต์ของไทยเราเองแท้ๆ ยังแพงเลย ถ้าจะเอาถูกน่ะ ต้องเป็นถั่วลิสงเท่านั้น
   ของอีกอย่างที่ชอบมากก็คือช็อคโกแลต แต่ผมกินเฉพาะแบบดาร์คเข้มๆ เว่อร์ๆ เท่านั้น คือต้องมีสัดส่วนของ Cocoa mass มากเกินกว่า 60%
   ต้องอ่านที่ฉลากด้านหลังนะครับ เพราะด้านหน้ามันเขียนแบบรวมๆ เช่นหากบอกว่าเป็น Dark 60 จะมี Cocoa mass แค่ราว 30% ที่เหลือเป็น Cocoa butter, Cocoa powder
   เอาแบบมี Cocoa mass มากๆ เข้าไว้เป็นดีครับ และจะดีมากหากมีน้ำตาลน้อยๆ ด้วยนะ
   ดูอยู่เพลินๆ มีพนักงานเดินมาหายื่นช็อคโกแลตให้ทดลองชิม อ๊ะ ได้สิ จัดไปเลย รับมา 1 ชิ้น เลือกแบบดาร์คแน่นอน
   อั้มมม หอม อร่อย ฟิน (เลียนแบบวัยรุ่น) หันไปมองพนักงาน เฮ้ยย หน้าตา ผิวพรรณ รูปร่าง ทุกอย่างลงตัวหมดเลย ยิ้มสวย ฟันสวย ตาสดใส
   อารมณ์แม่งเหมือนปิ๊งสาวเลย ปกติไม่มองใครแบบชื่นชมขนาดนี้ แต่ช่วงนี้ผมเป็นเหมือนมนุษย์อเนกประสงค์ไปแล้ว รับงานมาสารพัดเลย นี่ถ้าได้น้องคนนี้มาแสดงภาพยนตร์โฆษณา Neya Cavi จะเหมาะมาก
   เอาไงดีวะ เดินแอบเหล่ แอบมองหลายๆ มุม พบว่าหน้าเขาสวยในมุมเฉียงๆ  และเด่นที่รอยยิ้ม รูปร่างสูงดีอีกด้วย (ปกติจะเจอแต่สาวตัวเล็ก)
   ถ้าถามส่วนตัวผมชอบผู้หญิงยิ้มครับ อย่างดารานี่ผมชอบ ป็อบ อารียา, พอลล่า แค่นี้เองมั้ง คนอื่นสวยกว่านี้ก็มี แต่ไม่ค่อยยิ้ม ผมไม่ชอบ
   จะเข้าไปขอเบอร์โทรแม่งก็โคตรอายเลย เดี๋ยวเขาคิดว่าจะไปจีบแล้วปล่อยมุขแบบหมาแก่ เลยเขียนเบอร์ตัวเองให้แทน แนะนำตัวเองสั้นๆ ว่ากำลังทำหนังโฆษณาและอยากให้คนที่ไม่เคยออกทีวีหรือถ่ายลงหนังสือมาก่อน ว่างๆ น้องโทรมาคุยหน่อยนะ
   พูดจบก็ขอถ่ายรูป และถามชื่อเขา
   “ชื่อแต๋มค่ะ”
   เย็นมิวมาที่จุดนัดพบ ทีแรกบอกจะไปกินกันที่ร้าน Santa Fe แต่พอมาถึงมิวบอกอิ่มแล้ว กลับบ้านกันเถอะ
   อ้าว เก็บท้องไว้ตั้งแต่กลางวันนะนี่ คิดว่าตอนเย็นจะได้กินด้วยกัน นี่ผมไม่เคยกินข้าวกับลูกมานานมาก
   ซื้อครัวซองต์ฝากภรรยา แล้วขับรถกลับบ้าน ขากลับนั่งคุยกันไปตลอดทาง มิวเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของราชวงค์จักรีให้ฟัง คงเพิ่งไปเรียนมา มิวชอบวิชานี้มาก สามารถเล่าได้เป็นเรื่องราว แต่เขาก็ปิดท้ายนะว่า ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 20, 2015, 06:22:27 pm
19 กรก 58
   ตื่นสบายๆ แบบไม่เร่งรีบ ออกวิ่งไป 2 ชม เดินต่ออีก 15 นาที ขณะวิ่งนี่ใจคิดแต่เรื่องการตลาดของ Prisma ว่าจะออกมาแนวทางไหนดี มันเหนื่อยตรงการสร้างแบรนด์ไง เพราะสินค้ายังคงโนเนมอยู่ การประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักก็จะเป็นเหมือนภาพลักษณ์แรกที่สังคมเขาเห็นเรา ไอ้ภาพนี้แหละครับสำคัญมาก ลบยากมากอีกด้วย
   ยกตั้วอย่างตัวผมเองเปิดตั้วด้วยการขับรถแบบดริฟท์ คนเห็นก็จำภาพนี้ไปตลอดจนถึงวันนี้ แม้ผมจะไม่ได้ขับเป็นสิบปีแล้ว แต่ก็ยังมีงานมาชวนให้เป็นกรรมการตัดสิน
   แต่ถ้าเป็นแวดวงศิลปะและการโฆษณา เขาก็ยังมองผมเป็นพวกนักออกแบบอยู่ตลอดเวลา
   ส่วนวงการนักเขียน นักวิจารณ์ แม้ผมจะห่างหายไปขนาดไหนภาพนั้นก็ยังคงอยู่ในใจเขา
   การเปิดตัวนี่สำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ

กลับมาบ้านเจอภรรยาซื้อต้มเลือดหมูมาฝากอีกแล้ว เฮ้ยย 4 สัปดาห์ติดกันแล้วนะ เข้าใจว่ามีประโยชน์จากใบตำลึง แต่กินผักอย่างอื่นบ้างก็ได้นี่นา บ่นในใจนะ เขาอุตส่าห์ซื้อมาฝาก เราก็กินๆ เข้าไป
   ซ้อม Uke สักเล็กน้อยสัก 30 นาที แล้วก็เข้าโหมดครีเอทีฟ อาทิตย์ก่อนแค่คิดงานโฆษณา 5 เรื่อง แต่วันนี้ผมต้องวางแผนการตลาด และคิดการโฆษณาว่าจะเล่นกับสื่อใดบ้าง ทั้งสื่อกลางแจ้งที่ตั้งโชว์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ หรือแม้กระทั่งอิ่นเทอร์เนท
   แต่ผมพยายามจะหาสื่อใหม่ๆ มาเล่น เพราะแบรนด์สินค้ามันใหม่มาก ก็น่าจะมีอะไรใหม่ๆ มาเล่นกันสักหน่อย
   คิดออกมาได้หลายอันเหมือนกันครับ มีเลียนแบบของต่างประเทศเขามาบ้าง อันไหนก็อปก็บอกกันไปตรงๆ ครับ แมนๆ ดี แต่หากจะทำจริงมันก็ต้องมาประยุกต์กันอีกเยอะ เผลอๆ แทบไม่เหลือเค้าเดิม ถึงตอนนั้นถ้าไม่บอกใคร และพูดไปว่าผมคิดเอง แม่งคงเท่สัส แต่ผมทำแบบนั้นไม่ลง
   กลางวันแม่ซื้อข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่างมาฝาก โหหห จัดเต็มเลยสิครับ นานๆ ได้กินร่วมกับพ่อแม่ ปกติแยกกันกินตามสะดวก
   อิ่มแล้วก็มานั่งคิดงานต่อครับ ไม่เคยทำงานโหดๆ อย่างนี้มาก่อนเลย สนุกดีนะ ผมว่าสมองคนเรานี่ยิ่งคิดยิ่งพัฒนาขึ้นครับ ทำให้ทฤษฎีที่ผมคิดค้นคือการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างดีมันจะส่งผลให้สมองเราดีตามไปด้วย แบบนี้น่าจะจริงแน่นอน
   ในรายการ Thailand Got Talent คนส่วนใหญ่ก็จะดูเพื่อความบันเทิง ดูโชว์ ดูเอาขำ สนุก ตลก ฯลฯ
   แต่ผมดูพวกเขามาตามหาความฝัน
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 20, 2015, 06:23:42 pm
20 กรก 58
   ตื่นเท่าเมื่อวาน แต่มันเรียกว่าสายสำหรับวันธรรมดา มีเวลาวิ่งไปแค่ 45 นาที วอร์ม 15 เพิ่มความเร็ว 15 และวิ่งแบบสลับช่วงความเร็วอีก 15 ตามด้วยเดินหน้าสลับถอยหลังอีก 15 นาทีเป็นการ Cool Down จบครบ 1 ชม
