Author Topic: มีค 54 13 100 กม 21 แนวทางการช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นจากมหัตภัย  (Read 22031 times)

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มีค 54 13 100 กม
« Reply #15 on: March 20, 2011, 05:55:27 pm »
19 มีค 54
   อากาศหนาวแบบเฉียบพลันเริ่มอ่อนแรงลง วันนี้ตอนเช้าเย็นไม่มากเหมือนวันก่อนๆ ผมขี่จักรยานโดยไม่สวมเสื้อกันหนาว เช้านี่รีบเอารถยนต์ไปจอดที่ทำงาน แล้วเอา Neo Bike 14 ขี่ออกไปสวนสาธารณะแห่งใหม่ หลังวัดพระแก้ว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณท่าเตียน ผมไม่รู้ชื่อสวน แต่เคยเห็นมีเพื่อนๆ ในเวปจักรยานโพสบอกว่า ห้ามนำจักรยานเข้า แม้กระทั่งเข็นเข้าไปก็ห้าม หึหึ ไม่เชื่อหรอก อยากรู้อยากเห็นกับตา
   ขี่ขึ้นสะพานพุทธ โอ้โห กลางสะพานสกปรกสุดยอด ของกิน ขวดเหล้า ไม้เสียบลูกชิ้น เกลื่อนกลาด ไม่ต้องสงสัย ประชาชนชาวไทยนี่แหละเป็นคนทำ หอบหิ้วจากพื้นราบขึ้นมากินบนสะพานได้ แต่ไม่มีปัญญานำเศษถุงที่กินเสร็จแล้วไปทิ้ง หนึ่งในอเมซิ่งไทยแลนด์
   ขี่เลาะไปทางท่าเตียน น่าจะสัก 1 นาทีก็เจอสวนขนาดย่อมอยู่ริมเจ้าพระยา แรกเห็นพบว่า สวยดีว่ะ
   ทันทีที่ขี่ไปถึง ก็พับครึ่งคันแล้วเข็น ไปนั่งเล่นริมแม่น้ำอย่างสบายอารมณ์ ข้างหน้าเป็นสายน้ำ ด้านหลังเป็นพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศจะคล้ายกับสวนสันติชัยปราการที่ถนนพระอาทิตย์ แต่สวนนี้เน้นโปร่งโล่งสบายตา ต้นไม้ไม่หนาแน่น กลางวันแดดจัดๆ คงร้อนน่าดูเลยล่ะ
   พอ 0800 ก็ต้องกลับแล้วล่ะครับ ไปทำงานยกของต่อ วันนี้วันเสาร์ คนงานขาดแน่นอน ขี่ย้อนกลับทางเดิมจนถึงปากคลองตลาด เป็นถนนวันเวย์ ผมเลือกที่เข้าไปในตัวตลาดแทนที่จะขี่ย้อนศร ช่วงเช้าๆ รถในตลาดยังน้อยครับ แต่ถ้าเป็นตอนบ่ายถึงเย็นก็จะแน่น
   วันนี้ผมออกไปส่งของที่ปากคลองตลาด แดดร้อนแรง ผิดกับเมื่อเช้าที่ยังพอจะมีลมพัดเบาๆ แดดแรงจนแสบผิวไปหมด จอดลงของกันกลางแดดนี่แหละครับ เป็นเรื่องธรรมดาของคนงานอย่างเรา ถ้าจอดรถง่าย ก็ลงของง่าย งานก็เสร็จเร็ว ในทางกลับกัน หากตำรวจมาไล่ ก็ต้องขับรถหนี หนีไม่ทันก็โดนใบสั่ง หนักกว่านั้นก็โดนล็อคล้อ บางทีเจอแบบก้ำกึ่ง คือกำลังจะหนี แต่เขาไม่ให้เราหนีก็มี แบบนี้ก็โดนใบสั่งไป
   วันไหนซวย เจอตำรวจไถก็มีออกบ่อย ไม่เรียกไถไม่ได้หรอก เพราะไม่ออกใบสั่งให้ พร้อมกับแจ้งข้อหาแบบปากเปล่าว่า
   “รถคุณไม่มียางอะไหล่”
   เหี้ยดีไหมครับ เมื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร กลายเป็นผู้พิฆาตสันติสุข แผ่นดินนี้ก็ไม่มีวันเจริญหรอกครับ

   กลับมาบ้านตอนบ่าย เก็บข้าวของไปที่คอนโดกับลูก กะว่าคืนนี้จะนอนค้างสักคืน เตรียมแค่ชุดนอนก็พอครับ เช้ามาก็ต้องกลับแล้ว
   นี่จะเป็นคืนแรกที่ผมนอนค้างคืนที่ห้องพักแห่งนี้ ตื่นเต้นดีเหมือนกัน

20 มีค 54
   นอนหลับๆ ตื่นๆ ไม่ได้หลับรวดเดียวจนถึงเช้า นอนเตียงเดียวกับลูก พอเขาพลิกตัวขยับทำเอาผมตื่นไปด้วย ตื่นเช้ามาแบบไม่สดใส ลุกขึ้นตอน 0600 ยืนนอกระเบียงชมวิวสูดอากาศใสๆ
   เช้ากลับมาบ้านอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ทางบ้านผมมีงานรวมญาติไหว้บรรพบุรุษ ไม่ได้ไปไหว้ตามฮวงซุ้ยต่างจังหวัด ทางญาติผมเขาเก็บกระดูกไว้ในวัดแถวบ้าน ตอนไหว้ก็ไม่ต้องไปไหนกันไกล แถมไปไหว้ได้บ่อยๆ
   เจอญาติเกือบ 30 คน ญาติใกล้ ญาติไกลมากันเกือบหมด ช่วงเช้าอยู่ที่วัดทำพิธีทางศาสนากัน พอกลางวันชวนกันไปทานอาหาร ช่วงนี้แหละ ถึงได้คุยกันอย่างเป็นทางการ แล้วผมก็รู้ซึ้งถึงชีวิต
   ญาติที่เป็นน้องๆ ผมเห็นมาตั้งแต่เขาเพิ่งเกิดก็มี แต่ตอนนี้พวกเขาเงินเดือนกันเป็นแสน ยิ่งคนไหนได้เรียนต่างประเทศ พวกนี้เงินเดือนคนละ 4-5 แสนบาท ผมนั่งฟังแบบน้ำตาตกใน บอกอย่างไม่อายเลยครับว่าผมโครตจะอิจฉาเขาเลย แค่อิจฉานะ ไม่ได้ริษยา อิจฉาคืออยากได้อย่างเขาบ้าง แต่ริษยาคือคิดร้าย คิดหมั่นไส้คนที่ได้ดีกว่าเรา
   นั่งฟังพวกเขาคุยกันแล้วต้องกำมือแน่นที่ใต้โต๊ะ ผมอยากมีโอกาสไปลุยงานอย่างคนอื่นเขาบ้าง อยากแต่งตัวดีๆ บ้าง ทุกวันนี้มีแต่งานยกของ แบกของ ต้องใส่เสื้่อผ้าเก่าๆ โทรมๆ ชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับการดมควันไอเสีย ซึ่งเงินที่เก็บหอมรอบริมมาทีละน้อยๆ ก็ต้องเอาไว้รักษาโรคปอดของตัวเองตอนแก่อย่างไม่ต้องสงสัย    
   ไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวอักษรอย่างไรถึงจะเข้าใจความรู้สึกของผม มันแสนจะอึดอัด ยิ่งเวลาที่ผู้ใหญ่เขาคุยกันถึงลูกๆ ที่ทำงานได้เงินเยอะ ทำงานดีๆ แววตาเขาเปี่ยมไปด้วยความสุข มันทำให้ผมย้อนกลับมาดูตัวเองว่าที่ผ่านมา และวันข้างหน้าชีวิตผมจะเป็นเช่นไร คำตอบคือ แม่งก็คงเหมือนๆ ทุกวันนี้แหละ คือต้องยกของไปจนแก่
   เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ผมทนทำอยู่ก็คือ ต้องการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ตอนผมยกของส่งของ แม่จะดูดีใจมาก เอาครับ ดีใจก็จัดให้ ผมอยากทำความดีให้ตอนเรายังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเวลาที่ผมจะออกทำงานส่วนตัวมันก็จะลดน้อยลงเป็นเงาตามตัวไปด้วย
   ยิ่งอายุมาก ก็จะกล้าลุยกล้าเสี่ยงน้อยลง ไฟมันไม่แรงเท่าตอนหนุ่มๆ แล้ว แต่พอหมดแรงทีไร ผมหยิบเอานิตยสาร Racing Club เล่มเก่าๆ ขึ้นมาอ่าน ก้าวแรกของฝันของผม ที่มันล้มไม่เป็นท่า ไปไม่ถึงไหนเลย
   
