racing-club.net

Bike Forum => my bike diary / my life diary => Topic started by: O'Pern on March 07, 2012, 08:26:15 pm

Title: มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:26:15 pm
1 มีค 55
   ตื่นขึ้นมาอย่างสดใส แม้จะนอนไม่สบายเท่าห้องพักในโรงแรมเหมือนหลายๆ คืนที่ผ่านมา แต่มันก็เป็นบ้านของเราเอง บ้านที่เราคุ้นเคย
   เช้านี้ไม่ได้ออกขี่จักรยานหรอกนะ ภรรยาบอกว่าจักรยานคันเล็ก Neobike 14 ที่เอาไว้ใช้ทีทำงานขี่จดออเดอร์ลูกค้าน่ะ มันยางแบน ไอ้รถคันนี้มีปัญหาจริงๆ ที่ล้อหลัง อาการเหมือนยางในซึม อาทิตย์หนึ่งต้องเติมลมสัก 2 ครั้ง เหมือนลมมันค่อยๆ จะซึมออก แต่ลองจับแช่น้ำดูก็ไม่พบรอยรั่วแต่อย่างใด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถอดออกมาตรวจสอบ ดูทั้ง Rim Tape ว่ามันปิดหัวซี่ลวดเรียบร้อยดีไหม ผิวด้านในของยางนอกมีของแหลมคมแอบฝังอยู่ไหม ฯลฯ
   สูบลมให้เต็มไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ตรวจสอบดู มันก็ยังปกติดี มีอาการลมซึมออกบ้างนิดๆ เหมือนเมื่อก่อนนั่นแหละ ขี้เกียจถอดออกมาเช็คแล้วล่ะ วันนี้ขอเอา Neobike 16 คันใหม่ไปใช้แทนดีกว่า
   ขี่แล้วไม่ค่อยคุ้นครับ รถคันนี้ใช้เบรกก้ามปูหน้าหลัง ต่างจากเจ้ารถคันเก่าที่ผมใช้ Coaster Brake เพียงอย่างเดียว แต่ก็ชอบรถคันใหม่มากกว่านะ มันทรงตัวดีกว่าเยอะ เสียอย่างเดียวตรงมีสายเบรกรกรุงรัง และแขวนถุงใส่ข้าวของที่ซื้อมาจากตลาดได้ลำบาก เพราะติดมือเบรก
   วันนี้อยู่ร้านจนถึงเย็นครับ ออกจากร้านก็ต้องแวะเก็บเช็คลูกค้าก่อน แวะ Home Pro ซื้อหลอดไฟห้องน้ำ ไปถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติ เพราะวันนี้มีการพบปะพูดคุยกับครูประจำชั้นที่จัดเป็นประจำทุกเทอม
   ครูรายงานพฤติกรรมของมิว คือ ชอบเล่น ชอบเย้าแหย่เพื่อน ชอบวาดการ์ตูน เขียนหนังสือยังสะกดผิดๆ ถูกๆ อยู่ ยังไม่เข้าใจเรื่องการแบ่งวรรคตอน และย่อหน้า
   ก็รับฟังครู และนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขต่อไป
   ฟังข่าวทีวีเขาว่าภาคเหนือมีปัญหาเรื่องหมอกควัน ขณะผมอยู่เชียงรายก็เห็นมันปกติดีนะ มีหมอกบางในตอนเช้า มันก็เหมือนหน้าหนาวปกตินั่นแหละ หรือว่าผมไปอยู่ในจุดที่มันไม่มีปัญหาก็ไม่รู้สินะ ทั้งเชียงแสน เชียงของ แม่สาย หรือกระทั่งอำเภอเมือง
   เย็นลูกขอกินไอติมโคนที่ร้าน KFC กลับมาบ้านกินข้าวกับปลาทอด ส่วนผมเล่นน้ำพริกหนุ่มกับแคบหมูที่ซื้อมาจากเชียงราย


ภาพจากเชียงของ อีกฟากของแม่น้ำคืเมืองห้วยทราย ประเทศลาว
Title: Re: 1 มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:29:55 pm
2 มีค 55
   เป็นอีกหนึ่งคืนที่นอนหลับไม่เต็มตื่น แมวสองตัวมาต่อสู้กันบนหลังคาบ้าน เสียงร้องหง่าวๆ พร้อมกับเสียงฝีเท้ากระแทกหลังคาดังโครม แน่นะ แค่หง่าวแรกผมก็ตื่นแล้ว เพิ่งจะ 0330 เท่านั้นเอง ทีแรกไม่อยากลุก แต่ออกไปไล่แมวดีกว่า คนอื่นๆในบ้านจะได้นอนกันอย่างเป็นสุข
   แมวไปแล้ว และผมก็ตื่นแล้วเช่นกัน มองไปรอบตัว ไม่มีอะไรทำ เปิดคอมฯ นั่งพิมพ์ไดอารี่เล่าเรื่องทริปเชียงรายที่ผ่านมาดีกว่า ผ่านไป 2 ชม เล่าได้แค่วันเดียวเองน่ะ นี่ผมไปตั้ง 4 วันเชียวนะ จะต้องเล่ากันนานแค่ไหนล่ะนี่
   เช้ากินอาหารสุขภาพครับ เต้าหู้ราดพริก กับแครอทลวก กระเทียมสด ข้าวกล้อง น้ำใบบัวบก มื้อเช้าต้องจัดเต็มนะ เพราะอาหารมื้อเช้ามีไว้บำรุงสมอง มื้อกลางวันบำรุงร่างกาย ส่วนมื้อเย็นสำหรับซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
   ถ้าอยากฉลาด ก็ต้องกินมื้อเช้าครับ
   วันนี้เข้าบ้านมาบ่ายแก่ๆ หน่อย ก็นั่งพิมพ์เล่าไดอารี่ชีวิตต่อ จำได้ว่าสมัยแรกๆ มีแต่เรื่องจักรยาน หลังๆ มานี้ขี่จักรยานน้อยลงมาก กลายเป็นเรื่องชีวิตแทนเสียแล้ว ผสมกับเรื่องราวไร้สาระบ้าง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดประโยชน์กับใครบ้างไหม อย่างไร
   เย็นนี้ลูกให้ไปรับสายหน่อย เขาบอกขออยู่เล่นกับเพื่อน อิสระได้เต็มที่เลยครับลูกพ่อ ช่วงเวลาเล่นของเด็กมันก็คือการเรียนรู้อีกอย่างหนึ่ง ผู้ใหญ่อาจไม่เข้าใจในจุดนี้ ถึงดุว่าเด็กว่าเอาแต่เล่น
   นัดหมายกันไว้ว่าจะกลับตอน 0530 ผมไปนั่งรออ่านหนังสือเล่นตั้งแต่ 0500 รอ 30 นาที ลูกวิ่งมาบอกว่าจะกลับตอน 0730 คือหนึ่งทุ่มครึ่ง โห ดึกจัง อีกตั้ง 2 ชม แน่ะ
   ก็ไม่เป็นไรครับ ให้อิสระแบบสุดๆ ไปเลย อยากเล่นก็เล่นไป แต่ถึงตอนเรียนก็อย่าลืมเต็มที่กับมันด้วยล่ะ

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
Title: Re: 1 มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:32:55 pm
3 มีค 55
   ช่วงนี้มีเรื่องไม่ดีเกิดกับครอบครัว พ่อไม่สบาย ไอ หายใจติดขัด หมอจับเอ็กเรย์ปอด แม่ปิดประตูรถหนีบมือตัวเองเลือดไหล เล็บจะหลุดหรือเปล่าก็ไม่รู้
   กลับมาจากเชียงราย มีไอเดียทำธุรกิจใหม่ๆ 1 อย่าง ใจหนึ่งก็อยากลุยทำมันซะเลย แต่ก็ติดที่ว่าตัวเราเองต้องไปนั่งเฝ้าหน้าร้านขายของแทบทุกวัน นี่ถ้ามีอิสระเหมือนเมื่อก่อนก็ดีสินะ
   มีหลายสิ่งในหัว กลายเป็นได้แต่คิด จากเดิมมันเป็นความฝัน ทุกวั้นนี้กลายเป็นเรื่องเพ้อฝันไปเสียแล้ว คือคิดๆ อยู่นั่นแหละ ไม่ยอมทำสักที อนาถใจตัวเองจริงๆ ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย สมัยก่อนคิดอะไรก็ต้องลุยกันไปข้างหนึ่งเลย ยกตัวอย่างนิตยสาร Racing Club นี่แหละครับ รู้สึกเสียดายเวลาชีวิตอย่างมากนะ ทุกวันนี้ได้แต่หายใจทิ้งไปวันๆ
   เช้าเฝ้าร้านขายของ เย็นกลับบ้าน ย่างก้าวเท้าแรกเข้ามา ลูกก็ขอให้ต่อสายอินเทอร์เนทออนไลน์ให้เขาเล่นเกมใน Face Book เสียแล้ว กลายเป็นไม่ได้คิดถึงเรา คิดถึงแต่สังคมในโลกคอมพิวเตอร์แทน นี่ขนาดแค่ ป4 นะ ถ้าขึ้นมัธยม เราอาจอยู่กันคนละโลกแล้วก็เป็นได้ อีกหนึ่งความจริงที่ผมต้องยอมรับ เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ต้องปรับตัวให้ได้
   โลกวิบัติ อเมริกาโดนทอร์นาโด ญี่ปุ่นมีหิมะหลงฤดูที่โตเกียว ไทยมีหมอกหนาและหนาวเย็นที่ภาคเหนือ ออสเตรเลียมีน้ำท่วมใหญ่ ประเทศอื่นๆ ก็มีปัญหาต่างกันออกไป เพียงแต่เราไม่ค่อยได้รับข่าวสารเท่านั้นเอง
   สัญญาณเตือนอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นแล้ว ไม่ใช่สิ เตือนมานานหลายปีแล้วล่ะ เพียงแต่ช่วงนี้เตือนหนักหน่อย และคงจะหนักขึ้นเรื่อยๆ หากจะใช้ชีวิตอยู่ ก็ต้องปรับตัวกันไปครับ คนแข็งแรงก็จะยืนหยัดอยู่ได้ คนอ่อนแอก็จะพ่ายแพ้ไป เป็นเช่นนี้ทั้งในโลกแห่งความจริง และโลกธุรกิจ
   เย็นมีเวลาว่างหน่อย ตรวจเช็คจักรยานแต่ละคันที่อยู่ในบ้าน ไล่เติมลม เช็ดทำความสะอาด โทรคุยกับพี่สมัคร เชียงราย บอกว่าผมกลับมาถึง กทม เรียบร้อยแล้ว พี่เขายังใจดีเสมอ บอกว่าขอโทษที่ไม่ได้ต้อนรับ คราวหน้าไปหาเขาอีกนะ ไม่ต้องบอกล่วงหน้า ไม่ต้องวางแผนก็มาได้
   โทรคุยกับคุณ “นิรันดิ์” คนที่อาสาจะให้จักรยานไปยืมขี่เล่นที่เชียงราย เขามีรถจักรยานจากเกาหลีจะมาให้ผมเอาไปลองใช้ ก็ดีเหมือนกันครับ สมัยก่อนเคยแต่ทดสอบรถยนต์ ตอนนี้กลายมาเป็นมาทดสอบจักรยานแทน รถเป็นอย่างไร ดีด้อยตรงไหน อ่านความจริงได้ที่นี่ มาตรฐานการทดสอบระดับเดียวกับงานรถยนต์ที่ Racing Club เคยทำไว้ครับ


ร้านอาหารชาวอาข่าบนดอยช้าง
Title: Re: 1 มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:35:01 pm
4 มีค 55
   เตรียมชุดจักรยานไว้ตั้งแต่เมื่อคืน สูบลม เติมน้ำใส่กระติกไว้อย่างดี ตื่นเช้าขึ้นมา ดันไม่อยากออกขี่เสียนี่ เดินออกกำลังกายในบ้านราว 1 ชม แทนครับ