   วิ่งไปก็คิดงานของ Prisma ไปด้วย จากเดิมนี่ผมคิดแต่ตัวงานโฆษณา มาวันนี้ผมคิดไปถึงแผนการตลาด แผนการออกสื่อ และอีกสารพัดวิธี มันยากมากๆ เพราะเป็นสินค้าโนเนมด้วยไง ก็เลยอยากใช้เงินเขาให้คุ้มค่าที่สุด ไม่อยากให้ไปลงสื่อแบบเรี่ยราดตามลมปากของเอเจนซี่ ไอ้พวกนี้เขาอยากจะได้แต่ค่าคอมฯ ค่า % ของเขา
   อ้อ เอเจนซี่ดีๆ ก็มีนะ เดี๋ยวพวกน้อยใจ แต่ที่ว่าดีก็ยังต้องมักจะมีเรื่องใต้โต๊ะอยู่อีกนั่นแหละครับ
   เช้านี้อาหารไม่ค่อยดี เป็นขนมกูช่ายทอด มีทั้งหมด 5 ชิ้น ผมกินไป 3 ที่เหลือ 2 ชิ้นควักเอาแต่ไส้ผักมากิน มีแครอทลวก ขิงซอย กระเทียมสด ผักแพว ให้กินแกล้มด้วยนะ
   เช้านี้แปลกที่รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ในถนนที่ผมผ่าน แต่พอฟังวิทยุแล้วมันตรงกันข้าม คนบ่นรถติดกันทั่วเมือง
   อากาศครึ้มๆ ตลอดวัน ช่วงนี้ฝนตกลงมาบ่อยแล้วนะ สงสัยจะเป็นผลจากการแห่นางแมวของชาวบ้าน และการสวดอ้อนวอนของผู้ว่าฯ กทม ตกในเมืองคนก็ได้แค่คลายร้อน แต่ถ้าตกตามต่างจังหวัดไกลๆ ได้ก็แจ๋วเลยนะ ชาวบ้านทำการเกษตรเขาพึ่งพาฟ้าฝนจากธรรมชาติอยู่อีกเยอะ
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายนั่งคิดงานต่อ เริ่มได้ไอเดียใหม่ๆ บ้างแล้ว แต่ยังไม่สรุปนะว่าจะเลือกใช้แบบไหนดี คงเก็บๆ เอาไว้ในคลังอาวุธก่อน
   กินซาลาเปาที่แม่ซื้อมาให้ตั้งแต่เมื่อวานจากเยาวราช รสชาติไม่เท่าไหร่เลย เนื้อแป้งหนา แข็ง ไส้แข็งๆ แห้งๆ กินแล้วฝืดคอ ไม่รู้ว่าถ้าเป็นของใหม่ๆ จะดีกว่านี้สักแค่ไหนกัน
   หมวยบอกจะโทรมาคุยวันนี้ ยังไม่เห็นโทรมา ข้อมูลของลูกค้าใหม่ที่ชื่อ Prisma ก็ให้มาแบบกว้างเหลือเกิน คงต้องรอกันต่อไป เห็นเขาบอกว่าเย็นนี้จะโอนเงินค่าบทโฆษณาให้ แต่ไม่เห็นโทรมาคุยอะไร เลยคิดว่าคงจะยัง
   “แต๋ม” ไม่ได้โทรกลับมาหาเลย คงจะต้องหานักแสดงใหม่กันต่อไป
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 21, 2015, 06:13:38 pm
21 กรก 58
   ออกวิ่งยามเช้านี่แรกๆ ก็แค่อยากออกกำลังกาย คิดแค่นี้แหละ ไม่ได้คาดหวังว่าขณะวิ่งจิตใจเราจะสงบมาก สามารถคิดงานเจ๋งๆ ออกมาได้เพียบเลย เฮ้ยย ชอบมาก 
   แต่มันจะไม่เกิดขึ้นหากไปวิ่งในสถานที่ๆ มีคนพลุกพล่านนะ สิ่งรอบตัวมันดึงความสนใจเราไปไง ถ้าวิ่งเป็นกลุ่ม วิ่งกับเพื่อน แบบนี้ไม่ได้เลยครับ จิตเราไม่นิ่ง แต่ถ้าคิดถึงเรื่องการออกกำลังกายก็โอเค มีเพื่อนวิ่งมันสนุกกว่าวิ่งคนเดียวอยู่แล้ว
   ส่วนตัวผมอยู่คนเดียวในโลกส่วนตัวแบบโคตรสูงมานานมาก จนเหมือนมีกำแพงกั้นกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ยิ่งไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย ต่อให้สนิทแค่ไหน ก็เหมือนมีม่านมากั้น ส่วนคนไม่รู้จัก เราก็เดินสวนกันไปแบบไม่มีกันและกันอยู่ในสายตา ภายนอกผมเป็นแบบนั้น
   ส่วนภายในใจเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย เป็นมิตรมากๆ มีความรักและปรารถนาดีให้แก่ทุกคนที่พบเจอ ผมใช้ชีวิตเหมือนเป็นวันสุดท้ายที่จะได้หายใจ หากผมทำประโยชน์อะไรให้แก่ใครได้บ้าง ผมเอาหมด
   วันนี้วิ่งไป 1 ชม วอร์ม 15 นาที วิ่งสลับช่วงความเร็วแบบปานกลางอีก 30 นาที (Medium Interval) และวิ่งสลับช่วงความเร็วแบบเร็วอีก 15 นาที (High Interval) ไอ้สูตรพวกนี้ก็อ่านจากพวกนักกีฬาแล้วมาปรับๆ เอาครับ เห็นเขามี Interval เราก็เลยลองเพิ่ม Low, Medium, High เข้าไปดู ได้ความเหนื่อยครับ วิ่งเสร็จยังต้องวิ่ง Cool Down อีก 5 นาที ตามด้วยเดินหน้าสลับถอยหลังอีก 10 นาที
   เข้ามาบ้านเจอของคลาสสิค กระเพราไก่ ไข่ดาว ข้าวกล้อง มีกระเทียมสด ขิงสด ไว้คอยแกล้ม
   วันนี้เอารถ 180SX ออกไปใช้บ้าง จอดมานาน 2 วันแล้ว ฟ้าเป็นใจนะ สายๆ ฝนตกเลย ดูซิ อุตส่าห์ล้างเสียอย่างดี
   หมวยโทรมาคุยอัปเดทงาน บอกว่างานของ Prisma ให้พักไว้ก่อน ผู้บริหารไปต่างประเทศ ขาดการติดต่อ
   ไม่เป็นไร ผมคิดแล้วก็ต้องคิดต่อไปจนจบ เอาไว้เจอค่อยพรีเซนต์ชุดใหญ่
   แต่พรุ่งนี้เย็นกลุ่มเจ้าของผลิตภัณฑ์ Neya เขาอยากจะพบกับผม เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนที่พรีเซนต์งานผ่านเอเจนซี่ ผมฝากหมวยไปบอกเจ้าของผลิตภัณฑ์เขาหลายเรื่อง เช่น ปรับปรุงเวปไซต์ ปรับปรุงเฟซบุ๊ค ปรับปรุงแพ็คเก็จ ฯลฯ แนะนำโน่นนี่ไปเยอะมาก เจ้าของคงอยากรู้ว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใครกันนะ
   นัดกัน 1 ทุ่มที่ พาสิโอ แถวลาดกระบัง ใกล้สุวรรณภูมิ ไกลจากบ้านผมเยอะมาก และเป็นครั้งแรกที่ผมไปประชุมตอนกลางคืน แปลกดีว่ะ
   ก็เพราะกลุ่มเจ้าของเขามีงานประจำทำกันน่ะครับ เลยรอเลิกงานแล้วค่อยมาพบปะกัน ก็โอเคดีนะ สะดวกพวกเขาดี แต่ผมไม่รู้จักไอ้ที่นัดหมายนี่เลยสิ หาแผนที่ดูก็รู้แบบคร่าวๆ ไม่เคยได้ไปเฉียดย่านนั้นเล้ยยยย
   ช่วงเย็นรถติดมากด้วยสิ กะเวลาไม่ถูกกันเลยล่ะ เพราะผมไปทางด่วน มันเริ่มติดกันตั้งแต่เย็นๆ แล้ว เอาไงดีวะ
   เข้ามาบ้านตอนเย็น บ่ายก็มียกของในโกดังเหมือนเดิม ก่อนกลับบ้านแวะธนาคารตรวจเช็คยอดเงิน พบว่าเจ้าไผ่ให้ลูกน้องโอนเงินมาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมจะได้นำไปส่งมองให้อาร์ตมันต่อไป