   สหรัฐ อังกฤษ บุกโจมตีลิเบียแล้ว อาศัยมติของสหประชาติ เอาไว้เป็นกันชน เพื่อไม่ให้โดนใครด่า เรื่องมนุษยธรรมมีไว้เป็นข้ออ้าง หลักๆ เลยมันคืองาน War Show อย่างเป็นทางการ เรื่องธุรกิจและผลประโยชน์ล้วนๆ ครับ เดี๋ยวจะเจอศักยภาพของอาวุธใหม่ๆ ที่เอามาทดลองใช้ จะเจอเครื่องบินไฮเทค เจออาวุธประจำกายแบบใหม่ๆ ยิ่งสงครามยิ่งยืดเยื้อ ก็จะยิ้งเห็นเยอะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
Re: มีค 54 13 100 กม
« Reply #16 on: March 21, 2011, 03:28:45 pm »
21 มีค 54
   ข่าวหน้าหนึ่งวันนี้คือการยกพลถล่มลิเบีย ส่วนเรื่องกัมมันตรังษีรั่วไหลจากโรงงานพลังไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น คือรั่วน้อยลง ส่วนผลกระทบข้างเคียงคือ มันมีบางส่วนรั่วอยู่ และรั่วออกมานานแล้ว นี่สิคือปัญหา
   ผมคิดวิธีการช่วยเหลือญี่ปุ่นออกแล้วครับ คือหากคิดจะให้อะไรใคร หรือช่วยใครก็ต้องช่วยอย่างเต็มที่ ช่วยจากใจ การให้เงินมันก็โอเคดีหรอก แต่อย่างที่บอกคือมันรั่วไหลระหว่างทางเยอะมาก และเป็นไปได้สูงที่จะรั่วในไทยมากกว่าญี่ปุ่น
   แผนการช่วยเหลือหากผมเป็นผู้นำระดับสูงมีอำนาจเต็มือ มีดังนี้
-   แนวคิดให้เงินให้ทองไปก็มีวันใช้หมด กัมมันตรังษีรั่วที่เซนได มันก็ไม่มีใครอยากอยู่ คนที่อยู่ก็อาจรักจริง ไม่มีทางไป ไม่ก็หมดเงิน ผมอยากยกดินแดนในไทยเปิดให้ผู้ลี้ภัยญี่ปุ่นเข้ามาอยู่อาศัยครับ จะใช้พื้นที่แล้วจัดสรรคล้ายนิคมก็ได้ หรือจัดเป็นตำบลเล็กๆ ก็ยังไหว ตั้งชื่อให้เท่โดยต้องมีคำว่าเซนได เมืองเก่าที่พวกเขาเคยอาศัย เช่น Small Sendai / Sendai 2 อะไรทำนองนี้
-   ผลดีสำหรับไทยเราก็คือจะได้ใจชาวญี่ปุ่นไปแบบเต็มๆ ให้เงินให้ทองก็มีวันหมด แต่ไทยเราให้ผืนแผ่นดิน ลองเอาไปคิดดูครับว่ามันจะมีมูลค่าสักเท่าใด
-   การรับผู้ลี้ภัย จะต้องทำเอกสารเข้าเมืองอย่างถูกกฏหมายที่สถานทูตญี่ปุ่น หรือจะจัดทำง่ายๆ แบบการขึ้นทะเบียนต่างด้าวก็ได้ (บ้านเรามีต่างด้าวเป็นแสนๆ คนแล้วครับ มีญี่ปุ่นเข้ามาอีกนิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก)
-   ข้อดีอีกอย่างคือ การให้คนมีระเบียบวินัยเข้ามาพักอาศัย การสร้างชุมชนให้เขาอยู่ด้วยกัน ชุมชนนั้นก็จะเต็มไปด้วยความมีระเบียบวินัย เป็นการทำตัวอย่างให้คนไทยได้เห็นวัฒนธรรมการต่อคิว คนของเขาต่อคิวยาวเหยียดก็ยังทำ ต่อคิวรับของแจกในสภาวะเจ็บปวดแสนสาหัสก็ยืนกันนิ่ง รถยนตก์ต่อต่อคิวเติมน้ำมันกันถึง 3 วัน แถมเติมกันได้คนละนิดละหน่อยเขาก็จอดต่อคิวอย่างมีระเบียบ เรื่องนี้โครตจะเหลือเชื่อ ต้องมาเห็นกับตา (ภาพข่าว) ในขณะที่ไทยเราเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน มีภาพยื้อแย่งกันซื้อน้ำมันปาล์มแบบไม่จำกัดจำนวน ที่ห้างโลตัสพนักงานเข็นใสพาเลทออกมายังไม่ทันจัดวาง ชาวไทยกรูกันเข้าไปยื้อแย่งฉีกลังกระจัดกระจายเหมือนแร้งลง ทั้งๆ ที่ซื้อไปเก็บ ซื้อไปขายต่อกันทั้งนั้น น่าอนาถใจจริงๆ
-   กระจายพื้นที่ให้ชาวญี่ปุ่นเข้าไปอยู่ อยากจัดระเบียบเมืองไหน ก็ให้ชาวญี่ปุ่นนี่แหละครับเป็นคนนำชาวไทย เมืองเชียงใหม่กำลังจะเละ ก็ให้สิทธิคนญี่ปุ่นไปอยู่อาศัย ภูเก็ตกำลังเน่าก็ดูว่าหากมีชาวญี่ปุ่นไปช่วยจัดระเบียบให้ มันจะดีขึ้นมาบ้างไหม
-   คนญี่ปุ่นที่เข้ามาอาจมีทั้งจนและปานกลางบ้างก็พอมีฐานะ การจะมีรายได้ของเขาก็ต้องอาศัยรัฐบาลของเขาช่วยส่งเสริมอาชีพด้วย นี่แหละครับ เราจะรับวัฒนธรรมของเขาเข้ามาทางอ้อม เราอาจได้เห็นการตีดาบซามูไร พิธีชงชา ผมยังไม่อยากฝันถึงออนเซน แต่ถ้าให้เขาไปอยู่ระนอง หรือที่มีบ่อน้ำพุร้อนเยอะๆ ยอมแบ่งพื้นที่ให้เขาบริหารจัดการ ผมว่ามันจะออกมาสวยกว่าบ่อน้ำพุร้อนของไทยที่ทำเป็นปูนซีเมนต์ห่วยๆ เหมือนบ่อน้ำบาดาล มีไว้ต้มไข่ ชาวบ้านก็อาศัยขายไข่ใส่ชะลอม ฮ่วย ห่วยสุดยอด มีของดีๆ อยู่แท้ๆ แต่บริหารจัดการไม่เป็น ลิงได้แก้วจริงๆ

คร่าวๆ ราวๆ นี้ แต่รับรองว่ามันสามารถต่อยอดไปได้อีกเยอะมากๆ งานนี้เป็นแบบ win win win win ที่สุดยอดเหลือเกิน ล่าสุดผมคิดได้ 3 win ก็ว่าเจ๋งแล้ว แต่งานนี้มี 4 win สุดยอดเสียยิ่งกว่า

Win 1 ประเทศไทยได้แสดงความช่วยเหลือญี่ปุ่นแบบสุดยอดหาประเทศใดเปรียบ
Win 2 ประเทศญี่ปุ่นได้ที่พักพิงให้พลเมืองของเขา ซึ่งกำลังจะมีคนแก่ล้นเมือง
Win 3 คนญี่ปุ่นได้สิทธิทางเลือกในการพักอาศัยในดินแดนใหม่ ปลอดกัมมันตรังษี
Win 4 คนไทยจะได้เห็นความมีระเบียบของกลุ่มคนญี่ปุ่นที่เข้ามาพักอาศัย และจะส่งผลให้คนไทยบางส่วนเริ่มมีสำนึกเรื่องระเบียบวินัยขึั้นมาบ้าง

วันนี้อากาศร้อนจัด ตอนบ่ายมีฝนตกหนัก แต่ตกไม่นาน กลับมาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ ลูกกำลังแต่งการ์ตูน แน่นอน เขาต้องใช้จิตนาการอย่างมาก ผมเองก็ชอบงานที่ใช้สมองใช้จิตนาการเช่นกัน มันถึงกับเปลี่ยนแปลงโลกได้เลยล่ะ