   แม่ไปตลาดซื้อโจ๊กมาฝาก จัดการไปซะ สายหน่อยภรรยาและลูกออกไปข้างนอกกัน ผมซ้อมเล่นคีย์บอร์ด (ดนตรี) และ Uke ไปเกือบจะ 2 ชม วันอาทิตย์ถ้าพ่อแม่อยู่บ้านก็จะได้คุยกันมากหน่อย
   บ่ายกินส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ผักสด อิ่มจนใกล้หลับ ว่างๆ ก็นั่งพิมพ์ไดอารี่ย้อนหลังไปเรื่อย นี่คือสาเหตุว่าทำไมไดอารีช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ถึงได้ช้าเหลือเกิน ก็รายละเอียดมันเยอะมากไงครับ อยากเล่าให้เห็นภาพเหมือนกับไปเที่ยวด้วยกันกับผม
   วันนี้อยู่บ้านตลอดวัน จู่ๆ ก็ขี้เกียจออกกำลังกายเฉยเลย เอ๊ะ มันชักจะผิดปกตินะ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ลองนั่งคิดวิเคราะห์ดู พบว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุหลักคือ ผมขาดแรงจูงใจ
   ถ้างั้น ก็ต้องหาแรงบันดาลใจ แรงจูงใจเพิ่มสินะ
   จัดอีกสักทริปดีไหม
   อ้าว เฮ้ย เพิ่งจะกลับมาจากเชียงรายเองนะ

อาข่าริเวอร์เฮาส์ ริมลำน้ำกก
Title: Re: 1 มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:36:54 pm
5 มีค 55
   ขี่จักรยานยามเช้า ยังหาเป้าหมาย แรงจูงใจไม่เจอเลย ขี่ขำๆ ดูเหมือนจะเลื่อนลอย นึกภาพเมืองเชียงของไปด้วย ทำให้การขี่วันนี้ดูสดใสขึ้นมาหน่อย ก็แหม อากาศต่างกันแค่ 20C เท่านั้นเอง อยู่เชียงของ 13C อยู่บ้าน กทม 33C แหงก…
   กลางวันนี่อากาศร้อนจัดเลยล่ะครับ และก็คงจะต้องร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงเมษายน ต่างจากปีหรือสองปีก่อนนี่แหละที่ยังมีลมหนาวลงมาจนถึงปลายเดือนมีนาคม เราก็ต้องปรับตัวกันไปครับ บ้างก็บอกว่าธรรมชาติเอาคืน บ้างก็บอกว่าเกิดจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย เราทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับและเตรียมพร้อม ผู้ที่แข็งแรงกว่าเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้
   เย็นนี้ไปรับลูกช้าหน่อย เขาบอกจะซ้อมบาสฯ บ๊ะ แจ๋วจริง นานๆ จะเห็นชอบกีฬาอะไรกับเขาบ้าง เมื่อวานเห็นซัดพิซ่าถาดกลางคนเดียวหมดเกลี้ยง จะบ้าตาย สงสัยกำลังทำพิธีโหลดคาร์โบเตรียมไว้สำหรับการซ้อมบาสฯวันนี้


ชาวเขาเตะตระกร้อยามเช้าก่อนไปทำงาน ที่ดอยช้าง
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:39:37 pm
6 มีค 55
   เมื่อวานเย็นมีเวลาว่างมากหน่อย โทรคุยกับเพื่อนเก่า รุ่นพี่เก่าๆ ที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี อัปเดทข่าวคราวชีวิต ส่วนใหญ่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นกันหมดทุกคน ฟังเขาเล่าก็พลอยดีใจไปด้วย แต่พอมามองตัวเองแล้วท้อใจเลยว่ะ เศร้าจัง 
   แดดร้อนแรงชนิดที่ไม่บ่นไม่ได้แล้ว ก็คงจะต้องบ่นต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะทุเลานี่แหละ
   บ่ายขับรถพ่อไปตรวจสภาพ เพื่อต่อทะเบียนรถ กะว่าจะไปรับลูกต่อ แต่เขาโทรมาบอกขอเลื่อนให้มารับช้าหน่อย มาสัก 1 ทุ่มก็ได้ เขาจะซ้อมบาสฯกับเพื่อนต่อ
   ผมกะเวลามาแบบเหลือๆ ถึงตอนนี้เลยกลายเป็นเหลือมากเกิน จนต้องแวะห้างเซ็นทรัลเดินเล่นถ่วงเวลา เจอรถ Kia Picanto เอามาจอดโชว์ ด้านนอกสวยงามมากทุกมุม แต่ภายในแม่งแย่ว่ะ วัสดุโคตรห่วย เป็นพลาสติคก๋องแก๋งอัดขึ้นรูป เบาะหุ้มหนังเทียม พวงมาลัยไวนิล จับแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่า ถ้าได้รถมาคงต้องเปลี่ยนใหม่
   รถราคา 5.3 แสน รับรถได้เลย รับประกัน 5 ปี นี่คือจุดขายของเขา ในขณะที่ผมไปดู BMW X1 ราคา 2 ล้านกว่า รอรถ 1 ปี ฮ่วย!!! พี่เก็บไว้ขับเองเถอะนะ
   ไม่มีอะไรฆ่าเวลาได้ดีเท่ากับการอ่านหนังสืออีกแล้ว ผมเข้าได้ทุกร้าน ไม่มีร้านประจำ ใจชอบอ่านพวกหนังสือเดินทางท่องเที่ยว อ่านแล้วก็อยากไปเหมือนเขาบ้าง แต่พอเอาเข้าจริง ไม่อยากทำซ้ำเขา นักเดินทางไม่ควรเหยียบตามรอยเท้าใคร ผมคิดของผมแบบนี้แหละ
   ลูกนัดกับเพื่อนที่เล่นบาสฯด้วยกันไปกินทีร้านยาโยอิอีกแล้ว พ่อแม่ก็ต้องเดินตามลูกต้อยๆ อย่างว่าง่าย ออกจากโรงเรียนก็ดึก กินก็ดึก ถึงบ้านยิ่งดึกเข้าไปใหญ่


ร้านอาหารที่เชียงของ
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 07, 2012, 08:43:58 pm
7 มีค 55 วันมาฆะบูชา
   เย้ๆ ร้านหยุด
   ไม่ต้องดีใจเว่อร์ ต้องออกไปเปิดร้านรับสินค้าอยู่ดี มีคนจะมาส่งของ … เซ็งจริงๆ
   ตื่นแต่เช้ากะจะขี่จักรยานแน่ๆ เตรียมชุดไว้อย่างดี อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย พอจับจักรยานจะเอาขาตั้งลง อ้าว ยางแบน ปัดโธ่
   มันไม่ได้แบนเพราะปล่อยทิ้งไว้นาน ผมเพิ่งจะสูบมันเมื่อสองวันก่อนเอง เซ็งอีกแล้ว อดขี่ จะเอารถคัน KHS F20-W ออกแทนก็ไม่คุ้นเบาะเสียแล้ว นั่ง Brooks จนชินแล้ว
   กว่าจะเสร็จธุระก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมง พาภรรยาและลูกไปสยามพารากอน เดินเล่น เปิดหู เปิดตา เห็นของแปลกใหม่เยอะดีครับ ตลอดเวลาหลายชั่วโมงที่อยู่ในห้าง ใจผมคิดถึงแต่ธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต
   ขับเข้าไปจอดในตึก Siam Discovery พอรับบัตรปุ๊บ ยามที่ข้างหน้าก็โบกรถ เปิดรั้วให้ผมเข้าไปจอดที่พิเศษ เฮ้ย งงสิ ไม่เคยเจอแบบนี้
   “สงสัยเอารถพ่อมาว่ะ” ลำพังรถผมเองน่ะเหรอ ไม่เคยมียามหน้าไหนชายตามองแม้แต่น้อย
   สังคมมันเป็นแบบนี้ มองกันแค่เปลือก ผมมาห้างนี้ปีละหนสองหน ยิ่งเข้าเมือง ก็ยิ่งแน่ใจว่าตัวเองไม่ชอบสังคมแบบนี้ ผมชอบธรรมชาติ ชอบป่าเขา ดอย ถ้ำ น้ำตก อย่างที่เชียงรายน่ะ ใช่เลย ผมชอบเมืองเชียงของ
   กินอาหารกลางวันตอนบ่ายที่ร้าน Tony Roma’s ร้านอาหารทีมีชื่อเสียงเรื่องสเต็กซี่โครงหมู ราคาแพงครับ นานๆ กินที ปีละหนพอ เสร็จแล้วก็เดินเล่นในร้านหนังสือ เริ่มตั้งแต่ Asia Book ตามด้วย Kinokuniya ออกมาอีกทีฟ้ามืด เย็นเดินข้ามฟากมากินร้านเก่าแก่ในสยามสแควร์ชื่อจุฑารสแทน เพราะร้านส้มตำนัวร์ที่วางแผนไว้คนรอคิวเยอะมาก
   กลับบ้านตอนค่ำ พอขึ้นรถปุ๊บ ภรรยาและลูกก็หลับทันที อ้าว ผมก็อยากหลับบ้างเหมือนกันนะ
   ขับคนเดียวเพลินๆ เพราะรถไม่ติด เปิดเพลงฟังร้องคลอไปด้วย แป๊บเดียวก็ถึงบ้านแล้ว (ใช้ทางด่วน)
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 10, 2012, 02:14:24 pm
8 มีค 55
   เอารถ KHS F20-W ออกขี่แทน คัน HT ยางแบน ลองสูบดูแล้วได้ยินเสียงลมดันออกมาดังฟู่ๆ อย่างชัดเจน สันนิษฐานว่ามันไม่ใช่แค่รอยรั่วธรรมดา เสียงดังฟู่ขนาดนี้ คงต้องเป็นแผลใหญ่ ถ้าฉีกขาดเป็นแผลยาวเกิน 1 ซม ก็ไม่น่าจะเสี่ยงปะแล้ว เปลี่ยนยางในใหม่จะสบายใจกว่า
   ถ้าเป็นผมในช่วงที่ไฟแรง อยากหาข้อมูลแปลกๆ ก็จะปะมันไปเรื่อยๆ ดูซิว่ามันจะใช้งานไปได้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้ขี่ทัวริ่งเดินทาง อันนี้ไม่แนะนำให้เสี่ยง เกิดยางมันออกอาการขณะเรากำลังขี่อยู่เพลินๆ จะพาให้เซ็งมากกว่า
   ลูกฮิตเล่นบาสฯกลับบ้านค่ำเสียหลายวัน วันนี้ผมขี้เกียจรอ ก็เลยลงไปร่วมเล่นด้วยเสียเลย นั่งรอ ยืนรอ มันเบื่อไง เล่นไป 1 ชม เหงื่อซ่กครับ ไม่ได้แตะลูกบาสฯ มาราว 30 ปีเห็นจะได้ ฝึกหัดชู๊ทเหมือนเด็กๆ เขาทำ ลงบ้าง ออกทะเลบ้าง ปนๆ กันไป
   แต่รอแบบนี้ไม่เบื่อเหมือนวันก่อนๆ ละ เริ่มปรับตัวได้แล้ว
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 10, 2012, 02:19:33 pm
9 มีค 55
   ขี่รถ KHS F20-W ตอนเช้า เบาะหนานุ่มที่บอกไม่คุ้น นั่งซ้ำอีกวันก็พอได้เหมือนกัน นี่ถ้าพรุ่งนี้ซ้ำอีกที อาจบอกชอบก็เป็นได้