   หิวโหยเหมือนเดิม กลางวันไม่ได้กินอะไรเลย ที่บ้านก็มีแต่ผลไม้ จัดกีวีไป 2 ผล ส้มเขียวหวานอีก 2 ผลเล็กๆ ถั่วคั่วอีกกำมือ
   ตลอดเวลาที่สมองว่างก็คิดถึงงานของ Neya ไม่รู้ว่าเขาจะให้เราทำอะไรบ้าง ก็เลยจัดเตรียมเอกสารแบบย่อๆ ในสิ่งที่ผมคิดว่าเขาควรทำ เพื่อนำไปเสนอพรุ่งนี้
   เริ่มจากเขียนหัวข้อ แล้วก็แตกย่อยออกไป ยิ่งเขียนแม่งยิ่งเยอะ
เฮ้ยยย ทำไมมันมีเรื่องที่ต้องทำมากมายขนาดนี้วะ
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 24, 2015, 04:24:04 pm
22 กรก 58
   ช่วงนี้ฝนตกบ่อยในช่วงกลางคืน ตอนเช้าก่อนออกวิ่งผมกลัวไปเหยียบเอากิ้งกือ ไส้เดือน หอยทาก พวกสัตว์ตัวเล็กๆ ที่มักชอบออกมาหาอาหารกิน รอบแรกที่วิ่งเลยต้องถือไม้กวาดไปด้วย ยอมเสียเวลาสักหน่อย วิ่งได้น้อยลงหน่อย แต่แลกกับชีวิตสัตว์แล้วมันเทียบกันไม่ได้เลยนะ
   วิ่งไปกวาดไป เห็นอะไรดูแล้วน่าสงสัยก็กวาดเข้าข้างทางซะ คิดเสียว่าเป็นการเดินวอร์มก็พอได้อยู่นะ
   ซัดจัดไปอีก 1 ชม ช่วงนี้เริ่มสนุกกับการวิ่งแบบสลับช่วงความเร็วปานกลาง (Medium Interval)
   วันนี้ผมมีประชุมตอนหัวค่ำ อาบน้ำแต่งตัวมาเสียอย่างดีตั้งแต่ออกจากบ้าน แต่วันนี้ที่ร้านงานเยอะเหลือเกิน ผมแบกยกของจากโกดังไป 3 รอบ เหงื่อเปียกชุ่มโชกเลย
   งานเข้าแล้วสิมึง เอาไงดีวะ ตัดสินใจกลับเข้าบ้านตอนบ่ายไปอาบน้ำแต่งตัวมาใหม่อีกรอบ ผิดแผนไปหมดเลย แทนที่จะไปเยี่ยมพีสาวที่บ้านพระราม 9 แล้วก็นั่งเล่นอู้อยู่จนเย็นแล้วค่อยเดินทาง กลายเป็นตอนนี้กลับมาบ้านตัวเองใหม่
   เอาไงดีๆ จุดนัดพบนี่แม่งไปทางสนามบินสุวรรณภูมิเลยนะ แต่อยู่บนถนนลาดกระบัง ชื่อ mall ว่า  Paseo ดูแผนที่แล้วก็ไปไม่ยากเท่าไหร่ แต่แม่งไกลครับ แถมช่วงเย็นรถติดมากอีกด้วย กะเวลาไม่ถูกเลยล่ะ วิธีเดียวที่คิดได้ก็คือไปก่อนเวลาเยอะๆ หน่อย
   ผมนัดใคร ผมไม่เคยสาย
   ใช้ถนนวงแหวนแล้วไปเดินเล่นที่เมกาบางนาดีกว่า ทุกทีไปก็ใช้ทางด่วน วันนี้อยากลองของใหม่เพื่อเปิดสมอง ไปเส้นวงแหวน ระยะทางไกลกว่าถึง 10 กม แลกกับรถติดน้อยกว่านิดหน่อย
   ผมมาที่นี่สัก 2 ครั้งเห็นจะได้ และมาดู Ikea ทุกครั้ง วันนี้มาฆ่าเวลาล้วนๆ เลยเดินที่จุดอื่นบ้าง เปิดหูเปิดตาดีครับ ชอบการจัดวางผังของเขานะ โล่ง โปร่ง อากาศถ่ายเทดีมาก เจอห้างร้านใหม่ๆ สวยๆ ก็ขอเขาเดินเข้าไปชมด้านใน
   มาถูกใจร้านแนวแคมปิ้งนี่แหละครับ ร้าน Tank Store ที่เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ Sea to summit และร้าน The North Face ขายของนักเดินทางระดับสูงทั้งคู่ ผมไม่มีปัญญาใช้สินค้าพวกนี้แน่ๆ
   ร้าน Oakley มีแว่นที่ตรงกับโจทย์ในใจผมมานานหลายปี รุ่น Eye Shade กรอบแว่นทรง Goggle แต่ขาเป็นแบบเกี่ยวหูธรรมดา เสียอย่างเดียวตรงที่เปลี่ยนจากขาธรรมดาเป็นสายรัดยางยืดไม่ได้
   เดินจนเมื่อยขาก็มาเดินด้านนอกที่เขาเรียก Food Walk เฮ้ยย เข้าท่าดีนะ เอาร้านอาหารมาเรียงรายกันเต็มยาวเหยียดเลย บรรยากาศแนว Outdoor รับลมธรรมชาติ กลางคืนคงจะสวยมากๆ แถวบ้านผมไม่เห็นมีแบบนี้เลย
   เดินอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 0400-0600 ผมออกเดินทางไปลาดกระบังต่อเลย นัดกันตอน 0700 เผื่อเวลาไว้ 1 ชม คิดว่าไปได้สบายๆ แต่เอาเข้าจริงแม่งฉิวเฉียดมาก ไม่น่าเชื่อว่าย่านบางนารถมันจะติดแบบโหดสัส
   ถึงจุดนัดพบชื่อ Paseo ลาดกระบัง ไม่เคยมาเฉียดย่านนี้เลยตั้งแต่เกิดมา ถนนแม่งมียูเทิร์นเยอะมากๆ ไอ้ที่มอลล์นี้ก็หาที่จอดรถยาก จนผมต้องขึ้นไปจอดบนตึกถึงชั้น 3
   0700 แล้วนะ ถึงเวลานัดพบแล้ว แต่ผมก็ไม่โทรหาใครแบบจะแมนโชว์มืออาชีพไง คือนัดแล้วไม่ต้องพูดซ้ำซาก ไม่ต้องโทรมาตามจิกว่าอยู่ไหนแล้ว ใกล้ถึงหรือยัง ฯลฯ
   นั่งรอที่หน้าธนาคารธนชาติ ตรงข้างร้านกาแฟชื่อดัง สักพักหมวยโทรมา
   “พี่เปิ้ล หมวยกับลูกค้าไปถึงสายหน่อยนะ ขอโทษนะ”
   โอเค จัดไป สบายๆ ผมถึงแล้ว ลอยลำ ใครจะช้า จะสายมันก็เรื่องของเขา ส่วนผมก็แค่มาให้ทันเวลานัด นั่นคือหน้าที่ของผม
   นั่งจัดเตรียมเอกสาร ทบทวนหัวข้อที่จะพูด ฯลฯ แล้วอีกสัก 15 นาที หมวยก็โทรมา บอกว่ามาถึงแล้วนะ เดี๋ยวจะลงไปหาที่ร้านกาแฟ
   “พี่อยู่ไหนหรอ”
   “อยู่หน้าธนาคาร ตรงข้ามร้านกาแฟครับ”
   “นี่หมวยก็อยู่ร้านกาแฟแล้วนะ”
   “พี่ก็นั่งมองร้านกาแฟอยู่นี่แหละ เอ๊ะ หรือว่ามันมีหลายจุดหรือเปล่า”
   “มีอันเดียวพี่”
   “หมวยรอตรงหน้าร้านกาแฟ เดี๋ยวพี่เดินไปหา”
   เก็บข้าวของเดินไปร้านกาแฟ เดินวน 1 รอบ แอบส่องเข้าไปในร้านทุกโต๊ะก็ไม่เจอหมวย
   “เฮ้ย แปลกมาก ทำไมหากันไม่เจอ”
   ผมเลยเดินไปหน้าทางเข้าถ่ายรูปป้าย Paseo มีติดภาพของ MK มาด้วย ผมบอกจะยืนรอหน้าร้าน MK
   หมวยส่งภาพกลับมาบ้าง เป็นอันทำให้ผมต้องเงิบแดก
   ป้ายของเขาเขียนว่า Paseo Town เฮ้ยย มีคำว่า Town ด้วย ของเราไม่มี แต่ผมก็ขับรถมาถูกต้องตามแผนที่นี่นา นี่ก็ถนนลาดกระบังไง เฮ้ย กูงงสัส แต่ไม่กล้าถามเขา
   ผมมาผิดที่หรือนี่? คำถามเกิดขึ้นมาในใจ
   แต่แล้วผมก็ตาสว่างหลังจากที่หมวยโทรมาหาอีกครั้ง
   “พี่ หมวยขอโทษ หมวยส่งแผนที่ไปให้ผิดอัน”
   !!!