   นั่งคิดงานอยู่เกิดไอเดียแรง นี่ถ้ารถดริฟท์ผมยังอยู่ ผมจะสมัครไปออกรายการ Thailand got talent อยากจะไปโชว์โดนัทรูปสามเหลี่ยม และวงรี ปิดท้ายด้วยการเบิร์นยางเกียร์ถอย ไม่ก็ดึงเบรกมือเข้าจอดรถ ใครมาอ่านเจอ และพอมีฝีมือ รีบเอาไปทำเลยนะครับ แจ้งเกิดได้ในวงการรถยนต์ 100% อย่าคิดว่าผมเว่อร์ เอารถคันใหญ่ไปขึ้นเวที มันทำได้จริง ถ้าคุณเจ๋งพอ
   
   เย็นนี้มีเปิดตัวรถกระบะ Chevolet Colorado ตัวใหม่นี้ใช้เครื่องยนต์จากอิตาลี ไม่ได้ใช้ของ Isuzu อีกแล้ว เว้นพรุ่งนี้หนึ่งวัน วันถัดไปเปิดตัวรถกระบะ Ford เมื่อสองวันก่อนก็เปิดตัวรถเล็กของ Honda ชื่อ Brio วงการรถยนต์เริ่มร้อนระอุ เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงงาน Motor show แล้ว ปีนี้เป็นปีแรกที่จัดที่ Impact เมืองทองธานี
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
22 มีค 54
   ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยอย่างเหนียวแน่น แสดงให้ชาวโลกประจักษ์ด้วยการต่อคิวเข้ารับบริการทุกอย่าง ไม่มีงัดแงะหรือขโมยของในสภาพบ้านเมืองวิกฤตแต่อย่างใด
   แต่เมือวานนี้ในไทย มีรถบรรทุกปลา 3 หนัก 3 ตัน พลิกคว่ำที่พัทลุง ภาพที่เห็นคือคนผ่านไปมาต่างแย่งกันเก็บปลาที่ตกเกลื่อนกลาด แย่งกันแบบของฟรีเทกระจาด เป็นภาพที่น่าสมเพชอย่างมาก หยิบฉวยกันอย่างสนุกมือ หัวเราะเริงร่า ยิ้มแย้มแจ่มใสไม่มีคำอธิบายประกอบภาพใดจะเหมาะสมไปกว่าคำว่า “ทุเรศ”
   ช่วงนี้ยังอยู่ในภาวะอากาศแปรปรวน จากประเทศร้อนก็จะเริ่มหนาว และประเทศหนาวก็จะเริ่มร้อน ผลัดกันบ้างก็ดีครับ ก่อนโลกจะแตก ก็ขอให้มีอะไรแปลกใหม่กันเสียหน่อย
   แนวคิดเรื่องโลกแตกและอ้างอิงคำทำนายของมหาโหรอย่างนอสตราดามุสมีมานานหลายสิบปี ทำมาเป็นภาพยนต์กินเงินคนดูไปก็เยอะ ผมจำเรื่องแรกได้เลย ชื่อว่า “2525 โลกาวินาศ” และเรื่องล่าสุดตั้งชื่อแบบให้เอ็งคิดเอาเองคือ “2012” แต่ปีนี้ 2011 เกิดเหตุภัยพิบัติไปทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศแถบวงแหวนแห่งไฟ (แนวเขตภูเขาไฟที่ซ้อนทับกับเปลือกโลกที่เป็นจุดเกิดแผ่นดินไหวบ่อย)
   มีคนถามผมว่าโลกจะแตกไหม ต้องตอบว่ามีเหตุภัยพิบัติบ่อยจะดีกว่า มันไม่แตกตูมตามเหมือนในหนังหรอก แต่มันจะเกิดเหตุร้ายบ่อยขึ้นเรื่อยๆ คนที่อ่อนแอก็จะล้มตายไป เหลือพวกที่แข็งแรงที่รอด (บ้างก็โชคดีที่ยังไม่โดน) ไทยเราไม่อยู่ในเขตแผ่นดินไหวหลัก แต่ก็พอมีได้รับผลกระทบบ้าง ที่น่าจับตามองก็คือเรื่องน้ำและโคลนถล่ม ถ้าแผ่นดินไหวหนักเข้าจนเขื่อนร้าว (แตก) น้ำก็จะทะลักเข้าสู่ตัวเมืองด้านล่างที่อยู่ถัดลงมา แต่ผมทำนายว่าเรื่องร้ายไม่น่าจะเกิดขึ้นที่ประเทศไทย แต่จะไปตกกับประเทศอื่นแทน ประเทศที่เงียบสงบ ไม่ค่อยมีชื่อเสียงจะเริ่มเป็นที่จับตามอง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน ถึงตอนนั้น ยานพาหนะอย่างเดียวที่พอจะพาเราไปไหนมาไหนได้นั่นก็คือจักรยานครับ รถยนต์ เรือ หรือสิ่งอื่นใดต่างล้วนใช้น้ำมัน ไอ้พวกนี้ต้องจอดสนิทแบบไร้ค่า
   ถ้า กทม เราได้รับภัยจากน้ำจริง ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ทั้งหมด คงจมน้ำจนมิด แต่ผมไม่เชื่อว่าจะจมแบบถาวร แล้วแต่เขตพื้นที่ด้วยล่ะนะ เตรียมตัวกันไว้ได้ แต่ไม่ต้องถึงกับตื่นตระหนก เอาแค่ตระหนักพอ ให้รู้ว่าหากเกิดเหตุแล้วเราจะต้องทำอย่างไร ติดต่อใคร ที่ไหน สำคัญคือจะไปอยู่ตรงไหน ถ้าจะให้ลงรายละเอียดไปอีกก็ต้องคุยถึงถุงยังชีพว่าภายในควรมีอะไรไว้บ้าง พวกขี่จักรยานทางไกลแบบทัวริ่งคงเข้าใจดี เพราะจะพกเฉพาะของที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ

   เช้า กลางวันร้อนจัด เย็นฝนตก ค่อยคลายร้อนไปได้หน่อย สภาพอากาศแบบนี้เริ่มป่วนไปทั่วโลก หรือจะเป็นการแจ้งเหตุเตือนถึงมหันตภัยว่าเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเราแล้ว
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
23 มีค 54
   ฝนตกหนักแต่เช้าเลย ตกหนักนานราวชั่วโมงเศษ จากนั้นก็ค่อยซาลง แบบนี้ข้างนอกต้องมีน้ำท่วมขังแน่นอนครับ เป็นโชคดีของชาวฝั่งธนฯ ที่โครงสร้างเป็นแค่ชุมชนเล็กๆ ถึงรถจะติดก็มักจะติดเป็นหย่อมๆ เป็นแค่จุดๆ ผ่านพ้นแล้วก็แล่นได้คล่องตัว เช่นจรัลสนิทวงศ์ วงเวียนใหญ่ ฯลฯ แต่ถ้าเป็นฝั่งพระนครล่ะก็ มั้นจะติดกันแบบวินาศสันตโร เป็นวงแหวนแห่งไฟเลยก็ว่าได้ เรียกว่าอิจฉาคนเดินเลยล่ะ
   ไปถึงที่ทำงาน ฝนยังไม่หาย ผมเอาจักรยานออกขี่จดออเดอร์ลูกค้า ใส่เสื้อฝนตัวเก่ง ไอ้เสื้อตัวนี้แพงมาก ใส่ไม่ค่อยจะคุ้มเลย ดีตรงใส่แล้วสบายตัว ไม่ร้อนอบอ้าว ไม่เหนียวเหนอะหนะติดผิว แปลกดีเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เนื้อผ้าของมันคล้ายยางสังเคราะห์ ข้อดีอีกอย่างคือใส่แล้วไม่ต้องซัก แค่ผึ่งๆ ให้น้ำฝนแห้งเป็นอันเสร็จพิธี
   