   ไปถึงที่ทำงานก็เอารถ Neobike 16 คันใหม่ (เก่าโทรมจากญี่ปุ่น) ออกขี่จดออเดอร์ลูกค้า เจ้าคันนี้ใช้เบรกก้ามปูหน้าหลัง จะแขวนถุงน้ำ ถุงขนม ก็ลำบาก ต่างจากรถคัน Neobike 14 ที่ใช้เบรกแบบ Coaster แถมแฮนด์เป็นรูปตัวยู จะแขวนอะไรก็คล้องมาได้เลย มันจะไหลลงมาตรงกลาง รถยังคงขี่ได้ดีอีกด้วย
   ธนาคารกสิกรไทยออกโปรโมชั่น เปิดบัญชีใหม่ จะได้บัตร ATM สมุดบัญชี และซองอเนกประสงค์ รูป Angry Bird ผมเอาไปบอกภรรยา เธอชอบมาก เลยจัดมา 1 ชุด พอมาถึงบ้าน ลูกเห็นก็จะเอาบ้าง วันนี้เลยจัดให้ลูกไปอีก 1 ชุด ไม่รู้ว่าวันต่อไป จะมีของ อากง อาม่า ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
   บ่ายเข้ามาบ้าน ขับรถยนต์อยู่กลางแดดยังร้อนจัด รถผมไม่ได้ติดฟิล์มด้วยน่ะ ขับกลางคืนนี้แจ๋วสุดๆ เลยล่ะ แต่กลางวันก็ทำใจหน่อยนะ
   เย็นนี้ลูกซ้อมบาสฯอีกแล้ว บอกให้มารับ 1 ทุ่ม ผมเตรียมรองเท้ากีฬาอย่างดีไปด้วย กะจะลงเล่นด้วย พอไปถึงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด มีเด็กชั้นอื่นๆ ลงมาร่วมเล่นด้วย และสลับหมุนเวียนกันมาลงสนาม ผมได้แต่นั่งคอยเก้อจนถึงทุ่มครึ่ง
   ขากลับมิวขอกินมื้อเย็นที่ร้านยาโยอิอีกแล้ว ไหนบอกนานๆ กินทีไงลูก อาทิตย์นี้เล่นไป 2 ครั้งแล้วนะนี่ เอาๆ อะไรที่ให้ได้ ไม่ลำบากเรานักก็จัดกันไปครับ
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 12, 2012, 02:14:47 pm
10 มีค 55
   ไม่สบายครับ มีอาการไอ เจ็บคอ สาเหตุไม่มีอะไรมาก สองวันก่อนได้รับมอบหมายงานตำแหน่งใหม่ เป็นพนักงานตรวจเช็คสินค้า ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ ก็จะคุมพวกสโตร์ แต่ที่บ้านผมเป็นร้านเล็กๆ เลยตรวจเช็คกันริมถนนกลางแดดร้อนๆ นี่แหละครับ สูดดมควัน ไอแดด แรกๆ ไม่ชิน นานๆ เข้าทำใจยอมรับ ก็พอไปได้เหมือนกัน แต่กลับมาบ้านเริ่มมีไอกระแอม จนมาวันนี้แหละ ไอมีเสมหะ เจ็บคออีกด้วย
   เช้ายังคงขี่จักรยานเหมือนเดิม แล้วก็ออกไปทำงาน ขี่จักรยานแวะร้านขายยา ซื้อยาแก้ไอแบบมีเสมหะ และแก้เจ็บคอ หมดไป 50 บาท นี่ถ้าไปโรงพยาบาล ต้องมีอย่างต่ำ 400 และถ้าเป็นโรงพยาบาลไฮโซเตรียมไว้เฉียดพันได้เลย
   มีลูกแล้วอะไรก็ต้องประหยัดครับ ประหยัดจนขี้เหนียวเลยก็ว่าได้ อะไรกับตัวเองนี่ผมโคตรเหนียวเลย แต่กับคนรอบข้าง กับพ่อแม่ ภรรยาลูก ก็ให้เต็มที่
   กลับเข้ามาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ ลูกกำลังนอนพุงอืดดูทีวี อืมม สมัยก่อนเราก็คงจะเป็นแบบนี้ล่ะนะ เด็กๆ ยังไม่ต้องมีอะไรให้คิดมาก ไม่มีสิ่งใดให้รับผิดชอบ จิตใจโล่งโปร่งสุดๆ แล้วล่ะ
   ลูกขอใช้คอมพิวเตอร์ ผมเลยว่างปะยางรถ KHS HT สักหน่อย ถอดล้อหลังออกมาตรวจสอบแผลแล้วต้องแปลกใจมาก เพราะมันรั่วจากด้านในที่สัมผัสหัวซี่ลวด แต่ล้อผมก็ใส่ Rim Tape ปิดเรียบร้อย เอามือลูบตรวจสอบดูก็ไม่พบสิ่งใดที่มีคม งง
   รั่วแล้วก็ปะกันไปครับ สูบลมพอตึง เดินไปจุ่มน้ำในบ่อปลา ดูให้ดีว่ามีรูรั่วที่จุดอื่นอีกไหม ทำความสะอาดด้านในของยางนอก ตรวจเช็คทำความสะอาด Rim Tape ไหนๆ ก็ถอดมาแล้ว ก็ล้างมันซะให้หมด หวังว่าคงไม่ต้องถอดมาอีกล่ะ
   จำได้ไหมว่าเคยเล่านานแล้ว ยางหลังผมใช้ Slick ของ Vittoria แล้วมันมีแผลปริแตก จนถึงทุกวันนี้นะ สองปีกว่าแล้วล่ะ แผลแก้มยางปริมันก็ยังคงเท่าเดิมอยู่เลย ผลจากการอยากลองของ ก็คือได้ข้อมูลกลับมา มีแค่นี้แหละครับ อารมณ์นักทดสอบมันติดตัวไปตลอดทุกหนแห่ง
   ตลอดวันนี้ยังคงไอกระแอม สลับกับไอแบบเจ็บคอ มีเสมหะ กินยาตามหมอตี๋สั่ง ดื่มน้ำมากๆ พรุ่งนี้มีงานมีทติ้งรถพับ ปีนี้จัดที่หอศิลป์กรุงเทพฯ นึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร ผมไม่เคยไปมาก่อน มันจะมีพื้นที่โล่งกว้างใหญ่ไหม การจราจรของคนเข้าออกจะสะดวกไหม ฯลฯ
   เอา Neobike 14 ไปดีกว่าครับ เล็กดี คล่องตัว สะดวกกว่า Brompton ที่คนเขาฮิตกันเยอะเลย แถมถูกกว่า 10 เท่า เอาไว้ว่างๆ จะมาแถลงข้อเสียของ Brompton ในมุมมองของผมให้อ่าน
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 12, 2012, 08:32:46 pm
11 มีค 55 meeting รถพับ ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ
   ไม่รู้ว่ายาดี หรือผมดูแลตัวเองได้ดี อาการไอเริ่มลดน้อยลง ตลอดคืนไม่ได้ไอเลยสักนิด ผมล่ะเกรงใจภรรยาและลูก กลัวไอตอนดึกแล้วเขาจะรำคาญกัน ไอ้เรื่องพวกนี้ไม่ต้องรอให้ใครเขาบอกหรอกครับ โตขนาดนี้แล้ว สำนึกเองได้แล้วว่าทำอะไรรบกวนคนอื่นเขาไหม ขนาดนอนกรนนิดๆ หน่อยๆ ยังเกรงใจเลย ต้องคอยถามภรรยาเป็นระยะว่าผมนอนกรนมากไหม อย่างไร เผื่อตอนออกทริปจักรยานแล้วต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น จะได้ทำตัวถูก
   ตื่นเช้าแบบสบายๆ วันนี้มีงานมีทติ้งรถพับ ปีก่อนๆ จัดกันที่สวนลุม ผมไปแต่เช้าเลย แต่ปีนี้มาแปลก จัดที่หอศิลป์กรุงเทพฯ ฝั่งตรงข้ามมาบุญครองนั่นแหละครับ มีลานข้างหน้ากว้างๆ หน่อยเดียว ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าชาวจักรยานมากันเป็นร้อยๆ คัน จะอยู่กันอย่างไร
   ก็ได้แค่นึก ไม่กล้าออกเสียงท้วงติงอะไรเขาหรอก เดี๋ยวคนจัดเขาจะเสียกำลังใจ เพราะเขาก็ต้องผ่านการวางแผนมาอย่างดีแล้ว ก็เลยตามไปดูผลงานสักหน่อย แต่ในใจลึกๆ แล้ว ผมพอจะมองเห็นปัญหาตั้งแต่มันยังไม่เริ่มงานเสียด้วยซ้ำ
   ดูเหมือนว่าคอนเสปในการจัดงานจะเปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นการมีทติ้งแบบกันเองสุดๆ แนวเดียวกับที่ผมเคยจัดงาน Racing Club meeting ที่สนามแข่งรถพีระ และ BRC น่ะครับ คือพวกเรานั่งคุยกัน สอบถามกัน ไปจนถึงแลกรถกันขับ คนมีรถหรูแรงแพงอย่าง Nissan Skyline GT-R / Subaru Impreza WRX STi / Mitsubishi Evolution ก็มาร่วมงาน และยอมให้เพื่อนๆ ขับรถของเขาอีกด้วย
   งานมีทติ้งครั้งก่อนๆ ที่สวนลุมก็เช่นกันครับ ผมมีโอกาสขี่รถ Brompton / Alen Moulton / Recombent  และอีกมาก มันทำให้ผมรู้เลยว่ารถคันไหนมีบุคลิกอย่างไร ตลอดจนสปอนเซอร์ที่มาร่วมงานอย่าง TCA ที่นำรถพับหรู Bike Friday มา ผมก็ลองได้อย่างหนำใจ พับรถ Tikit จนคล่องมือ เรียกว่าถ้าใครสนใจจริงๆ สามารถหาข้อมูลในงานได้อย่างเต็มที่
   แต่กับงานวันนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด มองเผินๆ จากคนไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนกับว่าสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทยฯ จัดงานประกวดจักรยานครับ และทั้งงานก็มีแค่นี้แหละ อ้อ มีการเสวนาพูดคุยกันในห้องประชุมบ้างนิดหน่อย เป็นข้อดีนิดหน่อยตรงที่มีห้องแอร์ให้นั่ง
   บรรยากาศแบบพี่น้อง กันเองๆ หายไปจนเกลี้ยง คนที่มาร่วมงานล้วนเป็นเจ้าของรถที่ส่งประกวด แม้จะเป็นการประกวดแบบขำขำ จนกลายเป็นที่จอดรถของผู้มาร่วมงานเสียมากกว่า ผมล่ะเสียดายที่เจอรถดีๆ น่าสนใจหลายคันมาก แต่กลับห้ามเดินเข้าไปดูใกล้ๆ นี่ถ้าเป็นงานเหมือนปีก่อนที่สวนลุม สามารถขอลองขี่กันได้ เท่าที่ผมเจอนะ ไม่มีเจ้าของคนไหนหวงรถเลยสักคน มีแต่คะยั้นคะยอให้ผมลอง จนผมต้องบอกว่าไม่กล้าลอง กลัวเสียเงิน
   ยกตัวอย่างอีกคันคือรถของคุณปาน Granny Bike ที่เมื่อก่อนนำเข้ารถ Surly คนแรก จนมีบริษัทใหญ่เป็นตัวแทนนำเข้าเรียบร้อยแล้ว ทราบข่าวมาล่าสุดเขานำ Extra Cycle เข้ามา ขับคันนี้มาโชว์ในงานอีกด้วย แล้วเป็นไงล่ะ แทนที่จะได้จับ ได้ลอง ได้สัมผัส กลายเป็นว่าคุณปานลงทะเบียนแล้วก็รับเบอร์ติดรถ จูงเข้าเต้นท์ จบข่าวเลย ห้ามคนนอกเข้าเต้นท์ ได้แต่ยืนดูไกลๆ