   ฉิบหายยยย
   รีบให้หมวยกด Share Location ทันที ผมเปิดแผนที่แล้วขับตาม ไปโดยที่ไม่เคยผ่านย่านนั้นมาก่อนเลย ถนนแม่งก็มืดเหี้ยๆ ข้างทางก็มีหมู่บ้านรถเลี้ยวเข้าออกตลอดทาง โหห คอยมองถนน คอยระวังรถ แถมยังต้องดูแผนที่อีก
   ความซวยมาเยือนไม่เลิกรา ขับตามแผนที่อยู่ดีๆ พอใกล้ถึงจุดหมายแล้วกลับบอกให้เลี้ยวเข้าไปในศูนย์รถ Subaru
   เฮ้ยย จะพากูไปไหน ตัดสินใจจอด เช็คแผนที่ก็ถูกต้องนี่นา คุยกับหมวยตรงนี้อยู่นานเลย ให้เขากด Share Location อีกครั้ง ก็ยังขึ้นที่พิกัดเดิม
   โห โคตรเหนื่อย เมื่อย ท้อแท้เลยนะ นั่งคิดว่าทำไงดีๆ
   ลองเสิร์ชหา Paseo Town ก็แล้วกัน
   กระจ่าง สว่าง ใส ขึ้นมาทันใด ไอ้ Paseo Town มันอยู่ก้นซอยของศูนย์รถ Subaru นี่เองแหละครับ แต่มันมีคลองแสนแสบมากั้นไว้ ถ้าผมจะขับรถไป ก็ต้องไปอ้อม วน เพื่อหาทางเข้าจากถนนอีกด้านหนึง
   มาถึงจุดนัดพบร้านขนมปังตอน 0830 ผมแม่งสภาพอย่างโทรมเลย หมดซึ่งออร่าเลยกู กะจะเปิดตัวให้เขาประทับใจ กลายเป็นสภาพลูกหมา
   นั่งกันเป็นแผงเลยครับ ดูแล้วอายุน่าจะอ่อนกว่าผมกันหมดทุกคนเลย ผมกลายเป็นพี่ใหญ่ทันที
   มีกลุ่มเจ้าของผลิตภัณฑ์ Neya มากันครบ 5 คน กลุ่มการตลาด online อีก 3 เหลืออีก 2 คน คือเจ้าหมวย และผม
   สั่งแค่น้ำเปล่ามากินแล้วก็ซัดเลยทันที พรีเซนต์แนวทางที่ผมคิดงานโฆษณาออกมาทั้ง 4 ตอน รวมถึงข้อควรปรับปรุงของผลิตภัณฑ์เขาหลายข้อเลย ตอนแรกคิดว่าจะไม่พูด แต่กลายเป็นว่าเขารับได้ ยอมรับ และอยากปรับปรุง เจอแบบนี้ผมเลยจัดหนักให้
   ไล่ไปตั้งแต่ตัวเม็ดผลิตภัณฑ์ ซอง กล่อง เวปไซต์ เฟซบุ๊ค ไลน์ เรียกว่าเขามีอะไร ผมแม่งติหมดเลย แต่ติแล้วก็เสนอทางแก้ไขปรับปรุงให้เขาด้วยนะ
   ดูทางกลุ่มเขาเปิดใจรับดีนะ ดูเขาตั้งใจกับผลิตภัณฑ์ Neya นี่มากเลย แต่เขาทำกันแบบมือใหม่มากๆ บางจุดเห็นแล้วเสียดายของ เลยยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ “พลอย เฌอมาลย์” ที่ชื่อ “Cher Chom 360” เปิดภาพแพ็คเก็จให้ทางกลุ่มดู แล้วชี้ให้เห็นจุดที่ผลิตภัณฑ์นี้พลาด และไม่ควรทำ
   เนื่องจากผมไม่รู้ว่าทางเขา “ขาด” อะไรบ้าง และ “มี” อะไรบ้าง ก็เลยคิดว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นของผมก็แล้วกัน ผมหน้าด้านบอกกับเขาแบบนี้เลย
   เลยจัดชุดใหญ่ซ้ำต่อให้อีกทั้งด้านแผนการตลาด และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ก็มีหลายข้อที่ผมเพิ่งรู้วันนี้ และถึงกับต้องอึ้งไปเลย
   นั่นคือ ผลิตภัณฑ์แนวนี้มีบริษัทรับผลิตแบบ OEM โรงงานเดียวปั๊มให้เป็นสิบเป็นร้อยยี่ห้อเลยก็มี ฉะนั้น หากของค่ายใดขายดี ก็จะมีคนมาให้ก็อปเลียนแบบ แล้วทางโรงงานแม่งก็ทำให้หน้าตาเฉยเลย ไอ้นี่ทำเอากูงง
   กลายเป็นว่าหากใครมีสูตรใดแบบใด มันก็จะไม่เป็นความลับ เพราะทางโรงงานแม่งก็อยากขายของ สูตรใครขายดี มันก็เอาไปบอกต่อซะ สัสสเอ๊ยยยย ไม่มีจรรยาบรรณเล้ยยย
   1030 ร้านขนมปังปิดแล้ว เดินมาไล่แล้ว พวกเราย้ายมานังด้านนอกหน้าร้าน อ้อ ไอ้ Paseo นี่เขามี Mcdonald เปิดตลอด 24 ที่อยู่ใกล้ๆ กัน บรรยากาศเลยไม่ค่อยเหงา แต่นั่งตรงนี้ยุงเริ่มเยอะแล้วล่ะ สาวๆ นุ่งสั้นปัดยุงกันพัลวัน
   คุยกันต่อจนถึง 1230 โหดสัดเลยไหมครับ แต่ช่วง 2 ชม หลังนี้ผมรู้สึกง่วงและสมาธิน้อยลง บางครั้งตอบปัญหาเฉพาะหน้าที่ทางลูกค้าถามได้ยังไม่ดีพอ ลูกค้าอาจไม่รู้สึก แต่ตัวผมรู้ดี ชัดเลยด้วย เพราะผมมีมาตรฐานการทำงานของตัวเองมาตลอด
   แยกย้ายกันตอน 1230 ครับ ผมขับรถกลับบ้านแบบง่วงๆ หาวตลอดทาง น้ำตาไหล อารมณ์แม่งเหมือนตอนขับรถกลับจากงานแข่งรถที่พัทยาเลย แต่อันนั้นมีหลับในนิดๆ ส่วนวันนีก็เกือบๆ แล้วล่ะ นี่ถ้าต้องใช้ชีวิตแบบนี้บ่อยๆ นะ สักวันต้องไม่รอดแน่ๆ
   ขับช้าครับ ลากแค่ 80 ตลอดทาง เปิดเพลงฟัง เปิดกระจก ตบแก้มตัวเองให้ตื่น ขยี้ตา ฯลฯ ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพตอน 0130 อาบน้ำ นอนทันที
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 24, 2015, 04:26:57 pm
23 กรก 58
   ตื่น 0530 เฉยเลย เฮ้ยย นอนไปนิดเดียวเองนะ ร่างกายตื่นเองอัตโนมัติ แต่ตื่นมาแบบไม่ค่อยมีแรงนะ แม้จะไม่ได้วิ่ง แต่ก็เอาจักรยาน Neobike 16 ออกขี่ ไปได้ไม่นานหรอกครับ ราว 20 นาทีเองมั้ง กลับมาบ้านมือชาเลย
   อาหารเช้าวันนี้เอาเนื้อปลากะพงมาทอดแล้วทำลาบ อร่อยดีเหมือนกัน อาการเพลียๆ ยังคงอยู่ไปตลอดวันนี้แน่นอน เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีนะที่ผมนอนดึกขนาดนี้
   ช่วงสายใกล้ๆ เที่ยงรู้สึกผิดปกติในลำคอ กลืนน้ำลายแล้วติดขัด อาการแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลย เกิดจากพักผ่อนน้อยแน่นอน บวกกับผมออกกำลังกายมากในตอนเช้า และลากยาวเข้านอนดึกมาก ความอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า จึงพากันแสดงออกมา
   จากเดิมดื่มน้ำมากอยู่แล้ว เลยอัดเข้าไปเพิ่มอีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายพบกับข่าวไม่ค่อยดี เมล็ดของ Neya ที่ผมออกแบบไว้ให้เป็นสีทองคำ ทางโรงงานผู้ผลิตบอกว่าจำเป็นต้องใส่สีเข้าไปมาก เลยเป็นอันต้องยกเลิกไป กลายเป็นสีธรรมชาติของมันแทน
   คิดต่อไปว่ามันจำมีผลต่องานดีไซน์ซอง และแพ็คเก็จภายนอกด้วยไหมนะ เพราะผมออกแบบให้เป็นสีทองคำหมดทุกชิ้นเลย
   กินแตงโมกล่องใหญ่หมดเกลี้ยง เสร็จแล้วมานั่งคิดงานต่อ เจอคำถามที่ตอบยาก นั่นคือ ทางเจ้าของเขาถามว่าผมจะคิดว่าใช้จ่ายในการเป็นที่ปรึกษา และช่วงานด้านอื่นๆ เขาอย่างไร
   ผมคิดถึงตัวเงินทีหลังนะ ผมจะมองว่าผมช่วยอะไรเขาได้เป็นประโยชน์มากน้อยเพียงใดก่อนต่างหาก คือเอาผลงาน ผลประโยชน์ที่เขาได้รับเป็นที่ตั้ง แล้วค่อยมาคิดเป็นค่าใช้จ่าย
   อย่างถ้าจะให้ผมไปประชุมไกลๆ แบบเมื่อวานตลอด แบบนี้ก็ต้องบวกค่าเดินทางไปอีกหน่อย โดนค่าทางด่วน 2 ต่อ เฉพาะไปกลับก็จะ 200 บาทแล้ว ค่าน้ำมันต่างหาก