   ตอนสายผมไปสั่งทำนามบัตรที่โรงพิมพ์ใกล้บ้าน เป็นการพิมพ์แบบเร่งด่วน เพราะพรุ่งนี้ผมจะไปงาน Bangkok International Motorshow เป็นการเปิดตัวของตัวเองครั้งแรกในรอบ 11 ปีหลังจากที่หยุดพักการผลิตนิตยสาร Racing Club ไปในปี 2000
   ปีนี้ผมไปแบบไม่มีบัตรเชิญเหมือนคนอื่นเขา แต่คิดว่าน่าจะขอเขาเข้าไปในงานในฐานะนักข่าวได้ เพราะวันนี้เป็นวันของ VIP หรือแขกผู้มีเกียรติ แต่พรุ่งนี้จะเป็นวันของนักข่าว (Press) และวันถัดไปจะเป็นรอบของประชาชนทั่วไป
   เขินเหมือนกันนะ ไม่ได้ไปงานใหญ่ๆ มานานเป็นสิบปี หยิบเอาสูทมาลองสวม รู้สึกไม่ถนัดเอาเสียเลย เพราะคุ้นเคยกับเสื้อยืดเน่าๆ กางเกงเก่าๆ เสียแล้ว แต่ก็ต้องทำตัวตามน้ำไปครับ เราต้องปรับตัวให้เข้าได้กับทุกสังคม เปิดใจยอมรับสิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาในชีวิตทุกเรื่อง สำคัญอีกอย่างคือ อย่ากลัวการเปลียนแปลง
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
24 มีค 54
   ตื่นแต่เช้า แต่งตัวอย่างหล่อ ใส่สูทลำลองตัวใหม่ที่ไม่เคยใส่ไปไหนมาก่อน แต่ซื้อเก็บเอาไว้นานหลายปีแล้ว ตอนแรกเล่นชุดำทั้งชุด แต่กางเกงผ้าอาจไม่ค่อยคล่องตัวในการก้าวเข้าออกรถ เลยเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์ในนาทีสุดท้าย เลือกแบบทรงที่ดูเรียบร้อยหน่อย
   ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาจัดงานที่ Impact ผมไม่คุ้นที่นี่เลยครับ เข้าไปจอดรถไม่ถูกเลย ขับตามๆ คันหน้าเข้าไป พอถึงจุดรับบัตรก็ตกใจมาก เจอป้ายบอกอัตราค่าจอดรถ 2 ชม แรก 30 บาท จากนั้นก็ชั่วโมงละ 20 บาท
   จ๊ากกก แล้ววันนี้ผมไม่โดนค่าจอดกันเป็นร้อยๆ เชียวหรือวะนี่ เอาวะ ทำใจ มาถึงนี่แล้วนี่หว่า
   เข้าไปงานก็ต้องหาบัตรคล้องคอของ Press กันก่อน ไปจุดลงทะเบียนของสื่อมวลชนทันครับ เจ้าหน้าที่ของ GPI ทำงานดีมากครับ รวดเร็ว ฉับไว มีเอกสารเป็นแผ่นพับ มีเสื้อยืดที่ระลึก และมีการ์ดอะไรก็ไม่รู้ แต่ใส่กล่องโลหะ ดูสวยดี
   จุดนี้เขามีบริการอาหารแบบคอกเทล ให้ลูกไปเลือกกินเอาเอง ให้เขาหัดเข้าสังคมไปด้วยในตัว ส่วนผมนั่งหลบมุมเอาเอกสารมาอ่าน ดูแผนผังของแต่ละบูธ ในงานมีแต่พวกคนใหญ่คนโตในแต่ละวงการเต็มไปหมด หลายคนพูดภาษาอังกฤษกัน ผมก็สอนลูกให้เห็นถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษไปด้วย สอนกันนอกสถานที่แบบนี้ เขาถึงจะเห็นความสำคัญอย่างจริงจัง
   ราว 1000 ถึงเปิดงานอย่างเป็นทางการ ผมตรงเข้าบูธของ Mercedes Benz ทันที เพราะมีเพื่อนสนิททำงานอยู่ที่นั่น บูธของ Merc ยังคงสไตล์เดิมๆ คือเป็นบูธสองชั้น ทำหรูหราดีครับ ชั้นบนบริการอาหารอย่างดี อ้อ งานนี้ค่ายรถเกือบจะทุกค่าย จะมีบริการอาหารว่างแบบค็อกเทลกันหมด บริการให้แก่ทุกคนที่มาร่วมงานครับ เรียกว่าเดินถึงซุ้มไหนแล้วหิว หรืออยากกิน ก็หยิบกินได้เลยครับ
   แต่ละค่าย ละคันก็จะมีตัวเด่นของตัวเองอย่างน้อย 1 คัน ชอบแนวไหน สไตล์ใดก็ตรงดิ่งเข้าไปชมอย่างใกล้ชิดได้เลยครับ ค่าย Merc มี SLK ตัวใหม่ น่าตกใจคือภายในสไตล์ Retro ที่ช่องแอร์เป็นวงกลมเหมือน Mazda MX-5 ปี 93 ที่ผมเคยใช้แบบ 100% ผมเห็นแล้วชอบมากนะ ผมชอบสไตล์ของเก่าๆ แบบนี้มาก ไม่น่าเชื่อว่าแนว Retro นี้มันจะฮิตไปได้ ยคุแรกที่ผลิตงานแบบนี้ออกมา ผมยังไม่คิดว่ามันจะฮิต เพราะไอเดียแรกของผมคือกลัวขายไม่ได้ กลัวตลาดไม่รับ เลยออกมาเป็นรถแบบ Limited Edition นั้นคือ Plymouth Plowler เป็นรถแบบ Open Wheel กระแสตอบรับดี เขาเลยออกรุ่น PT Cruizer ที่ชาวบ้านพอจะรับได้ออกมาขาย
   Toyota มีตัวเจ๋งคือ FT-86 ออกแบบมาเอาใจขาดริฟท์ เป็นรถลูกผสมระหว่างรถของทาคุมิ กับรถของบุนตะผู้เป็นพ่อ นั้นคือ เป็นรถขับหลังเหมือน AE86 และใช้เครื่องยนต์ Boxer แนวเดียวกับ Subaru Imperza สุดยอดไหมเล่า ยังไม่ผลิตขายนะครับ แต่รับรอง ออกได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องมาจอดในโชว์รูมของ Grey Market ในไทยแล้วแน่นอน
   ไทยรุ่ง ค่ายสร้างรถของไทย ปีนี้เล่นของแรง ทำรถลุยออกมาคล้าย Hummer H1 สะใจดีเหมือนกัน
   BMW มีตัว X1 ที่ผมชอบ ทรงแบบรถ SUV คันไม่ใหญ่นัก ราคาราว 2.1 ล้าน ฝันที่สามารถเอื้อมถึงได้จริง
   Mini มี Country Man เป็นรถแบบ 5 ประตู เบาะหลังกว้างใหญ่ดีครับ เหมาะสำหรับเดินทางไกล เริ่มต้นตั้งแต่ 2.3 ล้านสำหรับรุ่นขับหน้า และ 2.7 ล้านสำหรับรุ่นขับสี่
   Kia มีรุ่น Soul ที่ถูกใจผม รถลักษณะคล้ายกล่องแบบ Nissan Cube แต่รูปทรงดูแมนกว่าเยอะ (ผมว่า Cube เหมาะกับผู้หญิงมากกว่านะ) ราคา 1.38 ล้าน
   Lexus มีตัว Hybrid ชื่อ CT200h เป็นแบบ 5 ประตู คล้าย Mazda 3 วัสดุภายในขั้นดีเลิศ ราคา 2 ล้านกว่าๆ
   Mercedes Benz มีตัวเจ๋งๆ ที่ผมชอบ 2 คัน คันแรกเป็น CLS รถสี่ประตูที่ออกแบบได้สวยที่สุดในงาน เด่นที่กระจกแบบไร้กรอบ ตามมาด้วย SLK ที่หุ่นดีกว่าเดิมเยอะ ดูแมนขึ้นกว่าตัวเก่ามาก
   Chevrolet มีกระบะใหม่ แต่จะขายจริงปลายปี ตอนนี้มีแต่ Cruze ให้เล่นไปก่อน อ้อ อีก 14 เดือน Chevrolet จะเปิดตัวอีก 4 รุ่น ครับ
   Mazda ไม่มีอะไรใหม่ไปกว่า 3 minor change และ กระบะ BT50
   Ford มี Fiesta เป็นตัวชูโรง ตามมาด้วยรถกระบะ ที่ผมขอโวตให้เป็นรถกระบะที่ดูดีที่สุด (เหมาะแก่การขับเอง มากกว่าที่จะซื้อมาให้คนงานใช้ขนส่งของ)
   Suzuki มี Swift เป็นจุดขาย เจ้านี่แหละคือพระเอกของ City Car ตัวจริง สวย ลงตัว ขับดี ราคาประหยัดแค่ 6 แสนกว่าบาท ติดที่ศูนย์บริการน้อยไปหน่อย
   Honda คนแน่นที่สุด เพราะผู้คนอยากสัมผัส Brio ด้วยมือตัวเอง
   Volvo มีรถแวนนำเข้าคันเล็กน่ารัก V50 ราคาล้านต้นๆ
   Nissan จุดพลุด้วยรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบชื่อ Leaf เสียบปลั๊กไฟที่บ้านได้เลย วิ่งได้ 200 กม ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
   Hyundai กระชากใจช่วย Sonata Sport รถสี่ประตูที่หรูเกินกว่าที่จะเป็นรถเกาหลี
   Citroen นำเสนอ DS3 รถ City Car จากฝรั่งเศษ บอกคำเดียวว่าเห็นแล้วต้องเหลียวหลัง
   Audi มี A1 City Car และ Q5 ตัวลุยที่หรูจนไม่กล้าเอาไปลุยลูกรัง
   Benley นำเสนอ Mulsanne รถที่แพงที่สุดในงาน ราคาราว 30 ล้านบาท
   เล่าเท่าที่นึกออกสดๆ นะครับ ในงานของจริงมีรายละเอียดอีกเยอะ ถ้าชอบรถยนต์จริง นี่เป็นงานที่ไม่ควรพลาด ในเอเชีย Motorshow ของไทย เป็นรองแค่ Tokyo Motorshow เท่านั้นเองนะครับ
   