   Extra Cycle เป็นออปชั่นครับ ไม่ได้เป็นรถจักรยาน มันจะต่อให้รถเรายืดยาวออกไป เพื่อให้รองรับการบรรทุกได้มากขึ้น ผมว่าน่าจะไปได้ดี เพราะราคาไม่แพงมาก สามารถซื้อมาเป็นของเล่นที่เบื่อแล้วก็ยังขายต่อได้
   รถที่น่าสนใจอีกมากๆ ๆ ๆ เราได้แต่ยืนมองกลางแดดร้อนๆ ไม่มีร่มเงาไม้ บรรยากาศรอบข้างมีแต่ควันพิษที่สี่แยกปทุมวัน ยังดีมีด้านในอาคารให้หลบร้อนโดยมีบูทของ The Space Frame มาจัดแสดงแนว Bike Show เลย รถแพงๆ หรูๆ มากมาย ไม่รู้สินะ เห็นคนอื่นเขาชอบกันเยอะ แต่รถแบบนี้ แพงขนาดนี้ มันไม่เคยอยู่ในสายตาผมเลยแม้แต่น้อย ดีไหมผมไม่รู้หรอก แต่ผมไม่มีเงินขนาดนั้น รถคันละเฉียดแสน ขี่แล้วไม่น่าจะมีความสุขแล้วนะ จอดยิ่งไม่เป็นสุขไหญ่ ถ้าล้มนี่ยิ่งเซ็งเลย
   ความสุขของผมคือการได้ขี่จักรยานครับ จะเป็นรถอะไรก็แล้วแต่ ความสุขของผมจะไปอยู่ที่เส้นทางและบรรยากาศรอบข้างเสียมากกว่าครับ หรือว่าตัวผมเองผิดปกติก็ไม่รู้นะ ยิ่งขี่ทัวริ่งนานๆ เข้า ยิ่งอยากทำรถให้มันโทรมๆ เก่าๆ ยิ่งดูไม่แพงเท่าไหร่ยิ่งดี
   ในอาคารมีบูธขายของราว 4 ร้าน ถือว่าสร้างสีสันได้ดีครับ ไม่มีร้านแบบนี้เหงาแย่เลย ผมเจอไฟดวงหนึ่งในร้านค้าเขาติดราคาไว้ 100 บาท แต่ไอ้ดวงเดียวกันนี่แหละ ที่คลองถมขายแค่ 50 บาท แบบยังไม่ได้ต่อ แถมถ้าซื้อเยอะ หรือสนิทกับคนขาย จะได้ดวงละ 30 - 40 บาท
   ในงานมีรถทำมือ 2 คัน คันแรกเป็นรถเหล็ก อีกคันเป็นรถไม้ ทั้งสองคันทำเองโดยคนไทย บ๊ะ เจ๋งว่ะ ผมชอบคนไทยเก่งๆ อยากสนับสนุนมากๆ
   เดินแป๊บเดียวก็ทั่งงานแล้วล่ะครับ ความสุขต่อไปก็คือการได้พบเพื่อนๆ ที่เคยร่วมทริปด้วยกัน เจอเพื่อนเยอะก็คุยได้นานหน่อย ช่วงไหนเหงาๆ ไม่เจอใครก็ทำเอาอยากกลับบ้านเหมือนกัน แก้เบื่อด้วยการเดินเข้าไปตากแอร์เล่น
   นานเข้าก็เบื่อครับ กลางวันอากาศร้อนอบอ้าว หลายคนทยอยกลับกันแล้ว ก็ขอกลับด้วยคนละกันครับ
   เข้ามาถึงบ้านตอนบ่าย นั่งอ่านหนังสือเล่นกับลูก เอาซื้อการ์ตูนสามก๊กมา แต่แบ่งเป็นตอนๆ จบในเล่ม ผมหยิบมาอ่านได้ 2-3 หน้าก็ต้องย้อนกลับไปอ่านหน้าแรกใหม่ เพราะจำชื่อตัวละครไม่ได้ จำชื่อเมืองไม่ได้ อ่านไปนานๆ เข้า ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายใคร งงผสมมึน
   มื้อเย็นไปกินกันนอกบ้านอีกแล้ว เล่นเสียเต็มคราบ แล้วน้ำหนักมันจะลงได้อย่างไรกันล่ะนี่
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 12, 2012, 08:39:37 pm
12 มีค 55
   ตรวจเช็คลมยางรถ KHS HT ที่ปะยางแล้วสูบลมทิ้งไว้ 2 วัน พบว่าเก็บลมได้เหมือนปกติ รอดไป ไม่งั้นต้องเสียเงินค่ายางใหม่ในอีก เอารถคันนี้ออกขี่ตอนเช้า ชอบตรงมีเบาะหนังของ Brooks ไม่ได้ออกขี่ยาวไกลนานเหมือนพวกเซียนๆ เขา ของผมขี่แบบสะสมทรัพย์ วันละนิดละหน่อย นานเข้าเบาะมันก็ยืดตัวนิ่มลงได้เหมือนกัน จำได้ว่าจะใช้เวลาราว 10 ชมในการขี่ กว่าจะเริ่มรู้สึกได้ว่ามันนิ่ม วันแรกๆ แข็งน่าดู เหมือนนั่งบนสันเขียง
   ผมรู้สึกว่ารถ KHS F20-W ท่อคอมันสูงไปนิดครับ ปรับไม่ได้เสียด้วยสิ วิธีเดียวคือตัดมันออกครับ เสียดายของเหมือนกัน ถ้าทำแล้วแต่งให้มันเนี๊ยบได้ ปิดฝา Stem แบบเรียบร้อยสวยงามก็โอเคนะ กลัวตรงรอยตัดนี่แหละครับ เกิดหั่นแบบไม่เรียบขึ้นมานี่ยุ่งเลย ออกแนวน่าเกลียด งานนี้คงต้องพึ่งศัลยกรรมเลเซอร์
   กลางวันวางแผนงานชีวิตของตัวเอง อยากเข็นงานเขียนที่เตรียมไว้ออกวางแผงกับเขาบ้างสักที ระยะหลังนี้เน้นไปทางเรื่องจักรยานและการใช้ชีวิตขณะเดินทาง พวกเรื่องสั้นจบในตอน เขียนกันแบบซีรี่ส์เรื่องยาวก็ถนัดเหมือนกัน เอาไปแอบๆ ลงในเวปจักรยาน มีคนอ่านแล้วเขาบอกชอบ เราเองก็ภูมิใจ
   เย็นลูกขอเล่นบาสฯอีกแล้ว บอกให้ผมไปรับตอน 1  ทุ่ม ยุงก็ชุมจริงๆ โรงเรียนของเขามีต้นไม้เยอะมาก รายล้อมไปด้วยที่ดินเปล่ามีแอ่งน้ำ แต่วันนี้ผมไปรับเร็วหน่อย มิวเรียนดนตรี เลยต้องเอา Uke ไปเรียนด้วย ผมกะจะนั่งเล่น Uke ซ้อมมือขณะรอมิว
   ไปถึงโรงเรียน 0600 ตามปกติจะมีเด็กๆ ซ้อมบาสฯกันเต็มสนาม แต่วันนี้ผิดคาด มีมิวเล่นกับเด็กผู้หญิงอีกคน
   “คนอื่นเขาไปงานวันเกิดที่บ้านปายกันหมด” ปายคือชื่อเพื่อนนักเรียนของเขา
   “ไม่เป็นไรหรอกลูก พ่อไม่สนิทกับพ่อแม่เขา แถมพรุ่งนี้ยังเป็นวันเรียนอีกด้วย”
   “มิวขอกินไอติมแดรี่ควีนนะ”
   “ได้สิลูก แต่ต้องกินข้าวเย็นให้หมดด้วยนะ”
   “ครับพ่อ”
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 14, 2012, 02:58:54 pm
13 มีค 55 วันช้างไทย
   ขี่จักรยานตอนเช้าเหมือนเดิม ในเส้นทางเดิมๆ อาศัยจิตนาการคิดเอาเองสมมุติว่ากำลังขี่อยู่สถานที่อื่น แรกๆ ก็พอหลอกตัวเองได้ดี แต่พอบ่อยเข้าสงสัยจะต้องหามุขใหม่มาเล่น
   วันนี้มีงานเปิดตัวรถ Hyundai Elantra ใหม่ ไม่ได้ไปร่วมงานอีกนั่นแหละ อีกสองอาทิตย์ข้างหน้ามีงาน Motor Show ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือเปล่าเลย หลายปีมานี้ไม่ได้มีชีวิตอิสระเหมือนเมื่อก่อน ช่วยงานที่บ้านมากเข้าก็กลายเป็นหน้าที่ประจำไปเสียแล้ว มันก็ดีตรงได้ช่วยแม่ทำงาน แลกกับเสียโอกาสที่ตัวเองจะก้าวหน้าในอาชีพที่เรารัก
   นั่นสินะ ก็เลยหาทางออกด้วยการขี่จักรยาน แรกๆ ก็ขี่ขำขำ มีเพื่อนก็ออกทริปจับกลุ่มกันบ้าง พอไปบ่อยเข้าก็รู้ว่ามันไม่ถูกจริตของเรา ไม่ได้ว่าไม่ชอบเข้าสังคมหรอกนะ ขี่เป็นกลุ่มมันก็มีข้อดีเยอะ เพียงแต่ว่าใจผมโหยหาความอิสระ มันก็เลยอยากจะไปแบบสุดโต่ง ดังที่ระยะหลังมักจะออกทริปแบบ No Plan
   ว่างเป็นไม่ได้ มักจะนั่งครุ่นคิดวิเคราะห์ชีวิตตัวเอง ผมว่าคนเราสามารถกำหนดอนาคตตัวเองได้นะ เพียงแต่ว่าเราส่วนใหญ่ยังคงยึดติดอยู่ในกรอบ แนวทางชีวิตมันเลยออกมาแบบเดิมๆ เริ่มจากเรียน ก็เรียนให้เก่ง สอบให้ได้คะแนนดีๆ เอนทรานซ์ติดมหาวิทยาลังดังๆ คณะดีๆ จบตรีแล้วก็ต่อโท บ้างก็ไปต่อนอก แล้วไงต่อหรือ
   มันไม่ได้แปลว่าดำเนินชีวิตตามนั้นแล้วจะมีความสุขหรือประสพความสำเร็จเลยนะ จบโทตกงานมีเพียบ เรียนจนสมองฝ่อก็มีให้เห็นกันเยอะ สมัยนี้คนอายุ 30 แล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่ก็มีให้เห็นอยู่เพียบ
   ถึงเวลาย้อนกลับมาคิดใหม่แล้วล่ะครับว่าที่ผ่านมาเราสอนเด็กผิดทาง โอเค เอาล่ะ ผมเข้าใจว่าเรียนเก่งน่ะดี แต่มันต้องมีอะไรมากกว่าคำว่าเก่งด้วย คือเก่งอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือ “เราต้องมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน”
   ยกตัวอย่างตัวเอง “ผมอยากเป็นนักทดสอบรถยนต์” ในเมื่อเรามีเป้าแบบนี้ ก็ต้องมาสร้างหนทางไปสู่จุดหมายนั้น เริ่มจากผมต้องศึกษารถยนต์อย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ช่วงล่าง ระบบรองรับการสั่นสะเทือน ไปจนถึงการทำงานของเครื่องยนต์ จุดไหนมันเชื่อมต่อกันอย่างไร จะมีจุดที่ผมไม่ค่อยรู้บ้างก็คือเรื่องระบบไฟ
   ขับรถคันไหนก็ต้องจับรายละเอียดให้ได้ ทำไมรถยุโรปมันถึงเกาะถนนดีกว่ารถญี่ปุ่น ก็เพราะน้ำหนักรถมันมาก Sprung Weight มันมาก ตัวรถมันก็เลยโคลงน้อย แต่ไม่ได้แค่เหตุผลนี้อย่างเดียวหรอกนะ การออกแบบช่วงล่างของเขาก็ดีกว่าด้วย
   ทุกวันนี้ผมสอนให้ลูกค้นหาตัวเองให้เจอว่าเขาชอบอะไร อยากเป็นอะไร อยากทำงานอะไร สนใจอะไร ยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร  แต่จงคิด คิด คิดอยู่เสมอว่าฝันของเราคืออะไร