   เย็นกินกล้วยน้ำว้า 1 ผล คิดว่าจะจบ แต่เปล่า กลางคืนหิวโฮก เอาขนมพื้นบ้านของอินโดนีเซียทีทำจากถั่วเหลืองเป็นเหมือนแป้งแผ่นบางกรอบ แต่รสชาติแม่งจืดสัส กินเปล่าๆ กินยากมาก ถ้าใส่อาหารกินก็พอไหว เลยเอามาจิ้มแยมสตอเบอรี่กิน
   เข้านอนแบบไร้วิญญาณ เพลีย ล้า หมดแรง สมองไม่แล่น
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 24, 2015, 04:29:19 pm
24 กรก 58
   เข้านอนตามปกติสามทุ่มกว่า แต่ตื่นมาพร้อมกับอาการใหม่คืออ่อนเพลีย เฮ้ยย จะมาไม้ไหนกันอีกวะนี่ เมื่อวานกลืนน้ำลายลำบาก วันนี้อ่อนเพลียแบบไม่อยากขยับร่างกาย
   ไม่ได้วิ่งอีกวัน เดินหน้าบ้านสูดลมหายใจเข้าตามจังหวะก้าวเดิน คิดค้นสูตรการหายใจเป็นของตัวเราเอง แต่ก็เอาจากตำราหลายๆ แห่งมาประยุกต์รวมกัน
   ไม่สบายอยากกินอาหารรสชาติจืดๆ หรือน้ำซุป แต่มื้อเช้าวันนี้เป็นยำวุ้นเส้น ไข่ต้ม ข้าวกล้อง หึหึ กินไปได้แค่นิดหน่อยเองครับ
   ขับรถไปทำงานแบบเฉื่อยชามาก จากเดิมขับช้าอยู่แล้ว วันนี้นี่ปล่อยไหลตามคันหน้าอย่างเดียวเลย ไม่ต้องเปลี่ยนเลนไปมาให้วุ่นวาย ใครจะมาปะแล้วเบียดก็ยกคันเร่งให้เขาเข้ามาซะ ง่าย จบ
   “ไอ้ยุง” เพื่อนนักเรียนสวนกุหลาบ ที่ตอนเรียบแทบไม่ได้คุยกัน แต่มาเจอกันในเฟซบุ๊คบ่อยๆ และเจอตัวจริงในงานโรงเรียน วันนี้มันโทรมาคุยปรึกษาเรื่องงาน ก็คงจะคิดว่าผมทำงานโฆษณานั่นแหละ
   เขาเอาไอเดียมาเสนอผม บอกว่าถ้าจะเสนอแนวนี้กับบริษัทต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมตอบไปแบบไม่ต้องเกรงใจว่า ถ้าเขาสนใจ เขาก็จะรับฟังมึงทุกอย่าง สอบถามมึงอย่างละเอียด แต่สุดท้ายเขาก็จะเอาไปทำเอง ไม่จ้างมึงหรอก
   ยุงถึงกับท้อใจ บอกว่าจะแก้ยังไงดี ผมบอกว่ามันแก้ไม่ได้ ผมก็โดนมาหนักๆ 2 หน (นับเฉพาะโปรเจคใหญ่ๆ นะ) แต่รายล่าสุดนี้เป็นเจ้าไผ่ (รุ่นน้องที่จัดงานแข่งดริฟท์) คนนี้แมนดี แม้จะงบไม่ถึงกับที่ผมเสนอไป แต่ก็บอกกับผมตรงๆ ว่าชอบงานของผม เลยขอซื้อเฉพาะงานด้านครีเอทีฟ แล้วเขาจะไปหาทีม Production มาเอง
   งานนี้เลยจบแบบสวยๆ เขาแมนมา ผมก็แมนไป คิดราคาเหลือแค่ 1 ใน 3 ของราคาปกติ แถมเป็นที่ปรึกษาดูแลในจุดที่เขาขาดตกบกพร่องให้อีก
   ฟังยุงจบ ผมก็บอกให้มันฟังผมขายของบ้าง แล้วก็เสนอไอเดียตัวเองไปหลายอย่างที่เก็บๆ ไว้ตั้งแต่สมัยทีวีดิจิตอลยังไม่เกิด ช่วงนั้นคิดรายการแปลกใหม่มาเยอะมาก มีอันหนึ่งที่ผมชอบ แต่หาคนทำได้ยาก นั้นคือรายการเกี่ยวกับเรือ ไอ้ยุงฟังแล้วชอบอันนี้เลย บอกให้ผมเตรียมข้อมูลเพิ่ม อาทิตย์หน้าจะนัดไปเจอกับผู้ใหญ่รุ่นพี่ OSK
   บ๊ะ แจ๋วสิวะพวก ใจกลับมาฮึกเหิมอีกครั้งเลย
   ตอนบ่ายมียกของในโกดังเล็กน้อย รู้สึกได้ทันทีว่าแรงเราไม่มีเลย ยกแต่ละลังต้องตั้งใจ ต้องเกร็งทั่วตัว สูดหายใจเตรียมพร้อม ชักสงสัยว่า เอ๊ะ คนแก่ที่ไม่มีแรง จะเป็นความรู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะ
   ยามว่างเป็นไม่ได้ สมองนี่คิดถึงแต่เรื่องของ Neya จนทางลูกค้าสอบถามกลับมาว่าจะคิดค่าใช้จ่ายเขาอย่างไร เขาถามมา 2-3 ครั้งแล้วนะ แต่ผมตอบไม่ถูกจริงๆ ในใจเราคิดถึงแต่ว่าทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง อยากส่งให้ถึงฝั่งฝัน
   จากเดิมตอนนี้เป็นพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแนวกินแล้วสวย แต่ผมอยากได้แนวเพื่อสุขภาพมากกว่า เช่นมีพวก Q10 โกรธฮอร์โมน วิตามิน C เน้นบำรุงสุขภาพโดยรวมมากกว่าจะมาเน้นผิวขาวเปล่งปลั่ง ชมพูใส ฯลฯ
   มิวสอบเสร็จแล้ว วันนี้อยู่บ้าน ขากลับซื้อต้มเลือดหมูแถวร้านขายของมาฝาก มิวชอบรสชาติของร้านนี้มาก ผมกินก็โอเคดี อร่อยกว่านี้ก็ยังหาได้ไม่ยาก ที่ไม่ชอบร้านนี้มีสองอย่างคือ สกปรก และไม่ค่อยมีผักให้ (ใส่ให้แค่ผักกาดหอม ไม่มีตำลึง ไม่มีจิงจูฉ่าย)
   เข้ามาบ้านได้กินถั่วดำต้ม สั่งให้แม่บ้านทำสลับๆ กันไป ถั่วดำ แดง เขียว แล้วก็มีถั่วเหลืองมาทำเป็นน้ำเต้าหู้ ผมน่าจะเป็นคนที่กินพวกถั่วเยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะของว่างพวกถั่วอบเป็นซองขายในห้างนี่ผมกินมาแล้วแทบจะทุกยี่ห้อทุกชนิดของถั่ว
   สักพักใหญ่พ่อกลับมาบ้านพร้อมกับมนต์นมสดชุดใหญ่ ขนมปังนึ่ง ขนมปังปิ้งทาเนยน้ำตาล ขนมปังปิ้งทาเนยนม นมเย็น และนมสดขวดใหญ่ของมิว
   เพิ่งอิ่มจากถั่วดำ เจอขนมปังเข้าไปอีกก็สนุกสิครับ กินเข้าไปอีกสิบกว่าชิ้น ไม่อิ่มหรอก แต่กลัวอ้วนมากกว่า แป้งล้วนๆ เลย นี่ถ้าเขามีขนมปังแบบ Whole Grain ก็ดีสินะ
   อ้อ ไอ้คำว่า Whole Wheat น่ะ มันมีคนเอามาเล่นเยอะมาก จนขนมปังของบางค่ายเขียนตัวโตๆ ว่า Whole Wheat แต่พออ่านแล้วเขาบอกมีแป้ง Whole Wheat แค่ 20% ที่เหลือเป็นแป้งสาลีธรรมดาเหมือนเดิม
   เข้าใจครับว่าถ้าเป็น 100% Whole Wheat เนื้ออาจจะแข็งมาก กินยาก ไม่อร่อย ฝืดคอ แต่ก็ต้องบอกที่หน้าซองไปสิว่ามีแค่ 20%
   แต่ไม่ยักมีใครทำแบบโหดๆ อย่างของฝรั่งเขาเลยนะ ที่มีขนมปังพวก Rye, Dark Bread, Begal เล่าแล้วนึกถึง Foodland จริงๆ เขามีพวกนี้ครบหมดเลย
   ช่วงนี้ใช้พลังสมองคุ้มมากๆ ปกติคิดงานของ Neya พอมาวันนี้มีเรื่องของเรือเข้ามาเพิ่มอีก เลยส่งข้อความไปบอกอาร์ตว่าให้ช่วยคิดงานต่อหน่อย วันพุธจะเข้าไปคุยที่ร้านกาแฟเขา
   อาร์ตทำงานไว้ใจได้ครับ สั่งคำเดียวแล้วเจอกันวันพรีเซนต์งานยังไหว มาแนวเดียวกับผมแหละคือ “ทำมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง”
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 28, 2015, 03:24:37 pm
25 กรก 58
   เป็นอีกวันที่ยังคงตื่นไม่ไหว ไม่ได้วิ่งอีกแล้ว นี่เข้าวันที่ 3 แล้วนะ วันแรกกลืนน้ำลายลำบาก วันที่สองอ่อนเพลียและไอ วันที่สามนี้เริ่มมีน้ำมูกมาเพิ่ม
   ตัดใจกินยาดีคอลเจนครับ ถึงคราวจำเป็นต้องกินแล้วล่ะ เพราะลูกเริ่มติดจากผมไปบ้างแล้ว นี่ถ้าอยู่คนเดียวผมไม่กินยาแน่นอน ชอบใช้วิธีธรรมชาติรักษามากกว่า อาการแบบนี้ผมว่าไปนั่งนอนเล่นแถวริมทะเลสัก 3-4 ชม น่าจะหาย
   
   ไปส่งมิวที่รถไฟฟ้า ผมเดินทางไปร้านขายของต่อ ชีวิตประจำวันรูปแบบเดิมๆ แต่ในหัวสมองของผมไม่มีอะไรเดิม มันมีเรื่องงานใหม่ๆ ให้เข้ามาคิดตลอดเวลา Neya, Prisma, แล้วก็โครงการทำรายการท่องเทียว