   ขากลับโชคดีไม่ต้องจ่ายเงินค่าจอดรถ ที่ผมคำคำนวนแล้วคงจะต้องจ่ายราว 160 บาท แต่เจ้าหน้าที่ของ GPI เขาให้บัตรจอดฟรีมาตอนลงทะเบียน โชคดีมากๆ
   ขับรถออกจากตึก ก็เลี้ยวขึ้นทางด่วนได้ทันที สุดยอดจริงๆ ถ้าเป็นที่ Bitec ล่ะก็ ต้องมีอีกสัก 30 นาที กว่าจะถึงด่วนบางนา
   ฟันธงได้เลยครับว่า ที่ Impact นี้ดีกว่า Bitec เยอะ

25 มีค 54
   เจอข่าวใหญ่แต่เช้า แผ่นดินไหวที่พม่าใกล้พรมแดนไทยแถวแม่สาย เชียงราย แรงสั่นสะเทือนลงมาไกลถึงกรุงเทพฯ จะรับรู้ได้โดยผู้ที่อยู่ในตึกใหญ่ๆ มันใกล้เข้ามาแล้วหรือนี่
   ไปถึงที่ทำงานแต่เช้า รีบเอาจักรยานออกขี่ไปริมแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งฟังเพลงเล่นพร้อมกับมองแม่น้ำไป เห็นชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง ผู้คนอัดแน่นในเรือด่วนเจ้าพระยา มองเขาแล้วก็มองดูตัวเราเองด้วย ชีวิตของเรานี่มันยังไม่ไปถึงไหนเลย เฮ้ออ นึกแล้วไม่ต้องไปโทรใคร ตัวเราเองนี่แหละครับ ที่ยังพยายามไม่มากพอ ยังไม่อดทนมากพอ ความสำเร็จมันเลยยังมาไม่ถึง
   เปิดข่าวทีวีมีแต่เรื่องแผ่นดินไหว
   
   ตลอดบ่ายจนถึงหัวค่ำ ผมใช้เวลาหมดไปกับการอัปโหลดภาพงาน Motor Show ขึ้นเวป เนทผมช้าครับ ออนไลน์จากมือถือ ใช้เวลาไป 6 ชม นานจริงๆ เล่นเอาตาแทบเหล่ ไม่ได้นั่งออนไลน์นานๆ แบบนี้มาหลายปี
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
26 มีค 54
   เช้านี้รีบไปที่ทำงาน จากนั้นก็เอาจักรยานออกขี่ไปสวนสันติชัยปราการที่บางลำพู ขากลับขี่เลียบเลาะคลองหลอดกลับบ้าน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะหาได้เอง ขากลับฝนตก ขี่รถแบบมีลุ้นตลอดทาง เพราะรถล้อเล็กมันลื่นไถลได้่ง่ายมาก
   วันนี้ครบรอบ 1 ปีที่ผมเดินทางไป Moscow ปีที่ผ่านมาผมเดินทางน้อยมากๆ ต่างจากเมื่อหลายปีก่อนลิบลับ งานส่วนตัว เวลาส่วนตัวหดหายไปหมดเกลี้ยง มันเหมือนกับว่าเรายิ่งเดินห่างจากความฝันไกลออกไปทุกทีๆ
   
   ข่าวดังวันนี้คือนักศึกษา ม รังสิต ขับ Porsche ป้ายแดงชนคนร่างขาดสองท่อน แถมท่อนบนมาคาอยู่ในห้องโดยสารตำแหน่งเบาะหน้า เจ้าตัวขับหนีมาจากจุดเกิดเหตุราว 10 กม แล้วทิ้งรถหนี
   และแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็แถลงข่าวว่า รถที่ขับมาเป็นรถขโมย ปัดโธ่ แม่งเล่นโครตง่ายเลย ขโมย Porsche ป้ายแดงเนี่ยนะ เจ้าตัวมันยังเป็นนักศึกษา คนเห็นรถมันวิ่งผ่านออกบ่อย
ตำรวจไทย เขาทำได้ทุกอย่าง แถได้ทุกทาง หลบได้ทุกลูก หากผู้ต้องหาเป็นคนมีเงิน

   อีกข่าวคือแผ่นดินไหวที่ลาว ใกล้พรมแดนไทย ไหวราว 4 ริกเตอร์ เรื่องโลกแตกนับวันยิ่งมีกระแสมาแรงขึ้นทุกทีๆ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้าเกิด ก็คงเลี่ยงไม่ได้
   แต่อย่าเพิ่งตระหนก มันไม่ได้แตกตูมตามเหมือนในหนัง ในหนังเขาเว่อร์ไปนิด แต่ก็ดีตรงให้เราเห็นภาพที่รุนแรงน่ากลัว เราจะได้เตรียมตัวกันไว้
   เตรียมกระเป๋ายังชีพกันหรือยังครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
27 มีค 54
   ออกจากบ้านแต่เช้า ไปบ้านพี่สาวที่เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา มีงานทำบุญวันเกิดของพี่เขยผม บ้านนี้เขาชอบจัดงานเลี้ยงพระเช้าครับ ต่างจากบ้านอื่นๆ ที่มักจะเลี้ยงพระเพล
   บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในชุมชนเมือง ต่างจากบ้านผมที่อยู่ชานเมือง บรรยากาศคนละอย่าง ที่คนแวดล้อมไปด้วยตึก รถติดเช้าติดเย็น แม้จะเดินทางแค่ระยะใกล้ๆ ก็ยังต้องใช้เวลานาน แต่ดีตรงมีทางจักรยานผ่านหน้าบ้าน ขี่สบายดีครับ และมักจะได้เพื่อนร่วมทางเป็นมอเตอร์ไซค์ย้อนศร
   ช่วงสายพาลูกไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บอกตามตรงเลยว่าไม่อยากขับรถไปครับ มันจะต้องติด ต้องจอดยากแน่ๆ แต่วันนี้เราไปกันแต่เช้าเลยพอมีลุ้น
   พูดคุยกับภรรยา และลูกเรื่องการมีวินัยของคนญี่ปุ่นที่เขาเป็นระเบียบกันมากๆ ยังไม่ทันขาดคำ ก็มีรถ Honda CRV ขับมาตีคู่แล้วเบียดเข้าหน้ารถผม จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนไทยนะ มันมาแปลกตรงที่ผมเป็นคันเกือบจะสุดท้ายของแถวนี่สิ ทำนองว่า เล็กๆ น้อยๆ กูก็จะเอา ประมาณนั้นแหละครับ
   เอาเข้าจริงก็เป็นไปตามคาดครับ กว่าจะจอดรถได้นี่ไกลมาก ต้องเข้าไปในโรงงานยาสูบและไปจอดเอาไกลมาก แต่ในงานเขามีรถสองแถวใหญ่รับส่งตลอดงาน ยืนรอรถสักพัก คันแรกผ่านมา แน่นมากๆ ผมถามเจ้าหน้าที่ๆ ยืนอยู่ใกล้ๆ ว่ามีรถรับส่งกี่คัน เขาตอบว่า 3 คัน ได้ยินดังนั้น ผมก้าวเท้าเดินเข้างานเองทันที วันนี้อากาศดี เย็นสบาย ไม่มีแดดด้วยล่ะครับ เดินสาวเท้าก้าวเร็วๆ เป็นการออกกำลังกายไปในตัว แต่พอลองเดินแล้วก็พบว่ามันไม่เห็นไกลเท่าไหร่ ราว 500 เมตรได้มั้ง เหงื่อไม่ได้ออกสักหยด
   ขณะกำลังเดินเข้างาน มีคนงานเข็นรถเข็นขึ้นเนิน ผมตรงเข้าไปช่วยเข็น เขาตกใจ แต่ก็หันมาขอบคุณ
   ในงานคราคร่ำไปด้วยผู้คน ไปกับลูก กับภรรยา เลยต้องเดินตามๆ เขาไป กลัวจะคลาดกัน อยู่ในงานไม่นานนัก เป้าหมายของลูกคือหนังสือการ์ตูนเท่านั้น