   คิดได้แล้วก็มาบอกพ่อ ไม่ว่าฝันนั้นมันจะคืออะไร เราจะก้าวไปด้วยกัน พ่อจะเป็นแรงผลักดันให้ลูกเอง เพราะฝันของพ่อมันคงจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 15, 2012, 01:21:02 pm
14 มีค 55
   แต่ใช่ว่าผมจะมีฝันอันเดียวเสียเมื่อไหร่ล่ะ ฝันใหญ่เป็นไปไม่ได้ เราก็สร้างฝันรองขึ้นมาแทน จะเรียกว่ารองก็ไม่เชิง เรียกว่าฝันอีกอันก็แล้วกัน ขึ้นชื่อว่าฝัน มันยิ่งใหญ่พอๆ กันนั่นแหละ สละละทิ้งหันหลังให้วงการรถยนต์ เอาเวลาทั้งหมดมาดูแลลูก บางทีก็คิดเหมือนกันนะว่าคุ้มไหม ดูตัวอย่างคนอื่นที่เขาจ้างคนเลี้ยงลูกก็เห็นเขาประสพความสำเร็จดี ก้าวหน้าในอาชีพการงานแบบสุดๆ ก็มีเยอะ เห็นแล้วอิจฉาเลยล่ะ แค่อิจฉานะ ไม่ได้ริษยา
   ขี่จักรยานยามเช้าเหมือนเดิม กลับมากินข้าว อาบน้ำ แล้วก็ออกไปส่งลูกที่โรงเรียน เลยไปที่ร้านขายของต่อ วันนี้พิเศษหน่อย ได้รับตำแหน่งหน้าที่คนตรวจเช็คของอีกแล้ว ใช่เลย นั่งริมถนนนี่แหละ ร้อนได้ใจดีจริงๆ บางช่วงมีเผลอแอบหลับ นึกถึงตัวเองตอนเรียน รด. ที่อยู่กลางแดดร้อนๆ ก็ยังหลับกันได้ นี่ก็คงอารมณ์เดียวกัน แถมมีฝุ่นควันให้สูดดมเล่น อาการไอเจ็บคอยังไม่หายสนิทดี ถ้าวันนี้กำเริบ ก็ไม่ต้องไปนั่งคิดถึงสาเหตุอะไรอีกแล้วล่ะนะ
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ ใกล้จะเย็น อยู่ช่วยงานที่ทำงานนานหน่อยครับ คนงานไม่อยู่ก็ช่วยๆ กันไป แต่ใจก็มองหาโอกาสความก้าวหน้าในชีวิตไปด้วย ผมอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ครับ ไม่ได้อยากร่ำรวย แต่อยากมีความสุข อยากมีอิสระ อยากทำสิ่งที่ตัวเองรัก
   เย็นไปรับลูก มีความสุขตอนนั่งดูเขาซ้อมบาสฯ เล่นตั้งแต่เย็นจนถึงมืดค่ำ ใกล้จะกลับบ้านอยู่แล้วล่ะ เจ้าของร้านก็โทรมาเรียกให้ไปช่วยเฝ้าร้านรอบดึก จะมีคนมาส่งสินค้า
   จัดไปครับ ขออะไรมาก็จัดให้ เกิดมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้วมิใช่หรือ พาลูกไปกิน KFC เขาทำหน้าสงสัยว่าพ่อมาแนวไหน ปกติไม่ค่อยให้กิน อืม มันก็เหมือนปลดปล่อยล่ะนะ ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ กินอะไรแล้วมีความสุขก็กินไปเถอะ
   ส่งลูกกลับบ้านแล้วก็ขับรถอย่างเบื่อๆ ไปที่ทำงาน
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 17, 2012, 07:20:37 pm
15 มีค 55
   เช้านี้อากาศเย็น เหมือนจะมีฝนอยู่ไกลๆ ตลอดช่วงเช้าท้องฟ้าก็ยังมืดครึ้ม ขี่จักรยานตอนไม่มีแดดที่มันสบายตัวดีจริงๆ แต่ไม่ถนัดขี่กลางคืนนะ เจอพวกเมาๆ นี่แย่เลย
   นั่งคิดหาทางออกของชีวิตไปเรื่อย มีวิธีแบบเข้าท่าบ้าง ไม่เข้าท่าบ้าง นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดของวัน สุขวันละ 30 นาทีก็ยังดี ต้องสร้างวิธีคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ คิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อย มักจะได้ธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ แต่มันก็วนเวียนแบบเดิม คือได้แต่คิด คิดได้เยอะแยะ แต่ไม่ได้ทำสักอย่าง ตัวเองยังคงมานั่งเฝ้าร้านขายของ คิดมากขนาดนี้มันออกแนวเพ้อฝันไปเสียแล้ว
   คิดถึงชีวิตตัวเองเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ยังมีอิสระสุดๆ จะบินไปไหนก็ไม่มีใครห้าม นึกถึงแล้วก็เสียดายโอกาสช่วงนั้นอยู่เหมือนกัน
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 17, 2012, 07:23:58 pm
16 มีค 55
   ใช้ชีวิตช่วงเช้าเหมือนเดิมเป๊ะ ชีวิตโคตรจะจืดชืดเลย อยู่แบบนี้นานๆ มีหวังสมองฝ่อ
   เย็นมิวมีการแสดงโขนบนเวที เล่นกันแบบวุ่นวายมาก เล่นเป็นลิงครับ วิ่งไปวิ่งมา บางคนโจงกระเบนหลุดลากพื้น คนดูก็ฮากันไป ขากลับบ้านขอกินอาหารญี่ปุ่นอีกแล้ว
   น่าแปลกในที่เจอเพื่อนเก่าชื่อโก้ เขาจำผมไม่ได้ ผมเองก็จำแบบคลับคล้ายคลับคลา มองการแต่งตัว จากหัวจรดเท้า มาเจอรองเท้าแตะสีแดงตราม้า ผมเริ่มมั่นใจ เขากำลังอ่านเมนูสั่งอาหาร เลยไม่อยากเรียกทัก เพราะไม่มั่นใจด้วยแหละ เลยหยิบเอาโทรศัพท์มาโทรดู ถ้าเครื่องของเขาดัง ก็คือใช่
   แล้วก็ไม่ผิดหวัง คุณโก้นั่นเอง เราเจอกันในสนาม Thailand Circuit ตอนผมจัดงาน Club Race สอนรุ่นน้องขับรถในสนามแข่ง แต่ก็ไม่ได้สอนอะไรมากมายนักหรอก ให้พวกเขาลงไปขับเล่นกันเสียมากกว่า จะสอนจริงจังก็ต่อเมื่อมีคนมาถาม คุณโก้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาถามผมเรื่องการทำ Heel and Toe ไม่มั่นใจว่าตัวเองทำถูกไหม เลยให้ผมช่วยดูให้หน่อย
   เขาทำลำดับถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่ถูกจังหวะ คือช้าเกินไป อธิบายเป็นคำพูดลำบาก เลยให้ผมทำให้ดู ได้เลย จัดให้
   ไม่ได้จับรถ Ferrari มานาน คันนี้เป็นรถรุ่นโปรดอีกคันของผมคือรุ่น 348 เป็นรถที่ยังไม่มีระบบไฟฟ้าอะไรมากนัก ชอบตรงมีเอกลักษณ์ Shift Gate เป็นสแตนเลสสีเงิน สับเกียร์แต่ละครั้ง จะมีเสียงดัง ชิ้ง ชิ้ง มันดีว่ะ
   Ferrari 348 มีแป้นคันเร่งแบบโบราณที่ตั้งบนพื้นรถ ฉะนั้น เลยต้องใช้วิธีไขว้ขาแบบ Heel and Toe Reverse คือใช้ส้นเท้าเหยียบเบรก และปลายเท้ากดคันเร่งแทน แรกๆ ก็ไม่คุ้น สักพักก็ปรับตัวได้
   รถขับสนุก แต่ไม่กล้าซัดหลายรอบ เกรงใจเจ้าของรถเขานั่งอยู่ข้างๆ เลยปล่อยให้เขาฝึกเอง
   และหลังจากนั้นผมก็ยังเคยไปนั่งคุยที่บ้านเขาที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก จำได้ว่าเจอกันสองครั้งแค่นั้นเองแหละ มาวันนี้ก็ครั้งที่ 3 พูดคุยกันอยู่พักใหญ่ พออาหารหมด ก็ลาจากกัน
   หลังจากงาน Club Race มีคนจากบริษัท Ferrari Thailand โทรมาให้ผมช่วยจัดงานแนวเดียวกันนี้ให้กับ Ferrari Club หน่อย แต่อยากให้เพิ่มหลักสูตรแบบ Driving School เข้าไปด้วย
   ฝีมืออันน้อยนิดของผม ไม่อาจหาญไปสอนบรรดาท่านเจ้าของรถ Ferrari เขาหรอกครับ ยิ่งเป็นรถใหม่ๆ ที่มีเกียร์ไฟฟ้าด้วยแล้วนี่ไปกันใหญ่เลย ผมไม่เคยขับน่ะสิ แล้วจะไปสอนอะไรเขาล่ะ ถ้ามีรถให้ผมมาใช้สัก 7 วัน มีเวลาให้ขับจนคุ้นมือล่ะก็ไม่แน่
   ปฏิเสธค่าย Ferrari ไป แต่กลายมาเป็นค่าย Porsche มาเสียบต่อแทน งานนี้หนีไม่ออก เจ้าของบริษัทมาคุยกับผมเอง เลยชัดตัว 997 ไปซะ
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 18, 2012, 01:57:26 pm
17 มีค 55
   วันนี้คนงานขาดไป 2 คน ตามสไตล์วันเสาร์ ผมตั้งสโลแกนให้ว่า “จันทร์เมา เสาร์ลา” โผล่หน้ามาวันอังคารก็จะ “ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ”
   หลังเจ็บถาวรมาหลายเดือนแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้ต้องออกไปขับรถส่งของ ตามสไตล์เดิมครับ เจ้าของร้านเมตตา บอกไม่ต้องยก แต่สินค้าเต็มคัน ถ้าไม่ช่วยยก เมื่อไหร่จะเสร็จ
   ไม่มีอะไรจะเล่า มันเบื่อจริงๆ
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 20, 2012, 03:53:30 pm
18 มีค 55
   เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ ช่วงเช้าไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านที่เก็บกระดูกคุณตาคุณยาย และญาติผู้ใหญ่ที่เสียชีวิต กลางวันไปทานอาหารร่วมกันที่ร้านแถวบ้าน นั่งพูดคุยในหมู่ญาติมิตรปีละสัก 2 หนมั้ง ได้อัปเดทชีวิตญาติๆ แล้วหันมามองดูตัวเองแล้วมันโคตรจะหดหู่เลยว่ะ
   เห็นความก้าวหน้าของคนอื่นแล้วแสนจะอิจฉา ของผมแม่งวันๆ มีแต่เรื่องเดิมๆ แต่ก็นะ ส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนี้เพราะตัวเองเองนี่แหละ มีความต้องการที่จะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่บ้าง อยากจะได้ชื่อว่าลูกกตัญญู อะไรที่เราพอจะทำแล้วให้เขารู้สึกดีได้บ้าง ช่วยได้บ้าง ก็ทำไป ซึ่งถ้ามันแลกกับเรื่องของอนาคตตัวเองแล้วมันจะคุ้มหรือไม่