   มันก็ออกมาแนวเดิมๆ ครับ ในการคิดโครงงานแต่ละอย่างออกมา ผมเอาลูกค้า เอาฐานคนดูเป็นที่ตั้ง ปรับจูนให้ตรงกับความต้องการแปลกใหม่ของตัวเอง คือถ้าเป็นงานธรรมดา เดิมๆ เหมือนทีคนอื่นเขาทำ ผมไม่ทำ
   คิดอะไรให้มันเป็นแบบ win win win คนอื่นเขา 2 วิน ผมซัดไป 3 วิน คือทางฝั่งผู้ว่าจ้าง ฝั่งผม และฝั่งผู้ชมหรือผู้รับลำดับสุดท้าย (end user)
   วันเสาร์ร้านงานเยอะครับ หนีไม่พ้นการยกแบกของเหมือนเดิม คิดเสียว่าเป็นการออกกำลังกายคล้ายยกเวท ได้ออกกำลังกายฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินเข้าฟิตเนส เจ๋งโคตรเลย
   อาการไม่สบายดีขึ้นเพียงเล็กน้อย นี่ร่างกายกูทำไมฟื้นช้านักวะ คิดมาตลอดว่าเราแข็งแกร่งขึ้นนะนี่ เพราะวิ่งมาจะสองปีอยู่แล้ว แต่ที่ไหนได้ มันยังต้องพยายามอีกเยอะเลย
   โหห แล้วพวกคนที่เขาไม่ได้ออกกำลังกายเลยล่ะ ป่วยทีไม่ล้มพับไปเลยหรอ หรือว่าร่างกายผมมีอะไรผิดปกติไปจากชาวบ้านเขา แค่นอนดึกคืนเดียว อาการออกเพียบขนาดนี้
   ไปซื้อเม็ดอมสมุนไพรผสมมะขามป้อมมาอมเล่นให้ชุ่มคอ กินยาแก้ไอเข้าไปด้วย ไอ้การไอนี่ติดกันง่ายนะ เพราะไอแล้วเชื้อมันล่องลอยในอากาศ คนใกล้ชิดสูดหายใจเข้าไปก็ติดได้ง่ายๆ เลย
   บ่ายไปธนาคารในห้าง และรอรับมิวกลับตอนเย็น แวะกินร้าน Santa Fe Steak เจอเมนูถูกสุดสเต็คไก่ซอสแจ่ว ราคา 59 บาท มันก็เหมือนไก่ย่างจิ้มแจ่วนี่แหละครับ รสชาติก็พอใช้ได้ กินแล้วไม่เสียดายเงิน
   มิวบอกรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากกลับบ้านเร็วๆ เลยรีบกิน รีบกลับ เข้านอนกันตั้งแต่สองทุ่ม กินยาก่อนนอนกันไปคนละเม็ด
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 28, 2015, 03:27:05 pm
26 กรก 58
   ตื่นเองตอน 0430 เฮ้ย ร่างกายเราโอเคแล้วแน่ๆ เลย เตรียมตัวออกไปวิ่ง หลังจากห่างหายมา 3 วันเต็มๆ พอลงมาหน้าบ้านก็พบข่าวเศร้า
   ฝนตก
   เล่น Uke รอฝนหายตั้งแต่ 0500 – 0600 ซัดไป 1 ชม เมื่อยนิ้วดีเหมือนกัน จากนั้นก็ค่อยออกวิ่งไปอีก 1 ชม เป็นการวิ่งแบบโคตรช้า ร่ายกายเพิ่งจะดีขึ้นแถมทิ้งมาหลายวัน เลยให้มันปรับตัวหน่อย
   ภรรยาซื้อโจ๊กมาฝาก จัดไป 1 ชามใหญ่ ใส่ผัก ขิง เพียบๆ หมูแค่ 2 ชิ้นพอ เสร็จแล้วก็มาซ้อม Uke ต่อ
   เปิดคอมฯ ทำงานต่อ เจองานเก่าๆ ที่ค้างคาไว้มากมาย ไม่นับงานเขียนนะ มีหลายเรื่องที่เขียน (พิมพ์) ทิ้งไว้ต่อเนื่องกันมาหลายปี
   เมือวานไปห้างก็เดินแถวร้านขายยาหรูๆ ไปแอบดูตลาดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแนวเดียวกับของ Neya พบว่าราคาของเราแพงกว่าชาวบ้านเขาเยอะเลย แต่ของเรามันเกรดสูงกว่าด้วยไง วัตถุดิบทุกตัวนำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ไม่ได้ใช้กลูต้าฯจากจีน หรือทางค่ายเกาหลี
   ผมเพิ่งได้รับโบร์ชัวร์ของ Neya มาดูรายละเอียดถึงได้รู้ว่ามันก็คือพวกแนววิตามินรวมบำรุงร่างกายนี่แหละ แต่เน้นผิวขาวใสด้วยการเสริมกลูต้าไธโอน มีวัตถุดิบอยู่สองตัวที่ผมชอบก็คือ Q10 และ วิตามิน C ที่เหลือเป็นพวกบำรุงผิว ผมเฉยๆ แต่ถ้าเป็นคนที่ใช้ชีวิตโหดๆ ปาร์ตี้ประจำ นอนดึก กินเหล้า บุหรี่  เครียด ฯลฯ แบบนี้ Neya ก็คงจะเหมาะกับชีวิตพวกเขาเหมือนกัน
   สายๆ กินแตงโมไป 1 กล่อง ผมกินของผมแบบนี้ไงครับ เลยถึงไม่เคยสนใจพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลย จะสนก็พวกตัวที่ไม่มีในอาหารที่กินในชีวิตประจำวัน และร่างกายเราผลิตสร้างเองไม่ได้ นั่นคือ Q10 และ โกรธ ฮอร์โมน
   เพื่อนๆ ที่สนิทกันก็ยุให้เขียนหนังสือสุขภาพกับเขาดูบ้างนะ คิดๆ ดูก็น่าสนใจดีไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะมาแนวแบบก็อปๆ กันมาทั้งนั้น หาแนวธรรมชาติอย่างผมแทบไม่มี
   อ้อ มีบ้างครับ เป็นของป้านิดา เจ้าของสำนักพิมพ์แสงแดด คนนี้ธรรมชาติโคตรๆ เลย อ่านไปแล้วไม่กล้าทำตามก็มี เช่น ให้มองพระอาทิตย์ ใช้ปัสสาวะหยอดตา ฯลฯ ป้าโหดมากครับ ตอนนี้ใจผมยังไม่ถึงพอ แต่ก็คิดเห็นตรงกับเขาตรงพลังจากแสงแดดที่จะช่วยรักษาโรคนี่แหละครับ
   โกรธฮอร์โมนก็คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกายเราตั้งแต่เกิด แต่มันจะค่อยๆ เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น จะมีมากสุดก็ตอนวัยแรกเกิดจนถึง 1 ปี จากนั้นก็จะค่อยๆ ลงน้อยลงไปเรื่อยๆ ๆ ๆ ที่เห็นเด็กประถมบางคนตัวเล็ก เตี้ย ส่วนใหญ่ก็เพราะนอนดึก และพักผ่อนไม่เพียงพอนี่แหละครับ
   ผมเลี้ยงลูกเองตั้งแต่เกิด จะเน้นเรื่องการเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ยิ่งสองวันนี้ไม่สบายกันทั้งคู่ นอนมันตั้งแต่สองทุ่มเลย มิวก็รู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเรื่องความสูง เขาสูงอย่างเร็วมากตอน ป6 – ม1 สูงจนคนที่ไม่ค่อยได้เจอจำไม่ได้กันเลย
   
   เห็นโฆษณาเย็นๆ เก๊กฮวยอันใหม่แล้วชอบเลย ทำออกมาให้คนย้อนนึกถึงอดีต เจ๋งดีว่ะ กาแฟอาราบัสที่ใช้อนันดาเป็นพรีเซนเตอร์ก็เจ๋ง แต่แอบเว่อร์หน่อยตรงที่ปลูกกาแฟสูงแค่ 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่นำเสนอภาพแบบหิมะปกคลุมไปหมด นานๆ จะเห็นโฆษณาแบบเข้าตาเสียที ต้องชมกันหน่อย
   ส่วนอันที่เคยดังมาตลอด โฆษณาล่าสุดกลับไม่มีใครเหลียวแลนั่นคือเรื่อง “เราจะทำตามในหลวง” ของไทยประกันชีวิต เจตนาดีครับ แต่การนำเสนอยังไม่ผ่าน ไม่กระชากใจเหมือนที่ผ่านมา
   เป็นแชมป์ ยังไม่ยากเท่ากับการรักษาแชมป์ครับ
   
   ลุงตู่ประกาศสงครามกับพวกแก๊งรถซิ่ง ตอนแรกผมฟังข่าวคิดว่าจะจับแต่พวกมอเตอร์ไซค์ แต่เห็นในเฟซบุ๊คมีแต่พวกเด็กเล่นรถบ่นกันอุบ เอ๊ะ มันยังไงกันแน่
   ตามฟอร์มครับ ชาวรถซิ่งด่ากันเพียบ ก็เป็นมาตรฐานของพฤติกรรมมนุษย์นี่แหละครับ คือถ้าทำอะไรแล้วเขาเสียสิทธิ์ เขาก็จะรู้สึกต่อคุณในแง่ลบ ไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะคือเรื่องอะไรก็ตาม