   กลับมาบ้านตอนบ่าย รีบเปิดทีวี Thai PBS วันนี้มีถ่ายทอดแข่ง BMX จากสระบุรี สนามโครตสวยเลย ทำไมตอนยุคผมเด็กๆ ไม่มีสนามแบบนี้บ้างวะ เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ แต่ไร้ซึ่งคำตอบ
   เมื่อคืนมีข่าวน้ำท่วมที่นครศรีธรรมราช เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องนาน ตามมาด้วยดินถล่มตามเคย ไม่ต้องโทษฟ้าดินกลั่นแกล้ง ก็คนเราแม่งไปตัดไม้ไถป่าจนหน้าดินมันอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว
   บ้านใครอยู่ในเขตน้ำท่วม ก็เตรียมตัวไว้ได้เลยครับ ท่วมอีกแน่นอน ระบบบ้านป้องกันน้ำท่วมของผมที่ทำไว้ก็มีคนนำไปต่อยอดเรียบร้อยแล้ว เขาใช้ถังน้ำมัน 200 ลิตรวางและใช้เหล็กรัดทำเป็นแพ ก็โอเคดีครับ แต่เขาไม่ได้เอาไอเดียของผมไปอย่างเต็มระบบ คือยังไม่ได้เผื่อตอนแพแตก หากโดนน้ำซัดอย่างแรง

   ฤดูกาลจะไม่ตรงตามวันเวลาอย่างเดิมอีกต่อไปแล้ว เมืองร้อนจะเริ่มเย็น และในทางกลับกันประเทศที่หนาวเย็นก็จะอุ่นขึ้น เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ หิมะตกในเวียดนามก็ยังเกิดขึ้นแล้ว ในไทยเรายังไม่มี ส่วนพม่านั้นมีหิมะมานานมากแล้ว คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้กัน ไปพม่าก็ได้แค่ไหว้พระ แต่ว่าเขาไม่ได้หรอกครับ การการจะไปดูหิมะที่พม่านั้นยังไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นดินแดนที่อยู่ในเขตปกครองของชนกลุ่มน้อย คือยังมีสงครามกันอยู่ แปลว่าไปแล้วอาจไม่ได้กลับ
   ตลอดวันนี้มีไอเย็นเหมือนฤดูหนาว ในขณะที่ภาคใต้มีน้ำท่วมเนื่องมาจากฝนตกต่อเนื่องาน บ้านใครก็ใกล้เชิงเขาก็จะมีดินถล่มเป็นของแถม จะไปโทษใครได้ ก็คนเรานี่เองที่ไปตัดไม้ทำลายป่า ทำลายหน้าดิน

28 มีค 54
   ไปถึงที่ทำงานแต่เช้า ปกติผมจะขี่จักรยานไปนั่งเล่นริมเจ้าพระยา แต่วันนี้เจ้าของร้านออกมาเปิดร้านเร็ว ก็เลยได้ทำงานเร็ว เริ่มจากยกของจากโกดัง ก็เหมือนปกติทุกๆ วัน แต่วันนี้จะเป็นอีกวันที่ผมต้องจดจำ
   ยกของอยู่คนเดียวขึ้นรถกระบะ ยกก็ไม่เยอะเท่าไหร่ อากาศก็เย็นสบาย เหงื่อซึมนิดๆ ยกจนเหลือสินค้าอีกแค่ 2 ลังเท่านั้นก็เสร็จ แต่ผมเกิดเจ็บหลังจี๊ดขึ้้นมาจนหมดแรงร่างกายแทบทรุดลงไปกองกับพื้น
   อาการเก่ากำเริบอีกแล้วหรือวะนี่ แปลกที่ทำไมยกของแค่นิดเดียวถึงออกอาการเร็วนัก ผมเจ็บหลังครั้งแรกเมื่อราว 3 ปีก่อน เกิดจากการยกของหนักต่อเนื่องนาน 3 เดือน กว่าจะหายก็นานพอดู แล้วหลังจากนั้นก็มีการเจ็บหลังอีกครั้ง เกิดจากการยกของอีกเช่นกัน แต่คราวนี้ยกแค่เดือนเดียว รอจนมันหาย แล้วก็เจ็บอีก ตอนนี้ยกแค่วันเดียวเองก็เจ็บแล้ว จนมาถึงวันนี้แหละครับ ยกของอยู่แค่ 30 นาทีก็ออกอาการ
   เอาล่ะสิกู อาทิตย์นี้มีงานแข่งจักรยานที่โคราชด้วย ตอนแรกก็ลังเล แต่พอหลังเจ็บปุ๊บ เกิดเสือกอยากไปขึ้นมาทันที
   เจ็บหลังคราวนี้มันออกอาการเยอะมาก เดินแทบไม่ไหว ยกของนิดหน่อยก็ยังไม่ได้ ก้มลงถอดรองเท้าตัวเองก็ยังไม่สำเร็จ ขี่จักรยานไม่ต้องพูดถึง สะเทือนนิดเดียว เจ็บจี๊ดถึงดวงใจ
   กลางวันไปธนาคารก็ต้องเดินขึ้นบันไดแบบกระเผลกๆ เพราะบิดตัวนิดเดียวก็เจ็บแทบน้ำตาร่วง
   บ่ายพาลูกไปงานสัปดาห์หนังสืออีกครั้ง เพราะหนังสือที่เขาซื้อมามันพิมพ์กลับหัว เลยนำไปเปลี่ยน พบว่าวันนี้คนหนาแน่น แต่ก็ยังน้อยกว่าเมื่อวานเยอะมาก พอมีเวลาเดินดูหนังสืออ่านส่วนตัว วันนี้เลยจัดมาชุดใหญ่ราว 8 เล่ม กะจะอ่านกันให้อิ่มกันไปเลย ส่วนลูกได้หนังสือมาอีกเพียบ
   เดินกันจนถึงเย็น ลูกขอกินที่ร้าน Black Canyon เพราะเมื่อวานคนแน่นสุดยอด ต้องต่อคิวกันเป็นสิบคิว มิวกินข้าวผัดอเมริกัน ส่วนผมเน้นของอ้วนน้อย กินยำวุ้นเส้น
   ช่วงใกล้ถึงบ้าน ลงทางด่วนแล้วต้องกลับรถ จังหวะเลี้ยวลำตัวจะเอนออก ผมเจ็บวาบทันที แต่ก็ต้องฝืนใจโหนพวงมาลัยเอาไว้ เจ็บจนบรรยายไม่ถูก น้ำตาเล็ด อีกสักพักมาถึงบ้านก็ยังลุกขึ้นจากเบาะนั่งไม่ไหว ต้องค่อยๆ บิดตัวทีละน้อยๆ ใช้เวลาในการออกจากรถราว 2 นาที จากเดิมใช้แค่ 1 วินาที
   นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และแน่นอน มันคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
29 มีค 54
   ผมขยับเขยื้อนร่างกายลำบากมาก นั่ง ยืน นานๆ จะเจ็บบริเวณก้นกบ เดินเหินไปไหนไม่คล่องตัว กลางดึกเมื่อคืนอากาศหนาวเย็น ผมยิ่งปวดหลังมากขึ้น จะลุกขึ้นมาหยิบขวดน้ำดื่มก็ยังต้องใช้เวลาอยู่นาน นอนแล้วมันลุกไม่ขึ้นครับ ผมนอนพื้นด้วยกระมัง ถ้านอนเตียงคงจะลุกขึ้นลงได้สะดวกกว่า
   สุดท้ายต้องคลานครับ ใส่ท่อนแขนยันพื้นก็พอจะไปไหนมาได้ได้เร็วหน่อย แต่กลัวคนอื่นมาเห็น ผมไม่สบาย เจ็บป่วยอะไร ไม่ค่อยมีใครรู้หรอก
   แม้จะเจ็บหลังมาหลายครั้ง แต่ผมรู้สึกว่าครั้งนี้มันเจ็บมากกว่าทุกครั้ง บิดตัวแค่นิดเดียวก็เจ็บแปล็บ ใส่กางเกงยังยาก กางเกงในยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ผูกเชือกรองเท้านี่ยากที่สุด
   มันเลยทำให้ผมยิ่งไม่ชอบงานแบบใช้แรงงานเข้าไปใหญ่ วันนี้จึงคิดธุรกิจได้อีกอันหนึ่ง นี่ผมคิดมาหลายธุรกิจมากแล้วนะครับนี่ ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่าง เรียกว่าได้แต่คิด มีคนแบบผมเยอะมากครับที่ได้แต่คิด ไม่กล้าลงมือทำ อ้างสารพัดสาเหตุเข้าข้างตัวเองว่าไม่พร้อมอย่างโน้นอย่างนี้ ความสำเร็จมันเลยยังมาไม่ถึงตัวเองไงครับ สำหรับตัวผมเองแล้ว ไม่มีข้ออ้างแก้ตัวอะไรครับ แค่รอความพร้อม
   