   เมื่อก่อนผมว่ามันสูสี แต่พออยู่เฝ้าร้านนานๆ จนชีวิตขาดอิสระ มันชักจะไม่คุ้มเสียแล้วล่ะ ยิ่งต้องยกของจนหลังเจ็บไป 3 รอบ ล่าสุดเจ็บถาวรแล้ว ส่งผลให้ขี่จักรยานทางไกลไม่ได้อีกต่อไป
   โหหห คุ้มฉิบเป๋ง
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 20, 2012, 03:56:12 pm
19 มีค 55
   เช้าขี่จักรยาน ไปทำงานที่ร้าน บ่ายแก่ๆ กลับเข้าบ้าน เย็นไปรับลูก
   ช่วงเย็นโรงเรียนลูกมีการแสดงก่อนปิดภาคเรียน มิวเล่นระนาดเหล็ก เด็กคนอื่นๆ เป่าขลุ่ยรีคอร์ดเดอร์ สอบถามภายหลัง ลูกบอกว่าเขาเป่าขลุ่ยไม่เก่ง ปิดรูที่ขลุ่ยไม่ค่อยสนิท ครูเลยให้ตีระนาดแทน
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 20, 2012, 07:09:29 pm
20 มีค 55
   MTB ยางแบน โดนอะไรตำก็ไม่รู้ ขี้เกียจปะ สูบลมอัดเข้าไปแล้วก็ขี่ไปก่อน ทำนองมักง่าย ทำได้เฉพาะการขี่เล่นแถวบ้าน ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนขี่ทางไกลก็ต้องถอดปะโดยด่วน
   วันนี้ที่ร้านงานเยอะมาก วุ่นวายสุดๆ เพราะมีบริษัทมาส่งสินค้าพร้อมกันถึง 3 ราย ใครว่างก็แบ่งหน้าที่กันไปตรวจเช็ค ผมน่ะเช็คประจำอยู่แล้ว แต่บางครั้งต้องเช็คถึง 2 อย่างในเวลาเดียวกัน
   ก็ดีครับ มีงานเยอะ ก็คือเราได้ทำตัวเป็นประโยชน์มากขึ้น ผมว่าผมน่าจะเกิดมาเพื่อสิ่งเหล่านี้นะ ดูคนรอบข้างจะยินดีปรีดาที่ผมละทิ้งงานส่วนตัวไป
   กลับเข้ามามาเกือบจะเย็น มีเวลาส่วนตัวสัก 1 ชม จากนั้นก็ไปรับลูกที่โรงเรียน ขากลับเดินผ่านร้านหนังสือเจอ XO เล่มรวมนักดริฟท์ ยืนพลิกอ่านดูแล้วน้ำตาซึม ไม่ได้เพิ่งเห็นนะ ได้เล่มนี้น่ะ ผมหยิบมาดูหลายครั้งแล้ว ยังคงรู้สึกแบบเดิมทุกครั้งที่ได้อ่านและดูรูป
   สุดแสนจะอิจฉาทุกคนที่อยู่ในนิตยสารเล่มนั้น ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้ากันดี มีหลายคนที่สมัยก่อนยังขับดริฟท์แทบไม่เป็น แต่มาวันนี้เขาเปลียนไปแล้ว ยืนอยู่แนวหน้าของเมืองไทย ต่างจากผมโดยสิ้นเชิง ที่หลุดวงโคจรไปแล้ว ไม่มีใครรู้จัก O’Pern และธนูไฟอีกแล้ว
   เสียดายว่ะ เพราะการที่คนโนเนมอย่างผมจะค่อยๆ ไต่ขึ้นมาในวงการนี้มันยากใช่เล่น ถ้ามีเงินถุงเงินถังน่ะง่ายครับ วงการนี้เปิดกว้างเสมอสำหรับคนรวย ถ้าไม่รวยก็ต้องมีชื่อเสียง มีนามสกุลใหญ่ มีหน้าตาหล่อเหลา มีหน้าที่การงานดีๆ แบบนี้แจ้งเกิดง่าย แต่ทั้งหมดมันตรงข้ามกับผมทั้งนั้น
   กลับสู่โลกแห่งความจริงและยอมรับมันเถอะ O’Pern กลับมาเป็นนายเปิ้ล เป็นคนธรรมดาๆ แบบที่มึงควรเป็นดีกว่า เลิกเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ได้แล้ว ยุคของมึงมันหมดไปแล้วว่ะ ขอโทษด้วยที่กูต้องพูดตรงๆ
   “กลับบ้านกันเถอะลูก” จูงมือลูกเดินขึ้นรถกลับบ้าน ขับรถแบบจิตใจเหม่อลอย สมองหยุดสั่งการ เหมือนโดนกดปุ่มหยุดเอาไว้
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 21, 2012, 09:55:19 pm
21 มีค 55
   รู้สึกว่าหัวสมองตัวเองไม่เคยหยุดคิดเลย มักจะคิดถึงธุรกิจในโลกยุคใหม่ บ้างก็เป็นธุรกิจที่แปลก ออกแนวหลุดโลกก็มี
   เมื่อวานมีประชุมกรรมการของคอนโด ผมไม่ได้เข้าร่วม ลูกซ้อมบาสฯกว่าจะเสร็จก็ทุ่มครึงเข้าไปแล้ว ยังต้องกินข้าวอีก กลับมาบ้านก็มีการบ้านต่ออีก
   วันนี้เข้าไปในห้องที่คอนโด ไม่ได้เข้ามาเหยียบห้องนี้ราว 2 เดือนเห็นจะได้ ระเบียงสกปรกอย่างมาก เลยทำความสะอาดซะ เสร็จแล้วก็นั่งพักอ่านหนังสือ อยู่ห้องนี้ทีไรมักจะได้ไอเดียแปลกใหม่ ถ้าช่วงไหนฮิตจักรยาน ก็จะคิดเรื่องราวธุรกิจเกี่ยวกับจักรยานออกมา คิดแล้วก็เขียนไว้บนบอร์ดกระจกในห้อง ทำบอร์ดกระจกสีดำบานใหญ่เอาไว้กลางห้องข้างโต๊ะเขียนหนังสือก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
   ผมเขียนชื่อสถานที่ๆ ต้องไปเอาไว้หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือดอยช้าง จังหวัดเชียงราย วันนี้เลยติ๊กเครื่องหมายถูกข้างหน้า แต่ก็ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้ไป เช่น ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดที่อยากไปล่าสุดคือแม่ฮ่องสอน
   บ่ายอากาศร้อนจริงๆ น่าจะร้อนกันทั่วไทยเลยนะ ปกติผมอยู่ห้องนี้แทบจะไม่ต้องเปิดแอร์ เพราะลมพัดเย็นตลอดเวลา แต่วันนี้ผิดคาด ลมน้อยมาก เลยต้องเปิดแอร์ช่วย ก็ดีเหมือนกันนะ เปิดให้น้ำยาแอร์มันหมุนเวียนทั่วระบบบ้าง ทิ้งเอาไว้นานๆ หลายเดือนไม่ได้เปิดใช้ พอจะมาพักอาศัยจริงมันจะพังเอาน่ะสิ
   เย็นไปรับลูกตามนัดตอนห้าโมงเย็น คิดว่าจะกลับบ้านทันที เปล่าหรอก มิวบอกอยากซ้อมบาสฯต่อ โน่นเลยครับ กว่าจะกลับบ้านได้ก็ทุ่มกว่า ขากลับบอกขอกินร้านยาโยอิอีกแล้ว ด้วยเหตุผลทีว่าฉลองใกล้ปิดเทอม
   นี่ยังไม่ได้ปิดนะนี่ ถ้าปิดแล้วคงอาจต้องมีเลี้ยงใหญ่
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 23, 2012, 02:53:48 pm
22 มีค 55
   เช้าขี่จักรยาน สายไปอยู่ร้านขายของจนถึงเย็น จบหมดวันแบบเรียบง่าย ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ หายใจทิ้ง ปล่อยให้วันคืนผ่านไป
   ส่วนลูกวันนี้เขาเรียนวันสุดท้าย เขาขอไปค้างบ้านเพื่อน บ๊ะ แจ๋วจริง แค่ประถม 4 มันเล่นไปค้างบ้านเพื่อนเสียแล้ว ผมเองนอนบ้านเพื่อนครั้งแรกก็ตอนมัธยม 2 โน่น
   เข้านอนแบบเหงาๆ จัดปูที่นอนให้เขาตามปกติ คืนนี้นอนอ่านหนังสือคนเดียว จากเดิมที่มีมิวนั่งอ่านอยู่ข้างๆ กัน
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 23, 2012, 09:26:44 pm
23 มีค 55 
   ห่างจากลูกทีไร เป็นต้องคิดถึงทุกครั้ง บ้านช่องเงียบเหงาผิดปกติ แต่ชีวิตของผมยังคงเหมือนเดิมๆ นะ จากเดิมแรกๆ ช่วยดูแลแค่ตอนเช้า แล้วก็ไปทำธุระทำงานส่วนตัวได้ ก็เริ่มเขยิบมาเป็นตอนสาย ตอนเที่ยง ตอนบ่าย บางวันควงกะคืออยู่ทั้งวันจนปิดร้าน งานด้านรถยนต์ก็ค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ ตัวเราเองก็ค่อยๆ หลุดวงโคจรไปเช่นกัน
   พอมาขี่จักรยานก็อยากแจ้งเกิดในวงการนี้บ้าง อยากร่วมขี่กับหนังสือ a day ที่เขาออกไปขี่กันราว 1 เดือน ฝันสลายครับ ต้องไปช่วยเฝ้าร้านขายของ จบข่าว
   สิ่งที่ทำได้ดีสุดในทุกวันนี้คือการตอบกระทู้ในเวปจักรยาน ทำได้แค่นี้แหละ คิดแล้วน่าเสียดายเวลาที่ผ่านไปเหลือเกิน
   
   ทางเหนือของออสเตรเลียโดนฝนร้อยปีถล่ม น้ำท่วมอย่างหนัก ประเทศไทยเราเพิ่งผ่านประสบการณ์มาเมื่อไม่ถึง 6 เดือนก่อน ทางการโปรดจัดส่งความช่วยเหลือไปได้เลยครับ ไม่ต้องรอให้เขาร้องขอ ช่วยเพื่อนร่วมโลกเถิดครับ จะเล็กจะน้อยอย่างไรก็ต้องช่วย
   เช้านี้มีข่าวรถบรรทุกแก๊สพลิกตะแคงที่ถนนพัฒนาการ ไฟลุกไหม้ แต่แปลกมากที่เจ้าหน้าที่เขาใช้น้ำมาฉีดดับ แน่ล่ะ มันดับไฟแบบนี้ไม่ได้ ฉีดกันอยู่หลายชั่วโมงก็ยังควบคุมไฟไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แค่ฉีดเลี้ยงรอบๆ รอให้ไฟมันไหม้แก๊สจนดับไปเอง
ฮ่วย ไฟจากเชื้อเพลิงแบบนี้ เขาต้องใช้โฟม หรือวัตถุเคมีอย่างอื่นมาฉีดดับ มันจะทำหน้าที่เคลือบปกคลุมบริเวณไฟลุกไหม้ ทำปฏิกิริยาหรืออะไรสักอย่างไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปโดนเปลวไฟ หลักการง่ายๆ วิชาวิทยาศาสตร์ชั่นประถม
                   Google Street Map เปิดใช้บริการแล้ว ทำให้ผมเกิดไอเดียอีกเพียบในการทำธุรกิจ มันไหลมาแบบพร่างพรู ไม่รู้ว่าอันนี้จะเป็นแบบเพ้อฝันอีกไหม แม้ใจจะบินไปไกล แต่กายมันยังต้องทำงานอยู่ที่ร้านขายของ วันนี้ก็อยู่ร้านจนถึงบ่ายแก่ๆ