   ยกตัวอย่าง เคลียร์เรื่องหาบเร่แผงลอยรุกล้ำทางเท้า โบ้เบ้ คลองถม ฯลฯ คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกันหมด ยกเว้นคนตั้งแผงค้าอยู่ในนั้น (ซึ่งมีทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย)
   คสช เคลียร์ร้านเหล้าหน้าสถานศึกษา ผับเปิดเกินเวลา และปรับเกณฑ์อายุต่ำสุดจาก 18 เป็น 20 ปี แน่นอน คนส่วนใหญ่เห็นด้วย ยกเว้นเจ้าของผับ และนักเทียว
   เรื่องรถซิ่งก็เช่นเดียวกันแต่เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ก็เพราะรถยนต์มันใช้ชีวิตประจำวันด้วยไง แถมบางคนแต่งซิ่งเล่นๆ จำได้ในสมัยก่อนยังมีรถ FF NA ซื้ออินเตอร์คูลมาเจาะนอทยึดแขวนด้านหน้าให้ดูโหดเลย (เชื่อแม่งจริงๆ เล้ยยย)
   เรื่องนี้ยาวครับ ไม่จบสั้นแน่ๆ ถ้าเล่นแค่มอเตอร์ไซค์นี่ยังพอว่า แต่ถ้าจะเหมารถยนต์ด้วยผมว่าเหนื่อยครับ
   แต่ตอนผมฟังลุงตู่แถลงประจำวันก็ไม่เห็นเขาเอ่ยถึงเรื่องรถยนต์เลยสักนิดนะ แต่มอเตอร์ไซค์น่ะ ชัดเจนมาก แถมยังเอาเรื่องพ่อแม่อีกด้วย
   อยู่บ้านนั่งมองเม็ด ฉลาก โบชัวร์ของ Neya ทำให้ผมคิดแนวการการทำธุรกิจ แผนการตลาดออกมาได้อีกรูปแบบหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทางเจ้าของผลิตภัณฑ์เขาจะเอาด้วยกับเราไหม
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 28, 2015, 03:28:28 pm
27 กรก 58
   ไม่น่าเชื่อว่าจะเพลียยาวนานเช่นนี้ ผมยังมีไอบ้างแบบนานๆ ที แต่ลูกนี่สิเริ่มจะไอเยอะ กลายเป็นว่ามาติดหวัดจากผมไปอีกเสียนี่ กลางดึกมิวไอเสียงดังจนผมตืน ทำให้หลับไม่สนิทรวดเดียวถึงเช้าเหมือนคืนก่อนๆ ผลก็คือตื่นสายไปหน่อย
   ออกวิ่งไปได้แค่ 45 นาที เดินถอยหลังเพื่อ Cool Down อีก 10 นาที เหงื่อออกแล้วรู้สึกว่าสบายตัวขึ้นหน่อย เช้านี้วิ่งแบบสมองโปร่งมาก ไม่มีโจทย์งานใดมาให้คิด เราเคลียร์ทุกอย่างจบไปหมดแล้ว
   อาหารเช้าแบบสุดยอดอีกแล้ว ผักคะน้าผัดน้ำมันหอยใส่เห็ดหอมสดด้วย ไข่เจียว ข้าวกล้อง กระเทียม ขิง เหมือนเดิม น้ำหนักตัวเริ่มลดลงมาแบบทีละน้อยมากๆ มองเห็นไม่ชัด
   เปิดไอแพดเช็คข่าว เจอหมวยส่งข้อความมาบอกว่าขอสคริปต์โฆษณาตอนที่ 1 พรุ่งนี้ (อังคาร) เพราะจะเปิดกล้องถ่ายวันพฤหัส
   เฮ้ยย งงเลย งานด่วนมาอีกแล้วหรือนี่ ยังดีที่ผมเป็นครีเอทีฟโฆษณาชุดนี้เองทั้งหมด เลยปะติดประต่อเรื่องราวในแต่ละตอนได้ไม่ยาก แต่กระนั้นก็เถอะครับ การให้เวลาทำงานน้อยๆ แบบนี้ผมกลัวงานจะออกมาไม่ดีน่ะสิ ถ้าเรามีเวลาเหลือมากๆ ก็จะเอาเวลาเหล่านั้นไปขัดเกลาบท เพิ่มหยอดใส่มุขอะไรเข้าไปบ้าง ภาษารถยนต์เรียก Fine Tune
   ช่วงเช้าเลยเริ่มเขียนสคริปต์ไปได้ครึ่งเรื่อง บ่ายกลับมาทำที่บ้านต่อ สคริปต์แนวนี้หมูมากสำหรับผม เคยทำงานเขียนมานาน มีแค่โครงเรื่องเราก็สามารถเล่าได้เป็นฉากๆ แต่สำหรับบทโฆษณานี้มันต้องมีจังหวะและการดำเนินเรื่องให้น่าสนใจ
   หยอดมุขขำๆ ไปบ้างแก้เลี่ยน แต่ก็ต้องเป็นมุขที่มันอยู่ได้นาน ไม่เอ้าท์ ตลกแบบขำน่ารัก เรียกรวมๆ ว่าตลกแบบมีศิลปะ
   กว่าจะเสร็จก็ซัดเข้าไปเกือบจะ 0700 เมื่อยตาดีครับ ผมนั่งทำงานไอแพดด้วยไง มันช้าเพราะพิมพ์แบบแตะๆ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์นี่ผมจะพิมพ์ได้เร็วมาก ทำงานเร็วกว่ากันเยอะเลย
   หมวยส่งภาพนักแสดงสาวญี่ปุ่นสองคนมาให้ คนดำเนินเรื่องชื่อมิซากิ อีกคนชือมิมุ made in japan แท้ๆ ทั้งคู่เลย พูดไทยได้แบบนิดหน่อยๆ ต้องมีทีมล่ามมาช่วย
   ส่วนสถานที่ถ่ายทำเขาจัดมาเป็นคอนโดริมน้ำ ผมยังไม่เห็นสถานที่จริง ไม่รู้ว่ามีอะไรให้เล่นได้มากน้อยเพียงใด
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 28, 2015, 06:45:28 pm
28 กรก 58
   อาการไม่สบายกลายเป็นหนักขึ้น จากไอธรรมดา กลายเป็นไอเจ็บคอ มีเสมหะ เพลีย ตื่นสาย ไม่ได้ออกวิ่ง
   ไปถึงที่ทำงานก็ขี่จักรยานไปซื้อยาแก้ไอมากิน นั่งเกลาบทสคริปต์โฆษณาของเนย่า ผมขอหมวยส่งให้พรุ่งนี้ แต่หมวยบอกอยากได้ภายในวันนี้ เพราะจะต้องเอาไปพรีเซนต์ลูกค้า
   งานโฆษณาผมมักจะใช้เวลาราว 1 เดือนในการเก็บข้อมูลรอบด้านเพื่อคิดธีมของหนังโฆษณา แต่นี่เร่งผมแค่สองวันในการคิดธีม และให้เวลาในการคิดบทแค่ 1 วัน เป็นคนอื่นก็คนงงแดก บ่น แต่คงโชคดีที่มาเจอผมมั้ง ผมชอบงานยากๆ โหดๆ ประเภทที่ใครทำไม่ได้ ไม่อยากทำ ไม่กล้าทำ เอามาให้ผมซะ
   สายๆ ผมส่งบทโฆษณาให้หมวย ส่งไปแล้วก็สบายใจที่ให้เขามีงานไปเสนอลูกค้า แต่บอกได้เลยนะว่าถ้าทำงานแบบเร่งรีบขนาดนี้ งานมันจะไม่เนี๊ยบ ไอ้อาร์ตเห็นผมทำงานแค่คืนเดียวถึงกับตะลึง บอกมึงทำอะไรของมึง ให้ไปบอกลูกค้าที่จะเปิดกล้องถ่ายในวันพฤหัสว่าเป็นไปไม่ได้
   เมื่อคืนนี้ผมฟังอาร์ตสาธยายชุดใหญ่แล้วก็เห็นถึงหายนะของทีมถ่ายทำโฆษณาและเจ้าของอยู่ลิบๆ ปัญหาที่อาร์ตว่าไว้ก็คือ
-   ยังไม่เห็นสถานที่ถ่ายทำเลย / ต้องจัดแสงอย่างไร มุมกล้องและตัวแสดงจะเคลื่อนไหวได้มากน้อยเพียงใด
-   ยังไม่ได้ทดสอบทักษะการแสดงของตัวละครเลย / ถ้าเกิดถ่ายแล้วไม่ผ่าน เทคแล้วเทคอีก จะทำอย่างไร
-   ชุด อุปกรณ์ประกอบฉาก ของตกแต่ง ฯลฯ ใช้อะไรบ้าง
-   เทคนิคการซ้อนภาพขณะถ่ายผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์จะทำอย่างไร
-   เสียงประกอบ จะใช้เสียงอะไรบ้าง
-   ใส่ตัวหนังสือซ้อนไปในภาพ ตรงจุดไหนอย่างไรบ้าง
อาร์ตมันหลับตาแล้วก็เห็นแต่ปัญหา ผมเองก็เข้าใจ บอกมันไปว่าคิดให้ได้มากที่สุดในเวลาที่เรามีจำกัดก็แล้วกัน คนสั่งงานเขาเร่งมาแบบนี้ เราก็จัดให้เขาตามคำขอไปแล้ววันพรุ่งนี้บ่ายจะเข้าไปคุยที่ร้านกาแฟ
   
   เดินริมถนนเห็นพ่อค้าขายถั่วต้มแล้วอยากกิน ซื้อมาถุงใหญ่เลย เอากลับมากินที่บ้าน ดี (แม่บ้าน) เห็นเข้า บอกว่าผมไออยู่กินถั่วได้อย่างไร จะทำให้ยิ่งไอนะ
   อ้าว ตกใจเลย ผมคิดว่าห้ามเฉพาะพวกถั่วอบ ถั่วคั่ว นี่มันถั่วต้มนิ่มๆ ทำให้ไอด้วยหรอ ฉิบหาย งานเข้าเลยสิ
   อยากพักผ่อน นอนหลับ ก็ได้แค่เอนหลังแล้วหลับตา คนมันไม่เคยนอนกลางวันมานานเลยไม่คุ้น
   ข่าวเด่นวันนี้ ไทย-พม่า ลงนามยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวที่เดินทางไม่เกิน 14 วัน