   ภาคใต้ของไทยเราโดนน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว มาแนวเดียวกับทางโคราชที่โดนเมื่อกลางปีที่แล้วน่ะครับ คือเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องนาน สภาพตัวเมืองอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา พอฝนลงมาเยอะ ป่าไม้ในเขาเหลือน้อย มันก็อุ้มน้ำไว้ไม่ไหว ไหลลงเข้ามาตรงกลางแอ่ง ถ้าคิดให้ดี นี่คือเรื่องธรรมดาเสียด้วยซ้ำไป แต่ในใจก็ต้องสงสารประชาชนชาวบ้าน ยังไงก็ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องเอาผิดคนตัดไม้ทำลายป่าด้วยนะครับ ที่ผ่านมาจับได้แค่คนตัด และยึดกองเศษไม้ไว้ ถ้าเป็นประเทศที่เจริญแล้วเขาจะสงสัยกันอย่างมากว่าทำไมจับนายทุนไม่ได้ แต่ที่นี่เมืองไทย เลยไม่ต้องสงสัยอะไรมาก

   วันนี้ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยนิวเคลียร์ระดับสูงสุดแล้ว น่าตกใจจริงๆ ครับ คิดไม่ถึงว่าจะรั่วไหลออกมาได้มากขนาดนี้

   ผมไปโพสถามเรื่องเจ็บหลังในเวปจักรยาน เพื่อนๆ ทุกคนล้วนไล่ให้ไปหาหมอกันหมด ผมขอบคุณในความหวังดี ในคำแนะนำ แต่ผมไม่อยากไป รู้สึกว่ามันยังไม่หนักหนา ชีวิตผมเจอหนักกว่านี้ยังไหว แค่เจ็บหลัง เรื่องเล็กน้อยมากๆ
   ผมจะรักษาด้วยตัวเอง พอจะมีวิธีที่คิดเอง หากลองแล้วได้ผล หรือมันดีขึ้นเร็ว จะนำมาเล่าครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
30 มีค 54
   อาการเจ็บหลังดีขึ้น ผมไม่ต้องคลานตอนดึกๆ แล้ว แต่ยังคงลุกขึ้นยืนได้ยากอยู่ โดยรวมถือว่าดีกว่าเมื่อวานเยอะมาก แนวโน้มไปได้สวย แสดงว่ามาถูกทางแล้ว
   ไปถึงที่ทำงานเช้า แต่ไม่ได้เอาจักรยานออกขี่ เพราะยกเข้าออกจากรถไม่ได้ ยังเจ็บหลังอยู่ ไม่อยากไปซ้ำเติมมัน รอให้หายดีก่อนค่อยยกจะดีกว่า
   ช่วงเช้าเดินเล่นในสวนสาธารณะเล็กๆ แทนครับ ในสวนมีคนจรจัดมากมาย ตอนเด็กๆ ผมเคยคิดรังเกียจคนเหล่านี้ แต่พอโตขึ้นมาก็เริ่มฉลาดขึ้น เขาก็คนเหมือนเรานี่แหละครับ ต่างกันแค่จนกว่า โอกาสน้อยกว่า แต่ลึกๆ ในใจของเขาหลายๆ คนอาจดีกว่าพวกคนรวยๆ ขับรถหรูหราเสียอีก
   เดินผ่านคนเหล่านี้ ถ้ามีโอกาสสบตากัน ผมก็จะยิ้มให้ บ้างก็มองผมแบบแปลกๆ บ้างก็ยิ้มตอบ คนไทยส่งยิ้มเป็นการทักทาย ไม่นิยมพูดสวัสดีกันเท่าไหร่ ต่างจากประเพณีฝรั่ง ที่มักจะพูด Hello / Hi / Good Morning ให้กันโดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน แต่แปลกที่ฝรั่งเขาไม่ค่อยจะยิ้มให้กันเท่าไหร่ คือแค่พูดทักทายพอเป็นมารยาทเล็กๆ น้อยๆ
   
   กลับมาบ้านตอนบ่าย นั่งอ่านหนังสือเล่นกับกับลูก หยิบเอาหนังสือกองโตที่ซื้อมาจากงานสัปดาห์หนังสือมาไล่อ่าน นี่คือการสอนลูกให้อ่านหนังสือของผมครับ คือเป็นการสอนด้วยวิธีทำให้ดู อยากให้ลูกรักการอ่าน เราก็ต้องอ่านไปด้วย เขาจะดูเราเป็นแบบอย่างครับ
   เห็นเด็กเล่นเกมมือถือ ก็ไม่ต้องไปว่าใครที่ไหน มีสองเหตุผล 1 เขาว่าง ไม่มีอะไรทำที่สนุกกว่าเล่นเกม 2 พ่อแม่เอาแต่กดเกม กดแชท วิธีแก้คือเบนความสนใจ หากิจกรรมที่สนุกกว่าเล่นเกม ยกตัวอย่างลูกผม ช่วงปีก่อนเขาชอบยืมโทรศัพท์ผมเล่นเกม ผมเดินสายกลาง ให้เล่นบ้างนิดหน่อย แต่ถ้าดูแล้วมันชักจะเยอะไป ผมจะชวนเขาเล่นโดมิโน เกมเศรษฐี หมากฮอส ลองถามลูกดูเถอะครับ ผมว่าเกือบจะทุกคนเขาชอบเล่นเกมแบบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากกว่าเล่นเกมกด
   ผมไม่ห้ามลูกเล่นเกมครับ เขาเกิดมาในยุคดิจิตอล เกิดมาก็เจอ Mcintosh แล้ว เจอ ipad นี่ยิ้งชอบเลย เขามองว่าเป็นเครื่องเล่นเกมอันหนึ่ง