                  มิวยังคงค้างบ้านเพื่อนอีกคืน ว่างตอนเย็นได้ฤกษ์ปะยางรถ KHS HT คราวนี้ยางแบนที่ล้อหน้า ถอดง่ายครับ ไม่ต้องวุ่นวายกับโซ่ ไม่เลอะเทอะ ใช้เบรกแบบ Cantilever เลยปลดสายเบรกได้รวดเร็วมาก ไม่ถึง 1 วินาที
ถอดยางในออกมา เจอสติกเกอร์ปะยางของ Lezyne ที่ตัวผมเองปะทิ้งเอาไว้จนลืม มันนานมากเป็นปีแล้วล่ะ เอ๊ะ หรือว่ามันจะรั่วจากสติกเกอร์ปะยางชิ้นนี้นะ เคยอ่านในเวปมีคนบอกอยู่ได้ราว 1 ปี ว่าแล้วก็ลองอัดลมเข้าไปแล้วแช่น้ำดู
ปรากฏว่าผ่านครับ รั่วรูอื่นแทน ตรวจสภาพยางนอกอย่างละเอียด พบว่าดอกยางด้านข้างเสียชีวิตไปนานมากแล้ว มันแข็งเป๊กแทบจะกลายเป็นเนื้อพลาสติก นี่ผมทนขี่ไปได้อย่างไรวะนี่ มีรอยแตกร้าวเต็มไปหมด
ได้ฤกษ์อีกอย่างในการใช้ยาง Slick ของ Vittotia ที่ซื้อมาเตรียมไว้เสียที ตอนนี้ยางหน้าหลังเหมือนกันแล้วครับ เป็นสลิคทั้งคู่ น้ำหนักเบากว่ายาง Kenda ขอบลวดถึงเส้นละ 200 กรัม (เทียบกับยางเบอร์เดียวกัน)
ลดน้ำหนักในชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวสูงอย่างยางนี้จะเห็นผลในการขี่อย่างมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว การทำอัตราเร่ง หรือแม้กระทั่งการขี่ขึ้นเขา ของเบา ไปได้ดีกว่าทุกกรณีครับ


(http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V11871964/V11871964-0.jpg)
Title: Re: มีค 55
Post by: ToppyRacingClub on March 24, 2012, 01:28:42 pm
สงสัยจะโดนเรียกนะครับ ^^
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 26, 2012, 02:03:39 pm
24 มีค 55
เช้าวันเสาร์ วันหยุดของคนอื่นที่ไม่ใช่ผม ตื่นแต่เช้ามาขี่จักรยานได้ 45 นาที นี่เป็นวันแรกที่ได้ขี่รถเซ็ทติ้งใหม่ คือใช้ยางสลิคของ vittoria 1.50 ทั้งด้านหน้าและหลัง
ออกแรงกดบันไดครั้งแรกก็รู้สึกถึงความต่างทันที ออกตัวได้เร็วขึ้น (จุดนี้น่าจะมาจากใช้ลมยางแรงดันสูง) ขี่แล้วปล่อยไหลได้ไกลกว่าเดิม (มาจากยางแรงดันสูงอีกนั่นแหละ) ข้อเสียก็มีครับ สะเทือนมือมากอย่างเห็นได้ชัด แต่ขี่ไปแค่ 1 นาทีก็ปรับตัวได้แล้ว คือทำใจยอมรับมันซะ
วันนี้ขอแก้ข่าวที่ผมวิจารณ์เมื่อวานเรื่องรถแก๊ส ไปหาข้อมูลมาเพิ่มคือว่า รถไฟไหม้ที่เกิดจากแก๊ส เขาบอกต้องใช้น้ำฉีดเลี้ยงไว้ แต่ถ้าเกิดจากน้ำมัน สามารถใช้โฟมแบบที่ผมบอกได้ เป็นอันว่าผมเข้าใจผิดแต่แรกครับ รู้เท่าไม่ถึงการณ์เอง 
Chevy Trailblazer เปิดตัวเรียบร้อยแล้ว กว่า Toyota Fortuner จะมีคู่แข่งก็เล่นเอาจนใกล้จะเปลี่ยนโฉม ขายกินคนเดียวแบบเพลินๆ
ลูกโทรมาหาบอกว่าไม่ต้องมารับแล้วนะ พ่อเพื่อนจะมาส่งที่บ้าน ยังไม่ได้คุยอะไรเท่าไหร่เลย มิวก็วางสายเสียแล้ว บอกว่าจะรีบไปว่ายน้ำ (ยืมชุดว่ายน้ำเพื่อน) โห คนละหุ่นเลยนะนั้น
อยู่บ้านสมองโปร่งๆ นี่นั่งคิดงานได้ดีจริงๆ อารมณ์ดีๆ ไอเดียไหลมาอย่างพร่างพรู เป็นธุรกิจแปลกใหม่ทั้งสิ้น เริ่มแรกอาจดูบ้าบอหน่อย แต่คิดไปลึกๆ แล้วมันก็ต่อยอดไปได้ไกลเหมือนกัน นี่ถ้าก่อนแต่งงานผมคิดงานได้แบบนี้ก็ดีสินะ ตอนนั้นไฟแรงสุดๆ จะทำอะไรก็ลุยได้เลย ไม่มีภาระใดให้กังวลอีกด้วย
หัวค่ำเพื่อนของพ่อเพื่อนโทรมาหา บอกว่าตอนนี้เด็กๆ เล่นกันอยู่ที่บ้านเขา ถ้าผมจะมารับเขาก็จะบอกทางให้ หรือจะให้เด็กๆ เขาเล่นกันต่อ
เอาล่ะสิ งงแล้ว ลำพังไปบ้านเพื่อนก็เกรงใจพ่อเพื่อนจะแย่ นี่เล่นมาบ้านเพื่อนของพ่ออีกด้วย
“เด็กๆ เขามาเล่นน้ำกันน่ะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เล่นกันสนุกสนานเลย” เจ้าของบ้านบอก
“ผมก็แล้วแต่เด็กๆ น่ะครับ ถ้าเขาอยากอยู่ และไม่รบกวนคุณเกินไป จะอย่างไรก็ได้ครับ”
“ได้ครับ ถ้างั้น ก็ให้เด็กเขาค้างอีกสักคืนละกัน พรุ่งนี้เช้าค่อยมารับเขา”
“ครับผม รบกวนด้วยนะครับ”
วางสายแบบงงๆ เฮ้ย ไปบ้านเพื่อนครั้งแรกนี่เล่นจัดเต็มค้าง 3 คืนเชียวหรือวะนี่ ไอ้มิวมันสุดยอดมากจริงๆ 
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 26, 2012, 02:07:08 pm
25 มีค 55
   ตื่นแต่เช้าไปรับลูกตามนัดหมาย 0630 บ้านเพื่อนอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมครับ ขับรถแค่ 5 นาที แต่กว่าจะเข้าไปถึงตัวบ้านเขาก็ต้องมีอีกสัก 10 นาที เป็นหมู่บ้านใหญ่ เก่าแก่
   รับลูกเสร็จก็กลับบ้านทันที สายๆ ออกไปเรียนพิเศษ Kumon วันนี้ผมรับหน้าที่ดูแลลูกตลอดวัน ภรรยาไปทำฟัน กลางวันไปกินส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ร้านเจ๊เล้ง แถวบ้าน ร้านเก่าแก่ที่พวกเรากินกันมาเป็นสิบปีแล้ว
    New ipad ที่เพิ่งออกวางขายได้ไม่กี่วัน มีปัญหา ใช้แล้วความร้อนขึ้นสูงมากถึง 47C
   และวันหยุดที่แสนจะเรียบง่ายก็ผ่านเลยไปอีกหนึ่งวัน
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 27, 2012, 03:56:20 pm
26 มีค 55
   ตื่นยิ่งเช้าเท่าใด ก็จะยิ่งมีเวลาขี่จักรยานมากขึ้นเท่านั้น รถ KHS HT เป็น MTB จำแลงแปลงกายติดอุปกรณ์เสริมให้กลายเป็นรถทัวริ่ง พอใส่ยางสลิคทั้งหน้าและหลังแล้วรู้สึกว่ารถมันไหลไปได้ดี ได้ไกล ได้นานกว่าเดิม
   เช้านี้จิตนาการว่าขี่อยู่ที่สิงคโปร์ นึกภาพสวนสาธารณะริมทะเลชื่อ East Coast Park และสวนอีกอันที่ชื่อ Pasir Ris Park อันแรกเป็นสวนใหญ่ใกล้ชุมชน ส่วนอันหลังเป็นสวนนอกเมืองออกมาหน่อย เด่นตรงเงียบสงบ คนน้อยมาก ผมชอบทั้งสองอัน
   ช่วงสายก็กลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ลูกปิดเทอมแล้ว เขาเล่นอยู่บ้าน ส่วนผมก็ไปทำงานที่ร้านขายของเหมือนเดิม ไปถึงก็เข้าโกดังยกของทันที แอบยืดเส้นนิดหน่อยก่อนยก กลัวโรคเจ็บหลังจะกำเริบ
   เข้ามาบ้านตอนบ่าย ฝนตกครับ วันที่รอคอยของผมเลยล่ะ ผมมีบ้านอีกหลังที่สร้างไว้เองนานแล้ว เป็นบ้านสไตล์ Loft อายุสัก 20 ปีเห็นจะได้ ออกแบบเอง สร้างเอง มาถึงวันนี้ มันทรุดจนเกิดรอยแตกร้าว นานวันเข้าพอเจอฝนตกหนัก มันก็ซึมเข้ามาจากกระเบื้องดินเผาที่ติดไว้ที่ผนังด้านนอกอาคาร
   ปัญหาคือหารอยร้าวไม่เจอครับ เพราะมีกระเบื้องดินเผาปิดทับผนังปูนเอาไว้ ดูจากภายนอกก็สภาพสวยงามดี แต่เจอฝนหนักเข้าก็จะมีน้ำซึมเข้ามาในตัวอาคาร งานเข้าสิ ไม่รู้จะซ่อมตรงไหนดี จนในที่สุดผมไปเจอซีเมนต์น้ำ คือเป็นลักษณะเหมือนผงปูนนี่แหละ ใช้ผสมน้ำแล้วทาทับที่ภายนอกได้เลย เจ้าปูนอันนี้จะซึมเข้าไปตามรอยแตกแยกของผนัง จะว่าไปก็ทำหน้าที่เหมือนพวกสีแบบ Total in one นั่นแหละครับ แต่สีมันจะเป็นลักษณะเหมือนแผ่นฟิล์มเคลือบทับ แต่เจ้าปูนน้ำของผมนี้มันซึมเข้าเนื้อแถมเคลือบอีกชั้น หรือถ้ายังไม่สะใจ ก็เอาสี Total in one มาเคลือบปิดทับอีกชั้นก็ยังไหว
   เดือนก่อนผมทาปูนน้ำในจุดที่ผมคิดว่าน่าจะใช่ไว้แล้วล่ะ ไม่ได้ทาเคลือบทั้งแผงนะ ใจอยากลองของอีกรอบ คืออยากรู้ว่าจุดที่เราคิดว่าใช่น่ะ แท้จริงแล้วมันจะใช่หรือไม่ เพราะถ้าทาเคลือบทั้งผนัง ถึงแม้มันจะกันฝนได้ แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่ารอยแตกแยกของผนังอยู่จุดใด
   วันนี้ฝนตกหนักราว 30 นาที และตกระดับกลางอีก 20 นาที ฝนปรอยๆ ไม่นับ เข้าไปสำรวจห้องไม่พบหยดน้ำ แต่อย่าเพิ่งดีใจ ต้องเจอแบบฝนจัดเต็มแบบลากยาวทั้งคืนเสียก่อน ถ้าผ่านก็จะได้สบายใจเสียที
   วันนี้เป็นวัน VIP ของงาน Motor Show เปิดเฉพาะพวกแขกรับเชิญ ไฮโซต่างๆ วันของผมคือพรุ่งนี้ครับ Press Day
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 28, 2012, 01:49:07 pm
27 มีค 55
   ฝนตกแต่เช้า ขี่จักรยานไปได้หน่อยเดียวก็รีบวนกลับเข้าบ้าน ไม่มีอะไรทำ หยิบเอา Uke มาซ้อมมือเล่น ฝีมือยังไม่พัฒนาไปถึงไหนมากนักเลย แต่ก็คิดไม่ผิดนะที่ซื้อรุ่น tenor มันตรงกับสไตล์การเล่นของผมมาก ดีที่ไม่ไปซื้อเอาแบบตัวเล็กๆ ที่วัยรุ่นเขานิยมกัน เสียงคนละเรื่องเลย
   ลางานไม่ได้ครับ เจ้าของร้านไม่อนุญาต งาน Motor Show Press Day เปิดเวลา 0959 ผมมักจะไปก่อนงานเยอะๆ หน่อย เพราะวันนี้แหละครับที่ผมจะได้พบพวกเพื่อนๆ ที่ทำงานสายข่าวรถยนต์ ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หลังๆ มีอินเทอร์เนทเพิ่มมาอีกอัน
   ไม่ให้ไปตอนเช้า ก็ไม่เป็นไร หยิบเอาเสื้อสูทและเสื้อขาว พร้อมทั้งนามบัตรอีก 1 ปึก เตรียมไว้ในรถ กะว่าถ้าเลิกงานได้เร็วคือราวๆ เที่ยงผมก็จะรีบไป
   เอาเข้าจริงชีวิตไม่เป็นดั่งหวัง ถึงที่ทำงานก็เข้าโกดังยกของแต่เช้า ตามมาด้วยมีพนักงานนำสินค้ามาส่งอีก นั่งตรวจเช็คของนับของจนอยากจะหลับ เสร็จสิ้นทุกอย่างตอน 0230 ในสภาพโทรมสุดๆ
   มันไม่มีอารมณ์จะไปงานไหนอะไรอีกแล้วล่ะ เห็นชุดที่แขวนเตรียมไปงานแล้วละเหี่ยใจจริงๆ
   มือกำพวงมาลัยรถแน่น ก้มเอาหน้าผากวางบนวงพวงมาลัย อยากจะร้องไห้ แต่มันไม่มีน้ำตาจะไหล
   ชีวิตนี้ผมเกิดมาเพื่อใคร
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 29, 2012, 01:51:10 pm
28 มีค 55
   แม่บ้านชื่อดีขอลากลับบ้านที่กัมพูชา ต่อไปนี้อีก 7 วัน จะต้องหาอาหารเช้ากินเอง โชคดีที่แถวบ้านมีร้านขายต้มเลือดหมูรสชาติดีอยู่ร้านหนึ่ง เด่นตรงขอผักเยอะๆ ก็ให้เป็นกำ ใช้ใบตำลึง และผักที่ชื่อจิงจูฉ่าย ขายชามละ 30 บาท
   หน้าผมเป็นผื่นขึ้นอีกแล้ว เมื่อเดือนก่อนก็เป็นมาแล้วหนหนึ่ง คราวนั้นคิดว่าแพ้เครื่องสำอาง ผมใช้ครีมทาหน้ากันแดดของภรรยา มาวันนี้ เป็นอีกแล้ว เหมือนเดิมเป๊ะเลย
   แต่งวดนี้มีสมมุติฐานใหม่ ผมว่ามันน่าจะเกิดจากความเครียดในตัวผมเองนี่แหละ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยเครียดกับเขาก็คราวนี้ อุปสรรคในชีวิตหลายสิบปีที่ผ่านมา ผมก็ยังไม่เคยเครียดกับมันเลยแม้แต่น้อย
   มันคงจะเต็มที่แล้วจริงๆ ยิ่งอายุมากขึ้น ความฮึกเหิมในบางเรื่องกลับน้อยลง บางทีก็นั่งหายใจทิ้งให้วันๆ มันผ่านไป โคตรจะทุเรศตัวเองเลย
   บ่ายเข้าไปที่คอนโด ไปจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เจอเพื่อนที่เป็นกรรมการด้วยกันที่คุมฝ่ายการเงิน กำลังนั่งรอเซ็นเช็ค ทำงานแบบนี้นี่มันเสียสละอย่างมากจริงๆ แทนที่จะเอาเวลาไปทำเรื่องราวส่วนตัว กลับเป็นต้องตรวจสอบเอกสารเป็นปึกๆ ก่อนลงนามใดๆ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจคอนโดอะไรกับเขา เลยขอรับหน้าที่เกี่ยวกับงานดีไซน์ต่างๆ หรือพวกงานใช้สมองคิดจิตนาการงานต่างๆ น่ะถนัดมาก
   เย็นพาลูกไปกินร้านสเต็ก 49 หน้าปากซอย ร้านนี้มีลูกค้าติดเยอะ เพราะราคาไม่แพง และรสชาติพอใช้ได้ ผมสั่งซี่โครงบาร์บีคิว กินเสร็จแล้วเอากระดูกกลับมาฝากเจ้าสุนัขแสนรู้ที่บ้านด้วย
   ดีเพิ่งจะลากลับบ้านไปไม่ถึง 24 ชม มิวบอกว่า “คิดถึงพี่ดีเน๊อะ”
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 30, 2012, 02:34:12 pm
29 มีค 55
   ร่ายกายผมผิดปกติ ใบหน้ามีฝื่นแดงสักสองสามวันแล้ว ผมวิเคราะห์แล้วว่าเกิดจากความเครียดภายในใจ ไม่น่าจะใช่เหตุที่เกิดจากครีมทาหน้า ฉะนั้น ถ้าอยากหายเร็ว ก็ต้องลดระดับความเครียด ขึ้นฝื่นยังไม่พอนะ น้ำหนักตัวผมนี่สิ มันขึ้นเอาๆ แบบชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
   กลายเป็นว่าต้องอดทนทำงานที่เราไม่ชอบ แถมยังห้ามคิดเครียดอีกด้วย ไอ้อันหลังนี่มันแสนจะยากเย็น
   ภารกิจยามเช้า กลายเป็นกวาดลานหน้าบ้าน ขี่จักรยานออกไปซื้อต้มเลือดหมูมากิน แล้วก็รดน้ำต้นไม้ อาบน้ำ เตรียมตัวออกไปทำงาน
   เย็นมีนัดทำฟัน ผมและลูกทำเวลาเดียวกัน ร้านเดียวกัน แต่คนละหมอ เป็นการตรวจเช็คฟันประจำทุก 6 เดือน เสร็จแล้วก็ขูดหินปูน พร้อมเคลือบฟลูออไรด์ หลังจากนี้ห้ามกินน้ำ กินอาหารเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที
   กินมื้อเย็นไม่รู้กินอะไรดี พามิวเดินออกมาทางถนนสีลม (ทำฟันที่ตึกชาญอิสสระ) โอ้โห ผ่านซอยธนิยะ ผ่านพัฒพงษ์ ยืนขาย CD โป๊กันเฉยเลย เดินจูงมือลูกอยู่ก็ต้องเบี่ยงตัวบังเอาไว้ แต่ปิดไม่มิดหรอกนะ เพราะเล่นยืนขายกันสองข้างทาง โอ้ เวรกรรมประเทศไทย
   แผงลอยวางเต็มทางเท้า เหลือพื้นที่ให้คนเดินแค่คนเดียว ใช่เลย ถ้าใครหน้าไหนหยุดดูของ คนก็จะเดินสวนแทบไม่ได้ พาลูกข้ามถนนไปทางฝั่งซอยคอนแวนต์แทน เห็นร้าน au bon pan มิวจัด Club Sandwich ไปซะ ไม่น่าเชื่อ ชิ้นละ 170 บาท!!!
               ผมยืนหิวอยู่ข้างๆ ถึงกับอิ่มจนจุกทันที
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on March 30, 2012, 07:43:29 pm
30 มีค 55
   ภารกิจยามเช้าเปลี่ยนไป กลายมาเป็นกวาดบ้าน เก็บขี้หมา รดน้ำต้นไม้ ขี่จักรยานไปซื้อต้มเลือดหมูกินติดต่อกันมา 3 วันแล้ว เหตุผลเดียวก็คือ เป็นอาหารเช้าที่ผมคิดว่ามันมีผักเยอะที่สุด ได้ทั้งใบตำลึง และผักชื่อจิงจูไฉ่ เสียดายที่ไม่มีข้าวกล้องขาย
   วันนี้งานจัดเต็มแต่เช้า ไปถึงร้าน 0830 ก็ต้องเข้าโกดังขนย้ายสินค้าจำนวนราว 150 ลัง เหงื่อโทรมแต่วันเลย ทำงานแบบนี้แต่งตัวดีๆ ไม่ได้หรอกครับ มันเลอะเทอะง่ายมาก รองเท้าดีๆ ก็ใส่ไม่ได้ เพราะต้องใช้เท้างัดรถเข็น ฉะนั้น กางเกงเก่าๆ เสื้อผ้าขาดๆ รองเท้าเน่าๆ นี่แหละ คือชุดทำงานของผม
   เข้ามาบ้านตอนบ่ายแก่ๆ เอาอาหารให้หมากิน ทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ มิวเล่นกับเพื่อนใกล้บ้าน เป็นเด็กโตกว่า ผมมีเวลาส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ก็นั่งทำงานส่วนตัวไป
   เย็นก็รดน้ำต้นไม้ พามิวไปกินข้าวนอกบ้าน หมดวันที่เรียบง่ายไปอีกวัน ผ่านไปอีก 24 ชม แล้วสินะ ที่อนาคตของผมมันยังไม่ได้คืบหน้าไปถึงไหนเลย
Title: Re: มีค 55
Post by: O'Pern on April 03, 2012, 02:28:37 pm
31 มีค 55
   สิ้นเดือนแล้วสินะ ผมกลับมาจากเชียงรายได้ราว 1 เดือน แต่ยังคงจำทุกอย่างที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดีราวกับว่าเหตุการณ์เพิ่งจะเกิดเมื่อวาน ผมใส่เรื่องราวเข้าไปในการเดินทาง ผ่านแต่ละเมือง นอนแต่ละที่ ก็จะจดจำภาพบรรยากาศนั้นไว้
   ใจตรงกันอย่างเหลือเชื่อ ตอนสายพี่สมัครที่อยู่เชียงรายโทรมาหา ไม่ได้มีธุระอะไร สอบถามข่าวคราวชีวิตกัน ปิดท้ายด้วยการถามผมว่าเมื่อไหร่จะมาเชียงรายอีก คราวหน้าต้องมาพักบ้านของเขาแล้วนะ จัดทำห้องพักใหม่เอาไว้รับของโดยเฉพาะ     
   โห พี่ครับ แค่นี่ก็สุดยอดแห่งความเกรงใจแล้ว ไม่รู้จัก ไม่เคยพูดคุย ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน พี่ก็ยังมีน้ำใจกับผมเพียงนี้ ไม่รู้จะกล่าวคำขอบคุณอย่างไร ถ้าได้ไปเชียงรายอีก ยังไงก็ต้องขอไปกราบสวัสดีพี่อีกครั้ง
   บ่ายฝนตกหนักมาก ลากยาวมาจนถึงเย็น มาหยุดสนิทเอาตอนสามทุ่ม ตกหนักติดต่อเนื่องนาน ในตัวเมืองคงจะมีน้ำท่วมและรถติดตามฟอร์ม ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าเป็นจุดใดบ้าง มันก็ที่เดิมๆ นั่นแหละครับ
   รอวันฝนตกหนักมานาน ได้ข้อสรุปแล้วล่ะครับว่าน้ำมันไม่รั่วเข้าห้องของผมแล้ว แก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้ว มันซึมเข้ามาจากรอยต่อกระเบื้องด้านขอบบนนั่นเอง สบายใจไปหนึ่งเปลาะ ที่เหลือก็คือจัดแต่งแต้มทาปูนน้ำที่เหลือให้สวยงาม
   วันนี้ได้วิธีคิดใหม่ ทุกครั้งที่ผมรู้สึกอึดอัดใจ ก็จะไปทำซิทอัพ วันนี้วันแรก จัดไป 200 ครั้ง