   แต่ที่ไม่มีใครรู้ก็คือพม่ายังเปิดประเทศไม่หมด 100% ยังเหลือดินแดนอีกมากมายที่แม้กระทั่งฝ่ายรัฐบาลก็ยังเข้าไปไม่ถึง หนึ่งในนั้นคือยอดเขาที่ผมอยากไปมากๆ จะบอกความลับอะไรให้นะว่ามันมีหิมะด้วย
   น่าตื่นเต้นดีนะ ประเทศติดกันกับไทย แต่มีหิมะปกคลุมตลอดปี น่าอิจฉาว่ะ
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 31, 2015, 03:57:17 pm
29 กรก 58
   กินยาแก้อักเสบ และยาแก้ไอแบบมีเสมหะเข้าไปแล้วรู้สึกดีขึ้นหน่อย ออกวิ่งไป 1 ชม วิ่งแบบช้าๆ ตลอดเลยล่ะ เอาแค่พอให้ร่างกายได้ออกแรง หัวใจสูบฉีด อัดอากาศเข้าปอดลึกๆ

   บ่ายไป Art Café RCA ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ทำให้ร้านกาแฟหรูที่อยู่ติดกันปิดตัวลงไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์
   อาจจะไม่ได้ฆ่าโดยตรงหรอก เพราะร้านคนละสไตล์กันเลย เพียงแต่ว่าพอมาตั้งติดกัน ผมก็อดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้
   ไปร้านอาร์ตแต่ละครั้งผมก็จะมีไอเดียแปลกๆ ไปเสนอเขา ดูเขาก็สนใจนะ ติดแต่ว่ายังหาลูกมือไว้ใจได้ยังไม่เจอ
   บ่ายแก่ๆ ลูกค้าซาลง อาร์ตถึงว่างมานั่งคุยด้วย เริ่มด้วยเรื่องงานเลยครับ มีกันแค่สองคนก็ทำงานใหญ่ได้สบายๆ ขอแค่เป็นคนมีคุณภาพก็พอ 
   โดยส่วนตั้วแล้วผมจะถนัดงานสไตล์ “บินเดี่ยว” ก็คิดดูขนาดธีมของโฆษณา 5 ตอน ผมยังคิดแค่ 2 วันจบ สคริปต์โฆษณาผมคิดอยู่ 6 ชม ชนิดที่ว่าสั่งเช้าได้เย็น (ยกตัวอย่างเฉพาะงานล่าสุด)
   มันมีที่มาที่ไปครับ ผมฝึกตัวเองให้รับงานยากๆ มาตลอดด้วยไง คนอื่นหลับตาปุ๊บก็เห็นแต่ความท้อแท้ เป็นไปไม่ได้ แต่ผมหลับตาปุ๊บก็เห็นแต่โอกาสที่ตัวเองจะได้แสดงฝีมือ
   ทำงานแล้วต้องให้โลกจดจำนะครับ งานแบบงั้นๆ ไม่เคยทำให้ใครได้แจ้งเกิด งานหนัก งานยาก งานเหนื่อยต่างหากครับทีทำให้ผลงานของเราน่าจดจำ
   
   แยกย้ายกันตอนเย็น ขึ้นทางด่วนปุ๊บก็ติดทันที ขามาว่าติดแล้ว ขากลับนี่ยิ่งสาหัสกว่าอีก ก็เพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดยาวน่ะครับ ทำใจไว้ได้เลย ปล่อยเบรกให้รถไหลตามคันหน้าไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงบ้านก็ใช้เวลาไป 1.15 ชม ทั้งๆ ที่ปกติแค่ 30 นาทีก็ถึงแล้ว
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 31, 2015, 03:58:38 pm
30 กรก 58
   วิ่ง 1.15 ชม เดินต่ออีก 15 นาที เช้านี้ไม่ต้องมีอะไรให้เร่งรีบทำ วันหยุดยาวของใครหลายๆ คน แต่ร้านผมหยุดแค่วันเดียว
   ได้ฤกษ์พามิวไปกินมื้อเช้าที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ผมชอบตลาดนี้มากๆ เลยนะ ชาวบ้านๆ ดี ตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแผงค้าของร้านค้าชื่อดังกันไปหมดแล้ว
   ไปถึงก็ทำพฤติกรรมกันแบบเดิมๆ กินเหมือนเดิม ร้านเดิม เมนูเดิม ซื้อของกินกลับบ้านยังแบบเดิมเลย
   พฤติกรรมมนุษย์แบบนี้คือความเคยชิน เรียกว่าอยู่ใน Comfort Zone คื่ออยู่แล้วรู้สึกปลอดภัย สบาย มั่นใจ ฯลฯ ไปห้างก็จะจอดรถบริเวณเดิม ถ้าเลือกได้นี่เลือกที่เดิม มุมเดิมอีกด้วย
   ถ้าอยากจะฉลาดและเปิดสมอง ก็จงรู้จักก้าวออกมาจาก Comfort Zone นั้นซะ ผมแนะนำเพื่อนและรุ่นน้องที่สนิทไปในแนวทางนี้กันหมด อยู่ในมุมที่คุ้นเคยมาก สมองเราจะขาดการพัฒนา เราจะทำทุกอย่างไปด้วยจิตใต้สำนึก สมองไม่ได้ทำงานเลย
   สมองเป็นสิ่งที่ต้องขยันใช้แล้วมันถึงจะยิ่งพัฒนาครับ แต่ไม่ใช่แค่เพียงขยันคิดเท่านั้นล่ะ เราต้องเติมอาหารสมองเข้าไปอีกด้วย นั่นก็คือออกซิเจนและกลูโคส
   ผมอัดอากาศเข้าปอดลึกๆ ตอนเช้าขณะวิ่งเป็นประจำ แต่การเติมกลูโคสให้สมองนี่ผมขอเป็นใช้คาร์โบไฮเดตรแทนก็แล้วกันนะ ยังไม่กล้าอัดน้ำตาลตรงๆ ล้วนๆ แนวขนม ของหวาน แบบพวกวัยรุ่นเขากินกัน
   ผมว่าน้ำตาลนี่มันร้ายกว่าแป้ง และไขมันอีกนะครับ คือมันกินแล้วเพลินไง ทำให้กินเยอะโดยไม่รู้ตัว เช่นไอติมก็กินกันเป็นถ้วย เอาแค่ร้านแบบมีชื่อหน่อยก็ถ้วยละเกือบร้อย ราคาไอติมแม่งจะแพงกว่าข้าวอีก
   ของมันๆ เรากินแล้วยังรู้ตัว ยังยั้งได้ ขาหมูมันๆ หมูกรอบ เป็ดปักกิ่ง ฯลฯ นี่คุยเฉพาะไขมันในเนือสัตว์นะ ยังมีแยกย่อยไปอีกว่าเป็นอาหารมันที่เกิดจากการทอด อันนี้มีเพียบเลย ถือว่าเป็นอาหารที่ผมเองยังเลี่ยงได้ยาก เพราะตอนกินผัดผักก็ยังต้องใช้น้ำมันอยู่ดี
   ค่อนข้างมั่นใจว่าสมองคนเรายิ่งใช้ก็จะยิ่งพัฒนาครับ การงานของผมช่วงนี้ใช้แต่สมองล้วนๆ แรกๆ ก็คิดแค่โฆษณา ทำเสร็จแล้วก็คิดถึงแผนการตลาดใหม่ๆ แล้วก็เผลอคิดไปถึงเรื่องธุรกิจในปีหน้าเผื่อเขาให้อีกด้วย
   วันนี้อยู่บ้านตลอดวันกันหมดครับ พักผ่อนอย่างแท้จริง ผมก็นั่งคิดงานใหม่ๆ เตรียมเสริมเอาไว้ ต้องทำงานก้าวล้ำนำลูกค้าไปอย่างน้อย 1 ก้าวเสมอ
Title: Re: กรก 58 6 !
Post by: O'Pern on July 31, 2015, 05:49:40 pm
31 กรก 58
   วิ่ง 1.15 ชม เดินอีก 10 นาที ร่างกายเริ่มหายไอแล้วนะ ยาก็หมดพอดี
   เช้านี้กินแกงจืดหมูสับใส่เห็ดเข็มทอง ข้าวกล้อง ไข่เจียวใส่ใบโหระพา
   สายๆ มีวิศวกรมาดูโครงสร้างของบ้านอีกหลังที่จะบูรณะ ผมทำหน้าที่พาเขาเดินชมทั่วทุกจุด มีสถาปนิกอีกคนมาด้วย เลยคุยกันเรื่องงานดีไซน์ในจุดที่ยังไม่ลงตัวอยู่อีกนิดหน่อย
   ออกจากบ้านสายหน่อย แต่ก็ยังออกไปที่ร้านขายของ ขับรถสบายดีครับ รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ งานที่ร้านก็น้อยๆ ผู้คนส่วนใหญ่เขาหยุดกันหมด
   มิวออกมาตัดผมด้วย และขอกลับเข้าบ้านกับผมตอนบ่ายๆ สองวันมานี้มิวอยู่บ้านเล่นเกมตลอด จะว่าเกมก็ไม่ถูกเสียทีเดียว มันมีทั้ง You Tube, Facebook, Line และอีกสารพัดเวปและข้อมูลทั้งที่เหมาะสมไม่เหมาะสม
   จากเดิมเมื่อก่อนโน้นวันหยุดเป็นต้องขอออกไปเรียนพิเศษตลอด แต่วันนี้มิวเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว
   และมันเป็นสิ่งที่ผมต้องยอมรับ
   


   วันนี้เปิดใช้ระบบ M Pass วันแรก หึหึ ก็มาแนวเดียวกับ Easy Pass ของทางด่วนแหละครับ เพียงแต่ว่าแม่งไม่ได้เอาระบบมารวมกัน แปลกดีไหมครับ อีกหน่อยแม่งคงมีสารพัด Pass ติดกันจนเต็มกระจกบานหน้า