   คนใน msn คุยกับผมเรื่องรถ Porsche ว่าชนคนอีท่่าไหนถึงร่างกายขาดสองท่อนได้ แหม ถามตรงเป้า ถามตรงจุด เลยจัดให้สักชุด
   รถชนคนขณะคนยืน จุดแรกที่โดนตัวคนคือกันชนหน้า ถ้าเป็นการชนที่ความเร็วต่ำ ลำตัวคนจะล้มลงบนฝากระโปรง จึงเป็นที่มาของฝากระโปรงแบบอลูมินั่ม มันออกแบบมาแบบนี้เพราะมีกฏของความปลอดภัยในแต่ละประเทศที่เขาบังคับไว้ และกฏข้อนี้เองที่ทำให้รถแบบไฟหน้า pop up สูญพันธุ์ไป เพราะตอนไฟกระดกขึ้นแล้วชนคน คนจะบาดเจ็บอย่างมาก (นี่คืออีกเหตุผลที่ผมเก็บรถ 180SX เอาไว้ ไม่ขายสักที)
   กลับมาที่ Porsche ต่อ รถขับมาด้วยความเร็วสูงมาก ต้องเกิน 200 แน่นอน พอกันชนโดนหัวเข่าเหยื่อปุ๊บ ลำตัวก็จะล้มลงบนรถ (ถ้ารถมาช้า ก็จะล้มลงฝากระโปรง) แต่รถคันนี้มาเร็วมากๆ ลำตัวเลยไปชนเอากระจกหน้าเข้า แรงเหวี่ยงส่งให้ลำตัวชนกับคานบนของกระจกบังลมหน้าจนลำตัวขาดสองท่อน ซ้ำกับกระจกแตก ลำตัวท่อนบนจึงตกเข้าไปอยู่ในรถ ท่อนล่างก็กระเด็นข้ามหลังคารถไป
   ส่วนประเด็นที่ชนแล้วยังขับหนีไปอีก 10 กม ทั้งๆ ที่มีลำตัวท่อนบนของศพอยู่นั้น ผมว่ามันน่าจะเกิดจากความตกใจอย่างมาก เด็กเพิ่งอายุ 19 ไม่น่าจะเคยเจอเรื่องขนาดนี้มาก่อน ชนก็ตกใจแล้ว นี่ยังรถพังกระจกหน้าโบ๋ และด้วยความเร็วขนาดนั้น (เดากว่าเกิน 200 แน่ๆ) ขับแค่ 10 กม นี่ใช้เวลาแป๊บเดียวเองนะครับ มันไม่ได้รถติดแล้วขับเรื่อยเปื่อยเหมือนอยู่ในเมืองนะ

   เข้าเวปจักรยาน รีบอ่านกระทู้ที่ผมโพสถามเรื่องอาการเจ็บหลัง โอ้โห มีคนเป็นแบบผมหลายคนเลย มาเล่าประสพการณ์กันเพียบ รุนแรงกว่าผมก็เยอะ กลายเป็นว่าแบบผมน่ะ คืออาการอ่อนสุด ทุกคนยังตบท้ายคำแนะนำให้ไปหาหมอ แต่วันนี้ผมอาการดีขึ้นแล้ว เลยเอามาเป็นข้ออ้าง สักพักจะเข้าไปช้อนตอบขอบคุณในกระทู้อีกที
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
31 มีค 54
   อาการเจ็บหลังดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มขึ้นลงจากรถได้ เดินเร็วๆ ได้ ขึ้นบันไดได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ จะมีอาการหลงเหลืออยู่คือนอนแล้วลุกขึ้นยาก (นอนพื้น) และอีกอย่างที่ไม่สามารถทำได้นั่นคือยกของ
   เช้านี้ไม่ได้ขี่จักรยานครับ ยกเข้าออกรถไม่ไหว ช่วงเช้าไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะแทน จัดแต่งสวยดีครับ แม้จะเป็นเพียงสวนหย่อมไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีคนมาวิ่งออกกำลังกายบ้าง ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ
   ตลอดวันนี้ผมทำงานโดยไม่ต้องยกของสักนิด น่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่วันในรอบหลายปี ในเมื่อยกของไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร กลับมาบ้านตอนกลางวัน ลูกบอกอยากกินอาหารข้างนอก เบื่อข้าวบ้านแล้ว ก็โอเคครับ ที่บ้านผมมีแต่พวกผัก ปลา สองพ่อลูกพากันไปกินที่ร้าน Terrace ร้านอาหารอย่างเป็นทางการของห้างเซ็นทรัล มิวเลือกสั่งข้าวผัดอเมริกันคุณหนู ผมสั่งยำเห็ด และเปาะเปี๊๊ยะสด สั่งแค่สามอย่าง คิดเงินออกมาสามร้อยกว่าบาท รวมค่าบริการอีก 10%
   
   กลางวันอากาศร้อนอย่างเห็นได้ชัด แดดแรงเปรี๊ยงเลย ยังดีพอมีลมเย็นพัดโชยบ้าง แต่พรุ่งนี้สิ ไอ้ไอเย็นคงจะมลายหายไปหมดแล้ว เอาวะ รออีกสัก 1 สัปดาห์ พยากรณ์อากาศเขาว่าอาทิตย์หน้าจะมีเย็นอีกรอบ
   ไอเย็นน่ะพวกคนเมืองเขาชอบ แต่ก็เห็นในชาวภาคใต้ที่โดนมรสุม โคลนถล่ม น้ำท่วม เลยได้ไอเดียใหม่ ผมออกแบบบ้านสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกไว้แล้ว มีถุงยังชีพเตรียมรับภัยพิบัติแล้ว ก็เอาไอ้ถุงนี้แหละครับ เอาไปใส่เก็บไว้ในแพของบ้าน เรียกว่าถ้าน้ำมา บ้านก็ลอยสูงขึ้น และถึงแม้จะถนนถูกตัดขาด ถ้าแพนี้ยังอยู่ เราก็เปิดช่องอากาศในแพ หยิบของยังชีพออกมาใช้ได้ สำคัญคือเกาะแพให้อยู่ก็แล้วกัน แพนี้จะมีหลายขนาด และสามารถถอดประกอบได้ กรณีแพแตก ก็ยังคงมีสภาพเป็นแพเล็กๆ พอจะขึ้นไปนอน และพักอาศัยอยู่บนแพนั้นได้ ยังไงก็ดีกว่าเกาะอยู่ตามต้นไม้ หรือนอนแช่อยู่ในโคลนล่ะน่า
   แต่ช่วงนี้ชาวบ้านเขาวิกฤตกัน น้ำท่วมจนถนนขาด สะพานขาด การส่งเสบียงและความช่วยเหลือเข้าถึงช้า ก็ต้องทำใจยอมรับและช่วยเหลือตัวเองไปก่อน วิชาลูกเสือที่สอนการยังชีพในป่าตอนเรียนประถมยังจำกันได้ไหมครับ การผูกเชือกเป็นเงื่อนต่างๆ หุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ และอีกสารพัดอย่าง มันใช้ได้จริงในสถานการณ์แบบนี้ครับ
   ผมขี่จักรยานทัวริ่ง นอนเต้นท์ เลยพอเข้าใจการใช้ชีวิตกลางแจ้ง จะเป็นการดีไหมครับที่จะเพิ่มหลักสูตรการยังชีพในป่า ก็ในเมื่อเกิดอุทกภัยแล้วทางการช่วยเหลือช้า พวกเขาจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ สอนกันแบบจริงจังเลยนะครับ ไม่เอาแบบลูกเสือแล้วนะ เอาแบบกินอยู่หลับนอนกันจริงๆ เลย ให้พวกปราชญ์พื้นบ้านมาสอน จะได้เรียนรู้รายละเอียดต่างๆ ได้ดีกว่าพวกนักแคมปิ้ง เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่จะพึงพาอุปกรณ์หรูหราเสียเป็นส่วนใหญ่
   อ่านไอเดียผมแล้วคิดว่าอันไหนเข้าท่า นำไปใช้ได้ทันทีเลยครับ ไม่ต้องขอ พวกเรื่องที่เป็นประโยชน์นี้เราต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำครับ และยังมีไอเดียเพื่อการพัฒนาบ้านเมืองอีกเยอะ ไทยเรายังมีศักยภาพสูงมากๆ สามารถพัฒนาไปได้แบบก้าวกระโดดภายในไม่กี่ปี
   ประเด็นคืออยากให้เอาไอเดียผมไปใช้เต็มระบบ หรือถ้ามีการปรับปรุงเปลียนแปลง ผมขอมีส่วนร่วมสักนิดครับ ไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่าอยากเห็นประเทศไทยพัฒนาขึ้นในยุคที่ผมยังมีชีวิตอยู่
   หรือถ้าเป็นนักเขียนโปรแกรมก็น่าจะสร้างเกมแบบ Simulator ออกมา เป็นเกมสร้างเมือง แต่ไม่ได้แข่งกับการหาเงินนะ ผมคิดเกมนี้เพื่อมาสู้กับภัยพิบัติแทน สร้างแล้วก็ลองสู้กับฝนตกสัก 7 วัน ดูว่าจะมีน้ำท่วมขังตรงไหนอย่างไร มีดินโคลนถล่มด้วยไหม และสุดท้ายถ้าทำได้ก็แข่งกับแผ่นดินไหวด้วยว่า จะต้องสร้างเมืองแบบไหน ถึงจะทนแผ่นดินไหวได้ (จะทนได้สักกี่ริกเตอร์ก็ว่าไป)
   
   ผมยังมั่นใจว่าไทยเราพัฒนาไปได้อีกไกล และไปได้เร็วมากๆ อีกด้วย แต่เราต้องช่วยกันทุกฝ่ายนะครับ
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride